xs
xsm
sm
md
lg

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่8

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 8

จื้อหลิงฟังเรื่องที่เหม่ยเหวินเล่าแล้วนึกสงสารอันซี โดยไม่รู้ว่ายิ่วเชียนเดินลงมาข้างล่าง แล้วยืนอึ้งฟังทั้งสองสาวคุยกัน

“โธ่เอ๊ย อันซีของเราชอบช่วยเหลือคนอื่นนี่นา”
“ใช่ อันซีชอบช่วยเหลือคนอื่นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นหยาลู่ หยาเอินหรือจะเป็นเซี่ยยิ่วเชียนที่เพิ่งรู้จัก ช่วยเหลือคนอื่นจนลืมคิดถึงตัวเองทุกครั้งเลย”
“ใช่ สมัยเรียน ฉันชอบพูดเสมอว่าอยากแต่งงานกับคนรวย เพื่อนๆ ในห้องต่างพากันหัวเราะฉัน มีเพียงอันซีที่ปกป้องฉัน ถึงฉันจะโง่แต่เขาก็ปล่อยให้ฉันเพ้อฝัน”
“ฉันก็เหมือนกัน ถ้าตอนนั้นอันซีไม่ขอร้องพ่อเขาให้ วันนี้ฉันคงไม่ได้ทำงานอย่างมีความสุขอยู่ที่นี่หรอก”
“ทำไมเซี่ยยิ่วเชียนถึงไม่เห็นความดีของอันซีนะ วันนี้ในสำนักงานผู้ใหญ่บ้าน เขาคิดว่าอันซีประจบเขาเพราะบ้านพัก เขาบอกว่าจะบริจาคบ้านพักให้กับหมู่บ้าน”
“หะ บริจาคบ้านพักงั้นเหรอ”
“เขาเป็นเจ้าหนี้นะ ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเขาจะบริจาคบ้านพักให้เป็นศูนย์รวมกิจกรรมของหมู่บ้าน”
“เซี่ยยิ่วเชียนทำเกินไปแล้ว ถ้ารู้แต่แรกจะใส่ยาระบายในอาหารให้เลย งั้นอันซีก็ทำดีเสียเปล่านะสิ ทำไมถึงได้ช่วยคนอย่างคุณเซี่ยนะ เขาต้องเหยียบหัวคนอื่นถึงได้มีวันนี้แน่ๆ ไม่ว่าทำหรือพูดอะไรไม่เคยนึกถึงจิตใจคนอื่น”
ยิ่วเชียนฟังแล้วยิ่งรู้สึกผิด
“โธ่เอ๊ย ตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านเข้าใจผิด ต่างคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงที่เอาตัวเข้าแลก เฮ้อ พระเจ้า แล้วอย่างนี้ต่อไปเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านยังไงล่ะ”
“โธ่เอ๊ย เราสองคนตกงานเรื่องเล็ก แต่บ้านพักสำคัญสำหรับอันซีมากนะ”
“จึ๊”
จื้อหลิงมองไปเห็นยิ่วเชียนยืนอยู่ เหม่ยเหวินมองตาม พลางบอก
“คุณวางไว้ตรงนั้นแหละเดี๋ยวเราล้างเอง”
ยิ่วเชียนเดินถือถาดอาหารมาวาง
“นี่เป็น”
“คุณมองคนเก่งไม่ใช่เหรอ มองไม่ออกเหรอว่าเป็นของอันซี”
“เขา”
ยิ่วเชียนจะพูดอะไรต่อแต่ไม่ยอมพูด จื้อหลิงมองหน้าชายหนุ่มอย่างผิดหวัง งอนๆ ยิ่วเชียนเดินไปหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งมาอ่าน จื้อหลิงแปลกใจกระซิบกับเหม่ยเหวิน
“เขาจะทำอะไร”
“ทำอะไรก็ช่างเขาสิ คุณเซี่ย คุณชอบอ่านนิตยสารสำหรับแม่เหรอ”
ยิ่วเชียนเพิ่งรู้ตัวว่าเขาหยิบนิตยสารพวกแม่และเด็กขึ้นมาอ่าน หน้าเจื่อนๆ ไปก่อนจะก้มลงเก็บ แล้วหยิบเล่มอื่นมาทำเป็นอ่าน จื้อหลิงมองอย่างรำคาญ ตัดสินใจถาม
“คุณอยากรู้ว่าอันซีเป็นอะไรใช่มั้ย”
ยิ่วเชียนอึ้งๆ เก็บหนังสือแล้วจะเดินออกไป จื้อหลิงพูดต่อ
“อันซีไม่อยู่ เลยยังไม่ได้กินข้าว”

อันซีมาที่สำนักงานผู้ใหญ่บ้าน เก็บข้าวของที่เขาปาใส่ยิ่วเชียนจนเกลื่อนห้อง มองชุดนางฟ้าด้วยความเศร้า เสียใจ ที่ความตั้งใจทำดีของเธอกลับถูกแปลเจตนาเป็นอย่างอื่น ผู้ใหญ่บ้านเดินเข้ามาจับไหล่อันซีปลอบใจ และให้กำลังใจ อันซีอดน้ำตารื้นไม่ได้ เธอโค้งขอบคุณก่อนจะเดินออกไป

ยิ่วเชียนนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟา จื้อหลิงเล่าเรื่องของอันซีให้ฟัง
“รู้จักอันซีตั้งแต่มัธยม ฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นอย่างนี้มาก่อน วันนี้อันซีทำให้ฉันกลัวมาก”
เหม่ยเหวินเดินถือจานขนมมาวาง ไม่พูดไม่จา จื้อหลิงหันไปถาม
“เหม่ยเหวิน เธอเคยเห็นอันซีเป็นอย่างนี้มั้ย”
“แต่ตอนที่เขาเรียน ม.6 เขา” เหม่ยเหวินหันไปมองหน้ายิ่วเชียนแล้วหยุดเล่า
“ตอนเขาอยู่ ม.6 มีอะไรเหรอ” จื้อหลิงอยากรู้
“ตอนเขาเรียน ม.6 ก็เคยสติแตกอย่างนี้ครั้งหนึ่ง ดูเหมือนวันนั้นจะเป็นวันเกิดเขา แต่ว่าตอนนั้นฉันไม่ได้อยู่บ้านพักเลยไม่เห็นกับตา แต่ไม่กี่วันต่อมาเธอก็อารมณ์เสีย หงุดหงิดใส่ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ฟังใครเลยแม้แต่คนเดียว เฮ้อ”
ยิ่วเชียนแกล้งเขยิบเข้ามาฟังใกล้ๆ
“แล้วคนที่เกี่ยวข้องล่ะ”
“ก็เป็นแค่อากาศ”
ยิ่วเชียนรู้สึกผิด

