อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่21
อันซีสวมแหวนนั้นให้ยิ่วเชียน ชายหนุ่มอึ้งนิ่งงันอยู่อย่างนั้น เขานึกไปถึงวันที่คุยกับอันซีที่ร้านทำแหวน
“ถ้าวันหนึ่ง เธอพบว่าตัวจริงของฉัน ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอเห็น และอย่างที่เธอคาดหวัง หวังว่าเธอจะเห็นคำว่าเริ่มต้นในแหวนนี้ แล้วให้โอกาสฉัน ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”
อันซีสวมแหวนให้ยิ่วเชียน กุมมือเขาไว้อย่างนุ่มนวล
“ฉันไม่ชอบวิธีการจีบสาวแบบนี้ของคุณเลย ฉันต้องการเซี่ยยิ่วเชียนคนเดียว ตัวจริงของคุณ ตัวตนของคุณ ดีกว่าที่ฉันคิดไว้มากมาย จริงๆ”
ยิ่วเชียนซาบซึ้ง ดึงตัวอันซีเข้ามาประทับจูบอย่างนุ่มนวลละมุนละไม อันซีจูบตอบด้วยความรักที่มีให้เช่นกัน
คืนนั้น ยิ่วเชียนพาอันซีเข้ามาในบ้าน อันซีเดินเข้ามาอย่างอายๆ
“งั้น ฉันขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะ”
ยิ่วเชียนรั้งแขนอันซีไว้
“นี่ จะไปไหน”
“คุณ เห็นแก่ฉันที่ก้าวออกจากชีวิตที่จมปรักได้ คุณให้เวลาฉันอยู่เงียบๆ สักครู่ได้มั้ย”
อันซีก้มหน้าอายๆ
“เธอทำเพื่ออะไร” ยิ่วเชียนถามยิ้มๆ
“ฉันอายนี่”
“อะไรนะ” ยิ่วเชียนไม่เข้าใจ
“ฉันอายไม่เข้าใจรึไง”
“เป็นยังไงเหรอ”
“ก็อายไง คุณไม่รู้เหรอ”
“การชอบใครสักคนต้องอายด้วยเหรอ ดูเหมือนต้องเรียนรู้ความไร้ยางอายด้วย ให้เวลาฉันเรียนรู้หน่อยนะ”
“หืม”
ยิ่วเชียนมองไปรอบๆ บ้าน
“ตอนนี้ มีแค่เราสองคนพอดี เรามาเรียนรู้กันเถอะ”
ยิ่วเชียนจับตัวอันซีมายืนพิงผนัง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ จะประทับจูบ อย่างที่รอคอย ทันใดนั้นเสียงไป๋คังก็ดังเข้ามา
“ต้าอี๋ อาหารร้านนี้ไม่เลว อร่อย ๆ”
ยิ่วเชียนได้ยินเสียงไป๋คัง ก็ชะงักจูบ
“ผมว่าแล้วคุณปู่ต้องชอบ” ต้าอี๋บอก
ไป๋คังเห็นยิ่วเชียนกับอันซีใกล้ชิดกันก็เข้าใจทันทีว่ามาผิดเวลา
“ต้าอี๋ เราออกไปข้างนอกดีกว่า ไปเถอะๆ”
“เดี๋ยวค่ะคุณปู่ เข้ามานั่งพักก่อนค่ะ”
“อ้อ”
“คุณปู่ มานั่งก่อนค่ะ”
“อืม”
ยิ่วเชียนเดินเข้ามาเล่นงานต้าอี๋ กระซิบต่อว่า
“นายนี่มันไม่ได้เรื่องเลย ฉันจ้างนายพาคุณปู่ไปกินอาหารฝรั่งเศส ต้องกินนานๆ ไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ แต่เราไปนานแล้วนะครับ”
ยิ่วเชียนจ้องหน้าดุ ต้าอี๋หน้าเสีย ในขณะที่ไป๋คังหันมาพูดกับอันซี
“รู้สึกว่าวันนี้อารมณ์ของเธอกับยิ่วเชียนไม่เหมือนวันอื่นนะ”
ยิ่วเชียนได้ยินปู่พูดก็ยิ้มเขินๆ
“ไม่เหมือนตรงไหนคะ”
“รู้สึกเหมือนกำแพงระหว่างเธอกับยิ่วเชียนหายไปหมดแล้ว ดูสิ ในมือเขายังสวมแหวนด้วย”
“เป็นเพราะว่า เราเข้าใจกันแล้วค่ะ คุณปู่ ฉันกับยิ่วเชียนเมื่อสิบปีก่อน”
อันซียังพูดไม่จบ ยิ่วเชียนเรียกไว้ได้ทัน
“อันซี เอ่อ คุณปู่ ไม่มีอะไรครับ เพียงแต่เมื่อสิบปีก่อน เราเคยเจอกันที่หมู่บ้านภูล่าน ไม่ได้มีอะไรพิเศษ”
“รู้จักกันเมื่อสิบปีก่อนแล้ว ถือเป็นพรหมลิขิตนะ ทำไมไม่ให้อันซีพูดล่ะ ยิ่วเชียน แกไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เลย”
“ขอแค่อนาคตราบรื่นก็พอแล้วครับ”
อันซีมองยิ่วเชียนอย่างแปลกใจ จนได้มีโอกาสได้อยู่กันตามลำพัง ยิ่วเชียนจึงรีบอธิบาย
“อันซี เรื่องบ้านเก่า อย่าเพิ่งบอกให้คุณปู่รู้ เพราะบ้านหลังนั้น สำหรับคุณปู่แล้วมีความหมายมาก ถ้าคุณปู่รู้ว่าเธอคือผู้หญิงคนนั้น ท่านอาจจะยอมรับไม่ได้ อนาคตของเราต้องดีแน่นอน เรื่องไหนไม่สบายใจ ก็อย่าบอกให้ท่านรู้ดีกว่าเนอะ”
อันซีหน้าเจื่อน
ตอนเช้า อันซีทอดแฮมพลางฮัมเพลงไปด้วย ยิ่วเชียนเดินเข้ามายื่นจานเปล่าให้
