การ์เดี้ยน หักเหลี่ยมมัจจุราช ตอน 10
บริเวณป่าชายแดนไทยเขมร ตอนกลางวัน รถตู้คันหนึ่งจอดรออยู่
รถการ์เดียน และรถชูชัยขับมาจอดลงใกล้ๆ จิมมี่ เสี่ยชูชัยและเบิ้ลลงรถมา เสี่ยชูชัยโบกมือให้รถที่จอดรอ รถที่จอดรอมีคนลงมาโบกมือให้
เสี่ยชูชัยยิ้มยื่นเช็คให้จิมมี่จำนวนสิบล้าน
"นี่ผมไม่คิดค่าบาดเจ็บนะ"
" ไม่แน่ว่าคุณจะปลอดภัยแล้วหรอกนะคุณชูชัย" จิมมี่หันมองเบิ้ล "คุณจะไปกับเค้าจริงเหรอ"
" ก็ถ้าพี่จ่ายมากกว่าเสี่ย..หนูไปกับพี่ก็ได้นะ"
จิมมี่ยิ้ม เสี่ยชูชัยก็หัวเราะออกมา ตบไหล่จิมมี่เบาๆ แล้วเดินไปขึ้นรถที่รออยู่
จิมมี่มองตาม..จิ๋วกับโยโย่โผล่หน้ามา
"เบิ้ล..ขูดมันให้หมดตัวเลยนะ" จิ๋วบอก
" บ๊ายบาย..เบิ้ล"
เบิ้ลหันมาโบกมือ แล้วขึ้นรถตามเสี่ยชูชัยไป
รถตู้วิ่งสู่ฝั่งเขมร
ณ ห้องพักในดรงแรมเขมร ชูชัยเดินเข้ามารวบน้องเบิ้ลเจ้ามาในห้องน้ำ
" วันนี้เหลือแค่เราแล้วน้า" ชูชัยพลางเอื้อมมือเข้าหาเบิ้ล
เบิ้ลจับมือชูชัยไว้ บิดแขน..ใช้ขาช่วยเหยียบแล้วกดเสี่ยชูชัยลงบนเตียง แทงเข็ม..ฉีดยาลงที่ต้นคอ
ชูชัยสำลักหายใจ จับต้นคอ
"นี่เธอฉีดอะไรให้ชั้น"
ชูชัยพลันรู้สึกมึนงง ภาพเบิ้ลตรงหน้ากลายเป็นพร่ามัวและเสียงเบิ้ลก็กลายเป็นเสียงก้องๆตลอดเวลา
"ยาสารภาพน่ะ" เบิ้ลพูดพร้อมกับยกมือถือขึ้นถ่ายภาพ "เล่าเรื่องสัมปทานมาให้หมด"
" เรา..พอจะต่อรองกันได้มั้ย"
" คงจะไม่ได้หรอก เพราะพี่ชั้นตายไปแล้ว"
" พี่?"
" ฮวงมีดคู่มีสองคน..ถึงเรียกว่ามีดคู่ไงล่ะ..ชั้นชื่อคิม"
ชูชัยอยู่ในฤทธิ์ยาแล้ว
"คิม?..แต่คุณชื่อเบิ้ล..แล้วคุณก็เป็นกะหรี่"
เบิ้ลตบผัวะ จ้องหน้า เน้นคำ
"ชั้นมาที่นี่เพื่อฆ่าแก! ... เอาล่ะ..ทีนี้เล่ามาให้หมด"
ชูชัยทำหน้างง..คิด
"เล่าเหรอ?..ได้สิ" ชูชัยยิ้มออกมา
ในห้อง เบิ้ลส่งไฟล์ทางมือถือเสร็จ กำลังเตรียมตัวออกจากห้อง กดมือถือโทร.ออก
เสียงสายติด...ดังอยู่ 2-3 ครั้งก็มีคนรับ..รับแล้วไม่พูดอะไร
"ชั้นส่งไฟล์ไปแล้ว"
สเน็กหน้าตาเย็นชา ไม่ได้ตอบอะไร กดวางสายไป
คิมงงเล็กๆที่สเน็กไม่พูดอะไรเลย ถอนใจออกมา แล้วล็อกประตู..เดินออกจากห้องไป
ในห้องน้ำ เสี่ยชูชัยถูกปาดคอ นอนตาโพลงจมอยู่ในห้องน้ำ
ถนนนอกเมือง...รถราบางตา รถควบคุมนักโทษวิ่งผ่านไปอย่างไม่รีบร้อน
ต้อม ไดนาไมท์ถูกใส่กุญแจมือล็อกไว้กับตัวรถ เขาไอค่อกแค่กเหมือนมีโรคประจำตัว
ผู้คุมหน้าตาโหด 2 คนมองต้อมแล้วส่ายหัวในความขี้โรค ต้อมไอหนักขึ้น
"แค่ก...แค่ก...ขอยาให้ผมหน่อยซิ...ป๋า"
ผู้คุม 1บอก "มึงจะแดกยาเป็นอาหารเลยเหรอไงวะ"
ต้อมไอต่อเนื่อง
ผู้คุม 2 บอก "มึงก็อย่าไปตะคอกมันแรงสิวะ...เดี๋ยวมันตกใจตาย"
ผู้คุม 1 เดินไปดู "ไหวมั้ยวะ"
"ขึ้นศาลคราวนี้ ไอ้ฆาตกรชั่วๆอย่างมึง ไม่ตายก็ตลอดชีวิตละวะ"
