มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 14
ครูเทพ และหมอทำขวัญนาคอีกสองคน พร้อมอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการขยายเสียง และทำขวัญนาค เดินไปที่คลองเห็นเรือจอดอยู่ มีเชือกผูกติดที่เสา
"เร็วๆ เร็วๆเข้า ป่านนี้นาคกับเจ้าภาพเขารอเราแย่แล้ว" ครูเทพบอก
"เดี๋ยวๆๆ ครู ครูเอาจริงเหรอ ผู้ใหญ่เขาไม่ให้เราข้ามไปฝั่งโน้นนา" หมอ 1 ถาม
"แต่เจ้าภาพเขาไม่ได้ยกเลิก แล้วเจ้าภาพเขาก็เคารพรักฉันมานาน เขาอยากให้ฉัน
ทำขวัญนาคให้ลูกชายเขา ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องไป รีบไปกันได้แล้ว"
ครูเทพและหมอทำขวัญอีกสองคนขึ้นไปนั่งอยู่บนเรือ
แต่ทว่า เบี้ยและชาวบ้านอีกสามคนที่ซุ่มดูอยู่ มีไม้เป็นอาวุธด้วย รีบเข้ามายืนอยู่ริมคลองอีกฝั่ง…
"หยุดเลยครูเทพ หยุดๆๆๆ ครูห้ามข้ามฝั่งมาเด็ดขาด"
"ฉันก็ไม่อยากข้ามไปหรอก ฉันยังไม่ลืมที่พวกคณะดนตรีของผู้ใหญ่เข็ม ไปป่วนฉันถึงที่บ้าน"
"แต่ฉันต้องไปทำขวัญนาคที่หมู่บ้านของเอ็ง"
"ไม่ได้ ฉันยอมให้ครูข้ามมาไม่ได้จริงๆ"
"เอ็งห้ามคนไม่ให้บวชมันเป็นบาปมหันต์นะโว้ย!!! คนเขาจะเข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ ฝากตัวเป็นศิษย์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เอ็งอาจหาญอะไรมาห้าม แบบนี้มันมารศาสนาชัดๆ"
เบี้ยและพวกชาวบ้านมองหน้ากันเครียดๆ
ชาวบ้าน1บอก
"เอาไงดีเบี้ย ฉันไม่อยากลงนรกเพราะเป็นมารศาสนา"
ชาวบ้าน2 บอก"ขวางคนไม่ให้เข้าสู่ธรรมมันบาปหนักนะโว้ยเบี้ย"
เบี้ยครุ่นคิดๆ แล้วตะโกนบอกครูเทพ
"ก็ได้ๆ ฉันยอมให้ทำขวัญนาคได้ แต่ยังไงฉันยอมให้ข้ามมาไม่ได้จริงๆ มันเป็น
คำสั่งของผู้ใหญ่ ใครก็ขัดไม่ได้!"
"อ้าว ถ้าข้ามฝั่งไม่ได้ แล้วพวกฉันจะทำขวัญนาคได้ยังไงเล่า"
เบี้ยครุ่นคิดๆ หาหนทาง แล้วพลันเบี้ยก็ยิ้มออก
"ฉันมีวิธี"
พ่อนาค แม่นาค นั่งขนาบข้างนาค มีญาติๆ ปู่เสื่อนั่งอยู่ด้านหลัง เห็นเครื่องบายศรีสำหรับทำพิธีวางอยู่
ด้านหน้าพ่อนาคและแม่นาค ทุกคนในงานสีหน้าอิ่มเอิบ
หมอทำขวัญนาคทั้งสามคนอยู่อีกฟากของคลอง กำลังทำพิธี ถือไมค์ ลำโพงหันไปทางฝั่งโคก
สำเริง
"ศรี..ศรี..วันนี้วันดี ศุภผล แสนประเสริฐเลิศล้น เป็นมิ่งมงคลสวัสดี ขอให้พ่อนาคจงตั้งใจฟัง แล้วจะได้เป็นวิถี จะสั่งจะสอนให้ถ้วนถี่ เรื่องกาลโลกีย์อย่าเป็นมณฑิน วันพรุ่งนี้แล้วหนอ พ่อนาคจะต้องลาจากกันทั้งสิ้น ฟูกเบาะ เหมาะหมอ ที่นอนที่กินพรุ่งนี้ ต้องสิ้นความอาลัย"
เบี้ยที่นั่งพนมมืออยู่มุมหนึ่งก็ยิ้มออกมา
"ฉลาดจริงๆ เรา แค่นี้ก็ทำพิธีได้แล้ว"
ครูเทพและหมอทำขวัญกำลังร่ายกลอนสอนใจพ่อนาค
"ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าจะพร่ำพรรณนาถึงบิดามารดาของพ่อนาคว่ามีที่มาเป็นเช่นไร"
หมอ1 "พ่อนาคเอย… เจ้ารู้จักประวัติบิดามารดาของเจ้าหรือไม่ ว่าบิดามารดาของเจ้า
นั้นมันชั่วช้าสามาลย์ขนาดไหน… แม่ของเจ้าก็เละเทะ พ่อของเจ้าก็ชั่วร้าย คนทั้งหลายเขาก็รู้…"
พ่อ - แม่ของนาคของขึ้นทันที
"อ้าวหมอ อะไรเนี่ย แทนที่จะร้องกลอนเชิดชูฉัน ไหงมาด่ากันแบบนี้" พ่อนาคว่า
"ใจเย็นๆ ฟังพ่อหมอท่านร้องให้จบก่อนเถอะ งานมงคลอย่าโมโหโทโสเลยพี่... เชิญต่อเลยจ้ะ" แม่นาคบอก
แล้วหมอทำขวัญนาคก็ร้องกลอนกันต่อ
หมอ2บอก
"แม่ของเจ้ากว่าจะได้กับพ่อของเจ้าก็ได้กับเขาไปทั่ว พูดง่ายๆ ว่ามีผัวไม่เป็นตัวเป็นตน ชอบทำบุญด้วยตูดด้วยก้น"
พ่อนาคลุกขึ้นฉุดเมียขึ้นมาเคลียร์อย่างโมโห
"เฮ้ย อะไรของมึงเนี่ย แอบมีชู้ตั้งแต่เมื่อไหร่" พ่อนาคด่าเมีย
"อะไร โวยวายอะไร นี่เอ็งไม่รู้จริงๆ เหรอ ไปอยู่ไหนมา คนเค้ารู้กันทั้งตำบลแล้ว"
"ไม่จริง"
ทุกคนมาร่วมงานบอก "จริง"
"เฮ้ย โอ๊ย ทำแบบนี้กับกูได้ยังไง"
"ใจเย็นๆ ฟังให้จบก่อน อย่าเพิ่งทะเลาะกัน" ครูเทพบอก
เบี้ยบอก
"พี่น้อย พี่อ่ำ ใจเย็นๆ เห็นแก่ลูกมันเถอะพี่ ให้ลูกมันได้บวชก่อน มีปัญหาอะไรค่อยไปเคลียร์กันทีหลัง เชิญต่อเถอะจ้ะพ่อหมอ"
"พ่อเจ้าก็ใช่ว่าจะซื่อสัตย์กับแม่เจ้าเสียเมื่อไหร่ แม่เจ้านั้นหรือก็โง่เป็นวัวเป็นควาย… น่าอับอายเสียเต็มประดา"
นาคลุกขึ้นอย่างทนเก็บอารมณ์ไม่ไหว
"พอ พอเลย"
ครูเทพถาม "ทำไมล่ะพ่อนาค ไม่อยากจะบวชรึไง นี่แค่เกริ่นให้ฟัง ยังมีความดีงามของพ่อและ
แม่เจ้าอีกเยอะที่ฉันยังไม่ได้สาธยายให้ฟัง"
"ไม่ฟังแล้ว ฉันไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น... ตอนนี้ฉันอยากรู้แค่เรื่องเดียว"
นาคเดินไปยืนต่อหน้าทุกคน แล้วพูดเสียงดังด้วยความคาใจว่า…
"กูเนี่ยลูกใคร"
ปุยฝ้ายซ้อนท้ายจักรยานของแก้มบุ๋มมาถึงกระท่อมร้างตอนกลางคืน ทั้งสองสาวลงจากรถ
"อยู่นานไม่ได้นะพี่แก้ม ถ้าใครมาเห็นแล้วฟ้องพ่อ พวกเราตายหมู่"
แก้มบุ๋มหันมองรอบๆ
"นัดกันที่นี่เวลานี้นี่นา แล้วทำไมยังไม่มาอีก"
เสียงมอเตอร์ไซค์ดังขึ้น ทั้งสองคนหันไปมองเห็นท็อปขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา
ยอด ท็อปลงจากรถ ยอดและแก้มบุ๋มโผเข้าไปกอดกันด้วยความรักและคิดถึง…
ปุยฝ้าย ท็อป มองยอดกับแก้มบุ๋มอย่างค้อนๆ
ปุยฝ้ายกระแอม
"เบาๆ หน่อย เบาๆ ตาร้อนหมดแล้ว อิจฉา"
"ยอดยังไม่อยากคลายอ้อมกอดออกจากสุดที่รักในเวลานี้เลย"
"มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่ายอด ถึงได้นัดกลางดึกแบบนี้"
แก้มบุ๋ม ปุยฝ้าย มองยอดอย่างสงสัย
"ฐานบัญชาการ!"
