แรงชัง ตอนที่ 12
ตอนเช้า ชงชางนอนหมดสติอยู่บนเตียง หอมฟุบหลับอยู่ข้างๆ เตียงไม่ยอมลุกไปไหน สักครู่ชงชางเริ่มรู้สึกตัว เห็นหอมหลับอยู่ข้างๆ ก็แปลกใจว่าหญิงสาวมาได้อย่างไร
“หอม”
หอมรู้สึกตัวตื่น พอเห็นชงชางฟื้นก็ดีใจ
“พี่ชาญ ตื่นแล้วหรือจ๊ะ พี่เป็นอย่างไรบ้าง”
“หอมมาได้ยังไง”
ชงชางพยายามขยับตัวจะลุกขึ้นนั่ง หอมรีบเข้าไปพยุง
“ฉันเป็นห่วงพี่ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นจ๊ะ ใครทำร้ายพี่กัน”
หอมกังวลใจ เป็นห่วงชงชางมาก แต่ชงชางอึกอัก ไม่กล้าตอบคำถามของหอม ขณะนั้น กล้าเพิ่งกลับมาจากหัวเมือง ยังไม่รู้เรื่องอะไร กำลังเดินขึ้นเรือน บ่าวรีบวิ่งเข้ามาหาหน้าตาตื่น
“เกิดเรื่องแล้วขอรับคุณกล้า”
กล้ามองหน้าบ่าวอย่างสงสัย ขณะที่หอมกับชงชางยังคุยกันอยู่ในห้อง
“ว่ายังไงจ๊ะพี่”
“พี่พลาดท่าคนของคุณหลวงนฤบดินทร์มัน”
“โธ่ เมื่อไหร่จะเลิกจองเวรกันก็ไม่รู้”
กล้าเดินเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วงชงชาง
“เป็นยังไงบ้างชาญ นี่ฉันไม่อยู่เพียงแค่วันเดียวมันทำร้ายแกถึงขนาดนี้เลยรึ”
หอมเดินออกจากห้องไป เดาได้ว่ากล้าอยากคุยกับชงชางตามลำพัง
“ฉันจะไปดูข้าวให้พี่นะจ๊ะ”
เมื่อประตูห้องปิดลง กล้าจึงเปิดฉากพูดทันที
“แกปล่อยเนื้อนางไปทำไม”
“ฉันขอโทษกล้า ฉันมันโง่เองที่คิดว่าการให้อภัยจะชนะความแค้นในใจของเนื้อนางและศักดาได้”
“เปล่าประโยชน์ ถ้าพวกมันไม่ผูกใจเจ็บตั้งแต่เรื่องนรอินทร์ เรื่องมันคงไม่บานปลายขนาดนี้ การล้างแค้นสำหรับพวกมันคือ การที่เราต้องตายกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น แล้วนี่เราจะทำยังไงต่อไป”
“ต้องล่อให้มันออกมาและจับตัวมันให้ได้ก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะกลับมาจากว่าราชการที่เมืองเหนือไม่อย่างนั้นทั้งสองคนจะเป็นอันตรายต่อท่านเจ้าคุณแน่ๆ”
“ไม่ใช่แค่ท่านเจ้าคุณ แต่มันรวมถึงแกด้วย หรือไม่ก็อาจจะรวมไปถึงหอมและหาญ เพราะคนอย่างไอ้ศักดาหากมันจะฆ่า มันไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น”
ชงชางเห็นด้วย และยิ่งกังวลใจมาก
เวลาต่อมา ชงชางกินข้าวอยู่บนเรือน โดยมีหอมคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ หอมหันมองไปกล้าซึ่งยืนคุยกับบ่าวอย่างเคร่งเครียดก็รู้สึกกังวลใจ
“พี่ชาญกับพี่กล้ามีแผนอะไรกันอีก เลิกแล้วต่อกันไม่ได้หรือพี่ แล้วพี่ก็กลับปากน้ำโพกับฉัน”
“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกหอม ถ้าเราปล่อยเรื่องนี้ไป ท่านเจ้าคุณจะไม่ปลอดภัย”
“แต่พี่ยังไม่หายดี”
“พี่ไม่เป็นไรแล้วหอม พี่สัญญาว่าหากจบเรื่องแล้วพี่จะกลับปากน้ำโพกับหอมทันที”
ชงชางพูดปลอบใจให้หอมเลิกกังวล แต่หอมไม่ได้รู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด กล้าแยกตัวจากบ่าวก็เข้ามาสมทบ
“ฉันสั่งบ่าวมันเรียบร้อยแล้ว ทีนี้เราก็รอเวลา”
ชงชางพยักหน้ารับรู้ แล้วกินข้าวต่อ หอมมองทั้งสองคนอย่างกังวลใจจนกินข้าวไม่ลง
เนื้อนางและศักดากำลังกินข้าวกันอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่ เนื้อนางกินข้าวไม่ลงเหมือนหอม เหม่อลอยเพราะคิดถึงชงชาง แต่ศักดาไม่ทันได้สนใจ เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าว แล้วเพื่อนศักดาก็วิ่งเข้ามา
“ศักดาโว้ย”
“อะไรวะ วิ่งหน้าตาตื่นมา”
“ข่าวดี คนในตลาดมันพูดกันให้หนาหูว่าวันพรุ่งท่านเจ้าคุณจะกลับมาจากเมืองเหนือแล้ว และพวกชาวบ้านก็เตรียมตัวไปต้อนรับด้วยนะ”
“จริงหรือวะ”
เพื่อนพยักหน้ายืนยัน ศักดามองหน้าเนื้อนาง ยิ้มอย่างมีความหวังว่าจะได้แก้แค้นเจ้าพระยาบริบรรณแล้ว
บ่าวทั้งหลายกำลังทำความสะอาดเรือนเจ้าพระยาบริบรรณอย่างขะมักเขม้นตามคำสั่งของกล้า ชงชางและกล้ามองบ่าวทำงานอย่างพอใจ แต่หอมเริ่มสงสัยจึงถามกล้า
