ฝันเฟื่อง ตอนที่ 8
ขณะรัฐรวีเดินมาที่โรงจอดรถ หยุดมองหาอาทิตย์แต่ก็ไม่เห็น สักครู่แม่ชื่นเองก็มองหาลูก เมื่อไม่เจอจึงเดินเข้ามาหารัฐรวี
“ไอ้ทิตย์ล่ะครับป้าชื่น”
”อ้าว ป้าก็ว่าจะมาถามคุณวีอยู่พอดี มันออกไปกับคุณวีตั้งแต่เมื่อคืน แล้วยังไม่กลับมาเลยค่ะ”
“ห๊ะ”
รัฐรวีตกใจหยิบโทรศัพท์มาโทร.หาอาทิตย์ทันที
ส่วนที่เรือนคนใช้บ้านมณฑิรา วิไลลักษณ์เอาแต่ร้องไห้ โดยมีแม่เมียด นายวง เวกอยู่ด้วย
“ชั้นจะไปเอาเรื่องมันเดี๋ยวนี้! โทษฐานที่มันทำลูกสาวชั้นเสียใจ” นายวงโมโหมาก
“แล้วแกรู้เหรอว่าบ้านคุณอาทิตย์เค้าอยู่ไหน” เมียดท้วง
นายวงเสียงอ่อย “ไม่รู้” แม่เมียด กะเวกเซ็ง
วิไลลักษณ์พูดทั้งน้ำตา “ไม่ต้องไปหรอกพ่อ ให้มันจบแบบนี้ดีแล้ว ต่อไปนี้หนูจะได้ไม่ต้องโกหกเค้า ทุกคนจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนด้วย”
ระหว่างคุณต๋อย กับกุ๊กกิ๊กที่แอบฟังอยู่นาน เดินเข้ามาแล้วหัวเราะเยาะดังลั่น
“ฮ่าๆๆๆๆ เลิกกับคุณอาทิตย์แล้วเหรอนังวิไล ชั้นเสียใจด้วยนะ ฮ่าๆๆๆ”
กุ๊กกิ๊กแหม อยากได้ผัวรวยหวังจะรวยทางลัด สุดท้ายก็โดนเค้าทิ้ง สมน้ำหน้า!
กุ๊กกิ๊ก กะคุณต๋อยหัวเราะเยาะอย่างสะใจ เมียด วง และเวกมองวิไลลักษณ์ด้วยความสงสาร
เวกหันมาเอาเรื่องกับกุ๊กกิ๊ก “ถ้าไม่หยุดหัวเราะ ชั้นปล้ำแกจริงๆ ด้วย”
กุ๊กกิ๊กหยุดหัวเราะทันที แต่คุณต๋อยยังหัวเราะอยู่
นายวงเอาเรื่องกับคุณต๋อย “คุณต๋อยก็เหมือนกัน ถ้าไม่หยุดชั้นก็จะปล้ำ!”
คุณต๋อยหยุดหัวเราะ แหวใส่นายวง “แกกล้าเหรอ! เมียแกก็ยืนอยู่นี่”
แม่เมียดบอกทันที “ชั้นอนุญาต”
คุณต๋อยชะงัก ชักกลัว “ฝากไว้ก่อนเถอะ”
คุณต๋อย และกุ๊กกิ๊กเดินออกไปแล้ว แม่เมียด นายวง เวกมองวิไลลักษณ์อย่างสงสาร และเห็นใจ
ทางด้านรัฐรวีขับรถเข้ามาจอดที่หน้าโรงเรียนสอนทำเค้กแล้ว มือถือรัฐรวีดัง เห็นชื่ออาทิตย์โทร.มา
“เมื่อคืนแกไปนอนไหนมาวะไอ้ทิตย์”
อาทิตย์นั่งอยู่ในรถแท็กซี่ ร้องไห้เป็นเด็กๆ
“คุณวี ช่วยผมด้วย... คุณวิไลลักษณ์เค้าบอกเลิกผมแล้ว”
รัฐรวีตกใจ “ขนาดนั้นเลยเหรอ เอ้อๆ งั้นเดี๋ยวฉันทำธุระเสร็จจะรีบกลับบ้าน แล้วค่อยคุยกัน ใจเย็นๆนะไอ้ทิตย์” รัฐรวีวางสาย แล้วรีบลงจากรถเข้าโรงเรียนไป
รัฐรวีเดินเข้ามาหามณฑิราที่นั่งรออยู่ตรงมุมนั่งเล่น
“คุณมณรอนานรึยังครับ ขอโทษนะครับที่มาช้า”
“ไม่เป็นไรค่ะ มณก็เพิ่งเรียนทำเค้กเสร็จออกมาเมื่อกี๊เอง คุณวีมีอะไรจะคุยกับมณเหรอคะ”
“คือ เรื่องที่ผมชวนคุณมณไปปราณบุรีน่ะครับ” เขาตัดสินใจเด็ดขาดพูดจากใจ “แต่ผมคิดว่าผมไม่ควรทำอย่างนั้น”
มณฑิราฉงน “ยังไงนะคะ คุณวีไม่อยากไปปราณบุรีกับมณเหรอคะ”
“อยากสิครับ ผู้ชายที่ได้รับเกียรติให้ไปเที่ยวกับคุณมณเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก”
“ไม่หรอกค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คุณวีคงไม่ปฏิเสธมณ”
“ที่ผมต้องทำแบบนี้ เพราะ...ผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้วครับ”
มณฑิราอึ้งไป คิดไม่ถึงว่ารัฐรวีจะกล้าสารภาพตรงๆ
“ทุกครั้งที่ผมคุยกับคุณมณ ผมอดคิดถึงเธอคนนั้นไม่ได้ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับคุณมณเลย...” มณฑิรานิ่งฟัง “ผมคงเป็นผู้ชายที่โง่มาก ที่มาสารภาพกับคุณว่าผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“คุณวีเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์และเป็นสุภาพบุรุษมากต่างหากล่ะคะ ผู้หญิงคนนั้นโชคดีมาก มณชักอยากรู้แล้วสิคะว่าเธอเป็นใคร”
“ชื่อของเธอก็คล้ายๆ คุณมณครับ เธอชื่อมณฑา เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ทุกครั้งที่อยู่กับเธอ ผมรู้สึกมีความสุข”
มณฑิรารู้สึกดีที่รัฐรวีเป็นสุภาพบุรุษ และที่สำคัญรัฐรวีมองข้ามเปลือกนอกของมณฑิราแล้วเลือกมณฑา
“งั้นก็ขอให้คุณวีสมหวังนะคะ ส่วนเรื่องที่คุณแม่คุณวีให้มาชวนมณไปเที่ยวปราณบุรี คุณวีไปบอกแม่เถอะค่ะว่ามณตกลงไป เพื่อให้ท่านสบายใจ มณจะช่วยปิดให้เอง”
“ขอบคุณมากนะครับคุณมณ”
มณฑิรายิ้มให้ ดีใจที่ได้รู้แล้วว่ารัฐรวีเป็นคนดี
ภายในห้องแต่งตัวบ้านมณฑิรา ตอนค่ำ วิไลลักษณ์นั่งร้องไห้อยู่กับมณฑิรา
“เธอบอกเลิกคุณอาทิตย์ไปแล้วงั้นเหรอวิไล”
วิไลลักษณ์พูดทั้งน้ำตา “วิไลเห็นคาตาว่าคุณอาทิตย์อยู่กับคุณอิงอรสองต่อสองในห้องแล้ว จะไม่ให้วิไลบอกเลิกเค้าได้ยังไงคะคุณมณ”
“แต่มันอาจจะมีอะไรเข้าใจผิดก็ได้นะ” มณฑิราท้วง
“หลักฐานฟ้องขนาดนั้น ไม่เข้าใจผิดหรอกค่ะ” วิไลลักษณ์ร้องไห้ต่อ
มณฑิราหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่อาทิตย์ดูไม่สนใจอิงอรเอาเลย
ขณะเดียวกัน รัฐรวีคุยกับอาทิตย์ที่เอาแต่ร้องไห้เป็นเด็กๆ “คุณวิไลลักษณ์ถึงขนาดตบหน้าแกเลยเหรอ”
“แต่ผมไม่ได้ทำอะไรจริงๆ นะครับ ผมเปล่านะครับคุณวี”
“แล้วทำไมแกไม่กลับบ้าน”
“ก็คุณอิงอรเค้าบังคับให้ผมกินไวน์ให้หมดแก้ว ไม่งั้นเค้าจะไม่ยอมให้ผมกลับ ผมก็เลยต้องกิน รู้ตัวอีกทีผมก็ตื่นมาตอนเช้าแล้ว ฮือๆๆ”
“ไม่ต้องร้องๆ ชั้นไม่น่าปล่อยให้แกไปส่งน้องอิงคนเดียวเลย”
“ผมจะทำยังไงดีครับคุณวี ผมรักคุณวิไลลักษณ์ ผมไม่อยากเลิกกับเค้า คุณวีต้องช่วยผมนะครับ”
รัฐรวีมองอาทิตย์อย่างเห็นใจ และหนักใจ
มณฑิราอยู่ในห้องนอน กำลังจะโทร.หารัฐรวี แต่รัฐรวีโทร.เข้ามาพอดี มณฑิรารับสาย “ชั้นกำลังโทร.หานายพอดี”
รัฐรวีคุยมือถืออยู่ในห้องนอนตัวเอง “แปลว่าใจเราตรงกัน” “เลิกพูดเล่นได้แล้ว ชั้นมีเรื่องจะคุยกับนายเรื่องคุณอาทิตย์” “ผมก็จะคุยกับคุณเรื่องนั้นเหมือนกัน งั้นเอางี้ เดี๋ยวเราไปเจอกันที่ร้านกาแฟหน้าปากซอยบ้านคุณแล้วกันนะครับ”
ไม่นานนัก รัฐรวีในคราบนายวี กับ มณฑิรา ในคราบ มณฑา นั่งคุยกันอยู่ในร้านกาแฟปากซอยบ้านมณฑิรา
“เจ้านายของนายทำให้คุณหนูของชั้นเสียใจมากรู้ไหม”
“เจ้านายผมก็เสียใจไม่ต่างกับคุณหนูของคุณหรอกครับ”
“แต่เจ้านายของนายเป็นคนผิด”
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ เจ้านายผมไม่ได้มีอะไรกับคุณอิงอร คุณอาทิตย์รักคุณวิไลลักษณ์คนเดียวนะครับ”
มณฑิราหวนคิดถึงเหตุการณ์ในผับเมื่อคืน ที่เห็นอาทิตย์เดินหนีอิงอร และที่รัฐรวีบอกว่าอาทิตย์ต้องการจะมาบอกอิงอรว่ามีแฟนแล้ว
“เราสองคนต้องช่วยกันเป็นกาวใจให้เจ้านายเราคืนดีกันนะครับคุณมณ เผื่อว่าผลบุญจะทำให้เราสองคนรักกันนานๆ”
“ทะลึ่งอีกแล้ว แล้วนายจะให้ชั้นช่วยยังไง”
รัฐรวียิ้มเจ้าเล่ห์
เวลาต่อมาวิไลลักษณ์เข้ามาหามณฑิราในห้อง
“คุณมณเรียกวิไลมา มีอะไรรึเปล่าคะ”
“วันเสาร์นี้ชั้นต้องไปงานที่ปราณบุรีเลยว่าจะไปค้างสักสองคืน วิไลไปช่วยชั้นแต่งตัวหน่อยนะ”
“ขอโทษนะคะคุณมณ แต่ให้กุ๊กกิ๊กไปแทนวิไลได้ไหมคะ วิไล...”
