มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 12
นายอำเภอเต่ากำลังนั่งดูมวย ลุ้นมาก ออกลีลาแอ๊กชั่นตามไปด้วย ขณะที่ท็อปปรึกษากับเต่าสีหน้าจริงจัง
"ความคิดเข้าท่ามากลูกท็อป ตี ตีเข้าไป ที่จริงพ่อก็เคยคิดเหมือนกันว่าเรา... ศอก
เข้าไป อย่างนั้นแหล่ะ ดี ดี ตีเข้าไป... พ่อเองก็เป็นห่วงมาก พ่อกลัวว่า น่าน อย่างนั้น ตีเข้าไป ตี"
ท็อปหยิบรีโมตมากดปิดทีวี
"สู้เข้าไป อย่ายอมแพ้ อ้าว ปิดทำไมลูก กำลังมันส์เลย"
"เลิกดูมวยสักแป๊บเถอะพ่อ ตกลงพ่อก็คิดเหมือนผมใช่มั้ย"
"ใช่ ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน"
ท็อปจับมือเต่าและมองด้วยสีหน้ามีความหวัง
"ถ้าอย่างนั้นพ่อไปพูดกับผู้ใหญ่เข็มและผู้ใหญ่จุ่นให้หน่อยนะครับ การให้ชาวบ้านสองฝั่งคลองร่วมกันช่วยซ่อมสะพานครั้งนี้ มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ชาวบ้านกลับมารักและสามัคคีกันเหมือนเดิม"
"จริง เท่าที่รู้มาตอนนี้ชาวบ้านเริ่มจะมีปัญหากันแล้ว"
"ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง ปัญหาและความขัดแย้งจะต้องบานปลาย และยากที่จะแก้ไขนะครับพ่อ"
นายอำเภอเต่าหันไปหาท็อปด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
"เราต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม พ่อจะเป็นคนไปพูดกับผู้ใหญ่จุ่นและผู้ใหญ่เข็มเอง"
"แต่พ่ออย่าบอกผู้ใหญ่ทั้งสองนะครับ ว่าการซ่อมสะพานเป็นเรื่องที่ยอดกับผมเป็นคนเสนอให้ทำ เพราะถ้าพวกผู้ใหญ่รู้จะต้องต่อต้านแน่ๆ"
"ได้ ไม่มีปัญหา แล้วพ่อก็เชื่อว่าเข็มกับจุ่นต้องเห็นแก่ความสุขของชาวบ้าน พ่อรับรองว่าพวกเค้าต้องรับปากร่วมมือกันซ่อมสะพานอย่างแน่นอน!"
เต่าบอกท็อปอย่างมั่นใจ ท็อปยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
ภายในตลาด เช้าวันใหม่ มิ้นเอาใบปลิวติดที่แผงร้านบัวลอยของนาง
นางผละจากหม้อต้มบัวลอยพรวดเข้ามากระชากเอาใบปลิวออกอย่างไม่ชอบใจ
"ทำอะไรน่ะ!" นางโยนกระดาษใส่มิ้น "ร้านเธอมีที่ให้ติดเยอะแยะ มาติดทำไมร้านฉัน"
"ก็ฉันเห็นว่าร้านเธอคนเข้าเยอะแยะ เลยคิดว่าเอาใบปลิวมาติดที่ร้านเธอคนอื่นจะได้เห็นกันทั่วๆ ว่าธาตุแท้นายยอดเป็นคนชั่วแค่ไหนไงจ๊ะ"
นางรัวตบปากมิ้น
มิ้นทำท่าจะตบตอบ
"แก๊!! ตบปากฉันเหรอ"
"ก็เออสิ ปากเสียแบบนี้มันต้องตบสั่งสอน ข่าวแย่ๆ ของยอดมันเป็นแค่ข่าวลือ เพราะในสายตาฉันยอดเป็นคนดีมาก แล้วอย่ามาคิดเป่าหูลูกค้าของฉัน ลูกค้าฉันมีแต่คนฉลาดๆ ไม่โง่เหมือนเธอ ที่จะเชื่อว่ายอดเป็นคนไม่ดี"
มิ้นหัวเราะเยาะ จิ้มหัวนาง
"คนโง่คือเธอต่างหาก! สมองคงกลวงไปหมดถึงเชื่อว่าผู้ใหญ่เข็มกับยอดว่าเป็นคนแสนดีประเสิรฐศรีขนาดนี้ เฮ้อ พูดไปก็เท่านั้น และฉันขอบอกเลยว่าฉันขออาสาเป็นคนป่าวประกาศให้ทุกคนรู้จักนายยอดให้ดีขึ้น"
นางเข้าไปดึงใบปลิวจากมือแล้วขยำ ปาใส่หน้ามิ้น
"ถ้างั้นฉันก็จะขัดขวางเธอเอง ฉันไม่ยอมให้เธอใส่ร้ายยอดกับผู้ใหญ่เข็มได้อีก"
นางกับมิ้นเดินเข้ามาประจันหน้ากัน จ้องหน้ากันอย่างโกรธๆ
มิ้นถาม
"หมายความว่าเธอจะเป็นศัตรูกับฉันใช่มั้ย"
"ถ้าเธอไม่หยุดใส่ร้ายผู้ใหญ่บ้านที่ฉันเคารพรัก เราก็ต้องเป็นศัตรูกัน"
"ดี ถ้างั้นความรักและมิตรภาพของเราก็ขาดกันตั้งแต่วันนี้"
มิ้นกับนางมองหน้ากันอย่างเกลียดชัง!
ต่อมา นางเอาเทปกาวสีดำมาติดลากระหว่างร้านบัวลอยของนางกับร้านน้ำของมิ้น เพื่อแบ่งเขตแดน
"ตั้งแต่นี้เธอห้ามข้ามมาฝั่งฉัน ส่วนฉันก็จะไม่ไปเหยียบฝั่งเธอ"
แต่พื้นที่ฝั่งนางมีมากกว่า มิ้นไม่พอใจเดินดึงเทปออกมาติดใหม่ ด้วยการลากเทปติดกึ่งกลางระหว่างสองร้านให้พอดี
"เชอะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ พ่อบ้านขี้โกงยังไง ลูกบ้านก็เป็นอย่างนั้น ทางเดินส่วนกลางไม่ใช่ของใคร ต้องแบ่งครึ่งเท่าๆ กันย่ะ"
ฮึ๊ย คำก็โกง สองคำก็โกง"
"สามคำก็โกง สี่ ห้า หก เจ็ด ก็โกงๆๆๆๆ"
"ไม่ไหวแล้วโว้ย"
"จะไฟว้ใช่มั้ย เอาซี๊ ไม่กลัวหรอกเว้ย!"
นางเงื้อมือจะตบมิ้น มิ้นก็เงื้อมือจะตบนางเช่นกัน
นายอำเภอเต่าตกใจรีบเข้ามาแทรกกลางเพื่อห้าม
"เฮ้ยๆๆๆ อย่าทะเลาะกัน อย่า"
นายอำเภอเต่าโดนทั้งสองสาวตบเพี๊ยะ! เต่าร้องลั่น
"โอ๊ย"
มิ้น นางตกใจร้อง "ว๊าย"
มิ้นกับนางตกใจที่ตบหน้าเต่าเข้าให้เต็มๆ
ใบหน้าเต่ามีรอยฝ่ามือแดงเพราะโดนตบ!!!
"ซี๊ด ทะเลาะกันทำม๊าย ค้าขายช่วยกันมาตั้งนาน ร้านก็อยู่ติดกันแค่นี้ รักกันสามัคคีกันสิ ยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนานแสนนาน"
"แต่ต่อไปเห็นทีจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ถ้ายัยนางยังเข้าข้างผู้ใหญ่เข็ม ก็เท่ากับเห็นดีเห็นงามที่ผู้ใหญ่เข็มกับยอดสร้างความเสียหายให้ชาวบ้าน คนแบบนี้ฉันไม่คบ"
เข็มเดินเข้ามาทางหนึ่งสีหน้าเอาเรื่อง
จุ่นก็เดินเข้ามาอีกทาง ทั้งคู่เผชิญหน้ากันด้วยสีหน้าท่าทางไม่อ่อนข้อให้กัน
เข็มชี้หน้าจุ่น
"เพราะเอ็งแท้ๆ ที่ทำให้ข้ากับลูกข้าต้องกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าเป็นคนผิด ทั้งๆ ที่พวกข้าบริสุทธิ์"
จุ่นชี้หน้า
"เอ็งทำตัวเองโว้ย ข้าก็แค่ช่วยให้ชาวบ้านหูตาสว่างว่าเอ็งมันเลวแค่ไหน!"
นายอำเภอกลัวเรื่องบานปลาย รีบเอาตัวเข้ามาแยกเข็มกับจุ่นออกห่างกัน
"เฮ้ยๆๆ อย่าทะเลาะกัน ไหนๆ ก็ยอมมาตามที่ฉันนัดแล้ว เรามาคุยเรื่องงานสำคัญกันเถอะ" นายอำเภอบอกกับนางและมิ้น "นางขอบัวลอยสามถ้วย ส่วนเจ้มิ้นขอน้ำปั่นสามแก้ว"
ทั้งสองโพล่ง "ไม่ขาย!"
ทั้งสาม "เอ้า!"
