พรายพยากรณ์ ตอนที่ 16 อวสาน
ระหว่างนั้นรถพิณชนิดาแล่นเข้ามา ทุกคนหันไปมอง สัญชัยได้โอกาสตรงไปขวางหน้า พิณชนิดา เบรกเอี๊ยด
สัญชัยรีบเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับ พลางจ่อปืนขู่
“ลงมา”
“ไม่ลง แน่จริงก็ยิงสิ ยังไงคุณก็หนีไม่รอด”
สัญชัยหันไปเห็นอรรถพร ภูมินทร์ ก้องภพกำลังตรงรี่เข้ามา ก็ตัดสินใจปลดเซฟตี้เบลของ
พิณชนิดา แล้วดันเธอให้เขยิบไปนั่งกับน้องสาว จากนั้นก็รีบปิดประตู แล้วขับรถออกไปทันที
อรรถพรกับก้องภพ รีบกระโดดขึ้นรถภูมินทร์ ที่ขับพุ่งตามออกไปทันที
ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ 2 พี่-น้อง ก็พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้สัญชัยยอมมอบตัว แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง กลับขับรถตะบึงเร็วขึ้น พิณชนิดาตัดสินใจเข้าแย่งพวงมาลัย สัญชัยตกใจ ภิชาสินีเกาะที่จับประตูแน่น
“นังบ้า แกอยากตายเหรอไง?”
“เออ ตายไปพร้อมๆ กันเนี่ยแหละ”
ภูมินทร์ อรรถพร ก้องภพ ที่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน เห็นรถพิณชนิดาส่ายไปส่ายมา ก็แปลกใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“พิณคงพยายามที่จะหยุดรถ”
ภูมินทร์พูดพลางเร่งคันเร่งรีบขับเข้าไปใกล้รถพิณชนิดา
สัญชัยกับพิณชนิดายังคงแย่งพวงมาลัยจนรถเบนออกไปอีกเลน ทันใดนั้นมีรถสิบล้อสวนทางมา พร้อมกับบีบแตรดังลั่น และเปิดไฟสูง
สัญชัย พิณชนิดา ภิชาสินีตกใจ
ภูมินทร์ อรรถพร ก้องภพก็ตกใจ เพราะภาพที่เห็นเหมือนรถสองคันจะประสานงากัน
รถสิบล้อพุ่งเข้ามาหารถของพิณชนิดา คนขับรถสิบล้อรีบเหยียบเบรคจนตัวโก่ง แต่รถก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ขณะที่กำลังจะประสางากัน พิณชนิดาก็หักหลบได้ทันไปอย่างเฉียดฉิว แต่รถกลับพุ่งตกไปที่ข้างทาง ชนกับต้นไม้ต้นใหญ่เต็มแรงเสียงดังสนั่น!!!!
ภูมินทร์รีบจอดรถข้างทาง ก่อนที่ทั้ง 3 คน จะรีบลงจากรถ ตรงไปที่รถของพิณชนิดา ภาพที่ทั้งหมดเห็นก็คือ ภิชาสินีหมดสติ หัวแตกเลือดอาบ
สัญชัยหน้าคว่ำตรงพวงมาลัย กระจกด้านหน้าแตกละเอียด แต่พิณชนิดากลับหายไป
ภูมินทร์พยายามมองหาพิณชนิดา ขณะเดียวกันอรรถพรก็รีบหยิบมือถือมากดโทร. ออก
“ขอรถพยาบาลมาที่.............. ด่วนที่สุด มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน”
ภูมินทร์เหลือบมองไปอีกทาง แล้วก็เห็นพิณชนิดานอนหมดสติอยู่ไม่ห่างออกไป เขารีบวิ่งเข้าไปหา แล้วก็พบว่าเธอหัวแตก ตามหน้าตามแขนมีรอยแผลจากรอยกระจกบาด เขารีบประคองตัวเธอขึ้นมาใน
อ้อมกอด
“พิณ พิณชนิดา”
ไม่นานพิณชนิดาลืมตาขึ้นมาพอเห็นภูมินทร์ก็ยิ้มดีใจ
“คุณภู”
ขาดคำก็กระอักออกมาเป็นเลือดออกมา แล้วก็หมดสติไปอีกครั้ง ภูมินทร์ยิ้มค้าง ตกใจจนแทบช็อก
พิณชนิดากับภิชาสินีอยู่ในห้องผ่าตัด อาการ 2 พี่-น้องน่าเป็นห่วง หมอและพยาบาลทำงานกันอย่างเคร่งเครียด
ภูมินทร์ อรรถพร ก้องภพ รออยู่หน้าห้องด้วยอาการร้อนรน
พิณชนิดาความดันตก หัวใจหยุดเต้น หมอรีบปั๊มหัวใจให้ทันที
ภิชาสินีหัวใจหยุดเต้นเช่นกัน หมอกำลังเร่งช่วยชีวิตโดยด่วน
พิณชนิดากับภิชาสินีในชุดสีขาวเดินมาด้วยกัน
“เรา 2 คนตายแล้วรึเปล่าพี่พิณ?”
พิณชนิดาส่ายหน้า “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ขณะที่กำลังเดินอยู่ 2 พี่-น้องก็เห็นเงาดำๆ สามเงากำลังเดินมาหาพวกเธอ ทั้งคู่จึงหยุดเดิน ก่อนจะพบว่าเงาทั้งสาม ที่แท้นั้นก็คือปราชญ์ พัณทิพา และกานต์กมล นั่นเอง
2 พี่-น้องยิ้มดีใจ
“พ่อ แม่ ป้า”
พลางรีบวิ่งเข้าไปหา ทั้งหมดกอดกันแนบแน่น
“พิณดีใจจริงๆ ที่ได้เจอพ่อ เจอแม่แล้วก็ป้า แสดงว่าพิณ พิณกับภิตายแล้วใช่มั้ยจ๊ะ”
พิณชนิดาหน้าเจื่อน ภิชาสินีพลอยหน้าเศร้าตามไปด้วย
กานต์กมลรีบบอก “ลูกทั้งสองกำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย”
2 พี่-น้องตกใจ
“แล้วเราจะตายมั้ยคะ”
ปราชญ์ส่ายหน้า
“ไม่หรอกลูก ชะตาชีวิตของพวกลูกยังไม่ถึงฆาต ยังไงพวกเราก็ไม่มีวันยอมให้ลูกตายเด็ดขาด
พิณ ภิ นี่จะเป็นการจากลาของพวกเรา”
พิณชนิดาแปลกใจ แต่ภิชาสินีที่รู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงกับน้ำตารื้น
“ถึงเวลาที่พ่อแม่ป้าจะต้องไปแล้วใช่มั้ยคะ?”
“ไป? หมายความว่าไง?”
