xs
xsm
sm
md
lg

อัพแมนมาปิ๊งรัก When I see you again ตอนที่19

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อัพแมนมาปิ๊งรัก - When I see You again ตอนที่19

เจียงไห่โค่และสองลูกน้องคู่หู ต่างตกลงกันเรื่องสถานที่ที่จะพาหัวใจอันบอบช้ำของไห่โค่ไปพักผ่อน

“ลาสเวกัสดีกว่า ฉันเคยไปมาแล้ว” ไห่โค่ย้ำ
“พี่ไปปฏิบัติที่นั่นเหรอ”
“ไปเล่นการพนัน”
“ชนะมั้ย”
“แพ้น่ะสิ”
ต้าอี๋เดินเข้ามาถามต้าหู
“ไม่ทราบว่าเจ้าของที่ที่นี่ชื่อเจียงไห่โค่รึเปล่า”
ไห่โค่กับลูกน้องไม่สนใจฟัง กางแผนที่หาสถานที่กันอยู่ จนต้าอี๋ต้องถามขึ้นอีก
“ไม่ทราบที่นี่ มีคนชื่อเจียงไห่โค่มั้ย”
ต้าหูโมโห “ยิ่ว มีอะไร แกไม่เห็นเหรอว่าเรายุ่งอยู่”
“เขายุ่งอยู่เหรอ”
ลูกน้องทั้งสองชี้ไปทางไห่โค่ที่นั่งอยู่ ต้าอี๋ก้มหัวให้
“มาหาฉันทำไม”
“คุณเจียงไห่โค่ใช่มั้ยครับ ผมต้องการมาซื้อบ้านคุณ”
“ซื้อบ้านฉันเหรอ”
“ใช่ครับ”
“ซื้อบ้านหลังไหน”
“บ้านที่มีข่าวลือว่ามีผีสิง”
“รู้ว่ามีผีแล้วจะซื้อทำไม”
“เพราะผมชอบบ้านเก่า”
“นี่ ฉันไม่ชอบให้ใครยืนสูงกว่าฉัน”
ไห่โค่ก้าวขึ้นไปยืนบนบันไดขั้นที่สูงกว่าต้าอี๋
“เอ่อ คุณเจียง ผมสามารถให้ราคาคุณเป็นสองเท่า”
“ไม่ขาย”
“หรือว่าคุณมีเงื่อนไขอะไร คุยกันได้นะ”
“ฉันบอกว่าไม่ขายไม่เข้าใจรึไง”

ต้าอี๋อึ้งๆ เขารีบกลับไปรายงานยิ่วเชียน
“ไม่ขายเหรอ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ไม่ขายบ้าน แล้วขายอะไร”
“เขาบอกว่า มีแต่หลังนี้ที่ไม่ขาย เพราะว่า.. “
ต้าอี๋เล่าถึงถ้อยคำที่คุยกับไห่โค่
“ในเมื่อเป็นบ้านเก่าผีสิง มีคนให้ราคาสูงทำไมไม่ขายล่ะ”
“ฉันบอกว่าไม่ขายไม่เข้าใจรึไง ฉันรับปากผู้หญิงคนหนึ่งไว้เลยไม่ขาย”
ยิ่วเชียนสงสัย
“ใช่ว่าเขาไม่ขาย แต่มีคนบอกให้เขาไม่ขาย แล้วยังเป็นผู้หญิงด้วย”

