xs
xsm
sm
md
lg

ฝันเฟื่อง ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฝันเฟื่อง ตอนที่ 13

ฝ่ายนายวงกำลังยกมือไหว้ขอโทษขอโพยผู้ชายเจ้าของห้องที่ยืนเซ็ง สภาพแชมพูเต็มหัวเปลือยท่อนบน และนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เพราะก่อนหน้านี้กำลังอาบน้ำอยู่

“ขอโทษครับ มาห้องผิด”
เจ้าของห้องส่ายหน้าเซ็งๆ แล้วปิดประตูห้อง
“สงสัยป้าแกจำชั้นผิดน่ะพ่อ” เวกว่า
“แกรีบลงไปถามมาใหม่เลย! ขืนช้าเดี๋ยวไอ้อาทิตย์มันขึ้นมาก่อน”

ส่วน อิงอรยืนคุยอยู่กับวิไลลักษณ์ในห้อง โดยที่วิไลลักษณ์ยังอึ้งและงงไม่หาย
“คุณอิงอรมาที่นี่ได้ยังไงคะ”
“ฉันให้คนสืบดู เพราะอยากรู้ว่าเธอกับคุณอาทิตย์หนีมาใช้ชีวิตอยู่กันยังไง” เจ้าหล่อนเหยียดยิ้มเยาะหยัน ขณะกวาดมองรอบห้องอย่างดูแคลน “พากันมาอยู่ห้องแคบๆแบบนี้ ลำบากแย่เลยนะ แต่จะว่าไปก็เหมาะสมกับฐานะของเธอดี คนใช้ก็คงมีปัญญาอยู่ห้องดีสุดได้แค่นี้แหละ”
วิไลลักษณ์งง “คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ”
“ฉันรู้หมดแล้ว เรื่องที่เธอไม่ใช่คุณหนูวิไลลักษณ์ แต่เป็นแค่คนใช้ในบ้านของคุณมณฑิรา”
วิไลลักษณ์ตะลึงงัน
“เธอไม่ต้องตกใจหรอก ฉันไม่ได้จะมาขู่เอาความลับของเธอไปบอกคุณอาทิตย์ฉันแค่จะมาบอกเรื่องที่เธอยังไม่รู้”
วิไลลักษณ์สนใจ “เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องที่คุณอาทิตย์ไม่ใช่สิ..นายอาทิตย์ สามีของเธอเค้าเป็นแค่คนขับรถของพี่วีแฟนของเจ้านายเธอน่ะสิ”
วิไลลักษณ์ฉงน “หมายความว่ายังไงคะ”
“เฮ้อ เด็กหนอเด็ก โดนเค้าหลอกยังไม่รู้ตัว ก็หมายความว่านายอาทิตย์เค้ารวมหัวกับพี่วีหลอกเธอไง เธอไม่นึกสงสัยบ้างเหรอว่าถ้าคุณอาทิตย์เค้ารวยจริง เค้าจะพาเธอมาอยู่ห้องเล็กๆ กระจอกๆ แบบนี้ทำไม”
“คุณอาทิตย์บอกว่าตอนที่หนีมาเค้ารีบ ก็เลยไม่ทันหยิบพวกบัตรเครดิตมาด้วย มีแค่เงินสดที่พกติดตัว”
“แล้วเธอก็เชื่อ เธอดูเอาเองแล้วกัน รูปนี่นักสืบของฉันแอบถ่ายตอนเค้าออกไปทำงานที่มินิมาร์ท”
อิงอรยื่นมือถือให้ดู หน้าจอเป็นภาพอาทิตย์ที่ทำงานอยู่ในร้านมินิมาร์ท วิไลลักษณ์ถึงกับอึ้ง
“ทุกอย่างที่เค้าบอกเธอ เค้าโกหกเธอทั้งนั้น ตัวจริงนายอาทิตย์เป็นพวก 18 มงกุฎ หาหลอกผู้หญิงรวยๆมาคบด้วย เธอคงคิดสิที่เค้าเลือกเธอเพราะเค้ารักเธอมากกว่าฉัน จริงๆแล้วเค้าแค่คิดว่าเธอรวยกว่าฉันแค่นั้นแหละ ฉันสงสารไม่อยากให้เธอถูกหลอกก็เลยมาบอกเธอ ที่เหลือเธอจะทำยังไงก็แล้วแต่เธอนะ”
อิงอรยิ้มสะใจ แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งวิไลลักษณ์ให้ตะลึงตะไลอยู่ หน้าเบะจะร้องไห้รอมร่อ

อิงอรเดินยิ้มสะใจออกมาจากห้องวิไลลักษณ์ แล้วเดินมากดลิฟต์รอ พอลิฟต์เปิดออก นายวง แม่เมียด และเวก พากันออกจากลิฟต์ สวนกับอิงอรที่เดินยิ้มย่องเข้าไป
“คราวนี้ไม่ผิดชั้นแน่นะไอ้เวก”
“ไม่ผิดแล้วพ่อ” เวกเดินมาตามทาง “นี่ไงพ่อ ห้อง 416”
นายวงกำลังจะเปิดประตู
แม่เมียดขัดขึ้น “เดี๋ยว” นายวงชะงัก “แกชอบใจอ่อนกับลูกจนลูกมันเสียคน งานนี้ฉันจะด่ามันเอง”
แม่เมียดกำลังจะเปิดประตู ถูกเวกขัดบ้าง
“เดี๋ยวแม่” แม่เมียดชะงัก “แล้วถ้าวิไลมันไม่ยอมกลับไปกับเราล่ะแม่”
“ถ้ามันไม่รักดีขนาดนั้นก็เรื่องของมัน”
แม่เมียดเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อก เดินเข้าไปในห้องเลย นายวง เวกตามไป
แม่เมียด นายวง เวก ที่เดินเข้ามาข้างในห้อง ต่างชะงักอึ้งไป เพราะเห็นวิไลลักษณ์กำลังนั่งร้องไห้อยู่ที่เตียง วิไลลักษณ์หันมาเห็นสามคนก็ร้องลั่นอย่างคนขวัญเสีย
“พ่อ แม่ พี่เวก”
วิไลลักษณ์โผเจ้ากอดแม่เมียดทันทีเต็มแรง นางเมียดลืมที่โมโหลูกไปจนหมดสิ้น รีบกอดวิไลลักษณ์ด้วยความเป็นห่วงลูก
“แกเป็นอะไรวิไล”
วิไลลักษณ์น้ำตาร่วงเป็นสาย ร้องไห้สะอึกสะอื้นทันที
“หนูอยากกลับบ้าน แม่พาหนูหลับบ้านเรานะจ๊ะ”

นายวง แม่เมียด และเวกต่างพากันอึ้งๆ งงๆ ที่วิไลลักษณ์ยอมกลับบ้านง่ายๆ

ขณะนั้น รัฐรวีขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านมณฑิราแล้ว

“ขับรถกลับดีๆนะคะ” มณฑิราจะลงจากรถ
รัฐรวีเอื้อมมือมาจับมือมณฑิรา “เดี๋ยวครับคุณมณ”
มณฑิราหันมา
“เรื่องวันนี้ผมขอโทษนะครับ”
มณฑิรายังรู้สึกผิดที่รวมหัวกับภัสสร คุณหญิงหิรัญญิการ์หลอกรัฐรวี จับมือเขาตอบ
“ไม่ต้องขอโทษมณหรอกค่ะ มณต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ”
“คุณจะมาขอโทษผมเรื่องอะไร”
มณฑิราอึกอัก “ก็เรื่องที่ฉันกับคุณแม่ของคุณ”
รัฐรวีมองมณฑิราอย่างเห็นใจ เพราะเข้าใจว่ามณฑิราหมายถึงเรื่องที่มณฑิราเข้ากับภัสสรไม่ได้
“ผมเชื่อนะครับว่าวันนึงความดีของคุณจะชนะใจแม่ผมได้”
มณฑิรายิ้มแห้งๆ มองรัฐรวีแล้วก็ยิ่งรู้สึกผิด