อันซีเดินถือถุงขยะออกมาจากสำนักงานผู้ใหญ่ เจออาปู้ สุนัชที่รู้จักกันนั่งอยู่ อันซีชี้หน้าอาปู้พูดประชดยิ่วเชียน
“แกๆๆๆๆ มองตาฉันสิ รู้มั้ยว่าแกทำผิดอะไร พื้นฐานของการเป็นคนคือความไว้วางใจ แม้แต่หมายังรู้จักไว้วางใจคน ฉันให้แกกินหมั่นโถ เพื่อหวังผลงั้นเหรอ ฉันอยากให้แกมีความสุขเพื่อหวังผลสินะ เวลาเดินบนถนน ทำไมต้องยิ้มเวลามีคนทักทาย นั่นเพราะฉันมีความสุข แกก็มีความสุขด้วย ทำหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา นี่ๆๆๆๆ แกกำลังหัวเราะฉันใช่มั้ย เลือดเย็นจริงๆ ชีวิตมืดมนไม่มีใครรัก นี่แกจะไปไหน อาปู้ๆ”
อาปู้วิ่งออกไป อันซีถือถุงขยะวิ่งตาม

ตอนเช้ายิ่วเชียนรีบเปิดประตูไปรออันซีที่บ้านพัก อันซีเดินลงบันไดมางอนๆ เหม่ยเหวินเดินเข้ามาพอดี
“อันซี อาหารเช้าเตรียม”
จื้อหลิงเข้ามา “อันซี เมื่อกี้ฉันกับเหม่ยเหวินคุยกัน ฤดูร้อนนี้บ้านพักของเราจะจัดกิจกรรมอะไรดีเพื่อดึงดูดลูกค้า”
อันซีหน้างอ หันไปมองยิ่วเชียน ชายหนุ่มหลบตาอย่างรู้สึกผิด อันซีเดินผ่านเขาไปโดยไม่มองหน้า จื้อหลิงเห็นอาการอันซีแล้วกลัว
“ซึ้ด สายตาของเขาดูเหมือน จะมีความหมายลึกซึ้งนะ”
“สำหรับเธอแล้วอาจมีความหมายลึกซึ้ง แต่ความหมายของเขาคือ ต้องถามอีกเหรอ บ้านพักกำลังจะตกเป็นของหมู่บ้านแล้วไม่ใช่เหรอ”
เหม่ยเหวินพูดพลางหันไปมองหน้ายิ่วเชียน ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกผิดอีก จื้อหลิงมองหน้ายิ่วเชียนอย่างไม่อยากเชื่อ
“คุณเซี่ย คุณจะบริจาคบ้านพักของเราจริงเหรอ”
ยิ่วเชียนไม่ตอบ รีบเปิดประตูออกไป

อันซีไปยืนเศร้าอยู่คนเดียวบนเนินเขา มองทะเลอันกว้างใหญ่เบื้องล่าง ยิ่วเชียนตามมายืนมองห่างๆ เขานึกถึงเรื่องดีๆ ระหว่างเขากับอันซี สมัยเรียนมัธยม ตอนนั้นอันซีเดินนำเขาขึ้นเนินเขาไปบนทางชื้นแฉะ พลางหันมาถาม
“นายเดินไหวมั้ย”
“ไหว”
“ฉันแบกนายมั้ย”
“ไม่ต้อง”
“เร็วหน่อยสิ ยังอีกไกลนะ ยังต้องเดินอีกไกลนะ มาฉันพยุงนาย ไป เร็วหน่อย เอ๊ะ ระวังนะ”
“ฉันไหว ต้องเดินอีกไกลมั้ย”
“ใกล้ถึงแล้ว”
อันซีวิ่งนำไป ยิ่วเชียนตามมาแล้วหายเหนื่อย เมื่อเห็นจุดชมวิวซึ่งเป็นเนินเขามองลงไปเห็นทะเลกว้างใหญ่ เงียบสงบ อันซียิ้มๆ หันมาถาม
“เป็นยังไงบ้าง”
“อื้ม”
“นี่ ตะโกนสิ เวลาอารมณ์ไม่ดีฉันชอบมาระบายที่นี่ ฮิ”
“ไม่เอา”
“โธ่เอ๊ย ระบายสิ”
“ไม่ดีกว่า”
“เฮ้อ ฉันช่วยนายนะ”
อันซีเริ่มตะโกน “อ๊า ฉันเป็นผู้ชายที่พิเศษที่สุดในโลก คนที่รังแกฉันไปตายให้หมดซะ”
“ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายพิเศษอะไร และฉันรู้ว่า หน้าตาฉันเป็นยังไง”
“นี่ นายพูดอย่างนี้ไม่โอเคเลยนะ นายรู้ว่าตัวเองหน้าตาเป็นยังไง นายก็ต้องยิ่งชอบตัวเองสิ นายต้องทำให้พวกที่ชอบรังแกนายรู้ว่า นายก็เป็นคนอย่างนี้แหละ เหมือนฉันที่รักตัวเองมากกว่าไง จริงมั้ย”
ยิ่วเชียนยิ้มให้ อันซีเดินไปตะโกนอีก
“นี่ ฉันเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก คนที่ไม่ชอบฉันมันตาบอดเอง”
นึกมาถึงตรงนี้ ยิ่วเชียนยืนมองอันซี ณ จุดเดิม เขามองเธอจากทางด้านหลัง อันซีตะโกนระบายอารมณ์
“ไอ้คนบ้ากาม ฉันเกลียดคุณ ชีวิตของฉันไม่มีทางมืดมนเหมือนคุณ ชีวิตของฉันมีสีสันกว่ามาก เฮ่อ”
ยิ่วเชียนฟังแล้วยิ่งรู้สึกผิด