"ยา"
"เฮ้อ" แล้วหันไปบอกผู้คุม 2 "ยาอยู่หน้ารถ...โน่น"
ผู้คุม 2 ชะโงกหน้าไปเคาะกระจกเรียกคนขับ
แต่คนขับกลับสวมหูฟังขับรถไม่สนใจ ผู้คุม 2 โมโหเคาะแรงขึ้นจนคนขับหันมามอง
"เฮ้ยมึงเป็นใครวะ"
คนขับยิ้มๆไม่ตอบอะไร แล้วหันเปิดสวิชวิทยุเร่งเสียง
ผู้คุม 1ถาม "แม่งหูหนวกเรอะไงวะ"
พูดไม่ทันขาดคำ ตะแกรงใต้เบาะคนขับก็เกิดควันสีขาวบางๆฉีดลอยคลุ้งขึ้นมา
ควันค่อยๆลอยตัวสูงและหนาขึ้นเรื่อยๆ ผู้คุมทั้งสองตกใจโวยวายทุบประตู ต้อมพยายามดึงกุญแจมืออก
ควันหนาขึ้นจนทั้งสามปวดแสบปวดร้อน ผู้คุม1ไอค่อกแค่กจะตรงไปที่ประตู ต้อมรีบขัดขาไว้จนผู้คุมล้มลง ต้อมพลิกตัวร่วงลงกับพื้นและพยายามฝืนตัวใช้เท้าเขี่ยพวงกุญแจที่เอวผู้คุม 1
ผู้คุม 2 ที่กำลังปวดแสบหันมาเห็นต้อมจึงหยิบกระบองขึ้นมาจะหวดต้อม
ต้อมเกี่ยวพวงกุญแจได้พอดี...หันมาเห็นผู้คุม 2 เงื้อกระบองขึ้นสุดแขน
"เหวอ"
ประตูหลังรถเปิดผลัวะออก! คนขับซึ่งตอนนี้สวมหน้ากากกันแก็สพิษขยับตัวเข้ามาเล็งปืนในมือ...
ฟุบ....ฟุบ ผู้คุม 2 โดนกระสุนร่วงลงไป
ต้อมสำลักหายใจจะขยับตัวหนี ผู้คุม 1 พยายามคว้าขาไว้
คนขับกระโดดขึ้นมายืนบนรถแล้วลั่นไกใส่ผู้คุม 1
ผู้คุม 1 สะดุ้งเฮือกแล้วแน่นิ่งไป
ต้อมมองที่คนขับ สายตาเลือนราง...
ภาพพร่าเลือนนั้น อู๋ชง คนขับถอดหน้ากากออก ไขกุญแจมือและยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ต้อม
ภายในโกดังร้างแห่งหนึ่ง ต้อมสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้น หูตาแดงไปหมด ในมือมีกุญแจล่ามโซ่เส้นยาวคล้องไว้กับโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่มีเครื่องไม้เครื่องและอุปกรณ์สำหรับทำระเบิดเต็มไปหมด กลางโต๊ะเป็นระเบิดที่ประกอบไม่เสร็จอยู่ 2 ตัว
ต้อมพยายามขยับตัวแรงๆเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแต่ก็ไม่สำเร็จ เสียงจากอินเตอร์คอมดังขึ้น
เสียงอู๋ชงบอก
"เป็นไงมั้ง...ไอ้ต้อม...ฟื้นแล้วมันจะมึนๆหน่อยนะ เพราะกูผสมตัวเร่งหนักมือไปซะหน่อย"
ต้อมมองเลิ่กลั่ก
"มึงเป็นใคร"
แต่ถามได้เพียงแค่นี้ ต้อมก็ต้องไอเจ็บจนตัวงออีกครั้ง
ประตูเหล็กเปิดออก อู๋ชงเดินยิ้มเข้ามาพร้อมถาดอลูมิเนียมในมือ โดยมีลูกสมุน 2 คนยืนคุมเชิงที่หน้าประตู
อู๋ชงเดินมาหยุดที่โต๊ะแล้ววางถาดเข็มฉีดยาลง
"มะเร็งปอด...ทรมานมากใช่ไหมละ อันนี้เป็นมอร์ฟีนสูตรพิเศษ...มันช่วยมึงได้"
ต้อมมองเหงื่อแตกอยากได้ ตัดสินใจจะคว้าถาดนั้นมา แต่อู๋ชงไวกว่ารีบเลื่อนถาดให้ห่างออกไป
"แต่ของฟรีไม่มีในโลกหรอก...จริงมั้ย"
ต้อมไม่ตอบ อู๋ชงโบกมือให้ลูกน้องยื่นโรลกระดาษเข้ามา
อู๋ชงดึงกระดาษภายในแล้วคลี่ออก เป็นกระดาษแบบแปลนระเบิดเมคานิกส์กึ่งดิจิตอล