กานต์กมลฝืนยิ้มให้ลูกสาวคนโต
“เวลาที่จะได้อยู่บนโลกนี้ของพวกเรา ได้หมดลงแล้ว เรา 3 คนยื้อกันมานาน ถ้าพวกเรายังดันทุรังที่จะอยู่ต่อไป วิญญาณของพวกเราจะแตกสลาย พวกเราจะไม่ได้ไปผุดไปเกิด”
พิณชนิดากับภิชาสินีใจหาย 2 พี่-น้องถึงกับกอดกันร้องไห้ พลอยให้แม่กับป้าร้องไห้ตามไปด้วย“ที่พวกเรายังไม่ไปไหน ยังวนเวียนอยู่ข้างๆ พวกหนู ก็เพราะพวกเราเป็นห่วง กลัวสารพัดว่าพวกหนูจะมีชีวิตที่ดีรึเปล่า จะได้เจอกับคนดีดีหรือไม่ แต่วันนี้ พวกเรารู้แล้วว่ามีคนดีดีที่รักและหวังดีกับหนู”
พิณชนิดากับภิชาสินีฟังคำพุดของป้า แล้วก็หันมามองหน้ากัน แล้วก็หันไปเห็นภาพภูมินทร์กับอรรถพรที่ยืนรอหน้าห้องผ่าตัดด้วยความวิตกกังวลใจ
ปราชญ์รีบอธิบายต่อ
“ผู้ชาย 2 คนนี้ คือคู่ชีวิตของลูก ถ้าหากว่าลูกทั้งสองเป็นอะไรไป พวกเค้าคงไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่”
พูดพลางเข้ามาจับมือลูกสาวทั้งคู่ไว้แน่น
“พวกเราทุกคนรักลูกทั้งสองมากนะ”
2 พี่-น้องร้องไห้ไม่หยุด
“แม่รักลูกนะจ๊ะ”
“ป้าก็รักลูกนะ”
ทั้งหมดร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน
“ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้พวกเราเกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกนะคะ”
พ่อ แม่ ป้าพยักหน้า ไม่นานก็มีลำแสงสีทองส่องลงมาจากเบื้องบน ทั้งหมดผละกันออกมาและหันไปมอง
“ลาก่อนนะลูก”
2 พี่-น้อง น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่นานร่างของพ่อ แม่ ป้าก็ค่อยๆ เลือนราง ก่อนที่ร่างจะกลายเป็นควันสีขาวลอยขึ้นไปตามลำแสงสีทอง
หมอที่ผ่าตัดภิชาสินีเดินออกมา อรรถพรรีบเดินเข้าไปหา ภูมินทร์กับก้องภพหันไปมอง
“คุณภิชาสินีปลอดภัยแล้วครับ”
อรรถพรยิ้มทั้งน้ำตา ถึงกับกอดหมอแน่น แต่ครั้นมองไปที่ภูมินทร์ที่นั่งหน้าเศร้า ก็นึกขึ้นได้
“ภิปลอดภัย คุณพิณก็ต้องปลอดภัยเหมือนกัน”
ไม่นานหมอที่ผ่าตัดพิณชนิดาก็เดินออกมา ภูมินทร์ ก้องภพ อรรถพรรีบเข้าไปหาหา
“คุณพิณชนิดาถูกแรงกระแทกอย่างแรง จนทำให้มีภาวะปอดช้ำ มีการบาดเจ็บต่อหลอดเลือดฝอยจนมีเลือดและสารน้ำคั่งในเนื้อเยื่อปอด เราต้องให้ออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจและเฝ้าสังเกตอาการ โดยรวมยังถือว่าไม่ปลอดภัย แต่คุณไม่ต้องกังวล ผมจะทำการรักษาให้ดีที่สุด”
ภูมินทร์น้ำตาซึม “ทำทุกอย่างเพื่อช่วยแฟนผมให้ได้นะครับหมอ”
หมอพยักหน้า แล้วก็เดินออกไป ภูมินทร์แทบทรุด ก้องภพต้องรีบเข้าไปประคอง อรรถพรมองอย่างสงสาร และเห็นใจ
ก้องภพมาเก็บเสื้อผ้าให้ภูมินทร์ที่จะไปนอนเฝ้าพิณชนิดาที่โรงพยาบาล ป่านแก้วที่มาช่วยเก็บของ ถอนหายใจอย่างใจหาย
“เฮ้อ นี่มันเกิดอะไรขึ้น คุณนมก็มาหายตัวไป คุณพิณก็มาบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังดีนะคะที่จับคุณสัญชัยได้”
เปรมสุดาแอบได้ยิน ก็นิ่งคิด จากนั้นก็รีบไปบอกแสงโชติ แต่กลับเห็นสภาพเขานอนเมามายไม่ได้สติ ข้างตัวมีกระป๋องเบียร์วางเกลื่อน พลางหันไปเห็นถังน้ำแข็งที่ละลายแล้ว ก็เอาน้ำในถังราดหัว
“พ่อคุณถูกตำรวจจับได้แล้ว”
แสงโชติสร่างเมาทันที
พรายพยากรณ์ ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
แสงโชติรีบบึ่งไปเยี่ยมสัญชัยที่โรงพยาบาล แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ ว่าห้ามเยี่ยม เขาได้แต่มองผ่านทางช่องกระจกตรงประตู พอเห็นสภาพของพ่อ ที่มีผ้าพันแผลที่หัว ก็กำมือแน่นด้วยความแค้น
“เพราะแกคนเดียว ไอ้ภู”
ก้องภพส่งกระเป๋าให้ภูมินทร์ พลางรีบบอก
“ผมเปิดห้องวีไอพีให้คุณพิณแล้ว ถ้ายังไงคุณภูเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็นอนในห้องนั้นได้นะครับ ส่วนเรื่องคุณนม ทันทีที่คุณสัญชัยฟื้น หมวดอรรถจะสอบปากคำทันทีว่าเอาคุณนมไปไว้ที่ไหน?”
