xs
xsm
sm
md
lg

แรงชัง ตอนที่ 9

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แรงชัง ตอนที่ 9

ชงชางกลับมาบอกหอมเรื่องที่เจ้าพระยาบริบรรณเสนอ หอมหน้าตื่น

“ปากน้ำโพหรือจ๊ะ”
ชงชางพยักหน้าให้
“ทำไมพี่ถึงอยากย้ายขึ้นไปอยู่ที่ปากน้ำโพล่ะจ๊ะ นี่เราก็เพิ่งย้ายขึ้นมาจากชุมพรแท้ๆ ยังไม่ทันตั้งตัวอะไร พี่ก็จะย้ายอีกแล้ว”
“พี่ไม่อยากอยู่พระนคร ไปไหนมาไหนก็อดคิดถึงเตี่ย กับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้”
หอมมองชงชางอย่างเข้าใจ จับมือสามีไว้
“พี่อยากไปอยู่ที่ไหน ฉันก็จะไปกับพี่ทุกแห่งจ้ะ”
“ขอบใจมากหอม ขอบใจ”
ชงชางกอดหอมไว้ ดีใจที่เมียเข้าใจ

เจ้าพระยาบริบรรณ ชงชาง และหอม ขึ้นจากเรือที่มาปากน้ำโพ หอมมองไปรอบๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน แต่เจ้าพระยาบริบรรณรู้สึกสบายใจ
“เออ ไม่ได้มาปากน้ำโพเสียหลายปี อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปมากเลย แต่ที่นี่ก็ทำมาค้าคล่องไม่ต่าง
จากพระนครหรอก”
“ขอรับ”
“อยากไปดูบ้านเลยมั้ย”
“ขอรับ”
ทั้งหมดเดินผ่านตลาดไป หอมมองตลาดอย่างสนใจ จนมาถึงมาบ้านเจ้าพระยาบริบรรณ บ่าวมารอต้อนรับคณะของเจ้าพระยาบริบรรณกันหลายคน
“นี่ไง บ้านใหม่ของเธอ ฉันยกให้”
ชงชางกับหอมมองบ้านอย่างตื่นตาตื่นใจ
“ชอบมั้ยล่ะ”
ชงชางก้มลงกราบเจ้าพระยาบริบรรณ
“ขอบพระคุณท่านมากๆ เลยขอรับที่เมตตากระผมและลูกเมียอย่างที่สุด”
เจ้าพระยาบริบรรณหัวเราะ “ไม่ต้องขอบใจอะไรฉันหรอกชาญเอ๊ย เธอทำให้ฉันมีความสุขมากตั้งแต่ไอ้นฤบดินทร์มันถูกตัดคอริบเรือนไป เวลานี้ฉันตายตาหลับได้แล้วก็เพราะเธอ เอ้าๆ เดินดูบ้านให้ทั่วๆ แล้วถ้าอยากจะปรับปรุงตกแต่งต่อเติมตรงไหน อย่างไร บอกไอ้ก้านกับไอ้ทองมันได้เลย”
เจ้าพระยาบริบรรณชี้ไปที่บ่าวผู้ชายสองคนที่ชื่อก้านและทอง ทั้งสองก้มลงกราบชงชางและหอม นายใหม่ทันที จากนั้นชงชางและหอมก็เดินดูบ้านด้วยกันอย่างมีความสุข
“ฉันไม่นึกเลยว่าท่านเจ้าคุณจะยกบ้านใหญ่โตอย่างนี้ให้เรา”
“แล้วหอมคิดว่าจะอยู่ที่นี่ได้มั้ยล่ะ”
“ฉันบอกพี่แล้วไงจ๊ะว่าพี่จะไปอยู่ที่ไหน ฉันก็จะไปอยู่ที่นั่นกับพี่”
“งั้นต่อไป ที่นี่จะเป็นเรือนตายของเรา”
หอมพยักหน้า
“พี่จะไปคุยกับท่านเจ้าคุณเสียหน่อย”
“งั้นฉันขอเดินไปสำรวจที่ตลาดหน่อยนะจ๊ะ ตอนขามา ฉันเห็นตลาดอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย”
หอมเดินไปสำรวจตลาด มองโน่นมองนี่อย่างตื่นตาตื่นใจ ขณะที่เนื้อนางนั่งอยู่ที่ร้านขนม มองเอื้องฟ้านั่งร้อนเหงื่อตกอย่างสงสาร
“เอื้อง ไปนอนพักดีมั้ยลูก ให้ป้าสายพาไป”
“เอื้องจะช่วยแม่ขายขนมให้หมดก่อนจ้ะ”
“โถ คุณหนูของบ่าว”
หอมเดินมาถึงร้านขายขนมของเนื้อนางพอดี เห็นเอื้องฟ้าหน้าตาน่าเอ็นดู ก็เดินเข้าไปซื้อขนม
“ขนมนี่ขายยังไงจ๊ะ”
เอื้องฟ้าบอกราคาขาย
“ฉันซื้อ 5 อันจ้ะ”
เอื้องฟ้ากุลีกุจอเอาขนมจัดห่อแล้วส่งให้หอม หอมมองอย่างเอ็นดู
“หนูชื่ออะไรจ๊ะ”
“เอื้องฟ้าค่ะ”
“ชื่อเพราะจริง สวยเหมือนแม่ด้วย”
เนื้อนางยิ้ม
“ลูกสาวคนเดียวหรือจ๊ะ”
“เจ้าค่ะ”
“ท่าทางจะอายุไล่ๆ กับลูกชายของฉันเลย”
เอื้องฟ้าห่อขนมเสร็จ ส่งให้หอม หอมส่งเงินให้
“ไม่ต้องทอนจ้ะ ฉันให้”
เนื้อนางอึ้ง อึกอักไม่อยากรับ
“รับไว้เถอะจ้ะ”
เนื้อนางยกมือไหว้หอม สายกับเอื้องฟ้าก็พลอยยกมือไหว้ด้วย หอมเดินไป เนื้อนางมองแล้วอดคิดถึงตัวเองไม่ได้ ถ้าชีวิตไม่ผกผันเช่นนี้ เธอก็คงมีฐานะและความเป็นอยู่ไม่ต่างไปจากผู้หญิงคนนั้นเลย
เวลาเดียวกันนั้น ชงชางคุยอยู่กับเจ้าพระยาบริบรรณที่บ้าน
“ตกลงว่าต่อไปบ้านนี้เป็นของเธอแล้ว เธอจะทำอย่างไรกับมัน ก็สุดแล้วแต่เธอนะ”
“ขอบพระคุณขอรับท่าน”
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็พักกันให้หายเหนื่อยก่อน แล้วอีกสองวันเราค่อยกลับพระนคร แต่ก่อนจะกลับพระนครฉันจะขอไปไหว้พระก่อนก็แล้วกัน”
“ขอรับ”

