xs
xsm
sm
md
lg

สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 17

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 17 

ปทุมวดีและประภาพรรณเดินมาถึงหน้าห้องวีไอพี.ปทุมวดีฮึดฮัด มองลูกสะใภ้อย่างไม่สบอารมณ์
 
“หวังว่าสองหมื่นที่เสียให้นังเด็กนั่นจะคุ้มค่านะยะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ มิวรับรองว่าคุณแม่สามีได้จะได้คืนมาหลายเท่าเลยแหละ”
ประภาพรรณเปิดประตูห้องให้ปทุมวดีเดินเข้าไป ปทุมวดีมองค้อน แล้วเดินเข้าไปเล่นต่อ โดยที่มีประภาพรรณคอยดูอยู่ด้วย ประภาพรรณไปช่วยดูพวกปทุมวดีเล่นไพ่ สายตาจ้องเจ้ามือเป๋ง จนเจ้ามืออึดอัด เจ้ามือหันไปส่งสายตาขอให้ประดิษฐ์ช่วย ประดิษฐ์หน้าเครียดไม่รู้จะทำอย่างไร เจ็บใจมาก พวกปทุมวดีเปิดไพ่ออกมา สูงกว่าเจ้ามือ ต่างกรีดร้องหัวเราะร่าช่วยกันโกยชิพ มีความสุขมาก
เมื่อพวกปทุมวดีเล่นไพ่เสร็จ เดินมารับเงินจากประดิษฐ์ไปคนละก้อนใหญ่ ประดิษฐ์มองอย่างเครียดๆ ยิ่งเห็นพวกปทุมวดียิ้ม หัวเราะ ก็ยิ่งเจ็บใจ
“แหม เล่นไพ่วันนี้สนุกจังเลยค่ะ”
“ก็แหงสิคะคุณน้อง นี่พี่เพิ่งเคยได้กำไรเยอะขนาดนี้เลยนะคะเนี่ย”
“ดิฉันเองก็เหมือนกันค่ะคุณหญิง เล่นมาสามปี มีวันนี้แหละที่ได้กำไรกลับไป”
พวกปทุมวดีพากันหัวเราะคิกคัก มีความสุขมาก
“นี่ก็เย็นมากแล้ว เราแยกย้ายกันกลับเถอะค่ะ ลานะคะ”
ราตรีนำผองเพื่อนไหว้ลาปทุมวดี แล้วแยกย้ายกันเดินไปที่รถของตัวเอง ปทุมวดีเดินมาหาคนขับรถ แล้วทำหน้าเหมือนนึกอะไรได้
“เอ๊ะ เดี๋ยว แล้วแม่มิวล่ะ”
“คุณมิวเธอมีธุระน่ะครับ บอกแค่ว่าให้ผมพาคุณหญิงกลับไปได้เลย”
ปทุมวดีตกใจอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าประภาพรรณจะคลาดสายตาไปได้
“โฮ้ย นังนี่ เผลอเป็นไม่ได้เลยนะ”
ปทุมวดีกระทืบเท้าเร่าๆ เจ็บใจ

เอกราชเดินไปเดินมาอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ด้วยความกังวล แท็กซี่คันหนึ่งเข้ามาจอด ประภาพรรณรีบลงมาหาชายหนุ่มด้วยความตื่นเต้น
“พี่เอก มิวรู้ทางหนีของพวกมันแล้ว”
“หมวดบัญญัติกับจ่าพนมรออยู่ พี่ว่าเราขึ้นไปคุยกันข้างบนเถอะ”
เอกราชและประภาพรรณรีบจ้ำอ้าวเข้าไปด้านใน มือเอกราชทำท่าเหมือนโอบเอวหญิงสาวอยู่ ระหว่างนั้น จ่าแหนมแอบถ่ายภาพประภาพรรณและเอกราชเดินเข้าไปด้านในคอนโดฯ เขามองรูปที่ตัวเองถ่ายอย่างเครียดๆ
“เฮ้อ ผู้กองเราก็ออกจะหล่อ ไม่น่าถูกเมียสวมเขาเลย”
จ่าแหนมส่งไลน์รูปภาพไปให้พันกรอย่างหนักใจ หน้าจอมือถือพันกร มีรูปคู่ของประภาพรรณและเอกราชเดินขึ้นคอนโดฯไป พันกรช็อก เสียใจมาก
“ที่แท้คุณก็หนีไปอยู่กับไอ้เอกจริงๆ ด้วย”
พันกรกำมือถือแน่นด้วยความแค้นและหึงหวง

