เนตรนาคราช ตอนที่ 13
พวกเฮนรี่ขึ้นมาถึงข้างบนอีกครั้ง ต่างโยนสัมภาระลงกับพื้นด้วยความเหนื่อย
“ขึ้นๆ ลงๆ เสียเวลาเสียแรง” โจซิงบ่น
“อย่าบ่นน่า ข้างบนนี้ตั้งรับดีกว่า เผื่อว่าไอ้พวกนั้นบุกอีก” เฮนนี่ท้วง
“ตกลงจะขึ้นมาทำไมพราน”
“พรุ่งนี้ก็รู้เอง”
พรานอองข่านเดินออกไป เฮนรี่มองตาม โจซิงกับอังโซะเซ็ง เฮนรี่หันมาพยักหน้าให้โจซิง โจซิงสั่งทีมงาน
“ทีมงาน จัดกำลังระวังรอบๆ เราจะพักที่นี่”
โจซิงเสียอารมณ์ อังโซะเดินเข้ามาลูบหลังเป็นเชิงให้สงบสติ
ภายในถ้ำ รัตนากรเดินเข้ามาหากาญจนา
“เป็นไงมั่ง โอเคมั้ย”
“ดีใจที่หาทางเข้ามาจนได้”
“พี่รู้อยู่แล้วว่ากาญต้องหาเจอ น้องพี่เก่ง”
“โอเค ยอกันเอง”
ทั้งสองต่างขำ
“พี่รัตน์เก่งนะ ลุยเท่าไหร่ไม่ยอมเหนื่อย ยังดูสดใสสดชื่นตลอด”
“โน พี่โทรมจะตาย ไปละ เราจะได้พัก”
รัตนากรรีบเดินออกไป กาญจนามองยิ้มขำ แต่แล้วเห็นอัศวินเดินเข้ามาหารัตนากร กาญจนายิ้มจับตามอง
อัศวินกลับมาจากไปตรวจเส้นทาง เดินเข้ามาหารัตนากร
“เราเจอร่องรอยของพวกชนเผ่า”
“แน่ใจเหรอคะว่าพวกเดียวกัน”
“พวกเดียวกับที่เจอข้างบน แต่คิดว่าเป็นแค่ทางผ่านของพวกขนเสบียง”
“โอเค รัตน์จะคอยระวัง แล้วจะไม่บอกพวกเราเหรอ”
“รอยอยู่ลึกมาก ยังไงผมหรือชาติต้องเจอก่อน พอจะทัน ไม่อยากให้พวกเรากังวลจนนอนไม่หลับ หมดแรงกันพอดี”
“ก็ดีค่ะ”
อัศวินยิ้มส่งตาเชื่อม
“ระวังนะคะ ยัยกาญอยู่ๆ ก็มาหาว่ารัตน์หน้าตาสดใส”
“โห ยัยกาญร้ายน่าดู ไปก่อนละ”
อัศวินรีบเดินออกไป รัตนากรขำ ชำเลืองมาทางกาญจนา เห็นกาญจนาตรวจสมุดบันทึกอยู่ค่อยเบาใจเดินออกไป กาญจนาเงยหน้าขึ้นมามองตาม ยิ้มๆ กับความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง
อัศวินบอกทุกคนเรื่องที่ไปตรวจเส้นทาง
“ผม อิทธิ ชาติ ตรวจดูแล้วยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง อีกอย่างที่นี่เหมาะแก้การป้องกันตัว ถ้ามีการบุกรุกจากสัตว์ป่าหรือว่าคน”
ทุกคนต่างพยักหน้ารับเห็นด้วย รัตนากร อัศวิน ชาติ อิทธิ ต่างลอบสบตากัน
“พวกเราเหนื่อยมาพอสมควร พักให้สบาย พรุ่งนี้เช้าเราค่อยลุยออกไป”
ทุกคนพยักหน้า
“แต่ก็ไม่ควรประมาท เราต้องจัดเวรยาม ผมกับคุณรัตน์จะเริ่มเป็นผลัดแรก”
“ผมกับซามูจะรับช่วงต่อจากอัศวินกับคุณรัตน์” ชาติบอก
“ฉันต่อจากนายจนถึงเช้า” อิทธิอาสา
“คนเดียวเหรอ” ชาติแซว
ทุกคนยิ้มๆ ชำเลืองมองโรส โรสยิ้มไปด้วยเพราะรู้ว่ามักจะถูกจับให้คู่กับอิทธิ แต่ก็ยังแกล้งเฉย
“แน่นอน สบายมาก”
“นายองอยู่เป็นเพื่อนพี่อิทเอง”
“อ๊ะ มีแต่นายองที่เป็นห่วงเรา”
อิทธิชำเลืองมองโรส แต่โรสทำเฉย นายองยิ้มชอบใจ
“แต่อย่าเลย นายองพักเถอะ พี่ไหวสบายมาก”
“ไม่เป็นไรครับคุณอิทธิ ให้มันทำงานซะบ้าง เดี๋ยวจะสบายเกินตัว” พรานเมิงบอก
“งั้นตกลง นายองกับพี่”
โรสยิ้มให้อิทธิ อิทธิยิ้มตอบว่า ไม่มีปัญหา ไม่ต้องมีโรสก็ได้
“เรารอดตัวไปนะพรานโก๊ะ”
นพดลกระซิบ พรานโก๊ะยิ้มชอบใจ ซามูทำสัญญาณมือส่งให้พรานโก๊ะ
“เอ็งซิขี้เกียจ ไม่ต้องพูดมาก”
ทุกคนต่างขำกัน
“ถ้าหมดเรื่องแล้วผมขอตัว”
วีรกิจลุกแยกไปนอนที่ของตัวเอง ทุกคนต่างมองกัน ไม่อยากพูดอะไร เพราะยังเกรงใจกาญจนา
โรสเดินมาหารัตนากรซึ่งจัดตรวจอาวุธปืนอยู่ รัตนากรยิ้มให้
“ตกลงเจอรอยพวกมัน”
“อืม แต่เก่ามาก คุณอัศวินไม่อยากให้”
“ดีค่ะ”
โรสยิ้มให้แล้วเดินออกไป รัตนากรยิ้มมองตามพอใจที่โรสฉลาด ไม่เรื่องมาก ทันเกม
ตอนค่ำ รัตนากรเดินระวังกราดสายตารอบ เห็นทุกคนหลับกันตามที่ของตน เธอเดินผ่านมาตรงมุมถ้ำ ทันใดนั้นมีมือเข้ามาปิดปากทางด้านหลังแล้วดึงเข้าไปในมุมถ้ำ รัตนากรคว้ามือเตรียมทุ่ม
“พี่เอง”
“เจอพวกมันเหรอ”
“เปล่า พี่แค่คิดถึง”
รัตนากรยิ้ม อัศวินก้มหน้าจูบ ก่อนที่รัตนากรทันจะได้ตั้งตัว
มุมถ้ำ รัตนากรค่อยๆ โผล่มา มองเหมือนระวังภัย อดยิ้มไม่ได้ แล้วเดินตรวจออกไปอีกด้านหนึ่ง
อัศวินโผล่ออกมามองตามรัตนากรแล้วยิ้ม เดินออกไปอีกทางหนึ่ง ผ่านทางตรงที่กาญจนาใช้เป็นที่นอน ไม่ทันเห็นว่ากาญจาลอบมองแล้วลอบยิ้มอยู่ กาญจนาหันไปอีกทางเห็นชาติจัดสัมภาระอยู่ แปลกใจเมื่อเห็น
วีรกิจเดินเข้าไปหาชาติ กาญจนาสงสัย
“ผมแค่อยากจะมาขอโทษที่ก่อเรื่องไม่หยุด” วีรกิจบอก
ชาติไม่แน่ใจว่าวีรกิจจะมาไม้ไหน แต่ก็พยักหน้าให้
“แล้วก็ เอ่อ ขอบคุณที่ต่อสู้แทนผมทุกอย่าง”