วันต่อมา ชงชาง หอม และเจ้าพระยาบริบรรณไปกราบไหว้พระที่วัด โดยมีก้านติดตามไปด้วย แล้วทั้งหมดก็เดินคุยกับมาตามทาง ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาจะมาไหว้พระ แต่พอเห็นเจ้าพระยาบริบรรณก็ดีใจ
“นั่นๆ ท่านเจ้าคุณบริบรรณใช่มั้ยน่ะ”
“ใช่จริงๆ ด้วย”
กลุ่มชาวบ้านวิ่งเข้ามาไหว้เจ้าพระยาบริบรรณอย่างนอบน้อม
“เป็นบุญของกระผมจริงๆ ขอรับที่ได้พบท่านเจ้าคุณ ท่านเจ้าคุณไม่ได้มาที่ปากน้ำโพนี่เสียหลายปีเลยนะขอรับ”
“แล้วนี่ท่านเจ้าคุณจะย้ายมาอยู่ที่ปากน้ำโพรึเจ้าคะ”
“เปล่าหรอก ฉันแค่แวะมาทำกิจธุระ เสร็จแล้วก็จะกลับพระนคร”
“โธ่ กระผมก็คิดว่าจะได้รับใช้ท่านเจ้าคุณเสียอีกขอรับ”
“ขอบใจทุกคนนะ แต่ฉันคงจะต้องไปแล้ว”
“ขอพวกกระผมไปส่งท่านเจ้าคุณนะขอรับ”
เจ้าพระยาบริบรรณพยักหน้าแล้วเดินนำไป ชงชางและหอมเดินตามไปด้วย บ่าวและชาวบ้านก็รีบตามไป

น้อยกำลังเก็บของอยู่ที่บ้านเจ้าพระยาบริบรรณในพระนคร เตรียมย้ายไปปากน้ำโพ หาญกับแก้วเข้ามา
“เราจะย้ายบ้านอีกแล้วเหรอ ป้าน้อย”
“ฮื่อ เราจะไปอยู่ปากน้ำโพกัน”
หาญหน้าเสีย “งั้นก็ต้องอดดูละครที่พระนครนี่น่ะสิ”
น้อยหัวเราะ “โถ พ่อหาญ ปากน้ำโพก็ใช่เมืองเล็กเสียที่ไหนล่ะ ละครเม็งละครก็คงพอมีให้ดูล่ะ อย่ากังวลเลยจ้า”
หาญเริ่มยิ้มออก หันไปมองหน้าแก้ว
“ไปอยู่ที่ปากน้ำโพกับฉันมั้ยแก้ว ไปด้วยกันสิ”
“ต้องถามพ่อก่อน ถ้าพ่อไม่ให้ไป ฉันก็คงจะไปไม่ได้”
หาญหน้าสลด กลัวต้องจากเพื่อน น้อยมองแล้วส่ายหน้า
“โตมาด้วยกันแท้ๆ แล้วจะแยกกันอยู่ได้ยังไง้”

ชาวบ้านพากันมาส่งเจ้าพระยาบริบรรณที่ท่าน้ำปากน้ำโพ
“กระผมขอกราบลาขอรับ”
เจ้าพระยาบริบรรณรับไหว้แล้วเดินนำชงชางและหอมลงเรือไป ศักดาเดินอารมณ์ดีมา กำลังจะไปหาเดือน แต่เห็นชาวบ้านยืนส่งใครบางคนอยู่ที่ท่าน้ำ
“มีอะไรกัน”
ศักดาเดินไปดู ขณะนั้นชาวบ้านและก้านยืนอยู่ที่ท่าน้ำ ส่งเจ้าพระยาบริบรรณ ชงชางและหอมขึ้นเรือไปแล้ว ศักดาเดินเข้ามา เห็นว่ามีเรือกำลังล่องอยู่ในแม่น้ำ แล้วก็เห็นชงชางด้านหลังก็ชะงัก เขม่นตามอง แต่ชงชางเปลี่ยนไปจากคนเดิมมาก และเห็นแต่ด้านหลังในระยะไกล ศักดาจึงไม่คิดว่าคือชงชาง เขาหันมาสนใจฟังที่ชาวบ้านคุยกัน
“เสียดายนะที่ท่านเจ้าคุณไม่ได้กลับมาอยู่ที่นี่”
“ท่านมาเพื่อจัดการยกบ้านให้คหบดีชาญเท่านั้น เสร็จแล้วท่านก็กลับพระนคร”
“เจ้าพระยาบริบรรณนี่ ท่านเป็นคนที่จิตใจเมตตาจริงๆ เลยนะ”
ศักดาได้ยินชื่อเจ้าพระยาบริบรรณก็หูผึ่งทันที
“ใช่ ท่านเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา บ่าวในเรือนอย่างฉันเลยมีความสุขสบายไปด้วย”
ก้านบอกทุกคนก่อนเดินออกไป ศักดามองตามก้านไปอย่างสงสัย
“มันเป็นบ่าวของไอ้บริบรรณอย่างนั้นรึ อย่างนี้มันก็ต้องรู้สิว่าบ้านของไอ้บริบรรณอยู่ที่ไหนในพระนคร”
ศักดารีบสะกดรอยตามก้านไป ก้านไม่ทันรู้ตัว แต่แล้วศักดาก็เหยียบกิ่งไม้หักเสียงดัง ก้านรีบหันไปดู เป็นจังหวะเดียวกับที่ศักดารีบวิ่งไปหลบที่หลังต้นไม้ใหญ่ ก้านไม่เห็นว่ามีใครตามมา แต่เริ่มเอะใจในความผิดปกติ จึงรีบเดินจ้ำไป
 
สักครู่ศักดาก็ออกมาจากที่ซ่อนแล้วรีบวิ่งตามไป

เนื้อนางเดินชะเง้อคอยศักดาให้มากินข้าวพร้อมกัน เอื้องฟ้าและสายก็นั่งรออยู่ด้วย

“คุณหนูไม่ต้องรอคุณศักดาหรอกเจ้าค่ะ ป่านนี้คงจะอิ่มมาจากนอกบ้านแล้ว บ่าวว่า คุณหนูมากินข้าวเถอะเจ้าค่ะ คุณหนูเอื้องก็ท่าทางจะหิวแย่แล้ว”
เนื้อนางเห็นด้วย เดินมานั่งตักอาหารให้เอื้องฟ้า
“บ่าวได้ยินมาว่า ผู้หญิงสวยๆ ที่มาซื้อขนมเรา แล้วไม่เอาสตางค์ทอนนั่น ชื่อ หอม เป็นเมียของคหบดีชาญที่กำลังย้ายมาอยู่ที่ปากน้ำโพนี่ บ่าวว่าเราไปฝากเนื้อฝากตัวกับคหบดีชาญดีมั้ยเจ้าคะ คุณหอมก็ดูท่าทางจะเอ็นดูคุณหนูเอื้องฟ้าอยู่”
“ไม่เอาหรอกพี่สาย ฉันไม่อยากยุ่งกับใคร เอ้า กินข้าวเถอะลูก เดี๋ยวข้าวจะเย็นหมด”
เนื้อนางดูแลลูกกินข้าว แล้วก็เลิกสนใจเรื่องหอมและคหบดีชาญอีกเลย

