xs
xsm
sm
md
lg

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่17

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่17

เหม่ยเหวิน จื้อหลิง ขำกันยกใหญ่ กับการที่เยี่ยนเจ๋ออุปโลกน์หยาเอินให้เป็นแฟนของเขา

“คุณนี่อารมณ์ขันนะ ฮิๆๆ” จื้อหลิงชม
“เขาเป็น แฟน 3 นาทีของผม”
“หะ”
“แฟน 3 นาทีอะไร นี่เป็นคำศัพท์ใหม่เหรอ” เหม่ยเหวินถาม
“ไม่ใช่หรอก เสื้อผ้าของฉันเปียก เยี่ยนเจ๋อเลยพาไปซื้อชุดใหม่ พนักงานในร้านขอเบอร์โทรของเขา ดังนั้นฉันเลย”
“ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นแฟนของเขา” จื้อหลิงพูดสวน
หยาเอินยิ้มๆ
“ขอบคุณเธอมาก”
เยี่ยนเจ๋อจับหัวหยาเอินอย่างเอ็นดู พลางส่งถุงเสื้อผ้าให้เหม่ยเหวิน
“นี่เสื้อผ้าที่เปียกของหยาเอิน”
“ค่ะ”
“งั้นผมขอตัวขึ้นไปก่อน”
“ค่ะๆๆ” เหม่ยเหวินรรับคำ ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง
“ไม่มีเหตุผล เสื้อผ้าของหยาเอินเปียกได้ยังไง”
จื้อหลิงฟังเหม่ยเหวินพูดแล้วเริ่มสงสัย เธอหันไปมอง เห็นหยาเอินยืนยิ้มหวานอยู่คนเดียว

คืนนั้น อันซีนอนคลุมโปงอยู่ในห้องด้วยความหนาวเหน็บ
“เฮ่อ หนาวมาก เฮ่อ”
อันซีเปิดผ้าคลุมโปงออกมา
“รีโมทแอร์เก็บไว้ตรงไหนนะ นี่คืออะไร อย่าบอกนะว่า เป็นแอร์ในตำนาน แอร์ดูดีมีระดับขนาดนี้ ความเย็นเสถียรจะตาย เฮ่อ จะติดตั้งทำไมหลายเครื่อง เครื่องเดียวก็พอแล้ว ช่างเถอะฉันว่าห่านที่บ้านคงหนาวตายแน่ หนาวจังเลย”
อันซีทนหนาวไม่ไหว เดินออกจากห้องลงมาข้างล่าง ได้ยินเสียงคนกินอะไรอยู่ มองๆ ไป
“คุณปู่”
“เอ๊ะ อันซี มานี่ๆ”
“คุณปู่ ดึกมากแล้วทำไมยังไม่นอน มานั่งกินขนมอยู่ตรงนี้คนเดียว”
“ฉันหิวน่ะสิ นอนไม่หลับเลยมาหาอะไรกิน เป็นอะไร เธอก็นอนไม่หลับเหรอ”
“ฉันยังไม่ค่อยชินกับที่นี่ค่ะ”
“อ้อ”
“คุณปู่”
“หืม”
“หยุดกินขนมเถอะค่ะ เดี๋ยวจะร้อนใน ฉันทำอะไรให้คุณปู่กินดีมั้ยคะ”
“ไม่ต้องวุ่นวายหรอก”
“ไม่วุ่นวายค่ะ แค่อาหารมื้อดึก รอสักครู่นะคะ”
อันซีลุกไปเปิดตู้เย็น ไป๋คังเดินมาหา
“เอ๊ะๆ ช่วงนี้ ฉันอยู่คนเดียว ดังนั้นของกินในตู้เย็น เลยว่างเปล่าแบบนี้”
“คุณปู่ ชอบกินบะหมี่มั้ยคะ”
“เอ่อ ชอบสิ”
“งั้น รอสักครู่นะคะ ฉันจะรีบกลับมา”
อันซีเดินออกไป
“เอ๊ะๆๆ อันซี ดึกแล้วเธอจะไปไหน”
“ฉันจะรีบกลับค่ะ”
อันซีเดินออกมาข้างนอก บ่นๆ
“ซอยในไทเปเยอะมากจริงๆ ที่นี่มันที่ไหนนะ”
อันซีใช้จีพีเอสนำทางไป
“ซอย 25 เดินตรงไปข้างหน้าสองเมตร จากนั้นก็เลี้ยวขวา จะเจอซุปเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่วโมง”
อันซีเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต รีบเข็นรถหาซื้อของ
“บะหมี่ๆๆ อยู่นี่ ไข่ เต้าหู้ บล็อกโคลี่ ข่า เย่”
อันซีเข็นรถไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน
“ยินดีต้อนรับ มีบัตรสมาชิกมั้ยคะ”
“ไม่มีค่ะ
“ต้องการซื้อถุงผ้ามั้ยคะ”
“เอ่อ ซื้อค่ะ”

อ่านต่อหน้า 2

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่17 (ต่อ)