กลางคืน ประภาพรรณเดินเข้ามาในบ้าน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเห็นมิสคอลล์ของพันกร 30 สายก็ตกใจ
“คุณกร”
ประภาพรรณรีบโทรกลับไปหา แต่ได้ยินเสียงเครื่องรับอัตโนมัติ
“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
ประภาพรรณมองโทรศัพท์อย่างผิดหวัง เสียใจที่ไม่ได้คุยกับพันกรเสียที ปทุมวดีเดินปรี่เข้ามาหาเรื่อง แต้วเดินตามมาต้อยๆ
“แค่คลาดสายตาไปนิดเดียว แกก็หนีไปหาเพื่อนจนได้ ฉลาดจริงๆ เลยนะ”
“คนเราก็ต้องมีสังคมบ้างนะคะ ทีคุณแม่สามียังมีพวกคุณหญิงราตรีแอนด์เดอะแก๊งเลยนี่คะ”
“ฉันกับพวกราตรีรู้จักมักจี่กันมานาน ใครๆ เขาก็รู้ แต่ดูเหมือน เพื่อนของเธอเนี่ย จะมาหลังจากพันกรไปญี่ปุ่นได้ไม่นานเองนะ นังแต้วจัดการ”
แต้วรับคำสั่งแล้วพุ่งตัวมาล็อคประภาพรรณไว้ ประภาพรรณอึ้ง ตกใจมาก
“เดี๋ยว จะทำอะไรกันคะคุณแม่สามี”
“ฉันก็จะหาหลักฐานน่ะสิว่าผู้ชายที่มาส่งเธอเนี่ยเป็นแค่เพื่อนจริงๆ หรือเปล่า”

ปทุมวดีค้นกระเป๋าของประภาพรรณ ไม่เจออะไร แต่ยังไม่หายสงสัย รีบเข้ามาดูตามตัวของประภาพรรณว่ามีรอยช้ำหรือไม่ ปทุมวดีส่งเสียงจิ๊กจั๊กอย่างไม่พอใจ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย ตัดสินใจชี้หน้าขู่ลูกสะใภ้
“ยอมรับมาซะดีๆ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นชู้ของหล่อน”
ประภาพรรณมองแหวนแต่งงานที่นิ้วปทุมวดี นึกถึงเรื่องที่ประชุมวันนี้ เครียดมาก เอกราชเรียกทุกคนประชุมกันหน้าเครียด
“พรุ่งนี้ เราจะทำการทลายบ่อนของเสี่ยเป้ ท่านวิเชียรจะลงมาคุมทีมเองด้วย”
ประภาพรรณเครียด
“ถ้าเป็นอย่างนั้นมิวคงต้องหาทางไม่ให้พวกคุณหญิงมาที่นี่”
“ใช่ พี่ว่ามิวพาพวกคุณหญิงปทุมวดีไปที่อื่นดีกว่า ถ้าโดนจับได้ มันจะเสียถึงคุณกรโดยตรง”
ประภาพรรณกังวลเรื่องปทุมวดีมาก แล้วเหมือนคิดอะไรได้
“มิวว่าก่อนที่คุณแม่สามีเอาเวลามากังวลว่ามิวมีชู้ ไปห่วงชื่อเสียงของตัวเองดีกว่านะคะ”
“หล่อนพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”
“ถ้ามิวมีชู้จริง นักข่าวก็ต้องขุดแต่เรื่องเสียๆ ของคุณแม่สามีออกมาแฉ สู้ให้คุณแม่สามีประโคมข่าวสร้างภาพ เรื่องใจบุญเบี่ยงเบนความสนใจไม่ดีกว่าเหรอคะ”
“พูดแบบนี้ แปลว่าหล่อนยอมรับแล้วใช่มั้ยว่ามีชู้”
“คุณแม่สามีไม่มีหลักฐาน อย่ามากล่าวหากันลอยๆ”
ปทุมวดีอึ้ง เถียงไม่ออก เจ็บใจมาก
“ตกลงว่าคุณแม่สนใจมิว ห่วงมิวมากกว่าหน้าตาตัวเองใช่มั้ยคะ แหม มิวดีใจจังเลยค่ะ”
ปทุมวดีเจ็บใจมากแต่ทำอะไรไม่ได้
“เออ ฝากไว้ก่อนเถอะนังมิว นังแต้ว รีบโทรไปนัดพวกคุณราตรีให้ฉัน พวกนักข่าวด้วย ฉันจะไปทำบุญ”

ปทุมวดีเดินสะบัดพัด ปึงปังเข้าบ้านไป แต้วรับคำสั่งแล้วเดินตามไป ประภาพรรณถอนหายใจโล่งอก ที่หาทางหลอกล่อปทุมวดีได้


สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 17 (ต่อ)  

