ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 12
เมฆอุ้มเดือนเข้ากระท่อม ดาวดูต้นทางให้ พลันนั้นได้ยินเสียงมั่นดังขึ้น
"นังเดือน"
ดาวหันขวับ ตกใจมาก ! เมฆตกใจเช่นกัน
"เอ็งมาอยู่นี่เอง...แล้วนั่น"
มั่นอยู่ไกลลิบๆ เดินตามหาเดือน มั่นนั่งคุยกับหุ่นฟางอยู่มุมหนึ่ง เข้าไปคุยกับหุ่นฟาง
"เอ็งทำอะไรอยู่นังเดือน เอ็งรู้ป่าว ว่าวันนี้พี่เอ็งเจอสาวสวย ซ๊วยสวย"
ดาวถอนหายใจพรวด โล่งอก
"โธ่ ไอ้มั่น ที่แท้ก็เมา ... รีบๆเข้าเถอะพี่เมฆ เกิดใครออกตามหานังเดือนเจอก่อน จะไม่สมตามแผนของเรา"
ดาวรุนหลังเมฆเข้าไปในกระท่อม ดาวหิ้วหม้อยาที่เดือนกินเหลือไว้ติดมือเข้ากระท่อมไปด้วย
มั่นเมามากพูดกับหุ่นฟางแบบนั้นเพียงคนเดียว
"นังเดือน เอ็งรู้ไม๊ วันนี้ข้าเจอสาวงาม นางช่างงามดั่งหงส์ .. ตากลม ยิ้มสวย ตั้งแต่ข้าเกิดมา ข้ายังไม่เคยเจอหญิงใดงามเยี่ยงนี้มาก่อนเลย"
มั่นเพ้อนึกถึงฟ้าหยาด
"แต่นางช่างอยู่สูง สูงเกินกว่าข้าจะไขว่คว้า ข้า..ไอ้มั่น ก็ เป็นเพียงหมาเห่าดอกฟ้าเท่านั้นแหละโว้ย เพราะคนที่นางหมายปองก็คือนายน้อยขอเรา คุณหาญแห่งใต้หล้า เอ็งรู้ไม๊"
บนเรือนใหญ่ กล้ากับหาญกำลังเล่นหมากล้อมกันอยู่ กล้าเดินหมากไปก่อนแต่พอถึงตาของหาญ หาญกลับเหม่อลอยคิดอะไรอยู่
"ใจเจ้าไม่อยู่กับร่องกับรอยเลย ยังคิดมากเรื่องนั้นอยู่อีกรึ"
"ขอรับ กระผมรู้สึกหวั่นใจยังไงบอกไม่ถูก"
"ดวงก็เหมือนเข็มทิศบอกทาง เราจะทำตามหรือไม่ อย่างไรก็สุดแล้วแต่เรา"
"แต่ในทางของคุณพ่อ ท่านเชื่อเรื่องพวกนี้มาก เพราะชีวิตท่านที่ได้ดิบได้ดีก็เพราะว่าเชื่อซินแสเทียน"
มีเสียงเฮฮาดังจากเรือนทาส หาญมองไป
"เรือนทาสฉลองกันเยี่ยงนี้ พวกเขาคงรู้กันแล้วว่าเป็นใคร"หาญบอก
"ก็อาจเป็นทาสสักคนในใต้หล้านี่แหละ ที่เป็นคู่ของน้อง หรือบางทีอาจจะเป็นแม่เดือนก็ได้"
"แล้วถ้าไม่ใช่นางกระผมจะทำเช่นไรขอรับ ความรักมิอาจบังคับกันได้ จริงไหมขอรับพี่กล้า"
หาญถามกล้าแบบนี้ ช่างแทงใจตัวเสียเหลือเกิน
"ไม่ต้องกังวลดอก คนมีหน้ามีตาในสังคมอย่างคุณพ่อ จะยอมให้ลูกชายสุดรัก แต่งกับนางทาสอย่างออกหน้าออกตาได้เยี่ยงไร....จะเป็นใครก็ตาม พวกนั้นก็ดีใจเก้อไปก็เท่านั้น"
กล้ามองไปทางเรือนทาส
หาญอึ้งไป ในใจคิดว่าไม่ว่าใครก็อาจจะแค่ถูกเจ้าสัวแสนนำมาเป็นเครื่องมือค้ำจุนดวงของตนเท่านั้นเหรอ
เดือนถูกวางอยู่กลางกระท่อม ดาววางหม้อยาไว้มุมหนึ่ง แล้วรีบจัดเสื้อผ้าเดือนให้รุ่ยร่าย ดึงปลดหางจุงกระเบนออกเหลือเป็นผ้าถุง แต่นึกขึ้นได้
"เออ ข้าจะถอดทำไมว่ะ ไหนๆพี่เมฆก็จะปล้ำมันอยู่แล้ว พี่เมฆ พี่จัดการมันเองก็แล้วกันนะ"
ดาวพูดจบ เมฆที่กำลังเมามาจากมุมไหนไม่รู้เข้ามารวบตัวดาวหอมกอดแบบกัดมัน
"อ้าย พี่เมฆปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ อะไรเนี่ย ข้าให้ปล้ำอีเดือนไม่ใช่ปล้ำข้า"
"ก็ข้าอยากได้แกเป็นเมียมากกว่าอีเดือนมันนี่ ไหนแกบอกว่าจะยอมเป็นเมียข้าไง มาให้ข้าปล้ำแกก่อนแล้วค่อยจัดการนังเดือนมันก็ได้นะ มา"
เมฆทำท่าจะกินดาวก่อน ดาวรีบคิดแผนพูดดีกับเมฆก่อน บ่ายเบี่ยงด้วยมารยา
"พี่เมฆ พี่เมฆจ๋า ข้าก็อยากขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับพี่นะ แต่เวลานี้เราสองคน ต้องหักห้ามใจเอาไว้ก่อน พี่จะต้องจัดการนังเดือนมันซะ เพราะถ้าเรื่องนี้พี่ทำไม่สำเร็จ คุณบุหงาเอาพี่ตายแน่นะ"
เมฆเริ่มอ่อน
"จริงสิ คุณบุหงา"
"ใช่จ๊ะ อย่าชักช้าเลย เดี๋ยวแผนจะแตกซะก่อน พี่ก็รีบๆจัดการนังเดือนมันซะ จะปู้ยี่ปู้ยำอีเดือนมันยังไงก็สุดตามแต่ใจพี่เลยละกันนะ"
ดาวรีบออกไปจากกระท่อม แอบทำหน้าเยาะสมน้ำหน้าเดือนไว้ จบเมฆอารมณ์เสียไม่ได้กินดาว
"แกไม่รอดแน่ อีเดือน"
เจ้าสัวแสนรีบเข้ามาถามพวงแก้วอย่างดีใจ
"ได้ข่าวว่าหล่อนรู้ตัวคู่ชะตาของพ่อหาญแล้ว แต่ยังปิดบัง ไม่ให้ใครบอกเรา ทำไมไม่อยากให้เรารู้"
"อิฉันก็อยากบอกให้ท่านเจ้าสัวรับรู้ แต่เกรงว่าหากท่านรู้ว่าเป็นใคร ท่านอาจจะไม่ยินยอมน้อมรับเจ้าคะ"
"ว่าไปแม่แก้ว"
แก้วจึงแอบแย้มๆเชิงถาม
"หากนางผู้นั้น มิใช่คนชนชั้นเดียวกับพวกเรา ท่านเจ้าสัวจะรับได้หรือเจ้าคะ"
"ชนชั้นใดก็ตาม หากนางเป็นคู่หนุนนำให้พ่อหาญได้มีความเจริญมั่นคง เราก็ต้องจับแต่งเพื่อเป็นมงคล"
พวงแก้วทำหน้าไม่เห็นด้วย แสนพอมองออกว่า คงเป็นพวกบ่าวไพร่