ศักดารีบวิ่งมามองซ้ายมองขวาหาก้านแต่ก็ไม่เห็นแล้ว
“หายไปไหนแล้ววะ”
ในขณะที่ศักดายืนหัวเสียอยู่ ก้านก็เดินเข้ามาทางด้านหลัง
“แกตามฉันมาทำไม”
“กูอยากรู้ว่าเจ้าพระยาบริบรรณอยู่ที่ไหน”
“แกมีธุระอะไรกับท่าน”
“ไม่ใช่เรื่องของมึง ไอ้บริบรรณมันอยู่ที่ไหนบอกมา”
“กูไม่บอก”
ศักดาพุ่งเข้าไปเขย่าคอก้าน
“แต่มึงต้องบอก บอกมาเดี๋ยวนี้ ไอ้บริบรรณมันอยู่ที่ไหน”
ก้านไม่ยอมบอก ศักดาโมโหเริ่มชกก้าน ก้านสู้ตอบ แต่เสียท่าล้มหงายหลังโครม หัวฟาดพื้น นอนตาค้างแน่นิ่งไป ศักดาชะงักตกใจ นิ่งดูอยู่สักครู่จนแน่ใจว่าก้านไม่ลุกขึ้นมาอีกแล้ว ก็เอาเท้าเขี่ยร่างก้านเบาๆ ก้านยังตาค้างนิ่งเหมือนเดิม ศักดาก้มลงไปดูใกล้ๆ
“เฮ้ย ฉิบหายแล้ว”
ศักดาตะลึง

กลางคืน เนื้อนางและเอื้องฟ้าหลับสนิท เสียงประตูเปิด ศักดาเนื้อตัวมอมแมม เปื้อนเลือดเปื้อนดินเดินเข้ามา เนื้อนางรู้สึกตัวพอดี เห็นศักดายืนอยู่ เสื้อเปื้อนเลือดก็ตกใจ
“พี่ศักดิ์ เกิดอะไรขึ้น”
ศักดาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเล่าเหตุการณ์ให้เนื้อนางฟัง เนื้อนางตกใจสุดขีด
“พี่ฆ่าคนตาย พี่ศักดิ์ทำไมทำแบบนี้ บ่าวคนนั้นไม่ได้รู้เรื่องของเราเลยสักนิด”
“ก็ไอ้บ่าวคนนั้นมันล้มหัวฟาดตายไปเอง พี่ไม่ได้ทำอะไรมันสักหน่อย”
“แต่ถ้าเขาไม่ได้สู้กับพี่ เขาก็คงไม่ตาย”
“ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็ทำไมมันไม่บอกมาดีๆ ล่ะว่าไอ้บริบรรณมันอยู่ที่ไหน”
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีพี่ บ่าวมันตายและหายตัวไปแบบนี้ คนในเรือนเจ้าพระยาบริบรรณคงหาตัวกันให้วุ่น”
“ศพมัน พี่ฝังอยู่ท้ายป่าแล้ว คงไม่มีใครหาเจอหรอก ส่วนเรา ช่วงนี้ก็คงต้องเงียบๆ ไว้ก่อน แล้วถ้ามีใครมาถามอะไรเราต้องตอบว่าไม่รู้เท่านั้น และที่สำคัญห้ามเอ่ยชื่อไอ้บริบรรณเด็ดขาด เดี๋ยวพวกมันจะสงสัย เอาเป็นว่า เราไม่รู้จักไอ้บริบรรณเลย เข้าใจมั้ยเนื้อนาง”
“จ้ะๆ”
เนื้อนางกังวลใจ ศักดาทั้งกลัวและกังวลมาก

หลายวันต่อมา บ่าวช่วยกันขนหีบห่อสมบัติต่างๆ ของชงชางลงเรือนไป ชงชาง หอมและกล้านั่งคุยกัน กล้าอุ้มลูกชายคนเล็กอยู่ด้วย
“เพิ่งจะขนย้ายของพวกนี้มาจากชุมพรแท้ๆ จู่ๆ ก็เปลี่ยนใจจะไปตั้งรกรากที่ปากน้ำโพเสียอย่างนั้นไอ้แก้วลูกฉัน มันก็มาขอฉันไปอยู่กับหาญที่ปากน้ำโพด้วย ชาญจะว่ายังไงล่ะ”
“เจ้าแก้วมันก็เหมือนลูกฉันคนหนึ่งเหมือนกัน ถ้ากล้ายอมให้มันไปกับฉัน ฉันก็ยินดี และสัญญาว่าจะดูแลให้อย่างดี ให้เหมือนกับที่กล้าดูแลและอยู่เป็นเพื่อนของฉันมาตลอด”
“ขอบใจ ถ้างั้นฉันก็ขอฝากแก้วมันด้วยแล้วกันนะ ต่อไปฉันก็คงเหลือแต่ลูกคนนี้ล่ะ” กล้าก้มมองลูกอีกคนที่อุ้มอยู่ หาญกับแก้วหน้าเศร้าๆ เดินคอตกเข้ามา
“เอ้า เจ้าแก้ว ไปเก็บของไป น้าชาญเขาจะให้เจ้าไปอยู่ที่ปากน้ำโพด้วย”
“จริงหรือพ่อ”
กล้าพยักหน้าให้ เด็กน้อยทั้งสองหันไปมองชงชาง ชงชางก็พยักหน้าให้อีก ทั้งสองดีใจที่ไม่ต้องแยกจากกัน
เวลาต่อมา ชงชางกับหอมมากราบลาเจ้าพระยาบริบรรณ
“กระผมขอกราบขอบพระคุณท่านเจ้าคุณอีกครั้งขอรับที่เมตตาครอบครัวกระผม”
“ไม่เป็นไร แต่เราอยู่ห่างกันไปแบบนี้ ก็ส่งข่าวคราวมาให้รู้สุขทุกข์บ้างก็แล้วกันนะ”
“ขอรับ”
“รีบไปเถอะ ขอให้โชคดี”
ชาญและครอบครัวกราบลาแล้วออกไป เจ้าพระยาบริบรรณหวังว่าการที่ชงชางไปอยู่ปากน้ำโพครั้งนี้จะทำให้เขาลืมเนื้อนางได้ กล้าและเมีย อุ้มลูกคนเล็กมาส่งแก้วลูกชาย และครอบครัวชาญ
“ไปอยู่กับน้าชาญ อย่าทำเรื่องให้น้าชาญ น้าหอมต้องทุกข์ใจนะลูกนะ”
“ขอรับ”
“ฝากลูกฉันด้วยนะจ๊ะ”
“ฉันจะดูแลเจ้าแก้วให้เหมือนลูกฉันเองเลยจ้ะ” หอมรับคำ
เมียกล้าเริ่มร้องไห้ กอดแก้วไว้ สักครู่กล้าก็มาดึงตัวแก้วออกจากอกแม่ แล้วลูบหัวแก้วอย่างอาลัย
“ไปเถอะ”
ชงชางเดินมาโอบแก้วไว้ แล้วพาทั้งหมดไปที่ท่าเรือ กล้ากับเมียร้องไห้ไม่หยุดมองดูแก้วไปกับครอบครัวของชงชางจนลับตา

