ฝันเฟื่อง ตอนที่ 6
วันนี้วิไลลักษณ์กับอาทิตย์นัดกันมาเดินเที่ยวที่ตลาดเก่า ทั้งสองคนเดินคุยกันมาในตลาด
“ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ของวิไลท่านงานเยอะค่ะ เลยไม่มีเวลามาเจอคุณอาทิตย์”
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”
วิไลลักษณ์ยิ้ม แอบกังวลไม่อยากให้คนในครอบครัวต้องลำบากหลอกว่าเป็นคนรวยมาเจออาทิตย์ด้วย
มือถืออาทิตย์ดัง อาทิตย์ดูเบอร์เห็นว่าอิงอรโทร.มาเลยกดตัดสายแล้วปิดเครื่อง อาทิตย์เห็นวิไลลักษณ์มอง
“เพื่อนมันโทร.มาเซ้าซี้ให้ผมไปงานปาร์ตี้คืนนี้น่ะครับ แต่ผมไม่อยากไป”
วิไลลักษณ์ยิ้มพยักหน้าแล้วถามอาทิตย์ “คุณอาทิตย์เคยโกหกใครไหมคะ”
อาทิตย์ร้อนตัว “ผมไม่ได้โกหกคุณวิไลนะครับ”
“วิไลไม่ได้หมายถึงคุณอาทิตย์ค่ะ วิไลแค่ถามเฉยๆ”
อาทิตย์ยิ้มแหยๆ โล่งอก “อ่อ ครับ”
“วิไลว่าการที่เราโกหกใครสักคน แล้วเราต้องโกหกเค้าต่อไปเรื่อยๆ มันเหนื่อยเหมือนกันนะคะ”
อาทิตย์ชะงัก นึกถึงที่โกหกวิไลลักษณ์ และอิงอรเรื่องตนเป็นคนรวยก็อึ้งๆไป
“แล้วคุณวิไลโกหกใครไว้เหรอครับ”
วิไลลักษณ์ชะงัก หันมองหน้าอาทิตย์อึ้งๆ
“เปล่าค่ะ เพื่อนวิไลเค้าโกหกที่บ้านว่าเรียนจบแล้ว ทั้งที่ความจริงยังเรียนไม่จบ วิไลเห็นเพื่อนต้องโกหกที่บ้าน ก็เลยเหนื่อยแทนน่ะค่ะ”
“ครับ ถ้ารู้ว่าโกหกแล้วต้องเหนื่อยขนาดนี้ เค้าคงไม่ทำหรอกครับ”
ต่างคนต่างนิ่งอยู่ในความคิดตัวเอง อยู่ๆ อาทิตย์ก็ฮึด เปลี่ยนอารมณ์ เพราะไม่อยากคิดมาก
“คุณวิไลลักษณ์ครับ ผมว่าเราอย่ามาเครียดเลยครับ กลุ้มไปก็ช่วยอะไรไม่ได้! เดี๋ยวเราไปหาของอร่อยๆทาน แล้วก็ดูหนังกันสักเรื่องดีกว่า ไปครับ เมื่อกี้ผมเห็นร้านตรงโน้นน่ากิ๊น น่ากิน” เขาจับมือวิไลลักษณ์จะพาจูงเดินไป
“เอ่อ แต่วันนี้วิไลลักษณ์อยู่นานไม่ได้นะคะ บ่าย3 วิไลลักษณ์ต้องถึงบ้านค่ะ”
อาทิตย์ดูนาฬิกา “งั้นรีบเลยครับ ผมอยากใช้เวลาที่อยู่กับคุณวิไลลักษณ์ให้คุ้มๆ”
อาทิตย์รีบจูงมือพากันวิ่งออกไป
รัฐรวีแต่งตัวดูดีจัด กำลังยืนจัดแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยอยู่ตรงหน้ากระจกในห้องนอน โทรศัพท์ดัง รัฐรวีหยิบมาดูเห็นว่าเป็นมณฑาโทร.มา ก็ดีใจรีบกดรับสาย
“สวัสดีครับคุณมณ”
ที่ห้องแต่งตัวบนตึกใหญ่ มณฑิราแต่งตัวสไตล์สวยเรียบหรูอยู่ในนั้น และกำลังคุยโทรศัพท์
“นายสะดวกคุยรึเปล่านายวี”
“สำหรับคุณมณ ผมสะดวกคุยทุกวินาทีอยู่แล้วครับ”
“วันนี้นายว่างไหม ชั้นอยากเจอนาย มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วย”
“เรื่องอะไรเหรอครับ”
“เรื่องของเราสองคน”
“ไม่กะทันหันไปหน่อยเหรอครับ เป็นพรุ่งนี้ได้ไหมคุณ” รัฐรวีตั้งตัวไม่ติด
“ไม่ได้ พอดีวันนี้คุณหนูจะไม่อยู่บ้าน ชั้นมีเวลาให้นายแค่ค่ำนี้เท่านั้น ถ้านายไม่มา เราก็ไม่ต้องคุยกันอีก”
เธอวางสายไปเลย รัฐรวีกดวางสายคิดหนัก
อาทิตย์เพิ่งจอดรถในโรงรถเสร็จ สีหน้าเบิกบานอารมณ์ดี เพิ่งเดินกลับเข้าบ้านหลังจากเจอวิไลลักษณ์มา รัฐรวีเดินรีบเร่งมาหาอาทิตย์
“ไอ้ทิตย์ ช่วยฉันคิดหน่อย ฉันจะทำยังไงดี”
“ใจเย็นๆ ครับคุณวี โลกจะถล่ม หรือน้ำจะท่วมโลกครับ”
“เย็นนี้ฉันมีนัดกับคุณมณฑิรา แต่เมื่อกี๊มณฑาโทร.มาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับฉันเย็นนี้ ถ้าฉันไม่ไปเจอเค้า เค้าจะไม่คุยกับชั้นอีก”
อาทิตย์ดีใจ “ก็ดีสิครับ เซย์กู๊ดบายพี่มณฑา แล้วเลือกคุณมณฑิราไปเลย ผมจะได้ไม่ต้องคอยนอนผวาด้วยว่าเมื่อไหร่คุณผู้หญิงจะจับได้ว่าคุณวีไปจีบคนใช้”
รัฐรวีมองอาทิตย์ตาขุ่น “ชั้นไม่น่ามาปรึกษาแกเลย” เขาคิดปราดเดียวแล้วตัดสินใจ “ฉันโทร.ไปยกเลิกนัดคุณมณฑิราก่อนดีกว่า”
ขณะจะกดมือถือ อาทิตย์รีบดึงมือถือรัฐรวีห้ามไว้ “เฮ้ย ใจเย็นครับคุณวี อย่าวู่วาม ขืนคุณท่านรู้ว่าคุณวียกเลิกนัดกับว่าที่ลูกสะใภ้ในดวงใจของท่าน คุณท่านระเบิดลงแน่ เผลอๆผมจะโดนสะเก็ดระเบิดไปด้วย”
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง”
อาทิตย์เอาอย่างนี้มั้ยครับ ในเมื่อนัดคุณมณฑิราก็เลื่อนไม่ได้ ส่วนนัดพี่มณก็ต้องไป งั้นก็ไปเจอพร้อมกันทั้งสองคนไปเลย เดี๋ยวไอ้ทิตย์คนนี้จะช่วยคุณวีสับรางเอง!!
รัฐรวีตกใจนิดๆ “สับราง” อาทิตย์ยิ้มพยักหน้า “ชั้นลืมไปว่าแกถนัดเรื่องนี้”
อาทิตย์เซ็งเลย ส่วนรัฐรวีเครียดหนักเอาการ
รัฐรวีกดสายโทรศัพท์หามณฑา
“สวัสดีครับคุณมณ เรื่องนัดของเราเย็นนี้ผมไปได้นะครับ แต่ว่าผมขอเป็นคนเลือกสถานที่ได้ไหมครับ พอดีว่าเย็นนี้ผมต้องไปทำธุระให้คุณอาทิตย์ต่อน่ะครับ”
เวกจอดรถในบริเวณลานจอดรถอเวนิว ลงมาเปิดประตูรถให้มณฑิราที่ถือกระเป๋าอีกใบ ใส่เสื้อผ้ามณฑา เดินออกมาจากรถ
“ให้ผมช่วยถือกระเป๋าให้ไหมครับคุณมณ”
“ไม่เป็นไรจ้ะเวก ฉันถือเองได้”
“คุณมณให้ผมมารับกี่โมงครับ”
“ชั้นยังไม่รู้เลยจ้ะ เดี๋ยวทานข้าวกับเพื่อนเสร็จแล้ว ชั้นจะโทรตามนะ”
เวกพยักหน้า มณฑิราเดินออกไป
มณฑิราเดินถือกระเป๋าเข้ามาในอเวนิวมองหาใครบางคน จนหันไปเห็นผู้หญิงแต่งตัวเก๋ท่าทางมั่นใจที่ยืนรออยู่
“แอนนี่”
แอนนี่ เพื่อนมณฑิราหันมา สองคนเดินเข้าไปกอดกันท่าทางสนิทสนม
“คิดถึงจังเลยเพื่อน”
“ไม่ต้องเลย กลับมาตั้งนานแล้ว เพิ่งจะโทร.หาฉันได้นะยะ”
“แหม อย่าเพิ่งงอนสิจ๊ะเพื่อนรัก วันนี้ฉันต้องการความช่วยเหลือจากแกจริงๆ”
“นั่นไง! จะให้ฉันช่วยอะไร”
มณฑิราชูกระเป๋าเสื้อผ้าให้ดู “วันนี้ฉันต้องวิ่งรอกสองนัด แต่กลัวเค้าจะจับได้ แกช่วยรอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันหน่อยนะ”
แอนนี่ขำคิก “อย่าบอกนะว่าผู้ชาย แม่ชีมณฑิราเปลี่ยนไปนะเนี่ย”
“โอ๊ย เรื่องมันายาวเด่ยวฉันอธิบายให้ฟัง ไปเร็ว”
มณฑิรารีบพาแอนนี่เดินคุยกันออกไป
ส่วนรัฐรวีในชุดหล่อลงจากรถที่อาทิตย์เปิดประตูให้
ท่าทีรัฐรวียังกังวลอยู่มาก “แกว่ามันจะเวิร์คจริงเหรอไอ้ทิตย์”
“เวิร์คสิครับ ตอนแรกคุณวีก็ไปเจอคุณมณฑิราก่อน แล้วพอพี่มณฑามา คุณวีก็มาเจอผมที่ห้องน้ำ ผมจะถือชุดแสตนบายด์รอคุณวีที่นั่น คุณวีก็เปลี่ยนชุดเป็นนายวีแล้วออกไปเจอพี่มณฑา คุยกันซักพักก็หาข้ออ้างกลับออกมาเปลี่ยนชุดไปเจอคุณมณฑิราอีกครั้ง ง่ายๆครับ”
“แล้วคนที่นั่งรอ เค้าจะไม่สงสัยเหรอว่าฉันหายไปไหนทีละนานๆ”
“มันจะไปยากอะไรล่ะครับ คุณวีก็อ้างไปสิครับ ห้องน้ำคนเยอะ มีคนโทร.มา แม่โทร.หา ป้าหลงทาง อะไรก็ว่ากันไป เยอะแยะ”
รัฐรวีถอนหายใจ เอาก็เอาวะ!
