อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่16
อันซีถอนใจเซ็งๆ ที่ยิ่วเชียนทำตัวขวางลำ ไม่ยอมให้เธอยืมโน้ตบุ๊ค และไม่ยอมให้เธอพาเยี่ยนเจ๋อไปดูรูปที่ห้อง ยิ่วเชียนมองหน้าอันซีกับเยี่ยนเจ๋อแล้วในที่สุดก็ต้องยอมให้อันซียืมโน้ตบุ๊ค
“นั่งดูตรงนี้”
“ขอบคุณค่ะ”
อันซีดูโน้ตบุ๊คใกล้ๆ กับเยี่ยนเจ๋อ
“คุณรู้มั้ยเมื่อเช้าตอนฉันเห็นหน้าเว็บดีใจมากเลยล่ะ ช่างภาพมืออาชีพนี่เก่งจริงๆ คุณดูนี่ คุณถ่ายบ้านพักเราได้สวยและอบอุ่นมาก ขอบคุณนะเยี่ยนเจ๋อ”
“เรื่องแค่นี้เล็กน้อยน่า”
“คุณดูสิ ฉันว่ารอยยิ้มของเราดูอบอุ่นมาก”
ยิ่วเชียนทนไม่ไหวลุกขึ้นยืน อันซีแปลกใจ
“คุณไม่ดูด้วยกันเหรอยิ่วเชียน”
“ฉันไม่ชอบดูกับคนอื่น”
ยิ่วเชียนงอนๆ เดินออกไปข้างนอก จับสร้อยที่มีแหวนคล้องอยู่ที่อันซีทำให้เขา พลางบ่นพึมพำ
“ไหนบอกฉันว่าจะพยายาม เธอพยายามไปถึงไหนแล้วล่ะ”
ยิ่วเชียนได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินตามมา ยิ้มดีใจว่าเป็นอันซี เขาหันไปมองแล้วหุบยิ้ม เอาสร้อยเก็บในเสื้อทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเยี่ยนเจ๋อ
“ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่อันซี เป็นอะไร โปรโมชั่นแรงไม่ใช่เหรอ”
“แรงบ้าอะไร ถึงเธอตกลงคบกับฉัน แต่ไม่ยอมให้ฉันเข้าไปในโลกของเธอ ไม่ต่างอะไรกับแต่ก่อน มุ่งเน้นที่บ้านพักและเพื่อนๆ แม้แต่นายที่เป็นคนแปลกหน้า ยังสามารถเข้าร่วมความคิดของเธอได้”
“จะโทษอันซีก็ไม่ถูก ต้องโทษที่ฉันมีเสน่ห์เกินไปต่างหาก”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย เธอแค่ต้องการระยะห่างเท่านั้น”
“เฮ่อ นายอยากรู้มั้ยว่าทำไมคืนนั้นฉันถึงอยู่กับเธอ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว อันซีเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว นายก็แค่ คนแปลกหน้า ที่ส่งของขวัญคืนมา”
“นี่ พี่ชายต่างหาก น่าเสียดาย เวลาที่เสือโกรธไม่สามารถดึงเคราของมันมาเล่นได้”
“นี่ นายสองคนพี่น้องนี่มันยังไงกัน คนหนึ่งว่างมากชอบเล่นเกม คนหนึ่งชอบแกล้งทำตัวเป็นคนดี”
“รู้ตัวดีว่ามีบางอย่างที่พยายามแล้ว แต่ไม่สามารถได้ครอบครอง เฮ่อ ชีวิตก็อย่างนี้แหละ ทำตัวผ่อนคลายจะดีกว่า นายต้องขอบคุณฉันมากกว่า ไม่งั้นฉันจะจีบอันซีจริงๆ นะ เมื่อเทียบกับการรู้จักอันซี ฉันไม่ได้รู้จักช้าไปกว่านาย ถือว่าฉันได้รู้จักเธอเมื่อสิบปีก่อนแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากเชียวล่ะ”
เยี่ยนเจ๋อนึกถึงคำพูดของอันซีในคืนนั้น
“คุณกับฉันเหมือนกัน แม้ว่าจะมีคนห่วงใยหลายคน แต่บางครั้งก็ยังรู้สึกเหงาสินะ”
เยี่ยนเจ๋อหันมาเล่าให้ยิ่วเชียนฟังต่อ
“ฉันตั้งใจส่งของขวัญคืนให้เธอ เฮ่อ เพราะความขุ่นเคืองของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น พ่อแท้ๆ ของฉันไม่ต้องการฉัน ดังนั้นเมื่อฉันเห็นเด็กผู้หญิงที่คิดถึงแม่ และส่งของขวัญมาให้แม่ตลอด ฉันจึงตัดสินใจส่งของขวัญคืนกลับไปให้เธอ เพราะต้องการบอกเธอว่า แม่ของเธอก็ไม่ต้องการเธอ ดังนั้นในวันหนึ่งเมื่อสิบปีก่อน ฉันเคยทำให้ฝันเธอฝันสลาย เธอคงจะเสียใจมาก เพราะเธอส่งของขวัญมาทุกปี จำได้ว่าเธอเคยบอกฉันว่าวันนั้นเธออารมณ์เสียมากๆ”
“นายว่าอารมณ์เสียเรื่องอะไร”
“เธอพูดเองว่า วันนั้นตอนฉันขอโทษเธอ ทำให้เธอคิดถึงนิสัยเสียของตัวเอง ตอนนั้นเธอยังเรียนมัธยมปลายอยู่เลย จะไม่ใจร้อนได้ไงล่ะ”
ยิ่วเชียนฟังแล้วนึกถึงคำพูดของเหม่ยเหวินที่เคยพูดกับเขา
“ตอนเขาเรียน ม.6 ก็เคยสติแตกอย่างนี้ครั้งหนึ่ง ดูเหมือนวันนั้นจะเป็นวันเกิดเขา”
ยิ่วเชียนเริ่มปะติดปะต่อเรื่อง พลางถามเยี่ยนเจ๋อ
“สิบปีก่อนพ่อนายเสียชีวิตวันไหน”
“วันที่ 3 กุมภาพันธ์ มีอะไร”
ยิ่วเชียนนึกถึงคำพูดของอันซีทันที
“ฉันเกิดวันที่ 1 เมษายน เหมือนพระเจ้าล้อเล่นกับฉัน เพราะวันเกิดของฉันตลกมาก”
ยิ่วเชียนหันมาถามเยี่ยนเจ๋ออย่างตื่นเต้น
“แล้วนายส่งของขวัญคืนให้อันซีเมื่อไหร่”
“ปลายเดือนมีนาคมมั้ง”
ยิ่วเชียนเริ่มคิด “หรือว่าวันที่ฉันสารภาพรัก เป็นวันที่อันซีรู้ว่าแม่ของเธอไม่มีวันกลับมา ดังนั้น ดังนั้นเธอ...”