ภูมินทร์พยักหน้า พลางหันไปก็เห็นแสงโชติยืนอยู่
แสงโชติจ้องภูมินทร์ตากร้าว ก่อนจะพุ่งเข้ามา ต่อยหน้าเปรี้ยง แบบที่ไม่ทันให้ตั้งตัว ก้องภพตกใจ พอแสงโชติจะเข้ามาซ้ำ เขาก็รีบปราดเข้าไปล็อกแขนเอาไว้
“เพราะแก พ่อฉันถึงต้องอยู่ในสภาพนี้ เพราะแกคนเดียว”
ภูมินทร์ใช้หลังมือเช็ดเลือดที่ซึมมุมปาก “ฉันเสียใจเรื่องคุณอา”
แสงโชติหน้าเหี้ยม “แกไม่ต้องมาเสียใจ สะใจแกแล้วใช่มั้ย ที่ทำฉันกับพ่อพังพินาศ”
“มาโทษฉัน ที่คุณอาเป็นแบบนี้ เพราะคุณอาทำตัวเอง”
แต่แสงโชติกลับโยนบาปให้ภูมินทร์
“แต่ถ้าแกไม่กดพ่อฉันเอาไว้ พ่อฉันก็คงไม่คิดที่จะทำลายแก ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเพราะแก เพราะแกคนเดียว”
ขาดคำก็สะบัดหลุดจากก้องภพ แล้วตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อภูมินทร์ขึ้นมา
“ทำไมวะ ทำไม ทำไมแกต้องเกิดมาพร้อมกับฉัน ทำไม ทำไม รู้มั้ยไอ้ภู ว่าฉันกับพ่อคิดไม่เหมือนกัน พ่ออยากให้แกตาย เพราะต้องการสมบัติ แต่ฉัน ฉันไม่เคยอยากให้แกตาย การที่แกตาย มันทำให้แกสบาย ฉันต้องการเห็นแกทุกข์ทรมาน ตายทั้งเป็น”
“ถ้าอย่างนั้นแกก็ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว เพราะตอนนี้ ฉันกำลังตายทั้งเป็น”
ก้องภพเข้ามาดึงแสงโชติออกจากภูมินทร์
“กลับบ้านนะครับคุณแสงโชติ ผมไปส่ง”
แสงโชติจ้องภูมินทร์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมก้องภพ ภูมินทร์ทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรงและหมดใจ
ภิชาสินีรู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็เห็นอรรถพรที่นั่งอยู่ข้างๆ เตียง ยิ้มด้วยความดีใจ พลางยื่นหน้าเข้ามาหอมหน้าผากไม่หยุด จนปิ่นเพชรต้องกระแอมล้อๆ
“พี่พิณเป็นไงบ้าง?”
อรรถพรกับปิ่นเพชรมองหน้ากัน ภิชาสินีเห็นสีหน้าของทั้งคู่ก็ใจไม่ดี
“พี่พิณเป็นอะไร?”
“คุณพิณปลอดภัยแล้ว เพียงแต่ยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด”
“ฉันจะไปเยี่ยมพี่พิณ”
อรรถพรรีบห้าม
“ไม่ได้ คุณเพิ่งฟื้นหมอยังห้ามไม่ให้คุณเคลื่อนไหวร่างกายมาก เพราะบาดแผลที่โดนกระจกบาดที่ท้องยังไม่สมานกันดี นอนนิ่งๆ นะครับคนดีของผม เชื่อผมนะ”
ปิ่นเพชรอมยิ้ม พลางนึกขึ้นได้
“เอ้อ ว่าแต่ลุงกับป้าหายไปไหน? เค้าไม่เห็นมาหลายวันแล้ว”
ภิชาสินีหน้าเศร้าลงทันที
“พ่อ แม่ ป้า ไม่อยู่กับเราอีกแล้ว พวกท่านไปเกิดแล้วล่ะปิ่นเพชร”
ปิ่นเพชรใจหาย คอตก กระโดดลงจากเตียงแล้วก็เดินออกไป อรรถพรกับภิชาสินีหันไปมองตามด้วยความเป็นห่วง
อรรถพรเดินออกมาเห็นปิ่นเพชรนั่งร้องไห้เงียบๆ ก็เดินมานั่งข้างๆ พลางโอบกอดปลอบใจ
ระหว่างนั้นเสียงมือถือก็ดังขึ้น เขารีบหยิบมือถือมากดรับสาย
“สวัสดีครับ สัญชัยฟื้นแล้ว?”
อรรถพรยืนอยู่ข้างเตียงสัญชัยที่นั่งพิงอยู่บนเตียง และถูกใส่กุญแจมือล็อกกับราวเหล็กข้างเตียง มีจ่าเหยินยืนอยู่ในห้องด้วย
“บอกมาว่าคุณเอาคุณนมนวลจันทร์ไปซ่อนไว้ที่ไหน?”
สัญชัยทำหน้ากวน “ฉันไม่บอก ฉันจะคุยกับไอ้ภูมินทร์คนเดียวเท่านั้น”
อรรถพรกับจ่าเหยินหันมามองหน้ากัน
อรรถพรไปตามภูมินทร์ที่นั่งเฝ้าพิณชนิดายังใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ไม่ห่าง ก่อนจะพาเข้ามาเพื่อคุยกับสัญชัยในห้อง
“ฉันจะคุยกับหลานชายของฉันแค่สองคน”
อรรถพรมองหน้าภูมินทร์เป็นห่วง
“ผมอยู่ได้ หมวดไม่ต้องห่วง”
อรรถพรพยักหน้า แล้วก็เดินออกไป ภูมินทร์เดินมาข้างเตียงสัญชัย
“บอกผมมาได้แล้ว”
สัญชัยยิ้มร้าย
“ที่ฉันบอกว่าฉันจะคุยกับแก ไม่ได้หมายความว่าฉันจะบอกเรื่องนมนวล”
“คุณอาต้องการอะไร? ถึงจะยอมบอก”
“ฉันต้องการอิสรภาพ แกให้ฉันได้มั้ยล่ะ?”
ภูมินทร์ชะงักไปทันที
“แกมันก็เห็นแก่ตัวเหมือนเดิม ไหนพูดนักพูดหนาว่ารักนมนวล แต่พอเอาเข้าจริง แกก็รักแต่ตัวเอง ถ้าอีแก่นั่นรู้ คงจะนอนตายตาไม่หลับ”
“คุณอาหมายความว่ายังไง?”
สัญชับแสยะยิ้มแล้วก็หัวเราะลั่น ภูมินทร์โมโหมาก เข้ามาขยุ้มคอเสื้ออีกฝ่าย
“คุณทำอะไรนมนวล? บอกผมมา”
สัญชัยเอาแต่หัวเราะไม่หยุด จงใจยั่วโมโห แล้วมันก็ได้ผล ภูมินทร์โกรธมาก ต่อยอีกฝ่ายเต็มแรง จนเลือดพุ่ง
“ฆ่าฉันให้ตายเลยไอ้ภู แกจะได้มีสถานะไม่ต่างจากฉัน คือฆาตกร ฆ่าฉันเลย”
ภูมินทร์สุดทน หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น ระดมต่อยไม่หยุด สัญชัยแกล้งตะโกน
“ช่วยด้วย ไอ้ภูมันจะฆ่าผม”
อรรถพรกับจ่าเหยินได้ยินเสียง ก็รีบเปิดประตูเข้ามาห้าม
“อย่าคุณภู”
“ปล่อย ผมจะฆ่ามัน ปล่อยสิ”
อรรถพรพยายามเตือนสติ
“ถ้าคุณฆ่าเค้า คุณจะโดนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา คุณจะต้องติดคุก แล้วถ้าคุณพิณฟื้นขึ้นมา คุณพิณจะทำยังไง? มีสติหน่อยคุณภู คุณกำลังถูกมันยั่วโมโหอยู่”
ภูมินทร์ค่อยๆ ได้สติ พลางมองจ้องหน้าสัญชัยด้วยความแค้น อีกฝ่ายจ้องกลับด้วยแววตาเยาะเย้ย
อรรถพรกับจ่าเหยินรีบพาภูมินทร์ออกไปจากห้อง
“เค้าพูดเหมือนว่า นมนวลไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้ว”
อรรถพรพยายามพูดปลอบ
“ผมว่าเค้าพูดเพราะต้องการยั่วยุให้คุณทำร้ายเค้ามากกว่า คุณอย่าเพิ่งคิดอะไรในแง่ร้าย ผมกำลังแกะรอยเส้นทางการหนีของนายสัญชัยอยู่ เราอาจจะได้เบาะแสที่ซ่อนคุณนม”
ภิชาสินีนอนหลับ ปิ่นเพชรนั่งดูทีวีเฝ้าอยู่ข้างๆ ทันใดนั้นทีวีเหมือนมีคลื่นแทรก
“เป็นไรไปเนี่ย?”