ไป๋คังนั่งรออยู่ สักพักอันซีถือชามบะหมี่เข้ามาให้

“มาค่ะคุณปู่ รอนานแล้ว”
“ว้าว”
“แท่นๆๆๆ บะหมี่ไก่เย็นค่ะ ฉันกลัวว่าถ้าคุณปู่กินบะหมี่ร้อนกลางคืน ความร้อนสูงเกินไปจะย่อยยาก ดังนั้น ฮิๆๆ”
ไป๋คังปรบมือให้
“สีสันสวย ดูน่ากินมาก”
ไป๋คังลองกิน
“อื้ม อร่อยๆ”
“ใช่ค่ะ คุณปู่ ค่อยๆ กินนะคะ มาค่ะ กินบะหมี่เสร็จแล้ว อย่าลืมดื่มน้ำชาร้อนหน่อย ลดความดันโลหิต”
“ดีมาก นี่เป็นบะหมี่เย็น แต่พอฉันกินเข้าไปมันรู้สึกอุ่น”
“เพราะว่า ฉันใส่ข่าลงในบะหมี่ด้วย เลยทำให้รู้สึกอุ่น”
“ไม่ๆๆๆๆ เป็นเพราะว่าเธอนั่งกินเป็นเพื่อนฉัน เลยทำให้หัวใจของฉันรู้สึกอบอุ่น”
“ฮิๆ คุณปู่”
“หืม”
“ยิ่วเชียน ไม่ค่อยนั่งกินข้าวกับคุณปู่เหรอคะ”
“เขางานยุ่ง ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ถึงจะอยู่บ้าน เขาก็ทำงานอยู่ในห้องหนังสือ ฉันพยายามไม่กวนเขา เพราะถ้ามีเวลา ฉันอยากให้เขาพักผ่อนมากๆ ฉันแก่แล้ว อยู่คนเดียวจนชินแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า”
“คุณปู่”
“หืม”
“รู้สึกมั้ยว่าบ้านหลังนี้ หนาวเย็นมาก”
“นั่นนะสิ เธอก็รู้สึกเหมือนกันเหรอ”
“ค่ะ”
“เดิมทีฉันอยากเลี้ยงนก จะได้มีเพื่อนคุยด้วย แต่ฉันกลัวว่านกจะหนาวตาย ฉันเอาเรื่องนี้ไปบอกยิ่วเชียนแล้ว แต่เขากลับซื้อนกที่สามารถร้องเพลงได้ไปไว้ในห้องของฉัน”
“หา”
“เขายังบอกอีกว่า มันเป็นศิลปะ ฉันลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก เธอรู้มั้ย มันทำฉันตกใจหมดเลย”
“เฮ้อ ของในบ้านนี้จัดเก็บไว้เป็นระเบียบเกินไป ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เลย เยือกเย็นมาก”
“เฮ้อ มุมมองของยิ่วเชียนที่มีต่อโลกนี้ สะท้อนอยู่ในบ้านหลังนี้ทุกๆ อย่าง เลยเยือกเย็นไงล่ะ”
“เฮ้อ ยิ่วเชียน เขาคงเหงาและต่อต้านโลกใบนี้สินะ”
“รสชาติดี ฉันไม่ได้กินอาหารอร่อยๆ ที่สาวสวยทำมานานแล้ว ยัยคางแหลมคนนั้น แม้แต่น้ำแก้วเดียวยังไม่เคยยกให้ฉัน”
“เอ่อ คุณหูเหรอคะ”
“ฉันรู้จักยัยคางแหลมคนนั้นมานานแล้ว เข้ากันไม่ได้เลย แต่เธอพอฉันเห็นเธอครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาแล้ว อย่างนี้เรียกว่าโชคชะตา”
อันซียิ้มๆ “คุณปู่มีวิสัยทัศน์ที่ดี”
ไป๋คังหัวเราะ
“ฉันชอบคุณปู่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้ว”
“โชคดีที่ครั้งนั้นฉันกลับบ้านเกิด ไม่งั้นคงไม่ได้รู้จักเธอหรอก”
อันซีแปลกใจ
“คุณปู่”
“หืม”
“บ้านเกิดของคุณปู่ อยู่หมู่บ้านภูล่านเหรอคะ”
“ใช่”
อันซีอึ้ง คิดๆ
“หมู่บ้านภูล่านเป็นบ้านเกิดของยิ่วเชียน ทำไมเขาไม่เคยบอกฉันเลย”

