อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่22
หย่งชิงยังคงคุยอยู่กับเยี่ยนเจ๋อ
“เดิมที ฉันรู้สึกว่าเขาเหมือนคนที่เคยทรยศฉัน ฉันจึงต้องการทำให้เขาพินาศ จงใจพาเขาไปงานเลี้ยงของแม่บุญธรรม ต่อมางานเลี้ยงของเพื่อน ฉันก็เรียกเขาไป”
หย่งชิงนึกถึงเหตุการณ์ในวันที่เธอและเพื่อนๆ นัดเจอกัน
“คราวนี้พวกเธอพนันอะไร” หย่งชิงถาม
“ใครสามารถทำให้เขาโกรธได้” เพื่อนคนหนึ่งบอก
“อันนี้ดี ฮิๆๆ”
“ตกลงตามนี้”
“ได้”
ยิ่วเชียนเดินเข้ามาหาหย่งชิง
“นายมาเร็วเกินไป งานยังไม่เลิกเลย”
เพื่อนคนหนึ่งของหย่งชิงแกล้งเข้ามาเหยียบเท้ายิ่วเชียนหวังจะให้เขาโกรธ แต่ยิ่วเชียนมองเฉยๆ แล้วเดินออกไป เพื่อนหย่งชิงอีกคนทำทีเปิดกระป๋องน้ำอัดลมเปื้อนเสื้อยิ่วเชียน แต่เขาไม่ได้ต่อว่าอะไร หย่งชิงลงมือเองบ้างโดยการถือแก้วเหล้าไปหายิ่วเชียนแล้วทำทีจะสะดุดล้มให้เหล้าหกใส่เสื้อเขา แต่ยิ่วเชียนคว้าแก้วเหล้าไว้ได้ทัน
“เทคนิคเล่นสกปรกของพวกเธอ สำหรับผมแล้ว มันแค่เล็กน้อยเท่านั้น รบกวนพวกคุณเล่นไปเถอะ ถ้าถึงเวลาแล้ว ค่อยมาบอกผม”
หย่งชิงงอนๆ คว้าแก้วเหล้าคืนแล้วกลับไปนั่ง สักพักเธอเริ่มเมา เดินมาตีไหล่ยิ่วเชียน
“นายขี้เหร่ ฮิๆ รอนานแล้วคงอยากกลับแล้วสินะ”
หย่งชิงกระดกเหล้าดื่มอีก ยิ่วเชียนแย่งแก้วเหล้าไป ทำให้เธอสำลักนิดหน่อย
“นายทำอะไร”
“โทษทีครับ ขอน้ำแก้วนึง”
ยิ่วเชียนส่งแก้วน้ำให้หย่งชิง หย่งชิงส่งคืน ยิ่วเชียนจ้องหน้าหญิงสาว
“นายมองอะไร มองนานแล้ว นายมองอะไรออกบ้าง”
“ผมมองออกว่า คุณไม่มีเพื่อน สำหรับคนเหล่านี้ ผมเชื่อว่าคุณน่าจะรู้แก่ใจดี”
หย่งชิงนึกมาถึงตรงนี้แล้วเริ่มเศร้าขึ้นมาอีก
“เซี่ยยิ่วเชียน ไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นที่มักจะพูดแต่เรื่องไร้สาระ และชอบโอ้อวดตัวเอง ยิ่วเชียนเขาสงบนิ่งมาก เมื่อฉันหันหลังกลับไป เขาจะยืนอยู่ตรงนั้นเป็นที่พึ่งของฉัน ทำให้ฉันติดเป็นนิสัย มีอะไรเขาก็คอยช่วยเหลือฉัน แม้แต่บ่นสักครั้งยังไม่เคย แล้วทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ล่ะ”
“ความจริง ตอนนี้ยังไม่สาย เธอลองไปซื้อสิ่งที่เซี่ยยิ่วเชียนต้องการที่สุดสิ”
หย่งชิงมองหน้าเยี่ยนเจ๋อ
หย่งชิงไปที่ศาลเจ้าหมู่บ้านภูล่าน พลางถอนใจ
“โลกช่างแคบจริงๆ”
ไห่โค่และพวกเดินออกมาจากศาลเจ้าเจอหย่งชิง
“เหมือนยังเมาค้างอยู่เลย เอ๊ะ นี่ผู้หญิงที่ถูกเซี่ยยิ่วเชียนทิ้งนี่น่า ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”
ลูกน้องหัวเราะ
“แกน่ะสิเป็นผู้ชายที่อันซีไม่ต้องการ”
“เอ๊ะ”
“จริงครับ” ต้าหูรับคำ ไห่โค่ไม่พอใจ
“จริงบ้านพ่อแกสิ เธอพกกระเป๋าแบรนด์เนมก็อปปี้ ทำให้ฉันเกือบตาย ไม่มีเงินซื้อใช่มั้ย เดี๋ยวฉันซื้อให้เอง”
“ขนาดกระเป๋าแบรนด์เนมหรือของก็อปปี้แกยังแยกไม่ออก ฉันยังไม่ได้คิดค่าเสียหายกับแกเลย”
“เธอ ยัยผู้หญิงหน้าบึ้ง ฉันต่างหากต้องคิดค่าเสียหายทางจิตใจกับเธอ”
“ไอ้คนน่าเกลียด คำนี้ฉันควรเป็นคนพูดมากกว่านะ”
“ฉันน่าเกลียด”
ไห่โค่ไม่พอใจ ลูกน้องปราม
“ลูกพี่ๆๆ”
“อย่าสนใจผู้หญิงแบบนี้เลย ผอมแห้งไม่มีเนื้อหนัง”
“นั่นน่ะสิ ไม่มีใครเอาหรอก” ไห่โค่เยาะ