รัฐรวีนั่งรออยู่ที่โต๊ะในร้านไวน์บริสโทแล้ว
เสียงมณฑิราบอกกับพนักงานว่า “จองไว้ชื่อ คุณรัฐรวีค่ะ”
รัฐรวีมองไปเห็นมณฑิราที่ใส่แว่นตาอันใหญ่เดินตรงมายังโต๊ะกับพนักงานที่พาเข้ามา รัฐรวีชะงักสะดุดตากับแว่นตาอันใหญ่นั้น
“สวัสดีค่ะ มณต้องขอเสียมารยาทใส่แว่นนะคะ พอดีเมื่อเช้าตื่นมาแล้วตาแดงมากเลยค่ะ”
“แล้วคุณมณต้องไปหาหมอไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวก็คงหาย คุณรัฐรวีคอยมณนานไหมคะ”
“ไม่นานครับ ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” เขามองหน้ามณฑิราขำๆ “ตกลงผมเลยไม่ได้เห็นหน้าคุณมณชัดๆสักที Third Time Lucky คงใช้ไม่ได้กับผม”
“แต่ใช้ได้กับมณนะคะ เพราะมณถือว่า เราได้มาเจอกันวันนี้ก็เป็นการโชคดีแล้ว”
มณฑิรายิ้มให้รัฐรวี
ขณะที่เวกกำลังสตาร์ตรถกะกลับนั้นเอง เวกก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นอาทิตย์อยู่อีกด้านหนึ่งของลานจอดรถ
“นั่นมันคุณอาทิตย์นี่”
เวกคิดว่าอาทิตย์มาทำอะไรแถวนี้ ด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงวิไลลักษณ์ จึงตัดสินใจดับเครื่องแล้วลงจากรถ แอบเดินตามอาทิตย์ไป
อาทิตย์เดินหิ้วกระเป๋ากีฬา ที่ข้างในมีชุดของนายวี มาตามทาง เวกแอบเดินตามห่างๆ
จู่ๆ มีผู้หญิง 1 เดินเข้ามาหาเวก
“ขอโทษค่ะ ที่นี่มีช็อปจ่ายค่ามือถือไหมคะ”
เวกยิ้มเซ็งๆ “ไม่ทราบครับ ผมไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่นี่ครับ”
“อุ้ย ขอโทษค่ะ”
ผู้หญิงนางนั้นเดินออกไป
เวกหันกลับไปมอง แต่ไม่เห็นอาทิตย์แล้ว
เวกเสียดายนักที่คลาดกับอาทิตย์เฉียดฉิว
รัฐรวีกับมณฑิรากำลังดูเมนูอาหารกันอยู่
“คุณรัฐรวีทานไวน์ขาวหรือไวน์แดงคะ”
“ผมทานได้หมดครับ”
มณฑิราสั่งกับเด็กเสิร์ฟ “เอาได้หมดที่นึงค่ะ” เด็กเสิร์ฟงง รัฐรวีขำที่เห็นมณฑิราขี้เล่น เธอหันมาทางรัฐรวี “งั้นไวน์แดงแล้วกันนะคะ มณอยากกินเนื้อแกะ” แล้วบอกกับเด็กเสิร์ฟ “ขอสเต็กแกะราดน้ำเกรวี่”
มณฑิรามองรัฐรวีที่ดูเมนูอยู่แล้วแอบหยิบมือถืออีกเครื่องซึ่งเป็นชื่อมณฑามากดข้อความ
ครู่หนึ่งมือถือรัฐรวีดัง เขากดอ่านข้อความ
จากมณฑาว่า “ชั้นมาถึงแล้ว”
รัฐรวีชะงักแอบมองมณฑิรา เห็นว่ากำลังสนใจดูเมนูไวน์
เขาส่งข้อความตอบกลับว่า “ผมใกล้ถึงแล้วครับ รถติด”
มณฑิราดูข้อความแล้วแอบมองรัฐรวียิ้มๆ
“คุณรัฐรวีสั่งอาหารไปก่อนนะคะ เดี๋ยวมณไปเลือกไวน์ก่อน”
รัฐรวีพยักหน้า
มณฑิราเดินไปตรงชั้นไวน์ ตั้งใจหลบสายตาจากรัฐรวีแล้วจึงแอบหยิบมือถือเครื่องมณฑามาโทร.ออก
รัฐรวีเห็นเป็นเบอร์มณฑาแล้วสะดุ้ง แอบกดรับ “ครับคุณมณ”
มณฑิราแอบคุยมือถืออยู่ “ชั้นถึงนานแล้วนะ ทำไมนายเป็นคนไม่ตรงเวลาแบบนี้”
“ครับ..ผมก็เพิ่งถึง.. กำลังจะเดินไปหาเดี๋ยวนี้ครับ” เขากดวางสายไป
มณฑิราเดินกลับเข้ามาพอดี
“เป็นไวน์ออสเตรเลียนะคะ ดื่มง่ายดี”
“ครับ เอ่อคุณมณครับ เดี๋ยวคุณมณสั่งอาหารตามสบายเลยนะครับ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”
มณฑิราพยักหน้า รัฐรวีเดินลิ่วออกไป มณฑิรามองตามรัฐรวีไปยิ้มๆ
รัฐรวีเดินรีบเร่งเข้ามาในห้องน้ำ เห็นอาทิตย์ยืนรออยู่
“เอาชุดมาเร็วไอ้ทิตย์”
อาทิตย์หยิบเสื้อผ้าให้รัฐรวีทันที
รัฐรวีรับเสื้อผ้ามาจากอาทิตย์แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป เปิดประตูออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ สำหรับสวมบทบาทเป็น นายวีคนขับรถแล้ว
“นาฬิกาด้วยครับคุณวี” อาทิตย์ท้วง
รัฐรวีถอดนาฬิกาเรือนหรูออกส่งให้อาทิตย์ แล้วเปลี่ยนเป็นสวมนาฬิกาที่ดูดีแต่ไม่แพง สมฐานะคนขับรถ
อาทิตย์หยิบรองเท้าผ้าใบธรรมดามาวางให้ รัฐรวีถอดรองเท้าหนังออก แล้วสวมผ้าใบแทน
“ทีนี้ก็จัดแต่งผมเผ้าอีกหน่อย อันนี้มันเนี้ยบไปครับ” อาทิตย์กำกับ
รัฐรวีรีบส่องกระจก แล้วจัดผมให้ดูไม่เนี้ยบมากเกินไป
“โอเคแล้วครับ”
รัฐรวีรีบเดินออกจากห้องน้ำไป อาทิตย์มองตามยิ้มขำๆ
ด้านมณฑิรากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีแอนนี่คอยช่วย แอนนี่มองชุดมณฑาที่มณฑิราใส่
“ชุดนี้มันธรรมดาไปไหมมณ”
มณฑิรามองตัวเองในกระจก “ธรรมดาไปเหรอ งั้นก็ใช้ได้”
มณฑิรารีบออกไป แอนนี่ขำมณฑิรเพราะรู้เรื่องมณฑิราจงใจแกล้งรัฐรวีแล้ว
รัฐรวีในคราบ นายวี คนขับรถรีบวิ่งไปเข้าไปที่ร้านที่นัดกับมณฑาทันที นายวีมองหามณฑาแต่ไม่เจอ เลยกดมือถือโทร.หา
“ฮัลโหลคุณมณ ผมมาถึงร้านแล้ว คุณมณอยู่ไหนครับ”
มณฑิราในคราบมณฑากำลังเดินคุยมือถืออยู่
“มณออกมาเดินเล่นร้านแถวๆ นี้ค่ะ นั่งอยู่คนเดียวแล้วรู้สึกแปลกๆ เดี๋ยวมณเดินกลับไปหานะคะ”
รัฐรวีในคราบนายวีกดวางสายแล้วยืนรอที่หน้าร้าน สักครู่เห็นมณฑาเดินเข้ามา
“ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้รอ รถมันติดน่ะครับ”
“แต่ตอนชั้นมารถโล่งเลยนะ” สาวใช้มณฑาว่า
นายวีรีบเปลี่ยนเรื่อง “ไปหาที่นั่งก่อนเถอะ”
แล้วพาสาวใช้มณฑาไปนั่ง
ร้านที่สองคนเข้ามาเป็นร้านอาหารธรรมดาไม่หรูหรานัก
นายวีพามณฑาลงนั่งที่โต๊ะ เด็กเสิร์ฟเอาเมนูมาให้ทั้งคู่ดู
“อาหารร้านนี้อร่อยนะคุณ ผมขอแนะนำปลาหมึกผัดไข่เค็ม”
“ปกติชั้นไม่ค่อยทานปลาหมึก แต่ถ้านายคุยขนาดนี้ ลองดูก็ได้”
“งั้นคุณเลือกเมนูที่คุณชอบด้วยสิครับ”
มณฑาดูเมนู “มีหมี่กรอบโบราณด้วย นายเคยทานไหม”
“ไม่แน่ใจ ลองดูก็ได้ครับ” เขาสั่งเด็กเสิร์ฟ “ปลาหมึกผัดไข่เค็ม แล้วก็หมี่กรอบโบราณครับ” แล้วหันมาทางมณฑา “คุณเอาอะไรอีกไหม”
“ชั้นสั่งของที่ชั้นชอบทานแล้ว นายสั่งของที่นายชอบบ้างสิ”
“ผมชอบ...มองหน้าคุณ”
มณฑายิ้ม หมั่นไส้ “งั้นเอามาทานเล่นแค่นี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยสั่งเพิ่ม”
“ก็ดีเหมือนกันครับ”
นายวีหันไปยื่นเมนูคืนให้ เด็กเสิร์ฟรับเมนูออกไป
“แล้วคุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอ? ถึงขนาดถ้าผมไม่ออกมาคุยด้วยวันนี้จะไม่คุยอีก ต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆ”
