xs
xsm
sm
md
lg

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 2

เมื่ออันซี หยาลู่ และเหม่ยเหวิน เห็นว่าเงินรางวัลมีจำนวนถึง 1 แสน ต่างก็พากันดีใจมาก หยาลู่ร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เรารอดแล้ว”
“รอดแล้ว” อันซีทวนคำเพื่อนอย่างดีใจ
“งั้นเราก็รอดอีกหนึ่งเดือน ฮิๆๆ” เหม่ยเหวินดี๊ด๊า
“แต่จะประกวดพรุ่งนี้แล้วนะ” อันซีทักท้วง
หยาลู่นึกได้ “ก็แสดงว่าการลงทะเบียนผ่านไปแล้ว เฮ้อ”
“แล้วไงล่ะพวกเธอใช้สมองคิดหน่อยสิ เราสนิทกับผู้ใหญ่บ้านมั้ย” เหม่ยเหวินถาม
“สนิท” หยาลู่ตอบทันควัน
“สนิทมากด้วย แค่วานให้เขาช่วยเราก็ได้แล้วนี่”
“แต่ว่าผู้ใหญ่บ้าน” อันซีท้วงอีก
เหม่ยเหวินไม่พอใจ “โธ่เอ๊ยเวลานี้แล้วเธอยังมาแต่ผู้ใหญ่บ้านอะไรอีก หรือว่าเธอจะไปกับเจียนไห่โค่”
“อย่าๆ” หยาลู่รีบห้าม
“ไปหาผู้ใหญ่บ้าน”
อันซีตัดสินใจ เหว่ยเหวินกับหยาลู่แปะมือกันว่างานสำเร็จ

คืนนั้นยิ่วเชียนนั่งนึกถึงเรื่องระหว่างเขากับอันซีที่เกิดขึ้นที่สระน้ำ
“เธอราคาถูกขนาดนี้เชียวเหรอ”
ยิ่วเซียนนึกถึงเรื่องในอดีตสมัยเขากับอันซีเป็นนักเรียน
“นายมีตาหรือเปล่าเนี่ย ไม่รู้จักมองคนเลย นายทำแบบนี้ไม่ถูกนะ โง่จริงๆ มีตาแต่ไม่รู้จักมองคนให้เป็น สมน้ำหน้า”
ยิ่วเชียนได้แต่ถอนใจ

ต้าหูและเสี่ยวหูรออันซีมาที่ห้องของโรงแรมตามที่นัดกับไห่โค่ ทั้งสองจวนจะหลับอยู่รอมร่อ ในขณะที่ไห่โค่นั่งนิ่ง เงียบ
“นี่มันเวลาอาหารมื้อดึกแล้วนะ” ต้าหูท้วง
“หรือว่าลูกพี่จะเอากาแฟอีกแก้วมั้ย” เสี่ยวหูเอาใจ
“ลูกพี่ ตู”
“ตู่ตูตูตู ตู ตู่ ตู่ตูตูตู ตู ตู่” เสี่ยวหูร้องเพลง
ไห่โค่หันมามองลูกน้องอย่างตำหนิ
“ตูอีกสิ พูดตูอีกสิ ตู”
ไห่โค่จะหันไปตบลูกน้อง ทั้งสองหลบอย่างว่องไว
“ทำไมเธอต้องทำอย่างนี้กับฉันด้วย ทำไมต้องบังคับฉัน ความจริงใจแลกความว่างเปล่าจริงๆ”
ไห่โค่ลุกเดินจากโต๊ะอาหารขากะเผลกๆ ออกไป เสี่ยวหูงงๆ หันมาถามต้าหู
“ลูกพี่เป็นอะไร”
“ขาชาน่ะสิยังจะถามอีก กลับ”
ทั้งสองเดินตามไห่โค่ออกไปอย่างเห็นใจ

อันซีฝึกทำอาหารอย่างจริงจังเพื่อการประกวด หยาเอินเพื่อนอีกคนของอันซี ซึ่งมีบุคลิกอ่อนแอ เดินเข้ามามองอย่างเป็นห่วง เห็นอันซีตั้งใจทำอาหารอย่างขะมักเขม้น จึงเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้ เพราะไม่อยากรบกวน แล้วเดินออกไป
อันซีทำอาหารเสร็จหันมาเห็นโน้ต
“อันซี อย่าหักโหมเกินไป พักผ่อนบ้างนะ พกปลาโชคดีของเธอไว้ด้วยล่ะ พรุ่งนี้สู้ๆ นะ”
อันซียิ้มมีกำลังใจ หันไปฝึกทำอาหารต่อ

เช้าวันแข่งขัน พวกอันซีไปยืนประจำที่ในฐานะผู้เข้าประกวดทำอาหาร ผู้ใหญ่บ้านขึ้นกล่าวบนเวที
“ดีมาก วันนี้ เป็นการประกวดครั้งยิ่งใหญ่ของหมู่บ้านภูล่าน เดิมที ฉันแค่อยากทำให้หมู่บ้านของเราคึกคัก เลือกตัวแทนสินค้าโอทอป ทำให้คนภายนอกรู้จักสินค้าของเรา เพราะคิดถึงหมู่บ้านภูล่านของเรา แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เราจะได้สปอนเซอร์รายใหญ่ ดังนั้น ตอนนี้ เราขอต้อนรับสปอนเซอร์และในขณะเดียวกันก็เป็นกรรมการการประกวดครั้งนี้ ที่ให้การสนับสนุนหมู่บ้านของเรา นั่นก็คือ ผู้อำนวยการเซี่ยจากบริษัทโอเชี่ยน”
ทุกคนต่างปรบมือให้ พลางพูดขานตำแหน่งนั้นพร้อมๆ กัน
“ผู้อำนวยการเซี่ยๆๆ”
ยิ่วเชียนเดินยิ้มออกมาจากด้านหลัง เขาหันไปเห็นอันซีมาเข้าประกวดด้วยก็ตกใจ อันซีเองก็คาดไม่ถึงว่าจะเจอหนุ่มโรคจิตอีกครั้งในฐานะสปอนเซอร์รายใหญ่และกรรมการตัดสิน ทั้งสองสบตากันอย่างอึ้งๆ ยิ่วเชียนเดินไปนั่งประจำที่ร่วมกับกรรมการคนอื่น ผู้ใหญ่บ้านรีบกล่าวต้อนรับ
“เราขอต้อนรับผู้อำนวยการเซี่ยจากบริษัทโอเชี่ยน”
“โอ้ หน้าเด็กมากเลย” เหม่ยเหวินออุทานเบาๆ
“ดังนั้น เพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้อำนวยการเซี่ย เงินรางวัลของเราเลยเพิ่มขึ้นจากเดิม และมากถึงหนึ่งแสนหยวน”
อันซีไม่อาจสู้หน้ายิ่วเชียนได้หันหลังจะเดินหนี เหม่ยเหวินแปลกใจ
“เอ๊ะอันซี การแข่งขันจะเริ่มแล้วเธอจะไปไหน จะให้เราเตรียมอะไรอีกมั้ย อาหารทะเลจะให้เอาออกมาเลยมั้ย”
“จริงด้วย” จื้อหลิงย้ำถาม
อันซียังยืนอึ้ง ในขณะที่ยิ่วเชียนก็มองหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปาก อันซีนึกถึงเรื่องที่สระน้ำในโรงแรมเมื่อวาน
“ไอ้โรคจิต นายทำร้ายฉัน รังแกฉันแล้วยังแตะต้องตัวฉัน”
“ยัยบ้าเธอทำอะไร”
“ไอ้โรคจิต ฉันจะบอกนายนะ ต่อไปถ้ากระถางตกใส่นายฉันนี่แหละเป็นคนทำ”
“ฉันไม่สงสัยแม้แต่นิดเดียว”
“นาย”
“เธอ คือผู้หญิงประเภทที่ฉันรังเกียจที่สุด”
นึกมาถึงตรงนี้ อันซีก็ยิ่งทำหน้าไม่ถูก

การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้น ผู้ใหญ่บ้านป่าวประกาศผ่านไมโครโฟนเสียงดัง
“ตอนนี้ ขอต้อนรับดอกไม้ปลาแห้งกลุ่มแรกของเราจากคุณปู่เกา”
ทุกคนต่างปรบมือ ปู่เก่านำทีมไปยืนตรงกลางพร้อมปลาแห้งที่นำมาประกวด แล้วกล่าวขึ้น
“สวัสดีครับ ท่านคณะกรรมการ และแขกทุกท่าน วันนี้ผมไม่เพียงแต่นำเสนอปลาแห้ง ผมยังมีเพลงที่แต่งเพื่อปลาแห้งของผมด้วย ผมขอร้องให้ทุกคนฟัง ณ บัดนี้ ขายปลาแห้ง ทั้งหอมหวานและกรอบ ปลาแห้งน้อย รีบมาซื้อปลาแห้งน้อย ปลาแห้งน้อย”
กรรมการต่างทำหน้าปูเลี่ยนๆ กับเสียงร้องเพลงของปู่เกา ผู้ใหญ่บ้านเหลือบไปมองหน้ายิ่วเชียนแว่บหนึ่งกลัวจะรำคาญ แล้วเธอก็ตัดบทปรบมือพูดเสียงดัง
“ดี ร้องได้ดีมาก ปรบมือๆ”
“ขอบคุณครับๆ”
กรรมการคนหนึ่งถามขึ้น “ผมขอถามอะไรหน่อย จะขายปลาแห้งก็ขายไปสิ ทำไมลุงต้องพาผู้หญิงสองคนออกมาด้วย”
ลุงหน้าเสีย อึกอัก มองหน้าหญิงสาวข้างๆ ยิ่วเชียนมองอย่างเห็นใจ ก่อนช่วยพูด
“พวกเธอเป็นหลานลุงใช่มั้ย แค่เห็นผมก็รู้แล้ว”
ลุงยิ้มพอใจในคำพูดของยิ่วเซียน แต่กรรมการคนนั้นก็ยังถามต่อ
“แล้วยังไงล่ะ ประเด็นคือ พวกเขาสามารถนำเสนอจุดเด่นของปลาแห้งได้มั้ยล่ะ”
ยิ่วเชียนรีบตอบแทน “กรรมการชิมไม่รู้รสเหรอ ว่าในปลาแห้งมีถั่วลิสงหอมด้วย”
อันซีมองยิ่วเชียนอย่างแปลกใจ ผู้ใหญ่บ้านก็งงๆ รีบเอาจานปลาแห้งมาดมดู หญิงสาวข้างๆ ปู่เการีบอธิบาย
“ใช่ค่ะ เราช่วยคุณปู่คัดถั่วลิสงออกมาทีละเม็ดเลยค่ะ”
“อีกอย่าง คุณปู่คัดถั่วลิสงที่อร่อยที่สุดในหมู่บ้านของเราเลยล่ะ”
“อร่อยค่ะอร่อย ปรบมือหน่อยเร็ว”
ผู้ใหญ่บ้านชวนทุกคนปรบมือ กรรมการคนเดิมรีบเชิญกลุ่มต่อไปทันที
“เชิญกลุ่มต่อไป”

