xs
xsm
sm
md
lg

ฝันเฟื่อง ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฝันเฟื่อง ตอน 5

สองคนอยู่บนดาดฟ้าสวย รัฐรวีมองมณฑิราที่จับหน้ากากเตรียมจะถอดหน้ากากออกอย่างลุ้นๆ เพราะอยากเห็นหน้ามณฑิรา

รัฐรวียิ้มลุ้น จับหน้ากากเตรียมจะนับ3 อยู่แล้ว “1...2...”
รัฐรวีกับมณฑิรากำลังจะถอดหน้ากากออก
เสียงภูวเดชดังขัดขึ้น “คุณมณครับ คุณมณอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ”
รัฐรวีกับมณฑิราชะงัก
มณฑิราถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายภูวเดช พลางหันมาบอกรัฐรวี “คุณภูมา มณขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวจะเดินไป
“ไปทางนี้ดีกว่าครับ” รัฐรวีกำลังจะเดินนำไปอีกทาง
ภูวเดชวิ่งเข้ามาโดยเร็ว “คุณมณ”
รัฐรวีเลยจับมือมณฑิราพาวิ่งหนีภูวเดชออกไป
ภูวเดชเห็นหลังไวๆ พลางตะโกนตามไป
“แกจะพาคุณมณไปไหน คุณมณครับ รอผมก่อนครับ คุณมณ”
หนุ่มไฮโซขี้โอ่ที่เพิ่งก่อเรื่องให้เจ้าของวันเกิดขัดใจวิ่งตาม

ด้านรัฐรวีกับมณฑิราวิ่งหนีภูวเดชไป พากันหัวเราะไป
รัฐรวีพามณฑิราไปหลบอยู่หลังผ้าม่าน สองคนแอบอยู่ในระยะประชิดกันมาก
ภูวเดชวิ่งตามมาจุดที่เห็น แต่มองหาไม่เจอ
“คุณมณครับ คุณมณอยู่ไหนครับ”
รัฐรวี กับมณฑิราแอบอยู่ หันมามองหน้าหัวเราะกันคิก แล้วต่างคนต่างชะงัก มองหน้ากันอึ้งๆ รัฐรวีเอื้อมมือจะไปเปิดหน้ากากของมณฑิรา มณฑิราไม่ขยับหนี แต่จ้องตารัฐรวีนิ่ง
อยู่ๆ ผ้าม่านที่สองคนแอบอยู่ถูกเปิดออก รัฐรวีกับมณฑิราชะงัก ผละออกจากกัน
ภูวเดชนั่นเองที่เป็นคนเปิดผ้าม่าน เห็นมณฑิรายืนอยู่กับรัฐรวี
“แกจะทำอะไรคุณมณ”
“ผมไม่ได้ทำอะไรนี่ครับ”
มณฑิรารีบเปลี่ยนเรื่อง “คุณภูมีอะไรเหรอคะ”

ภูวเดชมองไม่ชอบขี้หน้ารัฐรวี “ไปคุยที่อื่นเถอะครับ ผมอยากคุยกับคุณมณสองคน”
มณฑิราบอกว่า “แต่มณไม่มีอะไรจะคุยกับคุณค่ะ”
ภูวเดชหน้าแตก อึ้ง นิ่งงันไป
อาทิตย์กับหมอฉบังที่วิ่งตามภูวเดช เข้ามาพอดี
โดยอาทิตย์ขยับเข้ามาหาภูวเดช “อ้าว อยู่ที่นี่เองคุณภู ผมตามหาตั้งนาน”
ภูวเดชเซ็งมาก “มีอะไรอีกครับ”
“ไอ้ทิตย์มันอยากถามคุณภูเรื่องรถน่ะครับ” หมอฉบัง
“ใช่ครับ เมื่อกี้ผมเห็นที่ลานจอดรถอยู่คันนึง สวยมาก คุณภูไปดูให้ผมหน่อยสิครับว่ายี่ห้ออะไร”
ภูวเดชไม่สนใจ “ถ่ายรูปแล้วส่งไลน์มาแล้วกันครับ”
อาทิตย์คะยั้นคะยอ “ไปดูให้ผมหน่อยเถอะครับ ผมอยากรู้เดี๋ยวนี้”
ทั้งอาทิตย์ และหมอฉบังลากพาภูวเดชออกไป
“นี่พวกคุณทำอะไรของคุณเนี่ย ปล่อยผม ปล่อยผม”
หมอฉบังหันมาทางสองคน “เอ้อคุณมณครับ! ผมเห็นคุณหญิงตามหาคุณมณกับไอ้วีอยู่น่ะครับ”
รัฐรวีเยื้อนยิ้มกับมณฑิรา “Third Time Lucky สงสัยจะไม่จริงนะครับ”

มณฑิรายิ้มตอบขำๆ

ด้านวิไลลักษณ์ใส่ผ้าถุงกำลังจะไปอาบน้ำ เดินมาหยิบโทรศัพท์ดูรูปอาทิตย์กับอิงอรในเฟซบุค สีหน้าหงุดหงิด วางโทรศัพท์แล้วเดินออกจากห้องไปห้องน้ำ

สักครู่หนึ่งกุ๊กกิ๊กแอบย่องเข้ามาในห้อง กุ๊กกิ๊กมองรอบๆ จนเห็นมือถือวิไลลักษณ์วางอยู่บนเตียง จึงหยิบขึ้นมา
“แกเสร็จชั้นแน่นังวิไลลักษณ์”
เสียงนายวงดังขึ้น “วิไล วิไล”
กุ๊กกิ๊กสะดุ้งมองหาที่หลบทั่วห้อง เลยเข้าไปนอนหลบอยู่ใต้เตียง
นายวงเปิดประตู เดินเข้ามา “เห็นใบตรวจล็อตเตอรี่ของพ่อไหม พ่อไปลืมวางไว้ไหนก็ไม่รู้”
นายวงถาม แต่ไม่เห็นวิไลลักษณ์ เลยก้มหาใบตรวจล็อตเตอรี่ไปรอบห้อง กุ๊กกิ๊กลุ้นระทึกว่านายวงจะเจอตัวเองไหม จ้องขานายวงที่เดินเข้ามาใกล้เตียงมากขึ้น
กุ๊กกิ๊กเหลือบไปเห็นใบตรวจล็อตเตอรี่ของนายวงตกอยู่ข้างๆ ตัวเอง
“อยู่ไหนน๊า” นายวงหาใหญ่
กุ๊กกิ๊กเอามือเขี่ยใบตรวจล้อตเตอรี่ให้ออกมาจากใต้เตียง นายวงหันไปเห็น
“อยู่นี่เอง”
นายวงหยิบใบตรวจล็อตเตอรี่ขึ้นมา พูดขึ้นมาลอยๆ
“ยังไม่ออกมาอีกเหรอ”
กุ๊กกิ๊กชะงัก ไม่รู้ว่านายวงพูดถึงใคร นายวงก้มหน้าลงมามองกุ๊กกิ๊กที่อยู่ใต้เตียง
“แกนั่นแหละนังกุ๊กกิ๊ก เท้าแกโผล่มาตั้งครึ่ง คิดว่าชั้นไม่เห็นเหรอ”
กุ๊กกิ๊กหันไปมอง เห็นว่าปลายเท้าตัวเองยื่นโผล่พ้นขอบเตียง นายวงดึงขากุ๊กกิ๊กลากออกมาจากใต้เตียง
“แกเข้ามาทำอะไรในห้องลูกสาวชั้น”
“หนูมายืมหนังสือดารา” กุ๊กกิ๊กตอแหล
นายวงไม่เชื่อ มองจับผิด “แล้วทำไมต้องหลบ”
“หนูตกใจ”
“เจ้าของห้องไม่อยู่เข้ามาได้ยังไง ออกไปเลย”
กุ๊กกิ๊กรีบวิ่งออกไป นายวงมองไปรอบๆ ห้องอย่างระแวงว่ากุ๊กกิ๊กเข้ามาขโมยอะไร

กุ๊กกิ๊กวิ่งมา มองซ้ายมองขวา พอเห็นว่าไม่มีคนจึงหยิบมือถือของวิไลลักษณ์ที่ขโมยมาจากในห้องออกมา กุ๊กกิ๊กยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วกดพิมพ์ข้อความไลน์ไปหาอาทิตย์

ฝ่ายมณฑิรากับรัฐรวีเดินกลับเข้ามาในงาน แล้วเดินไปหาคุณหญิงหิรัญญิการ์ที่ยืนอยู่กับรัฐและภัสสร
คุณหญิงยิ้มทัก “อ้าว เจอกันแล้วเหรอลูก”
รัฐรวีแนะนำ “คุณมณฑิราครับ นี่คุณพ่อคุณแม่ผม”
มณฑิรายกมือไหว้ภัสสรและรัฐ “สวัสดีค่ะ” สองคนยิ้มรับไหว้
“เดินมาด้วยกันแบบนี้ แสดงว่าได้คุยกันแล้วใช่ไหมลูก เป็นไงบ้างตาวีของป้า” ภัสสรยิ้มย่อง
รัฐปราม “คุณ เกรงใจคุณหญิงบ้าง”
คุณหญิงยิ้มชอบใจ “ดิฉันว่าเราปล่อยให้เด็กๆ เค้าทำความรู้จักกันเองดีกว่าค่ะ”

รัฐรวีกับมณฑิราหันมายิ้มให้กัน

ด้านอาทิตย์และหมอฉบังล็อคแขนภูวเดชคนละข้าง พามาที่ลานจอดรถ ภูวเดชสะบัดออก

“นี่คุณหมอ คุณอาทิตย์ผมรู้นะว่าคุณไม่ได้จะให้ผมดูรถ พวกคุณแค่จะกันผมออกจากคุณมณ เพื่อให้เพื่อนคุณได้จีบคุณมณใช่ไหม”
“คุณภูก็ดูละครมากไป ไม่มีใครเค้าทำอย่างนั้นหรอก” หมอฉบังว่า
“ทำไมจะไม่มี ผมยังกันคุณมณจากเพื่อนคุณเลย” ภูวเดชหลุดปากเอง หมอฉบัง กะอาทิตย์ มองจ้องหน้า ภูวเดชรู้ตัวว่าเผลอหลุดปาก “คือผม ผม...แล้วแต่คุณจะคิดแล้วกัน ผมจะไปหาคุณมณ”
อาทิตย์เรียกไว้ “เดี๋ยวสิครับ อย่าเพิ่งไป”
อาทิตย์กับหมอฉบังช่วยกันดึงภูวเดชไว้ สามคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ที่ลานจอดรถ แต่แล้วภูวเดชก็สะบัดหลุดแล้ววิ่งกลับเข้างานไปได้
จังหวะนี้ ได้ยินเสียงเมสเสจมือถือดัง อาทิตย์กดดู
หมอฉบังจะวิ่งตามภูวเดช แต่เห็นอาทิตย์ยืนนิ่งเลยหันมา “ไอ้ทิตย์ คุณภูมันกลับเข้างานไปแล้ว”
อาทิตย์บอกเซ็งๆ ว่า “ปล่อยเค้าเถอะครับ”
หมอฉบังเง็ง “อ้าว ทำไมแกยอมง่ายๆ วะ”
อาทิตย์ดูมือถือ ท่าทางกังวล “งานเข้าผมแล้ว คุณหมอตามไปก่อนเถอะครับ”
หมอฉบังรีบเดินตามภูวเดชเข้างานไป
ส่วนที่มุมหนึ่งของเรือนคนใช้บ้านมณฑิรา
หน้าจอมือถือวิไลลักษณ์ มีข้อความที่เพิ่งส่งไปในไลน์
“คุณอาทิตย์เจ้าชู้ ไปกับผู้หญิงคนอื่น วิไลลักษณ์รับไม่ได้ เราเลิกกันเถอะ”
กุ๊กกิ๊กยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างผู้มีชัย