“ทำไมอยู่ๆ ถึงสั่งให้บ่าวทำความสะอาดครั้งใหญ่แบบนี้ล่ะพี่”
“เพื่อความสมจริงยังไงล่ะ”
“หอมวางใจเถอะ ถ้าแผนการครั้งนี้สำเร็จ เราจะได้อยู่อย่างสงบสุขเสียที”
ชงชางมั่นใจ แต่หอมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ขณะนั้นเอง ศักดาและเนื้อนางแอบมองไปยังเรือนเจ้าพระยาบริบรรณ เห็นบ่าวเดินกันขวักไขว่วุ่นวายทำความสะอาดเรือนเพื่อต้อนรับใครบางคน
“ที่เรือนดูวุ่นวายขนาดนี้ สงสัยเรื่องที่เจ้าพระยาบริบรรณจะกลับมา คงจะเป็นเรื่องจริงนะพี่”
“อย่างนั้นก็ดีน่ะสิ มันจะได้ถึงเวลาของเราเสียที เอ๊ะ แล้วผู้หญิงนั่นใคร”
หอมกำลังเดินลงมาจากเรือนแล้วพูดกับบ่าวให้ช่วยกันทำความสะอาด เนื้อนางอึ้งไป จำหอมได้แล้วพึมพำกับตัวเอง
“คุณหอม มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ย”
“ดูท่าทางจะไม่ใช่คนธรรมดา ไม่อย่างนั้นบ่าวมันคงไม่นอบน้อมถึงขนาดนั้น”
ศักดามองหอมด้วยความคลางแคลงใจ เนื้อนางรู้สึกหวั่นใจกลัวว่าศักดาจะเหมารวมหอมในแผนการแก้แค้นไปด้วย
หลังกลับจากเรือนเจ้าพระยาบริบรรณ ศักดา เนื้อนาง และเพื่อนศักดา นั่งคุยกันอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่
“หรือว่าจะเป็นเมียของไอ้ท่านเจ้าคุณ”
“ไม่ใช่หรอกจ้ะ”
ศักดามองเนื้อนางอย่างสงสัยว่ารู้ได้อย่างไร เนื้อนางรีบหลบสายตา เพื่อนช่วยยืนยัน
“ไม่ใช่แน่ๆ พ่อฉันเคยบอกว่าท่านเจ้าคุณไม่มีลูกไม่มีเมีย”
“อาจจะเป็นแค่คนรู้จักแล้วเดินทางมาเยี่ยมท่านเจ้าคุณก็ได้นะพี่ ตลอดเวลาที่ฉันถูกขังอยู่ที่เรือนนั้น ฉันก็ไม่เคยเห็นคุณหอม เอ่อ ผู้หญิงคนนั้นมาก่อน”
“จะเป็นใครก็ช่าง แต่ถ้ามาขัดขวางแผนการฉันล่ะก็ ฉันไม่ยอมแน่”
ศักดาหน้าตาเอาเรื่อง จนเนื้อนางกังวลใจกลัวว่าหอมจะมีอันตราย
สายกับเอื้องฟ้าพากันเดินถือตะกร้าขนมมาขายที่ตลาด
“เมื่อไหร่พ่อกับแม่จะกลับมานะป้าสาย เอื้องคิดถึง”
“โถ คุณหนูของบ่าว พ่อแม่คุณหนูคงยังไม่เสร็จธุระน่ะเจ้าค่ะ”
“แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จล่ะจ๊ะป้าสาย”
สายส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกันว่าความแค้นของศักดาและเนื้อนางจะจบลงเมื่อใด เลยได้แต่ถอนใจกลุ้ม
เพื่อนศักดาพาเนื้อนางและศักดาเดินผ่านชาวบ้านมา เนื้อนางและศักดาพยายามหลบหน้าหลบตากลัวชาวบ้านจะจำได้
“บ้านซินแสอะไรของแกอยู่แถวนี่แน่นะ เดินมาตั้งนานแล้วเนี่ย” ศักดาถามเพื่อนอย่างหงุดหงิด
“ถึงแล้วๆ”
เพื่อนศักดาพาศักดาและเนื้อนางเดินมาถึงหน้าบ้านซินแสแต่เห็นประตูปิดสนิท
“ประตูปิดสนิทอย่างนี้ ซินแสคงไม่อยู่เรากลับกันเถอะจ้ะ”
เนื้อนางจะหันหลังกลับแต่ศักดารีบดึงไว้
“เดี๋ยวสิเนื้อนาง มาถึงที่นี่แล้วจะมาถอยหลังแบบนี้ได้ยังไง”
“เราใช้วิธีอื่นไม่ได้หรือพี่ เอาสมุนไพรพิษไปใส่ให้คนทั้งเรือนกิน แบบนี้แล้วคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องล่ะ”
“ก็ช่างมันสิ”
เนื้อนางจะเถียงแต่ศักดาไม่ฟังหันไปเคาะประตูเรียก ซินแสเปิดประตูออกมา
“พวกลื้อเป็นใคร”
พวกศักดาพากันเข้ามาคุยกับซินแสในบ้าน ถามเรื่องสมุนไพร
“สมุนไพรพิษอย่างนั้นรึ”
“ใช่ แต่ขอชนิดที่เป็นอัมพาตชั่วคราวเท่านั้นก็พอจ้ะ”
ศักดาและเพื่อนมองหน้าเนื้อนางอย่างงุนงง
“ทำไมเนื้อนาง”
“เชื่อฉันสักครั้งเถอะพี่ศักดิ์ ยังไงแผนการเราก็ไม่เสียแน่นอน”
ศักดาไม่พอใจ
“ตกลงว่าให้มีฤทธิ์เป็นแค่อัมพาตชั่วคราวเท่านั้น ว่าแต่พวกลื้อมีอะไรมาแลกเปลี่ยนล่ะ”
ซินแสมองเนื้อนางตาวาววับ หญิงสาวรู้สึกตัวก็หลบตาด้วยความอึดอัด ศักดาชักสีหน้าไม่พอใจรีบเอาเงินมาวางให้ ซินแสมองถุงเงินเล็กน้อยแล้วเมินหน้าไม่อยากได้
“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้หรือเปล่า”
ศักดาลุกพรวดขึ้นทันทีจะเอาเรื่อง เพื่อนศักดาและเนื้อนางเห็นท่าไม่ดีจึงรีบกันศักดาไว้ เพื่อนศักดารีบไปกระซิบซินแส