จื้อหลิงตากผ้าอยู่กับเหม่ยเหวิน พลางหันไปเห็นยิ่วเชียนเดินเข้ามา
“คุณเซี่ยมาแล้ว”
เหม่ยเหวินตั้งใจสะบัดผ้าเปียกใส่ด้วยความโกรธ ยิ่วเชียนชะงักนิดหนึ่ง
“เหม่ยเหวิน สะบัดโดนคุณเซี่ยแล้วนะ”
“โทษที ฉันจะกล้าทำร้ายคุณเซี่ยได้ไง”
“พวกเธอคงไม่อยากได้บ้านพักคืนแล้วสินะ ฉันมีเรื่องหนึ่ง อยากให้พวกเธอช่วย”

ทั้งสองชะงัก ก่อนหันมามองหน้าชายหนุ่มงงๆ

อ่านต่อหน้า 2

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 8 (ต่อ)

ชาวบ้านหลายคนต่างเดินมาที่บ้านพักของอันซี

“คุณปู่”
“หืม” ลุงเกาขาน
“วันนี้เรามาที่นี่ทำไมคะ”
“ปู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮิๆๆ”
“นี่ ลุงเกา”
“เอ๊ะ ผู้ใหญ่บ้านคุณก็มาด้วยเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“ผู้ใหญ่บ้าน” อาจิงเรียก
“เอ๊ะ ผู้ใหญ่บ้าน คุณรู้มั้ยว่าวันนี้เรามาทำอะไร” จิงวาถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“เราเข้าไปก่อนค่อยว่ากัน” ลุงเกาบอก
“ใช่ๆ ไปๆๆ”
พวกชาวบ้านเดินมาถึงหน้าบ้านพักตากอากาศ ยิ่วเชียนเดินออกมาจากมุมหนึ่ง แล้วก็มีเสียงเหม่ยเหวินดังขึ้นผ่านไมค์
“เทสๆ หนึ่งสองหนึ่งสอง พ่อแม่พี่น้องหมู่บ้านภูล่านทุกๆ คน สวัสดีค่ะ ฉันจะเล่านิทานเรื่องราวของเจ้าของบ้านพักให้ฟัง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าของบ้านพักตากอากาศสาวสวยนิสัยดีอยู่คนหนึ่ง ที่เธอชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น เพราะได้ยินเรื่องทุกข์ใจของแขกที่มาพัก ดังนั้น เขาจึงทำทุกวิถีทาง เพื่อต้องการทำให้แขกคนนั้นอารมณ์ดี และมีความสุข”
อันซีนอนฟังอยู่บนห้อง แปลกใจ ขณะนั้นจื้อหลิงวิ่งออกมาหน้าบ้านในชุดนางฟ้าเหมือนที่อันซีใส่วันที่เกิดเรื่อง จื้อหลิงออกมายืนต่อหน้าเพื่อนบ้าน ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“ว่ายังไงคะคุณเซี่ย ชีวิตคนเรายังมีเรื่องน่ายินดีอีกมากมายเชื่อฉันสิ”
“จะให้ฉันเชื่อเธอ งั้นก็ถอดเสื้อผ้าบ้าๆ ของเธอออกก่อนสิ” เสียงเหม่ยเหวินพูดเลียนแบบยิ่วเชียนในวันนั้น
“ถอดเสื้อผ้าเหรอ ดีเลย ฉันกำลังอยากถอดเลย ฮิๆๆ”
จื้อหลิงถอดผ้าคลุมนางฟ้าออก ระหว่างนั้นอันซีลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างมองลงไป ยิ่วเชียนมองขึ้นไปที่หน้าต่างนั้นเช่นกัน
“ถอดแล้วเหมือนนางฟ้ามั้ยล่ะ ว่ายังไง เซ็กซี่มั้ย ร้อนแรงมั้ย”
ชาวบ้านต่างหัวเราะ อันซีมองอยู่ที่หน้าต่างพลอยหัวเราะท่าทางของจื้อหลิงไปด้วย
“สนุกๆ ฮ่าๆๆ” ลุงเกาบอก
“ว่าไงนะ ยังไม่พอใจอีกเหรอ แล้ว แล้วอย่างนี้ล่ะ”
จื้อหลิงทำท่าตลกๆ ชาวบ้านต่างหัวเราะชอบใจ อันซีหัวเราะแล้วก็เศร้าๆ อยากจะร้องไห้ พลางมองลงไปที่ชายหนุ่ม ยิ่วเชียนยิ้มนิดๆ ให้อย่างรู้สึกผิด อันซีหันหลังจะกลับเข้าไป แต่ชาวบ้านเห็น ต่างเรียกชื่ออันซี บอกให้ลงมา จื้อหลิงเองก็เรียกไว้
“อันซีรีบลงมาสิ”
เหม่ยเหวินถือโทรโข่งพูดเสียงดัง
“อันซี รีบลงมา คุณเซี่ยเป็นคนเตรียมให้เธอ เร็วลงมาเร็วสิ”
อันซีทำตัวไม่ถูก ยิ่วเชียนส่งยิ้มให้กำลังใจ อันซียอมลงมาข้างล่าง แต่ยังทำตัวไม่ถูก ยิ่วเชียนยิ้มกว้างกว่าเดิมให้