มณฑิราเดินกลับเข้าบ้านด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยวที่ต้องโกหกรัฐรวี ภูวเดชที่ยังรออยู่ เดินออกมาขวางหน้าไว้ มณฑิราเงยหน้ามาเห็นภูวเดชก็อึ้งไป
“คุณมณเล่นอะไรอยู่ครับ ทำไมต้องปลอมตัวเป็นแบบนี้กับไอ้รัฐรวีด้วย”
มณฑิราอึ้ง นิ่งงันไป

ฝ่ายอาทิตย์ถือถุงใส่น้ำดื่มและข้าวของที่ซื้อมาจากมินิมาร์ท เปิดประตูเข้ามาในห้อง เขาแปลกใจที่ไม่เห็นวิไลลักษณ์อยู่ในห้อง
อาทิตย์เหลียวมองไปทางห้องน้ำ “คุณวิไลลักษณ์อยู่ในห้องน้ำรึเปล่าครับ”
ไม่มีเสียงตอบ อาทิตย์เลยเดินไปชะโงกดูในห้องน้ำ แต่ก็ไม่เห็นเมียรัก เขาหันไปมองตะกร้าผ้าที่ระเบียง ก็เห็นว่าตะกร้าผ้าที่ใช้แล้วยังวางอยู่ อาทิตย์งงๆว่าวิไลลักษณ์หายไปไหน?
อาทิตย์หันไปเห็นตู้เสื้อผ้าที่เปิดแง้มอยู่ รีบถลาไปเปิดดู แล้วต้องอึ้งเมื่อพบว่าเสื้อผ้าของวิไลลักษณ์หายไปเกลี้ยงตู้

อาทิตย์อึ้ง ตะลึงจังงังคาที่ เพราะไม่อยากเชื่อว่าวิไลลักษณ์จะเก็บเสื้อผ้าหนีจากเขาไปอย่างนี้ เขามองไปที่โต๊ะเครื่องแป้งก็เห็นพวกเครื่องสำอางต่างๆ ของวิไลลักษณ์ที่เคยวางไว้หายไปหมด

สายตาอาทิตย์เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ ถูกแก้ววางทับไว้กันปลิว อาทิตย์รีบหยิบกระดาษจดหมายมาอ่านดู ใจเต้นแรง
“วิไลลักษณ์กลับบ้านแล้วค่ะ ไม่ต้องตามมา ขอเวลาวิไลลักษณ์ทำใจซักพัก...วิไลลักษณ์”

อาทิตย์อึ้ง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ฝ่ายมณฑิราในชุดสาวใช้มณฑา ยืนประจันหน้ากับภูวเดช พยายามคิดหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

“ว่าไงครับคุณมณ ทำไมคุณมณต้องแต่งตัวซอมซ่อแบบนี้ครับ คุณมณฑิราที่ผมรู้จักไม่เคยแต่งตัวแบบนี้”
มณฑิราคิดปราดเดียว ยิ้มทำใจดีสู้เสือ “ดีจังเลยค่ะที่เจอคุณภู มณมีเรื่องไม่รู้จะปรึกษาใครอยู่พอดี”
“คุณมณคิดถูกแล้วครับที่จะปรึกษาผม บอกมาเลยครับ ผมช่วยคุณมณได้ทุกเรื่อง เรื่องนายรัฐรวีใช่ไหมครับ” ภูวเดชยิ่มกริ่ม
“ค่ะ”
มณฑิราหันหลังให้ภูวเดช แล้วแอบกดมือถือเครื่องมณฑาในกระเป๋าเข้าเครื่องตัวเองไปด้วย
“มณสารภาพตามตรงว่าที่ผ่านมามณไม่อยากให้คุณภูต้องลำบากใจไปกับมณด้วย แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว มณคงต้องขอให้คุณภูเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”
“ได้เลยครับ” ไฮโซหนุ่มติงต๊องอ้อมมาตรงหน้า มณฑิรารีบทำปกติ “คุณมณบอกมาเลยครับ”
ทันใดนั้นมือถือมณฑิราดัง
“ขอโทษนะคะ” มณฑิรากดรับ แกล้งพูดสาย “ฮัลโหล ค่ะคุณป้า เดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ ได้ค่ะ สักครู่มณโทร.กลับนะคะคุณป้า” มณฑิราวางสายหันมาทางภูวเดช “คุณป้าจะให้มณช่วยเช็คยอดบัญชีของสมาคมเดี๋ยวค่ะ งั้นเอาไว้เราค่อยนัดกันใหม่ได้ไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมไม่มีธุระอะไร ผมรอได้”
“แต่มณเกรงใจค่ะ ไม่รู้เช็คยอดบัญชีจะเสร็จเมื่อไหร่ นี่แค่นึกถึงตัวเลข มณก็ปวดหัวแล้วนะคะเนี่ย”
“เอ่อ งั้นพรุ่งนี้ผมมาหาคุณมณใหม่ก็ได้ครับ”

มณฑิรายิ้มขอบคุณ นึกโล่งใจที่ภูวเดชยอมกลับไปโดยดี

ที่บ้านคุณหญิงหิรัญญิการ์ไม่นานต่อมา คุณหญิงกำลังคุยมือถือกับมณฑิราเรื่องของภูวเดช
“ว่าไงนะ ภูวเดชรู้เรื่องมณฑางั้นเหรอ”
มณฑิรากำลังคุยสายอยู่ที่บ้าน
“ใช่ค่ะคุณป้า มณเพิ่งจะไล่เค้ากลับไป มณจะทำยังไงดีคะ”
“ไม่ต้องห่วงจ้ะ เดี๋ยวป้าจัดการเรื่องนายภูวเดชให้เอง”
คุณหญิงครุ่นคิด ขัดใจที่ภูวเดชเข้ามาวุ่นวายกับมณฑิราอยู่ได้

มณฑิราเพิ่งคุยมือถือกับคุณหญิงป้าเสร็จ เดินลงมาจากบนบ้าน ขณะคุณต๋อยเดินมารอรับใช้
สักครู่หนึ่ง นายวง แม่เมียด และเวกเดินเข้ามา
“เดินกันมาเป็นขบวนเลย จะประท้วงใครยะ” คุณต๋อยแดกดัน
แม่เมียดไม่สนใจคุณต๋อย “มีคนมาหาคุณมณค่ะ”
“ใครเหรอ”
วิไลลักษณ์เดินหน้าเศร้าเข้ามา “วิไลเองค่ะ”

มณฑิราดีใจมาก “วิไล!”

อ่านต่อหน้า2

ฝันเฟื่อง ตอนที่ 13 (ต่อ)

วิไลลักษณ์ถลาเข้าไปกอดขามณฑิรา

“วิไลขอโทษนะคะคุณมณที่วิไลหนีไปจนทำให้คุณมณเดือดร้อน”
“ไม่เป็นไรหรอกวิไล แค่วิไลกลับมาฉันก็ดีใจแล้ว”
“คงจะไปไม่รอดน่ะสิ ก็ผู้ชายที่หนีไปด้วยเป็นแค่คนขับรถนี่”
มณฑิราปราม “คุณต๋อย!”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณมณ วิไลรู้ความจริงหมดแล้ว”
มณฑิราชะงักที่วิไลลักษณ์รู้ความจริงเรื่องอาทิตย์แล้ว จึงได้แต่มองสาวใช้ที่หน้าเศร้าๆ อย่างเห็นใจ
“แล้ววิไลกลับมานี่ นายอาทิตย์เค้าว่ายังไงบ้าง”
“เค้าคงเพิ่งรู้ค่ะ ตอนที่วิไลออกมาเค้ายังไม่กลับค่ะ”
มณฑิราแปลกใจ “อ้าว ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่องล่ะจ๊ะ”
“ไม่ค่ะ วิไลไม่อยากคุย ไม่อยากเห็นหน้าเค้า”
“พ่อก็ไม่อยากเห็นหน้ามัน เห็นแล้วมันอยากจะซัดสักตุ้บ! หนอย มาพาลูกสาวฉันหนีได้!! หนีไม่เท่าไหร่ยังมาหลอกวิไลอีกว่ามันรวย!” นายวงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เวกติง “แต่วิไลมันก็หลอกคุณอาทิตย์เค้าเหมือนกันนะพ่อ”
นายวงนิ่งงันไป วิไลลักษณ์ชะงัก
“ถ้านายอาทิตย์เค้าตามมาง้อ คราวนี้วิไลจะยอมบอกความจริงกับเค้าไหม”
วิไลลักษณ์นิ่งคิด กุ๊กกิ๊กวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“วิไล วิไล”
คุณต๋อยเอ็ด “มีอะไรกุ๊กกิ๊ก เอะอะโวยวายเสียงดัง”
กุ๊กกิ๊กหันมาทางวิไลลักษณ์ “นายอาทิตย์มา”
วิไลลักษณ์ชะงัก ทุกคนหันมองเป็นตาเดียวกันว่าวิไลลักษณ์จะเอายังไง