“รับเงินไว้เถอะ อย่าให้มันโมโห ไม่อย่างนั้นซินแสจะไม่มีวันที่จะใช้เงินอีก”
ซินแสมองหน้าศักดาที่พร้อมจะเอาเรื่องแล้วก็เลยตัดสินใจหยิบถุงเงินมาเก็บใส่กระเป๋า
“ได้ๆๆ แล้วลื้อก็มาเอาวันพรุ่งนี้แล้วกัน อั๊วต้องไปหาส่วนผสมของสมุนไพรพิษชนิดนี้ก่อน”
“ได้ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมา”
ศักดาพาเนื้อนางออกไป ซินแสมองอย่างเจ็บใจที่ไม่ได้เนื้อนาง มรขณะที่ศักดากลับมาที่กระท่อม ก็บ่นอย่างไม่พอใจ
“พี่ไม่เข้าใจ ทำไมเราไม่ให้ไอ้ซินแสนั่นปรุงยาที่มันทำให้ตายๆ กันทั้งเรือน เราจะได้เข้าไปฟันคอไอ้บริบรรณนั่นง่ายๆ ให้หายแค้นใจ ทำกับมันเหมือนที่มันทำกับพ่อแม่เรา”
“พี่ศักดิ์ แค่เราคิดจะฆ่าไอ้เจ้าคุณบริบรรณนี่ เราก็บาปมากแล้วนะ แล้วทำไมเราจะต้องให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมาตายด้วย แค่เราทำให้คนในเรือนนั้นเป็นอัมพาตชั่วคราว ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ เป็นโอกาสให้เราเข้าไปจัดการกับท่านเจ้าคุณ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว”
ศักดาไม่เห็นด้วยกับเนื้อนาง แต่ก็ไม่พูดอะไร
กลางคืน หอมยืนอยู่ที่หน้าต่างห้องนอนชงชาง ตามองออกไปไกลรู้สึกเป็นห่วงชงชาง แต่ขณะเดียวกันก็คิดถึงหาญด้วย ชงชางเดินเข้ามาหา
“หอม ยังไม่นอนอีกรึ”
“ฉันนอนไม่หลับ เป็นห่วงพี่ แล้วก็คิดถึงลูก”
“พี่ขอเวลาอีกไม่นานหรอกหอม ขอแค่ให้แน่ใจว่าท่านเจ้าคุณ และครอบครัวของเราจะปลอดภัย แล้วพี่จะรีบกลับบ้านที่ปากน้ำโพพร้อมหอมทันที”
“จ้ะพี่”
หอมซบหน้ากับอกชงชาง แต่ยังไม่คลายกังวล ชงชางเองก็กังวลใจถึงความปลอดภัยของหอมและหาญเหมือนกัน
กลางคืน เนื้อนางและศักดานอนอยู่ด้วยกัน แต่ศักดานอนไม่หลับพลิกตัวไปมาอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้นนั่ง คิดถึงเรื่องยาสมุนไพรพิษ
เขามองหน้าเนื้อนางอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหันไปหยิบมีดพกที่หัวนอน แล้วลุกขึ้นอย่างเงียบกริบ แอบย่องออกไปโดยที่เนื้อนางไม่รู้สึกตัว แล้วตรงไปหาซินแสที่บ้าน
“ไอ๊หยา ไหนว่าจะเอาแค่สมุนไพรที่ทำให้เป็นอัมพาตชั่วคราวไง แล้วทำไมมาเปลี่ยนใจตอนนี้ล่ะ”
“เรื่องของฉันเถอะ ตกลงจะเอายังไง ทำหรือไม่ทำ”
ศักดามองหน้าซินแสเอาเรื่อง หยิบมีดพกออกมาจากเอว ซินแสหน้าเสีย
“ได้ๆๆ รอเดี๋ยว ฉันจะรีบไปปรุงยาให้เดี๋ยวนี้”
ซินแสรีบเดินออกไปที่ห้องด้านหลัง สักพักก็นำถ้วยยาสมุนไพรพิษมาให้
“ยานี้จะมีฤทธิ์ร้ายแรง หากผู้ใดกินเข้าไป ไม่ช้าไม่นานมันผู้นั้นก็จะกระอักเลือดตายเลย”
ศักดามองยาสมุนไพรอย่างพอใจ
ตอนเช้า กล้ายืนรอชงชางอยู่ที่ห้องโถง สักพักชงชางก็เปิดประตูออกมาจากห้อง หอมเดินตามออกมาด้วย
“ระวังตัวกันด้วยนะคะ”
สองหนุ่มพยักหน้าแล้วพากันเดินออกไป หอมมองอย่างเป็นห่วง
ศักดาส่งถ้วยยาให้เนื้อนาง เนื้อนางเปิดถ้วยยาออกมาดูสีหน้าหวั่นๆ เพราะไม่ได้อยากทำร้ายคนอื่น
“พี่จะล่อให้พวกมันออกมาจากโรงครัวให้หมด แล้วเนื้อนางก็เอาสมุนไพรพิษนี่ไปใส่ในหม้อข้าวพวกมัน”
เนื้อนางพยักหน้ารับรู้ทั้งที่ใจยังกังวล รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของหอมเป็นที่สุด แล้วศักดากับเพื่อนก็เดินออกไป เนื้อนางค่อยๆ เดินตามไป
ศักดากับเพื่อนแอบมาที่ยุ้งข้าวของเรือนเจ้าพระยาบริบรรณ โดยถือไม้เชื้อเพลิงที่จุดไฟแล้วมาด้วย
“เฮ้ย ไอ้ศักดิ์ รีบๆ เข้าสิวะ”
“เออรู้แล้วน่า”
“หวังว่าครั้งนี้จะได้แก้แค้นไอ้บริบรรณเสียที”
ศักดาโยนไม้เชื้อเพลิงเข้าไปในยุ้งข้าว ไฟติดพรึ่บ และเริ่มลามไปยังส่วนอื่นๆ เขามองอย่างสะใจ เพื่อนรีบวิ่งเข้ามา
“รีบไปเถอะ”