ที่งานเลี้ยงวันเกิด ภูวเดชเดินกลับเข้ามาในงาน พบว่ารัฐรวียืนอยู่กับมณฑิรา รัฐ ภัสสร และคุณหญิง และเห็นกับตาว่าทั้งหมดคุยและหัวเราะหัวใคร่กันอย่างสนุกสนาน ภูวเดชรีบพุ่งเข้าไปหามณฑิรา หมอฉบังตามมาคว้าแขนภูวเดชไว้
“เดี๋ยวครับคุณภู เรายังคุยกันไม่จบเลย”
“ปล่อยผม” ภูวเดชสะบัดแขนออก แต่หมอฉบังจับไว้มั่นไม่ยอมปล่อย
รัฐหันไปเห็นหมอฉบังที่ยื้อยุดแขนภูวเดชไว้
“วี ตาหมอมีเรื่องอะไรน่ะ ไปดูซิ”
รัฐรวีพยักหน้าแล้วรีบเดินมาหาภูวเดชกับหมอฉบัง
“มีอะไรกันครับ”
ภูวเดชหันมาหารัฐรวี พูดแทบเป็นตวาด “คุณอย่ามายุ่งกับคุณมณ”
รัฐรวีชะงัก เห็นคนในงานหันมามองเลยรีบบอกเชิงปราม “ผมว่าเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่าครับ”
รัฐรวีจับแขนภูวเดชจะให้เดินไปด้วยกัน
ภูวเดชโกรธ ขืนตัวไม่ยอมไป
“ปล่อย”
ภูวเดชสะบัดแขนออก มือภูวเดชกระแทกโดนหน้ารัฐรวีอย่างแรง รัฐรวีผงะ หน้ากากหลุดกระเด็น รัฐรวีหน้าหันไปอีกทาง เอามือจับตรงหัวคิ้วที่โดนกระแทกเพราะรู้สึกเจ็บ
คุณหญิง มณฑิรา รัฐ ภัสสร ต่างตกใจ รีบเดินเข้ามา
“มีเรื่องอะไรกัน” คุณหญิงถามเสียงขุ่น
“ผมเปล่านะครับคุณหญิงป้า”
“คุณวีเป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
นาทีที่รัฐรวีหันกลับมาหามณฑิรา หญิงสาวอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเห็นหน้าเขาชัดๆ หน้าตารัฐรวีเหมือนกับนายวีคนขับรถของอาทิตย์มาก
“ให้แม่ดูหน่อยซิลูก” ภัสสรเข้าไปดูหน้ารัฐรวี
มณฑิรามองหน้ารัฐรวีอึ้งๆ อยู่
หมอฉบังก้มเก็บหน้ากากที่พื้นมาส่งให้รัฐรวี รัฐรวีรับหน้ากากมาใส่
คุณหญิงพึมพำ พยายามข่มอารมณ์ “ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ว่าใคร” ก่อนจะหันมาทางภูวเดช “คุณภูวเดช ชั้นขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิคะ” ท่านขอตัวกับรัฐ ภัสสร “ดิฉันขอตัวยัยมณซักครู่นะคะ”

คุณหญิงเดินนำออกไป ภูวเดชเดินตามไปกับมณฑิรที่ยังอึ้งๆ เรื่องรัฐรวีอยู่

ฝ่ายอาทิตย์พยายามกดโทรศัพท์หาวิไลลักษณ์ แต่วิไลลักษณ์ไม่ยอมรับสาย อาทิตย์กดโทร.ใหม่อีกครั้ง แต่ก็ถูกตัดสาย

อาทิตย์ร้อนใจมาก “รับโทรศัพท์ผมหน่อยสิครับคุณวิไลลักษณ์ ผมจะอธิบายให้ฟัง”
อาทิตย์พยายามกดมือถือโทรหาวิไลลักษณ์อีก แล้วถูกตัดสาย
“ฮื้อ ไม่ยอมรับสายเลย”
อาทิตย์มองไปเห็นอิงอรเดินออกมาที่ลานจอดรถ และอิงอรเองก็ชะเง้อมองหาอาทิตย์อยู่ อาทิตย์รีบฉากหลบ แล้วเดินแอบกลับเข้าไปในงาน โดยที่อิงอรไม่ทันเห็น

กุ๊กกิ๊กกดตัดสายของอาทิตย์ทิ้ง หัวเราะสะใจ เวกที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าเช็ดตัว ถือขันเดินมาจากหลังบ้าน เห็นกุ๊กกิ๊กหัวเราะบ้าอยู่

“ทำอะไร”
กุ๊กกิ๊กตกใจรีบซ่อนมือถือไว้ข้างหลัง “เปล่า”
“เปล่าแล้วมายืนลับๆ ล่อๆ อะไรตรงนี้” เวกยิ้ม พูดแหย่ “อย่าบอกนะว่าจะมาแอบดูชั้นอาบน้ำอีก”
“ไอ้เหน่อ ไอ้บ้า”
กุ๊กกิ๊กรีบเดินหนีไปทางเรือนคนใช้ แล้วแอบเก็บมือถือวิไลลักษณ์ใส่กระเป๋า เวกเดินตาม

ภายในห้องรับรองของงานเลี้ยงตอนนี้ คุณหญิงพยายามข่มอารมณ์ พร้อมกับฟังภูวเดชอธิบายไปด้วย
คุณหญิงพึมพำกับตัวเอง “ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ว่าใคร”
“จริงๆ นะครับคุณหญิงป้า ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมแค่พยายามจะเข้าไปคุยกับคุณมณ แต่คุณรัฐรวีให้เพื่อนมากันผมไว้ เค้าจะได้อยู่กับคุณมณสองต่อสอง”
คุณหญิงพึมพำคำเดิม “ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ว่าใคร”
ภูวเดชฟ้องต่อ “เจตนาไม่บริสุทธิ์แบบนี้ ไว้ใจไม่ได้เลยนะครับคุณหญิงป้า”
คุณหญิงพึมพำ “ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่ว่าใคร” สุดท้ายชักทนไม่ไหว “จบรึยัง” ภูวเดชชะงักกับน้ำเสียงขุ่นเขียว “ชั้นเป็นคนอยากให้ยัยมณทำความรู้จักกับคุณรัฐรวีเอง ถึงได้ให้เด็กไปตามตั้งแต่หัวค่ำ”
มณฑิรางง เพราะไม่รู้เรื่องนี้ “คุณป้าให้เด็กมาตามมณด้วยเหรอคะ ไม่เห็นมีใครมาบอกมณเลยค่ะ”
“เด็กเพิ่งมาบอกป้า ว่าคุณภูวเดชรับปากว่าจะตามเราให้”
มณฑิรากับคุณหญิงหันไปมองภูวเดชเป็นตาเดียว
ภูวเดชทำเป็นเพิ่งนึกออก “อุ๊ตะ ตอนหัวค่ำใช่ไหมครับ สงสัยตอนนั้นผมช่วยคุณมณรับแขกอยู่ก็เลยลืม แขกคุณหญิงป้าเยอะมากเลยนะครับ”
มณฑิรากับคุณหญิงยังมองภูวเดชนิ่งๆ
ภูวเดชจำต้องยอมรับ “ผมขอโทษครับ”
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ วันนี้ชั้นขอบคุณมากที่คุณมาช่วยงานแต่เช้า นี่งานก็ใกล้จะเลิกแล้ว คุณคงจะเหนื่อยมาก กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนไหมคะ”
ภูวเดชยังไม่รู้ตัว “ผมยังไม่เหนื่อยครับ”
มณฑิราตัดบท “คุณภูคะ มณขอร้องค่ะ”

ภูวเดชอึ้ง นิ่งงันไป คิดไม่ถึงว่าจะโดนมณฑิราไล่กลับ

อ่านต่อหน้า 2

ฝันเฟื่อง ตอน 5 (ต่อ)

อีกฟาก วิไลลักษณ์ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เดินออกมาจากห้องนอนมาหานายวงกับแม่เมียดที่นั่งดูทีวีอยู่กุ๊กกิ๊กเดินหนีเวกกลับขึ้นเรือนมาพอดี เวกตามหลังกุ๊กกิ๊กมาด้วย