ยิ่วเชียนเข้าใจเรื่องในอดีตทั้งหมดแล้ว เขารีบวิ่งออกไปทันที เยี่ยนเจ๋อแปลกใจ
“นี่ นายจะไปไหน”
ยิ่วเชียนวิ่งไปพลางนึกถึงคำพูดของเขาที่เคยพูดกับอันซี
“ฉันได้ยินพี่เหม่ยเหวินพูดว่า วันเกิดครบรอบสิบแปดปีของเธอ เกิดเรื่องใหญ่กับเธอมากเลยเหรอ”
“วันนั้นฉันทะเลาะกับพ่อฉัน”
“แล้วยังไงล่ะ เพราะอย่างงั้น เลยมาใส่อารมณ์กับคนอื่นอย่างงั้นเหรอ”
“ใช่ พอดีว่าวันนั้น มีคนคนหนึ่งมาหาฉัน แล้วฉันก็ด่าเขาไปน่ะสิ”
ยิ่วเชียนวิ่งเร็วขึ้นพลางคิดถึงสิ่งที่เขาทำผิดพลาด
“ฉันคิดมาตลอด ว่าเธอปฏิเสธฉันเพราะเกลียดฉัน กลั่นแกล้งฉันเหมือนคนอื่น แท้จริงแล้ว วันนั้นเป็นวันที่เธอเสียใจที่สุด ฉันเลือกสารภาพผิดเวลา ฉันมันไม่รู้จักมองคนจริงๆ”
ยิ่วเชียนวิ่งกลับมาบ้านักร้องเรียกหาอันซี หยาเอินหันมาบอก
“เอ่อ อันซีน่าจะอยู่บนห้อง”
ยิ่วเชียนรีบวิ่งขึ้นไป ขณะนั้นจื้อหลิงกับเหม่ยเหวินกำลังตากผ้าอยู่
“เสียงอะไร” จื้อหลิงแปลกใจ
“เอ๊ะ เอ๊ะๆ คุณเซี่ย เขาจะรีบวิ่งไปไหน”
ยิ่วเชียนวิ่งหอบๆ ไปเรียกอันซีที่หน้าห้อง
“อันซี อันซี”
เหม่ยเหวินรีบตามมา
“เซี่ยยิ่วเชียน ยิ่วเชียน คุณหาอันซีเหรอ เธอให้อาหารห่านอยู่ด้านหลัง ได้ยินเสียงเธอมั้ย”
“ให้อาหารห่านเหรอ”
“ใช่”
ยิ่วเชียนรีบวิ่งลงบันไดไป ท่ามกลางความงุนงงของจื้อหลิงและเหม่ยเหวิน
อันซีให้อาหารห่านพลางพูดพึมพำคนเดียว
“พวกแกว่า ทุกคนกินข้าวด้วยกัน มีความสุขมากถูกมั้ย ทุกคนดูเว็บไซต์ด้วยกัน ก็มีความสุขถูกมั้ย เซี่ยยิ่วเชียนเป็นคนใจแคบจริงๆ”
อันซีงอนๆ ระหว่างนั้นยิ่วเชียนวิ่งร้องเรียกเสียงดังเข้ามา อันซียังน้อยใจไม่หาย
“อันซี”
“มีอะไร”
“ฉันขอโทษ”
อันซีงงๆ “ทำไมต้องขอโทษฉันด้วย”
ยิ่วเชียนจับมืออันซีอย่างอ่อนโยน
“ฉันขอโทษ”
“ขอโทษเหรอ อ๋อ ไม่รับกีวี่ของฉัน ไม่ดูเว็บไซต์กับฉันเหรอ”
“เธอจำคนที่สารภาพรักเธอเมื่อสิบปีก่อนได้มั้ย”
อันซีงอนหันหน้าไปทางอื่น
“ทำไมต้องพูดถึงเรื่องนี้ด้วย”
“ความจริง ความจริงแล้วฉันคือ”
ระหว่างนั้นเสียงแตรรถบีบดังอยู่หน้าบ้าน อันซีได้ยิน รู้ทันทีว่าเป็นใคร รีบเดินออกไปหน้าบ้าน ยิ่วเชียนยังพูดในสิ่งที่ตั้งใจไม่จบ ต้องรีบเดินตามไปด้วย เห็นลูกน้องสองคนของไห่โค่เดินออกมาจากรถ
“ไม่นะ เจียงไห่โค่ พวกแกมาอีกทำไม เราไม่ติดค้างกันแล้วนะ”
เหม่ยเหวิน จื้อหลิงและหยาเอิน เดินออกมาสมทบ เสี่ยวหูรีบบอกกับอันซี
“ว่าที่พี่สะใภ้ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะ เพราะเธอทำให้ลูกพี่ของเรากินไม่ได้นอนไม่หลับ แล้วยังหนีไปอยู่ในหุบเขาเพื่อค้นหาความหมายของชีวิตด้วย”
“ไม่ทราบว่าเขาบวชแล้วใช่มั้ย” เหม่ยเหวินประชด
“ฝันไปเถอะ” เสี่ยวหูบอก
“เพื่อจะได้ครอบครองว่าที่พี่สะใภ้ของเรา ลูกพี่ของเราเลยตัดสินใจกลับมาแล้ว และครั้งนี้เขาได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง รับรองว่าที่พี่สะใภ้ของเราต้องถูกใจแน่” ต้าหูเล่า
“หะ เขาไปศัลยกรรมมาเหรอ” จื้อหลิงถามซื่อๆ
“เขาหล่ออย่างนี้ทำไมต้องศัลยกรรมด้วย” ต้าหูเถียง
“ทุกคน ห้ามกระพริบตานะ เพราะว่าหนุ่มหล่อรุ่นใหม่ไฟแรง”
เสี่ยวหูบอกพลางเดินไปเปิดประตูรถ
“กำลังจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนแล้ว”
ต้าหูเสริม พร้อมกับทำท่าทางให้ดูตื่นเต้น
อ่านต่อหน้า 2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่16 (ต่อ)
เป็นไห่โค่ที่เดินออกมาจากรถในชุดที่เนี้ยบหรู เล่นเอาทุกคนอึ้งไปทั้งแถบ เพราะดูออกว่าเขาจงใจเลียนแบบยิ่วเชียนเป๊ะๆ นอกจากนั้นไห่โค่ยังถือหนังสือภาษาต่างประเทศมาด้วย เพื่อให้เหมือนคนรักการอ่านอย่างยิ่วเชียนอีก ต่างหาก ทุกคนต่างหัวเราะกับนิวลุคของไห่โค่
“อันตูตู ลองไทม์โนซี ฮาวดูยูดู เฮลโล” ไห่โค่ทักอันซีด้วยภาษาอังกฤษทะแม่งๆ หู
“เจียงไห่โค่ ทำไมนายแต่งตัวอย่างนี้”
“ดีไซเนอร์ของฉันบอกว่า ฉันแต่งสไตล์นี้ จะดูรสนิยมดีกว่าแบบเดิม หล่อมั้ย”
เหม่ยเหวินหัวเราะ “น่าหัวเราะจริงๆ หล่อจนดอกไม้ร่วงหมดแล้ว”
“นี่ ลูกพี่ คาล์มดาวน์” ต้าหูเตือน
