xs
xsm
sm
md
lg

เนตรนาคราช ตอนที่ 16

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เนตรนาคราช ตอนที่ 16

อิทธิหลบอยู่ในที่ซ่อน มองขบวนของพวกมันผ่านไปยังปล่องที่ตนเองหย่อนตัวลงมา พวกมันไม่มีทางอื่นนอกจากทางเดิม เห็นอัศวินถูกคุมตัวไป
 
อิทธิเคลื่อนตัวอ้อมหลบตามซอกหินตามไปอย่างระมัดระวัง เห็นพวกเฮนรี่ยืนอยู่ตรงปล่องทางขึ้น อิทธิกระชากมีดสั้นขึ้นมา สายตามองไปด้านบนปล่องเห็นลำแสงส่องลงมาชัดเจน อิทธิลองขยับมีดสั้นสายตามองแสงครุ่นคิด
“โจซิง อังโซะ ขึ้นไปก่อนจะได้ช่วยดึงหีบขึ้นไป” เฮนรี่สั่ง
“อ๊ะอ๊ะ ผมขึ้นไปก่อนดีกว่า”
เคนมองเฮนรี่และทุกคนเป็นเชิงรู้ทัน เฮนรี่กับโจซิงกับอังโซะต่างมองหน้ากัน
“ผมว่าผมขึ้นก่อนดีกว่า”
วีรกิจไปที่เถาวัลย์
“คุณวีรกิจ ผมว่าคุณอยู่ที่นี่ดีแล้ว” เฮนรี่บอก
“หมายความว่าไง”
“หมายความว่าคนอย่างคุณ ไม่ควรจะเดินทางไปกับผมอีกต่อไป”
“แก”
โจซิงยิงเปรี้ยงๆ วีรกิจกระเด็นทรุดตายตาไม่หลับ ทุกคนต่างขยับตัวกระชากปืนส่องกันวุ่นวาย แต่แล้วเห็นแสงแวบมาจากข้างหลังของหลิน ไม่มีใครสังเกตเห็นนอกจากอัศวิน ทุกคนมัวแต่จ้องระวังกัน ทันใดนั้นอิทธิโผล่มาให้อัศวินเห็น แล้วหลบกลับเข้าไปในมุมมืดอย่างรวดเร็ว
“โอเค ทุกคนสงบแล้วนะครับ” เคนพูดขึ้น
ทุกคนต่างพยักหน้า
“ผมขึ้นก่อน จากนั้น ก็เป็น ผู้กอง คุณหลิน คุณเฮนรี่ กับคนของคุณขึ้นหลังสุด ลูกน้องผมสามคนจะขึ้นมา เหลือคนหนึ่งไว้คอยส่งเนตรนาคราชขึ้นมา ตามนี้” เคนจัดระเบียบ

หลิน พยักหน้าให้ปิง ปิงเดินเข้ามาหาอัศวินตวัดมีดจ้องอัศวินไม่พอใจนัก แล้วตัด
เถาวัลย์ที่มัดมืออัศวินออก อัศวินไม่พูดอะไร หลินสั่ง
“ปิง ขึ้นไปก่อน แล้วผู้กองอัศวิน”
ปิงขยับตัวดึงเถาวัลย์ขึ้นไป อัศวินกราดตามองรอบๆ
“อย่าคิดดีกว่าผู้กอง”
หลินเอาปืนจ้อง อัศวินยักไหล่
“ผมไม่ทำอะไรหรอก ไปกับคุณก็ดีอยู่แล้ว คนอื่นไม่เดือดร้อน หาโอกาสเล่นงานตอนพวกคุณเผลอก็ได้”
หยกหมั่นไส้เอาปืนกระแทกเข้าที่เอวของอัศวินจนตัวงอ ลูกน้องเคนต่างหัวเราะงึมงำ
“หยก”
หลินปราม หยกหยุด อัศวินทำบิดตัวไปมา ความจริงกำลังพูดกับอิทธิ ให้รู้ถึงสถานการณ์
“เอ้า ใครจะไป”
สมุนเคนถามขึ้น หลินหันไปบอก
“ผู้กอง”
อัศวินขยับตัวไปคว้าเถาวัลย์ แล้วโหนตัวขึ้นไปจนถึงข้างบน ปิงรีบเอาปืนจ่อไว้ โรสขยับตัวจ้องดูสถานการณ์
“มือไพล่มาข้างหลัง”

อัศวินเอามือไพล่มาทางข้างหลัง ปิงรัดมือของอัศวินไว้อย่างเดิม โรสโผล่ออกมาจากที่ซ่อน หาทางช่วยอัศวิน

พวกสมุนของเคนต่างออกแรงดึงหีบขึ้นมา โรสซุ่มดูอยู่ตรงต้นไม้หน้าโขดหิน

“พวกมันเจอเนตรนาคราชแล้ว” โรสพึมพำกับตัวเอง
สมุนของเคนห้าคน ออกแรงดึงหีบที่อยู่เบื้องล่างขึ้นมา จนมาถึงข้างบนในที่สุด โรสขยับปืนในมือเตรียมพร้อม ในที่สุดพวกมันก็ดึงหีบขึ้นมาข้างบนจนได้ โรสหาทางที่จะชิงคืน เห็นอัศวินถูก หลิน ปิง หยก คุมตัวอย่างใกล้ชิด

อิทธิออกมาจากที่ซ่อนเมื่อพวกมันขึ้นไปหมดแล้ว มาที่ร่างของวีรกิจ
“ขอให้ไปสู่สุขคติเถอะเพื่อน”
อิทธิก้าวออกไป

ก่อนออกเดินทาง เคนหันมาสั่งลูกน้อง
“พวกเอ็งมัดให้เรียบร้อย แน่นหนา การเดินทางยังยาวไกล”
พวกสมุนเคนต่างช่วยกัน เฮนรี่ โจซิง อังโซะ พรานอ่อง ต่างรวมตัวกันจับตาดูอย่างใกล้ชิด หลิน อัศวิน ปิง หยก อยู่ห่างออกมา โรสมัวแต่มอง ขยับตัวเหยียบก้อนหินเกิดเสียงดังขึ้นมา หลินหันขวับ เช่นเดียวกับ อัศวิน
“ไปดูซิ”
อัศวินรู้ว่าโรสอาจจะอยู่แถวนี้เพราะเห็นอิทธิในถ้ำ แกล้งพูดขึ้น
“แค่นี้ก็ตื่นเต้นไปได้”
โรสขยับตัวหาทางซ่อนตัว มองไปเบื้องล่างรู้สึกว่าตัวเองอยู่สูง ตกไปคงไม่รอดแน่ หลินมองอัศวินจับพิรุธ
“ถ้าพวกชนเผ่าขึ้นมาถึงนี่ได้ มันไม่แอบหรอก มันเล่นงานพวกเราแล้ว”
ปิงขยับตัวเดินไปยังที่โรสซ่อนตัวอยู่อย่างระมัดระวัง โรสเกาะกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาจากโขดหิน อีกมือหนึ่งถือปืนพร้อม ปิงเดินใกล้เข้าไป ทันใดนั้นเสียงโห่ร้อง และพวกชนเผ่าวิ่งออกมาจากที่ซ่อน เข้าใส่ทุกคน ลูกธนูปลิวเข้ามาหลายลูก ทุกคนคาดไม่ถึง พวกมันใกล้กลุ่มของหลินเข้ามา เพราะอยู่ใกล้ทางลง ส่วนเคน สมุน กับพวกเฮนรี่อยู่ทางข้างหลัง หลินยืนจ้องเพราะคาดไม่ถึง อัศวินพุ่งเข้าชนหลิน ม้วนหลบไปจากลูกธนูและพวกมัน