สองสาวโพล่งมองหน้ายอดกับท็อปอย่างแปลกใจ
"ใช่ กระท่อมร้างที่นี่ปลอดคน และปลอดภัยสำหรับเรา ต่อไปนี้เราจะนัดพบกันที่นี่
เพื่อวางแผนและหาหนทางทำให้ชาวบ้านรักกัน"
แก้มบุ๋มยิ้ม จับมือยอด
"แก้มภูมิใจในตัวยอดจริงๆ"
ปุยฝ้ายบอก
"พี่ยอดไม่เคยท้อและไม่เคยหมดความพยายามที่จะช่วยเหลือพวกเราชาวสองฝั่งคลองเลย ปรบมือสิ รออะไร"
ปุยฝ้าย ท็อป ปรบมือให้ยอด
"แก้มไม่อยากเห็นชาวบ้านต้องความเกลียดชังกันเหมือนพ่อของเรา แต่เราจะทำยังไงได้ละยอด ชาวบ้านกำลังจะเกลียดกันเหมือนที่พ่อของเราเกลียดกัน"
"ยอดเชื่อสุดหัวใจว่า ความรักและความดีจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่สิ่งสำคัญคือห้ามหมดหวังอย่างเด็ดขาด"
ทุกคนครุ่นคิดแล้วยิ้มออกมาอย่างมีกำลังใจ
"เชื่อเถอะว่า การที่สองหมู่บ้านตัดขาดจากกัน จะต้องมีคนที่เดือดร้อนอย่างแน่นอน เรามีหน้าที่ช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ ทำให้ทุกคนเห็นว่าสุดท้ายแล้วทางออกที่ดีที่สุดของปัญหาคือ การกลับมารักและสามัคคีกันเหมือนเดิม"
"ถึงมันจะเป็นภารกิจที่ยากและยิ่งใหญ่มาก แต่เราก็ต้องทำให้สำเร็จ" ท็อปบอก
ยอดยื่นมือออกไปให้ทุกคนจับมือรวมพลัง
"เราต้องทำให้ได้ เพื่อความรักของเรา และเพื่อความสามัคคีของชาวสองฝั่งคลองทุกคน"
ทุกคนยื่นมือออกไปจับกันด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น…
เช้าวันใหม่
หน้าร้านขายน้ำของมิ้น กับร้านบัวลอยของนาง ยังมีเส้นบ่างเขตแดนเหมือนเดิมมีการวางโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่ง
ที่โต๊ะมีลูกค้าที่เป็นคนหมู่บ้านดอนกระโทกสามคน มิ้นเอาน้ำมาเสิร์ฟให้คนทั้งสามคน
"นี่จ๊ะ...ลูกบ้านของผู้ใหญ่จุ่น ฉันลดราคาให้แก้วละสองบาท"
"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ"
มิ้นกับชาวบ้านดอนกระโทกทั้งสามคนหันไปเห็น นางกำลังพูดคนกับชาวบ้านโคกสำเริงสามคนที่กำลังนั่งกินบัวลอยภายในร้านอย่างเมามันส์
โคกสำเริง1บอก
"โอ๊ย...ตั้งแต่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ข้ามฝั่งหากัน ลำบากจริงๆ จะมาตลาด ข้ายังต้องนั่งรถอ้อมมาตั้งไกล ทำบุญข้าก็ต้องไปทำตำบลอื่น"
โคกสำเริง2 บอก "จริง แต่เรื่องดีๆก็มี นี่ ยอด แก้ม ฝ้าย คุณท๊อป เค้าช่วยกัน จับไอ้มืดที่ขโมยเงินผ้าป่าได้"
"โถ่ พ่อยอด พ่อเทพบุตรสุดประเสริฐของนาง รู้ทั้งรู้ว่าฝ่ายโน้นเค้าเกลียดเราก็ยังจะมีน้ำใจให้ชาวสามัคคีทุกคน น้ำใจมากล้นเหลือเกินพ่อคุณ"
มิ้น "แหวะๆๆๆๆ"
นางถาม "อะไรๆๆ มีปัญหาอะไร"
นางกระแทกหางเสียงใส่มิ้น มิ้นมองอย่างเคืองๆ
มิ้นเดินไปประจันหน้า
"ยอดมันไม่ได้อยากทำอะไรดีๆ เพื่อพวกเราสักนิด ยอดมันเจ้าเล่ห์จะตาย มันต้องมีแผนร้ายหวังหลอกใช้แก้มบุ๋มเพื่อบั่นทอนกำลังใจของผู้ใหญ่จุ่น มันคงคิดว่าถ้าแก้มอยู่ข้างมัน ผู้ใหญ่จุ่นจะหมดกำลังใจที่จะสู้เอาตำแหน่งกำนันกับผู้ใหญ่เข็ม"
"เพ้อเจ้อ ยอดของพวกฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น อย่ามาใส่ร้ายพ่อยอดเทพบุตรสุดที่รักของฉันนะโว้ย"
"ถ้ารักและหวังดีกับชาวบ้านจริงๆ งั้นก็หาทางพิสูจน์ให้พวกฉันเห็นสิ"
"ได้ ผมจะพิสูจน์ให้เห็นเอง"
ยอดกับท็อปเดินเข้ามายืนระหว่างพวกนางกับมิ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
ยอดเดินเข้าไปหามิ้นกับพวกชาวบ้านดอนกระโทกด้วยสีหน้ามุ่นมั่น มิ้นมองด้วยสีหน้าหวาดระแวง นางและชาวบ้านโคกสำเริงอยากรู้ว่ายอดจะพิสูจน์อย่างไร ทั้งสองกลุ่มนั่งแบ่งฝั่งกันชัดเจน
"ทุกคนไม่ต้องเชื่อผมในตอนนี้ แต่ผมขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของพวกเราชาวสองฝั่งคลอง เมื่อก่อนพวกเราสองหมู่บ้านรักใคร่พึ่งพาอาศัยกันมาตลอด ผมทนเห็นพวกเราแตกแยกไม่ได้ ผมอยากให้เรากลับมาสามัคคีกันอีกครั้ง"
นางบอก
"นี่สิลูกผู้ชายตัวจริง พ่อยอดของเราคนดีสุดๆ"
นางและชาวโคกสำเริงยิ้มให้ยอดอย่างชื่นชม
มิ้นทำหน้าเยาะเย้ย
"สร้างภาพ.... พวกเราเห็นธาตุแท้ของนายหมดแล้ว นายทำลายแปลงผักของชาวบ้าน ทำร้ายคุณนิกที่อุตส่าห์มีน้ำใจช่วยเหลือชาวบ้าน คนอย่างนายอย่างหวังความเชื่อใจจากพวกเราเลย ใช่มั้ยทุกคน"