บุหงาและดวงแก้วเดินมาตามโถงทางเดินคอนโดฯอย่างเมื่อยล้า
 
“โอ๊ย ปวดเมื่อยไปทั้งเนื้อทั้งตัวเล้ย”
“แล้วแม่จะบ่นหาอะไรเนี่ย ฉันก็เมื่อยพอๆ กับแม่นั่นแหละ”
“ก็บ่นให้แกรู้ไง ว่าแผนของแกมันไม่ได้เรื่อง”
บุหงามองดวงแก้วค้อนๆ รู้สึกหงุดหงิดที่ถูกดวงแก้วด่า
“เฮ้อ ถ้าไม่ต้องมาลงมือทำเองแบบนี้ก็ดีหรอก”
สองแม่ลูกเดินมาถึงหน้าห้องรีบเปิดประตูเข้าไป เห็นกล้ากำลังทำอาหารรอรับอยู่ ตกใจมาก
“พี่กล้า”
กล้าฉีกยิ้มร่าเดินเข้ามาหาบุหงา
“เตงกลับมาแล้วเหรอ นั่งๆๆ วันนี้เค้าทำต้มแซ่บกระดูกอ่อน ของโปรดไว้ให้ด้วยแหละ”
กล้ากุลีกุจอเดินพาบุหงาไปที่โต๊ะอาหาร สองแม่ลูกเดินตามเข้าไปอย่างงงๆ กล้านั่งที่โต๊ะอาหารแล้วตั้งท่าจะตักต้มแซ่บป้อนบุหงา
“นี่ไง ต้มแซ่บกระดูกอ่อน น่ากินใช่ม้า มาๆ เดี๋ยวเค้าป้อนให้เตงนะ”
“พี่กล้า นี่มันอะไรกัน”
กล้าชะงัก หันไปมองหน้าบุหงาอย่างจริงจัง รักใคร่
“เค้าก็แค่อยากจะขอโทษที่เมื่อวานเค้าโวยวายใส่เตง”
สองแม่ลูกตกใจกับความซื่อของกล้า
“เราคืนดีกันนะ เค้าสัญญาว่าจะตั้งตัวให้ได้เร็วๆ เตงจะได้ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องหลอกใครแบบนี้”
กล้าดึงบุหงาเข้ามากอดแน่น หญิงสาวหันมาส่งสายตาให้ดวงแก้วอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่ากล้าจะซื่อและโง่ขนาดนี้
“เค้าไว้ใจเตงนะ”
บุหงาเหมือนคิดอะไรได้ รีบกอดตอบกล้าแน่นๆ
“งั้นพี่กล้าต้องสัญญากับแพนนะ ว่าต่อไปนี้พี่กล้าจะทำทุกอย่างตามที่แพนสั่ง”
“ทุกอย่างเลยจ้ะ เค้าจะทำเพื่อเตง”
สองแม่ลูกลอบยิ้มให้กัน ในที่สุดทั้งสองก็ได้กล้ากลับมารับใช้เหมือนเดิม

ตอนเช้า ปทุมวดีเตรียมจะไปทำบุญกับเพื่อนๆ มีน้ำและแต้วเดินตามมาส่ง
“ใครก็ได้ไปตามแม่มิวทีสิ เร็วๆ เข้า”
“พี่มิวแกปวดหัวไปไม่ไหว เลยขอให้น้ำไปเป็นเพื่อนคุณหญิงแทนน่ะค่ะ”
ปทุมวดีอึ้งมาก ตั้งท่าจะท้วง แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน
“ค่า พี่กำลังไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ คุณน้องราตรี”
ปทุมวดีวางสายราตรีไปอย่างเซ็งๆ มองระเบียงห้องประภาพรรณด้วยความเจ็บใจ
“นังแต้ว วันนี้แกเฝ้ามันให้ฉันหน่อยนะ ฉันว่านังมิวต้องมีลูกเล่นอะไรอีกแน่ๆ”
“ได้ค่ะคุณหญิง วันนี้แต้วจะนั่งเฝ้า นอนเฝ้าอยู่หน้าห้อง ไม่ยอมให้มันคลาดสายตาไปไหนเลยค่ะ”
แต้วรับคำปทุมวดีขันแข็ง

ประภาพรรณแกล้งป่วย ไอกระเสาะกระแสะอยู่ในห้อง แต้วเอาหูแนบได้ยินเสียงเสียงไอก็เบาใจ รีบขนเสื่อ หมอน หนังสือการ์ตูนและเสบียงเข้ามานั่งปักหลักอยู่หน้าห้องประภาพรรณ ตาจ้องเป๋งอยู่ที่ประตู น้อยทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูผ่านหน้าแต้วไปหลายครั้ง แต้วก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับไปไหน เวลาผ่านไป น้อยเริ่มเซ็งกับพฤติกรรมของแต้วมาก
“โอ๊ย นังแต้ว ใจคอวันนี้เอ็งจะไม่ช่วยพวกข้าทำงานเลยใช่มั้ยวะ”
“ฉันก็นั่งทำงานอยู่นี่ไง คุณหญิงเธอสั่ง”
“หูย แล้วถ้าคุณหญิงไล่ให้แกไปตาย จะไปมั้ย”
“นังน้อย พูดอย่างนี้หาเรื่องกันใช่มั้ย หะ”
“ก็เอาเด้”
แต้วกับน้อยตั้งท่าจะวางมวยกันบนบ้าน
“แกเข้ามาก่อนสิ”
“ทำตามก็กลัวอ่ะดิ”
ทั้งสองยังคงตะโกนส่งเสียงท้าทายกันต่อไป ประภาพรรณอาศัยจังหวะนี้หนีออกไปทางระเบียง โหนตัวจากระเบียงไปที่กำแพงได้อย่างคล่องแคล่ว ปีนออกไปได้สำเร็จ โดยกล้องวงจรปิดจับไม่ได้

