แรงชัง ตอนที่ 10
ชงชางเดินออกจากบ้านมาด้วยความโมโหอยากจะไปเอาเรื่องกับคนที่ทำร้ายหาญเต็มที่ หอม น้อย และหาญรีบวิ่งไปดักหน้าชงชาง กังวลใจไม่อยากให้ชงชางไปมีเรื่อง
“พ่ออย่าไปเลยขอรับ ลูกไม่เป็นอะไรจริงๆ”
“นั่นสิพี่ อย่าทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยนะ เราเพิ่งมาอยู่ใหม่ ใครๆ เขาจะหาว่าเราอวดเบ่ง ทำตัวใหญ่โตคับที่ได้ เชื่อฉันนะพี่ ไหนๆ ลูกเราก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว นะพี่นะ”
“นะขอรับพ่อ”
ชงชางไม่เห็นด้วยกับหอมที่จะไม่เอาเรื่องคนที่ทำร้ายลูก แต่ก็ต้องยอมเพราะเหตุผลของหอมและยิ่งเห็นสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยของเมีย ก็ยิ่งใจอ่อน ตัดใจเดินเข้าบ้านไป ทุกคนต่างโล่งใจ
ชงชางยืนอยู่ที่ระเบียงบ้านพยายามข่มอารมณ์โกรธอย่างมาก หอมดันลูกชายให้เข้าไปหาพ่อ หาญจึงเข้าไปด้วยความสำนึกผิด
“พ่อขอรับ ลูกขอโทษขอรับที่ทำตัวไม่ดี”
“การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีนะหาญ แต่ที่พ่อโกรธวันนี้เป็นเพราะเจ้าหนีไปเที่ยวกับแก้วสองคน แล้วมีคนมาทำร้ายเจ้า ยังนับว่าโชคดีที่เจ้าไม่เป็นอะไรมาก ไม่อย่างนั้นพ่อกับแม่คงเสียใจที่สุดหาญ”
“ขอรับ”
“สัญญากับพ่อนะว่าอย่าไปยุ่งกับคนบ้านนั้นอีก พ่อรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีส่วนผิด แต่ในเมื่อพ่อของเขาไม่ชอบลูก เราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับเขาให้เกิดเรื่องขึ้นอีก หาญเข้าใจที่พ่อพูดมั้ย”
“ขอรับ”
ชงชางมองลูกชายด้วยความรักใคร่เป็นห่วง แล้วดึงหาญเข้ามากอด หอมกับน้อยมองสองพ่อลูกน้ำตาซึม
สายยังคงกอดเอื้องฟ้าซึ่งกำลังร้องไห้ สงสารแม่ที่ถูกพ่อทำร้าย
“ฮือ ป้าสาย เอื้องจะไปหาแม่”
“โถ”
จังหวะนั้นเสียงศักดาดังขึ้นมา
“จำไว้นะเนื้อนาง อย่าคิดถึงไอ้โฉ่งฉ่างอีก”
เนื้อนางสะอื้นน่าสงสาร ศักดาเดินออกมาหน้าบ้าน มองสายกับเอื้องฟ้าด้วยสายตาดุๆ เอื้องฟ้าเห็นแล้วก็สะดุ้งรีบซุกหน้ากับอกสาย ศักดาเดินหงุดหงิดออกไป เอื้องฟ้าและสายวิ่งเข้าไปดูเนื้อนาง เนื้อนางนั่งร้องไห้ทั้งเจ็บตัวทั้งเสียใจ เนื้อตัว หน้าตาช้ำไปหมด
“คุณหนู”
“แม่”
เอื้องฟ้าเข้าไปกอดเนื้อนาง สองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ สายสงสาร ร้องไห้ตามไปด้วย คืนนั้น สายทายาให้เนื้อนางเสร็จ เอื้องฟ้าก็เข้าไปหาแม่
“แม่ เอื้องแค่อยากเอาเงินไปคืนเขาจริงๆ นะจ๊ะ”
“แม่เชื่อลูก แต่เอื้อง ต่อไปนี้อย่าไปยุ่งกับเขาอีกนะลูก ไม่ใช่ว่าเด็กคนนั้นเป็นคนไม่ดีแม่ถึงห้าม แต่เป็นเพราะว่าแม่กลัวพ่อมาเห็นแล้วเอื้องจะถูกตีอีก”
“แล้วแม่ก็จะถูกตีด้วยใช่มั้ยจ๊ะ”
เนื้อนางหน้าสลดลง
“จ้ะ เอื้องจะทำตามที่แม่บอก”
เนื้อนางดึงเอื้องฟ้ามากอดแล้วร้องไห้ สงสารลูกที่ต้องมาลำบาก สายมองอย่างเห็นใจ
หาญเล่นละครเรื่องสาวเครือฟ้าที่จำมาจากคณะละครให้แก้วดู หอมกับน้อยเดินเข้ามาหยุดดูครู่หนึ่ง ยิ้มขำที่หาญดูจะเล่นสนุก แก้วหันไปเห็นหอมกับน้อยก็ตกใจรีบบอกหาญ
“น้าหอมมา”
หาญหยุดกึกทันที
“หยุดเล่นทำไมล่ะหาญ”
“ก็พ่อไม่ชอบนี่ขอรับ”
“แม่ไม่บอกพ่อก็ได้ แต่ตอนนี้หาญกับแก้วไปกินข้าวกันก่อนไป”
“ขอรับ”
หาญกับแก้วจะวิ่งออกไป แต่กล้าเดินเข้ามาพอดี พร้อมลูกน้องตาม แก้วเห็นพ่อก็ดีใจรีบวิ่งไปหา
“พ่อ”
“เป็นยังไงเจ้าแก้ว อยู่กับน้าชาญสบายดีใช่มั้ย”
“ขอรับ”
กล้ายิ้มพอใจในคำตอบ ก่อนเดินมาหาหอมกับหาญ
“ฉันไม่รู้เลยว่าพี่กล้าจะขึ้นมาปากน้ำโพ”
“ท่านเจ้าคุณให้พี่มาคุยธุระกับชาญ แล้วนี่ชาญอยู่มั้ย”
“อยู่ด้านในค่ะ” หอมขยับจะเดินนำไปหาชงชาง