อันซีเดินเข้ามาหากลุ่มชาวบ้าน ผู้ใหญ่เดินเข้าไปจับมือ หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
“ฉันว่าแล้วคุณปู่ต้องพูดเหลวไหล อันซีไม่มีทางเป็นคนแบบนั้น”
“แบบนี้คุณปู่ต้องขอโทษอันซีนะคะ”
ลุงเกาอึกอัก “เอ่อ แต่ว่า คำพูดเหล่านั้นของเขา สามารถทำให้เราเข้าใจผิดได้ง่ายนะ”
“ลุงเกาก็” ผู้ใหญ่บ้านปราม
“อันซี ปู่ขอโทษเธอด้วยนะ ที่เข้าใจผิด เธอไม่โกรธปู่เกาใช่มั้ย”
“ไม่หรอกค่ะ วันนั้นฉันก็พูดจาไม่ดี ขอโทษด้วยค่ะคุณปู่เกา”
“เห็นมั้ย ฉันว่าแล้วอันซีไม่ใช่คนแบบนั้น” จิงวาบอก
“แต่เมื่อวานแกยังบอกว่าอันซีเห็นแก่เงินอยู่เลยนะ” อาจิงย้ำบอก
“แกหูฝาดรึเปล่า” จิงวาเถียง
“แกน่ะสิหูฝาด คืนนี้แกไม่ต้องกินข้าวเลยนะ” อาจิงงอนๆ
“สองคนนี้ทะเลาะกันอีกแล้ว” ลุงเการะอา
ชาวบ้านหัวเราะ
“ฉันว่าอันซีเห็นแก่เงินฉันพูดเอง อันซี ขอโทษนะ” จิงวาบอก
“เอาล่ะทุกคนหยุดขอโทษได้แล้ว ฉันต่างหากที่ควรขอโทษทุกคน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเป็นอะไร ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรๆ เพราะเธอกดดันไงล่ะ” ผู้ใหญ่บ้านปลอบ
“ระบายหน่อยก็หายแล้ว” ลุงเกาบอก
เหม่ยเหวินพูดแทรก “วันนี้เย่จือไห่เลี้ยงอาหาร แต่คุณเซี่ยเป็นคนจ่ายเงิน”
ยิ่วเชียนยิ้มกว้างจริงใจ
“เย่ๆๆ” ชาวบ้านร้องดีใจ
“มาๆๆ” จื้อหลิงเรียก
“มีอาหารฝรั่งมั้ยฉันอยากกินสเต็ก” หญิงสาวคนหนึ่งถาม
“มีสิ มีทุกอย่าง” จื้อหลิงย้ำ
“มีของหวานมั้ย”
“มี มีทุกอย่าง มีเค้กพุดดิ้งด้วยเข้ามาเร็ว”
“ดีมาก” ลุงเกาบอก
“คุณเซี่ยเป็นคนดีมากเลย” หลานสาวลุงเกาชื่นชม
ลุงเกาปราม “พอแล้วหยุดมองได้แล้ว เข้าไปเลยไปกินกันเถอะไปๆๆ”
ทุกคนเข้าไป ผู้ใหญ่บ้านหันมาเห็นยิ่วเชียนเดินเข้ามาหาอันซี เธอยิ้มๆ แล้วขอตัว
“ฉันเข้าไปก่อนนะ”

อันซียังหน้าบึ้งใส่ยิ่วเชียนไม่เลิก แต่ชายหนุ่มพยายามทำใจกล้าเผชิญความจริงคอยยิ้มให้ แต่อันซีไม่หืออือ ไม่พูดอะไรด้วย ก่อนจะเดินหนีเข้าบ้านไป

อ่านต่อหน้า 3

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 8 (ต่อ)

ภายในงานเลี้ยง ทุกคนชื่นมื่นมีความสุขกับรสชาติของอาหาร

“ทุกคนมากินกันเร็ว ไม่เมาไม่เลิกนะ” ลุงเกาบอก
“นี่ทำมาจากแป้งดีมาก กินเยอะๆ เลยนะ” เหม่ยเหวินแนะนำ
“ได้ๆ” ลุงเการับคำ
“ใครจะเอาเบียร์อีกมั้ย”
อันซีถาม พลางชูขวดเบียร์ขึ้น ยิ่วเชียนกำลังดื่มเบียบร์ เหลือบตามองหญิงสาวอยากจะง้อ
“ฉันๆ” หญิงคนหนึ่งบอกอันซี
“โอเค”
จื้อหลิงร้องบอก “ทุกคนกินเยอะๆ เลยนะ วันนี้คุณเซี่ยเป็นคนเลี้ยงกินเยอะๆ กินให้อิ่มล่ะ”
อันซีเดินถือขวดเบียร์จะไปเสิร์ฟ ยิ่วเชียนเดินเข้ามา
“ฉันช่วย”
อันซีไม่พูดด้วย หันไปเรียกเหม่ยเหวิน
“เหม่ยเหวิน”
“หืม”
“ช่วยฉันหน่อย”
“อื้ม ได้”
“ระวังนะ ขอบคุณ”
อันซีเดินออกไปเลย ยิ่วเชียนหน้าเสียจะตามอันซีไป แต่ลุงเกาเข้ามาหาก่อน
“คุณเซี่ย ฉันขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว คุณเป็นคนดี และเป็นคนมีความสามารถ แต่ฉันจะบอกคุณว่า หลานสาวสองคนของฉัน ต้องอยู่ในหมู่บ้านภูล่าน คุณอย่าคิดพาพวกเขาไปจากที่นี่ล่ะ”
“คุณปู่”
“คุณปู่เมาแล้วนะ”
“ฉันยังไม่เมา”
“ไม่เป็นไร” ยิ่วเชียนบอก
“คุณปู่เมาแล้วนะ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ “คุณปู่ฉันก็เป็นเหมือนกัน น่ารักดี”
“กลับค่ะ กลับไปนั่งก่อน ปู่ดื่มมากแล้วนะ”
“มาค่ะคุณปู่เกา” จื้อหลิงช่วยพยุง
ยิ่วเชียนมองไปรอบๆ หาอีนซี เหม่ยเหวินหันมาเห็นก็เข้าใจ ชี้นิ้วออกไปด้านนอก ยิ่วเชียนย้ำถามด้วยสายตา เหม่ยเหวินพยักหน้าเปิดทางให้ ยิ่วเชียนรีบตามอันซีออกไป

