แรงชัง ตอนที่ 11
กล้าและบ่าวอยู่บริเวณหน้าเรือนเจ้าพระยาบริบรรณ รอจังหวะเข้าไปช่วยชงชางอย่างกระวนกระวาย ครู่หนึ่งบ่าวคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“มันมากันแล้วขอรับ”
กล้าไม่รอช้า กระชับดาบในมือแล้วรีบเดินออกไป บ่าวทุกคนรีบตามไปด้วย
ชงชางยืนอยู่ตรงหน้าเนื้อนางและศักดาที่กำลังอึ้งเพราะเห็นชงชางอยู่ตรงนั้นแทนที่จะเป็นเจ้าพระยาบริบรรณ เนื้อนางพยุงตัวศักดาขึ้นมา
“มึงมาอยู่ที่บ้านไอ้บริบรรณนี่ได้ยังไง”
“นั่นมันไม่สำคัญเท่ากับแกมาลอบทำร้ายท่านเจ้าคุณทำไม”
“ชงชางรู้ว่าเราจะมาที่นี่”
เนื้อนางถามอย่างแปลกใจ จังหวะนั้นกล้าเดินเข้ามา
“ใช่ แล้วเราก็จะจับพวกแกส่งทางการด้วย”
ทุกคนหันขวับไปมอง เห็นว่ากล้าพาพวกบ่าวเข้ามา
“จับมันให้ได้ทั้งสองคน”
บ่าวทั้งหมดรายล้อมเข้าไปเกือบถึงตัวศักดา แต่ศักดาตวัดดาบฟันบ่าวคนหนึ่งก่อน ทำให้บ่าวคนอื่นๆ ระวังตัวมากขึ้น เนื้อนางหวาดกลัวเกาะศักดาอยู่ด้านหลังไม่ยอมปล่อย
“หนีก่อนเถอะพี่ศักดิ์ พวกมันเยอะแบบนี้เราไม่รอดแน่”
ศักดาพาเนื้อนางวิ่งไปทางประตู แต่ก็ถูกกล้าดักเอาไว้ จะวิ่งหนีไปทางอื่นพวกบ่าวก็ยืนขวางทางทำให้หนีไปไหนไม่ได้ แล้วชงชางก็เดินเข้ามาหาศักดา
“ยอมให้จับเสียดีๆ เถอะศักดา ยังไงแกก็หนีไม่พ้น”
ศักดาไม่ยอมจำนนและพยายามคิดหาทางหนี เขาตัดสินใจเหวี่ยงเนื้อนางไปให้ชงชางอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจ แล้วศักดาก็อาศัยจังหวะนั้นถีบกล้าจนกระเด็นไปให้พ้นทางประตู แล้วรีบวิ่งออกไป
“จับมันให้ได้”
กล้ารีบวิ่งตามศักดาออกไป บ่าวก็ตามไปด้วย ส่วนเนื้อนางยืนอึ้งอยู่ในอ้อมกอดของชงชาง ไม่คิดว่าศักดาจะปล่อยเธอทิ้งไว้อย่างนี้ ชงชางมองสงสารเนื้อนาง แต่ต้องตัดใจหันไปสั่งบ่าว
“เฝ้าเอาไว้ให้ดี อย่าให้หนีไปได้”
“ขอรับ”
ชงชางรีบตามออกไปช่วยกล้า ปล่อยในเนื้อนางยืนอึ้ง หมดแรง น้ำตาร่วงเพราะรู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้องการของใครๆ ทั้งศักดา และชงชางคนที่เธอรัก
ศักดาพยายามหาทางหนีจึงวิ่งไปทางลงเรือน แต่มีบ่าวที่ตามมาวิ่งเข้ามาดักหน้าเสียก่อน ทำให้เขาต้องถอยหนีไปอีกทาง แต่ก็ต้องชะงักเพราะกล้ายืนอยู่ข้างหน้า ศักดารีบตั้งดาบป้องกันตัว
“ยอมซะเถอะศักดา ยังไงเมียแกก็ถูกจับแล้ว”
“ไม่”
ศักดาพยายามสอดส่ายสายตาหาทางหนี กล้าได้จังหวะจึงส่งสัญญาณให้บ่าวเข้ามาจับตัวศักดา แต่ศักดาไหวตัวทันตวัดดาบไปโดนบ่าวพวกนั้นแล้วจึงเกิดการต่อสู้กัน กล้ารีบเข้ามาช่วย ศักดาสู้กำลังที่มากกว่าไม่ไหวจึงถูกดาบของกล้าฟันแขนจนเสียหลัก แต่เขาก็พยายามพยุงตัวขึ้นมาได้แล้วสู้ต่อ คราวนี้กล้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบและล้มลงบ้าง ศักดาได้โอกาสจะแทงกล้าแต่ชงชางวิ่งเข้ามาพอดี
“อย่า”
ศักดาชะงัก พอเห็นชงชางรีบวิ่งเข้ามาจะช่วยกล้า ก็ฉวยโอกาสปีนหนีออกไป ชงชางเข้ามาพยุงกล้าลุกขึ้นแล้วตะโกนสั่งบ่าวเสียงดัง
“ตามจับมันให้ได้”
“ขอรับ”
บ่าวทั้งหมดรีบออกไป ชงชางและกล้าเจ็บใจที่ปล่อยให้ศักดาหนีไปได้
เนื้อนางนั่งอยู่ในห้องพยายามคิดทบทวนว่าชงชางมาอยู่ที่เรือนนี้ได้อย่างไร ครู่หนึ่งชงชางกับกล้าก็เข้ามา
“เอาเนื้อนางไปส่งให้หลวงจัดการ” กล้าสั่งบ่าว
“ขอรับ”
บ่าวจะมาจับตัวเนื้อนาง แต่ชงชางห้ามไว้