นายวง เดินปรี่มาหาอาทิตย์ที่หน้ารั้ว
“แกยังมีหน้ามามาที่บ้านฉันอีกเหรอไอ้อาทิตย์”
อาทิตย์รีบยกมือไหว้ “สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”
“ชั้นไม่ใช่พ่อแก”
“ไม่ใช่พ่อแท้ๆแต่ก็เป็นพ่อตานะครับ”
“ฉันไม่รับคนอย่างแกเป็นลูกเขยหรอก แกจะไปไหนก็ไปไป๊”
“ผมไม่ไปครับ จนกว่าผมจะได้เจอคุณวิไลลักษณ์”
“ไล่ดีๆ ไม่กลับใช่ไหม ได้” นายวงตะโกนเสียงดัง “ไอ้เวก ได้รึยัง”
เสียงเวกดังมา “ได้แล้วจ้ะพ่อ”
อาทิตย์หันไป เห็นเวกถือปืนลูกซองยาวเข้ามายื่นให้นายวง โดยนายวงรับปืนยาวมาเล็งใส่ อาทิตย์ผงะ
เวกกระซิบถามพ่อ “ลูกปืนมันขัด ยิงไม่ได้ตั้งนานแล้วนี่พ่อ”
นายวงกระซิบตอบ “ก็เออสิ พ่อจะเอามาขู่มันเฉยๆ” พลางแกล้งเล็งปืนไปที่อาทิตย์
“ว่าไง! แกจะไปหรือไม่ไป”
อาทิตย์กลัวสุดขีดแต่ทำปากแข็ง “ผมไม่ไปครับ”
“ไม่ไปใช่ไหม?”
นายวงแกล้งขึ้นไกปืน อาทิตย์อึ้ง ยิ่งกลัวมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ยอมไป
“ไม่ไป แกโดนนะ”
อาทิตย์กลัว “ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้ายังไม่ได้เจอคุณวิไลลักษณ์”
นายวงแกล้งขยับปืนขู่ “งั้นแกได้เจอแน่ จะไปหรือไม่ไป ฉันยิงไส้แตกจริงๆ ยังอีก จะไปหรือไม่ไป”
จังหวะที่นายวงยกปืนขึ้นเหนือหัว ทันใดนั้น ปืนเกิดลั่น ปัง!

นายวงผงะหงายหลัง เวกรับพ่อไว้ได้ทัน ส่วนอาทิตย์หายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

ไม่นานต่อมา ยินเสียงนายวงหัวเราะร่าขึ้นที่เรือนคนใช้บ้านมณฑิรา

“ฮ่าๆๆ เห็นไอ้อาทิตย์ไหมไอ้เวก หนีกระเจิงเลยฮ่าๆๆ โอ้ย เบาๆ สิแม่”
นายวง กับเวก สภาพหน้าตากับแขนช้ำเพราะโดนกิ่งไม้หล่นใส่ นั่งให้แม่เมียดกำลังทายาหม่องให้อยู่
“สมน้ำหน้า นี่แหละเค้าเรียกให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ดีนะที่ปืนมันลั่นใส่กิ่งไม้แล้วหล่นใส่หัวแก ถ้าปืนลั่นใส่เค้าเป็นอะไรไป แกติดคุกหัวโตแน่” แม่เมียดทายาให้ผัวไปบ่นไป
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะแม่ว่ามันจะลั่น ร้อยวันพันปีมันก็ยิงไม่ออก โอ๊ย” นายวงร้องโอดโอย
แม่เมียดด่า “ปัญญาอ่อน”
“ไอ้อาทิตย์นั่นก็วิ่งเร็วเหลือเกิ้น เผลอแป๊บเดียวหายหัวไปแล้ว โอ๊ย”
เวกเจ็บแผล “โอ๊ย ทาให้พ่อเสร็จแล้ว ทาให้ชั้นด้วยนะแม่”
แม่เมียดส่ายหน้าระอาผัวกะลูก

เย็นเดียวกันนั้นอาทิตย์กำลังก้มลงกราบรัฐ ภัสสร รัฐรวี กับแม่ชื่นอยู่ด้วย
“ผมกราบขอโทษคุณท่านทั้งสองด้วยนะครับที่ผมทำให้คุณท่านต้องเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียง”
รัฐ และภัสสรมองอาทิตย์อย่างขุ่นเคืองอยู่
รัฐรวีเว้าวอน “ไอ้ทิตย์มันรู้สึกผิดแล้วล่ะครับพ่อแม่”
“แล้วไหนล่ะเมียแก” ท่านนายพลเอ่ยขึ้น
“พ่อกับแม่คุณวิไลลักษณ์พาคุณวิไลลักษณ์กลับไปแล้วครับ”
“นี่ถ้าพ่อแม่เค้าไม่มาพาเมียแกกลับไป แกก็คงไม่กลับมาใช่ไหม”
“ผมตั้งใจจะพาคุณวิไลลักษณ์กลับไปอยู่ที่บ้านเค้าอยู่แล้วครับ ผมทนเห็นเค้าลำบากไม่ได้”
แม่ชื่นหมั่นไส้ “ตอนทำล่ะไม่คิด”
“ชั้นว่าทางที่ดี แกรีบพาผู้ใหญ่ไปขมาพ่อแม่เมียแกเถอะ” รัฐบอก
“เมื่อกี้ผมไปมาแล้วครับ แต่โดนเค้าไล่กลับมา...”
ทุกคนมองสงสารอาทิตย์ แม่ชื่นส่ายหน้า

ส่วนทางวิไลลักษณ์เช็ดจานอยู่ในครัว ท่าท่างเหม่อลอย แม่เมียดทำกับข้าว นายวงกำลังช่วยตำพริก เวก กะ กุ๊กกิ๊กช่วยหั่นผัก ล้างผักกันอยู่
คุณต๋อยเดินเข้ามาแดกดันวิไลลักษณ์ทันที “อ้าว มาทำอะไรในครัวล่ะคะคุณหนูวิไลลักษณ์ แล้วสามีที่เป็นลูกเข้าของบริษัทจิวเวลลี่ล่ะ อุ้ย!ลืมไป เป็นแค่คนขับรถนี่ ฮ่าๆๆ”
นายวงโกรธที่คุณต๋อยพูดกัดลูกตัวเองไม่เลิก จึงแกล้งชี้ในครกที่ตำ
“ตัวอะไรอยู่ในนี้เนี่ย”
คุณต๋อยทะเล่อทะล่ามาดู “ไหน”
นายวงแกล้งตำพริก ให้พริกกระเด็นเข้าตาคุณต๋อย
“โอ๊ย! แกแกล้งชั้นเหรอไอ้วง! ชั้นจะไปฟ้องคุณมณ!”
คุณต๋อยแสบตาวิ่งจู๊ดออกไป นายวง แม่เมียด เวก และกุ๊กกิ๊กพากันขำ
“สมน้ำหน้า” เวกตะโกนตามไป
“อย่าไปโกรธคุณต๋อยเค้าเลยค่ะ ความจริงคุณต๋อยเค้าก็พูดถูก”
วิไลลักษณ์วางงาน แล้วเดินหน้าเศร้าออกไป ทุกคนได้แต่มองสงสาร