“พ่อเห็นมือถือหนูไหม เมื่อกี้ก่อนอาบน้ำหนูวางไว้บนเตียง ไม่รู้หายไปไหน”
กุ๊กกิ๊กชะงักทันที เวกเลยหยุดเดินไปด้วย นายวงหันไปมองกุ๊กกิ๊ก รู้ทันที
“ถามนังกุ๊กกิ๊กมันสิ เมื่อกี้พ่อเห็นมันท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่ในห้องเรา”
วิไลลักษณ์รีบเดินมาเอาเรื่องกุ๊กกิ๊ก “เธอเข้าไปในห้องชั้นทำไม”
กุ๊กกิ๊กตกใจ รีบตอแหล “ชั้นแค่เข้าไปเอาหนังสือดารา”
แม่เมียดขึ้นเสียง “โกหก เมื่อเย็นแกเพิ่งแย่งหนังสือจากชั้นไปอ่าน แล้วหนังสือจะไปอยู่ในห้องวิไลมันได้ยังไง”
เวกมองจับผิด “เมื่อกี้ชั้นก็เห็นมันทำท่าทางแปลกๆ ที่หน้าเรือนด้วยแม่”
“ชั้นเปล่านะ”
เสียงโทรศัพท์วิไลลักษณ์ในกระเป๋ากุ๊กกิ๊กดัง เพราะอาทิตย์โทร.เข้ามาอีก
วิไลลักษณ์จำเสียงเรียกเข้าได้ “นั่นเสียงมือถือชั้นนี่”
กุ๊กกิ๊กตกใจรีบกดปิดเสียง วิไลลักษณ์ตรงเข้ามาจะแย่งโทรศัพท์จากกระเป๋ากุ๊กกิ๊ก กุ๊กกิ๊กยื้อไว้ไม่ยอม
“จะทำอะไร”
“เอาโทรศัพท์ชั้นคืนมา”
วิไลลักษณ์พยายามแย่งโทรศัพท์คืน แต่กุ๊กกิ๊กไม่ยอม เวกเข้าไปรั้งโอบตัวกุ๊กกิ๊กไว้จากด้านหลัง กุ๊กกิ๊กพยายามดิ้น
“ปล่อยชั้นนะไอ้เวก”
“ไม่ปล่อย คืนมือถือให้วิไลก่อน”
คุณต๋อยได้ยินเสียงดังเลยเดินเข้ามาดู เห็นเวกกำลังกอดกุ๊กกิ๊กไว้ทั้งตัว ก็ตกใจ
“นั่นแกทำอะไรไอ้เวก”
ทั้งหมดพากันชะงัก เวกรีบปล่อยกุ๊กกิ๊ก กุ๊กกิ๊กวิ่งไปหลบหลังคุณต๋อย รีบชิงฟ้องทันที
“ช่วยด้วยค่ะคุณต๋อย ไอ้พวกนี้มันเห็นกุ๊กกิ๊กอยู่คนเดียวเลยรุมกุ๊กกิ๊กค่ะ”
คุณต๋อยมองดุ เวกตกใจ เพิ่งนึกได้ว่านุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวอยู่ รีบหันหลังให้คุณต๋อย

ที่งานเลี้ยง รัฐรวียืนอย่กับหมอฉบัง มณฑิราเดินเข้ามาหา
“มณต้องขอโทษคุณวีเรื่องคุณภูวเดชด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่เสียดายที่ไม่ได้เห็นหน้าคุณมณฑิราอีกแล้ว”
“จะคุยกันสองคนเลยไหม ฉันจะได้กลับบ้าน” หมอฉบังแซว
มณฑิรากับรัฐรวีขำ
อาทิตย์เดินหน้าตาตื่นเข้ามา พอเห็นรัฐรวีคุยอยู่กับมณฑิราก็ไม่กล้าเข้ามา ได้แต่กวักมือเรียกอยู่ห่างๆ รัฐรวีกับหมอฉบังมองไปเห็นก็ชะงัก แปลกใจกับท่าทางร้อนรนของอาทิตย์
มณฑิราหันมองตามเห็นอาทิตย์ก็รู้สึกว่าคุ้นๆ หน้า
หมอฉบังบอกกับรัฐรวีว่า “ท่าทางไอ้ทิตย์มันมีอะไรจะคุยกับแก”
รัฐรวีหันมาหามณฑิรา “ผมขอตัวไปคุยกับเพื่อนสักครู่นะครับคุณมณ”
มณฑิรายิ้ม “ค่ะ”
วินาทีนั้น มณฑิรารู้ทันทีชายอีกคนคืออาทิตย์ เลยมองตามไปยังรัฐรวีที่เข้าไปคุยกับอาทิตย์

อิงอรเดินกลับเข้ามามองหาอาทิตย์ ท่าทางอิงอรชักโกรธ

รัฐรวีเดินมาหาอาทิตย์ตรงหน้างาน อาทิตย์รีบดึงมือรัฐรวีเข้ามากระซิบอย่างร้อนใจ

“คุณวิไลลักษณ์บอกเลิกผมครับ”
รัฐรวีร้อง “ห๊ะ”
อาทิตย์อธิบาย “เค้าต้องโกรธที่เห็นรูปผมกับคุณอิงอรในเฟซบุคแน่ๆ เลยครับ ผมโทร.ไปเค้าก็ไม่รับสาย แถมยังกดสายทิ้งอีก ผมทำยังไงดีล่ะครับคุณวี”
อิงอรมองหา จนเจออาทิตย์ยืนคุยกับรัฐรวี ก็รีบเดินดิ่งมาหา อาทิตย์หันไปเห็นพอดี
“เฮ้อ คุณอิงอรมา ผมไปก่อนนะครับคุณวี เจอกันที่บ้านนะครับ” เขารีบส่งกุญแจรถให้รัฐรวี แล้ววิ่งจู๊ดออกไปทันที
“ไอ้ทิตย์”
อิงอรเข้ามาถามรัฐรวี “คุณอาทิตย์ไปไหนคะพี่วี”
“เห็นมันว่ามีธุระเลยขอตัวกลับบ้านไปแล้วครับ”
อิงอรค้อนควักโกรธ “กลับบ้านแล้ว” หล่อนหยิบมือถือมากดโทร.หาอาทิตย์ แต่อาทิตย์ไม่รับสาย อิงอรยิ่งโมโห โวยวายกับรัฐรวี “ไม่ยอมรับสายอิงด้วย ฝากบอกคุณอาทิตย์ด้วยนะคะ อย่าคิดนะว่าจะหนีอิงพ้น พี่วีก็รู้นี่ว่าถ้าอิงอยากได้อะไร อิงต้องได้”
อิงอรสะบัดตัวเดินหุนหันไปอีกทาง
รัฐรวีส่ายหน้าเซ็งๆ “โชคสองชั้นแล้วไอ้ทิตย์เอ๊ย”
เหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของมณฑิรา

คุณต๋อยกำลังซักฟอกถามวิไลลักษณ์ เวก กุ๊กกิ๊ก มีนายวง แม่เมียดยืนฟังอยู่ด้วย เวกใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
“ตกลงเมื่อกี๊มันเกิดอะไรขึ้น”
“กุ๊กกิ๊กขโมยมือถือวิไลไปค่ะ พอวิไลขอคืนก็ไม่ยอมให้ พี่เวกก็เลยเข้าไปช่วยวิไลค่ะ”
“ไม่จริงนะคะ กุ๊กกิ๊กไม่ได้มีนิสัยขี้ขโมยเหมือนวิไลนะคะ” วิไลลักษณ์อึ้งไป
แม่เมียดโมโห “อ้าว นังกุ๊กกิ๊ก เรื่องมันจบไปแล้ว แกเอามาพูดทำไมอีก”
“ทำไมจะพูดไม่ได้ ก็วิไลมันขี้ขโมยจริงๆ”
นายวงยัวะ “แล้วก่อนที่มือถือวิไลจะหาย แกเข้าไปทำอะไรในห้องวิไล ทำท่าลับๆ ล่อๆ หลบอยู่ใต้เตียง มันต้องเข้าไปขโมยมือถือวิไลแน่ๆ”
กุ๊กกิ๊กเหวอ รีบไปหลบหลังคุณต๋อย “คุณต๋อยช่วยกุ๊กกิ๊กด้วยค่ะ กุ๊กกิ๊กถูกใส่ร้าย”
คุณต๋อยแหวใส่ “หยุดนะนายวง ถ้ามั่นใจก็ไปหาหลักฐานมา อย่ามากล่าวหากันลอยๆ แบบนี้”
“ก็นี่ไงหลักฐาน มือถือของวิไลจะไปอยู่กับนังกุ๊กกิ๊กได้ยังไง ถ้ามันไม่ได้ขโมยไป” แม่เมียดของขึ้น
กุ๊กกิ๊กยืนกระต่ายขาเดียว “หนูไม่ได้ขโมย หนูเก็บได้ต่างหาก”
วิไลลักษณ์ไม่เชื่อ “โกหก เธอจะเก็บได้ได้ยังไง ก็ฉันวางไว้ที่เตียงนอนก่อนจะออกไปอาบน้ำ”
“เธอน่ะสิคนโกหก เที่ยวไปหลอกผู้ชายว่าตัวเองรวย นังผู้ดีจอมปลอม นังคุณหนูกำมะลอ! เค้าไม่รักเธอจริงหรอก” กุ๊กกิ๊กแลบลิ้นใส่วิไลลักษณ์
วิไลลักษณ์โกรธที่โดนจี้ใจดำ ลุกขึ้นตบกุ๊กกิ๊ก ผัวะ กุ๊กกิ๊กหน้าสะบัด หันขวับมามองอย่างโกรธแค้น
“แกตาย...”
กุ๊กกิ๊กลุกขึ้นตบวิไลลักษณ์ สองคนตบกันไปด่ากันไป
“นังขี้ขโมย” / “จอมโกหก”
คุณต๋อย แม่เมียด นายวง และ เวกพยายามจะห้าม แต่กุ๊กกิ๊กกับวิไลลักษณ์วิ่งไล่กันลงไปจากเรือน ทั้งหมดต้องวิ่งตามไปเป็นพรวน

มือถือของวิไลลักษณ์ตกอยู่บนพื้นเรือนคนใช้ เห็นว่าอาทิตย์โทร.เข้ามาตลอดๆ

อาทิตย์อยู่ในชุดแฟนซียืนอยู่หน้าบ้านมณฑิราแล้วตอนนี้ เขาพยายามกดโทรศัพท์หาวิไลลักษณ์ แต่วิไลลักษณ์ไม่รับ

อาทิตย์ส่งข้อความหาวิไลลักษณ์ “ออกมาคุยกับผมหน่อยเถอะนะครับ ผมอยู่หน้าบ้านคุณแล้ว”
อาทิตย์มองมือถือ วิไลลักษณ์ไม่กดอ่าน และไม่มีข้อความตอบ อาทิตย์ร้อนใจ บ่นงึมงำ
“ทำไมความรักเรามีอุปสรรคจริงวะ”
อาทิตย์เงยหน้ามองกำแพงบ้าน พลางคิดไปว่า...