ตอนเช้า ยิ่วเชียนเดินมาที่โต๊ะอาหาร สูดกลิ่นอาหารหน้าตาน่าทานบนโต๊ะ พอเห็นอันซีอยู่ในครัวก็เดินไปหา
“มอร์นิ่ง”
อันซีทำอาหารนิ่งๆ ไม่ยอมพูดด้วย
“เป็นอะไร”
อันซีไม่ตอบ เดินถือถาดอาหารเช้ามาตั้งที่โต๊ะ ยิ่วเชียนมองงงๆ เดาไม่ออก
“อันซี เป็นอะไร”
อันซีงอนๆ ถอนใจ
“คุณปู่บอกว่าเป็นคนหมู่บ้านภูล่าน”
ยิ่วเชียนอึ้ง
“เธอ เธอโกรธเหรอ”
“คุณว่าไงล่ะ”
“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจปกปิดเธอ แต่เพราะว่า”
“เพระพวกคุณย้ายไปตั้งแต่เด็กแล้ว”
อันซีนึกถึงเรื่องที่คุยกับไป๋คังเมื่อคืน
“คุณปู่ บ้านเกิดของคุณปู่ อยู่หมู่บ้านภูล่านเหรอคะ”
“ใช่ เมื่อก่อนยิ่วเชียนหน้าตาธรรมดามาก เขาอายุไม่ถึง 6 ขวบก็ใส่แว่นแล้ว ฉันเรียกเขาว่าเด็กสี่ตา”
“6 ขวบก็ใส่แว่นแล้วเหรอ เอ่อ คุณปู่ ถ้าคุณปู่กับยิ่วเชียนเป็นคนภูล่าน แล้วทำไมฉันถึงไม่คุ้นหน้าพวกคุณเลย”
“อ้อ เฮ้อ นั่นคงเป็นเพราะเราย้ายบ้านมานานแล้ว”
อันซีนึกมาถึงตรงนี้ ก็หันมาพูดกับยิ่วเชียนต่อ
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ค่อยพูด แต่เรื่องคุณเป็นคนภูล่านก็ยังไม่ยอมบอกฉัน ทำเกินไปรึเปล่า”
ยิ่วเชียนขรึมลง
“สักวัน ฉันจะเล่าทุกอย่างให้เธอฟังทั้งหมด”
“จึ๊ สัญญานะ”
“อื้ม”
“กินข้าวเช้าก่อนสิ”
“เธอทำอาหารเช้าเหรอ”
“ใช่ เมื่อคืนฉันไปซื้อที่ซุปเปอร์มาเก็ต”
“เมื่อคืนนี้เหรอ เมื่อไหร่ล่ะ”
“เมื่อคืนตอนดึก คุณปู่หิวข้าวนี่”
“กลางดึกเหรอ ดึกแค่ไหน ดึกดื่นเธอเป็นผู้หญิงออกไปคนเดียว ไม่กลัวบ้างเหรอ”
“ไม่หรอกน่า”
“ไม่กลัวเหรอ เธอมาบ้านฉันกี่วันแล้ว”
“วันแรก”
“สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดอยู่ไหนเธอรู้มั้ย ที่อยู่บ้านฉันเธอจำได้รึยัง ตรอกซอยใกล้เคียงวุ่นวายมาก ถ้ากลางวันว่าไปอย่าง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกลางคืน ไม่สนล่ะ คราวหน้าจะออกไปตอนกลางคืน เธอต้องเรียกฉัน”
ระหว่างนั้นไป๋คัง มาแอบฟังทั้งสองคุยกัน
“ไม่ได้ คุณปู่บอกว่ากลางคืนคุณไม่ค่อยได้พักผ่อน”
“เรียกฉัน”
“แต่ว่า”
“เรียกฉัน” ยิ่วเชียนย้ำจริงจัง
“เอาล่ะๆ คุณผู้ชายขี้กังวล ต่อไปฉันจะเรียกคุณ โอเคมั้ย โธ่เอ๊ย คุณไม่ดูซะก่อน กล้ามแขนของฉัน แข็งแรงมาก ฉันเป็นราชินีแห่งการทำงานของหมู่บ้านนะ กินข้าวเช้าได้แล้ว”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ “อาหารเช้า น่ากินจังเลย”
“แน่นอนสิ ฉันเป็นราชินีทำอาหารเช้าของหมู่บ้านเรานี่”
ยิ่วเชียนขำ “ตกลงเธอเป็นอะไรอีก”
“ไม่ต้องแสดงความคิดเห็นมาก นี่เป็นแค่ความคิดเห็นของฉัน คุณจะถามอะไรอีก”
“ไม่มีๆๆ ไม่มีแล้วคร้าบ”
“ฮิ เอาล่ะ รีบกินเถอะค่ะ อาหารเช้าเติมพลังทั้งวัน ข้าวโอ๊ตของคุณปู่ต้องชงนานหน่อย รอให้ท่านตื่นแล้วค่อยทาน”
ไป๋คังยิ้มๆ ในความสนิทสนมของทั้งคู่
“เธอก็รีบกินสิ กินเสร็จแล้ว ฉันจะพาไปข้างนอก”
“ไปไหน”

ยิ่วเชียนยิ้มๆ

อ่านต่อหน้า 3

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่17 (ต่อ)

ยิ่วเชียนพาอันซีเดินมาตามทางอันร่มรื่นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง

“โรงเรียนนี้ เป็นโรงเรียนเก่าของคุณเหรอ”
“อืม” ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“ว้าว คุณเรียนโรงเรียนดีขนาดนี้เลย โธ่ฉันลืมคิดไป คุณเป็นคนเรียนเก่งนี่นา”
“แน่นอน ฉันเป็นอัจฉริยะของหมู่บ้านภูล่านนี่”
“ทำไมต้องเลียนแบบฉันด้วย นี่ เมื่อกี้ฉันคิดตลอด คุณมีสีหน้าท่าทางแปลกๆ จะอธิบายว่ายังไง”
“สีหน้ายังไง”
“ก็คุณชอบ ทำอย่างงี้”
อันซีทำท่าเลียนแบบยิ่วเชียน ชายหนุ่มยิ้มๆ
“อยากรู้ใช่มั้ย”
“อืม”
ยิ่วเชียนเรียกอันซีให้เข้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบข้างหูเธอ
“ในที่สุด”
“อะไร”
“ก็เหลือแค่เราสองคนแล้ว”
อันซีอึ้ง มองหน้าชายหนุ่ม เพิ่งรู้ตัวว่าอยู่ใกล้ชิดกับเขามาก เธอเขินๆ รีบผละตัวออก หาเรื่องพูดกลบเกลื่อน
“เฮ้อ ดีจังเลย คุณได้เรียนโรงเรียนดีขนาดนี้ เมื่อก่อน ฉันได้เรียนมหาลัยใกล้บ้าน แถมยังเรียนไม่จบด้วย”
ยิ่วเชียนฟังอันซีพูดแล้วนึกถึงคำพูดของหยาลู่
“เพราะว่าหยาเอิน ทำให้ผมไม่เคยคิดไปจากหมู่บ้านภูล่าน แต่อันซีบอกผมว่าไม่เป็นไร เธอจะดูแลหยาเอินแทนผม ให้ผมไปเรียนโดยไม่ต้องกังวล ถ้าไม่ได้อันซี แม้แต่งานเป็นครูในโรงเรียนประถม ผมคงไม่มีทางได้เป็น”
คำพูดของหยาลู่ ทำให้ยิ่วเชียนยิ่งรักอันซีมากขึ้น เขามองเธออย่างชื่นชม
“ทำไมคุณต้องพาฉันมาโรงเรียนเก่าของคุณด้วย”
“เพราะว่าเธอไม่อยากรู้เรื่องของฉัน จึงไม่เคยถามอะไรเกี่ยวกับฉันเลย แม้กระทั่งเรื่องของฉันกับหย่งชิง เธอก็ไม่เคยถาม ดังนั้นฉันตัดสินใจจะค่อยๆ ให้เธอรู้เรื่องของฉัน ฉันจะพาเธอไปที่หนึ่ง”
อันซียิ้มๆ ยิ่วเชียนพูดพลางเหมือนเห็นอดีตของตัวเอง เขามองไปข้างหน้า อันซีมองงงๆ ว่าเขาเป็นอะไร
“ที่นี่ ฉันชอบมาตอนเรียนมหาวิทยาลัย”
“เพราะอะไร”
“เพราะว่าที่นี่สามารถฟังเพลงได้ฟรี ซูส์”
ยิ่วเชียนบอกให้อันซีเงียบ เขาหลับตาลงแล้วได้ยินเสียงไวโอลิน
“ไวโอลินคอนแชร์สาย D หมายเลข 35 นี่เป็นหนึ่งในเพลงที่ฉันชอบ ตอนไชคอฟสกีแต่งเพลงนี้จบ เขาได้เล่นให้เพื่อนของเขาฟัง ตั้งแต่เริ่มแรก ไม่มีใครชอบฟังเลย ดังนั้นบางเพลง จำเป็นต้องฟังเป็นครั้งที่สอง”
อันซียิ้มๆ จินตนาการไปไกล พลางคิด
“เมื่อก่อนยิ่วเชียนคงเป็นที่รู้จักมากสินะ ตอนคุณเรียนมหาวิทยาลัย คงมีชื่อเสียงมากสินะ”
อันซีคิดมาถึงตรงนี้ก็หน้าเจื่อนๆ หันมาถามยิ่วเชียน
“คุณทั้งหล่อ และฉลาดขนาดนี้ คงมีสาวๆ มาบอกรักมากแน่ๆ”
ยิ่วเชียนเขินๆ น้อยใจตัวเอง
“ฉันบอกเธอแล้วว่า เมื่อก่อนฉันหน้าตาขี้เหร่มาก ไม่ว่าจะเดินไปไหน ก็เหมือนคนไร้ตัวตน ไม่มีใครเห็นฉันหรอก”
“เป็นไปได้ยังไง”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ฉันชอบที่นี่เพราะว่า ที่นี่ไม่มีคนเลย”
“อยู่คนเดียวตลอด คุณไม่รู้สึกโดดเดี่ยวบ้างเหรอ”
ยิ่วเชียนเหมือนมองเห็นตัวเองอีกครั้ง เขามักมานั่งที่นี่เขียนตารางวางแผนความรักของเขา
“ดูเหมือนเธอจะชินกับการมองโลกในแง่ดีมาตลอดสินะ”
“คุณน่ะสิแปลก เพราะคุณชอบมองโลกในแง่ร้าย”
“ฉันแค่เตรียมพร้อมรับความเลวร้าย แต่หัวใจยังคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุด ก็เหมือนอันนี้ ฉันเคยคิดว่า คงไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้”
ยิ่วเชียนส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้อันซี
“นี่คืออะไร”
“ตารางวางแผน ความรักของฉันสมัยเรียน ถ้าฉันมีแฟน สิ่งที่ฉันอยากทำร่วมกับแฟนของฉัน”
“อายุ 19 จับมือเที่ยวกันทุกจุดในมหาวิทยาลัย”
“ตรงนี้ ใส่ชื่อของเธอเข้าไป”
ยิ่วเชียนชี้ไปที่ช่องว่างในกระดาษที่เขาเว้นไว้
“เวลาฉันไปเรียนกับ...”
“อันซี” ยิ่วเชียนรีบพูดเติมทันที
“ช่วยฉันเลือกชมรม แฟนคุณชมรมอะไรคุณก็เข้าร่วมเหรอ”
“ใช่”
“งั้น ฉันเลือกให้คุณ เลือกให้คุณ เลือกให้คุณๆ ฉันไม่รู้ว่าเลือกชมรมไหนถึงจะสนุกสนาน”
ยิ่วเชียนฟังอันซีพูดแล้วนึกถึงคำพูดของหยาลู่อีก
“สิ่งที่เธอชอบคือหาเงิน ดูเหมือนเวลาส่วนใหญ่ของเธอ จะหมดไปกับการทำงานหาเงินและการช่วยเหลือคนอื่น ดังนั้นจึงลืมคิดถึงตัวเอง ถ้าคุณถามเธอ แม้แต่เธอเองก็คงไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร”
ยิ่วเชียนมองอันซีอย่างเข้าใจ
“มีอะไรน่าสนใจๆๆ” อันซีพึมพำ
ยิ่วเชียนเข้าไปจับไหล่อันซีให้มองหน้าเขา
“เราจะร่วมกันตามหาความสนใจของเธอ เธอต้องทำให้ความฝันของฉันเป็นจริง”
“เฮ่อ แต่ว่า ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ จะเลือกชมรมไหนให้คุณเลย”
“เรื่องชมรมผ่านไปแล้ว แต่ฉันมีความปรารถนาบางอย่าง ต้องทำให้สำเร็จ”
“ความปรารถนาอะไร”
“ก็คือ ความปรารถนาของเด็กเนิร์ดคนหนึ่ง”
ยิ่วเชียนหอมแก้มอันซีอย่างอ่อนโยน อันซีจับแก้มตัวเองอึ้งๆ
“เวลาเดินอยู่บนถนน ได้หอมแก้วแฟนของตัวเอง จากนั้นก็ยอมรับสายตาอิจฉาของคนที่ผ่านไปมา เด็กเนิร์ดก็มีหัวใจเหมือนกันนะ”
อันซียิ้มๆ ระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ของยิ่วเชียนดังขึ้น เขาหยิบมาดูชื่อ
“ต้าอี๋”
ยิ่วเชียนหันมายิ้มให้อันซีก่อนแยกตัวไปรับสาย
“ฮัลโหล ข้อมูลการลงทุนของบริษัทรัสเซียเหรอ ได้ ฉันจะกลับบริษัท”
อันซีเขินจับแก้มตัวเอง พลางพึมพำ
“ดูท่าทางจริงจังมาก เรื่องงานเหรอ”
ยิ่วเชียนเดินกลับมาหาอันซี
“ฉันต้องกลับบริษัทก่อน”
“อ้อได้ค่ะ งั้นฉัน”
ยิ่วเชียนจับมืออันซีจูงไป
“ไปด้วยกันสิ ไม่นานหรอก”
“อ้อ”
อันซียอมตามไป