เด็กชายผู้เข้าประกวด อธิบายถึงสิ่งที่เขานำมาประกวดให้กรรมการทุกคนฟัง
“นี่คือเปลือยหอยที่แม่ผมทำด้วยมือเพราะอยากนำเสนอเปลือยหอยที่สวยที่สุดของหมู่บ้านให้ทุกคนรู้จัก”
“ขอบคุณมาก”
ยิ่วเชียนรับของมา พลางมองที่เล็บของแม่เด็กชายคนนั้น แล้วคิด
“เล็บฉีกขาด ขาดสารอาหาร ไม่สวมแหวนด้วย เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสินะ”
แม่ของเด็กเห็นยิ่วเชียนมองก็พยายามหลบเล็บมือของตัวเอง กรรมการคนเดิมถามขึ้น
“เธอสามารถบอกได้มั้ยว่า เปลือยหอยของเธอ มีจุดเด่นตรงไหนที่น่าสนใจบ้าง”
ทั้งเด็กและแม่ต่างอึกอัก ด้วยเป็นชาวบ้านไม่คุ้นเคยกับการพูดแบบนี้ ยิ่วเชียนรีบตอบแทน
“สร้อยข้อมือนี่ไม่เหมือนที่อื่น ช่วยเอาแม่เหล็กมาหน่อย”
เจ้าหน้าที่นำแม่เหล็กมาให้ยิ่วเชียน อันซีมองว่าเขาจะทำอะไร แล้วยิ่วเชียนก็พูดต่อ
“แร่เหล็ก เป็นสินค้าเด่นของหมู่บ้าน มีเพียงเปลือยหอยของที่นี่ที่มีแร่เหล็กได้ สร้อยข้อมือนี้จึงมีสิทธิ์มีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้”
แม่เด็กซึ้งใจ
“ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ”
ผู้ใหญ่บ้านรีบปรบมือกล่าวชื่นชม
“ดี แร่เหล็กเป็นตัวแทนของหมู่บ้านภูล่านของเรา ขอขอบคุณเปลือยหอยจากกลุ่มสองทุกคน ช่วยปรบมืออีกครั้งค่ะ”
ทุกคนปรบมือ จื้อหลิงหันไปกระซิบกับเหม่ยเหวิน
“ผู้ชายคนนั้นเป็นผีเหรอทำไมเขารู้ทุกอย่างเลย”
“นั่นสิ ทำไมเขาถึงได้รู้จักหมู่บ้านของเราอย่างดี แม้แต่แร่เหล็กก็ยังรู้”
อันซีฟังเพื่อนแล้วหันไปมองยิ่วเซียนอย่างพิจารณาอีกครั้ง พลางคิด
“ที่จริงเขาไม่ได้เลว ทำไมฉันต้องกลัวเขาด้วยล่ะ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่โกรธก็ได้”
เหม่ยเหวินงง “หะ ใครโกรธอะไรเหรอ”
“ไม่มีอะไร”
“อ้อ”
กลุ่มต่อมาเป็นชายมีอายุ พยายามแนะนำสินค้าของตัวเอง
“ฉันได้ตั้งชื่อสินค้าชิ้นนี้แล้วเป็นชื่อที่พิเศษมากด้วย”
ผู้ใหญ่บ้านสนใจ “โอ้ว ชื่อว่าอะไรล่ะ”
“เป็นชื่อที่แสดงถึงความรัก ชื่อ ค่ำคืนแห่งเซ็กซ์ไงล่ะ”
ชายแก่หัวเราะ กลุ่มคนดูต่างหัวเราะไปด้วย แม่คนหนึ่งเอามือปิดหูลูกชายไม่ให้ฟัง หญิงที่มาร่วมทีมกับชายแก่พยายามแก้ตัว
“เอ่อ ไม่ใช่ค่ะๆ เป็น เป็นความรักก็จริง แต่คืนแห่งเซ็กซ์ไม่ใช่ค่ะ”
ผู้คนพากันหัวเราะ หญิงคนนั้นอธิบายต่อ
“ไม่ใช่นะคะ เอ่อ ทุกคนดูรูปหัวใจนี่สิ มันเป็นตัวแทนของความรัก ฉะนั้นจึงเรียกมันว่าคืนแห่งเซ็กซ์”
ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะ “ถูกแล้วๆ”
ป้าเขินอาย ลุงแก่เข้าไปหยอกล้อทำท่าจะจูบ ทำให้บรรยากาศครึกครื้น ยิ่วเชียนยิ้มๆ อันซียิ้มแล้วลอบมองชายหนุ่ม ยิ่วเชียนหันมามองสบตา หญิงสาวจึงต้องหลบตาไปอย่างครุ่นคิด ผู้ใหญ่บ้านพูดขึ้น
“ขอบคุณลุงจิงวากับป้าจิงวา ที่นำเสนออาหารพิเศษให้เราทุกคนรู้จักค่ะ ปรบมือหน่อยค่ะ”
กลุ่มของอันซีเริ่มตื่นเต้น
“ใกล้จะถึงกลุ่มของเราแล้ว” เหม่ยเหวินสั่นๆ
“ตื่นเต้นจังเลย เรากลับไปดีมั้ย” จื้อหลิงเริ่มกลัว
“อย่าตื่นเต้นๆ” เหม่ยเหวินปลอบ
อันซีสวนขึ้น “ไม่สนแล้วว่าจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว ต้องสู้เท่านั้น”
“อย่าตื่นเต้นๆ”
เหม่ยเหวินให้กำลังใจเพื่อนๆ แล้วทั้งสามก็พูดสโลแกนขึ้นพร้อมกันเพื่อเรียกกำลังใจ
“เย่จือไห่สู้สู้ๆ”

 
อ่านต่อหน้า 2

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 2 (ต่อ)