"บัวลอยของฉันไม่ขายให้ผู้ใหญ่จุ่นค่ะ"
"ส่วนน้ำร้านฉันไม่ขายให้ผู้ใหญ่เข็มเหมือนกัน เข้าใจตรงกันนะ"
"แล้วฉันก็ไม่ยอมให้ผู้ใหญ่จุ่นเหยียบร้านฉันด้วย"
"ฉันก็ไม่ยอมให้ผู้ใหญ่เข็มอยู่ในร้านฉันเหมือนกัน"
"เฮ้ย แต่พวกฉันมีเรื่องต้องหารือกันนะ หยวนๆ หน่อยน่า"
"ฉันไม่ยอม!!! ถ้ายอมรับกติกาไม่ได้ก็เชิญไปร้านอื่นเลย"
"ไม่ไป ฉันจะคุยกันที่นี่เท่านั้น!" เต่าบอก
"แล้วนายอำเภอจะแก้ปัญหายังไง!" มิ้นถาม
เต่ายิ้มออกมาอย่างมีแผน...
โต๊ะตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเทปกั้นแบ่งพื้นที่ เต่านั่งยิ้มแฉ่งหัวโต๊ะตรงกลางระหว่างเส้นแบ่งพอดี เข็มนั่งฝั่งร้านบัวลอยของนาง จุ่นนั่งฝั่งร้านขายน้ำของมิ้น
ข้างหน้าของเข็มมีบัวลอยมากมายหลายถ้วยไว้ต้อนรับ ข้างหน้าจุ่นก็มีน้ำดื่มมากมายหลายชนิดวางอยู่ นางกับมิ้นเอาของกินร้านตัวเองมาเสริฟอีก
"แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง เอาล่ะในเมื่อขนมนมเนยพร้อมแล้ว ก็มาคุยเรื่องสำคัญของเรากันซะที"
เข็มกินบัวลอยอย่างอร่อยจนบัวลอยติดคอ มิ้นตบหลังให้ด้วยความเป็นห่วง จุ่นหัวเราะเข็มอย่างชอบใจ
"ฮ่าๆๆๆ สมน้ำหน้า บัวลอยติดคอตายไปเลย"
แล้วจุ่นก็ดื่มน้ำเข้าไปตอนที่ยังหัวเราะอยู่ จุ่นเลยสำลักน้ำดื่มอย่างแรง มิ้นก็รีบช่วยตบหลังให้
"ฮ่าๆๆๆ หัวเราะทีหลังดังกว่าเว้ย สาธุขอให้สำลักน้ำขาดใจตาย"
"พอๆ เลิกเยาะเย้ยกันได้แล้ว ผมมีเวลาไม่มาก ผมเรียกพวกคุณมาไม่ใช่ให้มาทะเลาะกัน ผมอยากจะคุยเรื่องการซ่อมสะพานกับพวกคุณ"
เข็ม จุ่นโพล่ง "ซ่อมสะพาน"
"ใช่ ผู้ใหญ่ทั้งสองคนก็รู้ดีว่าตอนนี้ความโกรธและความเกลียดชังของคนทั้งสองหมู่บ้านเริ่มเกิดขึ้นแล้วนะ ไม่กลัวว่ามันจะบานปลายเลยหรือไง"
เข็ม จุ่น สีหน้าครุ่นคิดๆ
"แล้วมันเกี่ยวกับซ่อมสะพานตรงไหน"
"เกี่ยวสิ ถ้าชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านร่วมแรงร่วมใจกันช่วยซ่อมสะพาน จนเกิดความสามัคคีขึ้นมา ความสามัคคีนี่แหล่ะที่จะเป็นกาวใจให้ชาวบ้านกลับมาเข้าใจกันและมีมิตรภาพที่ดีให้แก่กันอีกครั้ง"
ทั้งเข็มกับจุ่นต่างครุ่นคิดตามคำขอของนายอำเภอเต่า
"สะพานสองฝั่งคลอง บรรพบุรุษของพวกคุณช่วยกันสร้างขึ้นมา คุณจะทนเห็นมันแตกหักอยู่แบบนั้นจริงๆ เหรอ"
เข็มบอก
"ได้ครับผมจะให้ชาวบ้านหมู่บ้านผมช่วยกันซ่อมสะพาน และการซ่อมสะพานครั้งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของผมคนเดียวเท่านั้น"
"เฮ้ย เอ็งจะเอาหน้าคนเดียวนี่หว่า จะเอาผลงานคนเดียวเลยเหรอ ... ให้ผมรับผิดชอบดีกว่า ผมทำได้ดีกว่าไอ้เข็มแน่ๆ"
"ไม่ได้ๆ ถ้าพวกคุณคนใดคนหนึ่งเป็นคนรับผิดชอบฝ่ายเดียว ความคิดที่จะให้ชาวบ้านรักและสามัคคีกันจะเกิดผลสำเร็จได้ไง"
เข็มตบโต๊ะปัง ลุกขึ้น "ผมร่วมงานกับไอ้แก่นี่ไม่ได้"
จุ่นตบโต๊ะปัง ลุกขึ้นเช่นกัน "ผมก็ร่วมงานกับคนไม่เอาไหนแบบมันไม่ได้เหมือนกัน"
"อ้าว แล้วเรื่องซ่อมสะพานล่ะ จะเอายังไง"
เข็ม จุ่นโพล่ง "ไม่ซ่อม!"
เข็มกับจุ่นเดินหนีออกไปจากตรงนั้นทันที
เต่ามองตามอย่างเหวอๆ
"อ้าว หนีไปซะงั้น ... นี่ไม่เห็นแก่หน้านายอำเภอเลยรึไง เฮ้อ เซ็งเป็ด!"
นายอำเภอเต่ามองตามทั้งคู่อย่างหนักใจ…
ยอดกับท็อปแอบที่ลับตาคนในมุมหนึ่งละแวกร้านบัวลอย ทั้งสองมองตามผู้ใหญ่เดินออกไปด้วยสีหน้าผิดหวัง
"ทำไมพวกพ่อดื้อกันแบบนี้ ขนาดนายอำเภอคนที่พ่อฉันเคารพมากมาช่วยพูดก็ยังไม่สำเร็จ"
"แล้วจะทำยังไงละทีเนี้ย ขืนชักช้าไม่รีบทำให้ชาวบ้านดีกันไวๆ ต่อไปปัญหาทุกอย่างต้องยุ่งยากกว่านี้แน่"
ยอดกับท็อปมองหน้ากันด้วยสีหน้าหนักใจมาก
ยอดเดินมากับท็อปมองไปทางสะพาน ทั้งสองมีสีหน้าที่ครุ่นคิดอย่างหนัก
"เซ็งว่ะ คิดอะไรไม่ออกแล้ว จะต้องใช้วิธีไหนเนี่ย พวกพ่อถึงจะยอมซ่อมสะพานกัน"
"ขอดีๆ ไม่ยอม ถ้างั้นจับตัวมาขู่บังคับเลยดีมั้ย"
"ไม่มีทาง ยิ่งบังคับก็ยิ่งต่อต้าน"
"เอ็งต้องตาย!"
ยอด ท็อป ชะงัก หันไปมองเห็นหมอดู แต่งตัวด้วยเสื้อกางเกงสีขาวยืนชี้หน้าจ้องเขม็งมองยอด ยอดกับท็อป ตกใจ
"เอ็งต้องตาย ถ้าไม่ทำตามที่ข้าบอก เอ็งกับครอบครัวจะต้องมีอันเป็นไป!"