มณฑิราพูดสวนออกมา “ไม่ได้จ้ะ กุ๊กกิ๊กแต่งหน้าให้ฉันไม่สวยเท่าวิไล..นี่! วิไลจะได้ไปเที่ยวปราณบุรีด้วยไง ไม่เคยไปเลยไม่ใช่เหรอ ไปเจออากาศดีๆ เผื่อจะช่วยให้สบายใจขึ้นนะ นะวิไล ไปเป็นเพื่อนฉันนะ”
“ก็ได้ค่ะคุณมณ”
มณฑิรายิ้ม โล่งใจที่วิไลยอมไป
ฟากอาทิตย์นอนฟังเพลงจากหูฟังอยู่ในห้องนอน เป็นเพลงอกหักรักคุดเข้ากับชีวิตสุดๆ
“ฉันรู้ดีทำไมท้องฟ้ายามเช้า กลับดูมืดมนกว่าทุกวันที่เลยผ่าน ฉันเข้าใจทำไมแสงจันทร์คืนนี้ เหน็บหนาวกว่าที่ฉันเคยรู้สึก ไม่คิดสงสัย ทำไมพอฟังเพลงรักวันนี้กลับเศร้ากว่าทุกทีที่ได้ยิน ไม่แปลกใจกับความรู้สึกที่ฉันเผชิญอยู่ตอนนี้ แต่ยังมีหนึ่งคำถามที่ฉันไม่เข้าใจ เป็นหนึ่งคำถามที่ชั้นนั้นตอบไม่ได้..”
รัฐรวีเดินเข้ามาเห็นอาทิตย์ฟังเพลงอยู่ “ยังไง ซึมไปเลยเหรอไอ้เสือ”
อาทิตย์เอาหูฟังออก “คุณวีกลับไปเถอะครับ ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยเล่นด้วย”
“โอ้โหเว้ย เดี๋ยวนี้อยากคุยกับแก ฉันต้องรอแกอนุญาตแล้วเหรอ ลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้” อาทิตย์นอนนิ่ง “ไม่ลุก ฉันถีบ”
อาทิตย์ชันตัวลุกขึ้นมานั่งเซ็งๆ “คุณวีมีอะไรก็พูดมาครับ” “เสาร์นี้ฉันจะไปเที่ยวปราณบุรีกับคุณมณฑา”
อาทิตย์จะร้องไห้ “ฮือ...ใจคุณวีทำด้วยอะไรครับ รู้ทั้งรู้ว่าผมเศร้า จะมาเล่าให้ผมอิจฉาทำไมเนี่ย”
“ฉันจะชวนแกไปด้วย”
“อำมหิต เชิญคุณวีไปสวีทกันให้ทะเลหวานเถอะครับ ไอ้ทิตย์คนนี้ขอนอนเฉาตายอยู่ที่บ้านดีกว่า”
“แกไม่ไปก็ตามใจ ฉันจะได้บอกคุณมณฑาว่าไม่ต้องชวนคุณวิไลลักษณ์ไปด้วยแล้ว”
รัฐรวีแกล้งหันหลังทำท่าจะเดินกลับ อาทิตย์กระโดดผุงลงจากเตียงมากอดขารัฐรวีไว้แน่น
“คุณวิไลลักษณ์ไปด้วยเหรอครับ”
รัฐรวีพยักหน้า “ใช่ คุณมณฑาเค้าโทร.มาคอนเฟิร์มเมื่อกี้นี้”
“ขอบคุณคุณวีมากนะครับ พ่อพระของไอ้ทิตย์แท้ๆ”
“ฉันก็ช่วยแกได้แค่นี้แหละ ง้อได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับตัวแกเองแล้ว ว่าแต่แกคิดไว้รึยังว่าถ้าคืนดีกันได้ แกจะยังไงต่อ ทั้งเรื่องที่โกหกเค้าว่าเป็นคนรวย แล้วก็เรื่องน้องอิง หมดเวลาฝัน ถึงเวลาแกต้องเจอความจริงแล้วนะไอ้ทิตย์”
อาทิตย์หนักใจเป็นที่สุด
รถมณฑิราขับมาจอดหน้ารีสอร์ตสวยตอนเช้า มณฑิราและวิไลลักษณ์เดินเข้ามาในล้อบบี้ ตรงมายังหน้าเคาน์เตอร์ สีหน้าวิไลลักษณ์ยังดูหมองเศร้า แต่ก็อดตื่นเต้นกับความสวยของรีสอร์ตไม่ได้
“โอ้โห... สวยจังเลยค่ะคุณมณ” เธอมองไปโดยรอบ พบว่ารีสอร์ตสวยแห่งนี้ติดทะเลอีกด้วย “เห็นทะเลด้วยค่ะ”
“ห้องที่เราจะอยู่ก็ติดทะเลด้วยนะ... วิไลรอชั้นอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ”
มณฑิราเดินไปที่เคาน์เตอร์ บอกกับพนักงานต้อนรับ “จองไว้ชื่อมณฑิราค่ะ”
พนักงานหันไปเช็ครายชื่อแขก
เสียงวิไลลักษณ์โวยวายดังลั่น “ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวถือเองค่ะ!”
มณฑิราหันไปมองเห็นวิไลลักษณ์กำลังยื้อยุดกระเป๋ากับพนักงานรีสอร์ตที่มายกกระเป๋า
“ทำไมไม่ให้เค้าช่วยยกล่ะวิไล”
วิไลลักษณ์กระซิบบอก “กระเป๋าเสื้อผ้าคุณมณมีของมีค่า วิไลถือเองสบายใจกว่าค่ะ”
มณฑิรายิ้มให้ วิไลลักษณ์ถือกระเป๋าเสื้อผ้าส่วนหนึ่ง โดยมีพนักงานช่วยถือ แต่วิไลลักษณ์ก็ยังมองระแวง
ประตูห้องพักเปิด มณฑิราเดินเข้ามา มีวิไลลักษณ์ถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินตามมาพร้อมพนักงานยกกระเป๋า ท่าทางวิไลลักษณ์ระแวงพนักงานมาก จนพนักงานวางกระเป๋าแล้วออกจากห้องไป
มณฑิราเดินไปรูดม่านออกมองเห็นวิวทะเลสวยงาม “วิไลดูสิจ้ะ ชอบไหม”
“โอ้โห สวยจังค่ะคุณมณ!” วิไลลักษณ์ตื่นเต้น เดินมาดู เผลอหลุดปาก “นี่ถ้าคุณอาทิตย์” แต่แล้วชะงัก หยุดพูดทันที แล้วเปลี่ยนเรื่อง “เอ่อ...วิไลไปจัดของก่อนนะคะ”
มณฑิรารีบห้าม “ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวฉันเอาเสื้อผ้าในกระเป๋าฉันออกเอง”
มณฑิราเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง หยิบเสื้อผ้าสวยชุดหนึ่งมาส่งให้วิไลลักษณ์ ”วิไลไปจัดของของตัวเอง แล้วเปลี่ยนใส่ชุดนี้นะ”
วิไลลักษณ์รับไปดู “ดีไปรึเปล่าคะคุณมณ วิไลใส่ชุดของวิไลก็ได้ค่ะ”
“นานๆ วิไลจะได้มาเที่ยวที ฉันอยากให้วิไลแต่งตัวสวยๆ” วิไลจะพูด มณฑิรารีบแทรก “ทำตามที่ฉันบอกเถอะจ้ะ แล้วถ้าเปลี่ยนเสร็จแล้ว วิไลลงไปรอฉันที่ล็อบบี้นะ เดี๋ยวฉันตามลงไป”
วิไลลักษณ์พยักหน้าแล้วถือเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป มณฑิรามองตามยิ้มที่เป็นไปตามแผน
วิไลลักษณ์เปลี่ยนเป็นชุดคุณหนูแสนสวย เดินมาที่ล้อบบี้รีสอร์ต ลงนั่งทอดสายตามองดูทะเลเบื้องหน้า แล้วถอนใจใบหน้าเศร้าคิดถึงเรื่องอาทิตย์
อาทิตย์เดินมา เห็นแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้หันหลังชนกับวิไลลักษณ์ กดมือถือส่ง Line
เสียงข้อความ Line มือถือวิไลลักษณ์ดัง วิไลลักษณ์เปิดดู เห็นว่าอาทิตย์ส่งสติ๊กเกอร์หน้า ขอโทษ มาให้
วิไลลักษณ์อ่านแล้ว แต่ไม่ตอบ อาทิตย์ส่งสติ๊กเกอร์มาอีก วิไลลักษณ์กดดู เห็นอาทิตย์ส่งสติ๊กเกอร์ ร้องไห้ วิไลลักษณ์อ่านแล้วไม่ตอบ อาทิตย์กดส่ง Line อีก วิไลลักษณ์ดู เห็นว่าอาทิตย์ส่งข้อความมาว่า
“ผมรู้ครับว่าวิวข้างหน้าที่คุณมองอยู่สวย แต่คงไม่สวยเท่าวิวที่ผมมองอยู่ตอนนี้”
วิไลลักษณ์เปิดดูรูปที่อาทิตย์แนบตามมา พบว่าเป็นรูปตัวเองจากด้านหลัง
วิไลลักษณ์ตกใจหันขวับไป พอเห็นอาทิตย์แล้วต้องชะงัก
“คุณอาทิตย์”
วิไลลักษณ์ลุกขึ้นด้วยความโกรธ จะเดินหนี อาทิตย์รีบตามไปคว้ามือไว้
“คุณวิไลลักษณ์ฟังผมก่อนครับ”
“ไม่ค่ะ! วิไลไม่อยากฟัง” วิไลลักษณ์สะบัดมือออก จะเดินหนี
รัฐรวี กับมณฑิราเดินเข้ามาด้วยกัน
มณฑิราเรียกไว้ “คุณหนูคะ”
วิไลลักษณ์ชะงักอึ้งไป เห็นการแต่งตัวของมณฑิราที่ดูธรรมดากว่าปกติ ก็รู้ทันทีว่าตนโดนมณฑิราหลอก