“ไม่ต้องพาไปหรอก บ้านนี้พี่รู้จักดี เคยมากับท่านเจ้าคุณหลายครั้งอยู่ หอมพาลูกๆ ไปกินข้าวเถอะไป๊”
“ค่ะ”
กล้าเดินเข้าไปในบ้าน หอมสงสัยว่ากล้ามีเรื่องอะไรจะคุยกับชงชาง
“คงจะมาเรื่องของบ่าวท่านเจ้าคุณที่ถูกฆ่าตายไปนั่นแหละจะมีเรื่องอะไร้” น้อยบอก
“ก็น่าจะจริงนะพี่ ไม่อย่างนั้นพี่กล้าคงไม่เดินทางมาจากพระนครอย่างนี้ พี่น้อย ฉันรู้สึกกลัวยังไงก็ไม่รู้ คนที่ทำร้ายบ่าวของท่านเจ้าคุณจะเป็นใคร มันจะมาทำร้ายพี่ชาญหรือเปล่า ฉันล่ะกลุ้มใจจริงๆ”
“มันอาจจะเป็นแค่โจรป่าก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมากสิหอม”
หอมยังกังวลใจไม่หาย เป็นห่วงชงชางมาก
ชงชางกับกล้านั่งคุยกันอย่างเคร่งเครียด
“ฉันว่ามันไม่น่าจะใช่โจรป่าธรรมดานะกล้า ลำพังบ่าวที่ตายนั่นมันจะมีสตางค์ติดตัวสักเท่าไหร่กันเชียว”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ”
“แล้วฉันถามนายทอง พี่ชายนายก้าน มันก็ว่านายก้านก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหน เรื่องที่ว่าใครฆ่ามันก็เลยยังมืดแปดด้านอยู่จนทุกวันนี้”
“แล้วแกล่ะชาญ มาอยู่ที่นี่ แกมีศัตรูรึเปล่า”
“ฉันเพิ่งมาอยู่ ยังไม่รู้จักใครเลย เรื่องที่ว่าจะเป็นศัตรูของฉัน คงไม่ใช่แน่”
“แต่ถ้าจะคิดว่าเป็นศัตรูของท่านเจ้าคุณ ท่านก็ไม่ได้อยู่ที่ปากน้ำโพมานานแล้ว ไม่น่าจะเป็นศัตรูอะไรกับใครได้”
“ศัตรูเพียงคนเดียวของฉันและท่านเจ้าคุณคือหลวงนฤบดินทร์ เป็นไปได้หรือไม่กล้า ที่คนของคุณหลวงอยากจะกลับมาแก้แค้นเรา”
“น่าจะเป็นไปได้ ถ้าอย่างนั้นเราจะนิ่งเฉยไม่ได้แล้วชาญ ศัตรูมันอยู่ในที่มืด เราอยู่ในที่โจ่งแจ้ง อันตรายมาก”
“ฉันจะให้คนไปสืบดู จะได้รู้กันไปเลย”
กล้าเห็นด้วย
เอื้องฟ้าและเนื้อนางเนื้อตัวช้ำระบมเพราะถูกศักดาทำร้าย ช่วยกันขายขนมกันอยู่ที่ตลาด เอื้องฟ้าจัดขนมใส่ตะกร้าอย่างเหนื่อยๆ เพราะเจ็บเนื้อตัว เนื้อนางมองลูกอย่างสงสาร
“เอื้อง มาหาแม่สิลูก แม่จะทายาให้”
เอื้องฟ้าเข้าไปหาเนื้อนาง เนื้อนางเป็นห่วงสงสารลูกจนน้ำตาคลอ
“ไปพักดีมั้ยลูก แดดแรงแล้ว เนื้อตัวระบมช้ำแบบนี้เดี๋ยวลูกจะไม่สบายนะ”
“ไม่จ้ะ เอื้องจะช่วยแม่ แม่เหนื่อยมั้ยจ๊ะ เอื้องจะไปหาน้ำมาให้นะ”
เนื้อนางจะห้ามลูกแต่ไม่ทัน เพราะเอื้องฟ้าวิ่งออกไปแล้ว
“โถ ลูกแม่ แม่ขอโทษนะลูกที่พามาลำบากแบบนี้” เนื้อนางน้ำตาไหลไม่หยุด
ระหว่างนั้น หอมเดินดูของในตลาดแล้วมาหยุดที่ร้านๆ หนึ่ง สักครู่ก็มีชาวบ้านวิ่งผ่านหอมไปอย่างรีบร้อนและส่งเสียงเอะอะว่าให้รีบไปดู จนหอมต้องเงยหน้ามองแล้วนึกแปลกใจ
“มีอะไรกันรึ”
บ่าวติดตามส่ายหน้าไม่รู้ หอมจึงตัดสินใจเดินตามชาวบ้านไป บ่าวรีบตามไปด้วย ขณะนั้น ชาวบ้านกำลังยืนมุงดูบางอย่างกันอยู่
“ลูกใครเนี่ย ทำไมพ่อแม่ไม่ดูแลเลย”
หอมและบ่าวติดตามเดินเข้ามาชะเง้อมองอยากรู้เรื่อง จึงพยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปดู
“ขอโทษนะจ๊ะ”
หอมมองที่พื้นแล้วตกใจ เมื่อเห็นว่าเอื้องฟ้านอนเป็นลมหมดสติอยู่ที่พื้น ก็รีบเข้าไปพยุงเอื้องฟ้าอย่างเป็นห่วง
“หนู”
เนื้อนางวิ่งฝ่ากลุ่มไทยมุงเข้ามา เห็นเอื้องฟ้าหมดสติในอ้อมกอดหอมก็ตกใจ
“เอื้อง”
เนื้อนางวิ่งเข้ามาดูเอื้องฟ้า ร้องไห้กลัวลูกจะเป็นอะไรไป
“เอื้อง เป็นอะไรลูก ทำไมลูกฉันเป็นอย่างนี้คะ”
“ฉันก็ไม่รู้ รีบพาหนูนี่ไปโรงหมอเถอะไป”
เนื้อนางจะอุ้มเอื้องฟ้าแต่อุ้มไม่ไหว บ่าวติดตามหอมจึงเข้ามาช่วยอุ้มแล้วพาออกไป
สายเก็บเสื้อผ้าของศักดาที่วางเกะกะเกลื่อนพื้นใส่ตะกร้า พลางบ่น
“ดูสิ งานบ้านก็ไม่ต้องทำยังมาทำเละเทะอีก เฮ้อ”
