ฝันเฟื่อง ตอนที่ 16 อวสาน
ทุกคนทานอาหารเสร็จแล้ว กำลังพากันเดินออกมาจากร้าน รัฐรวีแอบมองอยู่ในครัวด้วยสีหน้านิ่งเฉย มองตามจนเห็นทุกคนเดินออกไปที่ลานจอดรถ
อาทิตย์ มณฑิรา วิไลลักษณ์ หมอฉบัง และอิงอรเดินมาที่รถ อาทิตย์ยังรู้สึกค้างคาใจ ตะหงิดๆ อย่างบอกไม่ถูก
“เรากลับไปตั้งหลักกันที่กรุงเทพฯ ก่อนแล้วกันนะครับ” หมอฉบังว่า
จู่ๆ อาทิตย์คิดปราดเดียวแล้วตัดสินใจแกล้งปวดท้องร้อง “โอ๊ย”
วิไลลักษณ์ตกใจ “คุณอาทิตย์เป็นอะไร”
“ข้าศึกบุกครับ ตอนนี้ตีเสมอขอบแล้วครับ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะครับ”
อาทิตย์รีบวิ่งกลับเข้าร้านอาหารรีสอร์ตไป
อาทิตย์พาตัวเองเดินมาด้อมๆ มองๆ ที่ด้านหลังครัวร้านอาหาร พบว่ามีรปภ.ยืนคุมเข้มอยู่
อาทิตย์นิ่งคิดแล้วเดินออกไปอีกทาง กลับเข้ามาในร้าน พนักงานเข้ามาต้อนรับ
“เมื่อกี้ผมลืมกุญแจรถไว้ที่โต๊ะ ไม่ทราบว่าตอนเก็บโต๊ะเห็นไหมครับ”
“สักครู่นะครับ”
พนักงานเดินไปถามที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ อาทิตย์ทำเป็นเดินเนียนๆ หากุญแจรถ ไปทางครัว
เชฟคนเดียวกับที่รับสมอ้างออกไปเจอมณฑิรา เดินมาเห็นอาทิตย์
“มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าครับ”
“อ๋อ.. ผมทำกุญแจรถตกหายครับ ไม่รู้ว่าตกอยู่แถวนี้รึเปล่า”
“ไม่น่านะครับ แถวนี้ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะพนักงานเข้ามา” เชฟว่า
“เหรอครับ ขอบคุณมากครับ”
อาทิตย์แกล้งเดินออกไป เชฟเห็นอาทิตย์เดินไปแล้ว จึงเดินไปทางอื่น อาทิตย์หงุดกึกชะโงกหน้ากลับมามอง พอเห็นเชฟลับตัวไปแล้วจึงเดินกลับมาที่ครัว มองซ้ายมองขวา กำลังจะเปิดประตูครัว แต่ประตูครัวถูกเปิดออกมาก่อน อาทิตย์รีบฉากหลบโดยไว
พนักงานเดินออกมาจากในครัว เพื่อนำเอาอาหารออกไปเสิร์ฟ อาทิตย์รอจนพนักงานเดินออกไปแล้วจึงแอบเข้าไปในครัว
อาทิตย์เดินเข้าไปในครัว เห็นเชฟหลายคนกำลังยืนทำงานกันอยู่ เขากวาดสายตาไล่ไปทีละคน จนกระทั่งไปสะดุดตากับเชฟตัวสูงคนหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่หน้าเตา อาทิตย์รีบเดินเข้าไปหา แต่เชฟคนที่เจออาทิตย์ข้างนอกเมื่อครู่เดินเข้ามาเห็นอาทิตย์
“คุณเข้ามาทำอะไรในนี้ครับ”
อาทิตย์ชะงัก หันมาหาเชฟ ติดอ่างไปชั่วขณะ “เอ่อ คือ ผม...”
เสียงรัฐรวีดังขึ้น “ไอ้ทิตย์”
อาทิตย์หันไปหาเชฟคนที่ยืนหน้าเตา และกำลังเดินตรงเข้าไปหา จึงเห็นว่าเป็นรัฐรวี “คุณวี!”
รัฐรวีอึ้งที่ถูกอาทิตย์จับได้ รัฐรวีมองระแวงว่ามณฑิราอยู่แถวนี้ด้วยรึเปล่า
อาทิตย์รีบเข้าไปหา “ทำไมคุณวีหนีมาแบบนี้ครับ รู้ไหมครับว่าทุกคนเป็นห่วงแค่ไหน ผมรู้นะครับว่าคุณวีโกรธ แต่คุณวีฟังที่พวกเราอธิบายก่อนนะครับ คุณวีรอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมไปตามทุกคนมาก่อน”
รัฐรวีเสียงเข้ม “ไม่ต้อง” อาทิตย์ชะงัก “แกไม่ต้องไปตามใครทั้งนั้น”
อาทิตย์หันกลับมา “ทำไมล่ะครับ”
“แกกลับไปได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก” หนุ่มไฮโซหน้าตึง
อาทิตย์ครวญ “แต่คุณวีครับ…”
รัฐรวีตัดบท “ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้าแกยังเคารพฉันอยู่ อย่าบอกคุณมณเด็ดขาดว่าฉันอยู่ที่นี่” แล้วจึงหันไปบอกกับเชฟอีกคน “ช่วยพาเค้าออกไปด้วยครับ”
เชฟคนนั้นเข้ามาพาอาทิตย์ออกจากครัว
อาทิตย์พยายามเว้าวอน “คุณวีครับ คุณวี”
รัฐรวีหันหลัง พยายามไม่สนใจอาทิตย์
ด้านมณฑิรา วิไลลักษณ์ยืนรออยู่ที่รถ จนเห็นอาทิตย์เดินคอตกกลุ้มใจกลับมา วิไลลักษณ์สังเกตเห็นสีหน้าท่าทีสามีดูเครียดๆ
“คุณอาทิตย์เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
อาทิตย์เฉไฉไป “ท้องเสียน่ะครับ รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ด้วย”
“เดี๋ยวฉันดูให้”
หมอฉบังขยับเข้าไปแตะหน้าผากตรวจอาการให้
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า”
อาทิตย์ขยิบตาให้ หมอฉบังงง อาทิตย์ขยิบตาอีกที หมอฉบังยังงงอยู่อย่างนั้น
“ตาแกเป็นอะไร”
อาทิตย์เซ็ง “ผมว่าผมขับรถไม่ไหวแน่เลยครับ นี่ก็จะค่ำแล้วด้วย เรานอนที่นี่กันซักคืนนะครับ”
อาทิตย์ขยิบตาให้อีก อิงอรเห็นแล้วพอเข้าใจว่าต้องมีอะไรบางอย่าง จึงรีบช่วย
“ท่าทางอาทิตย์เค้าจะไม่ไหวนะคะ อิงว่าพวกเราไปเช็คอิน แล้วให้อาทิตย์นอนพักก่อนดีกว่า” อิงอรบอกกับหมอฉบังตามองอาทิตย์ “เดี๋ยวคุณหมอเอายาไปให้อาทิตย์ที่ห้องนะคะ”
หมอฉบังรับ “ครับ”
มณฑิราเห็นดีด้วย “ก็ดีเหมือนกันค่ะ มณว่าพรุ่งนี้จะลองแวะดูให้ทั่ว เผื่อมีบางรีสอร์ทที่เราข้ามไป”
อาทิตย์ดีใจ อิงอร กับหมอฉบังมองสงสัยว่าอาทิตย์มีเรื่องอะไรกันแน่
อีกฟากเวกนั่งอ่านหนังสือสอบอยู่ที่ม้านั่งในสวนสวยมุมร่มรื่นบ้านมณฑิรา มีเสียงคนเคี้ยวขนมดัง จ๊อบๆแจ๊บๆ อยู่ข้างๆ เวกขาดสมาธิ หงุดหงิดอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง หันไปมองข้างๆ เห็นกุ๊กกิ๊กกำลังกินขนมปังทาแยมอยู่
“เว้ย! แกไปกินตรงอื่นได้ไหม เคี้ยวเสียงดังจ๊อบๆแจ๊บๆ ฉันอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง”
“เอ้า คนเค้าหวังดี เห็นนั่งอ่านหนังสือคนเดียวเงียบๆ กลัวจะเหงา เลยมานั่งเป็นเพื่อน”
“ที่ฉันหนีมานั่งคนเดียวเพราะอยากให้มันเงียบ จะได้มีสมาธิ”
กุ๊กกิ๊กงอน “ไปก็ได้”
เวกมองเว้าวอน
“ไม่ต้องไปหรอก เห็นแล้วก็อยากกินด้วย ขอกินบ้างสิ”
กุ๊กกิ๊กยิ้ม “เรื่องอะไร อยากกินก็ทำเองสิ”
กุ๊กกิ๊กกินยั่ว เวกยื่นหน้าไปงับขนมปังแผ่นเดียวกับที่กุ๊กกิ๊กถือกินอยู่
ใบหน้าสองคนใกล้กันมาก กุ๊กกิ๊กเขินบิดตัวงอเป็นงู
ฝ่ายมณฑิรายืนเช็คอินอยู่ที่เคาน์เตอร์กับวิไลลักษณ์ ส่วนที่มุมนั่งรอไกลออกมา อาทิตย์ หมอฉบัง และอิงอรนั่งกระซิบกระซาบคุยกันอยู่