“มอร์นิ่ง”
อันซียิ้มหวานให้
“มอร์นิ่ง คุณตื่นเช้าจังเลย ไม่นอนต่อล่ะ”
“ถ้านอนต่อก็ไม่ได้”
ยิ่วเชียนจะเข้าไปกอดอันซีจากด้านหลัง แต่ชะงักเพราะอันซีหันมายื่นจานแฮมให้
“ช่วยยกไปเสิร์ฟหน่อย”
ยิ่วเชียนเดินมาที่โต๊ะ เห็นอาหารเช้าเต็มโต๊ะ หน้าตาน่าทานก็ยิ้มพอใจ
“ว้าว”
“ฉันไปเรียกคุณปู่มากินข้าวเช้า”
ยิ่วเชียนนึกได้คว้ามืออันซีไว้
“เอ่อ เดี๋ยวก่อน ปล่อยให้คุณปู่นอนต่อเถอะ”
“อาหารเช้าเก็บไว้นานจะเย็นนะ”
“แต่ถ้าเธอไป ฉันจะเย็นมากกว่า”
ทั้งสองขำในมุกเชยๆ ของยิ่วเชียน ยิ่วเชียนหยิบแก้วนมมาดื่ม อันซีเห็นนมเลอะปากเขาก็ขำ
“เด็กน้อย มีหนวดเคราแล้ว รอเดี๋ยวนะ”
อันซีหยิบกระดาษมาเช็ดปากให้ยิ่วเชียน ชายหนุ่มยิ้มมีความสุข แล้วแกล้งดื่มนมให้เลอะปากอีก
“เฮ่อ คุณนี่มันแกล้งกันชัดๆ เลย เด็กน้อย เช็ดเองแล้วกัน ฉันไปเรียกคุณปู่”
ยิ่วเชียนรีบคว้ามืออันซีไว้
“นี่ ไม่ได้ แฟนเช็ดให้หน่อย”
อันซียิ้มๆ ในความเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่ม
“ซนจริงๆ”
อันซีเช็ดปากให้ยิ่วเชียน แล้วเผลอมองริมฝีปากชายหนุ่มเนิ่นนานอย่างลืมตัว
อ่านต่อหน้า 2
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่21 (ต่อ)
อันซีตกอยู่ในภวังค์ยื่นหน้าเข้าไปจะจูบปากยิ่วเชียน แต่รีๆ รอๆ เพราะเขินอาย ยิ่วเชียนขำ
“เร็วหน่อยสิ ฉันกำลังเรียนรู้ความไร้ยางอาย”
อันซีเขินๆ
“ฮิ นั่งได้แล้ว”
“ไมได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มก่อน ดูสิ หน้าเธอแดงแล้ว กระพริบตา กัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวแล้ว”
ทั้งสองต่างยื่นหน้าเข้าหากัน หมายจะจูบอย่างดูดดื่ม ทันใดนั้นเสียงกระแอมของไป๋คังดังขึ้น ทั้งสองชะงักรีบผละออกจากกัน ยิ่วเชียนยิ้มเห็นใจตัวเองที่ถูกขัดจังหวะ ในขณะที่อันซีเขินอายมาก รีบหันไปพูดกับไป๋คัง
“คุณปู่ ใส่แว่นดำจะออกไปข้างนอกเหรอคะ”
“ไม่ใช่ ในบ้านเราแสงมันสว่างเกินไป ฉันต้องใส่แว่นบังหน่อย”
“ผมคิดว่าไม่นะ ผมคิดว่า ยังสว่างกว่านี้ได้อีก”
ยิ่วเชียนหันไปยิ้มกว้างแล้วจับมืออันซี อันซีค้อนๆ
“หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอจะตัวติดกับยิ่วเชียน แล้วส่งยิ่วเชียนไปทำงาน”
“ไม่มีทางหรอกค่ะ”
“ฉันรับรองว่าต้องใช่แน่นอน”
“ไม่มีทางค่ะ”
“ต้องแน่นอน”
“เอาล่ะค่ะคุณปู่ ฉันชงชาอัลมอนด์ไว้ให้ ฉันไปยกมาให้นะคะ”
อันซีเดินออกไป ยิ่วเชียนยิ้มๆ มองตามอย่างแสนรัก ไป๋คังเดินมานั่งใกล้ๆ ยิ่วเชียน พลางถอดแว่น
“ฮิๆๆ นี่ บ้านหลังนี้มีอันซี ทำให้การเริ่มต้นของทุกวันมีพลัง ตอนนี้เธอสองคน ไม่มีปัญหากันแล้วใช่มั้ย คบกันได้ราบรื่นแล้วเหรอ”
“ครับ”
“โธ่เอ๊ย ไม่รู้เป็นเพราะฉันแก่รึเปล่า ฉันอยากกลับหมู่บ้านภูล่าน อยากกลับไปอยู่บ้านหลังเก่าของฉัน ที่นั่นมีความทรงจำมากมายของฉันกับย่าแก พ่อแม่ของแก แล้วก็แกด้วย”
อันซีเดินมาได้ยินพอดี รู้สึกผิด ยิ่วเชียนยิ้มให้อย่างเห็นใจ
ไห่โค่กับลูกน้องพากันมาที่หน้าบ้านยิ่วเชียน
“ลูกพี่ ถึงแล้ว” เสี่ยวหูชี้บอก
“แน่ใจนะว่าบ้านหลังนี้”
“แน่ใจ จากการตรวจสอบของเราแล้ว ไต้หวันคนแซ่เซี่ยมีหมื่นหกพันคน ซึ่งทั้งหมดนี้มีคนชื่อเซี่ยยิ่วเชียน” ต้าหูยังพูดไม่จบ เสี่ยวหูพูดต่อ
“96 คน”
“เยอะขนาดนั้นเลย เป็นชื่อตลาดรึไง”
“นั่นสิ แค่ในไทเปก็มี 70 คนแล้ว จากการที่ตามสำรวจทุก 24 ชั่วโมง ภายในหนึ่งอาทิตย์แล้ว”
“ที่นี่ คือบ้านของเซี่ยยิ่วเชียน”
“น่าจะใช่”
“หลังไหนกันแน่”
“ใช่ทั้งหลังเลย”