อันซีกลับมาที่บ้านพัก นั่งดูปลาในตู้ปลาอยู่เรียกชื่ออย่างคุ้นเคย
“หนอนหนังสือ ไอ้แว่น ไอ้เขียว ไม่ยิ้ม พวกแกกระดิกหางไปมา เพราะเห็นพี่แล้วดีใจใช่มั้ย”
เหม่ยเหวินเข้ามา
“ไม่ใช่แน่นอน ปลากระดิกหางเพราะมันว่ายน้ำ จึงต้องกระดิกหาง ทำไมเธอยังมานั่งไร้สาระอยู่ตรงนี้”
“หะ”
“วันนี้เซี่ยยิ่วเชียนมาหาเราที่นี่ เธอรู้มั้ย”
“เขามาหาพวกเธอทำไม”
“มาเล่นหมากรุกกับเรามั้ง”
“อ้อ”
“เป็นไปได้มั้ยล่ะ เพราะเรื่องเธอน่ะสิ”
“ฉันทำอะไรผิดเล่า”
“เธอ มานี่ๆๆ”
เหม่ยเหวินเรียกอันซีมานั่งที่โซฟาคุยกันเป็นการเป็นงาน
“มีอะไร”
“พวกเธอจูบกันรึยัง”
“เฮ่อ พี่เหม่ยเหวินถามตรงเกินไปมั้ยเนี่ย”
“ส่งสายตาปิ๊งๆ กัน แล้วมือก็จับ แล้วขั้นต่อไปก็ต้องจูบกันน่ะสิ”
“ถ้าจะจูบ ก็ต้องมีโมเมนต์โรแมนติกบ้างสิ”
“แล้วเธอสร้างโมเมนต์โรแมนติกรึยัง”
“ฉัน”
“แกล้งทำเป็นหลับอยู่บนโซฟา ปล่อยให้เขาอดใจไม่ไหวที่จะจูบเธอ หรือว่ามีทรายเข้าตา เงยหน้าทำให้เขาทนไม่ไหวอยากจูบเธอ หรือไม่ทันระวังหกล้ม ตอนที่พยุงขึ้นมา ไม่ระวังเลยจูบเธอ แล้วตกลงของพวกเธอโมเมนต์ไหน”
“พี่เหม่ยเหวิน วันนี้พี่ดูจริงจังนะ”
“ฉันซีเรียสต่างหาก ฉันกังวลแทนเธอนะ เซี่ยยิ่วเชียนมาถามเราด้วยความกังวล แต่เธอยังไม่รู้อะไรเลย เฮ่อ อันซี ทุกคนในบ้านพักต้องการเห็นเธอมีความสุข กว่าเราจะได้รู้จักผู้ชายที่ดีอย่างเซี่ยยิ่วเชียนไม่ใช่ง่าย ทำไมเธอทำกับเขาแบบนี้ล่ะ หรือว่าเธอไม่ได้ชอบเขาจริงๆ”
“ฉันชอบเขา”
“จริงเหรอ”
“เพียงแต่ ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถจ้องตาเขาแล้วพูดว่า ฉันชอบคุณ ได้”
“ทำไมล่ะ”
“ตอนฉันเรียนม.ปลาย นักเรียนชายที่เรียนโรงเรียนติดกัน ฉันมักจะพบเขาระหว่างทางกลับบ้าน ตอนแรกฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกๆ ทำไมชอบอยู่คนเดียว ต่อมา ฉันก็เลยชอบหยอกให้เขาหัวเราะ อารมณ์ดี หรือว่าชอบทำให้เขารู้สึกดีขึ้น”
“เธอแอบรักเขาเหรอ”
“ไม่ใช่หรอก ฉันแค่รู้สึกว่าเขาพิเศษมาก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไงกับเขากันแน่”
“งั้นเธอ”
“หลังจากนั้น มีวันหนึ่งเขาเอาน้ำตานางฟ้ามาให้ฉัน”
“น้ำตานางฟ้า นั่นเป็นเงื่อนไขหลอกๆ เพื่อไม่ต้องการให้ผู้ชายมาจีบเธอไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ และวันนั้น เป็นวันที่ฉันอายุครบ 18 ปีพอดี”
“เฮ่อ ไม่น่าเลย เหมือนโศกนาฏกรรมเลย ทำไมเขาต้องมาวันนั้นด้วย”
“วันนั้น ฉันอารมณ์ร้ายกับเขาครั้งใหญ่ ผ่านไปไม่กี่วัน ฉันอยากไปขอโทษเขา”
อันซีนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เธอขี่จักรยานไปที่บ้านของยิ่วเชียน เห็นบ้านเงียบๆ เดินเข้าไปดู ปรากฏว่าไม่มีคนหรือข้าวของเลย อันซีเดินออกมาข้างนอกเจอป้าคนหนึ่ง
“ทำไม นี่ คุณป้า คุณป้า”
“หืม”
“ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าคนบ้านหลังนี้”
“คนบ้านนี้เหรอ เด็กมันโง่น่ะ ไม่รู้ทำไมถึงไปปีนเขาชัน จนเกือบต้องตาย ปู่เขาต้องการหาค่าใช้จ่ายในการรักษาเพื่อผ่าตัดหลานของเขา ช่วยไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องขายบ้านหลังนี้ไป”
อันซีตกใจมาก
“เดี๋ยวค่ะ แล้วพวกเขา”
“ย้ายไปแล้ว”
“ย้ายไปไหนคะ”
“ฉันก็ไม่รู้”
“เกือบต้องตาย ขายบ้านไปแล้ว”
อันซีตกใจและรู้สึกผิดกับเรื่องของยิ่วเชียนอย่างมาก อันซีหันมามองหน้าเหม่ยเหวิน
“ฉันมันแย่มากใช่มั้ย”
“ก็นิดหน่อย เธอจึงไม่อยากมีความรักใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“บ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่เธอชอบไปทำความสะอาดใช่มั้ย”
“ใช่”
“แต่เธอบอกว่าเป็นบ้านผีสิงนะ”
“นั่นเป็นเพราะว่า ฉันกลัวคนอื่นจะมาซื้อ”
“เฮ่อ”
“หลังจากนั้นฉันกลัวว่าเจียงไห่โค่จะทนไม่ไหวแล้วขายมันไป เธอก็รู้ว่าครอบครัวของเจียงไห่โค่เป็นนายหน้าขายที่”
“แต่เขาเป็นแค่เงาที่อยู่ในใจของเธอ เธอเก็บเขาไว้ในใจก็พอ แต่ว่าเซี่ยยิ่วเชียนเขาอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจะวิ่งหนีเซี่ยยิ่วเชียน เพราะเงาของคนนั้นไม่ได้นะ”
“แต่ฉันเป็นคนที่ร่างกายไวกว่าสมองนี่นา พอฉันรู้ตัวอีกที ก็พบว่าวิ่งหนีเขาแล้ว และฉันก็ใช้ชีวิตอย่างนี้มาสิบปีแล้ว ทุกครั้งที่เห็นเขาดีกับฉัน ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกกดดัน”
“ไม่ได้ เธอต้องรีบเปลี่ยนนิสัยโดยเร็ว ไม่งั้นเซี่ยยิ่วเชียนจะคิดว่าเขาพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ถึงจะมีความอดทนสูงยังไง ก็อาจจะผิดหวังได้ หรือแม้กระทั่งไปจากเธอ หืม”
อันซีกังวล จื้อหลิงเดินเข้ามา
“เอ๊ะ นี่มันเรื่องอะไรกัน แอบมาคุยกันโดยไม่บอกฉันเหรอ”
เหม่ยเหวินกับอันซีแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน
“เอาล่ะในเมื่ออยู่กันครบ ฉันทำกับข้าวเสร็จแล้ว คืนนี้ก็ไม่ต้องกลับแล้วนะ ไป นี่”
“หืม”
“คืนนี้เวรเธอล้างจาน”
เหม่ยเหวินตามไป “ฉัน เธอสองคน ทีอย่างนี้ร่วมมือกันเล่นงานฉันนะ”
ทั้งสามวิ่งหัวเราะกันออกไป

อ่านต่อหน้า 2

อัพแมนมาปิ๊งรัก - When I see You again ตอนที่19 (ต่อ)