"ไม่จำเป็นต้องเอามันออกนอกหน้าก็ได้หนิแม่แก้ว แต่งเป็นฤกษ์ถือเป็นเคล็ด แล้วหลังจากนั้น เราก็หาแม่หญิงดีๆมาตบแต่งกับพ่อหาญ ให้เป็นหน้าเป็นตาทางสังคมก็ย่อมได้"
พวงแก้วรู้สึกดีขึ้น
"ถ้าท่านเจ้าสัวเห็นดีเห็นงาม พรุ่งนี้อิฉันจะพานางคนนั้นมากราบท่านเจ้าสัวเจ้าค่ะ"
"ดี จะได้คิดหาทางจัดการให้สมพงศ์กันไป"
เจ้าสัวแสนยิ้มดีใจออกไป เอื้อยเข้ามาพอดี หน้ายังแดงเพราะสาโทอยู่นิดๆ
"นังเอื้อย แกไปทำอะไรมา หน้าเอ็งแดงเหมือนพุทธาสุก"
เอื้อยอายรีบตอบ
"ฉลองให้นังเดือนที่มันดวงดีเป็นคู่บุญหนุนนำคุณหาญนิดหน่อยเจ้าคะ"
พวงแก้วส่ายหน้า ไม่คิดว่าเอื้อยจะเอากับเขาด้วย จึงต้องปราม
"ฝากบอกนังเดือน อย่าดีใจให้มันมากนัก ให้มันเตรียมตัวขัดสีฉวีวรรณอย่าให้ด่างพร้อย พรุ่งนี้ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะเปิดตัวคู่บุญพ่อหาญว่าคือใคร"
เอื้อยดีใจรับคำ แล้วรีบออกไป
"เจ้าคะ"
เดือนนอนไม่ได้สติอยู่กลางกระท่อม เมฆหงุดหงิดงุ่นง่านเพราะไม่ได้กินดาว
"นังดาวนะนังดาว บ่ายเบี่ยงข้าอีกจนได้ ทำข้าหิวเก้อ"
เมฆฟึดฟัด เลียปาก หันมามองเดือน
"นังเดือน ข้าก็ไม่ได้ใคร่คาวเอ็งหรอกนะ แต่ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว อ้อยวางตรงหน้าช้างหยั่งข้าไม่ลากเข้าปากเห็นจะเสียเชิงชาย"
เมฆเหลียวหาไหสุรา หยิบมาเทเข้าปาก แต่ไม่มีสุราหยดลงมา เมฆฮึดฮัดเหลียวหา เจอหม้อยาที่ดาววางลืมไว้ เมฆคว้ามาซดจนหมด นึกว่าเหล้า
"เหล้าอะไรวะ รสเฝื่อนๆ แต่เอาวะ...มึนดีเหมือนกัน"
เมฆวางหม้อยาลง เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เดือน มองไล่ไปทั่วเรือนร่าง
"เอาวะ ข้าจะคิดซะว่าเอ็งเป็นนังดาวแล้วกัน"
เมฆก้มลงซุกใบหน้าที่คอ เริ่มกระหน่ำจูบ
บริเวณเรือนครัว ชื่นกับอ่ำกำลังเฮฮาพร้อมบ่าวไพร่จำนวนหนึ่ง เอื้อยก็รีบวิ่งเข้ามา
"พวกเอ็งโว้ย หากไม่มีอะไรผิดพลาดหรือนังเดือนไม่มีราคีเสื่อมเสีย พรุ่งนี้คุณแก้วท่านจะเตรียมเปิดตัวนังเดือนกับท่านเจ้าสัวให้คนในใต้หล้าได้รับรู้กันหมดแล้วโว้ย" เอื้อยบอก
ชื่นและอ่ำดีใจมาก
"เป็นบุญของนังเดือนมันจริงๆ"
เอื้อยมองหาเดือน
"อ้าว แล้วนี้นังเดือนมันหายไปไหนเนี่ย"
ทุกคนมองหาเดือนตาม ดาวเข้ามา
"นี่ นังดาว เห็นนังเดือนมันบ้างไหม" อ่ำถาม
ดาวทำไม่รู้เรื่อง
"นังเดือนเหรอ นึกก่อนนะ อ๋อ ข้าเห็นนังเดือนมันจิบเหล้าท่าทางเมาๆ แล้วมันก็เดินโซเซไปทางโน่น ไม่รู้ว่ามันไปไหน"
"นังเดือนนี่จริงๆเลยนะ ข้าเตือนแล้วให้จิบพอประมาณ เพราะเอ็งนั่นแหละนังดาว ให้นังเดือนมันดื่มทำไมก็ไม่รู้" ชื่นว่า
"อ้าว น้าชื่น มาโทษฉันแบบบี้ก็ไม่ถูกนะ หัวหงอกหัวดำก็ดื่มกันหมดนี่นา"
"แล้วนี่นังเดือนมันไปอยู่ไหนนะ ข้าต้องรีบเอามันไปขัดสีฉวีวรรณเตรียมพร้อมเข้าไปกราบท่านเจ้าสัวพรุ่งนี้ซะด้วย"
ดาวจึงรีบเสี้ยม
"ตายล่ะ งั้นเรารีบหานังเดือนมันให้เจอเถอะ เดี๋ยวข้าจะช่วยตามหามันอีกแรงด้วยนะW
ทุกคนเออออแล้วรีบแบ่งแยกกันออกไป ดาวยิ้มร้าย
เมฆไซ้ซอกคอ พยายามจะปลดปมโจงกระเบนตัวเอง เริ่มง่วง ยกหัวขึ้นมาสะบัด
"เหล้าหม้อนี้มันแรงจริงเว้ย...ฮ่ะๆ ดีเหมือนกัน ข้าจะได้นึกว่าได้ขึ้นสวรรค์กับนังดาว"
เมฆสุดง่วง สะบัดโจงกระเบนออกจากตัว
"นังดาว...นังดาวของข้า"
เมฆซุกอยู่ที่คอ คราง ตาปรือด้วยความง่วงสุดขีด
"เอ็งต้องเป็นของข้า นังดาว"
เมฆยกขาขึ้นก่าย พยายามจะคร่อมร่างเดือน แล้วขาก็ห้อยตกลงมา หลับคร่อก อ้าปากค้าง
เหล่าทาสถือคบไฟกระจายกันหา เรียกหาเดือนกันใหญ่ และทุกคนก็เดินมาเจอมั่นที่นั่งกอดหุ่นฟาง
อ่ำถาม
"ไอ้มั่น เฮ้ย ไอ้มั่น เอ็งเห็นนังเดือนมันไหมว่ะ"
มั่นเมาค้างหันมาพูด
"ก็นี่ไง นังเดือน ข้าก็นั่งคุยกับนังเดือนมันอยู่เนี่ย"
" นี่น่ะ นังเดือน โธ่ ไอ้มั่น เอ็งเมามากจนเห็นอีกองฟางนี่เป็นนังเดือนมันรึ ข้าคงต้องช่วยเอ็งซ่ะแล้ว" เอื้อยว่า
เอื้อยจึงเข้าไปหยิกหูมั่น มั่นเริ่มสร่าง ร้องจ๊าก!!
"โอ๊ย"
" ตาสว่างรึยัง ไหนดูให้ชัดๆสิ ว่าที่เอ็งคุยอยู่หน่ะมันนังเดือนรึป่าว"
มั่นได้สติมอง
"เฮ้ย ไม่ใช่ อ้าวแล้วนังเดือนล่ะ"
เอื้อยกับชื่นชักเริ่มเอะใจ ดาวเริ่มแผน
" นังเดือนไม่ได้อยู่กับพี่มั่น แล้วนังเดือนอยู่กับใคร เอ๊ะ ไอ้เมฆล่ะ ไอ้เมฆก็หายไป นี่มันยังไงกัน หรือว่า..."
