xs
xsm
sm
md
lg

การ์เดี้ยน หักเหลี่ยมมัจจุราช ตอนที่ 12

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การ์เดี้ยน หักเหลี่ยมมัจจุราช ตอน 12

บริเวณประตูปากทางเข้า สเน็กเดินเข้ามาหยุดดูศพทหาร 3 นาย..ในมือถือปืนสั้นติดลำกล้องเก็บเสียง
สเน็กลากศพทหารนายหนึ่ง..โยนลงตามบันไดทางลงแล้วชะโงกมอง
ศพทหารนอนนิ่งอยู่ที่เบื้องล่าง..สักพักหนึ่งจึงได้ยินเสียงฝีเท้า..แล้วทหารอีก 2 นายก็โผล่เข้ามาดูอาการเพื่อน หนึ่งในนั้นเงยหน้าขึ้นมองที่ปากทางเบื้องบน
สเน็กเล็งปืนจ่อลงมา..ยิง!
ฟุบ..ๆ 2 นัดซ้อน
ศพทหาร 3 ศพกองทับรวมกัน

สเน็กเดินลงบันไดมาแล้วข้ามศพทหารทั้งสาม เดินลึกเข้าไป
ทหารนายหนึ่งในกองศพ ขยับตัวอย่างยากลำบาก ยกปืนสั้นแล้วเหนี่ยวไก
ปัง !
กระสุนเฉี่ยวตัวเสน็คไป มันหันกลับมาแล้วยิ้มอำมหิต