ยิ่วเชียนพาอันซีมาที่บริษัทและเข้ามาในห้องทำงานของเขา
“โอ้วว้าว ฉันไม่ชอบงานที่ต้องใช้แรงเลย ทำงานในออฟฟิศ มิน่าคุณถึงชอบทำงานออฟฟิศ สบายเกินไปแล้ว”
ยิ่วเชียนเปิดลิ้นชักหยิบแฟ้ม
“เธอรอฉันตรงนี้นะ ฉันจะเอาข้อมูลไปให้หัวหน้า”
“ให้ฉันอยู่คนเดียวเหรอ”
“อืม ไม่เป็นไร ฉันจะรีบกลับมา อีกอย่างไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก”
“นี่ ฉันไปนั่งรอคุณข้างล่างดีกว่า ฉันไม่ใช่พนักงานบริษัทคุณ และตอนที่เดินเข้ามา ทุกคนมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ “นั่นไม่ใช่เพราะเธอไม่ได้เป็นพนักงานที่นี่ แต่เพราะว่า นอกจากหย่งชิงแล้ว เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันพาเข้ามา”
“คุณไม่ชอบเข้าหาคนอื่นมากสินะ”
“รอฉันนะ”
ยิ่วเชียนเดินออกไป อันซีมองรอบๆ ห้อง พึมพำกับตัวเอง
“เฮ้อ ที่นี่สไตล์ไม่เหมือนกัน แต่ว่าหนาวเย็นมาก เหมือนบ้านยิ่วเชียนเลย เฮ้อ นี่คืออะไร โอ้วว้าว”
อันซีหยิบของบางอย่างมาหมุนเล่น ทำให้ของตกลงไปใต้โต๊ะทำงานยิ่วเชียน เธอตกใจ
“หะ หะ เฮ่อ แย่แล้ว”
อันซีรีบก้มลงไปหาใต้โต๊ะ จังหวะนั้นหมิงเย่เดินเข้ามาในห้องทำงานของยิ่วเชียน เห็นอันซีก้มอยู่ใต้โต๊ะทำลับๆ ล่อๆ อันซีคลานออกมาจากใต้โต๊ะตกใจเห็นหมิงเย่ยืนอยู่
“หะ”
“เธอเป็นใคร เข้ามาทำอะไรในนี้”
“เอ่อ ยิ่วเชียนบอกให้ฉันรอเขาที่นี่ ไม่ทราบว่าคุณคือ”
อันซีมองหน้าหมิงเย่ พลางนึก
“ดูท่าทาง น่าจะเป็นคนดูแลที่นี่”
อันซีรีบบอกหมิงเย่
“ยิ่วเชียนไปหาหัวหน้าของเขาแล้ว คุณจะนั่งรอเขาที่โซฟาก่อนมั้ยคะ”
หมิงเย่ได้ยินอันซีเรียกชื่อยิ่วเชียนอย่างสนิทสนมก็แปลกใจ
“ยิ่วเชียนเหรอ”
หมิงเย่นึกถึงเรื่องที่เยี่ยนเจ๋อเล่าให้ฟัง
“เธอเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง คิดว่าเมื่อยิ่วเชียนแก้ไขความเสียใจของรักครั้งแรกได้แล้วเขาจะกลับมาหาเธอ”
หมิงเย่คิดๆ
“ดูเหมือน เขาคือผู้หญิงที่เซี่ยยิ่วเชียนให้ความสนใจ”
หมิงเย่ยิ้ม ก่อนกดโทรศัพท์
“ฮัลโหล รปภ. ฉันคือหัวหน้า ช่วยส่งคนขึ้นมาสองคน”
อันซีตกใจ “หัวหน้าเหรอ”

พนักงานหญิงออกมาหายิ่วเชียนที่หน้าห้อง
“ผู้อำนวยการเซี่ย”
“หัวหน้าล่ะ”
“หัวหน้าไปเอาข้อมูลที่ห้องคุณแล้ว ยังไม่ได้เจอกันเหรอคะ”
ยิ่วเชียนแปลกใจ

รปภ. 2 นายเดินเข้ามาหาหมิงเย่ในห้องทำงานของยิ่วเชียน
“เธอคนนี้ ทำตัวลับๆ ล่อๆ ในห้องผู้อำนวยการเซี่ย รีบเชิญเธอออกไป”
“นี่ ฉันไม่ได้ทำตัวลับๆ ล่อๆ นะ”
ยิ่วเชียนเข้ามาพอดี
“เกิดอะไรขึ้น”
“เมื่อกี้เธอมุดอยู่ใต้โต๊ะ ไม่รู้กำลังทำอะไร ถ้าเขาใส่เครื่องดักฟังในห้องของเธอ ความสูญเสียของบริษัท ใครจะรับผิดชอบ”
“ฉันกำลัง”
อันซีจะอธิบาย แต่ยิ่วเชียนพูดขึ้นก่อน
“ไม่ว่าเธอทำอะไรอยู่ในห้องผม ผมเชื่อว่า เธอไม่มีทางทำเรื่องไม่ดีแน่นอน”
อันซียิ้มนิดๆ ที่ยิ่วเชียนเข้าใจเธอ
“เธอสองคนออกไปก่อน”
หมิงเย่บอกรปภ. แล้วหันมาถามยิ่วเชียน
“เดี๋ยวนี้ เธอกล้าพาคนนอกเข้ามาในบริษัทแล้วสินะ”
“ผมถูกเรียกให้เข้ามาในบริษัทในช่วงวันหยุดของผม ถ้าเธอไม่ควรปรากฏตัวอยู่ที่นี่ งั้นผม ก็ไม่ควรอยู่ที่นี่เหมือนกัน”
หมิงเย่ยิ้มๆ “เฮ่อ ข้อมูลล่ะ”
ยิ่วเชียนส่งข้อมูลให้หมิงเย่ หมิงเย่รับมาแล้วหันไปมองอันซี อันซีทำตัวไม่ถูก ยิ่วเชียนมองอันซีอย่างให้กำลังใจ หมิงเย่จะเดินออกไป แล้วชะงักนิดหนึ่งพูดกับยิ่วเชียน
“ที่แท้เขาเป็นรักแรกของเธอเหรอ ฉันมองเธอผิดไปจริงๆ”
ยิ่วเชียนมองหน้าอันซี รู้ว่าเธอสงสัยกับคำนี้อย่างมาก

