xs
xsm
sm
md
lg

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 16

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 16

เพชรกะแฉะลงจากรถ วิ่งมาที่หน้าบ้านปลัด เจอคุณนายแม้นมาศยืนหน้าเศร้าอยู่ประตูรั้วบ้าน

“คุณแม้นมาศครับ คุณปลัดเขา…”
แม้นมาศหันมาหาเพชร แล้วระเบิดร้องไห้โฮออกมา “ฮือๆๆ...ฮือๆๆๆๆ”
แฉะมองงงๆ “สงสัยจะรู้เรื่องแล้วละ”
“หยุดร้องก่อนเถอะครับ แค่มากับเรา แล้วพาคุณปลัดกลับมาเท่านั้นเอง” เพชรบอก
แม้นมาศส่ายหน้า พร้อมร้องไห้อีกระลอก
“ม่าย...”
“ถ้าคุณแม้นมาศไปตาม คุณปลัดต้องกลับมาด้วยแน่ๆ ครับ”
แม้นมาศกลับบอกว่า “ปลัดน่ะ กลับมาแน่.... แต่ฉันสิที่ต้องไป”
พลางคุณนายปลัดเดินเข้าไปในรั้วบ้าน แล้วออกมาพร้อมกับกระเป๋ามากมาย
“คุณปลัดเขาไล่ฉันออกจากบ้านแล้ว”
เพชรกะแฉะตกใจ “ห๊ะ!”
แม้นมาศบอกอีก “เขาจะไปเอานังนางเอกลิเกมาแทนฉัน โฮๆๆ”
“คนนะไม่ใช่หนมโตเกียว อยู่ๆ จะเดินไปเอามาได้เลยรึไง” แฉะบ่น
แม้นมาศบอก “ใช่”
แฉะงง “หื้ม”
“คุณปลัด...ไปจ้าง...พวกนักเลง...” คุณนายปลัดเอาแต่สะอึกสะอื้น
เพชรใจหาย “จ้างทำไมครับ”
แม้นมาศมัวแต่สะอื้น
เพชรชักฉุน เสียงดุ “ตอบ!”
แม้นมาศโพล่งขึ้นมาทันที “ไปอุ้มพริมมาไง”
เพชรรู้ดังนั้นก็ตกใจ รีบวิ่งออกไปช่วยพริมทันที แฉะกำลังจะวิ่งตามไป แต่โดนมือแม้นมาศจับไว้ซะก่อน พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า
“ไปด้วยสิ”
”ไปไหน”
“ไปอยู่ด้วย”
“ห๊ะ”

แม้นมาศล็อกคอแฉะไว้ซะแน่น

พวกนักเลง 4 คน สวมไอ้โม่งสีดำปิดประตูรถ หลังจับพริมยัดเข้าไปขังในนั้น พริมถูกมัดมือและปิดปากด้วยเทปกาว ปลัดส่องดูจากนอกรถ สาสมใจ

“เป็นเด็กดีนะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ทีใครทีมันบ้างโว๊ย ฮ่าๆๆๆๆ เนอะ”
ปลัดหันไปหาพวกนักเลงที่สวมโม่ง แต่พวกนักเลงไม่ขำด้วย มองมานิ่งๆ ทำเอาปลัดผวากลัว
“อุ่ย...ไป สถานีต่อไป รังรักของพี่ปลัด next station รัง love ของพี่พาหลัด”
พริมพยายามแก้มือที่ถูกพันด้วยเทปกาวอยู่ ปลัดมองเข้าไปเห็น จึงเปิดประตูบอกว่า
“โธ่ๆๆ แกะยังไงก็ไม่ออกหรอกนะจ้ะ ที่รักของพี่ ยังไงก็ไม่มีทางหนีได้หรอก”
ปลัดเปิดประตูจะเข้าไปนั่งกับพริม พวกนักเลงเห็นก็รีบห้าม
“อย่า”
“หืม?”
ปลัดหันมาทำหน้างงกับพวกนักเลง
ฉับพลันทันใดนั้นเองพริมก็ใช้เท้าถีบประตูรถสุดแรงเกิด ร่างปลัดกระเด็น ไปพริมรีบวิ่งออกมา เตะพวกนักเลงที่เหลือกระดอนไปคนละทาง
พริมยกมือที่ถูกมัดขึ้นเหนือหัว แล้วฟาดลงมาอย่างเร็ว เทปกาวขาดกระจุย พริมวิ่งหนีออกไป
ปลัดสั่งเข้ม “จับมัน”

