อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่18
เจ็บอะไรเบอร์นั้น จนยิ่วเชียนต้องกุมขาตัวเองข้างที่เดินชนโต๊ะ เยี่ยนเจ๋อแอบมองแว่บหนึ่งยิ้มขำๆ อันซีได้ยินเสียงร้องของยิ่วเชียนก็ตกใจ เป็นห่วงเขารีบหันเดินกลับมาดู
“คุณเป็นอะไร”
“ขาชนโต๊ะน่ะ”
“กล่องยาล่ะ”
“อยู่ในชั้นวาง”
เยี่ยนเจ๋อส่งกล่องยาให้ อันซีรับมาเดินไปนั่งตรงหน้ายิ่วเชียน
“นั่งลง เจ็บตรงไหน”
“ตรงนี้”
“พับขากางเกงสิ ตรงนี้เหรอ”
ยิ่วเชียนมองหน้าอันซีนิ่ง ตัดสินใจพูดสารภาพ
“ขอโทษนะ ฉันสาบานว่าไม่ได้วางแผนไว้ ฉันเชื่อเสมอว่าไม่มีอะไรที่ฉันพยายามแล้วทำไม่ได้ แต่ฉันหวังว่า เธอจะเข้าใจความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอ และหวังว่าเธอจะยอมรับฉัน แต่ฉันต้องลำบากมาตลอด จนกระทั่งเยี่ยนเจ๋อมาปรากฏตัว ฉันสาบาน ฉันไม่ได้ตั้งใจโกหกเธอ”
อันซีงอนๆ นิ่งเงียบ ได้แต่มองหน้าเขา
“อันซี เวลาเธอไม่พูดฉันรู้สึกไม่ดีเลย”
ยิ่วเชียนมองหน้าอันซีด้วยสายตาเว้าวอน อยากให้เธอยกโทษให้
“เห็นแก่ที่คุณรู้สึกไม่ดีแล้วกัน ฉันยกโทษให้ก็ได้”
อันซีตีขายิ่วเชียนเสียงดัง เพื่อทำโทษ ยิ่วเชียนสะดุ้ง เยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ
“ถ้าต่อไปคุณโกหกฉันอีก ฉันจะ เจาะยาง”
“เจาะยางรถฉัน”
อันซียิ้มๆ “ฉันพูดจริงๆ คุณอย่าโกหกฉันอีกนะ”
ยิ่วเชียนพยักหน้ารับคำ ไป๋คังตัดบท
“เสร็จรึยัง หะ นี่ ใครมาเล่นหมากรุกกับฉันให้จบก่อนได้มั้ย เมื่อกี้ยังเล่นไม่ถึงไหนเลย”
อันซีพยักเพยิดให้ยิ่วเชียน ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“คุณปู่ ผมเอง มาครับ”
อันซียิ้มๆ แต่พอเดินผ่านหน้าเยี่ยนเจ๋อก็ทำหน้างอนๆ ใส่ เยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาตามอันซีมาในห้องครัว เห็นเธอกำลังล้างผลไม้อยู่
“ผมช่วยนะครับ”
อันซีชะงัก งอนๆ
“มีอะไร ฉันยังไม่ยกโทษให้คุณ อย่าเพิ่งดีใจไป”
“ผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนหัวอกเดียวกันซะอีก”
“ใครหัวอกเดียวกับคุณล่ะ ครอบครัวฉันไม่มีใครแล้ว แต่คุณยังมีแม่ และน้องสาวนะ”
“เฮ่อ ผมนับถือคุณจริงๆ เราต่างถูกครอบครัวทอดทิ้งเหมือนกัน แต่คุณกลับมองโลกในแง่ดีได้ขนาดนี้”
“คุณก็เหมือนกัน อ่อนโยน และเข้ากับคนง่าย”
“ผมเหรอ อ่อนโยน แม่ผมเลิกกับพ่อไปแต่งงานกับคนที่รวยกว่า ผมโกรธมากนะ ตอนพ่อผมทิ้งผมไป ผมยิ่งรู้สึกโกรธ แต่ที่ผมโกรธมากที่สุดคือน้องสาวผมจะได้ของขวัญที่ดีกว่าผมทุกครั้ง”
“ทำไม คนในบ้านไม่รักคุณเหรอ”
“เพราะผมตั้งใจและพยายาม ถึงได้ผ่านมันมาได้”
“แท้จริงแล้ว คุณไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนที่เห็นเลย”
“ใครบอกล่ะว่าผมไม่ผ่อนคลาย ผมแค่ เป็นคนชอบทำตัวสบายๆ เท่านั้นเอง”
“เฮ่อ พวกคุณน่ะ คุณกับยิ่วเชียน และน้องสาวคุณ คนอย่างพวกคุณพูดจาอ้อมค้อมทำให้คนอื่นเดาตลอด ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น”
“จริงสิ ผมแปลกใจเรื่องบ้านพักของคุณ ใครเป็นคนตั้งชื่อเหรอ”
“พ่อฉันน่ะสิ”
“ทำไมถึงตั้งชื่อนี้ล่ะ”
“เพราะแม่ฉัน แม่ฉันชื่อโจวหมิงเย่ พ่อฉันเรียกเขาว่าลูน่า และพวกท่านก็ชอบทะเล พ่อฉันจึงตั้งชื่อบ้านพักว่าเย่จือไห่ ลูน่า มาเรีย”
เยี่ยนเจ๋อพยักหน้าช้าๆ เข้าใจเรื่องทั้งหมด อุทานเบาๆ
“บิงโก”
“บิงโกอะไร”
เยี่ยนเจ๋อส่ายหน้าน้อยๆ ไม่ได้ตอบอะไร ยิ่วเชียนเดินเข้ามาพอดี
“อันซี ฉันชนะแล้ว คุณปู่อยากให้เธอไปเล่นด้วย”
“คุณปู่แพ้คุณน่ะสิ ถึงอยากให้ฉันไปเล่นด้วย”
ยิ่วเชียนเดินเข้าไปหาอันซีใกล้ๆ
“งั้นเธอ มาเล่นกับฉันสักรอบสิ”
“ฉันคงแพ้คุณอยู่ดี แพ้ตั้งแต่ยังไม่เล่นด้วยซ้ำ เฮ่อ ฉันว่าฉันไปกินแอปเปิ้ลกับคุณปู่ดีกว่า”
อันซีปลีกตัวออกไป สองหนุ่มหันไปมองตาม เยี่ยนเจ๋อตั้งข้อสังเกต
“ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนซื่อแล้วล่ะ แต่เธอจงใจหลบหน้านาย สองวันนี้นายยังไม่มีความคืบหน้าใช่มั้ย”
“นายหมายความว่าไง จู่ๆ ก็มาที่บ้านฉัน แล้วพูดความจริงกับอันซี”
“ต่อไป ฉันยังต้องเจออันซีอีก ดังนั้น จะพูดเร็วหรือช้า ก็ต้องพูดอยู่ดี จริงสิ เมื่อกี้นายแสดงไม่สมจริงเลย”
“อะไร”
“ปกตินายเจ็บไม่เคยร้อง แต่เมื่อกี้ร้องเสียงดัง”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ ที่เพื่อนรู้ทัน เยี่ยนเจ๋อเข้าไปทุบอกยิ่วเชียนล้อๆ
“ไอ้ผู้ชายโชคดี”
“นายพูดอะไร”
“หมายถึงนายขุดได้ขุมทรัพย์ไง”
“ขุมทรัพย์อะไร”
“อันซีไง ผู้หญิงดีๆ อย่างนี้ เป็นขุมทรัพย์ชัดๆ”
ยิ่วเชียนมองอันซี คิดๆ อะไรบางอย่าง
อันซีอ่านตารางความรักของยิ่วเชียน ขณะที่เธอกับเขายืนอยู่ในที่ๆ มีแต่ตู้โชว์ปลาสวยงาม
“อายุ 20 ไปสวนสัตว์กับอันซี”
“ที่นี่คือสวนสัตว์เหรอ”
“ช่วงบ่ายฉันต้องเข้าบริษัท ดังนั้นเลยใช้ตู้ปลาแทน เธอชอบปลามากไม่ใช่เหรอ”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ทำไมฉันจะไม่รู้ เลี้ยงปลาในห้อง ผ้าห่มแกะก็ทำเป็นรูปปลา มิน่าถึงความจำสั้นเหมือนปลา แค่ 6 วินาที”
“นี่ ทำไมต้องหาเรื่องฉันด้วยเนี่ย”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“ความจำของฉันจะถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น จริงมั้ย เสี่ยวโต้วโต้ว” อันซีหันไปพูดกับปลา
“มันไม่ได้มีสิว ทำไมเรียกเสี่ยวโต้วโต้วล่ะ”
“หน้าของมันมีสิวนี่”
“เธอมองตรงไหนว่ามันมีสิว”
“ตรงนั้นไง”
ยิ่วเชียนเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ตู้ปลา
“ปลาจะมีสิวได้ไง เป็นไปไม่ได้หรอก หรือว่าจะติดเชื้อไวรัส”
ยิ่วเชียนหยิบโทรศัพท์มาค้นหาข้อมูล ความรู้ อันซีมองหน่ายๆ
“จริงสิ ทำไมที่บ้านกับที่ทำงานคุณไม่มีรูปถ่ายคุณเลย แม้แต่รูปถ่ายตอนเด็กก็ไม่มี”
“ฉันไม่ชอบถ่ายรูป”
“แต่ไม่มีสักรูปมันแปลกไปนะ นี่ เสี่ยวโต้วโต้ว อย่าทะเลาะกับตัวอื่นสิ”
“เธออยู่บ้านคนเดียวคงจะเบื่อ จะซื้อเสี่ยวโต้วโต้วกลับไปเลี้ยงมั้ย”
“ไม่เอา”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันกลัวว่าถ้าเราแยกกันอยู่ จะไม่มีใครเลี้ยงมัน”
ยิ่วเชียนอึ้ง อันซีนึกได้ว่าอาจจะพูดทำร้ายจิตใจเขาเกินไป
“ไม่ใช่นะ ฉันหมายถึงว่า ฉันมีปลาชื่อไม่ยิ้ม หนอนหนังสือ ไอ้เขียว และไอ้แว่นแล้ว ก็เลยไม่อยากได้แล้ว”
“ไม่ยิ้ม กับไอ้แว่นคืออะไร”
“ปลาที่ฉันเลี้ยงไว้ไง”
“เธอไม่ชอบคนใส่แว่นไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงตั้งชื่อนี้ล่ะ”
“ไม่ใช่ฉันไม่ชอบคนใส่แว่น ฉันแค่ไม่อยากนึกถึงเขา อีกอย่างฉันไม่เหงาหรอกมีคุณปู่ทั้งคน”
“เธอไม่อยากนึกถึงเขาไหน”
“คุยกันแล้วไง ว่าจะไม่พูดถึงอีก”
“ไม่ให้ถาม ก็หมายถึงเขาเป็นอดีตที่อันซีไม่อยากพูดถึง”
ยิ่วเชียนนึกน้อยใจ
อ่านต่อหน้า2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่18 (ต่อ)
ยิ่วเชียนเดินเข้ามาในห้องประชุม กวาดตามอง พลางถาม
“เจนนิเฟอร์ล่ะ ทำไมเธอยังไม่มา”
ต้าอี๋อึกอัก “เอ่อ คือว่า หัวหน้าย้ายเธอไปอยู่ที่บริษัทกองทุนรัสเซียแล้วครับ แม้ในบริษัทจะเก่งภาษารัสเซียหลายคน แต่เพราะเธอเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกองทุนรัสเซียสองปี”
ยิ่วเชียนคิดๆ “มิน่าเธอถึงต้องการข้อมูลกองทุนรัสเซีย”
“ไม่เป็นไร ในเมื่อเป็นความต้องการของหัวหน้า โอเค เตรียมพร้อมแล้วก็เริ่มเลย”
จื่อฉีพูดขึ้น “ผู้อำนวยการไม่อยู่สามอาทิตย์ บริษัทกำลังประเมินเพื่อซื้อหุ้นการก่อสร้างในญี่ปุ่น การก่อสร้างอยู่ในเขตเมืองหลวงของเมียนมาร์แต่การลงทุนสูงทำให้เงินกองทุนเกิดปัญหา นี่คือข้อมูลที่เรารวบรวมได้ครับ”
“รัฐบาลเมียนมาร์ย้ายเมืองหลวงตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการเติบโตใดๆ บวกกับปัญหาของชนกลุ่มน้อย สถานะทางการเงินของบริษัทตอนนี้เป็นยังไง”