“เอ่อ ยินดีครับ”
“ผมรู้ว่าคุณทำเพราะคุณกาญจนา”
“อย่าคิดมากครับ เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องดูแลทุกคนให้ปลอดภัย คุณกาญจนาไม่เกี่ยว ระวังคุณกาญจนาจะเสียหาย”
“ผมนี่พูดอะไรผิดหมด เอาเป็นว่าผมจะพยายามทำตัวใหม่ ไม่ก่อเรื่องนะครับ”
ชาติฝืนยิ้ม วีรกิจเดินออกไป ชาติมองตามสงสัย อดมองมาทางกาญจนาไม่ได้ พลันก็สบตากักาญจนาพอดี
วีรกิจเดินผ่านพรานโก๊ะกับนพดลซึ่งนั่งพิงสัมภาระมองอยู่
“พรานโก๊ะว่าไง”
“ไม่ดี ไม่ดี”
“เอาน่า คนเราปรับปรุงตัวได้”
ทั้งคู่มองวีรกิจซึ่งกลับไปนั่งที่ของตนห่างจากกาญจนา
“ไม่ดี ไม่ดี”
นพดลจ้องมอง คิดไม่ถูก
ชาติกับซามูยืนระวังอยู่ อิทธิกับนายองเดินเข้ามา
“มาแล้วครับ”
ซามูทำมือทำไม้แล้วเดินผ่าน อิทธิตบไหล่ซามูเบาๆ
“ฉันเข้าไปดูพวกมันมารอบหนึ่งเหตุการณ์ปรกติ" ชาติบอก
“ฉันจะเข้าไปดูอีกรอบ กันเหนียว”
“นายอง ฝากด้วยนะ ไอ้อิทธิมันชอบหลับยาม”
“เฮ้ แมน”
ชาติเดินออกไป
“เราจะเข้าไปดูพวกมันเหรอพี่อิท”
“พี่เข้าไปดู นายองอยู่ที่นี่”
นายองเหล่ อิทธิเอามือยีหัวแล้วเดินเข้าไป นายองมองตามฮึดฮัดหงุดหงิด....
โรสขยับตัวตื่นขึ้นมา เห็นนายองเดินไปเดินมาอยู่คนเดียว แล้วหยุดมองเข้าไปด้านใน โรสมองอย่างสงสัย ในที่สุด นายองตัดสินใจเดินตามอิทธิเข้าไป
“เดี๋ยว” โรสเรียกไว้
“หนูจะไปตามพี่อิท”
“พี่เข้าไปตามเอง”
“แต่ช่วงนี้เป็นหน้าที่ของนายอง นายองว่าเราเข้าไปด้วยกัน”
“เกิดเข้าไปกันหมด เกิดเรื่องขึ้นมา ไม่มีใครบอกพวกเรา”
นายองเหล่
“เอางี้ พี่เข้าไปก่อน อีกครึ่งชั่วโมง ถ้าพี่ยังไม่ออกมา นายองค่อยเข้าไปตาม”
“อืม”
“ครึ่งชั่วโมง”
“ก็ได้”
โรสยิ้มแล้วรีบเข้าไปด้านใน นายองมองตามหงุดหงิดอีก
อิทธิเพ่งมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบกริบ พวกชนเผ่ามีขนาดเตี้ยกว่าปรกติสามสี่คน เดินถือคบไฟนำหน้า ตามหลังด้วยพวกขนของสัมภาระแถวยาวมีกระจาดใส่ผลไม้ มีพวกถือคบไฟอีกหลายคน
อิทธิจ้องชนเผ่าแต่หูได้ยิน
“คุณโรส มาได้ไง”
โรสเข้ามาข้างๆ อิทธิ จ้องมองพวกมัน
“แบบนี้ต้องมีมากกว่า 50 คน”
“ผมว่ามีเป็นร้อย”
ทันใดนั้นทั้งสองคนก้มตัวหลบ เมื่อคนหนึ่งหันมาทางที่สองคนหลบอยู่ ต่างตวัดมีดขึ้นมาพร้อมกัน มันถือคบไฟเดินแยกมาคนเดียวที่ก้อนหินที่ทั้งสองหลบอยู่
อิทธิกับโรสต่างสบตาส่งสัญญาณกัน โรสทำท่าแทงมีดขึ้น แล้วชี้ที่อิทธิ พลางทำท่ามือคว้าดึงลงมา อิทธิเข้าใจพยักหน้ารับ มันเดินเข้ามาตรงโขดหินกราดสายตาเลยเข้าไป ยังไม่เห็นอิทธิกับโรสที่นอนตะแคงข้างกับพื้นหลังแนบชิดก้อนหิน แต่แล้วมันก็ตาเหลือก นายองยืนอยู่ด้านในประสานสายตากับมัน มันอ้าปากจะร้อง ทันใดนั้นโรสดีดตัวขึ้นเสียบคอ อิทธิดึงร่างมันข้ามมาอย่างรวดเร็วพร้อมทิ้งตัวราบ อิทธิคว้าคบไฟจิ้มดับ
โรสหันมาทำมือให้นายองหลบไป นายองได้สติหลบเข้าไปหลังมุมถ้ำ
พวกมันคนหนึ่งหันมามองเห็นแต่ก้อนหิน แล้วก็พากันเดินไป โรส อิทธิ นอนหลบลุ้นอยู่ นายองหลบมุมถ้ำ จนกระทั่งพวกมันไปจนหมด ทุกคนต่างมองกัน ต่างผ่อนลมหายใจโล่งอก
อิทธิ โรส และนายองออกมาจากถ้ำ โรสกับอิทธิเริ่มเล่าสิ่งที่ไปพบมา
“ดี ว่านายองโผล่ไปให้มันตกใจ ไม่เห็นเรา ทำให้เราจัดการมันได้อย่างรวดเร็ว” โรสบอก
“เก่งมากนายอง” อิทธิชม
นายองยิ้มไม่ค่อยออก อัศวิน รัตนากร ชาติ ซามู พรานเมิง ต่างล้อมกองไฟนั่งฟังอยู่
“ไม่น่าเชื่อ ปรกติมันจะทำเรื่องยุ่งตลอด”
นายองฝืนยิ้ม ทุกคนยิ้มขำ
“เราต้องหาทางหลีกเลี่ยงการปะทะให้ได้” อัศวินบอก
“ถ้าพวกมันมีเป็นร้อยอย่างที่ว่า กระสุนที่พวกเรามีจะพอมั้ยคะ”
รัตนากรถามอย่างกังวลทั้งหมดต่างมองหน้ากัน
“ถึงจะพอจัดการกับพวกมันได้หมด คงไม่เหลือกระสุนปืนให้เดินทางต่อแน่นอน” ชาติบอก
ทุกคนต่างมองหน้ากันกังวล
“ทุกคนพักกันก่อนดีกว่า เราค่อยวางแผนกันใหม่”
“นายอง มา” พรานเมิงเรียก
“หนูต้องอยู่ยามกับพี่อิทธิ”
“พี่รับช่วงต่อเอ็งจ้ะ ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว” โรสบอก
“ใช่ เอ็งมาเลย ไม่ต้องลวดลายมาก”
นายองเหล่พรานเมิง แล้วเดินออกไป ทุกคนยิ้ม
อ่านต่อหน้า 2
เนตรนาคราช ตอนที่ 13 (ต่อ)
ทุกคนนอนกันหมดแล้ว อิทธิ กับ โรส ยืนระวังเข้มตรงทางเข้าไปยังด้านใน อัศวินเดินเข้ามาพร้อมรัตนากรและชาติ
“เอาไงดีเพื่อน” อิทธิถามขึ้น