วิไลลักษณ์เดินเอามือปาดน้ำตา กลับมาที่เรือนคนใช้ เวก กุ๊กกิ๊กเดินตามมา
“วิไล”
วิไลลักษณ์ชะงัก หันมามองกุ๊กกิ๊กทั้งสภาพน้ำตาซึมๆ
“เอาเลยกุ๊กกิ๊ก เธออยากจะซ้ำเติมอะไรฉันก็เอาเลย”
“เปล่าซะหน่อย ฉันแค่จะมาถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”
วิไลลักษณ์งง ที่กุ๊กกิ๊กมีท่าทีแปลกไป
“นี่เธอจะมาไม้ไหนเนี่ย”
“กุ๊กกิ๊กเค้าเป็นห่วงแกจริงๆ วิไล ที่ฉันตามหาแกจนเจอก็เพราะกุ๊กกิ๊กเค้าช่วย” เวกว่า
กุ๊กกิ๊กขอโทษวิไลลักษณ์ “ฉันขอโทษนะที่เมื่อก่อนพูดไม่ดีกับเธอ”
เวกมองกุ๊กกิ๊กยิ้มเขินกันไปมา
วิไลลักษณ์ยิ้มมองกุ๊กกิ๊ก สังเกตเห็นถึงความสัมพันธ์ของกุ๊กกิ๊กกับพี่ชายที่เปลี่ยนไป

คืนนั้น วิไลลักษณ์นั่งเศร้าอยู่ในห้อง สักครู่ครู่หนึ่งเสียงมือถือดัง วิไลลักษณ์ดูเบอร์เห็นว่าอาทิตย์โทร.มา จึงตัดสินใจกดตัดสายทิ้งโดยไม่ลังเล
อาทิตย์อยู่ที่ห้องนอนเรือนคนใช้บ้านรัฐรวี เครียดที่วิไลลักษณ์ไม่รับสาย เลยกดส่งข้อความ Line แทน
วิไลลักษณ์นั่งนิ่งเศร้าสร้อยอยู่ เสียงข้อความ Line ดัง วิไลลักษณ์กดข้อความดู
“ผมขอโทษที่ผมโกหกคุณ แต่สิ่งที่ผมไม่เคยโกหกคือผมรักคุณจริงๆ นะครับ”
วิไลลักษณ์อ่านแล้วนิ่งไปแต่ก็ไม่ตอบกลับ เสียงข้อความ Line ดังอีก วิไลลักษณ์กดข้อความดู
“พรุ่งนี้ผมจะให้แม่กับคุณวีไปขอขมาและสู่ขอคุณวิไลลักษณ์อย่างเป็นทางการที่บ้านนะครับ”

คราวนี้วิไลลักษณ์อึ้งไป

มณฑิรากำลังจะเข้านอนอยู่แล้ว มีเสียงเคาะประตูห้อง มณฑิราเดินไปเปิดประตู แปลกใจที่เห็นเป็นวิไลลักษณ์

“มาหาฉันดึกๆ ดื่นๆ มีอะไรเหรอวิไล”
วิไลลักษณ์ร้อนใจ “เมื่อกี้คุณอาทิตย์ส่งข้อความมาบอกวิไลว่าพรุ่งนี้เค้าจะพาแม่เค้าแล้วก็คุณรัฐรวีมาขอขมาแล้วก็สู่ขอวิไลที่บ้านค่ะ ถ้าคุณรัฐรวีมาต้องรู้แน่ๆ ว่าคุณมณกับพี่มณฑาเป็นคนๆ เดียวกัน แต่วิไลไม่อยากโกหกคุณอาทิตย์แล้ว วิไลจะทำยังไงดีคะ”
มณฑิราครุ่นคิด “ไม่เป็นไรจ้ะวิไล เดี๋ยวชั้นจัดการเอง”
วิไลลักษณ์ฉงน “คุณมณจะทำยังไงคะ”

รุ่งเช้า อาทิตย์แต่งตัวหล่อเหลาดูดี ในมือถือพานดอกไม้สำหรับขอขมา ยืนรอแม่ชื่นอยู่ อาทิตย์ทั้งตื่นเต้น ทั้งกระวนกระวายใจ และเครียด เพราะไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง รัฐรวีเดินเข้ามาหา
“เป็นไง ตื่นเต้นเหรอไอ้ทิตย์”
“โอ้โหคุณวี อย่างผมเนี่ยนะ” พอเห็นรัฐรวีมองจริงจัง เลยเลิกแถ “ตื่นเต้นครับ ไม่รู้ว่าคุณวิไลลักษณ์จะยอมยกโทษให้ผมไหม ไหนจะคุณพ่อคุณแม่คุณวิไลลักษณ์อีก”
รัฐรวีตบไหล่ให้กำลังใจอาทิตย์
“ลูกผู้ชายสำคัญที่ทำผิดแล้วกล้ายอมรับนี่แหละ วันนี้แกกำลังจะไปทำสิ่งที่ถูกต้อง ฉันเชื่อว่าคุณวิไลลักษณ์กับพ่อแม่เค้าจะต้องเห็นว่าแกจริงใจกับคุณวิไลลักษณ์และรักคุณวิไลลักษณ์จริงๆ”
อาทิตย์ยิ้มมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง “ขอบคุณครับคุณวี”
รัฐรวีล้วงซองเงินจากสูทออกมาส่งให้
“นี่เงินหนึ่งแสนบาท พ่อฉันฝากมาให้”
อาทิตย์อึ้ง ซึ้งใจ “ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับคุณวี แค่นี้คุณท่านกับคุณวีก็กรุณาผมมากพอแล้ว”
“รับไปเถอะ แกโตมาในบ้านนี้ตั้งแต่เด็ก สำหรับพ่อฉันแกก็เหมือนลูกคนนึง ฉันเองก็มองแกเหมือนน้องแท้ๆ”
อาทิตย์ยิ้มเย้า “งั้นอย่าลืมแก้พินัยกรรมใส่ชื่อผมเป็นผู้รับมรดกด้วยนะครับ”
รัฐรวีผลักหัวอาทิตย์ “แกนี่มันทะลึ่งได้ตลอดจริงๆ”
“ผิดเหรอครับที่ผมเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย” รัฐรวียื่นซองเงินให้ อาทิตย์รับมา “ขอบคุณครับคุณวี ฝากกราบขอบพระคุณคุณท่านด้วยครับ”
“แม่แกมาแล้ว”
อาทิตย์หันไปมอง เห็นแม่ชื่นที่แต่งตัวดูดีสมฐานะเดินออกมา
“โอ้โห! เป็นไงครับคุณวี แม่ผมสวยไม่สร่างไหม”
“ทะลึ่ง! เข้ามาใกล้ๆ นี่”
“เรื่องอะไร แม่จะได้เขกหัวหนูน่ะสิ”
แม่ชื่นพูดจริงจัง “แม่มีอะไรจะให้” อาทิตย์เดินเข้ามาหา แม่ชื่นยื่นกล่องในมือให้
อาทิตย์เปิดดู เห็นเป็นแหวนเพชรวงเล็กๆ วงหนึ่ง
“แหวนที่พ่อแกให้ตอนมาขอแม่ ราคามันอาจจะไม่แพงเท่าไหร่ ไม่สมฐานะของแฟนแก แต่แม่ก็มีให้ลูกสะใภ้แม่แค่นี้แหละ”
อาทิตย์กอดแม่น้ำตาซึม
“เป็นแหวนที่สวยที่สุดเลยแม่ ขอบคุณนะครับแม่”
อาทิตย์กราบแม่ แม่ชื่นกอดลูกชาย รัฐรวีมองภาพนั้นยิ้มๆ

อาทิตย์เปิดประตูรถให้ รัฐรวีกำลังจะขึ้นรถ รัฐและภัสสรเดินมา
ภัสสรเรียกไว้ “เดี๋ยวก่อนตาวี”
“มีอะไรเหรอครับแม่”
“มีลูกค้ายอดบิลลิ่งร้อยล้านติดต่อเข้ามา เค้าต้องการรายละเอียดสินค้าด่วน เราต้องเข้าไปบริษัทกับแม่เดี๋ยวนี้”
รัฐรวีท้วง “แต่ผมต้องพาไอ้ทิตย์ไปขอขมาพ่อแม่แฟนมันนะครับ”
“ก็ให้พ่อเค้าไปแทนสิ ส่วนเราต้องเข้าออฟฟิศกับแม่ อย่าให้เสียงานเสียการ ไปเดี๋ยวนี้!”