ปทุมวดีนั่งหน้าบูดอยู่ในรถ เจ็บใจที่ลากประภาพรรณมาด้วยไม่ได้ น้ำมองท่าทางของปทุมวดีแล้วอมยิ้ม แสร้งทำตัวเป็นเด็กดีใส่
“อย่าคิดมากไปเลยค่ะคุณหญิง พี่มิวป่วยขนาดนั้น คงจะออกไปไหนไม่ได้หรอกค่ะ”
“น้ำ นี่เธอรู้จักนังมิวน้อยไป นังนี่น่ะมันร้าย ไม่รู้ป่านนี้แอบหนีออกจากบ้านไปหาชู้แล้วหรือยัง”
ปทุมวดีหงุดหงิด น้ำลอบยิ้มร้าย คิดแผนการได้
“แต่ว่าเราไม่มีหลักฐานว่าเขาเป็นชู้กันนะคะคุณหญิง ถ้าจะกล่าวหากันลอยๆ แบบนี้น้ำว่า”
ปทุมวดีคิดตามคำพูดของน้ำแล้วคลายเครียดลง ก่อนจะยิ้มเหมือนคิดอะไรได้
“นั่นสินะ ถ้าเรามีหลักฐานล่ะก็”

น้ำลอบมองปทุมวดีผ่านกระจกส่องหลัง ลอบยิ้มออกมา ในที่สุดปทุมวดีก็ตกหลุมพรางของเธอ


สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 17 (ต่อ)  

ประภาพรรณวิ่งลงจากแท็กซี่เข้ามาสมทบกับทีมที่ลานจอดรถของบ่อนเสี่ยเป้
 
“ขอโทษที่มาช้าค่ะ”
รองวิเชียรโบกมือให้แบบไม่ถือสา แล้วหันกลับมานัดแนะแผนการกับทีมงานต่อ โดยบอกกับเอกราช
“ตกลงว่าเดี๋ยวคุณ หมวดบัญญัติ จ่าพนม ปลอมตัวเป็นลูกค้า เข้าไปในบ่อนเสี่ยเป้ ส่วนผมจะพาลูกทีมไปดักทั้งด้านหน้าแล้วก็ที่ลานจอดรถนี่”
“รับทราบครับ”
“งั้นเราไปประจำจุดกันเลย”
รองวิเชียรเดินนำลูกทีมออกไปประจำจุดที่วางแผนไว้ เอกราช บัญญัติ และจ่าพนมตั้งท่าจะเดินเข้าไปในบ่อน ประภาพรรณรีบมารั้งเอกราชเอาไว้
“พี่เอก ให้มิวไปด้วยนะ”
“มิว”
“มิวก็เป็นหนึ่งในลูกทีมของพี่ แล้วพี่จะให้มิวนั่งเฉยๆ คอยดูอย่างเดียวอย่างนั้นเหรอ”
“แต่ว่ามันเคยเห็นหน้าคุณมิวแล้วนะครับ”จ่าพนมบอก
“แล้วคุณมาคนเดียว ไม่มีคุณหญิงมาด้วยแบบนี้ พวกมันต้องสงสัยแน่” หมวดบัญญัติท้วง
เอกราชเครียด ถอนหายใจ
“ต่อให้พี่ไม่พาเราเข้าไป เดี๋ยวเราก็ต้องหาทางเข้าไปเองอยู่ดี”
เอกราชอ่อนใจกับความดื้อของประภาพรรณ ประภาพรรณฉีกยิ้มร่า ดีใจ เอกราชหยิบปืนยาสลบ ส่งให้หญิงสาว
“พี่เอก นี่มัน”
“ปืนยาสลบน่ะ เอาไว้ป้องกันตัว พี่ต้องไปแล้ว ไว้เจอกันข้างในนะ”
เอกราชก้าวฉับๆ นำหมวดบัญญัติและจ่าพนมเข้าไป ประภาพรรณมองตามด้วยความตื่นเต้น