ลูกธนูวิ่งผ่านเข้าไปปักเอาที่สมุนคนหนึ่งของเคน ร้องลั่น เคน เฮนรี่ โจซิง อังโซะ ต่างสาดปืนเข้าหาพวกชนเผ่า เช่นเดียวกับพวกสมุนของเคน พวกชนเผ่าถูกยิงล้มไปหลายคน ท่ามกลางความวุ่นวายสับสน โรสหลบอยู่ไม่ออกมา คอยมองอัศวินที่กลิ้งไปพร้อมกับหลิน ปืนกราดไปมาคอยระวัง มีคนหนึ่งพรวดเข้าใกล้อัศวินทางด้านหลัง โรสยิงเปรี้ยงมันกระเด็นออกไป อัศวินมองมา โรสโผล่ออกไปแวบแสดงตนแล้วหลบเข้าไปตามเดิม อัศวินยิ้มพอใจ ปิงกับหยกเข้ามาประคองหลินลุกขึ้นมา พลางยิงสกัดพวกมัน
“ตัดเชือกให้ผม เร็วเข้า”
“ไม่ได้” หลินปฏิเสธ
“แต่ว่าพวกมันมี”
หลินพยักหน้าให้หยกที่อยู่ด้านหลังทุบโครมเข้าให้ อัศวินล้มฟุบลงไป โรสมองอย่างระวัง
“หยก ปิง ดูแลผู้กอง”
“คุณหนู”
“อย่าพูดมาก”

หลินพูดพลางวิ่งออกไปต่อสู้ประชิดตัวกับชนเผ่า เคน เฮนรี่ โจซิง อังโซะ ต่อสู้กับพวกชนเผ่า โรสได้แต่หลบอย่างเดียวไม่สามารถออกไปช่วยอัศวินได้ จนพวกชาวเผ่าถอยไปจนหมด โรสหายใจโล่งอก

เคนหันมาบอกอัศวิน

“ผู้กอง คุณควรจะขอบใจคุณหลินที่ให้เด็กๆ ดูแลคุณอย่างดี”
อัศวินยิ้มกวน จับต้นคอตัวเองเบาๆ
“จะลองมั้ย ผมเชื่อว่าคุณหลินจัดให้คุณได้”
เคนยิ้ม
“ออกเดินทาง”
“เดี๋ยวก่อน ตัดเถาวัลย์ทิ้งอย่าให้พวกมันขึ้นมา” เฮนรี่บอก

สมุนเคนหามหีบบรรจุเนตรนาคราชไป ทุกคนเริ่มออกเดินทางลงไปจากผาจนหมด โรสก้าวออกมาจากที่ซ่อน แล้วตรงไปที่โพรงทางลง

รัตนากรใช้มีดตัดเชือกข้อมือตัวเองหลุดอย่างง่ายดาย ขณะที่อิทธิตัดเชือกให้ชาติเป็นคนสุดท้าย ในขณะที่ซามู ขนสัมภาระของทุกคนมากองไว้ให้
“คุณอัศวิน” รัตนากรเอ่ยขึ้น
“ไอ้อัศวินมันส่งซิกว่าต้องการจะเดินทางไปกับพวกมันครับ” อิทธิบอก
“อาจจะคอยหาโอกาส ทำเครื่องหมายเส้นทาง แล้วหาทางเล่นงานพวกมัน” ชาติคาด
“คุณกาญครับ ผมเสียใจด้วยครับ คือ คุณวีรกิจ”
อิทธิหันมาบอกกาญจนา กาญจนาหน้าซีดตกใจ

กาญจนายืนอยู่หน้าเนินหิน ที่ฝังศพวีรกิจ
“กาญขอโทษด้วยที่ทำให้คุณวีรกิจต้องมีอันเป็นไป ขอให้วิญญาณของคุณวีรกิจไปสู่สุขคติด้วย”
กาญจนาก้มหน้า น้ำตาซึม รัตนากรเดินเข้ามา
“เราต้องไปแล้วยัยกาญ”
กาญจนาพยักหน้ารับ ทั้งหมดต่างค่อยๆ เดินออกไป อิทธิส่งเสียงผิวปากขึ้นไป โรสก็โผล่มาตรงปล่องด้านบน
“เชิญทุกคนได้ พวกมันไปกันหมดแล้ว”
โรสโยนเถาวัลย์ลงมาให้
“อิทธิ นายก่อน”
อิทธิพรวดไปที่เถาวัลย์ จับแล้วดึงตัวขึ้นไป กาญจนาอดที่จะหันเข้าไปมองในถ้ำไม่ได้

อิทธิส่งมือให้ชาติแล้วดึงตัวชาติขึ้นมาจากปล่องทางขึ้นเป็นคนสุดท้าย
“ไอ้ซามูล่ะ” ชาติถาม

“มันไปดูเส้นทางก่อนแล้ว” อิทธิบอก

โรสเข้าไปหากาญจนาซึ่งยืนอยู่กับรัตนากร

“เสียใจด้วยค่ะ คุณกาญ”
กาญจนาพยักหน้ารับ ทันใดนั้นเสียงกลองดังขึ้นมาอีก ชาติกับอิทธิ ก้าวเข้ามา
“เพลงรักโรแมนติคมาอีกแล้ว” อิทธิพูดขึ้น
เสียงนกซามูดังเข้ามา
“ซามูบอกว่าเราควรจะรีบไปครับ” ชาติบอก
ทั้งหมดต่างเร่งรีบเคลื่อนตัวไต่ลงไปถึงเบื้องล่าง ทันใดนั้นเสียงปืนดังแว่วมา
“เสียงปืนไม่ห่างจากนี่” รัตนากรคาด
“พวกไอ้เฮนรี่เจอเข้าแล้ว” ชาติบอก
“ไม่น่าจะใช่นะ พวกมันน่าจะไปได้ไกลกว่านี้” โรสค้าน
ซามูวิ่งเข้ามา ทำมือทำไม้กับชาติ
“ซามูบอกว่าดังมาจากทางไปต้นน้ำ”
“อาจจะเป็นพวกเรา”
รัตนากรพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว
“ชาติ ซามู นายอยู่นี่กับคุณกาญ”
อิทธิตามรัตนากรออกไป
“เราหลบไปทางโน้นก่อนดีกว่าครับคุณกาญ”
กาญจนาเดินออกไปกับชาติ
“ซามู ระวังรอบๆ”
ซามูพยักหน้าแล้ววิ่งออกไปด้านหนึ่ง รัตนากรกับโรสวิ่งเข้าไปในป่า ทั้งสองต่างหยุด มองรอบๆ
“เสียงปืนหยุดแล้ว”
ทันใดนั้นเสียงปืนโบราณดังขึ้นมา รัตนากรนึกได้
“พรานโก๊ะ”
“ทางนี้”
โรสวิ่งออกไป รัตนากรตามติด

นายองวิ่งนำพรานเมิง พรานโก๊ะ และนพดล ด้านหลังเป็นพวกชนเผ่าวิ่งตามมาติดๆ
“เร็วเข้าพ่อ”
นายองคว้ามีดเดินป่าขึ้นมา พรานเมิงวิ่งเข้ามาใกล้
“พ่อว่าซัดกับพวกมันตรงนี้ล่ะวะ”
พรานโก๊ะวิ่งมาแล้ววิ่งเลยไป ตามด้วยนพดลวิ่งตามพรานโก๊ะไปติดๆ พวกชนเผ่าวิ่งเข้ามา พรานเมิงตวัดมีดสวนเข้าไป พวกชนเผ่ากระเด็น ที่เหลือรุมล้อมเข้ามา นายองหลบดาบ แล้วฟันฉับเข้าให้ พวกนั้นกระเด็นไป พวกชนเผ่าเข้ามาอีก จังหวะนั้นโรสกับรัตนากรเข้ามาขวาง ต่อสู้กับพวกมัน นายองร้องดีใจ