"อะไรของน้า อยู่ดีๆ ก็มาแช่งกัน"
หมอดูยืนขวางทางยอดไปให้ไปไหน
"ชะตาเอ็งถึงฆาตแล้ว ข้าจะแก้ไขดวงของเอ็งให้ แต่เอ็งต้องทำตามที่ข้าบอกทุกประการ ถ้าไม่ทำตามเอ็งจะเจอแต่โชคร้าย และสุดท้ายเอ็งจะต้องตาย ฮ่าๆๆ"
ยอดและท็อปมองหมอดูอย่างงงๆ
มีชาวบ้านชาวสองคนวิ่งเข้ามาล็อกตัวหมอดู ยอดกับท็อปมองดูอย่างตกใจและสงสัยไปด้วย
ชาวบ้าน1บอก
"ขอโทษด้วยนะครับ ที่พี่ผมมารบกวน อย่าถือสาแกเลยนะครับ แกเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาล ตอนนี้อาการยิ่งกำเริบด้วย ... พี่ไม่กินยาอีกแล้วใช่มั้ย อยากโดนไฟฟ้าช็อตรึไง ไปพี่ กลับบ้าน"
ชาวบ้านลากหมอดูออกไป ท็อปมองตามอย่างงงๆ มึนๆ ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกือบไม่ทัน ยอดมองตามด้วยสีหน้าครุ่นคิดพลันหัวเราะขึ้นมา
"อะไรของนาย เป็นบ้าไปอีกคนหรือไง"
"ฉันคิดออกแล้วว่าจะทำยังไงพ่อถึงจะยอมซ่อมสะพาน"
ยอดมองไปทางสะพานแล้วยิ้มอย่างมีแผน
อ่านต่อหน้า 2
มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 12 (ต่อ)
บ้านเข็ม เช้าวันใหม่
เข็มกำลังตกแต่งกิ่งไม้ที่โผล่พ้นออกมานอกบ้านให้ดูสวยงามเป็นระเบียบ ยอดเข้ามาช่วย
"ไอ้ยอด ทำไมไม่ไปซ้อมร้องเพลง ไม่ต้องมาช่วยข้าหรอก"
"ช่วยกันจะได้เสร็จไวๆ ไงพ่อ มายืนตากแดดนานๆ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปพอดี"
"แหม ทำมาเป็นห่วง"
ยอดเข้าไปอ้อน
"ฉันมีพ่ออยู่คนเดียว ไม่ให้ห่วงพ่อ แล้วพ่อจะให้ฉันห่วงใครล่ะ"
ระหว่างนั้น ซินแสเดินเข้ามา เข็มกับยอด หันไปมองอย่าง งงๆ
"ใครน่ะ ถ้าจะมาแจกซองผ่าป่าไปบ้านอื่นก่อนเลย"
ซินแสหน้าเครียด ถอนหายใจ
"ความดำมืดมันได้เข้ามาครอบงำดวงชะตาท่านแล้ว"
"เอ็งเป็นใครวะ พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจ ชะตาครอบงำอะไรของเอ็ง"
"ผมเป็นซินแส ผมมีหน้าที่จากสวรรค์ให้ช่วยเหลือคน และผมมองเห็นว่าดวงชะตาของท่านกำลังตกต่ำ ท่านเกิดราศีพิจิกใช่ไหม"
เข็มอึ้ง"ใช่ รู้ได้ไงวะ"
"ตอนนี้มีดาวราหูทาบทับดวงชะตาอันเป็นดาวปรปักษ์กับดวงเกิดทำให้ดวงชะตาของท่านตกอย่างหนัก จะมีแต่ความโชคร้ายมาเยือนท่านและครอบครัว ท่านจะต้องเสริมดวงชะตาอย่างเร่งด่วน"
"ต้องเสริมชะตายังไงเหรอครับ"
ซินแสชี้มือไปที่เข็ม
"ท่านและอริของท่านจะต้องร่วมมือกันซ่อมสะพาน"
ยอด เข็มพร้อมกัน "ซ่อมสะพาน"
"นี่ก็อีกคน นายอำเภอเพิ่งมาขอร้องข้าหมาดๆ ข้าไม่ซ่อมโว้ย"
"ท่านซินแสอุตส่าห์มาเตือน เราลองทำตามก็ไม่เสียหายอะไรนะ ดีซะอีกเราจะได้ช่วยชาวบ้านที่ลำบากไม่มีสะพานใช้ไง"
"ข้าไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลแบบนี้หรอกเว้ย ไอ้ซินแสคนนี้คงเป็นพวกต้มตุ๋น ไปๆๆ ออกไปให้พ้นจากบ้านข้า"
"ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าท่านยังดื้อไม่ยอมคิดซ่อมสะพาน แค่ภายในวันนี้เวลา สามโมงเย็นจะเกิดเรื่องร้ายกับคนในครอบครัวของท่าน"
เข็มมองซินแสอย่างโมโหมาก ปรี่เข้าไปจะเตะ
"อ้าว ไอ้นี่บุกรุกบ้านคนอื่นแล้วยังแช่งอีก เตะให้ตูดแตกซะทีดีมั้ย"
เข็มวิ่งไล่ซินแสจนหนีออกไป ยอดยิ้มออกมาอย่างมีแผนเด็ด
จุ่นมองหน้าซินแสอย่างโมโหสุดๆ แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายยืนอยู่ข้างๆ จุ่น
"ถ้าท่านไม่ซ่อมสะพานเพื่อต่อดวงชะตา นับจากนี้จะมีแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับท่านและครอบครัว"
"หมอดูซินแสอย่างพวกเอ็งอมพระมาพูดข้าก็ไม่เชื่อ แก้กรรม ต่อดวงชะตา ซ่อมสะพาน ข้าไม่ทำโว้ย ไปๆ ไปให้พ้นเลย"
จุ่นลุกขึ้นเดินไปหยิบปืนลูกซองที่แขวนผนังไว้ เอามาเล็งไปที่ซินแส
"ไป๊!"
ซินแสกลัว รีบวิ่งหนีไปเลย
"พ่อ ท่านซินแสเค้าแค่หวังดีกับพ่อนะจ๊ะ" ปุยฝ้ายบอก
"หวังดีหรือหวังเงินกันแน่ ฝ้ายโดนมันหลอกแล้ว มันแค่หมอเดา เดามั่วๆ ไปเรื่อย"
แก้มบุ๋มบอก
"ไม่มั่วนะพ่อ แก้มกับฝ้ายไปเจอท่านซินแสที่ร้านกาแฟในหมู่บ้าน ท่านดูดวงแม่น มาก ทำนายเรื่องแก้มถูกหมดทุกอย่าง แก้มก็เป็นห่วงพ่อเลยอยากให้แกมาดูดวงให้พ่อ เพราะช่วงนี้เกิดแต่เรื่องไม่ดีขึ้นหลายอย่าง"
"พ่อดีใจที่พวกลูกเป็นห่วงนะ แต่คราวหน้าลูกสองคนก็ไม่ต้องพาคนแปลกหน้าเข้ามาบ้านเราอีก เพราะถ้าเกิดเจอคนไม่ดี พวกลูกจะลำบากเอา"
แก้มบุ๋ม ปุยฝ้ายเสียงเศร้าๆ "ค่ะพ่อ"
จุ่นไม่สนใจแก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายอีก เอาหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านบังหน้าตัวเองไว้ แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายมองจุ่น พลันทั้งคู่แอบกิฟต์มีไฟว์ให้กัน…
มุมลับตาละแวกบ้านจุ่น แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายพนมมือไหว้ขอบคุณซินแส
"ขอบคุณน้ามากเลยนะจ๊ะ พ่อเชื่อสนิทเลยว่าพวกฉันกับน้าไม่รู้จักกัน"
ปุยฝ้ายบอก
"ฉันเป็นหนี้น้าแล้วที่อุตส่าห์มาช่วยเล่นละครให้"
"ไม่เป็นไรๆ ฉันเต็มใจช่วย ตอนที่ยอดขอความช่วยเหลือจากฉัน ฉันก็ได้ยินแผนการว่าพวกเอ็งอยากช่วยให้ชาวบ้านรักและสามัคคีกัน ถึงฉันจะเป็นคนของหมู่บ้านอื่น แต่ฉันก็อยากมีส่วนร่วมด้วย ข้าหวังว่าทุกคนจะทำตามแผนที่วางไว้ให้สำเร็จนะ"
"เชื่อมือพวกเราได้เลยค่ะ"
แก้มบุ๋มยิ้มออกมาอย่างมั่นใจว่าแผนจะสำเร็จไปได้ด้วยดี
ฝ้ายกำลังป้อนฝรั่งให้จุ่นที่มุมรับแขก พลางมองด้วยสีหน้าท่าทางเป็นห่วงเป็นใย
"พ่อไม่ลองทำตามที่ซินแสแนะนำเหรอ ฝ้ายไม่สบายใจเลย กลัวว่าที่ซินแสเตือนมาจะเป็นเรื่องจริง"
"ไร้สาระ พ่อไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอก"
"แล้วถ้ามันเกิดเรื่องร้ายๆ กับเราล่ะพ่อ"
"เลิกๆ พ่อไม่อยากฟังเรื่องนี้แล้ว"
เพล้ง! พลันจุ่นกับปุยฝ้ายได้ยินเสียงของหล่นกระทบพื้นบ้าน
"เสียงดังจากห้องฝ้ายนี่!"
จุ่นกับปุยฝ้ายวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้อง ทั้งคู่เห็นถ้วยรางวัลหล่นแตกกระจายอยู่ที่พื้น ปุยฝ้ายรีบเข้าไปดูถ้วยรางวัลด้วยใจแหลกสลาย
"ไม่นะ ถ้วยรางวัลของฝ้าย อยู่ๆ ตกลงมาแตกได้ยังไง"
จุ่นเดินเข้ามาจับไหล่ปุยฝ้ายอย่างปลอบใจ
"ไม่เป็นไรนะลูก เสียไปแล้วก็หาใหม่ได้"
ปุยฝ้ายแกล้งร้องไห้
"แต่ถ้วยนี้เป็นถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งร้องลิเกถ้วยแรกของฝ้าย พี่เอไชยา ขวัญใจของฝ้าย มอบให้ฝ้ายกับมือตัวเอง ถ้วยใบนี้เป็นถ้วยที่มีค่าที่สุด ในชีวิตของฝ้าย เพราะมันเป็นรางวัลชิ้นแรกที่ฝ้ายได้รับจากการทำในสิ่งที่ฝ้ายรักมาก"
ปุยฝ้ายแกล้งร้องไห้อย่างหนัก
" มันไม่มีอะไรมาทดแทนความรู้สึกที่เสียไปของฝ้ายได้หรอกค่ะพ่อ ฮือๆๆ"
พลันปุยฝ้ายก็สะอึกสะอื้นร้องไห้ออกมาพลางเอาเศษชิ้นถ้วยรางวัลเอามามองด้วยความทุกข์ใจ
จุ่นเห็นก็สงสารปุยฝ้ายจับใจ จุ่นลงนั่งแล้วเข้าไปกอดปลอบปุยฝ้าย
"ไม่เป็นไรนะลูก ถึงของจะพังไปแล้ว แต่ความทรงจำของลูกก็ยังอยู่ จดจำความรู้สึกดีๆ ไว้ก็พอ"
"แต่มันก็ทำใจลำบากนะพ่อ พ่อ... ที่ของรักของฝ้ายเสียหาย เป็นเพราะคำทำนายของซินแสรึเปล่า ไม่ทันไรก็เกิดเรื่องไม่ดีแล้ว"
จุ่นครุ่นคิด
"ไม่มั้ง มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากกว่า"
พลันปุยฝ้ายหันมองไปมุมหนึ่งที่ด้านนอกประตูห้อง เห็นก้มบุ๋มหลบมุมอยู่
ปุยฝ้ายกับแก้มบุ๋ม ทำมือสัญลักษณ์ โอเค ให้แก่กัน!