ชาวบ้านดอนกระโทกทุกคนบอก "ใช่ๆๆ"
ชาวบ้านดอนกระโทก2บอก
"พวกหน้าไหว้หลังหลอก คบไม่ได้ พวกเราไม่อยู่ร่วมกับพวกที่มาทำร้ายหมู่บ้านเราหรอก"
ชาวบ้านดอนกระโทก1บอก
"เอ็งไปไกลๆ เลย กลับไปอยู่กับผู้ใหญ่เข็ม พ่อไม่ได้เรื่องของเอ็งไป"
โคกสำเริง2 บอก "เห้ย มันจะมากไปแล้วนะเว้ย กล้าว่าไอ้ยอดกับพ่อผู้ใหญ่ของข้าเหรอว่ะ"
ชาวบ้านโคกสำเริงทนไม่ไหวจะเข้าไปเอาเรื่องชาวบ้านดอนกระโทก แต่ยอดกับท็อปมากันไว้ก่อน
ท็อปบอก
"ขอเถอะนะ อย่าเพิ่งมีเรื่องกันเลย เชื่อใจยอด ให้ยอดพิสูจน์ตัวเองเถอะนะครับ"
ชาวบ้านโคกสำเริงยอม ไม่เอาเรื่อง
ยอดเดินเข้าไปหามิ้นกับพวกชาวบ้านดอนกระโทกด้วยสีหน้ามุ่นมั่น
"ตอนนี้ผมยังไม่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อใจผมได้ แต่ผมขอสาบานว่าอีกไม่นาน ผมจะทำให้ทุกคนเห็นว่าผมช่วยทุกคน โดยไม่หวังผลตอบแทนจริงๆ"
ยอดมองทุกคนด้วยสีหน้าจริงจัง มิ้นกับชาวบ้านดอนกระโทกมองยอดด้วยสีหน้าหวั่นไหว ท็อป นางและชาวบ้านโคกสำเริงยิ้มให้กับความจริงใจของยอด
อ่านต่อหน้า 2
มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 14 (ต่อ)
แถวตลาด ท๊อปยืนรอใครสักคน ยอดเดินมาแล้วก็หยุดส่องกล้องทางไกล ท๊อปเดินเข้าไปหา
ยอดส่องกล้องส่องทางไกลผิดด้าน
"กล้องส่องทางไกลอะไรเนี่ย มองอะไรไม่เห็นเลย"
ท๊อปเดินมาถึง
"โอ้ย...ผิดด้าน"
ท็อปจับกล้องให้ยอดส่องถูกทาง
"ขำขันนิดนึง แก้เครียด"
ยอดส่องกล้องมองไปรอบๆ
"ชัดยิ่งกว่า HD (ไฮเดฟ)อีก"
ยอดหันไปเห็นท็อปที่มีสีหน้ากังวล
"เป็นไรวะเพื่อน ดูสิ หน้ามุ่ยเชียว"
"ต่อไปทุกๆ คนจะจับตาดู และจับผิดว่านายจะทำเพื่อชาวบ้านจริงรึเปล่า ยังจะเอากล้องส่องทางไกลมาเล่นอีก"
"ไม่ได้เล่นนะ..คราวนี้ชั้นเอาจริง"
"นายแน่ใจเหรอว่าจะเอาความดีเข้าสู้กับความเกลียดชังได้"
ยอดยิ้มให้กำลังใจตัวเองและให้กำลังใจท็อปด้วย
"ไม่แน่ใจ...แต่ก็ต้องลองกันซักตั้ง"
"ฉันนับถือนายจริงๆยอด...แล้วนายจะทำยังไง"
"ทำความดีไง"
ยอดมองท็อปด้วยสายตาที่มุ่งมั่นสุดๆ
มัคนายกขับรถกระบะมีแคปหลัง มีหลวงตาและพระลูกวัดนั่งอยู่ในรถด้วย รถของหลวงตาขับช้าๆผ่านป้าย
”ขอต้อนรับสู่หมู่บ้านโคกสำเริง” มีปากกาหรือสีเขียนแทรกในป้ายว่า “ไม่ต้อนรับ คนดอนกระโทก” เป็นลายมือเขียนเองของชาวบ้าน
พอรถของหลวงดาขับผ่านมา ข้างทางก็มี รถมอเตอร์ไซร์ขับออกมาอย่างรวดเร็ว เป็นเคนกับจ๊อบขี่ออกมา วิ่งปาดหน้ารถกระบะ
"หยุดรถเดี๋ยวนี้"
รถกระบะเบรก หนึ่งวิ่งตามออกมาจนถึงท้ายรถกระบะ
"ทำไมชั้นต้องเป็นคนวิ่งตาม" หนึ่งถาม
"ก็แกตัวใหญ่ซ้อนท้ายไม่ได้" จ๊อบบอก
"ก็ให้ชั้นขี่รถแล้วแกสองคน วิ่งตามซิ"
"เฮ้ย...อย่าเถียงกันเรามีหน้าที่ต้องทำ"
คนในรถลงมา เป็นหลวงตากับ มัคนายกลงมา เคน หนึ่ง จ๊อบยกมือไหว้
"มีเรื่องอะไร" หลวงตาถาม
"หลวงตาจะไปไหนครับ" เคนถาม
"อาตมาจะไปสวดศพตาเอิบที่หมู่บ้านโคกสำเริง"
เคน หนึ่ง จ๊อบ มองหน้ากัน หน้าตาเอาเรื่อง
"ถึงจะไปสวดศพตาเอิบ...ผมก็ให้หลวงตาเข้าไปไม่ได้ครับ"
หนึ่งบอก "นิมนต์กลับวัดจ้ะหลวงตา"
ทั้งสองฝั่งยืนจ้องหน้ากัน เหมือนกำลังจะมีเรื่อง
ณ พื้นที่สูง เป็นที่สังเกตการณ์ของยอดเพื่อช่วยชาวบ้าน ยอดนั่งอยู่ข้างๆ แก้มบุ๋ม พลางเอากล้องส่องทางไกลสอดส่องไปมา
"เห็นอะไรมั้ยยอด"
พลันยอดเอากล้องส่องทางไกลส่องที่แก้มบุ๋ม แก้มบุ๋มยังไม่ได้เห็นการกระทำของยอดเพราะกำลังใช้สายตาสอดส่องมองรอบๆ ช่วยยอด
"เห็นยอดดวงใจของยอด"
แก้มบุ๋มหันมามองเห็นยอดกำลังส่องตัวเองก็เขิน ตียอดไปสองที
"โอ๊ย ถ้าตีอีกทียอดจูบนะ"
แก้มบุ๋มตียอด ยอดดึงแก้มบุ๋มเข้ามาจะกอด
"ทำเป็นเล่น...แก้มมีเวลาไม่มากนะ เดี๋ยวต้องรีบกลับแล้ว หายมานานๆ พ่อจะสงสัย"
แก้มบุ๋มผลักยอดออกแล้วก็ดึงกล้องส่องทางไกลมาส่อง
แก้มบุ๋มตาโต ชี้บอก
"ยอด แก้มว่าน่าจะเกิดเรื่องนะ... ทางโน้น"
แก้มบุ๋มส่งกล้องให้ยอด ยอดส่องกล้อง ตกใจ
"เคน หนึ่ง จ๊อบ"
ทั้งสามยืนประจันหน้ากับหลวงตาและมัคนายก...