ปิ่นเพชรกดเปลี่ยนช่องก็เป็นเหมือนกันหมด จึงเดินไปดูที่ทีวีใกล้ๆ
ที่ด้านหลังวิญญาณของแม่นมนวลปรากฏขึ้นมา พลางมองมาที่ปิ่นเพชร แล้วพยายามจะพูดแต่ไม่มีเสียง ครู่หนึ่งก็หายวับไป
พยาบาลที่กำลังวัดความดัน เห็นพิณชนิดานอนดิ้นไปดิ้นมาก็ชะงัก รีบวิ่งออกไปทันที
พิณชนิดาเหงื่อแตกพลั่กๆ แล้วก็สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ
“แม่นมนวล”
พลางหันไปมองรอบๆ เห็นว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล พอจะลุกขึ้น ก็เจ็บหน้าอก ทันใดนั้นหมอกับพยาบาลก็เข้ามาพอดี
“คุณยังลุกไม่ได้นะครับ ขอหมอตรวจก่อน”
ทางด้านแสงโชติก็ปลอมตัวเป็นหมอ ใส่แว่นกรอบดำหนา ติดหนวดปลอม ใส่วิก ลอบเข้ามาที่ห้องของสัญชัย โดยที่ตำรวจที่เฝ้าหน้าห้องไม่ติดใจสงสัย
พิณชนิดาคิดหนักเรื่องความฝัน ที่เห็นสีหน้าทุกข์ทรมานของแม่นมนวล ทันใดนั้นภูมินทร์ก็เปิดประตูเข้ามา ทั้งคู่ต่างดีใจที่เจอกัน ภูมินทร์เข้ามาดึงพิณชนิดาเข้ามากอด
“ผมดีใจที่คุณฟื้น”
พิณชนิดายิ้ม แต่แววตาเต็มไปด้วยความกังวลใจมาก
“น้องสาวฉัน ?”
“ภิปลอดภัย อาสัญชัยถูกตำรวจคุมตัวเอาไว้ ตอนนี้ก็อยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกัน”
พิณชนิดาตัดสินใจ “ภู ฉันมีเรื่องจะบอก..”
แต่ยังไม่ทันเปิดปากเล่า ก้องภพก็พรวดพราดเข้ามา
“เกิดเรื่องแล้วครับคุณภู”
ภูมินทร์ ก้องภพ พร้อมด้วยสิรวิทย์ ที่ตามมาเยี่ยมพอดี เร่งฝีเท้าเดินมาตามทาง เห็นอรรถพรกับจ่าเหยินกำลังคุยกับตำรวจที่หน้าห้องสัญชัย
“มีคนพาอาสัญชัยหนีเหรอครับ?”
อรรถพรพยักหน้า
“ผมคิดว่าเป็นคุณแสงโชติ 2 คนนั้นน่าจะยังหนีไปไหนไม่ไกล ผมให้ตำรวจตามหาแล้ว”
พรายพยากรณ์ ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
แสงโชติที่ยังคงติดหนวด และใส่แว่นประคองสัญชัยที่สวมหมวกใส่แว่นดำเดินมาตามทาง พลางมองสีหน้าเจ็บปวดของพ่อ ด้วยความเป็นห่วง
“พ่อไหว่รึเปล่า?”
สัญชัยพยักหน้าหันไปมองลูกชายอย่างรู้สึกผิด
“แสงโชติ พ่อขอโทษ ที่พ่อดูถูกลูกมาตลอด พ่อไม่เคยเชื่อใจในตัวลูก แต่มาวันนี้ลูกทำให้พ่อเห็นว่าลูกกล้าหาญมากแค่ไหน”
“อะไรที่ช่วยพ่อได้ ผมจะทำทุกอย่าง ถึงแม้ผมจะต้องตาย ผมก็ยอม”
สัญชัยมองลูกชายด้วยความรัก แต่แล้วตำรวจก็ตามมาทัน
“หยุด มอบตัวซะ”
แสงโชติรับประคองพ่อวิ่งหนี ตำรวจรีบไล่ตามไป
สัญชัยวิ่งไปได้ครู่หนึ่งก็ไม่ไหว แสงโชติต้องแบกพ่อขึ้นหลัง แต่ตัวเองก็แทบจะไม่ไหวเหมือนกัน พลันอรรถพรกับจ่าเหยินนำกำลังตำรวจมาล้อมจับเอาไว้
“คุณหนีไม่รอดแล้ว”
แสงโชติค่อยๆ ปล่อยร่างพ่อลงจากหลัง สัญชัยหน้าเครียด
“ยกมือขึ้นไว้เหนือหัว”
แสงโชติเหมือนจะทำตามแต่กลับชักปืนออกมาจะยิง อรรถพรไวกว่ายิงเปรี้ยงเดียว กระสุนเจาะเข้าที่หน้าอกของแสงโชติ จนตาเหลือก สัญชัยตกใจรีบประคองเอาไว้
“ผมขอโทษ ที่ผมช่วยพ่อ...ไม่ได้”
สัญชัยน้ำตาคลอ “ไม่เป็นไรเลยลูก ไม่เป็นไร พ่อไม่โกรธ พ่อไม่เคยโกรธลูกเลย”
แสงโชติฝืนยิ้ม “ผมดีใจ ผมรักพ่อนะครับ”
“พ่อก็รักลูก”
แล้วแสงโชติก็หมดลมหายใจในอ้อมกอดของสัญชัย
ภูมินทร์ ที่วิ่งนำก้องภพ สิรวิทย์ตามมาเห็นพอดี พลอยน้ำตาซึมไปด้วย อรรถพรพยักหน้าให้ตำรวจเข้าไปจับ แต่สัญชัยกลับหยิบปืนของแสงโชติที่หล่นบนพื้นขึ้นมา
ภูมินทร์รีบร้องห้าม
“คุณอาอย่าทำอะไรบ้าๆ นะครับ คุณอาจะตายไม่ได้ จนกว่าจะบอกผม...”