"เซอร์ไพรส์"
"มึง...มึงเจอมันได้ยังไง"
"หึ..หึ...ก็เจ้าหน้าที่บางคนมองงานมาสเตอร์พีซของมึงเป็นแค่เศษเหล็กของพวกเพ้อฝันน่ะซิแค่เงินใต้โต๊ะเล็กน้อย...ทุกอย่างก็ง่ายดายไปหมด"
"แล้วทำไมต้องเป็นกู"
"ก็เพราะมีคนบอกว่า...ระเบิดที่ต้อม ไดนาไมท์ทำไม่มีทางที่จะแก้ไขได้"
"หึ....หึ....หึ ท่าทางมึงจะเสียเงินฟรีซะแล้วล่ะ"
จู่ๆใบหน้าต้อมก็เหยเกด้วยความเจ็บปวดจนหัวเราะไม่ออก
"งั้นมาพิสูจน์กัน ทุกๆสามชั่วโมงกูจะกลับมาดูความคืบหน้าของงาน ซึ่งมันจะเป็นเวลาเดียวกับที่มึงจะได้มอร์ฟีน"
ต้อมมองยาที่วางบนถาด เหงื่อกาฬแตกด้วยความเจ็บปวด
"โอเค ?" อู่ชงตอบเป็นเชิงถาม
ต้อมมองอย่างเจ็บใจแล้วฝืนดึงแปลนกระดาษมาไว้ข้างหน้า อู๋ชงยิ้มอย่างพอใจ
"ดีมาก"
อู๋ชงพยักหน้าให้ลูกน้องฉีดยาเข้าเส้นของต้อม
ต้อมสีหน้าเคลิ้ม ผ่อนคลาย...
อู๋ชงเดินเข้ามาตบไหล่ต้อม
"กูให้เวลาทำงานนี้ให้เสร็จภายใน 36 ชั่วโมง"
ต้อมพยักหน้า
"อีกสามชั่วโมงเจอกัน"
อู๋ชงเดินจากไป ต้อมหยิบชิ้นส่วนอุปกรณ์และเริ่มประกอบตัวระเบิดด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและหวาดกลัวระคนกัน
ภาพจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เห็นว่า ต้อมเริ่มหยิบจับเครื่องมือแล้วทำงาน อู๋ชงลงนั่งเอกเขนกมองอย่างสบายใจ แล้วหยิบสมาร์ทโฟน โทร. ออก
"มันเริ่มทำงานแล้ว...ลื้อโอนเงินงวดแรกให้อั๊วได้เลย"
ออฟฟิศการ์เดี้ยน แป้งนั่งมองกระดาษเอกสารที่กองสูงท่วมโต๊ะ เธอกำลังเซ็งจากตัวแดงในบัญชี
จิมมี่เดินถือไอติมแท่งเข้ามาอย่างอารมณ์ดี
"เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย คุณเลขา หน้างอนเป็นตูดเชียว"
"ใครจะไปอารมณ์ดีเหมือนนายล่ะ"
"แน่นอน...ก็เสน็คโดนเราเก็บแล้ว....เฮ้อ...โล่งใจสุดๆ"
"เหรอ แต่ถ้าเป็นแบบนี้นายก็อดเจอคุณปลายฟ้าน่ะซิ"
จิมมี่เริ่มฮาไม่ออก
"ไม่หรอก พวกเราคงได้เจอเธออีกแน่ๆ"
"หมายความว่าไง"
"เฮ้อ...ก็ปลายฟ้าไปออกข่าวน่ะสิว่า เธอกำลังเตรียมหลักฐานสำคัญแฉพวกทุจริต คอรัปชั่นในงานประชุมครม.สัญจรเดือนหน้าตอนนี้ทั้งสส. สว.แล้วก็พวกนักข่าวตื่นเต้นกันใหญ่"
จิมมี่ท่าทางหนักใจ แป้งมองสองจิตสองใจที่จะถาม
"แล้ว....ทำไมตอนนั้น นายถึงเลือกช่วยฉัน"
จิมมี่นิ่งไปชั่วครู่
"เพราะคุณเป็นหุ้นส่วนของผมไง"
"หรา...งั้นฉันลาออกได้ไหม"
"อ้าวทำไมล่ะ"
แป้งโยนแฟ้มเอกสารให้ดู จิมมี่กำลังอารมณ์ดีหน้าเปลี่ยนสี
"อะไรเนี่ย ? ห้าแสน"
"อือม์....ค่ารถเช่ากับค่ารถยกที่โดนกระสุนจนพรุนเละไปทั้งคัน เซพเฮ้าส์ ค่าอุปกรณ์ติดตัวของหอยแครง แล้วก็...เงินเดือนของชั้นอีกสองเดือน"
จิมมี่ปิดหู
"พอๆๆๆ....ไม่อยากฟัง"
"เฮ้ย ได้ไง ?"