“ลูกพี่ พีซ พีซ” เสี่ยวหูเตือนให้อดกลั้น
“หมายถึงอะไร”
“เอ่อ แปลว่าสันติภาพ สันติภาพไงล่ะ” เสี่ยวหูแปลไปเรื่อย
“ตั้งแต่ฉันแพ้การแข่งขันดึงต้นหอม ความรู้สึกของฉันแย่มาก ฉันจึงอ่านหนังสือบ่อยๆ เพื่อให้ลืมความรู้สึกเศร้า เร็วๆ นี้ ฉันชอบหนังสือเล่มนี้มาก ปัญหาความวุ่นวายของวัยรุ่นฝรั่งเศส”
ไห๋โค่ชูหนังสือให้ดู พวกเหม่ยเหวินหัวเราะ
“บทประพันธ์ ของกอธิค”
“ฝรั่งเศสเหรอ” ยิ่วเชียนถาม
“มันพูดถึง ผู้ชายที่น่าหลงใหลอย่างฉัน ตกหลุมรักเพื่อนในวัยเด็ก”
“เหมือนสามีภรรยา”
“ไม่ได้แต่งงานกัน”
“ฆ่าตัวตาย
“ใครกัน ไอ้บ้ากาม ทำไมนายยังอยู่ที่นี่”
“ลูกพี่ คาล์มดาวน์”
“ฉันต่างหากที่ต้องถาม นายมาที่นี่อีกทำไม นายเคยสาบานกับพระเจ้าไว้ ลืมแล้วเหรอ”
“นี่ ลูกพี่ของเราโยนคำสาบานทิ้งแล้วถึงได้กลับมา” ต้าหูบอก
“นายมากกว่า ที่ไม่ควรมายืนอยู่ตรงนี้” เสี่ยวหูย้อน
จื้อหลิงทนไม่ได้รีบบอก
“คุณเซี่ยสมควรจะยืนอยู่ตรงนี้ เพราะว่าตอนนี้เขาเป็นแฟนของอันซีแล้ว”
ไห่โค่ตกใจ “เขา เป็นแฟนของเธอเหรอ”
ยิ่วเชียนรีบเอามือไปกันอันซีกลัวไห่โค่จะทำร้าย
“ใช่” อันซีตอบหนักแน่น
“เป็นแฟนของเธอเหรอ”
“ใช่”
“ทำไม ฉันไปไม่นานเธอก็เปลี่ยนใจ มันเร็วเกินไปมั้ย”
“ขอโทษทีนะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เร็วหรือช้า แต่อยู่ที่พรหมลิขิตต่างหาก” เหม่ยเหวินย้ำบอก
“ทำไม มาจากไทเปก็รีบกลับไปสิ เที่ยวเสร็จก็หนีกลับไปสิ ทำไมเธอโง่อย่างนี้ เพราะเขาหล่อใช่มั้ย หล่อกว่าฉันเรอะ”
“ใช่นะสิ ไม่งั้นนายเลียนแบบเขาทำไม ทำไมต้องแต่งตัวเหมือนเขาด้วย”
อันซีหันไปกอดไหล่ยิ่วเชียนแสดงความใกล้ชิดให้ไห่โค่เห็น
“จะบอกให้ ฉันชอบรูปลักษณ์ของเขา ฉันชอบรสนิยมไทเปของเขา แล้วไง”
“หล่อเหรอ”
ไห่โค่ทิ้งหนังสือลงพื้นอย่างแรง แล้วเข้าไปคว้าข้อมืออันซี
“ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ ฉันใช้ไม้แข็งก็ได้ ไป ไปขึ้นรถกับฉัน”
ไห่โค่กระชากอันซีไปที่รถของเขา ทุกคนต่างชุลมุนจะช่วยอันซี
“เจียงไห่โค่...เจียงไห่โค่”
ยิ่วเชียนวิ่งมากระชากมือไห่โค่ออกจากอันซี แล้วจับไห่โค่ไปพิงกับรถ ส่วนเขาก็คร่อมไห่โค่ไว้
“ฉันขอเตือนนาย ถ้าฉันเห็นนายแตะต้องอันซีแม้แต่น้อย แม้จะเป็นเพียงปลายเล็บ หรืออันซีได้รับบาดเจ็บ ฉันจะฆ่านายให้ตายอย่างทรมาน”
ยิ่วเชียนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ไห่โค่ จนไห่โค่ต้องรีบผลักออก
“ถอยไปเซ่”
“ลูกพี่”
“ลูกพี่ เป็นอะไรรึเปล่า”
“ลูกพี่ เมื่อกี้ไอ้บ้ากามจะลวนลามพี่”
“หุบปากน่า ถุยๆ”
ไห่โค่ยอมถอย เดินไปที่รถ
“อันตูตู อย่าลืมนะ เยี่ยนเจ๋อเดินเข้ามาที่รั้วบ้านพอดี เห็นรถไห่โค่ถอยออกไป ก็มองๆ ว่าเป็นใคร ในขณะที่ยิ่วเชียนหันมาถามอันซีอย่างห่วงใย
“เธอบาดเจ็บตรงไหนมั้ย”
“ไม่มีค่ะ”
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย” เหม่ยเหวินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร” อันซีบอก
“เอ๊ะ หนังสือปัญหาวัยรุ่นของใคร”
เยี่ยนเจ๋อเห็นหนังสือที่ไห่โค่ปาทิ้งไว้
“อย่าพูดถึงเลยเดี๋ยวฉันจะเอาเกลือมาโรย”
เหม่นเหวินบอกโกรธๆ แล้วเดินเข้าบ้านไป จื้อหลิงยิ้มเข้ามาเกาะแขนเยียนเจ๋อ
“เยี่ยนเจ๋อ เมื่อกี้คุณพลาดอะไรไปรู้มั้ย เมื่อกี้คุณเซี่ยหล่อมาก เท่ห์สุดๆ เขาผลักเจียงไห่คนชั่วลอยละลิ่วเลยล่ะ”
หยาเอินมองจื้อหลิงควงเยี่ยนเจ๋อเข้าไปในบ้านอย่างเศร้าๆ ก่อนจะตามเข้าไป ทิ้งให้อันซีอยู่กับยิ่วเชียนตามลำพัง
“อันซี อย่าบอกนะว่าเธอชอบฉัน เพราะรูปลักษณ์ภายนอกเหรอ”
“คุณหล่อมาก”
“แล้วถ้าหาก ฉันหน้าตาขี้เหร่ เธอยังจะชอบฉันมั้ย”
“ฮิ ทำไมคุณถามแบบนี้ล่ะ นี่ อย่าบอกนะว่าคุณไม่มีความเชื่อมั่น โธ่เอ๊ย ไม่ต้องห่วง คุณหล่อมาก หล่อมากจริงๆ อ้อจริงสิ เมื่อกี้คุณมีเรื่องอะไรจะพูดกับฉันเหรอ”
“อ้อ เอ่อ ฉันลืมแล้ว”
“อ้อ งั้นไปเถอะ”
อันซีเดินตามเพื่อนๆ เข้าไปในบ้าน ยิ่วเชียนคิดๆ กังวล
“ถ้าเธอรู้ว่าฉันเป็นนายคิ้วเส้นตรง เธอยังชอบฉันอยู่มั้ย”