ยิ่วเชียนตามอันซีมาที่สนามหน้าบ้าน อันซีนั่งเงียบๆ อยู่ที่เก้าอี้ พอเห็นชายหนุ่มเดินมาก็ลุกหนี ยิ่วเชียนรีบพูด
“ขอโทษ”
อันซีถอนหายใจ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม
“ขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ”
“ถ้าคุณทำอย่างนี้อีก ฉันจะ ที่ไหนไม่มีกล้องวงจรปิด ฉันจะเจาะยางล้อรถคุณให้แบนเลย”
ยิ่วเชียนยิ้ม “ไม่โยนกระถางดอกไม้แล้วเหรอ”
อันซียิ้มนิดๆ “เฮ่อ ทำไมคุณถึงไม่เชื่อใจใครเลย หรือว่าข้างกายคุณ ไม่มีใครจริงใจกับคุณเลยเหรอ”
“มีแค่คนเดียว คือคุณปู่ฉัน พ่อแม่ฉันประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่ฉันยังเด็ก เงินประกัน ทรัพย์สิน และทุกอย่างก็ถูกเพื่อนโกงไปหมด มีเพียงคุณปู่ที่ดูแลฉันจนโต นี่คือผลของการไว้ใจคนมากเกินไป ความจริง ฉันเคยลองเชื่อใจคนอื่นเหมือนกัน แต่เหมือนคิดไปเองฝ่ายเดียว เธอไม่ได้ต้องการให้ฉันเชื่อ แต่ว่า ฉันก็เชื่อเธอ เธอไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของฉัน แต่ฉันก็เชื่อเธอ”
“จากนั้นล่ะ”
“จากนั้น”
“ผลสุดท้ายของพวกคุณคงแย่มากสินะ”
“จากนั้น ฉันก็กลายมาเป็นเหมือนตอนนี้ เพราะว่าเธอ ทำให้ฉันเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเอง”
อันซีเศร้า “ว้าว งั้นคุณคง เกลียดเธอมากสินะ”
“ไม่รู้สิ เดิมทีฉันมั่นใจว่าเกลียดเธอได้” ยิ่วเชียนจ้องตาอันซีอย่างมีความหมาย
“เพราะคุณเป็นคนดีไง ถึงไม่สามารถเกลียดเธอได้”
“เธอก็อย่าเชื่อใจคนง่าย แม้ความดีจะเป็นคุณธรรม แต่ในโลกนี้มีคนไม่ดีอีกมากมาย อย่าไปเชื่อว่า ความรักสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้”
“ที่ฉันเชื่อคนอื่น ไม่ใช่เพราะเป็นคนดีหรอก เพราะตั้งแต่เล็กจนโตฉันเป็นคนซื่อ ไม่ว่าพ่อฉันพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้ฉันก็เชื่อ แต่ว่ามีวันหนึ่ง ฉันไม่ได้เชื่อพ่อจนถึงนาทีสุดท้าย ครั้งนั้น มีเรื่องเกิดขึ้นร้ายแรงมาก ฉันเลยทำร้ายใจใครคนหนึ่ง”
“ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเชื่อทุกอย่างที่เธอเห็นเหรอ”
“นี่ คุณกำลังประชดฉันที่ถูกทุกคนเข้าใจผิดใช่มั้ย ฉันก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด แค่เลือกที่จะลองเชื่ออีกฝ่ายดู ถ้าคนคนนั้นไม่มีคุณค่าให้ฉันเชื่อใจ ฉันคงไม่โง่เชื่อเขาต่อไป และฉันเชื่อคุณ ฉันเชื่อว่า คุณไม่มีทางบริจาคบ้านพัก”
ยิ่วเชียนทำหน้าไม่ถูก
“ไม่ต้องเชื่อฉันหรอก”
อันซียิ้มๆ ยื่นมือทั้งสองไปประคองใบหน้าชายหนุ่มให้หันมา
“ฉันเชื่อคุณ”
ยิ่วเชียนมองหน้าหญิงสาวซึ่งอยู่ใกล้มากอย่างตะลึง อันซีเองก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับการกระทำของตัวเอง เธอรีบชักมือออกจากใบหน้าชายหนุ่ม ยิ้มเขินๆ
“เมื่อกี้ฉันไม่ได้ดื่มเบียร์ใช่มั้ย”
อันซีเดินก้มหน้างุดอายๆ ออกไป ยิ่วเชียนหวั่นไหว ยกมือกุมที่หัวใจตัวเอง ถอนหายใจเฮือกกับความรู้สึกวุ่นวายใจเมื่อครู่
คืนนั้น อันซีนอนไม่หลับ นึกถึงแต่เหตุการณ์เมื่อตอนค่ำระหว่างตัวเองกับยิ่วเชียน จึงคว้าตุ๊กตานีโม่มาจ้องหน้า
“มานี่เลย แกคิดว่า สายตาของเขา หมายความว่ายังไง”
อันซีนอนคิดสงสัยอยู่บนเตียง ในขณะที่ยิ่วเชียนก็นอนไม่หลับเช่นกัน เขานึกถึงคำพูดของเหม่ยเหวิน
“อันซีชอบช่วยเหลือคนอื่นเสมอ ช่วยเหลือคนอื่นจนลืมคิดถึงตัวเองทุกครั้งเลย”
“ทำไมเซี่ยยิ่วเชียนถึงไม่เห็นความดีของอันซีนะ”
ยิ่วเชียนนึกถึงตอนที่อันซีใช้สองมือประคองใบหน้าของเขา แล้วย้ำบอก
“ฉันเชื่อคุณ”
ยิ่วเชียนอดสงสัยไม่ได้
“เขาเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ หรือว่า ฉันจะเข้าใจเขาผิด”