หมอฉบังฟังแล้วตกใจ “อะไรนะ ไอ้วีอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ”
“แล้วทำไมอาทิตย์ไม่บอกคุณมณ” อิงอรฉงน
“ก็คุณวีสั่งไว้ไม่ให้ผมบอกคุณมณ ผมเลยไม่กล้าขัดคุณวีนี่ครับ นี่ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยแกล้งป่วยนอนที่นี่ถ่วงเวลาไว้ก่อน”
“เอาไงดีเนี่ย บอกคุณมณ ไอ้วีก็โกรธ แต่ถ้าไม่บอกก็สงสารคุณมณอีก”
อาทิตย์ หมอฉบัง อิงอรพากันคิดหนัก
ด้านมณฑิราเช็คอินเสร็จยื่นกุญแจห้องให้วิไลลักษณ์
“คุณมณเอากุญแจห้องให้วิไลทำไมคะ วิไลจะนอนเป็นเพื่อนคุณมณ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ วิไลกับอาทิตย์เป็นสามีภรรยากัน ก็ต้องนอนด้วยกันสิ”
“ไม่ค่ะ วิไลยังโกรธเค้าอยู่”
“แต่อาทิตย์เค้าไม่สบายนะ วิไลไม่ไปดูแลเค้าเหรอจ๊ะ”
วิไลลักษณ์อึ้งไป เพราะความจริงก็เป็นห่วงอาทิตย์มาก มณฑิราหันไปคุยกับพนักงานในเคาน์เตอร์
วิไลลักษณ์หันไปมองอาทิตย์ที่คุยหน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับหมอฉบังและอิงอร ก็แปลกใจว่าสามคนคุยอะไรกัน
ค่ำมากแล้วอาทิตย์เดินคิดกระวนกระวายใจตามวิไลลักษณ์เข้ามาที่ห้อง วิไลลักษณ์สังเกตอาการอยู่ตลอด
“มีอะไรรึเปล่าคะคุณอาทิตย์”
“ครับ อ๋อ ไม่มีอะไรครับ”
“แล้วคุณหมอดูอาการ ว่ายังไงบ้างคะ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ แค่ท้องเสียธรรมดา คุณวิไลลักษณ์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” วิไลลักษณ์เริ่มมั่นใจว่าสามีจองกะล่อนต้องมีอะไรในใจแน่ๆ “ถ้าคุณวิไลลักษณ์ง่วงก็นอนก่อนเลยนะครับ”
“ไหนคุณอาทิตย์บอกว่ามีอะไรเราจะพูดกันตรงๆไงคะ” คำนี้ทำเอาอาทิตย์ชะงัก “วิไลดูออกนะคะว่าคุณมีอะไรปิดบังวิไลอยู่”
อาทิตย์อึ้ง หน้าเสียที่โดนจับได้ “ถ้าผมบอก คุณวิไลลักษณ์สัญญานะครับว่าจะไม่ไปบอกคุณมณฑิรา”
ไม่นานต่อมา อาทิตย์ วิไลลักษณ์ หมอฉบัง และ อิงอร แอบย่องมาแถวด้านหลังครัวที่อาทิตย์พยายามจะแอบเข้าไปเมื่อกลางวัน
วิไลลักษณ์นั้นตื่นเต้นมาก “แล้วทำไมคุณอาทิตย์ไม่รีบบอกล่ะคะว่าคุณรัฐรวีอยู่ที่นี่ แล้วไหน
ล่ะคะคุณรัฐรวี”
“ใจเย็นครับ ร้านอาหารกำลังจะปิด เดี๋ยวคุณวีก็น่าจะออกมา”
สี่คนพากันหามุมแอบนั่งรอ
รอสักครู่หนึ่งพบว่าประตูด้านหลังครัวเปิดออก พนักงาน เชฟคนอื่นๆ ทยอยเดินออกมา โบกมือลาแล้วแยกย้ายกันไปคนละทาง บ้างก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านไป บ้างก็เดินแยกไปทางบ้านพักพนักงาน ทั้งสี่คนพยายามมองหารัฐรวี
“ออกมากันหมดแล้ว ไม่เห็นมีไอ้วีเลย”
“แต่ในครัวยังเปิดไฟอยู่นะครับ”
อิงอรเห็นตรงหน้าต่างว่ามีเงาคนเดินอยู่ในครัว “ยังมีคนอยู่ด้วยค่ะ”
ทั้งหมดพยักหน้าให้กันแล้วค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ๆ หน้าต่างครัว
กลุ่มอาทิตย์เห็นว่าในครัว รัฐรวีกำลังยืนทำอาหารสูตรใหม่อยู่
วิไลลักษณ์ตาโตดีใจ “นั่น” อาทิตย์รีบปิดปากวิไลลักษณ์ไว้ได้ทัน ยกนิ้วชู่ว์ ให้เงียบ
ทั้งหมดแอบดูว่ารัฐรวีกำลังทำอะไร
ทุกคนเห็นว่ารัฐรวีกำลังตั้งใจทำอาหารสูตรใหม่
หมอฉบังพูดเบาๆ “ไอ้วีอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”
“งั้นอาหารที่คุณมณสงสัยก็เป็นฝีมือคุณวีจริงๆ น่ะสิคะ” อิงอรว่า
วิไลลักษณ์ขยับจะไป “วิไลลักษณ์จะไปบอกคุณมณ”
อาทิตย์ดึงไว้ “อย่าครับ คุณสัญญากับผมแล้วนะ” วิไลลักษณ์ขัดใจ “ผมว่าเรามาช่วยกันคิดดีกว่าครับ ว่าจะมีวิธีไหนที่จะทำให้คุณมณกับคุณวีเค้าเจอกัน”
ทั้งหมดพากันคิดหนัก
รุ่งเช้า กลางบรรยากาศธรรมชาติอันสดใส รัฐรวีในชุดเสื้อกล้าม กางเกงวอร์มวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ตามถนนเล็กๆ ในรีสอร์ต โดยอีกมุมหนึ่งอาทิตย์กับหมอฉบังแอบซุ่มดูอยู่
อาทิตย์คุยมือถือกับวิไลลักษณ์เบาๆ “คุณวีออกกำลังกายอยู่ที่สวนหลังรีสอร์ตครับ”
อีกฟาก วิไลลักษณ์แอบคุยมือถืออยู่ที่มุมหนึ่งของร้านกาแฟรีสอร์ต
“โอเคค่ะ”
วิไลลักษณ์วางสาย แล้วเดินกลับมาหามณฑิราที่นั่งกินข้าวอยู่กับอิงอร พลางขยิบตาส่งซิกให้อิงอร
“คุณมณคะ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ เราไปเดินเล่นกันไหมคะ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ มณอยากไปตามหาคุณวีมากกว่า”
“ไปเถอะค่ะคุณมณ เมื่อกี้วิไลเดินผ่านสวนด้านหลังรีสอร์ตส้วย สวยค่ะ” วิไลลักษณ์เสริม
“ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนอิงก่อนนะคะ เสร็จแล้วเดี๋ยวเราค่อยไปตามหาพี่วีต่อ”
มณฑิราแปลกใจนิดๆ ที่ทั้งวิไลลักษณ์ และอิงอรดูคะยั้นคะยอให้ตัวเองไปเดินเล่นจัง
ด้านรัฐรวียังวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ อาทิตย์กับหมอฉบังยังแอบตามดูอยู่ห่างๆ
“ทำไมคุณวิไลลักษณ์ยังไม่พาคุณมณมาอีกครับคุณหมอ”
อาทิตย์กับหมอฉบังหันไปมองทางเชื่อมระหว่างสวนสวยกับรีสอร์ต
จังหวะนี้รัฐรวีทำกุญแจห้องตกจากกระเป๋า แต่อาทิตย์กับหมอฉบังหันหน้าไปทางอื่นเลยไม่เห็น
ทางเดินจากรีสอร์ตตรงมาที่สวน มณฑิรา อิงอร และวิไลลักษณ์ที่เดินมาตามทางนั้นด้วยกัน
“ตกลงมีอะไรกันรึเปล่าคะ ทั้งคุณอิง ทั้งวิไลดูอยากให้มณมาเดินเล่นที่นี่”
“อิงแค่อยากให้คุณมณมาสูดอากาศคลายเครียดน่ะค่ะ”
“เดี๋ยวเราไปเดินทางด้านสวนดอกไม้ดีกว่าค่ะ วิไลเดินมาแล้ว สวยมาก อยู่ ใกล้ๆ นี่เองค่ะ”
วิไลลักษณ์กับอิงอรพามณฑิราเดินไป
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
พอจะถึงสวนดอกไม้ วิไลลักษณ์กับอิงอรหันมาส่งซิกให้กัน อิงอรแกล้งทำเป็นนึกได้
“เดี๋ยวคุณมณกับวิไลเดินกันไปก่อนเลยนะคะ อิงลืมมือถือไว้ที่ห้อง เดี๋ยวขอกลับไปเอาก่อน”
อิงอรเดินออกไปเลย
“คุณมณเดินเล่นรอแป๊บนึงนะคะ วิไลขอไปปลุกคุณอาทิตย์มาเดินด้วยกันก่อน”
“อ้าว...”