เสี่ยวหูขับรถพาไห่โค่ออมาจากบ้านอันซี สักพักไห่โค่สั่ง
“จอดรถ จอดรถ”
เสี่ยวหูไม่ฟังยังขับต่อไป ไห่โค่จึงตะโกนเสียงดัง
“จอดรถเซ่หูหนวกรึไง”
เสี่ยวหูเบรกกะทันหัน
“ครับลูกพี่”
ไห่โค่ลงจากรถ จะถอดชุดที่แต่งเลียนแบบยิ่วเชียนออก
“ลูกพี่แต่งตัวยังไง รัดแน่นขนาดนี้”
“แน่นมาก ถอยไป
“ลูกพี่ฉันช่วย”
“ไม่ต้อง แน่นมาก หายใจไม่ออก เอาไป”
“ไอ้บ้านั่นแต่งตัวยังไง น่าเกลียดจริงๆ เลย”
“นั่นนะสิ”
“เป็นคนดูแลพระวิหารรึไง”
“นั่นนะสิ ลูกพี่ๆ”
“ฉันจะถามพี่ว่า ตอนอยู่ที่บ้านพัก พี่บอกว่าอันซียังติดค้างพี่เหรอ” ต้าหูถาม
“เขาไม่ได้ติดค้างฉัน ฉันต่างหากติดค้างเขา”
“หืม”
“แต่ว่า สิ่งที่เขาต้องการ ยังอยู่ในมือของฉัน”
“เฮ่อๆ”
“อันตูตู เรายังไม่จบแค่นี้แน่”
ไห่โค่บอกตัวเองอย่างมุ่งมั่นมาดหมาย
อ่านต่อหน้า 3
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่16 (ต่อ)
อันซีเดินเข้ามาให้อาหารปลาทองในห้องเก่าของเธอ ซึ่งตอนนี้เป็นห้องของยิ่วเชียน
“เขามีดีตรงไหน ทำไมถึงเป็นเขา เพราะอะไร เฮ้อ พูดตามตรงแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของเขาดูหล่อมาก แต่ตอนที่เพิ่งรู้จักเขา เขาเป็นคนน่ารำคาญมาก ถึงหล่อแค่ไหนฉันก็ไม่อยากอยู่ใกล้เขา หนอนหนังสือ แกว่าเขามีความพิเศษตรงไหน หรือเพราะว่า เขาเป็นผู้มีพระคุณของฉัน แล้วทำไมฉันต้องหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะกับคนที่ช่วยเหลือฉันด้วย ไอ้แว่น แกว่า ทำไมฉันต้องคบกับเขาด้วย หรือเป็นเพราะว่า เขากับเขา มีดวงตาที่เหมือนกันมาก หรือว่าเขาดูคล้ายๆ กัน ใครเห็นแล้วก็อยากจะเข้าใกล้เขา ใช่มั้ยนะ ทำไมเขาดูฉลาด แต่ไม่เชื่อใจใครล่ะ ไอ้เขียว แกว่า ฉันคบกับคนที่แปลกมากใช่มั้ย” อันซีถามปลาทองไปเรื่อยๆ
ระหว่างนั้นยิ่วเชียนเดินเข้าประตูมาเงียบๆ ได้ยินสิ่งที่อันซีคุยกับปลาทอง เขายืนฟังเงียบๆ พลางคิด
“ฉันรู้ว่า ปีที่เธออายุ 18 เธอไม่ได้อารมณ์ร้ายใส่ฉัน แต่ว่า ฉันไม่รู้เลยว่าเธอคิดอะไร”
อันซีหันมาเห็นยิ่วเชียนพอดี
“เอ๊ะยิ่วเชียน เข้ามาทำไมไม่ส่งเสียงล่ะ คุณจะทำงานเหรอ ฉันเข้ามาให้อาหารปลา ฉันจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้”
อันซีจะเดินออกไป ยิ่วเชียนรั้งแขนเธอไว้
“ช่วยทำให้ฉันมั่นใจ ฉันหวังว่าไข้หวัดของฉัน ต้องไม่หายตลอดไป”
“คุณเป็นหวัดเหรอ ฉันดูหน่อยสิ”
อันซีเอามืออังที่หน้าผากชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง ยิ่วเชียนดึงหญิงสาวเข้ามากอดอย่างแสนรัก
“ฉันต้องการเดินกับเธอ แบบนี้ตลอดไป”
อันซียืนอึ้งๆ อยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม
ตอนเช้า ยิ่วเชียนมาที่ห้องอาหาร เห็นเยี่ยนเจ๋อนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่ไม่มีอันซี เขาพึมพำเบาๆ
“ขั้นตอนที่สี่ ใช้ไม่ได้ผลจริงๆ”
เหม่ยเหวินหันมาเห็นยิ่วเชียน
“เอ๊ะ เซี่ยยิ่วเชียน อันซีพาหยาเอินไปโรงพยาบาลแล้ว”
“ไปไทเปเหรอ”
“ใช่”
ยิ่วเชียนเดินออกไปทันที
“เอ๊ะ คุณไม่กินข้าวเช้าเหรอ” เหม่ยเหวินถาม
“ฉันไม่หิว ขอบคุณ”
ยิ่วเชียนเดินออกไป เยี่ยนเจ๋อมองยิ้มๆ พอกินข้าวเสร็จก็ไปเคาะประตูห้องยิ่วเชียน เข้าไปนั่งข้างๆ มองยิ่วเชียนอ่านแท็บเล็ต ก่อนจะหันมาคว้าโทรศัพท์มือถือของยิ่วเชียนที่วางอยู่บนโต๊ะมาอ่าน
“นายหาข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร ถึงจะวางแผนยังไง แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวอยู่ดี”
“วางลงนะ”
ยิ่วเชียนโกรธๆ เยี่ยนเจ๋อรีบวาง
“เฮ้อ ทำไมนายจะต้องตกหลุมรักผู้หญิงที่ทำเพื่อคนอื่นแบบนี้ด้วยล่ะ นายลองเกลี้ยกล่อมเธอหน่อยมั้ย ให้เห็นแก่ตัวบ้าง คิดถึงตัวเองบ้างสิ”
“นั่นคือข้อดีของอันซี”
“เปลี่ยนนิสัยของเธอไม่ได้ก็ลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของเธอสิ เซี่ยยิ่วเชียน ฉันไม่อยากหัวเราะนายเลย แต่เมื่อนายเจอผู้หญิงคนนี้สายตานายก็บอดสนิท นายยอมทำตามเธอทุกอย่าง นายสังเกตมั้ยว่าปัญหาระหว่างนายสองคนคือมีคนรอบข้างมากเกินไป”