“ดี ไอ้บ้ากามหลอกอันซีมาที่นี่ ไม่รู้ว่าทำอะไรอันซีรึเปล่า”
ไห่โค่เริ่มจิตนาการว่ายิ่วเชียนแต่งตัวกวนๆ เดินออกมาจากบ้าน อันซีหิ้วของวิ่งตามมา
“อานะตะ โชะโตะมาเตะ”
“อันตูตู บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาส่งฉัน”
“อานะตะ คุณลืมสิ่งนี้ค่ะ อานะตะ รับปากฉัน คุณต้องกลับมาอย่างปลอดภัย”
“อันตูตู มีเครื่องรางที่เธอให้มา ถึงอันตรายยังไง ฉันต้องกลับมาหาเธอให้ได้”
“อ้อ เดี๋ยวค่ะ แจ็คเก็ตนำโชคของคุณ”
“อันตูตู”
“อานะตะ”
“อันตูตู”
“อานะตะ”
“จุ๊บๆ”
ไห่โค่นึกมาถึงตรงนี้ก็ไม่พอใจ
“จุ๊บๆ นั่นมันของฉัน”
“หะ” ต้าหูงง
“เครื่องรางก็เป็นของฉัน แจ็คเก็ตก็เป็นของฉัน ใช้ไม้เบสบอลของฉัน ต้องเห็นดีกันแน่ ได้ ไม่มีปัญหา ไอ้บ้ากาม ฉันจะสั่งสอนนายเอง ไป”
ไห่โค่จะพาพวกเดินเข้าไปที่บ้านยิ่วเชียน พลันเห็นยิ่วเชียนเดินออมาจากบ้าน ไห่โค่รีบหลบหลังรถคันหนึ่ง ก็เจอหย่งชิงนั่งหลบอยู่ก่อนแล้ว
“ขยับไปหน่อยสิ”
“ทำไมฉันต้องหลบด้วย” หย่งชิงถามตัวเอง
“พูดเบาๆ หน่อย” ไห่โค่ต่อว่า
“นี่ ลูกพี่ ๆ อันตูตูของลูกพี่ออกมาแล้ว”
หย่งชิงรีบหลบดู อันซีวิ่งถือกระติกชาโสมออกมาให้ยิ่วเชียน
“ยิ่วเชียน เซี่ยยิ่วเชียน ชาโสม อย่าลืมดื่มล่ะ”
ยิ่วเชียนหน้าบาน
“ขอบคุณ”
“ยิ้มอะไร” ไห่โค่โกรธ พูดพร้อมกับหย่งชิง
“ห้ามยิ้ม”
ทั้งสองหันมามองหน้ากันอึ้งๆ
“เอาล่ะ ถ้าฉันยังไม่เข้าไปคุณปู่ต้องล้อฉันแน่” อันซีบอกยิ่วเชียนอย่างเขินๆ
“ฝึกฝนความไร้ยางอายแบบฉันสิ”
ยิ่วเชียนยื่นแก้มให้อันซี
“โธ่เอ๊ย”
“เร็วๆ ไม่งั้น จะยิ่งทำให้ฉันไร้ยางอาย และเมื่อฉันไร้ความยางอาย ก็จะกลายเป็นสัตว์ป่า”
ยิ่วเชียนยังพูดไม่ทันจบ อันซีหอมแก้มชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“หอมบ้าอะไร” ไห่โค่สบถ
“อย่าหอมนะ” หย่งชิงพูดพร้อมไห่โค่
อันซีหันหลังให้ยิ่วเชียนอายๆ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหา
“สัตว์ป่าก็สัตว์ป่าสิ”
ยิ่วเชียนเข้าไปจูบปากอันซีทันที หย่งชิงรับไม่ได้เผลอดึงแขนไห่โค่ด้วยความโกรธโดยไม่รู้ตัว ยิ่วเชียนจูบกับอันซีอย่างดูดดื่มก่อนจะผละออก แล้วแยกตัวไปทำงาน อันซียิ้มๆ ไห่โค่โกรธ จะลุกขึ้นแต่ลุกไม่ได้ เพราะหย่งชิงรั้งแขนเขาไว้แน่น
“เจ็บ ทำไมเธอหยาบคายอย่างนี้เนี่ย ฉันเจ็บนะ”
หย่งชิงไม่สนใจ เดินออกไป ไห่โค่เดินไปขวางไว้
“นี่ นี่ ๆ เดี๋ยวก่อน เธอเป็นใคร อ๋อ เธอคือผู้หญิงที่ถูกเซี่ยยิ่วเชียนทิ้งเหรอ”
“ทิ้งเหรอ ใครถูกทิ้งเล่า ดูการแต่งตัวเชยๆ ของแกแล้ว อย่าบอกนะว่าแก เป็นแมลงวันที่ไล่ต่อมอันซีมา”
“ฉันเนี่ยนะเป็นแมลงวัน”
“นี่ๆ รู้ไว้ซะด้วย ลูกพี่เป็นหนุ่มหล่อที่สุดในหมู่บ้านภูล่านนะ”
“หนุ่มหล่อเหรอ ฉันว่าหมู่บ้านภูล่านคงไม่มีคนแล้วต่างหาก คนระดับอย่างแกเหรอ คิดจะเป็นคู่แข่งของยิ่วเชียน จะอับอายขายหน้าเปล่าๆ”
“อับอายขายหน้า”
“นี่ คุณผู้หญิงมากเกินไปแล้วนะ” ต้าหูไม่พอใจ ไห่โค่ห้ามไว้
“นี่ๆๆๆ วันนี้ฉันมาด้วยใจกุศล จะไม่ถือโทษโกรธเธอ ฉันเป็นคนจิตใจดี วันนี้ฉันจะมาบอกเซี่ยยิ่วเชียนว่า ตอนที่อันตูตูอายุ 18 เขาได้พบคนสำคัญที่สุดในชีวิตแล้ว ชาตินี้เซี่ยยิ่วเชียนไม่มีทาง”
“คนคนนั้นก็คือเซี่ยยิ่วเชียน”
“สู้เขาได้แน่นอน”
ไห่โค่ชะงัก
“เมื่อกี้เธอว่าไงนะ”
“ฉันบอกว่าคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ คือเซี่ยยิ่วเชียน พวกเขารู้จักกันตั้งแต่มัธยมแล้ว และตอนนี้ พวกเขาก็ยอมรับกันแล้วด้วย แกไม่รู้เหรอ”
“เธอบอกว่า คนคนนั้น คือไอ้บ้ากามเหรอ”
“อือฮึ”
ไห่โค่อึ้ง ล้มทั้งยืน มือไปคว้าสายกระเป๋าของหย่งชิงจนสายขาด