พวกไห่โค่เดินออกไป หย่งชิงไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย เดินเข้าไปถามหญิงคนหนึ่ง
“ไม่ทราบว่า ประธานกรรมการที่นี่เป็นใคร”
ไห่โค่ชะงัก
“ประธานกรรมการเหรอ อยู่ทางโน้น”
หญิงคนนั้นชี้ไปที่ไห่โค่ หย่งชิงหันไปมอง
“พวกเขากำลังหาใคร” ไห่โค่งง
“ท่านประธาน ประธานเจียงครับ” ต้าหูบอก
“ประธานเจียงๆ” ไห่โค่ทวนคำ
“เอ๊ะ ดูเหมือนจะเป็นพี่นะ”
ไห่โค่รีบเข้าไปหาหย่งชิง
“สวัสดี คุณมาหาประธานกรรมการใช่มั้ยคุณผอมแห้ง”
“ฉันมาซื้อบ้านของเซี่ยยิ่วเชียน”
“อ้อ ซื้อบ้านของเซี่ยยิ่วเชียน ซื้อไปทำไม”
“เก็งกำไรน่ะสิ” ต้าหูบอก
“บ้านหลังนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ ฮวงจุ้ยดีมาก” เสี่ยวหูจะโก่งราคา
“เป็นบ้านผีสิงยังบอกว่าฮวงจุ้ยดีอีก” ต้าหูท้วง
“ไม่ใช่ ฉันคิดว่า เขาคงถูกเซี่ยยิ่วเชียนทิ้ง” ไห่โค่บอก
หย่งชิงหน้าบึ้ง
“ดังนั้นจึงซื้อบ้านหลังนั้น เผาทิ้งไป เพื่อแก้แค้น”
“ฉันไม่ได้ถูกเซี่ยยิ่วเชียนทอดทิ้ง”
“เอ๊ะๆๆ ระวังกิริยาของคุณด้วย ฉันเป็นหนุ่มหล่อที่สุดในหมู่บ้านภูล่าน อย่าใช้กิริยาอย่างนี้กับฉันนะ ทำตัวให้”
“ลูกพี่ๆ ฉันรู้แล้ว เพราะเขาถูกเซี่ยยิ่วเชียนทอดทิ้ง เลยต้องการซื้อบ้าน” เสี่ยวหูบอก
“ฉันเปล่านะ”
“ฉันรู้แล้ว เขาคงถูกเซี่ยยิ่วเชียนทอดทิ้ง ดังนั้นจึงต้องการซื้อ” ต้าหูวิเคราะห์
“ฉันไม่ได้ถูกเซี่ยยิ่วเชียนทิ้ง” หย่งชิงเสียงดัง
“นี่แหละเรียกว่าถูกทอดทิ้ง ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นเหมือนฉัน ภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่กลับมีหัวใจที่เปราะบาง” ไห่โค่บอก
“ฉันแค่มาซื้อบ้าน ตกลงจะขายหรือไม่ขาย”
“ถึงฉันไม่ชอบหน้าเธอเท่าไหร่ แต่ฉันคิดว่า เธอหัวอกเดียวกับฉัน”
“อื้ม งั้นอย่าทำให้เธอหมดหวังสิ” เสี่ยวหูบอก
“ขาย แต่ฉันมีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง คุณซื้อบ้านของเซี่ยยิ่วเชียนไป จากนั้นก็กลับไปคืนดีกัน หลังจากนั้น เซี่ยยิ่วเชียนก็ไปจากอันตูตู อันตูตูก็จะกลับมาหาฉัน จริงมั้ย”
ลูกน้องทั้งสองเห็นด้วย ทั้งหมดรีบเชิญให้หย่งชิงมาคุยเรื่องการซื้อบ้าน
อ่านต่อหน้า 2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่22 (ต่อ)
เยี่ยนเจ๋อนั่งคิดเครียดอยู่ที่ห้องทำงาน พลางพึมพำ
“หย่งชิงคงซื้อบ้านของเซี่ยยิ่วเชียนแล้วล่ะ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญ”
พนักงานเดินเข้ามา
“หัวหน้า มีเอกสารส่งมาถึงคุณค่ะ”
“ดี ขอบคุณ”
เยี่ยนเจ๋อเปิดซองเอกสารดู
“เฮ่อ หัวหน้ากับอันซีเป็นแม่ลูกกันจริงๆ เฮ่อ ใครจะคิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กัน แต่ว่า ดูเหมือนหัวหน้าไม่ชอบอันซี ฉันคงต้องหาโอกาส ทำให้พวกเขาสานความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก่อนอื่นต้องทำให้หัวหน้าเปลี่ยนมุมมองในตัวอันซี”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เยี่ยนเจ๋อเปิดลิ้นชักออกมา หยิบโทรศัพท์มารับสาย พูดโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ
“ฮัลโหล คุณรูเบน ไม่ต้องห่วงครับ ผมรับรองว่าไม่มีปัญหา ใช่แล้วครับ คุณอย่าลืมสิว่าผมเป็นใคร ท่านประธานประจำภูมิภาคแห่งเอเชีย โอเค รอข่าวดีจากผมแล้วกัน ครับ ผมทราบแล้ว แล้วเจอกันครับ”
เยี่ยนเจ๋อวางสาย เก็บโทรศัพท์ไว้ในลิ้นชักอย่างเดิม
“ชัยชนะและความพ่ายแพ้ที่แท้จริง กำลังจะเริ่ม ณ บัดนี้”
เยี่ยนเจ๋อปัดหมากรุกตัวที่เอาของยิ่วเชียนมาล้มลง
ไป๋คังนั่งเล่นหมากรุกกับอันซีอยู่ที่บ้าน
“เธอเดินตรงนี้ไม่ได้ เดินตรงนี้รถฉันก็ระเบิดสิ”
“อ้อ เฮ้อ”
ระหว่างนั้นมีไลน์จากยิ่วเชียนส่งมา
“เอ๊ะ”
อันซีเปิดไลน์อ่าน ไป๋คังถามขึ้น
“ยิ่วเชียนว่ายังไงบ้าง”
“จะเลิกงานแล้ว”
“อื้ม”
“คุณปู่รู้ได้ไงว่าเป็นยิ่วเชียน”
“แค่ดูท่าทางเธอก็รู้แล้ว ฉันเพิ่มเธอเข้าในโปรไฟล์แล้ว ส่งเกมไปให้เธอด้วย ไม่เห็นเธอส่งกลับ”
“โธ่คุณปู่อย่าโกรธเลยค่ะ ฉันจะเพิ่มตอนนี้เลยค่ะ”
“เอ๊ะ ไม่ต้อง รีบๆ ไปชงน้ำชาให้ฉันก่อน”
“ได้ค่ะ จะรีบมาค่ะ”
เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น
”ฉันไปเปิดประตูก่อนนะคะ เอ๊ะ คุณหู”
หย่งชิงเดินเข้ามาพอดี
“ฉันมาหายิ่วเชียน”
“ยิ่วเชียนยังไม่กลับมา”
“ฉันรู้ ฉันรู้เวลาการทำงานของเขามากกว่าเธอ คุณปู่ๆ ฉันมีธุระกับยิ่วเชียน และแวะมาเยี่ยมคุณปู่ค่ะ ฉันเอาชาอูหลงมาฝากคุณปู่ด้วยค่ะ” หย่งชิงพูดอย่างเกรงๆ
“เธอมาเยี่ยมฉันก็ถือว่าไม่ต้องเกรงใจ”
“เอ่อ พอดีเลย คุณปู่กำลังอยากดื่มชา คุณหูเอาชามาฝากพอดี คุณหู ขอโทษค่ะฉันเรียกคุณว่าหย่งชิงได้มั้ย เรียกคุณว่าคุณหูทุกครั้งเลย”
“เธอเอาชาไปชงก่อน”
“อ้อ ค่ะ”
อันซีเดินออกไป ไป๋คังมองหน้าหย่งชิงเอือมๆ หย่งชิงหน้าเจื่อนๆ
“ทำไมจู่ๆ ฉันถึงรู้สึกเย็นนะ” ไป๋คังบ่น
อันซีได้ยิน “คุณปู่รู้สึกหนาวเหรอคะ”
“อืม”
“งั้นฉันไปเอาเสื้อกันหนาวให้นะคะ”
“ดี”
อันซีเดินออกไป หย่งชิงพยายามทำดีกับไป๋คัง
“คุณปู่ ฉันช่วยค่ะ”
หย่งชิงเข้าไปช่วยรินน้ำชาให้ ไป๋คังดื่มแล้วก็ทำท่าเป็นปวดเมื่อยต้นคอ หย่งชิงเห็นรีบอาสา
“คุณปู่ไม่สบายเหรอคะ ฉันนวดให้นะ”
หย่งชิงนวดไม่ค่อยเป็น อันซีเดินมา ไป๋คังรีบเรียก
“อันซี รีบมาเร็ว”
อันซีจะสวมเสื้อให้ไป๋คัง แต่หย่งชิงแย่งไปทำให้เอง ไป๋คังรีบบอก
“คราวนี้รู้สึกอุ่นขึ้น”
หย่งชิงยิ้มคิดว่าชมเธอ แล้วก็หุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินไป๋คังพูดต่อ
“ขอบคุณมากอันซี”
“ยินดีค่ะ”
“มา นั่งก่อน ๆ เรายังเล่นหมากรุกไม่เสร็จเลย”
“อ้อ ค่ะ”
“คือว่า ยิ่วเชียนเคยบอกว่า คุณปู่ชอบขนมถั่วงาดำทานกับน้ำชา ละแวกนี้มีร้านหนึ่งอร่อยมาก อันซี ถ้าให้เธอไปซื้อเธอคงไม่ถือสานะ”
“ได้สิ งั้นฉันจะรีบไปซื้อ”
“นี่ๆๆ ไม่ต้องลำบากหรอก” ไป๋คังบอกอันซี
“แล้วฉันจะส่งที่อยู่ร้านให้เธอ ลำบากหน่อยนะ” หย่งชิงตัดบท
“ไม่ลำบากหรอก คุณปู่ ฉันจะรีบกลับมาค่ะ”
พร้อมกับว่า อันซีเดินออกไปเลย
อ่านต่อหน้า 3
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่22 (ต่อ)
ไป๋คังไม่ค่อยพอใจนักที่ต้องอยู่กับหย่งชิงสองคน
“เล่นหมากรุกอย่างนี้ โง่เกินไปรึเปล่า เล่นหมากรุกควรหาคู่เล่นที่เหมาะสม ถ้างั้น ฉันเล่นกับคุณปู่แล้วกัน”
หย่งชิงนั่งลงเล่น
“ตาคุณปู่แล้ว ทหาร”
“อื่ม เธอชนะแล้ว”