มณฑิรางงๆ ที่สองคนทิ้งตัวเองไว้ ทั้งที่เป็นคนชวน
“เดี๋ยววิไลตามมาค่ะ”
วิไลลักษณ์เดินออกไป มณฑิราเอะใจ จึงเดินไปที่สวนดอกไม้
วิไลลักษณ์กับอิงอร รีบเดินมาสมทบกับอาทิตย์ และหมอฉบังที่แอบอยู่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ข้างๆสวนดอกไม้
“แน่ใจนะครับว่าทำแบบนี้แล้วคุณวีจะไม่โกรธ” อาทิตย์กังวลไม่หาย
“จะโกรธได้ยังไงคะ ก็เราไม่ได้บอกคุณมณซะหน่อยว่าคุณวีอยู่ที่นี่ เค้าเจอกันโดยบังเอิญต่างหาก” วิไลลักษณ์ว่า
“แต่งงานกันไม่นาน หัวหมอตามไอ้ทิตย์ซะแล้ววิไล” หมอฉบังสัพยอก
วิไลลักษณ์ยิ้มๆ แล้วจู่ๆ ก็เกิดคลื่นไส้ ผะอืดผะอมเหมือนจะอ้วก
อาทิตย์ตกใจ “เป็นอะไรครับคุณวิไล”
“คลื่นไส้น่ะค่ะ สงสัยเพราะเมื่อเช้าไม่ได้กินอะไร”
“คุณวิไลไปพักก่อนไหมครับ เดี๋ยวทางนี้ผมอยู่ดูเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ วิไลอยากช่วยคุณมณ”
ขณะเดียวกันนี้ รัฐรวีจ็อกกิ้งเสร็จเดินออกมาจากสวนดอกไม้ อันเป็นจังหวะเดียวกับที่มณฑิราเดินมาที่สวนพอดี แต่ทั้งสองคนมาจากคนละด้านเลยคลาดกันเฉียดฉิว
พวกอาทิตย์ที่แอบลุ้นดูอยู่เซ็งกันทั้งแถบ
“เอ๊า! สวนกันซะงั้น แล้วเมื่อไหร่จะเจอกันเนี่ย”
หมอฉบังบ่นเซ็งๆ
มณฑิราเดินเล่นในสวนดอกไม้ คิดถึงรัฐรวี ว่าถ้ารัฐรวีอยู่ด้วย คงชอบที่นี่เหมือนกัน มณฑิราเดินๆอยู่แล้วเหลือบไปเห็นกุญแจห้องของใครสักคนตกอยู่ที่พื้น จึงก้มเก็บขึ้นมา เหลียวมองหาเจ้าของ
รัฐรวีเดินเข้ามาบริเวณบ้านพัก จะหยิบกุญแจแต่หาจนทั่วก็ไม่เจอ เมื่อรู้ตัวว่าทำกุญแจหาย เลยอ้อมไปทางหลังบ้านเพื่อหาดูว่าจะเข้าทางข้างหลังได้ไหม
มณฑิราเดินเล่นมาตามทาง กำลังจะเดินมาถึงบ้านรัฐรวี จนมีคนสวนคนหนึ่งเดินผ่านมาเจอมณฑิราเข้า
“ขอโทษนะครับ ตรงนี้เฉพาะพนักงานรีสอร์ทเข้าได้ครับ”
“เมื่อกี๊เจอกุญแจหล่นอยู่ในสวนน่ะค่ะ เลยมาถามดูว่าของที่นี่รึเปล่า”
มณฑิราเอากุญแจให้ดู
“อ๋อ ของบ้านหลังนี้ครับ ขอบคุณนะครับ”
มณฑิราส่งกุญแจให้คนสวน แล้วหันหลังเดินออกไป ทันใดนั้นเองรัฐรวีเดินมาจากหลังบ้านพัก ถามกับคนสวน
“พี่ชิด มีกุญแจสำรองไหมพี่”
มณฑิราที่เดินพ้นมาไม่ไกลนัก ได้ยินเสียงรัฐรวี เลยหันไปมอง แล้วร้องขึ้นอย่างดีใจที่เห็นเป็นรัฐรวี
“คุณวี”
รัฐรวีเห็นมณฑิราก็อึ้งไปในทันที กลุ่มอาทิตย์ ที่แอบตามมาดูดีใจที่สองคนเจอกันแล้ว
สองคนอยู่ในสวนดอกไม้แสนสวยของรีสอร์ต รัฐรวีเดินหนี มณฑิราวิ่งไปดักหน้าไว้
“ฟังฉันอธิบายก่อนสิคะคุณวี”
รัฐรวีไม่สนใจเดินหนีต่อ มณฑิราวิ่งไปดักหน้ารัฐรวีอีก
“ฉันขอโทษที่ฉันหลอกคุณมาตลอด แต่ฉันอยากบอกคุณว่าฉันไม่ได้สนุกอย่างที่คุณคิดนะคะ”
รัฐรวีไม่สนใจเดินหนีต่อ มณฑิราวิ่งไปดักหน้ารัฐรวีอีก
“แล้วฉันก็ไม่ได้เรื่องความรักมาล้อเล่นด้วย ที่ฉันทำไปเพราะแค่อยากลองใจคุณ”
รัฐรวีไม่สนใจเดินหนีต่อ มณฑิราวิ่งไปดักหน้ารัฐรวีอีก
“คุณฟังฉันหน่อยสิคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ ยกโทษให้ฉันนะคุณวี คุณจะเดินหนีฉันก็เดินไป แต่ฉันไม่มีวันปล่อยคุณหายไปอีกแล้ว คุณวีคะ ยกโทษให้ฉันเถอะนะ จะให้ฉันทำอะไร ฉันก็ยอม”
“งั้นก็เลิกยุ่งกับผม ผมอยากอยู่คนเดียว”
คำพูดเฉยชาหมางเมินประโยคนั้นทำเอามณฑิราอึ้งนิ่งงันไป รัฐรวีเดินหนีไป ทุกคนที่แอบดูอยู่เซ็งๆที่รัฐรวีไม่ยอมคืนดีกับมณฑิรา เลยพากันยกขบวนมาหามณฑิรา
“ใจเย็นๆ นะครับคุณมณ ตอนนี้ไอ้วีมันยังโกรธอยู่ ให้เวลามันอีกซักพักนะครับ” หมอฉบังปลอบ
วิไลลักษณ์โกรธแทน เลยเม้งใส่และต่อว่าอาทิตย์ “ทำไมเจ้านายคุณใจร้ายอย่างนี้เนี่ย”
“อ้าว! ผมผิดเหรอเนี่ย” อาทิตย์เซ็ง
“นี่ทุกคนรู้มาก่อนใช่ไหมว่าคุณวีอยู่ที่นี่”
ทุกคนพยักหน้า
“ผมก็เพิ่งรู้เมื่อวานครับ แต่คุณวีสั่งไม่ให้ผมบอกคุณมณ พวกเราก็เลยทำแผนให้คุณมณกับคุณวีเจอกันเองโดยบังเอิญ”
อิงอรยิ้มปลอบ “อย่าเพิ่งท้อนะคะคุณมณ”
อาทิตย์ในเมื่อแผนหนึ่งไม่สำเร็จ มันก็ต้องมีแผนสอง! ยังไงคุณวีก็ต้องใจอ่อนครับ ผมรู้ใจเจ้านายผมดี
ทุกคนมองว่าแผนสองของอาทิตย์คืออะไร
ขณะที่รัฐรวีเดินถือตะกร้าเปล่าสองใบซ้อนกันออกมาจากครัว ก็เห็นมณฑิราที่แต่งตัวทะมัดทะแมงยืนรออยู่
“คุณมาทำอะไร”
“ฉันจะไม่ยอมปล่อยคุณไปอีก คุณไปไหน ฉันก็จะไปด้วย ถ้าคุณจะอยู่เป็นเชฟที่นี่ ฉันก็จะเป็นผู้ช่วยคุณ คุณทำอะไร ฉันก็จะทำอย่างนั้น จนกว่าคุณจะยกโทษให้ฉัน”
รัฐรวีไม่สนใจ เดินหนีไปเลย มณฑิราเดินตาม
รัฐรวีเดินมา เหมือนไม่สนใจ มณฑิราเดินตามมาติดๆ จู่ๆ รัฐรวีหยุด มณฑิราไม่ทันระวังเดินชนหลังรัฐรวี รัฐรวีหันหน้ามามองมณฑิรา มณพิรานิ่งไม่ยอมขยับ รัฐรวียื่นหน้าเข้าไปใกล้มณฑิรา
“ยังไงคุณก็จะตามผมให้ได้ใช่ไหม” มณฑิรามองจ้องแววตาแน่วนิ่งจริงจัง “ได้”
รัฐรวีนิ่งคิด
รัฐรวีเดินมาหยุดที่แปลงผัก มณฑิราตามมา รัฐรวีหยิบตะกร้าหนึ่งใบส่งให้มณฑิรา
“ผมต้องการผักสดไปใช้ในครัว ช่วยผมเก็บที”
มณฑิรารับตะกร้ามา ยืนเก้ๆ กังๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไง รัฐรวีลงมือเลือก เก็บผัก ใส่ตะกร้าอย่างคล่องแคล่ว มณฑิราดูรัฐรวีทำแล้วลงมือทำตาม ยกมือปาดเหงื่อเพราะแดดเริ่มร้อน รัฐรวีเหลือบมอง
รัฐรวีถือตะกร้ามาหามณฑิรา “ผมฝากอีกตะกร้าแล้วกัน”
ขณะจะเดินไป มณฑิรารีบลุกตาม “เดี๋ยว แล้วคุณจะไปไหน”
“กลัวผมจะหนีเหรอ ไม่ต้องห่วง คราวนี้คนที่จะต้องไป ไม่ใช่ผมแน่!”