ทีมของเอกราชเดินดูไปตามโต๊ะต่างๆ ทำทีเป็นนักพนันหน้าใหม่ ประภาพรรณรอจังหวะประดิษฐ์ก้มหน้าที่เคาน์เตอร์ แอบวิ่งเข้าไป หามุมหลบแถวๆ ห้องน้ำ หน้าทางเข้าห้องลับ พนักงานเดินยิ้มแย้มเข้ามาทักทายพวกเอกราช
“สวัสดีครับ คุณลูกค้าสนใจโต๊ะไหนเป็นพิเศษครับ”
“อืม ก็น่าสนใจหลายอันอยู่นะ”
“คุณลูกค้ามีชิพรึยังครับ ผมพาไปแลกมั้ย”
“ก็ดีนะ พาผมไปหน่อยก็แล้วกัน”
เอกราชทำทีล้วงกระเป๋า พนักงานเหลือบไปเห็นตราตำรวจห้อยอยู่ที่เข็มขัด อึ้งตกใจ ไม่รอช้ารีบโวยวายออกมาเสียงดัง
“ตำรวจ”
พนักงานและลูกค้าคนอื่นๆ ตกใจมาก แตกฮือกันไปคนละทิศคนละทาง บรรยากาศในบ่อนวุ่นวายมาก ทุกคนพยายามวิ่งวุ่น หาทางเอาตัวรอด เอกราชและทีมไม่มีทางเลือก ประกาศตัวออกมา
“โปรดอยู่ในความสงบ”
ประดิษฐ์มองบรรยากาศวุ่นวายอย่างอึ้งๆ นึกเป็นห่วงเสี่ยเป้ขึ้นมา
“เสี่ย”
ประดิษฐ์จะวิ่งไปที่ห้องส่วนตัวของเสี่ย
“ไอ้ประดิษฐ์อย่าหนีนะ”
ประภาพรรณเห็นประดิษฐ์จะหนี รีบยิงปืนยาสลบ กระสุนของโดนที่ขาของประดิษฐ์จนล้มลง ประดิษฐ์หันกลับมามองด้วยความตกใจ
“แก”
ประภาพรรณตั้งท่าจะเดินเข้ามา ประดิษฐ์ลุกขึ้นยืนได้รีบหนีเข้าไปในห้องลับ หญิงสาวรีบตามไป ประดิษฐ์กดสัญญาณนิรภัยปิดประตูได้ทัน ประภาพรรณเจ็บใจมาก
“โธ่เว้ย”
ประดิษฐ์เจ็บขายืนพิงกำแพง เสี่ยเป้โทรเข้ามา เขารีบรับสาย
“ครับเสี่ย”
เสี่ยเป้กับบุหงากำลังมองเหตุการณ์โกลาหลในกล้องวงจรปิดอย่างหัวเสีย บุหงาอึ้งตกใจ
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมลื้อปล่อยให้ตำรวจเข้ามาได้”
ยาสลบเริ่มออกฤทธิ์ ประดิษฐ์เริ่มมีอาการมากขึ้นทุกที
“นังมิว ลูกสะใภ้คุณหญิงปทุมวดีเป็นสายให้ตำรวจ”
“อะไรนะ นังมิวเป็นสายตำรวจ โอ๊ย อั๊วไม่น่าปล่อยมันไว้เลย”
บุหงาช็อก ไม่รู้มาก่อน ประดิษฐ์สะลึมสะลือ ใกล้จะสลบเต็มที่
“เสี่ยต้องช่วยผมนะ ผมถูกยิงยาสลบ อีกไม่นานพวกมันต้องจับตัวผมได้แน่ๆ”
เสี่ยเป้หน้าเครียด แล้วเหมือนคิดอะไรได้
“ลื้อรออยู่ที่นั่นแหละ เดี๋ยวอั๊วส่งคนไปรับ”
เสี่ยเป้วางสายประดิษฐ์ไป แล้วโทรหาใครคนหนึ่งทันที
“ตอนนี้อาประดิษฐ์มันอยู่ในห้องลับ ฆ่ามันซะ แล้วก็ส่งคนมารับพวกอั๊วด้วย”
บุหงาอึ้ง ไม่คิดว่าเสี่ยเป้จะใจคออำมหิตขนาดนี้

สถานการณ์ในบ่อนสงบลง พนักงานและผู้เล่นคนอื่นถูกหมวดบัญญัติและจ่าพนมจับให้นั่งรวมอยู่มุมหนึ่ง ทีมงานของรองวิเชียร เก็บหลักฐาน ถ่ายภาพทุกอย่างไว้ ก่อนหันมาพูดกับเอกราชและประภาพรรณ
“ทำได้ดีมาก ทีนี้เราก็มีหลักฐานเอาผิดเสี่ยเป้ได้แล้ว”
“ท่านคะ แล้วเรื่องนายประดิษฐ์ลูกสมุนเสี่ยเป้ในห้องนี้ล่ะคะ”
เจ้าหน้าที่สองนายช่วยกันหิ้วเครื่องเลเซอร์เข้ามา
“ห้องนี้แหละ ตัดเข้าไปเลย”
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนช่วยกันใช้เลเซอร์ตัดประตูนิรภัย รองวิเชียรหันมาพูดกับเอกราชและประภาพรรณอย่างมุ่งมั่น
“ตัวการสำคัญขนาดนี้ เราต้องจับตัวมันให้ได้”
ประภาพรรณยิ้มดีใจ มองการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยความตื่นเต้น ประดิษฐ์เห็นแสงเลเซอร์ค่อยๆ ตัดทะลุเข้ามา แล้วตกใจ รีบถอยหนีไปอีกทาง ประคองตัวเองเดินเซ ยาสลบออกฤทธิ์หนักขึ้นทุกที มีเสียงเรียกบนช่องแอร์เข้ามา
“พี่ดิษฐ์ๆ”
ประดิษฐ์หันไปตามเสียง รีบเดินมาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
“ทำไมเอ็งมาช้านักวะ มาช่วยข้าหน่อย”
ประดิษฐ์ยกมือขึ้นไขว่คว้าให้ใครคนนั้นช่วยดึงขึ้นไป แต่คนๆ นั้น กลับยื่นกระบอกปืนลงมาจ่อหน้าผาก ประดิษฐ์อึ้งมาก
“โทษทีว่ะพี่ เสี่ยแกสั่งมา”
แผ่นประตูที่ถูกตัด ล้มเข้ามา พวกประภาพรรณเข้ามาในห้องได้สำเร็จ ทุกคนอึ้งที่เห็นประดิษฐ์นอนตายอยู่ตรงหน้า
“เรามาไม่ทัน”
“โธ่เว้ย อีกนิดเดียวแท้ๆ”
ประภาพรรณมองความผิดหวังและหัวเสียของเอกราช รองวิเชียร และทีมงานทุกคนอย่างไม่สบายใจ พยายามปลอบใจทุกคน
“อย่างน้อยเราก็ได้ทลายบ่อนเสี่ยเป้ แล้วก็ได้หลักฐานเอาผิดมันอีกเพียบเลยนี่คะ”