“เย้ พี่รัตน์ พี่โรส”
 
อ่านต่อหน้า 2

เนตรนาคราช ตอนที่ 16 (ต่อ)

รัตนากรวิ่งเข้ามา

“พรานเมิงพาทุกคนหลบไป”
“นายอง เอ็งมาเร็ว”
พรานเมิงลากนายองหลบออกไป รัตนากรกับโรสโชว์ลวดลายต่อสู้กับพวกชนเผ่า พรานเมิงกับนายองวิ่งมาถึงพรานโก๊ะกับนพดลซึ่งยืนหอบอยู่

โรสกับรัตนากรลุยพวกชนเผ่า เวลาผ่านไป พวกชนเผ่าก็ทรุดหมด นายองวิ่งเข้าไปกอดรัตนากรด้วยความดีใจ
“พี่รัตน์”
นายองหันมากอดโรสอีกคน
“พี่โรส”
นพดล พรานเมิง พรานโก๊ะ เดินเข้ามา แต่แล้วชนเผาอีกคนหนึ่งลุกขึ้นมา เงื้อมีดสูงอยู่ข้างหลังรัตนากรกับโรส นพดลร้องเสียงดัง
“ระวัง”
ทันใดนั้นมีเสียงดังตึบ ชนเผ่าเงื้อค้าง ตาเหลือก มีดเล่มหนึ่งปักที่อก ล้มหงายตึงไป
“พี่อิท”
นายองวิ่งไปหาอิทธิเกาะแขนอย่างดีใจ
“โห เพิ่งจะมาเหรอ พี่อิท”
โรสแซว อิทธิสะอึก รัตนากรขำ แต่นายองไม่เข้าใจ

ทุกคนมารวมตัวกัน กาญจนาพูดอย่างเสียใจ
“กาญทราบค่ะว่าทุกคนเสียใจเรื่องคุณวีรกิจ แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องห่วงกาญนะคะ กาญขอให้เราทุกคนเดินหน้าต่อไป”

ทุกคนมองกาญจนาอย่างเห็นใจ

ขบวนของเฮนรี่เดินทางมาได้ระยะหนึ่ง เคนก็ให้หยุด

“หยุดทำไมครับ คุณเคน เราควรจะรีบ คุณไม่ได้ยินเสียงกลองเหรอ” เฮนรี่ถาม
“อ๋อ ก็แค่พักเหนื่อย มิสเตอร์เฮนรี่ ถ้าคุณให้คนของคุณมาแบกเนตรนาคราช เราก็น่าจะไปต่อได้”
เฮนรี่เงียบไป โจซิง ลอบสบตากับอังโซะ เคนหัวเราะ“เสียดายที่วิทยุใช้การไม่ได้ ไม่ยังงั้นก็เรียก ฮ. มาขน ป่านนี้ถึงเรียบร้อย”
“นั่นน่ะซิครับ แต่ไม่เป็นไร ผ่านแดนวิญญาณไปเมื่อไหร่ ผมโทรเรียกคนของผมมา คุณเคนจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
“ด้วยความยินดีเลยครับ ให้เอาเงินค่าเหนื่อยมาจ่ายผมด้วย”
เคนหัวเราะชอบใจ เฮนรี่ กับ โจซิง อังโซะ ต่างมองหน้ากันด้วยความหมั่นไส้เคน หลิน ปิง หยก นิ่งคุมเชิงอยู่ อัศวินมองรอบๆ หลินเดินเข้ามาใกล้
“คุณคิดหนีตอนนี้เท่ากับไปตายด้วยมือของพวกชนเผ่า”
“สู้ตายในมือพวกคุณไม่ได้ใช่มั้ย”
“คุณก็รู้ว่าฉันไม่เคยคิดทำอะไรคุณ”
“แต่สองคนนั่นมันจัดการผมแน่”
อัศวินใส่ไฟ หลินสงสัย ไม่เชื่อ
“สองคนนั่นเป็นศัตรูผมมานานแล้ว”
หลินหันไปมองโจซิง กับ อังโซะ ซึ่งกำลังมองอัศวินอยู่พอดี อัศวินตีหน้ากวนใส่ ทำให้โจซิงอารมณ์เสียจ้องมาอย่างเอาเรื่อง หลินเห็นเลยหลงกล
“ปิง หยก เจ้าสองคนจับตาดูมันสองคนให้ดี ผู้กองเป็นอะไรไป เจ้าต้องรับผิดชอบ”
ปิง หยก พยักหน้ารับ แต่ไม่ค่อยพอใจนักที่หลินสนใจอัศวิน อัศวินยิ้มพอใจ

ซามูทำไม้ทำมือบอกบางอย่างกับชาติ ชาติหันไปบอกทุกคน
“ซามูบอกว่านพดลกับพรานโก๊ะ รู้จักเอาตัวรอดเป็นยอดดี”
ทุกคนต่างขำกัน บรรยากาศดีขึ้น
“เราต้องรีบตามรอยพวกมัน ต้องชิงเนตรนาคราชให้ได้” รัตนากรบอก
“อย่าลืมนะคะว่า พี่อัศวินถูกพวกมันคุมตัวอยู่” กาญจนาท้วง
“เราไม่มีทางเลือก” รัตนากรย้ำ“ผมคิดว่า คุณรัตนากรควรรับหน้าที่หัวหน้าขบวนแทนคุณอัศวินไปพลางๆ ก่อน” ชาติเสนอ
“และไม่ควรปฏิเสธ” อิทธิย้ำ
ทุกคนจ้องมาที่รัตนากรเป็นตาเดียว รัตนากรพยักหน้าเป็นเขิงขอบคุณ
“พรานเมิงนำทาง คุณชาติ คุณอิทธิ คุณโรส กับฉันจะร่วมมือกันวางแผน หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสม”
พลัน เสียงกลองดังแว่วขึ้นมา
“พวกมันเริ่มรวมตัวกันอีกแล้วครับ” ชาติบอก
“ต้องวิ่งกันป่าราบอีกแล้วซิพ่อ”
“เอ็งอย่าบ่นมาก”
“ไหนจะต้องผ่านดินแดนวิญญาณอีก”
“เอ็งนี่ยิ่งห้ามยิ่งบ่น”

ทุกคนอดยิ้มไม่ได้

พรานเมิงนำทางมาอย่างเร่งรีบ แล้วส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดพักที่จุดทึบแห่งหนึ่งเพื่อให้พ้นสายตาพวกชนเผ่า