“นายก็ลองทายดูสิ”
“คุณอยากแต่งงานกับผม ถ้าไม่ได้แต่งวันนี้ คุณจะไปบวชชีไม่สึก”
มณฑาขำ “บ้า”
เด็กเสิร์ฟเดินกลับมาถามนายวี
“ขอโทษครับ รับน้ำอะไรดีครับ”
นายวีหันมามองมณฑา
“ชั้นขอน้ำเปล่าค่ะ”
“ผมขอชามะนาวครับ”
จังหวะที่นายวีกำลังสั่งกับเด็กเสิร์ฟ มณฑาแอบหยิบมือถือเครื่องมณฑิรามากดข้อความ
เด็กเสิร์ฟรับออเดอร์เสร็จเดินออกไป
มือถือนายวีดัง นายวีอ่านข้อความ
จากมณฑิรา “อาหารมาแล้วนะคะ”
นายวีชะงัก
มณฑาแกล้ง “ทำหน้าอย่างกับเห็นผี บัตรเครดิตส่งข้อความมาทวงหนี้เหรอ”
“ผมมีบัตรเครดิตที่ไหนล่ะคุณ”
“หรือว่ามีสาวส่งข้อความมาตามนาย” รัฐรวีในคราบนายวีชะงัก หน้าเจื่อน “ทำไมนายทำหน้าแบบนั้น ชั้นแซวเล่น”
“เดี๋ยวคุณสั่งอาหารเลยนะ ผมปวดท้องขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน”
มณฑาพยักหน้า นายวีเดินออกไป มณฑามองตามไปยิ้มๆ
รัฐรวีเดินเร็วรี่มาที่ห้องน้ำชาย กดมือถือโทร.หามณฑิราไปด้วย
“ฮัลโหล คุณมณเหรอครับ ขอโทษนะครับ พอดีผมเดินออกมาเจอเพื่อนเลยทักคุยกันนิดหน่อย กำลังจะกลับไปที่ร้านแล้วครับ เดี๋ยวเจอกันครับ”
รัฐรวีกดวางสาย เดินมาถึงทางเดินหน้าห้องน้ำชาย เจออาทิตย์นั่งกินลูกชิ้นอยู่อย่างสบายใจ
“ไอ้ทิตย์ เร็ว”
อาทิตย์รีบลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำตามรัฐรวีไปโดยไว
อ่านต่อหน้า 2
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 6 (ต่อ)
รัฐรวีเปลี่ยนชุดนายวีกลับเป็นรัฐรวีเรียบร้อย เดินจัดเสื้อผ้าขณะกำลังจะกลับไปยังร้าน อาทิตย์รีบพุ่งตามมาท่าทีตกใจ
“คุณวี นาฬิกาด้วยครับ”
รัฐรวีถอดเปลี่ยนนาฬิกาโดยเร็ว แล้วรีบวิ่งออกไป
พอรัฐรวีเดินกลับมาที่ร้าน แต่กลับไม่เห็นมณฑิรานั่งอยู่ เขามองหา จนเห็นมณฑิราท่าทางรีบๆ เพิ่งหยิบแว่นมาใส่ เดินตามเข้ามา
“มานานรึยังคะ มณไปห้องน้ำมา” เธอลงนั่ง
“เพิ่งมาเมื่อกี้เองครับ” รัฐรวีเห็นอาหารไม่พร่องเลยก็แปลกใจ “คุณมณยังไม่ทานเลยครับ”
มณฑิราแกล้งตัดพ้อ “ก็มณคอยคุณรัฐรวีไงคะ”
รัฐรวียิ้มแหยๆ แล้วหยิบมีดกับส้อม “งั้นทานกันเลยไหมครับ”
“ค่ะ”
มณฑิราแอบหยิบมือถือเครื่องมณฑามา แล้วกดโทรหารัฐรวี ที่ใต้โต๊ะ
มือถือรัฐรวีดัง เขาเอามาดูเห็นว่า “มณฑา” โทร.เข้า รัฐรวีชะงัก มองหน้ามณฑิราที่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“รับสายเถอะค่ะ มณโอเค”
“แป๊บเดียวครับ ขอโทษนะครับ”
รัฐรวีลุกเดินออกจากโต๊ะ ไปกดรับสายที่หน้าร้าน เพราะไม่อยากให้มณฑิราได้ยินว่าคุยกับมณฑา
“ฮัลโหล คุณมณอย่าเพิ่งโกรธนะครับ ผมท้องเสีย รอผมแปปนะครับ”
มณฑิราที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังคุยกับรัฐรวีในคราบมณฑา
“แล้วไป ชั้นเห็นนายหายไปนานก็เลยเป็นห่วง นายโอเคใช่ไหม”
“โอเคครับ คุณรอผมแป๊บเดียวนะครับ อ้อ ถ้าอาหารมา คุณทานไปก่อนได้เลยนะ ไม่ต้องรอผม”
“พอกดวางสาย รัฐรวีถอนใจ เริ่มเหนื่อย เดินกลับเข้าไปที่โต๊ะ มณฑิราเก็บมือถือเรียบร้อย ทำเป็นทานอาหารอยู่”
“ผมต้องขอโทษคุณมณอีกครั้งนะครับ...” คนรถกำมะลอเริ่มอึกอัก “คือ พอดีผมต้องออกไปดูเอกสารในรถให้ลูกค้า คนนี้สำคัญจริงๆ ครับ”
“ตามสบายค่ะ มณเข้าใจ”
รัฐรวีรีบเดินออกไป มณฑิรามองตามเห็นว่ารัฐรวีเดินออกไปแล้ว จึงลุกตามไป
ระหว่างนี้เด็กเสิร์ฟคุยกับเพื่อน “สองคนนี้เค้าเล่นอะไรกันน่ะพี่ เดี๋ยวเดินเข้า เดี๋ยวเดินออก”
เด็กเสิร์ฟอีกคนส่ายหน้า เพราะไม่เข้าใจลูกค้าคู่นี้เหมือนกัน
รัฐรวีเดินเนือยๆ เข้ามาหน้าห้องน้ำ อาทิตย์รีบส่งเสื้อสูทให้รัฐรวีใส่
“แผนแกทำไมมันวุ่นวายขนาดนี้วะไอ้ทิตย์”
“ไม่ต้องบ่นเลยคุณวี เพราะความเจ้าชู้ของคุณวีต่างหากที่ทำให้ต้องเป็นแบบนี้” รัฐรวีเซ็ง อาทิตย์คุยข่ม “ทำไมไม่เอาแบบอย่างที่ดีๆ จากผมบ้าง รักเดียวใจเดียว”
รัฐรวียัวะ “ถ้าแกยังไม่หยุดพูด ชั้นจะจับแกยัดลงโถส้วม”
“แน่ะ พาลตลอด” รัฐรวีง้างเท้าเตะ อาทิตย์กระโดดผลุงหลบ
รัฐรวีเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด
รัฐรวีเปลี่ยนชุดเป็นนายวีแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ อาทิตย์เดินตามออกมา มือถือรัฐรวีดัง รัฐรวีดูเบอร์เห็นว่าเป็นเบอร์ภัสสรโทร.มา
“คราวนี้คนไหนโทรตามล่ะครับ พี่มณฑาหรือว่าคุณมณฑิรา” อาทิตย์มองเซ็ง
“แม่”
“แน้ ผมถามดีๆ ต้องด่าแม่ด้วย”
“ชั้นหมายถึงแม่ชั้นโทร.มา”
รัฐรวีต้องหยุดเดินแล้วกดรับสายภัสสร
“ครับแม่ ผมไม่ได้เบี้ยวครับ ก็ออกมากินข้าวกับคนโปรดคุณแม่อยู่ครับ โธ่ แม่ ผมเพิ่งคุยกับเค้าไม่นาน แม่จะให้ผมบอกแล้วเหรอครับว่าเค้าเป็นยังไง ผมออกมาเข้าห้องน้ำครับแม่ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ” เขาวางสาย ถอนใจเฮือกใหญ่
อาทิตย์นึกแผนได้ “คุณวีครับ ผมนึกอะไรดีๆ ได้แล้ว เดี๋ยวพอคุณวีเข้าไป ผมจะทิ้งช่วงซักพัก แล้วโทร.หาคุณวีนะครับ คุณวีจะได้มีข้ออ้างปลีกตัวออกมาจากพี่มณ”
“เออดี! ฉันหาเหตุผลเข้าๆ ออกๆ จนจะหมดมุกแล้ว”
สองหนุ่มตีมือกัน รัฐรวีในมาดคนรถรีบแยกไป
รัฐรวีในคราบนายวีเดินมานั่งที่โต๊ะเดิม มณฑานั่งรอทำเป็นทานอาหารที่สั่งมาอยู่
“ท้องเสียมากเหรอ ดูนายเหนื่อยๆ”
“อ๋อ ครับ ก็นิดหน่อย เรามาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่าครับ”
“ถ้านายไม่พร้อม เอาไว้ค่อยหาโอกาสคุยวันอื่นก็ได้นะ”
“ฮั่นแน่ พูดแบบนี้ หรือว่าจริงๆ แล้วคุณไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม แต่แค่อยากนัดทานข้าวกับผมเฉยๆ ใช่ไหมครับ”
มณฑาขำ “หลงตัวเองมากไปแล้วนะนาย”
“แต่ผมดีใจนะครับที่วันนี้ได้มาทานข้าวกับคุณ”
มณฑิราในคราบมณฑามองรัฐรวีในคราบนายวี ไม่เข้าใจว่าเขาโกหก หรือรู้สึกดีกับมณฑาจริงๆ มือถือนายวีดัง
นายวีขอตัวกับมณฑา “ขอโทษนะครับ ฮัลโหลครับ คุณอาทิตย์”
อาทิตย์ที่นั่งอยู่หน้าห้องน้ำ กำลังคุยมือถือกับรัฐรวีอย่างสบายใจ กวน