" หุบปากเลยอีดาว ไม่มีทางที่ลูกข้าจะทำแบบนั้น" ชื่นบอก
"แหม น้าชื่นก็ ฉันก็แค่สงสัย คนมีบุญอย่างนังเดือนคงไม่คิดทำอะไรโง่ๆหรอกน่า"
"พอกันได้แล้ว ข้าว่าเราลองไปดูที่กระท่อมไอ้เมฆก็ดีเหมือนกันนะ จะได้แน่ใจว่าอีเดือนไม่ได้อยู่ที่นั่น"
"ใช่จ๊ะน้าเอื้อย เป็นความคิดที่ดี เรารีบไปกันเถอะจ๊ะ
ทุกคนตกลงตามนั้นจึงรีบกันออกไป
อ่านต่อหน้า 2
ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 12 (ต่อ)
หาญยืนคิดเหม่อลอยอยากให้คู่ตัวเองเป็นเดือน เห็นทางเรือนทาส จุดคบไฟสว่าง มีดวงไฟกระจายกันตามที่ต่างๆ หาญมอง
" พวกทาสทำอะไรกัน"
สักพักได้ยินเสียงกรี๊ด ! หาญรีบไป
หาญแหวกเหล่าทาสเข้าไปที่กระท่อมเมฆ เหล่าทาสอื้ออึง มั่นพยายามจะดึงหาญไว้
"นายน้อยอย่าเข้าไปดูเลยขอรับ"
"ปล่อยเรา พี่มั่น"
หาญแหวกเหล่าทาสเข้าไป เห็นเมฆนอนก่ายอยู่บนร่างเดือน หาญตะลึงกับภาพที่เห็น แทบจะพูดไม่ออก
"แม่...แม่เดือน"
ดาวแอบแสยะยิ้มด้วยความสะใจ แต่ตีสองหน้า ทำเป็นตกใจเอามือปิดตา
"ว้ายตายแล้ว นังเดือน หายไปที่แท้แอบมากินของคาวคำใหญ่กับพี่เมฆนี่เอง"
"ไม่จริ๊ง ลูกข้าไม่มักง่าย" ชื่นบอก
" โห น้าชื่น หลักฐานคาตา เห็นกันจะจะ นี่มันไม่อายฟ้าดินกันหรือไงนะ"
ดาวเห็นสายตาปวดร้าวของหาญ ก็หัวใจพองฟูอย่างมีความสุข ชื่นนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจที่สุด เอื้อยพยายามเขย่าเดือนให้ฟื้น
"นังเดือน นังลูกไม่รักดี เอ็งทำอย่างนี้ได้ยังไง"
เจียมเพิ่งเข้ามา ทำเป็นร้องตกใจ แล้วใส่ไฟทันที
"ต๊าย นังเดือนกินกับไอ้เมฆ โห นี่คงฟาดกันจนเหงื่อตกกลีบ เหนื่อยเป็นตายเลยมั้ง"
"อีเจียม อีปากสวะ มึงว่าหลานกู" เอื้อยว่า
"หรือไม่จริง ดูมันสิ หลับไม่ฟื้นเลย"
เอื้อยโกรธมาก หน้าชา เจ็บปวดเสียใจ
"ไปเอาน้ำมาไอ้อ่ำ ปลุกดีๆไม่ฟื้น ก็ต้องเรียกอย่างหมา"
อ่ำหิ้วถังไม้ใส่น้ำเข้ามา
"เอาให้ฟื้น น้ำสาดไม่ฟื้น ก็เอาถึงนี่ฟาดให้ฟื้นW
อ่ำสาดน้ำโครม เดือนและเมฆเริ่มได้สติ
เดือนฟื้นขึ้นมา พยายามจะยันตัวลุกขึ้น
"อะไรกันน่ะ...นี่ใคร....ห๊า"
เดือนขยี้ตาปาดน้ำออกจากหน้า เห็นหาญยืนตะลึงพรึงเพริดอยู่เบื้องหน้าบ่าวไพร่ทั้งปวง
"คุณหาญ"
"หล่อนทำอะไรลงไป แม่เดือน ! หล่อนทำอะไรลงไป"
เดือนงง เหลียวมองข้างตัว ตกใจมาก เมฆเพิ่งฟื้น พยายามเอาผ้าคลุมร่างกาย เมฆตะลึง
ทั้งหมดมองเดือนด้วยสายตาผิดหวังอย่างแรง
เดือนเริ่มเข้าใจ น้ำตาเอ่อ ส่ายหน้าจะปฏิเสธ หาญมองหน้าเดือนอย่างเสียใจที่สุด
วันใหม่ เดือนหมอบอยู่แทบพื้น น้ำตาร่วง ร้องไห้ตลอดเวลา ในใจเดือนก็ยังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน
"บ่าวไม่ทราบจริงๆเจ้าค่ะ บ่าว...บ่าวไม่ได้ทำ"
"ไม่ได้ทำ แล้วที่เราเห็นมันคืออะไรแม่เดือน หล่อน...หล่อนกับไอ้เมฆ"
"บ่าวกับอีเดือน คงได้เสียกันแล้วน่ะขอรับ" เมฆบอก
"ไม่จริง"
เดือนแทบกรี๊ด แต่เสียงที่ลอดออกมาสั่นพร่าด้วยความเสียใจ เจ็บปวด หาญเบือนหน้าหนี และไม่อยากให้แม่เห็นพิรุธ
พวงแก้วมองเดือนอย่างผิดหวัง เช่นเดียวกับเอื้อยและชื่นที่เสียใจมาก
ด้านบุหงากับสายฝน และเจียมเข้ามาแอบยิ้มเยาะที่แผนการสำเร็จ แต่บุหงาทำเนียนทำไม่รู้แผนการ ทำเป็นตกใจ
"ตายแล้วแม่เดือน ทำไมเป็นเยี่ยงนี้ ฉันน่ะ สงส๊าร สงสารท่านเจ้าสัว หากรู้เรื่องนี้ ความหวังจะเจริญรุ่งเรืองก็มลายหายไปเพราะทาสในกำกับของคุณพี่ แม่ก็ดันมาดีแตกซะแล้ว โถ..."
"หากหล่อน หวังดีกับท่านเจ้าสัว ไม่อยากให้ท่านกลุ้มใจ หล่อนกับลูกก็หุบปากไว้สิ" พวงแก้วบอก
บุหงากับสายฝนหน้าตึง
ชื่นน้ำตานอง เอื้อยพยายามปลอบใจ
"นังเดือน เอ็งตอบข้ามาสิ ว่าเอ็งไปได้เสียกับไอ้เมฆได้อย่างไร"
เดือนก็ตอบไม่ได้ มัวแต่ร้องไห้ แก้วเลยถามพยานแวดล้อม
"ว่าอย่างไรพวกเอ็ง ใครรู้เห็นบ้าง เอ็ง เอ็ง เอ็ง รู้ไหม"
ดาวได้จังหวะแล้วจึงรีบพูด
" บ่าวเจ้าคะ บ่าวเห็นนังเดือนล้างหน้าล้างตาท่าทางเมา แล้วบ่าวก็เห็นไอ้เมฆเข้ามา คุยกันได้สักพัก บ่าวก็ขอตัวแยกจากไปเจ้าคะ"
"ใช่ขอรับ กระผมไปเจอแม่เดือนท่าทางเมา กระผมเองก็เมา แล้วเอ่อ แม่เดือนก็เซมาซบกระผม...แล้ว...จากนั้น ก็พากันไปกระท่อม แล้ว....แล้ว"
"พอแล้ว ไม่ต้องเล่า ที่เหลือข้าประจักษ์แจ้งแก่ตาตนเองแล้ว"
"ทุเรศที่สุด นังเดือน หล่อนมีบุญแต่กรรมบังนัก ที่หล่อนตกต่ำเพราะใฝ่ในเรื่องอย่างนี้นี่เอง"
เดือนเสียใจจะคลานไปกราบขอโทษ พวงแก้วชักเท้าหนี ออกปากไล่
" ไปให้พ้นๆหน้าข้า ข้าไม่อยากเห็นหน้าเอ็งอีก ส่วนไอ้เมฆ เอามันไปโบย และในเมื่อมันใกล้จะพ้นสภาพทาสแล้ว หลังจากนี้เอ็งก็ออกไปจากใต้หล้าซะ"
เมฆตกใจ
"กระผมขอร้อง อย่าทำโทษบ่าวเลยขอรับ"
บุหงารีบทำเป็นขอไว้
"แหม คุณพี่คะ เรื่องบ่าวไพร่ได้เสียกันไม่ใช่เรื่องผิด เพราะพวกมันก็ไม่ได้มีลูกผัวเป็นตัวตน ถือว่ามันไม่ได้ทำผิดเสียหน่อย เพียงแต่สมสู่ไม่เลือกเท่านั้นเอง"
บุหงาขยิบตากับเมฆที่รีบนอบน้อมกับพวงแก้ว
"ใช่ขอรับ บ่าวแม้จะกลายเป็นไพร่ไม่ใช่ทาส แต่ก็ยังภักดีต่อคุณท่าน พ่อแม่บ่าวก็รับใช้เรือนนี้มาจนตายไป บ่าวจะขอรับใช้เพื่อชดใช้ความผิด หากว่าคุณแก้วเห็นว่าผิดขอรับ"
"โถ.. จริงของมันนะคะคุณพี่ อิฉันว่าให้มันไปเป็นคนงานอยู่ที่คอกม้าก็ได้หนิคะ เพราะหากมันหายไปจากใต้หล้าเลย ท่านเจ้าสัวเกิดสงสัย จะซักความเอากับคุณพี่ได้นะคะ"
พวงแก้วโกรธจนทำอะไรไม่ถูก แต่เห็นด้วยกับความคิดบุหงา
"ข้าไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องบ่าวไพร่อีก ใครคิดอยากทำอะไรก็ทำ"
แก้วเดินออกไป หาญมองเดือนผิดหวัง เจ็บปวดเ แล้วจึงเดินออกไป เดือน น้ำตานอง โดยมีบุหงา สายฝน เจียม และดาวมองหน้ากันว่าแผนสำเร็จ
บริเวณลานครัวชื่นนั่งปาดน้ำตาอยู่มุมหนึ่ง โดยมีเอื้อยปลอบใจ เดือนค่อยๆเดินเข้ามาจะกราบแม่ ชื่นเเสียใจอดไม่ได้ ตบหน้าฉาด !