“เราต้องกลับเข้าไปในถ้ำของพวกมันอีกหรือเปล่าพราน” ชาติถาม
“น่าจะเป็นยังงั้นครับ”
“โห ต้องดำน้ำไปโผล่ที่น้ำตกน่ะเหรอ” นายองโวย
“ชอบเล่นน้ำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ นายอง”
นายองเหล่นพดล
“คิดว่าน่าจะมีทางอื่นมั้ย” รัตนากรถาม
“ผมคิดว่าอาจจะมีนะครับ เพราะเป็นพวกเดียวกันกับที่เราพบร่องรอยบนลานน้ำตกก่อนที่จะพบทางเข้า” อิทธิบอก
“พี่ว่านายองได้เล่นน้ำแน่”
นายองเหล่นพดล โรสหันมาเห็นกาญจนายังคงเงียบอยู่
“คุณกาญ โอเคนะ”
กาญจนาฝืนยิ้ม
“โอเคค่ะ”
ทันใดนั้นเสียงซามูส่งสัญญานเข้ามา ชาติรีบถ่ายทอดให้ฟัง
“พวกมันกลุ่มหนึ่งกำลังมาทางนี้ครับ”
“ทุกคนหลบเร็วเข้า ไม่จำเป็นอย่าปะทะ ปล่อยให้พวกมันผ่านไป” รัตนากรสั่ง
ทุกคนต่างเก็บของเข้าหลบหลังต้นไม้อย่างรวดเร็ว รัตนากรหลบอยู่กับกาญจนา โรสอยู่กับนายอง พรานเมิง พรานโก๊ะ นพดล อยู่ด้วยกันอยู่ตรงกลาง ชาติ อิทธิ แยกกันคุมเชิงคนละด้าน
สักครู่ก็เห็นพวกมันนับสิบเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง ต่างสอดส่ายสายตา บางคนก็เอาหอกแทงเข้าไปในพงหญ้าบ้าง คนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่หน้าพงไม้ที่โรสกับนายอง นอนราบหลบอยู่ เอาหอกแทงมาตรงหน้า โรสเอามือโอบรอบมาปิดปากนายองไว้ทัน มืออีกข้างหนึ่งถือปืนส่องไปที่ลำตัวของมัน พร้อมเหนี่ยวไก มันแทงลงมาอีก ห่าง
ตรงหน้าของโรสกับนายองแค่คืบเดียว นายองตาโต แต่ไม่กล้าส่งเสียง
โรสหน้านิ่ง นิ้วค่อยๆ เข้าไปในไกปืน แต่แล้วมันก็เดินผ่านไป นายองผ่อนลมหายใจ โรสปล่อยมือออกจากปากของนายอง ทั้งสองต่างยิ้มให้กัน

พรานอองข่านเดินนำขบวนมา ยกมือให้ขบวนหยุด เฮนรี่เดินเข้ามาใกล้
“เราถึงไหนแล้วพราน”
“ใกล้จะเข้าถ้ำที่เราลงมาจากน้ำตกแล้ว”
เคนเดินเข้ามาถาม
“มีอะไรเหรอ หยุดทำไม”
“ใกล้ทางเข้าถ้ำแล้ว แต่เงียบผิดปรกติ”
“พวกมันคงมัวออกไปตามล่าอยู่ข้างนอกมั้ง ผมว่าเรารีบไปดีกว่า”

พรานอองข่านเดินนำทุกคนออกไป

ชาติเดินมาหากาญจนาซึ่งนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ ดูสมุดบันทึกอยู่

“ดูซิคะ สมุดบันทึกการเดินทาง ครั้งหนึ่งเคยมีค่า ชีวิตของทุกคนต้องเสี่ยง ตอนนี้หมดหน้าที่แล้ว เป็นสมุดธรรมดาเล่มหนึ่ง”
“ถ้างั้น ผมขอได้มั้ยครับ”
กาญจนามองหน้าชาติ ฝืนยิ้ม
“จะเอาไปทำไมคะ”
“กะว่าพอเรื่องเสร็จผมจะลองเปิดประมูลดู เผื่อลูกฟลุคจะได้สักล้านสองล้าน”
กาญจนายิ้มออกมานิดหนึ่ง
“ผมจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ ยามคิดถึง”
กาญจนาหันมามอง ทั้งสองสบตากัน
“ทุกคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขเดินทางเสี่ยงภัยด้วยกันมา”
กาญจนายิ้มพลางส่งสมุดบันทึกให้ ทั้งสองสบตากัน ชาติรับมา ซามูเดินออกไป
“เราพร้อมจะเดินทางแล้วครับ”
ชาติลุกขึ้นพลางส่งมือให้ กาญจนามองสักครู่ก็จับมือของชาติ ชาติดึงกาญจนาขึ้นมา

เสียงกลองยังดังอยู่ไม่ขาดสาย รัตนากรพูดต่อหน้าทุกคน
“เรายังอยู่ในดินแดนพวกชนเผ่า อันตรายยังไม่สิ้นสุด เรามีคุณอัศวินที่ตกอยู่ในกำมือของพวกมัน ฉันอยากขอความคิดเห็นจากทุกคน”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ช่วยกันคิดอย่างเต็มที่
“นายองว่าต้องมีคนรีบไปช่วยคุณอัศวิน”
“ใครถามเอ็ง”
“ก็พี่รัตน์บอกว่าความคิดเห็นจากทุกคน”
“เป็นความคิดที่ดีจ้ะ นายอง”
นายองยิ้มแล้วเหล่พรานเมิง
“ฉันเห็นด้วยกับนายอง แต่ใครจะไป” รัตนากรถาม
“พวกนั้นมีฝีมือ มีกำลังคน จะต้องจัดคนไปให้เหมาะสม” ชาติบอก
“ผมว่า คุณรัตนากรควรเป็นหนึ่งในนั้น”
อิทธิเสนอ ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย
“โจซิง อังโซะ เคน หลิน กับ บอดี้การ์ดสองคน เป็นผู้ที่มีฝีมือน่ากลัว ผมว่า คุณรัตนากรรีบตามไปดีที่สุด ส่วนคุณอิทธิ กับ คุณโรส มีความชำนาญในการแกะรอย รีบเดินทางไปดักหน้าไว้ก่อน หาทางจู่โจมพวกมัน” ชาติแนะ
“ไม่ได้หรอกค่ะ ทางนี้จะกำลังไม่พอต้านชนเผ่า อีกอย่างฉันไม่ชำนาญทาง ตามไปจะช้า และอาจหลงก็ได้” รัตนากรแย้ง
“ให้ นายองไปกับคุณรัตนากรก็ได้ครับ มันแกะรอยเก่ง ทางนี้ผมเชื่อว่าเรารับมือกับพวกชนเผ่าได้ครับ”
พรานเมิงเสนอ รัตนากรมองหน้าทุกคนขอความเห็น กาญจนาพูดขึ้นอย่างเข้าใจ
"ไปเถอะค่ะพี่รัตน์ ไปตามพี่อัศวิน”
นพดลพยักหน้าให้เมื่อรัตนากรมองขอความเห็น
“ผมคิดว่าเป้าหมายของพวกชนเผ่าอยู่ที่พวกไอ้เฮนรี่มากกว่า เพราะพวกมันเอาเนตรนาคราชออกไป”
“โรสว่าคุณชาติคาดการณ์ได้ถูก เสียงกลองเริ่มห่างออกไป ทางเราก็ไม่เห็นเงาของพวกมัน
มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว”
“แต่ว่า คือ” รัตนากรมองนายอง
“นายองไม่กลัวหรอกพี่รัตน์”
รัตนากรนิ่ง มองหน้าทุกคน แล้วตัดสินใจ
“ได้ ตามนั้น”

ทุกคนต่างพยักหน้ารับสนับสนุนการตัดสินใจ
 
อ่านต่อหน้า 3

เนตรนาคราช ตอนที่ 16 (ต่อ)

โรสกับอิทธิยืนอยู่ตรงหน้าชาติกับรัตนากร

“เจอกันตอนเหยียบอกไอ้เฮนรี่” โรสบอก
รัตนากรพยักหน้าให้
“คุณอิทธิดูแลน้องสาวของรัตน์ให้ดีด้วย”
“เฮ่ คือคุณโรสน่าจะดูแลผมมากกว่านะครับ”
“กวนเหรอ”
“ระวังตัวเพื่อน” ชาติอวยพร
อิทธิพยักหน้า แล้วหันหลังเดินออกไปกับโรส
พรานเมิงร่ำลา สั่งสอนลูกสาว อยู่อีกมุมหนึ่ง
“เอ็งต้องรอบคอบ อย่าให้พลาด”
“จ้ะพ่อ”
พรานเมิงพยักหน้า มองนายอง
“มีวิชาอะไรงัดมาใช้ให้หมด”
“เออน่า พ่อ”
นายองยิ้มให้พรานเมิง วิ่งเข้ามากอดแล้วพรวดออกไป พรานเมิงมองตาม เป็นห่วง พรานโก๊ะเข้ามาตบไหล่เบาๆ
“นายองมันเก่ง”