ยิ่วเชียนกลับมาที่บ้านเจอไป๋คังนั่งอยู่คนเดียว

“คุณปู่ ทำไมดูทีวีคนเดียวครับ อันซีล่ะ”
“กลับหมู่บ้านภูล่านแล้ว”
“กลับหมู่บ้านภูล่านเหรอ”
“อื้ม”
“กลับไปเมื่อไหร่ครับ”
“วันนี้ตอนบ่าย”
“แล้วเธอบอกมั้ยว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”
“เมื่อกี้เพิ่งโทรมา ดูเหมือนจะนอนค้างที่นั่น”
“เพิ่งมาไม่กี่วัน ก็อยากกลับซะแล้ว”
“บ้านหลังนี้ ไม่มีอันซีรู้สึกเงียบเหงามาก แต่หลานไม่ต้องห่วง เธอไปใช่ว่าจะไม่กลับมาสักหน่อย ผ่อนคลายหน่อยๆ”
ยิ่วเชียนเศร้าๆ “คุณปู่ งั้นผมขึ้นไปก่อนนะครับ”
“อืม”

ตอนเช้า อันซีมาที่ห้องอาหาร ทุกคนต่างแปลกใจ เหม่ยเหวินทักทันที
“เอ๊ะ ทำไมยังอยู่ที่นี่ คุยกันแล้วไงว่าจะไม่หนี เธอจะหนีไปถึงเมื่อไหร่”
“อืม กินข้าวเช้าก่อนสิ”
“เฮ้อ”
จื้อหลิงเข้ามาช่วยพูดกับอันซี
“เอาล่ะๆ ตอนนี้คุณเซี่ยนั่งกินข้าวเช้าคนเดียวคงรู้สึกเหงามาก”
“รีบไปได้แล้ว ตอนนี้ยังทันรถไปไทเปสายแรก” หยาเอินบอก
“นี่พวกเธอ เฮ่อ เมื่อวานพวกเธอบอกว่าคิดถึงฉันนะ”
หยาลู่เข้ามา “แต่คุณเซี่ยคิดถึงเธอมากกว่าเรา”
“เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้เหรอ”
ทันใดนั้นทุกคนได้ยินเสียงต้าหูดังอยู่หน้าบ้าน
“ว่าที่พี่สะใภ้ เช้าแล้ว ออกมาตากแดดหน่อย”
อันซีโกรธ จื้อหลิงถอนใจ
“เฮ้อ ดูเหมือนจะมีคนคิดถึงอันซีมากกว่าคุณเซี่ยนะ”
“เจียงไห่โค่ มาได้จังหวะเลยนะ พอฉันกลับมาก็มาหาฉัน เฮ่อ”
อันซีดโกรธรีบเดินออกไปหน้าบ้าน เพื่อนๆ รีบตามไป
“เจียงไห่โค่ นายต้องการอะไรกันแน่ นายเอาเวลาที่ก่อกวนฉันไปหาเมียได้เป็นสิบคนแล้ว”
จื้อหลิงเห็นด้วย ”นั่นน่ะสิ คุณเซี่ยเคยเตือนไปแล้วแกลืมแล้วเหรอ”
“ฉันจำได้ไม่มีวันลืม แต่บัญชีของเราฉันต้องเคลียร์ให้ชัดเจน”
“นายต้องการอะไร”
“นี่ ระวังคำพูดของเธอด้วย อย่าใช้น้ำเสียงอย่างนี้พูดกับฉัน ไม่งั้นเธอจะเสียใจไปตลอดชาติ”
“นายหมายความว่าไง”
“บ้านผีสิง เธอยังจำได้มั้ย”
“บ้านผีสิงทำไม”
“ไม่มีอะไร ตอนนี้มีคนให้ราคาฉันสองเท่า ฉันกำลังพิจารณา”
“ไม่ได้”
“เราทำงานอะไร เราไม่ได้ทำองค์กรการกุศล ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกดีต่อเธอ”
“ไม่ได้ๆๆ”
“ทำไมๆๆ”
“นาย ออกไปคุยกับฉันข้างนอก”
อันซีเดินออกไป เพื่อนๆ ต่างเรียกอย่างเป็นห่วง อันซีหันมาบอกทุกคน
“ฉันมีเรื่องคุยกับเจียงไห่โค่ พวกเธอไม่ต้องห่วงฉันไม่เป็นไร”
“เฮ่อ คิดจะเรียกฉันไปก็ได้ เห็นฉันเป็นใคร”
“ลูกพี่ ว่าที่พี่สะใภ้นะ” เสี่ยวหูเตือน
ไห่โค่นึกขึ้นได้รีบวิ่งไป
“นี่รอฉันด้วย”
เพื่อนๆ อันซีจะตามไป ต้าหูขวางไว้
“พวกเธอไม่ต้องยุ่ง นี่เป็นเรื่องระหว่างลูกพี่ของเรากับอันตูตู”
“ใครไม่เกี่ยวก็อย่ามายุ่ง”
“พวกแก” หยาลู่โมโห
“อย่ามายุ่ง”
“ยังไม่รีบไปให้พ้น” เหม่ยเหวินไล่
ลูกน้องไห่โค่รีบออกไป จื้อหลิงจะตามอันซีไป แต่เหม่ยเหวินห้ามไว้
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันรู้ว่าเรื่องอะไร ไปๆ เข้าบ้าน ไป”
“เรื่องอะไรนะ” จื้อหลิงถาม
“เข้าไปค่อยคุยกัน”
เหม่ยเหวินพาทุกคนเข้าไป ระหว่างนั้นยิ่วเชียนขับรถมาถึงหน้าบ้านพักตากอากาศของอันซี พวกเหม่ยเหวินหันมามอง
“ทำไมทุกคนมายืนอยู่หน้าประตู อันซีล่ะ”
ทุกคนอึ้งๆ ไม่รู้จะบอกอย่างไร

อ่านต่อหน้า 3

อัพแมนมาปิ๊งรัก - When I see You again ตอนที่19 (ต่อ)