“พรุ่งนี้เช้าเราจะลุยออกไป” อัศวินบอก
ทุกคนต่างพยักหน้าตั้งใจฟัง
“เราจะปิดทางของพวกมันให้หมด เหลือแต่ทางออก”
“แผนดีมากเพื่อน ช่องทางแคบอย่างมาก ก็แค่เรียงได้แค่สองคนบุกมาพร้อมกันไม่ได้” อิทธิบอก
“คนที่รอปิดอยู่ข้างนอกเท่ากับว่าเลือกเป้าได้เลย” ชาติบอก
โรสกับรัตนากรต่างสบตากันแล้วยิ้มพอใจกับแผนการณ์
“แบบนี้พวกเราออกได้สบาย” ชาติบอก
“อิทธิกับคุณโรส คอยปิดทางที่หนึ่ง ผมกับคุณรัตน์จะปิดช่องทางที่สอง ชาติ นายนำทุกคนออกไปยังช่องทางที่พวกนั้นกลับเข้ามา ระวังตัวด้วยเพราะอาจมีพวกมันอยู่ข้างนอก”
“ฉันคิดว่ามี แต่หวังว่าคงไม่มากเท่ากับพวกที่อยู่ข้างใน”
“อ้าวเพื่อน หนักฉันดิ” อิทธิท้วง
“เกือบเช้าแล้ว นายกับโรสจะพักก็ได้นะ ฉันกับคุณรัตน์ตื่นแล้ว จะสำรวจอะไรนิดหน่อย”
“ได้ค่ะ”
โรสเดินออกไป อิทธิยังยืนช้าอยู่ เสียงโรสเรียกเข้ามา
“คุณอิทธิ”
อิทธิยิ้มให้รัตนากรกับอัศวินแล้วเดินออกไป อัศวินกับรัตนากรต่างขำ ทั้งสองหันมาสบตากัน อัศวินส่งสายตากุ๊กกิ๊ก
“เหลือแค่เราสองคน”
รัตนากรยิ้ม อัศวินดึงรัตนากรใกล้เข้ามา แต่แล้วอิทธิกลับเข้ามาอีก
“คือว่า”
อิทธิเห็นรัตนากรอยู่ในอ้อมแขนของอัศวิน รู้ว่าเข่ามาผิดเวลา
“ไว้คุยกันพรุ่งนี้ครับ”
อิทธิรีบออกไป รัตนากรทุบอัศวิน
“พี่อ้ะ คุณอิทธิเลย”
อัศวินก้มลงจูบก่อนที่รัตนากรจะพูดจบ
“ไอ้อิทธิพูดมาก พี่อัดมันเอง”
รัตนากรเหล่ เลยถูกจูบอีกครั้ง
เฮนรี่กับโจซิง ยืนมองพรานอองข่าน สำรวจรอบๆ บริเวณน้ำตก
“ท่าทางพรานของบอส จะหลงทางซะแล้ว”
“ใจเย็นน่า ตามคนโดยไม่มีแผนที่มันยากพออยู่แล้ว ผมเชื่อว่าเส้นทางไปเนตรนาคราชมันคงไม่ง่าย
เหมือนเดินช็อปปิ้ง บางทีอาจมีปริศนาซ่อนเร้นอยู่ เรียกว่า คิดไม่ออกก็หาไม่เจอ ไม่เคยดูหนังมั่งเหรอ”
“โอเค ตามสบาย ผมรอได้” โจซิงเซ็ง
อิทธิ กับ โรส อยู่ที่ช่องทางแยกช่องที่หนึ่ง ส่งสัญญาณให้อัศวินกับรัตนากร ซึ่งระวังอยู่ตรงช่องทางแยกช่องที่สอง
อัศวินกับรัตนากรรับแล้วหันไปส่งสัญญาณให้ชาติ ซึ่งนำขบวนที่เหลืออยู่ ชาติพยักหน้าแล้วเบี่ยงตัวให้พรานเมิงนำขบวนออกไปอย่างระมัดระวัง อิทธิกับโรส อัศวินกับรัตนากร ต่างมองลุ้น ทันใดนั้นเสียงปืนดังเปรี้ยงจากโรส พวกมันที่บุกเข้ามาสองคนคว่ำไป
“เร็วเข้า รีบไป” อัศวินบอก
ทุกคนรีบวิ่งออกไปตรงทางออกอย่างรวดเร็ว
“มากันแล้ว”
รัตนากรพูดพลางยิงเปรี้ยงๆ เข้าไปในช่องทางที่สองที่พวกมันพยายามบุกกันเข้ามา แต่ทางแคบเลยต้องเรียงสองเคลื่อนไหวช้าลง
“ประหยัดกระสุนด้วย นัดละหนึ่ง” อัศวินตะโกนสั่ง
พรานเมิงนำทุกคนวิ่งไปตามซอกถ้ำอย่างรวดเร็ว อิทธิ กับ โรส และ รัตนากร อัศวิน ต่างยิงพวกมันอย่างบรรจง นัดละคน มีการหลบหอกและลูกธนูของพวกมันที่พยายามบุกเข้ามา พวกมันเข้าไม่ติด สักครู่พวกมันก็หยุดได้แต่มอง ในที่สุดพวกมันก็ถอยหายไปหมด อิทธิ โรส ถอยจากช่องทางมาตรงช่องทางออก
“ไปกันก่อนเลย เร็วเข้า” อัศวินเร่ง
อิทธิกับโรสพุ่งเข้าไป
“ตาเราแล้ว”
รัตนากรเข้าไป อัศวินกราดปืนไปมาระวัง แล้วก็วิ่งเข้าไป
พรานเมิงนำทุกคนวิ่งมาจนเห็นแสงช่องทางออก
“ทางออกอยู่ข้างหน้า เร็วเข้า”
พรานเมิงวิ่งนำทุกคนออกไปอย่างรวดเร็ว พอถึงปากถ้ำ ก็ชะงัก เพราะพวกชนเผ่านับสิบ เงื้ออาวุธ ล้อมรออยู่แล้ว ไม่มีทางที่ทุกคนจะฝ่าออกไปได้ ชาติเครียด พวกชนเผ่าต่างจ้องทุกคนเขม็งพร้อมจู่โจม
“ทุกคนเฉยไว้ นิ่งที่สุด”
ชาติฉวยโอกาส สะบัดมือไปในถ้ำ มีดสั้นพุ่งเข้าไปชนก้อนหินกระเด้งปักลงที่พื้น ชาติกราดสายตามองกาญจนา พยักหน้าให้เป็นเชิงว่าอย่ากลัว พวกชนเผ่าเร่งต้อนทุกคนให้เดินออกไป
อิทธิวิ่งมาแต่แล้วหยุดลง เห็นมีดสั้นของชาติปักอยู่ที่พื้น โรสเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น”
อิทธิดึงมีดของชาติขึ้นมา
“มีดคุณชาติ พวกนั้นคงเจอเข้าเต็มๆ”
อัศวินกับรัตนากรเข้ามา
“มีอะไร”
อิทธิส่งมีดสั้นของชาติให้อัศวินดู รัตนากรมองอย่างสงสัย
“อะไรคะ”
“พวกเราถูกพวกมันจับไปแล้ว”
“ยัยกาญ”
รัตนากรพุ่งออกไปแต่อัศวินคว้าไว้
“เดี๋ยวรัตน์ เราคือทางรอดของทุกคน ใจเย็นๆ ไว้ก่อน”
รัตนากรนิ่งในที่สุด
“ระวัง” โรสร้องบอก
ทุกคนหลบเข้าแนบผนังถ้ำ มองไปข้างหน้า เห็นเงาพวกมันสะท้อนแสงด้านนอกแวบวับเข้ามา
“พวกมันไม่รู้ว่ายังมีเราอยู่ในนี้”
ทุกคนต่างแนบตัวเองติดผนังถ้ำ