ลำดวนพายเรือมาตามลำน้ำในพระนคร ในเรือมีสายบัวที่เพิ่งเก็บมาวางกองๆ ไว้อยู่ด้วย แต่ก็ไม่มาก ลำดวนมองกองสายบัวอย่างเซ็งๆ
“โอ๊ย เอาไปขายอีกต่อจะได้ราคาเท่าไหร่กันเชียว สายบัวก็มีอยู่แค่นี้ เฮ้อ อีตอนที่ในหลวงท่านประกาศเลิกทาสก็น่าจะออกมาตั้งนานแล้ว ดูสิ รอให้พระยานฤบดินทร์ต้องโทษตัดคอริบเรือน ฉันเลยต้องเร่ร่อนไม่เหลืออะไรไปด้วยเลย ฮึ “
ลำดวนพายเรือไปอย่างเซ็งๆ เจ็บใจ แล้วก็เห็นว่าเรือลำใหญ่ที่พายสวนไปนั้นมีชงชางและครอบครัวนั่งอยู่ด้วย ในเรือมีหีบห่อของมีค่ามากมาย ชาญไม่ได้สังเกตเห็น แต่ลำดวนนั้นถึงกับเหลียวหลังหันมองตาม
“เฮ้ยนั่น คุณชงชางหรือเปล่าวะ เดี๋ยวนี้ร่ำรวยราศีจับแบบนี้เลยรึ หูย อีลำดวนเอ๊ย ไม่ลำบากอีกแล้วแก”
ลำดวนพยายามจะพายตามเรือของชงชาไป ปากก็ตะโกนเรียก แต่ไม่มีใครได้ยิน
“บ้าจริง ตามคุณชงชางไม่ทันเลย”
ลำดวนเจ็บใจมาก
เวลาต่อมา ลำดวนเดินถือตะกร้าสายบัวเข้ามาในตลาดอย่างอารมณ์เสีย วางตะกร้ากระแทกกระทั้นที่ร้านผักร้านหนึ่ง
“วันนี้มีแค่นี้ เอาเงินมา”
“โถ นังลำดวน เอ็งมาเอาสายป่านนี้ ข้ารับซื้อจากคนอื่นมาแล้วโว้ย เอาคืนไปๆ”
แม่ค้าผลักตะกร้าสายบัวของลำดวนออกไปห่างๆ ลำดวนไม่พอใจ
“ทำแบบนี้ได้ยังไง ปกติเอ็งก็รับซื้อจากข้า ถ้าวันนี้ไม่เอาก็ไม่เป็นไร แต่เอ็งก็ต้องจ่ายเงินค่าเหนื่อยข้ามา”
“เฮ้ย เรื่องอะไรวะ”
ลำดวนฉวยโอกาสเดินเข้ามาหยิบกระป๋องเงินจากแม่ค้า แม่ค้ารู้ทันก็รีบตะครุบไว้แล้วยื้อแย่งกันส่งเสียงดัง เข้มกำลังเลือกซื้อขนมอยู่ที่ร้านหนึ่งได้ยินเสียงเอะอะก็รีบเดินมาดูเห็นว่าลำดวนและแม่ค้ากำลังยื้อกระป๋องเงินกันอยู่ ก็รีบเข้าไปดึงตัวลำดวนแยกออกมา
“หยุดนะ”
“เรื่องของข้า เอ็งมายุ่งอะไรด้วยวะ”
ลำดวนสะบัดตัวออกจากเข้มแล้วหันหน้ามามอง นึกรำคาญใจ แต่พอเห็นเข้มหน้าตาดูดี สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เผลอปล่อยกระป๋องเงินตกลงพื้น แล้วส่งยิ้มหวานให้เข้ม จากนั้นเข้มมาส่งลำดวนที่กระท่อมของเธอ
“ขอบใจมากนะจ๊ะที่มาส่งลำดวน พี่ไม่เข้าไปในนี้หน่อยรึ”
เข้มส่ายหน้า ลำดวนหน้าเสีย
“หรือว่าพี่รังเกียจที่ฉันอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กแค่นี้ จะทำยังไงได้ เจ้านายถูกตัดคอริบเรือน ฉันก็ไม่มีที่ไป เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวน่าสงสารนะจ๊ะพี่ เอ่อ นี่พี่ก็คงยังไม่ได้กินอะไรใช่มั้ยจ๊ะ งั้นเข้าไปกินข้าวกับฉันก่อนเถอะนะ นะพี่”
ลำดวนจับมือเข้มดึงเข้าไปด้านใน เข้มใจอ่อนยอมตามเข้าไป

เวลาผ่านไปหลายวัน ชงชางก็พาครอบครัวมาถึงบ้านเจ้าพระยาบริบรรณที่ปากน้ำโพ หอม น้อย ดูแลบ่าวรื้อของออกจากหีบเอามาจัดวางในบ้าน หาญกับแก้ววิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ ส่วนชงชางกำลังคุยกับทอง
“ตกลงว่านายก้านยังหายตัวไป”
“ขอรับ มันไม่เคยหายไปหลายวันอย่างนี้เลยขอรับ กระผมก็พยายามไปถามหากับชาวบ้านตามที่ต่างๆ ที่รู้จักคุ้นเคยกับไอ้ก้าน แต่ก็ไม่มีใครเห็นมันเลย กระผมก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับมันน่ะขอรับ”
“ใจเย็นๆ ก่อนก็แล้วกันนะทอง ฉันจะช่วยถามหานายก้านกับชาวบ้านให้อีกแรง”
“ขอบพระคุณขอรับ”
ชงชางถอนใจกลุ้ม ไม่รู้ว่าก้านหายไปไหน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หันไปมองหอมที่กำลังวุ่นวายกับ
การจัดบ้านอยู่
“หอมต้องเหนื่อยจัดบ้านอีกแล้ว แต่เราจะย้ายบ้านกันครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ”“ไม่เหนื่อยมากหรอกจ้ะพี่ มีบ่าวไพร่ให้เรียกใช้หลายคนอยู่ นี่ฉันก็ว่าจะไปเดินที่ตลาดสักหน่อย”
“งั้นพี่ออกไปเดินตลาดกับหอมดีกว่า จะได้ไปถามหานายก้านกับชาวบ้านดูด้วย”

หอมเดินออกไปกับชงชาง ทองเดินตามไปดูแลด้วย

ชาวบ้านคนหนึ่งเดินถือจอบมาบริเวณท้ายป่า แล้วขุดดินหาหัวเผือกหัวมันไปตามประสา

“มันช่วงนี้ก็หายากจริงเว้ย หือ อะไรน่ะ”
ชาวบ้านนั่งลงเอามือปัดๆ ดินที่เพิ่งขุด แล้วเห็นบางอย่างเต็มตาก็ถึงกับผงะ
“เฮ้ย”