"เอ็งทำอย่างนี้ได้เยี่ยงไร นังเดือน ข้าไม่เคยสอนให้เอ็งมักง่ายสำส่อนเยี่ยงนี้"
"เดือนไม่ได้ทำนะจ๊ะแม่จ๋า เดือนไม่ได้ทำจริงๆ แม่รู้จักลูกดีกว่าใคร ใยลูกจะเป็นคนอย่างนั้น"
ดาวเดินเข้ามาแจ๋นทันที แต่ยังทำเป็นจีบปากจีบคอพูดดี
"เวลาเมาขึ้นมาเอ็งก็อาจจะหน้ามืดน่ะสินังเดือน"
"ไม่ต้องเสือกเลย เงียบไป เรื่องนี้พวกข้าจัดการเอง" เอื้อยบอก
"อ้าว น้าเอื้อย ก็มันจริงนี่นา อุตส่าห์มีดวงเป็นคู่หนุนคุณหาญ ทำไมถึงได้กรรมบังเยี่ยงนี้ อดเป็นเลยนะเอ็ง"
ชื่นทนฟังไม่ได้ กัดฟันพูด
" ในเมื่อเอ็งเสียตัวให้ไอ้เมฆไปแล้ว ต่อแต่นี้เอ็งก็มีชีวิตของเอ็งไป ไปอยู่กับมันซะ ไม่ต้องมาให้ข้าเห็นหน้าอีก"
"แม่..ไม่นะจ๊ะ..แม่"
ชื่นก็ตัดใจเดินออกไป เดือนเศร้าเสียใจนัก แทบใจจะขาด
"นังเดือนเอ๊ย เอ็งไม่น่าเลยจริงๆ"
เอื้อยสงสาร แต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนดาวมองด้วยความสะใจ
เดือนสภาพย่ำแย่เดินร้องไห้น้ำตาตกมานั่งร้องไห้อยู่ที่ศาลาท่าน้ำ มั่นเข้ามาพร้อมผ้าที่หาญฝากมาให้เดือนด้วย
"ข้าไม่รู้ว่าความจริงเป็นเยี่ยงไรดอกนะนังเดือน แต่ชะตาเอ็งช่างพลิกผันจริงๆ ที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น"
"พี่มั่น พี่มั่นอยู่กับข้ามาตั้งนาน พี่เชื่อข้านะ ข้าไม่มีวันที่จะทำเยี่ยงนั้น ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ"
"นังเดือน ถึงเอ็งร้องโวยวายแทบตาย จะพูดอะไรตอนนี้ก็ไม่มีใครเชื่อเอ็งหรอก โดยเฉพาะเจ้าของผ้าผืนนี้"
มั่นเอาผ้าผืนที่หาญฝากไว้ให้เดือน ยื่นให้
"คุณหาญท่าทางจะเมตตาเอ็ง ฝากผ้าผืนนี้ให้ข้ามอบให้เอ็งตั้งแต่เมื่อวาน ยังไม่ทันที่ข้าจะเอาให้เอ็ง ก็มาเกิดเรื่องซะก่อน ข้าว่าคุณหาญน่าชอบพอเอ็งอยู่นะ แต่เกิดเรื่องราคีแบบนี้ ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณหาญจะรู้สึกยังไงบ้าง นังเดือนเอ็งไม่น่า..."
ขณะที่มั่นบรรยาย เดือนกอดผ้าแน่น น้ำตาไหล หัวใจแทบสลายใจไปที่หาญแล้ว แล้วเดือนก็ตัดสินใจวิ่งออกไปหาหาญ มั่นพูดยังไม่จบ มั่นถอนใจรู้ว่าเดือนคงรักหาญเช่นกัน
บุหงาเพิ่งให้อัฐที่เหลือกับเมฆ เมฆยิ้มดีใจ
"เป็นไงเมื่อคืน เปรมปรีดิ์เลยล่ะสิเอ็ง"
เมฆอึกอัก ดาวชักยังไง บุหงาเค้นถามต่อ
"ว่ายังไง ข้าถามไม่ตอบ"
"เออ..เมื่อคืนบ่าวเมาจนหลับ ไม่ได้กินนังเดือนมันหรอกขอรับ"
"ไอ้โง่เอ๊ย อ้อยเข้าปากช้างยังไม่เคี้ยว เกิดคุณแก้วรู้ ไอ้พวกนั้นรู้ นังเดือนก็พ้นผิดนะสิ" เจียมบอก
"นังบ่าวบ้า โง่ได้ใครเนี่ย..."
"ตอนนี้แผนการเข้าทางหมดแล้ว ไอ้เมฆจะได้กินหรือไม่ได้กินนังเดือนก็ไม่เป็นไร เพราะใครๆก็เข้าใจว่าเป็นเมียไอ้เมฆไปแล้ว"
"สะใจจริงๆนะเจ้าคะ นังเดือนผู้มีชะตาชีวิตหนุนนำคุณหาญ เพียงแค่ชั่วเวลาข้ามคืนก็กลับกลายเป็นหญิงมีราคี"
ทุกคนหัวเราะชอบใจ
"เอ็งทำหน้าที่ได้เกือบดี ที่เหลือจากนี้ต้องทำให้สำเร็จ ต่อจากนี้พวกเอ็งสองคน ต้องหุบปากให้สนิท เพราะใครเผยความลับคนเผยก็แย่เท่านั้น"
"เจ้าคะ/ขอรับ"
บุหงา เจียมตามไป ดาวเห็นนายไปแล้วจะออกไปบ้าง แต่เมฆดึงไว้ ทวงสัญญา
"นังดาว เอ็งจะไปไหน ข้าทำสำเร็จแล้ว ทำตามสัญญาได้แล้ว มาเป็นเมียข้าซะดีๆ"
ดาวบ่ายเบี่ยงบอก
พี่เมฆ วันนี้ข้ายังไม่สะดวก รอให้ข้าขัดสีฉวีวรรณเตรียมตัวก่อนนะ"
"ไม่ต้องหรอกนะจ๊ะน้องดาว แค่นี้ผิวผ่องๆของน้องดาวก็ทิ่มตาทิ่มใจพี่เมฆอยู่แล้ว"
เมฆไม่ฟังพยายามซุกไซ้ดาว
"อดใจหน่อยเถอะพี่ เกิดทำอะไรกันตอนนี้ คนเห็นเข้า แผนอีเดือนที่เราทำมาผังกันพอดีนะ"
เมฆเริ่มคิดใจ
"เออ จริงด้วย ก็ได้...เพื่อน้องดาว พี่เมฆรอได้"
เมฆยังเปรี้ยวปากได้แค่ไซ้คอ สีหน้าดาว วาวโรจน์ ต่อไปนี้นางจะหาทางให้ตัวนางได้เข้าหาหาญให้ได้
เดือนถือผ้า วิ่งหาหาญ มองหาไปรอบๆ จะไปที่เรือนใหญ่แต่ก็ไม่กล้า เดือนจึงคิดว่าลองไปที่ริมบึง แต่ไม่เห็นใคร เดือนเศร้า หันกลับไป ตะลึง หาญอยู่ตรงหน้า
"คุณหาญ !"