สายถือตะกร้าผ้าเดินออกไปริมน้ำ เทผ้าออกจากตะกร้าเพื่อเตรียมซัก แล้วเดินไปหยิบถังน้ำ ตักน้ำในแม่น้ำขึ้นมาจะเอาไปซักผ้า เธอมองบางอย่างที่กองผ้าอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นเสื้อของศักดาที่เปื้อนเลือดเปื้อนดินวางอยู่ด้านบน
“คุณศักดิ์เอาเสื้อไปเปื้อนอะไรมา”
ระหว่างนั้นชาวบ้าน 2 คน เดินถือตะกร้าผ้าคุยกันเข้ามา กำลังจะมาซักผ้าเหมือนกัน
“เขาว่าทางการยังจับคนที่ฆ่านายก้านไม่ได้เลย จะว่าเป็นโจรป่ามาดักปล้น เงินในตัวนายก้านก็ยังอยู่”
“แล้วมันจะเป็นใครกันล่ะ หรือว่านายก้านไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครมา เห็นเขาว่าศพมันมีรอยถูกทำร้ายด้วย ศพนายก้านนี่ เลือดเปรอะไปหมดเลย อึ๋ย คิดแล้วน่ากลัวจัง”
ทั้งสองเดินมาเห็นสายกำลังพลิกเสื้อศักดาไปมาจึงชะงักไป
“เสื้อเปื้อนอะไรมาน่ะ เหมือนเลือดเลย”
สายพิจารณาดู “อืม จริงด้วย ใช่เลือดจริงๆ ด้วย”
ชาวบ้านทั้งสองคนยืนคิดบางอย่างอยู่ครู่หนึ่งก็ตาโต
“เอ๊ย เลือด นี่ นี่แกเป็นคนฆ่านายก้านใช่มั้ย ไปเลย ฉันจะพาแกไปหาตำรวจ”
“อะไร ฉันไม่รู้เรื่องนะ”
ชาวบ้านไม่ฟัง วิ่งเข้ามาจับสายจะพาไปหาตำรวจให้ได้ ขณะนั้น เนื้อนาง หอมและเอื้องฟ้าเดินเข้ามาบ้าน
“ฉันขอบคุณคุณนายมากนะ ที่ช่วยเหลือพาลูกฉันไปส่งโรงหมอ”
เนื้อนางไหว้ขอบคุณหอม เอื้องฟ้าพลอยยกมือไหว้หอมไปด้วย หอมลูบหัวเอื้องฟ้าอย่างเอ็นดู
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะเด็กไม่สบาย จะให้ฉันยืนมองเฉยๆ ได้อย่างไร”
หอมยิ้มให้เนื้อนาง เนื้อนางก็ยิ้มตอบมองหอมด้วยความซึ้งน้ำใจ แล้วเสียงเอะอะของสายก็ดังขึ้น
“ปล่อยนะ ฉันไม่ไป”
เนื้อนางตกใจ
“นั่นเสียงพี่สายนี่”
เนื้อนางรีบเดินไป เอื้องฟ้าและหอมรีบตามไป ชาวบ้านกำลังจะพาสายไปหาชงชาง แต่สายดิ้นสุดตัว
“บอกว่าไม่ไป ฉันไม่รู้เรื่อง”
เนื้อนาง เอื้องฟ้าและหอมวิ่งเข้ามา
“พี่สาย เกิดอะไรขึ้น”
“ก็อีพวกนี้สิเจ้าคะ จะพาบ่าว เอ๊ย พาพี่ไปหาตำรวจ”
เนื้อนางตกใจกลัว
“หาตำรวจทำไมพี่สาย”
“นั่นสิ จะไปหาตำรวจทำไมกัน” หอมก็สงสัย
ชาวบ้านเห็นหอมก็รู้ว่าเป็นใคร รู้สึกเกรงใจหอมมาก
“ก็นังนี่มันมีเสื้อที่เปื้อนเลือดสิเจ้าคะ”
“มันต้องเป็นคนที่ทำร้ายบ่าวของท่านเจ้าคุณบริบรรณแน่ๆ เลยเจ้าค่ะคุณหอม”
หอมตกใจเดินไปหยิบเสื้อมาดูก็เห็นว่าเสื้อเปื้อนเลือดเปื้อนดินจริงๆ เนื้อนางเองก็ตกใจ พยายามคิดหาคำแก้ตัว จึงเดินเข้าไปดึงเสื้อมาจากมือของหอม
“เสื้อตัวนี้ของผัวฉันเองจ้ะ ที่เปื้อนเลือดก็เพราะว่าเขาออกไปล่าสัตว์ตอนที่เราไม่มีอะไรจะกิน ไม่ได้เปื้อนเลือดอย่างอื่นจริงๆ นะ”
หอมมองเนื้อนางนิ่งๆ ชั่งใจว่าจะเชื่อดีมั้ย เนื้อนางหน้าสลด กังวลใจ จนหอมตีความไปเองว่าเนื้อนางคงกลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดจริงๆ จึงพยักหน้าเข้าใจเนื้อนาง
“ฉันเชื่อเธอ คนพวกนี้คงไม่ใช่คนร้ายหรอก ฉันรู้จักพวกเขาดี เห็นกันมาก็หลายคราแล้ว”
ชาวบ้านไม่กล้าเถียงหอม
“เจ้าค่ะ”
ชาวบ้านกลับออกไป หอมยิ้มให้กำลังใจเนื้อนาง เนื้อนางโล่งใจ แต่พอหอมหันไปหาเอื้องฟ้า เนื้อนางก็กังวลใจไม่หายกลัวจะมีปัญหาขึ้นมาอีก
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยพูดกับชาวบ้านพวกนั้นให้”
“จ้ะ แต่ฉันก็เข้าใจพวกเขานะ มีคนถูกฆ่าตายแบบนี้พวกเขาก็ต้องกังวลใจกันเป็นธรรมดา เธอเองก็ต้องช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วยแล้วกันนะ ถ้ามีใครน่าสงสัยก็บอกให้ชาวบ้านเขารับรู้ด้วย ฉันกลับก่อนล่ะ”
หอมเดินออกไปกับบ่าว เนื้อนางถอนใจ กังวลว่าศักดาจะถูกจับได้ว่าเป็นคนทำร้ายก้าน สายมองท่าทางของเนื้อนางด้วยความสงสัย