“ลูกพี่ ลูกพี่ ระวัง”
“ลูกพี่ ลูกพี่ ระวัง ลูกพี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
หย่งชิงเซ็งที่กระเป๋าเสียหาย
“คนบ้านนอกก็บ้านนอกวันยังค่ำไร้มารยาทสิ้นดี เฮ่อ”
หย่างชิงเดินออกไป ไห่โค่นั่งอึ้งกับพื้น
“กล้าหอมแก้มต่อหน้าฉัน โทร.ไปหาคนที่ต้องการซื้อบ้านของไอ้บ้ากาม”
“ครับ”
ลูกน้องช่วยกันพยุงไห่โค่ลุกขึ้น
อ่านต่อหน้า 3
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่21 (ต่อ)
เยี่ยนเจ๋อเข้ามาหาหมิงเย่ที่ห้องทำงาน
“หัวหน้า เรียกผมเหรอครับ”
“อืม ตอนเธอไปหมู่บ้านภูล่าน ได้รู้จักกับแฟนของยิ่วเชียนแล้ว ฉันหมายถึงคนชื่ออันซีน่ะ เธอรู้จักแล้วใช่มั้ย”
“ใช่ครับ”
“เธอเป็นคนยังไงเหรอ”
“เธอเหรอ เธอร่าเริง จิตใจดี ไม่ถือโทษโกรธใคร”
“แค่นี้เหรอ”
“อันซีไม่ใช่ผู้หญิงที่จะเปรียบกับคำพูดไม่กี่ประโยคได้ แม้เธอจะดูธรรมดามาก แต่ชีวิตเธอมีสีสัน เธอรับผิดชอบบ้านพักคนเดียว และยังดูแลคนจำนวนมาก ดังนั้นผมคิดว่าที่เซี่ยยิ่วเชียนชอบเธอ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร”
“อ้อ”
“พูดตามตรง แม้แต่ผมยังหลงเสน่ห์ของเธอเลย”
หมิงเย่มองหน้าเยี่ยนเจ๋อยิ้มๆ
“เธอช่วยนัดเขาออกมาทานข้าวหน่อย ฉันแค่อยากรู้ว่า เขาเป็นคนยังไงถึงทำให้ยิ่วเชียนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”
“ครับ ผมทราบแล้ว”
อันซีคุยโทรศัพท์กับพวกของเหม่ยเหวิน
“โธ่เอ๊ยพวกเธอจะถามมากไปทำไม ไม่มีอะไรมากหรอก ไม่มีอะไรต้องเล่าด้วย”
“หยุดเลย เมื่อวานไม่โทรรายงานฉัน วันนี้ต้องให้ฉันโทรถามอีกนะ” เหม่ยเหวินต่อว่า
จื้อหลิงเห็นด้วย ”นั่นน่ะสิ เธอนี่ไม่ได้เรื่องเลย”
“ใช่อันซี เธอไม่ต้องมาโกหกหรอก เราอยากรู้อยากเห็นมาทั้งคืนแล้วเนี่ย” หยาเอินสารภาพ
“ก็ได้ๆ พวกเธอนี่จริงๆ เลย คนอื่นจะกินซุป พวกเธอก็โวยวาย”
ทั้งสามคนหัวเราะ
“เธอพูดภาษาจีนกลางเหรอ” จื้อหลิงแซว
“เธอพูดภาษาคนได้มั้ย” เหม่ยเหวินแหย่
“เอาล่ะ เมื่อคืนนี้ทั้งคืน ยิ่วเชียนเห็นฉันเป็นนางเอกในละคร พอใจรึยัง” อันซีเล่าอายๆ
“เล่นบทบู๊มั้ย จูบรึยัง จูบรึยัง ฮิๆๆๆ” ทั้งสามถามพร้อมกัน
อันซีขำ “โธ่เอ๊ย พวกเธอถามอะไร ไม่เห็นเข้าใจเลย”
“ว่าไงนะเธอว่าไงนะ อ๋อรวบหัวรวบหางเหรอ เอ่อ” จื้อหลิงอำ
“ดุเดือดมากเลยเหรอ” หยาเอินแกล้งถาม
“ว่าไงนะเธอกระโจนเข้าไปเหรอ” เหม่ยเหวินแซว
“โธ่เอ๊ยหยุดเหลวไหลได้แล้ว เมื่อคืนไม่มีอะไร ยิ่วเชียนจูบฉันสองครั้ง”
“อ๋อ”
“พวกเธอนี่บ้าจริงๆ ฉันไม่คุยกับพวกเธอแล้ว วางสายแล้วนะ”
“คืนนี้อย่าลืมโทรมานะ” เหม่ยเหวินสั่ง
“จุ๊บๆ” จื้อหลิงร่ำลา
“จุ๊บๆ”
อันซีวาสงสายพลันมีสายเยี่ยนเจ๋อโทรมาพอดี
“ฮัลโหลเยี่ยนเจ๋อ กินข้าวเหรอ ตอนนี้ ได้สิ”
อันซีเปิดประตูร้านอาหารเข้ามา เยี่ยนเจ๋อดักรออยู่ เข้ามาทัก
“อันซี”
“เอ๊ะ เยี่ยนเจ๋อ”
อันซีเดินมาที่โต๊ะอาหาร เห็นหมิงเย่นั่งอยู่ เธอชะงักเล็กน้อย หมิงเย่มองการแต่งตัวของอันซีหน้านิ่งๆ จนอันซีประหม่าทำตัวไม่ถูก เยี่ยนเจ๋อหันมาบอก
“อันซี นั่งสิ”
“ค่ะ”
เยี่ยนเจ๋อเลื่อนเก้าอี้ให้
“ไม่ต้องค่ะ ฉันจัดการเองได้ ขอบคุณค่ะ”
“อันซี คุณผู้หญิงท่านนี้คือหัวหน้าของเรา”
“ฉันทราบค่ะ เราเคยเจอกันแล้ว”
“วันนี้นัดเธอออกมาทานข้าว เพราะต้องการขอโทษเธอ ที่ฉันเสียมารยาทกับเธอที่บริษัทวันนั้น ฮิ สั่งอาหารสิ”
พนักงานนำไวน์สองขวดเข้ามาถามหมิงเย่ เป็นภาษาอังกฤษ
“ขอโทษครับ กาแบร์เนโซวีญงหรือโซวีญงบล็องดีครับ”
หมิงเย่มองถามอันซี
“วิชวัน”
อันซีงงๆ ไม่รู้พูดอะไรกัน หันมองหน้าเยี่ยนเจ๋อ เยี่ยนเจ๋อเข้าไปกระซิบ