ปัง ! ...
ผู้พันพยัคฆ์และทหารติดตามทั้งสองได้ยินชัดเจน ทั้งสามชักปืนออกเตรียมพร้อม..รีบจ้ำเท้าเร็วขึ้น
ปังๆ...
ผู้พันพยัคฆ์วิ่งเร็วขึ้น..ทหารทั้งสองรีบตาม ข้างหน้าเป็นทางเลี้ยว
ปังๆ..แสงไฟจากการยิงปืนวูบวาบกระทบผนังเบื้องหน้า แล้วเสียงก็ปืนเงียบลง..
ผู้พันพยัคฆ์และทหาร 2 นายวิ่งเลี้ยวโค้งมา ประทับปืนขึ้นเล็ง
สเน็กยืนจังก้ารออยู่ห่างไปราว 7-8 ก้าว จับทหารที่บาดเจ็บบังตัวเอาไว้ ปืนจ่ออยู่ที่ขมับทหารผู้เคราะห์ร้าย
สเน็กมองกระเป๋าระเบิดในมือผู้พันพยัคฆ์..หัวเราะหึๆออกมา..แล้วยิงทันที 2 นัดซ้อนอย่างรวดเร็ว!
ฟุบๆ....ทหาร 2 นายที่ข้างกายผู้พันล้มลง ผู้พันยิงสวนกลับไปทันที...ปัง!
ปืนสเน็กกระเด็นหลุดมือหล่นลงพื้น..
สเน็กหลบเข้าหลังทหารบาดเจ็บให้มิดชิดขึ้น..ใช้มือซ้ายตะปบลูกกระเดือกทหารบาดเจ็บไว้แน่น
อ๊อก...อ๊อกกก ทหารสำลักลมหายใจ
เหตุการณ์หยุดลงชั่วคราว..ผู้พันพยัคฆ์หน้านิ่ง..แววตาดุดัน..จ่อปืนเล็งมาที่สเน็ก
สเน็กยืนหลังตัวประกัน..เอื้อมมือขวาเคลื่อนไปคว้าระเบิดน้อยหน่าออกจากเอวทหารตัวประกัน..ดีดสลักนิรภัยออก!
พิ๊ง..!
ผู้พันพยัคฆ์กระชับปืนแน่น
สเน็กยิ้มแล้วสะบัดข้อมือเต็มแรง ร่างทหารบาดเจ็บกระตุกเฮือกแล้วล้มลงไปกองกับพื้น..เหลือแต่สเน็กยืนถือระเบิดมองมาทางผู้พัน
ผู้พันพยัคฆ์ก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง..โกรธจนตาลุก..นิ้วชี้ที่ไกปืนออกแรงกดลงไปครึ่งหนึ่งกำลังจะยิง
สเน็กมองนิ้ว..แล้วมองหน้าผู้พัน
"แบบนั้น..เราจะตายกันหมดนะผู้พัน"
นิ้วผู้พันหยุดค้าง..สั่นระริกด้วยความอยากเหนี่ยวไกที่ค้างคาอยู่
"ถ้าไม่ยิง..ก็ตายหมดอยู่ดี"
สเน็กยิ้ม
"แต่ถ้าผู้พันยอมวางปืนนั่นลง..ผมจะวางระเบิดนี่ลง..แล้วหลังจากนั้น..ใครชนะก็ได้ของไป"
สเน็กมองกระเป๋าระเบิดในมือผู้พัน..ผู้พันมองระเบิดน้อยหน่า ที่ปลดสลักนิรภัยแล้ว ในมือสเน็ก
ผู้พันพยัคฆ์ตัดสินใจปลดนิ้วจากไกปืน..โยนปืนทิ้งไปไกล..แล้ววางกระเป๋าระเบิดลง..เตะเขี่ยไปที่ที่ว่างตรงกลางระหว่างทั้งสอง..ผู้พันพยัคฆ์กับสเน็กจ้องหน้ากัน
ผู้พันดูนิ่งและดุ ชักมีดทหารยาวแปดนิ้วออกมารอ
สเน็กดูเย็นและผ่อนคลาย..มองมีดในมือผู้พันพยัคฆ์แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย..พยักหน้าหงึก..พลิกฝ่ามือตนเองออกมาเห็นเป็นมีดสปริงแคบเล็ก ยามถือในมือแทบมองไม่เห็นด้าม มันกดดีดใบมีดออกมา เป็นใบมีดแคบเรียวยาวเพียงสามนิ้วเท่านั้น
ผู้พันพยัคฆ์เขม้นมองมีดในมือสเน็ก..
สเน็กพลันโยนระเบิดน้อยหน่าในมือออกมาเบาๆ..ระเบิดมาไม่ถึงผู้พัน..กำลังจะตกลงพื้น!
ผู้พันพยัคฆ์ตกใจ..โผสุดตัว..ยื่นสุดมือซ้ายเข้ารับระเบิด..ซึ่งตกลงบนมือผู้พันพอดี..
ผู้พันอยู่ในสภาพนอนบนพื้น..ยื่นแขนซ้ายออก สเน็คพลิกมีดเสียบลงบนข้อมือซ้ายของผู้พันทันที
มีดสเน็กแทงถึงข้อมือซ้าย..มีดผู้พันพลันเข้ามารองที่ข้อมือสเน็ก..สเน็กรีบดึงมือกลับ..ถอยออกมา
ผู้พันพยัคฆ์ลุกขึ้นตั้งท่าสู้ เสียบสลักนิรภัยคืนแล้ววางระเบิดน้อยหน่าลงอย่างแผ่วเบา
สเน็กดูชายแขนเสื้อตัวเองเห็นรอยมีดกรีดขาดจากการปะทะเมื่อครู่ สเน็กยิ้มน้อยๆคล้ายมีความสุข..ตั้งท่าสู้
ทั้งสองดวลมีดกันอย่างกระชับสั้นและเห็นผลทันตา สเน็กรวดเร็ว พลิกแพลง และใช้มีดได้สองมือ ส่วนผู้พันพยัคฆ์หนักแน่น รัดกุม และดุดัน ใช้มีดผสมหมัดได้อย่างน่ากลัว หลังได้แผลมีดกันไปคนละสองแผล ผู้พันพยัคฆ์เริ่มเป็นต่อ รุกหนักขึ้น
ผู้พันพยัคฆ์ต่อยเข้าหน้าสเน็กได้อย่างจัง สเน็กเซไปติดกำแพง ผู้พันพยัคฆ์แทงใส่ตาทันที สเน็กหลบไม่ทันแล้ว
ฉึก...
สเน็กใช้มือรับกำใบมีดไว้แน่น ผู้พันพยัคฆ์สังเกตเห็นใต้ถุงมือหนังที่ฉีกขาดมีชั้นในเป็นตาข่ายเหล็ก!
สเน็กยิ้ม
"รู้สึกผู้พันจะหลงกล"
พร้อมกันนั้นมีดในมือสเน็กเสียบเข้าหัวใจผู้พันพยัคฆ์ในระยะประชิด
ฉึก..
ผู้พันพยัคฆ์ใช้ฝ่ามือรับ ใบมีดเสียบทะลุหลังมือผู้พันพยัคฆ์ออกมา แต่ผู้พันพยัคฆ์กลับรวบกำมือของสเน็กไว้แน่น กลายเป็นสภาพต่างคนต่างกำมีดของอีกคนไว้..แล้วผลักสเน็กอัดเข้ากับกำแพง กดมีดไปที่หน้าอกสเน็ก
มีดค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้หน้าอกสเน็กไปเรื่อยๆ ในขณะที่มีดสเน็กค่อยๆถูกบิดห่างออกจากตัวผู้พัน
" รู้สึกแกจะออกแรงน้อยเกินไป"
สเน็กพยายามบิดใบมีดผู้พันออกจากหน้าอกตนเอง แต่ใบมีดก็ยังค่อยๆจมลงบนหน้าอกสเน็กจนได้
สเน็กกัดฟันกรอด..ร้องอย่างเจ็บปวดออกมา
ทันใดนั้น..สเน็กพลันกดหดใบมีดกลับเข้าด้าม ดึงมือเปื้อนเลือดลื่นหลุดจากมือผู้พันพยัคฆ์ กดเปิดใบมีดพร้อมกับเสียบเข้าหัวใจผู้พันพยัคฆ์อีกครั้ง!
ผู้พันพยัคฆ์ใช้วินาทีสุดท้าย..พยายามดันข้อมือที่ถือมีดของสเน็กขึ้น
ฉึก..
ผู้พันพยัคฆ์ตะลึง..ก้มมองหน้าอกตัวเอง
มีดของสเน็กจมฝังลงบนหน้าอกผู้พันจนมิดด้าม
สเน็กยิ้ม
"รู้สึกนี่จะเป็นหัวใจ"
ผู้พันพยัคฆ์นิ่งไป ปล่อยมีดตัวเองหลุดจากมือ กำลังจะทรุดลงแต่ใช้มือทั้งสองดึงปกเสื้อของสเน็กพยุงตัวไว้
สเน็กมองจ้องเข้าไปในตาผู้พันพยัคฆ์
"เป็นเกียรติที่ได้สู้กับคุณนะ....ผู้พัน"
สเน็กผงกหัวแสดงความเคารพ ขยับตัวเสียบมีดซ้ำเข้าไปอีกครั้ง
ฉึก...
ผู้พันพยัคฆ์หมดแรง..สำลักเลือดออกมา ร่างค่อยๆรูดตัวทรุดคว่ำลงกับพื้นอยู่แทบเท้าสเน็ก
สเน็กมองผู้พันพยัคฆ์ที่ใกล้สิ้นใจ แบะปกเสื้อสูทออกดูแผลแล้วดึงปกเสื้อสูทให้เข้าที่ ดูนาฬิกาข้อมือ
นาฬิกาที่ตั้งถอยหลังไว้ เหลือเวลาอีก 14นาทีกว่าๆ
สเน็กดูเวลาแล้วขมวดคิ้ว หันมองกระเป๋าระเบิด..ตัดสินใจหันหลังจะจากไปโดยไม่หยิบกระเป๋าไปด้วย
แกร๊ก..
สเน็กชะงัก..หันมองพื้นเบื้องล่าง
มือผู้พันพยัคฆ์กุมอยู่บนข้อเท้าสเน็ก พอปล่อยมือออกเห็นกุญแจมือล่ามอยู่บนข้อเท้าสเน็ก..อีกปลายของกุญแจมือคล้องติดกับหูหิ้วกระเป๋าระเบิด!
สเน็กอึ้ง ถอนใจออกมา หันมามองหน้าผู้พันบนพื้น..ผู้พันพยัคฆ์ก็มองสเน็ก แล้วยังยิ้มออกมาได้
สเน็กเก็บปืนตัวเองขึ้นมายิงโซ่
ฟุบ..ๆ..แช๊ะ..ๆ ยิงได้สองนัดกระสุนก็หมด
โซ่กุญแจไม่ขาด..สเน็กเริ่มมีอารมณ์ โยนปืนทิ้ง เดินไปเก็บปืนผู้พันพยัคฆ์ขึ้นมายิงรัวโซ่ซ้ำอีกในระยะใกล้มาก
ปังๆๆๆๆๆ
โซ่ยังคงไม่ขาดสเน็กถึงกับอึ้ง
พยัคฆ์ยิ้ม..เสียงเบา "หึๆๆๆๆ"
สเน็กโมโหจ่อปืนกดเข้าที่ตาผู้พันพยัคฆ์ มือคลำสำรวจ..ค้นหาไปตามกระเป๋าเสื้อกางเกงผู้พัน แต่ไม่พบกุญแจ
" กุญแจอยู่ไหน"
ผู้พันพยัคฆ์ส่ายหน้าเป็นคำตอบ..สเน็กพลันกดนิ้วเหนี่ยวไกลงไปครึ่งหนึ่ง
พยัคฆ์ยิ้ม..เสียงย่ำแย่
"แบบนั้น..เราจะตายกันหมดนะ"
สเน็กอยากยิงจนมือสั่น นิ้วคาอยู่ที่ไกปืน แต่กลับยิ้มออกมาได้ เพราะคำพูดเลียนแบบของผู้พันพยัคฆ์
"ไม่ยิงก็ตายหมดอยู่ดี"
ผู้พันก็ยิ้ม สำลักเลือดออกมาจากปากอีกคำใหญ่
พยัคฆ์หอบหายใจ
"ชั้น..มีข้อเสนอให้แก"
สเน็กจ้องผู้พันนิ่ง ตัดสินใจดึงปืนออกจากเบ้าตาผู้พันพยัคฆ์ แล้วกดปืนจิ้มขยี้ลงบนแผลที่อกผู้พันอย่างแรง
ผู้พันพยัคฆ์ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด...
สเน็กยิ้มที่เห็นผู้พันพยัคฆ์เจ็บ
"ตกลงคุณมีข้อเสนออะไร..ผู้พัน"

ที่ระเบียงห้องรับรอง จิมมี่นั่งอยู่กับปลายฟ้า..เขาดูนาฬิกาข้อมือ แล้วลุกขึ้นเดินออกมานอกห้องนอน
" ทุกคนเตรียมพร้อม อีกสิบนาที"
ปลายฟ้าหยิบกุญแจมือแล้วล็อคข้อมือตัวเองไว้กับหูหิ้วกระเป๋าเอกสาร แววตาตัดสินใจ มุ่งมั่น จิมมี่เห็นแล้วก็ฝืนยิ้มให้...
แป้งเห็นจิมมี่แล้วหันหน้าหนี
ชาโดว์ตรวจเช็คอาวุธปืนให้พร้อม พยักหน้า หอยแครงเลิกเล่นเกมลุกขึ้นสะกิดน้สมานที่ยังหลับอยู่
" น้าหมาน..ตื่นๆ"
น้าสมานปัดมือหอยแครงทิ้ง
"เออ..กูขออีกแป๊บนึง"
" เฮ่ย..น้า!ทำงาน"
เสียงมือถือดังขึ้น..
จิมมี่หยิบมือถือดู..เป็นผู้พันพยัคฆ์ จิมมี่กดรับ
"พ่อ..เป็นไงบ้าง"
เงียบไม่มีเสียงตอบ...
จิมมี่ขมวดคิ้ว "ฮัลโหล..ฮัลโหล!"
เสียงสเน็กบอก "เขากำลังจะตาย"
จิมมี่ช็อก!