“โอ้โห เสียงสุภาพม๊ากกก คุณวีนี่อยู่ต่อหน้าสาวก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนะเนี่ย อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งโกรธนะครับ ตอบให้พี่มณได้ยินก่อนครับว่า คุณวีทานข้าวอยู่”
นายวีคุยมือถือ พยายามข่มอารมณ์ “ครับ ผมทานข้าวอยู่ครับ”
“ดีมาก ว่าง่ายๆ โตเร็วๆ นะจ๊ะ” อาทิตย์หัวเราะขำ แล้วบอกบทต่อ “คราวนี้คุณวีก็ทำเป็นตกใจนิดหน่อย แต่อย่ามากนะครับ เดี๋ยวพี่มณเค้าจะคิดว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ต้องมาตอบคำถามกันยุ่งอีก”
นายวีฟังที่อาทิตย์บอกบท แล้วทำเป็นตกใจเล็กๆ “เดี๋ยวนี้เลยเหรอครับ ได้ครับคุณอาทิตย์” เขากดวางสายหันมาบอกมณฑา “ขอโทษจริงๆ ครับคุณมณ คุณอาทิตย์ให้ผมไปทำธุระให้เดี๋ยวนี้ครับ”
สาวใช้มณฑายิ้ม เข้าใจ และรู้ทัน
ไฮโซหนุ่มในบทคนขับรถเดินเร็วเข้ามาในห้องน้ำ เห็นอาทิตย์กำลังถือชุดรัฐรวีรออยู่
รัฐรวีตบกะโหลกอาทิตย์ “นี่แน่ะ กวนดีนักนะแก ถือว่าชั้นด่าแกไม่ได้ใช่ไหม”
“ขำขันครับคุณวี อย่ามามัวด่าผมอยู่เลย รีบเปลี่ยนชุดก่อนครับ”
รัฐรวีรีบคว้าชุดเข้าห้องน้ำไปทันที
ถัดมาไม่นาน รัฐรวีกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะ มณฑิรานั่งยิ้มรออยู่แล้ว
“คุยงานกับลูกค้าคนสำคัญเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ครับ ขอโทษคุณมณด้วยนะครับ ผมรู้สึกเสียมารยาทมากเลย”
มณฑิราหยั่งเชิง “มณว่าเอาไว้เราค่อยนัดกันใหม่ดีกว่าไหมคะ ท่าทางวันนี้คุณจะดูยุ่งๆ”
รัฐรวียิ้มเจื่อนๆ
“ไม่ต้องห่วงค่ะ มณไม่ฟ้องคุณป้าหรอก เดี๋ยวคนดีของท่านจะเสียเครดิต”
“ขอบคุณคุณมณนะครับ ผมสัญญาว่าโอกาสหน้าจะไม่เป็นแบบนี้อีก”
“อย่าสัญญาอะไรพร่ำเพรื่อเลยค่ะ เราไม่มีวันรู้ว่าวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้น อีกอย่าง มณเป็นคนช่างจำด้วย”
รัฐรวียิ้ม แอบโล่งใจ แล้วหันไปเรียกเด็กเสิร์ฟมาเก็บเงิน
รัฐรวีกับมณฑิราเดินออกมาจากร้านกำลังจะแยกกัน
“แล้วพบกันนะครับ”
“ค่ะ” จู่ๆ มีผู้หญิงท่าทางรีบร้อน เดินเข้ามาชนมณฑิรา “อุ๊ย”
เจ้ากรรม แว่นตาดำที่มณฑิราใส่อยู่ตกพื้น
“ขอโทษค่ะ” ผู้หญิง 1 รีบเดินออกไปโดยเร็ว
มณฑิราตกใจจะก้มลงเก็บแว่นตา แต่รัฐรวีก้มลงเก็บให้ก่อน มณฑิราชะงัก รัฐรวีเก็บแว่นตาแล้วเงยหน้ามาเห็นหน้ามณฑิราชัดๆ แล้วก็ชะงักตะลึงตะไล ต่างคนต่างอึ้งกันไป
“เอ่อ... มณขอแว่นตาคืนด้วยค่ะ”
“ขอโทษครับ คือคุณมณฑิราหน้าตาเหมือนคนที่ผมรู้จักมาก” รัฐรวียื่นแว่นคืน
มณฑิราแกล้งหยั่งเชิง “คงเหมือนกันมากจริงๆ นะคะถึงทำให้คุณรัฐรวีตกใจขนาดนั้น”
“ครับ ถ้าผมไม่ได้เจอคุณสองคน เอ่อ หมายถึงถ้าผมไม่รู้จักทั้งสองคน ผมคงคิดว่าเป็นคนเดียวกัน”
มณฑิรายิ้ม โล่งใจ “งั้นถ้ามีโอกาสอย่าลืมแนะนำให้มณรู้จักนะคะ แล้วพบกันค่ะ”
มณฑิราใส่แว่นดำเดินตัวตรงออกไป ยิ้มโล่งใจที่รัฐรวีคิว่าตนเป็นคนละคนกับมณฑา
รัฐรวีเดินกลับเข้ามาในห้องน้ำแล้วรีบถอดชุดส่งให้อาทิตย์
“เดี๋ยวแกกลับไปเลยนะ ชั้นไม่ต้องปลอมตัวไปเจอคุณมณฑิราแล้ว”
“จะให้ผมเอารถกลับไปเลย หรือว่าคุณวีจะเอาไว้ครับ”
รัฐรวีคิดปราดเดียว “แกเอารถกลับไปเลย เดี๋ยวชั้นนั่งรถเมล์ไปส่งคุณมณเอง”
“ห๊ะ คุณวีจะนั่งรถเมล์” อาทิตย์เอามืออังหน้าผากรัฐรวี
รัฐรวีปัดมือออก แล้วรีบเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด
“เป็นเอามากนะเนี่ย”
อาทิตย์หนักใจ
ครั้นเมื่อรัฐรวีในคราบนายวีเดินกลับเข้ามาในร้านอาหาร แต่ไม่เห็นมณฑาอยู่ที่โต๊ะ
“หายไปไหนของเค้าอีกแล้ว”
นายวีหยิบโทรศัพท์มากดโทร.หามณฑา
ด้านมณฑิราที่เปลี่ยนชุดเป็นมณฑาอยู่ในห้องน้ำโดยมีแอนนี่ช่วยจัดผมอยู่ตรงหน้ากระจก เสียงโทรศัพท์ของมณฑาดังขึ้น
มณฑิรารับสาย “ว่าไงนายวี อ้าว นายกลับมาที่ร้านแล้วเหรอ รอเดี๋ยวนะ พอดีชั้นเดินออกมาดูของแถวนี้น่ะ” มณฑิราวางสาย ถอนหายใจเฮือก “เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย”
แอนนี่ขำ “ริอ่านจะสับรางก็ต้องเหนื่อยแบบนี้แหละ”
มณฑิราเซ็งระคนหนักอก “ขอบใจ แต่ถ้าไม่ได้แก ฉันคงเหนื่อยกว่านี้”
“แล้วนี่แกแน่ใจนะว่าจะหลอกเขาว่าเป็นคนละคนกันไปตลอดได้”
“โชคดีที่วันนี้เขาคิดว่าได้เจอฉันสองคนพร้อมกันก็เลยไม่สงสัยว่าเราเป็นคนเดียวกัน เดี๋ยวฉันรีบไปก่อน ฝากเสื้อผ้าไว้กับแกด้วย แล้วคืนนี้ฉันโทรหา”
มณฑิราหอมแก้มแอนนี่แล้วรีบออกจากห้องน้ำไปในคราบมณฑา
ไม่นานต่อมารัฐรวี มณฑิรา อยู่ในคราบนายวีกับมณฑา และนั่งกินข้าวกันอยู่
รัฐรวีมองหน้ามณฑา คิดเรื่องที่หน้ามณฑาเหมือนกับมณฑิรามาก
“หน้าชั้นมีอะไรเหรอ? เห็นนายจ้องอยู่นานแล้ว”
“คุณว่าคนเราจะหน้าตาเหมือนกันมาก มากราวกับเป็นคนคนเดียวกันได้ไหมครับ”
“ทำไม มีคนหน้าตาเหมือนนายเหรอ”
“เหมือนคุณมณต่างหากครับ ชื่อก็เหมือน แต่นอกนั้นไม่เหมือนกันเลย ผมว่าคุณดูเป็นธรรมชาติกว่า”
มณฑิราแกล้งหยั่งเชิง “นี่นายจะจีบชั้นจริงๆเหรอ”
“โอ้โห ไม่อ้อมหน่อยเหรอครับ ถามตรงจัง”
“ชั้นไม่อยากเสียเวลา ชั้นบอกตรงๆ ว่าชั้นจริงจังกับเรื่องความรัก ถ้านายคิดจะมาจีบชั้นเล่นสนุกๆ ก็อย่าเลยดีกว่า”
รัฐรวียิ้มๆ “ที่คุณถามผมแบบนี้ แสดงว่าคุณเริ่มมีใจกับผมแล้วใช่ไหม”
“นายตอบไม่ตรงคำถาม ชั้นรู้ดีว่าชั้นเป็นใคร ไม่มีใครเค้าจะมาคิดจริงจังกับคนใช้อย่างชั้นหรอก”
“คุณลืมไปรึเปล่าว่าผมก็เป็นแค่คนขับรถ” มณฑิราอึ้งไป มองหน้ารัฐรวี ไม่รู้ว่ามาไม้ไหน “เอาจริงๆผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าระหว่างเราจะเป็นยังไง ผมรู้แค่เวลาอยู่กับคุณ ผมสบายใจ”
“แสดงว่านายอยากคบกับชั้น ถ้างั้นต่อไปนี้ถือว่าเราใช้เวลาศึกษากันก็แล้วกัน”
“คุณยอมเป็นแฟนผมแล้วเหรอ”
“ยัง ชั้นแค่ให้โอกาสนาย อย่าขี้ตู่สิ”
รัฐรวียิ้มดีใจ มณฑิราชักใจแกว่งขึ้นมาเหมือนกัน
อ่านต่อหน้า 3
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 6 (ต่อ)