“คุณอาทิตย์กับนายวีเค้ามาเที่ยวที่นี่เหมือนกันค่ะ บังเอิญจังเลยนะคุณหนู” “เห็นคุณมณบอกว่า ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันกันใช่ไหมครับ คุณอาทิตย์ชวนคุณวิไลลักษณ์ไปกินข้าวสิครับ ผมจะได้ชวนคุณมณไปกินข้าวด้วย” รัฐรวีบอก
วิไลลักษณ์ชะงัก มองมณฑิราที มองอาทิตย์ที
อ่านต่อหน้า 2
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 8 (ต่อ)
ไม่นานต่อมา วิไลลักษณ์ดึงมณฑิราในคราบสาวใช้มณฑามาคุยที่มุมหนึ่ง
“คุณมณไม่เห็นบอกวิไลเลยค่ะว่าคุณอาทิตย์ก็จะมาที่นี่”
“ถ้าฉันบอกวิไลจะยอมมาเหรอจ๊ะ”
“ก็วิไลไม่อยากเจอหน้าเค้านี่คะ”
“วิไล ที่ฉันทำแบบนี้ เพราะฉันสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดระหว่างเธอกับคุณอาทิตย์”
“แต่วิไลเห็นกับตานะคะคุณมณว่าเขาอยู่ด้วยกัน เป็นใครก็ทนไม่ได้หรอกค่ะ”
มณฑิรายิ้ม “ตอนนี้ใครๆ ก็คงมองเห็นเธอเป็นคุณหนู ส่วนชั้นก็เป็นแค่คนติดตามเธอไม่ใช่เหรอจ๊ะ สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่อย่างที่มันเป็นเสมอไปนะจ๊ะวิไล ยังไงวิไลลองฟังคุณอาทิตย์เค้าอธิบายก่อนไหม”
“วิไลไม่อยากฟังค่ะ วิไลขอกลับห้องได้ไหมคะ”
“แล้ววิไลจะให้ชั้นกินข้าวคนเดียวเหรอ”
วิไลลักษณ์คิดหนัก
สักครู่หนึ่งสองสาวเดินกลับเข้ามา ขณะรัฐรวี และอาทิตย์ยืนรออยู่ที่เดิม
“วิไลไปกินข้าวกับคุณอาทิตย์ก็ได้ค่ะ แต่ต้องให้พี่มณไปกินด้วยนะคะ”
“ได้สิครับ งั้นผมขออนุญาตชวนนายวีนั่งกินด้วยกันนะครับ”
รัฐรวียิ้มขอบคุณอาทิตย์ วิไลลักษณ์ไม่พอใจ ที่เห็นคนขับรถอาทิตย์ ทำก้อร่อก้อติกกับคุณหนูของเธอ
ร้านอาหารบรรยากาศ สวย ในรีสอร์ท กลางวัน
บนโต๊ะอาหารมีกับข้าว 4-5 อย่าง รัฐรวี มณฑิรา อาทิตย์ วิไลลักษณ์นั่งกินข้าวกันอยู่
รัฐรวีนั่งติดกับอาทิตย์และหันหน้าตรงกับมณฑิรา ส่วนอาทิตย์นั่งหันหน้าตรงกับวิไลลักษณ์
อาทิตย์ตักแกงส้มชะอมกุ้งให้วิไลลักษณ์
“แกงส้มชะอมกุ้งครับคุณวิไลลักษณ์”
วิไลลักษณ์ตักกุ้งคืนใส่จานอาทิตย์ “วิไลไม่อยากกินกุ้งค่ะ ไม่อยากมีขี้อยู่ที่หัวเหมือนกุ้ง แค่นี้วิไลก็โง่พออยู่แล้ว”
อาทิตย์ชะงัก อึ้งไป แต่ไม่ละความพยายามจะง้อ หันไปตักปลาให้วิไลลักษณ์
“งั้นกินปลาหน่อยนะครับ”
“ก็ดีค่ะ เผื่อกินปลาแล้วจะทำให้วิไลฉลาดขึ้น”
รัฐรวีมองสงสารอาทิตย์ มณฑิราได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
รัฐรวีเปลี่ยนเรื่องตักยำให้มณฑิรา “คุณมณลองทานยำสิครับ ของเค้าสดมากเลย”
มณฑิราตักทาน “รสชาติจัดจ้านด้วยค่ะ” พลางหันมาทางวิไลลักษณ์ “อร่อยมากเลยนะคะคุณหนู คุณหนูชอบทานรสจัดไม่ใช่เหรอคะ”
“งั้นผมตักให้นะครับ” อาทิตย์รีบตักยำให้วิไลลักษณ์ “ทานสิครับคุณวิไลลักษณ์”
วิไลลักษณ์มองทุกคนที่พยายามคะยั้นคะยอเกินเหตุแล้วรู้สึกอึดอัดขัดใจ
“วิไลไม่อยากกินแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษค่ะ”
วิไลลักษณ์ลุกเดินออกไปทันที มณฑิราตกใจ “อ้าว! คุณหนูคะ”
“คุณวิไลลักษณ์” อาทิตย์จะตามไป มณฑิราห้ามไว้
“มณว่าอย่าเพิ่งตามไปเลยค่ะ ตอนนี้คุณหนูกำลังโกรธ พูดอะไรก็คงไม่ฟังหรอกค่ะ”
อาทิตย์เศร้าหนัก
รัฐรวีบอกกับมณฑิราว่า
“ผมว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะครับ”
ขณะเดียวกันนั้น ภูวเดชจอดรถที่หน้ารั้วบ้านมณฑิรา แล้วบีบแตรรถหลายที กุ๊กกิ๊กเปิดประตูรั้วเดินมาที่รถภูวเดช คุณต๋อยตามหลังกุ๊กกิ๊กมา
“คุณมณไม่อยู่ค่ะคุณภู ไปต่างจังหวัด อีกสักสองสามวันถึงจะกลับค่ะ”
“คุณมณบอกรึเปล่าว่าไปที่ไหน” คุณต๋อยกะกุ๊กกิ๊กตอบพูดพร้อมกันแต่ไปคนละทิศ
คุณต๋อยว่า “บอกค่ะ” / กุ๊กกิ๊กบอก “ไม่ได้บอกค่ะ”
กุ๊กกิ๊กตกใจ “คุณต๋อย!”
คุณต๋อยยิ้มเจ้าเล่ห์ เดินมาหาภูวเดช “คุณมณบอกป้าค่ะ แต่ไม่ให้ป้าบอกใคร แต่ป้าก็ไม่ได้บอกใครนะคะ แค่พูดดังๆ แล้วคุณภูมาได้ยินเอง ใช่ไหมคะ?”
ภูวเดชยิ้มกับคุณต๋อย
ภูวเดชไปแล้ว ขณะคุณต๋อย กุ๊กกิ๊กเดินกลับเข้าบ้าน
“ทำไมคุณต๋อยไปบอกคุณภูล่ะคะว่าคุณมณไปไหน”
“ชั้นก็ไม่ได้อยากบอกหรอก แต่มาคิดดูอีกที มีคุณภูคอยตามเกาะแกะคุณมณก็ยังดีกว่าปล่อยให้คุณมณไปคบหาอยู่กับตาคนขับรถนั่น!”
“อ๋อ ปากสว่างแบบมีเหตุผล” สาวใช้จอมเจ๋อชูนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้คุณต๋อย “สุดยอดไปเลยค่ะ!”
คุณต๋อยแว้ดใส่ “แกด่าชั้นเหรอนังกุ๊กกิ๊ก!”
ริมทะเลบ่ายคล้อย วิไลลักษณ์เดินเซ็งอยู่ริมทะเล ได้ยินเสียงกีต้าร์ พร้อมเสียงร้องเพลงดังมา
“หากวันนั้น ฉันทำอะไร ที่ไม่ดีที่ผิดไป อยากจะขอให้ลืมมันไป ได้ไหม กลับมารักกัน...”
วิไลลักษณ์เดินตามเสียงมา พบว่าเป็นอาทิตย์ที่เล่นกีต้าร์ ร้องเพลงเดินมาหาวิไลลักษณ์
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ได้ไหมเธอ ยังรอเธอเสมอ ทุกครั้งที่หายใจ ไม่อยากมีชีวิต อ้างว้างอีกต่อไป ก็มันทนไม่ไหวจริงๆ เพราะหัวใจรักแค่เธอ”
วิไลลักษณ์มองอาทิตย์นิ่ง แล้วเดินเข้าไปหา อาทิตย์ใจชื้นคิดว่าวิไลลักษณ์ใจอ่อน
จู่ๆ วิไลลักษณ์เข้ามาคว้าคอกีตาร์ไว้ ทำให้อาทิตย์เล่นต่อไม่ได้
“พอเถอะค่ะ! วิไลลักษณ์จะไม่เชื่อคุณอีกต่อไปแล้ว”
อาทิตย์อึ้ง วิไลลักษณ์หันกลับเดินหนีไป อาทิตย์วางกีตาร์ แล้ววิ่งลงทะเลไปยืนแค่ขา
อาทิตย์ตะโกนขึ้นว่า “ถ้าคุณวิไลลักษณ์ไม่ยอมฟัง ผมจะเดินลงทะเลเรื่อยๆ”
วิไลลักษณ์หยุดหันมา “อยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ”
วิไลลักษณ์หันหลังเดินไป อาทิตย์เสียใจ ตัดสินใจเดินลงทะเล วิไลลักษณ์หันไปมอง เห็นอาทิตย์เดินลงทะเลถึงเอว
วิไลลักษณ์ชะงักที่อาทิตย์ทำจริงๆ
อาทิตย์หันกลับมาถามอีก “ตกลงคุณวิไลลักษณ์จะฟังผมอธิบายไหมครับ”
วิไลลักษณ์ยังนิ่ง อาทิตย์หันกลับเดินลงทะเลไปเรื่อยๆจนถึงคอ
วิไลลักษณ์เริ่มใจไม่ดี “คุณอาทิตย์ขึ้นมาเถอะค่ะ”
ทันใดนั้นน้ำทะเลซัด ร่างอาทิตย์จมน้ำไปทันที
วิไลลักษณ์ตกใจมาก “คุณอาทิตย์”
ไวเท่าความคิด วิไลลักษณ์รีบลงทะเลไปช่วลากอาทิตย์ขึ้นมาทันที
วิไลลักษณ์พาอาทิตย์ที่ร้องไห้ขึ้นมาจากทะเล
อาทิตย์ร้องไห้น่าเวทนา “ปล่อยผมครับ ในเมื่อคุณวิไลลักษณ์ไม่ให้อภัย ผมก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ผมตายดีกว่า!”