“คุณเลือกอย่างหนึ่งสิ เนื้อแดงกับไวน์แดง”
อันซีเข้าใจ หมิงเย่ทำหน้ารับไม่ได้ที่อันซีไม่เข้าใจ อันซีชี้ที่ไวน์ขวดหนึ่ง
“ดีซวัน แทงก์คิว”
“แทงก์คิว” อันซีพูดโต้ตอบอย่างประหม่า
พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ
“ตามสบายนะ” หมิงเย่บอก
อันซีหั่นเนื้อแล้วเกิดพลาด เนื้อลื่นออกจากมีด เธอตกใจ
“หะ ขอโทษค่ะ”
หมิงเย่มองอันซีอย่างตำหนิที่เธอหันเนื้อเสียงดัง เยี่ยนเจ๋อกระซิบ
“อันซีๆ เบาๆ หน่อย”
“เนื้อที่นี่กับที่บ้านพักฉันไม่เหมือนกัน หมักเร็วเกินไป”
หมิงเย่มองหน้า เยี่ยนเจ๋อยิ้มเข้าใจอันซี หมิงเย่มองๆ ก่อนถาม
“ปกติ เธอทำงานอะไร”
“ฉันเหรอคะ ปกติฉัน ฉันทำงานค่ะ”
“ฉันหมายถึงเวลาว่างของเธอ”
“ฉันไม่ค่อยมีเวลาว่างหรอกค่ะ แต่หลังจากฉันรู้จักยิ่วเชียน ก็พอมีเวลาว่างบ้าง อื่ม เล่นหมากรุกกับคุณปู่”
“เล่นดีมั้ย”
“เฮ่อ ฉันแค่เล่นเป็นเพื่อนคุณปู่เท่านั้นค่ะ”
“หมายความว่า เธอไม่เคยคิดจะทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวใช่มั้ย เธอชอบอ่านหนังสือมั้ย”
อันซีอึ้งๆ หมิงเย่มองหน้าสงสัย
“ฉันอ่านนิตยสารค่ะ”
“นิตยสารอะไร”
“ก็ บ้านพักสั่งจองอะไรฉันก็ดูอันนั้น”
“งั้นก็ไม่เชี่ยวชาญน่ะสิ เธอคงไม่มีสิ่งที่ชอบหรือถนัดสินะ”
อันซีส่ายหน้า ไม่รู้ เธอแก้สถานการณ์ด้วยการหยิบไวน์มาดื่ม
“เฮ่อ งั้นเธอช่วยบอกฉันที ยิ่วเชียนชอบเธอตรงไหน แล้วเธอมีข้อดีอะไร ที่สามารถทำให้ยิ่วเชียนชอบ”
“ชอบ เป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น”
“แล้วความรู้สึกใช้ดำรงชีวิตได้เหรอ”
“ไม่ได้เหรอ” อันซีตอบซื่อ
หมิงเย่เริ่มรับไม่ได้ ส่วนเยี่ยนเจ๋อฟังอย่างใช้ความคิด สงสารอันซี
“เฮ่อ เธอเคยคิดบ้างมั้ยว่า ต้องการใช้ชีวิตแบบไหน หรือชีวิตแบบไหนที่เธอต้องการ”
“ไม่ต้องคิดนี่ค่ะ ขอแค่ ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
หมิงเย่ทนต่อไปไม่ไหว น้ำตารื้นออกมา แต่พยายามปกปิดไม่ให้ใครเห็น เธอหันมาบอกเยี่ยนเจ๋อ
“เยี่ยนเจ๋อ ฉันมีงานด่วนที่บริษัท ฉันกลับก่อนนะ”
หมิงเย่เดินออกไปเลย อันซีหน้าเสียหันมาถามเยี่ยนเจ๋อ
“นี่ เขากำลังโกรธฉันใช่มั้ย”
“เขาเหรอ เขาคงไม่มีสิทธิ์โกรธคุณหรอก”
“ไหนเขาบอกว่าจะขอโทษฉัน แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ ดูเหมือนเขาไม่ค่อยพอใจฉันเลย จึ๊ อ้อ อย่าบอกนะว่าเขาอยากเห็นผู้หญิงที่ยิ่วเชียนคบอยู่ว่าเป็นยังไง เฮ่อ แต่พอเห็นฉันเป็นอย่างนี้ นี่ ฉันทำให้ยิ่วเชียนลำบากรึเปล่า”
“เรื่องนี้ ผมก็ไม่รู้”
เยี่ยนเจ๋อยิ้มน้อยๆ ให้อันซี ก่อนดื่มไวน์หน้าเครียด
หลังออกจากร้านอาหาร อันซีชวนเยี่ยนเจ๋อมาที่ห้องสมุด
“ทำไมทุกคนชอบถามฉันว่าฉันชอบอะไรด้วย มันจำเป็นด้วยงั้นเหรอ งานอดิเรกของคุณคืออะไร”
“คุณอยากฟังความจริงหรือเท็จล่ะ”
“ความชอบมีแบ่งแยกจริงกับเท็จด้วยเหรอ”
“มีสิ มีแน่นอน ผมชอบ ดนตรีแจ๊ส แล้วก็วู้ดดี้อัลเลนน์ ฟังดูมีศิลปะใช่มั้ย และผมก็ชอบถ่ายภาพ และโมโตจีพี ฟังดูดีใช่มั้ย”
“เฮ่อ คุณพูดความจริงมาดีกว่า”
เยี่ยนเจ๋อยื่นหน้าเข้าไปใกล้อันซี
“งานอดิเรกของผมคือ ชอบแย่งของรักของคนอื่น”
อันซีหันมามองหน้าชายหนุ่มช้าๆ ก่อนหัวเราะ
“เฮ่อ นี่เป็นเรื่องเท็จมากกว่า นี่ เสียแรงที่ฉันฟังคุณพูดอยู่ตั้งนาน เฮ้อ”
“คุณรู้ทันอีกแล้ว”
อันซีเปิดหนังสือไปมา พลางบ่น
“เฮ่อ ถ้าฉันมีนิสัยสนใจอะไรบ้างก็คงดี คงไม่ทำให้หัวหน้าของเขาไม่พอใจ”
“ไม่ต้องห่วง สักวันเขาจะต้องชอบคุณแน่ ผมรับรอง”
“เอ๋ คุณปลอบโยนเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“แน่นอนสิ เรามันหัวอกเดียวกันนี่”