“แสดงว่าฉันพูดถูกแล้ว เล่นหมากรุกควรจะหาคนที่เล่นเก่ง”
“เห็นแก่เธอที่เคยช่วยชีวิตฉัน และเคยช่วยเหลือยิ่วเชียน ฉันขอบอกเธอตรงๆ เธอทำลายพื้นฐานความสนุกของเกม ต้องเล่นด้วยใจ ถึงจะสนุก”
ยิ่วเชียนเปิดประตูเข้ามา
“ผมกลับมาแล้ว”
หย่งชิงยิ้มดีใจ ยิ่วเชียนแปลกใจ
“หย่งชิง”
“ฉันมีข่าวดีจะบอกคุณ”
“อันซีล่ะ”
หย่งชิงหน้าบึ้ง
“เขาไปซื้อขนมถั่วงาดำให้คุณปู่”
ยิ่วเชียนไม่พอใจ ระหว่างนั้นอันซีกลับเข้ามาพอดี
“ฉันกลับมาแล้ว ฉันซื้องาดำและงาขาวมาด้วย ยิ่วเชียนคุณกลับมาแล้ว”
“ฉันบอกแล้วไงออกไปซื้อของกลางคืนต้องบอกฉันก่อน”
“ตอนนี้เพิ่งหกโมงครึ่ง ยังไม่มืดเลยนะ”
“หกโมงเย็น ก็ถือว่ามืดแล้ว”
“ใครเป็นคนกำหนด เอาล่ะๆ ต่อไป ถ้าออกไปตอนมืดฉันจะบอกคุณ โอเคมั้ย คุณปู่ จะกินแบบไหนก่อนคะ คุณหูล่ะ”
“เธอไปชงน้ำชาก่อน”
ยิ่วเชียนไม่พอใจหย่งชิง หันมาบอกอันซี
“ของคุณปู่คนเดียวพอ”
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าหย่งชิงพลางบอก
“ขึ้นมาข้างบนกับผมหน่อย”
หย่งชิงถอนใจ มองอันซีอย่างถือดี ก่อนเดินตามยิ่วเชียนไป ยิ่วเชียนพูดหน้าเครียด
“อันซีไม่ใช่คนรับใช้ ต่อไปอย่าเรียกใช้เธออีก”
“คุณดูปกป้องเธอมากเลยนะ ถึงฉันจะเหยียบเธอ ถ้าเธอไม่เต็มใจก็คงบังคับเธอไม่ได้”
ยิ่วเชียนถอนใจ
“คุณมาบ้านผมต้องการอะไร”
หย่งชิงยิ้ม
“ฉันมีของขวัญชิ้นใหญ่จะให้คุณ คุณเห็นแล้วต้องดีใจแน่”
หย่งชิงหยิบสัญญาซื้อขายบ้านมายื่นให้ยิ่วเชียน
“นี่เป็นสัญญาซื้อขายบ้านเก่าของคุณที่หมู่บ้านภูล่าน ฉันช่วยคุณซื้อไว้แล้ว”
“คุณรู้ได้ไงว่าผมต้องการซื้อบ้านเก่า”
“คุณไม่อยากได้เหรอ”
ยิ่วเชียนคิดในใจ
“นอกจากต้าอี๋ คูณปู่ ฉันและอันซี แล้วยังมี...”
ยิ่วเชียนนึกถึงเรื่องที่เขาเคยโทรศัพท์คุยกับอันซี ขณะที่เยี่ยนเจ๋ออยู่กับอันซีด้วย
“กินแล้วค่ะ ตอนนี้ ฉันอยู่ห้องสมุดกับเยี่ยนเจ๋อ ฉันได้ยินแล้ว บ้านของเจียงไห่โค่ถ้าคุณซื้อกลับมาได้คุณปู่ต้องดีใจมาก”
ยิ่วเชียนนึกถึงเรื่องนี้ เข้าใจทันที
“พี่ชายคุณบอกให้ซื้อใช่มั้ย”
หย่งชิงไม่ตอบ
“คุณไม่พูดแสดงว่าใช่ คุณซื้อราคาเท่าไหร่ ผมเพิ่มให้อีกเท่าตัว”
หย่งชิงโกรธ
“เซี่ยยิ่วเชียน”
“เท่าไหร่”
“คุณต้องทำอย่างนี้ด้วยเหรอ ฉันมาหาคุณด้วยตัวเอง และพยายามเข้าหาคุณกับคุณปู่ ปกติคนอย่างฉันไม่ทำแบบนี้ คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”
“ผมเข้าใจ แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงทำอย่างนี้”
“ที่ฉันทำอย่างนี้เพราะ”
“หูหย่งชิง ผมรู้ว่าคุณเป็นคนกลัวเสียหน้า อย่าพูดในสิ่งที่จะทำให้ตัวเองดูแย่”
“คุณจำเป็นต้องทำอย่างนี้กับฉันด้วยเหรอ”
“ผมเคยบอกคุณไปชัดเจนแล้ว”
หย่งชิงพยายามกลั้นน้ำตา
“ได้ งั้นฉันจะบอกคุณ และฉันเคยบอกคุณอย่างชัดเจนแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเรา คุณไม่สามารถเป็นฝ่ายบอกเลิกได้ ถ้ามีใครสักคนต้องตัดสินใจ คนๆ นั้นต้องเป็นฉันไม่ใช่คุณ”
หย่งชิงกระชากสัญญาซื้อขายบ้านจากมือยิ่วเชียนกลับไปอย่างเจ็บช้ำ ยิ่วเชียนเครียด
อันซีนั่งอยู่ในห้อง จดคำศัพท์ต่างๆ ที่อ่านเจอ
“เถ้าแก่เนี้ย บอสเลดี้”
ยิ่วเชียนมาเคาะประตู