“คุณจะบ้าเหรอคะคุณอาทิตย์”
“ใช่! ผมมันบ้า บ้าที่ไปหลงเชื่อคุณอิงอร บ้าที่ทำให้คุณวิไลลักษณ์เสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผมรักคุณวิไลลักษณ์คนเดียว! คุณได้ยินไหม ผมรักคุณคนเดียว!”
วิไลลักษณ์อึ้งไป
อาทิตย์สวมกอดวิไลลักษณ์ “เรื่องคุณอิงอรมันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะครับ คืนนั้นคุณอิงอรเค้าเมามากครับ ผมต้องขับรถไปส่งที่คอนโด ผมบอกเค้าว่าผมอยากเป็นแค่เพื่อน เพราะผมรักคุณวิไลลักษณ์คนเดียว! คุณอิงอรเธอเสียใจเลยให้ผมดื่มเป็นเพื่อนเธอ... แต่ผมก็ดันเมาหลับ ผมสาบานนะครับว่าผมกับคุณอิงอรไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ... คุณวิไลลักษณ์เชื่อผมนะครับ”
วิไลลักษณ์มองอาทิตย์ ชักเริ่มใจอ่อน
“เชื่อผมนะครับคุณวิไลลักษณ์ ผมรักคุณคนเดียวจริงๆ”
“ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายนะคะที่วิไลลักษณ์จะเชื่อคุณ”
อาทิตย์ดีใจ “ครับ ผมสัญญา ผมสัญญา”
อาทิตย์ดึงวิไลลักษณ์มากอดด้วยความดีใจ วิไลลักษณ์กอดตอบอาทิตย์
รัฐรวี มณฑิราแอบดูอาทิตย์ กับวิไลลักษณ์อยู่ริมหาด สองคนยิ้มดีใจที่แผนสำเร็จ รัฐรวีจะแตะมือไฮไฟว์มณฑิรา มณฑิรายกมือจะไฮไฟว์ด้วย แล้วชะงักเปลี่ยนใจ
“กะล่อนนะนายน่ะ! ถึงขนาดฆ่าตัวตายเลยเหรอ”
“เฮ้ย! ของผมแค่ดีดกีตาร์ง้อ ไอ้เดินลงทะเลของคุณอาทิตย์เอง”
มณฑืราหมั่นไส้ “เหรอ แล้วนายดีดกีตาร์ง้อสาวมากี่คนแล้วล่ะ”
“หึงเหรอครับ?... นี่ถ้าผมเดินลงทะเลบ้าง คุณจะลงไปช่วยผมไหม”
“ชั้นจะจ้างคนขี่เจ็ทสกีมาชนนายซ้ำ”
“อย่างนี้สินะที่เค้าเรียกว่า” รัฐรวีชี้ปากมณฑิรา แล้วชี้หัวใจตัวเอง “ปากไม่ตรงกับใจ”
มณฑิรายิ้มขำ
เย็นนั้นรัฐรวี อาทิตย์กำลังช่วยกันจุดเตาถ่านสำหรับย่างบาบีคิว
รัฐรวีคุยกับอาทิตย์เบาๆ “เมื่อกี้ตอนแกแกล้งจมน้ำเหมือนจริงมากเลยว่ะ”
อาทิตย์กระซิบตอบเบาๆ “ไม่ได้แกล้งครับ ผมจมจริง” รัฐรวีตกใจ “ก็ขาผมดันเป็นตะคริว ถ้าคุณวิไลลักษณ์ใจแข็งไม่ลงไปช่วย ไอ้ทิตย์ได้ไปนอนคุยกับปะการังแน่ครับ” รัฐรวีขำๆ “แต่ยังไงก็ขอบคุณคุณวีมากนะครับที่ช่วยผมง้อคุณวิไลลักษณ์จนสำเร็จ”
โทรศัพท์อาทิตย์ดัง อาทิตย์หยิบมาดูเห็นว่าเป็นอิงอรโทร.มา
“คุณอิงอรโทร.มาอีกแล้วครับคุณวี! นี่จะรอบที่ร้อยแล้วมั้ง เอาไงดีครับ รับหรือไม่รับดีครับ”
“จะรับไม่รับก็เรื่องของแก แต่อย่าให้เค้าโกรธแล้วพาลมาลงกับธุรกิจที่ทำกับฉันก็แล้วกัน”
อาทิตย์มองโทรศัพท์ “งั้นไม่รับก็แล้วกันครับ เดี๋ยวเบื่อก็คงเลิกโทรไปเอง”
อิงอรอยู่ที่ไหนสักแหน่ง นางกำลังโทร.หาอาทิตย์ เห็นว่าอาทิตย์ไม่ยอมรับสาย อิงอรโกรธมาก ”คิดเหรอว่าจะหนีพ้น” อิงอรครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดี
โทรศัพท์เครื่องอาทิตย์เงียบไป อาทิตย์โล่งอกเก็บมือถือ ทันใดนั้นโทรศัพท์รัฐรวีดัง รัฐรวีหยิบมาดู เห็นว่าเป็นอิงอรโทร.มา รัฐรวีเหวอ “วางสายจากแกแต่โทร.มาหาฉันแทน! เอาไงดีวะไอ้ทิตย์ รับหรือไม่รับดี”
อาทิตย์ย้อน “จะรับไม่รับก็เรื่องของคุณวีครับ แต่อย่าให้เค้าโกรธแล้วพาลมาลงกับธุรกิจที่ทำกับคุณวีก็แล้วกัน”
รัฐรวีเซ็ง เงื้อเท่จะเตะ อาทิตย์รีบวิ่งหนี รัฐรวีตัดสินใจไม่รับ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไป
ฝ่ายอิงอรรอสายจนสายตัด กดวางสายอย่างเคืองแค้น
“คนอย่างอิงไม่ยอมถูกทิ้งง่ายๆหรอก!”
อิงอรแค้นสองหนุ่มมากๆ สีหน้าแววตาของหล่อน บอกว่าไม่มีทางยอมแพ้
อ่านต่อหน้า 3
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 8 (ต่อ)
เย็นวันนั้น ระหว่างที่ส้มโอนั่งเคลียร์งานอยู่ในออฟฟิศ เตรียมจะกลับบ้าน อิงอรเดินเข้ามา
“ส้มโอรู้ไหมว่าพี่วีไปไหน” ส้มโออึกอัก “คุณวีไปต่างจังหวัดค่ะ” “ที่ไหน” อิงอรมองคาดคั้น “ปราณบุรีค่ะ” “ไปกับคุณอาทิตย์ใช่ไหม” “ใช่ค่ะ”
อิงอรเดินฉับๆ ออกไปทันที ส้มโอมองตามอย่างงุนงง
“ทำไมคุณอิงเรียกนายอาทิตย์ว่าคุณอาทิตย์”
ทางฝ่ายภูวเดชขับรถเข้ามาจอดที่หน้ารีสอร์ต ก้าวลงจากรถวางมาดอย่างเท่ห์หล่อ ก่อนจะถอดแว่นกันแดดออก
ด้านรัฐรวี มณฑิรากำลังปิ้งบาร์บีคิวอยู่ วิไลลักษณ์มองรัฐรวีตาขุ่นไม่พอใจที่เห็นเขาใกล้ชิดมณฑิราเกินงาม
“พี่มณคะ! พอแล้วค่ะ ที่เหลือให้นายวีทำก็ได้ พี่มณมากินด้วยกันเถอะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ อีกเดี๋ยวก็จะสุกแล้ว คุณหนูทานก่อนเถอะค่ะ”
รัฐรวีกระซิบมณฑิรา “ที่ยังไม่ไปเพราะอยากอยู่ใกล้ผมใช่ไหม”
“เมื่อไหร่โรคขี้ตู่ของนายจะหายสักที”
วิไลลักษณ์มองค้อนรัฐรวีที่สนิทสนมกับมณฑิราแล้วไม่ชอบใจ หันไปหาอาทิตย์
“คุณอาทิตย์...ช่วยไปบอกนายวีให้เลิกมาเกาะแกะพี่มณได้ไหมคะ วิไลลักษณ์ไม่ชอบ”
อาทิตย์งง “อ้าว ทำไมล่ะครับ จริงๆ ต้องถือเป็นโชคดีของพี่มณด้วยซ้ำนะครับที่นายวีชอบ”
วิไลลักษณ์ยิ่งไม่พอใจ “นี่คุณอาทิตย์คิดว่าพี่มณเป็นคนยังไงคะ แค่คนขับรถมาชอบก็ต้องถือเป็นโชคดีขนาดนั้น?”