ทั้งสองมองหน้ากัน แววตาทั้งสองเสียใจพอๆกัน จนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาหาญเหมือนจะเดินเลี่ยงไป เดือนจึงตัดสินใจพูด
"คุณหาญเชื่อบ่าวนะเจ้าคะ บ่าวไม่ได้..."
"หยุดพูดได้แล้ว การกระทำ มันสำคัญกว่าคำพูด เหตุการณ์เมื่อคืนก็เห็นประจักษ์แล้วว่า แม่เดือนเป็นเยี่ยงไร แม่เดือนไม่ได้มีหัวใจให้เราเลย"
เดือนเสียใจ
"คุณหาญ"
"เรามันบ้าไปเอง ที่คิดเสมอว่าชนชั้นไม่อาจกั้นกลางความรักของเราได้ ขอเพียงแค่หัวใจเราตรงกัน แม้มีอุปสรรคใดๆเราก็จะข้ามผ่านมันไป แต่ตอนนี้..แม่เดือนทำลายมันหมดสิ้นแล้ว"
"ไม่คะคุณหาญ เดือนไม่ได้ทำ เดือนไม่ได้ทำนะเจ้าคะ"
"มันสายไปแล้วแม่เดือน ออกไปจากชีวิตเราซะ"
เดือนตะลึง บีบผ้าแน่น
"ถือซะว่า เราทำบุญด้วยกันมาแค่นี้"
หาญพูดจบกำลังออกไป แลเห็นผ้าที่ฝากให้มั่นให้เดือนแล้วจึงพูด
"ทิ้งมันไปซะ ผ้านั้นก็แค่ของนอกกาย ในเมื่อใจคนยังเปลี่ยนไปได้ แค่ผ้า เราไม่ถือว่าผูกพันต่อกัน"
หาญออกไปแบบไร้หัวใจ เดือนมองหาญจากไปทั้งน้ำตา
อ่านต่อหน้า 3
ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 12 (ต่อ)
เดือนถือผ้าเดินกลับมา เดินไปทางไหนเหล่าทาสก็ส่ายหน้าผิดหวังเสียใจกับพฤติกรรมของเดือน ไปหาแม่ ชื่นก็เบือนหน้าหนีด้วยความเสียใจ ไปหาอ่ำ...
"เห็นเอ็งอย่างนี้นึกไม่ถึงนะนังเดือนเอ๊ย แต่เอาเถอะ หากเอ็งปองใจจะเป็นเมียไอ้เมฆก็ตบแต่งอยู่กินให้เป็นเรื่องเป็นราว"
"น้าอ่ำ น้าก็ไม่เชื่อฉันเหรอจ๊ะ"
ชื่นหันมาด่าซ้ำ
"มึงจะตกเหวลงนรกเป็นเมียใครก็ช่างมึง"
มั่นกลับเข้ามาพอดี จึงเดินเข้ามาปลอบเดือน
"ตอนนี้น้าชื่นคงเสียใจมาก เอ็งอยู่เฉยๆไว้ก่อนเถิด"
เดือนค่อยๆเดินจากทุกคนออกไป
เวลาต่อเนื่องมา ซินแสเทียนเอาของมงคลมามอบให้เจ้าสัว แสนรับ
"ข้าเอาสัตว์มงคลสูงสุดที่เป็นสัญลักษณ์แห่งพลัง อำนาจ ความยิ่งใหญ่ มาให้ท่านเจ้าสัวแสนรักษาไว้ มังกรเนี่ยถือเป็นผู้แทนฝนแห่งชีวิตมาให้พวกเราเลยนะ"
"ขอบใจท่านซินแสเทียนยิ่งนัก เมื่อท่านมีของมงคลมาให้ เหตุนั้นต้องมีข่าวดีมาบอกเราด้วยเป็นแน่"
"ท่านเจ้าสัว เล็งมิเคยพลาด วันนี้อั้วไปดูดวงชะตาให้เจ้าพระยาขรรค์ชัยมา เป็นจังหวะที่ดีเหมาะเจาะ หากท่านเจ้าสัวจะฝากพ่อหาญเข้ารับราชการกับเจ้าพระยาขรรค์ชัย"
แสนตบเข่าฉาด
"โอว ช่างดีจริง แม่หญิงที่จะเสริมดวงให้พ่อหาญคนนี้ช่างมีบุญใหญ่นัก ตกลงนางเป็นใครรึท่านซินแส"
พวงแก้วรีบเดินเข้ามา ขยิบตาซินแส ประมาณอย่าเพิ่งพูดว่าใคร ซินแสแปลกใจ
"แม่แก้ว หล่อนมาพอดี วันนี้หล่อนบอกว่าจะพาคู่บุญพ่อหาญมากราบข้า ไหนล่ะอยู่ไหน เอามาพบข้าเลยสิ"
พวงแก้วตัดสินใจพูด
"เนื่องด้วยวันนี้ดินฟ้าอากาศดี ฤกษ์วันฤกษ์ยามตรงกับที่ต้องไปเก็บสมุนไพรมาทำยาต้มเก็บไว้ อิฉันเลยให้นางผู้นั้นออกไปทำธุระงานนี้เจ้าคะ กว่าจะกลับมาอาจเป็นวันพรุ่ง หลังจากนั้นจะรีบนำนางมาพบท่านเจ้าสัวเลยนะเจ้าคะ"
"งั้นรึ งั้นนางย่อมเป็นคนของใต้หล้า เราใจร้อนชักอยากรู้แล้วว่าเป็นใคร นางผู้นี้ช่างยากเย็นเหลือเกินที่เราจะได้พบจริงนะแม่แก้ว"
"ปลูกต้นไม้ใหญ่ใช้เวลาเป็นร้อยๆปี สร้างคนใช้เวลาเป็นสิบๆปี นับอะไรกับคนที่จะมาเป็นคู่บุญพ่อหาญ จะได้เจอก็ต้องใช้ความอดทน ใช้เวลาหน่อยสิท่านเจ้าสัว"
เจ้าสัวแสนฟังจึงหัวเราะชอบใจ
"ฮาฮ่า จริงดั่งท่านซินแซกล่าว นางอยู่ใกล้แค่เอื้อม รอนิดหน่อยจะเป็นไรไป"
พวงแก้วเบาใจ
"ถ้าเช่นนั้นเราขอตัวออกไปทำงานก่อน ท่านซินแสจะออกไปพร้อมเราเลยไหม"
ซินแสจะตอบว่าไป เตรียมลุก แต่พวงแก้วรีบเข้ามาดึงไว้
"อุ้ย อย่าเพิ่งไปเลยท่าน อยู่พูดคุยกับอิฉันก่อนเถิดเจ้าคะ พอดีว่า.. อิฉันอยากจะปรึกษาต่อ เรื่อง...เรื่องฤกษ์วันแต่งของพ่อหาญน่ะเจ้าคะ"
แสนฟังแล้วยิ้มดีใจ
"อ๋อ ฤกษ์แต่งพ่อหาญรึ อ้า ดีแล้วๆ ฝากท่านซินแสช่วยดูด้วยนะ"
แสนยิ้มอารมณ์ดีออกไป พวงแก้วโล่งใจ ซินแสเทียนมองแก้วรู้ทันทีว่ามีเรื่อง แก้วหันมาพูด
"ท่านซินแส เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าคะ"
ซินแสรับรู้เรื่องเดือนที่ได้เสียกับเมฆ ซินแสถอนหายใจอย่างคาดไม่ถึง ไม่อยากเชื่อ
"อั้ยหย่า นี่อั๊วดูดวงผิดพลาดไปหรือ"
"อาจจะไม่หรอกเจ้าคะ เพราะท่านบอกไว้ว่าดวงของนังเดือนนั้นหากรักษาตัวให้รอดจะได้ดิบได้ดีคู่ควรกับพ่อหาญ แต่นี่มันไม่รอดเอง เพราะว่ามันดันใฝ่ต่ำซะก่อน"
"หากการณ์เป็นเยี่ยงนี้ เราคงบอกท่านเจ้าสัวแสนไม่ได้"
"แล้วต่อไปเราจะทำเยี่ยงไรดีท่าน ท่านเจ้าสัวก็เร่งอยากรู้เสียเหลือเกิน"
"คงต้องหาคนใหม่ ต้องศึกษาฤกษ์ชะตาอีกที เอ...คืนนั้นที่เกิด มีนางทาสอีกคนใช่ไหม ชื่อ..."