“เดี๋ยว เรื่องมันเกิดในเรือนท่านเจ้าคุณก็ให้ท่านเจ้าคุณเป็นคนจัดการไม่ดีกว่าหรือกล้า อีกอย่างตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วจะพาไปส่งให้หลวงจัดการได้อย่างไร”
“อยากจะทำอะไรก็เชิญ ยังไงฉันก็หนีไม่ได้อยู่แล้วนี่”
“อย่าทำเป็นพูดดีเนื้อนาง เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเนื้อนางและศักดาไม่มาที่นี่”
“แล้วชงชางล่ะ มาอยู่ที่เรือนนี้ได้อย่างไร”
กล้าตวาด “ไม่ต้องถามมาก พาไปขังไว้ก่อน รอให้ท่านเจ้าคุณกลับมาแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป”
บ่าวรีบมาจับตัวเนื้อนาง ชงชางมองด้วยความสงสาร
“แล้วพี่ศักดิ์ล่ะ”
ชงชางหน้าแข็งกระด้างทันที
“ทนไม่นานหรอกเนื้อนาง ศักดาได้ตามมาอยู่ด้วยแน่”
ชงชางเดินออกไปเลย กล้าให้บ่าวรีบพาเนื้อนางออกไป พลางส่ายหน้าอ่อนใจ รู้ว่าชงชางยังคงรักเนื้อนางอยู่และคงไม่พอใจที่เนื้อนางถามถึงศักดา
ศักดาวิ่งหนีพวกบ่าวของกล้ามา หันซ้ายหันขวาแล้ววิ่งเข้าไปหลบมุมหนึ่ง เห็นพวกบ่าวพากันวิ่งไปอีกทาง ศักดาถอนใจโล่งอก จะรีบออกไปจากที่ซ่อน แต่จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นมาตบบ่าศักดาอย่างแรง ศักดาสะดุ้งสุดตัว แล้วค่อยๆ หันไปมองหน้าคนที่ตบบ่าเขา พอเห็นว่าเป็นเพื่อนเก่า ก็โล่งใจ เพื่อนพาศักดาไปที่กระท่อมแห่งหนึ่ง
“อยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วกัน กระท่อมร้างแบบนี้ไม่มีใครเข้ามาหรอก แล้วนี่เอ็งมาคนเดียวรึ ถึงได้ถูกพวกมันตามล่าแบบนั้น”
“ฉันมากับเนื้อนาง”
ศักดาพูดพลางหลบสายตาไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่า เขาเป็นคนทิ้งเนื้อนางเอง
“แต่เนื้อนางถูกพวกมันจับตัวไป”
“แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้”
“ฉันต้องไปช่วยเนื้อนาง แล้วก็ต้องแก้แค้นไอ้บริบรรณด้วย”
“ตอนนี้ท่านเจ้าคุณไม่อยู่ให้เอ็งแก้แค้นหรอก ท่านไปว่าราชการที่เมืองเหนือ จะมีก็แต่คนเฝ้าเรือนเท่านั้น”
“ชงชาง คนเฝ้าเรือนของมันคือไอ้ชงชางอย่างนั้นรึ”
“กล้า มันชื่อกล้า ชงชางอะไรไม่มีหรอก”
“ก็ไอ้คนที่มาสวมรอยเป็นไอ้บริบรรณ มันคือไอ้ชงชาง จะไม่มีมันได้ยังไง ไอ้บริบรรณกับไอ้ชงชางเกี่ยวข้องกันยังไง” ศักดาสงสัยมาก
คืนนั้น หอมนอนกอดหาญซึ่งหลับสนิท แล้วครู่หนึ่งด้วงก็เปิดประตูเข้ามาเฝ้าแทน หอมจูบแก้มลูกชาย แล้วลุกออกจากห้อง ไปหาน้อยซึ่งนั่งรับลมอยู่ที่โถง
“หาญหลับแล้วรึ”
“จ้ะ พี่น้อย ฉันเป็นห่วงพี่ชาญเหลือเกิน ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง”
“ใจเย็นๆ หอมเอ๊ย เดี๋ยวผัวแกก็กลับมาเองนั่นแหละ”
“แต่ฉันรอไม่ไหวแล้วพี่น้อย ใจฉันมันร้อนไปหมด พี่น้อย ฉันว่าจะไปตามหาพี่ชาญที่พระนคร ฉันฝากหาญไว้กับพี่ด้วยนะ”
“เฮ้ย จะไปได้อย่างไร เป็นผู้หญิงแล้วลงเรือคนเดียว ไม่เอาๆ ไม่ต้องไปหรอก”
“โธ่พี่น้อย เห็นใจฉันเถอะ ป่านนี้พี่ชาญจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ถึงอย่างไรฉันก็ต้องรู้ข่าวคราวให้ได้บ้าง พรุ่งนี้ฉันจะออกเดินทางไปที่พระนคร”
หอมมุ่งมั่นที่จะไปพระนครให้ได้ น้อยส่ายหน้าอ่อนใจที่หอมไม่ยอมเชื่อฟัง
ชงชางยืนคิดถึงเรื่องเนื้อนางอยู่ รู้สึกเป็นห่วงที่เนื้อนางถูกจับตัวไปขังไว้ กล้ามองชงชางอย่างเข้าใจ
“ทำใจซะเถอะชาญ เนื้อนางเขาเป็นแค่คนรักเก่า ณ ขณะนี้ แกควรจะคิดถึงหอมกับลูกมากกว่านะ”
ชงชางหน้าสลดลง รู้สึกละอายใจ