“ถอยเข้าไปข้างในก่อน รัตน์”
รัตนากรสบตากับโรสต่างพยักหน้าให้กัน รัตนากรค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปด้านใน โรสตามติด
“อิท นาย”
อิทธิเคลื่อนกายจากผนังช้าๆ
“เดี๋ยว”
อิทธิหยุดนิ่งอยู่กับที่ เห็นเงาของพวกมันสองคนทำท่าทำทางจ้องเข้ามาอยู่หน้าถ้ำ แล้วพวกมันก็พ้นไป
“โก”
อิทธิหลบเข้าไปในที่สุด อัศวินกราดสายตามองไปข้างหน้า พอได้โอกาสก็พุ่งกลับเข้าไปด้านใน
“เราต้องรีบไปช่วยพวกนั้น” รัตนากรบอก
“ช้าอาจจะไม่ทันการ” โรสเห็นด้วย
“ถ้าพวกมันคิดจะทำร้ายพวกเราตั้งแต่แรก ป่านนี้คงได้ยินเสียงปืนสนั่นไปแล้ว”
“ชาติเห็นว่ายอมพวกมันจะทำให้ทุกคนปลอดภัยกว่า” อิทธิคาด
“เราต้องรอจนกว่าพวกมันคิดว่าไม่มีพวกเราแล้วเราค่อยลงมือ” อัศวินวางแผน
อัศวิน รัตนากร อิทธิ โรส อยู่ตรงช่องทางที่หนึ่งและที่สอง
“นี่เหรอแผนของนาย เข้าไปตามช่องทางนี้น่ะเหรอ” อิทธิถาม
“ไม่รู้ว่ายังมีศพของพวกมันที่ลุยกับพวกเราอยู่หรือเปล่า” รัตนากรตั้งข้อสังเกต
“ถ้ามีก็ยิ่งดี แสดงว่าพวกมันยังไม่มีเวลาที่จะสนใจ” อัศวินบอก
“หยี” โรสทำท่ารับไม่ได้
“อิทธิ นายกับคุณโรสช่องนี้ ฉันกับคุณรัตน์”
“รู้แล้วน่า”
อิทธิยิ้มล้ออัศวิน โรสเห็น มองอัศวินกับรัตนากรแล้วหันมามองอิทธิ
“จริงอ้ะ”
อิทธิยิ้มพยักหน้า
“อ๋อ รู้แล้ว ตอนติดอยู่ในถ้ำสองคนนี่เอง พี่สาวเรา”
รัตนากรยิ้ม
“ไปกันได้แล้วมั้ง”
โรสกับอิทธิยิ้มให้ แล้วเดินเข้าไปในทางไปช่องที่หนึ่ง อัศวินยิ้ม รัตนากรกระหน่ำตี
“เพราะพี่คนเดียว”
“โอยๆๆ”
อิทธิกับโรสโผล่มา
“อะแอ้ม เดี๋ยวพวกมันได้ยิน” โรสแซว
“โอเค”
รัตนากรพูดเบาๆ ลากยาวประชด แล้วรีบออกไป อัศวินเหล่อิทธิกับโรส แล้วตามรัตนากรเข้าไป อิทธิกับโรสต่างขำ
“คิวเรา”
โรสกับอิทธิเข้าไปด้านในอีกช่องหนึ่ง
รัตนากรเดินนำเข้ามา แต่แล้วก็ต้องหยุดเพราะศพของพวกมันยังอยู่เกลื่อนกลาด
“พวกมันยังไม่ได้ลงมาเก็บกวาด”
“รีบไปก่อนที่พวกมันจะมา”
ทั้งสองเดินก้าวข้ามศพของพวกมันไปจนพ้นมุมถ้ำ ก็เห็นตรงหน้าติดผนังถ้ำมีกองกระดูกอยู่เต็มไปหมด
“คงเป็นพวกที่ตามหาเนตรนาคราชก่อนหน้าเรา”
ทั้งสองรีบเดินเลี่ยงไป แต่แล้วก็เห็นซากสัมภาระกองใหญ่ อัศวินกับรัตนากรต่างมองหน้ากัน ทั้งสองเข้าไปใกล้
“คงเป็นสัมภาระของพวกกระดูกที่กองอยู่โน่น” รัตนากรบอก
“ยังไม่เห็นสัมภาระของพวกเรา ถือว่าเป็นเรื่องดี”
ทั้งสองพยายามเดินผ่าน รัตนากรเอาเท้าเขี่ยส่วนหนึ่งให้พ้นทาง แต่แล้วภายในกองสัมภาระนั้นมีทั้งปืนกระสุนเกลื่อนไปหมด
“คลังอาวุธ”
อัศวินดึงเป้อันหนึ่งขึ้นมาดู
“มีระเบิดด้วย พวกมันเอามาทิ้งไว้นี่”
ทั้งสองปลดเป้ลง ต่างเลือกกระสุนที่ใช้ได้ยัดใส่เป้อย่างรวดเร็ว
“มีคนบุกเข้ามาก่อนหน้าเรามากขนาดนี้เลยเหรอ” รัตนากรแปลกใจ
“เนตรนาคราช ใครๆ ก็อยากได้”
อัศวินพูดพลางเลือกแมกกาซีนกระสุนใส่เป้พลาง
“อย่าบอกนะว่าพวกมันใช้เส้นทางน้ำตกเข้ามาในถ้ำทุกวัน”
“พี่ว่าไม่หรอก ข้างบนก็อยู่ส่วนบน ข้างล่างก็อยู่ส่วนล่าง พวกเดียวกัน แต่แบบว่าแบ่งหน้าที่กัน”ทั้งสองยัดกระสุนใส่เป้จนเต็ม
“พร้อม”
“พร้อมค่ะ”
ทั้งสองต่างลุกขึ้นพากันออกไป
อ่านต่อหน้า 3
เนตรนาคราช ตอนที่ 13 (ต่อ)
อัศวินกับรัตนากรเดินออกมาอย่างระมัดระวังจนถึงทางออก ทั้งสองค่อยๆ โผล่ออกไปดู ถึงกับตื่นเต้น เพราะทุกคนถูกพวกมันจับมัดอยู่ตรงลานเล็กๆ ติดกับเสาที่ปักเรียงกันไว้หลายต้น
เป้และสัมภาระของทุกคนยังกองอยู่ใกล้ๆ พวกมันนับสิบ ยืนอยู่ตรงหน้าของทุกคน และยังมียืนกระจัดกระจายตามจุดต่างๆ รอบๆ อีกจำนวนมาก ทั้งสองรีบหมอบหลังก้อนหินอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งมาผ่านหัวของทั้งสองไปปักด้านหลังของผนังถ้ำ
“คุณโรส”
ทั้งสองมองไปเห็นอิทธิกับโรสหลบอยู่ตรงก้อนหินหน้าทางออกอีกทางหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายต่างส่งสัญญาณมือกัน
“เราต้องก่อกวนให้พวกมันสนใจเรา อิทธิกับคุณโรสจะลงไปช่วยพวกเราทุกคน”
“โห ยังกะรู้ว่าเราได้กระสุนมาเพียบ”
อัศวินส่งสัญณานกลับไปยังอิทธิ
“ไอ้อัศวินบอกว่ามันเจอกระสุนเพียบรอให้พวกเราไปขน”
“ถ้าไม่ถูกพวกมันเชือดซะก่อน”
“ทางโน้นพร้อมแล้ว”
อิทธิส่งสัญญาณมือไป อัศวินพยักหน้ารับ
“ทางโน้นพร้อม เรารอคุณโรสก่อน”
“รอ”
“คุณโรสจะยิงลูกธนูไปปักที่หลักตรงกับมือของนายชาติ กับ ซามู”