“เฮ่อ”
“อันซี ถ้าต่อไป คุณต้องการคำปลอบโยนหรือความช่วยเหลือ มาหาผมได้ ผมยินดีช่วยคุณเสมอ”
“อืม”
อ่านต่อหน้า 4
อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see You again ตอนที่21 (ต่อ)
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อันซีหยิบมาดู
“เดี๋ยวนะคะ ฮัลโหลยิ่วเชียน”
“กินข้าวยัง”
“กินแล้วค่ะ ตอนนี้ ฉันอยู่ห้องสมุดกับเยี่ยนเจ๋อ”
“ทำไมถึงอยู่กับเยี่ยนเจ๋อได้ล่ะ”
“อ้อ เมื่อกี้เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย กลับไปแล้วฉันจะเล่าให้ฟัง”
ระหว่างนั้นต้าอี๋เดินเข้ามาหายิ่วเชียน
“ผู้อำนวยการ เมื่อเช้าเจียงไห่โค่ฝากข้อความเสียงไว้ เหมือนเขาจะตัดสินใจขายบ้านแล้ว”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ อันซีได้ยินก็ยิ้มกับข่าวดีนี้
“อันซี แล้วฉันจะเล่าให้เธอฟัง”
“ฉันได้ยินแล้ว บ้านของเจียงไห่โค่ ถ้าคุณซื้อกลับมาได้คุณปู่ต้องดีใจมาก”
เยี่ยนเจ๋อเงี่ยหูฟังอย่างสนใจทันที
“อื้ม เดี๋ยวนะ ต้าอี๋ โทรไปบอกเจียงไห่โค่นัดเขาที่ร้านกาแฟบริษัท”
“ครับ”
“อันซี งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
“บ๊ายบาย”
อันซียิ้มดีใจ หันมาเจอเยี่ยนเจ๋ออยู่ใกล้ๆ
“คุณกับยิ่วเชียนพัฒนาจนถึงขั้นซื้อบ้านแล้วเหรอ”
“เปล่าค่ะ อ้อ ไม่ใช่หรอก บ้านหลังนั้นเป็นบ้านเก่าของคุณปู่ยิ่วเชียน ยิ่วเชียนกับคุณปู่ไปจากภูล่าน 10 ปีแล้ว หลายปีก่อนเจียงไห่โค่ซื้อบ้านไว้ ตอนนี้เขาจะขายบ้านคืนให้ยิ่วเชียนแล้ว ดีมากเลยใช่มั้ย”
“แต่ว่า เจียงไห่โค่ไม่ชอบหน้ายิ่วเชียนไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่ไม่ได้ซื้อในนามของยิ่วเชียนหรอก ถ้ายิ่วเชียนซื้อบ้านหลังนี้กลับมาได้ คุณปู่ต้องดีใจมากแน่ ไปเถอะค่ะ”
อันซียิ้มดีใจ ในขณะที่เยี่ยนเจ๋อคิดอะไรบางอย่าง
ต้าอี๋วิ่งมาหาไห่โค่กับพวกที่ร้นกาแฟของบริษัทตามที่นัดไว้
“ขอโทษครับๆ ผมมาสายไปหน่อย”
เยี่ยนเจ๋อแอบอยู่มุมหนึ่ง พึมพำ
“จงต้าอี๋”
ขณะนั้นไห่โค่ฟุบอยู่ที่โต๊ะเพราะอาการเมาค้าง เสี่ยวหูถือกาแฟมาให้
“ลูกพี่ กาแฟแก้เมาค้างมาแล้วครับ”
“คุณเจียงเป็นอะไรครับ” ต้าอี๋ถาม
“เป็นอะไรเหรอ เมื่อเช้าโทรหานายก็ไม่รับสาย ลูกพี่ของเราอารมณ์เสีย ต้องไปนั่งดื่มเหล้าน่ะสิ” ต้าหูต่อว่า
“เอ่อ ขอโทษครับ เมื่อเช้าผมติดประชุมเลยไม่ได้รับสาย ดังนั้น พวกคุณจะขายบ้านแล้วใช่มั้ยครับ”
เยี่ยนเจ๋อยืนแอบฟังอยู่
“ใช่ๆ รีบเอาสัญญามาเซ็นเร็ว เซี่ยยิ่วเชียนแย่งอันตูตูของฉันไป ฉันจะขายบ้านหลังนี้ซะ”
“ก่อนอื่นพวกคุณเสนอราคามาก่อน เราถึงจะเซ็นสัญญาซื้อขายได้”
“เดี๋ยวก่อน”
ไห่โค่บอก ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เยี่ยนเจ๋อเดินตามไป พอไห่โค่เสร็จธุระมาล้างมือก็เห็นเยี่ยนเจ๋อยืนล้างมืออยู่ก่อนแล้ว เยี่ยนเจ๋อยิ้มให้
“อ้าว นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
“บังเอิญจริงๆ”
ไห่โค่นึกถึงวันที่เขาเคยเจอกับเยี่ยนเจ๋อ วันนั้นเยี่ยนเจ๋อตามไปขอซื้อที่กับเขา
“ถ้าจะมาซื้อที่ เอาไว้ค่อยคุยกันฉันไม่รู้จักนายสักหน่อย”
“ได้ ถ้ามีโอกาสฉันจะมาเยี่ยมใหม่”
“ไว้ค่อยคุยกันนะ”
“ขอบคุณ”
วันนั้นเป็นวันเดียวกับที่เยี่ยนเจ๋อมาถ่ายรูปที่ศาลเจ้า และเจออันซีเป็นครั้งแรก เมื่อทั้งไห่โค่และเยี่ยนเจ๋อต่างจำกันได้ ทั้งสองก็คุยกันอย่างคุ้นเคย
“บริษัทฉันอยู่ข้างบน”
“บริษัทนายอยู่ข้างบนเหรอ”
“อืม”
“จริงเหรอ แล้วที่ที่หมู่บ้านภูล่านว่ายังไง”