ในตลาดปากน้ำโพ ผู้คนเดินขวักไขว่ ชงชาง หอม และทองเดินอยู่ด้วยกัน
“เอ้อหอม วันก่อนขนมที่หอมซื้อไปให้พี่กิน รสชาติดีนะ”
“พี่อยากกินอีกมั้ยจ๊ะ ฉันจะเดินไปซื้อมาให้ ร้านอยู่ตรงนู้นเอง”
“เอาสิ พี่ไปด้วย”
หอมเดินนำชงชางกับทองไป เวลาเดียวกันนั้น เนื้อนาง เอื้องฟ้า และสายช่วยกันเก็บถาดและตะกร้าขนม เพราะขายหมดแล้ว
“โชคดีนะเจ้าคะที่วันนี้ขนมหมดเร็ว คุณหนูเอื้องฟ้าจะได้ไปพักบ้าง ทนนั่งตากแดดมาทั้งวันแล้ว”
“เอื้องไม่เป็นไรจ้ะ เอื้องอยากช่วยแม่”
เนื้อนางได้ยินเอื้องฟ้าก็ยิ้มปลื้มใจ สายประชดไปถึงศักดา
“เด็กตัวเท่าเมี่ยงแค่นี้ ยังรู้จักช่วยกันทำมาหากิน แต่ผู้ใหญ่บางคนน่ะซี้ วันๆ ไม่ทำอะไร”
“พี่สาย”
เนื้อนางส่ายหน้าไม่อยากให้สายพูดถึงศักดาในทางไม่ดีต่อหน้าเอื้องฟ้า สายเบ้ปากไม่ชอบใจนักแต่ก็ยอมปิดปากไม่พูดอีก แล้วก็เดินไปหยิบถาดและตะกร้าจากเนื้อนางมาถือไว้เองหมด
“ไปกันเถอะเจ้าค่ะ”
เนื้อนางเดินจูงมือเอื้องฟ้าออกไป ครู่หนึ่งหอมก็พาชงชางและทองเดินมา และมาหยุดยืนที่หน้าร้านเนื้อนาง แต่ที่ตรงนั้นว่างเปล่า แม่ค้าแถวนั้นเห็นท่าทางแปลกใจของหอมจึงรีบบอก
“วันนี้มีคนมาเหมาขนมไปหมดแล้วเจ้าค่ะ มันเลยเพิ่งเก็บร้าน แล้วกลับไปเมื่อตะกี้นี้เองเจ้าค่ะ”
แม่ค้าพยักหน้าไปทางที่เนื้อนางเพิ่งเดินไป หอมและชงชางมองตามไปด้วยความเสียดาย แล้วชาวบ้านคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นทำเอาทุกคนตกใจไปหมด
“คุณชาญขอรับ เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ ที่ท้ายป่าหลังบ้านท่านเจ้าคุณ”
“ทำไมรึ”
“คุณชาญไปดูเองเถอะขอรับ”
ชงชางสงสัยมาก รีบเดินตามชาวบ้านไป หอมและทองก็รีบตามไปด้วย ขณะนั้นเนื้อนาง สายและเอื้องฟ้ากำลังเดินกลับบ้าน ก็เห็นว่าชาวบ้านวิ่งไปเหมือนรีบไปดูอะไรสักอย่าง
“เกิดอะไรขึ้นน่ะพี่สาย เขาจะรีบไปไหนกัน”
สายส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกัน ชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งผ่านมา สายรีบดึงเอาไว้
“เดี๋ยวๆๆ พี่ มีเรื่องอะไรกันหรือจ๊ะ”
“บ่าวของท่านเจ้าคุณบริบรรณถูกฆ่าตายน่ะสิ”
เนื้อนางอึ้งไป นึกเป็นห่วงศักดา รีบวิ่งออกไปเลย เอื้องฟ้าและสายตกใจ
“คุณหนูจะรีบไปไหนคะ”
สายกับเอื้องฟ้ารีบวิ่งตามไป
ชาญเห็นศพก้านนอนอยู่ที่พื้น มีร่องรอยการต่อสู้อยู่ทั่วทั้งตัว เลือดเกรอะกรังน่ากลัว ชาวบ้านคนที่ขุดเจอรีบรายงาน
“กระผมมาขุดมันแถวนี้เลยเจอเข้า แต่จำได้ว่าเป็นบ่าวของท่านเจ้าคุณบริบรรณขอรับ”
ทองเข้าไปดูศพใกล้ๆ
“นี่มัน ไอ้ก้านนี่ โธ่ ใครทำกับเอ็งอย่างนี้วะ”

เนื้อนางรีบวิ่งกลับมาบ้าน ปากก็ร้องหาศักดา
“พี่ศักดิ์ พี่ศักดิ์”
ศักดานอนอยู่บนเตียง กอดหอมนัวเนียอยู่กับเดือน ไม่ได้ยินเสียงเรียกของเนื้อนาง เนื้อนางเดินเข้ามาเห็นถึงกับอึ้ง ทั้งโกรธและเสียใจ
“พี่ศักดิ์”
ศักดารีบผละออกจากเดือนด้วยความตกใจ เมื่อเดือนกลับไปแล้ว เนื้อนางนั่งอึ้งกับพฤติกรรมของศักดาจนพูดไม่ออก ศักดาเดินเข้ามามองเมียอย่างเบื่อหน่าย
“ไม่เอาน่าเนื้อนาง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพี่เลยนะ ก็เนื้อนางไม่ได้ทำหน้าที่เมียที่ดีเลยนี่ วันๆ ก็เอาแต่ทำขนม ขายขนม พี่ก็เลยต้องไปหาคนอื่นมาทำหน้าที่เมียแทนน่ะสิ เรื่องนี้ถ้าเนื้อนางจะโทษใคร ก็ต้องโทษตัวเองนั่นแหละ”
“ฉันยอมพี่มามากนะพี่ศักดิ์ แต่ครั้งนี้พี่ทำเกินไป ทำไมต้องเอาผู้หญิงมานอนที่บ้านเรา เกิดถ้าลูกมาเห็นจะทำยังไง”
“ก็ยังไม่มาเห็นสักหน่อย แล้วนี่เนื้อนางทำไมไม่ไปขายขนมรึ”
“ฉันมาเพราะเป็นห่วงพี่ พี่ศักดิ์ พี่ต้องหนีนะ หนีไปให้ไกล ตอนนี้พวกชาวบ้านเขารู้กันแล้วว่าบ่าวของไอ้เจ้าคุณบริบรรณคนนั้นถูกฆ่าตาย ฉันไม่อยากให้พี่ถูกจับ”
“พี่ไม่ถูกจับแน่เนื้อนาง ถ้าเราอยู่เฉยๆ และไม่ทำพิรุธให้ใครสงสัย แค่นี้ก็จะไม่มีใครจับเราได้แล้ว แล้วพอไอ้บริบรรณมันเดินทางมาสืบเรื่องราวบ่าวที่ตายของมัน พี่นี่แหละจะคอยดักฆ่ามัน แก้แค้นให้พ่อกับแม่เราด้วยมือพี่เองเลย”
“แต่ฉันกลัวนี่พี่”
“ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยเนื้อนาง เอ้อ เนื้อนาง พี่ได้ยินที่ตลาดเขาพูดกันว่า ตอนนี้มีคหบดีชื่อชาญกับเมียที่ชื่อหอมย้ายมาจากพระนคร ถ้าอย่างนั้นเราควรไปทำความรู้จักไว้บ้างเพื่อเป็นประโยชน์กับเราในวันข้างหน้า”
“อย่าเลยพี่ พี่ควรเก็บตัวอยู่เฉยๆ ดีกว่า รอให้เรื่องบ่าวคนนั้นที่มันตายเพราะพี่เงียบไปก่อนเถอะ แล้วอีกอย่าง คหบดีที่ชื่อชาญนั่นก็มาจากพระนคร ฉันกลัวว่าเขาอาจจะเคยรู้เรื่องของเรามาก่อน แล้วจะเอาไปพูดให้คนรู้ ถ้าเกิดคนที่นี่ต่อต้านและไล่เราอีก เราจะไม่มีแผ่นดินอยู่กันจริงๆ ล่ะคราวนี้”
“จริงสิ พี่ก็ลืมนึกไป เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่ห่างๆ จากพวกที่มาจากพระนครเอาไว้เป็นดีที่สุด”
เนื้อนางเห็นด้วย