สเน็กถือมือถือผู้พันแนบหู
"กูจะส่งโลเกชั่นไปให้ รีบมาล่ะเหลือเวลาอีกแค่.. 12 นาที..พาแฮ็กเกอร์ของพวกมึงมาด้วย กูมีงานให้มันทำ"
สเน็กกดวางสาย

จิมมี่ช็อก ยืนถือมือถือค้างในมือ..มองมือถือนิ่ง
น้าสมานถาม
"เกิดอะไรขึ้นวะ ไอ้จิม"
จิมมี่หันมองเหมือนไม่ค่อยมีสติ เห็นน้าสมาน หอยแครง แป้ง ชาโดว์ ล้วนมองมาที่ตนอย่างรอคอยคำตอบ ปลายฟ้าก็เดินเข้ามาสมทบจากระเบียง..คล้ายรับรู้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
จิมมี่หน้าเสีย "พ่อ..กำลัง"
ตู๊ด..ๆ เสียงมือถือดังขึ้นสั้นๆขัดจังหวะ
จิมมี่รีบดูมือถือ..เป็นโลเกชั่น..จิมมี่ขยายดู
จิมมี่หันบอกเพื่อนๆ "ทางเดินใต้ดิน!"

จิมมี่ ชาโดว์ น้าสมาน กระชับปืนในมือ หอยแครงดูโลเคชั่นในมือถือ ทั้งสี่จ้ำเท้ามาตามทางเดินจนถึงทางเลี้ยว
หอยแครงเสียงเบา "ถึงแล้ว!"
ทั้งสี่ตั้งท่ากระชับอาวุธ..พอเลี้ยวโค้งมาก็เห็นสเน็ก!
สเน็กนั่งบนกระเป๋าเหล็กใบใหญ่ เท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนหลังไหล่ผู้พันพยัคฆ์ วางแขนที่ถือปืนบนเข่า..ชี้ปืนหลวมๆลงที่หัวผู้พัน
ผู้พันสลบ..คว่ำหน้าอยู่กับพื้น..ดูแล้วไม่รู้เป็นหรือตาย
จิมมี่หน้าเสีย กระชับปืนเข้าไปอีกสองก้าว จ่อเข้าใส่..สเน็กมอง หัวเราะหึๆ
" จุ๊....จุ๊....จุ๊"
จิมมี่เบี่ยงปากกระบอกปืน..ยิง ‘ปัง’ ทันที
สเน็กมีรอยลูกปืนถากปรากฏขึ้นที่ข้างขมับ เลือดไหลลงมาเส้นหนึ่ง สเน็กยิ้มอำมหิตจิ้มปืนกดลงไปที่หัวผู้พัน
จิมมี่ตาลุกวาว กัดฟันแน่น กระชับปืนเตรียมยิง
สเน็กจิ้มปืนขยี้ลง จ้องตาจิมมี่
"ถ้ามึงทำอะไรโง่ๆแบบนั้นอีกครั้งเดียว..อีกแค่ครั้งเดียว!"
สเน็กพลันบิดปืนเล็กน้อย แล้วยิง ‘ปัง’ ทันที ทั้งหมดทำโดยที่ยังจ้องหน้าจิมมี่อยู่
จิมมี่สะดุ้งเฮือก..หันมองผู้พัน ข้างแก้มผู้พันพยัคฆ์ปรากฏรอยเลือดขึ้นเส้นหนึ่ง
"แก!"
จิมมี่จิ้มปืนเข้าที่หัวสเน็ก สเน็กจิ้มเข้าที่หัวผู้พัน ทั้งคู่จ้องหน้ากันนิ่ง..สเน็กพลันถอนหายใจออกมา
สเน็กชี้กระเป๋าที่ตนนั่งทับอยู่
"ก่อนจะฆ่ากัน..ลองดูนี่ก่อนมั้ย" สเน็กดูนาฬิกาข้อมือ "เหลืออีก 8 นาที"
สเน็กลุกขึ้น ปืนยังเล็งอยู่ที่หัวผู้พัน เตะเขี่ยกระเป๋าเข้าใส่หอยแครง
กระเป๋าเหล็กสไลด์มาเบื้องหน้าหอยแครง หอยแครงมองกระเป๋า แล้วมองจิมมี่..จิมมี่พยักหน้า
หอยแครงเปิดกระเป๋าออก..ตาลุกวาว
" นี่มัน... " หอยแครงขมวดคิ้วเอียงคอเหมือนไม่แน่ใจ "ระเบิดต้อมไดนาไมท์"
ระเบิดในกระเป๋ากำลังนับเวลาถอยหลัง..เหลืออีก 8 นาทีกว่าๆ
สเน็กมองจิมมี่
"กู้ระเบิดนี่..แล้วหลังจากนั้น..มึงกับกูค่อยมาฆ่ากันต่อ"
จิมมี่กำลังสับสนปืนยังเล็งอยู่ที่หัวสเน็กตลอด
" ผมมีข้อเสนอที่ดีกว่านั้น"
ทุกคนหันมองหอยเป็นจุดเดียว
" อย่างแรก..ผมไม่แน่ใจว่าผมจะกู้ระเบิดนี่ได้ใน... 7 นาทีกว่าๆ..แต่น้าสมานถอดไอ้นั่นได้ในไม่กี่วินาทีแน่ "
หอยแครงชี้กุญแจมือที่ล่ามเท้าสเน็กกับกระเป๋าระเบิด 