รัตนากรก็ร่ำลากับกาญจนาด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน

“อย่าอยู่ห่างคุณชาติ กับ ซามู”
“ค่ะ ไม่ต้องห่วงกาญ รีบไปเอาพี่อัศวินคืนมา”
รัตนากรยิ้ม
“พี่หมอ ระวังตัว”
“ไม่ต้องห่วง พี่รู้จักรักษาตัวรอดเป็นยอดดี ใช่มั้ยซามู”
ซามูหันมายิ้ม ทุกคนฝืนใจยิ้มออกมาได้ นายองเดินเข้ามา
“นายองพร้อมแล้วค่ะ พี่รัตน์”
รัตนากรพยักหน้า มองทุกคนอย่างห่วงใย แล้วหันมาทางชาติ“คุณชาติ ฝากดูยัยกาญกับพี่หมอด้วยนะคะ”
“ครับ”
ซามูยืนอยู่ใกล้ๆ ส่งสัญญาณมือเร็ว
“ซามูอยู่ คุณกาญไม่เป็นอะไร”
รัตนากรหันมายิ้มให้ซามู
“ขอบใจจ้ะซามู”
รัตนากรหันมาทางชาติ กระซิบเบาๆ
“ยัยกาญรักสมุดบันทึกเล่มนั้นมาก เก็บไว้ให้ดี”
ชาติพยักหน้ารับ
“ไปนายอง เราไปกัน”
รัตนากรเดินออกไปกับนายอง กาญจนามองตามอย่างห่วงใย ชาติเดินเข้ามาใกล้
“คุณรัตนากรมีฝีมือ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ”

กาญจนาฝืนยิ้มให้

พรานอองข่านนำขบวนทุกคนออกมา เสียงกลองดังแว่วมาไม่ขาดสาย เริ่มใกล้ขึ้น

“ดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ใกล้ๆ เรา”
ทั้งหมดเดินมาถึงหน้าถ้ำ เฮนรี่แปลกใจ
“พวกมันหายไปไหนกันหมด เอาไงดีพราน”
“เราต้องกลับทางเดิม”
“ทุกคนระวัง เราต้องเข้าไปในถ้ำ” เคนเตือน
“โจซิง อังโซะ นำ”
โจซิงกับอังโซะต่างยิ้ม แล้วตีมือกัน จากนั้นก็เดินอาดๆ นำเข้าไปในถ้ำ
“คุณหลิน ดูแลเชลยของคุณให้ดีนะครับ” เคนบอก
หลินสีหน้าเย็นชา อัศวินหน้าเฉยไม่แสดงความรู้สึก
“หรือผู้กองอยากจะนำหน้าก็ได้” เคนหัวเราะเสียงดัง

อิทธิกับโรสเร่งฝีเท้ามาตามแนวป่า มีพวกชนเผ่านับสิบตามมาทางด้านหลัง ทั้งสองหลบเข้าแนวต้นไม้อย่างรวดเร็ว
“ไหนใครบอกว่าพวกชนเผ่าไม่ตามเราไง”
“ผมคิดว่าเราเข้าอาจจะมาอยู่ในแนวล่าของพวกมัน”
“งั้นเราก็คงใกล้พวกเฮนรี่แล้วซิ”
“อาจจะ พวกมันคงเหมาว่าเราเป็นพวกไอ้เฮนรี่”
“ดีที่เข้าใกล้พวกเฮนรี่ ไม่ดีที่ต้องเจอไอ้พวกนี้”
“ที่สำคัญถ้าเราปะทะกับไอ้พวกนี้ด้วยปืน พวกไอ้เฮนรี่รู้แน่ว่าเรากำลังเข้าใกล้พวกมัน แผนจะเสีย”
“เฮ้อ รู้แล้วน่ะใช้ปืนไม่ได้”
“ผมว่าเราหลบออกไปจากแนวล่าของพวกมันก่อนดีกว่าครับ แล้วค่อยตีวงอ้อมกลับมาใหม่”
“โอเค”
ทั้งสองค่อยถอยออกจากแนวป่า สักครู่พวกชนเผ่านับสิบก็กระจายกันเข้ามาใน
บริเวณนั้น ทั้งหอกและดาบเป็นอาวุธ ตรวจค้นไปมา แต่อิทธิกับโรสออกไปก่อนแล้ว

โรสกับอิทธิวิ่งผ่านแนวป่าจนกระทั่งมาถึงจุดหนึ่ง ทั้งสองหยุดซุ่มหลังแนวต้นไม้อีก
“ว่าไง”
“พวกมันยังตามมาไม่หยุด”
“ฉันว่าพวกมันไม่หยุด นอกจากว่าเราจะหยุดพวกมัน”
“โอเค ได้ คุณมีแผนยังไง”
“ฟังให้ดี ตามนี้”

โรสเล่าแผน

อิทธิซุ่มดูพวกชนเผ่านับสิบ กำลังตรวจร่องรอยเข้ามา สักครู่ก็ออกจากที่ซ่อนวิ่งไปข้างหน้า คนเผ่านับสิบไล่ตามอย่างรวดเร็ว ส่งเสียงเอะอะ อิทธิโกยอย่างเร็วจนกระทั่งมาถึงลานแห่งหนึ่ง จึงหยุด พวกมันแยกย้ายกันล้อมอิทธิไว้ตรงกลาง

“ไม่น่าหลงเชื่อแผนคุณโรสเล้ย ให้เราล่อพวกมัน”
พวกชนเผ่าบุกเข้ารุม อิทธิโชว์ลวดลายการต่อสู้ คนหนึ่งเข้ามาทางด้านหลังเงื้อขวาน โรสยิงธนูเข้ากลางอก จนทรุด
“สบายคนเดียวเลยนะแม่คุณ”
โรสอยู่บนต้นไม้นั่งเลือกยิงอย่างสบาย อิทธิสู้กับพวกมันด้วยมีดสั้น เพราะไม่ต้องการให้มีเสียงปืน พวกมันเข้าประชิดตัว อิทธิเตะต่อย ใช้ดาบและขวานของพวกมัน แต่อีกคนหนึ่งถือหอกจะขว้าง อิทธิเลยต้องสลัดมีดเข้าใส่ปักอก
“อืม ฝีมือยอด ปล่อยให้แสดงไปก่อน” โรสพึมพำกับตัวเอง
อิทธิพอปล่อยมีดไปก็หมดอาวุธ คว้าจับพวกมันเตะต่อย คนหนึ่งลุยเข้ามา เอาขวานจาม อิทธิ
เอามือรับไว้ได้ แต่แล้วมีอีกคนหนึ่งมาล็อคคอทางด้านหลัง อิทธิพยายามดิ้นแต่มันแข็งแรง ต่างดิ้นปล้ำกันหมุนรอบเป็นวง แต่แล้วลูกธนูก็เข้ามาเสียบที่หน้าอกของคนถือขวาน มันปล่อยขวานหลุดจากมือ อิทธิคว้าลูกธนูไว้ได้ เอาขาถีบโครม มันกระเด็นออกไป แต่ลูกธนูยังอยู่ในมือของอิทธิ
อิทธิใช้ลูกธนูเสียบไปทางด้านหลังของคนที่ล็อคคอ จนร้องลั่น เขาหอบหายใจ มองพวกชนเผ่าที่นอนระเกะระกะอยู่ แล้วหันไปมองโรสทำนองว่า โรสสบาย เขาเกือบไม่รอด