อีกฟาก รักษ์เดินมาปิดร้าน แล้วเจอขนุนใส่วิกและชุดของเอื้อย ที่เอื้อยใส่ปลอมตัวมาวันนี้ เดินตรงมาหารักษ์อย่างเอาเรื่อง
“เย้ย”
ขนุนสาสมใจ “นึกแล้วว่าพี่ต้องอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”
รักษ์อึ้ง “แล้วแต่งตัวแบบนี้ทำไมเนี่ย”
“ถ้าพ่อแม่พี่มาเห็น จะได้จำไม่ได้ไง ไป”
“ไปไหน”
“กลับบ้านลิเกไง ทำไมพ่อแม่พี่ชอบลักพาตัวพี่มาเรื่อยเลยเนอะ
ธำรง และธัญญากำลังเดินเข้ามาหารักษ์ ธำรงตะโกนเรียกลูกชายดังลั่นเข้ามา
“รักษ์ ปิดร้านเสร็จยังลูก”
รักษ์เห็นจวนตัวรีบขอร้อง “ขนุนกลับไปก่อนนะ”
“ไปพร้อมกันสิ”
“ไม่ได้ พี่ยังกลับไม่ได้จริงๆ”
“คราวนี้พ่อพี่หลอกว่าอะไรอีกอ่ะ”
“เอาไว้มีโอกาส พี่จะกลับไปเล่าให้ฟังแน่ๆ แต่ตอนนี้ ขนุนกลับไปก่อนเถอะนะ
รักษ์รุนหลังดันขนุนออกไป จนขนุนจำยอมเดินออกไป แต่ด้วยความติดใจ ขนุนเลยตัดสินใจเดินกลับไปหารักษ์อีกที เลยได้ยินธำรง และธัญญาพูดกับรักษ์
“ลูกเรานี่ขยันจริงๆ ชอบงานนี้ขึ้นมาแล้วสิ”
“พ่อแม่นี่โชคดีจริงๆ ที่รักษ์ขอกลับมาดูแลกิจการที่บ้านด้วยความเต็มใจแบบนี้”
ขนุนได้ยินอย่างนี้ก็อึ้ง แล้วแอบฟังต่อ
“ยังไงงานนี้ก็สบายกว่าไอ้งานเต้นกินรำกินเป็นไหนๆ ใช่ไหม”
รักษ์พยักหน้าแล้วเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จาใดๆ

ขนุนแอบยืนมองตามรักษ์ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

อ่านต่อหน้า 2

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 16 (ต่อ)

เพชรวิ่งเข้ามาพร้อมแฉะหน้าค่ายมวย เจอลูกดอกเดินกุมท้องมาหา

“ตอนฉันกับพริมกำลังแกะรูปพริมออก มันก็เล่นทีเผลอถีบฉันกระเด็น แล้วก็ อุ้มพริมหนีไปทางเนี้ยแหละ” ลูกดอกชี้บอก
“โธ่เว้ย! มันคงพาพริมไปไหนถึงไหนแล้ว” เพชรแค้นสุดขีด
เสียงนักเลงดังมา “เฮ้ย หยุด”
เพชรหันมองตามไป เห็นพริมวิ่งหนีมาทางนี้
“พริม! พี่แฉะ ลูกดอก รีบไปแจ้งตำรวจมาเร็ว” เพชรสั่ง
แฉะ กะลูกดอก วิ่งออกไป
เพชรวิ่งไปช่วยพริม เจอพวกนักเลง เพชรต่อยกับพวกนักเลงสักพักก็โดนนักเลงคนหนึ่งตีเข้าที่หัว เพชรล้มลง พวกนักเลงที่เหลือเข้ามาซ้อมเพชรจนจุก
พริมเลยต้องเข้าไปช่วยเพชรสู้กับนักเลง เพชรได้แต่มองพริมซัดนักเลงล้มไปทีละคน
จู่ๆ มีเสียงเบิ้ลเครื่องมอเตอร์ไซค์ดังขึ้น พริมหันไปก็เห็นนักเลงขี่มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้ามาทางทั้งสอง พริมคิดปราดเดียว วิ่งเข้าไปหา แล้วกระโดดถีบนักเลงที่ขี่มอเตอร์ไซค์มากระเด็นไป รถล้มลง พริมรีบขึ้นขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาเพชร
“ขึ้นมา เร็ว”
เพชรกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ พริมขี่ออกไป