ตอนเย็น เนื้อนาง ศักดา เอื้องฟ้า และสาย นั่งกินข้าวอยู่กันอยู่ เนื้อนางเหม่อลอย กังวลใจเรื่องเมื่อกลางวันที่ชาวบ้านกำลังตามหาคนที่ฆ่าก้าน ในขณะที่ศักดาก็นั่งเขี่ยข้าวไปมา ไม่อยากกิน จนสุดท้ายทนไม่ไหวก็กระแทกจานลงกับพื้น ทุกคนสะดุ้งตกใจ
“เบื่อๆๆ เนื้อนาง กับข้าวแบบนี้พี่กินมาสามวันติดกันแล้วนะ ทำไมไม่หาอย่างอื่นมากินบ้าง”
“โธ่ มีให้กินแค่นี้ก็ดีถมไปแล้วเจ้าค่ะ จะเอาอะไรมาก”
“อีสาย”
ศักดามองสายตาถลน เนื้อนางรีบห้ามทัพ
“ไว้พรุ่งนี้ฉันจะทำอย่างอื่นให้นะพี่”
“ไม่กินแล้ว ไปหากินที่อื่นดีกว่า”
ศักดาลุกเดินออกไปเลย เนื้อนางพูดไม่ออก แต่ก็รีบลุกตามศักดาไป
“พี่ศักดิ์ เดี๋ยวก่อน”
“อะไรอีกล่ะ”
“ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่”
“เอาไว้ทีหลังเถอะเนื้อนาง”
ศักดาเดินออกไป เนื้อนางกังวลใจมาก สายเดินเข้ามาหาด้วยความสงสัย
“คุณหนู”
เนื้อนางสะดุ้ง
“คุณหนูมีอะไรกังวลใจหรือเปล่าเจ้าคะ บ่าวเห็นคุณหนูสีหน้าไม่สู้ดีตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว”
เนื้อนางชั่งใจว่าจะบอกสายเรื่องบ่าวของเจ้าพระยาบริบรรณหรือไม่ แต่ก็เห็นว่าสายร่วมสุข
ร่วมทุกข์กันมาจึงยอมบอก
“พี่สาย ฉันกลัวพี่ ถ้าพี่ศักดิ์ถูกจับได้ว่าเป็นคนฆ่าบ่าวของไอ้เจ้าคุณบริบรรณ ฉันจะทำยังไงดี”
“อะไรนะเจ้าคะ นี่เป็นฝีมือของคุณศักดิ์จริงๆ รึเจ้าคะ”
เนื้อนางพยักหน้า “พี่สาย คุณหอมเธอรู้จักกับไอ้บริบรรณด้วย”
“คุณหนูรู้ได้ยังไงเจ้าคะ”
“ก็คนในตลาดเขาเล่าให้ฉันฟังว่า บ้านที่คุณหอมกับคหบดีย้ายมาอยู่ที่นี่น่ะ ไอ้บริบรรณมันยกให้เปล่าแก่คุณหอมกับคหบดีชาญ ประมาณว่าสองคนผัวเมียนี่เคยเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงกันมา แล้วอยากจะย้ายมาทำมาหากินที่นี่ ไอ้บริบรรณมันก็เลยยกบ้านให้เป็นน้ำใจ”
“แล้วไงเจ้าคะ”
“ก็ฉันคิดว่าคุณหอมอาจจะรู้เรื่องราวของพ่อแม่ฉันก็ได้นะพี่”
“โธ่ คุณหนู บ่าวว่าคุณหนูอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ไปเลยเจ้าค่ะ ถ้าคุณหอมเธอรู้เรื่องทั้งหมดจริง เธอก็ต้องรู้สิเจ้าคะว่าคุณหนูคือใคร แต่นี่ไม่ทัก แสดงว่าไม่รู้นะเจ้าคะ”
“จริงสินะ”
เนื้อนางยิ้มให้สาย รู้สึกเบาใจขึ้น แต่ก็ยังกังวลเรื่องศักดาจะถูกจับอยู่ดี
ชงชางเดินไปเดินมารอหอมเพราะยังกลับมาไม่ถึงบ้าน กล้าก็นั่งมองอยู่
“หอมยังไม่กลับจากตลาดเลยกล้า ฉันไปดูสักหน่อยดีกว่า ตราบใดที่ยังจับคนฆ่านายกล้าไม่ได้ ฉันไม่วางใจเลย”
ชงชางจะเดินออกไปตาม แต่หอมเดินเข้ามาพอดี
“จะไปไหนหรือจ๊ะพี่”
“ไปตามหอมนั่นแหละ ชาญมันเป็นห่วงหอมน่ะสิ เห็นว่าเย็นแล้วยังไม่กลับเข้าบ้านสักที”
หอมยิ้มปลื้มใจ “ขอโทษนะจ๊ะพี่ ที่ทำให้เป็นห่วง แต่วันนี้ฉันไปที่ตลาดแล้วบังเอิญเจอเด็กคนหนึ่งเป็นลม เลยต้องรีบพาไปส่งโรงหมอ น่าสงสารนะคะ สองคนแม่ลูกต้องออกมาตากแดดตากลมขายขนมกันสองคนอยู่ทุกวัน”
“สองแม่ลูกงั้นรึ”
ชงชางหน้าสลดไป คิดถึงเนื้อนางกับลูก กล้ามองชงชางก็เดาออก รีบพูดกับชงชางเพื่อดึงสติให้กลับมาหาหอม
“ฉันจะไปทักทายคนรู้จักที่นี่สักหน่อยแล้วกัน ส่วนสองผัวเมียนี่ก็ไม่ต้องรอฉันกินข้าวล่ะ”
ชงชางมองหน้ากล้ารู้ทันทีว่าคำว่า “สองผัวเมีย” คือคำที่กล้าเตือนสติเขาไม่ให้คิดถึงเนื้อนาง ชงชางยิ้มให้กล้า แล้วเดินไปโอบบ่าหอม ย้ำกับตัวเองว่าหอมคือคนในปัจจุบันของเขา ส่วนเนื้อนางนั้นเป็นอดีตไปแล้ว
ศักดาเดินมากับเดือน
“แล้วเจอกันใหม่นะจ๊ะ”
ทั้งสองแยกกันออกไป ศักดาเดินมาทางหนึ่ง กล้ากับเพื่อนก็เดินมาทางหนึ่ง ศักดาและกล้าเดินสวนกัน กล้ามองศักดาแล้วรู้สึกคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกจึงเบือนหน้าไม่มองศักดาอีก