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขึ้น
“ในที่สุดก็มาถึงกลุ่มสุดท้ายแล้ว นั่นก็คือตอนจบของเรา บ้านพักตากอากาศเย่จือไห่ ได้นำเสนอปลาหมึกค่ะ”
อันซีเป็นคนพูดนำเพื่อนๆ ขึ้น
“สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคนค่ะ วันนี้เราขอแนะนำอาหารพิเศษของหมู่บ้านภูล่านให้ทุกคนรู้จัก นั่นคือปลาหมึก ในแต่ละปีของเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมเป็นฤดูวางไข่ของปลาหมึก ปลาหมึกที่สดไม่ว่าจะกินคู่กับอะไรก็เข้ากัน ดังนั้นเราจึงได้คิดค้นอาหารสูตรใหม่ชื่อว่า”
“ปลาหมึกพอดีคำ” ทั้งสามพูดพร้อมกัน
อันซีเริ่มอธิบาย ยิ่วเชียนฟังอย่างตั้งใจ
“ในหมู่บ้านมีฉันคนเดียวที่สามารถย่างปลาหมึกได้ทีเดียวจำนวนมาก และก็ย่างไม่ไหม้ด้วย”
ทุกคนปรบมือให้ อันซีพูดอธิบายอย่างฉะฉานพลางเหลือบไปมองยิ่วเชียนเป็นระยะ ก็เห็นว่าชายหนุ่มตั้งใจฟังอยู่
“ขอบคุณค่ะ และเพราะประสบการณ์การทำงานของฉัน ฉันเคยย่างปลาหมึกได้มากถึงหนึ่งร้อยตัวเลยละค่ะ”
ทุกคนปรบมือให้ อันซีสาธิตการย่างปลาหมึก ยิ่วเชียนมองอย่างตั้งใจและเกิดความสงสัย เขาเปิดแผ่นกระดาษที่ระบุการลงทะเบียนของผู้สมัครแต่ละกลุ่ม แล้วพบข้อสงสัยบางอย่าง พลางคิด
“ทำไมใบลงทะเบียนของเธอถึงเขียนด้วยมือล่ะ”
ระหว่างนั้นเหม่ยเหวินนำปลาหมึกไปให้กรรมการท่านอื่นชิม ส่วนอันซีกำลังถือมาให้ยิ่วเชียน เขาจ้องมองเธออย่างสงสัย ขณะที่อันซีนึกถึงคำที่ยิ่วเชียนเคยพูดใส่หน้าเธอ
“เธอคือผู้หญิงประเภทที่ฉันรังเกียจที่สุด”
อันซีรู้สึกประหม่า ไม่เป็นตัวของตัวเอง จึงเดินพลาดสะดุดก้อนหินเล็กๆ เท้าพลิก ทำให้จานปลาหมึกที่ถือมาตกกระจายลงพื้น ทุกคนต่างตกใจ เหม่ยเหวินอุทานเสียงหลง
“ปลาหมึกของฉัน”
ยิ่วเซียนหน้านิ่งๆ มองหญิงสาว แต่อันซียิ่งร้อนรน
“ขอโทษค่ะ ฉันจะไปเอาจานใหม่มาให้”
อันซีมองยิ่วเชียนด้วยสายตาอ้อนวอนขอโอกาส
“ได้”
“ขอบคุณค่ะ”
อันซีดีใจ รีบไปนำปลาหมึกจานใหม่มาส่งให้ยิ่วเชียนอีกครั้ง ชายหนุ่มค่อยๆ คีบปลาหมึกมาชิมท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของอันซีและเพื่อนๆ แล้วยิ่วเชียนก็ยิ้มนิดๆ ให้
“อืม อร่อย”
อันซีและเพื่อนดีใจมาก
“เฮ่อ นี่ ฉันคิดว่าคุณจะโกรธซะอีก ไม่คิดว่า คุณก็เป็นคนดีเหมือนกัน”
“งั้นเหรอ”
“อื้ม”
“งั้นดูเหมือนเธอจะมีตา แต่ไม่รู้จักมองคนนะ”
“หะ”
ยิ่วเชียนลุกขึ้นยืนแล้วประกาศต่อหน้าทุกคน
“วันนี้ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละกลุ่มน่าสนใจมาก บางกลุ่มแสดงถึงความมีน้ำใจ บางกลุ่มน่าประทับใจมาก ทำให้ผมเห็นความสวยงามของหมู่บ้านภูล่าน อีกสักครู่ ผมจะดูความคิดเห็นของเหล่าคณะกรรมการ เพื่อคัดเลือกผู้ชนะเลิศ ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจและพยายาม หลังจากตัดสินแล้ว นอกจากผู้ชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะได้รับเงินรางวัลกลุ่มละห้าหมื่นหยวน”

“ห๊ะ” อันซีฟังแล้วตกใจ

ทุกคนที่เข้าประกวดต่างตื่นเต้นดีใจรวมทั้งกลุ่มของอันซีด้วย แล้วยิ่วเชียนก็พูดต่ออีกประโยคเหมือนเป็นการดับฝัน

“ยกเว้นกลุ่มที่หก”
อันซีจ้องหน้าชายหนุ่ม พลางถาม
“เพราะอะไร”
“เพราะว่าคนอย่างเธอ ไม่มีสิทธิ์ในการแข่งขัน”
“คนอย่างฉันเหรอ คนอย่างฉันเป็นยังไงงั้นเหรอ”
“เพราะเพิ่งแทรกเข้ามา”
“แทรก” เหม่ยเหวินอุทาน
ยิ่วเชียนอธิบายต่อ
“เที่ยงเมื่อวานก่อนหมดเวลาลงทะเบียน ผมไม่เห็นใบสมัครของกลุ่มที่หก คิดจะใช้วิธีนี้ นึกว่าผมจะหลงกลเหรอ เข้าออกโรงแรมกับผู้ชาย พอเห็นเงินรางวัลสูงก็เลยอยากเข้าร่วม ไร้ยางอาย ไร้คุณธรรม และยังไม่ทำตามกฎระเบียบ ถ้าให้คุณเป็นผู้ชนะ มันไม่ยุติธรรมกับชาวบ้าน คุณว่าจริงมั้ยล่ะ”
อันซีเลิ่กลั่ก “ฉันเปล่านะ”
“อ๋อ หรือว่าผมจำผิด เท่าไหร่นะ เก้าล้านหยวนเหรอ”
กลุ่มคนฮือฮาวิพากษ์วิจารณ์ อันซีนึกถึงถ้อยคำที่เธอเคยพูดกับยิ่วเชียนที่สระน้ำ
“เพื่อเงินเก้าล้าน นายจะให้ฉันทำอะไรก็ได้”
อันซีถอนใจอย่างยอมจำนน ยิ่วเชียนนั่งลงอย่างไม่สนใจอันซีอีก อันซีมองชายหนุ่มอีกครั้งก่อนจะเดินอย่างหมดแรงออกจากงานไป เพื่อนๆ ต้องรีบวิ่งตามไป
“อันซี อันซีๆ”
“อันซีๆ”
“พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ”
“อันซี” เหม่ยเหวินเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรน่า ไม่เป็นไร”
“เอ่อ”
อันซีเดินผละจากเพื่อนๆ ไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก สยายผมที่รวบมัดไว้ออก แล้วเดินออกไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะหยุดลงตรงสะพาน ถอนใจอย่างเครียดๆ กับหนี้สินของตัวเอง เธอเดินไล่หยิบก้อนหินแถวนั้นไปเรื่อยๆ
“หนึ่งหมื่น สองหมื่น สามหมื่น ถ้าเงินหาง่ายอย่างนี้ก็คงจะดี”
อันซีพยายามปลดปล่อยความเครียดด้วยการปาก้อนหินที่เก็บได้ออกไป แต่ต้องตกใจเมื่อก้อนหินไปถูกรถยนต์ที่วิ่งมาตามถนน เธอตกใจมาก รถคันนั้นจอดลงทันที
“หะ เฮ่อ โอ้แม่เจ้าโดนตรงไหนหรือเปล่าเนี่ย ถ้ารถเสียหายฉันไม่มีปัญญาชดใช้นะ ตอนนี้ก็เป็นหนี้เก้าล้านแล้ว”
อันซีรีบเดินเข้ามาดูความเสียหายของรถคู่กรณี ยิ่วเชียนเปิดประตูออกมาจากรถ อันซีเห็นโกรธทันที ทั้งสองชี้หน้าเพื่อขอให้อีกฝ่ายชดใช้ ยิ่วเชียนถามงงๆ
“ฉันต้องชดใช้อะไรให้เธอ”
“ทำลายชื่อเสียงของฉัน เมื่อกี้คุณตำหนิฉันท่ามกลางสาธารณชน ว่าเข้าโรงแรมเพื่อเงินเก้าล้าน คำพูดเหล่านี้จะพูดเหลวไหลไม่ได้นะ ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ถ้าทุกคนเชื่อสิ่งที่คุณพูด ต่อไปฉันจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ยังไง”
“เธอจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงเหรอ”
“ใช่”
“มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ฉันได้ยินมากับหูว่าเธอเข้าโรงแรม เรื่องเงินเก้าล้านฉันก็ได้ยินมากับหู ให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยเข้าร่วมการแข่งขันหลักฐานก็ชัดเจน สิ่งที่ควรทำก็ทำแล้ว มีอะไรต้องเสแสร้งอีกล่ะ”
“ดี ในเมื่อคุณคิดว่าฉันเสแสร้ง ทำไมคุณไม่ตัดสิทธิ์ฉันแต่แรก ทำไมต้องให้ฉันแข่งขัน คุณรู้มั้ยว่าฉันเตรียมตัวเพื่อการแข่งขันครั้งนี้หนักมาก ทำไมคุณต้องให้ความหวังสุดท้ายแล้วก็ทำให้ผิดหวัง”
“แล้วเธอ ไม่เคยให้ความหวังคนอื่น สุดท้ายก็ทำให้คนอื่นผิดหวังเหรอ”
“เกี่ยวอะไรกับการแข่งขันด้วย”
“ถ้ากลัวจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่ได้ ทำไมไม่ใช้ชีวิตให้ดีตั้งแต่แรกล่ะ ดูสภาพของเธอตอนนี้สิว่าเหมือนตัวอะไร”
ยิ่วเชียนเดินไปเปิดประตูขึ้นรถทันที อันซีรีบตามไป
“นี่ ใช้ชีวิตให้ดีเหรอ ใครไม่อยากมีชีวิตที่ดีเล่า เพราะฉันอยากมีชีวิตที่ดี เลยเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้”
ยิ่วเชียนปิดประตูใส่แล้วขับรถออกไปโดยไม่แยแส
อันซีโมโหระคนน้อยใจ ขว้างก้อนหินไล่หลัง
“ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น คุณมันโหดร้ายสิ้นดีเลย หนึ่งหมื่น เอาไปเลยไอ้บ้า”