น้าสมานสะดุ้งเฮือกที่โดนพาดพิงไม่ทันตั้งตัว

" อะ...เออ...อือม์...กุญแจมือของผู้พันนี่ทนก็จริง..แต่สะเดาะไม่ถึงกับยาก"
หลังจากนั้น..คุณจะได้ไปจากพวกเรา..เฮียจะได้เอาผู้พันไปโรงพยาบาล..และผม..จะได้กู้ไอ้นี่อย่างสงบ" หอยแครงเตะกระเป๋าระเบิดเบาๆ "ในเวลา 7 นาทีกว่าๆ"
สเน็กและทุกคนมองมาที่จิมมี่ จิมมี่ค่อยๆลดปืนลง..เก็บปืน ชาโดว์ น้าสมานทำตาม..สุดท้ายสเน็กจึงเก็บปืน
น้าสมานรีบล้วงเหล็กหน้าตาแปลกขึ้นมาชิ้นหนึ่งจากกระเป๋าตังค์ เสียบเข้าที่ช่องกุญแจมือบนขาสเน็ก..บิดไปมา
เวลาในกระเป๋าเหลืออีก 7 นาทีนิดๆ และเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ
แกร๊ก...เสียงกุญแจหลุด
กุญแจที่คล้องข้อเท้าหลุดตามมือสมานออกมา
สเน็กยิ้มออกมาเล็กน้อย
หอยแครงรีบคว้ากระเป๋าระเบิดควักมือถือออกมาปฏิบัติการทันที
จิมมี่ น้าสมาน ชาโดว์รีบเข้ามาพลิกร่างผู้พันขึ้น
" พ่อ.." จิมมี่เปิดอกเสื้อพ่อออกดู..ตกใจ
บนหน้าอกผู้พันพยัคฆ์มีบาดแผลมีดแทงลึก 2 แผลตรงตำแหน่งหัวใจและชายโครง
น้าสมานรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมากดปิดบาดแผลที่อก
" พี่เสือ..อย่าเป็นอะไรนะ"
จิมมี่รีบเข้าปั๊มหัวใจผู้พันพยัคฆ์
สเน็กมองจิมมี่แล้วหันมองหอยแครงที่ต่อมือถือเข้ากับกระเป๋าระเบิดเรียบร้อยแล้ว กำลังคีย์คำสั่งผ่านมือถือ
สเน็กยิ้มถอยกายไปสองสามก้าวหายไปในความมืด
ชาโดว์ชักปืนขึ้นจะยิงสเน็ก แต่มันก็หายตัวไปเสียแล้ว !
จิมมี่พยายามปั๊มหัวใจ แต่ผู้พันพยัคฆ์ก็ยังไม่ฟื้น หน้าสั่นตามแรงปั๊มหัวใจ มีเลือดค่อยๆไหลซึมออกจากปาก
จิมมี่ปั๊มหัวใจจนเหงื่อแตกเต็มหน้า น้าสมาน ชาโดว์เริ่มหน้าเสีย หอยอยู่ไกลสุดง่วนกับระเบิด..เหลือบมองมาเป็นพักๆด้วยความเป็นห่วงผู้พัน
เสียงไอแค่ก..ดังขึ้น
จิมมี่ก้มมอง..
ผู้พันพยัคฆ์พลันกระตุกร่างขึ้น..สำลักเลือดออกมา หอบหายใจ..มือจับคลำไปบนหน้าจิมมี่
" จิมมี่"
" พ่อ!"
หอยแครงยิ้มดีใจ
"น้าสมาน..เอารถไปรอเฮียที่ประตูหน้า เฮียกับชาโดว์รีบแบกผู้พันไปขึ้นรถ..เร็วเข้า!"
น้าสมาน จิมมี่ ชาโดว์หันมองหอยแครง
" ไม่..ชั้นจะแบกพ่อไปเอง..ชาโดว์จะอยู่คุ้มกันแก"
ชาโดว์พยักหน้า น้าสมานรีบวิ่งไปเอารถ
ชาโดว์ช่วยส่งผู้พันขึ้นหลังจิมมี่ หอยแครงชูนิ้วโป้งให้จิมมี่ จิมมี่พยักหน้าให้หอยแครงกับชาโดว์..แล้วออกวิ่งไปทันที เหลือแต่หอยกับชาโดว์อยู่กันสองคน ชาโดว์กระชับปืน..เดินมาดูหอยแครงทำงาน
หอยแครงพูดไปทำงานไป ไม่มองชาโดว์ "เธอน่าจะไปกับเฮีย"
" ชั้นจะอยู่ที่นี่..กับนาย"
หอยเงียบไปพักหนึ่ง
"เธอไปเถอะ..ถ้าตามสเน็กออกไปตอนนี้อาจจะยังทัน"
" ไม่ต้องพูดแล้ว ชั้นจะไม่ไปไหน"
" แต่ว่า..."
" ไม่มีแต่..นี่เป็นหน้าที่ชั้น และนั่นก็เป็นหน้าที่นาย" ชาโดว์พูดพลางพยักหน้าไปทางระเบิด
หอยแครงยิ้ม..พยักหน้าหงึกๆ "นั่นสินะ"
หอยแครงก้มหน้าทำงานต่อ ชาโดว์ยืนอยู่ข้างๆไม่ไกล

เสียงเครื่องดังกึกก้อง..
จิมมี่เปิดประตูเข้ามา เหงื่อโทรมแบกผู้พันพยัคฆ์อยู่บนหลัง..
พยัคฆ์เสียงแหบแห้ง "จิม"
จิมมี่หันมองพ่อ ไม่หยุดฝีเท้า
"พ่อ..อดทนไว้ก่อนนะ"
พยัคฆ์กำมือถือส่งให้ จิมมี่รับ
"นี่ของสเน็ก..อาจมีเบาะแส.."
จิมมี่วิ่งสุดฝีเท้าตรงไปเปิดประตูทางออก

จิมมี่วิ่งออกจากประตูเจอคนมากมาย อาทิ เหล่าสส. สว. ตำรวจสภา การ์ด ตำรวจนอกเครื่องแบบ เขาวิ่งตรงไปทางประตูหน้า คนที่เห็นบ้างรีบหลบทาง บ้างโดนจิมมี่ชน ผู้หญิงหลายคนตกใจร้องออกมา
ผู้พันพลันคว้าอกเสื้อจิมมี่..ดึงขึ้น
" จิมมี่..ฟัง!..คนร้ายอาจยังอยู่ในนี้..แกต้องอยู่ที่นี่!"
จิมมี่สีหน้าหนักใจ..วิ่งถึงประตูหน้า ตำรวจที่ประตูแหวกทางออก
น้าสมานขับรถเข้ามาจอดหน้าจิมมี่ แล้วเอื้อมเปิดประตูหลังออกทันที
จิมมี่วางผู้พันลงที่เบาะหลัง "พ่อ"
พยัคฆ์ยิ้ม
"จัดการ..แทนพ่อด้วย" ผู้พันผลักจิมมี่ออกไปแล้วแน่นิ่งไป
จิมมี่พยักหน้าหนักแน่น ปิดประตูลง..รถออกตัวไป จิมมี่มองตาม..พอหันกลับมา..เห็นผู้คนพากันมองมาที่ตน
จิมมี่เดินกลับมาที่ประตูโรงแรม แล้วตะโกนสุดเสียง
"ทุกคนรีบออกไป!"
ทุกคนเหมือนอึ้งไป
" ที่นี่มีระเบิด!"
พอคนแรกขยับ..ทั้งหมดก็ขยับตาม..กรูกันเข้ามาที่ประตู จิมมี่รีบหลบทาง..เดินสวนผู้คนเข้าไป..
จิมมี่ยกมือถือสเน็กขึ้นดู..มือถือสเน็กมีคราบเลือดพ่อติดอยู่..จิมมี่กำมือถือแน่น

นาฬิกาบอกเวลาใกล้บ่ายโมง..แป้งมองนาฬิกาอย่างกระสับกระส่ายผุดลุกขึ้นเดินไปที่ประตู วนไปวนมา
ปลายฟ้านั่งบนโซฟาอีกฝั่งมองแป้งอยู่
แป้งเดินกลับมานั่งที่โซฟา..มองนาฬิกาแล้วมองไปที่ประตู..
" แป้ง..เธอ..รักจิมมี่รึเปล่า"
แป้งเหมือนโดนจี้จุด หันมองปลายฟ้า
"แล้วคุณล่ะ..รักจิมมี่รึเปล่า"
" หึ..บางทีชั้นก็..ไม่แน่ใจ..แต่คิดว่าใช่"
"แล้วจิมมี่ล่ะ...รักคุณรึเปล่า"
" ถ้าอยากรู้..ทำไมเธอไม่ถามจิมมี่ล่ะ"
แป้งเมินหน้าหนี..ไม่พอใจกับคำตอบของปลายฟ้า
เสียงปี๊ดแหลมเล็กดังขึ้นต่อเนื่อง..
ปลายฟ้าขมวดคิ้วเล็กน้อย..แป้งหยิบมือถือขึ้นดู..เป็นเสียง Alarm หวีดแหลม..แป้งกดปิดเสียง
" ได้เวลาแสดงของคุณแล้ว..ไปกันเถอะ..ชั้นพาคุณไปเอง"
แป้งมองปลายฟ้า แล้วผุดลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ปลายฟ้าก็ลุกขึ้น..ถือกระเป๋าเดินตาม
" แต่เธอยังไม่ได้ตอบคำถาม"
แป้งชะงักเท้า หันหน้าพูด..ไม่ได้มองปลายฟ้า
"ถ้าชั้นรักจิมมี่แล้วจะทำไม"
ปลายฟ้าเดินเข้ามาถึงด้านหลังแป้ง..ยกกระเป๋าเอกสารขึ้นฟาดไปบนหัวแป้งเต็มแรง!..แป้งล้มลง..สลบไปทันที
" แล้วเดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง"