เคนบอกกับมัคนายก
"พ่อผู้ใหญ่สั่งห้ามไม่ให้ข้ามมา น้าก็น่าจะรู้แล้วนี่นา"
มัคนายกจะตอบ แต่หลวงตารีบพูด
"คนเค้านิมนต์...หลวงตาก็ต้องไป...ไม่แบ่งว่าเป็นคนที่ไหน"
"ไม่ได้ครับหลวงตา" หนึ่งบอก
"ใช่ครับ...เพราะพ่อผู้ใหญ่สั่งห้ามไม่ให้คน ดอนกระโทกเข้ามาในโคกสำเริง" จ๊อบบอก
ยอดกับแก้มบุ๋มเดินเข้ามาเพื่อพยายามไกล่เกลี่ย
"หลวงตาเป็นคนที่พวกเราทุกคนให้ความเคารพ ทำไมทำแบบนี้ล่ะ"
เคนถาม
"เฮ้ย ไอ้ยอดทำไมเอ็งมากับแก้ม"
"ที่พวกชั้นมาด้วยกันก็เพราะชั้นอยากช่วยชาวบ้าน"
หนึ่งกวน
"ฮีโร่ว่างั้น"
"ขอเถอะวะ ให้หลวงตาไปตามกิจนิมนต์เถอะนะ"
"เรื่องที่เอ็งมากับแก้ม ข้าจะไม่บอกพ่อผู้ใหญ่เพราะถือว่าเอ็งเป็นเพื่อน แต่เรื่องของหลวงตา พวกข้ายอมไม่ได้"
เคนบอก "ถูก.. ถ้าปล่อยให้มีครั้งหนึ่ง มันจะมีครั้งสอง สาม สี่ ห้า"
หนึ่งต่อ"หก เจ็ด แปด"
หลวงตาต่อ "เก้า สิบ สิบเอ็ด"
ทุกคนโพล่ง "หลวงตา"
"ถ้าขัดคำสั่ง คำสั่งก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์สิวะ" เคนว่า
"เอาไงดีครับหลวงตา" มัคนายกถาม
"พระไม่ได้มีวัดหลวงตาวัดเดียว ให้พระวัดอื่นสวดศพตาเอิบแล้วกัน"
"เข้าใจพวกฉันเถอะ พวกชั้นก็ทำตามหน้าที่เหมือนกัน" จ๊อบบอก
หลวงตามองเคน หนึ่ง จ๊อบที่ไม่ยอมท่าเดียวด้วยสีหน้าปลงตก
"แบกไว้มันก็หนัก วางไว้มันก็เบา ยึดเอามันก็ทุกข์ ผู้ใดทำตัวเป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นทุกข์ทั้งปวง"
ทุกคนเปล่ง "สาธุ"
เคนบอกกับหลวงต
"พวกผมต้องกราบขอโทษหลวงตามากๆ ที่พวกผมยอมให้หลวงตาเข้ามาไม่ได้"
แล้วจู่ๆ ยอดล้มลงนอนชักที่พื้น แก้มตกใจเข้าไปประคอง ทุกคนตกใจสุดๆ
ยอดลุกขึ้นอย่างช้าๆ ทำหลังค่อมๆ เหมือนคนแก่ พลางมองพวกเคนตาขวางๆ แล้ววิ่งเข้าไปบีบคอเคน
ทุกคนมองยอดด้วยสายตาที่ตกตะลึง
ยอดบีบคอเคน ทุกคนตกใจมาก หนึ่ง จ๊อบ รีบเข้าไปจับตัวยอดออกจากเคน
เคนไอแรงๆ
"เอ็งจะฆ่าข้าหรือไงวะไอ้ยอด"
แก้มบุ๋มมองรู้ว่าน่าจะเป็นแผนของยอด
ยอดร้องไห้โหยหวน พูดเสียงยาน
"ไอ้พวกไม่มีน้ำใจ ทำไม่พวกเอ็งไม่สงสารคนแก่ๆ อย่างข้า"
ยอดหันไปเห็นหลวงตาก็ยกมือไหว้
"หลวงตาต้องเข้าไปสวดศพให้ผมด้วยนะครับ"
แก้มบุ๋มแกล้งตกใจ
"ยอดโดนตาเอิบเข้าสิง"
ทุกคนโพล่ง "ห๊า!!!! ผีตาเอิบ"
เคน หนึ่ง จ๊อบ มัคนายก พระสามรูปตกใจ แก้มบุ๋มทำท่าทางกลัวยอด พยายามยืนห่างๆ ยอดไว้
ยอดแกล้งพวกเคน พยายามจะเข้าไปหา แต่พวกเคนก็เอาหลวงตามาบัง กลายเป็นภาพเหมือนงูพยายามกินหาง แต่หางก็หนีไปทางซ้ายทีขวาที
ทุกคน"อ๊าก"
ยอดมองที่หลวงตาจะบอกว่าแกล้งพวกเคนหนึ่งจ๊อบ แต่หลวงตาไม่เล่นด้วย
"พอเถอะยอด"
ยอดเห็นหลวงตาไม่เล่นด้วยก็ตกใจรีบขู่เคนหนึ่งจ๊อบ
"ถ้ายอมให้หลวงตาไปสวดศพฉัน...ชั้นจะหักคอพวกแก"
ยอดมองพวกเคนตาขวาง เคน หนึ่ง จ๊อบ กลัวมาก พลางพนมมือไหว้ยอด
"พวกเรายอมแล้ว ลุงพาหลวงตาเข้าไปเลยครับ" จ๊อบบอกมัคนายก
เคน หนึ่งเห็นด้วย "ใช่ๆ เข้าไปเลย"
แก้มบุ๋มรีบพยักหน้า มัคนายกพาหลวงตาเข้าไป
"เร็วค่ะ...น้าพาหลวงตาเข้าไปก่อนที่ตาเอิบจะหักคอพวกเคน หนึ่ง จ๊อบ"
ยอดแกล้งหันมาทางแก้มบุ๋มทำท่าจะบีบคอ
แก้มบุ๋มกระซิบ
"แหม...ผีตาเอิบนี้ขี้เล่นนะ"
มัคนายกอยู่ในรถเปิดกระจกมาตะโกนบอก เคนหนึ่งจ๊อบ
"เฮ้ย เอารถออกให้ที"
เคนยืนนิ่งข้างๆ รถมอเตอร์ไซด์ที่จอดขวางรถกระบะไว้ หนึ่ง จ๊อบยืนอยู่ข้างๆ มองหน้าเคนงงๆ
"เดี๋ยว"
ทุกคนมองที่เคน สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
อ่านต่อหน้า 3
มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 14 (ต่อ)
เคนหันไปบอกหนึ่งกับจ๊อบ
"ถ้าไม่ปล่อยหลวงตาไปก็โดนผีหักคอตาย แต่ถ้าปล่อยหลวงตาไปพวกเราโดนพ่อผู้ใหญ่ยิงร่างพรุน ตายเหมือนกัน"
หนึ่ง จ๊อบร้อง "อี๊ย"
"เข้าไปไม่ได้" เคนประกาศกร้าว
ทุกคนมองเคนอย่างสงสัย…
"โดนผีบีบคอจนตาย ดีกว่าโดนยิงร่างพรุนเป็นไหนๆ" เคนว่า
หนึ่ง จ๊อบสนับสนุน "ใช่"
แก้มบุ๋มกับยอดมองหน้ากัน แล้วยอดที่เป็นผีหลังค่อม ตัดสินใจเดินเข้าไปหาพวกเคนช้าๆ
"ยอมให้หลวงตาไปหาข้า ซะดีๆ"
คราวนี้เคน หนึ่ง จ๊อบ ไม่ยอมง่ายๆ ทั้งสามคนหยิบก้อนหินโยนใส่ยอด
"ครั้งนี้ถึงตาย ข้าก็ไม่ยอมแพ้ผีอย่างเอ็งหรอก"
ยอดโดนขว้างก้อนหินใส่ ทนไม่ไหวกระโดดไปมา พลางร้องเจ็บปวดอย่างทรมาน
"เฮ้ย ผีเจ็บเป็นด้วยเหรอวะ" หนึ่งบอก
"ไอ้ยอดไม่ได้โดนผีตาเอิบสิง"
ทั้งสามคนเดินเข้าไปหายอดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจมากๆ
ยอดกับแก้มบุ๋มหน้าซีด…
"เอ่อ ผีตาเอิบออกตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
"นี่เอ็งกล้าหลอกพวกเราเหรอยอด เอ็งเห็นพวกเราเป็นตัวตลกเหรอวะ" เคนถาม
"คิดว่าพวกเราโง่น่ะดิ" หนึ่งบอก
แก้มบุ๋มบอก
"ยอด แค่หาทางที่จะให้พวกนายยอมให้หลวงตาเข้าไปในหมู่บ้านโคกสำเริงต่างหาก ยอดไม่ได้คิดจะดูถูกพวกนายเลยนะ"
จ๊อบบอก "ยังไงพวกพี่ก็ช่วยชาวบ้านทุกคนไม่ได้หรอก"