อันซีเดินอึ้งๆ ออกมานอกบริษัท ยิ่วเชียนตามมาใกล้ๆ
“อย่าใส่ใจเลย เขาต้องการเล่นงานฉัน ไม่ใช่เธอ”
“เขาบอกว่าฉันเป็นรักแรกของคุณ ถ้างั้นตอนคุณเรียนมัธยม”
อันซีพูดแล้วชะงัก ยิ่วเชียนใจไม่ดีกลัวหญิงสาวจะหัวเราะเยาะ เมื่อรู้เรื่องของเขา อันซีหันมาจ้องหน้ายิ่วเชียน แล้วหลุดขำ
“ฮิๆๆ ก็ไม่เคยมีความรักน่ะสิ โธ่เอ๊ย มิน่าล่ะคุณถึงมีตารางวางแผนความรัก ผลคือ ตอนเรียนมหาลัยก็ไม่เคยมีแฟน เฮ้อ ฉันคิดว่าคุณจะเก่งเรื่องความรัก งั้นสายตาและรอยยิ้มน่าหลงใหลของคุณ ผลคือฉันคิดมากเกินไปเอง ประสบการณ์ความรักของคุณคือศูนย์เหรอ ฮิๆๆ”
ยิ่วเชียนถูกล้อ เดินงอนๆ ไป
“โธ่เอ๊ย อย่างอนสิ ผู้ชายไร้เดียงสา เราเป็นเพื่อนกันดีมั้ย ฮิๆๆ”
ยิ่วเชียนเดินงอนๆ ไปอีก แล้วไม่เห็นอันซีเดินเกาะแขนตามมา เขาคิดๆ
“ทำอะไร ยังไม่ตามฉันมาอีก”
ยิ่วเชียนหันไปมอง เห็นอันซีทำปากจู๋ ราวกับตกใจมาก
“น่าเกลียดมาก” ยิ่วเชียนบอก
อันซีเซ็งเปลี่ยนท่าใหม่
“งั้นเปลี่ยนท่าใหม่ แบร่”
อันซีทำหน้าผีหลอกเขา ยิ่วเชียนขำๆ เข้าไปจับมืออันซีไว้
“อย่าทำให้ตัวเองน่าเกลียด ฉันไม่ได้โกรธเธอเลย”
“โธ่ ไม่บอกแต่แรก ฉันอุตส่าห์ลงทุนขนาดนี้”
“เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย เมื่อกี้ คำพูดพวกนั้นของหัวหน้า”
“ไม่เป็นไร เขาไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน ถ้าเขาพูดอะไรแล้วฉันเสียใจงั้นฉันก็เหนื่อยแย่นะสิ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ “เวลานี้ต้องขอบคุณเธอมากที่ไม่ใจกว้าง ฮิๆๆ”
อันซีทำหน้าทะเล้นตลกๆ ใส่ยิ่วเชียน ชายหนุ่มขำออกมาทันที
“เย่ คุณยิ้มแล้ว ฉันชนะแล้ว เย่ฉันชนะแล้ว”
“เอาล่ะๆๆ”
“ฉันชนะแล้วๆ”
“ได้ๆ เธอชนะแล้วๆ”
“น่าจะยิ้มตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อกี้ไม่ตลกเลยเหรอ”
“อื่ม”
หย่งชิงจะเดินเข้าบริษัท เห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนิม มีความสุขมาก ยิ่วเชียนหัวเราะไม่หยุด
“ฮิๆๆ เอาล่ะพาฉันไปหาของกิน” อันซีบอก
“ไป”
ยิ่วเชียนพาอันซีออกไป หย่งชิงนึกถึงคำพูดของเยี่ยนเจ๋อ
“แต่ดูเหมือนรักแรกของเขาจะแข็งแกร่งมาก เธอไม่กังวลเหรอ”

หย่งชิงเชิดหน้า ทำเหมือนไม่แคร์

อ่านต่อหน้า 4

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่17 (ต่อ)