“ถ้าเป็นห่วงนักจะเข้าไปดูเขาสักหน่อยฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่ฉันอยากจะเตือนว่า ทั้งเนื้อนางและศักดาเป็นคนคิดทำร้ายต่อท่านเจ้าคุณ ทำร้ายฉัน และอีกไม่นานก็อาจจะย้อนมาทำร้ายแกด้วยอีกคน ถึงแม้ว่าแกจะสงสารและห่วงใยเนื้อนางแค่ไหน ก็ไม่มีวันที่ชีวิตของแกและเนื้อนางจะมาบรรจบกันได้อีกแล้ว”
กล้าเดินออกไป ชงชางตัดสินใจไปหน้าห้องที่ขังเนื้อนางเอาไว้ แล้วจะผลักประตูเข้าไป แต่ชะงัก เมื่อคิดถึงคำพูดของกล้า เขาชักมือกลับ ตัดสินใจเดินออกไป ในขณะที่เนื้อนางคิดถึงความสัมพันธ์ของชงชางและเจ้าพระยาบริบรรณอย่างคลางแคลงใจ
“ชงชางกับเจ้าคุณบริบรรณ เกี่ยวข้องกันยังไง หรือว่า ลูกน้องคนสนิทที่เพื่อนพี่ศักดิ์บอกว่าลักลอบหาหลักฐานไปให้ทางการเอาผิดพ่อแม่ของเรา จนต้องถูกตัดคอริบเรือน จะเป็นชงชาง”
เนื้อนางเครียดมาก
ตอนเช้า หอมเตรียมตัวจะเดินทางไปพระนคร จึงหันมาสั่งหาญ
“แม่ไปไม่นาน หาญอย่าดื้อกับป้าน้อยนะลูก”
“ขอรับ”
“ฉันฝากด้วยนะพี่น้อย”
น้อยพยักหน้า ด้วงเดินเข้ามา
“เรือพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”
หอมหันมาหอมแก้มหาญอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป น้อยมองอย่างเป็นห่วง แต่หาญและกล้ามองหน้ากันยิ้มสนุก พอหอมไปแล้ว เด็กทั้งสองก็พากันเดินย่องๆ กลัวคนจะเห็นว่าแอบหนีเที่ยว แก้วหันมาถาม
“ไปไหนอีกล่ะหาญ”
“ไปคณะละครนะซี่ ไปกัน”
ทั้งคู่เดินย่องๆ ออกไปกลัวน้อยหรือด้วงจะมาเห็น
ศักดาและเพื่อนเดินคุยกันมาเรื่อยๆ
“ฉันจะไปดูลาดเลาหาทางช่วยเนื้อนางออกมาให้ได้”
“งั้นฉันไปด้วย”
ทั้งสองพากันเดินไป ศักดาหยุดชะงักจนเพื่อนงง ศักดาไม่มีเวลาอธิบายรีบดึงเพื่อนเข้าไปแอบ มองไปยังคนกลุ่มหนึ่ง เห็นบ่าวของเจ้าพระยาบริบรรณยืนคุยบางอย่างอยู่กับชาวบ้าน แล้วครู่หนึ่งก็เดินออกไป
“นั่นบ่าวของท่านเจ้าคุณนี่ มันยังไม่เลิกตามล่าเอ็งอีกรึวะ”
ศักดาหนักใจ เดินกลับมากระท่อม ถีบโน่นถีบนี่ อารมณ์เสีย
“โธ่เว้ย”
“ใจเย็นๆ ยังไงฉันก็จะช่วยเอ็งพาเนื้อนางหนีมาให้ได้ เอาอย่างนี้ ฉันจะแอบเข้าไปดูลาดเลาให้เอง แกจะได้ไม่ต้องระแวงว่า พวกมันจะมาจับแกได้เมื่อไหร่ ถ้าได้เรื่องยังไงฉันจะรีบมาบอก”
เพื่อนรีบออกไป
“กัดกูไม่ปล่อยเลยนะมึง ไอ้โฉ่งฉ่าง”
ศักดาแค้นใจมาก
เนื้อนางนั่งอยู่ในห้องขัง บ่าวนำสำรับอาหารเข้ามาให้
“ฉันไม่กิน เอาออกไป”
“แต่”
“เอาออกไป”
บ่าวจำต้องยกสำรับอาหารออกไป ขณะนั้นชงชางยืนอยู่หน้าห้องขัง หนักใจเมื่อเนื้อนางไม่ยอมกินข้าว บ่าวถือสำรับออกมาจะเอาไปเก็บ แต่พอเห็นชงชางก็ชะงักรีบอธิบาย
“เธอไม่ยอมกินเจ้าค่ะ”
“ฉันจัดการเอง”
“เจ้าค่ะ”
บ่าวส่งสำรับให้ชงชาง ชงชางเดินถือสำรับอาหารมาวางให้เนื้อนางโดยที่เนื้อนางยังไม่ทันมอง
“บอกว่าไม่กิน”
“กินเถอะเนื้อนาง”
เนื้อนางหันขวับไปมองชงชางก็เห็นสายตาห่วงใยของเขา เพียงครู่เดียวชงชางก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยเหมือนเดิม
“เดี๋ยวจะไม่ทันได้อยู่เห็นหน้าสามี”
“ไม่ต้องทำมาเป็นห่วง ในเมื่อแท้จริงแล้วอยากจะฆ่ากันให้ตายเสียด้วยซ้ำ เป็นเธอใช่หรือไม่ชงชาง ที่เป็นลูกน้องคนสนิทของท่านเจ้าคุณ เป็นคนที่เข้าไปขโมยหลักฐานมาให้หลวงจนพ่อแม่ฉันต้องถูกต้องโทษตัดคอริบเรือน”