“เรื่องจับตัวคนที่ทำร้ายบ่าวของท่านเจ้าคุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะช่วยตามตัวให้อีกแรง” เพื่อนบอกกับกล้า
ศักดาจะเดินผ่านไปได้ยินเข้าก็ชะงักทันที แล้วหยุดยืนฟังโดยที่กล้าและเพื่อนไม่ได้สนใจ
“แล้วท่านเจ้าคุณเป็นยังไงบ้างหลังย้ายขึ้นมาอยู่พระนครน่ะ”
“ท่านก็สบายดี ผู้คนในพระนครนับหน้าถือตา”
ศักดาฟังด้วยความโกรธแค้น
“ไอ้บริบรรณมันอยู่ที่พระนคร”
ศักดาเหลียวมองกล้าอย่างแค้นใจแล้วเดินกลับไปบ้าน เล่าเรื่องที่ได้ยินให้เนื้อนางฟัง เนื้อนางแปลกใจ
“พระนครรึพี่”
“ใช่ ถึงเวลาแล้วเนื้อนางที่เราจะแก้แค้นไอ้บริบรรณให้พ่อกับแม่ของเรา พี่จะเดินทางไปพระนคร”
“ฉันไปด้วย เพราะฉันก็อยากเห็นมันตายไปต่อหน้าต่อตาฉันเหมือนกัน”
ทั้งสองแค้นใจเจ้าพระยาบริบรรณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ชงชางยืนเหม่อคิดถึงเนื้อนาง รู้สึกเป็นห่วง
“เนื้อนางกับลูกจะเป็นอย่างไรบ้างนะ”
ชงชางคิดถึงวันที่พระยานฤบดินทร์ฆ่าเฟยหลง ก็แค้นใจไม่หาย
“แต่ในเมื่อพ่อของเธอฆ่าพ่อฉัน เธอต้องตกระกำลำบากอย่างนี้ มันก็สมควรแล้ว”
ชงชางแค้นใจมาก
ในตลาดปากน้ำโพ ศักดาเดินอยู่กับลูกน้องของกล้า
“ขอบใจมากนะพี่ชายที่ให้ฉันยืมเรือไปขนของ เรือของฉันมันรั่วพอดี ไม่อย่างนั้นฉันไม่รบกวนพี่ชายหรอกจ้ะ พี่ชายจะไปไหนต่อ ไปกินข้าวบ้านฉันก่อนมั้ย”
“ไม่ล่ะ วันนี้ข้าต้องกลับพระนคร ไปล่ะเดี๋ยวลูกพี่ข้าจะรอนาน”
“จ้ะๆๆ งั้นฉันไปส่งพี่ชายที่ท่าน้ำนะ”
ทั้งคู่พากันเดินออกไป แล้วจู่ๆ เนื้อนางก็ถือไม้ขนาดใหญ่เข้ามาฟาดหัวลูกน้องกล้าอย่างแรงจนล้มลง ศักดาลากลูกน้องกล้าเข้าไปแอบไว้ที่มุมรกร้าง ศักดาและเนื้อนางพยักหน้าให้กัน เริ่มทำตามแผน แล้วทั้งคู่ก็แยกกันออกไป
ชงชาง กล้า หอม น้อย หาญ แก้ว เดินเข้ามาที่ท่าน้ำ กล้าหันมาบอกชงชาง
“ฉันกลับก่อนนะชาญ ได้เรื่องอย่างไรแล้วส่งข่าวไปให้ฉันที่พระนครด้วยนะ”
ชงชางพยักหน้าให้
“เอ็งก็อย่าดื้อกับน้าชาญเขานักล่ะเจ้าแก้ว”
“ขอรับ”
กล้ายิ้มกับลูก แล้วหันไปมองที่กลางแม่น้ำ เห็นว่าลูกน้องของตัวเอง กำลังพายเรือเข้ามารับพอดี
“เรือฉันมาพอดี ฉันไปนะ”
กล้าเดินลงเรือไป
เอื้องฟ้านอนหลับสนิท สายนั่งปัดยุงให้ หอมกับบ่าวเดินเข้ามาหา สายเห็นก็ตกใจแต่พยายามเก็บอาการ
“ขอโทษจ้ะที่ฉันเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าว แต่ฉันเรียกแล้วไม่มีใครได้ยิน ยายหนูเป็นอย่างไรบ้าง”
“ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”
หอมยิ้มให้ เอื้องฟ้าตื่นขึ้นมาเห็นหอมก็ยกมือไหว้
“แล้ววันนี้ไม่ไปขายขนมกันรึ”
“ไม่เจ้าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอพายายหนูนี่ไปเล่นที่บ้านฉันได้มั้ย”
สายตกใจ กลัวว่าจะเป็นแผนที่หอมจะพาเอื้องฟ้าไปทำร้าย แต่เมื่อเห็นหอมมองเอื้องฟ้าอย่างเอ็นดู สายก็รู้สึกเบาใจว่าคงไม่ได้เป็นอย่างที่คิด หอมมองสายเข้าใจว่ามีความกังวลอยู่
“ถ้าเธอกังวล เธอก็ไปกับฉันด้วยก็ได้ ฉันไม่ได้จะเอายายหนูนี่ไปทำอะไรไม่ดีหรอกนะ ฉันแค่รู้สึกเอ็นดูอยากจะพาไปกินขนมที่บ้านก็เท่านั้น”
สายกระซิบกับเอื้องฟ้า “คุณหนูอยากไปมั้ยเจ้าคะ”
เอื้องฟ้าพยักหน้าอยากไป แต่แล้วก็สลดลง
“แต่เดี๋ยวพ่อรู้”
“ถ้าคุณหนูอยากไป บ่าวจะไม่บอกคุณพ่อหรอกเจ้าค่ะ ถ้าอย่างนั้นฝากคุณ เอ้ย ฝากหลานอิฉันด้วยนะเจ้าคะ”
“จ้ะ แล้วนี่แม่ของยายหนูไปไหนเสียล่ะ”
“ไปธุระเจ้าค่ะ”
หอมไม่สงสัยอะไรต่อ แต่สายก้มหน้างุดกลัวจะถูกจับได้ว่าที่เนื้อนางกับศักดาหายไปนั้นเพราะไปแก้แค้นเจ้าพระยาบริบรรณ