"นั่นดิ....ได้ไง? ทำไมไม่บอกกันก่อน" หอยแครงว่า
จิมมี่กับแป้งตกใจหันไปมอง หอยแครงเดินเข้ามาในออฟฟิศกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับชาโดว์ด้วยความหงุดหหงิด
"ผู้ชายเป็นสิบ แต่เธอคนเดียวเนี่ยนะ" เสียงงซี๊ดซ๊าดของผู้ชายดังขึ้น "เฮ้ยๆๆๆ"
เสียงชาโดว์โวยวาย
"จะโวยวายทำไมเนี่ย....ฉันก็ต้องหาเงิน ต้องกินต้องใช้เหมือนกันนะ"
"เธอก็ทำอยู่การ์เดี้ยนนี่ไง"
"ขืนรอเงินเดือนที่นั่น อดตายกันพอดี" เสียงผู้ชายอู้ววว....อ๊า
"งั้นฉันหาเลี้ยงเธอเอง" หอยแครงบอก
เสียงจากเครื่องสักดังสนั่นกลบเสียงพูดของหอยแครง
ชายร่างใหญ่ร้องครวญครางเจ็บปวดจากการสัก ส่วนชาโดว์ที่กำลังสักไปคุยไปเริ่มหงุดหงิด
"อะไรนะ...อะไรนะ...ไม่ได้ยินเลยแค่นี้ก่อนนะ มีรอต่อคิวอีกเกือบสิบคน"
"หา...หะ...เรียงคิว"
"ต่อคิวเว้ย ไม่ใช่เรียงคิว"
ชาโดว์กดวางสาย
"แล้วจะร้องทำไมเนี่ย ? ตัวใหญ่ยังกะยักษ์ร้องเป็นตุ๊ดไปได้"
ชาโดว์สักต่อ
"โอ้ว"
หอยแครงวางสายด้วยความหงุดหงิดเดินปรี่ไปที่จิมมี่
"เฮีย...เงินเดือนของเดือนที่แล้ว"
"อะ...หา"
จิมมี่ทำเฉไฉรีบคว้ารีโมตทีวีมากดดู
"เฮ้อ....ข่าวสารบ้านเมืองเป็นไงมั่งน้า"
แป้งมองหน้าหอยแครงด้วยความเซ็ง
ทีวีเปิดขึ้นเป็นรายการข่าวสั้นต้นชั่วโมงเห็นภาพข่าวรถฉุกเฉินที่มีโลโก้ 1669 อยู่เบื้องหน้ารถขนนักโทษ โดยที่มีศพผู้คุมฟุบหน้าอยู่บนถนน
นักข่าวสถานีรายงานว่า
"เมื่อบ่ายวานนี้ มีคดีฆาตกรรมชิงตัวนักโทษอย่างอุกอาจบนถนนบางนา-ตราดคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดพร้อมแก็สน้ำตา สังหารผู้คุมแล้วชิงตัวนักโทษคนสำคัญนายไพโรจน์ วังน้อย หรือชื่อที่รู้จักในวงการ ต้อม ไดนาไมท์ หายไประหว่างกำลังจะนำตัวไปขึ้นศาลอย่างไร้ร่องรอย"
ภาพข่าวขึ้นหน้าจอเล็กๆเป็นรูป ต้อม ไดนาไมท์
"ไอ้ต้อม ไดนาไมท์"
ในห้องประกอบระเบิด กองอุปกรณ์ติดตั้งระเบิด ต้อมกำลังตั้งรหัสผ่านวงจรคอมพิวเตอร์ กราฟรหัสกำลังจะถูกจัดเข้าโค้ดตัวเลข
ต้อมมองไปที่กล้องวงจรปิดที่กำลังเฝ้ามองเขาอยู่ เขาเลื่อนไปยังแป้น( มือถือ ) เล็กๆที่ซ่อนไว้ใต้กระดาษแบบแปลนระเบิดแล้วต่อขั้วแบบง่ายๆเข้ากับสลอทซิมการ์ดของมือถืออีกเครื่องหนึ่ง
จิมมี่เดินไปหยิบปืนจากลิ้นชักโต๊ะออกมาเช็คความพร้อม น้าสมานเดินเข้ามาหน้าตาตื่น
"รู้ข่าวเหรอยังวะ ไอ้จิม"
จิมมี่พยักหน้า
"รู้แล้วน้า ชิงตัวไอ้ต้อมกันกลางถนนขนาดนี้ต้องเรื่องใหญ่แน่"
"เดี๋ยวก่อนสิ คนชื่อต้อมคือใครเหรอ"
"มันเป็นนักประดิษฐ์ระเบิดฝีมือดีที่สุดในวงการ เมื่อสองปีที่แล้วทางการต้องการตัวมากที่สุด เพราะสายสืบคนหนึ่งสืบมาได้ว่า มันกำลังจะสร้างระเบิดที่ซับซ้อนจนยากจะเก็บกู้ได้ขึ้นชุดหนึ่ง"
หอยแครงถาม
"แล้วสายสืบคนนั้นก็คือ..."