“สุดยอด”
“ครับ ตอนบุกลงไปจะได้มีชาติกับซามูช่วยอีกแรงหนึ่ง”
รัตนากรกระชากปืนขึ้นมาขยับลูกเลื่อนพร้อม
ทุกคนถูกมัดมือไพล่หลังติดกับเสาไม้ด้วยเถาวัลย์ที่ถักเป็นเชือก ชาติกราดสายตามองพวกมัน ที่ยืนถือดาบหอกธนูอยู่ตรงหน้า
โรสวิ่งหลบไปตามซอกหินอ้อมไปทางด้านหลังของเสาที่ทุกคนถูกมัดอยู่ ยกหน้าไม้ขึ้นเล็งไปที่ข้อมือของชาติที่ถูกมัดอยู่
ในขณะที่อิทธิวิ่งอ้อมหลบเข้าไปจนใกล้พวกที่ถูกมัด เตรียมพร้อม หันมามองโรสแล้วยกมือเป็น
เชิงพร้อมแล้วหันไปส่งสัญญาณให้อัศวินเป็นเชิงพร้อม
โรสปล่อยลูกธนูออกไปที่เสา เฉียดข้อมือของชาติ ชาติสะดุ้งเล็กน้อย ข้อมือหมุนมาคว้าธนูเอาไว้
ค่อยดึงออกจากเสา มองรอบๆ ในที่สุดเห็นอัศวินโบกมือให้ ชาติพยักหน้า
โรสยิงอีกดอกหนึ่งปักเข้าที่เสาของซามูใกล้ข้อมือเช่นเดียวกัน ซามูหมุนมือมาดึงออกอย่างรวดเร็ว ชาติหันมาบอกทุกคน
“พวกเรามาช่วยแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อม หมายตาหาซอกหิน เข้าไปหลบแล้วไม่ต้องออกมา”
“หา แล้วเกิด เกิดพวกมันเห็น”
“คุณวี คุณวี” กาญจนาเรียก
วีรกิจหันมาหน้าซีดหวาดกลัว
“คุณวีไปกับกาญ โอเค”
วีรกิจค่อยสงบลง
“ซามูประกบคุณกาญ”
ชาติสั่ง ซามูพยักหน้ารับ พรานเมิงมองนายอง ต่างพยักหน้าให้กัน ต่างโบ้ยหน้าไปยังผนังถ้ำด้านหนึ่ง นพดลกับพรานโก๊ะต่างพยักหน้าให้เช่นกัน
ทันใดนั้น เสียงพวกมันต่างโห่กันขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง ต่างเงื้อดาบเงื้อหอกส่งเสียงอื้ออึง หัว
หน้าพวกมันก้าวออกมาจากถ้ำช่องหนึ่ง พร้อมองครักษ์ของสองคน หัวหน้าถือดาบใหญ่ออกมาเล่มหนึ่ง ตรงด้ามจับเหนือขึ้นมา แกะสลักเป็นหัวของพญานาค กาญจนาจ้องอย่างตื่นเต้น
“เขี้ยวพญานาค ที่แท้พวกมันคือเขี้ยวพญานาค”
หัวหน้าเดินเข้ามาตรงหน้าทุกคน จ้อง ชาติจ้องสบตา หัวหน้ามองชาติอย่างไม่พอใจที่กล้าสบตา มันร้องขู่พร้อมเงื้อดาบขึ้นขยับไปมา ชี้ที่ชาติ องครักษ์คนหนึ่งพุ่งออกมา พร้อมเงื้อดาบ
ทันใดนั้นเสียงปืนดังสนั่นเปรี้ยง องครักษ์ทรุดตายไป แล้วก็ตามมาด้วยเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว พวกมันร้องแตกตื่น มองมายังอัศวินกับรัตนากรที่ระดมยิงขู่พวกมันมากกว่าที่จะทำร้ายพวกมัน
หัวหน้าใช้ดาบเขี้ยวนาคราชชี้มายังอัศวินกับรัตนากร พวกมันต่างบุกเข้าหาอัศวินกับรัตนากร
“ยิงให้แค่บาดเจ็บก็พอ” อัศวินบอก
รัตนากรกดเปรี้ยง พวกมันหมุนทรุดไปหนึ่ง โดนเข้าที่ขาเต็มๆ จากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันยิงอย่างมันมือ
อิทธิเข้าไปหาทุกคนที่ถูกมัด แต่มีพวกมันสองสามคนเห็นเข้าสกัด อิทธิเตะต่อย พวกมันกระเด็นไป
อีกคนหนึ่งกระเด็นไปเพราะเจอลูกดอกโรสยิงมา โรสวางหน้าไม้แล้วตวัดปืนขึ้นมายิง สกัดพวกที่เข้าใกล้คนที่ถูกมัด อิทธิฝ่าพวกมันไปตัดเถาวัลย์ให้ทุกคนจนได้ ในขณะที่ชาติกับซามูสะบัดมือหลุดออกจากการใช้คมลูกดอกตัดเถาวัลย์จนขาด
“ทุกคนหาที่หลบก่อนเร็วเข้า” ชาติตะโกนบอก
อิทธิโยนปืนให้ชาติรับไว้ ชาติโยนต่อให้ซามู
“คุณกาญ”
ซามูพยักหน้าหันไปยิงคนหนึ่งที่ไหล่ ถีบอีกคนหนึ่งกระเด็นไป แล้ววิ่งตามกาญจนากับวีรกิจไป
สามสี่คนลุยเข้ามาหาชาติ ชาติต่อสู้ด้วยหมัด พวกมันกระจายทรุดไป ชาติเข้าไปที่กองสัมภาระ คว้าเป้แล้วกระชากปืนออกมาช่วยยิงกราดใส่พวกมัน
หัวหน้าแกว่งดาบเขี้ยวพญานาค บัญชาการสั่งลูกน้องมันให้บุกตลุยเข้าหาทุกคน
“จัดการกับหัวหน้ามันให้ได้” อัศวินตะโกนบอก
รัตนากรเห็นหัวหน้าตวัดปืนจะยิง แต่พวกมันมาบังไว้พอดี เปรี้ยงถูกพวกมันกระเด็นไป หัวหน้าจ้องรัตนากรเขม็ง ต่างสบตากัน มันชี้แล้วแกว่งดาบเขี้ยวเนตรนาคราช รัตนากรยิ้มตวัดปืนเล็ง แต่แล้ว
สมุนของมันก็พรวดเข้ามาบังมันไว้ หัวหน้าร้องลั่น มือที่ถือดาบเขี้ยวพญานาคถูกลูกดอกธนูของโรสปัก โรสยกนิ้วโป้งให้รัตนากร รัตนากรยิ้มยกตอบ แต่แล้วเงาวูบเข้ามาสองสามเงา โรสหลบหมุนตัวฟาดมันด้วยหน้าไม้ อีกมือหนึ่งตวัดปืนยิงเปรี้ยงมันกระเด็น
สมุนของมันต่างล้อมพาหัวหน้าหลบเข้าไปในซอกถ้ำ สักครู่พวกมันก็ถอยออกไปจนหมด ชาติ กับ โรส อิทธิ เข้ามารวมกลุ่มกันกราดปืนไปมาระวัง
“ทุกคนออกมาได้ครับ รีบเก็บสัมภาระเร็วที่สุด” ชาติบอก
ทุกคนต่างรีบไปที่สัมภาระ ชาติ โบกมือให้ รัตนากร กับ อัศวิน
“ทุกคนมาทางนี้ เร็วเข้า”