"ใช่ชั้นรู้ แต่ชั้นขอร้องให้พวกแกยอมช่วยเพื่อนคนนี้อีกสักครั้งได้มั้ยวะ ชั้นไม่อยากให้พวกแกทำผิด ชั้นอยากให้พวกแกคิดถึงชาวบ้านเพราะสิ่งที่ชั้นทำ ชั้นก็ทำเพื่อชาวบ้านทุกคน"
"ยอมช่วยพวกเราเถอะนะ ยอดจะมีความสุขมากที่เพื่อนรักอย่างพวกนายอยู่ข้างยอด...ยอดจะได้ไม่รู้สึกผิดที่มีเรื่องปิดบังพวกนายอีก"
เคน หนึ่ง จ๊อบ ทำท่าครุ่นคิดด้วยสีหน้าคิดหนัก
"ชั้นจะพยายามช่วยชาวบ้านให้มากที่สุด ถึงมีคนขัดขวางชั้นก็จะไม่ยอมแพ้"
ยอดกระโดดเข้าไปกอดรัดเคน หนึ่ง จ๊อบไว้ ยอดก็ใช้ทั้งขา มือ จับคนทั้งสามไว้แน่น พวกเคนพยายามหลุดจากการจับขอยอด
"แก้มเอารถมอเตอร์ไซค์ออกเร็ว ยังไงวันนี้หลวงตาต้องไปสวดศพตาเอิบ"
เคน หนึ่ง จ๊อบ ดิ้นจนหลุด ยอดไม่ยอมแพ้ ตามไปพยายามจับทั้งสามคนแต่ก็ทำไม่ได้
หลวงตาเปิดประตูรถเดินลงมายืน มองที่ยอดพยายามที่จะหยุดเคนหนึ่งจ๊อบ
"ความสำเร็จบางครั้งก็เหมือนไม้ขีดไฟ ที่อาจจะจุดไม่ติดในครั้งเดียว แต่อย่าเพิ่งท้อ มันต้องสำเร็จซักครั้งหนึ่งแน่นอน"
ยอดยังดึงพวกเคนหนึ่งจ๊อบอยู่
"ผมจะต้องเอาความดีชนะใจชาวบ้านรวมถึงพ่อกับผู้ใหญ่จุ่นให้ได้ครับ"
"เราจะข้ามอุปสรรคนี้ไปให้ได้ค่ะ"
พวกเคนหนึ่งจ๊อบหยุดดิ้น
"ผมก็จะช่วยยอด" เคนบอก
"ผมด้วย / ผมก็จะช่วยด้วยคนครับ" หนึ่ง จ๊อบบอก
ยอดปล่อยพวกเพื่อนๆแล้วยืนเหนื่อยหอบ
"ดีมาก ตำบลสามัคคีหวังพึ่งพวกเอ็งแล้วนะ"
ทุกคนยกมือไหว้หลวงตา
"ถ้าอยากบรรลุเป้าหมายก็ต้องมีความมุ่นมั่น อย่าล้มเลิกกลางทางล่ะ"
หลวงตาขึ้นรถ มัคนายกขับรถเข้าไปในหมู่บ้านโคกสำเริง
ทุกคนมองหน้ากันมุ่งมั่น
เช้าวันใหม่ สุชาติคุยโทรศัพท์กับตำรวจ สีหน้าเซ็งสุดขีด
"ขอบใจคุณตำรวจมากนะ เดี๋ยวอั๊วจะรีบไปเดี๋ยวนี้!"
ปัง! สุชาติตบโต๊ะ แล้วก็ยกมือขึ้นอย่างเจ็บปวด เคกับป๊อบเข้ามามองอย่างสนใจ
"โต๊ะนะไม่ใช่กลองตบเล่นทำไมครับเสี่ย" เคบอก
สุชาติตบหัวเค
"นี่แน่ะ"
"เออ ต้องแบบนี้สิ แฮ๊ ตบหัวผมทำไม"
"หงุดหงิดเว้ย ไอ้ปลากับไอ้ทูเด็กเดินยา มันโดนตำรวจลากเข้าห้องขังไปแล้ว ดันเมาแล้วไปมีเรื่องทะเลาะวิวาท กระทืบเด็กวัยรุ่นสลบ ป่านนี้ยังไม่ฟื้นเลย" สุชาติบอก
"แล้วตำรวจเจอยาในตัวพวกมันรึเปล่าครับ!! เมื่อคืนพวกมันต้องไปส่งยา"
"โชคดีที่มันเอายาทิ้งได้ทัน แต่โชคร้ายคืออั๊วเสียยาไปฟรีๆ เงินก็ไม่ได้ แถมไอ้สองตัวนั่นดันก่อเรื่องทำให้ตำรวจจับตามอง อั๊วคงใช้งานมันไม่ได้อีกแล้ว โธ่เว้ย อยู่ๆก็เสียลูกน้องมือดีไปสองคน"
สุชาติเอาเงินออกจากลิ้นชักสองปึก แล้วก็ลุกขึ้นอย่างเซ็งๆ พลางถอนหายใจ
"ไปเว้ย รีบไปประกันตัวพวกมันกันก่อน"
หน้าห้องขัง สุชาติ เค ป๊อป ยืนมองตำรวจที่คุมตัวลูกน้องทั้งสองเข้ามา
สุชาติเดินเข้าไปคุยกับตำรวจที่นำตัวลูกน้องมาส่ง ลูกน้องไหว้ขอบคุณสุชาติอย่างกลัวๆ
"เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับคุณตำรวจ"
"เรื่องประกันตัวเสร็จแล้วครับ เสี่ยพาลูกน้องกลับได้ แต่ทั้งคู่ต้องโดนควบคุมความประพฤติ และตอนนี้ทั้งสองคนก็ถูกขึ้นบัญชีดำจากผับบาร์ต่างๆ ในจังหวัดของเราแล้วด้วย"
"อั๊วจะอบรมมันให้หนัก แล้วต่อไปนี้พวกลื๊ออย่าก่อปัญหาอีก" สุชาติหันไปทำตาขวางใส่ลูกน้องทั้งคู่ "เข้าใจมั้ย"
ลูกน้อง2คนบอก "เข้าใจครับ"
"ปล่อย ปล่อยโผ๊ม" ... เสียงมืดโวยวายจากห้องขัง
สุชาติ เค ป๊อป และตำรวจหันไปเห็นมืดที่กำลังร้องโวยวายอยู่ในกรงขัง พยายามที่ออกจากกรงขังให้ได้ ข้างๆ อีกกรงมีกระเทยถูกจับขังไว้ ส่วนห้องขังมืดมีผู้ชายอีกหลายคน แต่ไม่มีใครยืนใกล้กรงที่กระเทยอยู่เลย แล้วตำรวจทั้งสองนายที่อยู่กับสุชาติ รีบไปดูมืด
"ปล่อยข้า ไอ้ยอดเพราะเอ็งคนเดียว ถ้าไม่มีเอ็ง ข้าก็ไม่ต้องอยู่ในคุกอย่างนี้"
ตำรวจ2 บอก
"ไม่มีใครช่วยคนขี้ขโมยอย่างเอ็งได้หรอก นอนสำนึกความผิดซะ บาปจะได้ไม่กินหัวเอ็งที่คิดขโมยเงินวัด นอนเงียบๆ ซะ ไม่งั้นข้าจะให้ไปนอนอีกห้อง"
มืดหันมองอีกห้องก็เห็นกระเทยกำลังเลียปากมองมืดอย่างยั่วยวน มืดเห็นก็กลัวคำขู่ รีบเงียบทันที
สุชาติหันไปมองอย่างสนใจ เคกับป๊อปรีบเสนอหน้าเล่าให้เจ้านายฟังทันที
"ไอ้มืดเด็กวัดครับเสี่ย มันขโมยเงินวัดเลยโดนไอ้ยอดกับพวกช่วยตำรวจจับเข้าคุก" เตบอก
ป๊อบบอก
"ไอ้มืดมันเป็นลูกค้าชั้นดีของเรา ชอบขโมยของเอาเงินมาซื้อยา คนนี้เลวเข้าขั้นเลยครับเสี่ย"
สุชาติยิ้มมองมืดอย่างชอบใจ
"เกลียดไอ้ยอด เป็นทาสของยา คนอย่างนี้แหละ ที่อั๊วต้องการมาใช้งาน"
สุชาติ เค ป๊อป มืด ลูกน้องสองคน พากันเดินลงมาจากโรงพัก
มืดไหว้ขอบคุณสุชาติ
"ขอบคุณเสี่ยที่ช่วยประกันผมอีกคน ไม่รู้เพราะอะไร แต่ก็ขอบใจมากนะครับ ต่อแต่นี้ถ้าเสี่ยจะเรียกใช้ผม ผมจะก้มหัวรับใช้ตลอดไป"
"ลื๊อจะยอมทำตามที่อั๊วบอกทุกอย่างจริงๆ ใช่มั้ย"
"ครับ"
"หันซ้าย (มืดหันซ้าย) ทำเสียงแมว (มืดร้องอย่างแมว) เป็นชะนีเรียกหาผัว (มืดร้องเป็นชะนี)"
สุชาติยิ้มมองอย่างชอบใจ
"ถ้าผมได้เป็นลูกน้องเสี่ย ผมจะถวายหัวรับใช้เสี่ยทู๊กอย่าง"
"ฮาๆ ดี งั้นอั๊วขอสั่งให้ลื๊อกลับไปอยู่วัดซะ"
"ห๊า!"