คำปลอบของประภาพรรณพาให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเซ็งที่ประดิษฐ์ถูกฆ่าตัดตอนไปแบบนี้


สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 17 (ต่อ)  

เดชขับรถเข้ามาจอดส่งปทุมวดีกับน้ำที่บ้าน ปทุมวดีบ่น
 
“นังแต้วนะนังแต้ว โทร.มาก็ไม่รับสาย ไม่รู้เฝ้านังมิวไปถึงไหนละ”
ปทุมวดีก้าวฉับๆ ลงจากรถ น้ำเดินตามมาต้อยๆ ประภาพรรณรีบปีนกำแพงบ้านเข้ามา กำลังจะปีนระเบียงเข้าห้อง แข่งกับเวลา ปทุมวดีก้าวฉับๆ มาถึงหน้าห้องนอนประภาพรรณ เห็นแต้วนั่งสัปหงกอยู่
“นังแต้ว”
แต้วสะดุ้งตกใจตื่น เห็นปทุมวดีแล้วตกใจหน้าซีด
“อุ๊ย คุณหญิง กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ก็กลับมาทันเห็นแกตั้งใจทำงานมากน่ะสิ นี่ฉันบอกให้แกเฝ้านังมิวนะ ไม่ใช่ให้ไปเฝ้าพระอินทร์”
ปทุมวดีแว้ดใส่แต้วเสียงดัง แต้วหน้าแห้ง ยิ้มแหยๆ น้ำลอบยิ้มเยาะ สะใจที่แต้วถูกปทุมวดีด่า ปทุมวดีบ่นๆ
“ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”
ปทุมวดีเดินมาจะเปิดประตูห้อง จังหวะเดียวกับที่ประภาพรรณเปิดประตูออกมา ท่าทางงัวเงีย
“มีอะไรกันหรือคะ เสียงดังเชียว”
ปทุมวดีตกใจ ไม่คิดว่าประภาพรรณจะอยู่ในห้อง
“นี่ หล่อนอยู่ในห้องตลอดเลยหรือ”
“ค่ะ มิวปวดหัวมากเลยกินยาเข้าไป เพิ่งตื่นมาเนี่ยแหละค่ะ”
ประภาพรรณทำบิดขี้เกียจอ้าปากหาวหวอดๆ อย่างแนบเนียน ปทุมวดีไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“นอนได้ทั้งวันขนาดนี้ สงสัยหล่อนจะไม่สบายมากนะยะ”
ปทุมวดีเจ็บใจที่เอาผิดไม่ได้ เลยหยิกที่ต้นคอประภาพรรณอย่างแรง
“โอ๊ย”
“โบราณเขาบอกว่าถ้ายิ่งหยิกต้นคอแรงๆ แบบนี้ โรคที่เป็นมันจะหายเร็วขึ้น”
ปทุมวดีเห็นรอยช้ำที่คอประภาพรรณแล้วพอใจ ปล่อยมือ
“ถึงมันจะเป็นความเชื่อโบราณ แต่ลองดูก็คงไม่เสียหาย”
ปทุมวดียักไหล่แล้วเดินสะบัดออกไป น้ำเดินตามปทุมวดีต้อยๆ ประภาพรรณอึ้งๆ งงกับท่าทางของปทุมวดีมาก