พนักงานหญิงรายงาน “เพราะว่าครั้งนี้ผู้บริหารจะร่วมงานครั้งใหญ่กับกองทุนรัสเซีย ดังนั้นเงินทุนของบริษัทจึงมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยค่ะ”
ยิ่วเชียนมองหน้าพนักงานพลางใช้ความคิด
อันซีนั่งอยู่กับไป๋คัง รอน้ำเดือด แล้วอันซีก็เอาน้ำร้อนเทลงไปในอ่างแก้วเล็กๆ ปลาปลอมก็ว่ายน้ำได้
“เสร็จแล้ว แต่นๆๆๆ เห็นมั้ย เก่งมั้ยคะ”
“ว้าวเหมือนปลาจริงๆ เลย”
“เมื่อเช้าฉันกับยิ่วเชียนไปดูปลา เขาถามว่าจะซื้อปลามั้ย ฉันบอกว่าไม่ เพราะเลี้ยงปลาไว้หลายตัวแล้ว เขาเลยซื้ออันนี้ให้ค่ะ”
“ในที่สุดยิ่วเชียนของเรา ก็เป็นคนที่มีความอบอุ่นแล้ว”
“ยิ่วเชียนต้องอบอุ่นอยู่แล้ว ไม่งั้นเขาเป็นผีดิบเหรอคะ”
“ยิ่วเชียนเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเฉพาะหลังจากพ่อแม่เขาเสียไป เขาก็กลายเป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็ก เพิ่งจะอายุน้อยๆ ก็ต้องเลี้ยงดูครอบครัวซะแล้ว ทั้งที่ไม่มีญาติหรือเพื่อนคอยช่วยเหลือ ฉันก็สอนเขาไม่เป็น ดังนั้นสิ่งแรกที่เขาได้เรียนรู้ คือการต่อต้านโลกใบนี้ยังไงล่ะ ยิ่วเชียนของเราต้องการผู้หญิงแบบเธอนี่แหละ ร่าเริงสดใสน่ารัก เธอชอบทำให้เขาหัวเราะ”
“โธ่คุณปู่ อย่าพูดอย่างนี้เลยค่ะ”
“ได้ๆๆๆ”
“คุณปู่”
“หืม”
“อุณหภูมิเกือบได้ที่แล้ว คุณปู่ดื่มได้แล้วค่ะ คุณปู่ คืนนี้อยากกินอะไรคะ”
“ฉันคิดว่า อะไรก็ได้”
“โธ่ คุณปู่”
“หืม”
“เมื่อกี้คุณปู่คงไม่ได้อยากพูดว่า อะไรก็ได้ใช่มั้ยคะ”
“ฉันกินอะไรก็ได้จริงๆ”
“คุณปู่อยากกินอะไรเราไปกินด้วยกันก็ได้ค่ะ”
“ฉันอยากกิน”
“อะไรคะ”
“อาหารที่ร้านมีชื่อเสียง”
“งั้นเราก็ไปเลยสิ”
“นี่ สถานที่แบบนี้เราไปกันสองคน ไม่มีความหมายหรอก”
“งั้น โทรหายิ่วเชียนกับผู้ช่วยของเขา หนึ่งโต๊ะนั่งสี่คนพอดี”
อันซีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหายิ่วเชียน ขณะนั้นยิ่วเชียนกำลังประชุมอยู่ พนักงานกำลังรายงาน
“นี่เป็นรายชื่อของผู้ถือหุ้นที่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะบริษัทมีการก่อสร้างเชิงรุก ทัศนคติของคนเหล่านี้จึงเปลี่ยนไป นี่เป็นข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากอัตราส่วนของเดิมครับ”
ยิ่วเชียนเห็นสัญญาณโทรศัพท์ ขณะเดียวกันไป๋คังบอกกับอันซี
“เดี๋ยวก่อน เวลายิ่วเชียนทำงานไม่ชอบให้ใครรบกวนเขา”
“หะ”
อันซีรีบวางสาย เป็นเวลาเดียวกับยิ่วเชียนกดรับพอดี แต่สายตัดไปแล้ว เขากดโทรกลับไป อันซีตกใจ
“เอ๊ะ เขาโทรกลับมาแล้ว ทำไงดี”
“เธอก็รับสิ”
“เฮ่อ เขาต้องว่าสมองฉันไม่มีรอยหยักแน่ ฮัลโหล”
“โทรหาฉันมีเรื่องอะไร”
พนักงานได้ยินยิ่วเชียนพูดโทรศัพท์ ต่างชะงัก ทำหน้าไม่ถูก
“คุณยุ่งอยู่เหรอ”
“ไม่ยุ่ง”
พนักงานลอบมองหน้ากันอีก เพราะกำลังประชุมอยู่
“ก็ไม่มีอะไรหรอก คืนนี้ฉันกับคุณปู่จะออกไปกินข้าวข้างนอก เลยโทรถามว่าคุณจะไปด้วยกันมั้ย”
“คืนนี้เหรอ ฉันต้องประชุม และดูตลาดหุ้นของยุโรป ฉันไปทุ่มนึงแล้วกัน”
ยิ่วเชียนตัดสินใจพูด รู้ว่าพนักงานเงี่ยหูฟังอยู่ พนักงานต่างอึ้งๆ
“ดีค่ะ งั้นชวนต้าอี๋มาด้วยนะ”
“ได้ ฉันจะชวนต้าอี๋ไปด้วย”
ต้าอี๋ทำหน้าเลิ่กลั่ก ยิ่วเชียนมองต้าอี๋เคืองๆ
“งั้นไม่มีอะไรแล้ว อ่อจริงสิ อย่าหักโหมมากนะ บ๊ายบาย”
“บ๊ายบาย”
ยิ่วเชียนวางสายยิ้มๆ อารมณ์ดี พอเหลือบมองในที่ประชุมก็เห็นทุกคนจ้องตนอยู่
“มีอะไร พูดต่อสิ”
เวลาเดียวกันนั้น อันซีลอบถอนใจ
“เฮ้อ ไม่โดนว่า”
“เฮ้อ เพราะยิ่วเชียนไม่กล้าว่าเธอต่างหาก”
“เอ่อคุณปู่”
“อืม”
“ฉันไปดูหนังสือก่อนว่าร้านที่คุณปู่พูดคือร้านไหน จะได้จองโต๊ะล่วงหน้าไว้”
“นี่ ได้ข่าวว่าร้านนั้นจองยากมาก”
“ถ้าจองไม่ได้ ฉันจะไปต่อแถวที่ร้านค่ะ”
อันซีมาที่หน้าร้านกำลังจองคิวอยู่