รัฐรวีหันมองพ่อ รัฐพยักหน้าให้แบบจำใจ ทำเอารัฐรวีงงๆ

อ่านต่อหน้า3

ฝันเฟื่อง ตอนที่ 13 (ต่อ)

รถรัฐรวีจอดหน้าตัวบ้านมณฑิรา อาทิตย์เปิดประตูให้ ท่านนายพลรัฐก้าวลงจากรถ แม่ชื่นลงจากรถ ถือพานดอกไม้ของอาทิตย์ลงมาให้
อาทิตย์เข้าไปเอาพานดอกไม้จากแม่ชื่นมาถือแทน เวกที่ยืนรออยู่แล้ว ผายมือไปทางตัวบ้าน
“เชิญด้านในเลยครับ”
รัฐ แม่ชื่น อาทิตย์เดินเข้าตัวบ้านไป

เวกเดินนำอาทิตย์ รัฐ และแม่ชื่นมาที่ห้องรับแขกตึกใหญ่ แลเห็นเห็นนายวง แม่เมียดที่แต่งตัวแบบธรรมดาๆนั่งรออยู่ก่อน อาทิตย์มองการแต่งตัวของนายวง แม่เมียดงงๆ รัฐ อาทิตย์ แม่ชื่นยกมือไหว้นายวง แม่เมียดนายวง แม่เมียดรับไหว้
“เชิญนั่งกันตามสบายนะคะ” คุณต๋อยว่า
รัฐ อาทิตย์ แม่ชื่นลงนั่ง
อาทิตย์เหลียวหา “แล้วคุณวิไลล่ะครับ”
นายวงวางฟอร์ม “กำลังมา”
วิไลลักษณ์แต่งชุดคนใช้เดินเข้ามาในห้องรับแขก อาทิตย์มองฉงน
“ผมในฐานะผู้ใหญ่ฝ่ายของอาทิตย์ กับแม่ของอาทิตย์ พาตัวนายอาทิตย์มาขอขมาในสิ่งที่เค้าทำผิดพลาดไปครับ”
อาทิตย์ถือพานดอกไม้ คลานเข่าไปตรงหน้านายวงแม่เมียด อาทิตย์วางพานลงแล้วก้มลงกราบที่เท้านายวงแม่เมียด
อาทิตย์กราบลง “ผมต้องกราบขอขมาในสิ่งที่ผมกระทำไปโดยไม่ให้เกียรติ ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี จนทำให้คุณวิไลต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้ทุกๆ คนต้องเป็นห่วงคุณวิไลครับ”
“ดิฉันในฐานะแม่ของอาทิตย์ ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ดิฉันอบรมสั่งสอนลูกไม่ดี จนก่อเรื่องขึ้น”

แม่ชื่นบอก

อาทิตย์เงยหน้าขึ้นมานั่งปกติ หันมาทางนายวง

“แต่ผมสาบานได้นะครับว่าที่ผมทำไปทั้งหมดเป็นเพราะผมรักคุณวิไลจริงๆ”
“แกรักลูกสาวฉัน แล้วแกมาโกหกลูกสาวฉันแบบนี้เหรอ” นายวงตอกหน้า
อาทิตย์อึ้งเถียงไม่ออก
“เรื่องนั้นอย่าว่าคุณอาทิตย์เลยพ่อ วิไลเองก็ผิดที่โกหกคุณอาทิตย์เค้าเหมือนกัน”
อาทิตย์งงหนัก “คุณวิไลโกหกอะไรผมเหรอครับ”
วิไลลักษณ์ตัดสินใจพูดความจริง “คุณอาทิตย์คะ ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว วิไลมีอะไรจะสารภาพค่ะ ที่จริงวิไลไม่ใช่คุณหนูวิไลลักษณ์อย่างที่คุณอาทิตย์เข้าใจหรอกค่ะ วิไลเป็นแค่คนใช้ ส่วนพ่อกับแม่วิไลก็เป็นแค่คนสวนกับแม่ครัวค่ะ”
อาทิตย์อึ้ง หันไปมองรอบๆ แล้วมองวิไลลักษณ์ยิ้มๆ “อั้นแน่ะ คุณวิไลล้อผมเล่นแน่เลย จะเอาคืนที่ผมโกหกคุณวิไลใช่ไหมครับ ดูซิ ลงทุนแต่งเนื้อแต่งตัวมาซะเนียนเลย”
“เปล่า ที่วิไลพูดเป็นเรื่องจริง ฉันไม่ใช่คนขับรถของวิไลหรอก แต่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของวิไล”
อาทิตย์อึ้งอีกรอบ “นี่ทุกคนพูดเรื่องจริงเหรอครับ”
คราวนี้นายวงเป็นคนบอก “ใช่! แกคิดว่าฝันอยู่รึไงล่ะ มาใกล้ๆ สิเดี๋ยวฉันจะปลุกแกให้”
“นี่คุณวิไลก็โกหกผมเหมือนกันเหรอครับ”
วิไลลักษณ์บอกตามตรง “ค่ะ”
กุ๊กกิ๊กขอแจม “งงใช่ไหมคะ อย่าว่าแต่คุณงงเลย ตอนกุ๊กกิ๊กรู้ทีแรกกุ๊กกิ๊กก็งง”
คุณต๋อยดึงหูกุ๊กกิ๊ก “เธอไม่เกี่ยว”
อาทิตย์เอะใจอะไรบางอย่าง “เดี๋ยวนะครับ คุณวิไลเป็นคนใช้ แล้วพี่มณฑาล่ะครับ” เขานึกได้ “แต่พี่มณฑาหน้าคล้ายคุณมณฑิรา...หรือว่า”
อาทิตย์ลุกขึ้นเดินออกไปทันที วิไลลักษณ์รีบตามไป

อาทิตย์เที่ยวเดินมองหามณฑิราไปตามห้องต่างๆ ในบ้าน วิไลลักษณ์ตามมาดึงแขนอาทิตย์ไว้
“หยุดนะคะคุณอาทิตย์ คุณไม่มีสิทธิ์มาเที่ยวเดินรื้อค้นอะไรในบ้านหลังนี้”
“งั้นคุณวิไลก็บอกผมมาสิครับ ว่าพี่มณฑาเป็นคนๆเดียวกับคุณมณฑิรารึเปล่า”
“ไม่ใช่ค่ะ”
อาทิตย์ไม่เชื่อ “โกหก”
“คุณอาทิตย์กลับไปเถอะค่ะ”
มณฑิราเดินลงบันไดมา “พอแล้วจ้ะวิไล อย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องฉันเลย”
วิไลลักษณ์เสียใจที่ช่วยมณฑิราปิดความลับไม่ได้ “คุณมณ”
อาทิตย์มองมณฑิราแล้วอึ้งไป
“อย่างที่อาทิตย์คิดนั่นแหละจ้ะ มณฑิรากับพี่มณฑาคือคนๆ เดียวกัน”