แก้มบุ๋มยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เพิ่งเกิดขึ้น
แก้มบุ๋มเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนปุยฝ้าย แล้วเอาถ้วยรางวัลใบหนึ่งออกมาสลับสับเปลี่ยนกับถ้วยรางวัลสุดรักของปุยฝ้าย แก้มบุ๋มเอาถ้วยรางวัลสุดรักของปุยฝ้ายใส่กระเป๋า แล้วเอาถ้วยรางวัลเลียนแบบที่เตรียมมาปาลงพื้นอย่างแรง จนแตกเพล้ง!"
"พี่จัดฉากให้แล้ว ขอให้แสดงละครให้เนียนๆ นะฝ้าย"
แล้วแก้มบุ๋มก็รีบเดินออกไปทันที
... แก้มบุ๋มยิ้มออกมา พึมพำ
"เรียบร้อย เริ่มแผนต่อไปได้"
แก้มบุ๋มปีนเก้าอี้แล้วไปขยับหลอดไฟ คลายเกลียวให้หลวม
ปุยฝ้ายลองกดสวิทช์ไฟ ปรากฏว่าไฟไม่ติด
"โอเค เรียบร้อย"
ปุยฝ้ายหยิบเลื่อยที่เตรียมมา เลื่อยขาเก้าอี้ไม้ ให้เป็นรอย ปุยฝ้ายมองแก้มบุ๋มด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
"พี่แก้ม เราทำอย่างนี้จะดีเหรอ ถ้าเกิดพ่อขึ้นเก้าอี้แล้วล้มเจ็บขึ้นมาล่ะ"
"นี่แหล่ะที่สำคัญ เราต้องป้องกันทุกอย่างเพื่อไม่ให้พ่อบาดเจ็บ แค่ทำให้พ่อรู้สึกไม่ปลอดภัยก็พอ"
พลันปุยฝ้ายก็เลื่อยขาเก้าอี้เสร็จ ปุยฝ้ายลองโยกเก้าอี้ดูก็เห็นว่าขาโยกไปมาไม่เท่ากัน
"คราวนี้ก็ไปพาพ่อมาเปลี่ยนหลอดไฟได้เลย"
จุ่นถือหลอดไฟยืนกดสวิตซ์ปิดเปิดไฟก็ไม่ติด แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายยืนดูอยู่ข้างๆ
"ถ้าเกลียวไม่หลวม ก็หลอดไฟเสีย เฮ้อ เราสองคนโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว แค่
เปลี่ยนหลอดไฟก็ทำไม่เป็น"
"ก็ฝ้ายกับพี่แก้มกลัวนี่นา พ่อดูให้หน่อยนะ"
จุ่นมองเห็นเก้าอี้ไม้ ก็ชี้บอกลูก
"เอาเก้าอี้มา"
ปุยฝ้ายลากเก้าอี้เข้ามาให้จุ่น จุ่นปีนเก้าอี้เพื่อจะเปลี่ยนหลอดไฟ แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายยืนประกบระวังความปลอดภัยให้จุ่น
พลันที่จุ่นขึ้นเก้าอี้ ด้วยความที่เก้าอี้ ถูกเลื่อยไว้ ทำให้รับน้ำหนักไม่อยู่ ขาเก้าอี้หักทักที จุ่นเสียการทรงตัว และถลาไปข้างหลัง
"เฮ้ย"
แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายช่วยจับตัวจุ่นไว้
แก้มบุ๋มบอก
"พ่อไม่เป็นอะไรนะคะ"
"โอ๊ย ขวัญเอ๊ยขวัญมา เกือบไปแล้ว ขอบใจมากลูก อะไรวะ ยังดีๆ อยู่ ดันหักซะงั้น"
"โชคดีนะจ๊ะ ที่หักน่ะเป็นเก้าอี้ ไม่ใช่กระดูกของพ่อ"
"พ่อแก้มว่ามันแปลกๆ แล้วนะ น้องบอกว่าอยู่ๆ ถ้วยรางวัลที่น้องรักมากก็ตกแตกแล้วนี่พ่อก็เกือบจะล้มหงายหลังหัวฟาดพื้น ถ้าพวกฉันไม่อยู่ตรงนี้ แล้วพ่อล้มเจ็บหนักขึ้นมา ฉันคงเสียใจไปตลอดชีวิต พ่อจ๋า ที่เกิดเรื่องมี่กับเรา ต้องเป็นเพราะพ่อดวงตกตามที่ซินแสทำนายไว้แน่ๆ เลย"
ปุยฝ้ายสนับสนุน "จริงด้วย ต้องใช่แน่ๆ ซ่อมสะพานตามที่ซินแสบอกเถอะ"
จุ่นครุ่นคิด ชักเครียด แต่ก็ยังไม่เชื่อ
"เหลวไหล พ่อไม่เชื่อหรอก มันเรื่องบังเอิญทั้งนั้น"
" แล้วถ้ามันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญละคะพ่อ"
แก้มบุ๋มชี้ที่นาฬิกาที่บอกเวลา14.00นาฬิกา
"ดูสิคะ ซินแสบอกจะเกิดอุบัติเหตุกับพ่อเวลาบ่ายสอง แล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วค่ะพ่อ เชื่อซินแสและซ่อมสะพานเถอะ ไม่งั้นมันต้องเกิดเรื่องร้ายแรงกว่านี้แน่ๆ แก้มมั่นใจ"
จุ่นฟังด้วยสีหน้าครุ่นคิดอย่างไม่สบายใจ จุ่นสีหน้าเครียดๆ จะตัดสินใจอย่างไร…
แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายกิ๊ฟมีไฟว์กัน ด้วยสีหน้ามีความสุขสุดๆ
"ฝ้ายเห็นหน้าพ่อมั้ย พ่อดูกังวลมากๆ พี่ว่าพ่อเริ่มเชื่อแล้วล่ะว่าแกดวงตก และต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับบ้านเราจริงๆ"
"แบบนี้ต้องขยี้ให้หนักเลย ต้องทำให้พ่อเชื่อ100%ให้ได้!" ปุยฝ้ายบอก
แก้มบุ๋มครุ่นคิดถึงยอด
"ทางเราก็กำลังไปได้สวย... ไม่รู้ว่าทางนั้นจะเป็นยังไงบ้าง… ยอด"
"ท็อป"
"ขอให้ทำสำเร็จนะ"
แก้มบุ๋ม ปุยฝ้าย เอาใจช่วยขอให้สองหนุ่มช่วยโน้มน้าวเข็มให้สำเร็จ
ท็อปหย่อนยาถ่ายชนิดเม็ดใส่ลงไปในแก้วกาแฟ ยอดมองตาอย่างหวั่นๆ ท็อปจะใส่ยาอีกเม็ดลงไปในแก้ว แต่ยอดแย่งยาไว้
"เฮ้ยๆ พอแล้ว เม็ดเดียวก็พอ เดี๋ยวพอฉันก็จู๊ดๆ ไม่หยุดพอดี นายก็บอกเองว่ายาถ่ายของนายชนิดรุนแรงไม่ใช่เหรอ"
"มันก็ใช่ แต่เผื่อไว้ดีกว่า ถ้าเกิดพ่อนายดื้อยาขึ้นมาล่ะ"
"คนบ้าอะไรจะดื้อยาถ่าย"
"หึหึ ถ้าพ่อนายกินกาแฟ ผสมยาถ่ายเข้าไปรับรองว่าเข้าห้องน้ำทั้งวันทั้งคืนแน่ๆ
พ่อนายก็จะงงว่าอยู่ๆ ท้องเสียอย่างหนักได้ยังไง ที่นี้เราก็ช่วยกันบิ๊วท์ว่าเพราะพ่อดวงตก ก็เลยเป็นโรคท้องร่วงโดยไม่มีสาเหตุ และอาจจะเสียน้ำจนช็อกตายได้ง่ายๆ"
ยอดมองยาในมือ
"ขอโทษนะพ่อ"
"ไป เอากาแฟไปให้พ่อนายได้แล้ว" ท็อปว่า
พลันที่เข็มเดินเข้ามา ยอด กับ ท็อป ชะงัก
"มาทำอะไรกันตรงนี้" เข็มมองยาเม็ดในมือยอด "แล้วนั่นยาอะไรน่ะ!"