"เออ...กูเองแหละ" น้าสมานบอก
ในอดีต ... ต้อม ไดนาไมท์กำลังทำระเบิด 2 ชุด สีหน้าเคร่งเครียด
โต๊ะที่ห่างออกไปเป็นมาเฟียคุมตัวสี่คนกำลังเล่นไพ่ดรัมมี่อยู่บนโต๊ะ หนึ่งในนั้นเป็นน้าสมานที่ปลอมตัวมา
กองเงินพนันเริ่มสูงขึ้น ทุกคนเครียดมองวัดใจกัน
น้าสมานพูดจากวนตีนหลอกล่อให้ทุกคนเสียสมาธิ
"ตอนนั้นมีมาเฟียมาว่าจ้างไอ้ต้อมทำระเบิดชนิดที่เขียนโค้ดพิเศษ ตอนแรกมันก็แฮปปี้ที่รับงานมานะ แต่พอมันรู้จุดประสงค์ของคนร้ายก็เลยหาทางชิ่ง"
หอยสงสัย
"มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอน้า"
"ก็เออสิวะ...สังหารผู้นำประเทศ !น่ากลัวไหมล่ะมึง ?"
"แล้วยังไงต่อละน้า"
"ต้อมมันเลยคิดจะถอนตัวโดยการแอบติดต่อตำรวจ แต่ก็ติดตรงที่มาเฟียมันส่งคนมาคอยประกบตลอดเวลา ฉันเลยส่งน้าสมานเข้าไปเป็นสาย"
ต้อมพยักหน้าเบาๆให้น้าสมานแล้วเลื่อนมือลงข้างล่าง ที่ใต้โต๊ะมีมือถือติดเทปกาวเอาไว้ ที่แป้นตัวเลขมีเหล็กเคาะเล็กๆยื่นออกมา
น้าสมานคว้าเก็บไพ่ในกองแล้วตีลงไป
"น่านไง...อะฮ้า เสร็จกู น๊อคตีโง่...โซโล่ซะเลย"
ทั้งวงโวยวายฮือฮา น้าสมานหัวเราะร่า กวนตีนคนโน้นที คนนี้ทีแล้วหันไปมองที่ต้อม
มือของต้อมส่งสัญญาณเป็นรหัสมอสทันที...
ทีมสวาทที่นำโดยจิมมี่ได้รับแมสเสจรหัสมอส “ เริ่มได้ “
จิมมี่พยักหน้าให้ลูกทีมบุกทันที
น้าสมานกำลังรวบเงิน มาเฟียคนหนึ่งลุกขึ้นแล้วผลักน้าสมานอย่างแรงจน ไพ่ที่ซ่อนไว้ร่วงกราว
มาเฟีย 1 บอก"เฮ้ย แม่งโกงนี่หว่า"
มาเฟียอีกคนหันไปคว้าปืนใกล้ๆโต๊ะทำงานของต้อม ก็เห็นต้อมกำลังเคาะรหัสอยู่
มาเฟีย 2 บอก
"พวกมันหักหลังเรา"
มาเฟียเล็งปืนไปที่ต้อม อีกคนเล็งไปที่น้าสมาน
ประตูห้องถูกถีบอย่างพร้อมกับการบุกเข้าจู่โจมโดยหน่วยสวาท
บริเวณหลังประตู แสงไฟจากกระบอกปืนสว่างวาบพร้อมเสียงยิงปะทะกันอย่างดุเดือด!
แป้งรอฟังตื่นเต้น
หอยแครงว่า "แล้วยังไงต่อล่ะ "
จิมมี่บอก
"คนร้ายก็ตายเรียบ น้าสมานกับต้อม ไดนาไมท์ก็ปลอดภัยทั้งคู่ ส่วนของกลางก็ทางตำรวจก็เก็บไว้เพื่อใช้สอบสวนขยายผล"
"อ้าว...แต่จากข่าว ต้อม ไดนาไมท์ก็ถูกจำคุกนี่"
"ก็ใช่สิวะ..คดีแม่งมีเป็นร้อย ไม่ถูกยิงเป้าก็ดีถมถืด"
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของจิมมี่ ก็มีแมสเสจดังขึ้น
จิมมี่หยิบมือถือขึ้นมาดู ก็เห็นเป็น dot ขึ้นเป็นชุดๆ ซึ่งมีระยะห่างต่างกันออกไป
จิมมี่ดูแล้วก็ขมวดคิ้ว “ ช่วยด้วย..ถูกบีบให้ทำระเบิด “
"ไอ้ต้อม.." จิมมี่ยื่นให้หอยดู "ไอ้หอย แกแกะที่มาของสัญญาณที่ส่งรหัสมอสมาได้ไหม"
"อะ...เออ น่าจะได้นะเฮีย"
หอยแครงเชื่อมต่อกับมือถือของจิมมี่
"แต่มันเป็นระบบสัญญาณรุ่นเก่ามาก อาจต้องใช้เวลาซักหน่อย"
ต้อมยังคงแอบส่งสัญญาณมอสออกไปเป็นชุดๆ แล้วจู่ๆก็เกิดอาการปวดหน้าอก เขาหยุดทำงานแล้วเริ่มหอบ ไอแค่กๆ
เพียงชั่วครู่ อู๋ชงเปิดประตูเช้ามาพร้อมยาในถาด
"เป็นไงมั่ง งานคืบหน้าดีใช่ไหม"
"เออ....มันต้องใช้เวลามากกว่านี้"
"ไม่เอาน่า...ครั้งสุดท้ายที่มึงอยู่กับเครื่องนี่ มันก็เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนี่"
"มันนานมาแล้ว"
"แค่สามปีเอง"
"แต่สามปีในคุก มึงไม่รู้หรอกว่ากูต้องเจออะไรมามั่ง"
"หึ กูไม่รู้หรอก แล้วกูก็ไม่สนใจด้วย กูรู้แต่ว่ามึงเหลือเวลีกแค่ ....24 ชั่วโมง"
"กูไม่แน่ใจว่าจะทันไหม"
"งั้นสงสัย กูต้องไปหาตัวกระตุ้นงานมึงซะหน่อย"
"มะ...ไม่....ไม่นะ"
อู๋ชงมองไปรอบๆก็เห็นแปลนกระดาษทับแป้นพิมพ์มือถือเอาไว้ เขาสงสัย...