“อันซีฉันเข้าไปได้มั้ย”
อันซีรีบเก็บบัตรคำศัพท์ซ่อนไว้ใต้หนังสือ แล้วทำเป็นกางหนังสือทับไว้
“เข้ามา”
“ทำอะไรอยู่”
“หะ เหม่อลอยไง”
ยิ่วเชียนมองไป เห็นแผ่นกระดาษคำศัพท์โผล่ออกมานอกหนังสือ เขายิ้มๆ รู้ทัน
“วันนี้หย่งชิงมากะทันหัน เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“ฉันไม่เป็นไร จะเป็นไรได้ไงล่ะ”
ยิ่วเชียนเดินไปนั่งบนเตียงข้างๆ อันซี
“อื่ม เธอไม่ ไม่ถือสาเลยเหรอ”
“ทำไมฉันต้องถือสาด้วย”
“แล้วถ้าหย่งชิงบอกว่า ต้องการสานความสัมพันธ์กับฉันต่อไปล่ะ”
อันซีอึ้งๆ “อือฮึ”
“เธอไม่หึงเลยเหรอ”
“ไม่หึงแน่นอน แฟนฉันหน้าตาหล่อมาก แม้แต่ไปตลาด แม่ค้ายังชอบเลย ไปโรงเรียน สาวๆ ก็กรี๊ดกร๊าด มีคนมากมายชอบเขา ถ้าฉันต้องมาสนใจทุกคน ฉันก็เหนื่อยตายน่ะสิ”
“ดูเธอใจกว้างมากนะ แต่ถ้าเป็นฉัน ถ้าเจียงไห่โค่หรือลุงจิงวา ผู้ชายคนไหน กล้าเข้าใกล้เธอ ฉันจะรู้สึกหึงหวงมาก เทียบกับฉัน เธอใจกว้างกว่ามากนะ”
“แน่นอนสิ”
ยิ่วเชียนค้อนนิดๆ มองแผ่นกระดาษคำศัพท์ใต้หนังสือ
“นี่อะไร”
“เอ๊ะ”
อันซีพยายามซ่อนแต่ยิ่วเชียนดึงกระดาษแผ่นนั้นไปได้
“นี่ไม่ใช่การ์ดคำศัพท์ของฉันนี่ โฮมเสตย์ บอสเลดี้ ทำไมต้องอ่านพวกนี้ด้วย เป็นเพราะอาหารมื้อนั้นของหัวหน้าใช่มั้ย”
“นั่นก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง”
ยิ่วเชียนจ้องหน้า คาดคั้น
“เอาล่ะๆๆ ความจริงฉันขี้หึง ขี้หึงมากด้วย ฉันไม่ได้ใจกว้างเลย คุณกับหัวหน้า คุณหูกับเยี่ยนเจ๋อ พวกคุณรู้ทุกอย่าง วันนั้นที่ไปกินข้าว หัวหน้าพูดภาษาอังกฤษกับฉัน แต่ฉันตื่นเต้น จนพูดไม่ออกเลย คุณยังฟังเพลงคลาสสิกได้ด้วย คุณกับคุณหูคงไปแกลเลอรี่ด้วยกันบ่อยสินะ คุณหูเป็นคนสวยมาก มีรถมีบ้าน มีคนขับรถ แต่ฉัน ไม่มีอะไรสู้เธอได้สักอย่าง ดังนั้น สิ่งเดียวที่ฉันมี คือความอดทน”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ เอ็นดู
“ฮิ โกหก”
“เอาล่ะๆๆ โกหกก็ได้ เรื่องแค่นี้ยังต้องว่าคนอื่นอีก โธ่เอ๊ยคุณทำให้ฉันรู้สึกแย่มาก”
ยิ่วเชียนมองอันซีอย่างเข้าใจ เห็นใจ เขาดึงมือเธอให้ลุกขึ้นจากเตียงมายืนประจันหน้ากับเขา แล้วจับมืออันซีมาทาบที่หน้าอกตรงหัวใจของเขา
“หัวใจ เป็นเหมือนเครื่องยนต์ ดูแลการทำงานของร่างกาย คนส่วนใหญ่ มันจะเต้น 60 - 80 ครั้งต่อนาที ฉันก็เหมือนกัน จนกระทั่ง จนกระทั่ง ฉันได้พบเธอ”
ยิ่วเชียนนึกถึงวันที่เขาได้พบกับอันซีครั้งแรก วันที่เธอกระโดดข้ามรั้วมาแล้วพาเขาวิ่งหนีจากวงล้อมของเด็กผู้ชาย 3-4 คนที่รุมแกล้งเขา
“หัวใจของฉัน เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ตอนเธอเลี้ยงข้าวหมูสับฉัน มันเพิ่มความเร็ว เธอช่วยฉันดึงต้นหอม มันก็ยิ่งเพิ่มความเร็ว ตอนเราอยู่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มันยิ่งเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม จนกระทั่ง วันที่ฉันเอาน้ำตานางฟ้าให้เธอ มันหยุดเต้นกะทันหัน และกลับสู่การทำงานของเครื่องยนต์เหมือนเดิม ในระหว่างนี้ ฉันได้รู้จักคนที่พูดได้หกภาษา และได้รู้จักศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ และก็ หย่งชิง คุณหนูลูกคนรวย แต่หัวใจของฉัน มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ตอนนี้ มันเพิ่มความเร็วขึ้นแล้ว เธอคงรู้ว่าเพราะอะไร อันซี เธอทำให้หัวใจของฉันเต้นต่อไปได้”