เพื่อนๆ อันซีกลับมาที่หอพัก ต่างนั่งเศร้า เครียด เหม่ยเหวินทนต่อความเงียบงันไม่ได้ จึงพูดขึ้น
“เอาน่าๆ เงินรางวัลหายไปแล้ว พวกเราหาใหม่ก็ได้นี่ เอาล่ะทุกคน อย่าทำหน้าอย่างนี้สิ ฤดูร้อนมาแล้วนะ ทำใจให้เบิกบานหน่อยสิ”
หยาเอินเห็นด้วย “ใช่ สิ่งเดียวที่เราช่วยอันซีได้ตอนนี้คือ ต้อนรับแขกที่มาให้ดี”
เหม่ยเหวินพยายามเรียกกำลังใจจากเพื่อน
“เอาล่ะ สโลแกน”
“เย่จือไห่ สู้ๆๆ”
ระหว่างนั้นหยาลู่เห็นนักท่องเที่ยวชายหญิงลงมาจากห้องพักเลยเข้าไปคุยด้วย
“สวัสดีตอนบ่ายครับ”
เหม่ยเหวินรีบเข้าไปช่วยพูด
“สวัสดีตอนบ่ายค่ะ หลับสบายดีมั้ยคะ แต่งตัวอย่างนี้จะไปชายหาดใช่มั้ยคะ ฉันจะบอกให้ค่ะ ร่มที่ชายหาดเป็นหุ้นส่วนกับบ้านพักของเราด้วยนะคะ”
“ใช่ค่ะ เอานามบัตรเราไปจะมีส่วนลดพิเศษให้ค่ะ” จื้อหลิงรีบบอก
“ส่วนลด จะบอกเส้นทางให้ค่ะ ตามฉันมา พวกคุณเดินไปทางนี้แล้วจะได้กลิ่นของน้ำทะเล” เหม่ยเหวินอธิบาย
“ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะคะ” จื้อหลิงบอกกับลูกค้า
“ระวังความปลอดภัยด้วยนะครับ” หยาลู่เตือน
“อย่าลืมไปนั่งที่ร่ม ทาครีมกันแดดด้วยนะคะ” เหม่ยเหวินบอกต่อ
“ยินดีต้อนรับค่ะ” จื้อหลิงโปรยยิ้ม
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินคล้อยหลังไป ผู้ใหญ่บ้านก็เดินเข้ามาหากลุ่มของเหม่ยเหวิน
“ผู้ใหญ่บ้าน”
“เอ๊ะ ผู้ใหญ่บ้านมาได้ไง” หยาลู่แปลกใจ
“ฉันมาดูว่าอันซีเป็นไงบ้าง”
“อันซียังไม่กลับมา” หยาลู่บอกอย่างเป็นห่วง
“เฮ้อ ยังไม่กลับมาเหรอ”
ระหว่างนั้น หยาลู่เห็นอันซีเดินเข้ามาที่บ้าน
“อันซี”
“โธ่เอ๊ยต้องโทษไอ้โรคจิตนั่นที่มาหาเรื่องอันซี ฉันว่า...”
จื้อหลิงพยายามจะพูด แต่หยาลู่สวนขึ้น
“อันซี โรคจิตที่ไหนเหรอ”
“หนึ่งในคณะกรรมการ คนที่ตกในสระว่ายน้ำกับฉันวันนั้น คนที่หาเรื่องฉันไง”
“เขาเหรอ”
ผู้ใหญ่บ้านแปลกใจ
“เอ๊ะ เธอบอกว่าผู้อำนวยการเซี่ย เกลียดเธอก่อนจะแข่งขันแล้วงั้นเหรอ”
“ใช่ ไม่รู้ฉันไปทำอะไรให้เขา ถึงได้ชอบหาเรื่องฉันตลอด”
“งั้น แล้วบ้านพักล่ะ” หยาเอินถามขึ้น

 
อ่านต่อหน้า 3

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 2 (ต่อ)