ต้อมพยายามทำหน้าให้เป็นปกติ
อู๋ชงกระชากกระดาษแปลนออก เป็นแป้นตัวหนังสือเปล่าๆที่ไม่ได้ต่อสายเข้าสัญญาณซิมการ์ด
อู๋ชงมองหาสายเชื่อมต่อรื้อของกระจัดกระจายแล้วมองเห็นมือที่กำแน่นของต้อม
อู๋ชงรวบข้อมือต้อมไว้แล้วบีบเส้นที่ข้อมืออย่างแรงจนต้อมต้องคลายมืออก
ในมือของต้อมเป็นซิมการ์ดที่ถูกบีบจนหัก
"มึงไม่ได้ลักไก่กูใช่ไหม"
ต้อมส่ายหน้า
อู๋ชงคว้าใช้นิ้วโป้งตวัดจี้เข้าไปที่ลูกกระเดือกอย่างรวดเร็ว ต้อมสะดุ้งด้วยความปวด
"อ๊ากส"
"อย่าเล่นตุกติกกับกูเข้าใจมั้ย"
อู๋ชงบีบลูกกระเดือกหนักขึ้น ต้อมร้องลั่นหน้าแดงเหมือนจะหมดอากาศหายใจต้องรีบพยักหน้า
อู๋ชงยิ้มแล้วปล่อยมือ....หันมาสั่งการ์ด 1
"มึงนั่งเฝ้ามัน ถ้ามือทั้งสองข้างไม่ได้ทำงานอยู่บนโต๊ะ ก็หักนิ้วมันได้เลย"
ต้อมจับคอด้วยความปวด
อู๋ชงฉีดยาผ่านสายน้ำเกลือแล้วกระซิบข้างหูต้อม
อู๋ชงยิ้มสะใจ
"มึงเลือกเองนะ"
รถการ์เดี้ยนวิ่งจอดชิดข้างทาง หอยแครงลงมาพร้อมสมาร์ทโฟนแกะสัญญาณ
"สัญญาณหายไปแล้วเฮีย"
"แล้วจะยังไงวะเนี่ย"
"แต่รหัสมอสครั้งสุดท้าย ข้อความมันแปลกๆนะเฮีย"
"ไหน"
จิมมี่มองแมสเสจหน้าจอโทรศัพท์ “ ลิลลี่ “
"ลิลลี่"
"ลิลลี่อะไรอ่ะ" แป้งถาม
"ก็แฟนไอ้ต้อมไง? ชื่อน้องลิลลี่" น้าสมานบอก
"งั้นต้องไปหาตัวลิลลี่ให้เจอ บางทีเราอาจจะแกะรอยไปถึงตัวต้อม ไดนาไมท์ได้" จิมมี่ว่า
"แล้วนายรู้เหรอว่าเธออยู่ไหน"
"รู้แล้วจะหนาว...บรึ๋ยสส" น้าสมานว่า
ป้ายหน้าบาร์สุดเริ่ด...โชว์สะท้านง่ามขา ผ่าถึงไส้ติ่ง !
บรรยากาศวุ่นวาย สาวประเภทสองที่กำลังเตรียมตัวขึ้นโชว์ชุดไฮไลท์ของวัน อยู่ก็ๆมีกระเทยเฒ่าลายครามวิ่งเข้ามาท่าทางกระดี๊กระด๊าสุดๆ
"อีลิลลี่...มีผู้ชายมาหาแก"
ทั้งห้องชะงัก หันมองรวมทั้ง ลิลลี่ กระเทยดาวเด่นนั่งหน้าโต๊ะกระจกหันมองอย่างสงสัย
"ใครอ่ะเจ๊"
"ไม่รู้ ฉันก็เคยเห็นหน้าแต่ว่าหล่อมากเลยมึง"
ทุกคนกรี๊ดกร๊าด
นุ๊กกี้บอก
"ท้องว่างมานานแล้วสิแก...ขอแจมด้วยน่า"
แล้วทุกคนก็บอกให้กระเทยเฒ่าพาเข้ามา ลิลลี่ยังงงไม่ทันตั้งตัว
เพื่อนสาวทั้งดึง ทั้งดันผู้ชายคนหนึ่งเข้ามา เขาถอดหมวกออก
อู๋ชงถาม "คุณลิลลี่ ใช่ไหมครับ"
เหล่ากระเทยยิ้มกรี๊ดกร๊าด ลิลลี่พยักหน้ารับ
"ไปกับผมหน่อยนะครับ"
ทุกคนตะลึง กระเทยเฒ่า วิ่งกลับเข้ามา
"งานเข้าแล้วมึง อีลิลลี่ มีผู้ชายอีกคนมาหาแก....หล่อมากเหมือนกัน"
ทุกคนร้อง "หา !"