สัญชัยหัวเราะอย่างคนขาดสติ
“แม่นมสุดที่รักของแก ตายไปจากโลกนี้นานแล้ว ฉันฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง ฮ่าๆ”
ภูมินทร์น้ำตาคลอ แล้วสัญชัยก็ยิงตัวเองเปรี้ยง ล้มตายไปข้างศพแสงโชติ ทุกคนสลดกับภาพที่เห็น ภูมินทร์รีบพุ่งเข้าไปหา
“คุณอาจะตายไม่ได้ จะตายไม่ได้ ฟื้นสิฟื้น”
เขาร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ก้องภพ สิรวิทย์ รวมทั้งอรรถพรกับจ่าเหยินได้แต่ถอนหายใจ
ปิ่นเพชรเข็นรถพาภิชาสินีเข้ามาเยี่ยมพิณชนิดาที่ในห้อง ทันทีที่ 2 พี่-น้องพบหน้ากัน ก็โผเข้ากอดกัน ต่างคนต่างน้ำตาซึมด้วยความดีใจ
“ภิ พี่ฝันไม่ดีเลย ฝันเห็นแม่นมนวล แม่นมนวลดูทรมานมาก เหมือนต้องการให้เราไปช่วย พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะบอกภู”
ภิชาสินีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ไม่นานภูมินทร์ ก็เดินหน้าเศร้ากลับเข้ามา พิณชนิดา ภิชาสินี กับปิ่นเพชรหันไปมอง
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณภู?”
“อาสัญชัยกับแสงโชติ ตายแล้ว”
“ฉันเสียใจด้วย”
ภูมินทร์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“การตายของอาสัญชัยกับแสงโชติยังไม่ทำให้ผมเสียใจเท่ากับการที่อาสัญชัยบอกว่าเค้า"
"เค้าฆ่านมนวล แต่ผมไม่เชื่อ นมนวลต้องยังไม่ตาย เค้าต้องซ่อนนมนวลไว้ที่ไหนซักที่"
ภิชาสินีจับมือพี่สาวแล้วพูดเสียงแผ่วเบา “ถึงเวลาที่พี่พิณควรจะบอกคุณภูได้แล้ว”
พิณชนิดาหน้าเครียด ลำบากใจ
“ภู เรื่องแม่นมนวล ตอนที่ฉันเปิดไพ่ ฉันเห็น...เห็นแม่นมนวล...ตายแล้ว”
ภูมินทร์ยืนนิ่ง จนพิณชนิดา ภิชาสินี ปิ่นเพชรแปลกใจ
“ทำไมเธอไม่บอกฉัน?”
“ฉันเป็นห่วงความรู้สึกของนาย ก็เลยไม่ได้บอก”
ภูมินทร์สวนกลับทันทีด้วยความโมโห
“เนี่ยนะเป็นห่วง? ถ้าเธอบอกฉันตั้งแต่ตอนโน้น ป่านนี้ฉันก็อาจจะตามหานมเจอแล้วก็ได้”
พิณชนิดาหน้าเจื่อน
“ฉันกลัวว่าถ้าฉันบอกคุณในช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่คุณกำลังเจอเรื่องแย่ๆ มันจะทำให้คุณคิดสั้น”
ภูมินทร์มองพิณชนิดาด้วยแววตาผิดหวัง และเสียใจ
“นั่นแสดงว่าเธอไม่ได้รู้จักฉันเลยพิณชนิดา เธอไม่ได้รู้จักฉันซักนิดเดียว ฉันผิดหวังในตัวเธอจริงๆ”
พูดจบก็เดินลิ่วออกไป พิณชนิดาตกใจ จะลุกตามแต่เจ็บหน้าอก ได้แต่นั่งน้ำตารื้น ภิชาสินีกับ
ปิ่นเพชรมองด้วยความเห็นใจ
ภูมินทร์เดินมาหาอรรถพรที่อยู่กับก้องภพและสิรวิทย์ ขณะที่อีกด้านเห็นตำรวจกำลังเคลียร์สถานที่อยู่
“หมวดอรรถ นมนวลตายแล้วจริงๆ ช่วยผมตามหาศพให้เจอด้วย”
อรรถพร ก้องภพ สิรวิทย์ เดินตามภูมินทร์ที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์มาตามทาง
“ผมไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงคนนั้นช่วย”
ภูมินทร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง อรรถพรรีบวิ่งมาขวางหน้า
“ตอนนี้เบาะแสอะไรเราก็ไม่มี ทางเดียวที่จะเจอคุณนมเร็วที่สุดก็คือต้องให้ภิช่วย เพราะบางทีภิอาจจะเห็นวิญญาณของคุณนมนะครับ”
“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ ถ้าหมวดไม่ช่วย ผมจะหาทางเอง ไอ้ก้อง ไอ้วิทย์ ตามฉันมา”
ภูมินทร์เดินออกไป ก้องภพกับสิรวิทย์ได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ตามออกไป อรรถพรสีหน้าครุ่นคิด หนักใจ
ทางด้านภิชาสินีก็ยืนยันกับอรรถพรเหมือนกันว่าเธอจะไม่ช่วยภูมินทร์
“นี่ไม่ใช่การทำเพื่อคุณภู แต่เป็นการทำเพื่อคุณนม ป่านนี้วิญญาณของคุณนมคงไม่สงบสุข และคงกำลังทรมาน คุณน่าจะรู้ในข้อนี้ดีไม่ใช่เหรอ?”
ภิชาสินีนิ่งไป คิดตามแล้วก็เห็นด้วย
“ฉันไม่มั่นใจว่าฉันจะเห็นวิญญาณคุณนมรึเปล่า? เพราะโดยปกติวิญญาณจะมาหาฉัน”
อรรถพรยิ้มดีใจ “ขอบใจมากนะภิที่คุณเปลี่ยนใจยอมช่วย”
ส่วนพิณชนิดาก็ยังร้องไห้ไม่หยุด คำพูดของภูมินทร์ยังก้องอยู่ในหู เช่นเดียวกับภูมินทร์ ที่นั่งหน้าเศร้า เพราะคิดถึงพิณชนิดา
วิญญาณของแม่นมนวลปรากฏขึ้นมาข้างๆ พิณชนิดา ที่นั่งหน้าเศร้าอยู่บนเตียง
“คุณพิณ ช่วยนมด้วยค่ะ คุณพิณ”
พิณชนิดาไม่เห็น ไม่ได้ยิน แม่นมนวลไม่รู้จะทำยังไง พลางหันไปเห็นกล่องทิชชู่วางอยู่ จึงพยายามจะปัดกล่อง แต่กลับปัดไม่ได้ กระทั่งเมื่อพยายามลองอีก 2-3 ครั้ง ในที่สุดศรัทธาที่แรงกล้าก็ทำให้สามารถปัดโดนกล่องทิชชู่หล่นพื้น
พิณชนิดาหันขวับไปมอง อึ้ง ตะลึง ก่อนจะหันไปมองรอบห้อง
“คุณนมรึเปล่าคะ คุณนมใช่มั้ย?”