ยิ่วเชียนฟังแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“เฮ้อ ใกล้ถึงเวลาที่นายต้องกลับไทเปแล้ว”
“อื้ม วันหยุดของฉันเหลือไม่กี่วันแล้ว”
“จำไว้นะ วิธีที่ใช้ได้ผลยังสามารถใช้ได้อีก”
ยิ่วเชียนมองหน้าเยี่ยนเจ๋อ ยิ้มๆ เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด
อันซีกับหยาเอิน เดินคุยกันมาตามทางในโรงพยาบาล
“ดีมากหยาเอิน อาการดีขึ้นแล้วเธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”
“อื้ม”
ระหว่างนั้นอันซีเห็นยิ่วเชียนกับเยี่ยนเจ๋อยืนอยู่
“เอ๊ะ พวกคุณมาที่นี่ได้ไง”
“พวกคุณมารับเราเหรอ” หยาเอินถาม
“ใช่ ฉันมารับเธอ ส่วนอันซี คุณเซี่ยจะพาเขาไปที่อื่น”
“ไปไหนอีกล่ะ”
ยิ่วเชียนคว้ามืออันซีออกไป
“ไปถึงก็รู้เอง”
“นี่ บ้านพักของฉัน”
“มีพี่เหม่ยเหวิน”
“แต่ฉันต้องทำงาน”
“จื้อหลิงจะช่วยทำแทน”
“หยาเอินล่ะ”
“เขามีพี่ชาย”
“แต่ฉัน”
“เธอมีแฟนแล้ว เธอควรจะหาเวลาดูแลแฟนตัวเองหน่อยมั้ย”
“แต่ว่า”
“ในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้านพัก เจ้าหนี้ที่ถูกแฟนเมินเฉยและไม่เอาใจใส่ แถมเจ้าหนี้คนนี้ยังนิสัยดีมาก ถึงตอนนั้นถ้าฉันทำอะไรไม่ดี”
อันซีใจไม่ดี รีบจับมือยิ่วเชียนอ้อนๆ
“แฮะๆ เจ้าหนี้ อย่าใจร้อนสิมีอะไรคุยกันได้”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ “ก็ได้ ฉันคิดว่าจะลองหาเวลาคุยกับเธอให้เข้าใจ”
“ไม่มีปัญหา หูฉันใหญ่มาก อยากพูดอะไรพูดมาเลย แล้วคุณอยากไปไหน”
ทั้งสองพากันออกไป เยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ หันมาบอกหยาเอิน
“งั้นเรากลับกันเถอะ”
“เอ๊ะ ฉันไปสถานที่หนึ่งก่อนได้มั้ย”
เยี่ยนเจ๋อฟังแล้วแปลกใจ
หยาเอินให้เยี่ยนเจ๋อพามาที่ชายหาด
“ที่แท้เธออยากมาที่นี่เหรอ”
“ค่ะ”
“เพราะอะไร”
“คนหมู่บ้านภูล่านว่ายน้ำเป็นทุกคน มีฉันคนเดียว ที่ไม่เคยมาริมชายหาด”
“อ๋อ เพราะว่าเธอป่วย”
“ใช่ เป็นโรคที่ไม่สามารถได้รับผลกระทบทางอารมณ์ เวลามีคนจุดประทัด พี่ชายฉันกับอันซีจะรีบมาปิดหูของฉัน เมื่อฉันขยับตัวนิดหน่อย พวกเขาจะแสดงท่าที กังวล และเป็นห่วงกลัวอาการจะกำเริบ”
“ดังนั้น เธอไม่ต้องการให้เขากังวล เลยไม่กล้าบอกพวกเขาว่าอยากเล่นน้ำ และเพราะฉันเป็นคนแปลกหน้า แม้เธอจะเป็นลมหมดสติต่อหน้าฉัน ฉันจะไม่รู้สึกผิดกับเธอ ถ้าเธอเป็นอะไรไปงั้นเหรอ โอเคน่า เธอคิดอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร บางครั้ง เพื่อต้องการให้คนอื่นสบายใจ จึงต้องยิ้มแย้มอยู่เสมอ หรือไม่ก็ต้องเอาใจคนอื่น เพราะรู้สึกว่าตัวเองต้องมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น ใช้ชีวิตแบบนี้ไปนานๆ คงจะเบื่อน่าดู”
“ไม่ใช่หรอก พี่ชายฉันกับอันซีดีกับฉันมาก ก็เพราะว่าอย่างนี้ ฉันยิ่งไม่ควรทำให้พวกเขา”
“ดี งั้นวันนี้ฉันจะดูแลเธอเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เธอต้องทำคือ ห้ามเป็นลมเด็ดขาด ได้มั้ย”
หยาเอินพยักหน้ายิ้มๆ
“ให้ฉันดูก่อนนะ เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนนะ ดี เริ่มจากตรงนี้แล้วกัน”
เยี่ยนเจ๋อลงนั่ง หยาเอินตกใจ
“เอ๊ะ”
เยี่ยนเจ๋อม้วนกระโปรงของหยาเอินให้เป็นปมเพื่อจะได้ไม่ปลิวตามแรงลม
“โอเค ไปกันเถอะ”
เยี่ยนเจ๋อจูงมือหยาเอินลงไปย่ำน้ำทะเล หยาเอินดีใจ
“อ๊า”
“รู้สึกยังไงบ้าง”
“อื้ม”
สักพักมีเด็กสองคนเอาปืนฉีดน้ำมาฉีดใส่หยาเอิน
“อ๊า”
เยี่ยนเจ๋อรีบดึงหยาเอินมาหลบข้างหลังเขา
“เอ๊ะ เด็กๆ เด็กๆ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน มานี่ๆๆ มานี่ พวกเธอเห็นพี่สาวคนนี้มั้ย ฉันจะบอกพวกเธอนะ ความจริงแล้วเขาเป็นนักมายากล ฉะนั้นถ้าพวกเธอยังฉีดน้ำใส่เขาอีก เขาจะทำให้พวกเธอกลายเป็นรูปปั้น เข้าใจรึยัง”
“โกหก”
เด็กชายสองคนพูดพร้อมกันก่อนจะเอาปืนฉีดน้ำฉีดใส่เยี่ยนเจ๋อ เยี่ยนเจ๋อหนี แล้วสาดน้ำเล่นกับเด็ก
“เฮ้ย ฉันไม่ได้โกหก ไม่ได้โกหกนะ”