ชงชางอึ้งไป ไม่คิดว่าเนื้อนางจะรู้เรื่องเร็วอย่างนี้ หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มรอคำตอบ ในใจลึกๆ อยากให้ชงชางตอบว่าไม่ใช่ แต่ในเมื่อเขาเงียบไป เธอจึงสรุปเองว่าเป็นเรื่องจริง น้ำตาไหลพราก เสียใจ
“ทำไมชงชาง ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ทำไมๆๆ”
เนื้อนางเข้าไปทุบชงชางด้วยความเจ็บใจ แล้วยกสำรับข้าวปาใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะวิ่งออกไป
“เนื้อนาง”
ชงชางรีบตามไปดึงเนื้อนางไว้ เนื้อนางพยายามดิ้นหนีจนชงชางโมโห
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเนื้อนาง”
กล้าและบ่าวรีบเข้ามาดูเหตุการณ์
“เกิดอะไรขึ้น”
เนื้อนางและชงชางหยุดชะงัก เนื้อนางหันไปมองกล้าแล้วเห็นว่ากล้าถือดาบมาด้วยจึงรีบผละออกจากชงชาง วิ่งไปแย่งดาบจากกล้ามา ตั้งท่าจะแทงตัวเอง จนทุกคนตกใจ
“อย่า”
“พ่อแม่ฉันตายเพราะน้ำมือของท่านเจ้าคุณ แต่ฉันจะต้องตายก็ขอตายด้วยน้ำมือตัวเองเถอะ”
“อย่านะเนื้อนาง ไม่มีใครอยากจะฆ่าเจ้าเลย”
“ฉันไม่เชื่อ เพราะยังไงชงชางก็เป็นพวกเดียวกับไอ้บริบรรณนั่น”
กล้าพยายามหาจังหวะเข้าไปแย่งดาบจากเนื้อนาง ในขณะที่ชงชางยังพูดกล่อมเนื้อนางอยู่
“ปล่อยดาบลงเถอะเนื้อนาง ฉันขอร้อง แล้วเราจะเลิกแล้วต่อกัน”
“ไม่ ไม่ฉันไม่เชื่อ”
กล้าเข้าไปใกล้ถึงตัวเนื้อนางแล้วก็พุ่งตัวเข้าไปยื้อดาบออกจากตัวเนื้อนางจนได้ เนื้อนางล้มลงร้องไห้ด้วยความแค้นใจ
“ทำไมไม่ให้ฉันตายไปซะ ความแค้นมันจะได้หมดลงสักที”
“ความแค้นมันคงจะจบลงถ้าเมื่อคืนนี้เจ้าและศักดาจะไม่กลับมาที่นี่ ไป เอาไปขังไว้ตามเดิม”
บ่าวจะเข้ามาพยุงตัวเนื้อนางลุกขึ้น ชงชางจะเข้าไปช่วย แต่กล้าเข้ามาขวางไว้
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่บ่าวเถอะ แกมากับฉัน”
กล้าเดินนำชงชางไป ชงชางจะเดินตามกล้าแต่ก็อดเหลียวไปมองเนื้อนางที่ถูกบ่าวลากตัวไปขังไว้ไม่ได้ กล้าเดินเข้าห้องมาแล้วโยนดาบลงบนที่นอนอย่างเหนื่อยๆ ชงชางเดินเข้ามา
“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ”
ชงชางหน้าเครียด “เนื้อนางรู้แล้วว่าฉันร่วมมือกับท่านเจ้าคุณ”
“งั้นต่อไปแกก็ต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ นอกจากไอ้ศักดาจะมาแก้แค้นท่านเจ้าคุณแล้ว ก็มีแกอีกคนที่มันหวังจะฆ่าให้ตายตามไปด้วย ระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน อย่าประมาท พึงระลึกเอาไว้เสมอว่าแกมีลูกเมียอยู่ที่ปากน้ำโพต้องดูแล”
“เราคงต้องตามหาตัวศักดาให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะย้อนมาทำร้ายท่านเจ้าคุณได้”
กล้าเห็นด้วย
คนที่บ้านชงชางที่ปากน้ำโพกำลังวุ่นวายตามหาหาญและแก้วที่หายตัวไป น้อยตะโกนหา
“หาญ อยู่ไหนลูก”
ด้วงวิ่งเข้ามา น้อยรีบถาม
“เจอมั้ย”
“ไม่มีเลยเจ้าค่ะ บ่าวให้ทุกคนหากันทั่วแล้วแต่ก็ไม่เจอเจ้าค่ะ”
“ไปไหนของเขานะ เอ๊ะ หรือว่า”
“หรือว่าอะไรเจ้าคะ”
“ก็ที่คณะละครน่ะสิ ฮื้อ นังด้วง ฉันบอกแล้วว่าให้เลี้ยงดีๆ เห็นมั้ยเนี่ย หนีกันออกไปแบบนี้ถ้าเกิดเรื่องแบบเมื่อคราวก่อนจะทำยังไง ไม่ได้เรื่องเลย”
น้อยรีบออกไป ด้วงก้มหน้าก้มตารีบตามออกไปด้วย
หาญกับแก้วเดินอารมณ์ดีกลับมาจากคณะละคร
“ละครวันนี้สนุ้กสนุกเนอะแก้ว”
หาญหยุดเดินทันที แก้วชนเข้ากับหลังหาญ
“หยุดเดินทำไมล่ะหาญ”
“นั่นเอื้องฟ้านี่”