ตอนเช้าทั้งอันซีและยิ่วเชียนเปิดประตูห้องมาเจอกันพอดี ทั้งสองตะลึง ทำตัวไม่ถูก ก่อนจะพากันเดินออกไปข้างนอก โดยไม่มีการพูดคุย แต่อันซีคันปากอยากจะพูดเหลือเกิน ในที่สุดก็ตัดสินใจพูดขึ้น
“เซี่ยยิ่วเชียน”
ยิ่วเชียนหัวเราะนิดๆ “ฮิ นึกแล้วว่าเธอต้องทนไม่ไหว”
อันซีหัวเราะ แล้วทำเป็นรูดซิปปาก ทั้งสองเดินเล่นไปด้วยกัน โดยไม่พูดอะไร สักพักอันซีเห็นอาปู้วิ่งมา
“อาปู้ แกมาอยู่ที่นี่ได้ไง แกมาที่นี่ได้ไง มานี่ ให้พี่อุ้มหน่อย โธ่เอ๊ยไม่เจอตั้งนาน”
ยิ่วเชียนมองท่าทางหญิงสาวขำๆ ก่อนเตือนให้รูดซิปปาก
“นี่ ปากของเธอ”
อันซีเซ็ง แล้วเล่นกับอาปู้
“นี่คือวิธีปราบหมาเหรอ”
ยิ่วเชียนลูบหัวอาปู้อย่างเอ็นดู
“อาปู้เป็นหมาที่มีชื่อเสียงในการจีบสาว คุณคงไม่รู้ว่าอาหยงได้อาปู้ช่วย ไม่รู้เปลี่ยนแฟนไปกี่คนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอร์โฮสเตส ตำรวจ หรือพยาบาล อ้อ แล้วก็สาวสวยขายมะละกอของหมู่บ้านก็เคยคบกับเขา ไม่เสียแรงที่สายพันธุ์ของแกอยู่ฝรั่งเศสเลยน้า”
“ถึงสายพันธุ์ของมันจะอยู่ที่ฝรั่งเศส แต่บรรพบุรุษของมันมาจากประเทศอังกฤษ”
“ฉันไม่ได้คุยเรื่องบรรพบุรุษของอาปู้นะ อาปู้รีบกลับไปหาอาหยงเร็ว”
อันซีปล่อยอาปู้กลับไป พลางหันมาพูดใส่ยิ่วเชียน
“อย่าให้คนที่ไม่รู้จักแกทำลายบรรยากาศแสนโรแมนติกล่ะ โกๆๆ”
สักพักอันซีคิดอะไรได้
“นี่ คุณรอเดี๋ยวนะ ปิดตาก่อนสิ”
“ทำอะไร”
อันซียิ้ม“คุณต้องปิดตาก่อนสิ”
ยิ่วเชียนยอมทำตามอย่างมีความสุข อันซีหันมาพร้อมมีอะไรบางอย่างอยู่ในมือ ยื่นไปตรงหน้ายิ่วเชียน
“ลืมตาได้”
อันซีเอากบใส่มือมาหลอกยิ่วเชียน แต่เขายิ้มๆ
“เอ๊ะ คุณไม่กลัวกบเหรอ คนในเมืองส่วนใหญ่กลัวกบไม่ใช่เหรอ”
ยิ่วเชียนเห็นแล้วแก้ลงอำ เอามือป้องหูคุยกับกบ
“ว่าไงนะ แกว่าไงนะ ร่างกายของแกอาจมีพิษเหรอ แกไม่ชอบพี่สาวคนนี้ เลยจะพ่นพิษใส่เขาเหรอ”
อันซีงอน “โธ่เอ๊ย”
อันซีหันไปปล่อยกบลงพื้น ยิ่วเชียนขำๆ ที่แกล้งอันซีได้ อันซีเดินออกไป แล้วซุกซนขึ้นไปยืนบนก้อนหิน ระหว่างนั้นยิ่วเชียนแอบจับกบตัวเดิมไว้ในมือแล้วไขว่ไว้ข้างหลังเดินเข้ามาหาอันซี อันซีไม่รู้เรื่อง พูดไปเรื่อย
“ฮึ นี่ ฉันมีคำถามอยากจะถามคุณ คือว่า คนอย่างคุณ ใช้วิธีแบบไหนจีบสาวเหรอ”
“ดูเหมือนเธออยากรู้มากนะว่าฉันมีแฟนรึเปล่า”
“เปล่านะ ฉันแค่รู้สึกว่า คนอย่างคุณ จะสื่อสารกับแฟนยังไง คุณเข้ากับคนยาก และไม่อ่อนโยน หรือว่า คุณใช้สายตาบอกรักเหรอ”
ยิ่วเชียนยิ้ม “ใช่”
“จริงเหรอเนี่ย”
“เธอจะลองดูมั้ยล่ะ”
“ได้สิ”
“ได้ มองตาของฉันสิ มองตาของฉัน”

อ่านต่อหน้า 4

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่ 8 (ต่อ)

อันซีตั้งใจมองตายิ่วเชียน เขาแกล้งเอากบขึ้นมาชูตรงหน้า อันซีตกใจจะหงายหลังล้ม ยิ่วเชียนรีบฉุดแขนเธอไว้ ทั้งคู่เผลอมองตากันจังๆ แว่บหนึ่ง อันซีรีบวิ่งออกไปเอามือปิดหน้า