อันซีพาไห่โค่มาที่ร้านข้าวหมูสับ เห็นเถ้าแก่ร้านนั่งอยู่

“เถ้าแก่ ขอโทษค่ะ ขอยืมที่นั่งหน่อยได้มั้ย”
ไห่โค่มองหน้าเถ้าแก่ “ทำสีหน้าแบบนี้เหรอ อย่าลืมว่าใครให้แกเช่าที่นี่ ฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันจะเพิ่มค่าเช่าแก”
“นี่ นายมารบกวนเถ้าแก่เขา ยังมาว่าเขาอีกเหรอ”
“ไปทำงานไป” ไห่โค่ไล่
“เถ้าแก่ขอโทษนะคะ”
“เธอจงใจพาฉันมาที่นี่ใช่มั้ย” ไห่โค่ถาม
“จงใจพามาน่ะสิ คิดว่าชวนนายมากินข้าวหมูสับเหรอ”
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอดีตอีก ยังไงเธอก็ไม่ได้คบกับฉัน ฉันขายบ้านผีสิงไป เธอก็หนีไปกับคนอื่น ส่วนฉันต้องช่วยเธอดูแลบ้าน”
“นายพูดแบบนี้ได้ไง อย่าลืมว่าตอนนั้นนายรับปากฉันยังไง”
“ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน นี่ หลายปีนี้ฉันดีกับเธอมาก แต่กลับไม่มีความดีเลย จนตอนนี้ แค่เห็นเลือดฉันก็กลัว จนต้องไปหาหมอโรคหัวใจ ทุกคนคิดว่าฉันเป็นโรคประสาท เธอไม่ต้องรับผิดชอบฉันเหรอ”
อันซีหน้าเศร้า มองอย่างอ้อนวอน
“เจียงไห่โค่”
“มีอะไร อย่ามองฉันอย่างนั้นสิ”
“นายชอบฉันมาก ฉันขอบคุณจริงๆ ขอความช่วยเหลือจากนาย เป็นความผิดของฉันเอง เพราะฉันรีบร้อนเกินไป ฉันไม่มีความสามารถ แต่ก็ยังทำสิ่งเกินความสามารถของตัวเอง เพราะว่าตอนนั้นฉันไม่มีทางเลือกอื่น”
อันซีนึกถึงเรื่องทีเกิดขึ้นในอดีต วันนั้นเธอเดินตามตื๊อไห่โค่
“หยุดตามฉันมาสักที”
“ขอร้องนายช่วยฉันเถอะนะ”
“ก็ได้โอเค แต่เธอต้องเป็นแฟนฉัน”
“ฉันไม่เป็นแฟนของนาย สิ่งที่ติดค้างฉันจะคืนนาย”
“แต่ถ้าเป็นแฟนฉัน เธอไม่ต้องคืนนะ”
“นายอย่ามาใช้ไม้นี้สิ ช่วยฉันเถอะ”
ไห่โค่ลงนั้นที่ร้านข้าวหมูสับของเถ้าแก่
“เธอต้องเป็นแฟนฉันนะ หนี้ที่ค้างไว้ไม่ต้องใช้คืน เถ้าแก่เหมือนเดิม”
“ได้” เถ้าแก่รับคำ
“ช่วยฉันนะ”
“เป็นแฟนฉันสิ”
“ไม่เอา”
“งั้นฉันไม่ช่วย”
“ช่วยฉันนะ”
ระหว่างนั้น มีชาย 4-5 คนเดินเข้ามาเรียกไห่โค่
“เจียงไห่โค่”
“โอ้ว พาคนมาเยอะแยะทำไม”
“ถึงเวลาคิดบัญชีแล้ว”
“อ๋อ วันนี้ขาดไปสองคนนะ”
ไห่โค่ดันให้อันซีลุกออกไปจากโต๊ะ แล้วเขาก็ผลักโต๊ะใส่ชายกลุ่มนั้น
“นี่ นายจะทำอะไร เจียงไห่โค่ๆๆ เจียงไห่โค่ ระวัง เจียงไห่โค่ระวัง เจียงไห่โค่ เร็ว โทรเรียกตำรวจ”
ไห่โค่ถูกชายกลุ่มนั้นรุมเตะต่อย เถ้าแก่รีบโทรศัพท์หาตำรวจ
“ฮัลโหล คุณตำรวจ ร้านข้าวหมูสับมีคนตีกัน”
ไห่โค่สู้ยิบตา กลุ่มชายฉกรรจ์เอาขวดตีให้เป็นปากฉลามแล้วเดินเข้าหาไห่โค่ซึ่งถูกต่อยล้มลงไป อันซีเห็นตกใจ
“เจียงไห่โค่”
อันซีเอาตัวเข้าบังไห่โค่ไว้ จนเธอถูกขวดปากฉลามบาดเป็นแผลฉกรรจ์ ชายกลุ่มนั้นรีบหนีไป ไห่โค่ตกใจ
“อันตูตู ๆ ๆ ๆ เรียกรถพยาบาลเร็ว อันตูตู ๆ ๆ”
“เจียงไห่โค่ เรื่องบ้าน ขอร้องนายล่ะ ช่วยฉันซื้อบ้านไว้”
อันซีอ้อนวอนทั้งที่เจ็บหนัก
“ได้ๆๆ เรียกรึยัง”
“เจ็บ”
“เธอเข้มแข็งไว้นะ”
ทั้งไห่โค่และอันซีต่างนึกถึงเรื่องราวในอดีต
“ตอนม.ปลายฉันเคยทำร้ายคนคนหนึ่ง บ้านผีสิงก็คือบ้านของเขา ดังนั้นฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าวันหนึ่งเขากลับมาหมู่บ้านภูล่าน ฉันอยากขอโทษเขาด้วยตัวเอง ให้เขารู้ว่า ตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจทำกับเขาแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีใครแล้ว ฉันไม่มาขอร้องนายหรอก ทั้งที่รู้ว่านายชอบฉัน ฉันยังกล้าทำเรื่องแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าตัวเองหน้าไม่อาย แต่ถ้าจะให้ฉันเป็นแฟนนายเพราะเรื่องนี้ มันไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นกับนาย ขอโทษด้วย”
“ไม่ต้องมาขอโทษฉัน พิลึกคนจริง”
ไห่โค่ลุกออกไปอย่างเจ็บช้ำ
“เจียงไห่โค่ นายอย่าร้องไห้ อย่าขายบ้านเด็ดขาดนะ บ้านหลังนั้นขายไม่ได้จริงๆ”
อันซีหันกลับมาเห็นยิ่วเชียนยืนอยู่ เธอตกใจมาก ในขณะที่ยิ่วเชียนยิ้มให้หญิงสาวอย่างแสนรัก และรู้เรื่องราวทั้งหมดว่าอันซีทำไปเพื่อปกป้องบ้านของเขา ยิ่วเชียนขับรถพาเธอกลับบ้านด้วยความซาบซึ้งใจ ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกัน จนอันซีเข้าใจว่ายิ่วเชียนโกรธเธอ