พริมขี่มอเตอร์ไซค์ โดยมีเพชรซ้อนท้าย สักพักเพชรก็ขัดขึ้นมา
“จริงๆ เราควรจะสลับที่กันนะ”
“สภาพแบบนี้ นั่งให้อยู่ก็เก่งแล้ว”
“ขอโทษนะ ที่ช่วยเธอไม่ได้เลย”
พริมเบรคเอี๊ยด เพราะข้างหน้ามีพวกนักเลงจอดรถกระบะดักทางไว้ รถกระบะเปิดไฟสูงใส่มาทางสองคน
เพชรบอก “เดี๋ยวฉันจัดการพวกมันเอง เธอขับหนีไปก่อน”
“จะบ้าหรือไง นั่นรถกระบะนะ ถ้าเธอลงไป ก็มีแต่ตายลูกเดียว”
“แล้วจะให้ตายทั้งคู่หรือไง”
“ก็ต้องเสี่ยงดู เกาะแน่นๆ นะ” พริมบอก
“จะทำไรอ่ะ”
ขาดคำ พริมบิดเร่งเครื่อง แล้วหักรถกลับทันที เพชรแทบทรงตัวไม่อยู่ พริมออกรถอย่างรวดเร็วและแรงราวกับกับจะบิน
เพชรร้อง “เหวอ...”
รถกระบะรีบออกตัว ขับตามมาติดๆ พริมเลยตัดสินใจ ดึงแขนเพชรมากอดเอวตัวเองไว้
“กอดไว้นะ”
พริมตะโกนบอกแล้วหักรถลงไปในทางลาดข้างทาง ลุยเข้าป่าไป สองคนร้องลั่น
“อ๊าย” / “อ๊าก”
พวกนักเลงลงมาจากรถ วิ่งตามไปดู แต่ไม่เห็นใครแล้ว
พวกนักเลง ดึงผ้าปิดหน้าออกมา เผยให้เห็นว่า เป็นเม่น กับ เก้ง
เม่นบอก “หายไปแล้วอ่ะ โธ่เว้ย”
“ฮึ่ย รีบโทร.บอกปลัดไป ฉันจะรายงานป๋าเอง” เก้งหัวเสียสุดขีด

สองสมุนของ เมฆดำ เดินหายไปในความมืด

วันนี้รักษ์ตื่นมาเปิดร้านแต่เช้า พอหันมาอีกทีเห็นขนุนในชุดปกติ ยืนอยู่ข้างตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ก็ตกใจ

“เย้ย! ขนุน ตกใจหมดเลย”
ขนุนยังยืนมองหน้ารักษ์นิ่ง
“พี่บอกให้กลับไปก่อนไง ขนุน พูดอะไรหน่อยสิ”
“ขนุนแค่มามองหน้าพี่รักษ์เฉยๆ มองให้จำขึ้นใจ ว่าอย่าไว้ใจคนๆ นี้อีก”
รักษ์อึ้ง “ขนุน”
“ขนุนรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว แต่แค่ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าพี่รักษ์หลอกขนุนทำไม ถ้าพี่อยากกลับมาสุขสบายที่บ้าน พี่ก็พูดตรงๆ สิ ไม่ใช่หนีมาแบบนี้”
ขนุนตัดพ้อ รักษ์เงียบไป
“ว่าไงล่ะ พูดสิ พูดอะไรก็ได้ พูดว่าขนุนเข้าใจพี่ผิด พี่ไม่ได้กับมาเป็นเสี่ยขายโอ่ง อย่างที่ขนุนคิด พี่พูดสิ”
รักษ์เงียบอย่างเก่า
“ขอบคุณนะ สำหรับคำตอบ ขนุนเข้าใจทุกอย่างแล้ว”
ระหว่างนี้ ธำรง กับ ธัญญาเดินออกมาจากด้านในบ้าน
“อ้าว หนูขนุน”
ธัญญาชักชวน “เข้ามาข้างในก่อนสิ”
ขนุนไหว้ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูจะไปแล้ว และนี่เป็นครั้งสุดท้าย ที่ขนุนจะมารบกวนทุกคน ขอโทษนะคะ ลาล่ะค่ะ”
ขนุนเดินออกไป รักษ์อยากห้าม แต่ก็ไม่ได้
“เอ ทำไมรู้สึกว่าเพิ่งเจอหนูขนุนไปนะ” ธำรงครุ่นคิด
ธัญญาพยักพเยิด “สงสัยเมื่อคืนเราดูเอ็มวี กระแต กระต่าย บ่อยไปมั้ง เขาหน้าคล้ายกันอยู่เนอะ”
“เออ จริง”
รักษ์เริ่มเครียดกับท่าทีหมางเมินของขนุน