หาญเห็นเอื้องฟ้าช่วยสายขายขนมอยู่ ก็รีบเดินไปหา แก้วแปลกใจ
“อ้าว จะไปไหนล่ะหาญ”
เอื้องฟ้าและสายช่วยกันหยิบขนมใส่ถุงให้ลูกค้าอย่างขะมักเขม้น หาญกับแก้วก็เดินเข้ามา สายร้องทัก
“อ้าวคุณ มากับคุณหอมหรือเจ้าคะ”
“เปล่า มากันสองคน”
เอื้องฟ้าหยิบขนมส่งให้หาญและกล้า
“กินขนมมั้ย”
“กินสิ”
แก้วจะยื่นมือไปรับขนม แต่หาญรีบดึงเอาไว้
“วันนี้ฉันไม่ได้หยิบเงินมา”
“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ อิฉันให้” สายรีบบอก
“ไม่เอา ไม่ดีหรอก งั้นฉันช่วยป้ากับเอื้องฟ้าขายขนมเป็นการตอบแทนแล้วกัน”
สายจะปฏิเสธแต่ไม่ทัน หาญและกล้าพากันเข้ามานั่งข้างๆ เอื้องฟ้า ช่วยกันเรียกลูกค้าคนละทีสองที สายมองอย่างเอ็นดูจนลืมสนิทว่าศักดาสั่งห้ามไม่ให้เอื้องฟ้าไปยุ่งกับหาญอีก
เพื่อนของศักดาแอบย่องเข้ามาถึงหน้าเรือนเจ้าพระยาบริบรรณ แต่พอเห็นบ่าวถือทัพพีข้าวเหมือนเพิ่งมาจากครัว วิ่งหน้าตาตื่นไปยังเรือน เพื่อนศักดาก็รีบแอบหลังพุ่มไม้ สอดสายตาแอบมอง บ่าวอีก 2 คนเดินลงมาจากเรือน บ่าวคนแรกรีบวิ่งเข้าไปหา
“เกิดอะไรขึ้นวะ”
“ก็ผู้หญิงที่ถูกขังในห้องเกิดอาละวาดน่ะสิ เล่นเอาทุกคนเหนื่อยเลย แล้วนี่อาหารเสร็จรึยังเดี๋ยวจะไม่ทันเย็นนะ”
“เออๆ ข้าลืมไป”
ทั้งหมดรีบออกไป เพื่อนศักดามองไปบนเรือนของเจ้าพระยาบริบรรณอย่างกังวล ก่อนจะรีบกลับไปบอกศักดาที่กระท่อม
“มันขังเนื้อนางอยู่บนเรือน”
“ใช่ เห็นว่าเกิดเรื่องขึ้นด้วย”
“ฉันต้องรีบเข้าไปช่วยเนื้อนางให้เร็วที่สุด”
เพื่อนศักดาพยักหน้าเห็นด้วย
หาญ กล้าและเอื้องฟ้าช่วยสายเก็บถาดขนม พอเก็บเสร็จสายก็ส่งถุงขนมให้เด็กทั้งสอง
“ค่าเหนื่อยของคุณๆ ทั้งสองคน อิฉันไม่มีเงินจะให้ รับเป็นขนมแทนก็แล้วกันนะเจ้าคะ”
หาญไหว้แล้วรับขนมมา สายหันมาบอกกับเอื้องฟ้า
“งั้นเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ”
“ค่ะ ไปก่อนนะ”
สายจูงมือเอื้องฟ้าออกไป ครู่หนึ่งน้อยและด้วงก็เข้ามา
“หาญ แก้ว”
หาญกับแก้วสะดุ้งตกใจ เห็นน้อยหน้าขึงขัง ก็หน้าเจื่อน ทั้งหมดพากันกลับไปบ้าน หาญส่งถุงขนมให้น้อย
“โธ่ ป้าน้อยขอรับ หาญแค่ไปหาเอื้องฟ้ามาแค่นั้นเอง”
“ไปหาเอื้องฟ้า แล้วถ้าพ่อเขาทำร้ายหาญอีกจะทำยังไง คราวนี้พ่อชาญของหาญต้องไม่ยอมแน่ๆ”
“พ่อเอื้องฟ้าไม่อยู่ขอรับ”
“อะไรกัน นี่หายไปตั้งหลายวันแล้วไม่ใช่รึ ทิ้งลูกทิ้งเต้าแบบนี้ได้ยังไง พ่อเราก็เหมือนกัน หายไปหลายวันแล้วจนแม่เราต้องออกไปตามหา”
“พ่อกับแม่จะกลับมาเมื่อไหร่ขอครับ หาญคิดถึง”
น้อยมองหาญอย่างเอ็นดู ดึงเข้ามากอด เธอเองก็เป็นห่วงหอมและชงชางอยู่เหมือนกัน เวลาเดียวกันนั้น หอมนั่งอยู่ในเรือ แม้จะนั่งนิ่งๆ แต่ในใจกลับรุ่มร้อนอยากจะไปให้ถึงพระนครเร็วๆ จึงร้องบอกคนเรือ
“ไปให้เร็วกว่านี้ได้มั้ย ฉันอยากถึงพระนครเร็วๆ”
ศักดาแต่งตัวเหมือนบ่าวในเรือนเจ้าพระยาบริบรรณ ลอบเข้ามาในเรือน กำลังจะขึ้นไป แต่ถูกบ่าวในเรือนไว้เรียกเสียก่อน
“เฮ้ย บ่าวที่ไหนวะ ข้าไม่เคยเห็นหน้า”
ศักดาหน้าเสียที่ถูกจับได้ เพื่อนศักดารีบเขามาด้านหลังแล้วบิดคอบ่าวคนนั้นล้มลงไป บ่าวอีกคนก็เข้ามาอีก
“เฮ้ย ทำไรน่ะ”
เพื่อนศักดาพุ่งดาบเข้าใส่บ่าวคนนั้นจนเสียบกลางอก
“ฉันจัดการไอ้สองคนนี้เอง เอ็งรีบเข้าไปช่วยเนื้อนางเถอะ”