อาทิตย์อยู่ในชุดแฟนซีโรมิโอชุดเดิมยืนอยู่หน้ารั้วบ้านมณฑิรา เขามองซ้ายมองขวา แล้วตัดสินใจปีนรั้วบ้าน ก่อนจะกระโดดลงจากรั้วลงมาในบริเวณบ้านมณฑิรา
อาทิตย์ค่อยๆ เดินย่องผ่านบริเวณสวนเพื่อหลบสายตาคนจนมาถึงหน้าตัวบ้านใหญ่ อาทิตย์เงยหน้ามองไปบนชั้นสอง เห็นว่าวิไลลักษณ์ในชุดจูเลียตยืนอยู่ริมระเบียง
“คุณวิไลลักษณ์ครับ”
“คุณอาทิตย์ คุณอาทิตย์กลับไปเถอะค่ะ”
“ผมไม่กลับครับ ผมมาเพื่อพิสูจน์ว่าผมจริงใจกับคุณวิไลลักษณ์จริงๆ ให้โอกาสผมนะครับ”
อาทิตย์ปีนระเบียงขึ้นไปหา จนขึ้นไปยืนอยู่บนระเบียงกับวิไลลักษณ์
“ผมรักคุณวิไลลักษณ์คนเดียวเท่านั้นครับ”
อาทิตย์โผเข้ากอดวิไลลักษณ์
“วิไลลักษณ์เชื่อแล้ว แต่คุณอาทิตย์กลับไปก่อนเถอะค่ะ”
“ทำไมล่ะครับ”
“กลับไปเถอะค่ะ เชื่อวิไลลักษณ์เถอะ”
เสียงนายวงดังขึ้น “แกปล่อยลูกสาวชั้นเดี๋ยวนี้นะ”
อาทิตย์หันไปเห็นนายวงใส่ชุดแฟนซี ถือปืนลูกซองยาว เล็งมาที่ตน
วิไลลักษณ์ตกใจ “พ่อ”
“ไม่ปล่อยใช่มั้ย”
นายวงยิงปืนใส่อาทิตย์ ปัง! ร่างอาทิตย์ล้มลงในอ้อมกอดของวิไลลักษณ์
วิไลลักษณ์กรีดร้อง “คุณอาทิตย์...คุณอาทิตย์…”
อาทิตย์ขาดใจตายในอ้อมกอดของวิไลลักษณ์

อาทิตย์ยืนสยองอยู่ริมรั้ว พึมพำออกมา
“ถึงตายเลยเหรอวะ” แล้วมองกำแพงบ้านอีกรอบ “แต่พ่อคุณวิไลลักษณ์คงไม่ยิงเราเหมือนในหนังหรอก”
อาทิตย์มองกำแพงบ้านแล้วมองซ้ายมองขวา เขาเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปที่รั้วบ้าน มองหาเหลี่ยมมุมแล้วเริ่มปีนรั้วขึ้นไป

ฝ่ายคุณต๋อย เวก นายวง แม่เมียดนั่งเหนื่อยหอบ มองวิไลลักษณ์ กับกุ๊กกิ๊กที่หมดสภาพยับเยินดูไม่จืดนั่งหอบอยู่คนละด้าน
ทั้งวิไลลักษณ์ และ กุ๊กกิ๊กยังมองอย่างไม่ยอมกัน ทั้งคู่ขยับจะเข้าหากันอีก
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยทั้งสองคน คราวนี้ถ้าใครเริ่มก่อนฉันจะไล่ออกจริงๆ”
เวกร้องโวยขึ้น “อ้าว คุณต๋อย กุ๊กกิ๊กมันมาขโมยของวิไล แถมยังด่าวิไลขนาดนั้น ทำไมคุณต๋อยไม่ลงโทษมันคนเดียว”
กุ๊กกิ๊กแว้ดใส่ “ไอ้เหน่อหยุดเลยนะ ชั้นบอกแล้วไงว่าไม่ได้ขโมย”
“หลักฐานเห็นอยู่ทนโท่ ยังจะเถียงอีก เดี๋ยวปั๊ด”
นายวงเอ่ยขึ้น “พอแล้วไอ้เวก เรื่องนี้ชั้นว่าเอาไว้ให้คุณมณตัดสินดีกว่า ยุติธรรมดี”
คุณต๋อยฉุน “นี่แกหาว่าชั้นลำเอียงเหรอ”
“คุณต๋อยพูดเองนะ ชั้นยังไม่พูดซักคำ” นายวงว่า
แม่เมียดตัดรำคาญ “พอๆๆๆ หมดจากรุ่นเด็ก รุ่นแก่จะมาด่ากันให้เด็กมันถอนหงอกรึไง ไปไอ้เวก พาน้องกลับขึ้นบ้านไป”
วิไลลักษณ์นึกได้ “พี่เวก แล้วมือถือของชั้นล่ะ”
“ตกอยู่บนบ้านมั้ง”
วิไลลักษณ์รีบวิ่งขึ้นบ้านไปเอามือถือทันที กุ๊กกิ๊กมองตามอย่างหมั่นไส้ เวกหันมาเห็นแยกเขี้ยวชี้หน้าคาดโทษกุ๊กกิ๊ก
กุ๊กกิ๊กไม่กลัวพยักหน้าท้าทายเวก คุณต๋อย นายวงก็มองเขม่นไม่ยอมกัน

แม่เมียดลากนายวงออกไป

อาทิตย์กำลังปีนอยู่บนรั้วบ้านมณฑิรา พอปีนขึ้นมาแล้วนั่งพักบนรั้ว มองไปที่พื้นในบ้าน

“ครึ่งทางแล้วเว้ยไอ้ทิตย์”
เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น “คุณทำอะไรครับ”
“ปีนรั้วไปหาแฟนครับ” อาทิตย์ตอบแล้วนึกได้ หันไปเห็นเป็นตำรวจสายตรวจ 2 คนยืนอยู่ ก็ตกใจ
“ตำรวจ”
ตำรวจ 1 พูดยิ้มๆ “ไปหาแฟนแล้วทำไมไม่เข้าประตูดีๆล่ะครับ”
“เอ่อ คือผมทะเลาะกับแฟนนิดหน่อย เค้าก็เลยไม่ให้เข้าบ้านครับ”
ตำรวจ1ยังพูดยิ้มๆ ต่อ “ทะเลาะกับแฟน หรือว่าเป็นขโมยกันแน่ครับ” แล้วเปลี่ยนเสียงพูดเป็นเสียงเข้ม “ลงมาเลย ไปคุยกันที่โรงพัก”
“คุยตรงนี้เลยได้ไหมครับ ลมเย็นดี”
ตำรวจ1เสียงเข้มกว่าเดิม “ลงมา”
อาทิตย์จ๋อย “ครับ” รีบปีนลงมา

ทางด้านวิไลลักษณ์ถือมือถือเข้ามาในห้องนอน แล้วรีบเปิดดู เห็นว่ามี 18 missed call กับ 29 ข้อความใน LINE
“คุณอาทิตย์ต้องคิดว่าเราบอกเลิกเค้าจริงๆ แน่เลย” เจ้าหล่อนกดอ่านข้อความสุดท้ายต้องตกใจสุดขีด “...ออกมาคุยกับผมหน่อยเถอะนะครับ ผมอยู่หน้าบ้านคุณแล้ว...ตายแล้ว”
วิไลลักษณ์จะวิ่งออกจากห้องไปดูอาทิตย์ที่หน้าบ้าน แต่ก็ชะงักหันมาดูสภาพตัวเองในกระจกที่ยับเยินจากการตบตีกับกุ๊กกิ๊ก วิไลลักษณ์พยายามจัดเสื้อผ้าและผมให้ดีแต่ก็ไม่รอด ยังไงก็ดูเป็นคนใช้อยู่ดี
วิไลลักษณ์ร้อนใจว่าจะทำยังไงดี

อาทิตย์ถูกใส่กุญแจมือ นั่งอยู่หลังรถตำรวจที่แล่นมาตามถนน โดยมีตำรวจ 1นั่งอยู่ข้างๆ ตำรวจ 2 ขับรถ
“ผมไม่ใช่ขโมยจริงๆนะครับคุณตำรวจ”
“ถ้าไม่ใช่ขโมยแล้วเมื่อกี้คุณทำอะไร”
“ปีนกำแพงบ้านครับ”
“น่านไง ขโมย”
“ไม่ใช่นะครับ”
ตำรวจ 1 มองสภาพ “แล้วแต่งตัวอะไรของคุณ บ้าด้วยรึเปล่า”
“เฮ้อ เปล่าครับ ผมไม่ได้บ้า” ได้ยินเสียงมือถือตัวเองดังขึ้น อาทิตย์ดีใจ “คุณตำรวจครับ รบกวนหยิบมือถือให้ทีเถอะครับ”
อาทิตย์รีบหันกระเป๋ากางเกงที่เก็บมือถือไว้ให้ตำรวจ ตำรวจ1มองชักไม่ค่อยไว้ใจว่าบ้ารึเปล่าแต่ก็ล้วงไปหยิบมือถือในกระเป๋ามายื่นให้อาทิตย์โดยดี อาทิตย์เห็นว่า วิไลลักษณ์ โทร.เข้ามาก็ดีใจ
“คุณวิไลลักษณ์…คุณตำรวจครับ รบกวนสไลด์หน้าจอให้ทีครับ” ตำรวจ 1 กดรับ อาทิตย์พยายามเอาหน้าแนบใกล้มือถือได้ยินเสียงก็ดีใจ “คุณวิไลลักษณ์ครับ อย่าโกรธผมนะครับ ฟังผมอธิบายก่อน ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่หน้าบ้านคุณแล้วครับ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่บอกไม่ได้ คือ เอ่อ ผมอยู่บนรถตำรวจ กำลังไปโรงพักครับ”
วิไลลักษณ์คุยสายอยู่ในห้องนอนตกใจมาก

“ห๊า คุณอาทิตย์โดนตำรวจจับเพราะปีนบ้านวิไลลักษณ์เหรอคะ”

อ่านต่อหน้า 3

ฝันเฟื่อง ตอน 5 (ต่อ)

ฝ่ายรัฐรวียังอยู่ในชุดแฟนซี กำลังขับรถกลับบ้าน คุยมือถือกับอาทิตย์ผ่านบลูทูธในรถไปด้วย
“แกคิดอะไรของแกห๊ะไอ้ทิตย์ ไปปีนบ้านเค้าตอนดึกๆ ดื่นๆ เค้าไม่เอาปืนมายิงแกก็บุญแล้ว”
อาทิตย์นั่งคุยโทรศัพท์อยู่หน้าโต๊ะร้อยเวรบนโรงพัก
“มันใช่เวลามาด่าผมไหมครับ มารับผมกลับบ้านก่อนสิครับคุณวี”
“มันน่าจะปล่อยให้นอนสงบสติอารมณ์ในคุกไปซักคืนจริงๆ”
“อย่าล้อเล่นสิครับคุณวี แค่นี้ผมก็กลัวจะแย่แล้วนะครับ”
“แล้วตำรวจเค้าเชื่อไหมว่าแกไม่ใช่ขโมย”
“ถ้าเชื่อผมจะมาอยู่ที่นี่เหรอครับ นี่คุณวิไลลักษณ์กำลังจะมาช่วยผมยืนยันตำรวจให้อีกทีด้วย คุณวีรีบมาเถอะครับ”
“โอเคๆๆ ชั้นรีบไปเดี๋ยวนี้”
รัฐรวีวางสาย แล้วรีบกลับรถกลางถนนทันที