กล้านั่งเรือมา รู้สึกผิดสังเกตก็พยายามจะเรียกคนพายเรือ
“ไอ้พุด”
คนพายเรือไม่หัน
“ไอ้พุด ข้าเรียกเอ็ง เอ็งไม่ได้ยินรึ”
กล้ายิ่งสงสัย แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรก็มีเสียงผู้หญิงร้องอยู่ริมฝั่ง
“ช่วยด้วย”
กล้าหันไปมอง เห็นผู้หญิงมีผ้าโพกผม ทำให้มองเห็นหน้าไม่ถนัด ยืนโบกมืออยู่ที่ริมฝั่งคล้ายเรียกให้ช่วย
“ช่วยด้วยเจ้าข้า”
หญิงสาวคนนั้นวิ่งหลบหายไปหลังพุ่มไม้ ก่อนจะมีเสียงกรีดร้องออกมาจากที่ตรงนั้น กล้าตัดสินใจทันที
“เอาเรือเทียบฝั่งเร็ว”
คนเรือยิ้มร้าย แต่กล้าไม่เห็น พอเรือถึงฝั่ง กล้าก็กระโดดลงจากเรือจะไปช่วยผู้หญิงที่เขาเห็นเมื่อครู่ คนพายเรือโดดตามลงมาด้วย แต่พอกล้าวิ่งไปด้านหลังพุ่มไม้ ก็พบเนื้อนางยืนรออยู่ กล้าอึ้งไป
“เนื้อนาง”
“ใช่”
เสียงศักดาดังเข้ามา กล้าหันขวับไปมองคนพายเรือก็เห็นว่ากำลังถอดผ้าคลุมหน้าออก เป็นศักดานั่นเอง
“ศักดา”
กล้าตะลึงงัน
ลูกน้องกล้าคนที่ถูกศักดาทำร้าย มาหาชงชางที่บ้าน ชงชางฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ตกใจมาก
“อะไรนะ ถูกลอบทำร้ายงั้นรึ”
ทั้งสองคนนั่งคุยกัน ลูกน้องกล้าหัวแตกมีเลือดไหลออกมา
“ขอรับ”
“แล้วใครเป็นคนพายเรือให้กล้า”
“ไม่ทราบขอรับ บางทีอาจจะเป็นคนที่ลอบทำร้ายกระผม”
ชงชางกังวลใจเป็นห่วงกล้า รีบเดินออกไป ลูกน้องตามไปด้วย หอมพาเอื้องฟ้าเดินเข้ามา เห็นท่าทางของชงชางก็แปลกใจ
“จะไปไหนน่ะพี่ชาญ”
“ไปหากล้า พี่จะหาจนกว่าจะเจอตัว แม้จะต้องเข้าพระนครก็ตาม”
ชงชางรีบออกไปโดยไม่ได้มองเอื้องฟ้าเลย ลูกน้องกล้ารีบตามชงชางไป หอมกังวลใจมากหันมาถามน้อย
“เกิดอะไรขึ้นกับพี่กล้าเหรอพี่น้อย”
น้อยส่ายหน้าไม่รู้
กล้ายังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม ศักดาฉวยจังหวะที่กล้ายังงงๆ อยู่ก็พุ่งเข้ามา เอามีดจี้คอ เนื้อนางรู้สึกหวั่นๆที่ทำผิด แต่ด้วยความแค้นที่มีก็พยายามข่มความรู้สึกผิดเอาไว้
“พากูไปหาไอ้บริบรรณ แล้วกูจะไว้ชีวิตมึง”
“ถุย”
ศักดากดมีดลงที่คอกล้าจนเลือดซึมออกมา
“มึงไม่มีทางเลือก ยังไงมึงก็ต้องพากูไป”
เอื้องฟ้านั่งกินขนมอยู่อย่างเอร็ดอร่อย หอมนั่งกังวล ถอนหายใจหนักๆ จนน้อยรู้สึกได้ว่าหอมมีเรื่องทุกข์ใจ
“ฉันกังวลเหลือเกินพี่น้อย เกิดอะไรขึ้นกับพี่กล้า”
“ไม่เอาน่า นี่หอมพาเด็กนั่นมาเล่นที่บ้านไม่ใช่รึ แล้วมาทำหน้าแบบนี้ให้เด็กมันไม่สบายใจอีกทำไม จะว่าไปนังหนูนี่ก็หน้าตาคุ้นๆ นะ ไม่รู้ว่าเคยเห็นที่ไหน”
หาญกับแก้วเดินเข้ามา
“ป้าน้อยแก่แล้ว เห็นใครก็คุ้นๆ ไปหมดล่ะ”
หาญกับแก้วหัวเราะสนุกกัน น้อยมองหาญดุๆ แต่ไม่จริงจังอะไร เอื้องฟ้าได้ยินเสียงหาญก็จำได้รีบหันมอง จังหวะเดียวกับที่หาญหันมองพอดี
“เธอ”
หาญรีบเข้าไปหาเอื้องฟ้าแต่เอื้องฟ้าหลบไปหาหอม เอื้องฟ้าไม่กล้ายุ่งกับหาญเพราะเนื้อนางเคยสั่งห้ามไว้ หอมและน้อยมองทั้งคู่อย่างแปลกใจ
“หาญรู้จักหนูเอื้องฟ้าด้วยรึ”
“เด็กคนนี้แหละแม่ที่หาญพาไปส่งบ้าน”
น้อยตกใจ “ตายจริง ถ้าอย่างนั้นพ่อของหนูคนนี้ก็เป็นคนทำร้ายหาญน่ะสิ”
เอื้องฟ้าหน้าสลดลง หาญมองสงสาร
“เธอก็ถูกพ่อตีเหมือนกัน”
หอมตกใจ “จริงรึ โถ ลูก ยังเด็กอยู่แท้ๆ เลย”
เอื้องฟ้าคิดถึงวันที่ถูกพ่อตีก็ร้องไห้ออกมา หอมกอดเอื้องฟ้าปลอบใจ หาญมองแล้วรู้สึกสงสารเอื้องฟ้าไปด้วย
ชงชางนั่งอยู่ในเรืออย่างร้อนใจ ลูกน้องกล้าเป็นคนพายเรือให้
“พายเร็วๆ หน่อย”
ชงชางเป็นห่วงกล้าซึ่งเป็นเพื่อนรัก เวลาเดียวกันนั้นศักดาพายเรืออยู่ กล้านั่งตรงกลาง โดยเนื้อนางนั่งประกบอยู่ด้านหน้า กล้าพยายามคิดหาหนทางไม่ให้ศักดาและเนื้อนางไปทำร้ายเจ้าพระยาบริบรรณได้ พอคิดได้ก็จับเรือเขย่าให้เรือโคลงเคลงจนเนื้อนางตกใจรีบจับเรือไว้เพราะว่ายน้ำไม่เป็น ศักดาพยายามพยุงเรือเอาไว้