ศักดาค่อยๆ ย่องเข้าไปในเรือนเพราะกลัวคนเห็น และพอเห็นว่าปลอดคนจึงค่อยๆ ผลักประตูเข้าไปดูว่าเนื้อนางอยู่ห้องไหน จนมาเจอห้องที่มีประตูมีไม้ขัดอยู่ด้านนอก เขารีบเปิดประตูเข้าไปเจอเนื้อนางพอดี เนื้อนางดีใจที่ศักดามาช่วย
“พี่ศักดิ์ ฉันนึกว่าพี่จะทิ้งฉันจริงๆ ซะแล้ว”
“พี่จะทำอย่างนั้นได้ยังไง รีบไปเถอะ เราคงต้องวางแผนแก้แค้นไอ้ท่านเจ้าคุณบริบรรณกันใหม่”
“เดี๋ยวพี่ ฉันรู้แล้วว่าลูกน้องคนสนิทที่ลอบไปเอาหลักฐานคือใคร”
“มันคือใคร”
“ชงชาง”
ศักดายิ่งแค้นใจมากขึ้น เวลาเดียวกันนั้น ชงชางและกล้าเดินมาที่เรือนเจ้าพระยาบริบรรณ
“ศักดามันจะไปแอบอยู่ที่ไหนได้ ตัวคนเดียวแบบนั้น”
“ฉันคิดว่าศักดาคงยังไม่ไปจากพระนครแน่ เพราะเนื้อนางยังอยู่กับเรา”
“แต่ก็ไม่แน่ พอเกิดเรื่อง มันยังกล้าทิ้งเนื้อนางเลย”
ชงชางพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสองพากันเดินไปทางเรือน เพื่อนศักดาแอบมองอยู่หลังพุ่มไม้ เริ่มกังวลใจที่กล้าและชงชางกลับมาแล้ว ขณะที่ศักดากับเนื้อนางยังคงคุยกันอยู่ในเรือนเจ้าพระยาบริบรรณ
“จะทำยังไงดีพี่ศักดิ์”
“พี่จะฆ่ามัน”
เนื้อนางอึ้งไป
ชงชางยืนคิดถึงเรื่องวุ่นวายต่างๆ แล้วครู่หนึ่งกล้าก็เดินเข้ามา
“อีกสามวัน ฉันต้องเดินทางไปทำธุระให้ท่านเจ้าคุณที่หัวเมือง แล้ววันรุ่งขึ้นถึงจะกลับ แกอยู่คนเดียวได้นะ ฉันกลัวว่าไอ้ศักดามันจะย้อนมาทำร้ายแกอีก”
“เฮ้อ เมื่อไหร่เรื่องวุ่นๆ จะจบสักทีนะ ฉันจะได้กลับบ้านสักที”
“อยากกลับบ้านเพราะคิดถึงลูกเมีย หรือว่าอยากจะหนีจากเนื้อนางกันล่ะ”
ชงชางสบตากล้าอย่างเข้าใจกัน
“สงสารหอมบ้าง ถึงอย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นเมีย ฉันก็อยากให้เรื่องทุกอย่างมันจบลงเร็วๆ เหมือนกัน”
“ถ้าต่างคนต่างอยู่และไม่มีความแค้นต่อกัน ทุกฝ่ายอาจจะมีความสุขมากกว่านี้”
ชงชางคิดอะไรบางอย่างในใจ ขณะที่เนื้อนางก็นั่งกังวลใจคิดไม่ตกกับเรื่องแผนการของศักดา เธอนึกถึงเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้
“พี่จะฆ่ามัน เนื้อนาง พี่รู้ว่ามันยังรักเนื้อนางอยู่ เนื้อนางจงใช้โอกาสนี้ล่อมันออกมาให้พี่ แล้วพี่จะสังหารมันเอง”
“แต่พี่ศักดิ์ ฉันไม่กล้า”
“ไม่กล้าก็ต้องทำ เนื้อนางลืมเรื่องที่มันทำกับพ่อแม่ของเราแล้วรึ”
เนื้อนางนึกถึงแผนของศักดาก็ร้องไห้ด้วยความลำบากใจเพราะยังรักชงชางอยู่ ครู่หนึ่งชงชางก็เดินเข้ามา เนื้อนางรีบปาดน้ำตาทิ้งแต่ก็ยังไม่พ้นสายตาชายหนุ่ม เขามองหญิงสาวอย่างสงสารและมีแววตารักใคร่เจืออยู่
“ทำไมยังไม่นอน”
“ฉันนอนไม่หลับ คิดถึงลูก ชงชาง ปล่อยฉันไปเถอะนะ พี่ศักดิ์เขาคงทิ้งฉันแล้ว เขาถึงไม่มาช่วยฉันแบบนี้ ชงชางเห็นแก่ฉันเห็นแก่ลูกฉัน หรือเห็นแก่ความรักครั้งเก่าของเราเถอะนะ เมตตาฉันสักครั้ง”
เนื้อนางยกมือไหว้ชงชาง ทำให้เขาใจอ่อนอีกครั้ง
“ฉันก็อยากจะมาคุยเรื่องนี้กับเนื้อนาง หากถ้าฉันปล่อยเนื้อนางไปแล้ว เราจะต่างคนต่างอยู่ ไม่มีความแค้นต่อกันได้หรือไม่”
เนื้อนางชะงักไป เมื่อคิดถึงว่าศักดาจะฆ่าชงชาง
“ได้ ฉันสัญญา ขอเพียงปล่อยให้ฉันได้กลับไปหาลูก”
“ถ้าเช่นนั้นก็ตกลง ถือว่าเป็นคำสัญญาว่าเราจะจบความแค้นกันแค่เพียงตรงนี้ แล้วอีกสามวันเมื่อกล้าไปข้างนอก ฉันจะพาเนื้อนางหนีเอง”
เนื้อนางพยักหน้า ชงชางลุกออกไป สีหน้าเนื้อนางค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างขึ้น