ระหว่างนั้นทุกคนได้ยินเสียงรถไถแล่นเข้ามาในบ้าน ต่างพากันตื่นตกใจ
“หะ บ้านพักของเราจะถูกรื้อแล้ว” เหม่ยเหวินอุทาน
“เฮ้ย”
อันซีตกใจ รีบวิ่งออกไป เมื่อเห็นไห่โค่กับลูกน้องอยู่บนรถ เธอตะโกนลั่น พลางเข้าไปยืนขวาง
“เจียนไห่โค่ หยุดรถ หยุดรถ”
ไห่โค่เห็นอย่างนั้นรีบเข้าไปขวางหน้าอันซี แล้วสั่งให้ลูกน้องหยุดรถ
“อันซี เธอเจ็บตรงไหนมั้ย”
หยาลู่ถามอย่างเป็นห่วง อันซีหันไปตะคอกใส่ไห่โค่
“เฮ่อ เจียนไห่โค่”
“อันตูตู ทำให้เธอตกใจหรือเปล่า”
เหม่ยเหวินทนไม่ไหว รีบแซงพูด
“แกไปให้พ้นเลย กล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้เรอะ แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า”
“ใครใจร้ายกับฉันก่อน เมื่อคืนฉันรอเธอทั้งคืน แค่อยากกินข้าวมื้อเย็นกับเธอให้อร่อย แล้วสุดท้ายล่ะ ความจริงใจแลกความว่างเปล่า เธอไม่รู้สึกเหรอว่าในหมู่บ้าน เราสองคนเหมาะสมกันที่สุด”
ผู้ใหญ่บ้านทนไม่ไหว “เพราะเรื่องแค่นี้ แกถึงกับต้องขับรถไถมารื้อบ้านเชียวเหรอ มันไม่มากไปหน่อยเหรอ”
“คุณมายุ่งอะไรด้วย” เสี่ยวหูต่อว่าผู้ใหญ่บ้าน
“ผู้ใหญ่มาได้จังหวะเลย ดูซะ การลงโทษเขียนไว้ในสัญญาเรียบร้อยแล้ว เธอเป็นหนี้ฉัน ฉันรอให้เธอใช้คืน ฉันรอมาตลอด รอแล้วก็รอ ได้แต่รอๆๆๆ รอจนหมดความอดทนแล้ว”
อันซีดูใบสัญญา
“แล้วนายต้องการอะไร”
“ฉันไม่ต้องการอะไร ฉันแค่อยากให้เธอรู้ ฉันมีสิทธิ์รื้อบ้านหลังนี้โดยชอบธรรม”
“ไม่ได้นะ”
“ไม่ได้” เหม่ยเหวินช่วยพูด
“ไม่ได้เหรอ โอเค ฉันมีทางเลือกให้เธอเลือกหนึ่งทาง อ่านสิ”
อันซีรับสัญญามาอ่าน
“พันธะสัญญาการแต่งงาน เฮ่อ อันซีต้องตัดสินใจแต่งงานภายในหนึ่งสัปดาห์ หรือเร็วกว่านั้น กับไห่โค่ที่รัก จะจัดงานแต่งงานในสถานที่โรแมนติกที่สุด และจะรักเดียวใจเดียวกับไห่โค่ที่รัก ร่วมใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข นี่มันอะไรกัน”
“ถูกต้อง ฉันต้องการให้เธอแต่งงานกับฉัน ตอนแรกฉันอยากจีบเธอด้วยความจริงใจ แล้วค่อยขอเธอแต่งงาน แต่เธอไม่ยอมให้ฉันจีบ ฉันเลยต้องข้ามขั้นตอนนี้ไป เธอต้องแต่งงานกับฉัน อันตูตู”
เหม่ยเหวินหัวเราะ “แกนี่ตลกจริงๆ อันซีจะแต่งงานกับแกได้ไง”
ต้าหูหัวเราะ “ไม่เป็นไร งั้นรถไถของลูกพี่ของเราก็จะเข้าไปรื้อบ้าน”
หยาลู่โกรธ “พวกแก”
ไห่โค่หัวเราะ “ฮ่าๆๆ เธอมีทางเลือกสองทาง หนึ่งใบอยู่ในมือฉัน อีกใบอยู่ในมือเธอ ฉันให้เวลาเธอคิดหนึ่งชั่วโมง หลังจากหนึ่งชั่วโมง ไปหาฉันที่วัด เราจะให้พระเจ้าเป็นสักขีพยานของเรา ไม่งั้น ฉันจะเอารถไถเข้าไปรื้อบ้านพักของเธอ อย่าบังคับฉันล่ะ จุ๊บๆ อันตูตู ฉันเชื่อว่าเธอฉลาดที่สุด เธอต้องเลือกทางออกที่ดีที่สุด บ๊ายบาย จำไว้ ฉันให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมง ถ้าเธอไม่ปรากฏตัวอีก ฉันอาจเป็นบ้าก็ได้”
อันซีโกรธมาก ไห่โค่กลับไป พวกเพื่อนๆ ต่างทำอะไรไม่ถูก