มณฑิราเดินกลับเข้ามาในโถงบ้าน เห็นคุณต๋อยนั่งรออยู่ และรีบฟ้องทันที
“คุณมณต้องจัดการนะคะ แม่คนใช้ตัวดีของคุณมณทะเลาะกับกุ๊กกิ๊ก ตบตีกันอย่างกับแม่ค้าในตลาดค่ะ”
มณฑิราตกใจ “แล้วมีใครเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีใครเป็นอะไรหรอกค่ะ ป้ามาห้ามไว้ก็เลยไม่กล้า นังวิไลมันชักเอาใหญ่ หาว่ากุ๊กกิ๊กไปขโมยมือถือมัน พอกุ๊กกิ๊กบอกไม่ได้ทำ วิไลก็ไปตบเค้าเอาตบเค้าเอา ป้าไม่กล้าลงโทษ เพราะเห็นเป็นคนโปรดของคุณมณ”
ระหว่างนี้ทุกคนเห็นวิไลลักษณ์เดินเข้ามา ท่าทางร้อนใจ คุณต๋อยด่าวิไลลักษณ์
“รีบเสนอหน้ามาฟ้องคุณมณเหรอยะ”
“ไม่ใช่ค่ะคุณต๋อย” วิไลลักษณ์หันมาหามณฑิรา “เรื่องทะเลาะกับกุ๊กกิ๊ก วิไลอธิบายได้ค่ะคุณมณ แต่ตอนนี้วิไลมีเรื่องขอร้องคุณมณค่ะ”
มณฑิราแปลกใจ

อาทิตย์ยืนกลัวๆ อยู่ในคุกซึ่งห่างจากโต๊ะร้อยเวรพอสมควร
วิไลลักษณ์กับมณฑิราที่เปลี่ยนชุดกันแล้ว กำลังคุยกับร้อยเวรในห้อง ร้อยเวรมองชุดที่มณฑิราใส่กับชุดที่วิไลลักษณ์ใส่
ถามกับมณฑิราว่า “ตกลงคนไหนเป็นเจ้าของบ้านกันแน่ครับ”
“ดิฉันเป็นเจ้าของบ้านค่ะ” มณฑิราบอก
วิไลลักษณ์ว่า “ดิฉันเป็นคนรับใช้ของคุณมณค่ะ”
ร้อยเวรมองบัตรประชาชนมณฑิราและใบสำเนาทะเบียนบ้าน แล้วส่ายหน้างงๆ
“งั้นถ้าคุณยืนยันว่ารู้จักกับคุณอาทิตย์ ผมก็จะปล่อยตัวคุณอาทิตย์ครับ แต่ทีหลังมีอะไรก็คุยกันดีๆนะครับ อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
วิไลลักษณ์ยกมือไหว้ “ขอบคุณค่ะคุณตำรวจ”

รัฐรวีขับรถเข้ามาจอด แล้วจะเดินเข้าไปในโรงพัก แล้วชะงัก
“ไปชุดนี้ไม่ได้สิ”
รัฐรวีเปิดท้ายรถ แล้วหยิบเสื้อผ้าชุดคนขับรถออกมาจากกระเป๋ากีฬา

ถัดจากนั้น ตำรวจไขกุญแจห้องขังออก อาทิตย์รีบเดินออกมา
“ขอบคุณมากนะครับคุณวิไลลักษณ์ที่มาช่วยผม”
วิไลลักษณ์ทั้งห่วงทั้งโกรธที่พลอยทำให้มณฑิราเดือดร้อนไปด้วย
“ทีหลังคุณอาทิตย์อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ”
“ผมขอโทษครับ แต่ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ นี่ครับ ผมอยากคุยกับคุณวิไลลักษณ์”
วิไลลักษณ์ไม่ทันตอบ รัฐรวีที่เปลี่ยนชุดเป็นคนขับรถแล้วเดินเข้าโรงพักมา เห็นมณฑิราในคราบมณฑายืนอยู่กับวิไลลักษณ์และอาทิตย์ก็ดีใจ เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอ
“คุณมณ”
วิไลลักษณ์รีบเข้ามายืนขวางมณฑิราไว้ “เรียกพี่มณทำไม ไปดูเจ้านายนายสิ”
อาทิตย์ได้ที แกล้งด่า “เพิ่งมาเหรอไอ้วี นี่ถ้าชั้นรอแก ชั้นคงไม่ได้ออกจากคุก”
มณฑิราแกล้งถามเพื่อจับโกหก “นั่นสิคะ นายวีติดธุระอะไรอยู่เหรอ ถึงได้มาช้า”
“อ๋อ เอ่อ คือผมเผลอหลับไปน่ะครับ ขอโทษครับคุณอาทิตย์”
มณฑิรายิ้มรู้ว่ารัฐรวีตั้งใจโกหก
วิไลลักษณ์ตัดบท “ดึกแล้ว วิไลว่าเรากลับบ้านกันเถอะค่ะพี่มณ”
“เดี๋ยวสิครับ ผมยังไม่ได้อธิบายอะไรให้ฟังเลย”
“ถ้าลำบากก็อย่าเลยค่ะ”

“ไม่ลำบากอะไรเลยครับ นะครับ ขอเวลาผมสักครู่เดียว”

ครู่ต่อมา วิไลลักษณ์ยืนคุยอยู่กับอาทิตย์อยู่ที่เก้าอี้แถวลานจอดรถของโรงพัก

“ที่ผมอธิบายเป็นเรื่องจริงนะครับ ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณอิงอรจริงๆ สาบานให้ฟ้าผ่าผมตายตอนนี้เลยก็ได้”
“อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยค่ะ”
อาทิตย์แอบยิ้ม “คุณวิไลลักษณ์เป็นห่วงผมเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ วิไลลักษณ์กลัวโดนฟ้าผ่าไปด้วย”
“อ้าว” อาทิตย์ทำหน้าเศร้าสุดขีด “คุณวิไลลักษณ์คิดดูนะครับ ถ้าผมคิดอะไรกับคุณอิงอรเค้าจริงๆ ผมไม่มาหาคุณวิไลลักษณ์ที่บ้านจนถูกตำรวจจับหรอกครับ”
“แต่รูปในเฟซบุคมันก็ชวนให้คิดจริงๆ นี่คะ ทีแรกคุณอาทิตย์บอกวิไลลักษณ์ว่าจะไปงานกับที่บ้าน แล้วอยู่ๆ ก็มีรูปคู่กับ คุณอิงอร”
“เอาอย่างนี้ครับ เพื่อแสดงความจริงใจของผมที่มีต่อคุณวิไลลักษณ์ ผมขออนุญาตเข้าไปทำความรู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ของคุณวิไลลักษณ์อย่างเป็นทางการอีกครั้งได้ไหมครับ”
วิไลลักษณ์อึ้ง ตกใจ “เอาแบบนั้นเลยเหรอคะ”
“เอาแบบนี้เลยครับ คราวที่แล้วผมได้เจอกับท่านแค่แป็บเดียวเอง คราวนี้จะได้คุยกันนานๆ คุณวิไลลักษณ์จะได้เชื่อว่าผมจริงใจกับคุณจริงๆ นะครับ”
วิไลลักษณ์คิดหนัก

ด้านรัฐรวี และมณฑิรายืนรออยู่แถวหน้าโรงพัก
“ฉันว่าจะถามนายตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำไมคุณอาทิตย์เค้าแต่งตัวแบบนั้น” มณฑิราคาดคั้น
“อ๋อ คุณอาทิตย์เค้าไปเลี้ยงวันเกิดคุณหญิงอะไรซักอย่าง เป็นงานแฟนซีใส่หน้ากากน่ะครับ”
“งั้นนายก็ต้องไปส่งคุณอาทิตย์ที่งานด้วยสิ”
“ใช่ครับ”
“แล้วนายได้เข้าไปในงานหรือเปล่า”
“ไม่ได้เข้าหรอกครับ งานแบบนี้คนขับรถจะเข้าไปได้ยังไง คุณถามผมทำไมเหรอ” เขาย้อนถามกลับ
“ฉันแค่อยากรู้ว่างานแฟนซีหน้ากากเป็นยังไง”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” รัฐรวีมองมณฑิราแล้วแบมือข้างหนึ่งออกวางตรงหน้าเธอ
มณฑิราฉงน “อะไร”
“ผมจะให้คุณเขียนตัวเลข 10 ตัว ลงบนฝ่ามือผม” เห็นมณฑิรา ร้องหืออ งงๆ รัฐรวีจึงหยิบปากกาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ “ตัวเลขทั้งสิบตัวนี้มันต้องขึ้นต้นด้วยตัว 0 ตามด้วยเลข 8 ส่วนตัวเลขที่เหลือคุณก็เขียนไปจนครบ 10 ตัว…”
มณฑิรายิ้มรู้ทัน “แล้วถ้าฉันไม่เขียนล่ะ”
“ผมก็จะบอกว่าคุณใจร้าย ไม่เห็นแก่ความหลังครั้งอัมพวาเลย”
“081 492 ….” มณฑิราบอกเบอร์ใหม่ที่ให้วิไลลักษณ์ไปซื้อซิมมาให้
รัฐรวีดีใจรีบหยิบมือถือมาเมมเบอร์มณฑิราอย่างเบิกบาน มณฑิรามองเขานิ่งๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐรวีต้องปลอมตัวมาเป็นนายวีคนขับรถอาทิตย์ด้วย