"เอ่อ ยาแก้ปวดหัวน่ะพ่อ"
ยอดเอายาใส่ไว้ในปาก เพราะกลัวว่าเข็มจะจับได้
"อ้าว กินยาแล้วทำไมไม่กินน้ำตาม"
ยอดชะงักหันมองหน้าท็อป ประมาณว่า ซวยแล้วกู!!!
"อ้าว กินน้ำตามสิ เดี๋ยวก็ติดคอตาย กินสิ"
"จ้ะๆ กินจ้ะกิน"
ยอดกลัวเข็มสงสัยในพิรุธก็เลยกินน้ำกาแฟตามไป ยอดกลืนยาเม็ดลงไป
ท็อปพึมพำเบาๆ
"ซวยแน่นายยอด!"
ไม่นานนักยอดก็รู้สึกท้อไส้ปั่นป่วน
ยอดตดแพร่ดออกมา เข็มกับท็อปเอามืออุดจมูก
"อื้อหือ ไส้เน่าชัดๆ" เข็มว่า
"ปลาโลมาจะออกปากอ่าวแล้ว ซี๊ดส์ ฉันขอตัวก่อนนะจ๊ะ"
ยอดเอามือกุมก้นแล้วรีบวิ่งจู๊ดออกไปทันที ท็อปมองตามอย่างเอาใจข่วย...
อ่านต่อหน้า 3
มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 12 (ต่อ)
ท็อป เข็ม ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ทั้งสองสีหน้าห่วงๆ ยอดที่อยู่ข้างใน เสียงชักโครกดังขึ้น สักพักประตูเปิดออก
ยอดหน้าซีดคลานออกมาจากห้องน้ำ ท็อปกับเข็มเอามืออุดจมูก...
"ยอด ไหวมั้ยวะ"
"ไม่น่าไหวนะครับ นี้ก็เข้าไปถ่ายรอบที่10แล้ว" ท็อปบอก
"11 ต่างหาก ซี๊ดส์ อุจจาระพรั่งพรูอย่างกับสายน้ำ"
"ทำไมอยู่ๆ ถึงท้องร่วงวะ เอ็งไปกินอะไรมา อาหารเป็นพิษรึเปล่า"
"ฉันไม่ได้กินอะไรแปลกๆ เลยนะพ่อ"
ท็อปชี้ที่นาฬิกาที่ผนังบ้าน บอกเวลา15.00 นาฬิกา
"ผู้ใหญ่ครับ จำที่ซินแสบอกได้มั้ย ว่าวันนี้สามโมงเย็น จะเกิดเรื่องร้ายกับคนในครอบครับ ดูสิครับเป๊ะเลย อยู่ๆ ยอดก็ถ่ายไม่หยุด ผมว่าสิ่งที่ซินแสพูดไว้ต้องเป็นความจริงแน่ๆ"
"ไม่จริงหรอก มันแค่เรื่องบังเอิญ"
"ไม่บังเอิญหรอกพ่อ อยู่ๆ ก็ ท้องเสียไม่มีสาเหตุ พ่อ ฉันว่าพ่อต้องซ่อมสะพานแล้วล่ะ"
พลันยอดก็ปวดท้องอีกครั้ง
"โอ๊ยยย มาแล้ว มันมาอีกแล้ว ซี๊ดส์"
ยอดคลานกลับเข้าไปในห้องน้ำ เข็มสีหน้าไม่สบายใจ
ท็อปบิ๊วท์เข็ม
"ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ ถ้าไม่ทำตามที่ซินแสบอก ผมเชื่อว่าเหตุร้ายต้องเกิดขึ้นเรื่อยๆ แน่"
เข็มสีหน้าครุ่นคิด แววตามีความหนักใจ…
ปุยฝ้ายยืนดูต้นทางให้แก้มบุ๋ม
จุ่นเดินถือสมุดคิวงานเข้ามาจากข้างหลัง
" ฝ้าย ดึกๆ ดื่นๆ ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะลูก"
ปุยฝ้ายหันไปประจันหน้ากับจุ่นด้วยความตกใจ
"คือ…..ฝ้าย ฝ้าย ฝ้ายเอ่อ อ๋อ ฝ้าย" ปุยฝ้ายทำท่าแกว่งแจนลดพุง "แกว่งแขวนลดพุงน่ะ "
พ่อ พ่อทำด้วยกันสิ พุงจะได้ยุบ แล้วทำไมพ่อยังไม่นอนล่ะจ๊ะ"
จุ่นแกว่งแขวนตามลูก
"พ่อจะไปหาพี่แก้ม มีเรื่องคิวงานอยากคุยด้วย พอดีแม่จำปา แม่ยกเจ้าประจำของเรา แกอยากจ้างคณะเราไปงานแต่งลูกชาย ไม่รู้จะเลื่อนคิวอื่นได้หรือเปล่า พ่อไปล่ะ"
จุ่นกำลังเดินไปหาแก้มบุ๋มที่ห้อง
ปุยฝ้ายตกใจรีบเข้าไปขวางทางจุ่น
"พ่อไปไม่ได้"
"เอ้า ทำไมล่ะฝ้าย หรือพี่แก้มไม่อยู่ที่ห้อง"
"ไม่ๆๆ ไม่ใช่ค่ะพ่อ พี่แก้มตัวร้อน ฝ้ายเลยให้กินยา ตอนนี้นอนหลับไปแล้ว เอาเป็นว่าให้ฝ้ายดูคิวงานแทนพี่แก้มนะคะ"
"ฝ้ายทำเป็นเหรอ ฝ้ายไม่เคยดูคิวงานให้พ่อเลยนะ"
"คนเราต้องมีครั้งแรก ทำไม่ได้ก็ฝึกได้ค่ะพ่อ ไม่ยากเกินความสามารถฝ้ายหรอก"
"มาแปลกนะเรา ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะทำ"
"โถ่พ่อ ก็ฝ้ายโตแล้วไงคะ ก็ต้องช่วยแบ่งเบาภาระคนอื่นบ้าง และถ้าวันหน้าพี่แก้มไม่ว่างดูให้อีก พ่อจะได้มีฝ้ายช่วยจัดการให้อีกคนไง"
"ดีๆๆ มีแกสองคนช่วยงานพ่อ พ่อจะได้หมดห่วง"
ปุยฝ้ายยิ้มประจบจุ่น จุ่นก็มองปุยฝ้ายอย่างเอ็นดู
ลับหลังสายตาจุ่น ปุยฝ้ายแอบลอบถอนใจอย่างโล่งอก
ยอดขี่รถมอเตอร์ไซค์มาหลบในมุมมืด สีหน้ายังเพลียจากยาถ่าย แก้มบุ๋มที่รออยู่รีบเข้าไปรับ
ยอดจอดมอเตอร์ไซค์ แล้วรีบโผเข้ากอดแก้มบุ๋มด้วยความคิดถึง
"ยอดคิดถึงแก้มจะตายอยู่แล้ว"
"แก้มเชื่อ สภาพยอดเหมือนใกล้ตายจริงๆ ดูสิ ทำไมซีดเซียวแบบนี้ล่ะยอด"
"กินยาถ่ายเข้าไปน่ะแก้ม จู๊ดๆ ไม่หยุดเลย"
"โธ่ยอด"
"แต่ก็คุ้มนะ ตอนนี้พ่อเริ่มกังวลแล้วล่ะว่ากำลังจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเหมือนที่ซินแสบอก"
"พ่อแก้มก็กำลังจะเชื่อเหมือนกัน แผนเราอาจจะได้ผลก็ได้นะยอด"
"ต้องได้ผลสิ พ่อแก้มกับพ่อยอด ต้องยอมซ่อมสะพาน ยอดมั่นใจ"
ยอดกอดแก้มบุ๋มด้วยความรู้สึกรักสุดหัวใจ
"ถ้าชาวบ้านทั้งสองฝั่งคลองรักกัน สามัคคีกัน บางทีชาวบ้านอาจจะช่วยให้เราสมหวังในความรักก็ได้นะแก้ม"
แก้มบุ๋มซบอกยอด
"สาธุ ก็ขอให้เป็นแบบนั้นด้วยเถอะ"
สักพักแก้มบุ๋มทำจมูกฟุดฟิดๆ ประมาณว่า ตดใช่ไหมนี่
"แหะๆ ยอดเอง ท้องไส้ยังไม่ค่อยดี"
"กลิ่นใช้ได้แต่เสียงต้องปรับปรุงนะ ไม่มีเสียงเตือนมาก่อนเลย"
"ซี๊ด มันมาอีกแล้วแก้ม ยอดกลับก่อนดีกว่า ซี๊ด"
ยอดรีบไป แก้มบุ๋มส่ง
"รักเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือความห่วงใยนะ" ยอดทำมือไอเลิฟยู "ยอดไปแล้วนะ"
แล้วยอดก็รีบขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ขี่ออกไป แก้มบุ๋มโบกมือลา มองด้วยสายตาที่เป็นห่วง
เช้าวันใหม่ จุ่นจิบกาแฟ มีสีหน้าเคร่งเครียดคิดถึงเรื่องตอนที่ปุยฝ้ายเสียใจที่ถ้วยรางวัลพัง และจุ่นก็มีสีหน้าเคร่งเครียดคิดถึงเรื่องที่ตัวเองเกือบตกเก้าอี้ แต่โชคยังดีที่แก้มบุ๋มกับปุยฝ้ายช่วยไว้
จุ่นถอนหายใจ
"หรือว่าเราจะดวงตก และจะเกิดเรื่องไม่ดีกับบ้านเราจริงๆ"
พลันเสียงโครมครามของเข้าของที่ตกหล่นกระจาย
แก้มบุ๋มร้อง "โอ้ย"
จุ่นสะดุ้งรีบวิ่งตามเสียงไปอย่างรีบร้อน
จุ่นเข้ามาเห็นแก้มบุ๋มล้มลงนอนที่พื้น ในมือยังถือไม้กวาดอยู่ ข้างๆ เห็นแจกันตกแตก ปุยฝ้ายอยู่ข้างๆ แก้มบุ๋ม มองอย่างเป็นห่วง
"โอ๊ย ปวดหัว ปวดๆๆ"
จุ่นเข้ามาหาอย่างเป็นห่วง
"แก้ม ลูกแก้ม เป็นอะไรไปลูก"
"พี่แก้มกวาดบ้านอยู่ดีๆ ก็หน้ามืดเซชนของล้ม พี่แก้มๆ เป็นยังไงบ้างง"
"ปวดหัว ปวด โอ๊ย ทนไม่ไหวแล้ว ปวดหัว"
แก้มบุ๋มร้องโอดโอย จับหัวด้วยความทรมานแสนสาหัส
ปุยฝ้ายบอก
"พ่อ ซินแสบอกจะเกิดเรื่องร้ายกับบ้านเรา มันเกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อวานฝ้ายเสียของรัก พ่อเกือบล้มหัวฟาดพื้น พี่แก้มปวดหัวจะระเบิด คิวต่อไปต้องเป็นแม่แน่ๆ"
"ไว้คุยเรื่องนี้ทีหลัง รีบพาแก้มไปโรงบาลก่อนเถอะ"
จุ่นกับปุยฝ้ายรีบพยุงแก้มบุ๋มออกไปทันที
จุ่นกำลังขับรถด้วยความกังวลใจ เบาะหลังปุยฝ้ายกำลังนั่งโอบแก้มบุ๋มอย่างเป็นห่วง
แก้มบุ๋มจับหัวด้วยความทรมานอย่างมาก ปุยฝ้ายเห็นก็ร้อนรนมากยิ่งขึ้น
"ฝ้ายพี่ปวดเหลือเกิน พี่ปวดหัวจนทนไม่ไหวแล้ว"
"แก้ม อดทนไว้นะลูก อีกไม่นานก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว"
"โอ๊ย ทำไมมันไกลอย่างนี้ แล้วตอนไหนจะถึง พี่แก้มจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะพ่อ"
"พ่อก็รีบขับอยู่เนี่ย พอดีมันต้องขับอ้อม"
"พ่อเห็นมั้ย เพราะไม่มีสะพาน เราถึงต้องขับอ้อมโลกอย่างนี้ ถ้ามีสะพานป่านนี้เราถึงตั้งนานแล้ว ถ้าพี่แก้มถึงมือหมอช้าเกินไป แล้วเกิดเรื่องเศร้าขึ้น พ่อจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิต"
จุ่นได้ยินปุยฝ้ายพูดก็มีสีหน้าไม่สบายใจ
ตู้ม!!! พลันเสียงดังขึ้นควันพวยพุ่งออกมาจากหน้ารถ ทุกคนตกใจ จุ่นรีบเอารถเข้าข้างทางอย่างเร็ว
ควันรถก็พุ่งออกมาจากกระโปรงหน้ารถอย่างไม่หยุดยั้ง
ปุยฝ้ายกับจุ่นรีบประคองแก้มบุ๋มมานั่งที่พื้นริมขอบถนน
"รถจะระเบิดมั้ยพ่อ"
จุ่นเปิดฝากระโปรงรถ
"ไม่ระเบิดหรอก น้ำแห้ง ความร้อนก็เลยขึ้น โธ่เอ๊ย จะไปหาหมอยังไงเนี่ย"
แก้มบุ๋มยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม
ปุยฝ้ายกับจุ่นเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก
"แก้มอย่าเป็นอะไรนะ พ่อจะหาทางพาแก้มไปโรงบาลให้ได้"
"เพราะพ่อไม่ยอมตกลงซ่อมสะพานพี่แก้มถึงเป็นแบบนี้ เป็นความผิดของพ่อคนเดียว"
"โอ๊ย ปวดหัวๆ แก้มต้องตายแน่ๆ โอ๊ยยย ปวดหัว ปวด! แม่จ๋า พ่อจ๋า แก้มไม่รอดแล้ว โอ๊ย"
จุ่นตกใจมากที่เห็นแก้มบุ๋มร้องอย่างทรมาน
"ตกลงๆ พ่อจะซ่อมสะพาน พ่อยอมซ่อมสะพานแล้ว"
เมื่อจุ่นตบปากรับคำว่าจะซ่อมสะพาน แก้มบุ๋มก็ค่อยๆ เริ่มหายปวดหัวอย่างปาฏิหาริย์
"พ่อ… ฝ้าย พี่ไม่ปวดหัวอีกแล้ว"
จุ่น ปุยฝ้ายยิ้มอย่างดีใจ
"จริงเหรอ"
"จริง ฝ้ายไม่ปวดหัวเลย นอกจากไม่ปวดแล้วยังรู้สึกสดชื่นมากๆ ด้วย เหลือเชื่อ
จริงๆ แค่พ่อยอมซ่อมสะพานแก้มก็หายปวดเลย"
"พ่อ พ่อห้ามกลับคำนะ พ่อต้องรีบซ่อมสะพานนะ ถ้าพ่อไม่ทำอย่างที่รับปาก
จะต้องเกิดเรื่องร้ายๆ กับครอบครัวเราอีก ฝ้ายกลัว"
"ไม่ต้องกลัวๆ พ่อไม่กลับคำหรอก ถ้าไอ้เข็มมันโอเคที่จะซ่อมร่วมกัน พ่อก็จะดำเนินการทันที"
แก้มบุ๋ม ปุยฝ้าย แอบยิ้มให้กันอย่างสมหวัง
ท็อปโทรศัพท์คุยกับปุยฝ้าย ยอดอยู่ข้างๆ ท็อป
"เฮ้ย สุดยอด!!! ฝ้ายกับคุณแก้มเก่งมาก ห๊ะ นี่ลงทุนดูดน้ำในหม้อน้ำแห้งจนความร้อนขึ้นหม้อน้ำระเบิดเลยเหรอ โห ลงทุนสุดๆ ได้ๆ ทางผมจะรีบทำให้ผู่ใหญ่เข็มอนุมัติการซ่อมสะพานให้ได้ ครับๆ จะรีบติดต่อกลับไปนะ"
ท็อปวางสายไป แล้วหันไปบอกยอด
"ทางนั้นทำให้ผู้ใหญ่จุ่นยอมตกลงซ่อมสะพานแล้ว"
"เหลือแต่เราแล้ว ลุยเลย ทำให้สำเร็จให้ได้"
ยอดกับท็อป มองกันอย่างมุ่งมั่น
เข็มนั่งคุยโทรศัพท์กับระเบียบด้วยสีหน้าแง่งอน
"เมื่อไหร่จะกลับมาซะทีแม่เบียบ พี่หิวข้าวแล้ว อ้อ แล้วนี่อย่ารวมหัวกับเพื่อนๆ ไปเล่นไพ่ล่ะ ช่วงนี้พี่ต้องรักษาภาพพจน์ให้ขาวสะอาด ไม่งั้นพี่อาจจะชวดได้เป็นกำนัน โอเคนะ รีบมาล่ะพี่รอกินข้าวอยู่"
เข็มวางสายไป แต่แล้วพลันได้กลิ่นไหม้ ทำจมูกฟุดฟิด
"กลิ่นไหม้ที่ไหนเนี่ย?"