อิทธิกับโรสเดินไปคุยกันไปหลังเสร็จภารกิจ
“ผมนึกว่าคุณจะปล่อยให้มันรัดคอผมจนตายซะแล้ว”
“นี่ฉันอุตส่าห์ช่วยแล้วยังบ่น”
“โห กว่าจะช่วย”
“อ้าวฉันต้องรอให้คนถือขวานข้างหน้าคุณหมุนมาทางฉันก่อน ถึงจะยิงได้”
“อ๋อไม่ยิงคนข้างหลังว่างั้นเถอะ ผมเดี้ยงไม่เป็นไร”
“นี่คุณ ถ้าฉันยิงข้างหลัง คุณจะเอาอะไรจิ้มหน้าไอ้คนรัดคอคุณล่ะ บอกหน่อยซิ”
อิทธิอึ้ง แล้วยิ้มเขิน
“เฮ่ โห สุดยอดจริงๆ ตอนนั้นสมองขาดอากาศไปนิดหน่อยเลยคิดไม่ทัน อภัยให้ผมนะครับ”
โรสขำเอามือยันอิทธิห่างออกไป
“ฉันคิดว่าสมองคุณมีแต่อากาศซะอีก”
อิทธิขำชอบใจ
“คมมาก คมจริง ผมยอมแล้วครับ”

โรสยิ้มขำชอบใจ ทั้งสองยิ้มให้กัน

โจซิง กับอังโซะเดินนำเข้าไปในถ้ำ ปืนจ้องกราดไปข้างหน้า จนกระทั้งมาถึงทางที่ออกมาจากแก่งน้ำ ซึ่งมีทางแยกไปทางขวาอีกสองทาง
 
ทันใดนั้นลูกธนูก็พุ่งออกมา โจซิงคว้าลูกไว้ได้ อังโซะร้องเสียงดังพลางสาดกระสุนใส่ในถ้ำอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องโหยหวน แต่หยุดพวกมันที่แห่กันออกมาไม่ได้ ทุกคนสาดกระสุนเข้าใส่แต่กลับต้านไม่อยู่
“ระวัง ระเบิด”
โจซิงตวัดมือขึ้นมาในมือมีระเบิดสองสามลูก
“อย่าเดี๋ยวถ้ำถล่มปิดทางออก”
อัศวินร้อมห้าม แต่ช้าไป โจซิงขว้างนระเบิดเข้าไปสามลูกกลางกลุ่มของพวกชนเผ่า เสียงระเบิดตูม อัศวินกระเด็นออกมา ถ้ำสั่นสะเทือน เพดานถล่มลงมาท่ามกลางเสียงร้องของพวกชนเผ่า

ฝุ่นเริ่มจางลงในที่สุด พวกชนเผ่านอนระเกะระกะ เพดานถ้ำถล่มลงมาปิดทางไว้จนหมด อัศวินยืนใกล้ๆ มองกำแพงที่ขวางอยู่ตรงหน้า แล้วหันมามองโจซิง กับ อังโซะ ก่อนจะเดิน
กระแทกไหล่โจซิง ย้อนกลับมา พวกมันต่างมองหน้ากันรีบแก้ตัว
“ทำไม จะปล่อยให้พวกมันฆ่าเราหรือยังไง” โจวิงออกตัว
“แต่เราอาจต้องติดอยู่ที่นี่ ไอ้โง่” ปิงว่าใส่หน้า
อังโซะชักมีดออกมา พุ่งเข้าหาปิง แต่ปิงไวกว่า กระชากมีดสั้นออกมาเช่นกัน เคนห้าม
“เอาล่ะ เอาล่ะ”
สองฝ่ายหยุด
“พวกมันเป็นพวกเดียวกับพวกข้างบน มันต้องมีทางออกทางอื่นแน่ๆ”
“หาทางออกหน่อยพราน” เฮนรี่สั่ง
โจซิง อังโซะ ยักไหล่ไม่สนใจ เฮนรี่ได้แต่ถอนใจ

พรานอองข่านหาร่องรอยนำทุกคนเดินทางไปอีกช่องทางหนึ่ง จนมาออกนอกถ้ำอีกด้านหนึ่งจนได้
“เก่งมากพราน เห็นมั้ย บอกแล้วว่ามันต้องมีทางออก”
เคนยิ้มให้กับสมุน ทุกคนมองเคนอย่างหมั่นไส้ อัศวินมองรอบๆ หาทางหนี
พรานอองข่าน นำทุกคนผ่านป่า ทะลุออกมาจนถึงหุบผาขาด ไม่ห่างมากนัก มีสะพานเชือกแขวนอยู่ เคนร้องขึ้น
“เอาโว้ย รีบข้ามไปก่อนที่พวกมันจะโผล่มาอีก”
ทั้งหมดต่างทยอยกันข้ามสะพานไป จนถึงอีกฝั่งหนึ่งจนได้ เคนหัวเราะลั่น“พวกมันไม่โผล่หัวมาให้เห็นสักคน”
ทุกคนมองความบ้าบอของเคนอย่างรำคาญ
“ตัดสะพานทิ้ง” เฮนรี่สั่ง
อัศวินมองเฮนรี่ หาทางยับยั้ง แต่โชคดี เคนขัดไว้เสียก่อน
“ไม่ได้”
“ทำไม”
“น้องโรสของผมยังอยู่ฝั่งโน้น ตัดไม่ได้”
อัศวินโล่งอก ทุกคนต่างมองหน้าเคน
“ทุกคนมาที่นี่เพื่อเนตรนาคราช ในเมื่อได้แล้ว ยังจะเอาอะไรอีก”
โจซิง กับ อังโซะ ต่างมองหน้ากัน
“คุณเคนพูดถูก เราต่อสู้ศัตรูด้วยฝีมือไม่ใช่ลอบกัด” โจซิงเปรย
หลิน ปิง หยก ลอบสบตากัน อยากให้ตัดแต่ไม่พูดอะไร เฮนรี่มองทุกคน ก็เห็นว่าส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเคนแน่นอน
“ผมก็แค่ไม่อยากให้พวกชนเผ่ามันข้ามมาได้ เท่านั้นเอง”
“พวกมันหยุดเราไม่ได้ คุณก็รู้ อาวุธเราเหนือกว่า”
“โอเค โอเค เดินทางต่อได้”

ทุกคนเดินทางต่อไป
 
อ่านต่อหน้า 4

เนตรนาคราช ตอนที่ 16 (ต่อ)

อิทธิกับโรสมาถึงหน้าถ้ำที่เคยผ่านออกมา ไม่มีใครอยู่ เงียบสงบ

“แปลกมาก หายไปไหนกันหมด”
“ผมว่าพวกไอ้เฮนรี่เก็บพวกชนเผ่าไม่เหลือแล้วมั้ง”
“อย่างน้อยน่าจะมีศพให้เห็น”
“พวกชนเผ่าจะเก็บศพพวกมันไปหมดไม่ยอมทิ้งเกะกะ ผมเห็นมาแล้ว มันเอาไปรวมกันแล้วเผา”
โรสไม่พูด เดินผ่านอิทธิออกไปยังทางเข้าถ้ำ อิทธิเดินตามไป ทั้งคู่แปลกใจที่ผนังถ้ำยังมีคบไฟติดไว้เป็นจุดๆ ให้เห็นเส้นทาง ทั้งสองเดินเข้าไป
“นึกแล้ว” โรสอุทาน
ตรงหน้าที่เคยเป็นทางเข้า ขณะนี้มีหินใหญ่น้อยถล่มจากเพดานลงมาปิดไว้หมด ทั้งสองเข้าไปตรวจดู
“รอยไหม้จากระเบิด รอยเลือดเต็มไปหมด ปลอกกระสุนเพียบ พวกชนเผ่าเก็บพวกมันไปหมดแล้ว รอยไปทางนี้ยังสดอยู่เลย ไม่น่าจะห่างจากเรามากนัก”
“ถ้าเราเร่งอีกหน่อยอาจจะตามทันพวกมัน”
“ฉันจะทิ้งเครื่องหมายไว้ให้พวกเราตามมา”
“ดี ผมจะไปดูข้างหน้า”
“ระวังตัวด้วย”
อิทธิหันมายิ้ม โรสถือมีด เดินมาตรงผนังถ้ำแล้วเริ่มกรีดทำเครื่องหมาย