“ใช่ค่ะคุณพิณ นมเองค่ะ นมเอง”
ทางด้านภิชาสินีก็กำลังนั่งสมาธิบนเตียง เพื่อจะหาทางติดต่อกับวิญญาณของแม่นมนวล
ทันใดนั้นพิณชนิดาลากเสาน้ำเกลือเปิดประตูเข้ามา
“นมนวลมาหาพี่”
ภิชาสินีรีบหันไปมองรอบๆ ห้อง พลางพยายามทำสมาธิต่อ แล้วก็เห็นวิญญาณที่เลือนรางของ
หญิงสูงวัยยืนอยู่ตรงประตู
“คุณนม”
ทันใดนั้นประตูปิดดังปัง
ภูมินทร์นั่งหน้าตาเคร่งเครียดอยู่ในบ้าน ก้องภพกับสิรวิทย์อยู่ดูแลด้วยความเป็นห่วง พลันเสียงมือถือก็ดังขึ้น ภูมินทร์หยิบมือถือออกมาพอเห็นชื่อก็รีบกดรับสาย
“ว่าไงหมวด เจอร่างนมนวลแล้ว?”
ภูมินทร์ สิรวิทย์ และก้องภพรีบเดินมาตามทางเดินในโกดัง ขณะที่อรรถพรยืนคุยกับเจ้าหน้าที่นิติเวช พอเห็นศพแม่นมนวลในถุงผ้าสีขาวอยู่บนพื้น ภูมินทร์ถึงกับเข่าอ่อน ก้องภพกับสิรวิทย์รีบประคอง
“คุณภูไหวรึเปล่าครับ?”
ภูมินทร์พยักหน้า แล้วก็เดินมาที่ร่างแม่นมนวลช้าๆ อรรถพรหันไปเห็น ก็เดินเข้าไปหา ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ
“วิญญาณคุณนมมาหาคุณพิณ ภิสื่อสารกับคุณนมจนรู้ว่าคุณนมถูกฝังที่ไหน”
“ทำไมนมนวลถึงตาย?”
“จากการสันนิษฐานเบื้องต้น พบว่าศีรษะกระแทกกับของแข็งอย่างแรง”
ภูมินทร์ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทำเอาทุกคนพลอยเศร้าไปด้วย
“ไม่ทรมานก่อนตายใช่มั้ย?”
“คิดว่าไม่ครับ”
ภูมินทร์เดินไปข้างศพช้าๆ แล้วก็คุกเข่าลงบนพื้น ยื่นมือที่สั่นเทาเปิดผ้าปิดหน้าออก ทันทีที่เห็นหน้าซีดๆ ของแม่นมนวล ก็รีบโผเข้ากอด พร้อมกับที่น้ำตาลูกผู้ชายไหลพรากออกมาไม่หยุด
“นมนวล ภูขอโทษ มันเป็นเพราะภู ทำให้นมนวลต้องมาตาย ภูขอโทษ”
วิญญาณหญิงสูงวัยยืนอยู่ข้างศพตัวเอง
“คุณหนูของนม คุณหนู”
ภูมินทร์ชะงัก เหมือนได้ยินเสียงแว่วๆ ก็เลยลุกขึ้นยืน
“นม นั่นนมใช่มั้ย?”
ทุกคนขนลุกซู่ พลางหันไปมองๆ รอบ แล้วทันใดนั้นอรรถพรก็เห็นวิญญาณแม่นมนวลปรากฏขึ้นมา
“คุณนม”
ทุกคนมองตาม ไม่นานวิญญาณก็ปรากฎชัดเจน ภูมินทร์ร้องไห้โฮ
“นมมาลาคุณหนู นมขอโทษนะคะที่นมอยู่รับใช้คุณหนูอีกไม่ได้แล้ว”
“นมไม่ต้องขอโทษ ภูต่างหากที่ต้องขอโทษ”
พรายพยากรณ์ ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
วิญญาณหญิงสูงวัยน้ำตาซึม
“คุณหนูไม่ได้ทำอะไรผิด สัญญากับนมว่าจะไม่โทษตัวเองอีก คุณหนูต้องใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข รับปากกับนมสิคะ ทำเพื่อนมซักครั้งจะได้มั้ย?”
ภูมินทร์พยักหน้าทั้งน้ำตา
“ครับ ภูสัญญา นมมีอะไรอยากขอภูอีกมั้ย? ภูจะทำให้นมทุกอย่าง”
แม่นมนวลยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ยกโทษให้คุณพิณนะคะ สิ่งที่คุณพิณทำลงไปทุกอย่าง เป็นเพราะคุณพิณรักคุณหนูมาก รักมากกว่าชีวิตของคุณพิณเอง กลับไปหาเธอ อย่าทำให้คุณพิณต้องเสียน้ำตาอีก”
“ครับ ภูเข้าใจแล้ว”
“รักษาผู้หญิงคนนี้เอาไว้ให้ดี เธอจะเป็นคนที่จะมาเติมเต็มชีวิตของคุณหนูให้สมบูรณ์ นมต้องไปแล้ว ลาก่อนนะคะคุณหนู”
“ลาก่อนครับ”
พลันมีแสงสีทองเปล่งรัศมีออกมาร่างของแม่นมนวล จากหน้าขาวซีดก็พลันสดใส แล้ววิญญาณก็ลอยหายขึ้นไปบนท้องฟ้า ทุกคนเงยหน้ามองตาม
ภูมินทร์เปิดประตูเข้ามาในห้องพิณชนิดา แต่กลับไม่พบใคร จึงรีบวิ่งไปถามนางพยาบาล
ภูมินทร์เดินออกมาตามทาง เห็นปิ่นเพชรกำลังเข็นรถเข็นในภิชาสินีอยู่ ก็รีบวิ่งเข้ามาหา
“เกิดอะไรขึ้นกับพิณ?”
ภิชาสินีกับปิ่นเพชรหันไปมองอย่างไม่พอใจ
“พี่พิณอาการทรุด มันเป็นเพราะคุณคนเดียว”
ปิ่นเพชรรีบดึงภูมินทร์ให้ออกห่างจากภิชาสินี
“เจ๊พิณเห็นวิญญาณคุณนม ก็เลยรีบมาบอกเจ๊ภิ โดยลืมไปว่าตัวเองยังบาดเจ็บหนักอยู่ หลังจากที่เจ๊ภิรู้ว่าคุณนมอยู่ไหน เจ๊พิณก็สลบ หมอบอกว่าอาการเจ๊พิณไม่ดีเลย”
ภูมินทร์หน้าเสีย ไม่นานหมอเดินออกมา ทันทีที่ทุกคนเห็นก็รีบเดินไปหาหมอทันที
“ผมเสียใจด้วย ผมพยายามช่วยจนสุดความสามารถแล้ว แต่หัวใจของคุณพิณเธอบอบช้ำมาก ถ้าพวกคุณมีอะไรอยากสั่งเสีย ก็รีบทำเข้าเถอะครับ”
ภูมินทร์ ภิชาสินี ปิ่นเพชรแทบช็อก !!!