อันซียิ้มๆ เขินอาย ยิ่วเชียนยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“อยากรู้มั้ยว่า หัวใจของฉันจะเต้นเร็วเท่าไหร่”
ยิ่วเชียนชี้ที่แก้มของเขา
“หืม”
อันซีเขินอาย หันหลังให้
“อะไรเล่า”
ยิ่วเชียนยืนอยู่ด้านหลังแอบหอมแก้มอันซีอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะ “
อันซีเขินหนักมาก หันมาแกล้งค้อนชายหนุ่ม ยิ่วเชียนมองอย่างเอ็นดู ก่อนจะจูบหน้าผากหญิงสาว
“กู๊ดไนท์ หัวใจของฉัน”
ยิ่วเชียนยิ้มกระหยิ่มเดินออกไปอย่างเบิกบานใจ
อ่านต่อหน้า 4
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่22 (ต่อ)
อันซีเขินหน้าแดง ทำอะไรไม่ถูก คืนนั้นเธอนอนไม่หลับ วุ่นวายใจแทบทั้งคืน
“พระเจ้า โลกนี้มีคนที่มีความสุขมากด้วยเหรอ ท่านคงชอบฉันมากใช่มั้ย ไม่ได้ ฉันจะมีความสุขคนเดียวไม่ได้”
อันซีหยิบกระดาษที่เขียนขั้นตอนการมีแฟนของยิ่วเชียนมากางอ่าน
“เฮ่อ ตามนี้แล้วกัน”
อันซีกดโทรศัพท์หาเยี่ยนเจ๋อ
“ฮัลโหล เยี่ยนเจ๋อ
ตอนเช้า ยิ่วเชียนมาหาเยี่ยนเจ๋อที่ห้องทำงาน หน้าเครียด
“มีอะไร มีธุระรึเปล่า”
“ฉันอยากรู้ว่า นายให้หย่งชิงไปหมู่บ้านภูล่าน ซื้อบ้านของฉันเพื่ออะไร”
“ดี ตรงไปตรงมา ไม่เสียแรงที่เป็นเซี่ยยิ่วเชียน เดาฉันได้อย่างรวดเร็ว งั้นนายคงเดาเหตุผลที่ฉันบอกให้เขาซื้อได้สินะ”
“งั้นเหรอ ฉันคิดว่าเพราะนายเป็นคนนอก ต้องคบคนมีผลประโยชน์ด้วย ไม่งั้น นายจะทำไปเพื่ออะไรล่ะ”
“ทำไมนายพูดอย่างนี้เนี่ย นายไม่คิดว่าฉันเห็นพี่น้องสำคัญกว่าเหรอ ยิ่วเชียน หกปีมานี้ หย่งชิงก่อกวนนายไม่หยุด ดึงนายออกมาจากโลกส่วนตัว ใช่ ถึงเธอจะให้นายทำเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าไม่มีเธอ นายจะยอมเข้าหาคนอื่นมั้ย แล้วตอนนี้เธอต้องการนาย ทำไมนายไม่ช่วยเธอบ้าง”
“สิ่งที่ฉันช่วยเธอได้ คือไม่ตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น ถ้านายต้องการช่วยเหลือเธอจริง ก็ต้องหยุดสนับสนุนเธอ ให้ทำในสิ่งโง่ๆ อีก”
ยิ่วเชียนเห็นหมากรุกกษัตริย์ของเขาตกอยู่ที่พื้นจึงเก็บขึ้นมา
“สิ่งนี้นายเก็บไว้กับตัวตลอดเหรอ สีเริ่มถลอกแล้ว ให้ความสำคัญกับหมากรุกกษัตริย์มากสินะ”
“เฮ่อ ใช่”
ยิ่วเชียนเอาหมากรุกกษัตริย์ไปวางบนโต๊ะ ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างรู้ทัน
ยิ่วเชียนเดินนำต้าอี๋เข้ามาในห้องทำงาน
“ช่วยฉันจับตาดูการเคลื่อนไหวของเยี่ยนเจ๋อ”
“ผู้อำนวยการหมายถึง จะตรวจสอบคุณหูเหรอครับ”
“ใช่ พักนี้ฉันรู้สึกว่าเขาใจร้อน แตกต่างจากปกติ”
“แต่ว่า เขาเป็นเพื่อนของคุณไม่ใช่เหรอครับ”
“ฉันชินกับการอยู่คนเดียว ไม่ต้องการมีเพื่อนหรอก เพราะการเสียเพื่อน ง่ายกว่าการคบเพื่อนมาก และการลดศัตรูยากกว่าการเพิ่มศัตรู ดังนั้นฉันหวังว่า ตอนนี้ จะไม่มีความสัมพันธ์ในแบบศัตรูกับเขา”
“ได้ครับ ผมจะไปตรวจสอบห้องทำงานของหัวหน้าหู”
เยี่ยนเจ๋อพาอันซีมาที่ร้านขายไวน์ พลางอธิบาย