“ก็ดี จริงสิ เมื่อกี้ฉันเห็นนายคุยกับผู้ช่วยของเซี่ยยิ่วเชียน พวกนายรู้จักกันเหรอ”
“นายรู้จักเซี่ยยิ่วเชียนเหรอ เดี๋ยวนะ นายว่าเขาเป็นผู้ช่วยเซี่ยยิ่วเชียนเหรอ”
“ใช่ จงต้าอี๋คนนั้น เราอยู่บริษัทเดียวกัน”
“พวกนายอยู่บริษัทเดียวกันเหรอ ดี เซี่ยยิ่วเชียน ฉันรู้ทันมันแล้ว ขอบคุณมาก”
ไห่โค่เดินเออกไปด้วยความโมโห เยี่ยนเจ๋อยิ้มกระหยิ่มที่แผนสำเร็จ ฝ่ายไห่โค่เดินออกไปหาต้าอี๋ พร้อมฉีกสัญญาซื้อขายทิ้งทันที
“กลับไปบอกเจ้านายของแก ฉันไม่ขายบ้านแล้ว”
“ทำไมครับ”
“ทำไมเรอะ แกแกล้งโง่ใช่มั้ย เจ้านายของแกคือเซี่ยยิ่วเชียนใช่มั้ย เซี่ยยิ่วเชียนๆ เจ้าเล่ห์ที่สุด คิดจะใช้วิธีสกปรกให้ฉันขายบ้านให้เขา ไม่มีทาง กลับ”
ไห๋โค่เรียกลูกน้องกลับด้วยความโมโห เยี่ยนเจ๋อแอบมองอยู่อย่างพอใจ
ต้าอี๋รีบกลับมารายงานยิ่วเชียนเรื่องที่ไห่โค่ไม่ยอมขายบ้านให้
“เขาไม่ขายเหรอ”
“ใช่ครับ ตอนแรกยังบอกว่าจะขายเพื่อสั่งสอนผู้อำนวยการ แต่จู่ๆ เขาก็รู้ว่าคุณเป็นหัวหน้าของผม จากนั้นก็โกรธมากบอกไม่ขายแล้ว”
ยิ่วเชียนถอนใจ
อันซียกอาหารมาตั้งที่โต๊ะ ไป๋คังนั่งคุยอยู่ด้วย
“อันซี เธอรู้มั้ยว่าที่ดินว่างเปล่าตรงหน้าบ้านเก่าของฉัน ยิ่วเชียนชอบไปทำอะไร”
“ทำอะไรคะ”
“ตากปลาหมึก ตากถั่ว ปอกผลไม้ แล้วยังตากผักด้วย เขาสามารถหางานมาทำได้ตลอดเลยล่ะ”
“เฮ่อ ยิ่วเชียนเป็นคนบ้างานตั้งแต่เด็กจริงๆ”
“ใช่ ตอนเขาเป็นนักเรียน ฉันไม่ต้องการให้เขาทำงานหนักทุกวัน ดังนั้นมีวันหนึ่ง ก่อนเขาจะกลับมา ฉันวาดตารางสี่เหลี่ยมไว้ตรงนั้น เอ๊ะ เธอรู้มั้ยว่าเขาทำยังไง”
“ยังไงคะ”
“เขาเอางานทุกอย่างวางไว้ในตารางนั้น เขาบอกดีมากเลย ตารางเล็กไว้เก็บผลไม้ลูกเล็ก ตารางใหญ่เก็บผลไม้ลูกใหญ่”
“คุณปู่ไม่ได้บอกเหรอว่า ที่วาดตารางก็เพื่อต้องการให้เขาเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ”
“ฉันบอกแล้ว แต่เขาบอกว่า”
“เขาว่ายังไงคะ”
“เขาบอกเขาไม่ใช่เด็กแล้ว”
“เฮ้อ เซี่ยยิ่วเชียนนี่มัน”
“เฮ้อ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ยิ่วเชียนต้องการซื้อบ้านหลังนั้นกลับมาแล้ว เมื่อก่อนเขาไม่อยากกลับไป ฉันก็ไม่กล้าพูดถึง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว บ้านหลังนั้นเราตกแต่งใหม่ ก็สามารถย้ายกลับไปอยู่ได้เหมือนเดิมแล้ว”
“ครั้งนี้ เราต้องให้เขากระโดดตาราง”
“ถูกต้อง เฮ้อ คิดไม่ถึงเลยว่า ชีวิตนี้ฉันจะได้กลับไปบ้านเก่าอีก นอกจากฉันกับยิ่วเชียนแล้ว ยังมีเธอเพิ่มอีกคน ดีจริงๆ”
“ดีมากค่ะคุณปู่”
อันซีเดินเข้ามาในครัวยิ้มๆ พึมพำอย่างรู้สึกผิด
“ดีจังเลย ไม่งั้น ฉันต้องรู้สึกผิดจนตายแน่”
อันซีเดินไปที่โต๊ะอาหาร เห็นยิ่วเชียนกลับมาบ้านพอดี
“เอ๊ะ ยิ่วเชียน กลับมาแล้วเหรอคะ”
ยิ่วเชียนเดินหน้าเครียดเข้ามา ไป๋คังเดินไปหา
“ฉันได้ยินอันซีพูดแล้ว เมื่อไหร่จะได้บ้านคืน เป็นอะไร”
ยิ่วเชียนหันไปมองหน้าอันซี แล้วก้มหน้าเครียดๆ อันซีและไป๋คังรู้สึกว่าต้องมีอะไรแน่
“คุณปู่ ตอนนี้อยู่ระหว่างคุย ยังไม่แน่นอนครับ”
ไป๋คังเศร้า อันซีสงสารมาก
“ขอโทษค่ะ คุณปู่”
“เธอจะขอโทษฉันทำไม ช่างเถอะๆ มันผ่านมานานแล้ว ไม่ได้กลับก็ไม่เห็นเป็นไร อย่าคิดมากน่า กินข้าวๆ เฮ้อ”
ไป๋คังเดินไปนั่งซึมๆ ที่โต๊ะอาหาร อันซีกับยิ่วเชียนมองอย่างสงสาร
คืนนั้น อันซีนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง
“นักแต่งเพลงเมนเดล เป็นนักประพันธ์ชาวเยอรมัน มีผลงานเป็นที่รู้จักมากมาย ผลงานที่มีชื่อเสียงคือ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญค่ะ”
ยิ่วเชียนเปิดประตูเข้ามา ยิ้มๆ ให้