“สวัสดีค่ะคุณอันคุณได้คิวที่ 20 ถึงเวลาแล้วทางเราจะโทรแจ้งคุณอีกทีค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เวลาผ่านไป อันซียืนพิงเสาหลับรอเรียกคิว
“สองท่านเบอร์โทรศัพท์ค่ะ คิวที่ 18 คุณจาง คิวที่ 18 คุณจาง คิวที่ 18 คุณจาง สองท่านเชิญด้านในเลยค่ะ พนักงานจะพาพวกคุณเข้าไปเองค่ะ”
อันซีตื่นพอดี เห็นว่าใกล้ถึงคิวแล้วจึงโทรศัพท์ไปบอกไป๋คัง
“ฮัลโหลคุณปู่ ใกล้ถึงคิวเราแล้วค่ะ ค่ะ ฉันจะให้แท็กซี่ไปรับคุณปู่ที่บ้าน คุณปู่รอหน้าบ้านนะคะ”
เวลาผ่าไปอันซีกับไป๋คังเข้ามานั่งในร้าน พนักงานเข้ามาถาม
“คุณจะสั่งอาหารรึยังคะ”
“รอเดี๋ยวก่อน” ไป๋คังบอก
“ได้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ขอบคุณ”
เมื่อเห็นว่ารอนานแล้ว ทั้งสองจึงสั่งอาหารว่างมาก่อน อันซีรอโทรศัพท์จากยิ่วเชียน ขณะนั้นยิ่วเชียนกำลังฟังพนักงานรายงานอยู่
“จากการสำรวจสถานที่แห่งนี้ เมื่อเทียบกับเมืองเก่าแล้วสถานที่กลางสำคัญมากขึ้น และการจราจรก็บรรเทาลงตั้งอยู่ในศูนย์กลางของย่านใกล้เคียง”
ยิ่วเชียนประชุมอย่างเคร่งเครียด ในขณะที่อันซีกับไป๋คังก็ทยอยสั่งอาหาร อันซีหน้าหงอยๆ ไป๋คังมองอย่างเห็นใจ
“เป็นอะไร ผิดหวังเหรอ”
“นิดหน่อยค่ะ”
“งั้นเอาอย่างนี้ ถือโอกาสที่เขาไม่อยู่ เรามานินทาลับหลังเขากัน”
“เขาเก่งอย่างนี้ จะมีอะไรให้นินทาคะ”
“ฮิๆๆ เอ๊ะ ดูเหมือนเธอจะปกป้องยิ่วเชียนของเรานะ”
อันซียิ้มๆ นึกถึงคำพูดของยิ่วเชียน
“เพราะว่าเธอไม่อยากรู้เรื่องของฉัน จึงไม่เคยถามอะไรเกี่ยวกับฉันเลย แม้กระทั่งเรื่องของฉันกับหย่งชิง เธอก็ไม่เคยถาม”
อันซีนึกได้
“คุณปู่”
“หืม”
“ฉันถามหน่อยค่ะ ยิ่วเชียนกับคุณหูตกลงความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไร”
“พวกเขารู้จักยังไงนะ เอ่อ ยัยคางแหลมคนนั้น มีช่วงหนึ่งชอบโผล่มาที่บ้านเราบ่อยๆ วันหนึ่งฉันหมดสติอยู่ในบ้าน เขามาเห็นเข้า เลยพาส่งโรงพยาบาล เพราะอย่างนี้ ยิ่วเชียนเลยเป็นหนี้บุญคุณเขา”
“อ๋อ มิน่า ยิ่วเชียนถึงได้ดูแลคุณหูดีมาก แต่คุณปู่ คุณหูก็เป็นคนดีไม่ใช่เหรอคะ ทำไมคุณปู่ถึงไม่ชอบเธอล่ะ”
“เขาเห็นยิ่วเชียนของเราเป็นตัวตลกมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนั้นยิ่วเชียนมารับฉันออกจากโรงพยาบาล ยัยคางแหลมคนนั้นก็ตามมาด้วย”
ไป๋คังนึกถึงคำพูดของหย่งชิงซึ่งกำลังพูดทางโทรศัพท์ โดยไม่รู้ว่าเขานั่งอยู่แถวนั้น
“ฉันจัดการเขาได้แล้ว เซี่ยยิ่วเชียนไง ไม่เอา ฉันไม่ไปร้านอาหารเดิมแล้ว วันนี้ฉันจะพาเขาไปร้านอาหารแม่บุญธรรมฉัน ถูกต้อง ฉันจะแกล้งให้เขากลัว ในสถานการณ์แบบนั้น ฉันจะคอยดูว่าเขาทำยังไง กล้าปฏิเสธฉันหลายครั้งดีนัก คอยดูแล้วกัน”
วันนั้นยิ่วเชียนวิ่งมาหาไป๋คังซึ่งนั่งรออยู่
“คุณปู่”
“อื้ม”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“เรียบร้อยแล้วเหรอ”
ไป๋คังลุกออกไปกับยิ่วเชียน ไป๋คังนึกมาถึงตรงนี้ก็เล่าให้อันซีฟังต่อ
“เขาคงไม่รู้ว่า ฉันได้ยินหมดทุกอย่างแล้ว มิน่า ถึงได้ให้ยิ่วเชียนแต่งตัวอย่างนั้น”
“แล้วหลังจากนั้น ยิ่วเชียนไปจริงเหรอ”
“เขาบอกว่ารับปากคนอื่นแล้วต้องทำให้ได้ แต่ฉันไม่รู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นในร้านอาหารบ้าง แต่เพราะหลังจากไปร้านอาหารกลับมา เขาก็รู้จักกับเจ้านายปัจจุบันของเขา จากวันนั้นเป็นต้นมา ดูเหมือนยิ่วเชียนจะสามารถค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วก็สนุกกับการทำงาน จนตอนนี้ การทำงานทำให้เขาประสบความสำเร็จมาก”
“ที่แท้ยิ่วเชียนเป็นคนบ้างานนี่เอง”
พนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหาร
“อื้ม โอ้โห”
“มาแล้ว เย่”
อันซีปรบมือรัวๆ ยิ้มดีใจ
อ่านต่อหน้า3
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่18 (ต่อ)
ยิ่วเชียนนั่งอยู่ในห้องประชุมหลังการประชุมเสร็จ ต้าอี๋เข้ามาหา