ทางด้าน เพชร กับ พริม นอนสลบอยู่ข้างมอเตอร์ไซค์ที่พังยับหมดสภาพแล้ว เนื้อตัวสะบักสะบอม พริมค่อยๆ ลืมตาตื่น ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล มองไปรอบๆ มีแต่ป่ากับป่า แล้วหันไปเจอเพชรนอนสลบอยู่ พริมเข้าไปดู เขย่าเรียกสติ
“เพชร”
เพชรนอนแน่นิ่ง พริมใจหายใจคว่ำเริ่มกังวล เขย่าเพชรอีกที
“เพชร...ฟื้นสิ เพชร... เพชร! เพชร!”
พริมลุกขึ้นเดินหาผู้คน ปากร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วยค่ะ มีใครอยู่แถวนี้บ้างไหมคะ”
พริมวิ่งมาดูเพชรอีกที กลั้นน้ำตาไว้
“เพชรอย่าเป็นอะไรนะ”
พริมก้มหน้าร้องไห้ จนได้ยินเสียงเพชรกรนขึ้นมา
“คร่อก”
พริมชะงัก เงยหน้ามาดู เห็นเพชรนอนกรนสบาย
“หืม... ไอ้เพชร”
พริมตีเพชรอย่างแรง เพชรสะดุ้งตื่น แต่ยังสะลึมสะลือ มือป้ายเช็ดน้ำลาย เหมือนคนเพิ่งตื่นนอน
“ฮึ ๆ มีอะไร...โหย พริม อย่าแกล้งดิ คนกำลังหลับสบาย”
เพชรจะล้มตัวไปนอนต่อ พริมหยิกหูเพชร ให้นั่งก่อน
“ใช่เวลามานอนไหม นี่เราอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้นะ”
“เฮ่ย! ที่นี่ที่ไหนอ่ะ” เพชรมองไปรอบๆ
“ก็เพิ่งบอกไปว่าไม่รู้ รู้แค่เราหนีพวกของปลัดมา”
“ใครอ่ะ” เพชรเอ่ยขึ้น
พริมชักหงุดหงิด “ก็เพิ่งบอกไปว่าพวกของปลัด!”
“ไม่ใช่ หมายถึงนั่นน่ะ”
เพชรชี้ไปอีกทาง พริมมองตามแล้วร้องลั่น
“เฮ้ย!”

พริมผวาเขยิบตัวมาใกล้เพชรด้วยความกลัวใครบางคน

อ่านต่อหน้า 3

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 16 (ต่อ)

ฝ่ายเพชร กะ พริมมองไปยังชายปริศนา พบว่าใครคนนั้นคลุมผ้าดำสวมหัว ทำท่ากระโดด ยึกยักๆ และขยับๆ เหมือนชกอะไรอยู่

“ไปขอให้เขาช่วยกันเถอะ” เมื่อเพชรหันมา แต่พริมไม่อยู่แล้ว “อ้าว พริม...”
พริมไปหลบอยู่หลังต้นไม้นานแล้วกวักมือตะโกนเรียกเพชร
“เพชร! มานี่เร็ว”
เพชรตะโกนกลับไป “ไปทำไรตรงนั้น”
“โจรหรือเปล่าก็ไม่รู้! หนีเร็ว”
เพชรลังเล แล้วหันไปมองชายปริศนาคนนั้น ชายปริศนากำลังรัวหมัดชกลม แล้วหมัดสุดท้ายที่ปล่อยในอากาศก็ทำให้ต้นกล้วยที่อยู่ห่างไปราว 1 เมตร หักโค่นลงไป เพชรนี่อึ้ง ตะลึงตะไลไปเลย
พริมรีบเดินเข้ามาหา เห็นเพชรมัวแต่อึ้งกับภาพที่เห็นอยู่ จนต้องกระซิบถาม
“เพชร เป็นไร”
“เปล่าๆ”
“รีบไปเถอะ นั่นอาจจะเป็นนักเลงพวกนั้นก็ได้”
“ไม่ใช่หรอก เมื่อกี้ฉันเห็นเขา...”
พริมตัดบท “เขาจะทำไรก็ช่างเถอะ ยังไงเราก็ต้องรีบออกไปจากที่นี่ ตอนนี้ทั้งค่ายเป็นห่วงเราแย่แล้ว”

ขณะเดียวกันที่หลังค่ายมวย ศ.อรชร เด่น กะ แคน นอนตีพุงสบายเฉิบ
“เฮ้ย ไอ้เด่น เหมือนเราลืมอะไรไปหรือเปล่าวะ”
“เออใช่ ลืมไรวะ”
“นั่นดิ ลืมไรวะ”
เสียงอรชรตะโกนเข้ามา “ก็ลืมไปซ้อมไงล่ะ”
เด่น กะ แคนรีบเด้งตัวยืนตรง ขณะ อรชร และ เอื้อยเดินเข้ามา
“นอนสบายใจเชียวนะ ทำไมไม่ไปซ้อม”
แคนอึกอัก “ก็...”
อรชรขยับตัวจ้องคาดคั้น
เด่น กะ แคน บอกพร้อมกัน “รอพริมอยู่ครับ”
เด่นเสริมว่า “รอไปวิ่งพร้อมพริมอ่ะครับ”
“แล้วเพชรก็ยังไม่มาด้วยนะครับน้าอร” แคนว่า
เอื้อยแปลกใจ “อะไร น้องพริมตื่นละนะ เมื่อเช้าฉันไปดู ก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว”
“แต่ตอนเช้าก็ไม่เห็นลงมากินข้าวเลยนะครับ” แคนว่า
เด่นนึกทบทวน “เออ เมื่อคืนก็ไม่เห็นไอ้เพชรขึ้นมานอนด้วย ตอนเช้าก็ไม่เห็น”
ทุกคนมองหน้ากัน พูดพร้อมกัน “หรือว่า...”
บุญหลงวิ่งหน้าตื่นเข้ามา “พริมกับเพชรหายไปครับ!”
ทุกคนตกใจมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