เข้มและลำดวนช่วยกันขายผักอยู่ที่ตลาด ลำดวนเอาใจเข้ม คอยซับเหงื่อให้ตลอดจนแม่ค้าที่ร้านข้างๆ มองอย่างหมั่นไส้แล้วแอบนินทา
“ดูสิ ผ่านไปไม่กี่วันก็มีผัวเลย”
ลำดวนได้ยินก็ชักสีหน้า เดินไปล้มแผงของแม่ค้าจนคว่ำ แม่ค้าตกใจร้องลั่น แต่ลำดวนก็ไม่รู้สึกผิดอะไร กลับยืนเท้าเอวหน้าตาหาเรื่อง
“เอายังไง จะเอายังไง ปากดีแบบนี้ตบเลยดีมั้ย”
ลำดวนหยิบผักมาปาใส่แม่ค้า แม่ค้าไม่ยอมแพ้ หยิบผักมาปาใส่ลำดวนบ้างจนชุลมุนไปหมด เข้มเห็นท่าไม่ดีก็เข้ามาห้าม ดึงลำดวนมาด้านหลังตัวเอง แต่ลำดวนจะพุ่งไปมีเรื่องอีก เข้มดุเสียงเขียว
“หยุด”
ลำดวนกับแม่ค้าหยุดชะงักไป แต่ก็ยังมองหน้าอาฆาตแค้นกันไม่หาย เข้มถอนหายใจเซ็งๆ ก่อนจะพาลำดวนเดินถือตะกร้าผักกลับไป ในตะกร้ามีผักช้ำๆ ลำดวนยังแค้นใจไม่หาย
“พี่ไม่น่าห้ามฉันเลย ฉันจะได้ตบมันให้คว่ำไปเลย”
“ไม่เอาน่าลำดวน ไปมีเรื่องแบบนี้เห็นมั้ยว่าของเราก็เสียหาย ขายไม่ได้”
“เอ๊ะ ก็มันปากหมากับฉันก่อนนะ”
“พี่ว่าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วล่ะ คนทั้งตลาดไม่ชอบลำดวนแบบนี้ ท่าทางเราสองคนจะอยู่ยากซะแล้ว พี่ว่าจะย้ายไปบางปะกง ไปเริ่มต้นค้าขายใหม่ที่นั่นกันดีกว่า”
“ก็ได้จ้ะ ฉันตามใจพี่เข้ม แต่ฉันก็เจ็บใจมันไม่หาย ไหนๆ จะไปแล้ว กลับไปตบสั่งลาซะหน่อย”
ลำดวนจะกลับไปที่ตลาดอีก เข้มรีบจับตัวเอาไว้ แล้วพากลับกระท่อมไป

หาญ แก้ว และด้วงซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของหาญ นั่งคุยกันอยู่ หาญตื่นเต้นสนใจในสิ่งที่ด้วงเล่าให้ฟัง
“จริงรึพี่ด้วง”
“เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้บ่าวไปเดินตลาดมา เห็นคนที่ตลาดเขาคุยกันน่ะเจ้าค่ะว่ากำลังมีคณะละครมาตั้งใหม่อยู่ที่หลังตลาด”
หาญยิ้มดีใจอยากจะไปดูละคร แต่พอคิดถึงที่ชงชางห้ามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับละครมากนักก็หน้าเจื่อนไป แก้วสังเกตเห็นก็เข้ามากระซิบถาม
“เป็นอะไร”
“ก็อยากไปน่ะสิ แต่พ่อให้พี่ด้วงเฝ้าไว้แบบนี้ ไปไม่ได้แน่ๆ”
“ได้สิ”
หาญมองแก้วอย่างสงสัย แก้วยักคิ้วให้หาญแล้วยิ้มมีแผน แกล้งล้มตัวลงนอนทำเป็นชัก ร้องเจ็บปวด จนด้วงตกใจ
“เป็นอะไรเจ้าคะ”
“ปวดท้อง โอ๊ยๆๆๆ”
“ตายแล้ว คอยเดี๋ยวนะเจ้าคะ ด้วงจะไปเอายามาให้”
ด้วงรีบวิ่งออกไป แก้วก็ดีดตัวลุกขึ้นทันทีแล้วดึงมือหาญให้ออกวิ่ง
“ไปเร็ว”
แก้วกับหาญจูงมือวิ่งออกไปด้วยกัน ด้วงได้ยินเสียงเด็กวิ่ง ก็รีบวิ่งกลับมาดู จึงรู้ว่าถูกเด็กหลอกเข้าให้แล้ว

“โธ่ ตายแน่ๆ เลย นังด้วงเอ๊ย”

คนในคณะละครกำลังซ้อมละครกันอยู่ที่หน้าเวที แก้วกับหาญเดินเข้ามานั่งดูด้วยความสนใจ มีความสุข ไม่ยอมลุกไปไหน เวลาเดียวกันนั้น ชงชางกับหอมมาเดินตลาด

“แค่มาเดินตลาด ทำไมพี่ต้องให้บ่าวตามฉันมาตั้งสองคนอย่างนี้ล่ะจ๊ะ”
“พี่ไม่อยากประมาท หอมอย่าลืมสิว่า นายก้านถูกฆ่าตาย ทางการยังจับคนร้ายไม่ได้เลย”
“แล้วพี่แจ้งเรื่องนี้กับท่านเจ้าคุณรึยังจ๊ะ”
ชงชางพยักหน้า ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ แม่ค้าก็ยกมือไหว้และเชื้อเชิญให้แวะเข้ามาที่ร้าน
“เชิญชิมขนมก่อนเจ้าค่ะ”
แม่ค้าหยิบขนมขึ้นมาแล้วใส่ตะกร้าให้บ่าวที่เดินตามหลังหอม หอมหยิบเงินให้ แต่แม่ค้าไม่รับ
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ถ้าคุณนายชอบ วันหลังก็กลับมาอุดหนุนอิฉันนะเจ้าคะ”
“ได้ยังไง ของซื้อของขายก็ต้องให้เงินแบบนี้ถูกแล้ว”
ชงชางพยักหน้าให้หอมส่งเงินให้ แม่ค้าจึงจำต้องรับมา
“พี่ชาญอยากกินขนมร้านนั้นอีกมั้ยจ๊ะ วันก่อนมาก็ชวดไปทีหนึ่งแล้ว สงสัยคราวนี้คงต้องรีบไป”
“เอาสิ”
ทั้งคู่เดินไปที่ร้านเนื้อนาง แต่ร้านว่างเปล่า
“สงสัยจะหยุดขาย แปลกจังนะจ๊ะ พี่ชาญมาทีไร เราไม่เคยได้เจอหน้าแม่ค้าคนนี้เลย”
“นั่นสิ พี่คงไม่มีบุญจะได้กินขนมอร่อยๆ กระมัง” ชงชางขำๆ
เนื้อนางเดินถือตะกร้าขนมเข้ามาอย่างรีบเร่ง เพราะวันนี้เธอมาสาย ทันใดนั้นก็หันไปเห็นชงชางยืนคุยอยู่กับแม่ค้าแถวๆ ร้านของเธอ
“ชงชาง”
เนื้อนางตกใจปล่อยตะกร้าขนมตกพื้น รีบเดินจะไปหาชงชาง ขณะนั้น หาญและกล้าเดินคุยกันมา
“ละครสนุกจังเลยนะ แก้ว”
“แต่น้าชาญต้องดุแน่ๆ ถ้ารู้ว่าเราหนีมาดูละครแบบนี้”
“พ่อไม่รู้หรอกน่า ขนาดเราออกมาแบบนี้พ่อยังไม่รู้เลย”
หาญยิ้ม ก่อนจะหุบยิ้มไปทันที เมื่อเห็นชงชางและหอมเดินอยู่ในตลาด และชงชางก็หันมาเห็นเข้าพอดี หาญเห็นพ่อหันมามองก็ตกใจรีบวิ่งหนีไปเลย แต่แก้ววิ่งไปอีกทางหนึ่ง
ชงชางแปลกใจที่หาญและแก้วออกมาเที่ยวเล่นโดยไม่มีด้วงตามมาด้วย จึงรีบเดินตามลูกไป หอมเห็นชาญรีบเดินไป ก็รีบตามไปด้วย เนื้อนางกำลังวิ่งมาแต่ชนเข้ากับชาวบ้านคนหนึ่งจนล้มลง เธอพยุงตัวลุกขึ้นมาก็รีบวิ่งไปหาชงชาง แต่ก็ไม่เห็นชายหนุ่มแล้ว เจอก็แต่ผู้ชายที่รูปร่างขนาดตัวเท่าชงชาง เธอมองอย่างไม่แน่ใจก่อนจะเข้าไปถาม
“พี่มายืนตรงนี้นานแล้วหรือจ๊ะ”
ชายคนนั้นพยักหน้า เนื้อนางหน้าเสีย
“สงสัยจะตาฝาด ชงชางจะมาอยู่ที่ปากน้ำโพนี้ได้ยังไง”
เนื้อนางสลัดความคิดเรื่องชงชางออกไป