จิมมี่พลิกมือถือสเน็กรับแสง ส่องดูรอยรูดนิ้วบนหน้าจอ
จิมมี่ลองเข้ารหัสหน้าจอตามรอยลากนิ้วที่เห็น..ครั้งแรกผิด แต่พอรูดแบบเดิมกลับด้าน เครื่องก็ใช้งานได้
จิมมี่เดินลึกเข้าไปตามทาง..พร้อมกับเช็คไปที่รายการโทร..มีแต่เบอร์โทรที่ไม่เซฟชื่อ จิมมี่ลองโทร.เข้าเบอร์ล่าสุด
เสียงสายติด....
จิมมี่ตาลุกวาว..

เสียงมือถือดังต่อเนื่อง...
มือข้างหนึ่งรับมือถือยกขึ้นมาพูด...เป็นปลายฟ้ากำลังเดินปะปนท่ามกลางหมู่คนที่สับสน..มุ่งสู่ประตูทางออก
"เรียบร้อยรึเปล่า"
แต่ปลายสายไม่มีเสียงตอบมา ปลายฟ้าขมวดคิ้ว..รู้สึกเอะใจขึ้นมา

จิมมี่อึ้ง..หยุดยืนนิ่งกลางผู้คนที่เดินสวนออกไป แต่ในที่สุดก็ส่งเสียงตอบปลายฟ้าไป
จิมมี่เสียงเศร้า
"เป็นคุณนี่เอง."
"จิมมี่!.."
ปลายฟ้าเดินสวนออกมาท่ามกลางผู้คนที่เบียดเสียดถือมือถือแนบหู..หน้ากลายเป็นเศร้าสลด..เดินสวนกับจิมมี่ที่หยุดนิ่งไปโดยไม่เห็นกันและกัน
จิมมี่กำมือถือแน่น..ค่อยๆลดมือถือลง..กดวางสาย ยืนคอตกอยู่วูบหนึ่ง..แล้วพลันนึกขึ้นได้
"แป้ง!"
จิมมี่อยู่ไกลๆ วิ่งฝ่าผู้คนลึกเข้าไป เลี้ยวลับตาไป..แล้วค่อยเห็นปลายฟ้าเดินแทรกตามผู้คนออกมาหน้าสลด..มุ่งเข้าหาประตูปลายฟ้าเหมือนรู้สึกอะไรบางอย่าง หยุดชะงักที่หน้าประตู..มองกลับไปด้านหลัง แต่จิมมี่ลับตาไปแล้ว..ผู้คนเบียดเสียดออกันที่ประตู..ผลักดันปลายฟ้าเดินต่อไป

ทางเดินใต้ดิน หอยแครงกำลังเคร่งเครียดอยู่กับมือถือ ชาโดว์พลันชะโงกหน้าเข้ามาจ้องดูจออยู่ข้างๆหน้าหอยแครง ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ..เขาตัวเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย ยิ่งไม่กล้ามองชาโดว์เข้าไปใหญ่..แต่มือกลับคีย์มือถือเร็วขึ้นๆ
ชาโดว์ดูเวลาบนกระเป๋า..เหลืออีก 4 นาทีกว่าๆ
" ชั้นนึกว่ามันจะเล็กกว่านี้"
" นี่ไม่ใช่งานของต้อมไดนาไมท์..เป็นแค่ระเบิดเลียนแบบ..ดีแล้วล่ะที่เป็นอย่างงั้น"
ชาโดว์พลันหันมองหอยแครงทำให้หน้าที่ใกล้กันอยู่แล้วยิ่งแทบจะสัมผัสกัน..หอยแครงรู้สึกถึงลมหายใจของชาโดว์
" แปลว่า..นายกู้ได้"
หอยครงคีย์เร็วจี๋แล้วกด Enter..มือถือเริ่มถอดรหัส..ขึ้นตัวแรกเป็นตัวอักษร T
"ระเบิดลูกนี้สร้างได้ไม่เลวนะ แต่ถ้าเป็นระเบิดต้อมไดนาไมท์โอกาสที่ชั้นจะถอดรหัสถูกต้องมีอยู่แค่ 65 เปอร์เซ็นต์..และเวลาที่มีอาจไม่พอ..ส่วนลูกนี้ ชั้นคิดว่าโอกาสถูกของเรา..มีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์"
มือถือถอดรหัสออกมาถึงอักษรตัวสุดท้าย กลายเป็นคำว่า THEFOOLS
หอยแครงมองจอแล้วถอนใจออกมา
" มีอะไร"
หอยแครงส่ายหน้า
"ถอดรหัสได้แล้ว แต่ว่า..."
ชาโดว์ขมวดคิ้ว
"แต่อะไร"
หอยแครงถอยหน้าตัวเองออกมานิดนึง..แล้วหันมองชาโดว์
"แต่...ถ้าสมมุติว่ารหัสมันผิด แล้ววันนี้เราตายกันหมด เธอ..จะโกรธชั้นมั้ย"
ชาโดว์ยิ้มน้อยๆออกมา ส่ายหน้าช้าๆ
"ยังไงก็ได้ตายด้วยกันไม่ใช่เหรอ"
หอยแครงยิ้มอย่างซาบซึ้ง มองชาโดว์เนิ่นนาน "งั้น..พร้อมนะ"
ชาโดว์พยักหน้าหนักแน่น หอยมอง..แล้วคลิก ENTER ลงไปอย่างแรง
หน้าจอทำการประมวลผลอยู่พักหนึ่ง ทั้งเขาและเธอต่างลุ้น
ตี๊ดดดดด....
หน้าจอขึ้นเป็นรูปบอมบ์..หอยและชาโดว์หันมองระเบิดเวลา เห็นตัวเลขที่เหลืออยู่ 3 นาทีกว่ากำลังวิ่งถอยหลังเร็วจี๋ การกู้ระเบิดล้มเหลว!..หอยแครงยกมือกุมหัว
" เฮ้ย"
" หนีเร็ว!"
ชาโดว์ขยับตัวจะหนี แต่หอยแครงกลับคว้าตัวเธอมากอดไว้
" ไม่ทันแล้วล่ะ"
ชาโดว์เงียบไปพักหนึ่ง..มองตัวเลขบนระเบิด แล้วเอามือบีบลงบนไหล่หอยปลอบใจ
ชาโดว์ถอนใจ "แต่"
หอยแครงมองชาโดว์แล้วก้มหน้าลง
"แต่ถ้าจะตาย ฉันก็อยากอยู่ข้างคนที่รักที่สุด"
ชาโดว์อึ้ง
"นี่นาย"
หอยแครงหลบตา..คิดแล้วพยักหน้าให้ชาโดว์
"อือ..อย่างที่แท้เธอเข้าใจนั่นล่ะ"
หอยแครงทำตาหวานซึ้งประชิดชาโดว์จนหน้าใกล้กัน ชาโดว์ดูตกใจเล็กน้อยแต่ไม่ถอย
" นาย..จะทำอะไร"
หอยแครงไม่ตอบยื่นหน้าเข้าใกล้ชาโดว์ทำปากจู๋ เตรียมจะจูบ ชาโดว์คล้ายกำลังตัดสินใจแล้วก็หลับตาลง
ตัวเลขถอยหลังเข้าสู่เลขศูนย์!
เสียงตู๊ดด..ดังขึ้น ตามด้วยเสียงดนตรีร่าเริง...แล้วหน้าปัดนาฬิกาก็ดับลง
หอยกับชาโดว์ยังไม่ได้จูบ หันมองระเบิดอย่างตกตะลึง
" สำเร็จแล้ว..เราทำสำเร็จ!"
หอยแครงและชาโดว์กระโดดกอดกันกลม