จิมมี่กับน้าสมานเปิดประตูเข้ามา
"คุณลิลลี่"
อู๋ชงฉวยโอกาสรวบตัวลิลลี่มากอดไว้
"เฮ้ย..มึง"
"หึ...หึ..จิมมี่ ได้ยินชื่อมึงมานานแล้ว"
อู๋ชงคว้าปืนขึ้นมายิงขึ้นเพดาน...ปัง.ปัง
เสียงของเหล่าสาวประเภทสองกรีดร้อง วิ่งวุ่นวาย พล่านไปทั่วห้อง
ลิลลี่พยายามดิ้น แต่อู๋ชงใช้สันมือฟาดเข้าที่ขมับเธออย่างรวดเร็วจนสลบ
น้าสมานพุ่งเข้ามารวบตัวลิลลี่เอาไว้แล้วพยายามยื้อกับอู๋ชง อู๋ชงใช้ปืนตบน้าสมานกระเด็นแล้วรีบหนีไป
จิมมี่เจอสาวประเภทวิ่งชนไป-มากว่าจะหลบได้ นักวางยาก็หายไปซะแล้ว
จิมมี่วิ่งไปประคองน้าสมาน
"เป็นอะไรมั้ย น้า"
จิมมี่กับน้าสมานวิ่งลงมาสมทบกับแป้งและหอยแครงที่กำลังเสิร์ชหาสัญญาณมือถือของต้อม
"อ้าว...ลิลลี่ล่ะ" แป้งถาม
"อู๋ชงมาถึงก่อนแล้วก็ชิงตัวตัดหน้าไปซะแล้ว" จิมมี่บอก
"อู๋ชง ?"
"เป็นนักฆ่าที่มีหมายจับของตำรวจ ชำนาญเรื่องกดจุดและก็ใช้ยาพิษ"
"แล้วเอาไงต่อดีล่ะ เฮีย" หอยแครงถาม
"ไม่ต้องตกใจไป ฉันจัดการไปแล้วแลกกันการโดนตบนี่ไง"
ทุกคนงง
ก่อนหน้านี้ ตอนที่น้าสมานโผเข้าไปกอดตัวลิลลี่เอาไว้
"ก็กูอาศัยช่วงชุลมุนนั่นแหละเข้าไปกอดน้องลิลลี่เอาไว้แล้วก็แอบเอามือถือใส่ไว้ในกระโปรงหล่อน"
น้าสมานเอามือถือยัดใส่กระโปรงลิลลี่แล้วพยายามทำเป็นยื้อสู้กับนักวางยา จนโดนตบกระเด็นไป....
"โอเครมั้ย" น้าสมาน ลูบแก้มตัวเอง "อูย"
จิมมี่ยิ้มบอก
"เยี่ยมมากครับน้า ที่เอาหนังหน้าเข้าแลก...ไอ้หอย งั้นแกรีบแกะรอยมือถือน้าสมานด่วนเลย"
"จัดไป"
"เรารีบไปช่วยต้อม ไดนาไมท์กันเถอะ"
ทุกคนพยักหน้าแล้วรีบขึ้นรถไป
ต้อมมือสั่นทำเครื่องมือร่วง...
"ยา..."
การ์ด1ที่คุมอยู่มองเห็นแต่ก็ยังไม่ขยับตัว
"มันเลยเวลามานาน.....กูไม่ไหวแล้ว.....ยา"
การ์ด 1 ขยับตัวขึ้นช้าๆอย่างเกียจคร้าน
"เออๆ...อย่าเสือกหัวใจวายก่อนเสร็จงานล่ะ"
การ์ด 1 นำถาดยามาวางแล้วขยับไปหยิบเข็มฉีดยา ปากบ่นพึมพำไปเรื่อย แต่พอหันกลับมา.....
ต้อมซึ่งรออยู่แล้วจ้วงแทงหัวใจของมันด้วยไขควงจนมิดด้าม
"อึ๊กส"
การ์ด1ปล่อยเข็มฉีดยา ต้อมรีบรับไว้แล้วกดมันลงจนสิ้นใจ
เขาเอายาฉีดผ่านสายน้ำเกลือจนอาการปวดเริ่มบรรเทาแล้วใช้ไขควงงัดที่ล็อคกุญแจไว้หลุดออกคว้าปืนที่ซ่อนไว้ตรงเอวของการ์ด 1 แล้วหนีไป
เสียงเตือนภัยดังขึ้น ต้อมหลบหนีพวกการ์ดที่วิ่งวุ่นตามหาคนหลบหนี
การ์ด2บอก
"จับเป็น....งานให้มันยังไม่เสร็จ"
ต้อมหนีจนเกือบมาถึงทางออก การ์ด3 โผล่ออกมาตะครุบจนต้อมล้มลงแล้วลั่นไกปืนเข้าใส่
การ์ด3 ผงะตัวล้มลง ต้อมจะยิงซ้ำ
เสียงอู๋ชงบอก
"วางปืนลง"
ต้อมหันไปมอง อู๋ชงประคองตัวลิลี่ที่ยังมีอาการมึนเอาไว้
"อย่าทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากสิวะ"
อู๋ชงจิ้มนิ้วไปที่จุดไหปลาร้าของลิลลี่ ลิลลี่สะดุ้งด้วยความปวด
"โอ้ยส"
ต้อมสะดุ้ง จี้ปืนไปที่การ์ด3
"ปล่อยตัวลิลลี่ไปซะ ไม่งั้นกูยิงไอ้นี่จริงๆด้วย"
อู๋ชง
"งั้นก็ยิงมันเลยซิ อย่าเสียเวลาขู่"
ต้อมมองที่การ์ด 3 ซึ่งนอนเจ็บอยู่ที่พื้น มันเองก็มองลุ้นอยู่เหมือนกัน
"เอาเลยซิ"
ต้อมกำปืนแน่นการ์ด 3 ส่ายหน้ากลัว.....