เอื้องฟ้าและสายเดินมาที่ตลาดอย่างรีบเร่ง เอื้องฟ้าถือห่อข้าวมาด้วย
“เร็วๆ สิป้าสาย แม่ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะจ๊ะ”
“เจ้าค่ะๆ”
เอื้องฟ้าหันกลับมาก็ชนเข้ากับหาญที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจนห่อข้าวตกลงพื้นหกหมด หาญหน้าเสียรู้สึกผิด
“ขอโทษๆ ฉันชดใช้ให้นะ”
หาญควักเงินออกมาและมองกลับไปด้านหลังอีกทีกลัวว่าชงชางจะตามมาทัน แล้วหาญก็ยัดเงินใส่มือเอื้องฟ้าก่อนจะรีบวิ่งออกไป เอื้องฟ้างงๆ ไม่เข้าใจว่าหนีอะไร แต่พอมองเงินแล้วก็ไม่สบายใจจึงรีบวิ่งตามหาญไป ตั้งใจจะเอาเงินไปคืน
“จะไปไหนเจ้าคะคุณหนู”
สายรีบวิ่งตามไป ชงชางวิ่งมองซ้ายมองขวาแต่ก็ไม่เจอหาญแล้ว หอมและบ่าวก็วิ่งตามมาด้วยหน้าตาตื่น
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ”
“พี่ว่าพี่เห็นหาญกับแก้วเดินอยู่ในตลาดนี่”
“ตายจริง แล้วด้วงไม่มาด้วยหรือคะ”
“พี่ไม่เห็น ตามหาหาญให้เจอ”
“ขอรับ”
บ่าวรีบวิ่งออกไป ชงชางและหอมกังวลใจเป็นห่วงหาญกับแก้ว

สายวิ่งมองซ้ายมองขวาแต่ก็ไม่เห็นเอื้องฟ้า ก็เริ่มกังวลใจ
“คุณหนูเอื้องฟ้า อยู่ไหนเจ้าคะ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากเอื้องฟ้า สายยิ่งกังวลใจวิ่งออกตามหาอีก ขณะที่เอื้องฟ้าวิ่งเข้ามาหยุดยืนที่หน้ากระท่อมหลังหนึ่ง มองซ้ายมองขวาแต่ก็ไม่เห็นหาญ
“เธอ อยู่ไหน”
จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งเข้ามาดึงมือเอื้องฟ้าเข้าไปในกระท่อม เอื้องฟ้าตกใจร้องเสียงดัง ชงชางกับหอมวิ่งเข้ามาร้องเรียกหาหาญ
“หาญ”
“หาญ อยู่ไหนลูก”
บ่าวติดตามทั้งสองคนก็วิ่งเข้ามา
“ไม่เจอเลยขอรับ”
“หาให้เจอ ไม่เจอไม่ต้องกลับไปที่เรือน” ชงชางสั่ง
“ขอรับ”
หาญยืนอยู่กับเอื้องฟ้าในกระท่อม เอามือปิดปากเอื้องฟ้าไว้ไม่ให้ส่งเสียง แล้วมองไปข้างนอกกระท่อมอีกครั้ง พอเห็นว่าชงชางและหอมเดินไปแล้ว ก็โล่งใจ เอื้องฟ้ามองหาญอย่างงุนงงไม่รู้ว่าหาญหนีอะไรมา

เนื้อนางจัดร้านขายขนมอยู่ที่ตลาด ใครคนหนึ่งเดินมายืนบังหน้าร้านไว้ เนื้อนางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นศักดายืนเมาๆ อยู่
“พี่ศักดิ์ ทำไมกินเหล้าแต่เช้าเลย”
“ก็พี่ไม่มีอะไรจะทำนี่”
“ทำไมจะไม่มี” เนื้อนางค้อนให้
“อย่าบอกนะว่าจะให้พี่ช่วยขายขนมน่ะ มันใช่งานผู้ชายเสียเมื่อไหร่ล่ะ”
เนื้อนางมองศักดาอย่างสุดเซ็ง แล้วครู่หนึ่งสายก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“คุณหนูเจ้าคะ คุณเอื้องฟ้าหายตัวไปเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ”
เนื้อนางกับศักดาตกใจมาก ศักดาถึงกับสร่างเมาทันที แล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งออกไปตามหาเอื้องฟ้า ขณะนั้นหาญและเอื้องฟ้านั่งอยู่ด้วยกันในกระท่อม หาญมองเอื้องฟ้าอย่างสงสัย
“ตามฉันมาทำไม”
เอื้องฟ้าหยิบเงินออกมาส่งให้หาญ หาญไม่ยอมรับแต่ดันมือให้เอื้องฟ้าเก็บเงินไป
“ฉันให้ ฉันทำข้าวของเธอหกหมดจนอดกิน ฉันก็ต้องชดใช้สิ”
ทั้งสองมองหน้ากัน รู้สึกถูกชะตากันอย่างบอกไม่ถูก