"ไฟไหม้ๆ"
เข็มสะดุ้งตกใจรีบวิ่งออกไปทางเสียงยอดที่ได้ยินทันที
เข็มวิ่งเข้ามาเห็นยอดยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องเก็บของที่เริ่มมีควันลอยออกมาจากข้างในห้องอย่างมากมาย ข้างๆ ตัวยอดมีทั้งน้ำอยู่สามถัง ยอดสาดน้ำเข้าไปข้างใน
เข็มเข้ามายืนข้างยอดพลางมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
"ไฟไหม้ได้ยังไง"
"ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี๊ฉันนั่งแต่งเพลงอยู่แถวนี้คนเดียวแล้วได้กลิ่นควันลอยออกมาจากในนี้ แล้วยืนยันเลยว่าไม่มีใครวางเพลิงแน่"
"ถ้าไม่มีต้นเพลิง แล้วไฟมันไหม้ได้ยังไงวะ"
"หรือว่าใครเผาขยะแล้วเศษขยะติดไฟลอยเข้ามาในห้อง แต่ผมสงสัยว่ามันอาจจะเป็นอาถรรพณ์"
"อาถรรพณ์"
"ใช่ อาถรรพ์ที่พ่อไม่เชื่อและลบหลู่ซินแสไง พ่อคิดดูเมื่อวานฉันยังท้องเสียไม่มีสาเหตุเลย ทั้งหมดเนี่ยมันเป็นเพราะพ่อดวงตกแน่ อะไรๆ มันก็เลยดูแย่ไปหมด"
"ควันเยอะอย่างนี้ จะเข้าไปดับไฟได้ยังไง"
ยอดกับเข็มสีหน้าเครียด
ในห้องเก็บของ ท็อปใส่หน้ากากอนามัยกำลังพัดควันไฟในปี๊บ เห็นในปี๊บมีกาบมะพร้าวและถ่าน
ท็อปพัดไฟอย่างแรง ควันลอยโขมง หน้าท็อปดำด้วยเขม่าควัน
"ควันจงมาๆ มาเยอะๆ"
ท็อปออกแรงพัดอย่างสุดผีมือ
อ่านต่อหน้า 4
มนต์รักสองฝั่งคลอง ตอนที่ 12 (ต่อ)
ยอดตัดสินใจเอาน้ำสาดใส่ตัวเองหนึ่งถึง แล้วหิ้วถังน้ำอีกถังไว้ในมือ
"ถึงยังไงก็ต้องดับไฟให้ได้ พ่อรอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดับไฟข้างใน"
"ยอด มันอันตรายนะลูก"
"ถ้ามันลามจนไฟไหม้บ้านล่ะพ่อ ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการได้"
ยอดวิ่งเข้าไปในห้องเก็บของพร้อมกับถือถังน้ำอีกถังเข้าไปด้วย
"ไอ้ยอดระวังตัวด้วยลูก"
เข็มมองตามอย่างตื่นตระหนกและเป็นห่วงอย่างสุดๆ
ยอดเข้าไปในห้อง สักพักออกมาจากข้างในห้องเก็บของพร้อมกับถังเปล่าในมือ แต่ควันก็ยังโหมกระหน่ำออกมา
"พ่อครับ ไปคงไม่ดับง่ายๆ ช่วยกันไปตักน้ำมาอีก"
ยอดกับเข็มรีบวิ่งถือถังเปล่าออกไป
ยอดกับเข็มวิ่งกลับมาพร้อมถังน้ำสี่ถัง เข็มสาดน้ำจากด้านนอก ยอดวิ่งถือถังน้ำเข้าไปในห้อง
เข็มมองตามอย่างลุ้นๆ
เข็มตะโกน
"ระวังตัวเองด้วยนะยอด"
ควันเริ่มจาง ยอดออกมาจากห้องเก็บของพร้อมด้วยกับวางถังน้ำเปล่าลงพื้น
ยอดก็นั่งลงที่พื้นอย่างเหนื่อยล้า สำลักควันไฟ
"ไฟดับแล้วครับพ่อ โชคดีที่ไฟไหม้ฉากเวทีเก่าของเรา ส่วนของที่เหลือไม่เสียหาย"
เข็มเข้ามาหายอดด้วยสีหน้ายิ้มดีใจแล้วเข้าไปกอดยอดด้วยความเป็นห่วง
"อย่าทำอะไรห่ามๆ อย่างนี้อีกนะลูก พ่อมีลูกคนเดียว แล้วก็ขอบใจเอ็งมาก ถ้าไม่ได้ เอ็งไฟไหม้ทั้งห้องแน่"
"ครับพ่อ ยอดจะไม่ทำให้พ่อเป็นห่วงอีก"
เข็มถอนหายใจ
"ทำไมเราถึงเจอเรื่องซวยๆ ติดๆ กัน อย่างนี้"
ยอดมองเข็มด้วยสีหน้าจริงจัง
"เพราะพ่อไม่ยอมซ่อมสะพาน พ่อ ฉันขอล่ะ พ่อซ่อมสะพานเถอะนะ พ่อคงไม่อยากให้เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับพ่อ ผม หรือว่าแม่หรอกใช่มั้ย ของแบบนี้อย่าลบหลู่นะพ่อ"
เข็มครุ่นคิดตามที่ยอดบอกอย่างหนักใจ
"ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าอะไรสำคัญที่สุด ก็ได้ข้าจะยอมซ่อมสะพาน เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวของเรา"
ยอดเข้าไปกอดเข็มอย่างดีใจ
"ขอบคุณครับพ่อ พ่อตอนนี้ฉันหายใจไม่ค่อยออก พ่อไปหายาดมมาให้ฉันหน่อยนะ แล้วฉันจะไปเคลียร์ของที่ไหม้ในห้องเอาไปทิ้งขยะ"
"ได้ๆ เดี๋ยวข้าจะรีบมา"
เข็มรีบวิ่งออกไป สักพักท็อปออกมาจากในห้อง พร้อมไอออกมาเพราะสำลักควันไฟ
"เป็นไงบ้างยอด"
"เรียบร้อย พ่อยอมซ่อมสะพานแล้ว"
"เยส"
ท็อปกิฟต์มีไฟว์กับยอดอย่างดีใจ
ในร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง กลางวัน วันใหม่ องอาจ ชาติชาย ยิ่งใหญ่ ช่วยกันขนอุปกรณ์พวกไม้และวัสดุต่างๆ สำหรับการซ่อมสะพานใส่ในท้ายรถกระบะกันอย่างขะมักเขม้น
ไม่ใกล้ไม่ไกลแม่บ้านที่บ้านสุชาติขับมอเตอร์ไซค์อย่างเชื่องช้าผ่านมาที่หน้าร้านอุปกรณ์ก่อสร้างที่พวกองอาจอยู่ แม่บ้านมีถุงใส่อาหารสดเต็มรถ
พลันแม่บ้านต้องหยุดรถที่หน้าร้านเพื่อมองพวกองอาจอย่างสงสัย
ชาติชายกับยิ่งใหญ่มีสีหน้าเซ็งๆ
ชาติชายโพล่ง "โธ่เว้ย!"
ชาติชายวางลังใส่ของลงท้ายรถอย่างไม่พอใจ
"ทำไมเราต้องซ่อมสะพานร่วมกันกับคนของหมู่บ้านผู้ใหญ่เข็มด้วย"
ยิ่งใหญ่บอก
"หน้าพวกมันฉันยังไม่อยากเห็นเลย แล้วฉันจะทนทำงานร่วมกันได้ไง"
"น้าคิดดู พวกมันเพิ่งจะมาก่อกวนเราในงานไหว้ครูแท้ๆ นึกแล้วยังแค้นไม่หาย"
องอาจบอก
"เอาน่า ในเมื่อพ่อผู้ใหญ่ตัดสินใจดีแล้ว เราก็ให้โอกาสตัวเองปรับความเข้าใจกับพวกผู้ใหญ่เข็มดูมันก็ไม่เสียหลาย"
ชาติชายกับยิ่งใหญ่ครุ่นคิดตามที่องอาจบอก
"แต่ถ้าพวกนั้นยังหาเรื่องเรา พวกฉันไม่ขอทำงานกับพวกมันอีก" ยิ่งใหญ่ว่า
องอาจบอก
"แก้มบุ๋มบอกว่า ผู้ใหญ่เข็มก็ตั้งใจอยากจะซ่อมสะพาน ก็แสดงว่าพวกเขาก็พร้อมที่จะร่วมงานกับเรา ลองให้โอกาสพวกเขาดูสักครั้งเถอะน่า"
ยิ่งใหญ่ องอาจ มองหน้ากันอย่างปรึกษา
"เอาๆ ลองดูก็ได้"
องอาจบอก "เอาเป็นว่าพวกเราตั้งใจทำงานครั้งนี้สำเร็จ ชาวบ้านจะได้เข้าใจพวกเราใหม่ และจะทำให้พ่อผู้ใหญ่เป็นที่รักของชาวบ้านทุกคนอีกครั้ง"
"โอเค ฉันจะยอมทำงานกับคนบ้านนั้น เพื่อผู้ใหญ่จุ่นของเรา" ชาติชายว่า
"เออ ต้องงี้สิวะ!"