“ผู้อำนวยการ ประชุมเมื่อตอนบ่ายคุณได้รับโทรศัพท์ บอกว่าจะพาผมไปด้วย ไปไหนครับ”
ยิ่วเชียนนึกได้ รีบดูเวลา แล้วลุกขึ้น
“แย่แล้ว ต้าอี๋ช่วยจัดการหน่อย”
ยิ่วเชียนส่งงานให้ต้าอี๋ แล้วรีบต่อโทรศัพท์ หย่งชิงเดินเข้ามา
“ถึงเวลาพอดีเลย ไปกินข้าวด้วยกันนะ”
“ไม่ได้ ผมนัดกับอันซีแล้ว ชวนเพื่อนคุณไปเถอะ”
ยิ่วเชียนเดินพูดโทรศัพท์ออกไป
“อันซีเธออยู่ไหน ฉันจะรีบไป เธอโกรธเหรอ”
หย่งชิงมองอย่างไม่พอใจ ก่อนเดินไปหาเยี่ยนเจ๋อที่ห้องทำงาน
“กินข้าวรึยัง”
“อย่าบอกนะว่ายิ่วเชียนไม่ไปด้วย เธอเลยมาหาฉัน บิงโก”
“นั่นก็เพราะว่า เขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เลยทำให้หลงชั่วคราว ไม่นานเขาจะกลับมาเหมือนเดิม”
“ฉันจะบอกว่าเห็นอะไรมาดีมั้ย คุณปู่เซี่ยที่เธอไม่ชอบ ตอนนี้กลายเป็นพวกเดียวกับอันซีแล้ว”
“พวกเรียกร้องความสนใจไม่เห็นน่าแปลกใจตรงไหน”
“เซี่ยยิ่วเชียนที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องใคร และเป็นคนที่เข้าใจยาก ตอนนี้เริ่มเป็นห่วงว่าอันซีจะโกรธ เมื่ออยากจะขอโทษ ไม่รู้จะทำยังไง เลยแกล้งเดินชนโต๊ะ จากนั้นก็ร้องเสียงดัง”
“ไม่มีทาง”
“เธอปากแข็งต่อไปเถอะ วันที่อยู่ร้านสูทเธอก็เห็นแล้วนี่ว่าเซี่ยยิ่วเชียนรู้สึกกับอันซียังไง ตอนนี้เขาได้ขึ้นรถที่ไม่ย้อนกลับมาแล้ว บ๊ายบายแล้ว”
“รถแต่ละคัน เดินทางไปก็ต้องเดินทางกลับ เริ่มจากที่ไหนก็ต้องกลับมาที่เดิม”
“งั้นเธอบอกฉันมา ว่าเขาเริ่มจากตรงไหน”
หย่งชิงอึ้ง เยี่ยนเจ๋อถอนใจ
“หย่งชิง ฉันรู้ว่าเพราะเขาคนนั้น ทำให้เธอไม่เชื่อในความรัก แต่ถ้าหากเธอยังแคร์เซี่ยยิ่วเชียนอยู่ล่ะก็ พูดตามตรง ตอนนี้มันยังไม่สาย พูดตอนนี้ก็ยังมีโอกาสนะ”
“พี่พูดอะไรเนี่ย”
“ฉันดูออกว่าอันซียังมีช่องว่างกับเซี่ยยิ่วเชียน แต่ปัญหาคืออะไรฉันไม่รู้ แต่เห็นได้ชัดเจนว่า ยิ่วเชียนเจอคนที่ถูกใจแล้ว ดังนั้นขอเพียงเธอยอมลดทิฐิกับเซี่ยยิ่วเชียนและคุณปู่ เธอคิดให้ดีนะ ระหว่างเธอกับเขารู้จักกันมานานถึง 6 ปีแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใครแคร์เซี่ยยิ่วเชียนล่ะ ยอมลดทิฐิเหรอ ฉันไม่มีทางทำเรื่องไร้สาระแบบนี้แน่”
“งั้นเธอบอกฉันมา เธอต้องการอะไร”
“มีความรัก”
หย่งชิงหันหลังเดินออกไป
“เร็วหน่อย ฉันหิวแล้ว”
เยี่ยนเจ๋อพึมพำ “เซี่ยยิ่วเชียน ทำไมคนส่วนใหญ่ต้องเห็นนายสำคัญเป็นที่หนึ่งด้วยนะ เฮ้อ”
ยิ่วเชียนรีบเปิดประตูเข้าในบ้าน พลางพูดขอโทษอันซี
“ขอโทษๆ ฉันไปไม่ทันจริงๆ เธอคงผิดหวังมากใช่มั้ย”
ระหว่างนั้นอันซีกำลังชวนไป๋คังเล่นเกมอย่างสนุกสนาน
“สู้ๆ ค่ะ โอ๊ะโอ ไม่เป็นไรค่ะฉันไปเก็บให้ เอ๊ะ ยิ่วเชียนคุณกลับมาแล้ว”
“เอ๊ะ ยิ่วเชียน กลับมาแล้วเหรอ”
“ครับคุณปู่ พวกคุณดูสนุกมากนะ ฉันอยู่หรือไม่ก็ไม่ต่างกัน” ยิ่วเชียนน้อยใจ
“ทำไมพูดอย่างนี้ เรากินข้าวเสร็จไปเดินเล่น เห็นคนเล่นโยนห่วงโยนยังไงก็ไม่เข้า”
“จากนั้นคุณปู่ก็เลยซื้อมาทั้งหมด ถูกมั้ย” ยิ่วเชียนถาม
“คุณรู้ได้ไง กินข้าวรึยัง ฉันกับคุณปู่ซื้อมาเผื่อคุณด้วย เดี๋ยวฉันไปยกมาให้ อ่ะ คุณช่วยฉันเก็บห่วงหน่อย”
อันซีเดินไปในครัว ยิ่วเชียนเดินเก็บห่วงตามพื้นไปเรื่อยๆ ไป๋คังเป็นห่วงหลาน
“ยิ่วเชียน วันนี้เป็นไงบ้าง ไหวมั้ย”
“ไหวครับ”
อันซียกถาดอาหารเข้ามา
“กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ มากินได้แล้ว”
“ขอบคุณนะ คุณปู่ ฝากด้วยครับ”
ยิ่วเชียนส่งห่วงให้ไป๋คัง
“ยิ่วเชียน คืนนี้เธอปล่อยเราลอยแพ เธอก็ไปกินข้าวคนเดียวเลยนะ อันซีเรามาเล่นกันต่อเถอะ ดูความร้ายกาจของฉันนะ”
ยิ่วเชียนเดินไปที่โต๊ะอาหาร ไป๋คังหันมาโยนห่วงกับอันซี
“อึ๊บ เฮ่อ เกือบไปแล้ว พลาดนิดเดียวเอง”
“ตาฉันบ้างค่ะ”
“อื้ม ยิ่งโยนยิ่งพลาด”
“แปลก ฉันเล็งอย่างดีแล้วนะ หรือว่าแรงฉันไม่พอ”
ยิ่วเชียนนึกสนุก