รัฐรวีวางตะกร้าลงข้างๆ มณฑิรา แล้วเดินออกไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ร่มไม้อย่างสบายใจ
อาทิตย์ และวิไลลักษณ์ที่แอบดูอยู่อึ้งไปเหมือนกัน
ที่กรุงเทพฯ คุณต๋อยนั่งกลุ้มใจอยู่คนเดียวในศาลากลางสวน นายวง กะแม่เมียดเดินผ่านมาเห็นจึงแวะเข้ามาหา
“คุณต๋อย ทำไมมานั่งอยู่คนเดียว กุ๊กกิ๊กไปไหน”
“กุ๊กกิ๊กมันไปนั่งคุยอยู่กับไอ้เวก”
“เอาแล้วไง! งานนี้สงสัยจะได้ลูกสะใภ้แน่แม่”
แม่เมียดตีแขนผัว แล้วลงนั่งข้างคุณต๋อย
“เป็นห่วงคุณมณเหรอคุณต๋อย”
คุณต๋อยพยักหน้า “ฉันก็ห่วงทั้งคุณมณ ห่วงทั้งวิไลน่ะแหละ วิไลมันไม่ค่อยสบายอยู่ไม่ใช่เหรอ”
นายวงตาเหลือกไม่อยากเชื่อหู “ห๊ะ นี่คุณต๋อยเป็นห่วงวิไลมันด้วยเหรอ”
คุณต๋อยเม้ง “เออสิ ถึงฉันจะดุจะเจ้าระเบียบ แต่วิไลมันก็เด็กในบ้าน ทำไมฉันจะเป็นห่วงไม่ได้”
“น่ารัก” นายวงหันมาหยอกแม่เมียด “แม่ จะว่าอะไรไหม ถ้าพ่อจะขอคุณต๋อยเป็นเมียน้อยพ่ออีกคน”
คุณต๋อยโมโหตีนายวงผัวะ นายวงไม่ถือ “เอาน่า ฉันจัดสรรเวลาได้”
แม่เมียดเซ็งที่ผัวเอาแต่พูดเล่น
แม่เมียดบอกกับคุณต๋อยว่า “อย่านั่งคนเดียวเลยคุณต๋อย พวกฉันกำลังจะทำขนมกินกัน คุณต๋อยไปนั่งกินด้วยกันสิ”
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก แกสองคนไปกินกันเหอะ”
“ไม่ห่วงได้ยังไงล่ะคุณต๋อย คุณต๋อยก็คนเก่าคนแก่ในบ้าน เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน”
“เล่นตัวเป็นสาวๆ เลย อย่างนี้ต้องฉุด” นายวงดึงแขนคุณต๋อย “ไปคุณต๋อย”
“เฮ้ย จะทำอะไร ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้”
นายวงดึงแขนคุณต๋อยให้เดินไปด้วยกัน แม่เมียดมองยิ้มขำๆ
อีกฟากหนึ่ง หมอฉบัง กับอิงอร เดินเข้าไปรับภัสสรกับคุณหญิงหิรัญญิการ์ ที่เพิ่งเดินทางมาถึงล็อบบี้รีสอร์ต
ภัสสรนั้นดีใจมากรีบถามรัวเร็วเป็นชุด “หมอ ตาวีอยู่ไหน แล้วตาวีเป็นยังไงบ้างคะ พาอาไปหาตาวีเดี๋ยวนี้เลย”
“ใจเย็นๆ ครับคุณอา ตอนนี้คุณมณอยู่กับไอ้วีครับ”
คุณหญิงโล่งใจ “ดีจริงที่ปรับความเข้าใจกันได้ ป้ากำลังกลัวอยู่ว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง”
หมอฉบังกับอิงอรยิ้มแหยๆ ภัสสรกับคุณหญิงแปลกใจฉงนฉงาย
“ยิ้มแบบนี้ หมายความว่า...”
คุณหญิงถามงงๆ
ขณะที่มณฑิรายังคงเก็บผักจากแปลงอยู่กลางแดดร้อนเปรี้ยง ยกมือปาดเหงื่อเป็นระยะ รัฐรวีนั่งหลับตา ฟังเพลงจากหูฟังที่เสียบมือถืออย่างสบายใจเฉิบ
หมอฉบัง อิงอร ภัสสร คุณหญิงรีบเดินเข้ามาสมทบกับอาทิตย์ วิไลลักษณ์ ภัสสรมองไปในสวนแล้วต้องตก
“ตายแล้วหนูมณ” รีบเดินเข้าไปหามณฑิรากับรัฐรวี “นี่มันอะไรกันตาวี”
รัฐรวีตกใจนิดๆ ลุกขึ้นยกมือไหว้ภัสสร กับคุณหญิง ท่าทีปั้นปึ่งอยู่ “ผมไม่ได้ขอร้องเค้านะครับ เค้าอาสาอยากทำ ผมก็ให้เค้าทำ”
“งั้นก็พอแล้วหนูมณ ไม่ต้องทำ เดี๋ยวให้อาทิตย์กับวิไลเค้าเก็บแทน” ภัสสรบอก
“ไม่เป็นไรค่ะ มณบอกคุณวีแล้วว่ามณจะทำ มณก็ต้องทำด้วยตัวเอง”
“ให้วิไลช่วยนะคะ”
“ไม่ต้องวิไล” มณฑิราบอกกับทุกคนท่าทางจริงจัง “ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า มณอยากทำให้คุณวีเห็นว่ามณจริงใจที่จะขอโทษเค้าจริงๆ”
คุณหญิงสงสารหลานจับใจ “โถ ยัยมณ”
มณฑิราพูดจบก็หันไปเก็บผักใส่ตะกร้าด้วยความตั้งใจ ทุกคนมองสงสารมณฑิรา รัฐรวีเมินหน้า แล้วเดินหนีไป
“ตาวี! จะไปไหน มาคุยกับแม่ก่อน” ภัสสรีบเดินตามลูกชายไป
รัฐรวีเดินหนีมาตามทางในรีสอร์ต ภัสสรตามมาดึงไว้
“ตาวี ถ้าลูกอยากจะโกรธใคร ลูกก็ต้องโกรธแม่ เพราะแม่เป็นคนขอร้องให้หนูมณเค้าโกหกเราต่อ แม่อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าวีของแม่ไม่ได้รักคนที่ฐานะเงินทอง”
“แม่พูดจบรึยังครับ ผมจะต้องไปทำงานต่อ”
“วี แล้วงานที่บริษัทแม่ล่ะ”
“ก็แม่บอกผมเองไม่ใช่เหรอครับว่าถ้าผมเลือกมณฑา ผมจะไม่ได้อะไรเลย ผมก็เลยมานั่งคิดว่า ถ้าอย่างนั้นผมขอมาทำงานที่เป็นความฝันของผมดีกว่า”
“แม่ก็พูดไปอย่างนั้น”
“แต่ผมพูดจริงครับแม่ แม่ก็รู้ดีไม่ใช่เหรอครับว่าผมไม่ชอบล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้”
รัฐรวีเดินหนีไปเลย ภัสสรอึ้ง เสียใจ
ท่านนายพลรัฐนั่งคุยโทรศัพท์กับภริยาอยู่ในห้องรับแขก มีหนังสือพิมพ์กางตรงหน้า
พอฟังภัสสรฟ้องจบก็หัวเราะชอบอกชอบใจ “ฮ่าๆๆๆ ลูกพูดแบบนั้นเหรอคุณ”
ภัสสรยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่รีสอร์ต
“ก็ใช่น่ะสิ คุณไม่ต้องมาหัวเราะเลย! ช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าจะทำยังไงให้ลูกหายโกรธ”
“ผมมีวิธี แต่ไม่แน่ใจว่าคุณจะทำได้”
“บอกมาเหอะ ฉันทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกหายโกรธ”
“แน่ใจนะ? งั้นฟังให้ดี จากตอนนี้ไปให้คุณอยู่เฉยๆ”
ภัสสรงง “อยู่เฉยๆ”
“ใช่”
“แล้วยังไงต่อ”
“ก็ไม่แล้วไงต่อ คุณน่ะอยู่เฉยๆ ซะบ้าง ไม่เห็นเหรอว่าที่ผ่านมาเรื่องมันวุ่นวายขึ้นแค่ไหนเพราะคุณเข้าไปยุ่ง คราวนี้ก็อยู่เฉยๆ ดูหนูมณเค้าจัดการง้อเจ้าวี เดี๋ยวลูกเราก็หายโกรธเองแหละ”
ภัสสรขัดใจ “ฉันไม่น่ามาปรึกษาคุณเลย แค่นี้นะ”
รัฐเซ็ง “เอ๋า”
ภัสสรวางสาย รัฐยิ้มขำๆ ในความดื้อของภริยา
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
รัฐรวีกำลังพูดคุยกับเชฟคนอื่นๆ ถึงรายการของที่จะไปซื้อที่ตลาด มณฑิราหิ้วผักที่เก็บได้สองตระกร้าใหญ่เข้ามาวางที่โต๊ะในครัว ตึง!