ภายในห้องประชุม จื่อฉีรายงานผลการทำงาน
“โปรเจกต์ที่ผู้อำนวยการรับผิดชอบกำไรเป็นไปตามเป้าที่บริษัทคาดไว้ 48 % โดยเฉพาะการจัดส่งสินค้าในเอเชีย ยังคงดีกับสามองค์กรที่เกี่ยวข้อง แต่”
ยิ่วเชียนสงสัย
“มีอะไร ต้าอี๋”
“เอ่อ เมื่อเช้าตอนคุณยังไม่เข้าบริษัท หัวหน้าประกาศข่าวที่บริษัทจะร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกองทุนรัสเซีย”
“เนื้อหาการร่วมมือคือ”
“หัวหน้าไม่ได้พูดครับ แต่ว่า งานครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ดังนั้น”
“ดังนั้น จึงดึงกองทุนรวมที่ลงทุนในการจัดส่ง ไปให้ความร่วมมือกับทางรัสเซีย”
จื่อฉีมองยิ่วเชียนอย่างเห็นใจ “แต่หัวหน้าทำอย่างนี้ ไม่ยุติธรรมกับผู้อำนวยการ ถอนการลงทุนในอเมริกากับเอเชีย ทำให้ผู้อำนวยการต้องเหนื่อยเปล่าสิ”
“สิ่งที่หัวหน้าเห็นคือประสิทธิภาพโดยรวมของบริษัท เขาจึงทำอย่างนี้ เพราะเห็นแผนการลงทุนของรัสเซียในแง่บวก และเราจะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น”
“แต่ว่า”
“เอาล่ะ โปรเจกต์ต่อไป”
พนักงานหญิงลุกขึ้นรายงาน
“เรื่องกิจการของการก่อสร้างอาคาร ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญเรียบร้อยแล้ว ตัวอาคารมีความเชี่ยวชาญ รวมถึง พลังงานสีเขียว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
ยิ่วเชียนไม่ได้ฟังรายงาน เขาใจลอยคิดถึงเรื่องที่เคยคุยกับอันซี ในเวลาต่างๆ และเรื่องที่คุยกับหยาลู่
“ฉันมีปลาชื่อไม่ยิ้ม หนอนหนังสือ ไอ้เขียว และไอ้แว่นแล้ว”
“เธอไม่ชอบคนใส่แว่นไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงตั้งชื่อนี้ล่ะ”
“ไม่ใช่ฉันไม่ชอบคนใส่แว่น ฉันแค่ไม่อยากนึกถึงเขา มีเรื่องหนึ่งที่คุณห้ามถามฉัน เรื่องบ้านผีสิง วันเกิดอายุ 18 ฉันบาดเจ็บได้ยังไง ฉันอยากมีความรักมั้ย ฉันไม่อยากพูดถึงมันอีก ฉันคงไม่สามารถดีกับคุณอย่างที่คุณดีกับฉันได้ เพราะว่าในใจของฉัน ยังมีเรื่องหนึ่งที่ปล่อยวางไม่ได้”
“ฉันเคยได้ยินเธอพูดว่า เธอรู้สึกผิดต่อใครคนหนึ่ง ถ้าเธอมีความรัก เธอจะรู้สึกผิดต่อเขามาก”
“ตอน ม.ปลายฉันเคยทำร้ายคนคนหนึ่ง บ้านผีสิงก็คือบ้านของเขา”
ยิ่วเชียนนำเรื่องทั้งสี่มาประมวล แล้วเริ่มคิด
“สี่เรื่องนี้คือเรื่องเดียวกัน อันซีได้รับบาดเจ็บหลังจากช่วยเจียงไห่โค่ ขอร้องให้เจียงไห่โค่ รักษาบ้านของฉันไว้ ก่อนหน้านี้ที่เธอตั้งใจแต่งเรื่องบ้านผีสิง ก็เพื่อรักษาบ้านของฉันไว้ วันเกิดอายุ 18 ของเธอ เป็นวันที่ฉันไปสารภาพรัก ตอนนั้นเธอรักฉันรึเปล่า หรือว่า เป็นเพราะว่าฉัน ฉัน”

อ่านต่อหน้า 4

อัพแมนมาปิ๊งรัก - When I see You again ตอนที่19 (ต่อ)

ยิ่วเชียนสงสัยหนัก เขาลุกขึ้นยืนกลางห้องประชุม พนักงานต่างตกใจ

“ผู้อำนวยการ”
“เอ่อ วันนี้ประชุมแค่นี้ก่อน นอกจากต้าอี๋แล้ว คนอื่นออกไปได้”
พนักงานเดินออกไป ยิ่วเชียนร้อนรนนั่งไม่ติด จนต้าอี๋แปลกใจ
“ผู้อำนวยการ”
“ต้าอี๋ จองร้านอาหารโรซ่า ตอน 6 โมงเย็นให้ฉันที”
“ครับ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ ครึ้มใจ
“เดี๋ยวก่อน บอกผู้จัดการร้านอาหารด้วย ฉันต้องการตู้ปลาการ์ตูนแบบพิพิธภัณฑ์ ส่วนดอกกุหลาบบนโต๊ะ เปลี่ยนเป็นต้นหอม อาหารหลัก ฉันต้องการข้าวหมูสับ อ้อ นายหาคนไปซื้อที่หมู่บ้านภูล่านด้วย”
“หมู่บ้านภูล่าน คุณจะเซอร์ไพรส์อันซีเหรอครับ”
“อื้ม” ยิ่วเชียนยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ผู้อำนวยการ พวกคุณจะฉลองงานเลี้ยงเหรอครับ”
“ใช่”
“อ้อ วันแห่งความรัก”
“วันแห่งความรักเหรอ ใกล้ถึงวันแห่งความรักแล้วเหรอ”
“ใช่ครับ
ยิ่วเชียนยิ้มๆ “ที่แท้ พระเจ้าก็เลือกวันให้ฉันแล้ว เดี๋ยวก่อน”
“เอ่อ”
“ช่วยฉันซื้อของอย่างหนึ่งสิ”
“อะไรครับ”
“ชุดพละของมัธยมปลาย”
“ครับ” ต้าอี๋รับคำงงๆ