“อันซี เธอเล็งเป้าหมายตรงเกินไป แม้จะโยนถูกแต่จะไปโดนสิ่งรอบข้างทำให้เด้งออกไป เธอควรจะโยนโค้งหน่อย เพิ่มระดับความสูง มุมของมันจะพอดี ไม่เชื่อลองทำดู เวลาเธอโยน ลองหมุนห่วงไปมา ขยับปลายเท้า จะทำให้โยนแม่นขึ้น ใช้ได้ผลนะ”
“ได้ เย่ฉันโยนได้แล้ว”
อันซีดีใจ ยิ่วเชียนดีใจด้วย
“คุณปู่กิ๊ฟมีไฟท์”
อันซีแปะมือกับไป๋คัง แล้วหันไปจะแปะมือกับยิ่วเชียน แต่ชะงักนิดหนึ่ง ยิ่วเชียนจึงเป็นคนแปะมืออันซีเสียเอง
“เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ” ไป๋คังถาม
“เพิ่มระดับความสูง”
“กว้างหน่อย”
“กว้างหน่อย”
“หมุนห่วง”
“หมุนไปมา”
“คอยดูฉันนะ ฮึ๊บ”
“หะ พระเจ้า คุณปู่โยนได้แล้ว เก่งจังเลย เย่”
ทั้งคู่จะหันไปแปะมือกับยิ่วเชียนแต่ชะงัก เห็นยิ่วเชียนนั่งก้มหน้ากินข้าว
“ยิ่วเชียน มาเล่นด้วยกันสิ ฉันกับคุณปู่ทำได้แล้ว คุณลองดูสิ มาสิๆ สู้สู้ๆ"
ยิ่วเชียนยอมลุกมาเล่นด้วย
“พูดได้ดี ต้องโยนแม่นแน่ๆ” ไป๋คังบอก
ยิ่วเชียนโยนพลาด ไป๋คังกับอันซีอึ้งนิดๆ แล้วไป๋คังก็ให้กำลังใจ
“ไม่เป็นไร เอาใหม่ๆๆ”
“คงเป็นเพราะคุณตื่นเต้น เลยโยนไม่ถูก ไม่เป็นไร ลองใหม่ค่ะ”
ยิ่วเชียนลองโยนหลายทีแต่ก็พลาด
“เอ่อ ไม่เป็นไร อันสุดท้ายต้องโดน” อันซีให้กำลังใจ
“ใช่ อันสุดท้ายต้องโดนแน่นอน มา”
ยิ่วเชียนถอนใจ ก่อนจะตั้งใจอย่างจริงจัง อันซีมองลุ้น แล้วยิ่วเชียนก็โยนห่วงคล้องตุ๊กตาได้สำเร็จ ทุกคนร้องดีใจแปะมือกัน
“เย่ เก่งมากเลย” อันซีบอก
“เยส อยากเล่นอีกรอบ”
“ได้สิๆ”
“งั้นเอาของปู่ไป”
“ขอบคุณครับคุณปู่ ครั้งนี้ ฉันจะโยน หมีตัวนั้น”
“ดีค่ะ ไกลไปหน่อยนะ สู้ๆ”
ยิ่วเชียนตั้งใจ
“ฉันโยนโดนปลาการ์ตูนของเธอแล้ว”
ทั้งสองต่างดีใจ อันซีหันมาสะกิดยิ่วเชียน
“ซูส์ คุณปู่หลับแล้ว ฉันไปเอาผ้าห่มให้”
อันซีหอบผ้าห่มมาห่มให้ไป๋คัง ยิ่วเชียนมองการกระทำอย่างตั้งใจของอันซีด้วยความซาบซึ้ง
คืนนั้น ยิ่วเชียนกับอันซีออกมาเดินเล่นด้วยกัน
“ฉันต้องขอบคุณเธอมากนะ ที่ทำให้คุณปู่มีความสุข เมื่อก่อนคุณปู่อยู่คนเดียว เล่นเว็บไซต์กลุ่มอยู่ในบ้าน หลังจากเธอมา คุณปู่มีรอยยิ้มมากขึ้น และกลายเป็นคนร่าเริง”
“คุณปู่มีความสุขไม่ใช่เพราะฉัน นั่นเป็นเพราะ คุณอยู่กับท่านต่างหาก คุณไม่เห็นเหรอ ตอนคุณกิ๊ฟมีไฟท์กับท่าน ท่านดูมีความสุขมาก ความจริง คุณปู่รู้สึกผิดต่อคุณมาก ท่านคิดว่า เป็นเพราะท่าน ถึงทำให้คุณ ไม่ได้ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่น”
“คุณปู่คิดมากเกินไปแล้ว”
“อ้อ จริงสิ คุณปู่เล่าเรื่องของคุณกับคุณหูให้ฉันฟัง”
“เธอต้องการพิสูจน์ว่า เธอพยายามอยู่ใช่มั้ย”
“ใช่”
“งั้นเธอควรมาคุยกับฉัน ทำไมไปคุยกับคุณปู่ล่ะ”
“คุณงานยุ่งจะตาย ฉันจะคุยได้ไงล่ะ จริงสิ ตกลงคุณได้ไปงานเลี้ยงนั่นมั้ย”
“อื้ม” ยิ่วเชียนพยักหน้า
“ผลออกมายังไง”
“เธอคิดว่า ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยจะทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด แต่ความจริงไม่เห็นต้องอัดอัดเลย ตอนอยู่ที่นั่น ฉันได้ยินข้อมูลจำนวนมาก ฉันจำได้ว่า พวกเขากำลังพูดเรื่องการซื้อขายกิจการ แต่ฉันคิดว่า บริษัทนั้นดูแปลกๆ อยากให้พวกเขาตรวจสอบให้แน่ชัด ผู้บริหารเลยถามฉันว่าอยากทำงานในบริษัทของเขามั้ย”
“เฮ่อ เรื่องใหญ่ขนาดนี้คุณเล่าได้ธรรมดามาก ฉันไปถามคุณปู่สนุกกว่าเยอะ”
อันซีเดินออกไป หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหา
“ขอโทษค่ะ”
ยิ่วเชียนรีบเข้าไปกันอันซีไว้ เพราะไม่ไว้ใจ พลางถามหญิงคนนั้น
“มีอะไรครับ”
“เอ่อ”
“คุณทำอะไร” อันซีถาม
“ฉันจะกลับบ้านแต่ลืมเอากระเป๋าตังค์มา ขอยืมเงินหนึ่งร้อยนั่งรถกลับบ้านได้มั้ยคะ”
“ได้สิคะ”
อันซีจะหยิบให้ ยิ่วเชียนห้ามไว้ แล้วหยิบเงินของเขาให้แทน
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะๆ”
หญิงคนนั้นเดินออกไป ยิ่วเชียนยิ้มๆ กับตัวเอง
“ยิ้มทำไม”