รัฐรวีกับเชฟคนอื่นหันไปมองเห็นมณฑิรามีท่าทางเหนื่อยล้า แต่ยังยิ้มให้รัฐรวี
“ฉันเก็บผักเสร็จแล้วค่ะ”
“ดี! ตามผมมา” รัฐรวีเดินออกจากครัวไป
“คุณจะไปไหน”
รัฐรวีหยุดเดิน หันมาหา “คุณมีหน้าที่ทำตามคำสั่งผมไม่ได้มีหน้าที่ถามผม”
รัฐรวีเดินไป มณฑิรารีบเดินตามไป
กลุ่มอาทิตย์ อันมี วิไลลักษณ์ ภัสสร คุณหญิงหิรัญญิการ์ หมอฉบัง และอิงอรแอบดูอยู่รีบตามไป
รัฐรวีมาจ่ายตลาด มีมณฑิราเดินตัวแอ่นหิ้วถุงใส่ของเต็มสองแขนเดินตามรัฐรวีต้อยๆ อยู่ในตลาด
กองเชียร์ ทั้ง อาทิตย์ วิไลลักษณ์ ภัสสร คุณหญิงหิรัญญิการ์ หมอฉบัง อิงอร แอบตามดูอยู่ห่างๆ
“พี่วีบทจะใจร้ายก็ใจร้ายน่าดูเลยนะคะ” อิงอรทึ่ง
“เราออกไปช่วยหนูมณกันดีกว่าไหม” ภัสสรปรารภ
อาทิตย์รีบห้าม “ไม่ได้นะครับ ต้องใจแข็งไว้ คุณวีเห็นคุณมณลำบากขนาดนี้ไม่นานเดี๋ยวก็ต้องใจอ่อนครับ”
คุณหญิงใจหาย “แต่ฉันทนไม่ไหวแล้ว วีทำแบบนี้กับยัยมณมันเกินไป”
“เอ่อ...จริงๆแล้ว ถ้าเทียบกับที่พวกเราเคยทำกับไอ้วี ผมว่าแค่นี้ยังน้อยนะครับ”
ทุกคนมองหมอฉบังเป็นตาเดียว
“คือ ผมว่าถึงเวลาที่คุณมณต้องพิสูจน์ให้ไอ้วีเห็นแล้วครับว่า คุณมณรักไอ้วีจริงๆ”
ทุกคนนิ่งคิดตามที่หมอฉบังพูด
ฝ่ายมณฑิราถือของหนักจนตัวแอ่น ทว่ารัฐรวีเพียงเหลือบมองแอบเป็นห่วง แต่ทำใจแข็ง ไม่สนใจ
มณฑิราหิ้วของตามรัฐรวีมาหน้าตลาด รัฐรวีหันไปเห็นร้านบะหมี่เกี๊ยวรถเข็นแล้วนึกถึงตอนที่ตัวเองออกเดทกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางหน้าห้างกับมณฑิรา รวมทั้งตอนที่ซื้อก๋วยเตี๋ยวแล้วเอามาแขวนไว้หน้าบ้านมณฑิรา จนมณฑิราก็เดินออกมาหยิบถุงก๋วยเตี๋ยวไป
มณฑิราเห็นรัฐรวีมองร้านก๋วยเตี๋ยว ก็รู้ว่ารัฐรวีคิดถึงตอนที่กินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน มณฑิรายิ้มย่อง เพราะคิดว่ารัฐรวีใจอ่อน
“ฉันหิว เรากินก๋วยเตี๋ยวกันนะคุณ”
“คุณหิวก็กินไปคนเดียว ผมจะกลับไปรีสอร์ต”
รัฐรวีเดินออกไป มณฑิราค้อน แล้วหิ้วของเดินตามไป
เย็นนั้น รัฐรวีสวมชุดเชฟอยู่ในครัว มณฑิราเดินหิ้วของที่ซื้อที่ตลาดเดินเข้ามาในครัว แล้ววางของทั้งหมดไว้ที่โต๊ะเตรียมอาหาร
“อ้าว มองเฉยทำไมล่ะคุณ ผักมันล้างตัวเองไม่ได้หรอกนะ”
มณฑิราเดินหิ้วถุงของไปที่ซิงค์น้ำ
รัฐรวีเมียงมอง ดูออกว่ามณฑิราคงเหนื่อยมาก เชฟคนหนึ่งจะเข้าไปช่วย แต่รัฐรวียกมือห้าม เชฟคนนั้นเลยถอยออกไปทำอย่างอื่น
มณฑิราที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดผู้ช่วยเชฟ กำลังล้างผักเสร็จพอดี
“เสร็จแล้วก็ไปทิ้งขยะด้วย”
มณฑิราเดินหิ้วขยะออกไปทิ้ง รัฐรวีแอบมองด้วยความสงสาร รีบปั้นหน้าแข็งใจ ใจแข็งต่อไป
ต่อมารัฐรวีชี้ไปที่จานกองโต มณฑิราล้างจานด้วยความเหนื่อย เอามือเช็ดน้ำที่กระเด็นโดนหน้า รัฐรวีลอบมองสงสาร
จากนั้นรัฐรวีชี้ไปที่กองผัก มณฑิราพยักหน้ารับรู้ จัดการหั่นผัก มีรัฐรวีทำอาหารอยู่ใกล้ๆ ครู่หนึ่งมณฑิราทำมีดบาดนิ้ว
“โอ๊ย”
รัฐรวีหันไปดูเห็นว่ามณฑิราถูกมีดบาดเลือดซึมออกก็ตกใจ ลิมตัวจะเข้าไปช่วย แต่ชะงักไว้
มณฑิราเจ็บนิ้วที่ถูกมีดบาด รีบเอามือไปล้างน้ำ รัฐรวีสงสาร แต่ตัดใจทำเป็นไม่สนใจ หันกลับไปทำอาหารต่อ
มณฑิราหันมามอง เห็นรัฐรวีทำอาหารต่อเหมือนไม่สนใจตัวเองก็ใจเหี่ยวเดินมาหา
“เอ่อ ฉันทำมีดบาด ขอออกไปทำแผลก่อนนะคะ”
รัฐรวีปั้นปึ่งใส่ “รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะเลือดหยดเปื้อนครัว”
มณฑิราจ๋อย เดินจับนิ้วที่ถูกมีดบาด คอตกออกไป รัฐรวีมองตามแล้วถอนใจเฮือกๆ อย่างหงุดหงิด
ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะใจแข็งได้อีกนานแค่ไหน
ขณะที่รัฐรวียืนล้างมือมองหน้าตัวเอง คิดทบทวนเรื่องมณฑิรา แล้วพยายามทำใจให้เข้มแข็ง พอเดินออกจากห้องน้ำ เจออาทิตย์ยืนดักรออยู่
“สนุกไหมครับคุณวี”
“อะไรของแกไอ้ทิตย์”
“ก็ที่คุณวีแกล้งคุณมณสารพัดนี่ไงครับ”
“มันเรื่องของฉัน” รัฐรวีจะเดินออกไป
อาทิตย์ขวางไว้พูดเตือนสติ “คุณวีแน่ใจเหรอครับว่าคุณวีทำแบบนี้แล้วมีความสุข ผมว่าคุณวีมีแต่ความทุกข์มากกว่านะครับ แล้วคุณวีจะทำไปทำไมครับ”
“หลีกไปไอ้ทิตย์”
“ไม่ครับ! ผมไม่อยากเห็นคุณวีทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้ ผมรู้ว่าคุณวีมีความสุขเวลาที่อยู่กับคุณมณ ก็เหมือนกับผมมีความสุขเวลาได้อยู่กับคุณวิไลลักษณ์”
“เลิกฝันเฟื่องได้แล้วไอ้ทิตย์ ตั้งแต่กลับมา แกกับเมียก็มีแต่ทะเลาะกัน ตอนนี้ทั้งแกทั้งฉันเราอยู่ในโลกความจริงแล้วเว้ย” รัฐรวีย้อนแย้ง
“ผมรู้ครับ ผมถึงไม่อยากให้คุณวีเป็นอย่างผม คุณวีกับคุณมณเหมาะสมกันทุกอย่าง คุณวีกลัวจะเจอคนไม่จริงใจ คุณมณก็กลัวเหมือนกันเค้าถึงได้ทำแบบนั้น”
“แต่ฉันแสดงความจริงใจด้วยการบอกความจริงไปตั้งนานแล้ว ถ้าเค้าจริงใจกับฉันเหมือนกัน เค้าต้องบอกความจริงไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว”
อาทิตย์ชะงักเถียงไม่ออก รัฐรวีเดินชนไหล่อาทิตย์ออกไปอย่างโกรธเคือง