"อ๋อนังดาวเจ้าค่ะ" เอื้อยว่า
"อ่อใช่นังดาวเอาเป็นว่าอั๊วจะไปตรวจดวงชะตาให้มั่นใจอีกที"
"ฝากท่านซินแสด้วยนะเจ้าคะ"
พวงแก้วโล่งใจ ซินแสเทียนคิดสงสัยไม่น่าพลาดได้
ดาวเข้ามาหาเดือน เห็นว่าเดือนกอดผ้าที่หาญให้อยู่ ดาวยื่นกรวยดอกไม้ให้
"ไปไหว้พระไหมเอ็งเผื่อจะได้สบายใจขึ้น"
เดือนน้ำตาเอ่อ ไม่คิดเลยว่า ในยามยากก็ยังมีดาวคอยเป็นเพื่อนให้สบายใจ
"เห็นกันมาแต่เล็ก จะให้ข้าซ้ำเติมเอ็งได้ลงคอหรือ"
เดือนซึ้งกอดดาว
เดือนอยู่กลางวัดเปลี่ยวๆเก่าๆแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดร้างที่ดาวหลอกมา
"เอ็งรออยู่ที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวข้าไปนิมนต์หลวงพ่อมารดน้ำมนต์ให้เอ็ง"
เดือนเสียใจเกินกว่าจะสังเกตอะไร นั่งรออยู่มุมหนึ่ง เอาผ้าที่หาญให้มาห่มเป็นผ้าคลุมไหล่
อีกมุมหนึ่ง บุหงาและเจียมปรากฎตัว ถามเมฆกับลูกน้องอีกคน
"เอ็งสองคนพร้อมนะ จัดการนังเดือนแล้วเอาไปส่งที่ๆที่ข้าบอก"
ดาวพยักหน้า
"เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ"
ทุกคนเริ่มแผน
เดือนนั่งเสียใจ ครุ่นคิด นักเลงเข้ามาระราน เดือนปราดหนี ทันใดนั้น นักเลงจัดการต่อยท้องเดือนจนสลบ เมฆโผล่ออกมา เอาถุงผ้าสวมหัวเดือนแล้วแบกออกไป
อีกมุม บุหงา เจียม ดาวมองอยู่ ดาวประจบบุหงา
"ทีนี้พวกบ้านคุณแก้วก็ไม่มีทางเจริญแล้วสิเจ้าคะคุณบุหงา"
"เอ็งอย่ามาพูดดี ข้ารู้ ข้าไม่ได้โง่ ที่เอ็งทำแบบนี้เพราะเอ็งอยากได้คุณหาญจนตัวสั่น"
ดาวเงียบ ไม่ตอบ แต่เผลอยิ้มมุมปาก
"เอาเถอะๆ ตอนนี้เป็นทีของเอ็ง คิดทำการใหญ่ได้แล้ว"
"เจ้าคะ คุณบุหงา"
ดาวยิ้มร้าย บุหงาพึงพอใจอีดาวมาก
มั่นคุยกับหาญที่สีหน้าเครียด
"นายน้อยให้คนตามบ่าวออกมาพบ มีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่าขอรับ"
"เรามีเรื่องกลุ้มใจ กลุ้มใจจนพูดกับใครไม่ได้"
"เรื่องกลุ้มของนายน้อยคงเป็นเรื่อง..นังเดือน ใช่ไหมขอรับ"
"เราเห็นพี่มั่นเหมือนพี่ชาย พี่มั่นรู้หรือเปล่าว่าเรารักแม่เดือนมากแค่ไหน"
มั่นอึ้ง คิดไปมาแป๊บเดียว ก็เข้าใจ
"บ่าวก็พอรู้ขอรับ บ่าวเห็นนายน้อยแอบแวะเวียนอยู่กับนังเดือนตลอด ก็พอจะเดาได้ ว่านายน้อยต้องชอบพอมัน ...แต่.. ในเมื่อนังเดือนมันไม่มีวาสนากับนายน้อย ได้โปรดตัดใจเสียเถิดขอรับ ให้รักคนที่มีใจให้นายน้อยดีกว่า"
"ไม่มีหรอก คนมีใจให้เรา"
"มีสิขอรับ อย่างน้อยบ่าวก็เห็นอยู่คนนึง"
"ใครกัน"
"ก็.. แม่หญิงฟ้าหยาด"
หาญอึ้ง มั่นทำเป็นพูดดี แต่ความจริงตัวเองแอบชอบซะเอง
หยาดเซ็งอยู่ในโรงน้ำชา เล่นเพลงไม่เป็นจังหวะ แต่ลูกค้าหนุ่มๆก็ยังยิ้มบันเทิงใจ เว่ยชิงเห็นท่าไม่ดีกลัวลูกค้าเกิดเบื่อขึ้นมา
"อาฟ้าหยาด ลื้อตั้งใจหน่อย ตามองมือที่เล่น ลูกตาลื้อมองลอยๆอยู่นั่นแหละ"
"งั้นอาเว่ยก็เล่นเองไหมล่ะ"
"เอ๊ะ อีนี่"
เว่ยชิงอยากตีฟ้าหยาดนัก แต่กวาดตาเห็นลูกค้าจ้องอยู่เลยกลบเกลื่อนทำหน้ายิ้มเอาอกเอาใจ ฟ้าหยาดเห็นทำหน้าเบ้ สักพักแสนเดินเข้ามายืนมอง อ่ำยืนด้อมๆมองๆ เว่ยชิงช็อก!
"อ๊ายหย่า ซี้แล้วหว่า"
แสนยิ้มจ้องมาที่ฟ้าหยาด
"คุณพ่อ !"
เว่ยชิงตกใจ
"คุณพ่อ ! อาฟ้าหยาด อั้วได้ยินเอ็งเรียกท่านเจ้าสัวว่า พ่อ..!"
"ก็พ่อไง พ่อผัวฉันมา อาเว่ย ไปดูแลพ่อหน่อย"
"ไอ้หยะ งานนี้อั้วจะจัดการยังไงดีน๊า"
เว่ยชิงรีบวิ่งไปหาแสน ฟ้าหยาดเปลี่ยนเป็นโชว์ลีลาการเล่นแบบจัดเต็ม จบเพลง ทุกคนปรบมือกัน ฟ้าหยาดยืนขึ้นโชว์ตัวให้แสนเห็น ฟ้าหยาดพูดกับแสนโดยตรงเลย
"นายท่านพีงพอใจไหมเจ้าคะ"
แสนปรบมือ เว่ยชิงรีบขัด
"ก็งั้นๆแหละ ฝีมือนางอื่นในนี้ดีกว่าอีเยอะท่านเจ้าสัว อู้ย เมื่อวานอั๊วเพิ่งได้นางโลมชั้นดีมาใหม่ อยากจะมาแนะนำให้เจ้าสัวเชยชม ดีมั้ย"
"ไม่ เราขอแม่นางฟ้าหยาดขึ้นห้องตอนนี้เลย"
อ่ำพูดกับตัวเอง
"ท่านเจ้าสัวจะเอาแม่นางฟ้าหยาดขึ้นห้อง"
อ่ำแอบดูต่อ จากนั้นแสนเอาถุงเงินให้เว่ยชิง
"แต่..."