“ทำไมเธอไม่ถามก่อนว่าบ้านคุณป้าอยู่ไหน จู่ๆ ก็ควักเงินให้คนอื่นแล้ว”
“ทำไมต้องถาม เขาต้องการความช่วยเหลือถึงได้มาขอยืมเงินเรา”
“ฉันหัวเราะเพราะเรื่องนี้แหละ”
“หัวเราะที่ฉันถูกหลอกง่ายเหรอ”
“ไม่ใช่ ฉันหัวเราะ เพราะปกติฉันไม่มีทางเอาเงินออกมาให้ เพราะฉันไม่เชื่อว่า จะมีใครออกจากบ้านแล้วพกเงินไม่พอ แต่ว่า เมื่อกี้ฉันให้เงินเขาโดยไม่คิดอะไรเลย ฉันคิดว่า นี่เป็นเพราะเธอ เพราะเธอ ฉันเริ่มที่จะเชื่อคนอื่น”
ยิ่วเชียนเอื้อมมือไปจับมืออันซีมากุมไว้
“และเพราะเธอ ฉันต้องการเป็นคนที่ดีกว่า”
ยิ่วเชียนพูดมาถึงตรงนี้แล้วนึกถึงคำพูดของเยี่ยนเจ๋อ
“คำว่าฉันรักเธอ ฉันชอบเธอประโยคเหล่านี้ นายห้ามพูดเด็ดขาด”
ยิ่วเชียนมองหน้าอันซีแล้วตัดสินใจ
“อันซี เธอเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันชอบเธอ ชอบเธอมากที่สุด และจะชอบเธอคนเดียวตลอดไป”
อันซีซาบซึ้ง
“ขอบคุณค่ะ”
อันซีดึงมือออกจากยิ่วเชียน ชายหนุ่มอึ้งๆ
“ดึกมากแล้ว เรารีบกลับกันเถอะ”
อันซีเดินเลี่ยงไปเลย ยิ่วเชียนอึ้ง นิ่งงันไป
อ่านต่อหน้า4
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่18 (ต่อ)
ตอนเช้าวันต่อมา ยิ่วเชียนเดินลงบันไดมา อันซีเห็นรีบวิ่งเข้ามาหา
“เอ๊ะเดี๋ยวก่อน นึกแล้วว่าคุณต้องแอบออกไป นี่ค่ะ”
อันซียื่นกระติกน้ำร้อนให้ ยิ่วเชียนมองแปลกใจ
“นี่คืออะไร”
“ซุปเพิ่มพลังไง คุณอยากดื่มไม่ใช่เหรอ”
“เธอรู้ว่าฉันยังโกรธอยู่ เลยต้องการใช้ซุปไถ่โทษเหรอ”
“ไถ่โทษอะไรกัน เพราะอาหารเช้าสำคัญที่สุดต่างหาก”
ยิ่วเชียนทำหน้าคาดคั้น อันซีเลยต้องยอมรับ
“เฮ้อ ใช่แล้ว ไถ่โทษ ฉันขอโทษ ให้เวลาฉันหน่อยนะ คุณอย่าโกรธเลยนะ”
“เอาล่ะ เรื่องนี้ช่างเถอะ”
“คุณระวังตัวด้วยนะ”
“อื้ม”
ยิ่วเชียนยิ้มนิดๆ ให้ อันซีถอนใจ รู้ว่าตัวเองผิดต่อใครบางคน เธอหยิบตุ๊กตาปลาการ์ตูนขึ้นมาดูอย่างเศร้าๆ
ภายในห้องประชุม จื่อฉีกำลังรายงาน
“ตั้งแต่เจรจาข้อตกลงกับอิหร่านประเทศในยุโรปจะถูกยกเลิกปัญหาทางเศรษฐกิจและการส่งออกน้ำมันต้องห้าม ราคาน้ำมันระหว่างประเทศลดลงเป็นผลประโยชน์โดยตรงของการขนส่ง ขณะนี้เราเปิดการลงทุนจัดส่งสินค้าได้รับสามองค์กรที่สำคัญยอดขายรวม 6.91%”
ยิ่วเชียนเลื่อนกระติกซุปมาไว้ตรงหน้าเขา พนักงานพากันยิ้มๆ
“นี่คือ”
“เอ่อ ฉันรู้ค่ะ แฟนของผู้อำนวยการตื่นเช้าทำมาให้”
“เป็น”
“ทำเพื่อคุณโดยเฉพาะ”
ยิ่วเชียนยิ้มกว้าง ปลื้ม มองกระติกซุปไม่วางตา ต้าอี๋เดินเข้ามา
“ผู้อำนวยการ เรื่องที่คุณเคยสั่งผมไว้”
“วันนี้ประชุมแค่นี้ก่อน พวกคุณออกไปได้”
พนักงานลุกออกไป ยิ่วเชียนหันมาถามต้าอี๋
“ว่ายังไง”
“ตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์บ้านของคุณในหมู่บ้านภูล่าน เจ้าของบ้านปัจจุบันชื่อเจียงไห่โค่”
“เจียงไห่โค่เหรอ”
“ใช่ครับ เขาซื้อบ้านหลังนี้เมื่อสี่ปีก่อน”
“สี่ปีก่อนเหรอ”
ยิ่วเชียนคิด “ทำไมเจียงไห่โค่ต้องซื้อบ้านเก่าฉันด้วย”
“ต้าอี๋”
“ครับ”
“ไปหมู่บ้านภูล่านกับฉัน”
ยิ่วเชียนลุกไป ต้าอี๋คว้ากระติกน้ำซุปตามไปด้วย
“ต้าอี๋ ไปถึงแล้วนายรีบไปหาคนชื่อเจียงไห่โค่ คุยเรื่องการซื้อบ้าน จำไว้ ห้ามเอ่ยชื่อของฉันเด็ดขาด”
“ครับ แต่ว่าผู้อำนวยการ ถ้าคุณไม่ไปซื้อบ้านเอง ทำไมคุณต้องไปกับผมด้วยครับ”
“ฉันต้องการถามเพื่อนอันซีนิดหน่อย เพื่อยืนยันความรู้สึกที่เธอมีต่อฉัน”
ยิ่วเชียนมาที่บ้านพักตากอากาศลูน่ามารีน หยาเอินเห็น
“ผู้อำนวยการเซี่ย”
“พี่เหม่ยเหวินอยู่มั้ย”
“พี่เหม่ยเหวินกำลัง”
“ใครมาหาฉัน เสียงคุ้นๆ เอ๊ะ ผอ.เซี่ย”
“พี่เหม่ยเหวิน”
“ค่ะ”
“ฉันมีเรื่องอยากถามหน่อย”
“เอ่อ ได้สิ เชิญถามมาเลย”
จื้อหลิงกับหยาเอินมาแอบฟังทั้งสองคุยกัน หยาลู่มาเห็น
“ไปเลยมาทำอะไร”
จื้อหลิงบอกให้เบาๆ ระหว่างนั้นยิ่วเชียนพูดกับเหม่ยเหวิน
“อันซีเขา ดูเหมือนพยายามรักษาระยะห่างกับฉัน”