ศักดากับเพื่อนรีบวิ่งออกไป ขณะนั้นบ่าวกำลังทำอาหารกันอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่โรงครัว เนื้อนางแอบมองพวกบ่าวอย่างกังวลใจกลัวว่าจะถูกจับได้ เพื่อนศักดาโพกผ้าปิดหน้าตาวิ่งเข้ามาที่โรงครัวแล้วร้องเสียงดังจนทุกคนตกใจแตกตื่น
“ไฟไหม้ยุ้งข้าวโว้ย ไปช่วยกันดับเร็ว”
บ่าวทุกคนหยุดงานที่กำลังทำ ต่างร้องตะโกน
“เฮ้ย ไฟไหม้ ไปดูเร็ว”
พวกบ่าวรีบวิ่งออกไปช่วยกันดับไฟ เนื้อนางยังหวั่นๆ ใจอยู่ ศักดาโผล่หน้าออกมาจากมุมหนึ่ง โบกไม้โบกมือให้เนื้อนางรีบเข้าไปใส่ยาสมุนไพรพิษ เนื้อนางยืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจทำตามที่ศักดาบอก รีบวิ่งไปที่โรงครัว เห็นหม้อแกงตั้งอยู่บนเตา เนื้อนางจะใส่สมุนไพรพิษแต่ก็ชะงักเมื่อคิดถึงหอม นึกถึงตอนที่หอมช่วยเอื้องฟ้าเมื่อครั้งเป็นลมและพาไปส่งโรงหมอ เนื้อนางชั่งใจ ศักดายิ่งร้อนใจ
“เร็วสิเนื้อนาง มัวทำอะไรอยู่”
เนื้อนางไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมทำตามคำสั่งของศักดา แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงหอมอยู่
“สมุนไพรพิษนี้มีฤทธิ์แค่เป็นอัมพาตชั่วคราว คุณหอมไม่ต้องกลัวนะเจ้าคะ เพียงแค่หนึ่งชั่วยามก็จะกลับเป็นปกติ”
เนื้อนางเทสมุนไพรพิษจนหมดถ้วย แล้วรีบวิ่งออกไปกับศักดา แอบมองผลงานอยู่ที่มุมหนึ่ง บรรดาบ่าวเดินกลับมาอย่างเหนื่อยๆ เพราะเพิ่งไปช่วยกันดับไฟมา
“เฮ้อ ร้อยวันพันปีไม่ยักกะไหม้ ทำไมอยู่ๆ ก็มาไหม้วันนี้ ข้าล่ะเหนื่อยจริงจริ๊ง”
บ่าวเดินกลับไปที่หม้อแกง หยิบทัพพีมาคนลงไปในหม้อ และหยิบชามมาตักแกงใส่ วางไว้ในถาดสำรับ
เวลาต่อมา บ่าวถือสำรับอาหารขึ้นมาบนเรือน หอมเดินออกจากห้องมาพอดีอย่างรีบเร่งและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะดูบ่าววุ่นวายกันไปหมด
“เกิดอะไรขึ้นรึ ทำไมดูวุ่นวายไปหมด”
บ่าววางสำรับอาหารแล้วจัดขึ้นโต๊ะ
“ไฟไหม้ที่ยุ้งข้าวเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ดับไฟได้หมดแล้ว”
“ตายจริง แล้วมีใครเป็นอะไรมั้ย”
“ไม่มีเจ้าค่ะ คุณหอมกินข้าวเถอะเจ้าค่ะ”
หอมเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวอย่างเบื่อหน่าย กินข้าวไม่ลงเพราะเป็นห่วงชงชาง บ่าวมองอย่างเข้าใจ
“กินสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ เกิดเป็นลมเป็นแล้งลงไปจะแย่”
หอมพยักหน้ารับรู้ กินแกงถ้วยนั้นโดยไม่รู้เลยว่ามีสมุนไพรพิษอยู่ด้วย
ภายในป่า ทางผ่านบ้านเจ้าพระยาบริบรรณ ชงชางเดินนำกล้าและบ่าวถือตะข่ายและเชือกเพื่อมาสร้างตะข่ายไว้ดักจับศักดา
“เอาตรงนี้ละ ถ้าศักดามันมาทางเท้ายังไงก็ต้องผ่านตรงนี้แน่”
กล้าเห็นด้วย ชงชาบอกให้บ่าวลงมือผูกตะข่ายกับต้นไม้ใหญ่
ที่โรงครัว บรรดาบ่าวกำลังทำงานของตัวเองกันอยู่ ครู่หนึ่งบ่าวหญิงก็ถือสำรับอาหารเข้ามาวางอย่างเซ็งๆ
“เฮ้อ คุณหอมเธอกินอะไรไม่ค่อยลงเลย นี่ก็พร่องไปนิดเดียวเอง”
บ่าวคนอื่นๆ ก็เซ็งๆ ไปด้วย แล้วบ่าวชาย 2 คนที่เพิ่งไปหาไม้ฟืนมาก็เดินเข้ามาอย่างคนหิวโซ รีบเปิดสำรับอาหารของหอม
“หิวๆๆ ไหนมีอะไรกินบ้าง”
“เฮ้ยๆๆ นี่มันสำรับคุณหอมนะเว้ย”
บ่าวชายตักข้าวเข้ามา 2 จานก็รีบส่งให้เพื่อนจานหนึ่ง
“โธ่ ป้า คุณหอมเธอไม่กินแล้ว เราเป็นขี้ข้ากินของเหลือนายไม่เป็นไรหรอก รึถ้าป้างกนัก ฉันไปตักใหม่ก็ได้”
“เออๆๆ ไอ้นี่ตะกละจริงๆ”
บ่าวชายทั้งสองตักอาหารในสำรับมากินอย่างเอร็ดอร่อย ตักแกงกินหมดถ้วย แล้วถือชามไปหาแม่ครัวอีก
“แกงนี่อร่อยจริงๆ ขออีกถ้วยสิป้า”
แม่ครัวรีบตักให้ แล้วบ่าวชายก็ถือถ้วยเดินมาจะนั่งกินต่อ แต่จู่ๆ ก็รู้สึกแน่นอกพะอืดพะอม ปล่อยถ้วยแกงหล่นจากมือ รู้สึกร้อนในคออยากอาเจียนจนล้มตึงลง บ่าวคนอื่นตกใจร้องลั่น รีบวิ่งมาดู
“เอ็งเป็นอะไรวะ”