อัศวินร้องเรียก ทุกคนวิ่งไปหาอัศวินกับรัตนากรซึ่งรออยู่
ตรงลานเล็กชัยภูมิเหมาะสมแห่งหนึ่ง ทุกคนต่างล้อมวงตรวจตราสัมภาระของตน
“เรามีลูกปืนพอใช้ไปได้อีกระยะหนึ่ง อภินันทนาการจากพวกมัน” อิทธิบอก
“ที่สำคัญเราพบจุดที่สอง คือเขี้ยวพญานาค พวกมันคือเขี้ยวพญานาค ที่เหลือก็คือต้องผ่าน
พวกมันไปให้ได้” กาญจนาบอก
“เรามาถูกทางแล้ว” อัศวินบอกอย่างตื่นเต้น
ทุกคนต่างมองหน้ากันยิ้มดีใจ โรสสบตากับอิทธิ ต่างมองไปที่อัศวินกับรัตนากร ต่างขำกัน
พรานเมิงโอบนายองต่างยิ้มให้กัน กาญจนายิ้มตื่นเต้นดีใจ หันไปยิ้มกับชาติ วีรกิจฝืนยิ้มไม่พอใจ นพดลตบหลังตบไหล่พรานโก๊ะที่รอดมาได้ อัศวินกับรัตนากรมองทุกคนที่ตื่นเต้นดีใจ แล้วเห็นโรสกับ
อิทธิจ้องมองทั้งสองแล้วหัวเราะคิกคักกัน รัตนากรยิ้ม ทุบไหล่อัศวินก่อนจะเดินออกไป โรสกับอิทธิยิ่งขำ อัศวินเหล่ อิทธิยกกำปั้นให้ ทุกคนต่างดีใจทักทายตื่นเต้นกันไม่มีใครสังเกต
ชาติมองรอบๆ อัศวินเดินเข้ามาหา
“เป็นไงบ้าง”
“ยังไม่มีวี่แววพวกมัน แต่เราควรจะรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
“ได้ ขอสิบห้านาที ให้กำลังใจทุกคนกลับมาก่อน”
ชาติยิ้มพยักหน้า
“ขอบใจเพื่อน นายตัดสินใจได้ดีที่ยอมให้พวกมันจับไป ไม่ยังงั้นต้องมีการสูญเสียแน่”
“นายติดฉันมื้อใหญ่”
ทั้งสองต่างยิ้มให้กัน
พรานอองข่านตรวจรอบน้ำตกอย่างละเอียด จ้องมองลงไปยังน้ำตกเบื้องล่าง แต่ก็ไม่พบอะไร เฮนรี่กับพวกโจซิง อังโซะ และทีมงานนั่งพักมองอยู่ห่างออกไป
“หวังว่าพรานคงหาเจอก่อนที่เราจะถูกไอ้พวกชนเผ่าเล่นงานซะก่อน” โจซิงเปรย
“ของแบบนี้เขาห้ามพูดกัน รู้ไว้ด้วย” เฮนรี่ปราม
ทันใดนั้นลูกธนูพุ่งเข้ามาหลายสิบดอก ดอกหนึ่งปักเข้าที่หน้าอกของทีมงาน ร้องลั่นทรุดลง
“ทุกคนยิง”
โจซิงกับอังโซะกราดกระสุนออกไปดังสนั่น เฮนรี่ม้วนตัวหลบเข้าหลังต้นไม้อย่างรวดเร็ว สักครู่ ชนเผ่านับสิบก็วิ่งออกมาจากแนวป่าบุกเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
“สกัดไว้อย่าให้พวกมันเข้ามาได้”
โจซิงกับอังโซะ ออกไปพร้อมกราดยิง แต่พวกชนเผ่าบุกเข้าประชิดตัว เกิดการสู้กัน เฮนรี่หลบอยู่หลังตั้นไม้ ยิงสกัดใส่พวกชนเผ่า โจซิง อังโซะ และทีมงาน ต่างถอยมารวมกัน พรานอองข่าน ใช้มีดเดินป่า ฟันสกัดพวกมันออกไป แล้วเข้ามารวมกลุ่มกับทุกคน พวกชนเผ่าล้อมไว้
“ผมบอกคุณแล้ว ว่าห้ามพูด” เฮนรี่หันมาต่อว่าโจซิง
โจซิง หน้าเคร่งเครียด กราดปืนไปมา เช่นเดียวกับอังโซะและทีมงานที่เหลือ พวกชนเผ่าขยับดาบ ขยับหอก ง้างธนู ล้อมทุกคน ทันใดนั้นเสียงปืนดังสนั่นขึ้นมาทางด้านหลังของพวกชนเผ่า พวกชนเผ่าต่าง
แตกตื่นหันไปมา
“จัดการพวกมัน” โจซิงตะโกน
โจซิง อังโซะ ทีมงานต่างฉวยโอกาสยิงซ้ำ พวกชนเผ่าแตกตื่นแยกย้ายกันหนีเข้าป่าไปจนหมดในที่สุด
“มีพวกไหนเข้ามาถึงนี่อีก”
มีการเคลื่อนไหวออกมาจากแนวป่า โจซิง อังโซะ ทีมงานที่เหลือต่างกราดปืนระวัง เคนปรากฏตัวขึ้น
“ฮัลโหล มิสเตอร์ เฮนรี่”
เคนหัวเราะก้องอย่างสะใจ
“เคน”
เฮนรี่ยิ่งแปลกใจ เมื่อเห็นหลินยืนเคียงข้างเคน พร้อม ปิง กับ หยก
“พวกมังกรทอง”
ทั้งหมดนั่งคุยกัน เคนบอกกับพวกของเฮนรี่
“อย่าคิดมากน่า ทุกคนล้วนร่วมเดินทางกันได้ น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ปรองดอง ปรองดอง”
เฮนรี่กับโจซิงสบตากัน
“ถ้าผมไม่โผล่มา พวกคุณก็อาจจะถูกพวกชนเผ่าจับไปเผาหมดแล้วก็ได้” เคนบอก
หลิน ปิง หยก จ้องเฮนรี่ เฮนรี่ต่างจ้องหลิน ไม่มีใครพูดหรือตอบเคน
“พวกคุณอาจจะคิดว่า ถ้าได้เนตรนาคราชมาแล้วจะแบ่งกันยังไง ผมจะบอกให้ ตอนนี้ผมมีคนมากที่สุด คุณหลิน”
เคนหันไปทางหลิน ซึ่ง มีหลิน ปิง หยก และนักฆ่าอีกสามคน
“เหลืออยู่แค่นี้ มิสเตอร์ เฮนรี่”
เคนหันไปทางเฮนรี่ซึ่งเหลือ เฮนรี่ โจซิง อังโซะ ทีมงานอีก 2 คน เคนมองพรานอองข่าน
“ข้ามานำทางอย่างเดียว ถ้าพวกเอ็ง ทำให้ข้าเดือดร้อน ข้าก็กลับ”
เคนยิ้มยักไหล่
“เห็นมะ ถ้าต่างคนต่างเดินทาง อาจจะตายกันอยู่นี่”
“ผมเรียกกำลังเสริมได้”
เคนหัวเราะชอบใจ
“คุณคงไม่ได้สังเกตมั้ง ว่าผ่านเข้าดินแดนวิญญาณมาแล้ว ระบบสื่อสารไม่ทำงาน เขาถึงใช้พลุส่งสัญญาณกันไง”
เคนหัวเราะชอบใจ เฮนรี่มองทีมงาน ทีมงานหยิบโทรศัพท์ดาวเทียมขึ้นมา กดดูสองสามครั้ง แล้วส่ายหน้า