อาทิตย์ วิไลลักษณ์ คุณหญิงหิรัญญิการ์ ภัสสร หมอฉบัง อิงอรกำลังมุงช่วยทำแผลให้มณฑิรา
“ตาวีนะตาวี! หนูมณเจ็บขนาดนี้ยังจะใจแข็งอีก” ภัสสรฮึดฮัดลูกชาย
“ทำไมมาทำกับหลานฉันแบบนี้” คุณหญิงฉุนขาด จะเดินเข้าครัวไปเอาเรื่อง
หมอฉบังดึงคุณหญิงไว้ “ใจเย็นๆ นะครับคุณหญิงป้า”
“หมอไม่ต้องมาห้ามฉัน ฉันรู้ว่ายัยมณต้องชดใช้ให้คุณวี แต่นี่มันมากเกินไปแล้ว”
วิไลลักษณ์หันไปตีแขนอาทิตย์ระบายความโมโห
“เอ้า โกรธคุณวีแล้วมาลงที่ผมทำไมครับเนี่ย”
“ไม่รู้ล่ะค่ะ เจ้านายทำลูกน้องก็ต้องรับผิดชอบ”
อาทิตย์เซ็งโดนตล๊อด หันไปบอกกับคุณหญิงว่า “คุณหญิงครับ ถ้าคุณหญิงเข้าไปตอนนี้ สิ่งที่คุณมณทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่านะครับ”
อิงอรเห็นด้วย “ใช่ค่ะ อิงว่าอีกนิดเดียวพี่วีก็น่าจะใจอ่อนแล้วล่ะค่ะ”
“จะใจอ่อนใจแข็งอะไรฉันไม่สนแล้ว ถ้าทำกันขนาดนี้ ฉันก็ไม่ยกยัยมณให้” คุณหญิงฮึดฮัดอยู่นั่น
ภัสสรหน้าเสีย “ดิฉันขอโทษแทนลูกด้วยนะคะ แต่ขอโอกาสให้ตาวีครั้งนี้อีกครั้งเถอะค่ะ”
คุณหญิงขัดใจหันไปถามมณฑิรา “ไหวไหมยัยมณ”
มณฑิราฝืนยิ้ม ใจยังสู้ “มณเจ็บแค่นี้ยังไม่ถึงครึ่งที่คุณวีเจ็บเลยค่ะคุณป้า มณไหวค่ะ”
คุณหญิงถอนใจเฮือกใหญ่ “แล้วนี่มันไม่มีวิธีอื่นอีกเลยหรือไงที่จะทำให้วีเค้าใจอ่อนเร็วๆ”
“มีครับ แต่ผมต้องขออนุญาตคุณท่านกับคุณหญิงก่อน”
“วิธีอะไรคะ” วิไลลักษณ์และทุกคนสนใจ
อาทิตย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ในเมื่อแมวไม่ถูกกับหนู เราก็ต้องปิดประตูให้จู้ฮุกกรูกันไงครับ”
ทุกคนอึ้งกันไปทั้งแถบ มณฑิราเหวอไป
ค่ำนั้น มณฑิราถือกระเป๋าเสื้อผ้าของใช้ยืนอยู่หน้าบ้านพักรัฐรวี มีคุณหญิง ภัสสร อาทิตย์ วิไลลักษณ์ หมอฉบัง และอิงอรตามมาส่งที่หน้าประตู
มณฑิราลังเล “แน่ใจนะคะว่าจะให้มณใช้วิธีนี้จริงๆ”
“ป้าก็ไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกนะ แต่เอาเถอะเรากับเค้าก็หมั้นกันแล้ว อยู่กันสองต่อสองทั้งคืน เค้าน่าจะยอมใจอ่อนบ้าง”
“ตามแผนนะลูก ขอให้โชคดีนะจ๊ะ” ภัสสรยิ้มกริ่ม
ทุกคนถอยออกไป มณฑิราสูดลมหายใจแล้วตัดสินใจเคาะประตูห้องเรียกรัฐรวี
รัฐรวีนอนฟังเพลง “คนในฝัน” อยู่ที่โซฟา คิดเรื่องที่คุยกับอาทิตย์
“จากฝันก็กลายเป็นมากกว่าฝัน ฝันกลายเป็นจริงขึ้นมา เมื่อในเวลานี้มีเธอทั้งคน จากฝันก็กลายเป็นมากกว่านั้น เมื่อเธอได้เดินเข้ามา หนึ่งคนที่มองหาไม่เคยใช่ใคร แต่ใช่เธอ...”
จนได้ยินเสียงเคาะประตู รัฐรวีหยิบรีโมทกดปิดเพลง แล้วเดินไปเปิดประตู เห็นมณฑิราถือกระเป๋าเสื้อผ้าของใช้ยืนอยู่
“อะไรของคุณ”
“พวกคุณป้ากับแม่คุณเช็คเอ้าท์กลับกรุงเทพฯ ทิ้งให้ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว ฉันจะเปิดห้องใหม่ แต่พนักงานเค้าบอกว่าห้องพักเต็มหมดแล้ว ขอฉันนอนที่นี่คืนนึงนะ”
รัฐรวีมองสภาพมณฑิราที่ดูเหนื่อยจากงานมาทั้งวันแล้วสงสาร เปิดประตูให้ มณฑิราเดินเข้าประตูไปแล้วแอบยิ้มโล่งใจที่รัฐรวียอม
บรรดากองเชียร์ทุกคนเฮ ดีใจที่รัฐรวียอมเปิดประตูให้มณฑิราเข้าไป
“เราไปกันเถอะครับ ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเค้าสองคนแล้วกันครับ รับรองครับว่าแผนจู้ฮุกกรูของผมต้องได้ผล”
อยู่ๆวิไลลักษณ์ก็คลื่นไส้แล้วอ้วกทันที ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะอาทิตย์
“คุณวิไลเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“นี่มีอาการอย่างนี้มานานรึยังครับเนี่ย” หมอฉบังฉุกคิดบางอย่าง
“ก็สองสามวันแล้วค่ะ”
หมอฉบังคิดแล้วถามอาการ “รู้สึกคลื่นไส้ใช่ไหมครับ” วิไลลักษณ์พยักหน้า หมอซักต่อ “ไม่ค่อยอยากอาหารใช่ไหมครับ” วิไลลักษณ์พยักหน้า หมอหันมาทางอาทิตย์ “ไอ้ทิตย์ ฉันว่าต้องพาวิไลไปตรวจหน่อยแล้วว่ะ”
อาทิตย์กังวลใจว่าวิไลลักษณ์ป่วยเป็นอะไร
อาทิตย์ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องน้ำ โดยมีหมอฉบังยืนอยู่ด้วย สักครู่หนึ่งวิไลลักษณ์เดินถือที่ตรวจครรภ์ออกมาหน้านิ่งๆ
“เป็นยังไงบ้างครับคุณวิไล” อาทิตย์ร้อนใจ
วิไลลักษณ์ไม่ตอบ ส่งที่ตรวจครรภ์ให้ อาทิตย์รับมาดูลุ้นๆ
“หมอครับ ไม่เห็นขึ้นอะไรเลยครับ หมอมั่วรึเปล่าครับ”
“ฉันรู้ว่าแกตื่นเต้น แต่ใจเย็นๆ หน่อย มันต้องใช้เวลาทำปฏิกิริยา”
อาทิตย์มองดูที่ตรวจครรภ์ลุ้นระทึก “ขึ้นแล้วครับหมอ ขึ้นแล้ว”
หมอฉบังถาม “กี่ขีด”
“สองขีดครับคุณหมอ นี่แปลว่าคุณวิไลท้องใช่ไหมครับ”
หมอฉบังพยักหน้า
อาทิตย์ร้องเฮลั่น ถลาเข้าไปหอมแก้มวิไลลักษณ์ที่ยิ้มตื่นเต้นดีใจอยู่ อาทิตย์จะเข้าไปหอมหมอฉบัง
“เฮ้ยๆ”
อาทิตย์ขำๆ หันไปยิ้มชื่นดีใจเหลือล้นกับวิไลลักษณ์
ฝ่ายรัฐรวีเดินนำมณฑิราเข้ามาที่ห้องรับแขก
“เดี๋ยวคุณนอนตรงโซฟาแล้วกัน”
“แล้วคุณนอนที่ไหน”
รัฐรวีบอกเสียงขุ่น “ในห้อง... ถ้าไม่พอใจ เชิญคุณจะไปนอนที่อื่นได้”
“ฉันนอนโซฟาได้”
รัฐรวีเดินเข้าห้องนอนไปหยิบผ้าห่ม หมอนสำรองออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้วเดินกลับมาในห้องรับแขก แต่ไม่เห็นมณฑิราก็แปลกใจ