“ไอ้กล้าหยุด”
กล้าไม่ยอมหยุดยังคงเขย่าเรืออยู่อย่างนั้น ศักดาโมโหจะยกไม้พายมาฟาดกล้า เป็นจังหวะเดียวกับที่เรือคว่ำลงแล้วทุกคนก็ตกน้ำไป เนื้อนางตกใจร้องเสียงดัง พยายามตะเกียกตะกาย ร้องเรียกศักดา
“พี่ศักดิ์ช่วยด้วย”
กล้ารีบว่ายน้ำขึ้นฝั่งไป ศักดากำลังตามไปแต่ได้ยินเสียงเนื้อนางร้องให้ช่วยจึงต้องกลับไปช่วยดึงเนื้อนาง เขามองไปที่ฝั่ง เห็นกล้าว่ายน้ำขึ้นฝั่งไปแล้ว ศักดาเจ็บใจพยายามดึงเนื้อนางขึ้นฝั่งไปด้วยกัน แล้วก็รีบวิ่งตามกล้าไปจนทัน ศักดากระโดดถีบกล้าจนเซล้มไป แล้วหยิบมีดขึ้นมาจะฟันกล้าแต่กล้าหลบได้ทัน แล้วเตะศักดาจนเซไป ศักดาพยุงตัวขึ้นมาใหม่แล้วพุ่งเข้าไปหากล้าอีก ทั้งคู่ต่อสู้กันอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งกล้าเสียหลักถูกศักดาเอามีดแทงเข้าที่ท้องจนมิดด้าม แล้วจะแทงซ้ำอีก เนื้อนางรีบวิ่งเข้ามา
“อย่าพี่ศักดิ์”
ศักดาชะงักไป
“ปล่อยมันไว้อย่างนี้แหละพี่ศักดิ์ ที่นี่ห่างไกลผู้คน ไม่มีคนมาช่วยมันแน่ๆ เดี๋ยวมันคงตายไปเอง เรารีบไปกันเถอะ”
“แต่เรายังไม่รู้ที่อยู่ของไอ้บริบรรณมันเลย ไอ้ขี้ข้ามันนี่มันก็ปากแข็งนัก ไม่ยอมบอกเลย”
“คงหาไม่ยากหรอกพี่ ไปถามคนในพระนครเอาก็คงได้”
ศักดายอมเก็บมีด แล้วเข้าไปหากล้าที่นอนหมดสติ กระทืบซ้ำที่แผลถูกแทง แล้วจึงเดินออกไปกับเนื้อนาง กล้านอนแน่นิ่งไป
หอมยื่นผ้าสีสวยให้เอื้องฟ้า เอื้องฟ้าลังเลไม่อยากจะรับ หาญจึงหยิบผ้าจากมือหอมมา แล้วจับมือข้างหนึ่งของเอื้องฟ้าขึ้นมา วางผ้าไว้บนมือเอื้องฟ้า
“เอาไปทำเสื้อผ้า”
เอื้องฟ้ามองหาญยิ้มๆ คิดว่าหาญคือเพื่อนที่ดีของเธอ สายเดินเข้ามา พอเห็นหาญก็ชะงักไป
“ป้าหนูมาพอดี” หอมบอก
“กลับกันเถอะ ลาแล้วเจ้าค่ะ”
สายและเอื้องฟ้าไหว้หอม แล้วพากันเดินออกไป
“เขาเป็นแม่ลูกกันป้าสาย ป้าสายอย่าบอกพ่อนะ”
“เจ้าค่ะ บ่าวจะปิดปากให้สนิทเลยเชียว”
สายกับเอื้องฟ้าเดินออกไป หาญมองเอื้องฟ้ายิ้มๆ รู้สึกถูกชะตา
กล้านอนอยู่ที่พื้นแล้วค่อยๆ ได้สติ พยายามลุกขึ้นทั้งที่ยังเจ็บแผล แล้วเดินโซเซออกไป ขณะที่ศักดาและเนื้อนางนั่งอยู่ที่เรือ ศักดาพายเรือไปเรื่อยๆ ไม่คิดจะหยุดพัก
หอม หาญและแก้วกำลังจะเดินเข้าบ้าน พลันได้ยินเสียงกล้า
“หอม”
หอมหันไปมอง ตกใจสุดขีด
“พี่กล้า”
กล้าอ่อนแรง แล้วล้มลงในที่สุด หอมรีบพาไปทำแผล กล้านอนหมดสติอยู่และทำแผลเรียบร้อยแล้ว ครู่หนึ่งกล้าก็ได้สติฟื้นขึ้นมา
“พี่กล้าฟื้นแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“พี่ถูกคนของคุณหลวงนฤบดินทร์มันทำร้ายเอา มันกำลังจะไปแก้แค้นท่านเจ้าคุณที่พระนคร”
หอมกับน้อยอึ้งไป
“แล้วนี่ชาญอยู่ไหน พี่ต้องเตือนให้มันระวังตัวไว้ให้ดี”
“พี่ชาญบอกจะไปหาพี่ อาจจะเข้าพระนคร”
“อะไรนะ พี่ต้องไปช่วยชาญ”
กล้าพยายามจะลุกขึ้น หอมร้อนใจมาก
“ฉันไปด้วย”
“ไม่ได้ มันอันตราย หอมฟังนะ พี่สัญญาว่าจะพาชาญกลับมาให้ได้ พี่สัญญา”
กล้ารีบออกไป หอมกังวลใจเป็นห่วงชงชางมากจนน้ำตาไหล น้อยต้องเข้ามาปลอบใจ
ในพระนคร ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ศักดาและเนื้อนางเดินอยู่ด้วยกัน พยายามเอาผ้าปิดหน้าก้มหน้าก้มตากลัวว่าคนจะจำได้ ชาวบ้านเดินผ่านมาพอดีศักดาจึงเรียกเอาไว้
“พี่ๆ รู้มั้ยว่าเรือนของไอ้ เอ่อ ท่านเจ้าคุณบริบรรณอยู่ที่ไหน”
“อ๋อ เรือนท่านเจ้าคุณบริบรรณเหรอ เดินไปข้างหน้าอีกพักหนึ่งก็เห็นแล้ว เรือนหลังใหญ่ๆ นั่นแหละ”
“ขอบใจจ้ะ”
เนื้อนางกับศักดาพากันไป