เหตุการณ์ในอดีต สมัยเมื่อยิ่วเชียนยังแต่งตัวเป็นเด็กเนิร์ด ผุดขึ้นมาในห้วงคิดของอันซี ตอนนั้นยิ่วเชียนเดินอ่านหนังสือไปตามทาง แล้วก็ถูกเพื่อนตามแกล้ง เอาหนังสือปาทิ้ง ตบหัวแล้วหัวเราะใส่
“นี่ ไอ้เนิร์ด”
“เดี๋ยวก่อน”
“เรียกแกไม่ได้ยินเหรอไอ้เนิร์ด นี่ๆๆ อ่านหนังสืออะไร น่าอ่านมากใช่มั้ย น่าอ่านมากนักใช่มั้ย หะ”
“แกเป็นหมาเหรอ”
“นี่ไอ้เนิร์ด ไอ้เนิร์ด อ่านหนังสือสนุกมากใช่มั้ย”
“อ่านหนังสือสนุกมากใช่มั้ย”
ระหว่างที่ยิ่วเชียนถูกนักเรียนชายรุมล้อม เขาก็เห็นอันซีแต่งชุดนักเรียนปีนข้ามรั้วออกมา ด้วยมาดเท่ๆ อันซีบอกพวกหนุ่มๆ
“นี่ มองอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ”
พวกนักเรียนชายต่างตบหัว และพูดใส่หน้ายิ่วเชียน
“นี่ แกห้ามมองผู้หญิงโรงเรียนเราอย่างนี้นะ”
“น่ามองมากเหรอ”
“มองอะไร แกมองอะไร ไม่พอใจใช่มั้ย”
อันซีเดินเข้ามาหาทั้งกลุ่ม
“ทำไมต้องรังแกเขาด้วย”
“ก็มันน่าเกลียดนี่หว่า”
“หนอนหนังสือ”
“อันซีเธอสนใจจะเตะมันหน่อยมั้ย”
“ลุกขึ้น” อันซีสั่ง
“ลุกขึ้นสิวะ”
“บอกให้แกลุกขึ้นไม่ได้ยินเรอะ ลุกขึ้น”
“ลุกขึ้น เข้าไปสิ มองหาเรื่องเหรอ”
นักเรียนชายกลุ่มนั้นกระชากยิ่วเชียนให้ลุกขึ้น แล้วผลักเขาเข้าไปตรงหน้าอันซี อันซีมองหน้าเขาแล้วเอากำปั้นทุบไปที่อกเขาเบาๆ
“นายซื่อตรงดีนี่ วิ่ง”
“หะ”
“บอกให้วิ่งไง”
อันซีฉวยโอกาสเหวี่ยงยิ่วเชียนออกไปจากกลุ่มเด็กนักเรียนชาย เพื่อให้วิ่งหนีไป พวกเพื่อนๆ ไม่พอใจ
“อันซีเธอทำอะไร”
“ไม่ทำอะไร พวกนายน่ะสิน่าเกลียด”
อันซีหันหลังแล้วกระชากข้อมือยิ่วเชียนให้วิ่งหนี กลุ่มนักเรียนชายตกใจ
“ยืนทำอะไรอยู่ตามไปสิ”
“วิ่งเร็ว”
อันซีจับข้อมือยิ่วเชียนวิ่งไปด้วยกัน ยิ่วเชียนรู้สึกประทับใจมาก

อันซีนั่งเหม่อ คิดถึงเรื่องในอดีตระหว่างเธอกับยิ่วเชียน เหม่ยเหวินเดินเข้ามานั่งด้วย พลางพูด
“เธอรู้มั้ยว่าฉันจะพูดอะไร ความจริงการใช้ชีวิตตัวเองให้ดีมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด หลายปีมานี้เธอยอมทุ่มเทเพื่อบ้านพักของเรามามากพอแล้ว ฉันรู้ว่าเธอยังรอ แต่ว่าคนที่เธอรอ เขาไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว”
“แต่ฉันรอเขาตั้งนานแล้วนะ”
“อันซี ผู้หญิงเราน่ะ มีช่วงชีวิตวัยรุ่นไม่กี่ปี การใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็เรียนหนังสือ บางคนก็แต่งงานมีลูก แต่ว่า สำหรับฉันแล้ว การรอใครสักคนเป็นเรื่องโง่มาก”
“พี่เหม่ยเหวิน”
“เธอดูฉันสิ เธอยังคิดไม่ได้เหรอ”
“ฉันรู้น่าฉันรู้ แต่ว่าฉันชอบที่นี่มาก บางครั้งฉันมักคิดว่า ที่จริงหลายปีมานี้ เขาคงมีชีวิตที่แย่ จึงไม่กล้ากลับมาหาฉัน หรือว่าวันหนึ่ง เขาอาจจะขับรถคันหรูมารับฉัน แล้วบอกฉันว่า ความพยายามหลายปีมานี้ เขาทำเพื่อฉันคนเดียว ที่เขาหายไปหลายปีเพราะทำเพื่อเรา อันซีปล่อยให้เธอรอนาน ฉันมารับเธอแล้วนะ เฮ้อ แต่ความจริงแล้ว ฉันแค่หวังลมๆ แล้งๆ แม้ว่าจะต้องรอ แต่ฉันก็มีความสุขมาก”
“อื้ม แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเธอมีพวกเราไง”
อันซีร้องไห้โผเข้ากอดเหม่ยเหวินอย่างจะหาที่พักพิง

ยิ่วเชียนกับผู้ใหญ่บ้านมอบเงินให้กับผู้เข้าแข่งขันทุกกลุ่ม ปู่เกายิ้มดีใจ
“ขอบคุณผู้อำนวยการๆ ขอบคุณๆ”
“ไม่เป็นไรครับ”
ยิ่วเชียนยิ้มรับเอาคำขอบคุณนั้น

 
อ่านต่อหน้า 4

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 2 (ต่อ)

ผู้ใหญ่บ้านยิ้มยินดีกับทุกคน พลางหันมาพูดกับยิ่วเชียน
“ยินดีด้วยนะ เอ่อ ผู้อำนวยการเซี่ย กลุ่มที่หก ไม่สามารถได้รับเงินรางวัลเหรอคะ วันนี้น่าเสียดายกลุ่มอันซีมาก เพราะปกติแล้วปลาหมึกจะได้กินเฉพาะวันเกิดของเขาเท่านั้น ไม่มีอยู่ในเมนูอาหารของบ้านพักด้วย คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะ...”
“อาหารแบบนั้น พิเศษตรงไหนเหรอ”
“เมื่อกี้คุณกินไปกี่รส”
“รสไข่เค็ม ข้าวเหนียวดำ”
“นี่ คุณลองกินหลายๆ คำก็รู้เอง เพราะปลาหมึกแต่ละคำของเธอรสชาติไม่เหมือนกัน นี่แหละตัวตนของอันซี เห็นเขาสู้ขนาดนี้ ฉันสงสารจริงๆ ฉันทนเห็นเขาแต่งงานไม่ได้หรอก”
“เขาจะแต่งงานเหรอ”
“แต่งกับเจ้าหนี้ของเขาไง”
“ก็ดีแล้วนี่ ที่เจ้าหนี้ยอมแต่งงานกับเขา”
“เอ่อ ดีตรงไหนกัน เจ้าหนี้ของเขา วันๆ ไม่ทำอะไร ตามจีบอันซีทุกวัน ถ้าอันซีต้องการมีชีวิตที่ดี คงแต่งงานกับเขาไปสิบปีแล้ว แต่เธอไม่ใช่คนแบบนั้น หนี้สินบ้านพักเป็นสิบล้านเขาก็ใช้คืนหมดแล้ว แต่ต้องมาตายเพราะเงินเก้าล้านนี้ จะว่าไปแล้ว อันซีมีนิสัยที่ดื้อรั้นมาก ตอนพ่อของเธอสร้างบ้านพักตากอากาศ หนี้สินทั้งหมดเธอรับผิดชอบคนเดียว ค่ารักษาพยาบาลของพนักงานเธอก็รับผิดชอบ ทุกครั้งที่เห็นคนอื่นลำบาก เธอก็ช่วยเหลือโดยไม่มีเงื่อนไข ออกไปทำงานหาเงินทุกวัน เปิดบ้านพักตากอากาศแล้ว แต่เธอก็ยังออกไปทำงานทุกวัน 365 วัน ไม่เคยหยุดพักผ่อน ฉันเป็นห่วงสุขภาพของเขาจริงๆ”
ยิ่วเชียนคิดถึงเรื่องที่เขาคุยกับอันซีในวันที่เธอปาก้อนหินถูกรถเขา
“ใช้ชีวิตให้ดีเหรอใครไม่อยากมีชีวิตที่ดีเล่า เพราะฉันอยากมีชีวิตที่ดีเลยเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น คุณมันโหดร้ายสิ้นดีเลย”
ยิ่วเชียนเริ่มคิดอะไรบางอย่าง