ค่ำนั้นรอบด้านสองข้างถนนมืดลงไปหมด ขณะอาทิตย์ขับรถแล่นมาตามทางมุ่งหน้ากับบ้านรัฐรวี เขากำลังคุยมือถือกับรัฐรวีที่ถามเรื่องสายรถเมล์
“โธ่ คุณวีครับ จะไปส่งสาวที่บ้านทั้งที แท็กซี่ดีกว่าไหมครับ”
รัฐรวีกับมณฑิราต่างยืนคุยมือถือกันคนละมุมของป้ายรถเมล์
รัฐรวีคุยกับอาทิตย์ต่อ
“แกอย่าตอบเกินคำถามได้ไหมไอ้ทิตย์? บอกมาว่าชั้นต้องนั่งรถเมล์สายอะไร”
ส่วนมณฑิราก็กำลังคุยมือถืออยู่กับเวกเรื่องเส้นทาง และสายรถเมล์เช่นกัน
“สาย 23 ปอ. 1 เหรอจ๊ะเวก”
เวกอยู่ในรถ เพิ่งขับรถออกจากลานจอดรถ คุยมือถือไปด้วย
“ใช่ครับ คุณมณถามทำไมครับ แล้วตกลงจะไม่ให้ผมรับกลับบ้านจริงๆ เหรอครับ นี่มันก็มืดแล้วด้วย
“ไม่ต้องจ้ะ เวกขับรถกลับบ้านไปเลยนะ”
เวกวางสายงงๆ มณฑิรายิ้มสนุก
สาวใช้และคนขับรถกำมะลอ นั่งอยู่บนรถเมล์ด้วยกัน มณฑิรานั่งติดหน้าต่าง มองวิวนอกหน้าต่างอย่างตื่นตา ตื่นเต้นกับบรรยากาศ รัฐรวีเหลือบมองใบหน้ามณฑิราที่กำลังยิ้มมีความสุขนั้น อย่างเพลินตา
มณฑิรามองบรรยากาศรอบๆ แล้วหันมาเห็นว่ารัฐรวีมองหน้าตัวเองอยู่
“คุณมองหน้าชั้นทำไม”
“ขี้ตู่ ผมมองวิวข้างนอกต่างหากครับ” มณฑิรางอนงามตา รัฐรวียิ้มขำ “ผมยอมรับก็ได้ครับ ผมมองหน้าคุณ ก็หน้าคุณน่ามองกว่าวิวข้างนอกตั้งเยอะ” คนรถที่หล่อฝุดๆ ยิ้มกว้าง “ว่าแต่คุณไม่คิดจะมองหน้าผมบ้างเหรอครับ”
มณฑิราแก้เก้อ “ถ้ามองหน้านาย ชั้นมองรถติดข้างนอกยังเพลินกว่าอีก”
สาวใช้คนสวยหันหน้าหนีไปแอบยิ้ม รัฐรวีขำ
สักครู่มณฑิราหันมา รัฐรวีแกล้งเอาหน้ายื่นมารออยู่ใกล้ๆ มณฑิราตกใจตีรัฐรวีพัลวัน สองคนขำๆกัน ท่าทางสุขใจ
ส่วนที่เรือนคนใช้บ้านมณฑิรา วิไลลักษณ์นั่งพับผ้าอยู่บนบ้าน เวกเดินกลับเข้ามาเห็นก็รีบเข้ามาหา
“วิไล วันนี้ชั้นเจอคุณอาทิตย์ที่ศูนย์การค้าที่ไปส่งคุณมณด้วย”
วิไลลักษณ์ท้วง “พี่เวกจำคนผิดรึเปล่า”
“ไม่ผิดหรอก ชั้นแอบเดินตามเค้าตั้งนาน แต่คลาดกันซะก่อน”
“แต่คุณอาทิตย์เค้าบอกชั้นว่าวันนี้เค้าทำงานทั้งวัน แล้วทำไมเค้าถึงไปโผล่ที่นั่นได้”
“งั้นเค้าก็โกหกแกแล้วล่ะ”
วิไลลักษณ์เสียใจลุกเดินหนี เวกสงสารน้อง สายตามองไปเห็นมือถือที่วิไลลักษณ์ลืมไว้ เวกคิดถึงเรื่องที่นายวงอยากนัดเจออาทิตย์เพื่อดูว่าอาทิตย์เป็นคนยังไง
เวกเลยตัดสินใจหยิบมือถือของน้อง เปิดดูเบอร์อาทิตย์ แล้วเมมไว้
ทางฝ่ายภัสสรลงนั่งในห้องรับแขก ถามลูกชายที่เพิ่งกลับมาถึงอย่างตื่นเต้น
“จริงเหรอตาวี เรากับหนูมณฑิราจะนัดเจอกันอีกรอบ” รัฐรวีพยักหน้ายิ้ม “ดีมาก แม่ไปสืบมาให้แล้วด้วย ตอนนี้หนูมณเค้ากำลังเรียนทำขนม ลูกน่าจะหาเวลาไปรับไปส่งเค้า...”
ท่านนายพลรัฐแทรกขึ้นว่า “ใจเย็นคุณ ลูกยังไม่ได้อะไรเลย”
“มัวแต่ช้า เดี๋ยวคนอื่นแย่งไปก็แย่สิคะคุณ” ภัสสรหันมากำชับรัฐรวี “รีบทำคะแนนหน่อยนะ หนูมณเค้ามีหนุ่มมารอคิวอยู่เยอะ นี่แม่ก็เกริ่นๆ กับคุณหญิงหิรัญญิการ์ไปแล้ว ท่าทางคุณหญิงจะพอใจลูกอยู่”
รัฐรวีอึ้ง นิ่งงันไปที่ภัสสรวาดหวังขนาดนั้น รัฐมองแล้วเข้าใจลูกชายเลยช่วยปรามภัสสรให้อีก
“ผมว่า น่าจะรอให้ลูกทำความรู้จักกับหนูมณฑิราให้ดีกว่านี้ก่อนไหมคุณ”
“ก็ทำความรู้จักกันไปสิคะ ส่วนเรื่องหมั้นเรื่องแต่งงาน ชั้นจัดการเอง”
“แม่มองไปถึงนั่นเลยเหรอครับ ผมแค่ไปกินข้าวกับเค้าแค่ครั้งเดียวเอง”
รัฐประชดเมีย “เราไม่รู้เหรอว่า แม่เราเค้าเป็นรอบคอบ ตอนนี้เค้าวางแผนไปแล้วว่าลูกเรากับหนูมณจะเข้าเรียนอนุบาลที่ไหน เรียนมัธยมอะไร ต่อปริญญาที่ไหน”
ภัสสรตีแขนรัฐ “คุณก็พูดเกินไป”
“แต่คุณทำจริงใช่ไหม”
ภัสสรยอมรับ แต่ยังงอนๆ “ก็ชั้นกลัวนี่คะ เกิดลูกไปคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ไหนมาเป็นสะใภ้ ชั้นคงหัวใจวายตาย”
รัฐรวีอึ้งไปอีก แอบสบตากับพ่อด้วยความหนักใจ
ฟากมณฑิราในชุดคนใช้เดินกลับเข้ามาในบ้าน เจอคุณต๋อยที่ยืนรออยู่
“ทำไมคุณมณแต่งตัวแบบนี้ล่ะคะ” มณฑิราเงียบ “อย่าบอกนะคะว่าออกไปเจอคนขับรถคนนั้นอีก”
มณฑิราถอนหายใจ “ใช่ค่ะ”
คุณต๋อยตกใจ “คุณมณคะ ป้ารู้นะคะว่าคุณมณอาจจะรำคาญที่ป้าคอยมาเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตของคุณมณ แต่ในฐานะที่ป้ารับใช้คุณพ่อคุณแม่ของคุณมณมา เห็นคุณมณมาตั้งแต่เด็ก ยังไงป้าก็ต้องพูด สิ่งที่คุณมณกำลังทำมันไม่เหมาะไม่ควรเลยนะคะ”
“มณขอบคุณนะคะที่คุณต๋อยเป็นห่วง แต่ที่ผ่านมาไม่ว่ามณจะทำอะไรก็มีคนเลือกให้มณตลอด คราวนี้มณจะขอเลือกเองบ้างค่ะ” คุณต๋อยอ้าปากจะเถียง มณฑิรารีบแทรกน้ำเสียงแข็ง “แล้วไม่ว่าสิ่งที่มณเลือกจะดีหรือไม่ดี มณจะเป็นคนรับผิดชอบเองค่ะ”
มณฑิราเดินขึ้นชั้นบนไปเลย คุณต๋อยได้แต่ถอนหายใจด้วยความเป็นห่วงในฐานะคนเก่าคนแก่
รัฐรวีที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เอาผ้าขนหนูเช็ดหัวเดินเข้ามาในห้อง เขาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะมา แล้วนั่งลงบนเตียง เปิดโทรศัพท์ ตั้งใจจะโทรหามณฑา
พอดูหน้าจอ พบว่าในลิสต์รายชื่อที่เมมไว้ ชื่อของ มณฑา กับ มณฑิรา อยู่ติดกัน รัฐรวีชะงัก คิดๆ มองเบอร์ของผู้หญิงทั้งสองคนแล้วเลือกไม่ได้ว่าจะโทร.หาใครดี
ด้านมณฑิราเดินหงุดหงิดกลับมานั่งที่เตียง แล้วถอนใจอย่างอึดอัดกับกรอบที่ตัวเองถูกบีบมาตลอด หญิงสาวหยิบมือถือเครื่องมณฑิราขึ้นมา จะกดโทร.หารัฐรวี แต่ก็ชะงัก เลยหยิบมือถืออีกเครื่องของมณฑาขึ้นมา แล้วกดหาเบอร์รัฐรวี
มณฑิรามองเบอร์มือถือของรัฐรวีที่มือถือทั้งสองเครื่อง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะโทร.หารัฐรวีในฐานะไหนดี
ส่วนอาทิตย์นอนเล่นบนเตียงพิมพ์ไลน์หาวิไลลักษณ์
“คุณวิไลลักษณ์ได้ถามคุณพ่อคุณแม่ให้ผมรึยังครับ เรื่องที่จะนัดเจอกัน”
อาทิตย์มองรอคำตอบ จนมีข้อความไลน์ตอบกลับมา
“คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ว่างค่ะ”
อาทิตย์ถอนหายใจเซ็งอยู่บนเตียง