“ใจเย็นๆ ครับ ผมไม่ได้ดูถูกพี่มณ ผมหมายความว่า นายวีเป็นคนดี ไม่ติดเหล้า ไม่เจ้าชู้ เค้าต้องดูแลพี่มณได้ดี ผมรับประกันเลยครับ”
วิไลลักษณ์ยังไม่วางใจอยู่ดี
สักครู่มือถือมณฑิราสั่น มณฑิราหันไปหยิบมือถือมาดู เห็นมี 18 Missed call กับ Line จากภูวเดชเข้ามา
มณฑิราเปิดอ่านข้อความว่า “ตอนนี้ผมอยู่รีสอร์ตที่คุณมณพัก ผมจะรออยู่ที่นี่จนกว่าจะได้คุยกับคุณ”
มณฑิราเซ็ง จำต้องหันไปบอกรัฐรวี
“ชั้นขอกลับไปเอาของที่ห้องแป๊ปนึงนะ”
“ผมไปส่งนะครับคุณมณ”
“ไม่เป็นไร ใกล้แค่นี้เอง นายอยู่ดูแลคุณหนูกับคุณอาทิตย์เถอะ”
มณฑิรารีบเดินออกไป รัฐรวีแปลกใจที่มณฑิราดูรีบร้อนผิดปกติ
วิไลลักษณ์กับอาทิตย์เดินเข้ามา วิไลลักษณ์เห็นมณฑิราเดินออกไปไกลแล้ว ท่าทางรีบร้อนก็หันมาถามรัฐรวีอย่างแปลกใจ “พี่มณไปไหนเหรอนายวี” “บอกว่าจะกลับไปเอาของที่ห้องครับ”
วิไลลักษณ์แปลกใจจึงขอตัว รีบตามมณฑิราไป
วิไลลักษณ์เดินตามมณฑิราที่หน้าห้องพัก
“มีอะไรรึเปล่าคะคุณมณ”
“คุณภูวเดชส่งข้อความมาบอกว่าอยู่ที่ล๊อบบี้รีสอร์ตแล้ว”
วิไลลักษณ์ตกใจชะงัก
“งั้นเดี๋ยววิไลช่วยคุณมณเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะ”
มณฑิราในคราบมณฑาเดินเข้ามาในห้อง โดยวิไลลักษณ์เดินไปหยิบเสื้อผ้าให้เปลี่ยน
สักครู่หนึ่ง มณฑิราอยู่ในคราบคุณหนูมณฑิรา แต่งตัวสวยออกจากห้องน้ำ
วิไลลักษณ์รีบเข้าไปช่วยแต่งหน้าทำผมให้
ขณะที่ภูวเดชนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ของรีสอร์ต มณฑิราที่เปลี่ยนชุดคุณหนูแล้ว เดินเข้ามา
"คุณภูคะ”
ภูวเดชหันไปเห็นมณฑิรา ก็รีบลุกไปหาทันที “คุณมณ” “คุณภูมาหามณถึงที่นี่มีเรื่องอะไรคะ” นำเสียงมณฑิราไม่พอใจนัก
ภูวเดชใช้ลูกอ้อน “ผมอยากเจอคุณมณน่ะครับ แล้วก็อยากจะขอโทษเรื่องคืนนั้นด้วย”
“เท่านี้ใช่ไหมคะ” มณฑิราหงุดหงิดปนรำคาญ พูดอย่างตัดไมตรี
“คุณมณใจร้ายจัง มาเที่ยวไม่เห็นชวนผมบ้างเลย นี่คุณมณมากับใครเหรอครับ”
“มากับวิไล เด็กที่บ้านน่ะค่ะ”
“ผู้หญิงสองคนมาเที่ยวที่ไกลๆแบบนี้มันอันตรายนะครับ ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนดีกว่านะครับ คุณมณพักอยู่หลังไหน เดี๋ยวมื้อเย็นผมมารับไปทานข้าวดีไหมครับ”
“เชิญคุณภูตามสบายเถอะค่ะ มณไม่อยากไป”
“งั้นให้ผมซื้อมาทานกับคุณมณที่บ้านไหมครับ” ภูวเดชตื้อไม่เลิก
มณฑิราชักเหลืออด
“คุณภูคะ! มณคิดว่าพูดแบบนี้แล้วคุณภูจะเข้าใจซะอีก แต่ในเมื่อพูดอ้อมๆแล้วคุณภูไม่เข้าใจ มณขอพูดตรงๆเลยแล้วกันค่ะ เลิกตามตื๊อมณเถอะค่ะ มณคิดกับคุณภูแค่เพื่อน แล้วก็คงไม่มีทางเป็นอะไรไปมากกว่านี้ด้วย”
ภูวเดชอึ้ง นึกถึงรัฐรวีแล้วแค้น “นี่ ที่คุณมณกล้าพูดกับผมแบบนี้ เป็นเพราะไอ้…เอ่อ รัฐรวีใช่ไหมครับ”
มณฑิราแทรกทันที “ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นค่ะ นิสัยเราเข้ากันไม่ได้หรอกค่ะคุณภู ถ้าคุณภูยังอยากเป็นเพื่อนกับมณ ก็ขอให้เข้าใจตามนี้นะคะ มณขอตัวก่อนค่ะ”
มณฑิราเดินหนีไปเลย ภูวเดชโกรธ แต่ไม่ยอมแพ้ รีบวิ่งตามไป
ภูวเดชวิ่งตามมาดักหน้ามณฑิราไว้
“คุณมณครับ! เดี๋ยวครับคุณมณ! ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณมณโกรธ แต่คุณมณอย่าไล่ผมแบบนี้เลยครับ ให้ผมอยู่นะครับ”
“ไม่ได้ค่ะ!! มณมาที่นี่เพราะต้องการพักผ่อน”
“ผมสัญญาครับว่าผมจะไม่ทำให้คุณมณรำคาญใจแม้แต่นิ๊ดเดียว”
“มณขอโทษนะคะที่ต้องเสียมารยาท แต่ขอเวลาส่วนตัวให้มณบ้างเถอะค่ะ”
“แต่ผมอุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกลเพราะเป็นห่วงคุณมณนะครับ”
“กลับไปเถอะค่ะคุณภู! มณขอร้อง...” ภูวเดชอ้าปากจะพูด มณฑิรารีบแทรก “แล้ว ถ้ามณเห็นว่าคุณภูยังอยู่ มณจะโกรธแล้วก็ไม่พูดกับคุณภูอีกเลย”
มณฑิราเดินออกไปทันที ภูวเดชมองตามเซ็งๆ
“ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก!”
ไฮโซติงต๊องคิดแผนว่าจะทำไงดี
ฝ่ายวิไลลักษณ์กระวนกระวายห่วงมณฑิราอยู่ในห้องพัก รออยู่สักครู่หนึ่ง มณฑิราที่กลับมาเปลี่ยนชุดเป็นมณฑา เดินกลับเข้ามา
วิไลลักษณ์พูดเบาๆ “เป็นไงบ้างคะคุณมณ”
“ฉันไล่คุณภูกลับไปแล้วล่ะ รีบไปเถอะจ้ะ เดี๋ยวสองคนนั้นสงสัย”
มณฑิราเข้าไปเปลี่ยนชุด วิไลลักษณ์รู้สึกแย่ที่ทำให้มณฑิราลำบาก
ฟากภูวเดชกำลังคุยกับพนักงานโรงแรมที่เคาน์เตอร์
“ไม่มีห้องพักว่างเลยเหรอครับ”
“ค่ะ ช่วงลองวีคเอนด์ แขกจองเต็มหมดทุกห้องเลยค่ะ”
“แค่ห้องเดียวก็ไม่มีเลยเหรอครับ”
“ต้องขอประทานโทษลูกค้าจริงๆค่ะ”
ภูวเดชขัดใจ หันรีหันขวาง ครุ่นคิดแล้วหันไปถามพนักงาน
“แล้วใกล้ๆ นี่มีโรงแรมหรือรีสอร์ทอีกไหมครับ”
“ไม่มีเลยค่ะ ใกล้ที่สุดก็ห่างจากที่นี่ไป 8 กิโลค่ะ”
ภูวเดชตกใจ “8 กิโลเลยเหรอครับ!”
ภูวเดชยืนเซ็ง อยู่ๆ ก็ท้องร้องเสียงดังมาก ภูวเดชชะงัก พนักงานยิ้มขำ
“ขอบคุณครับ...” ภูวเดชยิ้มแหยๆ อายพนักงานเดินออกมา จับท้องที่ร้องเพราะหิว “ไปหาอะไรกินแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่แล้วกัน!”
ภูวเดชจำต้องเดินออกไป
ที่มุมบาร์บีคิวในรีสอร์ต มณฑิราเปลี่ยนเป็นชุดมณฑาแล้ว พร้อมวิไลลักษณ์เดินกลับเข้ามาตรงนั้น
“ทำไมไปเอาของนานจังครับคุณมณ”
วิไลลักษณ์ขวางหูขวางตา “พี่มณเค้าจะไปเร็วไปช้ามันก็เรื่องของเค้า นายยุ่งอะไรด้วย”
อาทิตย์แก้ให้ “นายวีเค้าเป็นห่วงพี่มณน่ะครับ เหมือนที่คุณวิไลลักษณ์ห่วงผมไงครับ”
“คุณอาทิตย์ไม่ต้องพูดดีเลยค่ะ ยังมีคดีอยู่นะคะ” วิไลลักษณ์พาลเลย
อาทิตย์จ๋อยแล้วเปลี่ยนเรื่องทันที “กินบาร์บีคิวดีกว่าครับ ผมปิ้งไว้แล้ว สุกกำลังดี ไม่ไหม้ ไม่มัน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพนะครับ”
อาทิตย์ยื่นบาร์บีคิวให้วิไลลักษณ์ ทุกคนกินบาร์บีคิวกัน
เหตุการณ์ที่กรุงเทพฯ คืนเดียวกัน ขณะที่หมอฉบังกำลังนั่งเหล่ดูสาวอยู่ที่บาร์ของผับประจำ หมอหนุ่มแปลกใจที่เห็นอิงอรเดินเข้ามา “แหม มานั่งดูสาวอยู่นี่เอง ตามหาตั้งนาน” “คุณอิงมีอะไรครับ วันนี้ถึงได้ชวนผมมานี่ ปกติไม่เห็นอยากคุยกับผมเลย”
“อิงเห็นว่าพักนี้คุณหมอทำงานเครียดๆ ก็เลยอยากชวนมาผ่อนคลาย” หมอฉบังรู้เป้าประสงค์หล่อนดี “พูดตรงๆเถอะครับ” “คุณหมอเคยไปบ้านพักที่ปราณบุรีของพี่วีไหมคะ”
หมอฉบังอึ้ง “พรุ่งนี้อิงจะไปค่ะ”
หมอฉบังชะงัก “แล้วคุณหมอก็ต้องพาอิงไปด้วย”
หมอฉบังชะงักแล้วชะงักอีก
รัฐรวี กับอาทิตย์เดินมาส่งสองสาวหน้าห้องพัก วิไลลักษณ์บอกลาอาทิตย์
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” แล้วเดินเข้าห้องไปทันที
อาทิตย์จ๋อง หันมาทางมณฑิรา “บอกคุณวิไลด้วยนะครับว่าผมฝากบอกว่าฝันดี” ”ค่ะ”
อาทิตย์เดินเซ็ง ออกไปรอรัฐรวีที่รถ ” ฝากบอกคุณมณฑาด้วยนะครับว่าผมฝากบอกว่าฝันดี” รัฐรวีเล่นมุก มณฑิรา ย้อนเอาว่า ”ฝากบอกนายวีด้วยนะว่าชั้นฝากบอกว่าฝันร้าย” รัฐรวียิ้ม “พรุ่งนี้ผมมาหาคุณแต่เช้าเลยนะครับ” ”นายจะมาทำไมแต่เช้า”
รัฐรวีไม่ตอบเพียงยิ้มๆ แล้วเดินออกไป
เวลาเดียวกันนั้น ท่านนายพลรัฐกับภัสสรดูทีวีอยู่ด้วยกัน ภัสสรดูไม่มีสมาธิ เปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ สุดท้ายทนไม่ไหว กดปิดทีวีเฉยเลย
“เอ๊า! ปิดทำไมล่ะคุณ ผมดูอยู่”
“คุณ! พรุ่งนี้เราไปปราณบุรีกันดีกว่า”
“เฮ้ย! ไปทำไมคุณ”
“ชั้นเป็นห่วงหนูมณ”
“คุณ! ตาวีลูกเราเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ทำอะไรหนูมณหรอก”
“ก็ชั้นกลัวตาวีจะไม่ทำอะไรนี่แหละ” รัฐฟังแล้วงง “หมายถึงไม่ดูแลไม่เอาใจ! หนูมณอุตส่าห์ยอมไปเที่ยวด้วยทั้งที เกิดตาวีมัวแต่เงอะๆ งะๆ คุณหญิงจะว่าได้ว่าดูแลหลานท่านไม่ดี”
รัฐส่ายหน้าอ่อนใจ
มณฑิรากลับเข้าห้องมา วิไลลักษณ์ที่ท่าทางหงุดหงิดรีบบอกทันที
“คุณมณคะ วิไลว่าจะสารภาพความจริงกับคุณอาทิตย์แล้วค่ะ”
มณฑิราแปลกใจ “ทำไมอยู่ๆวิไลพูดถึงเรื่องนี้ ยังโกรธคุณอาทิตย์อยู่เหรอจ๊ะ”
“ไม่ใช่ค่ะ แต่วิไลไม่ชอบที่นายวีมาเกาะแกะคุณมณ ถ้าวิไลบอกความจริง คุณมณจะได้ไม่ต้องมาปลอมตัวเป็นคนรับใช้ แล้วนายวีจะได้เลิกยุ่งกับคุณมณสักที!”