กลางคืน ประภาพรรณนั่งแต่งตัว เตรียมจะนอน ส่องกระจก มองรอยช้ำที่คออย่างเซ็งๆ
“เล่นแรงนะคะเนี่ยคุณแม่สามี”
ประภาพรรณถอนหายใจแล้ว เดินไปนอนที่เตียงอย่างล้าๆ เหมือนคิดอะไรได้ รีบหยิบมือถือขึ้นมาส่งไลน์หาพันกร
“นอนคนเดียวมาตั้งหลายคืนแล้ว เหงา เหงา คิดถึงคุณจัง”
ประภาพรรณมองข้อความแล้วอมยิ้มน้อยๆ แล้วหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ในขณะที่พันกรนอนอ่านไลน์ของภรรยาหน้าเครียด อารมณ์คุกรุ่นมาก ยังติดค้างเรื่องประภาพรรณอยู่ ปรีชาชาญเดินเข้ามาในห้อง พันกรรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“พ่อจะมาถามว่าแกอยากจะเลื่อนไฟลท์กลับให้เร็วขึ้นจริงๆ เหรอ”
“ครับ”
ปรีชาชาญมองสีหน้าจริงจังของลูกชายแล้วพูดแซวขำๆ
“ไม่อยู่เที่ยวต่อแบบนี้ แสดงว่าคิดถึงหนูมิวแล้วล่ะสิเนี่ย”
พันกรยิ้มเจื่อนๆ ทั้งที่ในใจเจ็บปวด
“ครับ ผมคิดถึงมิวจะแย่อยู่แล้ว”
“ก็ดีๆ เห็นแกกับหนูมิวเป็นแบบนี้พ่อค่อยโล่งใจหน่อย งั้นเดี๋ยวพ่อโทร.ไปบอกแม่เรื่องเลื่อนไฟลท์ก่อนนะ”
ปรีชาชาญเดินออกไป ทิ้งให้พันกรจมกับความทุกข์อยู่คนเดียว

ตอนเช้า ปทุมวดีนั่งกินข้าวต้มอย่างเอร็ดอร่อย มีแต้วและน้ำคอยรับใช้อยู่
“เติมข้าวให้ฉันหน่อยสิ”
น้ำจะหันไปยกหม้อข้าว แต่แต้วไวกว่า แต้วยิ้มเยาะน้ำ แล้วเดินเอาข้าวไปเติมให้ปทุมวดีอย่างเอาใจ จังหวะเดียวกับที่ประภาพรรณเดินเข้ามาเห็น เลยออกปากแซว
“โอ้โห คุณแม่สามีเจริญอาหารขนาดนี้ท่าทางจะมีเรื่องดีๆ นะคะ”
ปทุมวดีหุบยิ้ม
“ไม่ใช่เรื่องของหล่อนย่ะ”
ประภาพรรณยักไหล่ไม่แคร์แล้วเดินไปประจำที่ของตัวเอง
“แค่จะเตือนว่าระวังอ้วนนะคะ แก่แล้ว ลดยาก”
ปทุมวดีถลึงตาใส่ลูกสะใภ้ด้วยความเจ็บใจ แต้วกำลังจะเติมข้าวต้มให้
“นังแต้วหยุด ฉันไม่กินล่ะ อารมณ์เสีย”
ประภาพรรณฉีกยิ้มร่าที่กวนประสาทปทุมวดีได้สำเร็จ ปทุมวดีกางพัดสะบัดพรึ่บๆ อย่างไม่สบอารมณ์ น้ำเห็นโอกาส รีบเดินถือหนังสือพิมพ์มาให้ปทุมวดี เอาหน้าแทนแต้ว
“รับหนังสือพิมพ์มั้ยคะคุณหญิง”
ปทุมวดีเหมือนนึกอะไรได้ตื่นเต้นมาก
“จริงด้วย เอามาๆ ฉันจะดูว่าข่าวของตัวเองอยู่ตรงไหน”
ปทุมวดีรับหนังสือพิมพ์มากางพรึ่บ แล้วไล่สายตาพยายามหาข่าวของตัวเอง ก็เหลือบไปเห็นภาพข่าวการบุกทลายบ่อนของเสี่ยเป้ ตกใจ
“เสี่ยเป้ถูกจับ”
ประภาพรรณสนใจมาก รีบวิ่งอ้อมมาอ่านด้วย
“บุกจับ ทลายบ่อนเสี่ยเป้ ปุริม มหาศาลสมบัติ ยึดของกลางกว่าห้าสิบล้านบาท เจ้าตัวสารภาพสิ้น”
กรอบรูปเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง คนในรูปไม่ใช่เสี่ยเป้
“ไม่ใช่เสี่ยเป้นี่”
“แกเคยเห็นเสี่ยเป้ด้วยหรือ”
ประภาพรรณอึกอัก
“เห็นแว่บๆ ตอนมิวตามคุณแม่สามีไปน่ะค่ะ”
“ฉันก็ว่าไม่ใช่เหมือนกันนะ”
“มิวขอตัวไปทำธุระแป๊ปนึงนะคะ จะรีบไปรีบกลับ”
ประภาพรรณรีบวิ่งออกไป
“นี่นังมิว แกจะไปไหนอีกเนี่ย ฮึ่ย เป็นอะไรของมันนะ”
ปทุมวดีมองค้อนอย่างขัดใจ