อิทธิกับโรสมาถึงตรงสะพานเชือก ทั้งสองซุ่มดูก่อนจะออกไปยังสะพานเชือก
“พวกมันไปไหนกันหมด ไม่มีใครเฝ้าอยู่ที่สะพานเลย”
“เดี๋ยวก็รู้”
โรสก้าวออกไปที่สะพาน อิทธิตาม ทั้งสองมองรอบๆ อย่างระมัดระวังจนถึงสะพาน
“ไม่มีพวกมันแม้แต่เงา”
“ถูกพวกพี่เคนของคุณลบหมดทั้งเผ่าแล้วมั้ง”
“ฉันว่าต้องมีทางลับทางอื่น ป่านนี้พวกมันออกไปสมทบกับพวกมันบนยอดน้ำตกแล้วแน่ๆ”
“อาจเป็นไปได้ แต่ทำไมพวกมันไม่ตัดสะพานทิ้ง”
“มันอยากให้พวกเราออกไปให้หมดมากกว่าที่จะเก็บไว้ที่นี่มั้ง”
“เงียบผิดปรกติ”
“คุณข้ามไปก่อน ผมจะคอยระวังให้”
“โอเค”
โรสเดินออกไปข้ามสะพานเชือก แต่แล้วทันใดนั้น ลูกธนูนับสิบก็พุ่งเข้าใส่โรส อิทธิร้องลั่น
“ระวัง”
โรสล้มตัวนอนราบกับสะพานเชือก อิทธิกราดตามอง ไม่เห็นพวกมัน เห็นแต่ลูกธนูวิ่งออกมา “ที่แท้เล่นแบบนี้ จัดหนักไปเลย"
อิทธิชักปืนขึ้นมา สาดกระสุนออกไป เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พวกมันร้องโหยหวน ออกมาจากราวป่า ลูกธนูที่พุ่งออกมาเริ่มน้อยลง แต่แล้วพวกมันกลุ่มหนึ่งก็ออกมาอีกทางหนึ่งเข้ารุมอิทธิ อิทธิทั้งยิงทั้งต่อสู้ประชิดตัว โรสขยับลุกขึ้นมา แล้วยิงเข้าไปในแนวป่า จนพวกที่ยิงธนูเงียบไป เธอยิงช่วยอิทธิ จนพวกชนเผ่านีไปจนหมด โรสรีบตะโกนบอก
“เร็วเข้าคุณ จะรอพวกมันกลับมาอีกเหรอ”
“ข้ามไปได้เลยคุณ”

โรสค่อยๆ ถอยข้ามไป ในขณะที่อิทธิกราดปืนไปมา ถอยข้ามสะพานมาเช่นกัน

โรสยกหน้าไม้เล็ง แล้วยิงลูกธนูออกไปปักตรงต้นไม้ในราวป่าต้นหนึ่งก่อนที่จะออกมาจากสะพาน

“หวังว่าพวกมันคงไม่เห็น”
“พวกเราอาจจะไม่เห็นเหมือนกัน”
“ไม่ต้องห่วงหน้า พวกเราฉลาดๆ กันทั้งนั้น”
โรสบ่นแล้วเดินผ่านอิทธิไป ทั้งสองนั่งลงพัก อิทธิเปิดเป้หยิบกระติกน้ำส่งให้โรส โรสรับมาดื่ม
“พวกมันวางแผนได้ร้ายมาก”
“โดนลูกปืนมากๆ ทำให้พวกมันฉลาดขึ้น”
“ไม่ยักเห็นไอ้ตัวหัวหน้า ตัวที่ถือดาบทรงประหลาดน่ะ”
“คุณยิงมือของมัน ป่านนี้ถูกพิษจากลูกธนูคุณตายไปแล้วมั้ง”
“ฉันไม่เล่นสกปรกแบบนั้นหรอก”
อิทธิขำชอบใจ
“น่าเสียดาย ถ้ามันตายจริงก็ดี พวกมันจะได้ถอยๆ ไปให้หมด”
“หวังว่าพวกพี่เคนคงไปไกลเกินกว่าที่จะได้ยินเสียงปืน”
“คุณเรียกว่าพวกไอ้เฮนรี่ ฟังดูดีกว่าเยอะ เรียกพวกพี่เคน ฟังแล้วรำคาญหู”
โรสยิ้ม “โอเค ได้ พวกไอ้เฮนรี่ พอใจยัง”
อิทธิยิ้มชอบใจ โรสส่งกระติกน้ำคืนให้ อิทธิรับมาดื่ม

พรานอองข่านหันขวับมาทางเสียงปืน เคนอยู่อีกทางหนึ่งกับลูกน้องเฝ้าหีบเนตรนาคราช
อย่างใกล้ชิด หลินอยู่ถัดไปใกล้ๆ ไม่ยอมคลาดสายตาจากเนตรนาคราชเช่นกัน เฮนรี่สังเกตเห็น
อาการพรานอองข่าน จึงเดินเข้ามาหา
“มีอะไรเหรอพราน”
พรานอองข่านกราดสายตามองแล้วส่ายหน้า
“เราอยู่เหนือลม ได้ยินก็เว่อร์แล้ว พวกชนเผ่าอยู่ใต้ลมข้างหลังเรา” โจซิงบอก
“ใช่มั้ยพราน” เฮนรี่หันมาถาม
“ใช่มั้ง”

พรานอองข่านเดินออกไป โจซิงยิ้มเยาะ

พรานอองข่านเดินมาจนถึงอัศวินซึ่งนั่งพิงต้นไม้ ถูกมัดมือไพล่หลังอย่างเดิม มี ปิง หยก ยืนเฝ้าอยู่ใกล้ๆ