“หะ เป็นอะไร”
“สายตาเพชฌฆาต สุดยอดเลย สายตาของคุณพูดได้ด้วย”
ยิ่วเชียนยิ้ม “เธอจะถอยหลังไปไหน”
“กลับบ้านพักไง”
“กลับบ้านพักเหรอ ฉันเป็นแขกนะ จะไม่รอฉันเหรอ”
อันซีหัวเราะ แล้ววิ่งกลับมากอดไหล่ยิ่วเชียนพาเดินออกไป
“ก็ได้ ไป กลับบ้านพักกัน”
“เฮ้ย”
“เอ๊ย ระวังหน่อยสิ”
ทั้งสองกอดคอหัวเราะกันไป จากนั้นก็เดินคุยกันไปเรื่อยๆ
“นี่ คุณต้องยิ้มบ่อยๆ นะ ใช่ยิ้มอย่างนี้เลย เชื่อฉันไม่มีทางผิดอยู่แล้ว เวลาคุณยิ้ม ดูเป็นกันเองมาก”
“เปลี่ยนเป็นฉันถามเธอบ้าง ตกลงเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่”
อันซีหัวเราะ “อะไรเหรอ”
“เอ่อ ของขวัญในห้องเธอ ใครเป็นคนให้เธอ”
“เฮ่อ ไม่มีใครให้ฉันหรอก ฉันให้คนอื่นต่างหาก”
“แล้ว”
“คนอื่นเขาไม่รับ ไปรษณีย์เลยส่งกลับมา”
“ดูเหมือนเธอจะชอบเขามากสินะ”
“ความจริง ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันชอบเขามั้ย ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน แม่ฉันเอง คุณเคยถามฉันว่า ทำไมบ้านพักหลังนี้ถึงมีความสำคัญกับฉันมาก เพราะบ้านพักหลังนี้ เป็นสายใยเดียวของฉันกับแม่ ฉันกลัวว่าถ้าฉันไปจากที่นี่ วันหนึ่งเขากลับมา แล้วจะไม่เจอฉัน”
ยิ่วเชียนฟังอย่างตั้งใจ พลางมองหน้าหญิงสาว
“เอ๊ะ ถึงเย่จือไห่แล้ว นี่ เรามาวิ่งแข่งกัน ใครไปถึงประตูก่อนชนะ คนที่แพ้ต้องคิดหัวข้อคุยตลอดทั้งวัน”
“ฉันไม่อยากแข่งขันแบบไม่ยุติธรรม”
“แต่ฉันไม่สนหรอกไป คุณคือผู้ชายที่คุยยากที่สุดในโลกเลย”
อันซีวิ่งนำไปก่อน ยิ่วเชียนเดินตาม ก่อนรีบวิ่งตามไป
อันซีหัวเราะ “อ๊า นี่ เร็วหน่อย ไม่งั้นคุณต้องคุยทั้งวันนะ ปล่อยฉัน ไม่ให้ๆ เย่ ฉันชนะแล้วๆๆ คุณต้องหาหัวข้อเรื่องคุยกับทุกคนทั้งวัน”
“ฉันยอมเธอต่างหาก”
“ไม่สน ฉันชนะแล้ว”
อันซีหัวเราะ ก่อนหันไปเห็นสาวสวยคนหนึ่งยืนกอดอกอยู่ที่รถ ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านพัก ยิ่วเชียนมองตามสายตาอันซีไป
“หย่งชิง”
อันซีแปลกใจที่ยิ่วเชียนรู้จัก หย่งชิงเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม กอดคออย่างสนิทสนม อันซีมองหน้าเจื่อน
“ยิ่วเชียน ไม่เจอกันตั้งนาน”
ระหว่างนั้นต้าเหว่ยเดินเข้ามาผลักยิ่วเชียนออก
“แกจะทำอะไรหย่งชิง”
“ฉันควรถามแกมากกว่า แกจะทำอะไรแฟนของฉัน”
ทั้งอันซี จื้อหลิง และเหม่ยเหวินต่างตกใจเมื่อได้ยินที่ยิ่วเชียนพูด ต้าเหว่ยหันไปมองหน้าหย่งชิง
“ไหนเธอบอกว่าเบื่อเลยอยากออกมาเที่ยว”
“ใช่ ฉันเลยให้คุณเป็นคนขับรถไง คิดอะไรอยู่”
“แล้วตอนที่ไปฝรั่งเศสล่ะ”
“ไปดูแฟชั่นโชว์ที่ฉันออกแบบไง คุณมีญาติอยู่ปารีสไม่ใช่เหรอ อีกอย่างฉันพูดฝรั่งเศสไม่เป็นด้วย”
“ไปดูแฟชั่นโชว์ นั่งเรือยอร์ชดูทะเลกับผม ไปกินข้าวฟังเพลงด้วยกัน ไม่มีความหมายเลยเหรอ”
“ไปดูแฟชั่นโชว์ ต้องมีเวลาว่างสิ ยังไงก็ต้องหาเวลาอยู่แล้ว อย่าบอกนะว่า เรื่องแค่นี้ คุณก็ตกหลุมรักฉันแล้ว ฉันมีแฟนอยู่แล้ว ใช่ว่าคุณไม่รู้นี่”
“หูหย่งชิง คุณหลอกผม คุณหลอกผมใช่มั้ย”
ต้าเหว่ยเงื้อมือจะตบหย่งชิง ยิ่วเชียนรีบจับไว้
“ยังไงก็ต้องขอบคุณที่คุณพาฉันมาหาแฟนที่นี่ ขอบคุณนะ merci (ขอบคุณ)” หย่งชิงยิ้มๆ ไม่ยี่หระ
“ฉันไม่ยอมง่ายๆ แน่”
ต้าเหว่ยมองหน้าหย่งชิงและยิ่วเชียนก่อนเดินผลุนผลันออกไปขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว จื้อหลิงอยู่บนรถจักรยานเกือบหลบไม่ทัน ยิ่วเชียนหันมาถามหย่งชิงอย่างห่วงใย
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
ทั้งอันซี จื้อหลิง และเหม่ยเหวินต่างหันมามองทั้งสองคน
“ห้องคุณอยู่ไหนคะ ฉันไม่ชอบให้คนอื่นยืนจ้องมองฉันอย่างนี้”
ยิ่วเชียนมองหน้าสามสาวอึ้งๆ ก่อนจะพาหย่งชิงเข้าไปข้างใน อันซีก้มหน้าเจื่อนๆ จื้อหลิงมองไม่พอใจ
“นี่ๆๆ เธอไม่รู้สึกเหรอว่า ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาคุ้นมาก หน้าตาเขาเหมือน”
“เพื่อนสมัยประถมเหรอ” เหม่ยเหวินแซว
“อื้ม”
“เธอพอได้แล้วน่า ทุกคนต่างเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอ เธอเรียนนานาชาติรึไง”
“ไม่ใช่นะ ฉันแค่รู้สึกคุ้นหน้าเขา เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน”
“อ้อ ฉันรู้แล้วว่าเคยเจอที่ไหน เซี่ยยิ่วเชียนที่เพิ่งมาพักที่นี่ไง มีตาอยู่บนหัวรึไง ไปได้แล้วไปทำอาหารเช้าเร็ว”
“ก็ได้ อันซีไปกันเถอะ”
“อืม”
อันซีเศร้า