สองสาวกลับจากโรงพักถึงบ้านเป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้ว วิไลลักษณ์กำลังช่วยเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องแต่งตัว ต่างคนต่างกำลังคิดถึงเรื่องของตัวเอง มณฑิราเงยหน้าไปเห็นวิไลลักษณ์ทำหน้าตาครุ่นคิดไม่สบายใจอะไรบางอย่าง
“เป็นอะไรจ๊ะวิไล กังวลเรื่องคุณต๋อยเหรอ”
“เปล่าค่ะ ก็อย่างที่วิไลเล่าให้ฟังบนรถน่ะค่ะ ว่ากุ๊กกิ๊กเป็นคนมาแกล้งวิไล”
มณฑิรายิ้มขำ “ชั้นก็เข้าใจแล้วไงจ๊ะ วิไลยังมีอะไรไม่สบายใจอีก แล้วกับคุณอาทิตย์เคลียร์กันแล้วใช่ไหม”
วิไลลักษณ์พยักหน้า “เคลียร์แล้วค่ะ”
แต่แล้ววิไลลักษณ์กลับก้มหน้า ไม่กล้าบอกมณฑิราเรื่องอาทิตย์อยากมาเจอพ่อกับแม่ มณฑิราคิดเรื่องรัฐรวีปลอมตัวเป็นคนขับรถ เลยแกล้งหยั่งเชิงถามวิไลลักษณ์
“ฉันถามอะไรหน่อยสิวิไล ถ้ามีคนมาหลอกฉันเหมือนที่วิไลทำกับคุณอาทิตย์ วิไลว่าฉันควรจะทำยังไง”
วิไลลักษณ์ฟังแล้วร้อนใจ “ใครคะ คุณภูเหรอคะ เค้ามาหลอกอะไรคุณมณคะ วิไลจะไปเอาเรื่องให้ค่ะ”
“ไม่ใช่คุณภูหรอกจ้ะ ฉันถามเฉยๆ”
มณฑิราตัดสินใจไม่บอกเรื่องรัฐรวีให้วิไลลักษณ์รู้ วิไลลักษณ์โล่งใจ แล้วกลับมาขบคิดเรื่องอาทิตย์
ตัดสินใจถามมณฑิราว่า
“คุณมณคะ สมัยนี้คนที่จะรักเราจากตัวเราจริงๆ มากกว่าสมบัติภายนอก ยังจะมีอยู่ไหมคะ”
มณฑิราชะงัก อึ้งไปเหมือนกัน “นั่นสิ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันวิไล”

มณฑิราครุ่นคิดแล้วในที่สุดก็ยิ้มสนุกออกมา เพราะคิดอยากจะพิสูจน์ใจ นายวี ของคนขับรถกำมะลอคนนั้นเหมือนกัน

สายของวันใหม่ ทุกคนถูกเรียกมารวมตัวห้องรับแขกตึกใหญ่ มณฑิรานั่งอยู่ที่โซฟารับแขก มีคุณต๋อย แม่เมียด นายวงนั่งอยู่ใกล้ๆ วิไลลักษณ์ กุ๊กกิ๊ก เวก สมจิตนั่งจ๋อยๆ อยู่

“ชั้นรู้เรื่องเมื่อคืนหมดแล้ว” มณฑิราหันมาทางเวก “เวก...ชั้นรู้ว่าเธอจะช่วยน้อง แต่กุ๊กกิ๊กเค้าก็เป็นผู้หญิง เธอจะเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงแบบนั้นไม่ได้ ทีหลังอย่าทำอีก”
เวกจ๋อย “ครับคุณมณ”
กุ๊กกิ๊กพูดใส่เวก “สมน้ำหน้า”
“เธอก็เหมือนกันกุ๊กกิ๊ก”
กุ๊กกิ๊กร้อง “อุ้ย!”
เรื่องมือถือ ฉันถือว่าไม่มีหลักฐานว่าเธอขโมยมาจริงรึเปล่า
“กุ๊กกิ๊กแค่เข้าไปหาหนังสือดาราจริงๆ ค่ะ”
มณฑิราตำหนิ “ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เธอก็ไม่ควรเข้าไปในห้องของคนอื่นเวลาที่เจ้าของเค้าไม่อยู่”
กุ๊กกิ๊กจ๋อยไป “ค่ะ”
“ส่วนวิไล ถึงเธอจะไม่พอใจกุ๊กกิ๊กยังไงก็ไม่ควรจะใช้กำลัง ยังไงเราก็อยู่บ้านเดียวกัน”
วิไลรับเสียงอ่อยๆ “ค่ะ
“ต่อไปอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ส่วนครั้งนี้ฉันจะยังไม่ลงโทษพวกเธอ”
คุณต๋อยทักท้วง “ตบตีกันขนาดนี้! คุณมณยังไม่ลงโทษอีกเหรอคะ”
“ถ้าจะให้มณลงโทษ มณก็ต้องลงโทษทุกคนนะคะ.. คุณต๋อยก็ผิดที่เป็นหัวหน้า แต่ห้ามลูกน้องไม่ได้ นายวงกับแม่เมียดก็ผิด ที่เป็นพ่อแม่แท้ๆ แต่ตักเตือนวิไลลักษณ์ไม่ได้”
ทุกคนจ๋อยไปทั้งแถบ
แต่คุณต๋อยไม่ยอมแพ้ “แต่เรื่องเมื่อคืนคุณมณจะไม่เอาเรื่องวิไลลักษณ์ไม่ได้นะคะ ถึงกับทำให้คุณมณต้องไปขึ้นโรงพักดึกๆ ดื่นๆ”
นายวงค้าน “เกี่ยวอะไรกับวิไล วิไลไม่ได้บอกให้คุณอาทิตย์เค้าปีนบ้านเราซักหน่อย”
คุณต๋อยแหวใส่ครอบครัววิไลลักษณ์ “แต่วิไลเป็นคนพาเค้ามารู้จักที่บ้าน แล้วคุณมณยังต้องทำตัวเป็นคนรับใช้ให้ลูกเธอบ่อยๆอีก มันสมควรไหม”
นายวง แม่เมียด เวกมองหน้าวิไลลักษณ์อย่างไม่รู้จะทำยังไง เพราะที่คุณต๋อยพูดก็ถูก

มณฑิราตัดบท “มณบอกแล้วไงคะคุณต๋อย เรื่องที่ให้พาคุณอาทิตย์มาที่บ้าน เรื่องที่มณทำตัวเป็นคนใช้ให้วิไล เป็นความคิดของมณเอง คุณต๋อยจะไปว่าวิไลไม่ได้”
“ใครทำอะไรผิด ป้าก็ว่าไม่ได้ งั้นป้าว่าตัวเองก็ได้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
คุณต๋อยน้อยใจเดินงอนออกไป มณฑิรามองตาม ด้วยความรู้สึกหนักใจ

เห็นรัฐรวี ภัสสรพาพรทิพย์เดินดูร้านเพชรอยู่
ภัสสรเอ่ยขึ้นกับพรทิพย์ “เสียดายนะคะว่าวันนี้หนูอิงไม่ได้มาด้วย ไม่อย่างนั้นดิชั้นจะให้เธอช่วยเลือกแบบเพชรคอลเล็กชั่นใหม่ที่จะใช้เปิดตัวสาขาที่พารากอน”
“ตั้งแต่ไปงานวันเกิดคุณหญิง ไม่รู้เจ้าตัวเค้าเป็นอะไรเหมือนกันค่ะ หงุดหงิดตลอดเวลา ใครก็เข้าหน้าไม่ติดสักคน”
ภัสสรหันมาถามรัฐรวี “มีเรื่องอะไรที่งานรึเปล่าตาวี”
รัฐรวีชะงัก ตอบไม่ได้ว่าอิงอรเครียดเรื่องอาทิตย์ “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ”
“น้าฝากดูน้องด้วยนะลูก เดี๋ยวเค้ามาก็ช่วยคุยกับเค้าหน่อย เผื่อจะยอมเล่าอะไรให้วีฟัง”
รัฐรวีตกใจ

“ห๊ะ เดี๋ยวน้องอิงมาเหรอครับ”

อาทิตย์กำลังเดินโทรศัพท์หาวิไลลักษณ์ แต่วิไลลักษณ์ไม่ยอมรับสาย

โทรศัพท์อาทิตย์มีสายรัฐรวี โทรซ้อนเข้ามา อาทิตย์กดตัดสายรัฐรวีทิ้ง ไม่ยอมรับแล้วก้มหน้ากดพิมพ์ข้อความหาวิไลลักษณ์ความว่า
“ตกลงเมื่อคืนโดนคุณพ่อคุณแม่ดุรึเปล่าครับ”
อาทิตย์มัวแต่เดินก้มหน้าดูโทรศัพท์ไม่ยอมมองทาง เห็นว่ามีเท้าผู้หญิงอยู่คู่หนึ่งเดินมาหยุดตรงหน้า อาทิตย์เงยหน้ามองไปแล้วต้องชะงักตกใจ
“คุณอิงอร”
อิงอรทักทายประชด “ดีใจจังเลยค่ะที่คุณอาทิตย์ยังจำอิงได้”
อาทิตย์มองเข้าไปในร้านเพชรเห็นภัสสร รัฐรวี และพรทิพย์คุยกันอยู่ในร้าน ก็กลัวความจะแตก
“เรามาคุยกันทางนี้ดีกว่าครับ” เขารีบแตะแขนจะพาอิงอรเดินออกไป
อิงอรสะบัดไม่ยอมไป “ทำไมไม่ยอมรับสายอิงเลยคะ อิงไลน์ไปก็ไม่ตอบ”
อาทิตย์ร้อนรนกลัวภัสสรจะออกมาเห็น “ใจเย็นครับคุณอิง คือ...” เขามองไปด้านหลังอิงอร เห็นว่าภัสสร รัฐรวี พรทิพย์เดินออกจากร้านยิ่งตกใจ “เอาอย่างนี้ดีกว่า เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าครับ ผมจะได้มีเวลาอธิบายให้คุณอิงเข้าใจ”
อิงอรดักคอ

“คิดจะนัดอิงส่งๆ แล้วปล่อยให้อิงรออีกเหรอคะ”

อาทิตย์เห็นกลุ่มภัสสรกำลังเดินใกล้เข้ามา และรัฐรวีมองมาเห็นอาทิตย์คุยกับอิงอรก็เหวอ สองหนุ่มสบตากัน แล้วเข้าใจกันทันที

รัฐรวีรีบชวนพรทิพย์กับภัสสรหยุดคุย “เอ้อ คุณแม่ครับ เพชรคอลเลคชั่นใหม่ที่คุณแม่อยากให้คุณน้าดูแบบ ผมว่าให้คุณน้าดูวันนี้เลยไหมครับ”
ภัสสรงง “เมื่อกี้เราคุยกันแล้วนี่จ๊ะว่าจะส่งรูปเสก็ตให้คุณพรทิพย์ก่อน”
“เอ้อ ใช่ๆๆ ครับ เราคุยกันแล้ว” ภัสสรกับพรทิพย์งง
ส่วนอาทิตย์บอกกับอิงอรว่า “งั้นเราไปกันตอนนี้เลยก็ได้ครับ ไปครับ” เขารีบพาอิงอรเดินออกไปทันที
อิงอรงงว่าทำไมคราวนี้อาทิตย์ยอมง่ายจัง แต่ก็ยอมเดินตามไป