เยี่ยนเจ๋อถือกระเป๋าเดินทางลงมาจากชั้นบน เตรียมตัวกลับ เหม่ยเหวินเดินตามมา

“คุณแน่ใจนะว่าตรวจเช็คของทุกอย่างแล้ว”
“เช็คแล้ว”
“ดี”
เยี่ยนเจ๋อเดินลงมาเจอจื้อหลิงกับหยาเอิน ยืนรอส่งอยู่
“ว้าว มีสาวสวยสามคนมาส่งผม”
เหม่ยเหวินหัวเราะ
“ผมโชคดีมาก”
“เดิมทีมีสี่คน แต่อันซีไม่อยู่ ขอบคุณช่วงเวลาที่ดูแลเย่จือไห่ของเรา อย่าลืมกลับมาเที่ยวบ่อยๆ ล่ะ” เหม่ยเหวินบอก
จื้อหลิงเห็นด้วย “ใช่ค่ะๆ คุณต้องกลับมานะ พนักงานของบ้านพักเราจะต้อนรับคุณอย่างอบอุ่นแน่นอนค่ะ”
หยาเอินยืนเศร้าๆ จื้อหลิงรีบกระซิบ
“หยาเอิน เยี่ยนเจ๋อจะกลับแล้วไม่มีอะไรจะพูดกับเขาเหรอ”
หยาเอินหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างอาลัยอาวรณ์ เยี่ยนเจ๋อยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“ฉัน ช่วยคุณถือกระเป๋านะคะ”
“ไม่เป็นไรฉันถือเองดีกว่า”
หยาเอินก้มหน้างุด
“ฉันกลับก่อนนะ”
“ค่ะแล้วเจอกันใหม่นะ” เหม่ยเหวินบอก
“ดี บ๊ายบาย”
เยี่ยนเจ๋อเดินออกไป หยาเอินเศร้า จื้อหลิงหันมาบอกหยาเอิน
“มองอยู่ได้ ยังไม่รีบตามไปเอากุญแจอีก”
หยาเอินยิ้มๆ รีบเดินออกไป เหม่ยเหวินแปลกใจกับการกระทำของจื้อหลิง
“เอ๊ะ ไม่ถูกสิ ฉันคิดว่าเธอจะแย่งตามไปส่งเขาซะอีก วันนี้ยัยติงต๊องของเราหลับเหรอ”
“ใช่ วันนี้เขาพักผ่อน”
“หะ วันนี้เธอหยุดเหรอ”
“เฮ่อ” จื้อหลิงถอนหายใจ เพราะเข้าใจหยาเอิน

เยี่ยนเจ๋อเอากระเป๋าใส่ท้ายรถ หันมาเห็นหยาเอินเดินตามออกมาหน้าบ้าน
“มีอะไรอีกมั้ย”
หยาเอินก้มหน้า เยี่ยนเจ๋อเปิดประตูรถจะขึ้น แต่เห็นหยาเอินยังมองเขาอยู่ เขาจึงเดินมาหาสาวน้อย เชยคางหยาเอินยิ้มๆ
“ฉันเธอมองออกได้อย่างง่ายดาย ฉันจะบอกเธอตอนนี้เลย เธอต้องฟังให้ชัดเจนนะ เธอห้ามชอบฉันเด็ดขาด ฉันไม่ชอบดูแลใคร โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเธอ เพราะเธอจะซื่อสัตย์กับฉัน แต่ฉันไม่มีทาง สำหรับฉันแล้ว เธอคือตัวปัญหา”
หยาเอินเศร้า ก้มหน้านิ่ง เยี่ยนเจ๋อก็รู้ว่าเขาพูดแรงเกินไป แต่จำใจต้องพูด แล้วเขาก็หยิบหวีที่ซื้อมาจากร้านลุงอ้ายใส่ในมือหยาเอิน จับหัวหญิงสาวอย่างเอ็นดู
“ไปนะ”
เยี่ยนเจ๋อยิ้มให้ แล้วไปขึ้นรถ หยาเอินมองหวีในมือ จื้อหลิงเดินตามออกมา
“หยาเอินเก็บซ่อนไว้ไม่แสดงออกมา”
“เธอรู้เหรอ”
“ฉันสังเกตเห็นสายตาที่เธอมองเยี่ยนเจ๋อ เลยคิดว่า ทำไมมันคุ้นเคยอย่างนี้ เฮ่อ ถึงคิดได้ว่าจริงสิ เวลาชอบใครฉันก็ชอบมองเขาแบบนี้”
“จื้อหลิง”
“หืม”
“ความรู้สึกที่ชอบคนอื่นแต่ไม่ได้รับการยอมรับ มันเจ็บปวดอย่างนี้ใช่มั้ย”
“อื้ม แต่ว่า เธอรู้มั้ยว่าความรักสำคัญตรงไหน”
“ตรงไหนเหรอ”
“อารมณ์ความรู้สึกชอบใครสักคน มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก ถึงจะเป็นความรักข้างเดียวก็เถอะ อย่างน้อยเราก็ยังได้ชอบไม่ใช่เหรอ โชคดีกว่าพวกที่ตามหาไม่เจอเยอะเลย ดังนั้น ได้แค่ความรู้สึกแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้ว จริงมั้ย มา มารับรู้ความรู้สึกของความรักกัน หายใจเข้าลึกๆ ถอนหายใจ แล้วเข้าบ้านกัน”
จื้อหลิงเดินกอดพาหยาเอินเข้าบ้านไป