ภูมินทร์ พร้อมด้วยปิ่นเพชรที่เข็นรถพาภิชาสินีเข้ามาในห้อง เห็นพิณชนิดานอนให้ออกซิเจน มีสายระโยงระยางเต็มตัว
“พี่พิณ ทำไมถึงทิ้งภิไป ทำไม”
ภิชาสินีร้องไห้โฮ ปิ่นเพชรเข้ามากอดภิชาสินี ภูมินทร์จับมือพิณชนิดาขึ้นมา น้ำตาคลอเบ้า
“พิณ ฉันขอโทษที่ฉันต่อว่าเธอ ได้โปรดฟื้นขึ้นมาเถอะ ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว ถ้าไม่มีเธอ ฉันจะอยู่บนโลกใบนี้ได้ยังไง ฉันรักเธอนะพิณ รักมาก รักอย่างที่ไม่เคยรักใครมาก่อน เธอทำให้หัวใจที่ด้านชาของฉัน กลับมีความรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง รอยยิ้มของเธอ เสียงหัวเราะของเธอ ทำให้ฉันมีความสุข และที่สำคัญการมีเธออยู่ข้างๆ มันทำให้ฉันนอนหลับ ตื่นขึ้นมาเถอะนะพิณ ฉันอยากมีชีวิตร่วมกับเธอ อยากสร้างครอบครัวกับเธอ อย่าจากฉันไปแบบนี้ ฉันขอร้อง ตื่นขึ้นมาเถอะ”
ภิชาสินีกับปิ่นเพชรร้องไห้ไม่หยุด ภูมินทร์น้ำตาหยดใส่มือพิณชนิดา ทันใดนั้นหัวใจก็เธอก็หยุดเต้นได้ยินเสียงสัญญาณดังติ๊ด
“ไม่นะพิณ ไม่”
ภูมินทร์ก้มหน้าร้องไห้ ภิชาสินีกับปิ่นเพชรกอดกัน ปล่อยโฮลั่น
2 ปีผ่านไป
เด็กหญิงคนหนึ่งวัยขวบกว่า วิ่งมาตามทาง เปรมสุดากับปณิตาวิ่งไล่ตามมาติดๆ สีหน้าเหน็ดเหนื่อย
“แพตตี้อย่าวิ่งหนีแม่สิลูก”
“ยายตามไม่ทันแล้ว หยุด”
เด็กหญิงหัวเราะชอบใจ พลางหันไปมองแม่กับยาย จนเดินไปชนเข้ากับชายคนหนึ่ง
เปรมสุดากับปณิตาตะลึงมอง
“วิทย์”
เปรมสุดากับสิรวิทย์นั่งคุยกันอยู่ในร้านกาแฟ พลางมองไปที่ปณิตาที่กำลังเล่นกับหลานอยู่ไม่ห่าง
“หลังจากคำพูดของวิทย์ที่โรงพยาบาลวันนั้น ก็ทำให้สุดาคิดได้ และตัดสินใจออกจากบ้านภู แล้วสุดาก็ได้ข่าวแสงโชติ”
“แสงโชติคือพ่อของลูกคุณใช่มั้ย?”
เปรมสุดาพยักหน้าช้าๆ
“เรื่องแสงโชติกับพ่อของเค้า ทำให้สุดาปลงและเรียนรู้ ถ้าเราอยากได้อะไร แล้วไม่ขวนขวายพยายาม ก็ไม่มีทางได้มา หรือถ้าได้มา ของสิ่งนั้นก็จะอยู่กับเราไม่นาน สุดาก็เลยเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังจากคลอดแพตตี้ แม่ก็ให้อภัยสุดา เพราะแกรักหลานหลงหลานมาก สุดาก็เลยย้ายกลับมาอยู่กับแม่”
“ผมดีใจที่คุณมีชีวิตที่ดีขึ้น”
เปรมสุดายิ้มรับ “ภูสบายดีรึเปล่า? ตั้งแต่เกิดเรื่อง สุดาก็ไม่กล้าไปหาภูอีก”
“ภูสบายดี ปลงขึ้นเยอะ สมถะมากขึ้น ตั้งแต่...”
“สุดาเข้าใจภู ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ภูรักมาก”
สิรวิทย์มองเปรมสุดาครุ่นคิด
“สุดาครับ ถ้าผมจะขออนุญาตไปเยี่ยมสุดากับลูกที่บ้านบ้างจะได้มั้ย?”
“ ได้สิ วิทย์จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ บ้านสุดาต้อนรับวิทย์เสมอ”
ส่วนฟ้ารุ่งก็ชีวิตตกต่ำ ถึงขนาดต้องมาทำงานเป็นพนักงานแนะนำเครื่องดื่มชนิดใหม่อยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่จู่ๆ ก็มีลูกค้าผู้ชายท่าทางหื่นเข้ามาพูดจาแทะโลม แถมทำท่าจะลวนลาม แต่โชคดีที่เอกเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน แต่เขาก็กลับโดนผู้ชายคนนั้นทำร้ายจนสะบักสะบอม
ฟ้ารุ่งรีบพาแผลหลบมาทำแผลอีกมุมหนึ่ง
“ ทำไมฟ้าถึงได้ตกอับแบบนี้?”
“ ก็ตั้งแต่งานเลี้ยงครบรอบออฟฟิศคุณภูมินทร์วันนั้น ชีวิตฟ้าก็ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ครอบครัวฟ้าล้มละลาย ฟ้าไปสมัครงานที่ไหน ก็ไม่มีคนรับ จนต้องมาทำงานแบบนี้ พูดไปแล้วก็อาย แล้วเอกล่ะ ทำอะไรอยู่?”
“เราเปิดร้านล้างรถ กิจการไปได้สวย ก็เลยกำลังจะเปิดสาขาสอง ฟ้ามีใครเหรอยัง?”
ฟ้ารุ่งส่ายหน้า “ยัง แล้วเอกล่ะ”
“ไม่มี เอกมุมานะทำงานเก็บเงินอย่างเดียว เอางี้มั้ย มาทำงานที่ร้านเอก เอกกำลังต้องการพนักงานประชาสัมพันธ์ ถ้าฟ้าไม่รังเกียจ”
ฟ้ารุ่งยิ้มดีใจ “ฟ้าไม่รังเกียจ ฟ้าทำได้ งานอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น”
“ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ”
เอกกับฟ้ารุ่งจับมือกัน ทันใดนั้นก็เกิดสปาร์ค สองคนมองหน้ากัน หัวใจเต้นแรงจนเสียงดังออกมา
ก่อนจะจูงมือกันเดินเข้าไปในห้องน้ำผู้หญิง แล้วก็เอาป้ายกำลังทำความสะอาดออกมาตั้งหน้าห้องน้ำ
แพนเค้กกำลังนวดไหล่ให้ขวัญทิพย์อย่างชำนิชำนาญ ระหว่างนั้นภูมินทร์ก็เดินถือถุงเข้ามา
2 ผัว-เมียหันไปเห็นก็ยิ้มร่า
“มาทำความสะอาดห้องให้น้องพิณเหรอคะ?”