ที่บ้านลิเกรู้เรื่องการหายตัวไปของสองคนจากแฉะและลูกดอก เวลานี้ สำเริงนั่งคุยกับตำรวจที่แวะมาสอบปากคำอยู่
“ยังไม่เจอเพชรกับพริมเหรอครับ”
“เรารวบตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดได้แล้ว แต่ไม่เจอตัวทั้งคู่เลยครับ” ตำรวจ
แม้นมาศครวญคร่ำ “น้องเพชร”
“นี่อะไรเนี่ย คุณแม้นมาศมาทำไรที่นี่ครับ” สำเริงแปลกใจ
“มาอยู่ครับพี่เริง” แฉะบอก
“อ๋อ... ห๊ะ มาอยู่อะไร ทำไม ได้ยังไง”
ลูกดอกอธิบาย “สามีคุณแม้นมาศ เขาอยากปล่อยให้คุณแม้นมาศมีอิสระอีกครั้ง พูดง่ายๆ คือ โดนทิ้งน่ะครับ”
“โดนทิ้ง แล้วพวกแกไปเก็บมาทำไม” สำเริงงง
แม้นมาศฉุน “นี่ๆ คนนะ ไม่ใช่ถุงปุ๋ย ฉันก็แค่อยากมาดูแลน้องเพชรอย่างใกล้ชิดที่นี่ แต่ที่ไหนได้ น้องเพชรหายไปแล้ว”
“อืม...หรือว่าถูกพวกมันจับตัวไปแล้ว” แฉะว่า
“เอาไปฆ่าหมกศพไว้ในป่า ถูกหนอนชอนไช จนไม่เหลือซาก” ลูกดอกบอก
แฉะท้วง “ดูหนังเยอะไปแล้ว เพิ่งผ่านไปไม่ถึงวัน หนอนมันยังชอนไชไม่หมดหรอก ศพน่าจะยังอยู่”
สำเริงเบิ๊ดกะโหลกทั้งคู่
“ไร้สาระ! เอ่อ แต่คงไม่มีศพแถวนั้นหรอกใช่ไหมครับ”
“ไม่มีครับ ผู้ต้องหาและพาหนะอยู่ครบในจุดเกิดเหตุ หายไปแค่มอเตอร์ไซค์คันเดียว จึงเป็นไปได้มาก ว่าคุณเพชร คุณพริม จะหนีออกไปด้วยกันครับ”
“แล้วไอ้เพชรมันหายไปไหนกับหนูพริมวะ”

สำเริงเครียดจัด เป็นห่วงทั้งคู่

เพชรยังชะเง้อดูไปทางชายปริศนา พริมต้องดึงเพชร เร่งให้กลับ

“มัวดูอะไรล่ะ รีบไปได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิ เมื่อกี้คนที่อยู่ตรงนั้นน่ะเขา...”
ชายปริศนาในผ้าคลุมสีดำกระโดดเข้ามาหา เพชร กะ พริม สองตกใจ
“มานี่แล้ว!”
เพชรร้องลั่น รีบตั้งการ์ดอย่างกล้าๆ กลัวๆ ปกป้องพริม พริมมองเพชรที่พยายามจะปกป้องตัวเอง ทั้งๆที่กลัว แล้วก็แอบประทับใจ
ชายปริศนาเดินก้าวเข้ามา 1 ก้าว เพชรรีบยกมือไหว้หลับตาปี๋ แล้วรีบพูด
“อย่าหักผมทิ้งเหมือนต้นกล้วยเลยนะครับ!”
ชายปริศนาเปิดผ้าคลุมออกมา เผยให้เห็นว่าที่แท้เป็นหลวงพ่อวัดทุ่งไก่หลงนั่นเอง
“หลวงพ่อ”
หลวงพ่อยิ้มเล็กๆ