"ไป๊ ไสหัวกลับวัดไป"
"แต่ผมกลับไปอยู่ไม่ได้แล้วครับเสี่ย...ชาวบ้านกระทืบผมตายแน่"
"เค..ป๊อป...ไล่ไอ้มืดไป"
"ครับเสี่ย"
เคกับป๊อปไล่เตะมืด จนมืดวิ่งหนีไป สุชาติยืนมองยิ้มๆ เคกับป๊อปเดินกลับมา
เคมองอย่างไม่เข้าใจ
"เสี่ยจะไม่เอาไอ้มืดมาทำงานกับเราเหรอครับ"
"ใช่ครับเสี่ย ดูมันโง่ที่จะทำทุกอย่างให้เสี่ย"
"ไอ้มืดได้ทำงานให้อั๊วแน่ แต่อั๊วไม่ต้องการไอ้ขี้ขโมยเป็นลูกน้อง อั๊วต้องการคนที่ชาวบ้านให้ความเชื่อใจต่างหาก"
สุชาติมองทุกคนด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
ชาวบ้านโยนกระเป๋าเสื้อผ้าใส่มืดออกมาที่ลานวัด
ชาวบ้าน1บอก "ออกไปจากวัดซะไอ้มืด"
ชาวบ้าน2 บอก"ใช่ วัดของเราไม่ต้องการคนอย่างเอ็ง"
"ชั้นขอโทษ...เดี๋ยวฟังก่อน"
ชาวบ้านไม่ยอม กำลังจะหยิบของใกล้ๆตัวปาใส่มืด
หลวงตาออกมายืนกันมืดกับกลุ่มชาวบ้านไว้
"ใจเย็นๆ กันก่อนโยม อาตมาว่าโยมมืดคงสำนึกผิดแล้วแหละ"
"ใช่ครับหลวงตาผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมนะครับ ให้ผมอยู่ที่นี่ต่อเถอะครับผมไม่มีที่ไปจริงๆ"
"การให้อภัยเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่นะโยม"
ชาวบ้าน1บอก"คนอย่างนี้เลี้ยงไปก็เสียข้าวสุกเปล่าๆ"
"ชั้นสำนึกผิดแล้วจริงๆ"
ชาวบ้านทุกคนบอก "ไม่เชื่อๆๆ"
"แต่อั๊วเชื่อ"
สุชาติเดินเข้ามาพร้อมกับเคกับป๊อป
มืดมองสุชาติอย่างอึ้งๆ
"เสี่ย"
หลวงตาและชาวบ้านทุกคนมองสุชาติด้วยสีหน้าแปลกใจ
"อั๊วเป็นคนประกันตัวมืดออกมาเอง อั๊วคิดว่ามันสามารถกลับตัวได้"
ชาวบ้าน1บอก"แต่พวกเราไม่เชื่อ"
"อั๊วรับรองมืดมันเอง ถ้ามันทำผิดอีกครั้ง อั๊วจะชดใช้ให้ คนไทยมีน้ำใจไม่ใช่เหรอ ให้โอกาสมันเถอะ ไอ้มืดมันกลับตัวได้เชื่ออั๊วสิ"
"อาตมาก็จะช่วยดูช่วยสอนสั่งมืดอีกคนด้วย"
ชาวบ้านยังไม่มีใครเชื่อใจมืด สุชาติเดินไปหามืดด้วยสีหน้าจริงจัง
"มืด ลื๊อจะยอมสัญญากับอั๊วได้มั้ย ว่าลื๊อจะกลับตัวเป็นคนดี"
"ผมขอสาบานต่อหน้าหลวงตาและเสี่ยว่าผมจะกลับตัวเป็นคนดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอีก ถ้าผมทำอีกก็ให้ผมตกนรกหมกไหม้ตาย ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด"
"ดี ถ้าลื๊อผิดสัญญาอั๊วเนี่ยแหละจะเอาตัวลื้อเข้าคุกเอง"
"ไอ้มืดมันสัญญาแล้ว ทุกคนยอมรับไอ้มืดได้ยัง" ป๊อบบอก
"จบๆ เรื่องได้แล้วน๊า"
กลุ่มชาวบ้านมองหน้ากันพยักหน้ารับแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
ชาวบ้าน2 บอก"เอาพวกข้ายอมเชื่อใจไอ้มืดอีกครั้งก็ได้"
"เย้!"
มืดยิ้มดีใจมาก พลางเข้าไปไหว้ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสตัวเอง
สุชาติยิ้มมองภาพตรงหน้าอย่างชอบใจ
อ่านต่อหน้า 4
มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 14 (ต่อ)
เค ป๊อบ ลากมืดมาที่มุมหนึ่ง สุชาติยืนรออยู่ มืดวิ่งเข้าไปลงคุกเข่าไหว้เสี่ยสุชาติ
"ผมสัญญาว่าจะกลับตัวเป็นคนดีครับเสี่ย"
"ไม่ต้อง"
ทุกคนมองเสี่ยสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้น
"อั้วแค่อยากทำให้ทุกคนเข้าใจว่าลื้อเป็นคนดี อั๊วถึงจะให้ลื้อเป็นลูกน้องอั๊ว"
มืดยิ้มรู้ทันทีว่าเสี่ยต้องการอะไร
"ไม่มีปัญหาครับเสี่ย ไอ้เรื่องตบตาคนฉันถนัด"
"แล้วเรื่องหลอกลวงคนล่ะ"
"ถนัดมาก"
"อย่างนี้แหล่ะที่อั๊วต้องการ อั๊วจะให้ลื๊อมาเป็นมือขวาอีกคนของอั๊ว แต่ธุรกิจที่อั๊วทำ ตำรวจและคนอื่นๆ จะต้องไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าความลับรั่วไหล ลื๊อตาย แต่ถ้าลื๊อซื่อสัตย์กับอั๊ว บอกได้คำเดียว รวย รวย รวย ฮ่าๆๆ"
"เสี่ยอยากให้ผมทำอะไร เชิญบัญชามาได้เลยครับผม"
ทั้งสี่คนยิ้มให้กันอย่างชั่วร้าย…
ท็อปเป็นต้นทางเดินนำ ยอดระวังหลังให้ ยอดกับท็อปต่างถือปิ่นโต ทั้งสองเดินด้วย
ท่าทางระมัดระวัง พลางมองซ้ายขวาอย่างระวังตัว
"เคลียร์ ไม่มีใคร" ท็อปบอก
"โล่ง ข้างหลังก็ไม่มีคนตาม ไปได้"
"งั้นรีบไปกันเถอะ สาวๆ คงหิวแย่แล้ว"
"โอเค ฉันก็คิดถึงแก้มจะแย่อยู่แล้ว"
ท็อปกับยอดเห็นว่าทางโล่ง รีบพากันเดินไปที่กระท่อมอย่างรวดเร็ว
แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายนั่งส่องกล้องส่องทางไกล ออกนอกหน้าต่าง
ยอดกับท็อปเข้ามายืนบังที่หน้ากล้องของทั้งสองคน
สองหนุ่ม "จ๊ะเอ๋"
สองสาวร้อง "ว้าย!"