ขณะที่ประภาพรรณรีบวิ่งขึ้นแท็กซี่ออกจากบ้านไป กล้าขับรถเข้ามาอีกทาง พาบุหงาและดวงแก้วเข้ามา
“ถึงละ ไปกันเถอะแม่ พี่กล้า”
ดวงแก้วและกล้าไม่ขยับ บุหงามองทั้งสองคนอย่างหงุดหงิด
“เป็นอะไรกันอีกเนี่ย นี่ฉันพูดไม่ได้ยินเหรอ”
“นี่แกจะเข้าไปในนั้นจริงๆ หรือวะนังแพน”
“ก็ไหนเตงบอกว่านังมิวมันเป็นสายให้ตำรวจไง”
“แล้วเรามาหามันแบบนี้ มันจะไม่หาเรื่องจับเราเข้าคุกเหรอวะ”
ดวงแก้วและกล้าครางฮือออกมาด้วยความกลัว บุหงาเซ็งทั้งสองคนมาก
“ก็เพราะมันเป็นสายให้ตำรวจเนี่ยแหละเรายิ่งต้องมา ยิ่งเราประจบประแจงนังคุณหญิงนั่นมากเท่าไหร่ นังมิวมันก็ยิ่งไม่กล้าหือกับเราแน่ๆ ไปเหอะแม่ เร็วๆ เข้า”
บุหงารีบลากตัวดวงแก้วลงมาจากรถ กล้ารีบตามลงไปอย่างหวั่นใจ สองแม่ลูกเข้ามาเจอปทุมวดีซึ่งกำลังดูรูปเสี่ยเป้อย่างครุ่นคิด บุหงาและดวงแก้วรีบฉีกยิ้มกว้าง ทักทายปทุมวดีเสียงหวาน
“คุณหญิงป้าขา”
“อ้าวหนูแพน คุณดวงแก้ว มาได้ยังไงคะเนี่ย”
“แหมคุณพี่คะ เราใกล้จะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ก็ต้องไปมาหาสู่กันเป็นธรรมดานะคะ”
“จริงด้วยนะคะ ว่าแต่คุณน้องกับหนูแพนเนี่ยมาถูกจังหวะจริงๆ เลยนะคะ คุณพี่กำลังหาคนเม้าท์ด้วยอยู่พอดี”
ปทุมวดีรีบกางหนังสือพิมพ์ให้สองแม่ลูกดู
“หนูแพนกับคุณดวงแก้วดูข่าวนี้สิคะ บ่อนเสี่ยเป้ที่พวกดิฉันกับน้องราตรีไปเล่นกันบ่อยๆ น่ะค่ะ”
สองแม่ลูกตกใจ มีพิรุธ ดวงแก้วยั้งปากไม่ทันรีบโพล่งออกไป
“เอ๊ะ แต่คนในรูปนี่ไม่ใช่เสี่ยเป้นี่คะ”
บุหงาตกใจมากแอบหยิกแม่ ดวงแก้วรู้สึกตัวหันไปยิ้มแหยใส่ลูก ปทุมวดีแปลกใจมาก
“อ้าว นี่คุณดวงแก้วกับหนูแพนรู้จักเสี่ยเป้ด้วยเหรอคะ”
สองแม่ลูกมองหน้ากันเลิกลั่ก บุหงาหัวไวรีบหาคำแถ
“เอ่อ ค่ะ พอดีช่วงที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯแรกๆ คุณแม่เหงาน่ะค่ะ แพนเลยพาไปเล่นบ้าง”
“ใช่ค่ะ แต่พอเจอพวกคุณหญิงแล้ว ดิฉันก็ไม่ได้ไปอีกเลยค่ะ”
สองแม่ลูกพยักหน้ากันหงึกหงัก ยืนยันว่าจริง ปทุมวดีไม่ติดใจอะไร บุหงาและดวงแก้วลอบถอนหายใจโล่งอกที่เอาตัวรอดมาได้
“เอ่อ คุณหญิงป้าคะ แล้วนี่นังลูกสะใภ้ตัวแสบไปไหนล่ะคะ”
ปทุมวดีหน้ามุ่ยรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่ได้ยินชื่อประภาพรรณ
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ จู่ๆ แม่นี่ก็พรวดพราดออกไป จะไปลามาไหว้สักคำก็ไม่มี เออนี่ วันนี้คุณดวงแก้วกับหนูแพนว่างทั้งวันหรือเปล่าคะ พอดีป้าอยากจะชวนให้ไปรับตากรด้วยกัน”
สองแม่ลูกตาโต
“อุ๊ย ว่างค่า เพื่อพี่กรเนี่ย แพนว่างทั้งวันเลย”
“เอ๊ะ แล้วแม่ลูกสะใภ้ของคุณหญิงพี่ล่ะคะ ไม่ไปรอรับด้วยเหรอ”
“นังมิวมันไม่รู้หรอกค่า ว่าตากรจะกลับวันนี้ เดี๋ยวเราไปรับคุณพี่ปรีชากับตากร แล้วรอดูอะไรสนุกๆ กันดีกว่า”

สองแม่ลูก มองหน้ากันงง ไม่เข้าใจที่ปทุมวดีพูด
 
จบตอนที่ 17 

กำลังโหลดความคิดเห็น