“เอาไว้ขากลับดีกว่า เอางี้ เดินทางร่วมกันไปก่อน พอเจอเนตรนาคราชแล้วค่อยฆ่ากัน”
เฮนรี่ กับ หลิน ต่างจ้องหน้ากัน
อ่านต่อหน้า 4
เนตรนาคราช ตอนที่ 13 (ต่อ)
พรานเมิงนำทุกคนมาถึงลานเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชาติเดินเข้ามาหา
“เราควรพักที่นี่ครับ เหมาะแก่การป้องกันตั้งรับถ้าไอ้พวกนั้นบุกมาอีก”
ชาติพยักหน้ารับแล้วเดินย้อนไปยังทุกคน
“เราจะพักที่นี่ คืนนี้”
ทุกคนต่างพยักหน้ารับแยกย้ายกันไป นพดลกับพรานโก๊ะ รัตนากร กาญจนา โรส เดินไปรวมกลุ่มใกล้กัน วีรกิจเข้ามาข้างๆ ยังคงเกาะอยู่กับกาญจนา
“คุณวีอยู่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
วีรกิจพยักหน้ารับ สีหน้าจ๋อยลงกว่าเดิมเดินผ่านไป แล้วโยนเป้ของตนลงกับพื้น นั่งลง กาญจนาหันมามองรัตนากรกับโรสถอนใจ
“คุณวีรกิจไม่มีใคร”
โรสยิ้มโยนเป้ลงกับพื้นแล้วนั่งลง
“ดูฤทธิ์น้อยลงแล้วนี่”
รัตนากรโยนเป้ลงกับพื้น
“กาญต้องขอยืมแผนที่หน่อยค่ะ จะตรวจดูเส้นทางเดินทางอีกครั้ง”
รัตนากรปลดกระบอกแผนที่ที่สะพายออกส่งให้ กาญจนารับมาสะพายเข้ากับตัว
“เราเดินทางพบจุดหมายที่แผนที่บอกไว้ กาญทำได้ดี”
“เพราะได้พี่รัตน์ช่วย”
“พี่จะไปคุยกับพี่อัศวินซะหน่อย ว่าจะเอายังไงกันคืนนี้”
กาญจนายิ้ม แล้วเข้ามากอดกระซิบ
“ยินดีด้วยค่ะ เรื่องพี่อัศวิน กาญลุ้นมานานแล้ว”
รัตนากรตาโตเขิน กาญจนายิ้มแล้วเดินออกไป รัตนากรถอนใจเขิน ทรุดตัวนั่งลง โรสเข้ามา
“ถ้ากุ๊กกิ๊กกันไม่ระวัง รู้กันทั้งขบวนแน่”
รัตนากรแกล้งเหล่ โรสยิ้มขำ
“ไม่มีใครว่าอะไรพี่รัตน์หรอกน่า มีแต่จะปลื้ม”
“แท็งคิว เวรี่มัช” รัตนากรประชด
“แต่ความจริง ใครๆ ก็เดาออกว่าคุณอัศวินกับพี่ต้องเป็นคู่จิ้นกัน”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“พี่รัตน์น่ะไม่เท่าไหร่หรอก นานๆ ครั้ง คุณอัศวินดิตาเยิ้มทุกครั้งที่มองพี่รัตน์”
“แล้วคุณอิทธิล่ะตาเยิ้มหรือเปล่าตอนมองเราน่ะ”
“ก็พอเห็น”
“แล้ว”
“โรสเอาแต่ใจตัวเอ็ง แล้วก็กระด้างเกินไป”
“แล้วก็เก่งเกินไป ผู้ชายไม่เก่งกว่าอย่าหวัง”
โรสยิ้มยักไหล่ ไม่ตอบ เปิดเป้เอาชิ้นส่วนหน้าไม้ออกมาวางเรียง ทำความสะอาด รัตนากรยิ้ม
ชาติเดินมาหาอิทธิกับอัศวิน
“ฉันจะออกไปหาเสบียง”
“เอาไอ้อิทธิไปด้วย ฉันยังไม่ไว้ใจไอ้พวกชนเผ่านั่น อาจจะโผล่มาเมื่อไหร่ก็ได้”
“ได้ แต่นายไม่กลัวว่าฉันจะบอกไอ้ชาติเหรอ”
“บอกเรื่องอะไร” ชาติสนใจ
อิทธิทำหน้าขู่อัศวิน อัศวินจ้องเหล่
“อ้อ เรื่องฉันกับคุณรัตน์”
ชาติแกล้งทำตาโต ส่ายหน้า ส่งเสียงจึ๊กจั๊ก
“ไปเลย รีบไปเลย ทุกคนหิวกันแล้ว” อัศวินไล่
นายองเดินเข้ามา ทุกคนหันมามอง
“พ่อให้มาถามว่า จะให้นายองไปหาเสบียงหรือเปล่า”
“ไม่ต้องจ้ะ พี่ชาติกับพี่อิทธิ จัดการแล้ว”
“สงสัยจะไม่ได้กินซะละมั้ง”
นายองเดินออกไป อัศวินขำ
“นายสองคนล่าไม่ได้ อายเด็กนะเพื่อน”
“พูดมาก เดี๋ยวฉันบอกทุกคนนะเพื่อน” อิทธิขู่
“นายไม่กลัวคุณรัตน์ยิงปากก็ตามใจ ฉันลืมบอกไปว่า คุณรัตน์แม่นแค่ไหน”
“ฉันว่าเราไปกันดีกว่าว่ะ”
ชาติลากอิทธิออกไป อัศวินยิ้มขำ
กาญจนานั่งดูแผนที่แล้วจดบันทึกลงสมุดเอาไว้ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ บรรจงเอาแผนที่ม้วนอย่างระมัดระวัง เก็บใส่กระบอกไว้อย่างเดิมจนเรียบร้อย วีรกิจเดินเข้ามานั่งด้วย
“คุณวีรกิจ มีอะไรเหรอคะ”
“คือ ผมอยากจะขอดูกระบอกแผนที่หน่อยได้มั้ยครับ ไม่เคยเห็นใกล้ๆ ซะที”
“ได้ซิคะ แต่ไม่อยากให้เปิดออก”
“อ๋อ ไม่หรอกครับ แค่ดูกระบอกเท่านั้นเอง”
กาญจนาหยิบส่งให้ วีรกิจรับมา แล้วหมุนไปหมุนมาดูอย่างสนใจ รัตนากรซึ่งนั่งอยู่ห่างออกไป จ้องอย่างสนใจเมื่อเห็นวีรกิจจับกระบอกแผนที่ดูอย่างใกล้ชิด สักครู่วีรกิจส่งคืนให้กาญจนา แล้วก็ลุกออกไป กาญจนาเอากระบอกแผนที่วางไว้อย่างเดิม
รัตนากรมองวีรกิจแปลกใจ
ตอนค่ำ มีไม้เสียบไก่ป่าวางอยู่ เพราะทุกคนกินไก่ป่ากันจนหมดแล้ว
“พี่อัศวินคิดว่าพวกไอ้เฮนรี่จะเจอทางเข้าปากพญานาคเหมือนกับเรามั้ย” รัตนากรถาม
“ว่าไงพรานเมิง”
“พรานอองข่านเป็นพรานเก่า มีวิชามีฝีมือ ผมเชื่อว่าช้าหรือเร็วจะต้องหาพบครับ”
“ขอให้โดนพวกชนเผ่าเชือดให้เข็ด”
“อ้าว เรื่องอะไรเอ็งไปแช่งเขาล่ะ”
“ก็พวกนั้นเป็นคนไม่ดี จะมาเล่นงานเรานี่พ่อ”
ทุกคนยิ้มขำ