"อย่าปฎิเสธ ข้าเคยบอกแล้วมิใช่รึ หากข้ามาครานี้ ข้าต้องได้ตัวนาง"
แสนจ้องเอาเรื่อง เว่ยชิงหน้าแหย๋ ไม่รู้ทำไงดี หันไปมองฟ้าหยาดที่กลืนน้ำลายอึกๆอย่างเอาเรื่อง
อ่านต่อหน้า 4
ชิงรักหักสวาท ตอนที่ 12 (ต่อ)
เว่ยยชิงจับฟ้าหยาดเข้ามุม
"โปรยเสน่ห์จนได้เรื่องนะ อาฟ้าหยาด ลื้อจะทำยังไงฮ่ะ พ่อผัวของลื้อจะกินลื้อซะแล้ว"
เว่ยชิงเอาพัดตีฟ้าหยาด โป๊กๆๆ
"โอ๊ย ฉันเจ็บนะ นี่ ไม่ต้องตกอกตกใจหรอกน่าอาเว่ย ฉันมีวิธีก็ละกัน"
ฟ้าหยาดกระซิบข้างหู เว่ยชิงพยักหน้ารับ
แสนมองนางโลมนางหนึ่งที่อยู่ข้างตัวอย่างไม่ค่อยพึงใจ
"ทำไมเจ้าไม่รินเหล้าให้ข้ากับมือเล่า แม่หนูฟ้าหยาด"
ฟ้าหยาดนั่งห่างแสนออกไปอย่างไว้ตัว โดยมีนางโลมนางนั้นคั่นกลาง
"เป็นธรรมเนียมส่วนตัวฟ้าหยาดเจ้าค่ะ จะเจรจาพาทีกับผู้ใดสมควรมีทนายหน้าหอช่วยสังเกตสังกา"
"หล่อนไม่ไว้ใจข้ารึ ข้ารับรองจะให้ความสุขหล่อนอย่างดี"
แสนจะเข้าหา ฟ้าหยาดดันนางโลมไว้ป้องกันตัว เว่ยชิงพอใจท่าทีฟ้าหยาด รีบเข้ามาช่วยอีกแรง
"ท่านเจ้าสัวอย่าเพิ่งใจร้อนเจ้าค่ะ"
"อาเว่ย หมูจะหามลื้อเข้ามาสอดทำไม"
อ่ำหัวเราะหึๆ แสนหันขวับ
"ไอ้อ่ำ มึงก็มาสอดรู้ด้วยเรอะ"
"จะให้บ่าวไปอยู่ที่ไหนเล่าขอรับ" อ่ำถาม
"ข้าจะขึ้นสวรรค์ เอ็งจะไปลงนรกทีไหนก็ไป"
อ่ำพยักหน้า จะรีบออกไป เว่ยชิงแอบส่ายหน้ากับอ่ำ
"เอ็งไม่ต้องไป รออยู่แถวนี้ ไม่อยากดูของดีรึ"
อ่ำเบิกตา น่าสนุก ทำเป็นเดินห่างจากเจ้าสัวแสนไปยืนอยู่ข้างหลัง เว่ยชิงรีบเอาใจแสน
"ท่านเจ้าสัวเจ้าคะ...อั๊วอยากจะช่วยอุ่นเครื่ององค์ทรงรักให้ท่านเจ้าสัวก่อน จะได้มีแรงกระปรี้กระเปร่า นังเหมย...นวดท่านเจ้าสัวสิ"
นางโลมรีบนวดให้แสน แสนไม่รู้สึกอะไร สายตาจ้องแต่ฟ้าหยาด
เว่ยชิงหน้าซีด เหงื่อตก กลัวฟ้าหยาดจะเสร็จแสน ฝ่ายฟ้าหยาดขยิบตาให้เว่ยชิงว่า ไม่ต้องกังวล
อ่ำผิดสังเกต ...สองคนนี้ยังไงกันหนอ
"ท่านเจ้าสัวเจ้าคะ ก่อนที่ท่านจะสำราญ ฟ้าหยาดอยากให้ท่านชิมน้ำจัณฑ์สูตรพิเศษ ฟ้าหยาดหมักเองกับมือเจ้าค่ะ"
ฟ้าหยาดหยิบขวดน้ำจัณฑ์กระเบื้องเล็กๆ ฟ้าหยาดแอบขยิบตากับเว่ยชิง
ย้อนอดีตไปก่อนหน้านี้ ฟ้าหยาดให้เว่ยชิงดูซองยาผงสีนวล ที่เธอเทยาผงใส่ในขวดน้ำจัณฑ์กระเบื้องขวดเล็กๆ
"นี่ไง ยานอนหลับ สกัดจากสมุนไพรหลายชนิด ฉันใช้มอมลูกค้าสำเร็จมาหลายรายแล้ว"
"ลื้อรักษาตัวรอดไม่เสียทีลูกค้าแบบนี้นี่เอง"
"ใช่สิ ถึงฉันจะเป็นนางโลม แต่ฉันก็อยากสงวนความสาวไว้ให้คนที่ฉันรัก...อย่างเจ้าสัวแสน ฉันก็ไม่ยอมเด็ดขาด ฉันจะรอคุณหาญคนเดียว"
" โอ๊ย อย่าพูด อั๊วจะอ้วก...ไปๆ รีบจัดการเจ้าสัวแสน ลื้ออย่ามีอะไรกับเจ้าสัวเด็ดขาด"
"เชื่อมือฉันเถอะน่า"
ฟ้าหยาดเขย่าขวดน้ำจัณฑ์
ฟ้าหยาดเทน้ำจัณฑ์ลงจอก
"ชิมนะเจ้าคะ"
"เจ้าป้อนข้าสิ"
"แหม....จะชิมรสสวาทใยจะรีบร้อนโหมไฟ ค่อยๆจุด เดี๋ยวก็ติดเจ้าค่ะ"
"มา...งั้นอั๊วป้อนเองเจ้าค่ะท่านเจ้าสัว" เว่ยชิงบอก
"ไปห่างๆเลยเจ๊เว่ย หล่อนป้อนข้าหมดอารมณ์พอดี"
แสนหัวเราะหึๆ เว่ยชิงทำผสมโรงหัวเราะขำไปด้วย แสนรีบยกน้ำจัณฑ์ขึ้นซด ฟ้าหยาดปรบมือเปาะแปะ
"ชื่นใจฟ้าหยาดมากเลยเจ้าค่ะ แต่จะชื่นใจกว่านี้ หากว่าท่านเจ้าสัวจะดื่มจนหมด"
ฟ้าหยาดเลื่อนขวดน้ำจัณฑ์ แสนไม่รอช้ารีบยกดื่มทั้งขวดหวังจะเอาใจฟ้าหยาด"
แสนดื่มหมดขวด ปาดน้ำจัณฑ์ที่ติดขอบปาก
"เอิ้กก...ข้าอุ่นเครื่องได้ที่แล้ว พวกเจ้าสองคนออกไป เจ๊เว่ย นังเหมย"
สายตาแสนมองฟ้าหยาดพร่าเลือนมากขึ้นๆ
"โอย นี่ข้าเป็นอะไร"
"โห ท่านเจ้าสัวของขึ้นแล้วรึขอรับ"
แสนเริ่มอ้อแอ้
"อ้ายอ่ำ...เอ็งยังไม่ไปอีกรึ...โอย ข้าเป็นอะไร"
แสนลุกขึ้นจะโผเข้าหาฟ้าหยาด แต่เดินโงนเงน
"ท่านเจ้าสัวขอรับ"
"หนูฟ้าหยาด"
แสนโผหา ฟ้าหยาดดึงอ่ำมากันทันที
"ทะ...ท่านเจ้าสัว"
"ฟ้าหยาด"
อ่ำตกใจร้องลั่น
"ทะ..ท่านขอรับ บ่าวไม่ใฝ่ทางนี้ บ่าวไม่ยอม บ่าวยังพิศวาสสตรีเพศ อ๊าก"
เว่ยชิงเคาะพัดใส่หัวอ่ำให้เลิกปิดตาตกใจ
"ไอ้อ่ำ หยุดแตกตื่นเป็นหมาโดนน้ำร้อนได้แล้ว นายลื้อหลับไปแล้ว"
อ่ำลืมตามอง แสนหมดสติตัวพิงอ่ำอยู่
"อ้าว ท่านเจ้าสัว...ไหงเป็นงี้"