หอมและน้อยนั่งอยู่ที่บ้าน กังวลใจมากที่หาญยังไม่กลับมา ด้วงก็นั่งสงบเสงี่ยมกลัวความผิดอยู่ข้างๆ และชงชางก็กำลังดุด้วงอยู่ด้วย
“ฉันให้แกมาดูแลหาญ ทำไมปล่อยให้หนีออกไปได้ ก็รู้อยู่ว่ายังจับตัวคนที่ฆ่านายก้านไม่ได้ ทำไมไม่ดูแลลูกฉันให้ดี หะ นี่ถ้ายังไม่เลิกทาส ฉันจะเฆี่ยนแกให้หลังขาดเลย”
“บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”
น้อยช่วยพูด “อย่าไปโทษนังด้วงเลยเจ้าค่ะคุณชาญ พ่อหาญกับพ่อแก้วน่ะเข้าคู่กันแล้วก็พากันซนนัก นังด้วงมันตามไม่ทันหรอกเจ้าค่ะ”
ชงชางถอนใจกลุ้ม
“ฉันออกไปตามหาลูกอีกทีดีกว่านะจ๊ะพี่”
หอมจะลุกขึ้นไป แต่แก้วเดินเข้ามาพอดี พอแก้วเห็นทุกคนหน้าเคร่งเครียดก็อึ้งไป รู้ตัวว่าผิดแล้ว หอมรีบเข้าไปหาแก้วทันที
“หาญล่ะแก้ว”
แก้วส่ายหน้าไม่รู้ พวกผู้ใหญ่เครียดทันที
“สั่งทุกคนในบ้านให้ออกตามหาหาญให้เจอ อย่าให้ลูกฉันเป็น อะไรไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น” ชงชางสั่งเสียงเข้ม
เวลาเดียวกันนั้น เนื้อนางและสายเป็นห่วงเอื้องฟ้าอยู่เช่นกัน ศักดาก็เครียดไม่แพ้กัน
“เพราะแกเลยนังสาย ถ้าแกไม่ปล่อยให้ลูกฉันวิ่งตามไอ้เด็กนั่นไป ลูกฉันคงไม่หายไปแบบนี้ เนื้อนางก็เหมือนกัน ทำไมไม่ดูแลลูกให้ดีๆ ถ้าลูกเป็นอะไรไป พี่จะถือว่าเป็นความผิดของเนื้อนางคนเดียว”
“แต่ฉันไปขายขนม แล้วทำไมพี่ไม่ช่วยดูแลลูกล่ะ”
“เถียงรึ”
ศักดาโมโหจะตบเนื้อนาง สายรีบเข้ามาบังไว้ แล้วเสียงเอื้องฟ้าก็ดังขึ้น
“แม่”
ทุกคนหันขวับไปหาทางต้นเสียง
“เอื้อง”
เนื้อนางรีบวิ่งออกไปหาลูก ศักดาและสายตามไป เอื้องฟ้าและหาญยืนอยู่ด้วยกัน เนื้อนางวิ่งออกมาจากบ้านเห็นเอื้องฟ้าก็ดีใจรีบเข้าไปกอดไว้
“หายไปไหนมาลูก แล้วเจ็บอะไรตรงไหนหรือเปล่า”
เอื้องฟ้าส่ายหน้าไม่เจ็บ ศักดากับสายวิ่งเข้ามา ศักดามองหาญก็รู้สึกเกลียดชังทันที
“ไอ้เด็กนี่ใช่มั้ยที่มันพาเอื้องไป ไอ้ลูกเจ๊ก มึงแกล้งอะไรลูกกู”
ศักดาโมโหเข้าไปกระชากตัวหาญมาตี หาญร้องดิ้น เอื้องฟ้าเข้ามาช่วยหาญไว้ เนื้อนางก็มาดึงศักดาด้วย
“พ่อ อย่าทำเขา เขามาส่งเอื้อง เอื้องหลงทาง”
ศักดาไม่ฟัง เหวี่ยงหาญไปจนหัวกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ เลือดออกซิบๆ แต่หาญไม่รู้ตัว เอื้องฟ้าตกใจจะเข้าไปดู แต่ศักดาก็ดึงตัวเอื้องฟ้าเข้าบ้านไป
“ไป เข้าบ้าน”
เนื้อนางละล้าละลังจะเข้าไปช่วยหาญแต่ก็เป็นห่วงเอื้องฟ้า หาญรีบลุกขึ้นมา
“ฉันไม่เป็นไรจ้ะ”
หาญเดินออกไป เนื้อนางกับสายจึงรีบเข้าบ้านไปดูเอื้องฟ้า ศักดาตีเอื้องฟ้าไม่ยั้ง เด็กน้อยร้องไห้ด้วยความเจ็บ เนื้อนางและสายเข้ามาช่วยเอื้องฟ้า แต่ก็ถูกเหวี่ยงไปคนละทาง
“เก่งนักใช่มั้ย เดี๋ยวนี้ไปไหนไม่บอกพ่อแม่ แล้วยังไปเล่นกับไอ้ลูกเจ๊กนั่นอีก”
“เขาแค่ช่วยเอื้อง เอื้องหลงทาง”
“พี่ศักดิ์อย่าตีลูกเลยจ้ะ เด็กผู้ชายคนนั้นแค่ช่วยลูก ไม่ได้พาลูกเราไปเกเรที่ไหนเลยนะพี่”
“อ้อ นี่เห็นดีเห็นงามใช่มั้ยที่ลูกจะไปเล่นกับไอ้เด็กนั่น ทำไม หรือเห็นว่ามันเป็นลูกเจ๊กเหมือนไอ้โฉ่งฉ่าง ทำไมไม่ลืมมันสักที หะ เนื้อนาง ทำไม”
ศักดาตบหน้าเนื้อนางจนล้มคว่ำไป แล้วจะเข้ามาทำร้ายอีก เอื้องฟ้าจะเข้ามาก็ถูกศักดาเหวี่ยงไปให้พ้นทาง เนื้อนางเป็นห่วงเอื้องฟ้าไม่อยากให้ลูกเห็นว่าแม่ถูกพ่อทำร้ายจึงรีบบอกสาย
“พี่สาย พาเอื้องฟ้าออกไป”
สายจำต้องพาเอื้องฟ้าออกไป เอื้องฟ้าร้องไห้อยากจะช่วยแม่
“ป้าสาย ฮือ แม่ แม่”
“ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”
สายพยายามปลอบเอื้องฟ้าแต่ตัวเองก็ร้องไห้ เสียงตบตีและเสียงร้องไห้ของเนื้อนางดังมาจากด้านใน อย่างไม่มีวี่แววจะหยุด

หาญเดินมา แก้วกับด้วงก็เดินมาอีกทางหนึ่ง พอเห็นหาญก็ดีใจ
“หาญ หายไปไหนมา”
หาญยังไม่ทันตอบ ด้วงเห็นเลือดบนหัวหาญก็ตกใจ
“ว้าย เลือด”
หาญเพิ่งรู้สึกตัว เอามือจับก็เห็นว่ามีเลือดอยู่ ด้วงกับแก้วพาหาญกลับมาบ้าน น้อยทำแผลให้หาญหอมโล่งใจขึ้นที่หาญกลับมาถึงบ้านเสียที แต่ชงชางยังเครียดที่หาญเจ็บตัวกลับมา
“ไหนบอกพ่อมาสิว่าไปทำอะไรมาถึงได้เจ็บตัวแบบนี้”
“ลูกไปเจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหลงทางน่ะขอรับ ลูกก็เลยพาเขาไปส่งบ้าน”
“พาไปส่งบ้าน แล้วเจ้าเจ็บตัวมาได้ยังไง”
หาญยังคงนั่งเงียบ ไม่อยากบอกพ่อ เพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่โต
“หาญ บอกพ่อมา”
“พ่อของเด็กคนนั้นคิดว่าลูกไปแกล้งลูกเขา เลยผลักลูกจนหัวไปโขกกับต้นไม้ขอรับ”“มันเป็นใคร มันกล้าดียังไงมาทำร้ายลูกฉัน ไปหาญ พาพ่อไปที่บ้านนั้นเร็ว”

ชงชางเดินนำออกไป ตั้งใจจะไปเอาเรื่องคนที่ทำให้หาญเจ็บตัว หอมและหาญกังวลใจ ไม่อยากให้มีเรื่องจึงรีบวิ่งตามไป
 
อ่านต่อตอนที่ 10
กำลังโหลดความคิดเห็น