“ถ้าดูเรื่องของการสั่งซื้อไวน์ ต้องดูจากขนาดใหญ่ไปเล็ก ถ้าคุณไม่ได้ต้องการดื่มไวน์เป็นอาชีพ แค่จดจำจุดสำคัญไว้ก็พอ ทำไมเหรอ จู่ๆ ถึงอยากเรียนรู้เรื่องนี้ คงไม่ใช่เพราะหัวหน้าทำให้กลัวใช่มั้ย”
“มันก็ใช่ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะอย่างอื่น คือ ยิ่วเชียนมีความปรารถนาอย่างหนึ่ง เนื้อหาไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือฉันอยากเซอร์ไพรส์เขา แล้วก็ ฉันอยากจะทำตัวให้คู่ควรกับยิ่วเชียน”
“เฮ่อ ยิ่วเชียนโชคดีมาก ที่มีแฟนดีอย่างคุณ”
“นี่ ไม่เสียแรงที่คุณเกิดในครอบครัวฐานะดี เรื่องพวกนี้คุณคงเป็นมาตั้งแต่เกิดใช่มั้ย”
“ไม่ใช่ เพราะผม พยายามที่จะเรียนรู้เอง”
“หะ”
“ในวัยเด็ก พ่อเลี้ยงผมจ้างครูมารยาทมาสอนหย่งชิงคนเดียว พวกเขาเรียนอยู่ในห้อง ผมแอบมองดูจากนอกห้อง วันหนึ่ง ถูกหย่งชิงจับได้ เขารู้สึกแปลกใจมาก ว่าทำไมผมถึงไม่เรียนกับเขา เขาเลยไปถามพ่อเลี้ยงผม คุณรู้มั้ยพ่อเลี้ยงผมพูดว่าไง เขาพูดว่า ถึงผมเรียนไปก็คงไม่ได้ใช้งาน ทำไมต้องเสียเวลาด้วย เพราะสำหรับพ่อเลี้ยงผมแล้ว ผมกับเขาและหย่งชิง ไม่ใช่คนระดับเดียวกัน”
“เยี่ยนเจ๋อ”
“แต่ว่า น้องสาวของผมไม่ได้ทำตามคำพูดของพ่อเขา เขาคิดว่าผมเป็นพี่ชายที่น่าสงสาร จึงดึงผมเข้าไปเรียนด้วย”
เพื่อนของเยี่ยนเจ๋อเดินถือขวดไวน์และแก้วเข้ามา
“อ่ะ เยี่ยนเจ๋อ ลองชิมไวน์ใหม่สิ ดูว่านายชอบมั้ย”
“ได้ อ่ะ ขอบคุณมาก”
เยี่ยนเจ๋อรินไวน์ให้อันซี และของตัวเอง อันซีมองหน้าเยี่ยนเจ๋อ
“ไม่ต้องห่วง ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“คุณขี่ม้าเป็นมั้ย”
“เป็น”
“แล้ว ขับเรือยอชท์ล่ะ”
“ก็เป็น”
“ว้าว แล้วเล่นกอล์ฟเป็นมั้ย”
“แน่นอน”
“ดีมากเลย งั้นเราคุยกันแล้วนะ ถ้าคุณอารมณ์ไม่ดี มาหาฉัน ฉันจะทำให้คุณอารมณ์ดี ถ้าฉันทำอะไรคุณต้องรับผิดชอบสอนฉัน ตกลงตามนี้นะ”
“ถ้าคุณยินดี ผมโอเคแน่นอน มา ขอดื่มให้กับเพื่อนหัวอกเดียวกัน”
“ดื่มให้เพื่อนหัวอกเดียวกัน”
ทั้งสองชนแก้วกัน อันซีดื่มทันที แล้วทำหน้าเบ้ เยี่ยนเจ๋อหัวเราะเบาๆ
“ฮิๆๆ”
“อ่าส์ คุณหัวเราะอะไร”
“การดื่มไวน์ ต้องเข้าใจศิลปะในการดื่มด้วย มา จับตรงนี้ ท่านี้ เรียกว่าโยกแก้ว จะทำให้ไวน์สัมผัสกับอากาศมากขึ้น และทำให้ไวน์มีรสชาติดีขึ้น แต่ความจริงจะทำให้ คนที่ดื่มไวน์โยกแก้วไปมา”
เยี่ยนเจ๋อเข้าไปจับมืออันซีมาจับก้านแก้วแล้วโยกไปหมา โดยเขายืนโอบอยู่ด้านหลังอันซีอย่างใกล้ชิด
“อ้อ มิน่าล่ะ ฉันเคยเห็นชาวต่างชาติดื่มไวน์แล้ว โยกแก้วไปมา”
“ในเมื่อคุณเห็นผมเป็นเพื่อนที่ดี ผมควรจะตอบแทนคุณ คุณยังรอคอยแม่อยู่ใช่มั้ย”
“อืม”
“ให้ผมช่วยคุณตามหามั้ยล่ะ”
“คุณคิดว่า ฉันยังมีโอกาสมั้ย”
“ลองดูสิ”
“ค่ะ”
อันซียิ้มให้เยี่ยนเจ๋ออย่างมีความหวัง เยี่ยนเจ๋อมองหญิงสาวอย่างพึงพอใจ
ยิ่วเชียนมาเคาะประตูห้องทำงานของหมิงเย่
“เข้ามา”
“หัวหน้า”
“มาแล้วเหรอ เธอจำได้มั้ยว่า เธอเข้าบริษัทนี้ได้ยังไง”
“หกปีก่อน หย่งชิงพาผมมาร่วมงานเลี้ยงของบริษัทโอเชี่ยน”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เธอก็ยิ่งต้องรู้ว่า ใครเป็นคนให้โอกาสเธอจนประสบความสำเร็จอย่างวันนี้”