ขาดคำบ่าวชายก็อาเจียนสำลักเลือดออกมาทั้งทางปากและจมูก และนอนนิ่งขยับตัวไม่ได้แม้ข้างในจะรุ่มร้อนทรมาน มือและเท้าเกร็งไปหมด ตาเหลือก สำลักเลือดออกมาไม่หยุดแล้วแน่นิ่งไป แต่ตาไม่ปิด ทุกคนต่างตกใจ บ่าวชายอีกคนเขย่าตัวเพื่อน
“เฮ้ย อย่าเป็นอะไรนะ”
บ่าวชายเห็นเพื่อนนิ่งไป ก็ค่อยๆ เอามือไปอังที่จมูก แล้วผงะไป
“เฮ้ย มันตายแล้ว”
บ่าวคนอื่นๆ อึ้งไป เนื้อนาง ศักดาและเพื่อนศักดาแอบมองอยู่ เนื้อนางเห็นบ่าวตายก็ช็อค แต่พอหันไปเห็นศักดากลับเห็นว่าศักดายิ้มสะใจอยู่ ไม่ได้มีอาการสะทกสะท้านอะไร เนื้อนางจึงเริ่มเอะใจ
“มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไงพี่ศักดิ์”
ศักดาไม่ตอบ แต่หัวเราะชอบใจและรีบหลบออกไปจากโรงครัว เนื้อนางและเพื่อนศักดารีบตามไป
ขณะที่หอมนั่งรอชงชางอยู่บนเรือน แต่หน้าตาซีดเซียวและเหงื่อออกตามตัวมากผิดปกติ บ่าวสังเกตอาการหอมแล้วมองหน้ากันอย่างกังวลใจ กลัวหอมจะเป็นอะไร แล้วบ่าวคนหนึ่งก็คลานเข้ามาหาหอมถามไถ่อาการอย่างเป็นห่วง
“คุณหอมเป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ”
“ฉันรู้สึกเหนื่อยๆ ไม่มีแรงยังไงไม่รู้”
“งั้นไปนอนพักก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
บ่าวเข้ามาช่วยพยุงหอมพากันเดินเข้าห้องไป
เนื้อนางกับศักดา คุยกันในกระท่อมท้ายไร่ เนื้อนางโมโหมาก
“อะไรนะ พี่ไปสั่งเปลี่ยนยากับซินแส พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไง ไหนเราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว คนของไอ้บริบรรณไม่ว่ามันจะเป็นใคร มันก็เกี่ยวข้องด้วยทั้งนั้นแหละ”
เพื่อนศักดารีบมาบอกข่าวเรื่องในเรือนของเจ้าพระยาบริบรรณ
“ดูเหมือนว่าบ่าวในเรือนนั้นที่กินสมุนไพรพิษของเราไปจะค่อยๆ ล้มตายไปทีละคน แต่ผู้หญิงคนที่อยู่บนเรือนนั่นอาการไม่ค่อยจะดีแต่ก็ยังไม่ถึงกับตาย”
เนื้อนางตกใจ
“คงจะรับพิษเข้าไปไม่มากน่ะสิ แต่ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงมันก็คงไม่มีแรงลุกออกมาขัดขวางแผนการฉันแน่ๆ ต่อจากนี้พวกเราก็แค่รอเวลาจัดการกับไอ้บริบรรณอย่างเดียว”
ศักดากับเพื่อนออกไป เนื้อนางกังวลใจทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเป็นห่วงหอมและสงสารคนที่ไม่เกี่ยวข้องแต่ต้องมารับเคราะห์ไปด้วยอย่างที่สุด
เนื้อนางตัดสินใจมาที่บ้านซินแสอีกครั้ง ซินแสเห็นเนื้อนางก็ยิ้มตาวาว เนื้อนางรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แต่พยายามข่มความกลัว เดินเข้าไปในบ้าน ถามเรื่องสมุนไพร
“คนที่ได้รับพิษเข้าไม่มาก ก็อาจจะไม่ถึงกับตายหรอก แต่ก็จะมีอาการอ่อนแรง และมันก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะตาย”
เนื้อนางตกใจ “แล้วมีทางรักษาให้หายมั้ยซินแส”
ซินแสมองเนื้อนางอย่างมีแผนการ
“มี ถ้าคนๆ นั้นได้ยาถอนพิษทันเวลา”
เนื้อนางเริ่มมีหวัง “ฉันอยากได้ยาถอนพิษ ซินแสปรุงยาให้ฉันได้มั้ย”
ซินแสมองเนื้อนางสายตาวาววับ
“ได้สิ ถ้ามีอะไรมาแลกเปลี่ยน”
เนื้อนางอึ้งไป กังวลว่าจะต้องตกเป็นของซินแส
ศักดากับเพื่อนคุยกันอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่
“เอายังไงดี เมียเอ็งหายไปไหนก็ไม่รู้ นี่ชาวบ้านก็ออกไปเตรียมต้อนรับท่านเจ้าคุณที่ท่าน้ำกันแล้ว”
“ฉันไม่รอเนื้อนางแล้ว ฉันจะบุกไปที่เรือนของไอ้บริบรรณเลย ป่านนี้บ่าวของพวกมันคงจะออกมาเตรียมต้อนรับมันกลับมา คงจะหาทางขึ้นเรือนไปดักรอฆ่ามันได้ง่ายๆ ไป”
ศักดาออกไปกับเพื่อนทันที ขณะที่เนื้อนางอยู่ที่บ้านซินแส ว้าวุ่นใจ รู้ว่าของแลกเปลี่ยนกับยาถอนพิษที่ซินแสอยากได้ก็คือตัวเธอ
“ว่ายังไงล่ะ ลื้ออยากได้ยาถอนพิษนี้ไม่ใช่รึ”
ซินแสหยิบยาถอนพิษออกมาชูให้เนื้อนางดู เนื้อนางจะคว้า แต่ซินแสเบี่ยงหลบ
“ว่ายังไง”
“ก็ได้”