เยี่ยนเจ๋อมาพบหมิงเย่ที่ห้องทำงาน พลางพูดเรื่องยิ่วเชียน
“เซี่ยยิ่วเชียนกลับไปแก้ไขปัญหาความรักของเขาจริงๆ นี่เป็นข้อมูลที่ผมหามาได้ ไม่ต่างกับที่เขาให้คุณ นอกจากนี้เจ้าของบ้านพักก็คือจุดอ่อนของเขา”
เยี่ยนเจ๋อส่งแฟ้มข้อมูลให้ดู หมิงเย่เปิดแฟ้มแล้วชะงัก
“ฮิ บ้านพักหลังหนึ่ง เปิดในสถานที่เล็กๆ ลูน่ามาเรีย เธอ เธอแซ่อะไร”
“ใครครับ”
“เจ้าของบ้านพักคนนั้น”
“อ้อ แซ่อัน ชื่ออันซีครับ”
หมิงเย่ชะงัก เยี่ยนเจ๋อชี้รูปอันซีให้ดู
“คือเธอคนนี้”
หมิงเย่ดูรูปอันซีแล้วนึกถึงตอนที่เจออันซีในห้องทำงานยิ่วเชียน เธอแทบคุมสติไม่อยู่ ตื่นเต้น ตกใจมาก แต่พยายามควบคุมอารมณ์
“พ่อของเธอล่ะ”
“พ่อของอันซีเหรอครับ เสียชีวิตแล้ว”
หมิงเย่ตกใจมาก แต่พยายามเกลื่อนสีหน้าให้เป็นปกติ
“อ้อ งั้นก็หมายความว่า เธอ ดูแลบ้านพักคนเดียวใช่มั้ย”
“ใช่ครับ”
เยี่ยนเจ๋อมองหน้าหมิงเย่อย่างแปลกใจ พลางคิด
“ฉันไม่เคยพูดถึงเรื่องพ่ออันซี เขารู้ได้ไงว่าอันซีดูแลบ้านพักคนเดียว”
เยี่ยนเจ๋อยิ่งคิดยิ่งสงสัย เขาเดินออกมาจากห้องหมิงเย่ ตรงไปที่ห้องห้องหนึ่ง ค้นหาเอกสารบางอย่างมาดู คิดเรื่องราวต่างๆ ไปมา
ในขณะที่หมิงเย่หมกตัวอยู่ในห้องทำงาน ปิดผ้าม่านทุกด้าน ถอนหายใจเครียด เดินไปมาอยู่ภายในห้อง พึมพำกับตัวเอง
“คิดไม่ถึงว่า อันติงหยวนจะจากไปแล้ว”
หมิงเย่น้ำตารื้น เสียใจ เธออ่านประวัติของบ้านพักที่เขียนลงบนเว็บไซต์
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคู่รักคู่หนึ่ง มาเจอกันในหมู่บ้านภูล่าน ผู้หญิงพูดว่า เฮ่อ ที่นี่ มีทะเลสีครามที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน มีดวงจันทร์สวยที่สุด และสักวันหนึ่ง เธอจะอยู่ท่ามกลางแสงของความงาม และใช้ชีวิตวัยชราที่นี่ แต่จู่ๆ วันหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นก็ขาดการติดต่อ ผู้ชายกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่หมู่บ้านภูล่าน เพื่อสร้างบ้านพัก เย่จือไห่ของเขาสองคน การรอคอยของเขาจึงเริ่มขึ้น เฝ้ารอวันที่ผู้หญิงจะกลับมาอีกครั้ง เฮ่อ ไม่คิดเลยว่า เขายังจำคำพูดที่ฉันพูดได้”
หมิงเย่ร้องไห้อย่างหนัก

ยิ่วเชียนเดินลงมาจากข้างบน อึ้งไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า พลางคิด
“นี่เหรอ ภาพจินตนาการโลกของเราสองคน”
ยิ่วเชียนมองอันซีนั่งเล่นหมากรุกอยู่กับไป๋คังสองคน
“งั้นฉันต้องระวังตัวมากๆ” อันซีบอกไป๋คัง
“อื้ม”
“ฉันจะไปข้างหน้าอีกก้าวดีกว่า”
“ต้องขอโทษด้วยนะ ฮิๆๆ”
“คุณปู่”
“เสียท่าแล้ว นี่ เดินบนสนามรบเธอต้องระวังตัวให้ดีสิ เธอเป็นคนตรงเกินไป”
ยิ่วเชียนแอบมองยิ้มๆ อันซีแกล้งทำหน้าเศร้า
“โธ่เอ๊ย หมากรุกของฉันแพ้แล้ว”
“ฮิๆๆ”
ยิ่วเชียนเดินมาลงนั่งเบียดข้างๆ อันซี
“ฉันช่วยเธอเอง”
อันซีขยับๆ ตัว
“ฉันจะไปเอาเก้าอี้”
“ทำไม”
“นั่งสองคนมันเบียดกันเกินไป”
เสียงออดหน้าบ้านดังพอดี
“ฉันไปเปิดประตูเองค่ะ”
อันซีลุกออกไป ไป๋คังยิ้มๆ
“ผู้หญิงเขาอายน่ะ”
ยิ่วเชียนยิ้มนิดๆ อันซีเปิดประตูเห็นเยี่ยนเจ๋อยืนอยู่
“เยี่ยนเจ๋อ คุณมาที่นี่ได้ไง”
“ผมมามอบตัวไงล่ะ ยิ่วเชียน ขอโทษนะ”
ยิ่วเชียนก้มหน้า ไม่ยอมสบตาอันซี
“ยิ่วเชียนเหรอ ตอนอยู่บ้านพักคุณเรียกเขาอย่างนี้เหรอ”
เยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ เดินเข้าไปทักไป๋คัง
“คุณปู่ สุขภาพเป็นไงบ้างครับ”
“สบายดี”
“คุณปู่เหรอ พวกคุณรู้จักกันนี่”
“นายคงไม่คิดจะปิดบังตลอดไปใช่มั้ย เพื่อนรัก”
อันซีงงๆ “เพื่อนรักเหรอ”
ยิ่วเชียนหน้าเจื่อนๆ เมื่อเรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผย
“ไม่เพียงเท่านี้ ผมยังเป็นพี่ชายของหูหย่งชิง”
“คุณเป็นพี่ชายของคุณหู แล้วทำไมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันด้วย”
อันซีมองเอาเรื่อง ยิ่วเชียนรีบปราม
“เดี๋ยวก่อนนะ ฉันไม่ได้แกล้ง ฉันแค่ไม่ได้บอกความจริงเท่านั้น”
“พวกคุณร่วมมือกันใช่มั้ย ตอนอยู่บ้านพัก ฉันหลบหน้าคุณ เขาก็ปรากฏตัว ฉันออกไปกับเขาคุณก็รู้น่ะสิ”
“เราไม่ได้ร่วมมือกันนะ”
ยิ่วเชียนพยายามอธิบาย
“ตอนที่อยู่ร้านสูท พวกคุณสมรู้ร่วมคิดกันใช่มั้ย คุณทำเป็นไม่สนใจฉัน ฉันนี่มันหลอกง่ายจริงๆ เซี่ยยิ่วเชียน คุณนี่มันร้ายมาก”
อันซีผลุนผลันจะเดินออกไป ยิ่วเชียนร้องเรียก แล้วรีบลุก
“เอ่อ นี่ อันซี โอ๊ย”

ยิ่วเชียนรีบร้อนจะตามไป ทำให้เดินชนกับขอบโต๊ะจังๆ 

อ่านต่อตอนที่ 18
กำลังโหลดความคิดเห็น