“ขอกินน้ำหน่อยพราน”
พรานอองข่านเดินเข้ามาใกล้ ปิงกับหยกไม่สนใจ พรานอองข่านนั่งลงใกล้ๆ หยิบกระติกน้ำออกมา
“พวกเอ็ง เอาน้ำให้ไอ้นี่กินหน่อย ข้าไม่ป้อนให้มันหรอก”
ปิงกับหยกหันมามอง แล้วมองหลิน เห็นพิงต้นไม้หลับตาอยู่ เลยทำเป็นไม่สนใจพรานอองข่าน พากันเดินหันไปทางอื่น พรานอองข่านกระชากมีดออกมา แล้วตัดเชือกให้อัศวิน ปิงเห็น
“ขยับนิดเดียวตายแน่ผู้กอง”
ปิง หยก ถือปืนอยู่ข้างหน้า
“พรานคิดจะทำอะไร” หยกถาม
“ก็ข้าบอกให้พวกเอ็งเอาน้ำให้มันกิน พวกเอ็งไม่สน ข้าก็ต้องตัดเชือกให้มันน่ะซิ ไม่งั้นมันจะกินน้ำได้ยังไง”
พรานอองข่านส่งกระติกน้ำให้อัศวิน อัศวินรับไว้ หลินเดินเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น”
“พวกเอ็งมัดมือมันไพล่หลัง มันจะกินน้ำกินอะไรได้ยังไง ถ้าพวกเอ็งไม่คอยป้อนมัน”
พรานอองข่านเดินออกไป หลินมองหน้า ปิง หยก
“คือ” ปิงอึกอัก
“ไม่ต้องพูดมาก”
หลินมองอัศวินที่ถือกระติกน้ำอยู่ อัศวินขยับกระติกน้ำแล้วส่งสายตาถามว่ากินได้หรือยัง
“กินเสร็จแล้ว มัดมือไว้ข้างหน้า” หลินสั่ง
“แต่ว่า”
หลินหันมอง หยกเงียบ หลินเดินออกไป อัศวินกินน้ำเสร็จ หยกเอาสายหนังที่เตรียมมารัดข้อมืออัศวินเอาไว้ อัศวินยิ้ม
“ขอบใจ”
ปิงเก็บปืน หยกถอยออกไปไม่มองหน้า สองคนถอยออกไปยืนห่างๆ จ้องอัศวินไม่พอใจ อัศวินลุกขึ้น ปิง หยก ขยับตัว อัศวินขยับกระติกในมือ
“ผมจะเอาไปคืนพราน”
ปิง หยกเหล่ แต่ไม่พูดอะไร อัศวินเดินไปหาพรานอองข่านที่นั่งอยู่ห่างออกไป แล้วส่งกระติกให้
พรานอองข่านพยักหน้า รับกระติกคืนมา หันมองปิงกับหยก ซึ่งยืนห่างออกไป ไม่สนใจอะไร พรานอองข่านกระซิบอัศวินเบาๆ
“พวกเอ็งกำลังตามมา ข้าได้ยินเสียงปืน”
อัศวินพยักหน้าตั้งใจฟัง
“เอ็งจะทิ้งรอยก็ให้มิดชิดหน่อย”
“ขอบใจนะพราน”
“ข้ามานำทาง ไม่ได้มาฆ่าใคร นอกจากป้องกันตัว”
อัศวินพยักหน้าให้ พรานอองข่านลุกออกไป
“ขอบใจนะพราน” อัศวินตะโกนเสียงดังไม่ให้ใครสงสัย

ปิง หยก หันมามองอัศวิน อัศวินแกล้งยิ้มให้ พลางชูมือที่ถูกมัดให้ดูว่ายังแน่นอยู่ ปิงกับหยกเหล่ด้วยความหมั่นไส้ อัศวินกราดสายตามองเห็นพวกเฮนรี่กับโจซิง กำลังมองมาอยู่ อัศวินแกล้งยกมือโบกยิ้มให้ โจซิงถุยน้ำลายลงพื้น อัศวินยิ้มขำ

นายองก้มสำรวจรอย แล้วก็รายงานรัตนากร

“รอยขบวนพวกมันแน่นอน มีรอยส้นเท้าลึกเหมือนตั้งใจ ต้องเป็นคุณอัศวิน”
“แล้วพวกมันทำไมไม่เห็นล่ะ อย่างน้อยพรานอองข่านน่าจะเห็น”
“นายองไม่รู้ พวกมันคงไม่สนใจว่าใครจะตามมั้ง”
“อืมเป็นไปได้ เก่งมาก”
นายองยิ้มชอบใจ

เสียงกลองยังดังไม่ขาดระยะ นายองและรัตนากรค่อยหลบซุ่มอยู่ในพงไม้ คอยดูพวกมันรวมกลุ่มเดินผ่านไป
“พวกมันมากจริงๆ”
ทั้งสองต่างมองตามพวกมันที่เดินผ่านไป แต่แล้วนายองถอยไปเหยียบกิ่งไม้หักเสียงดัง พวกมันหยุดหันขวับมาทันที
“นายองว่าเราเผ่นได้แล้วพี่รัตน์”
“ไปเลย ไม่ต้องรอพี่ หาทางหลบออกเส้นทาง พี่จะล่อพวกมันไ”ป
นายองวิ่งออกไปก่อน ตามติดด้วยรัตนากร พวกมันส่งเสียงวิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว นายองวิ่งหน้าตั้ง รัตนากรตามหลัง พอได้จังหวะนายองก็หลบเข้าไปแอบในพุ่มไม้ รัตนากรวิ่งผ่านไป นายองเห็นพวกมันวิ่งตามรัตนากรไป นายองหอบหายใจแรง
รัตนากรเห็นว่าออกมาไกลแล้วจึงหยุด พวกมันวิ่งเข้ามาล้อมไว้ ไม่สนใจ พุ่งพรวดเข้าใส่ รัตนากรหลบ แล้วโชว์ลวดลายการต่อสู้ จนพวกชนเผ่าล้มลงไปที่ละคนจนหมด นายองเพิ่งจะมาถึง ยืนหอบหายใจ ในมือถือดาบเดินป่า
“โห พี่รัตน์ไม่เหลือไว้ให้หนูมั่งเลย”
รัตนากรอดขำไม่ได้

นายองเอามีดเดินป่าตัดกิ่งไม้ออกเป็นทาง ให้เดินผ่านไปได้
“พรานนำทางของพวกมันฉลาดทีเดียว พาหลบซอกแซกหลบสายตาพวกชาวเผ่า”
“แน่ใจนะว่านายองไม่ได้หลง”
“มือฉันนี้แล้ว นั่นไง”
นายองชี้ให้เห็นรอยส้นเท้าหนัก ที่เคยชี้ให้ดู
“รอยออกชัดอีกแล้ว บางอย่างผิดปรกติ”
รัตนากรครุ่นคิดกราดสายตารอบ
“นายองว่า พวกมันอาจจะหลอกให้เราตามแล้วคอยดักลอบกัด”
“เป็นไปได้ เราต้องระวังตัวให้มาก”
รัตนากรกับนายองเดินต่อไป จนมาถึงหน้าถ้ำ เห็นทุกอย่างเงียบสงบ ทั้งสองซุ่มดูอยู่ก่อนที่จะเข้าไป
“พวกมันหายไปไหนหมด”
“เราเข้าไปดู”
นายองนำรัตนากรเข้ามาในถ้ำ ในที่สุดก็ต้องหยุดเพราะตรงหน้าที่เคยเป็นทางออกมาจากน้ำตก ขณะนี้มีหินลงมาขวางไว้ รัตนากรสำรวจรอบๆ
“รอยไหม้ และกลิ่นควันปืนยังอยู่บางจุด”
“ตรงนี้มีรอยเลือดด้วยพี่รัตน์”
รัตนากรรีบเข้าไปดู เห็นรอยเลือดเป็นหย่อมๆ เต็มไปหมด
“พี่รัตน์ดูนี่
นายองส่งลูกธนูของโรสให้รัตนากร
“ลูกธนูของคุณโรส หาดูซิว่ามีเครื่องหมายอะไรหรือเปล่า”
สองคนต่างแยกกันหาเครื่องหมายบนพื้นและผนังถ้ำ นายองเห็นก่อน
“เจอแล้ว รูปดอกธนูกับตัวยึกยือ”
รัตนากรรีบเข้าไปดูตรงผนังถ้ำ มีลูกศรชี้ แล้วมี ตัว R กับ ตัว I แกะอยู่ รัตนากรยิ้ม
“ตัวยึกยือเป็นภาษาฝรั่ง คุณโรสกับคุณอิทธิผ่านไปแล้ว”
“นายองก็คิดยังงั้น”
“เก่งมากจอมพรานหญิง”

นายองยิ้มชอบใจ นายองเดินนำต่อไป
 
อ่านต่อตอนที่ 17
กำลังโหลดความคิดเห็น