บ่าวในเรือนเจ้าพระยาบริบรรณกำลังทำความสะอาดกันอย่างขะมักเขม้น เนื้อนางและศักดาเข้ามาแอบอยู่มุมหนึ่ง มองไปที่บ้านเจ้าพระยาบริบรรณอย่างแค้นใจ
“ถ้าวันนั้นมันไม่ทำกับเรา เราก็คงจะได้อยู่เรือนอย่างสุขสบายเหมือนอย่างมัน มันทำให้เราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง”
“ฉันอยากจะเห็นมันตายเร็วๆ นัก”
“ใจเย็นๆ รอคืนนี้ก่อนเนื้อนาง รอให้ทุกคนเข้านอนก่อน แล้วทีนี้ เราจะเข้าไปฆ่าไอ้บริบรรณด้วยกัน”
เนื้อนางและศักดามองไปที่เรือนของเจ้าพระยาบริบรรณอย่างแค้นใจ
หอมเดินวนไปมาอย่างร้อนรนใจ เป็นห่วงชงชาง น้อยนั่งกินข้าวอยู่มองหอมแล้วก็ส่ายหน้าอ่อนใจ
“หอมเอ๊ย ใจเย็นๆ ก่อน แล้วมานั่งกินข้าวซะก่อน”
“ฉันกินอะไรไม่ลงหรอกพี่ เป็นห่วงพี่ชาญ ไม่รู้ว่าพี่กล้าจะไปตามหาพี่ชาญเจอหรือยัง พี่ เรื่องในอดีตนั่นทำไมถึงต้องตามอาฆาตล้างแค้นกันไม่จบไม่สิ้นสักทีนะ”
“ความแค้นไม่ใช่ว่ามันจะหมดไปในใจคนง่ายๆ หรอกนะหอมเอ๊ย แต่เชื่อพี่เถอะว่ายังไงๆ คุณชาญก็ต้องปลอดภัยกลับมา มากินข้าวเถอะ”
หอมส่ายหน้าไม่อยากกิน เดินไปชะเง้อรอชงชางอีก น้อยสงสาร พึมพำกับตัวเอง
“ที่เขาไม่ถูกกันไม่ใช่เพียงเพราะแค่ไม่ชอบหน้ากันเท่านั้นหรอก หอมเอ๊ย แต่ต้นเหตุมันคือคุณหนูเนื้อนางต่างหาก ถ้าเอ็งรู้ว่า ชาญกับคุณหนูเนื้อนางเคยรักกันมาก่อน เอ็งคงจะเจ็บปวดน่าดู”
น้อยมองหอมอย่างสงสาร หอมยังชะเง้อมองหาชงชาง
กลางคืน ศักดาและเนื้อนางค่อยๆ ย่องขึ้นมาบนเรือนของเจ้าพระยาบริบรรณ บ่าวคนหนึ่งออกมาจากห้องหนึ่งแล้วเดินมาทางทั้งสองคน ศักดาและเนื้อนางรีบหลบ ทำให้บ่าวไม่เห็น เดินผ่านหน้าไป เนื้อนางเห็นบนเรือนเงียบสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่
“ดูเงียบผิดวิสัยนะพี่ศักดิ์”
“ดึกขนาดนี้ ไม่มีบ่าวที่ไหนทำงานหรอกเนื้อนาง คงไปนอนกันหมด เงียบแบบนี้ก็ดี จะได้ไม่มีใครรู้ว่าเราแอบเข้ามา เราแยกกันไปหา ดูสิว่ามันจะอยู่ห้องไหน”
ทั้งสองพากันเดินออกไป เนื้อนางค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปที่ห้องหนึ่ง เห็นว่าภายในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย เธอปิดประตูลงแล้วเดินไปหาที่ห้องอื่นๆ
ศักดาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องหนึ่ง หยิบมีดขึ้นมาเตรียมใช้ทำร้ายเจ้าพระยาบริบรรณ แล้วผลักประตูเข้าไป แต่ภายในห้องว่าเปล่าไม่มีใครอยู่เลย ศักดาปิดประตูอย่างหัวเสีย
“อยู่ห้องไหนของมัน”
ศักดาหงุดหงิดใจแต่ไม่ยอมแพ้เดินไปอีกห้องหนึ่ง เปิดประตูเข้าไป เห็นภายในห้องตกแต่งหรูหรา อย่างที่น่าจะเป็นห้องของเจ้าของบ้าน
“น่าจะใช่ห้องนี้ล่ะ”
ศักดาเดินเข้าไปในห้อง เห็นผู้ชายคนหนึ่งนอนหันหลังให้ เขายิ้มเหี้ยมทันที
“ไอ้บริบรรณ”
ในขณะที่เนื้อนางปิดประตูอีกห้องหนึ่งลง แล้วเห็นศักดายืนอยู่หน้าห้องหนึ่งจึงเดินไป ศักดายืนมองเจ้าพระยาบริบรรณซึ่งนอนหันหลังอยู่อย่างแค้นใจ แล้วค่อยๆ เดินเข้ามาที่เตียง กำมีดแน่นเตรียมเข้าแทงเจ้าพระยาบริบรรณอย่างเต็มที่
“กูจะฆ่ามึงให้หายแค้น วันนี้คือวันตายของมึง ไอ้บริบรรณ”
ศักดายกมีดขึ้นจะแทงอย่างแรง แต่คนที่นอนอยู่ พลิกตัวอย่างรวดเร็วทำให้มีดพลาดไปปักที่เตียงนอนจนมิดด้าม ศักดาเจ็บใจจะชักมีดออกมาแทงอีก แต่ก็ถูกถีบออกมาจนล้มลง ศักดาเงยหน้าพยายามจะพยุงตัวลุกขึ้น มองหน้าคนที่เตะเขาแล้วก็อึ้งไป
“ไอ้ชงชาง”
“ไม่เจอกันนานเลยนะศักดา”
“มึง”
ศักดาจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกชงชางถีบจนล้มลงไปอีก เนื้อนางวิ่งเข้ามา
“พี่ศักดิ์”
เนื้อนางอึ้งเมื่อเห็นชายตรงหน้า
“ชงชาง”
อ่านต่อตอนที่ 11