ยอดกับท็อปต่างหัวเราะชอบใจ แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายหมั่นเขี้ยวยอดกับท็อป เลยไล่ตีทั้งคู่
"พอแล้วๆ ขอโทษที่มาช้าไปหน่อย นี่ๆ ยอดทำกับข้าวเองกับมือเลยนะ"
"กินข้าวกันก่อนเถอะ จะได้มีแรงช่วยเหลือคน"
ทั้งหมดช่วยกันเอากับข้าวในปิ่นโตออกมาแล้วนั่งล้อมวงกินข้าว
"ยอดเชื่อว่าภารกิจของเราต้องสำเร็จ เพราะตอนนี้เคน หนึ่ง จ๊อบ ก็อยู่ฝ่ายเดียวกับเราแล้ว"
"ร่วมแรงกันช่วยชาวบ้านอย่างนี้ ไม่มีใครขัดขวางเราได้แน่นอน" ท็อปบอก
ท็อปเอาแต่กินอย่างเดียว จนปุยฝ้ายแซว
"แหม ทำเป็นพูดดี ดีแต่ปากรึเปล่าจ๊ะ"
ท็อปหยิบกล้องขึ้นมา
"งั้นทำงานโชว์เลยดีกว่า เอางี้ฝ้ายป้อนกับข้าวให้ผม ผมเป็นคนส่องกล้องเอง"
ท็อปเอากล้องมาส่องแล้วอ้าปาก พลางชี้ที่ปากให้ปุยฝ้ายเห็น ยอดกับแก้มบุ๋มอดขำไม่ได้
"ช่วยอนุเคราะห์เค้าหน่อยเถอะฝ้าย ไม่เป็นไร"
ปุยฝ้ายเสียมิได้ ตักข้าว ป้อนใส่จมูกของท๊อป
"เฮ้ยนั่นมันจมูก"
"อ้าวนึกว่านายกินทางจมูกซะ" ป้อนใหม่เข้าทางหู
"เฮ้ยหู...คนบ้าอะไรกินทางหู"
"เปล่าไม่ได้ป้อนทางหู แต่จะเอาข้าวยัดหู"
"เฮ้ย." ท็อปวางกล้องเอามือปิดหู
แก้มบุ๋มกับยอดมองสองคนแกล้งกันขำๆ
ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดี ต่างใส่ชุดทหารพราน ทุกคนมีกิ่งไม้ใบไม้คาดที่หัวกับผ้าโพกหัว ทุกคนแอบผุดๆ โผล่ๆ อยู่แถวพุ่มไม้ พลางสอดส่องสายตาไปมา ทั้งสี่พกปืนบีบีกันมาด้วย
ชาติชายบอก
"วอหนึ่งเรียกวอสอง เห็นอะไรผิดสังเกตบ้างมั้ย เปลี่ยน"
"วอสองเรียกวอหนึ่ง ไม่เห็น โอ๊ย" ยิ่งใหญ่บอก
พะเยาว์ตีหัวชาติชายกับยิ่งใหญ่ ด้วยสีหน้าดุๆ พลางยกมือบอกให้เบาๆ
"จะเสียงดังทำไม เดี๋ยวก็มีคนรู้หรอกว่าพวกเราแอบซุ่มอยู่"
สมปดีบอก "เรามีหน้าที่ดินแดนตรงนี้ อย่าให้ใครหน้าไหนเข้าไปได้"
ทุกคนบอก "เยสเซ่อร์"
"แม้แต่หมาสักตัวก็ห้ามเข้า" สมปดีบอก
ทุกคนพูดใกล้ๆ จมูกสมปดีปล่อยกลิ่นปากเต็มที่ "เยสเซอร์"
"เยสไม่เท่าไหร่ แต่เซอร์นี่เต็มๆ พวกมึงใช้ขี้แปรงฟันรึเปล่าวะเนี่ย"
ทุกคนแยกย้ายกันซุ่มระวังตามจุดต่างๆ สีหน้ามุ่งมั่นกันมากๆ
ถนนดินแดงเส้นทางไปหมู่บ้านดอนกระโทก เป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมีคนสัญจร
รถคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอด เป็นรถขนผลไม้ จำพวกแตงโมไร้เมล็ด ฝรั่งไร้เมล็ด และผลไม้อื่นๆ อยู่ในลังท้ายรถกระบะ มีชาวบ้านของหมู่บ้านโคกสำเริงเป็นขับและนั่งอยู่ด้านข้างกับท้ายรถอีกสองคน ทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งเครียด ชาวบ้าน 1 เปิดกระจกรถเพื่อคุยกับคนที่กระบะหลัง
ชาวบ้าน1ถาม "แน่ใจเหรอวะ"
ชาวบ้าน2 บอก"ไปเลย ผ่านเข้าไปหมู่บ้านดอนกระโทก เราต้องไปส่งผลไม้ให้ทันให้ได้"
"เฮ้ย แต่พวกดอนกระโทกเค้าไม่ให้พวกโคกสำเริญผ่านนะ"
"แต่ถ้าเราอ้อมไปรับรองส่งของไม่ทัน ขาดทุนยับแน่"
"เอาก็ได้"
ชาวบ้าน1ตัดสินใจจะออกรถ
ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดี ออกมายืนขวางทางรถ รถเบรก
"พวกโคกสำเริงผ่านไม่ได้"
สมปดีบอก "หมู่บ้านพวกเอ็งอยู่ทางโน้น หันหลังกลับไปซะ"
ชาติชาย ยิ่งใหญ่ ถือปืนพลาสติก
ชาวบ้าน2 บอก"พวกชั้นรีบจริงๆ นะ ถ้าอ้อมไปไม่ทันแน่"
ชาวบ้าน1บอก"นะขอผ่านหน่อยเดี๋ยวขากลับพวกเราจะอ้อมกลับหมู่บ้านเหมือนเดิม"
"ไม่เกี่ยวกับพวกฉัน ยังไงก็เข้าไปไม่ได้ กลับไปเลย" พะเยาว์บอก
"ถ้าเข้ามาข้ายิงใส่พวกเอ็งจริงๆ ด้วย" ยิ่งใหญ่ว่า
ชาวบ้าน1บอก"ข้าไม่กลัวปืนปลอม"
ชาวบ้าน2 บอก "ถ้าขอกันดีๆ ไม่ให้ก็ขับเข้าไปเลย ใครขวางชนมันเลย"
รถของชาวบ้านโคกสำเริงเร่งเครื่องรถจะฝ่าเข้าไป
ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดีที่ยืนขวางรถไว้ ตกใจนึกว่ารถจะชนก็วิ่งหนีแต่รีบไปหน่อยวิ่งชนกันล้มลงไปทั้งหมด
" อ๊าก"
ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดี หลับตากลัวสุดขีด
เปรี้ยง!!! เสียงปืนดังขึ้น องอาจก็ก้าวเท้าเข้ามา พลางถือปืนพกเข้ามาด้วย
"ถ้าข้าอยู่ ใครหน้าไหนก็เข้าหมู่บ้านดอนกระโทกของข้าไม่ได้ ไอ้พวกนั้นปืนปลอม
แต่ข้าปืนจริงโว้ย!"
พวกชาวบ้านตกใจกลัวหลบกันใหญ่ พวกชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดี เห็นองอาจก็ดีใจ
เปรี้ยง ๆ ๆ !!! ท็อปที่ใช้กล้องสอดส่องไปมาถึงกับสะดุ้ง ทุกคนตกใจเสียงปืนที่ได้ยิน
"เกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ นั่นเสียงมาจากทางนั้น"ปุยฝ้ายว่า
ปุยฝ้ายชี้ให้ทุกคนมองดูไปยังทิศทางที่เกิดเรื่อง ท็อปเอากล้องส่องทางไกลส่องมองไปทางเสียงที่ได้ยิน
"ไม่นะ คนในคณะของฝ้ายกำลังประจันหน้ากับชาวบ้านโคกสำเริง น้าองอาจถือปืนมาด้วย"
"งั้นรีบไปห้ามทัพกันเถอะ" แก้มบุ๋มบอก
"ไม่ได้ แก้มออกไปห้ามไม่ได้ เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยที่พวกเราอยู่พร้อมหน้ากัน ให้ยอดกับท็อปออกจัดการเองเถอะ แก้มอยู่กับฝ้ายที่นี่แหละเดี๋ยวพวกเรากลับมา"
"งั้นดูแลตัวเองดีๆ นะ" แก้มบุ๋มบอก
"ไปเถอะยอด ชักช้าเดี๋ยวไม่ทันการ"
"ท็อป นายก็ดูแลตัวเองด้วยละ"
ยอดกับท็อปรีบวิ่งออกไป แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายมองตามทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วง
ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดี ยืนอยู่ด้านหลังองอาจ ทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันอย่างไม่เกรงกลัว
องอาจบอก "นี่ถึงขึ้นจะฆ่าจะแกงกันเลยเหรอ!!! ถ้ารถชนขึ้นมาไม่ตายก็พิการนะโว้ย"
ชาวบ้าน1บอก"ก็พูดดีๆ แล้วไม่ฟัง บอกแล้วไงว่าฉันต้องรีบไปส่งของเดี๋ยวนี้"
พะเยาว์น้ำตาไหล "ฉันยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตนเลย บังอาจมาก"
"วันนี้พวกเราจะได้เห็นดีกัน" ยิ่งใหญ่บอก
"พวกเอ็งไม่มีทางได้ส่งผลไม้ทันแน่ พวกเรา ลุย"
องอาจ ชาติชาย องอาจ พะเยาว์ สมปดี ขึ้นหลังรถกระบะเอาผลไม้มาทุ่มเล่น
ชาวบ้าน2 บอก
"เฮ้ยๆๆ อย่านะโว้ย อย่า ของซื้อของขายทั้งนั้น อย่า!"