“นี่ พวกเขาคุยเรื่องอะไร” หยาเอินถาม
“เหมือนพูดถึงรักษาระยะห่าง ดูเหมือนอันซีพยายามหนีคุณเซี่ย” จื้อหลิงเล่า
“หมายความว่ายังไง”
“คุณเซี่ยบอกอันซีว่า ฉันชอบเธอ”
“แล้วอันซีว่าไง”
“ขอบคุณค่ะ”
“หะ”
“ใช่ขอบคุณ”
“ฉันผิดหวังกับอันซีจริงๆ คนมีความรักต้องใส่เสื้อคู่รัก จับมือเดินไปด้วยกันสิ พวกเขาไม่มีเลยเหรอ”
“น่าจะไม่มี”
“กินไอศกรีมแท่งเดียวกันล่ะ”
“ไม่มีแน่นอน”
“ตกลงพวกเขาทำอะไรบ้างเนี่ย”
“ไม่ได้ทำอะไรเลย”
เหม่ยเหวินตะโกนเข้ามา จื้อหลิงเจื่อนๆ
“ไฮ ทำไมบังเอิญอย่างนี้ล่ะ ฮิๆๆ”
“บังเอิญเหรอ พวกเธอว่างมากไม่มีอะไรทำใช่มั้ย แอบฟังเหรอ”
จื้อหลิงทำยิ้มๆ ให้ยิ่วเชียน
“โธ่เอ๊ยคุณเซี่ย อย่าคิดจริงจังไปเลย คุณก็รู้ว่าอันซี เป็นคนที่ความรู้สึกช้า อ้อ จู่ๆ คุณก็บอกว่า ชอบเธอใช่มั้ย”
“ถือว่าใช่”
“เฮ่อ งั้นก็ถูกแล้ว อันซีไม่ทันเตรียมใจเธอก็พูดไม่ออกน่ะสิ คุณคิดว่า ฉันชอบเธอ ประโยคนี้พูดกันง่ายๆ เหรอ จะบอกให้ อันซีของเรายังเป็นมือใหม่หัดรักอยู่นะ”
ยิ่วเชียนหน้าเจื่อนๆ “ฉันก็มือใหม่เหมือนกันนี่”
“หืม” เหม่ยเหวินอุทาน
“เอ่อ แต่ความสามารถในการเรียนรู้ของคุณดีกว่า” จื้อหลิงบอก
“ดังนั้นพวกเธอคิดว่า ท่าทีของเธอครั้งนี้ เป็นเรื่องปกติเหรอ” ยิ่วเชียนถาม
ทุกคนรับคำอ้อมแอ้ม เหม่ยเหวินพูดขึ้น
“โธ่เอ๊ย ปกติสิปกติมากเลยล่ะ อันซียังอ่อนหัดในเรื่องความรัก ถ้าไม่ชอบ เขาจะคบกับคุณทำไม เขาไม่มีทางคบแน่นอนใช่มั้ย”
ทุกคนพยักหน้าเออออไปกับเหม่ยเหวิน
“ก็ได้ ฉันจะลองคิดดู”
ยิ่วเชียนบอกขรึมๆ ก่อนจะเดินออกไป หยาเอินรอให้ยิ่วเชียนลับไป จึงหันมาพูดกับทุกคน
“ความจริง ที่อันซีปฏิบัติต่อคุณเซี่ย ไม่ปกติใช่มั้ย”
หยาลู่ฟังแล้วคิดอะไรได้
“ฉันลงไปก่อนนะ”
หยาลู่วิ่งตามยิ่วเชียนไปที่รถ
“รอเดี๋ยว ให้เวลาอันซีอีกหน่อย เธอต้องคิดได้แน่ๆ”
“ทำไมนายพูดเหมือนอันซีเลย”
“เดิมทีอันซีไม่เชื่อในความรัก เพราะคนรอบข้างของเธอ มีแต่คนที่ผิดหวังในเรื่องความรัก พี่เหม่ยเหวิน จื้อหลิง แล้วก็พ่อแม่ของเธอ ดังนั้นที่เธอยอมรับคุณ ถือเป็นการก้าวข้ามปัญหาครั้งใหญ่ของเธอ”
“แล้วฉันต้องรออีกนานเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ฉันเข้าใกล้เธอ เธอจะรักษาระยะห่าง ฉันเข้าใกล้เธออีก เธอก็ยิ่งออกห่าง เหมือนมีกำแพงกั้น ระหว่างเราสองคน”
“กำแพงนั้น อาจเป็นคนคนหนึ่งก็ได้”
“ใคร”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันเคยได้ยินเธอพูดว่า เธอรู้สึกผิดต่อใครคนหนึ่ง ถ้าเธอมีความรัก เธอจะรู้สึกผิดต่อเขามาก ให้เวลาอันซีอีกหน่อยนะ รอให้เธอเชื่อใจคุณ แล้วเธอจะทลายกำแพงนั้นเอง”
ยิ่วเชียนคิดตามคำของหยาลู่
อันซีมายืนหน้าร้านเครื่องดนตรีสากล นึกถึงแผนงานความรักที่ยิ่วเชียนเคยเขียนไว้
“อายุ 21 ก็เรียนเครื่องดนตรีสากลด้วย”
อันซีถอนใจ
“เฮ้อ ทำไมฉันเป็นคนแบบนี้นะ ฉันชอบเธอ แค่คำพูดสามคำ ทำไมฉันถึงพูดไม่ออกนะ ฉันชอบยิ่วเชียนจริงๆ แต่ทำไม ฉันก้าวผ่านปัญหานั้นไปไม่ได้”
อันซีโมโหตัวเอง
ไห่โค่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าศาลเจ้า โดยมีลูกน้องทั้งสองคอยปลอบใจ
“ลูกพี่ มีสาวสวยตั้งมากมาย ทำไมต้องไปแคร์ผู้หญิงแค่คนเดียวด้วย” ต้าหูบอก
“ใช่ ฉันว่าอนาคตของว่าที่พี่สะใภ้คนสวยต้องมืดมิดแน่นอน ผู้ชายดีๆ อย่างลูกพี่เธอกลับไม่รู้จักรักษาไว้” เสี่ยวหูเยินยอ
“แกพูดถูกต้อง ฉันเป็นหนุ่มหล่อที่สุดในหมู่บ้านเชียวนะ”
“ถูกต้อง”
“นั่นสิ”
“ฉันเชื่อว่าอันตูตู แค่หลงใหลชั่วคราว ฉันเชื่อว่าสักวันเธอต้องกลับมา เพราะว่า ฉันจะรอเธอเสมอ”
“ลูกพี่ ทำถูกแล้ว”
“ลูกพี่ ทำถูกแล้ว”
“เอาล่ะ เอาแผนที่ออกมา หาสถานที่ไปปฏิบัติธรรมกัน”
“นี่ครับ”
“นี่ ลูกพี่ เราไปเกาะมัลดีฟกันดีมั้ย”
“นั่นมันไปพักร้อนแล้ว”
“ลาสเวกัสดีกว่า”
ไห่โค่ตัดสินใจแม่นมั่น
อ่านต่อตอนที่ 19