หยาเอินขำๆ ไปด้วย ทั้งหยาเอิน เยี่ยนเจ๋อและเด็กๆ สาดน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน สุดท้ายทั้งคู่ก็เปียกปอน
“เด็กสมัยนี้แข็งแรงจริงๆ เฮ้อ เธอจะกลับไปอย่างนี้ได้ไง ไปหาเสื้อผ้าเปลี่ยนก่อน ไป”
อ่านต่อหน้า 2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่16 (ต่อ)
เยี่ยนเจ๋อพาหยาเอินมาเลือกซื้อเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้า พนักงานเดินเข้ามา
“ยินดีต้อนรับค่ะ ตามสบายนะคะ ถ้าชอบลองสวมดูได้นะคะ”
เยี่ยนเจ๋อเลือกเสื้อผ้าชุดหนึ่งมา
“ชุดนี้เหมาะกับเธอมาก ว่ายังไง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวก็แห้งแล้วล่ะ”
“รับไว้เถอะ วันนี้ฉันเป็นคนดูแลเธอ ต้องเชื่อฟังฉัน รีบไปเปลี่ยนเร็ว”
“ค่ะ”
“เชิญห้องลองชุดทางนี้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ระหว่างรอหยาเอินลองชุด เยี่ยนเจ๋อเดินดูเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ พนักงานสาวสองคนเห็นเยี่ยนเจ๋อหล่อสมาร์ทก็ซุบซิบกันอย่างพอใจ
“นี่ ทั้งสูงทั้งหล่อ”
“นั่นสิ สเป็คของเธอเลยนะ หล่อมากด้วย”
หยาเอินเปลี่ยนชุดเดินออกมา พนักงานเดินไปถาม
“โอเคมั้ยคะ”
“อื้ม ขอบคุณค่ะ”
เยี่ยนเจ๋อมองยิ้มๆ
“อื้ม ไม่เลว รสนิยมฉันดีมาก”
เยี่ยนเจ๋อเดินไปจ่ายเงิน เขายื่นบัตรเครดิตให้พนักงานสาว
“รบกวนด้วยครับ”
พนักงานสาวยิ้ม หยิบปากกามาให้
“คุณคะ ช่วยกรอกข้อมูลสมาชิกด้วยค่ะ”
“ไม่ดีกว่าครับขอบคุณ”
“เรามีส่วนลดเป็นรายการใหม่ให้พวกคุณ”
“ถ้าพวกคุณต้องการหาสมาชิก สุภาพสตรีท่านนี้คือเป้าหมายของพวกคุณ แต่ถ้าต้องการขอเบอร์ผมล่ะก็ ขอโทษด้วย ผมมีแฟนแล้ว”
เยี่ยนเจ๋อหันไปกอดไหล่หยาเอินแน่น หญิงสาวตกใจ เขินอาย
“นี่ใบเสร็จของคุณค่ะ”
“ขอบคุณ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปเถอะ ที่รัก”
“ค่ะ ที่รัก”
หยาเอินรับคำ แล้วรีบเดินนำหน้าออกไปก่อนเลย เยี่ยนเจ๋อรีบตามมา
“เธอเดินออกมาอย่างนี้พวกเขาก็รู้สิว่าเราโกหก โง่จริงๆ เลย”
หยาเอินก้มหน้ารู้สึกผิด
“เอาล่ะไม่ได้ว่าเธอโง่นะ ฉันแค่ล้อเล่น กลับเถอะ”
เยี่ยนเจ๋อจับหัวหยาเอินโยกอย่างเอ็นดูแล้วเดินนำไป หยาเอินแอบยิ้มดีใจอยู่คนเดียว
ยิ่วเชียนพาอันซีมาที่บ้านของเขา
“เชิญ”
“ขอบคุณค่ะ ว้าว นี่บ้านคุณเหรอ”
“ใช่แล้ว ทำไมถามอย่างนี้ล่ะ”
“คือว่า ทำไมเราต้องมาบ้านคุณด้วย”
“หาเวลาอยู่ด้วยกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีไง”
“อยู่บ้านพักก็สร้างความสัมพันธ์กันได้นี่”
“ฉันต้องทำงาน อีกอย่างอยู่บ้านพักไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย”
“ทำไมจะไม่มีเล่า เอาล่ะๆๆ เราอยู่ด้วยกันแค่วันเดียวนะ พรุ่งนี้ฉันกลับแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย”
ยิ่วเชียนเข็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาให้อันซีตรงหน้า
“พี่เหม่ยเหวินเตรียมให้เธอแล้ว”
“อ้อ พี่เหม่ยเหวิน คุณให้อะไรเขากันแน่ ทำไมเขาช่วยคุณทุกทีเลย”
“เขาไม่ได้ช่วยเหลือฉัน เขาทำไป เพราะหวังดีกับเธอ”
“ขอให้จริงเถอะ โทรถามเขาก่อน”
อันซีหยิบโทรศัพท์มาโทรหาเหม่ยเหวิน แต่เสียงปลายดังขึ้น
“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
“จะมากไปแล้วนะ ครั้งก่อนอ่านแล้วไม่ตอบ ครั้งนี้ไม่ยอมรับสาย”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ ใช้วิดิโอคอลโทรหาเหม่ยเหวิน
“ไฮ พี่เหม่ยเหวิน”
อันซีหน้าหงิก “ไหนบอกว่าไม่ได้ติดสินบนเขา”
อันซีไปแย่งโทรศัพท์ยิ่วเชียนมา
“จิงเหม่ยเหวิน”
“อันซีขอโทษทีเมื่อกี้ฉันยุ่งอยู่”
“ขอให้จริงเถอะ บ้านพักมีเยี่ยนเจ๋อคนเดียวจะยุ่งอะไร”
จื้อหลิงเดินเข้ามา “จริงๆ นะ เอ๊ะ จริงๆ นะอันซี คุณเซี่ยไม่อยากให้เราตามเธอไป ยังแนะนำแขกพิเศษมาที่นี่ เธอดูนี่มีรายชื่อของแขกด้วย แอนเดอร์สัน ริชาร์ด แล้วก็เฮนรี่ ฮิๆๆ แค่ได้ยินชื่อก็หล่อแล้วอ่ะ ฮิๆๆ”
“งั้นฉันยิ่งต้องกลับไป”
“เอ๊ะ ไม่ต้องๆๆ”