ชาวบ้านหมู่บ้านโคกสำเริงพยายามห้าม จนเกิดความชุลมุนวุ่นวายไปหมด
องอาจ ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดีทำลายผลไม้ ทั้งสี่คนเหนื่อยหอบ พลางมองพวกชาวบ้านโคกสำเริงที่เหนื่อยเหมือนกันด้วยสีหน้าสะใจ
"ที่นี่พวกเอ็งก็ไปส่งของไม่ได้แล้ว" องอาจบอก
พะเยาว์บอก "สมน้ำหน้า"
องอาจ ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาวะ สมปดี หัวเราะ "ฮ่าๆๆ"
ชาวบ้านโคกสำเริงไม่พอใจมาก เข้าไปต่อสู้ทำร้ายกับพวกชาติชายอย่างไม่ยอมน้อยหน้า
ชาวบ้าน1 บอก"พวกเอ็งต้องชดใช้"
เกิดการต่อสู้จนปืนในมือขององอาจกระเด็นหล่นไป
ยอดเข้ามาพร้อมท็อป ยอดหยิบปืนแล้วยิงขึ้นฟ้า เปรี้ยง!!! ทุกคนหันไปมองผู้มาใหม่
"หยุด หยุดได้แล้ว" ยอดบอก
ยอดและท็อปเดินเข้าไปแทรกกลางของทั้งสองฝ่าย
"อย่าให้ถึงเลือดถึงเนื้อกันเลย มีอะไรก็พูดจากันดีๆ อย่าใช้กำลัง"
"มันไม่ทันแล้วเว้ย ไอ้พวกนี้มันทำผลไม้ของพวกเราเสียหายไปแล้ว"
"พวกเอ็งจะทำร้ายพวกข้าก่อน ตาต่อตาฟันต่อฟันเว้ย" องอาจบอก
"ใจเย็นก่อนครับ ถ้าเรื่องส่งผลไม้ช้า ผมจะให้พ่อเป็นคนช่วยเคลียร์ปัญหาให้ ขอให้เลิกแล้วต่อกันเถอะครับ" ท็อปบอก
ชาวบ้าน1บอก
"ไอ้พวกหมู่บ้านดอนกระโทกวันนี้เราต้องเห็นดีกัน พวกเราลุย"
ชาวบ้านหมู่บ้านโคกสำเริง "อ๊าก"
"ลุยก็ลุยสิวะ!"
องอาจ ชาติชาย ยิ่งใหญ่ พะเยาว์ สมปดี "อ๊าก"
ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมกันวิ่งตะลุมบอนกันอีกรอบ
ยอดกับท๊อปเข้าไปช่วยห้าม
"อย่า อย่าทะเลาะกัน อย่า"
ยอด ท็อป เข้าไปห้ามและโดนลูกหลงจนกระเด็นล้มลงไป
ยอดกับท็อปมองด้วยสีหน้าผิดหวัง
ยอด ท็อป นั่งถอนหายใจเฮือก สีหน้าเครียดๆ แก้มบุ๋ม ปุยฝ้าย มองอย่างเห็นใจ
"ชาวบ้านทั้งสองฝั่งทะเลาะกันหนักกว่าเดิม แรงมาก็แรงไป ไม่มีใครยอมใคร"
ท็อปบอก "นี้ไม่แค่ทำร้ายร่างกายกัน ยังทำร้ายทรัพย์สินกันอีกต่างหาก"
"รู้งี้ไปช่วยห้ามด้วยดีกว่า เพื่อจะช่วยห้ามศึกได้" ปุยฝ้ายว่า
"ไม่มีทาง โกรธเกลียดกันขนาดหนัก เอาตำรวจมาทั้งโรงพักพวกนั้นก็ไม่ยอมหยุดหรอก"
ยอดบอก
"ปัญหาแบบนี้จะมีทุกวัน และจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เชื่อยอดได้เลย"
แก้มบุ๋มกอดให้กำลังใจยอด
"ปัญหาจะใหญ่แค่ไหน เราจะไม่มีวันทิ้งกัน"
"ขอบคุณที่ให้กำลังใจกันนะแก้ม ยอดยังไม่หมดหวังหรอก แค่มีแก้มอยู่ข้างๆ ยอดก็มีกำลังสู้ต่ออยู่แล้ว"
ปุยฝ้าย ท็อปร้อง "ฮิ้ว"
พลันเสียงโทรศัพท์มือถือแก้มบุ๋มดังขึ้น แก้มมองหน้าจอแล้วสีหน้าตกใจ
"พ่อโทรมา!"
"แยกย้ายกันกลับได้แล้ว ก่อนที่ใครจะสงสัยไปมากกว่านี้"
ทุกคนออกมาจากกระท่อม แก้มบุ๋มคุยโทรศัพท์กับจุ่น
"แก้มออกมาหาซื้อกาแฟกินน่ะพ่อ น้องก็อยู่ข้างๆ กันนี่แหล่ะ กำลังจะกลับแล้ว
พ่อเอาอะไรหรือเปล่าจ๊ะ"
แก้มบุ๋มหันไปทำมือโอเคให้ทุกคน ทำนองว่าสถานการณ์โอเคอยู่
"ห๊า อะไรนะพ่อ!!! ไม่จริง มันจะเป็นไปได้ยังไง ทำแบบนี้ก็มีแต่ตายกับตาย!!! ได้
พ่อ แก้มจะรีบกลับเดี๋ยวนี้!"
แก้มบุ๋มวางสายไปอย่างเครียดๆ
"แก้มมีเรื่องอะไรเหรอ" ยอดถาม
"พ่อลืมไปว่าคืนนี้คณะของแก้มต้องเล่น เป็นลิเกแก้บน เจ้าภาพจ้างไว้กับพ่อ
เดือนที่แล้ว แต่พ่อเพิ่งจำได้เมื่อกี๊ ที่สำคัญเจ้าภาพระบุต้องเป็นวงของแก้มเท่านั้น"
"แล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหน ก็แค่มีเจ้าภาพจ้างให้เล่นลิเกแก้บน" ท็อปถาม
" เจ้าภาพจ้างให้มาเล่นที่หมู่บ้านโคกสำเริง"
ทุกคน"เฮ้ย"
"เจ้าภาพบอกว่าบนบานไว้แล้ว ถอนคำแก้บนไม่ได้ด้วย ต้องเล่นที่โคกสำเริงคืนนี้
เท่านั้นไม่มีข้อยกเว้น"
ยอดตะลึง
"พ่อไม่มีทางให้คณะแก้มเข้ามาเหยียบหมู่บ้านเด็ดขาด"
"แต่พ่อบอกว่า ถ้าไม่มีทางเลือก ก็ต้องมาเล่นที่นี่"
ยอดบอก "พูดเลยนะ งานนี้มีแต่ตายกับตาย"
"ใช่ มีแต่ตายกับตายสถานเดียว"
ทุกคนสีหน้าเครียดจัดกับสถานการณ์สุดตึงเครียดที่กำลังจะอุบัติขึ้น
อ่านต่อตอนที่ 15