“เพียงแค่ลมปาก ฉันไม่นับว่าเป็นคำสัญญา ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรมาลบล้างความแค้นของฉันต่อคนที่ฆ่าพ่อแม่ฉันได้”
เนื้อนางแค้นใจมาก
ตอนเช้า ชงชางเดินออกมาจากห้อง เห็นกล้ายืนคุยกับบ่าวอยู่จึงเดินเข้าไปหา
“จะไปแล้วใช่มั้ย ฉันไปส่ง”
บ่าวเข้ามาบอกว่าเรือพร้อมแล้ว กล้าหันมาพยักหน้าให้ชงชางแล้วพากันออกไป
เนื้อนางนั่งรอชงชางให้พาหนี ครู่หนึ่งชงชางก็เข้ามา
“พร้อมแล้วใช่มั้ยเนื้อนาง”
เนื้อนางพยักหน้า
“หลังจากวันนี้เป็นต้นไป เราจะหมดความแค้นต่อกันไป ฉันจะพาไปเอง เราจะออกทางด้านหลังเรือนแทน”
ชงชางเปิดประตูออกไปมองลาดเลา เห็นว่าบนเรือนเงียบสนิท เขาจึงรีบไปจูงมือเนื้อนางออกไป เวลาต่อมา บ่าวหญิงเดินถือสำรับอาหารเข้ามา กำลังจะขึ้นเอาไปให้เนื้อนางบนเรือน บ่าวอีกคนวิ่งเข้ามา
“เดี๋ยวข้าเอาไปให้เอง คุณกล้าเขาสั่งว่าให้เฝ้านังคนนั้นดีๆ เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น”
บ่าวหยิบสำรับมาถือแล้วเดินขึ้นเรือนไปที่หน้าห้องขังของเนื้อนาง พอเปิดประตูเข้าไปก็อึ้ง เพราะเนื้อนางหนีไปแล้ว
“เฮ้ย หายไปไหนวะ”
บ่าวรีบไปดูทางหน้าต่าง เห็นชงชางพาเนื้อนางวิ่งออกไปด้านหลังเรือน
“เฮ้ย”
ศักดาและเพื่อนนั่งซุ่มรอเนื้อนางพาชงชางมาให้ฆ่าอยู่ที่กระท่อม
“เอ็งแน่ใจนะว่าไอ้ชงชางจะพาเนื้อนางมาวันนี้”
“แน่ใจสิ ฉันไปสืบมาแล้วว่าวันนี้ไอ้กล้ามันไม่อยู่ ถ้าไอ้ชงชางจะพาเนื้อนางหนีก็ต้องวันนี้เท่านั้น”
“ดี”
ศักดาหยิบดาบขึ้นมาเช็ดแล้วยิ้มเหี้ยม ขณะนั้น ชงชางพาเนื้อนางวิ่งหนีพวกบ่าวมา เขาหันซ้ายหันขวาหาทางหลบแล้วรีบพาเนื้อนางเข้าไปแอบที่พุ่มไม้ต้นหนึ่งและคอยแอบมองพวกบ่าวที่วิ่งตามมา พวกบ่าววิ่งมาหยุดบริเวณนั้น
“หาให้เจอ ไม่งั้นคุณกล้าเอาตายแน่”
พวกบ่าวพากันวิ่งไปทางหนึ่ง ชงชางพาเนื้อนางออกมาจากที่ซ่อนแล้วพาวิ่งไปอีกด้านหนึ่ง จนไปถึงกระท่อมที่ศักดารออยู่
“กระท่อมนี้รึที่เนื้อนางจะมาซ่อนตัว”
“ใช่”
“งั้นเราเข้าไปกันเถอะ ก่อนพวกบ่าวจะตามมาเจอ”
ทั้งคู่พากันเดินเข้าไปในกระท่อม ศักดาและเพื่อนได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาจึงรีบเข้าไปซ่อนตัว ศักดาพึมพำกับตัวเอง
“มาจนได้นะมึงไอ้โฉ่งฉ่าง”
ชงชางยืนคุยกับเนื้อนางโดยที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกเนื้อนางกับศักดาตลบหลัง
“ฉันทำตามสัญญาแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ลืมว่าคืนนั้นเราตกลงกันว่ายังไงนะ”
เนื้อนางหน้าสลดลงที่ไม่อาจทำตามคำตกลงได้ แต่ชงชางไม่ทันได้สนใจและจะเดินกลับไป
แต่แล้วศักดาก็พุ่งเข้ามาหาทันที
“โง่หลงกลมาจนได้นะมึง หลังจากวันนี้คือจะเลิกแค้นต่อกันอย่างนั้นรึ เฮอะ สำหรับกู ต้องให้มึงตายเท่านั้น กูถึงจะหายแค้น”
ชงชางอึ้งไป หันไปมองเนื้อนางก็เห็นว่าเนื้อนางก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา แล้วยังเดินไปอยู่ฝั่งของศักดาอีก เขามองเนื้อนางด้วยความผิดหวัง
“เนื้อนาง”
เนื้อนางไม่สบตาชงชางเลย
“วันนี้แหละวันของกูไอ้โฉ่งฉ่าง”
ศักดาฟันชงชาง แต่ชงชางหลบได้ทันแล้วถีบศักดาจนเสียหลัก เพื่อนศักดารีบเข้ามาช่วย แต่ก็ถูกชงชางต่อยจนหน้าหงายล้มลง แล้วชงชางก็รีบวิ่งหนีออกจากกระท่อมไป
“ไอ้โฉ่งฉ่าง มึง”
ศักดารีบวิ่งตามชงชางออกไป เพื่อนศักดาก็ตามไปด้วย เนื้อนางกังวลใจมาก
หอมรีบเดินมาที่เรือนเจ้าพระยาบริบรรณ บ่าววิ่งออกมาต้อนรับ