“จริงสิฉันจะบอกเธอนะ เซี่ยยิ่วเชียนพูดถูกแล้ว บ้านพักมีแค่สามคนก็พอแล้ว หยาลู่จะมาช่วยอีกคนไม่มีปัญหาแน่นอน เธอพักผ่อนให้เต็มที่ ผ่อนคลายบ้างนะจ๊ะ” เหม่ยเหวินรีบบอก
“อีกอย่างนะอันซี เธอดูแลพวกเรามาตั้งนาน ถึงเวลาให้คนอื่นดูแลเธอบ้างแล้ว” จื้อหลิงบอก
“เซี่ยยิ่วเชียนฉันจะบอกคุณนะ อันซีเป็นคนที่ถ้าคุณไม่บอกให้พักเธอจะทำงานไม่หยุด ดังนั้นคุณต้องให้เธอพักผ่อนเต็มที่ให้เธอได้สุขสบายบ้าง”
“อื้ม ไม่เป็นไรนะ เธออยู่ที่นั่นหลายๆ วันเลย อยู่สิบวันครึ่งเดือนก็ได้ อยู่จนกว่าฉันจะหาแฟนได้ไปเลย ถ้าข้างกายคุณเซี่ยมีผู้ชายที่เธอคิดว่าไม่เลว อย่าลืมแนะนำฉันด้วยล่ะ”
“ยัยติงต๊อง” เหม่ยเหวินดุ
“เอ่อ”
ระหว่างนั้นยิ่วเชียนแกล้งยื่นหน้าเข้ามาในจอโบกมือบอกให้เหม่ยเหวินพอได้แล้ว
“เอาล่ะๆ งั้น งั้นพวกเธอเที่ยวให้สนุกนะ แค่นี้ล่ะ”
“เอ๊ะ เดี๋ยวๆๆ” อันซีท้วง
“ไม่ต้องเดี๋ยวแล้ว”
เหม่ยเหวินปิดโทรศัพท์ไป จื้อหลิงไม่พอใจ
“นี่ ฉันยังพูดไม่จบเลยเธอวางสายทำไม”
“เธอยังจะพูดอีกเหรอ พรุ่งนี้แอนเดอร์สัน ริชาร์ด และเฮนรี่ จะมาแล้ว ยังไม่รีบไปเตรียมตัวอีก”
“เอ่อ แอนเดอร์สัน เฮนรี่ โอ้ว ริชาร์ด ฉันมาแล้ว”
“ยัยติงต๊องเอ๊ย” เหม่ยเหวินบ่นบ้า
ยิ่วเชียนยิ้มกริ่ม แย่งโทรศัพท์จากอันซีคืนมา
“เราสองคนเพิ่งคบกันก็มาอยู่ด้วยกันแล้วเร็วเกินไปมั้ย”
“ฉันพักอยู่บ้านเธอมาสองอาทิตย์แล้วนะ”
“บ้านฉันเป็นบ้านพักนี่”
“งั้นเอาอย่างนี้ เธอต้องการทำยังไง เราทำตาราง ดำเนินการตามนั้น”
“เอ่อ เฮ่อ ไม่ใช่นะ คือว่า การสื่อสารระหว่างคนรัก ต้องเริ่มจากการจับมือไม่ใช่เหรอ”
“จับมือเหรอ”
ยิ้มเชียนยิ้มดีใจเข้าไปจับมืออันซีอย่างทะนุถนอม ยิ้มให้หญิงสาว อันซียิ้มตอบเขินๆ
“จากนั้นล่ะ”
“จากนั้น เอ่อ”
“เธอพูดสิ เธอต้องการยังไง ฉันจะให้ความร่วมมือ ความต้องการของฉันง่ายนิดเดียวเอง”
“ง่ายยังไง”
“ง่ายมากๆ ในโลกของเราสองคน เธอต้องการทำอะไรก็ได้ สิ่งสำคัญคือ ขอแค่มีเธอกับฉัน แค่เราสองคน”
ยิ่วเชียนยื่นหน้าเข้าไปใกล้อันซี หญิงสาวเหมือนตกอยู่ในภวังค์เคลิ้มไปกับบรรยากาศที่อบอวลด้วยความรัก ยิ่วเชียนกำลังจะจูบอันซี แต่แล้ว เสียงต้าอี๋ดังขึ้น
“คุณปู่ระวังครับ”
อันซีผลักอกยิ่วเชียนออกทันที กลัวใครเห็น แล้วก็เหลือบไปเห็นไป๋คังเข้ามา อันซีชะงัก
“เอ๊ะ คุณปู่”
ยิ่วเชียนงง
“สาวน้อยปลาหมึก”
อันซียิ้มๆ นึกถึงเหตุการณ์หลังจากวันเข้าประกวดทำอาหารแต่เธอถูกตัดสิทธิ์จึงเดินเศร้าๆ ออกมจากงาน จื้อหลิงกับเหม่ยเหวินวิ่งตามมาเรียก
“พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ”
“อันซี” จื้อหลิงเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรน่า” อันซีเดินออกไป
ระหว่างนั้นไป๋คังนั่งดื่มอยู่คนเดียวในซุ้มข้างทาง พูดอยู่คนเดียวราวกับนั่งคุยอยู่กับเพื่อนเก่า
“เพื่อนเก่า วันนี้มาเล่นหมากรุกกับเธอเป็นครั้งสุดท้าย”
อันซีเดินผ่านมาพอดี
“เฮ้อ อ่า ถ้ามีกับแกล้มเหล้าสักหน่อยก็คงจะดี นี่ ตาเธอแล้ว ฉันชนะเธอแล้วนะ”
อันซีค้นกล่องพลาสติกในกระเป๋าตัวเอง
“ขอโทษค่ะ คุณปู่ นี่ปลาหมึกที่ฉันทำ ถ้าคุณไม่รังเกียจล่ะก็ สามารถเป็นกับแกล้มเหล้าได้”
ไป๋คังยิ้มแล้วรับของมา อันซีเดินออกไป
“ดีๆๆ นี่ เรามีกับแกล้มเหล้าแล้วนะ”
สอดคล้องกับอันซี ยิ่วเชียนก็นึกถึงกล่องปลาหมึกที่เขาเคยเจอในตู้เย็นและหยิบมาลองชิมดู รู้ว่าเป็นฝีมือของอันซี ยิ่วเชียนยิ้มที่เหตุการณ์มาประจวบเหมาะกัน นึกถึงความใจดีของอันซีที่มีต่อปู่ของเขา
“คุณปู่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง อารมณ์ดีขึ้นรึยังคะ”
“ดีขึ้นมากแล้ว ครั้งก่อนได้กินปลาหมึกของเธอ ทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้น เธอล่ะ วันนั้นดูเหมือนเธออารมณ์ไม่ค่อยดีนะ”
“เอ่อ ฉันอารมณ์ดีขึ้นมากแล้วค่ะ แต่ต้องขอบคุณยิ่วเชียน เขาทำให้อารมณ์ของฉันดีขึ้นมาก”
“เอ่อ คุณเรียกผู้อำนวยการเซี่ยว่ายิ่วเชียน คุณคือ” ต้าอี๋งงๆ
“แฟนฉันเอง”
ยิ่วเชียนพูดเต็มปากเต็มคำ ต้าอี๋อึ้ง ไป๋คังยิ้มพอใจ
“ผู้อำนวยการ คุณไปหมู่บ้านภูล่านไม่ถึงสามอาทิตย์เลยนะ”