“เรื่องนี้ผมไม่เคยลืมครับ”
“เพราะฉะนั้น ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทกับกองทุนรัสเซีย ได้ทำงานโครงการใหม่ร่วมกันแล้ว”
“ทำงานร่วมกันเหรอ”
“แผนการลงทุนนี้ เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่บริษัทเคยทำมา เรื่องความสามารถ เธอเป็นคนที่ เก่งที่สุด ถ้าหากเป็นเธอ ฉันเชื่อว่า เธอจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างสมบรูณ์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ”
“แต่ว่า”
“แต่ว่า เธอต้องรับประกันกับฉัน ว่าเธอจะทำงานกับฉันตลอดไป”
“แต่ผมเคยได้ยินหัวหน้าพูดว่า คำพูดของคนเราเชื่อถือไม่ได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่เชื่อได้ คือหนังสือสัญญาที่ลงนาม และเงินที่โอนเข้าบัญชีแล้ว ที่ชัดเจนคือ คุณไม่มีทางเชื่อใจผม แล้วผมจะรับประกันกับคุณได้ยังไง”
“ไม่เสียแรงที่เป็นคนที่ฉันยอมรับ ถูกต้อง ถ้าต้องการให้ฉันเชื่อเธอ แน่นอนว่า เธอต้องมีหนังสือสัญญาให้ฉัน นั่นก็คือ ทะเบียนสมรสของเธอกับหย่งชิง โครงการนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทพัฒนาสูงขึ้นไปอีกระดับ แต่ยังช่วยพัฒนาท้องถิ่นได้ด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือสามารถทำให้เธอ กลายเป็นพันธมิตรที่ดีของบริษัทโอเชี่ยนได้”
“พันธมิตร”
“เป็นหนึ่งเดียวในพันธมิตรเท่านั้น ฉันรู้ว่า ตั้งแต่เธอทำงานมา นี่เป็นตำแหน่งในฝันของเธอ”
เยี่ยนเจ๋อยังคงคุยกันอันซีในร้านไวน์
“คุณคงรู้ว่ายิ่วเชียนเห็นงานสำคัญกว่าสิ่งใดใช่มั้ย”
“ใช่ คุณปู่เคยบอกว่า การทำงานทำให้ยิ่วเชียนประสบความสำเร็จ”
“แล้วถ้าหัวหน้า ต้องการใช้หย่งชิงผูกมัดยิ่วเชียน คุณจะทำยังไง”
อันซีงงๆ เยี่ยนเจ๋อยิ้มขำ ก่อนส่งไวน์แก้วใหม่ให้อันซี
“มา ลองดูสิ”
“หวานมาก รสชาติดี”
“ค่อยๆ ดื่ม นี่คือพอตเตอร์ 19 ดีกรี”
“ไม่ต้องห่วงฉันคอแข็งค่ะ”
อันซียิ้มๆ ดื่มจนหมดแก้ว เยี่ยนเจ๋อยิ้มพอใจ
หมิงเย่ยังคงเกลี้ยกล่อมยิ่วเชียนเรื่องการจดทะเบียนสมรสกับหย่งชิง
“แค่เธอกับหย่งชิงเซ็นชื่อแล้ว ฉันจะเชื่อว่า เธอเป็นคนของฉันแล้ว ไม่งั้น...”
“หัวหน้า ขอโทษครับ กองทุนรัสเซียครั้งนี้ ผมขอถอนตัว”
หมิงเย่อึ้ง คาดไม่ถึง
“นักกีฬาที่ต้องการประสบความสำเร็จ ต้องมีความก้าวร้าว และความมั่นใจในตนเองเป็นสำคัญ ดังนั้นโบรกเกอร์ที่ฉลาด ก็รู้ว่า ถ้าหากเขาต้องการสังเกตผู้เล่นกีฬา เขาจะเริ่มสังเกตจากแฟนของนักกีฬาคนนั้น ถ้าคนที่เขาจีบเป็นซูเปอร์โมเดล หรือคนมีชื่อเสียง ย่อมแสดงให้เห็นว่า นักกีฬาคนนั้น มีความมั่นใจในตนเอง แต่ถ้าหาก เขาเห็นผู้หญิงธรรมดา เป็นของมีค่าล่ะก็ คงถึงวาระที่ต้องล้มเหลวแล้ว”
“อันซี เธอไม่ได้ธรรมดา พ่อแม่ของเธอจากเธอไปนานแล้ว แต่เธอไม่เคยมองโลกในแง่ร้ายแม้แต่น้อย ใช่ว่าคนทั่วไปจะทำได้”
“ฮึ เธอรู้ได้ยังไง ว่าเขาไม่เคยโกรธพ่อแม่ของเขาล่ะ”
“จนกระทั่งตอนนี้ เธอยังรอการกลับมาของแม่เธอ แสดงให้เห็นว่าเธอไม่เคยโกรธแม่เลย”
หมิงเย่อึ้ง แทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้ในไต้หวัน
อ่านต่อตอนที่ 23