ซินแสยิ้ม เก็บถ้วยยาวางไว้ แล้วเดินเข้ามาหาเนื้อนางสายตาหื่นกระหาย เนื้อนางถอยหลังด้วยความกลัวแต่ซินแสก็รีบเข้ามากระชากหญิงสาวจะจูบให้ได้ เนื้อนางรีบเบี่ยงหลบเป็นพัลวัน แล้วชักมีดพกออกมาจากเอว แพงไหล่ซินแสเข้าอย่างจัง ซินแสร้องลั่นปล่อยเนื้อนางทันที เนื้อนางถีบซินแสกระเด็นแล้วฉวยหยิบถ้วยยา วิ่งออกไป
ชงชางและกล้ายืนรอบ่าวให้สร้างตาข่ายดักจับศักดาอยู่ สักครู่บ่าวคนหนึ่งก็เดินเข้ามารายงาน
“เรียบร้อยแล้วขอรับ”
กล้าได้ยินเสียงคนวิ่งมา “มีคนมา อาจจะเป็นพวกศักดาก็ได้”
“หลบก่อน”
ทุกคนวิ่งเข้าไปหลบหลังต้นไม้ เนื้อนางวิ่งเข้ามาพอดี เท้าสะดุดกับรากต้นไม้ใหญ่จนล้มลง ตาข่ายตกลงมาคลุมตัวจนมิด เนื้อนางตกใจร้องลั่น ชงชางกับพวกเดินออกมา เนื้อนางพยายามจะออกจากตาข่ายให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ ชงชางเห็นเนื้อนางก็อึ้งไป
“เนื้อนาง”
เนื้อนางมองชงชางหน้าถอดสี กลัวว่าจะถูกจับไปขังอีก
เวลาเดียวกันนั้น ศักดาและเพื่อนกำลังลอบขึ้นมาบนเรือนของเจ้าพระยาบริบรรณ บ่าวหญิงเดินออกมาจากห้องหอมพอดี
“ใครน่ะ”
บ่าวเห็นเป็นคนแปลกหน้าก็ร้องโวยวายขึ้น
“มีคนแปลกหน้าขึ้นเรือนมา ช่วยจับเร็ว”
ศักดารีบวิ่งเข้ามาปิดปากบ่าว ลากออกไป บ่าวตื่นกลัวมาก
“อย่าทำอะไรฉันเลย”
“ไอ้บริบรรณมันมาแล้วใช่มั้ย อยู่ไหน”
“ไม่รู้”
“บอกมา”
“ไม่มีท่านเจ้าคุณ”
ศักดาอึ้งไป มองหน้าเพื่อน รู้ทันทีว่าถูกหลอก เขาเจ็บใจมากจะฟันบ่าวระบายอารมณ์แต่บ่าวร้องสุดเสียงก่อนสลบไป ศักดาจึงไม่ทำอะไรแต่ยังเจ็บใจไม่หาย เพื่อนหันมาถาม
“เอายังไงต่อ”
“มาถึงที่นี่แล้วฉันไม่ยอมเสียเวลาเปล่าแน่”
ศักดามองไปที่ห้องหอม
เนื้อนางหลุดออกจากตาข่ายมาแล้ว แต่ถูกบ่าวยืนคุมตัวอยู่ ชงชางเค้นถาม
“ว่ายังไงเนื้อนาง ศักดาอยู่ไหน”
เนื้อนางไม่ยอมตอบ ทั้งๆ ที่รู้ว่าศักดาอาจจะอยู่ที่เรือนของเจ้าพระยาบริบรรณแล้ว
“หรือว่าศักดามันจะรู้แผนเราแล้วส่งเนื้อนางมาเป็นตัวล่อ” กล้าท้วง
“ถ้าอย่างนั้นที่เรือนตอนนี้ กล้า แกเฝ้าทางนี้ไว้ แล้วฉันจะกลับไปที่เรือน พาเนื้อนางไปขังไว้เหมือนเดิม ครั้งนี้จะไม่มีการโอนอ่อนอีกต่อไป”
ชงชางสั่งบ่าวเสียงเข้ม ก่อนจะรีบวิ่งออกไปเพราะเป็นห่วงหอม บ่าวสองคนพาตัวเนื้อนางเดินตามไป กล้ากังวลใจเป็นห่วงหอมเหมือนกัน
หอมนอนหลับอยู่บนเตียง หน้าซีดเซียวอ่อนเพลียมาก ขณะนั้นศักดาเปิดประตูเข้ามา หอมรู้สึกตัวมองอย่างตื่นตระหนกที่คนแปลกหน้าเข้ามาในห้อง แต่ไม่มีแรงจะขยับตัวลุก ศักดามองอย่างเวทนา
“ฮึ ท่าทางจะกินเข้าไปไม่มากล่ะสิ ถึงต้องมานอนทรมานอยู่แบบนี้ เสียดายนะ เลยยังไม่ตายตามบ่าวของแกไป”
“แกเป็นใคร”
“อยู่ที่เรือนนี้ก็น่าจะรู้ไม่ใช่รึว่าไอ้บริบรรณมันมีศัตรูคือใคร”
หอมตกใจเดาได้ว่าศักดาคือคนของคุณหลวงนฤบดินทร์ที่ชงชางเคยบอก
“ถึงแม้วันนี้จะมาตัดหัวไอ้บริบรรณไม่ได้ แต่ถ้าคนสนิทของมันตายก็คงจะสนุกน่าดู”
หอมพยายามจะขยับตัวหนีศักดาแต่ก็ไม่มีแรงลุก ศักดาแสยะยิ้ม เอาปลายดาบชี้ที่คางหอม
“ถ้าตายวันนี้ก็จะได้ไม่ต้องทรมานอีกไงล่ะ”
ศักดาหัวเราะชอบใจ ยกดาบจะฟันหอม ทันใดนั้น ชงชางวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วถีบเพื่อนศักดาจน
เซไปชนศักดาเสียหลัก ศักดาลุกขึ้นมาจะสู้ แต่ชงชางเอาดาบกั้นไว้
“หยุดนะศักดา ถ้าไม่อยากให้เมียแกตาย”
“หมายความว่ายังไง”
“ตอนนี้เมียของแกอยู่กับคนของฉัน”
“แกไม่กล้าฆ่าเมียฉันหรอก ฉันรู้”
“ทำไมแกถึงนึกว่าฉันจะไม่กล้า”
“มึง ไอ้ชงชาง”
ศักดาจะพุ่งไปหาชงชางแต่ถูกชงชางถีบกลับมาแล้วจะเข้ามาฟันซ้ำ ศักดายกดาบขึ้นรับไว้ ชงชางเลยเสียหลัก ดาบในมือเบี่ยงไปฟันโดนแขนเพื่อนศักดา ศักดาเห็นได้จังหวะก็รีบวิ่งหนีออกไป เพื่อนศักดาต้องเอาตัวรอดจึงถีบชงชางจนเสียหลักแล้วรีบวิ่งออกไป ชงชางรีบเข้าไปดูหอม
“เป็นอย่างไรบ้างหอม”
หอมนอนร้องไห้ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ ชงชางมองอาการของหอมอย่างแปลกใจ