แม่บ้านที่ยืนฟังพวกองอาจพูดก็ค่อยๆ ยิ้มออกมา
"จะมีการซ่อมสะพานแล้วเหรอเนี่ย เยส! ต้องอย่างนี้สิ"
ต่อมา แม่บ้านวางถุงอาหารสดลงบนโต๊ะในครัว คนสวนที่กำลังกินน้ำอยู่ถึงกับสำลักพรวด
"ห๊า ซ่อมสะพาน"
นิกเดินผ่านเข้ามาทางด้านหลัง มองทั้งสองคนอย่างสนใจ
"ใช่ๆๆ ฉันก็แทบไม่เชื่อหูตัวเอง แต่พวกของผู้ใหญ่จุ่นยืนยันว่าจะซ่อมสะพานร่วมกับพวกผู้ใหญ่เข็ม" แม่บ้านบอก
"ถ้าสะพานซ่อมเสร็จ น้องแจ๋วของพี่ก็ไม่ต้องขี่รถอ้อมไกลๆ เพื่อไปตลาดอีกแล้ว"
"ถูก นี่ถ้าซ่อมเสร็จนะ สองผู้ใหญ่ ได้หน้า ได้ตา ได้รับคำชื่นชมจนเต็มกระบุงแน่ๆ"
แม่บ้านหันไปล้างผักที่ซื้อมา
นิกครุ่นคิดอย่างสงสัย
"ผู้ใหญ่เข็มกับผู้ใหญ่จุ่น จะซ่อมสะพานด้วยกันจริงๆ เหรอเนี่ย"
นิกคุยโทรศัพท์กับสุชาติ เค ป๊อป นั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าครุ่นคิด
"นิกกับพ่อเพิ่งทำให้ยอดกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวบ้าน จนชาวบ้านเริ่มที่จะเกลียดกันเอง แล้วถ้าพวกนั้นมันร่วมแรงร่วมใจกันซ่อมสะพานจนสะพานเสร็จ พวกชาวบ้านคงจะหายโกรธกันแหงๆ"
นิกสีหน้าเครียดๆ
"ไม่ต้องห่วงครับพ่อเรื่องนี้นิกจะจัดการแทนพ่อเอง พวกมันจะไม่มีวันซ่อมสะพานเสร็จ ผมจะขัดขวางอย่างสุดกำลัง ครับพ่อ นิกจะระวังตัวไม่ให้มีใครสงสัยเด็ดขาด ครับ เที่ยวให้สนุกนะ ทางนี้นิกจัดการเอง" แล้วนิกก็วางสายไป
นิกสีหน้าครุ่นคิดๆ
เคบอก
"ให้พวกผมปลอมตัวแล้วไปถล่มคนที่จะมาซ่อมสะพานให้เละเลยดีมั้ย"
"หรือว่าจะให้ไปวางระเบิดสะพาน ตูมเดียว แตกกระจายไม่มีเหลือ" ป๊อปว่า
"ไม่ดีๆ ฉันไม่อยากให้มีใครสาวถึงเราได้ ฉันต้องทำให้ชาวบ้านไว้ใจฉันก่อน แล้วเราค่อยหาทางจัดการ"
นิกยิ้มออกมาอย่างมีแผนการ…
แก้มบุ๋มยืนรอยอดอยู่ริมน้ำข้างสะพาน สักพักยอดเข้ามาอยู่ข้างๆ
ยอดหอมแก้ม
"ขอโทษนะที่มาช้าไปหน่อย พ่อมัวแต่วางแผนซ่อมสะพาน ไม่ยอมนอนซะที"
ยอดเห็นหน้าแก้มบุ๋มไม่สบายใจ ก็เลยเป็นห่วง
"เป็นอะไรทำไหน้าเครียดแบบนั้น"
"แก้มดีใจที่พ่อยอมให้ซ่อมสะพาน แต่แก้มก็อดกังวลไม่ได้ว่า เราจะเจอกับอุปสรรคจนซ่อมสะพานไม่สำเร็จ"
"ดีซะอีก ยิ่งมีปัญหาและอุปสรรค เราก็จะต้องฟันฝ่ามันไปให้ได้ แล้วยิ่งพวกเราและชาวบ้านร่วมมือกันเอาชนะปัญหา เราก็จะยิ่งรักและสามัคคีกันไวขึ้น แก้มไม่ต้องกลัวนะ"
" ถ้าไม่มียอดคอยเป็นคู่คิดและคอยเป็นกำลังใจข้างๆ กันแบบนี้ แก้มคงยอมแพ้เรื่องของพวกเรานานแล้ว ขอบคุณนะยอดที่คอยอยู่ข้างกัน"
"ถ้ายอดไม่มีแก้มอยู่ข้างๆ ยอดก็ไม่มีกำลังใจสู้กับปัญหาพวกนี้เหมือนกัน"
ยอดกอดแก้มบุ๋มด้วยความรักล้นหัวใจ ทั้งสองมองไปทางสะพาน อย่างรู้สึกมีความหวัง
บริเวณศาลาวัด เช้าวันใหม่
ยอด แก้มบุ๋ม ท็อป ปุยฝ้าย นั่งกราบหลวงตาด้วยสีหน้าเลื่อมใส
หลวงตามองคนทั้งสี่อย่างเอ็นดู
"มาหาอาตมาแต่เช้า มีเรื่องอะไรให้อาตมาช่วยหรือเปล่า"
"ไม่ได้มาหาธรรมดานะครับ แต่แอบมาหาไม่ให้พ่อผู้ใหญ่รู้ว่ายอดกับแก้มมาด้วยกัน" ท็อปบอก
"พวกผมมานิมนต์หลวงตาไปเป็นเกียรติ เป็นขวัญกำลังใจให้แก่พวกเราชาวสองฝั่งคลองทุกๆ คน เพื่อความเป็นศิริมงคลในงานวันซ่อมสะพานวันแรก"
"ผู้ใหญ่เข็มและผู้ใหญ่จุ่นยอมซ่อมสะพานร่วมกันแล้วค่ะหลวงตา แก้มอยากให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ปัญหาใดๆ เข้ามาขัดขวาง ก็เลยมารบกวนบารมีของหลวงตาค่ะ"
"มารไม่มีบารมีก็ไม่เกิดนะโยม"
"แต่ถ้าเลือกได้ขอไม่มีมารดีกว่าค่ะหลวงตา แหะๆ"
"ไม่ต้องกังวลไป ถ้าสามัคคีกันได้ย่อมไม่เกิดปัญหา สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี - สามัคคีของหมู่คณะนำมาซึ่งความสุข"
ทุกคนกล่าว "สาธุ"
ทุกคนมองหน้ากันอย่างมีความหวัง...
เข็ม ยอด เคน หนึ่ง จ๊อบ และชาวบ้านโคกสำเริงอยู่บนสะพานฝั่งหมู่บ้านของตัวเอง ฝ่ายจุ่น แก้มบุ๋ม ปุยฝ้าย องอาจ ชาติชาย ยิ่งใหญ่ และชาวบ้านดอนกระโทกอยู่บนสะพานฝั่งหมู่บ้านของตัวเอง หลวงตา ท็อป ยืนอยู่ใกล้ๆ สะพานส่วนที่แตกหักเสียหาย หลวงตากำลังเทศน์สอนทุกๆ คน
"หากพวกเราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ความสุขความสงบจะไม่มีวันจางหายไปไหน อาตมาขอชื่นชมทุกๆ คนที่ยอมสละเวลาและความสุขส่วนตัวเพื่อทำประโยชน์ให้กับหมู่บ้านของพวกเรา อาตมาขอให้พวกโยมประสบผลสำเร็จในการซ่อมสะพานครั้งนี้"
ทุกคนพนมมือรับพร
"ขโณ โว มา อุปจฺจคา - อย่าปล่อยกาลเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์ ถ้าใจพร้อม กายพร้อม ก็ร่วมแรงร่วมใจกันได้เลย ทิ้งความโกรธแค้นเคืองขุ่นออกไปให้หมดสิ้น ให้เหลือแต่ความสามัคคีร่วมแรงใจเป็นหนึ่งเดียว"
ทุกคนเปล่งวาจา "สาธุ"
ยอดบอก
"ลุยกันเลยดีกว่า"
ทุกคน"เฮ้!"
แก้มบุ๋มบอก "ซ่อมสะพานให้เสร็จให้ได้"
จุ่นถาม"เดี๋ยวๆๆ หลวงตาไม่รดน้ำมนต์ซะหน่อยเหรอครับ"
พลันเสียงฟ้าร้อง ฟ้าคำรามก็ดังขึ้น ทุกคนแหงนหน้ามองท้องฟ้า
หลวงตายิ้ม
"พระพิรุณอวยพรอำนวยชัยให้พวกเราแล้ว อาตมาคงไม่ต้องรดน้ำมนต์แล้วล่ะ"
เข็มบอก "อ้าว ฟ้าร้องซะงั้น อย่าบอกนะว่าฝนมา"
"โอ้โห เมฆทางโน้นครึ้มเลยพ่อ" ยอดว่า
"น่ากลัวฝนตกหนักแน่" เข็มบอกกับชาวบ้านฝั่งตัวเอง "เอาไว้ฝนซาค่อยมาซ่อมดีกว่า
พวกเรากลับไปหลบฝนก่อน"
จุ่นก็เช่นกัน "งั้นก็หลบฝนกันก่อน ฝนซาค่อยกลับมาซ่อมกันใหม่"
ทุกคนขนของพากันเดินลงจากสะพานเพื่อหลบฝน
มุมหนึ่ง บริเวณละแวกสะพาน นิก เค ป๊อบ มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างสะใจ
นิก เค ป๊อป หัวเราะลั่นอย่างสะใจ ในขณะที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทั้งสามเปียกชุ่มทั้งตัว
"จะซ่อมสะพานทั้งที ดันไม่ฟังกรมอุตุรายงาน ฝนตกซะเลย สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ"
"เปียกฝนหมดเลย ฮ่าๆๆ" เคบอก
"ฮ่าๆๆ" ป๊อปหัวเราะแล้วฉุกคิด " เฮ้ย แต่รู้สึกว่า คนที่เปียกจะมีแต่พวกเรานะ"
"ฮ่าๆๆๆ เออ จริงด้วยวะ แล้วเรามายืนตากฝนทำไมวะ" นิกว่า
"หลบฝนก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบาย" เคบอก
นิกมองไปทางสะพานแล้วยิ้มออกมาอย่างมีแผน
"ตราบใดที่ฉันยังอยู่ พวกแกไม่มีวันที่จะซ่อมสะพานสำเร็จ ฉันจะไม่ยอมให้พวกแก รักและสามัคคีกันเด็ดขาด"
นิก เค ป๊อป หัวเราะออกมาอย่างมีแผนร้าย!!!
อ่านต่อตอนที่ 13