สเน็กอยู่ในสวนรกห่างจากปากอุโมงค์มาไกล กำลังมองไปทางโรงแรมที่จัดสภาสัญจร
ติ๊ดๆ..เสียงนาฬิกาข้อมือดังขึ้น
สเน็กดูนาฬิกา..เวลาที่ตั้งไว้เหลือ 00.00.00 ..สเน็กเงยมองโรงแรม..ไม่ระเบิด! สเน็กยิ้ม..ล้วงหยิบมือถือในกระเป๋าเสื้อสูท..แต่กลับหาไม่พบ..สเน็กขมวดคิ้วคิด
ตอนที่ผู้พันพยัคฆ์ใช้สองมือดึงเสื้อสูทสเน็กเอาไว้..ก่อนรูดตัวคว่ำลงไป
สเน็กส่ายหน้า..ยิ้มออกมา..แล้วหันหลังจากไป

แป้งค่อยๆตื่นขึ้นมาในห้องน้ำ คลำเจ็บหัว..พลันพบว่าข้อมือถูกล็อกด้วยกุญแจมือ สายโซ่กุญแจลากอ้อมผ่านท่อใต้อ่างล้างหน้า..อีกปลายของกุญแจมือคล้องติดกับกระเป๋าเอกสารของปลายฟ้า..แป้งตกใจพยายามดึงกระเป๋าออก แต่กระเป๋าติดอยู่กับท่อ ดึงออกไม่ได้ แป้งพยายามใช้เท้าถีบยันท่อสุดแรง แต่ก็ไม่หลุด..แป้งพักหอบหายใจ แล้วล้วงปืน .22 ออกจากซองที่ขาอ่อน..ท่าทางดึงปืนยังดูขลุกขลักนิดหน่อย..
แป้งจ่อปืนเข้ากับสายโซ่กุญแจมือ แล้วหลับตาปี๋ หน้าเหยเกเบือนหน้าออกจากปืนให้ไกลที่สุด..เตรียมตัวยิง
"อย่ายิงนะ!"
จิมมี่พลันวิ่งเข้าห้องน้ำมา รีบเข้าไปช่วยแป้ง...เก็บปืนจากมือแป้งลงก่อน
" นี่กุญแจแบบนี้ยิงไม่ขาดหรอก กระสุนอาจจะกระเด็นใส่หน้าเอา เป็นอะไรรึเปล่า"
แป้งส่ายหน้ามองไปที่กระเป๋าเอกสาร..จิมมี่ลุกขึ้นถีบท่อใต้ซิงค์ออกจนหลุด แป้งหลุดออกมาจากท่อแต่ยังติดอยู่กับกระเป๋าเอกสาร จิมมี่รีบเปิดกระเป๋าเอกสารดู...
เสียง ‘ปิ๊บ’ ดังขึ้นเป็นจังหวะสามครั้ง
ภายในเป็นระเบิดต้อมไดนาไมท์..แต่เล็กกว่าลูกแรก พอสิ้นเสียง ‘ปิ๊บ’ นาฬิกาที่ตั้งไว้ 5 นาทีก็เริ่มเดินถอยหลัง!
แป้งตกใจ..จิมมี่ก็ตกใจที่ตนเองเป็นคนเปิดสวิทช์ระเบิดถึงกับอ้าปากค้าง..
" ย..แย่แล้ว..ทำไงดี"
จิมมี่จ้องมองตัวเลขบนระเบิดที่เหลืออีก 4 นาทีกว่าๆ...กลอกตาคิด
"นาย..กู้ระเบิดนี่ได้รึเปล่า?"
จิมมี่ส่ายหน้า
"แล้วหอยล่ะ"
จิมมี่ส่ายหน้า
"ต่อให้กู้ได้ก็ไม่ทันแล้ว"
แป้งฟังแล้วถึงกับเข่าทรุด..ก้มหน้าลง..เงียบไปพัก
แป้งเสียงเบา
"งั้น..งั้นนายไปเถอะ"
"นี่ไม่ใช่เวลามาพูดแบบนี้นะ..ผมไม่หนีไปไหนทั้งนั้น"
แป้งเสียงดัง
"ไปซะ...ก็นายบอกเองว่าไม่ทันแล้ว"
"ทันไม่ทันก็ต้องลองดู..ห้ามยอมแพ้ตอนนี้นะ!"

จิมมี่พูดพลางคว้ามือ ลากแป้งวิ่งออกจากห้องไป..

พลันเสียงประกาศเข้มดังขึ้น

" ขอให้ทุกท่านรีบออกจากตัวอาคารโดยด่วน..ย้ำ..นี่ไม่ใช่การซ้อม..ขอให้ทุกท่านรีบอพยพออกจากตัวอาคารในทันทีที่ได้ยินประกาศนี้"
ทางเดินแถบนี้มีคนไม่มากนัก..ทุกคนรีบมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน
จิมมี่ และแป้งวิ่งมาถึงโถงทางเดิน เหล่าสส. สว.วิ่งกันวุ่นวาย

ทันใดนั้น! ประตู Front Office ด้านขวามือพลันเปิดออก..ผู้จัดการฟร้อนท์พร้อมรปภ.นายหนึ่งวิ่งออกมา..ปะทะชนเข้ากับจิมมี่และแป้งพอดี..คนทั้งสี่ล้มลงที่หน้าประตู
กระเป๋าระเบิดตกลงบนพื้น..เปิดกางออก
ถุงที่ผู้จัดการถือมาก็ร่วงลง..ข้าวของภายในถุงกระจัดกระจายลงบนพื้น แป้งมองตาม
เป็นทรัพย์สินมีค่าที่แขกฝากไว้...ผู้จัดการและรปภ.ช่วยกันเก็บข้าวของลงถุง แล้ววิ่งรีบไป
แป้งหันมองเข้าไปในห้อง..ตาเป็นประกายขึ้นมา
"จิมมี่..ดูนั่นตู้เซฟ"
ในห้อง Front Office ตู้เซฟใบใหญ่ถูกเปิดอ้าไว้ จิมมี่ยิ้มเห็นด้วย คว้าแขนวิ่งเข้าห้องไป