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงชั้นหรอกจ้ะวิไล ชั้นดูแลตัวเองได้”
“แต่วิไลไม่อยากให้คุณมณต้องเดือดร้อนเพราะวิไลไปมากกว่านี้นะคะ อีกอย่าง นายวีก็ไม่เหมาะสมกับคุณมณสักนิด”
มณฑิรายิ้มขำ มองวิไลลักษณ์ที่เป็นห่วงตัวเอง “ฉันรู้จ้ะว่าวิไลเป็นห่วง แต่ถ้าฉันจะขอให้วิไลช่วยเล่นบทนี้ต่อไปอีกหน่อย วิไลจะว่ายังไงจ๊ะ”
“ทำไมล่ะคะคุณมณ”
“ฉันอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง เพียงแต่ตอนนี้ฉันยังบอกวิไลไม่ได้ เอาเป็นว่าวิไลทำตามที่ฉันขอก่อนแล้วกัน นะจ๊ะ อีกไม่นานหรอก ชั้นสัญญา” มณฑิรายิ้มมั่นใจ
วิไลลักษณ์หนักใจที่ต้องโกหกต่อไปอีก
ส่วนที่ห้องพักรัฐรวี อาทิตย์นั่งเซ็ง รัฐรวีเพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังจะเข้านอน เดินมากินน้ำ เห็นก็เข้ามาทัก “เป็นไงไอ้ทิตย์ ง้อคุณวิไลลักษณ์สำเร็จไหม”
อาทิตย์เค้าก็ยอมฟังที่ผมบอกนะครับคุณวี แต่ผมรู้สึกว่าคุณวิไลลักษณ์เขาเหมือนไม่เชื่อผม... ผมจะทำยังไงดีครับ ผมรักคุณวิไลลักษณ์จริงๆนะครับคุณวี ผมไม่เคยรู้สึกกับใครเท่านี้มาก่อนเลย
“งั้นแกก็ต้องทำให้คุณวิไลลักษณ์เค้าเชื่ออย่างที่แกบอกฉันซะก่อน”
อาทิตย์คิดหนักว่าจะทำยังไง มือถือรัฐรวีดัง รัฐรวีเอามาดูแล้วกดรับสาย
“ว่าไงครับพ่อ”
รัฐอยู่ในบ้าน กำลังคุยโทรศัพท์กับลูกชาย
“พรุ่งนี้แม่แกเค้าชวนให้ไปหาแกที่ปราณบุรี”
รัฐรวีตกใจ “ห๊ะ ก็ไหนแม่สัญญากับผมแล้วว่าจะไม่มาไงคับ”
อาทิตย์ได้ยินก็ตกใจไปด้วย
“ใช่ แต่แม่แกเค้าทนไม่ไหว จะไปดูแกกับหนูมณฑิราให้ได้”
“ซวยแล้วครับ คุณมณฑิราเค้าอยู่กรุงเทพครับพ่อ”
รัฐงง “อ้าว! นี่แกกับหนูมณฑิราอยู่กรุงเทพฯกันเหรอ” “ผมอยู่ปราณบุรีครับ แต่คนที่ผมพามาด้วยคือคุณมณฑา ไม่ใช่คุณมณฑิราครับ” รัฐตกใจร้อง “ห๊ะ”
ที่ห้องพักในรีสอร์ท มณฑิรากำลังคุยมือถือกับภัสสร
“คุณอากำลังมาหามณที่ปราณบุรีเหรอคะ”
ภัสสรคุยมือถือกับมณฑิราด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดสุด “ใช่จ้ะ เอ๊ะ อาไปรบกวนเรากับตาวีรึเปล่าลูก”
“ไม่เลยค่ะ” มณฑิราเหมือนคิดอะไรได้ “งั้นพรุ่งนี้พบกันนะคะ สวัสดีค่ะ”
มณฑิราวางสาย นึกสนุก ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเต็มใบหน้า
อ่านต่อหน้า 4
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 8 (ต่อ)
ตรงมุมสบายภายในล็อบบี้รีสอร์ต รัฐรวีกับอาทิตย์นั่งเครียดอยู่บริเวณนั้น สองหนุ่มกำลังร้อนรนใจเรื่องที่รัฐกับภัสสรจะเดินทางมาที่รีสอร์ตพรุ่งนี้
“ซวยแล้วๆๆ ถ้าคุณผู้หญิงมา คุณวิไลลักษณ์ก็จะรู้ความจริงเรื่องที่ผมปลอมตัวเป็นคนรวยไปหลอกจีบเค้า เค้าต้องโกรธแล้วทิ้งผมไปแน่ๆ”
“แกซวยคนเดียวซะที่ไหน ถ้าความแตกขึ้นมาฉันก็ซวยเหมือนกัน”
“ซวยยังไงครับ ถ้าพี่มณรู้ว่าคุณวีที่จริงเป็นคนรวย เค้าก็ชอบใจไปเท่านั้น”
“ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องโดนทิ้ง แต่ฉันห่วงว่าถ้าแม่รู้ว่าฉันแอบคบกับสาวใช้ แม่จะว่ายังไง”
อาทิตย์นึกได้ “แล้วถ้าท่านรู้ว่าผมเป็นพ่อสื่อ มีหวังท่านเอาผมตายแน่”
รัฐรวี อาทิตย์กลัดกลุ้ม คิดว่าจะทำยังไงดี
มือถือรัฐรวีดัง รัฐรวีดูเบอร์เห็นว่ามณฑิราโทร.มาก็รีบรับสาย
“สวัสดีครับคุณมณ”
อีกมุมหนึ่งในรีสอร์ต มณฑิรายืนคุยโทรศัพท์กับรัฐรวีอยู่ตรงนั้น
“เมื่อกี๊คุณแม่คุณวีโทร.มาหามณค่ะ บอกว่าพรุ่งนี้จะมาหาเราสองคนที่ปราณบุรี”
“ครับ ผมกำลังกลุ้มใจอยู่เลยว่าจะทำยังไงดี ต้องขอโทษคุณมณด้วยนะครับ เลยทำให้วุ่นวายไปด้วย”
“แล้วคุณบอกความจริงท่านไปรึยังคะ”
“เอ่อ...ยังเลยครับ”
“งั้นเอาอย่างนี้ไหมคะ มณมีวิธีที่จะช่วยคุณได้”
รัฐรวีงงว่าวิธีอะไร
มณฑิรายิ้ม
วันรุ่งขึ้นภูวเดชเดินท่าทางร่าเริง เข้ามาในรีสอร์ตตอนเช้า พร้อมกับของกินหลายอย่างในมือ
เขายิ้มย่องมองของกินนั้น “ของทะเลสดๆทั้งนั้น คุณมณต้องชอบแน่ๆ”
ภูวเดชมองไปเห็นรัฐ กับภัสสรเดินผ่านมาไกลๆ ภูวเดชรีบแอบหลบดูทันที
“นั่นมันพ่อแม่ไอ้รัฐรวีนี่…หรือว่า”
ภูวเดชรีบแอบตามรัฐกับภัสสรไป
ด้านรัฐรวียืนกระวนกระวายอยู่ด้านหน้ารีสอร์ต ขณะรัฐ กับภัสสรเดินเข้ามา
“ตาวี!”
“คุณพ่อคุณแม่ มาถึงกันแล้วเหรอครับ”
“น่าจะมาถึงเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่พ่อเราน่ะสิเดี๋ยวลืมโน่น แวะนี่ วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้” ภัสสรค่อน
รัฐมองรู้กันกับรัฐรวี “คนแก่ก็อย่างนี้แหละ ใช่ไหมตาวี”
“ครับ พ่อครับแม่ครับ ผมว่าเราออกไปกินร้านข้างนอกกันดีกว่า”
“จะต้องออกไปทำไมให้วุ่นวาย นี่แม่เพิ่งรู้ว่าคุณนฤมลเค้าเป็นหุ้นส่วนอยู่ที่นี่ด้วย เดี๋ยวเจอหน้าเค้าถามว่าร้านอาหารของเค้าเป็นยังไง ถ้าแม่ตอบไม่ได้ เค้าคงเคืองแม่ตายเลย”
รัฐรวีท้วง “แต่ผมจองร้าน...”