“คุณหอมมาได้อย่างไรเจ้าคะ”
“คุณชาญอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่”
บ่าวมองหน้ากันเลิ่กลั่กไม่กล้าตอบ หอมร้อนใจจึงไม่รอฟังแล้วรีบเดินขึ้นเรือนไป บ่าวรีบตามไปด้วย หอมเดินเร็วๆ ขึ้นมาบนเรือนปากก็ร้องเรียก
“พี่ชาญ”
ไม่มีเสียงตอบรับทำให้หอมแปลกใจ บ่าวรีบตามขึ้นมาแล้วก้มหน้างุด หอมยิ่งสงสัย
“เกิดอะไรขึ้น พี่ชาญไม่ได้มาที่นี่หรอกหรือ”
“มะ มาเจ้าค่ะ”
“มา แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”
หอมมองทุกคนเพื่อหาคำตอบ แต่บ่าวก็ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา ทำให้หอมยิ่งแปลกใจ
ชงชางวิ่งหนีศักดามาอย่างรวดเร็ว ศักดาวิ่งตามมาทันแล้วถีบหลังชงชางจนกระเด็นล้มลง ก่อนจะตวัดดาบลงไปที่ชงชางอีกแต่ชงชางเบี่ยงตัวหลบได้ แล้วถีบศักดาจนเสียหลักหงายหลังไป ชงชางรีบพยุงตัวลุกขึ้น ศักดาจะฟันอีกแต่ชงชางจับมือศักดาเอาไว้ได้ แล้วต่อสู้กันจนดาบหลุดมือ เนื้อนางกับเพื่อนของศักดาก็วิ่งเข้ามา
“เนื้อนางหยิบดาบมาให้พี่ เร็ว”
เนื้อนางละล้าละลังไม่กล้าหยิบดาบขึ้นมา ศักดาและชงชางก็ต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“เนื้อนาง บอกให้ส่งดาบมา”
ชงชางฉวยโอกาสนั้นเตะศักดาจนล้มลงแล้วจะรีบวิ่งไปหยิบดาบ แต่เพื่อนศักดาฉวยหยิบขึ้นมาก่อนแล้วโยนให้ศักดาทันที ชงชางพยุงตัวจะลุกขึ้น ก็ถูกเพื่อนศักดาถีบจนเซเข้าไปหาศักดา ศักดาฟันดาบลงกลางหลังชงชางทันที เนื้อนางตกใจสุดขีด ชาญล้มลง ศักดาจะซ้ำอีก
“อย่าอยู่เลยมึง”
บ่าวของเจ้าพระยาบริบรรณวิ่งเข้ามาถีบหลังศักดาจนกระเด็นออกไป บ่าวคนอื่นๆ ก็ตามมาช่วย ทำให้เกิดการต่อสู้กัน แต่ศักดา เนื้อนางและเพื่อนก็หนีไปได้ บ่าวอื่นๆ จะตามไปแต่บ่าวอีกคนเรียกเอาไว้
“ไม่ต้องตาม พาคุณชาญกลับเรือนก่อนเร็ว”
บ่าวช่วยกันประคองพาชงชางกลับเรือน
ศักดาเดินเข้ามาในกระท่อมอย่างหงุดหงิดที่ฆ่าชงชางไม่ได้ เพื่อนก็เดินตามเข้ามา เนื้อนางยังช็อคกับภาพชงชางถูกฟันที่หลัง
“เจ็บใจนัก จะฆ่ามันได้อยู่แล้วเชียว”
“แต่อย่างน้อยมันก็ได้แผลไป แผลใหญ่อย่างนี้ มันอาจจะไม่รอดก็ได้” เพื่อนบอก
ศักดาพยักหน้ารับรู้แต่ยังเจ็บใจไม่หาย เนื้อนางสีหน้าไม่ดี รู้สึกเป็นห่วงชาญอยู่ลึกๆ
หอมยังไม่หายสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่เรือนนี้ จึงเค้นถามบ่าว
“ว่ายังไง มีใครตอบฉันได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วพี่ชาญหายไปไหน”
บ่าวยังก้มหน้าอึกอัก จนหอมขัดใจจะเดินออกไป แต่บ่าวชายรีบพยุงชงชางซึ่งบาดเจ็บเข้ามา
หอมเห็นสภาพชงชางก็อึ้งไป
“พี่ชาญ”
เวลาต่อมา หมอมาตรวจอาการชงชางที่เรือน หอมยืนกระวนกระวายใจอยู่ บ่าวคนอื่นๆ ก็กังวลใจเป็นห่วงชงชางไม่แพ้กัน ครู่หนึ่งหมอก็ออกมา
“อาการพี่ชาญเป็นยังไงบ้างคะ”
“หมอทำแผลให้แล้ว ต่อไปก็อย่าให้แผลโดนน้ำนะขอรับ”
“ค่ะ”
หอมรีบเดินเข้าไปหาชงชาง ชงชางนอนคว่ำหน้าอยู่ มีผ้าพันแผลพันอยู่กลางหลังเป็นแนวยาว หอมน้ำตาไหลเป็นห่วง เอามือลูบแผลเบาๆ
“พี่ชาญ”
ชงชางยังนอนหลับไม่ได้สติ เวลาเดียวกันนั้น เนื้อนางออกมายืนคิดถึงชงชางอยู่หน้ากระท่อม ร้องไห้เป็นห่วงชายหนุ่มไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหอม
“ฉันขอโทษนะชงชาง แต่ชีวิตของพ่อแม่ฉันก็สำคัญเหมือนกัน”
เนื้อนางร้องไห้เสียใจ
อ่านต่อตอนที่ 12