“ดีมากๆ ต่อไปยัยคางแหลมคนนั้นก็ไม่ต้องสั่งให้แกทำโน่นนี่แล้วสินะ”
อันซีหันไปกระซิบถามยิ่วเชียน
“ใครเหรอ”
“หย่งชิงไง คุณปู่ หย่งชิงเคยช่วยชีวิตคุณปู่นะ”
“ใช่ ไม่งั้นฉันลากเขาไปเรียนมารยาทแล้ว”
ต้าอี๋หัวเราะ ยิ่วเชียนขำๆ สักครู่ อันซีมองต้าอี๋แล้วทัก
“เอ๊ะ”
“มีอะไรครับ”
“เสื้อของคุณขาด รีบถอดมาเลยฉันช่วยเย็บให้”
ต้าอี๋มองหน้ายิ่วเชียน จะให้เขาทำอย่างไรดี
“รีบถอดออกมาสิ” อันซีเร่ง
ต้าอี๋ต้องยอมถอด ยิ่วเชียนกระแอม ต้าอี๋ชะงัก ก่อนส่งเสื้อให้อันซี
“รบกวนด้วยครับ”
อันซีรับเสื้อไปเย็บอย่างคล่องแคล่ว ไป๋คังมองอย่างพอใจ ต้าอี๋ซาบซึ้งมาก
“นี่คือสูทที่แม่ผมซื้อให้ตัวแรก ฉลองที่ผมหางานได้แล้ว”
“ไม่บอกแต่แรก ถ้ารู้ฉันจะได้เย็บให้ละเอียดหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ”
ยิ่วเชียนมองอย่างเป็นห่วง
“อันซี ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวจะโดนมือ”
“ค่ะ”
“ก็ไม่ใช่เสื้อสูทราคาแพงอะไร แต่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่แม่ผมซื้อให้ ตอนแรกท่านบอกว่าจะไปซื้อที่ตลาด ซื้อสูทราคาถูกๆ แต่ว่าสุดท้าย ท่านก็ไปซื้อที่ร้านตัดสูทโดยเฉพาะ”
“ยิ่วเชียน หลานควรดูแลผู้ช่วยของหลานบ้างนะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผู้อำนวยการดีกับผมมากแล้ว ผมการศึกษาไม่สูง เป็นคนในชนบท แถมยังซุ่มซ่าม เข้ากับใครก็ไม่ค่อยได้ เอ่อ ผู้อำนวยการเลือกผมเป็นผู้ช่วย แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วครับ”
“เห็นมั้ยล่ะ ยิ่วเชียนของเราเป็นคนดีมาก”
อันซีชื่นชม ยิ่วเชียนยิ้มให้
“ฉันว่ายิ่วเชียนคงถูกชะตากับเจ้าหมอนี่ นึกถึงภาพตัวเองในอดีตไงล่ะ เพราะตอนนั้นยิ่วเชียน”
ยิ่วเชียนอึ้งๆ ก่อนปรามไป๋คัง
“คุณปู่”
“หะ”
“อย่าพูดถึงเรื่องอดีตเลยครับ”
“อ้อ ได้ๆๆ ไม่พูดๆ ไม่พูดๆ”
อันซีเย็บเสร็จพอดี
“เสร็จแล้ว มาค่ะ”
ต้าอี๋เกรงๆ ยิ่วเชียนจ้องต้าอี๋หึงๆ
“หันไปสิ”
อันซีสวมเสื้อให้ต้าอี๋ ต้าอี๋แอบมองยิ่วเชียนนิดหนึ่ง
“ว้าว คุณเก่งเหมือนแม่ผมเลย”
อันซีเข้าไปจัดเสื้อให้เข้าที่
“ขอบคุณครับ”
ยิ่วเชียนทนไม่ได้รีบขัด
“เอาล่ะ นายกลับได้แล้ว”
“อ้อ จริงด้วย ทำไมผมยังอยู่ต่อล่ะ เอ่อ ผู้อำนวยการ คุณปู่ แฟนผู้อำนวยการ”
“เรียกฉันว่าอันซีก็ได้”
ยิ่วเชียนอึ้ง ที่อันซีให้ทุกคนเรียกอย่างสนิทสนม
“ได้ครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับ”
ยิ่วเชียนลุกขึ้นทันที
“ฉันไปส่งนาย”
ยิ่วเชียนเดินกอดไหล่ต้าอี๋ไปที่ประตู
“ผู้อำนวยการ ตั้งแต่มีแฟน คุณเปลี่ยนไปมาก เป็นครั้งแรกเลยที่คุณมาส่งผม”
ยิ่วเชียนทำเป็นยิ้มๆ เพื่อไม่ให้อันซีสงสัย แล้วแอบกระซิบต้าอี๋
“นายห้ามเรียกอันซีเด็ดขาด นอกจากนี้ อย่าเห็นว่าเธอเป็นคนกันเอง และคิดเข้าหาเธอก่อนนะ”
“ครับ”
ยิ่วเชียนรีบเปิดประตูให้
“ลาก่อนโชคดี ฝันดีนะ”
ยิ่วเชียนหันมายิ้มให้อันซีเหมือนไม่มีอะไร หญิงสาวชื่นชม
“คุณเป็นกันเองมาก แม้แต่ผู้ช่วยก็เป็นกันเอง”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ รู้ว่าไม่เป็นอย่างนั้นเสียทีเดียว
จื้อหลิงกับเหม่ยเหวินช่วยกันจัดหนังสือในห้องอาหาร
“เหม่ยเหวิน”
“หืม”
“เธอว่าอันซีไปไทเป คุณเซี่ยจะพาเขาไปกินอาหารชั้นเลิศมั้ย”
“น่าจะมั้ง”
“งั้น เธอทายสิว่า ครั้งนี้ คุณเซี่ยจะพาอันซีไปช็อปปิ้งเสื้อผ้าแบรนด์เนมในห้างดังมั้ย”
“ไม่แน่นะ”
“อ้อ งั้น เธอทายสิว่า”
“เธอทายสิว่าฉันต้องตอบคำถามเธอไปถึงเมื่อไหร่”
“ตอนนี้”
“ฉลาดแล้วนี่นา ตั้งใจทำงานหน่อยดีมั้ย”
ระหว่างนั้นเยี่ยนเจ๋อเดินเข้ามาในบ้าน จื้อหลิงเห็นดีใจ
“เยี่ยนเจ๋อกลับมาแล้วเหรอ”
“ใช่”
“เอ๊ะ” เหม่ยเหวินแปลกใจ
“ผมขอแนะนำแฟนใหม่ของผมให้ทุกคนรู้จัก”
“แฟนใหม่เหรอ”
เหม่ยเหวินกับจื้อหลิงพูดพร้อมกันอย่างแปลกใจ หยาเอินหลบอยู่ข้างหลังเยี่ยนเจ๋อชะโงกหน้าออกมา ทำท่าน่ารัก สองสาวเห็นหยาเอินก็ขำ
“เอ่อ หยาเอิน”
หยาเอินพลอยขำไปด้วย
อ่านต่อตอนที่ 17