ภัสสรขัดขึ้น “ไม่ต้องพูดแล้วตาวี แม่จะทานที่นี่ แล้วหนูมณฑิราอยู่ที่ไหน”
รัฐรวีชะงักไม่รู้จะตอบยังไง รัฐเองก็ลุ้นคำตอบไปด้วย มณฑิราเดินเข้ามาจากมุมหนึ่ง
“มณอยู่นี่ค่ะ”
สามพ่อแม่ลูกหันไป เห็นมณฑิราแต่งตัวเปรี้ยวเฉี่ยวราวกับหลุดออกมาจากเวทีแฟชั่นวีค เธอตรงเข้ามายกมือไหว้รัฐ กับภัสสร
“สวัสดีค่ะคุณอา”
รัฐ ภัสสรรับไหว้ยิ้มแย้ม
“สวัสดีจ้ะ ต๊าย สวยจังเลยหนูมณ”
รัฐรวีเย้า “โอ้โห มาทะเล แต่งเต็มขนาดนี้เลยเหรอครับ”
“มณเพิ่งถ่ายสัมภาษณ์หนังสือ HELLO เสร็จก็รีบมาเลยน่ะค่ะ”
รัฐรวี ภัสสร และรัฐพยักหน้าเข้าใจ ภัสสรมีท่าทางชื่นชมมณฑิรามาก
รัฐโล่งอก สบตากับรัฐรวีด้วยความแปลกใจที่มณฑิราโผล่มาทันเวลา
ระหว่างนี้ภูวเดชที่แอบตามมา เห็นมณฑิราคุยทักทายกับภัสสรกับรัฐและรัฐรวีอย่างสนิทสนมก็ขุ่นเคืองใจ
“นัดกันมาทั้งครอบครัวเลยเหรอเนี่ย มิน่าเมื่อวานถึงได้ไล่เราอย่างกับหมูกับหมา!”
รัฐ ภัสสร รัฐรวี และมณฑิราเดินไปทางร้านอาหารของรีสอร์ต รัฐรวีเดินระแวงมองซ้ายขวาหน้าหลังกลัวเจอมณฑา ภูวเดชรีบแอบตามไป
อาทิตย์นอนอยู่ในห้องพักของรีสอร์ต รัฐรวีโทร.เข้ามา เขางัวเงียคุยสาย
“ครับคุณวี”
ที่ร้านอาหารรีสอร์ตตอนนี้ รัฐ ภัสสร และมณฑิรานั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว ส่วนรัฐรวีแอบคุยมือถืออยู่ที่มุมหนึ่ง ของร้านท่าทางระวังมาก
“ไอ้ทิตย์ แกรีบไปพาคุณมณกับคุณวิไลลักษณ์ออกไปเดินเล่นไกลๆ เลยนะ พ่อกับแม่ฉันกำลังนั่งกินข้าวอยู่ร้านอาหารของรีสอร์ต”
อาทิตย์ดีดตัวตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ หายงัวเงียทันที
ไม่นานต่อมา อาทิตย์พาตัวเองมาหยุดที่หน้าห้องพักสองสาว เคาะประตูเรียก อาทิตย์อยู่ในชุดลำลองดูสบายๆยืนรอวิไลลักษณ์อยู่หน้าห้องพัก สักครู่หนึ่งวิไลลักษณ์ในชุดเที่ยวทะเลสดใสร่าเริงเปิดประตูเดินออกมา
“ผมจะมาชวนคุณวิไลลักษณ์ไปเดินเล่นชายหาดกันครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยววิไลลักษณ์ขอหยิบของก่อนนะคะ”
“แล้วพี่มณล่ะครับ ชวนไปด้วยกันสิครับ”
“อ๋อ...เอ่อ วิไลลักษณ์ให้พี่มณออกไปซื้อของให้ คงอีกนานกว่าจะกลับ เราไปกันสองคนก็ได้ค่ะ รอวิไลลักษณ์แป๊บนึงนะคะ”
วิไลลักษณ์ปิดประตูห้อง แล้วรีบกดมือถือหามณฑิราทันที
มณฑิรา รัฐรวี ภัสสร และรัฐนั่งทานข้าวกันอยู่ที่โต๊ะในร้านอาหารรีสอร์ต ท่าทางรัฐรวีไม่เป็นสุขเอาเลยเพราะกังวลปนระแวงว่ามณฑาจะเดินมาเจอ มณฑิราดูอาการก็พอจะเข้าใจ
“เป็นอะไรรึเปล่าตาวี ท่าทางแปลกๆ”
“ไม่มีอะไรครับแม่” รัฐรวีพยายามจะปกติที่สุด
มือถือมณฑิราสั่นเพราะมีสายจากวิไลลักษณ์โทร.เข้า มณฑิราเอามาดูแล้วหันไปบอกสามคน
“มณขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ” มณฑิราลุกเดินออกจากโต๊ะไป
ภูวเดชแอบมองมณฑิราอยู่ที่มุมหนึ่ง ท่าทางอยากรู้อยากเห็นมาก แต่ไม่กล้าเข้าใกล้มณฑิรามากกว่านี้ มณฑิราเดินไปที่มุมหนึ่งแล้วจึงกดมือถือรับสาย
“ฮัลโหล มีอะไรจ๊ะวิไล...วิไลไปเถอะ เดี๋ยวเรื่องนายวีฉันจัดการเอง ขอบใจจ้ะ”
มณฑิราวางสายเครื่องตัวเอง แล้วหยิบมือถือเครื่องของมณฑาออกมากดโทร.หารัฐรวี
ที่โต๊ะอาหาร มือถือรัฐรวีดัง รัฐรวีเห็นเป็นมณฑาโทร.เข้ามาก็ตกใจ รีบหยิบมือถือหลบ บอกกับภัสสรว่า
“ส้มโอโทร.มา สงสัยจะมีธุระด่วน ขอตัวแป๊บนึงนะครับ”
รัฐรวีลุกเดินห่างออกมาจากโต๊ะ สอดตามองหามณฑิรา
มณฑิราที่ทำเป็นจะเดินไปห้องน้ำ เดินมาโบกมือให้รัฐรวี แล้วชี้ว่าตนจะไปห้องน้ำ
รัฐรวีโบกมือตอบ พยักหน้ารับรู้ แล้วรอจนมณฑิราเดินพ้นไปทางห้องน้ำหญิง รัฐรวีจึงกดรับสายมณฑา
“ฮัลโหลครับคุณมณ”
มณฑิราเดินไปแอบที่มุมหนึ่ง แถวห้องน้ำหญิง สวมบทเป็นมณฑาคุยสายกับรัฐรวี
“ฉันจะโทร.มาถามทางหน่อยน่ะ พอดีคุณหนูให้ฉันออกมาซื้อของ”
รัฐรวีโล่งอก ดีใจ “นี่คุณไม่ได้อยู่ที่รีสอร์ตเหรอครับ”
มณฑิราคุยมือถือไป “ฉันออกมาได้สักพักแล้ว นายมีอะไรรึเปล่า”
“ไม่มีอะไรครับ เมื่อกี้คุณจะถามทางไปไหนนะครับ”
ภูวเดชเห็นรัฐรวีกับมณฑิรายืนคุยมือถือกันอยู่คนละมุม ก็นึกแปลกใจ และไม่เข้าใจว่าสองคนทำอะไรกันอยู่
ด้านอาทิตย์อยู่ที่ชายหาดกับวิไลลักษณ์
“ผมมีเซอร์ไพร์สให้คุณวิไลลักษณ์ด้วยนะครับ”
“อะไรคะ”
อาทิตย์ชี้ให้ดูที่ชายหาด เขียนคำว่า I รูปหัวใจ U และตกแต่งด้วยเปลือกหอยและดอกไม้อย่างสวยงาม อาทิตย์จูงวิไลลักษณ์มาดูใกล้ๆ วิไลลักษณ์มองแล้วหันไปยิ้มให้อาทิตย์
อาทิตย์หยิบกล้องมาถ่ายรูปตัวเองกับวิไลลักษณ์โดยให้ด้านหลังเห็นพื้นทรายที่เขียนและตกแต่งไว้
ขณะมณฑิรากำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะในร้าน ภูวเดชแอบเดินตามแล้วเผลอเดินไปชนโต๊ะ มณฑิราได้ยินเสียงหันไปมอง แต่ภูวเดชก้มหลบได้ทัน
มณฑิราเดินไปใกล้ห้องน้ำหญิง ภูวเดชแอบเดินตาม
มณฑิรารู้สึกเหมือนมีคนตามเลยหยุดหันมามอง ภูวเดชฉากหลบเข้าไปในห้องน้ำหญิงได้ทัน ถอนหายใจโล่งอก แต่ดันมีผู้หญิงออกจากห้องส้วมเห็นภูวเดชทำลับๆล่อๆ อยู่ในห้องน้ำ
“อ๊าย... ไอ้โรคจิต!” หญิงนางนั้นรีบวิ่งหนีออกจากห้องน้ำทันที
ภูวเดชรีบเดินออกจากห้องน้ำหญิง เจอมณฑิราที่ยืนอยู่ตรงหน้าพอดี ภูวเดชอึ้ง
“นี่คุณภูแอบตามมณใช่ไหมคะ”
“ถ้าผมไม่ตาม ผมจะรู้เหรอครับว่าคุณมณหนีมาเที่ยวกับครอบครัวไอ้ นายรัฐรวี ไหนคุณมณบอกผมว่าคุณมณมาเที่ยวกับเด็กที่บ้านสองคนไงครับ”
มณฑิราทนไม่ไหว “ถ้ามณมาเที่ยวกับครอบครัวคุณรัฐรวี แล้วคุณภูจะว่ายังไงคะ”
ภูวเดชชะงัก นิ่งงันไปที่มณฑิราพูดตัดรอน ไม่แคร์ตัวเองเลยซักนิด
“มณจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ คุณภูกลับไปเถอะ แล้วก็เลิกตามมณได้แล้ว”
“แต่ว่า...”