“ความจริงก็ดีถ้าพวกนั้นเจอทางเข้ามา พวกชนเผ่าจะได้เลิกยุ่งกับพวกเรา” ชาติบอก
“ตอนนี้ยังไม่น่าไว้ใจ ตอนผมกับชาติไปหาเสบียง ก็เห็นพวกมันระดมพลกันวุ่นวาย”
“มิน่าหามาได้นิดเดียว เกือบไม่พอ”
ทุกคนขำ อิทธิเหล่นายอง แกล้งยกกำปั้น
“งั้นเราก็ควรจะรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” รัตนากรบอก
“จุดหมายที่สามคืออะไรนะยัยกาญ” อัศวินถาม
“ตามแผนที่บันทึกไว้ คนทำแผนที่เรียกว่าไฟพญานาค”
“โห ฟังแล้วไม่ค่อยหนุกเท่าไหร่” นายองเปรย
“คุณกาญคิดว่าน่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ยังไงครับ” ชาติถาม
“บอกตามตรงว่าคิดไม่ออกเลยค่ะ ถ้าจะให้เดาเราต้องเจออะไรที่เกี่ยวกับไฟนี่แหละค่ะ”
“คุณวีรกิจพอจะมีไอเดียมั้ยครับ”
ทุกคนมองชาติต่างทำสีหน้าปรกติ ชาติพยายามสร้างบรรยากาศให้กาญจนาสบายใจ .วีรกิจคาดไม่ถึงว่าชาติจะพูดกับตน “ผมหรือครับ”
“ครับเผื่อจะมีไอเดีย”
“คือ ผมก็คิดเหมือนคุณกาญน่ะครับ จะเพิ่มอีกหน่อยก็คือ จำนวนมากมหาศาล”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ความจริง ความคิดของวีรกิจมีเหตุผล วีรกิจดูเหมือนผ่อนคลายคล้ายจะทำตัวดีขึ้น
“เข้าเค้าเลยค่ะคุณวีรกิจ”
กาญจนาให้กำลังใจ วีรกิจยิ้ม
“ขอบคุณครับ”
“แบบนี้ไม่หนุกจริงๆ อย่างนายองว่า”
ทุกคนยิ้ม กาญจนามองวีรกิจ ค่อยสบายใจขึ้น
สมุนของเคนเดินไปมา เสียงเคนหัวเราะ ดังแว่วๆ โจซิงมองอยู่ หันมาพูดกับเฮนรี่
“บอส เสี่ยงเกินไปที่ไว้ใจคนพวกนี้”
“นายเคนไม่เท่าไหร่หรอก แค่หิวเงิน แต่พวกมังกรทอง มันเคยพยายามฆ่าผมมาแล้ว จับตาดูให้ดี”
โจซิงมองไปยังฝั่งของเคน สีหน้าเยือกเย็น
ชาติเดินไปมากราดสายตารอบ สักครู่ก็มีเสียงผิวปาก ส่งสัญญาณเป็นระยะ อัศวินเดินเข้ามาถาม
“ไอ้ซามูมันว่ายังไง”
“พวกชนเผ่าเคลื่อนไหวตลอด ดูเหมือนว่าคนของมันจะกระจายกำลังออกไปรอบนอก”
“นายคิดว่าไง”
“ฉันคิดว่าพวกมันคงไม่ปล่อยให้พวกเราออกไปได้ง่ายๆ”
เสียงซามูส่งสัญญานเข้ามาอีก
“ทางที่ดีควรให้ทุกคนนอนกอดปืนจะดีกว่า”
อัศวินถอนใจ
“โอเคเพื่อน แล้วฉันจะมาเปลี่ยนกับนาย”
ชาติพยักหน้า อัศวินเดินออกไป
อัศวินเดินมาหาโรสกับรัตนากร สองสาวขยับตัวแล้วต่างก็ขยับมือออกมา ปืนอยู่ในมือทั้งสองคน รัตนากรเอาปลายปากกระบอกแกว่งเป็นเชิงว่าให้ผ่านไปได้แล้ว อัศวินยิ้ม เดินออกไป โรสกับรัตนากรนอนนิ่ง
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อัศวินเดินหากาญจนา กาญจนาหลับกอดสมุดบันทึกการเดินทางอยู่ ปืนยังอยู่ที่เข็มขัดซึ่งคาดอยู่กับเอว ไม่ระวัง อัศวินมองแล้วหันไปมองชาติซึ่งมองมาพอดี ชาติส่งสัญญาณว่าเขาดูกาญจนาอยู่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อัศวินยิ้มพยักหน้า แล้วเดินผ่านไปถึงวีรกิจที่พักถัดมาจากกาญจนา เห็นวีรกิจหลับ เขาทำท่าว่าจะปลุก แต่แล้วก็เดินผ่านไป วีรกิจก็ลืมตาขึ้นมา ปืนในมือกระชับมั่น ด้วยความกลัว
อัศวินเดินผ่านมายังพรานเมิงกับนายอง พรานเมิงขยับดาบในมือ แต่นายองหลับ อัศวินยิ้มแล้วเดินผ่านมาถึงนพดลกับพรานโก๊ะ เอาเท้าเขี่ยเท้านพดลเบาๆ นพดลลืมตาขึ้นมา แล้วพรวดลุกนั่ง
“มีอะไร”
“ยัง แต่อาจจะ ปืนพร้อม”
นพดลพยักหน้า ล้วงมือไปใกล้เป้ หยิบปืนให้ดู อัศวินยิ้ม แล้วโบ้ยหน้าไปทางพรานโก๊ะ นพดลยิ้มพยักหน้า
“ฉันดูเอง”
อัศวินพยักหน้าแล้วเดินผ่านออกไป จนมาถึงอิทธิ เขาลงนั่งในที่นอนของตัวเอง
“ไปหาสาวมาเหรอ”
“อย่าอิจฉา”
“ท่าทางพวกมันไม่ปล่อยพวกเราแน่”
“ดีว่าเราได้กระสุนกับระเบิดมาเพิ่ม”
“ฉันว่านายกับฉันไปเอามาอีกดีกว่า”
“อืม น่าสน”
“จะได้ดูด้วยว่าพวกมันทำอะไรอยู่ เผลอๆ มีลูกฟลุค”
“นายกะจะเด็ดหัวหน้าของมัน”
“แค่เผื่อฟลุค โบราณว่า หัวดับ หางเดี้ยง”
อัศวินขำ “ฉันไม่เคยได้ยิน”
“อย่างน้อยฉันก็ไม่พูดผิดพูดถูกเหมือนเด็กสมัยนี้ จบมหาลัยซะเปล่า พูดมาได้ เคียด เคียด เคีย เคีย”
“แกไปฟังเด็กๆ พูดตอนไหนวะ”
“บังเอิญเปิดทีวีฟังข่าว เจอรายการมั่ง เจอละครมั่ง ผู้จัด ผู้กำกับซื่อบื้อ ปล่อยให้หลุดออกมาได้ ทั้งประเทศไม่สน”
“นายเลิกบ่นเมื่อไหร่ เราก็ลุยได้เลย”
อิทธิรีบเอามือปิดปากตัวเองทำมือเป็นรูดซิบปาก อัศวินขำ คว้าเป้ขึ้นมาจะรื้อเอากระสุนระเบิดออกมากอง อิทธิรีบทำตาม
“เดี๋ยว ไม่ต้องเอาเป้ไปก็ได้”
“จริงว่ะ ข้างในมีเป้เพียบ”
อัศวินรีบออกไป อิทธิตาม
อ่านต่อตอนที่ 14