“หอม นี่หอมเป็นอะไร ทำไมขยับตัวไม่ได้”
ชงชางเป็นห่วงหอมมาก ขณะนั้นศักดาวิ่งหนีชงชางออกมา เป็นขังหวะที่เนื้อนางถูกบ่าว 2 คนพาขึ้นมาที่เรือน จะพาไปขัง ศักดาเห็นเนื้อนางก็รีบวิ่งเข้าไปช่วย เอาดาบฟันบ่าวทั้งสองคนจนต้องปล่อยเนื้อนาง แล้วเขาก็รีบพาเนื้อนางวิ่งหนีไป เพื่อนศักดารีบวิ่งตามไป บ่าวพยายามจะลุกตามไป แต่ชงชางวิ่งเข้ามาพอดี
“ไม่ต้องตามไป ไปตามหมอมาก่อน เร็ว”
ชงชางรีบเข้าไปหาหอมในห้อง บ่าวรีบไปทำตามคำสั่ง
ศักดา เนื้อนาง และเพื่อนศักดา คุยกับอยู่ในกระท่อม ศักดาอารมณ์เสียอย่างมาก
“พลาดท่ามันจนได้ แล้วเนื้อนางไปถูกมันจับได้ยังไง”
เนื้อนางอึกอัก “ฉัน ฉันรอไม่ไหว อยากจะไปแก้แค้นมันเร็วๆ ในเมื่อบ่าวในบ้านมันกินยาพิษจนตายไปแล้ว ฉันก็กลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นศพแล้วรู้เรื่องเสียก่อนแล้วเราจะเข้าไม่ถึงตัวไอ้ท่านเจ้าคุณบริบรรณน่ะสิ”
ศักดามองเนื้อนางอย่างจับผิด แต่เนื้อนางพยายามหลบตา แล้วกำยาถอนพิษที่ซ่อนเหน็บเอาไว้
ใต้ผ้าแน่น กลัวศักดาจะเห็น
หอมนอนนิ่งอยู่บนเตียง กล้าและชงชางนั่งอยู่ใกล้ๆ เครียดมาก
“จะเป็นอัมพาตอย่างกะทันหันอย่างนี้ได้ยังไง หอมไม่เคยป่วยหนักมาก่อนเลย” ชงชางแปลกใจ
“ฉันว่าต้องเป็นฝีมือไอ้ศักดาอีกนั่นแหละ บ่าวในบ้านก็ตายไปหลายคน อาเจียนออกมาเป็นเลือดเหมือนคนถูกยาพิษ”
“ฉันจะทำยังไงดีกล้า หมอก็รักษาให้หายขาดไม่ได้ ฉันสงสารหอมจริงๆ ที่ต้องมาเดือดร้อนไปด้วย”
ชงชางกังวลใจมาก
ที่บ้านปากน้ำโพ หาญและแก้วเปิดประตูห้องออกมามองซ้ายมองขวาหาน้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร ทั้งสองคนก็รีบวิ่งออกมาจากห้องแล้วจะลงบันไดไป
“จะไปไหนอีก”
เสียงน้อยดังขึ้น หาญและแก้วชะงักทันที เห็นน้อยยืนอยู่กับด้วงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หาญยิ้มประจบ เข้าไปกอดน้อย
“ป้าน้อย หาญขอไปเที่ยวเล่นที่คณะละครนะขอรับ”
“เราสัญญาขอรับว่าจะไม่กลับมืดค่ำ นะขอรับ” แก้วช่วยพูด
หาญทำหน้าเศร้า “เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมาแล้ว หาญก็คงไม่ได้ไปที่คณะละครนั่นอีก”
น้อยมองหาญ ยิ้มรู้ทัน “ถึงพ่อชาญของหาญจะกลับมา หาญก็ต้องหาทางแอบหนีไปได้อีกนั่นแหละ เอาเถอะๆ ป้าจะให้ไป”
“เย้”
เด็กน้อยทั้งสองส่งเสียงดีใจ
“แต่ ต้องให้ด้วงไปด้วยนะ”
น้อยสั่ง ด้วงยิ้มเสนอหน้า หาญกับแก้วเซ็งไปทันที ก่อนจะออกจากบ้านไปที่ตลาด เพื่อไปหาน้อยกับเอื้องฟ้า ที่ขายขนมอยู่
“เอื้อง”
“คุณหาญ”
“จะมาช่วยอิฉันขายขนมอีกรึเจ้าคะ” สายถาม
“เปล่า จะมาชวนเอื้องไปเล่นต่างหาก เอื้องไปดูละครกับฉันมั้ย”
เอื้องฟ้าสนใจ แต่พอคิดว่าจะต้องช่วยสายขายขนมก็หน้าสลดลง สายรู้ทัน
“ไปเถอะ เดี๋ยวป้าขายเอง”
“ไปเถอะเอื้อง ป้าของเธออนุญาตแล้ว” แก้วชวนอีก
สายพยักหน้าให้เอื้องฟ้าอีกครั้ง เอื้องฟ้าออกไปกับหาญ สายมองเอื้องฟ้าแล้วสงสาร
“เมื่อไหร่คุณหนูของบ่าวจะได้กลับไปอยู่อย่างสุขสบายเหมือนเดิมนะ”
สายน้ำตาซึม
ภายในกระท่อมท้ายไร่ เนื้อนางหยิบยาถอนพิษออกกมาแล้วจะรีบไปหาหอมที่เรือนเจ้าพระยาบริบรรณแต่ศักดาเดินเข้ามาในกระท่อมพอดี เนื้อนางรีบแอบถ้วยยาถอนพิษไว้ด้านหลัง ศักดามองอย่างสงสัย
“จะไปไหนอีกเนื้อนาง เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ ป่านนี้พวกมันคงให้คนตามล่าเราแล้ว”
“ฉันร้อนใจ อยากให้เรื่องมันจบเร็วๆ ฉันคิดถึงลูก”
“ทนอีกหน่อยก็แล้วกัน”
ศักดาเดินไปล้มตัวนอน เนื้อนางมองยาถอนพิษในมืออย่างกังวลกลัวว่าถ้าให้ยาถอนพิษแก่หอมช้าไปอาจจะไม่ทันการ
เวลานั้น หอมนอนนิ่งอยู่บนเตียง ชงชางพยายามประคองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วป้อนยาให้
“ทนหน่อยนะหอม ถึงแม้ยาหมอจะไม่ทำให้หอมหายขาดจากอาการนี้ แต่อย่างน้อยอาการก็อาจจะดีขึ้น”