อันซีทำความสะอาดบ้านยิ่วเชียนอยู่ พลางพึมพำ
“ทำยังไงดี ตกลงจะคุยกับยิ่วเชียนดีมั้ย ถึงแม้ฉันจะบอกเขาว่าห้ามถามก็เถอะ แต่ตอนเขาส่งฉันกลับมา ฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยดีเลย”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อันซีดูเบอร์เห็นว่าเป็นยิ่วเชียน เธอทำใจสู้กดรับสาย
“ฮัลโหล ยิ่วเชียน”
“คืนนี้เราไปกินข้าวข้างนอกกัน”
“ทำไมต้องไปกินข้างนอกด้วย”
“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ”
“อ้อ งั้นฉันถามคุณปู่ก่อนนะ”
“คืนนี้ต้าอี๋จะไปกินข้าวเป็นเพื่อนคุณปู่”
“แค่เราสองคนเหรอ”
ยิ่วเชียนยิ้มๆ “ใช่ เพราะว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ ฉันหวังว่า จะมีเพียงเราสองคน”
“อ้อ”
“ฉันจะส่งเวลากับที่อยู่ไปให้เธอ”
“ค่ะ”
“อันซี”
“ฮัลโหล”
“ฉันดีใจที่ได้ไปเป็นสปอนเซอร์ที่หมู่บ้านภูล่าน” ยิ้วเชียนยิ้มอีก
อันซีงงๆ “ค่ะ”
“คืนนี้เจอกันนะ”
“คืนนี้เจอกัน บ๊ายบาย”
ยิ่วเชียนวางสายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สักครู่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาดูเบอร์ ในขณะที่อันซีวางสายแล้วพึมพำ
“ทำไมจู่ๆ ถึงพูดการแข่งขันอีกล่ะ งั้นยิ่วเชียนก็ไม่ได้โกรธน่ะสิ เฮ้อ”
อันซีจะไปทำความสะอาดต่อ แต่ปัดไปถูกล่องใบหนึ่งตกลงมาเธอตกใจ
“หะ แย่แล้วล่ะ ตายแน่พังหมดแล้ว”
อันซีก้มลงเก็บของในกล่องขึ้นมา กระดาษแผ่นหนึ่งปลิวไปอยู่หลังตู้ หยิบไม่ถึง จึงใช้เครื่องดุดฝุ่นดูดออกมา
“สะดวกมากเลย ว้าว แรงดูดแข็งแรงมาก เป็นเพราะว่าฉันฉลาด”
อันซีเปิดดูกระดาษแต่ละแผ่น แล้วนึกถึงวันที่เธอออกไปกับเยี่ยนเจ๋อ พอกลับมาก็เห็นยิ่วเชียนนั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าบ้าน และเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษหลายแผ่น
“เฮ้อ เขาตั้งใจจริงๆ”
อันซีเห็นบัตรคำ เธอนึกถึงที่เคยเห็นนายคิ้วเส้นตรงเปิดอ่านประจำ
“มันมีประโยชน์อะไรเหรอ”
“อะไร”
“ก็ เขียนคำศัพท์ไว้ในการ์ดไง ต้องเขียนลงบนการ์ด ยุ่งยากจะตาย”
“มีประโยชน์ก็ไม่คิดว่ายุ่งยากหรอก”
อันซีนึกมาถึงตรงนี้ก็สงสัยมาก แปลกใจว่าทำไมเหมือนของนายคิ้วเส้นตรง เธอเห็นแว่นตาของนายคิ้วเส้นตรงอยู่ในกล่องก็จำได้ และยิ่งสงสัยหนัก
“เป็นไปได้ยังไง”
อันซีมึนงงกับสิ่งที่เห็น ระหว่างนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหันไปรับสาย
“ฮัลโหล”
“ฉันหูหย่งชิง”
“คุณมีเบอร์โทรฉันได้ไง”
“เซี่ยยิ่วเชียนกับฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราไม่มีวันแยกจากกันแน่ ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ เธอมาดูเองสิ”
อันซีถอนใจ ยังงงๆ กับของต่างๆ ที่เห็นในห้องยิ่วเชียน