“ขนาดน้องพิณไม่อยู่ คุณภูก็ยังมาสม่ำเสมอ น้องพิณนี่โชคดีชะมัด”
ภูมินทร์พยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะขอตัวเลี่ยงไป
พอเข้ามาในห้อง ภูมินทร์ก็รีบยื่นพิซซ่าให้ปิ่นเพชรที่รับไปด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
“ว้าวพิซซ่าหน้าไส้กรอกขอบชีส ของโปรดเค้าเบยขอบคุณนะคร้าบ”
ภูมินทร์จับหัวปิ่นเพชรด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปทางรูปถ่ายพิณชนิดาที่วางอยู่
“ฉันมีของโปรดของเธอมาฝากด้วยนะ ส้มตำปูปลาร้าแซ่บๆ ไก่ย่าง ลาบหมู ยำไข่มดแดง”
ปิ่นเพชรทำหน้าหงอย “เสียดาย เจ๊พิณน่าจะอยู่ด้วย”
ทันใดนั้นประตูเปิด พร้อมกับพิณชนิดาที่ลากกระเป๋าเดินทางเข้ามา
“ฉันสั่งให้ช่วยทำความสะอาด ไม่ได้ให้นายกับปิ่นเพชรมาปาร์ตี้กัน”
ภูมินทร์รีบวิ่งเข้าไปกอดพิณชนิดาแนบแน่น
“คิดถึงที่สุด”
พูดพลางหอมแก้มซ้ายขวา หอมหน้าผาก แล้วก็จะจูบ พิณชนิดารีบเอานิ้วแตะปากไว้
“สต๊อป ฉันเหนื่อยแล้วก็หิวมว๊าก”
ภูมินทร์รีบเอาใจ
“นี่เลยจ๊ะ ฉันเตรียมของชอบของเธอมาให้แล้ว”
พิณชนิดาหยิกแก้มภูมินทร์เบาๆ
“น่ารักมาก”
ปิ่นเพชรหันมามองล้อๆ
“ตั้งแต่เจ๊พิณพ้นขีดอันตรายเมื่อสองปีที่แล้ว นายไข่เจียวนี่อยู่ในโอวาทสุดๆ”
“แน่นอน เค้ารักของเค้า”
ภูมินทร์พูดพลางเอนหัวซบไหล่พิณชนิดาแล้วก็คลอเคลียๆ พลันเสียงกระแอมดังขึ้น ทั้งหมดหันไปมอง ก็เห็นภิชาสินีกับอรรถพรยืนอยู่ด้วยกันตรงหน้าประตู
“จะทำอะไรอายผีอายสางอายเทวดาบ้างนะพี่”
พิณชนิดาหน้าระเรื่อ รีบเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อน
“ไหนบอกจะกลับวันมะรืนไง? ทำไมรีบกลับมา ไปฮันนีมูนทั้งที ก็น่าจะไปนานๆ”
“สารวัตรอรรถพรมีเคสด่วนต้องรีบกลับมา”
อรรถพรยิ้มรับ
“แต่งงานกับตำรวจต้องทำใจครับพ้ม อุ๊ยๆ ได้กลิ่นอันคุ้นเคย”
“ส้มตำ”
ทั้ง 2 คนรีบกระโดดไปที่ถุงส้มตำบนโต๊ะทันที ภูมินทร์กับพิณชนิดาตกใจ
“เฮ่ยๆ นั่นของที่รักของฉันนะเว้ย”
ทั้งหมดแย่งถุงส้มตำกันไปมา ปิ่นเพชรมองแล้วก็ส่ายหัว
“ดีนะที่ไม่มีใครมาแย่งของเรา ฮิๆ”
พูดจบก็งับพิซซ่าเข้าปากคำโต
ภูมินทร์ยืนกอดพิณชนิดาจากทางด้านหลัง ยืนมองพระอาทิตย์ใกล้ตกดินด้วยกัน
“ฉันไม่เคยนึกเลยว่าจะมีวันที่ฉันได้กอดคนที่ฉันรัก แล้วมาดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน”
“แต่ฉันรู้ว่าต้องมีวันนี้”
ภูมินทร์ผละออกมามองหน้า “ แอบเปิดไพ่อีกแล้วใช่มั้ย?”
“ก็มันอดไม่ได้”
“ขอซักทีเถอะพิณ อย่าเปิดไพ่อีกเลย ชีวิตเราขึ้นอยู่ในมือของเรา ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับไพ่ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่านะจ๊ะ”
พิณชนิดามองค้อน “รู้แล้วๆ ขี้บ่นจัง ยังไม่แก่ซักนิด”
“แล้วรับได้รึเปล่าล่ะ เพราะว่าเราต้องแก่ไปด้วยกัน”
พิณชนิดาแกล้งทำปากแบะ “ใครบอกว่าฉันจะอยู่กับนาย”
“ฉันบอกเอง และเธอก็ขัดใจฉันไม่ได้ด้วย เพราะตอนนี้ฉันเป็นของเธอทั้งตัวและหัวใจแล้ว”
พิณชนิดาหัวเราะเขินๆ “บ้าเหรอ ตัวยังไม่ได้เป็นซักหน่อย”
“งั้นเป็นคืนนี้เลยมั้ย?”
พิณชนิดาหน้าแดงซ่าน “ทะลึ่ง”
แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน ภูมินทร์หอมหน้าผากพิณชนิดา แล้วก็จะจูบ แต่อีกฝ่ายกันไว้อีก
“โฮ พิณอ่ะ เราคบกันมาสองปีแล้วนะ เมื่อไหร่เธอจะยอมให้ฉันจุ๊บุๆเธอ”
“ฉันยังไม่ได้พูดซักหน่อยว่าไม่ให้ เพราะว่าฉัน จะ...”
พิณชนิดาก็ยกมือคล้องคอภูมินทร์ แล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปจูบปากเขาเอง ภูมินทร์ยิ้ม ไม่นานเธอก็ผละออกมา
ภูมินทร์ทำหน้าเซ็ง “ขออีกทีนะ”
“ไม่ได้ ของดีมีครั้งเดียว”
“เค้าไม่ยอมอ่ะ ตาเค้าบ้างไม่ได้เหรอ?”
พิณชนิดาอมยิ้มและเดินหนี ภูมินทร์เดินตามพยายามจะจูบอีก
ทั่วบริเวณอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสุข
จบบริบูรณ์