ไม่นานต่อมาอาทิตย์เดินมาลงนอนหนุนตักแม่ชื่นที่กำลังดูทีวีอยู่ อาทิตย์ดูทีวี สลับกับดูหน้าแม่
“ถ้าพ่ออยู่ด้วยก็คงดีเนอะแม่” แม่ชื่นพยักหน้า “แม่คิดถึงพ่อบ้างไหม”
“คิดถึงสิ”
“แล้วตอนพ่อหนุ่มๆ พ่อเค้าเหมือนหนูไหมแม่”
“ถ้าเรื่องกะล่อนนี่พอกัน พ่อยังไงลูกเป็นแบบนั้นเลย”
“ถ้าพ่อเค้ากะล่อน แล้วพ่อเค้าทำยังไง ตากับยายเค้าถึงยกแม่ให้พ่อ”
แม่ชื่นมองหน้าลูก “นี่ไปชอบใครเข้าจริงๆ แล้วใช่ไหมถึงมาถามแม่แบบนี้”
อาทิตย์ออดอ้อน “แม่ตอบหนูก่อนสิจ๊ะ”
“โอ๊ย พ่อแกใช้เวลาอยู่ตั้งนานกว่าตากับยายแกจะยอมรับ แต่เค้าเป็นตัวของเค้าเอง จริงใจให้ตากับยายแกเห็น เดี๋ยว! ตกลงแกไปชอบใคร ไม่เห็นเล่าให้แม่ฟังบ้าง”
อาทิตย์แหย่ “แม่อยากรู้เหรอจ๊ะ”
โทรศัพท์ดังขัดจังหวะเสียก่อน อาทิตย์เห็นเบอร์แปลกๆ โทร.มา แต่ก็กดรับสาย
“สวัสดีครับ อาทิตย์พูดครับ” เขาดีดตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างตื่นเต้น “คุณพ่อคุณวิไลลักษณ์เหรอครับ” แม่ชื่นมองลูกงงๆ
เช้านี้ หมอฉบังนั่งคุยกับคุณหญิงหิรัญญิการ์และมณฑิราที่สวนบ้านคุณหญิง
“คราวนี้ผมขอเพิ่มวิตามินอีกตัวนึงนะครับ อย่างอื่นก็ทานเหมือนเดิมครับ”
“มาทีนึงก็เพิ่มยาทีนึงนะคะคุณหมอ”
เด็กรับใช้เข้ามาท่าทีนอบน้อม “คุณรัฐรวีมาค่ะ”
รัฐรวีเดินตามคนใช้เข้ามา ยกมือไหว้คุณหญิง “สวัสดีครับคุณหญิง” สาวใช้เดินออกไป
“ตรงเวลาดีนะคะ” คุณหญิงหิรัญญิการ์ยิ้มทัก
“ผมกลัวจะทำให้คุณมณไปเรียนสายน่ะครับ”
“คนขับรถคนใหม่ของคุณมณเหรอครับ” หมอฉบังแซวเล่น รัฐรวีอึ้งไปนิดหนึ่ง เพราะนึกถึงนายวี
มณฑิรารู้ทันความคิดรัฐรวี “อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ คนระดับคุณรัฐรวีจะลดตัวมาเป็นคนขับรถให้มณได้ยังไง จริงไหมคะคุณป้า”
คุณหญิงตัดบท “รีบไปเถอะจ้ะ แล้วอย่าลืมเอาขนมที่ทำมาฝากป้าด้วยนะ”
มณฑิรายกมือไหว้คุณหญิง แล้วกำลังจะเดินออกไปกับรัฐรวี
เด็กรับใช้คนเดิมเข้ามาอีก “คุณภูวเดชมาค่ะ”
ทั้งหมดพากันอึ้งไป
ภูวเดชยืนรออยู่ที่รถประตูตรงหน้าบ้าน ท่าทางหงุดหงิดที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในบ้าน มณฑิราเดินออกมา ภูวเดชดีใจจะเข้าไปหา
“คุณมณครับ ผมมารับ” เขาชะงัก เมื่อเห็นรัฐรวี หมอฉบังเดินตามออกมา “คุณรัฐรวี”
รัฐรวียิ้มทักตามมารยาท “สวัสดีครับคุณภูวเดช วันนี้คงต้องเสียมารยาทนะครับ ผมต้องรีบพาคุณมณไปเรียนทำขนม เดี๋ยวจะไม่ทัน”
“ได้ยังไงครับ ทุกทีผมเป็นคนมารับคุณมณ”
มณฑิราขัดขึ้น “คุณป้าเป็นคนขอให้คุณวีมาค่ะ”
“นี่คุณหญิงยังโกรธผมเรื่องงานวันเกิดอยู่เหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะไปขอโทษท่าน...”
หมอฉบังแทรกขึ้น “คุณภูครับ ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจนะครับ คุณหญิงท่านพอใจไอ้วีมากกว่าคุณ ถ้าเป็นผม ผมยอมแพ้ไปแล้วครับ ไม่อยู่ให้อายหรอก”
ภูวเดชโกรธ จะเดินเข้าไปจะเอาเรื่องหมอฉบัง
มณฑิราปรามเสียงขุ่น “คุณภูคะ ที่นี่บ้านคุณป้านะคะ”
หมอฉบังแดกดัน “ใช่ครับ ไม่ใช่สนามบอลที่คุณคิดจะเตะบอลอัดผมเท่าไหร่ก็ได้”
รัฐรวีตกใจ “ไอ้หมอ นี่แกโดน”
“เฮ้ย ฉันโอเค”
“มันเป็นเกมครับ วันนั้นคุณหมอเป็นโกล ช่วยไม่ได้”
รัฐรวีฟังแล้วแค้น “ผมว่าแมทช์หน้าเราต้องเจอกันแล้วล่ะครับ แต่วันนี้ผมขอตัวก่อน ไปครับคุณมณ”
รัฐรวีเดินพามณฑิราไปขึ้นรถตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล หมอฉบังเดินไปขึ้นรถที่จอดอีกที่หนึ่ง
ภูวเดชมองตาขุ่นแค้นมากๆ
ที่เรือนคนใช้บ้านมณฑิรา ตอนสาย แม่เมียดยกจานกับข้าวมาตั้งโต๊ะ วิไลลักษณ์เดินกลับขึ้นมาบนเรือนถามหาพ่อ
“แม่ พ่อไปไหนก็ไม่รู้จ๊ะ หนูหาไม่เจอเลย ที่สวนก็ไม่อยู่”
“คงไปนั่งโม้อยู่ที่ร้านกาแฟนั่นแหละ ไปตามพี่แกมากินข้าวไป”
“พี่เวกก็ไม่อยู่จ้ะ”
“งั้นก็กินกันก่อนเลย ไปหยิบชามมาแบ่งกับข้าวไว้ให้พ่อกับพี่แกไป”
วิไลลักษณ์เดินไปจะหยิบจานข้าวที่ครัว โทรศัพท์ดัง วิไลลักษณ์หยิบออกมาเห็นว่าเป็นอาทิตย์โทร.มา จึงกดรับสาย
“สวัสดีค่ะคุณอาทิตย์”
แทบจะทันทีทันใด วิไลลักษณ์วิ่งกลับมาหาแม่เมียดด้วยท่าทีตกอกตกใจ
“แม่ แย่แล้วแม่ พ่อกับพี่เวกเค้าแอบนัดเจอคุณอาทิตย์”
“พูดจริงหรือพูดเล่น”
“พูดจริงสิแม่ คุณอาทิตย์โทร.มาหาหนูเมื่อกี๊ เค้าคิดว่าหนูจะไปด้วย”
แม่เมียดอึ้ง ทิ้งช้อนที่กำลังจะกินข้าว
ทางด้านนายวงแต่งตัวเป็นผู้ดี เดินเข้ามาในศูนย์การค้ากับเวก ท่าทางนายวงตื่นเต้น เดินเข้ามาแล้วหันกลับจะเดินออกไป
เวกรีบดึงไว้ “จะไปไหนพ่อ”
“พ่อจะไปห้องน้ำ”
เวกอ่อนใจ “ไม่ต้องดูแล้วพ่อ พ่อดูเป็นสิบรอบแล้ว พ่อแต่งตัวดีแล้วจ้ะ”
“แกแน่ใจนะไอ้เวก อย่าให้คุณอาทิตย์เค้าจับได้เชียวนะเว้ย”
“เค้าจะจับได้ก็เพราะพ่อมีพิรุธนี่แหละจ้ะ ไปเร็ว จะได้เวลานัดแล้ว”
เวกพาพ่อเดินเข้าศูนย์การค้า นายวงเดินมองไปรอบๆ รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปหมด
แม่เมียดเปิดตู้เสื้อผ้า พลิกดูเสื้อผ้าผัวที่แขวนอยู่ รวมถึงที่พับๆ ไว้
“เสื้อผ้าที่คุณมณให้มาปลอมตัวคราวก่อนไม่อยู่จริงๆ ด้วย ไอ้วงนะไอ้วง คิดอะไรของมันถึงได้ทำแบบนี้”
วิไลลักษณ์ร้อนใจ “ทำไงดีล่ะแม่ หนูโทร.ไปหาพ่อกับพี่เวกก็ไม่มีใครยอมรับสายเลย”
“ก็ต้องไปตามกลับมาก่อนพ่อแกจะก่อเรื่องน่ะสิ เดี๋ยวก็ได้เดือดร้อนไปถึงคุณมณอีก”
“แม่จะให้หนูไปคนเดียวเหรอจ๊ะ แล้วถ้าพ่อไม่ยอมกลับมากับหนูล่ะ”
“แกจะให้ชั้นแต่งตัวเป็นผู้รากมากดีแบบคราวก่อนไปตามพ่อกับพี่แกเหรอ ฝันไปเถอะ”
“แล้วแม่ไม่กลัวคุณมณเดือดร้อนแล้วเหรอจ๊ะ”
แม่เมียดอึ้งไป
ไม่นานต่อมาวิไลลักษณ์กับแม่เมียดที่แต่งตัวอย่างผู้ดี เดินออกจากบ้านมณฑิรา ท่าทางแม่เมียดทุลักทุเลไม่ชินกับชุดที่ใส่ เดินบ่นตลอดทาง
“ไอ้วงนะไอ้วง เพราะมันคนเดียว อย่าให้เจอนะ”
“แม่อย่าเพิ่งบ่นเลยจ้ะ รีบไปก่อนเถอะ”
แม่ลูกให้รีบเดินออกไปด้วยกัน
อ่านต่อหน้า 4
ฝันเฟื่อง ตอนที่ 6 (ต่อ)