"รีบพานายเอ็งกลับไปเลยนะ แต่ถ้าไม่ไหว จะนอนอยู่นี่ก็ตามใจ ฉันยกห้องให้ชั่วคราว....ไปเถอะอาเว่ย ลูกค้าหลับแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ข้าไปรับแขกรายอื่นต่อล่ะ"
ฟ้าหยาดสะบัดเชิบออกไป เว่ยชิงโล่งใจ รีบตามไปพร้อมกับนางโลม
อ่ำประคองแสนไปนอน ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น
"ท่านเจ้าสัว...ท่านเจ้าสัว เอ๊า ทำไมหลับนกไปหยั่งงี้ว๊า เหล้ามันแรงหรือไงนะ"
ดาววิ่งโวยวายเข้ามาที่เรือนครัว ร้องไห้ เล่นละครตบตากับทุกคน
"แย่แล้ว แย่แล้ว น้าชื่น น้าเอื้อย"
"เป็นอะไรของเอ็งนังดาว มีเรื่องอะไรอีกล่ะ" เอื้อยถาม
"เมื่อตอนสายข้าชวนนังเดือนไปไหว้พระที่วัด เห็นนังเดือนมันบ่นว่าไม่สบายใจ พอถึงกุฎิ นังเดือนมันก็บอกให้ข้า ออกไปหาดอกไม้ไหว้พระให้มันหน่อย พอกลับมาข้าก็ไม่เห็นมันแล้ว"
"เอ็งพลัดกันมันรึเปล่า มันอาจอยู่แถวนั้นอยู่ก็ได้" มั่นว่า
"ข้าหาจนทั่ว หาตลอดทางกลับก็ไม่เห็นมัน หรือว่า..อีเดือนมันจะหนีไป"
ทุกคนโพล่ง "อีเดือนหนี"
"ใช่ เพราะมันบ่นอยู่ว่าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เกลียดคนที่นี่ที่ขวางความรักของมัน"
"ความรักมันกับไอ้เมฆรึ" เอื้อยถาม
ชื่นเสียใจ
"ถ้ามันอยากหนีก็ให้มันไป ถ้ามันไม่รักดีก็ปล่อยมัน"
"อย่าเพิ่งมั่นใจว่าอีเดือนมันจะคิดหนีเลยนังชื่น" เอื้อยว่า
"ใช่จ๊ะ ทาสอย่างพวกเราใช่ว่าจะหนีกันง่ายๆนะ ข้าว่าออกตามหานังเดือนมันก่อนดีกว่า" มั่นบอก
"ใช่ จริงๆด้วย เราออกตามหานังเดือนกัน"
ทุกคนออกกันไป ดาวยิ้มร้าย ชื่นเสียใจ
มุมหนึ่งในเรือนใหญ่ หาญกำลังเล่าเรื่องเดือนให้กล้าฟัง กล้าทำหน้าตกใจปลอบหาญ เอื้อยรีบคลานเข้ามารายงานกระซิบบอกพวงแก้ว
"นังเดือนหนีรึ"
สองพี่น้องได้ยินตกใจ หาญเดินเข้ามา
"แม่เอื้อย เกิดอะไรขึ้นกับแม่เดือน"
"คือ บ่าวก็ยังไม่แน่ใจเจ้าคะ แต่ที่รู้ๆมา ก็รู้ว่านังเดือนหายไป ยังตามหากันไม่เจอเลยเจ้าคะ"
"คนใฝ่ต่ำอย่างนังเดือน หากมันหนีไป นั่นก็ยืนยันแล้วว่ามันไม่ใช่คู่หนุนนำพ่อหาญลูกแม่"
"อะไรนะขอรับ หญิงที่เป็นคู่หนุนนำดวงชะตากระผม คือ..แม่เดือน"
พวงแก้วไม่ตอบ ได้แต่ถอนใจ
"คุณแม่ นี่นังเดือนมันเป็นคู่ชะตาน้องหาญรึขอรับW
"ฮึ ตอนนั้นน่ะใช่ แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แล้ว ท่านซินแสกำลังกลับไปตรวจดวงชะตาใหม่เพราะคู่ชะตาลูกหาญต้องไม่ใช่ผู้หญิงใฝ่ต่ำอย่างมัน"
หาญรีบออกไป ไม่อยากจะเชื่อ ที่แท้หญิงที่เป็นคู่ชีวิตคือคนที่เขารัก แต่นางก็ได้ทำร้ายจิตใจเขาไปซะแล้ว
"อ้าว พ่อหาญ พ่อหาญ"
พวงแก้วงง กล้าเข้าใจเป็นห่วงความรู้สึกหาญ
ตอนกลางคืน เหล่าทาสถือคบไฟกระจายกันหาเดือน หาญวิ่งออกมาหาเดือน ถามเหล่าทาส ทุกคนส่ายหัว มั่นเข้ามาหาหาญ
"พี่มั่น แม่เดือนหนีไปแล้วจริงรึ"
"บ่าวตามหาจนทั่ว ไม่เห็นมันเลยขอรับ บ่าวไปค้นที่เรือนมัน นังเดือนก็ไม่ได้เก็บผ้าผ่อนมันไปด้วยเลย"
"ถ้าจะหนี คงไม่ทำให้ใครสงสัย"
"อ๋อ จะมีก็แต่ผ้าที่คุณหาญให้มัน ไม่ได้อยู่ที่เรือนเลย นังเดือนมันอาจเอาติดตัวไปด้วย"
"ผ้านั่น ป่านนี้ แม่เดือนคงเอาทิ้งไปแล้ว ช่างเถอะพี่มั่น นางคงอยากมีอิสระ พอนางรู้ว่าต้องเป็นคู่ชะตาเรา นางก็นอนกับไอ้เมฆได้ นับประสาอะไรกับเรื่องหนีไปเฉยๆล่ะ"
หาญเดินกลับไป มั่นกลุ้มใจคิดถึงเดือน
"นังเดือนนะ นังเดือน ตอนนี้เอ็งอยู่ไหนว่ะ"
ภายในซ่องชั้นต่ำ มีแค่ฉากผ้ากั้นระหว่างห้อง แต่ละห้องมีเด็กซ่องกำลังปรนเปรอแขก เดือนถูกคลุมหัวลากมาพร้อมลูกน้อง
ลูกน้องโยนเดือนลงพื้น เอาผ้าคลุมหัวออก แม่เล้าดูหน้าเดือน
"สวยนะมึง หน้าตาแบบนี้ ขายคงได้หลาย พวกเอ็งจับนังนี่เอาไปขายตัวเลย"
"ไม่ๆ ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ปล่อยฉันนะ ปล่อย"
"กูซื้อมึงมาแล้ว มึงต้องทำงานให้กู ถอดผ้ามัน"
ลูกน้องท่าทางหื่นเข้ามาจับตัวเดือน เดือนอาละวาดถีบของ ข่วนลูกน้อง หลุดมาข่วนหน้าแม่เล้าอีก แม่เล้าโกรธลากเดือนไป
"อีนี่ สะดิ้งนักใช่ไหม ต้องโดนนวดก่อนถึงจะยอมโดนนาบนะมึง ... มัดมันไว้"
ลูกน้องจับเดือนมัดข้อมือ เ แม่เล้าใช้หวายเฆี่ยนหลัง แล้วเอาน้ำเกลือราด
"มึงทนได้ทนไป ถ้ามึงไม่อยากทรมาน มึงต้องขายตัว"
อ่านต่อตอนที่ 13