ส่วนวิไลลักษณ์กำลังรีดผ้าอยู่ และคิดกลุ้มใจเรื่องที่ต้องไปบอกนายวงกับแม่เมียดว่าคุณอาทิตย์ขอเจอ
เสียงโทรศัพท์ดัง วิไลลักษณ์หยิบมาดูเห็นว่าเป็นอาทิตย์โทร.มา จึงรับสาย
“สวัสดีค่ะคุณอาทิตย์”
อาทิตย์ที่คุยโทรศัพท์อยู่ตรงลานจอดรถ
“คุณวิไลลักษณ์ครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกครับ แต่รับปากก่อนนะครับว่าฟังแล้วจะไม่โกรธ”
“รับปากก็ได้ค่ะ”
“วันนี้ผมต้องไปคุยงานกับคุณอิงอรครับ”
วิไลลักษณ์ได้ยินชื่อนี้ก็เสียงแข็งทันที “แล้วมาบอกวิไลลักษณ์ทำไมคะ”
“โธ่ ไหนรับปากว่าจะไม่โกรธไงครับ ที่ผมบอกก็เพราะผมกลัวว่าคุณวิไลลักษณ์รู้ทีหลังหรือไปรู้จากคนอื่น แล้วจะเข้าใจผิดเหมือนเมื่อคืนน่ะสิครับ”
“กลัววิไลลักษณ์เข้าใจผิด แล้วไปเจอกับเค้าอีกทำไมล่ะคะ”
“พอดีบ้านผมกับบ้านคุณอิงอรกำลังจะทำธุรกิจร่วมกันก็เลยมีเรื่องต้องคุยกัน แต่ผมยืนยันนะครับว่าเป็นเรื่องงานล้วนๆ หัวใจของผมมีแต่คุณวิไลลักษณ์คนเดียว คุณวิไลลักษณ์เชื่อผมนะครับ”
“เชื่อก็ได้ค่ะ เห็นแก่ที่คุณอาทิตย์บริสุทธิ์ใจโทร.มาบอก”
อาทิตย์ดีใจยิ้มออก “แล้วที่ผมจะขอนัดเจอคุณพ่อคุณแม่คุณวิไลลักษณ์ ท่านว่ายังไงบ้างครับ”
วิไลลักษณ์โกหกไป “ช่วงนี้ท่านยุ่งๆน่ะค่ะ วิไลลักษณ์เลยยังไม่ได้ถาม ขอตัวไปทำธุระก่อนนะคะ แล้วคุยกันค่ะ”
วิไลลักษณ์วางสายแล้วถอนหายใจ เพราะยังไม่รู้ว่านายวงกับแม่เมียดจะว่ายังไง

ขณะที่เวกกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ กุ๊กกิ๊กเดินผ่านมาเห็น
“แอบอู้เหรอไอ้เวก ชั้นจะไปฟ้องคุณต๋อย”
“อย่ามาหาเรื่องนะกุ๊กกิ๊ก! ชั้นนั่งอ่านหนังสือสอบ ไม่ได้อ่านหนังสือเม้าท์มอยดาราเหมือนแก”
“วู้ย ทำเป็นขยัน ฝันอยากจะเป็นอะไรอีกคนล่ะ?! แต่ชั้นว่าอย่างแกเป็นคนขับรถก็เหมาะแล้ว”
เวกชักโกรธ “กุ๊กกิ๊ก ชั้นฝันอยากทำงานดีๆ มีเงินเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่แล้วมันไปหนักส่วนไหนของแก ถ้าแกอยากจะเป็นคนใช้ทั้งชาติ ก็อย่ามาดูถูกคนอื่น”

เวกคว้าหนังสือเดินหนีไป กุ๊กกิ๊กอึ้งที่โดนเวกด่า

อ่านต่อหน้า 4

ฝันเฟื่อง ตอน 5 (ต่อ)

เวกถือหนังสือเดินหงุดหงิดกลับมาที่เรือนคนใช้ วิไลลักษณ์ที่กำลังลงจากเรือนจะไปหาเวก พอเห็นพี่ชายก็เดินเข้าไปหาทันที

“พี่เวกๆ ว่างรึเปล่า ขอชั้นปรึกษาอะไรหน่อยสิ”
เวกหงุดหงิดไม่อยากสนใจ “ไม่ว่าง หายใจอยู่”
วิไลลักษณ์งอน “พี่เวก”
“ชั้นไม่อยากฟังแกปรึกษาเลย ฟังทีไรมีเรื่องทุกที! เรื่องคุณอาทิตย์ใช่ไหม”
วิไลลักษณ์แกล้งชมเอาใจ “พี่เวกนี่นอกจากหน้าตาดีแล้วยังฉลาดอีกนะเนี่ย”
เวกบ้ายอยิ้มดีใจที่น้องชม “ไม่ต้องมาชมเลย มีไรว่ามา”
“คุณอาทิตย์เค้าอยากขอมาเจอพ่อกับแม่อีกครั้ง”
“ฟังปุ๊บ ไมเกรนขึ้นปั๊บ” เวกเห็นน้องหนักใจก็สงสาร “เรื่องนี้ชั้นช่วยแกไม่ได้หรอก แกต้องไปถามพ่อกับแม่เอง”
วิไลลักษณ์เสียงอ่อย “แต่ชั้นกลัวโดนพ่อกับแม่ดุ” กอดแขนอ้อนเวก “พี่เวกไปเป็นเพื่อนชั้นหน่อยนะ นะ”
เวกทำหน้าเซ็ง เพราะรู้ว่ายังไงเสียเขาต้องช่วยน้องอีกจนได้

ฝ่ายอาทิตย์กับอิงอรนั่งทานข้าวอยู้ด้วยกัน
“ทำไมเมื่อคืนคุณอาทิตย์ต้องหนีอิงกลับด้วยคะ”
“ผมไม่ได้หนีนะครับ ผมต้องรีบไปธุระด่วน ก็เลยไม่ทันได้บอก”
“แต่ตอนตีสองอิงก็โทร.หาด้วยนะคะ อย่าบอกนะคะว่าตีสองแล้วธุระยังไม่เสร็จ”
“อ๋อ ผมชาร์จมือถือไว้บนรถน่ะครับ แล้วลืมเอาลงมา”
อิงอรค้อน “บังเอิญจังเลย ไม่ใช่ว่าตั้งใจหลบหน้าอิงนะคะ”
“โธ่ ผมจะทำแบบนั้นทำไมล่ะครับ”
“ก็ดีแล้วค่ะ เพราะอิงจะบอกไว้ก่อนเลยว่า อิงเป็นคนชอบเอาชนะ ยิ่งใครหนี อิงก็ยิ่งตามค่ะ”
“เหรอครับ 55555”
อาทิตย์หัวเราะขำกลบเกลื่อน แล้วสีหน้าเจื่อนจ๋อยไปทันที

หลังทานเสร็จอาทิตย์เดินมาส่งอิงอรที่รถ
“ขอบคุณนะคะ วันหลังให้อิงเลี้ยงคืนบ้างนะคะ”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรครับ นิดหน่อย”
“เราจะได้เจอกันด้วยไงคะ แล้วอิงโทร.หานะคะ คราวนี้ต้องรับสายด้วย! บายค่ะ”
“บาย” อาทิตย์หันหลังกลับ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเจื่อนๆ เครียดหนักว่าแย่แน่ๆ แล้วเดินออกไป

อิงอรขึ้นนั่งบนรถสตาร์ตเครื่อง แล้วมองที่กระจกมองหลัง เห็นว่ามีกระดาษแปะอยู่ที่กระจกหลังรถ
อิงอรลงจากรถมาดู แล้วเอื้อมมือไปหยิบกระดาษออก
ทันใดนั้นมีมือพุ่งมาปิดปากอิงอร ส่วนมืออีกข้างรวบแขนและตัวอิงอรไว้
อิงอรตกใจที่ถูกโจรปล้น พยายามดิ้น แล้วเอาส้นสูงกระทืบที่เท้าโจรเต็มแรง
“โอ๊ย”
อิงอรสะบัดหนีออกจากมือโจร แล้วตะโกนเรียกให้คนช่วยทันที
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
โจรรีบเอามือตะครุบปิดปากอิงอรไว้ อิงอรดิ้นเต็มที่ โจรพยายามจะลากอิงอรเข้าไปในรถ
ทันใดนั้นอาทิตย์วิ่งกลับมาเพราะได้ยินเสียงร้องของอิงอร ก็พุ่งเข้ามาต่อยโจรเต็มแรง โจรเสียหลักล้มลงกับพื้น
“คุณอิงหลบมาทางนี้ครับ”
อิงอรรีบหลบไปที่ด้านหลังหลังอาทิตย์ทันที โจรได้สติลุกขึ้นมาจะต่อยอาทิตย์ อาทิตย์บู๊สู้กับโจร

อิงอรที่หลบอยู่ด้านหลังอาทิตย์กลัวมาก

อาทิตย์ถีบโจรไปกระแทกรถคันหนึ่ง ระบบกันขโมยของรถคันนั้นร้องเสียงดังทันที
โจรตกใจ หันมองรอบๆ เห็นท่าไม่ดี

รปภ.ที่ลานจอดรถวิ่งเข้ามา
อาทิตย์ร้องบอก “จับเลยครับพี่ มันจะทำร้ายผู้หญิง”
รปภ.วิ่งตามไปกดตัวโจรล็อคไว้ได้
อาทิตย์รีบหันมาดูอิงอร “เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณอิงอร”
“อิงไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยอิงไว้”
อาทิตย์พยักหน้าให้ อิงอรมองอาทิตย์อย่างประทับใจสุดๆ ที่เขามาช่วยตนไว้ได้
บ่ายนั้นคุณหญิงหิรัญญิการ์แวะมามณฑิรา ป้าหลานนั่งคุยกันที่สวนสวย คุณหญิงกำลังชื่นชมกล้วยไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ
คุณหญิงบอกกับกับนายวง “นายวง ว่างๆ เธอต้องสอนเคล็ดลับให้ชั้นบ้างนะ กล้วยไม้ที่ชั้นเลี้ยงไม่เห็นงามอย่างที่นายวงเลี้ยงเลย”
“ของแบบนี้มันต้องใจเย็นๆ ครับคุณหญิง ค่อยๆ เลี้ยงค่อยๆ ให้น้ำให้ปุ๋ยมัน”
“เธอจะว่าชั้นใจร้อนเหรอจ๊ะ แล้วนี่เลิกหรือยัง ไอ้เรื่องแทงหวยแทงเบอร์เนี่ย”
“ก็...เลิกแล้วครับ” นายวงอ้อมแอ้ม
แม่เมียดถือจานของว่างเข้ามาทันได้ยิน “ยังจะกล้าโกหกคุณหญิงท่านอีก” เลยได้ทีฟ้องคุณหญิง “งวดที่แล้วมันก็โดนกินไปตั้งเยอะค่ะ” นายวงอ้าปากจะเถียงเมีย
คุณหญิงห้ามทัพ “พอแล้วจ้ะ สองคนนี้ทะเลาะกันตั้งแต่ไม่มีเจ้าเวก จนตอนนี้เจ้าเวกเป็นหนุ่มเรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีก ถามจริงไม่เบื่อหรือไง”
นายวงบอก “เบื่อ”
แม่เมียดยัวะ “ไอ้วง”
“ชั้นจะบอกว่าเบื่อได้ยังไง อยู่กันมาตั้งหลายสิบปีแล้ว จริงๆนะครับคุณหญิง”
คุณหญิงกับมณฑิรามองสองคนขำๆ
“จะไปทำงานก็ไปเถอะ ขอบใจสำหรับกล้วยไม้ของนายวง กับขนมของแม่เมียดนะ รสชาติยังอร่อยเหมือนเดิม”
แม่เมียด กับนายวงยกมือไหว้คุณหญิงแล้วออกไป
“ตกลงคุณป้ามาหามณถึงที่บ้าน มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่าคะ”
“ก็เรื่องลูกชายคุณภัสสรน่ะสิ ท่าทางคุณภัสสรเค้าจะถูกใจเรามาก ถึงขนาดมาขอนัดเราให้ไปทานข้าวกับลูกชายเค้า เราจะว่ายังไงจ๊ะ”
มณฑิราคิดเรื่องรัฐรวี แล้วยิ้มๆ ยังไม่ตอบอะไร