รัฐรวีเดินไปดูที่โซฟา จึงเห็นว่ามณฑิรานอนหลับอยู่ด้วยความอ่อนเพลีย รัฐรวีอึ้ง ยืนมองมณฑิราอยู่อย่างนั้น
ความรักความหลังผุดซ้อนเข้ามาอีก ฉากต่อฉากราวกับสายน้ำไหล รัฐรวีนึกถึงตั้งแต่เจอมณฑิราวันแรก จนถึงวันหมั้น
ฉากสุดท้ายรัฐรวีเปิดประตูบ้านมณฑิราเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลัง มีเสียงร้องไห้ของมณฑิราตามหลังมา
รัฐรวีเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว เขาเดินกลับเข้าห้องนอน หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าออกมา เก็บเสื้อผ้าทั้งหมด แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจมองมณฑิราที่นอนหลับอยู่
รัฐรวีออกไป พร้อมๆ กับประตูห้องปิดลง มณฑิราหลับสนิทโดยไม่รู้ว่ารัฐรวีออกจากห้องไปแล้ว
มณฑิราค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ดูเวลาพบว่าสายมากแล้ว ต้องสะดุ้งสุดตัว มองไปรอบๆ หารัฐรวี
“คุณวีคะ” เงียบไม่มีเสียงตอบ
มณฑิรารีบลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องนอนมองหาแต่ก็ไม่เจอรัฐรวี มองไปเห็นตู้เสื้อผ้าเปิดอยู่ รีบพุ่งเข้าไปเปิดตู้ดู จึงเห็นว่ารัฐรวีเก็บเสื้อผ้าไปหมดแล้ว มณฑิราชะงักอึ้ง หน้าเสีย รีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที
มณฑิราร้อนรนใจเที่ยววิ่งตามหารัฐรวีไปทั่วรีสอร์ต แต่ก็ไม่เห็นแม้เงา มณฑิราวิ่งมาตามหาที่สวน เจอคนทำสวนก็รีบเข้าไปถาม
“พี่คะ เห็นคุณวีไหมคะ”
คนทำสวนส่ายหน้า มณฑิรารีบวิ่งไปกลับที่หน้าฟร้อนท์ เข้าไปถามกับพนักงานต้อนรับ
“คุณวีมาเช็คเอาท์ไปรึยังคะ”
“ยังนะคะ”
มณฑิรายืนเคว้งว่าแล้วรัฐรวีไปไหน จนนึกได้รีบวิ่งไปทางครัว
มณฑิราวิ่งเข้ามาในครัว เห็นว่าเชฟและคนอื่นๆกำลังเตรียมจะทำอาหาร
“คุณวี” ทุกคนหันมา มณฑิรารีบเข้าไปถามเชฟ “เห็นคุณวีไหมคะ ฉันตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเค้าแล้ว”
“คุณวีลาออกไปแล้วครับ”
มณฑิราอึ้ง ใจหาย ใจหล่นจนสิ้น แข้งขาอ่อนล้าไปหมด “ลาออก แล้ว...แล้วเค้าไปไหนคะ”
“ไม่ทราบเลยครับ ขอโทษนะครับ”
เชฟหันไปเตรียมจะทำอาหารต่อ
มณฑิราเดินอึ้งออกจากครัวไป
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 16 อวสาน (ต่อ)
มณฑิราเดินงงๆ มาตามทางเดิน พยายามกดโทรศัพท์หารัฐรวีแต่รัฐรวีไม่รับ มณฑิราหมดแรง เสียใจที่รัฐรวีไม่ยอมยกโทษให้และหนีไปอีก จนทรุดตัวลงร้องไห้ที่เก้าอี้ในสวนสวยของรีสอร์ต
“ฉันขอโทษ... ฉันขอโทษ...”
มณฑิราร้องไห้อยู่คนเดียว จนสักครู่เห็นเท้าของผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ๆ มณฑิราก้มหน้าร้องไห้ไม่ได้เงยหน้ามอง จนเท้าของผู้ชายคนนั้นเดินมาหยุดตรงหน้า
“อย่าร้องไห้สิครับ เดี๋ยวเจ้าสาวของผมไม่สวยนะ”
มณฑิราชะงัก เงยหน้ามองเห็นเป็นรัฐรวีแต่งตัวหล่อยืนถือช่อดอกไม้สีขาวอยู่
“คุณวี ฉันขอโทษ คุณยกโทษ...”
พูดได้เท่านั้น รัฐรวีก้มลงจูบปิดปากทันที มณฑิราอึ้ง งง รัฐรวีค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างนุ่มนวล แล้วคุกเข่าลงนั่งตรงหน้ามณฑิรา
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ...” เขาหยิบนิ้วที่ปิดพลาสเตอร์อยู่มาพรมจูบเบาๆ “เจ็บไหมครับ”
มณฑิรายิ้มเต็มตื้น ส่ายหน้าพูดอะไรไม่ออก เพราะดีใจเหลือเกินแล้วที่รัฐรวียกโทษให้
รัฐรวียกนิ้วปาดเช็ดน้ำตาให้เบาๆ “ต่อไปนี้ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ร้องไห้เพราะผมอีก” เขายื่น
ดอกไม้ช่อสวยให้ “ยกโทษให้ผมนะ”
มณฑิรารับดอกไม้น้ำตาแห่งความปลื้มปิติไหลนองหน้า “ฉันไม่เคยโกรธคุณเลย ไม่เคยเลย”
มณฑิราโผกอดรัฐรวีเต็มรัก รัฐรวีดีใจกอดตอบเต็มแรง
บรรดากองเชียร์ อาทิตย์ วิไลลักษณ์ หมอฉบัง อิงอร ภัสสร และคุณหญิงหิรัญญิการ์ที่แอบอยู่ดีใจ ออกมาร้อง “เฮ” ลั่น
สายวันนี้ รัฐ ภัสสร คุณหญิงหิรัญญิการ์นั่งอยู่ที่เก้าอี้ห้องรับแขกบ้านมณฑิราที่จัดเตรียมไว้ มีเหล่าคนใช้นั่งกันอยู่รายรอบห่างลดหลั่นออกมา รัฐรวี มณฑิราก้มลงกราบคุณหญิงหิรัญญิการ์
“หมดทุกข์หมดโศกกันซะทีนะยัยมณ” คุณหญิงฝากหลานสาวกับรัฐรวี “ป้าฝากดูแลหลานป้าด้วยนะวี หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน อย่างอนจนหนีไปอีกล่ะ ป้าไม่ตามแล้ว เหนื่อย”
ทุกคนขำๆ รัฐรวีกับมณฑิราหันไปกราบรัฐ
“พ่อว่าพ่อสอนลูกไปหมดแล้วนะวี แต่มีเรื่องนึงที่พ่อยังไม่ได้บอก ถ้าอยากจะรักกันให้ยาวนานเหมือนคู่พ่อกับแม่ มันมีหลักอยู่สามคำเท่านั้น เอา...เข้า...ไว้”
ทุกคนสะดุ้งกับมุกท่านนายพล
ภัสสรตีสามีเผียะ “อะไรคะคุณ”
รัฐขำๆ “ฟังให้จบก่อนสิคุณ พ่อหมายถึงเอาใจ เข้าใจ แล้วก็ ไว้ใจ”
ทุกคนอ๋อ...ทั้งแถบ
ภัสสรค้อนควัก “แล้วก็ไม่พูดแต่แรก จะพูดสองแง่สองง่ามให้เด็กมันเข้าใจผิดทำไมก็ไม่รู้”
รัฐรวีกับมณฑิรากราบภัสสร
“ดีใจด้วยนะลูก ลูกรู้ใช่ไหมว่าแม่รักลูกมากนะตาวี” ภัสสรยิ้มกับมณฑิรา “แม่ฝากวีกับหนูมณด้วยนะจ๊ะ”
รัฐรวีกอดแม่ ภัสสรลูบหัวกอดลูก รัฐรวีกับมณฑิราเขยิบไปกราบแม่ชื่น