อาทิตย์ตะลึงตะไล คาดไม่ถึง

อาทิตย์กลับเข้ามาในห้องรับแขก นั่งอึ้งๆฟังเรื่องราวทั้งหมดจากมณฑิรา มีรัฐ แม่ชื่นนั่งอยู่ด้วย วิไลลักษณ์ยืนอยู่ใกล้ๆ
อาทิตย์ถามนายพลรัฐ “นี่คุณท่านก็รู้เรื่องอยู่แล้วเหรอครับ” รัฐพยักหน้า “แม่ก็รู้กับเค้าด้วยเหรอ” แม่ชื่นพยักหน้าอีก “สรุปว่ามีแค่ผมกับคุณวีที่ยังไม่รู้เรื่องนี้”
“ใช่” แม่ชื่นบอก อาทิตย์หยิบโทรศัพท์ “นั่นแกจะทำอะไร”
“โทร.บอกคุณวีสิครับ!! คุณวีจะได้เลิกกลุ้มใจซะที”
วิไลลักษณ์ห้าม “ไม่ได้นะคะ”
“ทำไมจะบอกไม่ได้ครับ ในเมื่อทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว ทำไมต้องปิดคุณวีด้วย”
“ก็เมียฉันเค้าอยากทดสอบเจ้าวีน่ะสิ ว่าจะสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ไหมว่ารักหนูมณฑิราเค้าจริงๆ” รัฐบอก
อาทิตย์ทักท้วง “แต่คุณวีน่าสงสารออกนะครับ! ทุกวันนี้คุณวีกลุ้มใจเรื่องคุณมณมากเลยนะครับ”
มณฑิราเอ่ยขึ้น “ฉันรู้จ้ะอาทิตย์ แต่ขอเวลาฉันอีกหน่อยได้ไหม แล้วฉันจะเป็นคนไปขอโทษและบอกคุณวีด้วยตัวฉันเอง”
รัฐพยักหน้า “แกช่วยทำตามที่หนูมณเค้าขอเถอะนะ”
อาทิตย์อึ้ง นึกสงสารรัฐรวีจับใจ

ส่วนเหตุการณ์ที่ร้านเพชร รัฐรวีและภัสสรเดินดูความเรียบร้อยอยู่ในร้านนั้น
“แม่ครับ ไหนแม่บอกว่าต้องรีบเข้าบริษัทไงครับ”
“แม่โกหก แม่รู้ว่าแกอยากไปหามณฑา แม่ก็เลยไม่ให้แกไป”
รัฐรวีเครียด “แม่ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ”
“ใช่ อะไรที่ขัดขวางแกกับมณฑาได้ แม่ทำทั้งนั้นแหละ”
“ไม่มีประโยชน์หรอกครับแม่ ไม่ว่าแม่จะทำอะไร ยังไงผมก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจจากคุณมณฑาหรอกครับ”
ภัสสรชะงัก
“ผมรักคุณมณฑาจริงๆ แม่อนุญาตให้ผมแต่งงานกับเค้าเถอะครับ”
“ไม่ว่าแม่จะพูดอะไร แกก็จะแต่งกับมณฑาให้ได้ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“ก็ได้วี แม่ยอมให้แกแต่งกับมณฑาก็ได้”
รัฐรวียิ้มกว้างดีใจล้น “แม่พูดจริงเหรอครับ”
ภัสสรพยักหน้า “จริง แต่แม่มีข้อแม้” รัฐรวีชะงัก “ถ้าแกแต่งกับมณฑา แม่จะไม่ยกสมบัติอะไรให้แกเลย แล้วแม่ก็จะปลดแกจากรองประธานบริษัท ให้เป็นแค่พนักงานธรรมดาๆ คนนึง แกจะยอมไหม”
รัฐรวีอึ้งไป

ฝ่ายภูวเดชนั่งยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมอยู่ต่อหน้าคุณหญิงหิรัญญิการ์ที่ห้องรับแขกบ้านคุณหญิง
“คุณมณบอกว่าคุณหญิงป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับผม มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ”
“ฉันไม่กล้าไปใช้เธอหรอกค่ะ แค่วันๆ นึงเธอต้องยุ่งเรื่องชาวบ้านก็คงยุ่งวุ่นวายมากพออยู่แล้ว”
ภูวเดชชะงักไป “คุณหญิงหมายความว่าอะไรครับ”
“ฉันขอพูดตรงๆ เลยแล้วกันนะ เรื่องมณฑา คนที่คบหาอยู่กับรัฐรวีคือคนเดียวกับมณฑิรา หลานของฉัน ฉันขอให้เธอปิดเป็นความลับ อย่าบอกให้ใครรู้โดยเฉพาะรัฐรวี”
“ทำไมล่ะครับคุณหญิงป้า” ภูวเดชสงสัยคาใจเป็นที่สุด
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผลหรอก รู้แต่ว่าถ้าเธอไม่ให้ความร่วมมือกับฉัน สินเชื่อที่หมุนเวียนอยู่ในบริษัทของเธอทั้งหมดจะถูกระงับทันที”
ภูวเดชตาเหลือก “ห๊ะ”
“ใช่จ้ะ เธอฟังไม่ผิด บริษัทนำเข้ารถแพงๆ อย่างบริษัทเธอ เครดิตกับธนาคารเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เหรอ ฉันเองก็พอจะรู้จักผู้บริหารของธนาคารที่เธอติดต่ออยู่บ้าง เธอคงไม่อยากให้บริษัทของเธอมีปัญหาหรอกนะ”
ภูวเดชครวญ “คุณหญิงป้าครับ”
คุณหญิงเสียงแข็ง “NO!”

ภูวเดชอึ้งไปกับท่าทีเอาจริงนั้น

อ่านต่อหน้า4

ฝันเฟื่อง ตอนที่ 13 (ต่อ)

กลับถึงบ้านเย็นนั้น รัฐรวีว่ายน้ำเพื่อระบายความเครียดอยู่ที่สระน้ำที่บ้าน อาทิตย์เดินเข้ามาเห็น ก็เดินตามดูริมสระ อาทิตย์สังเกตเห็นว่ารัฐรวีดูเครียดผิดปกติ ก็ยิ่งสงสาร เดินตาม ตะโกนคุยไปด้วย

“คุณวี คุณวีเป็นอะไรรึเปล่าครับ มีอะไรก็ระบายบอกอาทิตย์ได้นะครับ ถึงอาทิตย์คนนี้จะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ก็พร้อมจะรับฟังคุณวีเสมอนะครับ”
รัฐรวีว่ายถึงขอบสระ หยุดว่าย ถอดแว่นกันน้ำออก ท่าทางเครียดๆ อาทิตย์รีบเข้ามานั่งคุยด้วย
“คุณวีเป็นอะไรครับ ผมเห็นว่ายน้ำมาเกือบชั่วโมงแล้ว”
“ฉันเครียดว่ะ”
“เครียดอะไรครับ บอกไอ้ทิตย์ได้นะครับ ไอ้ทิตย์ยินดีอยู่เคียงข้างคุณวีเสมอ”
รัฐรวีเอะใจ “แกไปทำอะไรผิดมาอีกรึเปล่าเนี่ย”
“เปล่าครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเป็นห่วงคุณวีของผมจริงๆ”
รัฐรวีมอง ไม่อยากจะเชื่อว่าอาทิตย์ไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ

พอขึ้นจากสระ รัฐรวีมานั่งเครียดอยู่ที่เก้าอี้ริมสระน้ำ มีผ้าเช็ดตัวอยู่ในมือ ท่าทางเครียดๆ คุยปรับทุกข์กับอาทิตย์
“วันนี้ฉันคุยกับแม่แล้ว แม่ฉันยื่นคำขาดว่าจะยอมให้ฉันแต่งกับคุณมณฑา แต่ว่าเค้าจะไม่ยกอะไรให้ฉันเลย
“แล้วคุณวีว่ายังไงครับ”
“ฉันไม่มีปัญหาหรอก กลัวก็แต่ว่าจะพาคุณมณฑาเค้ามาลำบากด้วย”
“อย่าคิดมากสิครับคุณวี ลองเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่มณฑาดูก่อนสิครับ ผมเชื่อว่าพี่มณฑารักที่คุณวีเป็นคุณวี ไม่ใช่ที่ฐานะ เพราะงั้นไม่ว่าคุณวีจะตัดสินใจยังไง พี่มณฑาก็จะอยู่ข้างคุณวีแน่นอนครับ”
รัฐรวีคิดตาม พยักหน้าเห็นด้วย พลางหันมาถาม “แล้ววันนี้แกไปขอขมาแล้วเป็นยังไงบ้าง”
“คุณวิไลลักษณ์กับคุณพ่อคุณแม่เค้ายกโทษให้ผมแล้วครับ แต่ก็ยังดูเคืองๆ ผมอยู่”
“เค้ายกโทษให้แกก็บุญแล้ว ทีนี้แกก็ต้องอดทนพิสูจน์ตัวเองให้เค้าเห็นว่าแกจริงใจ เดี๋ยวเค้าก็คงหายโกรธแกเอง”
อาทิตย์สงสาร ทำได้แค่ปลอบ “คุณวีเองก็อย่าเครียดมากนะครับ ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี”
รัฐรวีพยักหน้าถอนหายใจ อาทิตย์มองสงสารรัฐรวี