ที่ค่ายมวยวุ่นวายขนานใหญ่ อรชรซักฟอกทีละคน เริ่มจากเอื้อย
“ตื่นมาตอนเช้า ก็ไม่เห็นน้องพริมละนะคะ จะว่าไป ก็ไม่เห็นว่ามาเข้านอนนะ”
จากเอื้อย มาเป็นบุญหลง
“ล่าสุด ผมเห็นพริมตอนประมาณ...” บุญหลงนิ่งนึกสักพัก “สองทุ่ม สิบ...ห้าครับ เดินถือจานเข้าไปล้างในห้องครัว แต่น้ำยาล้างจานหมด” บุญหลงนึกแล้วยิ้มไปด้วย “พริมพยายามแกะน้ำยาถุงใหม่อยู่นานมาก เพราะในครัวไม่มีกรรไกร พริมก็เลย...”
อรชรรำคาญ “ละเอียดไป! เอาสั้นๆ”
“พริมล้างจานเสร็จก็ออกไปไหนก็ไม่รู้แล้วครับ”
ต่อจากบุญหลงเป็นแคน
“ผมเห็นพริมทำลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าบ้านครับ พอจะออกไปดู พริมก็ไล่ผมกลับเข้าไปข้างในเห็นเหมือนในมือถืออะไรสักอย่าง”
แล้วเปลี่ยนมาเป็นเอื้อยอีก
“กระเป๋ามั้ง แล้วก็มีผู้ชายมาคุยกับพริม ทำอะไรยุกยิกๆ กันก็ไม่รู้ แล้วก็วิ่งไป...”
คราวนี้เปลี่ยนเป็นเด่น “วิ่งไปทาง...” เด่นพยายามนึก แต่นึกไม่ออก
เปลี่ยนกลับมาเป็นแคน
“ไปทาง...”
เอื้อยโมโหตัวเอง “โอ้ย ทำไมนึกไม่ออกน้า”
แคนพยายามนึก “ไปทาง...”
เด่นนึกได้ “อ๋อ ไปทางบ้านคณะลิเกครับ”
อรชรตาลุกวาว ช็อกเล็ก

ใต้ต้นไม้ในป่าละเมาะ พริม กะ เพชร นั่งฟังหลวงพ่อเล่าเรื่องให้ฟัง
“รู้ไหมก่อนหลวงพ่อจะมาบวชน่ะ หลวงพ่อไม่ได้เป็นพระนะ”
“แหม ก็แน่สิครับ แล้วเป็นอะไรครับ เป็นชี” เพชรว่า
หลวงพ่อบอก “ถูก”
เพชรงง “ห๊ะ”
“ถูกก็บ้าแล้ว ...หลวงพ่อเป็นนักมวย”
เพชร กะ พริม ร้อง “อ๋อ...” แล้วนึกขึ้นได้ร้อง “ห๊ะ” พร้อมกัน
“เรื่องมันมีอยู่ว่า”

ตอนหลวงพ่อยังเป็นหนุ่ม ผมดกดำ ใส่เสื้อผ้าตามยุคสมัย เดินเข้ามาในตลาด
หลวงพ่อเล่าว่า “เมื่อหลายสิบปีก่อน หลวงพ่อยังเป็นนักมวยหนุ่มดาวรุ่ง ฝีมือเยี่ยม ใครๆ ก็อยากจะโค่น”
มีนักเลงมารุมล้อม ถูกหลวงพ่อปล่อยฟุตเวิร์ค แล้วเงื้อหมัด พอหลวงพ่อเดินออกไป เบื้องหลังเป็นพวกนักเลงนอนล้มเกลื่อนกลาด
“และทุกครั้งผู้ที่ชนะก็คือหลวงพ่อเอง”
หลวงพ่อหลบมุมแล้วเปิดย่ามผ้า มีแสงออกมาจากย่ามนั้น หลวงพ่อทำหน้ากระหยิ่ม เหมือนมีขุมสมบัติอยู่ภายใน
“ชื่อเสียงของหลวงพ่อขจรไกล ทุกคนต่างชื่นชมในความสามารถ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเคล็ดลับของหลวงปู่ก็คือตำราใบลานพันปี ที่บันทึกวิชามวยขั้นเทพโบราณ.... แต่แล้ววันหนึ่ง ความลับนี้ก็ถูกเปิดเผย”
มีพวกนักเลงวิ่งไล่ยิงหลวงพ่อที่วิ่งหนีพวกนักเลงไป
“ทุกคนต่างเข้ามาแย่งชิงตำราใบลานพันปี จนหลวงพ่อใช้ชีวิตทางโลกไม่ได้อีกแล้ว”
หลวงพ่อวิ่งมาถึงหน้าวัด แล้วเดินหายเข้าไป
ไม่นานจากนั้น ผ้าจีวรสีเหลืองเข้มสะบัดพรืด ห่มคลุมร่างฆราวาส กลายเป็นหลวงพี่ และหลวงพ่อ แห่งวัดทุ่งไก่หลงจนทุกวันนี้