ปัง... เลือดจากสมองการ์ด 3 กระจายเต็มพื้น ต้อมหันไปมองอู๋ชงด้วยความตกใจ
อู๋ชงยิ้มสะใจ ควันในกรบอกปืนลอยกรุ่น
"หมดตัวต่อรองแล้ว....งั้นคิวต่อไปก็แฟนมึง"
"ยะ...อย่า"
ต้อมรีบทิ้งปืนแล้วชูมือขึ้น อู๋ชงผลักลิลลี่ให้การ์ด 4 -5 ที่ตามมาทีหลังจับตัวเอาไว้ แล้วตรงเข้าไปอัดต้อม
"มึงแน่นัก ใช่ไหม?"
ต้อมเอาแต่ปัดป้องไม่สู้ อู๋ชงอัดต้อมจนหมวกหลุด
" กูเปลี่ยนใจแล้ว กูให้มึงอีกแค่สามชั่วโมง ทำให้เสร็จ ไม่งั้นกูเชือดเนื้อแฟนมึงออกทีละชิ้นทุกๆสิบนาที เข้าใจมั้ย"
ต้อมพยักหน้า
"เอามันไป"
ต้อมถูกลากตัวไป ...
ต้อมถูกลากกลับมานั่งที่เดิม เขาวางหมวกของอู๋ชงไว้บนโต๊ะ แล้วดึงดินระเบิดซีโฟร์แยกออกเป็นชิ้นเล็กๆ
จิมมี่ แป้ง น้าสมานและหอยแครงตามมาถึงที่โกดัง ทั้งสี่ค่อยๆย่องแอบซ่อนตัวหลังเครื่องจักรขนาดใหญ่
ลิลลี่โดนการ์ดสองคนหิ้วปีกไป
"นั่นมันลิลลี่แฟนของต้อมใช่ไหม" แป้งถาม
"ใช่" จิมมี่บอก
"งั้นเอาไงต่อวะ ไอ้จิม"
"เราต้องแยกกัน แป้งคุณไปกับผม ส่วนหอยแครงกับน้าสมานไปช่วยลิลลี่ ติดต่อกันผ่านบลูทูธ"
"พวกเราแค่สี่คน แยกกันไปจะไหวเรอะ เฮีย" หอยแครงบอก
"เอาน่า อีกแป๊บกำลังเสริมเราก็มาแล้ว"
"ห๊ากำลัง"
"ไป...รีบแยกกันไป"
จิมมี่พูดเสร็จรีบดึงมือแป้งไปทันที ส่วนหอยแครงกับน้าสมานก็รีบตามลิลลี่ไป
ลิลลี่ถูกเอาโยนทิ้งไว้ในห้องเล็กๆแห่งหนึ่ง การ์ดทั้งสองคนมองลิลลี่อย่างมีเลศนัย
การ์ด 4 ถามเพื่อน "มึงเคยลองแบบนี้เรอะเปล่าวะ ?"
การ์ด 5 ถาม "แบบไหน"
"ก็แบบ...อัดถั่วไง"
"เอาจิงดิ"
"สวยๆแบบนี้ หรือมึงไม่อยากลอง"
พวกมันยิ้มให้กัน การ์ด5 ขยับตัวเข้าไปจะถอดผ้าลิลลี่ ลิลี่เข่าเข้าใส่จนมันตัวงอ เธอรีบฉวยโอกาสหนีแต่การ์ด 4 คว้าตัวไว้ได้แล้วต่อยลิลลี่จนล้มลง แต่เสียงจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น มันควานหาจนเจอมือถือในกระโปรงของลิลลี่
"อะไรวะ"
มันหยิบขึ้นแล้วกดรับ แสงไฟแฟลชวาบสว่างจ้าไปทั่วห้อง
การ์ดทั้งสองคน"อ๊ากส"
การ์ดทั้งคู่ล้มลงแสบตา น้าสมานกับหอยแครงรีบวิ่งเข้ามาช่วยลิลลี่
"เป็นไงมั้งล่ะ แอพระเบิดแฟลชของผม"
"เออ....เก่ง...ก่ง...รีบช่วยกันจัดการไอ้สองตัวก่อนซิเว้ย"
แล้วทั้งคู่ก็ถีบประตูเข้าไปช่วยลิลลี่ทันที
อ่านต่อตอนที่ 11