คืนเดียวกัน ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักในผับหรู มีนักเที่ยวกำลังเต้นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนอิงอรกำลังยกแก้วไวน์นั่งดื่ม คิดอะไรอยู่กับภูวเดชที่นั่งกินไวน์ด้วยสีหน้าโมโหเอามากๆ
“คิดดูสิครับ คุณหญิงถึงขนาดขู่ผม แสดงว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเรื่องอะไรกัน...นี่คุณอิงจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอครับ”
“อิงกำลังใช้ความคิดเรื่องของอิงอยู่เหมือนกันนะคะ”
“จะคิดอะไรอีกครับ ตอนนี้ไอ้อาทิตย์กับวิไลเค้าก็รู้ความจริงกลับมาบ้านกันหมดแล้วนี่ครับ เห็นว่าทะเลาะแยกบ้านกันด้วย”
“ยังไม่พอค่ะ! มันยังไม่สาแก่ใจอิง นายอาทิตย์จะต้องเจอหนักกว่านี้!”

ภูวเดชอึ้ง นึกไม่ถึงว่าความอาฆาตแค้นของอิงอรจะรุนแรงขนาดนี้

เช้าวันนี้ อาทิตย์หิ้วกล้วยไม้เข้ามาที่โรงรถ แล้วมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร ค่อยๆ เดินมาเปิดกระโปรงรถขึ้นแล้วเอากล้วยไม้ใส่หลังรถ

อาทิตย์ยิ้มแล้วปิดกระโปรงรถ พอหันมาเห็นรัฐรวียืนมองอยู่ ถึงกับชะงัก
“คุณวี”
“แกขโมยกล้วยไม้พ่อของชั้นเหรอ”
“ขมงขโมยอะไรกันครับคุณวี กล้วยไม้เนี่ยผมซื้อมาครับ”
“ถ้าแกโกหก ขอให้คุณวิไลลักษณ์โกรธแกตลอดชีวิต”
“ผมขโมยคุณท่านมาครับ” รัฐรวียิ้มขำ “ผมไหว้ล่ะครับคุณวี คุณวีอย่าบอกคุณท่านนะครับ ผมรู้มาว่าพ่อตาผมเค้าชอบกล้วยไม้ ผมก็เลยอยากเอากล้วยไม้ไปให้”
“เออ ชั้นไม่บอกพ่อก็ได้ แต่ไปบอกแม่ชื่นดีกว่า” รัฐรวีแกล้งจะเดินไป
“แม่ผมยิ่งบอกไม่ได้ใหญ่เลยครับคุณวี! โธ่คุณวี อย่าแกล้งผมสิครับ”
รัฐรวีขำๆ

ฝ่ายมณฑิราแต่งตัวเป็นคนใช้ หยิบหวีมาหวีผม วิไลลักษณ์ช่วยแต่งตัวอยู่ด้วย
“คุณมณตั้งใจจะหลอกคุณรัฐรวีไปถึงเมื่อไหร่คะ”
มณฑิราที่หวีผมอยู่ชะงัก
“อย่าหาว่าวิไลยุ่งเรื่องเจ้านายเลยนะคะคุณมณ ในฐานะที่วิไลก็โดนคุณอาทิตย์หลอกมาเหมือนกัน วิไลว่าถ้าคุณรัฐรวีรู้ความจริง คุณรัฐรวีต้องโกรธคุณมณแน่ๆ เลยค่ะ”
มณฑิรานิ่งคิด

อาทิตย์ขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านมณฑิรา มีรัฐรวีนั่งเบาะหลัง
“ผมรู้สึกไม่ค่อยคุ้นเลยนะครับ ทุกทีเวลามาบ้านคุณมณ ผมต้องนั่งอยู่เบาะหลัง ส่วนคุณวีต้องขับรถให้ผม เอางี้ เพื่อให้ผมคุ้นนิดนึง คุณวีเดินลงมาเปิดประตูให้ผมลงจากรถนะครับ”
รัฐรวีตบกบาลอาทิตย์ “ทะลึ่งแล้วไอ้ทิตย์!”
อาทิตย์ยิ้มขำๆ สองหนุ่มก้าวลงจากรถ อาทิตย์เดินไปหยิบถุงขนมทองหยอด ฝอยทองและกล้วยไม้ลงจากหลังรถ มองไปในบ้านมณฑิราแล้วหันมามองรัฐรวี
“คุณวีครับ” เขาชี้กล้วยไม้ “นี่ต้นอะไรครับ”
รัฐรวีเง็ง “ถามไมวะ ก็ต้นกล้วยไม้ไง”
“ถ้าผมบอกว่านี่เป็นต้นซากุระ คุณวีจะเชื่อไหมครับ”
“แกจะบ้าเหรอวะ ก็เห็นอยู่ว่ามันต้นกล้วยไม้”
“บางครั้งสิ่งที่เราเห็น อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเห็นก็ได้นะครับ” อาทิตย์พูดเป็นนัย
รัฐรวีงงๆ “แกพูดอะไรของแกวะ”
มณฑิราในคราบมณฑาเดินออกมาจากในบ้าน ทักอาทิตย์ก่อน
“มาหาคุณวิไลลักษณ์เหรอนายอาทิตย์”
“ครับ”
มณฑิราแกล้งถามรัฐรวี “แล้วนายล่ะมาทำไม”
“มาหาแฟนครับ”
มณฑิราแกล้งต่อ “คุณต๋อยเหรอ”
รัฐรวีเซ็ง “คุณมณต่างหาก”
อาทิตย์ส่งกุญแจรถให้รัฐรวี
“ถึงเวลาคุณวีเป็นคนขับรถให้คุณมณฑาแล้วครับ แล้วไม่ต้องรีบกลับมานะครับ ผมจะได้อยู่กับคุณวิไลลักษณ์นานๆ”

รัฐรวี มณฑิรา ยิ้มขำๆ แล้วเดินขึ้นรถไป

อาทิตย์ถือถุงขนมทองหยอด ฝอยทองและกล้วยไม้เดินมาตามทางเดินไปเรือนคนใช้บ้านมณฑิรา

วิไลลักษณ์ขวางไว้ และยังแกล้งงอนอยู่ “คุณมาทำไม”
“ก็มาหาเมียสิครับ”
วิไลลักษณ์แอบยิ้มแล้วแกล้งงอนต่อ
“วันนี้วิไลยุ่ง คุณกลับไปเถอะ”
“ผมเพิ่งมาเอง ก็ไล่ผมกลับแล้ว ใจร้ายอ่ะ สงสัยจะใจร้ายเหมือนเจ้านาย”
“มีสิทธิ์อะไรมาว่าคุณมณของวิไล”
“ก็เจ้านายคุณยังหลอกเจ้านายผมไม่เลิกน่ะสิ”
วิไลลักษณ์โกรธที่อาทิตย์ว่ามณฑิรา
“กลับไปเลย! วิไลไม่อยากคุยกับคุณ”
“ผมไม่กลับ!เพราะผมมีธุระ”
วิไลลักษณ์ฉงน “ธุระอะไร”
อาทิตย์ไม่ตอบแล้วเดินเข้าไปในเรือนคนใช้ วิไลลักษณ์เดินตาม