หย่งชิงนั่งที่โต๊ะอาหารกับผู้ชายคนหนึ่งในร้านอาหาร พลางถาม
“คุณจองทั้งร้านเลยเหรอ”
“ใช่ ทานข้าวเสร็จแล้ว คุณอยากทำอะไร”
“ต้องการเลิกกับคุณ”
“ถอยไปก่อน แต่ว่า เราเพิ่งเริ่มคบกันนะ”
“ฉันไม่อยากสานความสัมพันธ์ต่อไปแล้ว และถ้าไม่ใช่เพราะพนันกับเพื่อนไว้ฉันไม่เคยสนใจในตัวคุณเลย”
ชายคนนั้นลุกขึ้นด้วยความโมโห
“ผู้หญิงอย่างเธอ”
ยิ่วเชียนเดินเข้ามาพอดี เป็นจังหวะเดียวกับที่อันซีก็มองเข้ามาในร้านพอดีเช่นกัน หย่งชิงยิ้มให้ยิ่วเชียน ยิ่วชียนถาม
“มีเรื่องอะไรอีก”
“แฟนฉันมาแล้ว”
ชายคนนั้นโมโหปัดแก้วบนโต๊ะแตกกระจาย อันซีแอบมองตกใจ
“หะ”
“ฉันเท่านั้นที่บอกเลิกได้ คุณไม่มีสิทธิ์ คนหลอกลวงไปกับฉัน ถอยไป”
ชายคนนั้นเข้าไปกระชากแขนหย่งชิง ยิ่วเชียนเข้าไปขวาง
“จะทำอะไร ปล่อยเดี๋ยวนี้”
ยิ่วเชียนผลักชายคนนั้นออกไป
“หูหย่งชิง”
ชายคนนั้นยกเก้าอี้ฟาด ยิ่วเชียนเอาตัวบังปกป้องหย่งชิงไว้ เขาโดนเก้าอี้ฟาดเต็มๆ อันซีตกใจ ยิ่วเชียนเข้ามาผลักชายคนนั้นล้มลง
“ที่นี่มีกล้องวงจรปิด ความเสียหายและได้รับบาดเจ็บ คุณรอหมายเรียกจากศาลเป็นข่าวหน้าหนึ่งได้เลย ไม่อย่างงั้น ให้พ่อคุณมาเคลียร์กับฉัน”
“หูหย่งชิง คอยดูแล้วกัน”
ชายคนนั้นชี้หน้าหย่งชิง แล้วผลุนผลันออกจากร้านไป อันซีแอบมองยิ่วเชียนกับหย่งชิงอยู่หน้าร้าน กำลังจะเดินไป ยิ่วเชียนเข้าไปหาดูอาการหย่งชิง
“คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย”
ระหว่างนั้นพนักงานมาเก็บข้าวของที่ตกเกลื่อน ยิ่วเชียนหันไปบอก
“ขอโทษครับ ค่อยเก็บทีหลังได้มั้ย”
อันซีหันหลังเดินออกไป
“หย่งชิง”
“มีอะไร จะสั่งสอนฉันอีกเหรอ”
“ฉันต้องการจบความสัมพันธ์ปลอมๆ ซะที”
“หมายความว่าไง”
“เธอเข้าใจความหมายของฉัน ถ้ายังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ฉันไม่มีทางปรากฏตัวอีก”
“เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ”
“ใช่ หวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เกมที่เธอเล่นอันตรายเกินไป ถึงเธอ เธอจะปฏิเสธตลอด แต่ผู้หญิงอ่อนแออยู่แล้ว ดังนั้นการทำแบบนี้ไม่สมควร ถ้าเธอไม่อยากเสียใจล่ะก็ ขอให้เธอหยุดเล่นซะที”
หย่งชิงโกรธมาก
“คุณคิดจะบอกเลิกกันง่ายๆ แบบนี้เหรอ ความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่เพียงแต่ฉันที่ได้ผลประโยชน์ คุณก็ได้ผลประโยชน์เหมือนกัน”
“เธอไม่รู้เหรอว่าเพราะอะไรฉันถึงช่วยเธอ วันนั้นถ้าไม่ใช่วันเกิดเธอ”
“หุบปาก หุบปากๆๆๆ คุณเคยคิดมั้ย ใครทำให้คุณเข้าสู่โลกแห่งความจริง ใครทำให้คุณเข้ากับทุกคนได้ ในเมื่อเธอพิเศษสำหรับคุณ แล้วฉันล่ะ ฉันกับคุณรู้จักกันมา 6 ปี ที่ผ่านมาไม่มีความหมายเลยเหรอ”
ยิ่วเชียนหน้าเครียด “เราคุยกันแต่แรกแล้ว แล้วตอนนี้เธอกำลังทำอะไร”
“ฉันทำอะไรเหรอ เฮ่อ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ ฉันรู้เพียงว่า ฉันไม่ต้องการให้คุณมีชีวิตที่ดี”
หย่งชิงผลุนผลันเดินออกไป ยิ่วเชียนตามออกไป หย่งชิงเห็นอันซีเดินอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม เธอรีบวิ่งไปหา อันซีชะงักเมื่อได้ยินเสียงยิ่วเชียนเรียกหย่งชิง
“หูหย่งชิง”
หย่งชิงข้ามถนนไปหาอันซี ในขณะที่ยิ่วเชียนยังข้ามไม่ได้เพราะมีรถจำนวนมาก หย่งชิงถือโอกาสพูดกับอันซีเลย
“เมื่อกี้เธอเห็นแล้วใช่มั้ย แล้วเธอรู้มั้ย ทำไมฉันเรียกเซี่ยยิ่วเชียนจะมาทันที”
“คุณปู่เคยพูดว่า”
“นั่นก็เพราะว่าเขาตามใจฉันทุกอย่าง เพราะฉันเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับเขา เพราะเมื่อก่อนเขา นอกจากความฉลาดแล้วไม่มีดีอะไรเลย ฉันเป็นคนให้โลกใบใหม่ที่ดีกับเขา เมื่อก่อนเขาเป็นแค่นายคิ้วเส้นตรงหลังจากถูกผู้หญิงทิ้งก็หนีมาที่นี่”
อันซีชะงัก ตกใจกับเรื่องที่เพิ่งได้ยิน เธอหันไปมองยิ่วเชียนที่กำลังรอข้ามถนนอย่างร้อนใจ เธอนึกถึงเรื่องในอดีตทันที
“ฉันให้เธอ”
“อะไร”
“น้ำตานางฟ้าไง”
อันซีกำแว่นของนายคิ้วตรงที่เธอถือมาด้วยแน่น เศร้าเสียใจมาก
“เธอเป็นแค่ความเสียใจในช่วงวัยรุ่นของเขาเท่านั้น”
“อันซี” ยิ่วเชียนพยายามเรียกไว้
“คิดว่าเขาจะชอบเธอจริงเหรอ อย่าโง่ไปหน่อยเลย สำหรับเธอแล้ว เป็นแค่อาการหวัดของเขา เมื่อแสดงอาการแล้ว มันก็จะหายเอง เขาจีบเธอ เพื่อต้องการแก้แค้นเธอ”
“หูหย่งชิง”
ยิ่วเชียนตะคอกเสียงดัง ก่อนจะวิ่งข้ามถนนเข้ามาพอดี
“สุดท้ายแล้วเขาต้องอยู่กับฉัน”
“หูหย่งชิง”
ยิ่วเชียนปรามก่อนหันมาจับมืออันซี พยายามพูด
“อันซี เธอฟังฉันก่อน ฉันเคยบอกว่า จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอรู้”
อันซีจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึง เสียใจ
“ทำไมถึงโง่อย่างนี้หะ นายคิ้วเส้นตรง คุณคือนายคิ้วเส้นตรงของหมู่บ้านภูล่าน”
อันซีโกรธ น้อยใจ สะบัดมือออกจากยิ่วเชียนแล้ววิ่งหนีไป
“อันซี”
ยิ่วเชียนวิ่งตาม หย่งชิงพยายามรั้งแขนเขาไว้
“เซี่ยยิ่วเชียน ๆ”
“หูหย่งชิง”
ยิ่วเชียนสะบัดมือจากหย่งชิง แล้ววิ่งตามอันซีซึ่งหนีขึ้นรถแท็กซี่
“อันซี อันซี อันซี อันซี”
รถแท็กซี่แล่นออกไปไกล ยิ่วเชียนมองอย่างร้อนใจ หันมามองหย่งชิงด้วยความโกรธ หย่งชิงเองก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เมื่อรู้ว่ายิ่วเชียนแคร์อันซีอย่างมาก และมองเธอด้วยสายตาตำหนิ