นายวงกับเวกนั่งอยู่ด้วยกันในร้านอาหารหรูของห้าง นายวงวางท่าดูภูมิฐานอย่างกับผู้ดี
“มีอะไรก็พูดกับคุณอาทิตย์เขาดีๆ นะพ่อ” นายวงพยักหน้า อืม.. “อย่าไปกระโชกโฮกฮากใส่เค้า ผู้ดีเค้าไม่ทำกัน” นายวงพยักหน้าอีก อืม.. “แล้วก็อย่าเผลอไปยกมือไหว้เค้านะ”
นายวงชักรำคาญ “เออ พูดมากจริงเว้ย จะอยู่นั่งคุยด้วยเลยไหม”
เวกเซ็งลุกเดินออกไป โดยหาที่นั่งแอบดูอยู่หน้าร้าน นายวงนั่งอยู่คนเดียว พยายามแอบดูคนอื่น แล้ววางท่ากินกาแฟให้เหมือนชาวบ้าน
ครู่เดียวก็เห็นอาทิตย์เดินเข้ามาในร้านยกมือไหว้นอบน้อม “สวัสดีครับคุณอา”
นายวงยกมือไหว้อ่อนน้อม “สวัสดีครับ” นึกได้ รีบยืดตัว ฟอร์มเข้ม
เวกแอบดูอยู่ส่ายหัวอย่างสุดเซ็งปนเครียด
“เพิ่งพูดไปแหม็บๆ จะรอดไหมเนี่ยพ่อ”
ฝ่ายมณฑิรากับรัฐรวียืนอยู่หน้าโต๊ะลงทะเบียนหน้าห้องเรียนทำเค้ก
เจ้าหน้าที่ถามว่า “ลงทะเบียนเรียนกี่ท่านคะ”
มณฑิราบอก “ที่เดียวค่ะ”
รัฐรวีรีบบอก “สองดีกว่าครับ” มณฑิราหันมองรัฐรวี เขายิ้ม “ถือว่าหาความรู้ใส่ตัวด้วยไงครับ”
เจ้าหน้าที่ยิ้มพลางถาม “ตกลงเป็นสองท่านนะคะ”
ภูวเดชเดินพรวดเข้ามาหน้าโต๊ะลงทะเบียนบอกทันที “สามครับ”
มณฑิรา รัฐรวีมองอึ้งๆ ที่ภูวเดชตามมา
ภูวเดชยิ้มให้มณฑิราแล้วหันไปมองรัฐรวีอย่างไม่ยอม รัฐรวียิ้มนิด ไม่ยี่หระ
คุณต๋อยเดินเข้ามาในครัว เห็นแต่กุ๊กกิ๊กกำลังนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวาน
“กุ๊กกิ๊ก แกเห็นนังเมียด กับไอ้วง แล้วก็นังวิไลไหม หายไปไหนกันหมด”
“ไม่เห็นตั้งนานแล้วค่ะ สงสัยจะหาเรื่องอู้งานกันทั้งบ้านแน่ๆ เลยค่ะคุณต๋อย”
“หน็อย พอคุณมณให้ท้ายเข้าหน่อย เอาใหญ่เลยนะพวกนี้ กลับมาเจอดีแน่”
วิไลลักษณ์ กับแม่เมียดในชุดผู้ดีมาถึงในศูนย์การค้า ท่าทางแม่เมียดประหม่าสุดขีด ไม่กล้าเดิน
วิไลลักษณ์เดินไปไม่เห็นแม่ก็แปลกใจ หันกลับมามอง
“แม่ มาทางนี้จ้ะ”
วิไลลักษณ์หันมาจูงมือแม่ให้เดินไปด้วยกัน
วิไลลักษณ์พาแม่เมียดมาถึงหน้าร้านกาแฟ เห็นว่าเวกกำลังนั่งส่องดูนายวงกับอาทิตย์ข้างในร้าน
“ไอ้เวก”
เวกชะงัก เงยหน้ามาเห็นแม่เมียดกับวิไลลักษณ์ในชุดคนรวยยืนอยู่ ก็ตกใจสุดขีด
“แม่!”
“ก็แม่แกน่ะสิ พ่อแกอยู่ไหน”
เวกยิ้มแหยๆ
นายวงวางท่าขึงขัง กำลังนั่งคุยอยู่กับอาทิตย์ในร้านอาหาร
“ปีนเข้าบ้านคนอื่นดึกๆ แบบนั้น คุณคิดจะทำอะไรลูกสาวผมกันแน่”
“ผมขอโทษจริงๆ ครับคุณอา ผมกับคุณวิไลลักษณ์มีเรื่องเข้าใจผิดกัน ผมพยายามจะโทร.ไปอธิบายแล้วแต่คุณวิไลลักษณ์ก็ไม่รับ ผมไม่รู้จะทำยังไง”
“ก็ออดไง ออดมีทำไมไม่กด”
อาทิตย์หน้าเจื่อนสุดๆ “คือตอนนั้นผมคิดว่าขนาดโทร.ไปยังไม่รับ ถึงกดออดไปก็คงไม่ออกมาเปิดประตูให้ผมอยู่ดีครับ อีกอย่างมันก็ดึกแล้วด้วย ผมกลัวว่าจะแตกตื่นกันทั้งบ้าน”
นายวงคิดตาม
อาทิตย์พูดต่อ “เชื่อผมเถอะครับคุณอา ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อคุณวิไลลักษณ์เลยแม้แต่น้อยครับ คุณวิไลลักษณ์เองก็เข้าใจผมแล้วด้วยนะครับ”
ระหว่างนี้แม่เมียด วิไลลักษณ์เดินตามเวกเข้ามา ยืนด้านหลังนายวง
“นี่ไงครับ คุณวิไลลักษณ์มาแล้ว ลองถามดูเลยก็ได้ครับ”
“อะไร ลูกสาวผมไม่ได้มาด้วย”
วิไลลักษณ์เรียกขึ้น “พ่อคะ” นายวงอึ้ง
แม่เมียดเรียกอีกว่า “คุณ!”
นายวงหันไปดู เห็นแม่เมียดยืนมองตาเขียวอยู่
อาทิตย์ยกมือไหว้แม่เมียด “สวัสดีครับคุณอา”
แม่เมียดยกมือรับไหว้เก้ๆกังๆ นายวงนั่งไม่ติด เพราะรู้ว่าต้องโดนเมียด่าเละแน่ๆ
มณฑิรามองทึ่งรัฐรวีที่กำลังตีไข่ในชามอย่างคล่องแคล่ว จนคิดไม่ถึง
“คล่องกว่ามณอีกนะคะเนี่ย”
ภูวเดชที่ตีไข่ในชามท่าทางไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายยิ้มแต้ “ขอบคุณครับที่ชม”
“มณหมายถึงคุณรัฐรวีค่ะ”
ภูวเดชเซ็ง
“ตอนอยู่แคนาดา ผมต้องทำอาหารทานเองบ่อยๆ ครับ ก็เลยพอมีวิชาติดตัวอยู่บ้าง”
“ลำบากแย่เลยนะครับ อย่างว่าแหละครับ ค่าเทอมมันแพง คงจะไม่มีเงินไปนั่งกินข้าวตามร้านอาหาร” ภูวเดชเยาะ
มณฑิราเซ็ง “ไม่เกี่ยวหรอกค่ะคุณภู ตอนอยู่ที่โอไฮโอ มณก็ทำทานเองเหมือนกันค่ะ เป็นการหัดช่วยเหลือตัวเองน่ะค่ะ”
“อย่างว่าแหละครับ คุณภูคงจะชินกับการใช้เงินซื้อมากกว่า” รัฐรวีแดกดัน
ภูวเดชแค้นรัฐรวีและเจ็บใจมณฑิราที่เข้าข้างอีกฝ่าย
โทรศัพท์รัฐรวีดัง รัฐรวีหยิบมาดูเห็นว่าเป็น “อาทิตย์” โทร.มา
รัฐรวีหันมาบอกกับมณฑิราว่า “ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับคุณมณ”
แล้วรัฐรวีเดินเลี่ยงออกไป ภูวเดชมองเขม่นตามรัฐรวีไป
รัฐรวีเดินเลี่ยงมณฑิราและภูวเดชมากดรับสาย
“มีอะไรไอ้ทิตย์ รีบพูดมาฉันกำลังยุ่ง”
อาทิตย์อยู่ที่ยืนมุมหนึ่งในห้าง
“โอนเงินมาหน่อยครับ”
“อะไรของแก ทำไมฉันต้องโอนเงินให้แกด้วย”
“พอดีคุณพ่อคุณวิไลลักษณ์นัดผมออกมาเจอ ตอนนี้ผมกำลังจะพาครอบครัวคุณวิไลลักษณ์ไปทานข้าวครับ”
“แต่ตอนนี้ฉันเรียนทำเค้กอยู่ ออกไปโอนให้แกไม่ได้”
“คุณวีก็โอนออนไลน์สิครับ แค่นี้ก็ต้องให้บอก” รัฐรวีเซ็ง “แค่นี้ก่อนนะครับ หายไปนานเดี๋ยวเค้าสงสัย ขอบคุณครับคุณวี” อาทิตย์วางสายไป
รัฐรวีวางสายเซ็งๆ
อาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ นายวง แม่เมียดดูเครียดๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับการทานแบบผู้ดี วิไลลักษณ์ห่วงว่าพ่อกับแม่จะหลุด
“ทำไมคุณอาไม่ค่อยทานเลยครับ หรือว่าอาหารที่ผมสั่งไม่ถูกปากรึเปล่าครับ”
“เปล่า ก็อร่อยดี” นายวงจะใช้ช้อนในมือตักกับข้าว
แม่เมียดกระแอมพูดเบาๆ “ฮะแฮ่ม ช้อนกลาง”
นายวงชะงักวางช้อน แล้วใช้ช้อนกลางตักกับข้าวอย่างไม่ชิน วิไลลักษณ์หันไปยิ้มกลบเกลื่อนกับอาทิตย์
อาทิตย์คิดได้รีบบอกวิไลลักษณ์ “คุณวิไลลักษณ์ครับ จะว่าอะไรไหมครับ ถ้าผมจะขออนุญาตถ่ายรูปกับคุณพ่อคุณแม่คุณวิไลลักษณ์”
“จะดีเหรอคะ คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปน่ะค่ะ”