หลวงพ่อเล่าต่อว่า “เพื่อรักษาตำราใบลานพันปีให้อยู่ในมือคนดี หลวงพ่อจึงยอมละทิ้งชื่อเสียงทุกอย่าง มาบวชอยู่นี่นั่นแหละ”
หลวงพ่อทอดสายตาไปไกลอย่างมีความหวัง
พริมกระซิบถามเพชร “ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อหลวงพ่อกับตำรานี่เลยเนอะ”
“สุดยอดเลยครับหลวงพ่อ! ตำราวิเศษชัดๆ แล้วตอนนี้ตำราอยู่ที่ไหนเหรอครับ”
พริมเซ็งที่เห็นเพชรอินจัด หลวงพ่อชี้ไปที่หัวของตัวเอง
“หลวงพ่อจำทุกกระบวนท่าในใบลานได้หมด อย่างกับซีรอกซ์ แล้วทำลายใบลานพันปีทิ้ง เพื่อความปลอดภัยของมนุษยชาติ”
“หา ทำไมไม่ให้พิพิธภัณฑ์ หรือส่งให้รัฐบาลดูแลไปล่ะคะ”
“เออ...จริงด้วย แต่ไม่ช้าก็เร็วหลวงพ่อจะต้องสืบทอดวิชานี้ให้ใครสักคน เพื่อกันลืม หลวงพ่อเลยแอบมาซ้อมในป่าลึกนี้ทุกเช้า โดยไม่มีใครรู้”
ระหว่างนี้ กล้า กะ เอี้ยงเข้ามาสมทบ
“ทำไมวันนี้ซ้อมมวยนานจังครับนึกว่าเป็นล้มเป็นแล้งไปซะละ” กล้าถาม
“อ้าว ไหนว่าไม่มีใครรู้ไงคะ” พริมงง
หลวงพ่อก็งง เพชรมองไปรอบๆ จำได้
“แหม นี่มันสวนหลังวัด มองมาจากกุฏิก็เห็นแล้ว ว่าทำอะไรอยู่”
พริมดีใจ “สวนหลังวัด! งั้นเราก็กลับบ้านได้แล้วสิ”
เพชรทักท้วง “เดี๋ยว คือ...เอ่อ... ถ้ากลับไปตอนนี้ อาจจะเจอพวกนักเลงดักอยู่ก็ได้นะ”
“นี่ไปทำผิด แล้วมาแอบกบดานหลังวัดป่ะเนี่ย!” กล้าเหล่
“ไม่ใช่ค่ะ พวกเรา...พวกเราหนีคนร้ายอยู่ มีใครก็ไม่รู้มาตามล่าพวกเรา” พริมบอก
เพชรขอร้องหลวงพ่อ “พวกผมขออยู่ที่นี่ จนกว่าจะปลอดภัยได้ไหมครับ ถ้าเราออกไป ไม่รู้พวกมันมีเยอะอีกแค่ไหน แล้วคนที่บ้านเราอาจจะเป็นอันตรายด้วยก็ได้”
“แล้วให้อยู่ที่นี่ไปจนถึงเมื่อไร” พริมกังวล
“จนกว่าฉันจะเก่งขึ้น แล้วสู้กับพวกมันได้”
“แล้วอยู่ที่นี่ เธอจะเก่งขึ้นได้ยังไง” พริมถาม
เพชรคุกเข่าลงต่อหน้าหลวงพ่อ
“กรุณารับผมเป็นศิษย์ แล้วถ่ายทอดวิชามวยขั้นเทพให้ผมด้วยเถอะครับ”
“เฮ้ย”

พริมตาเหลือกคาดไม่ถึง ส่วนเพชรพนมมือ สีหน้ามุ่งมั่นมาดหมายมาก

อ่านต่อหน้า 4

ลิเกหมัดสั่ง ตอนที่ 16 (ต่อ)