มณฑิราพูดต่อทันที “ถ้าคุณภูไม่กลับ ต่อจากนี้ไปคำว่าเพื่อน มณก็ให้คุณภูไม่ได้”
ภูวเดชจ๋อยสนิท จำต้องเดินออกไปอย่างเศร้าๆ
รัฐรวีวางสายจากมณฑาไม่นาน มือถือรัฐรวีก็ดังขึ้นอีก
รัฐรวีดูเบอร์แล้วกดรับ “ว่าไงไอ้หมอ...” พอเห็นรัฐเดินตรงมาที่ตัวเอง “เฮ้ย..ชั้นติดธุระอยู่ เดี๋ยวโทรกลับ” รัฐรวีกดวางสายไป ในจังหวะที่รัฐเดินเข้ามาพอดี
หมอฉบังอยู่ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง กำลังแอบอิงอรมาโทร.หารัฐรวี และจะรีบพูด
“อ้าวไอ้วี! ไอ้วี”
หมอฉบังเซ็งเป็ดรัฐรวีรีบวางสายไป อิงอรที่ซื้อน้ำจากมินิมาร์ทในปั๊มเดินมา “ทำอะไรคะคุณหมอ” อิงอรดึงมือถือจากหมอฉบังทันควัน “พี่จะโทร.บอกไอ้วีว่าเรากำลังจะไปหา” หมอบอก “ไม่ต้องโทรค่ะ อิงอยากเซอร์ไพร้ส์พี่วี” หมอฉบังงง “ก็ได้ครับ งั้นขอโทรศัพท์ผมคืนนะครับ” “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณหมอแอบส่ง Line หาพี่วี”
“แต่ว่า...” “ไม่ต้องแต่ค่ะ ขึ้นรถ”
อิงอรเดินขึ้นรถทันที หมอฉบังบ่นอุบอิบ “ทำไมเราต้องยอมเค้าง่ายๆ ด้วยวะ”
หมอฉบังเดินขึ้นรถไปเซ็งๆ
ฝ่ายรัฐกับรัฐรวียืนคุยกันอยู่ด้านนอกร้าน
“แกไปพูดยังไงหนูมณฑิราเค้าถึงยอมมาช่วยแกถึงที่นี่”
“เป็นความโชคดีของผมมากกว่าครับพ่อ เมื่อคืนนี้หลังจากวางสายจากพ่อ คุณมณก็โทร.มาบอกผมว่าแม่เพิ่งโทร.ไปบอก แล้วเธออยู่ที่หัวหินพอดี เธอก็เลยยอมมาช่วยเล่นละครให้ผมที่นี่ครับ”
”แล้วหนูมณฑาล่ะ แกพาเค้าไปหลบอยู่ที่ไหน”
“เค้าอยู่ที่รีสอร์ตกับเจ้านายเค้านี่แหละครับ”
“แล้วแกไม่กลัวเค้าเจอกันบ้างเหรอ”
“ผมถึงชวนออกไปกินข้าวข้างนอกนี่ไงครับ”
รัฐระอาเหลือ “ชั้นไม่น่าปล่อยให้แกอยู่กับไอ้อาทิตย์มากเลย กะล่อนตามมันเลย”
“ไม่ใช่ไอ้อาทิตย์หรอกครับ ทั้งหมดนี้เป็นแผนของคุณมณฑิราครับ”
นายพลรัฐยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่ พอหันไปมองเห็นว่ามณฑิราเดินกลับมานั่งที่โต๊ะกับภัสสรแล้ว
ส่วนทางฝ่ายอาทิตย์กับวิไลลักษณ์กำลังช่วยกันก่อปราสาททรายอยู่ สองคนมีความสุข มืออาทิตย์ที่ก่อปราสาททรายจับโดนมือวิไลลักษณ์ ทำเอาวิไลลักษณ์เขิน
ซักครู่วิไลลักษณ์หันไปหยิบเปลือกหอยจะเอามาตกแต่งปราสาททราย จังหวะเดียวกับที่อาทิตย์ก็จะหยิบเปลือกหอยด้วย เลยกลายเป็นวิไลลักษณ์จับโดนมืออาทิตย์
วิไลลักษณ์เขินหันหน้าหนีไปอีกทาง แต่อาทิตย์เอาหน้าไปดักไว้ ทำให้วิไลลักษณ์หันมาชนแก้มอาทิตย์อาทิตย์ขำ วิไลลักษณ์เขิน
รัฐ ภัสสร รัฐรวี และมณฑิรานั่งทานข้าวอยู่ด้วยกัน
“ทานเยอะๆนะจ๊ะหนูมณ มาถึงแหล่งก็ดีแบบนี้แหละ อาหารทะเลสด ปูเนื้อแน่นมาก” ภัสสรหันมาหารัฐรวี “ตาวี แกะปูให้หนูมณเค้าทานสิลูก”
รัฐรวีพยักหน้าหยิบปูมาแกะ “กุ้งนี่ก็เนื้อหว๊านหวาน” ภัสสรหันมาหารัฐรวีอีก “แกะกุ้งให้หนูมณด้วยนะลูก”
รัฐรวีพยักหน้า “ปลาหมึกด้วยสิลูก” แล้วหันหารัฐรวีอีก “ตาวี”
รัฐทนไม่ไหว เบรก “พอก่อนคุณ ลูกยังแกะปูไม่เสร็จเลย แล้วถามหนูมณเค้าด้วยว่าเค้าชอบทานรึเปล่า”
ภัสสรหันหามณฑิรา “อาก็ลืมถามเลย หนูมณอยากทานเพิ่มอีกหรือเปล่าจ๊ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้มณก็ทานไม่หมดแล้วค่ะ” มณฑิรายิ้ม
“งั้นเอาอย่างนี้ ถ้าหนูมณชอบทานอะไรเป็นพิเศษบอกอานะ เดี๋ยวกลับกรุงเทพฯ เราก็มาทำกินกันที่บ้านอา ตกลงนะจ๊ะ”
มณฑิรายิ้มรับ “ค่ะ”
รัฐรวีมองมณฑิรา แล้วยิ้มให้เจื่อนๆ เพราะเกรงใจที่มณฑิราต้องมาช่วยเล่นละครให้
รัฐมองเหตุการณ์ยิ้มๆ แต่แอบสังเกตท่าทีมณฑิรา ส่วนภัสสรมองรัฐรวีกับมณฑิราที่ใกล้ชิดกันแล้วเป็นปลื้ม เลยหันไปส่งซิกพยักหน้าให้สามี รัฐงงไม่เก็ต ภัสสรแกล้งพูดกับรัฐว่า “เอ้อคุณ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จ คุณพาชั้นไปเที่ยวถ้ำพญานครหน่อยสิ” “คุณเนี่ยนะจะไปเที่ยวถ้ำพญานคร” “ใช่สิคุณ จำได้ไหมตอนสมัยที่ตาวียังไม่เกิดเรายังไปเที่ยวกันเลย” “ผมจำได้ ตอนนั้นคุณยังบ่นอยู่เลยว่าเดินจนปวดขา ต่อไปไม่ต้องพาคุณไปอีก แล้วนี่คิดไงถึงจะไป” “ก็ชั้นอยากระลึกความหลัง” รัฐรู้แล้วแต่แกล้งทำไก๋ “งั้นชวนตาวีกับหนูมณฑิราไปด้วยกันสิ”
“ชวนไปทำไม ชั้นอยากไปกับคุณสองคน คุณนี่ไม่มีความโรแมนติกเลย”
รัฐมองอย่างรู้ทันภัสสร รัฐรวี มณฑิรามองอย่างรู้ทันเช่นกันว่าภัสสรอยากให้สองคนอยู่ด้วยกัน
รัฐรวีเดินคุยมากับรัฐ ส่วนภัสสรเดินคุยมากับมณฑิราตามหลัง รัฐหันไปมองมณฑิราที่คุยกับภัสสร “แล้วตกลงลูกจะเอายังไง ตั้งใจจะคบทั้งสองคนเลยเหรอ” “เปล่านะครับพ่อ ผมบอกคุณมณฑิราแล้วว่าผมชอบมณฑา คุณมณฑิราเค้าก็เข้าใจดี วันนี้เค้าถึงได้ยอมมาช่วยผมไงครับ”
รัฐติงลูกชาย “แต่พ่อไม่ชอบให้เราทำแบบนี้เลย มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ถ้าเราไม่สงสารหนูมณฑิราที่ต้องมาเล่นละครต่อหน้าพ่อกับแม่ เราก็น่าจะคิดถึงมณฑาคนที่ลูกบอกว่าชอบเค้าบ้าง”
“แต่มณฑาเค้ายังไม่รู้เลยนะครับว่าจริงๆ แล้วผมเป็นใคร”
“แล้วเราคิดจะบอกเค้าเมื่อไหร่ แล้วเค้าจะคิดยังไงถ้ารู้ว่าวันนี้เราพาผู้หญิงคนอื่นมาเจอพ่อกับแม่ แทนที่จะเป็นเค้า”
รัฐรวีอึ้ง นิ่งงันไป เพราะไม่ได้คิดถึงความรู้สึกนี้ของมณฑาเลย
รัฐรวีหันไปมองมณฑิรา แล้วนึกถึงมณฑาขึ้นมา
ภัสสรเดินคุยกับมณฑิรา “หนูมณจ๊ะ อาถามตรงๆ เลยนะ ตาวีลูกอาเป็นยังไงบ้าง” มณฑิรายิ้ม “คุณวีก็...นิสัยดีค่ะ”
“เฮ้อ อาค่อยโล่งใจหน่อย ตอนตาวีกลับมาใหม่ๆ อากลั๊วกลัวว่าตาวีจะไปคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามา ถ้าหนูมณโอเคกับตาวีแบบนี้ อาจะได้ไปคุยๆ เรื่องอนาคตกับคุณหญิงป้าของหนูมณดู... หนูไม่ขัดข้องอะไรใช่ไหมจ๊ะ”
มณฑิราเพียงยิ้ม ไม่ตอบอะไร แต่คิดในใจว่าเรื่องนี้คงจะทำให้รัฐรวีปวดหัวแน่ๆ
ภัสสรยิ้มพอใจ หมายมั่นปั้นมือมาก
อีกมุมหนึ่ง ภูวเดชยังคงตามมาแอบดูอย่างแค้นใจรัฐรวีที่มาแย่งมณฑิราไปได้
“คุณมณนะคุณมณ ทีอยู่กับมันละก็มีความสุข!”
ยิ่งคิด ภูวเดช ก็ยิ่งแค้น และโกรธเกลียดศัตรูหัวใจทบทวี
“ไอ้รัฐรวี”
อ่านต่อตอนที่ 9