ชงชางป้อนยาให้หอมเสร็จก็จับหอมนอนลงตามเดิม และยังนั่งเฝ้าอยู่ไม่ลุกไปไหน
สายเก็บตะกร้าขนมที่ขายหมดแล้ว หาญพาเอื้องฟ้าเดินเข้ามาอย่างมีความสุข แก้วกับด้วงก็ตามมาด้วย
“กลับมากันแล้วรึ เป็นยังไงละครสนุกมั้ย”
“สนุกจ้ะ” เอื้องฟ้ามีความสุขมาก
ด้วงหันมาพูดกับหาญ “กลับเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวเย็นกว่านี้แล้วคุณน้อยจะดุเอานะเจ้าคะ”
“ฉันกลับก่อนนะเอื้อง แล้วจะพาไปเที่ยวใหม่”
เอื้องฟ้ายิ้มให้ หาญ แก้วและด้วงกลับไป เอื้องฟ้ายิ้มมีความสุข
“หาญเป็นคนดีจริงๆ นะป้าสาย”
สายพยักหน้าเห็นด้วย
กลางคืน ศักดานอนหลับสนิทแต่เนื้อนางนอนลืมตาโพลงอยู่ แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบๆ ไม่ให้ศักดารู้สึกตัว เธอเปิดลิ้นชักหยิบยาถอนพิษที่ซ่อนเอาไว้ออกมา เห็นศักดายังนอนหลับสนิทอยู่จึงหยิบผ้าคลุมไหล่มาแล้วรีบหนีออกไปที่บ้านเจ้าพระยาบริบรรณ ด้อมๆ มองๆ หาทางเข้าไปในเรือน เห็นมีบ่าวชายยืนเฝ้าอยู่ 2 คน เนื้อนางชั่งใจคิดไม่ตกว่าจะหาทางเข้าไปอย่างไรดี แล้วนึกบางอย่างขึ้นได้จึงรีบเอาผ้าคลุมไหล่คลุมหน้ามิดชิด วิ่งผ่านไปอีกฝากหนึ่งอย่างรวดเร็ว บ่าวเห็นคนวิ่งผ่านไปก็แปลกใจ
“ใครวะ”
บ่าวรีบวิ่งตามไปดู กล้ากับชาญนั่งคุยกันแต่พอได้ยินเสียงบ่าวก็แปลกใจ รีบลุกออกไปดู เนื้อนางแอบอยู่หลังพุ่มไม้ ถือท่อนไม้อยู่อันหนึ่ง บ่าววิ่งเข้ามาดูว่าเป็นใคร เนื้อนางเดินย่องเงียบอ้อมหลังมาอีกทางแล้วฟาดท่อนไม้เข้าที่หน้าบ่าวอย่างแรงจนล้มลง แล้วเธอก็รีบทิ้งไม้ลง รู้สึกผิดอย่างมาก
“ขอโทษนะจ๊ะ”
เนื้อนางวิ่งขึ้นเรือนไปแต่ต้องชะงัก เมื่อเห็นชงชางและกล้าเดินลงมาจากเรือนพอดี ชงชางรีบถามบ่าวอีกคน
“มีอะไร”
“เหมือนเห็นคนวิ่งอยู่ข้างเรือนขอรับ”
“หาตัวให้เจอ” กล้าสั่ง
“ขอรับ”
ชงชางและกล้าคิดว่าอาจจะเป็นศักดาจึงช่วยออกตามหาอีกแรง เนื้อนางกลัวถูกจับได้จึงรีบวิ่งไปอีกทาง แล้วลอบเข้ามาทางประตูด้านหลังเรือน เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร จึงวิ่งไปเปิดห้องโน้นห้องนี้หาหอม จนมาเจอหอมนอนนิ่งอยู่บนเตียงในห้องหนึ่ง เนื้อนางมองหอมอย่างรู้สึกผิด
“คุณหอม”
หอมลืมตาขึ้น เห็นเนื้อนางก็แปลกใจว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เนื้อนางไม่รอช้ารีบจับหอมให้ลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบยาถอนพิษออกมาใส่ปากหอม
“กินหน่อยนะเจ้าคะ จะได้ถอนพิษออกมาให้หมด”
หอมพยายามอ้าปากกินแล้วกลืนลงไป ครู่หนึ่งก็รู้สึกคลื่นไส้จะอาเจียน เนื้อนางรีบหยิบโถมาถือให้หอมอาเจียน พิษสีดำออกมาได้ทันเวลาพอดี เนื้อนางจับหอมให้นอนลงตามเดิม และวางถ้วยยาถอนพิษเอาไว้ให้
“คุณหอมเอาไว้ทานนะเจ้าคะ ยานี่จะทำให้คุณหอมหายเป็นปกติได้เจ้าค่ะ”
หอมพยายามอ้าปากจะพูดขอบใจเนื้อนางแต่ยังพูดไม่ออก เนื้อนางเห็นท่าทางของหอมก็พอจะเดาออก
“คุณหอมไม่ต้องขอบใจอิฉันหรอกเจ้าค่ะ คุณหอมคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตลูกเอื้องฟ้า ดิฉันจะไม่ทำร้ายคุณหอมเด็ดขาด แต่คุณหอมอย่าบอกใครนะเจ้าคะว่าได้ยานี่มาจากดิฉัน ดิฉันไม่อยากให้ใครรู้ นะเจ้าคะ สัญญานะเจ้าคะ”
หอมพยายามจะพยักหน้าให้เนื้อนางรับรู้ เนื้อนางจึงเบาใจ มั่นใจว่าหอมต้องรักษาสัญญา
“อิฉันต้องไปแล้ว”
เนื้อนางจะลุกไป แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ถึงประตู ขณะนั้นชงชางกับกล้าเดินคุยกันเข้ามา
“บ่าวมันคงจะตาฝาดน่ะ เราคอยดักจับศักดาอยู่แบบนี้มันคงจะยังไม่กล้าเข้ามาหรอก”
“ใช่ งั้นฉันไปนอนก็แล้วกัน”
กล้าเดินแยกไป ชงชางเดินมาถึงหน้าประตูห้องนอนตัวเอง กำลังจะผลักประตูเข้าไป เนื้อนางได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
อ่านต่อตอนที่ 13