เหม่ยเหวินทำอาหารอยู่ในครัว ในขณะที่อันซียืนเหม่อลอย
“อันซีเกลือ”
อันซีส่งให้
”นี่มันน้ำตาล ฉันขอเกลือ อันซีขอจาน อันซีเอาจานให้ฉันหน่อย”
อันซียืนเหม่อ ไม่ได้ยิน
“เธอเป็นอะไร ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”
จื้อหลิงเดินโวยวายเข้ามา
“โธ่เอ๊ย ฉันจะกลายเป็นมือที่สามแล้วเหรอเนี่ย”
“เธอเป็นมือที่สามตั้งแต่เมื่อไหร่” เหม่ยเหวินถาม
“เพราะคุณเซี่ยไง ตอนนี้คุณเซี่ยเขามีแฟนแล้ว ถ้าฉันคบกับเขา ฉันก็เป็นมือที่สามน่ะสิ”
“เธอไม่ต้องห่วง ฉันไม่มีทางยอมแน่ ฉันว่าเธอเลิกติงต๊องได้แล้วล่ะ”
“โธ่เอ๊ยฉันว่าแล้วเชียว ผู้ชายหน้าตาดีอย่างนี้จะไม่มีแฟนได้ไง”
อันซีเห็นด้วย “นั่นสิ เมื่อกี้ฉันถามเขา เขาไม่ยอมตอบฉัน”
เหม่ยเหวินชะงัก“เมื่อกี้เหรอ เธอกับเขาไปไหนตั้งแต่เช้า”
จื้อหลิงแปลกใจ“เอ๊ะ เธอไปไหนกับคุณเซี่ยของฉันมาเหรอ”
“โธ่เอ๊ยฉันเปล่านะ ฉันนอนไม่หลับ เลยไปเจอยิ่วเชียนข้างนอก”
“เธอคิดมากเรื่องอะไรถึงนอนไม่หลับเหรอ” จื้อหลิงถาม
อันซีนึกถึงตอนที่เธอจับแก้มยิ่วเชียน แล้วทั้งสองคนมองตากัน ก่อนหันมาปฏิเสธจื้อหลิง
“ไม่มีอะไรๆ”
“ไม่มีจริงเหรอ”
“นี่แต่ฉันว่า ถ้าเขาสองคนไม่ใช่แฟนกันจริงๆ แล้วผู้ชายที่เพิ่งกลับไปเป็นใครกันล่ะ” เหม่ยเหวินตั้งข้อสังเกต
“อ้าว สมองทองอย่างเธอยังคิดไม่ได้เลยเหรอ” จื้อหลิงย้อน
“พอแล้วน่าเธอสองคนน่ะ” อันซีปราม

หย่งชิงเดินลงบันไดมาจากห้องยิ่วเชียน ชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างล่าง
“เขาเป็นทายาทคนที่สามของฉีซือการก่อสร้าง ชื่อฉีต้าเหว่ยใช่มั้ย”
“คงงั้นมั้ง พอดีตอนนั้นฉันว่างๆ เลยอยากหาเรื่องสนุกทำ ใครจะคิดว่าเขาจริงจังล่ะ ฉันเบื่อเขาจะแย่แล้ว แต่เขายังเสแสร้งทำเป็นคนดี ไม่ดูสารรูปตัวเองเอาซะเลย”
“แล้วเกมความรักของเราคุณยังไม่เบื่อเหรอ”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันจริงจังกับงานที่ทำทุกอย่าง”
“ผมมองไม่ออกเลย”
“การทำงานทำให้ผู้หญิงมีความมั่นใจ ความรักทำให้ผู้หญิงสดใส เพราะความรักสำหรับผู้หญิง ก็เหมือนเครื่องสำอางที่ดีมากๆ ไม่จำเป็นต้องชอบ แต่ไม่สามารถขาดมันได้ คุณไม่เข้าใจหรอก หรือไม่ คุณก็ลองมีความรักดูสิ เมื่อมีความรักแล้ว คุณอาจไม่เย็นชาอย่างนี้ก็ได้ อีกอย่าง คุณไม่ต้องยิ้ม เวลาคุณยิ้มดูไม่น่าเกรงขาม”
ยิ่วเชียนหน้านิ่ง

ภายในครัว เหม่ยเหวินเดินถือจานอาหารเข้ามาพลางเรียก
“จื้อหลิง”
“อื้ม”
“ไปเรียกคุณเซี่ยมากินข้าวได้แล้ว”
“อื้มได้”
อันซีขัดขึ้น “เอ๊ะ ฉันไปเอง”
อันซีรีบวิ่งออกไปที่ห้องยิ่วเชียน พลางจัดผมเผ้าให้ดูดี แล้วจะเคาะประตูเรียก แต่ยิ่วเชียนเปิดออกมาเสียก่อน อันซียิ้มนิดๆ เขินๆ
“เอ่อ มอร์นิ่ง อาหารเช้าเตรียมพร้อมแล้ว”
“เราไม่กิน”
อันซีหน้าเสียเมื่อเห็นหย่งชิงเดินตามออกมา เธอเอ่ยทัก
“มอนิ่งค่ะ”
“เร็วหน่อย อย่าปล่อยให้ฉันรอ”
หย่งชิงเดินผ่านทั้งสองคนออกไป อันซีกับยิ่วเชียนมองหน้ากันนิดหนึ่งแล้วยิ่วเชียนก็ตามหย่งชิงไป อันซีได้แต่สลดเมื่อเห็นทั้งสองเดินไปด้วยกัน

หย่งชิงกับยิ่วเชียนมาทานอาหารด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หญิงสาวมองไปรอบๆ
“สถานที่แบบนี้ ยังมีร้านอาหารแบบนี้ ถือว่าไม่เลวแล้ว”
ระหว่างที่หย่งชิงพูด ยิ่วเชียนก็ตักไข่ดาวจากจานเธอมาใส่ในจานเขา แล้วเขี่ยมะเขือเทศของเขาลงในจานหย่งชิงอย่างคนรู้ใจ แล้วยิ่วเชียนก็นั่งกินเงียบๆ
“เมื่อไหร่คุณจะกลับไทเป วันหยุดใกล้หมดแล้วสินะ”
“เหลืออีกสามวัน”
“คุณจะอยู่ให้ครบเหรอ”
“วันหยุดก็หยุดให้คุ้มสิ”
“ก็ดี ในเมื่อคุณไม่กลับ ฉันจะอยู่กับคุณที่นี่ด้วย แค่สามวันเองไม่ใช่เหรอ”
“สถานที่แบบนี้ เธออยู่ไม่ได้หรอก”
“แค่สามวันเอง อีกอย่าง ไม่แน่ว่า ต้าเหว่ยอาจจะมาหาฉันอีก”

ยิ่วเชียนมองหน้าหญิงสาว ก่อนก้มหน้ากินอาหารเช้าต่อท่าทางเครียดๆ

อ่านต่อตอนที่ 9
กำลังโหลดความคิดเห็น