อันซีนั่งมาในรถ มองแว่นตาของนายคิ้วเส้นตรง เธอนึกถึงคำที่เคยคุยกับยิ่วชียน
“เรื่องชมรมผ่านไปแล้ว แต่ฉันมีความปรารถนาบางอย่างต้องทำให้สำเร็จ”
“ความปรารถนาอะไร”
“ก็คือ ความปรารถนาของเด็กเนิร์ดคนหนึ่ง”
อันซีนิ่งคิด
“เด็กเนิร์ดเหรอ เขาจะเป็นเด็กเนิร์ดได้ยังไง เขากำลังใบ้ให้ฉันรู้ว่าเขาเป็นใคร เฮ้อ แต่ฉันมันโง่ มองไม่ออกเลยสักนิด”
อันซีนั่งร้องไห้ คนขับแท็กซี่หันมาถาม
“ขอโทษครับคุณ คุณยังไม่บอกเลยว่าลงที่ไหน”
“ช่วยจอดด้านหน้าสี่แยกก็ได้ค่ะ”
อันซีลงจากรถ เดินคิดมาตามทางอย่างเหม่อลอย นึกถึงถ้อยคำต่างๆ ที่เคยคุยกับยิ่วเชียน
“เธอ คือผู้หญิงประเภทที่ฉันรังเกียจที่สุด งั้นดูเหมือนเธอจะมีตา แต่ไม่รู้จักมองคนนะ แล้วเธอ ไม่เคยให้ความหวังคนอื่น สุดท้ายก็ทำให้คนอื่นผิดหวังเหรอ เมื่อก่อนฉันขี้เหร่มาก ดังนั้นจึงไม่มีใครชอบฉัน ในโลกนี้ ไม่มีนางฟ้า มีแต่ปีศาจเท่านั้น และยังเป็นปีศาจที่ปลอมตัวเป็นนางฟ้าซะด้วย เธอน่าจะรู้จักเจ้าของบ้านหลังนี้นะ”
“คุณรู้ได้ไง”
“ถ้ารู้จักล่ะก็ เธอคงเกลียดเขามาก หรือไม่ก็เธอนิสัยแย่ ถึงได้เล่าข่าวลืออย่างนี้”
“คุณมาหาผู้ใหญ่บ้าน เพื่อบริจาคบ้านของฉันเรอะ”
“ใช่แล้วจะทำไม เธอว่าบ้านคนอื่นมีผีสิงได้ แล้วบ้านของเธอแตะต้องไม่ได้เหรอ”
อันซีนึกถึงคำพูดของหมิงเย่
“ที่แท้ เขาเป็นรักแรกของเธอเหรอ”
“คำพูดของเธอ ฉันเชื่อทุกอย่าง ความจริง ฉันเคยลองเชื่อใจคนอื่นเหมือนกัน ดังนั้นน้ำตานางฟ้า คือเรื่องที่เธอใช้หลอกคนอื่นเหรอ”
“ถือว่าใช่”
“เป็นเพียงเรื่องตลกของเธอ เป็นรักข้างเดียวของฉัน เธอไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของฉัน”
“จากนั้นล่ะ”
“จากนั้น”
อันซีเดินพึมพำ
“หลังจากนั้น ตอนนี้ เธอคิดยังไงกับเขาล่ะ ฉันควรทำยังไงดี”
อันซีถอนใจ คิดหนัก ในขณะที่ยิ่วเชียนรีบกลับมาที่บ้าน ร้องเรียกอันซีไปทั่วบ้านด้วยความร้อนใจ แต่ไม่เจอหญิงสาว
“อันซี...อันซี...อันซี...อันซี คงกลับหมู่บ้านภูล่านแล้ว”

หย่งชิงนั่งนิ่งเสียใจอยู่ในร้านอาหาร ท่ามกลางเศษเก้าอี้ และข้าวของที่ตกเกลื่อน พลันได้ยินเสียงฝีเท้า
“ไปให้พ้น”
เสียงเยี่ยนเจ๋อดังขึ้น
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ เธอต้องลองต่อสู้ก่อน ถ้ามัวแต่มานั่งเสียใจอยู่ตรงนี้ จะไม่มีวันที่ใครเอาของขวัญที่เธอชอบมาประเคนให้เธอหรอก”

อ่านต่อตอนที่ 20
กำลังโหลดความคิดเห็น