ไห่โค่มายืนรออยู่ที่วัดตามสัญญา อันซีเดินเข้ามา ต้าหูหันไปเห็น
“นี่ ลูกพี่ๆ มาแล้ว”
“ถ้าเขาใกล้เข้ามาแล้ว พวกแกนับหนึ่งถึงสาม”
“ได้”
อันซีถอนใจอย่างตัดสินใจ ก่อนเดินเข้าไปหาไห่โค่ เสี่ยวหูนับ
“หนึ่ง สอง สาม”
ไห่โค่หันไปหาอันซีทันที อันซีแทบจะหันหลังหนี ไห่โค่ไปดึงสัญญามาจากมืออันซี เธอยื้อไว้ไม่อยากจะให้
“อันตูตู ไม่ต้องตื่นเต้น ฉันก็ครั้งแรกเหมือนกัน”
ไห่โค่พาอันซีเข้าไปในวัด
“เทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์”
“รอเดี๋ยว” อันซียื้อไว้
“รอไม่ได้แล้ว ความรักของฉันไม่สามารถรอได้ ขออย่างเดียวเธออย่าห้ามฉันเลย ฉันอยากจัดงานแต่งงานที่แสนโรแมนติกให้เธอ”
ไห่โค่พิมพ์ลายนิ้วมือลงในสัญญา อันซีลังเลไม่อยากทำตาม ระหว่างนั้นหยาลู่ เหม่ยเหวินและจื้อหลิงรีบวิ่งเข้ามา แล้วตะโกนพร้อมกัน
“เราคัดค้าน”
ลูกน้องไห่โค่เข้าไปขวาง ไห่โค่รีบจับมืออันซีจะให้พิมพ์ลายนิ้วมือ อันซีฝืนไม่ยอม ไห่โค่จึงปล่อยมือ
“เร็วสิ ความรักที่โรแมนติก ต้องไม่บังคับจิตใจกัน อันตูตู เธอปั๊มเอง”
อันซีอ้ำอึ้งตัดสินใจ ทันใดนั้นยิ่วเชียนวิ่งเข้ามา ตะโกนเสียงดัง
“ฉันขอคัดค้าน”
ไห่โค่หันไปมองอย่างแปลกใจ
“นายเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาคัดค้าน นี่เป็นช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์นะ”
“ฉันมาช่วยนาย”
“ช่วยฉันเหรอ”
“ผู้หญิงอย่างเขา ไม่สมควรได้รับความรักของนาย”
“นายกล้าดียังไงมาว่าอันตูตูเป็นผู้หญิงไม่ดี”

ไห่โค่จะเข้าทำร้ายยิ่วเชียนแต่พลาดไม่สามารถทำอะไรได้ จนเซถลาเข้าไปซบอกลูกน้อง ยิ่วเชียนเดินเข้าไปหาอันซี จ้องหน้าเธอ
ไห่โค่ตั้งตัวได้ ถลาเข้าไปจะไปจัดการยิ่วเชียนอีก ยิ่วเชียนหลบได้ ไห่โค่ถลาไปอีกทางจนลูกน้องต้องเข้าไปรับตัวไว้ ไห่โค่ชูสองนิ้ววิ่งเข้าไปหมายจะจิ้มตายิ่วเชียน แต่ชะงักค้างเมื่อฟังที่ยิ่วเชียนพูด
“ถ้าตาฉันได้รับบาดเจ็บ นายติดคุกแน่ ไม่รู้ว่านายรู้หรือเปล่า ผู้หญิงคนนี้พูดกับฉันว่า แค่ฉันมีเงิน เธอจะยอมทำตามทุกอย่าง”
“นี่ ฉันเปล่านะ”
“พูดสิเธอลืมแล้วเหรอ”
อันซียอมรับ
“แน่นอนสิ อ้อ วันนั้นฉันหมายความว่า”
“จำได้แล้วเหรอ งั้นดีเลย อ่ะ เอาไป”
ยิ่วเชียนยื่นเช็คให้ แต่อันซีปัดมือทิ้ง
“ใครอยากได้เงินของคุณเล่า”
“หนึ่งแสน”
อันซีตาค้าง
“หนึ่งแสน หนึ่งแสนหยวน ตั้งแสนเชียวเหรอ”
“ผู้หญิงที่ชอบแต่เงิน ไม่ได้ชอบนาย ทำไมนายยังไปชอบเขาอีก”
ยิ่วเชียนมองหน้าไห่โค่ ไห่โค่อึ้ง อันซีจะเถียง
“นี่ คุณ”
“นายมักคิดเสมอว่า ความจริงใจแลกความว่างเปล่า ถึงนายบังคับให้เขาปั๊มลายนิ้วมือได้ แต่เขาก็ไม่รักนาย”
อันซีเอาเช็คใบนั้นยื่นใส่มือไห่โค่
“นี่ๆๆ ดอกเบี้ยหนึ่งแสน นายรีบรับไว้ก่อน ที่เหลือฉันจะรีบคืนให้ วันนี้ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน บ๊ายบาย เร็วๆ”
อันซีรีบพาเพื่อนกลับไป
ยิ่วเชียนหันมาพูดอย่างจริงจังกับไห่โค่
“และความรู้สึกแบบนั้น จะอยู่กับนายตลอดไป ดังนั้น นายคิดให้ดีแล้วกัน”

ยิ่วเชียนเดินจากไป ทิ้งให้ไห่โค่ยืนอึ้ง คิดหนักอยู่เพียงลำพัง
 
อ่านต่อตอนที่ 3
กำลังโหลดความคิดเห็น