แม่ชื่นตกใจ “อุ๊ย! ไม่ต้องไหว้ชื่นหรอกค่ะ”
“ไม่ได้หรอกครับ แม่ชื่นเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กก็เหมือนแม่ผมอีกคน”
แม่ชื่นหันมามองค้อนอาทิตย์ “เอาอย่างคุณวีเค้าบ้าง เป็นลูกแท้ไม่เคยกราบแม่เลย”
“เอ๋า..เค้าก็อ้อนอยู่ประจำ” อาทิตย์ซุกหัวอ้อนแม่โชว์
แม่ชื่นเคาะหัวอาทิตย์โป๊ก หันมาหารัฐรวี “ป้าขอให้คุณวีกับคุณมณมีชีวิตคู่ที่มีความสุข อยู่กันด้วยความเข้าใจและให้อภัยกันนะคะ”
รัฐรวี มณฑิรายิ้มแย้มกราบแม่ชื่น อาทิตย์ วิไลลักษณ์ก้มลงกราบแม่ชื่นพร้อมกันด้วย
ทุกคนมองทั้งสองคู่แล้วยิ้มอย่างมีความสุข
เวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก รัฐรวี และมณฑิรานั่งคุยกันอยู่ที่โซฟา ตรงหน้าเป็นกล้องที่ตั้งบันทึกเอาไว้ สองคนผัดกันเล่าถึงเรื่องราวชีวิตผู้คน ในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา
“ครับ...หลังจากหมดเรื่องหมดราว ทุกอย่างก็ลงตัว ผ่านไปได้ด้วยดีครับ” รัฐรวีเอ่ยขึ้น
มณฑิราแย้งขำๆ ว่า “ลงตัวอะไรล่ะคะ ตอนที่รู้ว่าวิไลลักษณ์ท้อง ป้าชื่นกับป้าเมียดตีกันบ้านจะแตก” มณฑิราหันมาพูดกับกล้อง “แย่งกันค่ะว่าจะให้หลานอยู่ที่บ้านใคร”
“แต่สุดท้ายก็ตกลงกันได้นี่ครับ สลับกันอยู่ทั้งสองบ้านไง ส่วนผมกับคุณมณ เราก็แต่งงานกันแล้วผมก็กลับไปทำงานกับแม่ แต่แม่ก็ใจดีครับ ยอมให้ผมทำความฝันของผมด้วย....ครึ่งนึง”
“คุณวีได้เปิดร้านอาหารค่ะ ส่วนมณจะเรียกว่าได้ทำตามความฝันรึเปล่า...ก็คงใช่มั้งคะ เพราะมณได้ทำหน้าที่ผู้จัดการดูแลทั้งร้าน แล้วก็เจ้าของร้าน....” มณฑิรายิ้มกับรัฐรวี
“เดือนหน้าจะไปเปิดที่เซ็นทรัลเอมเบสซี่ด้วยนะครับ”
ภาพเหตุการณ์ที่หน้าร้านอาหารปรากฏขึ้น แลเห็นมณฑิราดูแลลูกค้าที่เข้ามาจนแน่นร้าน
รัฐรวีเป็นเชฟสุดหล่อ โดยมีมณฑิราคอยช่วยชิม
“ส่วนที่ร้านเพชร ตอนนี้คุณแม่ของผมมีผู้ช่วยคนใหม่แล้วครับ ก็คือไอ้ทิตย์”
มณฑิราท้วงคำพูดรัฐรวี “ไม่ใช่ค่ะ ต้องเรียกว่า คุณอาทิตย์”
ที่ร้านเพชรตอนนี้ อาทิตย์เป็นผู้จัดการร้าน ช่วยงานภัสสรกับรัฐอยู่อย่างแข็งขัน
มณฑิราพูดถึงวิไลลักษณ์สาวใช้คู่ใจ “ส่วนวิไล ทุกวันนี้ไม่ได้ดูแลมณแล้วค่ะ”
โดยที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล แลเห็นวิไลลักษณ์ในชุดพยาบาลกำลังดูแลคนไข้ที่เตียง
ส่วนที่เรือนคนใช้บ้านมณฑิรา เห็นแม่เมียด แม่ชื่น คุณต๋อยช่วยกันดูแลลูกของอาทิตย์กับวิไลลักษณ์ที่ร้องไห้จ้าอยู่
ด้านนายวงกำลังนั่งตรวจล็อตเตอรี่อยู่ใกล้ๆ แล้วก็กระโดดดีใจกอดแม่เมียดเพราะถูกหวย แม่เมียดดีใจ
ต่อมา นายวงเอาแหวนเพชรในกล่องกำมะหยี่มายื่นให้แม่เมียด
แม่เมียดอึ้ง นายวงหยิบแหวนใส่ให้แม่เมียด
มณฑิราเสริมภาพนั้นขึ้นว่า “ใช่แล้วค่ะ ของชิ้นแรกที่นายวงซื้อหลังจากถูกหวย คือแหวนเพชรให้แม่เมียด”
“ผมรู้แล้วครับว่าไอ้ทิตย์มันโรแมนติกเหมือนใคร”
รัฐรวียิ้มขำ
“ยังมีเรื่องน่ายินดีอีกเรื่องด้วยนะคะ”
มณฑิราหมายถึง เวกซึ่งตอนนี้อยู่ในชุดพนักงานธนาคาร ทำงานแบงค์ ส่วนกุ๊กกิ๊กอยู่ในชุดนักศึกษาเอาเงินมาฝากแบงค์ พอเวกเงยหน้ามาเห็นเป็นกุ๊กกิ๊กก็ยิ้มหวานให้กัน
พอเลิกงาน เห็นเวกเดินจูงมือกุ๊กกิ๊กที่ริมถนน ดูออกว่าจากคู่กัด สองคนกลายเป็นคู่รักกันไปแล้ว
“แล้วก็ไม่น่าเชื่อนะคะว่าความรักจะทำให้คนเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้” มณฑิราว่า
“หมายถึงใครครับ”
มณฑิรายิ้มเหมือนรู้กับกับรัฐรวี
เหตุการณ์ที่โบสถ์ในวัดแห่งหนึ่ง อิงอรนุ่งขาวห่มขาวนั่งมั่นอยู่ในสมาธิ โดยมีหมอฉบังก็นั่งอยู่ด้วยแต่หลับหัวโยกหัวคลอน อิงอรตีแขนเบาๆ หมอฉบังดีดตัวขึ้นมานั่งใหม่
“แต่มีอยู่คนหนึ่งนะคะที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย”
มณฑิราหมายถึง ภูวเดชที่กำลังเต้นเมากรึ่มอยู่ในผับตามเคย ข้างๆ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เต้นมาชน ต่างคนต่างชะงักหันมามองหน้ากัน ที่เป็นลูกไหมที่เคยเจออาทิตย์หลอกว่าเป็นคู่ขารัฐรวีจนเสียสติไปนั่นเอง ลูกไหมยิ้มวางฟอร์ม ภูวเดชที่เมาปลิ้นยิ้มหวาน หว่านเสน่ห์จีบลูกไหม
ภูวเดชกับลูกไหมเต้นกันอย่างเมามัน
เล่าเรื่องนี้จบรัฐรวีกับมณฑิราขำๆ ให้กัน
เวลาผ่านไปอีกสักระยะ ที่สวนสวยบ้านมณฑิราวันนี้ อาทิตย์อุ้มลูกชาย เดินเล่นอยู่ในสวนกับวิไลลักษณ์ สักครู่มณฑิรากับรัฐรวีเดินเข้ามาสมทบด้วย อาทิตย์กับรัฐรวีก้มดูลูก แล้วเล่นกับเด็ก วิไลลักษณ์หยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดถ่ายเซลฟี่แชะ!
อาทิตย์พูดยิ้มพราย “ใครจะไปคิดล่ะครับ ว่าจากความฝันเฟื่องลมๆ แล้งๆ ของผม จะจบลงด้วยความสุขของทุกคนแบบนี้ ถึงมันจะวุ่นวายไปซักหน่อย...” เขาชะงักไปนิดหนึ่ง “ก็ไม่ค่อยหน่อยเท่าไหร่นะครับ คนเราจะฝันเฟื่องยังไงก็ได้ครับ ขอแค่มันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ”
รัฐรวี อาทิตย์ มณฑิรา และวิไลลักษณ์ ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
จบบริบูรณ์ โปรดติดตาม เงาใจ เร็วๆ นี้