“นานๆ ทีก็พอได้น่า อยากถ่ายก็ถ่ายสิ แล้วส่งให้ด้วยนะ จะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก” นายวงว่า
แม่เมียดแอบตีขาเตือนผัว อาทิตย์ยิ้มดีใจแล้วหันไปหาบริกร
“น้องๆ ถ่ายรูปให้พี่หน่อยครับ”
อาทิตย์ส่งมือถือให้บริกร แล้วชวนวิไลลักษณ์ไปยืนซ้อนด้านหลังนายวงกับแม่เมียด
แม่เมียดเกร็งๆ นายวงยิ้มแต้ บริกรถ่ายเสร็จส่งมือถือคืนให้อาทิตย์ อาทิตย์อัพรูปลงเฟสบุคทันที พร้อมใส่ข้อความกำกับภาพไปว่า “มาทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่คุณวิไลลักษณ์”
“โพสต์ลงเฟซบุ๊คด้วยเหรอคะ”
“ผมอยากให้ใครบางคนเห็นน่ะครับ”
อาทิตย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ วิไลลักษณ์ไม่รู้ว่าอาทิตย์จะเล่นอะไรกันแน่
ขณะที่อิงอรกำลังนั่งให้ช่างผมไดร์ผมให้อยู่ในร้านเสริมสวย และเล่นมือถือ เปิดดูเฟซบุ๊คไปด้วย จนเห็นภาพอาทิตย์ถ่ายรูปกับครอบครัววิไลลักษณ์ อิงอรมองอย่างเจ็บใจ
นายวงยืนคุยกับอาทิตย์อยู่
“คุณอาทิตย์ ผมมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย”
อาทิตย์ยืนฟังอยู่ข้างๆ
“ครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ ผมว่าเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่าไหมครับ”
ทั้งสองคนกำลังยืนฉี่อยู่ในห้องน้ำ
“คุยที่นี่ดีแล้ว ผมอยากให้รู้แค่เราสองคน” อาทิตย์ยิ้มเจื่อนนิดๆแล้วพยักหน้า “คุณชอบลูกสาวผมจริงๆ ใช่ไหม”
“ชอบครับ”
“ดี เพราะผมเองก็ถูกชะตากับคุณ ถ้าคุณจริงจังกับลูกผมก็อย่าทำเป็นเล่นๆ ไม่อย่างนั้นผมเล่นงานคุณหนักแน่”
“ครับ ผมสัญญาครับว่าผมจะดูแลคุณวิไลลักษณ์เป็นอย่างดี”
“ดีมาก กลับไปทานข้าวกันต่อดีกว่า ร้านนี้อาหารอร่อยดี”
นายวงตบไหล่อาทิตย์อย่างแรง อาทิตย์มองดูมือนายวงที่ตบไหล่ตัวเองแล้วยิ้มแหยๆ นายวงล้างมือแล้วเดินออกจากห้องน้ำ
อาทิตย์ยิ้มย่องดีใจ “พ่อตาชอบแบบนี้ มีหวังแล้วเรา”
ฝ่ายเวกชะเง้อมองเข้าไปในร้านอย่างเบื่อหน่าย เลยหันไปดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา
ระหว่างนี้ที่บริเวณทางเดิน คุณหญิงหิรัญญิการ์เดินมากับเพื่อนในสมาคม 2 คน
เวกตกใจมาก “คุณหญิง ซวยแล้ว”
เวกรีบหลบ แล้วกดโทร.หาวิไลลักษณ์ทันที
วิไลลักษณ์อยู่ในร้าน คุยโทรศัพท์กับเวกในอาการอึ้งปนตกใจ
“จ้ะๆ ขอบใจจ้ะ” แล้วกดวางสาย
อาทิตย์แปลกใจ “เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณวิไลลักษณ์”
“เอ่อ วิไลลักษณ์ว่าเราเช็คบิลกันเลยดีกว่าค่ะ”
นายวงท้วง “เดี๋ยวสิวิไล พ่อว่าจะทานของหวานสักหน่อย”
วิไลลักษณ์คิดหาทางให้อาทิตย์เดินออกไปจากโต๊ะ “งั้นคุณอาทิตย์ช่วยไปสั่งลิ้นจี่แช่เย็นให้คุณพ่อทีนะคะ”
“ได้ครับ”
อาทิตย์ลุกออกจากโต๊ะไป
วิไลลักษณ์รีบบอกพ่อกะแม่ “พี่เวกโทร.มาบอกว่าคุณหญิงป้าของคุณมณเดินอยู่หน้าร้าน กำลังจะเข้ามาจ้ะ”
นายวงกับแม่เมียดตาเหลือกลาน ตกใจสุดขีด “ห๊ะ” พอเห็นคนหันมามอง สองคนรีบสำรวม
“ถ้าท่านมาเห็นพวกเราต้องซวยแน่ เอาไงดีล่ะพ่อ แม่”
นายวงกับแม่เมียดเครียดหนัก
“หนีออกจากร้านไปก่อนแล้วกัน”
นายวงครวญ “โธ่ เลยอดกินลิ้นจี่เลย”
แม่เมียดตีผัว แล้วนายวง แม่เมียด วิไลลักษณ์ก็ลุกจากโต๊ะ
เวกยืนกดลิฟต์รออยู่ ท่าทางร้อนรน นายวง แม่เมียด วิไลลักษณ์รีบเดินมารอลิฟท์ ทั้งหมดมองซ้ายมองขวา กลัวจะเจอคุณหญิงหิรัญญิการ์ วิไลลักษณ์กำลังโทร.บอกอาทิตย์อยู่
“ขอโทษนะคะคุณอาทิตย์ พอดีคุณพ่อคุณแม่มีธุระด่วนจริงๆ ค่ะ นี่อยู่ที่หน้าลิฟต์ค่ะ... ค่ะๆๆ” วิไลลักษณ์รีบวางสาย “คุณอาทิตย์ขอตามมาส่งด้วยค่ะ”
เวกกดลิฟต์อย่างร้อนรน สักครู่ลิฟต์มา วิไลลักษณ์ลังเล เพราะกลัวอาทิตย์มาแล้วไม่เจอ
เวกเร่ง “รีบไปก่อนเถอะวิไล”
นายวง แม่เมียด วิไลลักษณ์และเวกรีบเดินเข้าลิฟต์
“เดี๋ยวครับ รอผมด้วยครับคุณวิไลลักษณ์”
อาทิตย์พุ่งเข้ามากดปุ่ม ลิฟต์ที่กำลังจะปิด ถูกเปิดออก
คุณหญิงหิรัญญิการ์กับเพื่อนเดินเข้ามาหน้าร้าน
“คนแน่นแบบนี้ กว่าจะได้ทานคงนานน่ะค่ะ”
คุณหญิงหันมาสบตากับนายวง แม่เมียด วิไลลักษณ์ และเวกพอดี ต่างคนต่างอึ้งกันไป
อาทิตย์เข้าลิฟต์มา ไม่รู้เรื่องอะไร
“โชคดีที่มาทัน ขอผมไปส่งที่รถนะครับ”
อาทิตย์กดปิดลิฟต์ ทั้งหมดยังคงนิ่งค้าง จนประตูลิฟต์ปิดลง
อาทิตย์มาส่งวิไลลักษณ์ นายวง แม่เมียด เวกที่ท่าทางรีบร้อนเดินกลับไปที่รถ
อาทิตย์บอกกับนายวง แม่เมียดว่า “คุณอาครับ…”
นายวง แม่เมียดชะงัก หันมา
“คือ ผมมีเรื่องจะขออนุญาตคุณอาครับ ผมอยากจะขอตัวคุณวิไลลักษณ์”
นายวง แม่เมียด เวกร้อง “ห๊า”
อาทิตย์รีบบอก “หมายถึงขอตัวคุณวิไลลักษณ์ให้ไปเดินเล่นกับผมน่ะครับ ผมสัญญาว่าจะรีบพาคุณวิไลไปส่งที่บ้าน”
สามคนหันมามองวิไลลักษณ์ นายวงเห็นหน้าวิไลลักษณ์ก็รู้ใจลูกตัวเองทันทีว่าอยากไปกับอาทิตย์
“ก็ดูแลลูกผมดีดีก็แล้วกัน”
อาทิตย์ยิ้มกว้าง ดีใจ
อีกฟาก รัฐรวี มณฑิราเดินออกมาหน้าห้องเรียน โดยรัฐรวีกับมณฑิราถือถุงใส่กล่องเค้กออกมาด้วย และภูวเดชก็ถือถุงใส่กล่องเค้กของตัวเองมาด้วยเช่นกัน รีบเดินตามสองคนมา
“ถ้ามณทำขนมเก่งอย่างคุณวี มณไปเปิดร้านขายแล้วค่ะ”
ภูวเดชแทรกตัวมาตรงกลาง “คุณมณอยากเปิดร้านขายขนมเหรอครับ เปิดกับผมไหมครับ ผมอยากเปิดอยู่พอดี”
รัฐรวีกับมณฑิรามองหน้าภูวเดช โดยไม่พูดอะไร แล้วเดินต่อ
รัฐรวีชวนขึ้นว่า “เราไปทานข้าวกันเลยไหมครับ”
“ก็ดีค่ะ”
ภูวแดชแทรกมาตรงกลางอีก “ถ้างั้นผม…”
รัฐรวีรีบชิงบอก “ผมจองไว้แค่สองที่ครับ”
ภูวเดชชะงัก รัฐรวีกับมณฑิราเดินออกไปด้วยกัน ภูวเดชมองตามตาลุกเป็นไฟ แล้วไม่ยอมแพ้ พุ่งเข้าไปหา
“คุณมณครับ ถ้างั้นผมไปรอคุณมณที่บ้านคุณหญิงป้าดีไหมครับ”
มณฑิราชะงัก ชักทนไม่ไหวกับความดื้อด้าน หันกลับมาบอกจริงจัง “คุณภูคะ มณขอพูดตรงๆ นะคะ...มณไม่ชอบคบกับคนพาล เรื่องที่คุณภูไปแกล้งคุณหมอฉบัง มณรับไม่ได้ค่ะ”
มณฑิราเดินไปกับรัฐรวีทันที
ภูวเดชอึ้ง เสียหน้า ยิ่งแค้นรัฐรวีเป็นทวีคูณ
อ่านต่อตอนที่ 7