จิมมี่รีบยัดกระเป๋าระเบิดเข้าในไปตู้เซฟ..แป้งรีบปิดเซฟ..แต่มันก็ยังติดโซ่ที่คล้องมือแป้งอยู่...เธอหมดหวังทรุดนั่ง....เปิดกระเป๋า ระเบิดเหลือเวลาแค่ 60 วินาที
"ไปเถอะจิมมี่ ปล่อยฉันไว้ที่นี่"
" ไม่..ผมไม่ปล่อย"
แป้งน้ำตาไหลออกมา
"ปล่อยชั้น..เราไม่จำเป็นต้องมาตายด้วยกัน"
" จำเป็นสิ!"
แป้งชะงัก ทั้งคู่ต่างมองค้าง
จิมมี่แก้เก้อ
"ก็..คุณเป็นเลขาของผมนี่"
จิมมี่หลบตาแป้ง..เขามองชุดดับเพลิงด้านนอก...คล้ายได้คิดบางอย่าง
" เราอาจยังมีทางรอด"
จิมมี่รีบวิ่งไปที่หน้าชุดดับเพลิงแล้ว ทุบกระจกหยิบขวานออกมา
จิมมี่วิ่งกลับมาดึงมือที่ถูกล่ามกุญแจของแป้งชูขึ้น แล้วมองหน้าเธอ
"ทนนิดนึงนะ"
"ห๊า!"
" คุณเคยดู Saw รึเปล่า?" พูดพลางวางมือของแป้งลงบนพื้น
" Saw…?"
แป้งคิดแล้วหน้าเหวอขึ้นมา
" อยู่นิ่งๆนะ" จิมมี่พลางเงื้อขวานขึ้นสุดมือ
" เดี๋ยวๆๆ..อย่าเพิ่ง!"
จิมมี่ไม่ฟังสับลงสุดแรงแป้งหลับตาปี๋..ร้องออกมา
เคร๊ง... !!
แป้งเปิดตามอง เห็นจิมมี่สับขวานลงบนหูกระเป๋า หูบิ่นแต่ไม่ขาด
จิมมี่สับลงซ้ำๆอย่างบ้าคลั่ง...จนหูกระเป๋าเหล็กขาดออก ปลดกุญแจมือออกจากกระเป๋าระเบิดได้
จิมมี่ยิ้มกวน
"ผมแค่จะบอกว่าผมเกลียดหนังเรื่องนั้นน่ะ"
แป้งชี้หน้า
"คุณนี่มันแย่ที่สุด"
จิมมี่หัวเราะเบาๆ
เสียงระเบิดร้องตี๊ดๆๆๆๆๆ
ทั้งสองมองเวลาในกระเป๋า เหลือแค่ 5 วินาที!
จิมมี่ปิดประตูตู้เซพแล้วล็อคอย่างรวดเร็ว ดึงโต๊ะมาบังแล้วคว้าร่างแป้งมาคร่อมตัวกอดเอาไว้
หน้าปัดตัวเลขระเบิด 0:00:00
ไฟลูกใหญ่กระแทกออกมาจากผนัง ฝุ่นซีเมนต์ระเบิดแรงอัดจนทุกอย่างปลิวกระเด็นกระจัดกระจาย
ร่างจิมมี่และแป้งกระเด็นไปเช่นกัน !

ชาโดว์ หอยแครงเดินออกห่างจากปากทางใต้ดินมาระยะหนึ่งแล้วในมือหอยหิ้วกระเป๋าระเบิดของสเน็กไว้ด้วย
ตูม...
ชาโดว์ หอยแครงตกใจหันมอง..เห็นโรงแรมระเบิด..
ชาโดว์หน้าเสีย "จิมมี่! แป้ง!"

ต่อมา ทางเดินโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลกำลังเข็นเตียงสองเตียงที่มีแป้งและจิมมี่นอนอยู่มาตามทางเดิน สภาพของทั้งคู่เลอะคราบเลือดและฝุ่นผง หอยแครงกับชาโดว์วิ่งตามติดมาไม่ห่าง
หอยแครงบอก
"เฮียๆเฮียต้องไม่เป็นอะไรนะเว้ย เฮียจะมาตายยังงี้ไม่ได้นะ"
ชาโดว์บอก
"แป้ง เธอก็เหมือนกัน ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด เข้าใจไหม"
หมอรีบเข้ามาตรวจดูอาการทั้งคู่และดูชาร์ทข้อมูลคนไข้
"คนไข้อาจมีการตกเลือดภายใน รีบไปเช็คดู"
พวกพยาบาลรีบเข็นเตียงจิมมี่ไปเข้าห้องตรวจ หมอรีบมาเช็คอาการแป้งอีกคน
"เฮ้ย...คนไข้หัวใจหยุดเต้นแล้ว เตรียมปั๊มหัวใจด่วน"
พยาบาลรีบเข็นเตียงแป้งเข้าห้องฉุกเฉิน พวกชาโดว์ได้แต่ยืนหน้าเสียรออยู่ข้างนอก
น้าสมานวิ่งจากอีกด้านของของโรงพยาบาล เลือดท่วมเสื้อ
"ผู้พันพยัคฆ์เป็นไงมั่ง น้า"
น้าสมานส่ายหน้า
"ไม่รอดว่ะ"
หอยแครงถึงกับซึม ชาโดว์คิดตาม...เจ็บใจ

ในห้องฉุกเฉิน หมอและพยาบาลรีบปั๊มหัวใจให้แป้งอย่างแข็งขัน แต่แม้จะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าและวิธีการต่างๆ แต่ร่างกายแป้งก็ไม่ตอบสนองใดๆ และแล้วกราฟชีพจรของแป้งก็เริ่มนิ่งสนิทและหยุดนิ่งลงในที่สุด เสียงเตือนจากเครื่องวัดชีพจรดังยาวเหมือนการส่งวิญญาณแป้งเป็นครั้งสุดท้าย

ภาพข่าวรายการข่าวทีวีกำลังรายงานข่าวสถานการณ์ระเบิด ด้านหลังเป็นผู้บาดเจ็บที่ถูกทยอยส่งเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
พิธีกรสนามรายงาน
"ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บกันอย่างเต็มที่ค่ะด้านหลังดิฉันความโกลาหลจากการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตยังดำเนินต่อไปค่ะ"

หน้าโรงพยาบาล รถพยาบาลที่มีโลโก้ 1669 จอดแสตนบายอยู่ สส.สองคนกำลังชกกันจนตำรวจแถวนั้นต้องเข้ามาจับแยก
"ไอ้บ้าเอ๊ย ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของพวกมึงใช่ไหม"
"อะไรวะ อยู่ดีๆมาใส่ร้ายกูยังงี้ได้ไง"
"ก็มีแต่พวกมึงที่ตายกันน้อยสุด พวกมึงรู้เรื่องระเบิดนี่มาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม นี่คิดจะเก็บพวกกูเพราะเรื่องสัมปทานนั่นสิท่า โธ่เอ๊ย ไอ้ทุเรศ"
"อ้าว พูดหมาๆยังงี้ก็สวยสิวะ ไอ้ห่าเอ๊ย"
ทั้งคู่จะเข้าต่อยกันอีก แต่คนที่จับทั้งคู่อยู่ยังดึงไว้ได้ แล้วจู่ๆปลายฟ้าก็โผล่เข้ามาขัดกลางปล้อง
"หยุดๆ พอได้แล้ว เลิกกัดกันได้รึยัง ก็เพราะพวกคุณมัวแต่แย่งผลประโยชน์กันยังงี้ไงล่ะ บ้านเมืองมันถึงได้ไม่ไปไหนซักที ฉันไม่รู้หรอกนะว่าระเบิดนี่เป็นฝีมือฝ่ายไหน แต่ฉันขอประณามคนที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงครั้งนี้ นี่เป็นแผนการที่ชั่วร้ายที่สุด"
ทุกคนแถวนั้นได้แต่นิ่งฟังปลายฟ้าเหมือนถูกสะกด
คนที่ดูทีวีอยู่ที่ห้องโถงโรงพยาบาล ทุกคนก็ตั้งใจฟังสิ่งที่ปลายฟ้าพูดเช่นกัน
"ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนแปลงกันรึยัง เลิกยึดติดกับขั้วการเมืองเก่าๆแล้วมาสร้างอนาคตการเมืองใหม่ที่ขาวสะอาด ไม่มีการคอรัปชั่นหวังผลประโยชน์อะไรทั้งนั้นดีกว่าไหมทุกคน"
พวกคนอื่นๆบอก "ใช่ๆ... ถูกต้อง... ใช่เลย"
คนที่ฟังปลายฟ้าอยู่รอบๆต่างก็ปรบมือชื่นชม
คนที่โรงพยาบาลซึ่งกำลังดูเธอผ่านทีวี ต่างก็ซุบซิบและปรบมือชื่นชมเธอเช่นกัน