เด่น แคน นั่งกินข้าวอยู่ บุญหลงเดินเข้ามาหา

“อากาศดีเนอะ”
“ร้อนจะตาย ดียังไงวะ” เด่นงง
แคนมองเหล่ “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“อ๋อ เปล๊า”
“มีอะไรก็พูดมา” เด่นจ้องหน้า
บุญหลงตอบเร็ว “ไม่มีอะไร”
แคนชักรำคาญ “เร็วพวกฉันรอฟังอยู่”
“ไม่มีจริงๆ”
เด่นรำคาญมาก “งั้นไปล่ะ”
บุญหลงเลยรีบถาม “พวกแกเห็นไหมว่าพริมออกไปกับใคร”
เด่นยิ้มขำ “อ่ะแน่ะ โธ่เอ๊ย เรื่องพริมนี่เอง”
บุญหลงซัก “ว่าไงล่ะ”
“หึ ไม่เห็นอ่ะ ถ้าเห็นก็บอกน้าอรไปแล้ว” แคนว่า
“ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าพริมหายไปวะ ถ้าพริมเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ”
เด่นปลอบ “พริมไม่เป็นไรหรอกน่า”
“เผลอๆ อาจจะตั้งใจไปก็ได้” แคนบอก
ขณะที่บุญหลงงงๆ อยู่ เอื้อยก็วิ่งมาหาหน้าตาตื่น
“เฮ้ย! พวกเอ็ง มานี่เร็ว เกิดเรื่องแล้ว”

สามคนรีบวิ่งตามเอื้อยไป

อรชรกำลังบีบคอสำเริงอยู่หน้าบ้านลิเก สำเริงพยายามดิ้นหนี แฉะ ลูกดอก พยายามช่วยห้ามอรชร แม้นมาศได้แต่ร้องกรี๊ดๆๆ

“อ๊าย...ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
“ไม่ต้องตะโกน! คุณแม้นมาศแหละครับมาช่วยด้วย” ลูกดอกรำคาญ
“ปล่อย! ถ้าไม่อยากตาย ก็ถอยออกไป” อรชรอาละวาดสามคน
แฉะ ลูกดอก และ แม้นมาศถอยกรูด
สำเริงเซ็ง “โอ้โห รักกรูกันจริงๆ”
อรชรหันไปออกแรงบีบคอสำเริงต่อ เอื้อย บุญหลง เด่น แคน วิ่งเข้ามา
“น้าอร ใจเย็นครับ พูดกันดีๆ ก่อน” บุญหลงบอกพลางดึงตัวอรชรออกมา
“เย็นได้ไงล่ะ ไอ้เพชรมันพาพริมหนีไปแล้ว”
เสียงนั้นของอรชรก้องในหัวของบุญหลงซ้ำไปซ้ำมา
“ไอ้เพชรมันพาพริมหนีไปแล้วๆๆ” บุญหลงถึงกับช็อก
สำเริงเถียง “หนีบ้าอะไร”
“ก็พริมมาที่นี่แล้วก็หายไปพร้อมกับเพชร จะแปลว่าอะไรได้อีก”
บุญหลงคอตก
“เยอะแยะไป สองคนนั่นอาจจะ...อาจจะ... ไป... ซื้อปาท่องโก๋กัน” แฉะบอก
เอื้อยเบิ๊ดกะโหลแฉะ
“พอเลย! ไม่ต้องมาช่วยกันปกปิด เพชรพาน้องพริมไปไหน”
“ไม่จริงใช่ไหมน้าเริง เพชรไม่ได้พาพริมหนีไปไหนใช่ไหม” บุญหลงใจแป้ว
“อาจจะเป็นหนูพริมที่พาไปไอ้เพชรไปก็ได้ อ่ะจริงปะล่ะ”
อรชรมองหน้าสำเริงนิ่ง
ทุกอย่างเงียบกริบ จนพอสักพักมีเสียงชกดัง “ตุบ!”

ร่างสำเริงตาเขียวล้มตึงลงไปกองคาพื้น
“นี่แค่ดอกเบี้ยนะ ถ้ายังปากดีจะโดนต้นไปด้วย”
“ดอกเบี้ยเขาเก็บเป็นเงิน ไม่ใช่หมัด! โอ๊ย”
“เออเนอะ เงินใช่ไหม ดี เด่น แคน ไปค้นของในบ้านนี้ เอาของมีค่าทุกอย่าง เอามาเป็นดอกเบี้ยให้หมด”
สำเริงห้าม “เดี๋ยวๆๆๆ ใครบอกว่าถึงเวลาส่งดอกแล้วเฮอะ”
“ฉันนี่ไง”
แฉะกะลูกดอกบ่นงึม “ขี้โกง”
อรชรตวัดตามามอง “อยากโดนอีกคนหรือไง”
แฉะ ลูกดอก พนมมือ แล้วย่อเข่าไหว้
“และถ้าเพชรยังไม่พายัยพริมกลับมาอีกละก็ ฉันจะเก็บดอกทุก วัน!”

อรชรประกาศคำประกาศิต แล้วเดินอาดๆ ออกไป หมูมวลตามเป็นพรวน

พวกลิเกรวมทั้งแม้นมาศ มองหน้ากันเครียดทั้งแถบ

อ่านต่อตอนที่ 17
กำลังโหลดความคิดเห็น