“เป็นอะไร กินผลไม้เสร็จก็เข้าห้องนอนแล้วเหรอ”
อันซีซึมๆ “เพราะว่าวันนี้ คุณปู่ไม่มีอารมณ์เล่นหมากรุก คงเป็นเพราะเรื่องบ้าน เป็นเพราะฉัน พวกคุณเลยต้องจากหมู่บ้านภูล่านมา”
“ไม่ใช่เพราะเธอ แต่เป็นเพราะฉัน เพราะการชอบเธอ และไปปีนเขา เป็นการตัดสินใจของฉัน”
“แต่ว่า ถ้าตอนนั้นฉันไม่เสนอเงื่อนไขนี้”
“ความจริง ฉันต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอไปขอร้องเจียงไห่โค่ ทำให้บ้านของเรายังอยู่ ไม่งั้น คงถูกนักพัฒนารื้อถอนไปแล้ว”
“แต่ว่า”
“เอาล่ะ อย่าคิดมากเลย ฉันจะต้องหาทางซื้อบ้านเก่ากลับมาได้อย่างแน่นอน อ่อ จริงสิ เธอมีอะไรจะพูดกับฉัน”
“อ้อ ใช่ ฉันจะบอกคุณว่า วันนี้เกิดเรื่องประหลาดขึ้น คุณทายสิว่าฉันไปกินข้าวกับใคร”
“คงไม่ใช่ เจียงไห่โค่นะ”
“ฉันจะไปกินข้าวกับเขาทำไม หัวหน้าของคุณ”
ยิ่วเชียนเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ
“แปลกใจใช่มั้ย เขาบอกว่าวันนั้นเสียมารยาทกับฉันที่ห้องทำงานของคุณ ดังนั้นเขาอยากเลี้ยงข้าว เพื่อขอโทษฉัน”
“หัวหน้าพูดคำว่าขอโทษเหรอ”
“ใช่”
“เขาไม่มีทางขอโทษใครง่ายๆ แม้กระทั่ง ชวนเธอไปกินข้าวเพื่อต้องการขอโทษ”
“ฉันคิดว่า เขาคงต้องการดูว่า ฉันคู่ควรกับคุณมั้ย แต่ฉันทำตัวไม่ค่อยดี เขายังกินไม่ทันเสร็จก็กลับ ดังนั้นฉันกับเยี่ยนเจ๋อ เลยไปยืมหนังสือที่ห้องสมุด”
“เฮ่อ”
เสียงโทรศัพท์ของยิ่วเชียนดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มาดู แต่กดตัดสายไป ทั้งสองยิ้มๆ ให้กัน
“อ่านหนังสือพวกนี้ทำไม”
ยิ่วเชียนหยิบหนังสือจากอันซีไปเปิดดู
“ฉันถูกถามอีกแล้วว่าชอบอะไร แต่ฉันเห็นว่าคุณชอบ ดังนั้นฉันเลยลองอ่านดู”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ
“ไม่เลว”
“ไม่เลวตรงไหน ฉันอ่านไม่เข้าใจเลย”
เสียงโทรศัพท์ยิ่วเชียนดังขึ้นอีก เขามองหน้าอันซีอย่างเกรงใจ ก่อนหยิบโทรศัพท์มาดู แล้วกดตัดสายอีกรอบ
“คุณหูเหรอ”
ยิ่วเชียนถอนใจ
“ทำไมไม่รับล่ะ ไม่แน่ว่า เธออาจต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
“ฉันคุยกับหย่งชิงเข้าใจแล้ว เธอโทรหาฉันเพราะความเคยชิน เธอสามารถหาคนแปดถึงเก้าคน มาอยู่เป็นเพื่อนเธอได้”
อันซีคิดถึงคำของหย่งชิงที่เคยพูดกับตัวเอง
“คิดว่าเขาจะชอบเธอจริงเหรอ อย่าโง่ไปหน่อยเลย เขาจีบเธอ เพื่อต้องการแก้แค้นเธอ”
“หูหย่งชิง” เสียงยิ่วเชียนเรียกตอนวิ่งข้ามถนนมา
“สุดท้ายแล้วเขาต้องอยู่กับฉัน”
อันซีคิดถึงคำพูดของหย่งชิงแล้วพอจะเข้าใจ
“ความจริง ฉันคิดว่าคุณหูคงไม่ได้คิดว่า คุณเป็นแค่ความเคยชินหรอก”
“เป็นแค่ความเคยชิน เพราะหย่งชิง ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับฉัน”
เสียงโทรศัพท์ของยิ่วเชียนดังขึ้นอีก เขากดตัดสายอีกครั้ง
หย่งชิงนั่งเศร้าอยู่ที่ผับ เมื่อยิ่วเชียนไม่ยอมรับสายเธอเหมือนเมื่อก่อน
“จริงเหรอ ไม่สนใจฉัน”
หย่งชิงกระดกแก้วเหล้าดื่ม
“ขออีกแก้ว เอาทั้งขวดเลย”
เยี่ยนเจ๋อเดินเข้ามา
“ขอน้ำเปล่าให้เธอก็พอ”
“พี่มาทำไม”
“ยิ่วเชียนส่งข้อความหาฉัน”
“ยิ่วเชียนเป็นคนดีมาก อุตส่าห์บอกพี่ชายฉัน ในเมื่อเขาเป็นคนดี ทำไมเขาไม่มาเองล่ะ”
เยี่ยนเจ๋อถอนใจ
“ฉันบอกเธอแล้วไง ไม่มีใครเอาของขวัญมาประเคนให้หรอก”
“วันนี้ ฉันเดินไปหน้าบ้านยิ่วเชียนโดยไม่รู้ตัว พอเห็นยิ่วเชียนกับอันซีเดินออกมาหน้าบ้าน พี่รู้มั้ยฉันทำยังไง ฉันรีบหาที่หลบซ่อน ทั้งที่ฉันไม่ใช่คนแบบนี้”
“เธอได้ทุกอย่าง มาง่ายดายจนเคยตัวแล้วน่ะสิ”
เยี่ยนเจ๋อบอกน้องสาวด้วยความเห็นใจและเข้าใจ
อ่านต่อตอนที่ 22