ชาโดว์และหอยแครงก็กำลังดูข่าวปลายฟ้าจากทีวีในห้องเช่นกัน ในห้องเห็นจิมมี่นอนนิ่งอยู่บนเตียง น้าสมานก็ได้แต่นั่งซึมอยู่ข้างๆ
"โธ่เว้ย...คราวนี้เราพลาดท่าอย่างแรงเลยวะ ทั้งผู้พันพยัคฆ์ หนูแป้ง แล้วก็ไอ้จิมมี่ก็ด้วย เอาไงกันดีวะเนี่ย"
"เพราะไอ้สเน๊คคนเดียว หอยแครง พอจะหาทางตามรอยมันได้ไหม"
"ฉันแฮ็คเข้าโปรแกรมเครือข่ายกลางแล้วเซ็ทให้มันค้นหาร่องรอยสเน๊คให้แล้ว ถ้ามีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับมัน เราจะรู้ทันที" หอยแครงบอก
"คราวนี้เราต้องไม่พลาดอีก"

เสียงโทรศัพท์ดังขี้น ทำให้ปลายฟ้าปลีกตัวมารับโทรศัพท์….
" ฮัลโหล"
"เยี่ยมครับ สุนทรพจน์น่าประทับใจมาก"

ในเวลาต่อมา รถคันหนึ่งจอดสนิทอยู่หน้าด่านกั้นข้างทาง สเน็คซึ่งนั่งเบาะหลังรถคุยโทรศัพท์กับปลายฟ้าอยู่
"ตอนนี้คุณกลายเป็นขวัญใจประชาชนไปแล้ว ต่อไปจะเรียกร้องให้ทำอะไรก็มีมวลชนเป็นแบ็คชั้นดีแล้ว ยินดีด้วย"
"ก็เพราะแกทำผิดพลาดน่ะสิ ตามแผนแล้วพวกสส.เก่ามันต้องตายกันหมด แต่นี่พวกมันยังรอดมาได้ตั้งหลายคน ฉันถึงต้องออกไปพูดแก้ปัญหายังงี้ไง"
"โทษผมไม่ได้หรอก ก็แฟนคุณมันฝีมือใช่ย่อยนี่"
"จิมมี่ไม่ใช่แฟนฉัน และถ้าเขายังอยู่ เขาก็คงโกรธฉันมากแน่ๆ"
"มันยังไม่ตายหรอกนะ"
"ว่าไงนะ"
"ไอ้จิมมี่มันรอดจากระเบิดมาได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สติ รอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลที่คุณกำลังให้ข่าวนั่นแหละส่วนแป้งคู่แข่งคุณน่ะ ไปดีแล้วล่ะ"
ปลายฟ้าแอบยิ้ม
"จิมมี่ยังไม่ตาย"
"แต่ถ้ามันยังรอดแล้วฟื้นขึ้นมาแฉทุกอย่าง ว่าทั้งหมดเป็นแผนการของคุณ ทุกอย่างที่เราทำมามันก็จะสูญเปล่าทันที"
ปลายฟ้ายิ้มไม่ออกแล้ว เธอได้แต่ทำหน้าลำบากใจ
"หึ ยังอาลัยอาวรณ์มันอยู่ล่ะสิ คิดจะทำการใหญ่มันต้องใจแข็ง มาถึงขั้นนี้แล้ว เราหันหลังกลับไม่ได้แล้ว"
ปลายฟ้าได้แต่นิ่งเงียบ ท่าทางคิดหนัก
"เอาเป็นว่า เดี๋ยวผมจะหาทางปิดจ๊อบให้เอง ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรมาขวางคุณได้แน่นอน"
"แกจะทำยังไง ที่โรงพยาบาลมีตำรวจเต็มไปหมด"
"ผมก็มีวิธีการของผม คุณอย่าขวางทีมของผมก็แล้วกัน"
แล้วสเน๊คก็วางสายไป ส่วนปลายฟ้าได้แต่ลำบากใจสุดๆ
สเน็คสะกิดคนขับ
"ช้าๆ อย่าจอดใกล้มาก"

รถวิ่งมาจอดหยุดใกล้ด่าน
ที่ด่าน ตำรวจโบกให้รถคันหนึ่งผ่านไป จนมาถึงคิวรถสีแดงของเสน็ค
ตำรวจ1เข้ามาเคาะกระจกด้านคนขับ
"ขออนุญาตตรวจหน่อยนะครับ"
รถสีแดงลดกระจกด้านคนขับลง เผยให้เห็นว่าเป็นสเน๊ค ตำรวจ1เห็นหน้าสเน๊คเทียบกับรูปประกาศจับในมือจนรู้ว่าเป็นคนเดียวกันก็ได้แต่ตกใจ
"สเน๊ค"
แต่ไม่ทันการแล้ว สเน๊คชักปืนสั้นขึ้นมาจ่อหัวเขาและยิงใส่เขาทันที ร่างตำรวจ1ร่วงลงไปกองกับพื้น พร้อมๆกับตำรวจ 2 โดนเสน็คยิงร่วงอย่างรวดเร็ว
ตำรวจ 3 ในชุดสายตรวจพลิกตัวหลบหลังมอเตอร์ไซด์แล้วรีบ วิทยุทันที

จู่ๆคอมพิวเตอร์ของหอยแครงก็ส่งสัญญาณเตือน หอยแครงรีบมาตรวจดูทันที แล้วเขาก็เปิดเสียงวิทยุตำรวจให้ทุกคนฟัง
เสียงตำรวจ3
"เหตุด่วนๆ เกิดเหตุปะทะกับไอ้สเน๊ค ในรถโตโยต้าสีแดง เลขทะเบียน งท 7214ที่ด่านถนนเลียบเมือง ขอกำลังเสริมด่วน"
ปัง...!เสียงปืนดังแทรกเข้ามาแล้วทุกอย่างก็เงียบไป
"ไอ้สเน๊ค"
ชาโดว์รีบออกจากห้องไปทันที หอยแครงก็รีบเก็บของวิ่งตามออกไป
"รอด้วยชาโดว์ ฉันไปด้วย"

หอยแครงกำลังรีบวิ่งตามชาโดว์ แต่ทำของเล็กของน้อยตกซะก่อนจึงรีบก้มเก็บ
"ชาโดว์ รอด้วยๆ"
"เร็วๆสิไอ้หอย โธ่เอ๊ย"
หอยแครงเก็บของเสร็จแล้วรีบลงลิฟท์ไป น้าสมานเดินตามมาส่งแต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"ฮัลโหล อะไรนะ ลูกตกบันได ขาหักเลยเหรอ ปั๊ดโธ่เว้ย...เออๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ"
น้าสมานถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วลงลิฟท์อีกตัวไป
ที่เคานท์เตอร์ของวอร์ดพยาบาลสาวคนหนึ่งมองตามน้าสมานจนลับสายตา แล้วพยักหน้าให้บุรุษพยาบาลท่าทางไม่น่าไว้ใจอีกสองคนเดินตามมา

แต่ด้านใน มีศพพยาบาลเวรฟุบคาเก้าอี้อยู่

อ่านต่อตอนที่ 13
กำลังโหลดความคิดเห็น