ขณะนั้นหมอฉบังทำหน้าหวาดเสียวเต็มที่ ที่แท้หมอฉบังยืนเป็นโกลล์ประตู ภูวเดชกำลังจะเตะฟรีคิก เขามองหน้าหมอแล้วพาลนึกไปถึงรัฐรวีอย่างแค้นเคือง
ภูวเดชถอยหลังยิงเต็มข้อ ลูกบอลลอยไปโดนหน้าหมอฉบังทันที หมอฉบังจุก ภูวเดชรีบวิ่งไปดูหมอ
“เป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ โทษทีนะครับวันนี้เป็นอะไรไม่รู้เตะบอลไม่มีทิศทางเลย”
หมอฉบังค่อยๆ ลุกขึ้นมา
“คุณหมอน่าจะชวนคุณรัฐรวีมาด้วยนะครับ ผมจะได้แก้ตัวจากนัดที่แล้ว.. แต่ไม่เป็นไรวันนี้ผมจะยิงประตูเยอะๆ ไปฝากเพื่อนคุณหมอแล้วกัน”

ภูวเดชยิ้มร้ายสะใจ หมอฉบังแค้น

ขณะที่แม่เมียดกำลังปอกผลไม้เตรียมไว้ให้มณฑิราอยู่ นายวงนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานอยู่ วิไลลักษณ์ เวกเดินเข้ามา

วิไลลักษณ์มองเวกแล้วพยักหน้าให้เวกพูดอะไรบางอย่าง เวกส่ายหน้า วิไลลักษณ์พยักหน้าอีก เวกเอาแต่ส่ายหน้า แม่เมียดเห็นอาการลูกทั้งคู่ก็ชักหงุดหงิด
“แกมีอะไรกันสองพี่น้อง มานั่งสะบัดหน้าใส่กันอยู่ได้ ชั้นรำคาญ”
วิไลลักษณ์พยักหน้าให้เวกอีก
คราวนี้แม่เมียดเสียงดัง “ยังอีก”
เวก วิไลลักษณ์ชะงัก มองหน้ากัน

พอนายวงกะแม่เมียดได้ฟังก็ตกใจ ร้อง “ห๊า” พร้อมกัน
“คุณอาทิตย์เค้าอยากเจอพวกชั้น” แม่เมียดถามย้ำ
วิไลลักษณ์พยักหน้า
“แล้วนี่แกไปรับปากคุณอาทิตย์เค้าหรือยัง อย่าทะลึ่งเชียวนะแก ชั้นไม่อยากต้องแต่งตัวไปหลอกเค้าอีก”
นายวงกลับบอกว่า “แต่พ่อว่าไปรู้จักมักคุ้นกับเค้าซักหน่อยก็ดีนะแม่”
“ดีกับผีน่ะสิ เกิดเค้าจับได้ขึ้นมาว่าเราไม่ได้รวยจริง นังวิไลจะทำยังไง”
“แต่ถ้าถึงขนาดปีนบ้านย่องมาหาลูกสาวชั้น ชั้นก็อยากเห็นหน้ามันชัดๆ นะแม่” นายบอกกับวิไลลักษณ์ว่า “แกนัดวันมาเลย ชั้นจะได้ขัดปืนลูกซองรอ”
เวกรู้ทัน “พ่อมีปืนด้วยเหรอ”
“ไม่มี พูดให้มันดูน่ากลัวไว้ก่อน” ทุกคนส่ายหัว
“ไม่ต้องไปนัดเค้าเลยนะนังวิไล แม่ขี้เกียจปั้นหน้า รำคาญตัวเองจะแย่”
แม่เมียดพยักหน้า นายวงหงุดหงิดอยากเจออาทิตย์

ด้านรัฐกำลังนั่งดูทีวีอยู่ แม่ชื่นเดินเข้ามาหา
“คุณรัฐจะให้ชื่นจัดโต๊ะให้ก่อนเลยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรชื่น เดี๋ยวรอคุณผู้หญิงกับตาวีกลับมาก่อนก็ได้”
รัฐรวีเดินเข้าบ้านมาพอดี
“อ้าว แม่เค้าออกจากออฟฟิศก่อนผมตั้งนาน ยังไม่ถึงบ้านอีกเหรอครับ”
แม่ชื่นเดินออกไป
“ยัง เห็นโทรมาบอกว่าจะแวะไปหาคุณหญิงหิรัญญิการ์ขอนัดหนูมณฑิรามาทานข้าวกับเรา” รัฐรวีขำ รัฐมองสังเกตลูกชาย “เจอหนูมณฑิราแล้วเป็นยังไงบ้าง”
“เค้าก็ดูโอเคดีนะครับ”
“ถ้าคนนี้กับคนที่แกสมมุติให้พ่อฟัง ชอบใครมากกว่ากัน”
รัฐรวีคิดหนัก “ก็ดูๆ อยู่ครับ”
“เอาให้ดีๆ นะวี จับปลาสองมือระวังมันจะไม่ได้ซักมือ”
“โห ผมยังไม่ไปถึงขั้นนั้นหรอกครับพ่อ ยังดูๆ กันอยู่ จริงๆ ครับ”
“ก็ดูๆ คนของแกมาให้ดีๆ แล้วกัน ไม่อย่างนั้นแม่เค้าไม่ยอมแน่ ตอนนี้ไม่มีใครเพอร์เฟ็คท์เท่าหนูมณฑิราแล้ว”

รัฐรวีขบคิด หนักใจเหมือนกันว่าถ้าแม่รู้ว่าคนที่ตัวเองคุยอยู่ด้วยเป็นแค่สาวใช้จะว่ายังไง

เวกกำลังนั่งอ่านหนังสือสอบเครียดๆ นายวงมองซ้ายมองขวาแล้วเดินเข้ามาหาเวก

“อ่านหนังสือสอบเหรอ เอ้อ ดีๆๆๆ”
เวกหันมามองพ่อ แปลกใจที่อยู่ๆก็เข้ามาทัก นายวงพยักหน้ายิ้มเหมือนไม่มีอะไร เวกเลยหันไปอ่านหนังสือต่อ แต่นายวงยังไม่ยอมไปไหน
เวกเอะใจหันมามอง “พ่อมีอะไรรึเปล่า”
นายวงรีบลงนั่งข้างๆ กระซิบ “พ่ออยากให้แกไปแอบเอาเบอร์คุณอาทิตย์จากโทรศัพท์วิไล”
เวกงง “จะเอาไปทำอะไรพ่อ แทงหวยเหรอ”
“เว้ย ไม่เกี่ยวกับหวย พ่อจะโทรไปนัดเจอคุณอาทิตย์”
เวกตกใจ “ห๊ะ ไม่เอาล่ะพ่อ แม่ก็ห้ามแล้ว เดี๋ยวแม่รู้ ชั้นโดนไปด้วย” เขาลุกเดินหนีทันที
นายวงฉุน “เอ๊า ไอ้นี่”

รัฐรวีอาบน้ำเสร็จเดินมาที่โทรศัพท์แล้วกดโทร.หามณฑา
ที่ห้องนอนบ้านมณฑิรา เสียงมือถือเครื่องของมณฑาดัง มณฑิราไม่ยอมรับสาย มองมือถือแล้วยิ้มๆ
มือถือรัฐรวีดัง เขาดูเบอร์เห็นว่าเบอร์แปลกๆ แต่ก็กดรับ “ฮัลโหล สวัสดีครับ”
มณฑิราคุยสาย “สวัสดีค่ะคุณรัฐรวี มณฑิรานะคะ”
รัฐรวีอึ้งไป “คุณมณฑิรามีอะไรหรือเปล่าครับ”
“มณโทร.มาเรื่องที่คุณแม่คุณรัฐรวีอยากให้เราสองคนไปทานข้าวกันน่ะค่ะ มณเข้าใจนะคะว่ามันเป็นความต้องการของผู้ใหญ่ คุณคงลำบากใจ”
รัฐรวีรีบบอก “ผมไม่ลำบากใจเลยครับ ความจริงผมอยากชวนเองแต่แค่เอาคุณแม่ผมมาอ้างน่ะครับ แล้วเสาร์นี้คุณมณฑิราว่างไหมครับ”
“ว่างค่ะ ตกลงคุณจะนัดมณจริงๆ เหรอคะ”
“จริงสิครับ ถ้าคุณมณฑิราไม่รังเกียจ”
“มณจะรังเกียจแขกคนสำคัญของคุณป้าได้ยังไงคะ ตกลงค่ะเย็นวันเสาร์พบกันนะคะ อ้อ! เรียกมณว่า มณ เฉยๆ ก็ได้นะคะ สวัสดีค่ะ”
มณฑิรากดวางสาย แล้วมองมือถือ นิ่งคิดอะไรบางอย่างใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ทันใดนั้นเสียงข้อความมือถือมณฑิราอีกเครื่องดัง เครื่องมณฑา
มณฑิราหยิบมือถือมาเปิดอ่าน เป็นข้อความว่า “หลับฝันดีเจอกันในฝันนะครับคุณมณ”
“อื้อหือ เพิ่งนัดกับคนนึง ก็ส่งข้อความหาอีกคนเลยเหรอเนี่ย”

มณฑิราคิดอะไรบางอย่าง แล้วยิ้มสนุกออกมา

อ่านต่อตอนที่ 6
กำลังโหลดความคิดเห็น