อาทิตย์เอาถุงขนมทองหยอด ฝอยทองให้แม่ยาย อาทิตย์บอกกับแม่เมียดว่า “ทองหยอด ฝอยทองเจ้านี้อร่อยมากเลยนะครับคุณแม่ กว่าจะซื้อมาได้ ผมต่อคิวตั้งนาน”
นายวงเดินเข้ามา ถามเสียงขุ่น “แกมาทำไม”
“ผมเอากล้วยไม้มาฝากคุณพ่อน่ะครับ”
อาทิตย์ส่งกล้วยไม้ให้นายวง นายวงแอบยิ้มเพราะชอบกล้วยไม้ แต่ยังวางฟอร์ม
“ใครพ่อแก ชั้นไม่ใช่พวกเห็นแก่สินบงสินบนอะไรนะ”
“น่าเสียดายจริงๆ เลยครับ ผมตั้งใจเอามาให้คุณพ่อแท้ๆ”
นายวงตาโต อยากได้กล้วยไม้ “งั้นก็อย่าให้เสียความตั้งใจแล้วกัน”
“แล้วยังมีนี่ด้วยครับ” อาทิตย์หยิบล็อตเตอรี่ปึกหนึ่งยื่นให้ “เลขเด็ดทั้งชุด ถ้าถูกแบ่งผมครึ่งนึงนะครับคุณพ่อ”
นายวงยังทำหน้าฟอร์มใส่ แล้วรับทั้งกล้วยไม้และล็อตเตอรี่จากลูกเขยกะล่อน อาทิตย์ลอบยิ้ม
วิไลลักษณ์เอ่ยขึ้น “เสร็จธุระก็กลับไปได้แล้ว”
“โธ่คุณวิไลลักษณ์ จะไล่ผมกลับอยู่เรื่อยเลย”
คุณต๋อยเดินเข้ามามองอาทิตย์อย่างไม่พอใจ
“นายเข้ามาทำอะไรที่นี่เนี่ย”
“ผมซื้อขนมมาฝากน่ะครับคุณพี่”
คุณต๋อยเสียงขุ่น “พี่เพ่ออะไร จริงๆ ชั้นอายุเยอะแล้ว”
“แต่หน้าคุณพี่ยังสาวอยู่เลยครับ”
คุณต๋อยยิ้มหน้าบานทันทีที่อาทิตย์ชมว่ายังสาว
“ขอบคุณนะพ่อหนุ่ม”
อาทิตย์ยิ้ม ที่มาถูกทาง ทุกคนเอือม

ทางด้านรัฐรวี มณฑิรานั่งเล่นอยู่ที่วัด ในบรรยากาศร่มรื่น
“คุณพาฉันมาทำบุญ มีเรื่องไม่สบายใจอีกเหรอคะ”
รัฐรวีไม่อยากบอกว่าภัสสรจะไม่ให้มรดกถ้าคบกับมณฑิรา กลัวเธอไม่สบายใจ
“นิดหน่อยครับ” รัฐรวีตัดสินใจถาม “ถ้าวันนึงผมไม่มีสมบัติ ไม่รวย คุณมณจะอยู่กับผมไหมครับ”
“ทำไมคุณถามแบบนี้ ที่ผ่านมาคุณยังไม่รู้จักชั้นอีกเหรอคะ”
“ผมรู้ครับว่าคุณเป็นคนยังไง ผมก็แค่อยากจะแน่ใจ”
“งั้นคุณก็แน่ใจได้เลยค่ะว่าชั้นไม่ได้คบใครที่ฐานะ ตอนที่ชั้นคิดว่าคุณเป็นคนขับรถ ชั้นก็ยังคบกับคุณเลยไม่ใช่เหรอคะ”
รัฐรวียิ้มชื่นจับมือขอบคุณอย่างโล่งใจ มณฑิรานึกสงสารที่เห็นรัฐรวีดูกลุ้มใจมากขนาดนี้

ฉาก 29บ้านมณฑิรา / กลางวัน
ตัวละครอาทิตย์ วิไลลักษณ์ นายวง แม่เมียด เวก กุ๊กกิ๊ก คุณต๋อย
ด้านอาทิตย์กำลังทำคะแนนช่วยงานทุกคนในบ้าน เห็นนายวงรดน้ำต้นไม้ อาทิตย์ก็เข้าไปช่วยรดน้ำต้นไม้ให้ พอแม่เมียดทำกับข้าว อาทิตย์ก็ช่วยหั่นผัก วิไลลักษณ์มองรู้ทันว่าอาทิตย์ทำประจบเอาใจ เห็นเวกเช็ดรถ อาทิตย์ก็เข้าไปอาสาเช็ดรถให้
ขณะกุ๊กกิ๊กเอาขยะจะไปทิ้งหน้าบ้าน อาทิตย์ก็อาสาเอาขยะไปทิ้งให้ คุณต๋อยมองยิ้มๆ ที่อาทิตย์แสนดีช่วยงานไปทั่ว
วิไลลักษณ์ถือตะกร้าผ้าจะเอาไปซัก อาทิตย์เข้ามาช่วยวิไลลักษณ์ถือตะกร้าผ้า
“ไม่ต้อง วิไลถือเองได้ แล้วก็เลิกช่วยงานเอาใจคนในบ้านได้แล้ว”
“โธ่คุณวิไลลักษณ์ครับ ผมไม่ได้ช่วยเพราะเอาใจนะครับ ผมช่วยด้วยใจจริงๆ”
“วิไลไม่เชื่อคุณหรอก! คุณกลับไปได้แล้ว”
คุณต๋อยเดินเข้ามาบอกว่า “อยู่กินข้าวกลางวันกันก่อนสิ”
อาทิตย์ยิ้ม
“คุณต๋อยคะ” วิไลลักษณ์กระเง้ากระงอด
“นายอาทิตย์อุตส่าห์มีน้ำใจช่วยงานพวกเราตั้งเยอะ เราก็ต้องมีน้ำใจกับเค้าตอบสิ ไม่งั้นมันเสียมารยาท”
“ขอบคุณครับคุณพี่ ผมกะแล้วว่าคนสวยๆ อย่างคุณพี่ต้องมีน้ำใจ ไม่เหมือนใครบางคน”
พูดกัดวิไลลักษณ์พร้อมกับยิ้มเย้ย วิไลลักษณ์เม้ง

รัฐรวีลงรถเดินมาส่งมณฑิราหน้ารั้วบ้าน
“ส่งชั้นแค่นี้แหละ คุณกลับบ้านเถอะค่ะ”
“จะไม่ชวนผมเข้าไปกินน้ำกินท่าหน่อยเหรอครับ”
“ไม่ต้องเลย เมื่อกี้ก็เพิ่งกินมาเอง”
รัฐรวียิ้มขำ อาทิตย์เดินออกมาสมทบ
“ทำไมรีบกลับจังล่ะครับคุณวี ผมกำลังเข้ากับคนที่บ้านนี้ได้เป็นอย่างดีเลย”
“งั้นแกก็อยู่ไปแล้วกัน ฉันไปละ”
รัฐรวีเดินออกไป
“โธ่คุณวี ผมกลับด้วยสิครับ”
อาทิตย์รีบตามออกไป มณฑิรายิ้มๆ

อาทิตย์ขับรถ โดยมีรัฐรวีนั่งเบาะหลัง นิ่งคิดเครียดอะไรบางอย่าง อาทิตย์สังเกตเห็นท่าทีนั้น
“เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณวี”
“เปล่า”
“คุณวีอย่าโกหกผมเลยครับ ผมรู้จักคุณวีมาตั้งแต่เด็กนะครับ คุณวีรู้สึกอะไร ทำไมผมจะไม่รู้”
“ฉันตัดสินใจแล้วว่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณมณ ถึงแม่จะไม่ชอบที่คุณมณเป็นแค่คนใช้ก็ตาม”
อาทิตย์มองรัฐรวีอย่างสงสาร แต่ก็พูดความจริงไม่ได้ จึงได้แต่พึมพำ “ไม่รู้อะไรบ้างเล๊ย”
“แกพูดว่าอะไรนะ”
“เปล่าครับ”
เสียงมือถืออาทิตย์ดัง อาทิตย์เอามาดูเห็นเป็นเบอร์แปลกๆ
แต่ก็กดรับสาย “ฮัลโหล...อาทิตย์พูดครับ...คุณอิง”

รัฐรวีได้ยินชื่ออิงอรก็ชะงัก ส่วนอาทิตย์นิ่งอึ้งไปถนัดตา

อ่านต่อตอนที่ 14
กำลังโหลดความคิดเห็น