การ์เดี้ยน หักเหลี่ยมมัจจุราช ตอน 8
ปลายฟ้ายังคงนอนอยู่บนเตียงเหมือนเช่นทุกวัน..
พยาบาลคนหนึ่งเข้ามาตรวจเช็คดูเธอและเครื่องวัดชีพจรต่างๆ จู่ๆมือของปลายฟ้าก็ห้อยตกลงมานอกเตียง พยาบาลจึงจับมือเธอมาวางไว้บนเตียงตามเดิม แต่ทันใดนั้นเอง..มือของปลายฟ้าก็ขยับมาจับมือพยาบาลไว้ ส่วนตัวปลายฟ้าเองก็ค่อยๆเริ่มลืมตาขึ้นมา
"คุณหมอคะ คนไข้ฟื้นแล้วค่ะๆ"
แป้งรีบเข้ามาในห้องโถงโรงพยาบาล เห็นนักข่าวเจ้าหนึ่งกำลังทำข่าวอยู่ ยังมีนักข่าวอีกหลายเจ้ารออยู่เช่นกัน
"ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์จริงๆค่ะ เมื่อนางสาวปลายฟ้า ศรีสุวรรณ สส.ชื่อดังที่เคยถูกลอบยิงเมื่อปีที่แล้วจนอาการโคม่ากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามานาน แต่วันนี้เธอได้ฟื้นขึ้นมาแล้วค่ะ ขณะนี้ทางแพทย์กำลังตรวจร่างกายเธออยู่ อ๊ะ เธอออกมาจากห้องกายภาพบำบัดแล้วค่ะ" นักข่าวรายงานสด
หมอและพยาบาลเดินนำปลายฟ้าออกมาจากห้องหนึ่งแล้ว จิมมี่ ชาโดว์ น้าสมานตามมาอยู่ห่างๆ เมื่อพวกนักข่าวเห็นปลายฟ้าก็รุมกันเข้าไปทำข่าว รัวยิงแสงแฟลชใส่เธอกันวุ่นวาย
พวกนักข่าวถาม
"คุณปลายฟ้าคะ... คุณปลายฟ้าๆ... รู้สึกยังไงมั่งคะ... อาการปกติรึยังครับ... ยังจำเรื่องในอดีตได้ไหมครับ... คุณปลายฟ้าๆๆๆ"
ปลายฟ้าเห็นแสงแฟลชรัวๆแล้วก็นึกถึงอดีต เห็นประกายไฟรัวๆจากปากกระบอกปืนของพวกนักฆ่าที่รัวยิงใส่เธอ แล้วปลายฟ้าก็เริ่มปวดหัวและวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที จิมมี่และพวกหมอเข้ามายืนกันพวกนักข่าวไม่ให้ตามไป
ปลายฟ้าหนีเข้ามาในห้องน้ำรวมและล็อกประตู
ภาพหลอนจากอดีต ภาพพวกนักฆ่าบุกเข้ามาฆ่าเธอ ประกายไฟจากกระบอกปืนนัดแล้วนัดเล่า ภาพกระสุนพุ่งทะลุร่างเธอ และภาพสเน๊คที่เป็นคนยิงเธอ
ปลายฟ้าล้มลงมานั่งกุมหัวอยู่บนพื้นห้องน้ำ เธอได้แต่หวาดกลัวตัวสั่น ทันใดนั้นก็มีเสียงดังกุกกักออกมาจากในห้องน้ำย่อยห้องหนึ่ง แล้วประตูห้องน้ำย่อยก็ค่อยๆแง้มเปิดเสียงดังน่ากลัว ใครคนหนึ่งออกมาจากห้องน้ำย่อย..ร่างของสเน๊ค ปลายฟ้ากรีดร้องเสียงดัง
สักพักชาโดว์ก็ถีบประตูห้องน้ำเข้ามา พร้อมกับแป้ง ทั้งคู่เห็นปลายฟ้าอยู่บนพื้น ส่วนคนที่อยู่หน้าห้องน้ำย่อย เป็นเพียงป้าแก่ๆที่มาเข้าห้องน้ำเฉยๆ
"ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ อยู่ๆแม่หนูคนนี้ก็กรี๊ดขึ้นมาเอง ยังกะคนเสียสติแน่ะ"
"ปลายฟ้าๆ นี่ชาโดว์นะ ไม่เป็นไรแล้วๆ"
ชาโดว์กับแป้งช่วยกันพยุงปลายฟ้าลุกขึ้นและกำลังจะออกจากห้องน้ำ แต่แล้วจู่ๆทั้งชาโดว์และปลายฟ้าก็ตะลึงหยุดนิ่ง ที่หน้าประตูห้องน้ำตอนนี้มีกระสุนวางตั้งอยู่ลูกหนึ่ง...กระสุนเตือนจากสเน๊ค
ชาโดว์รู้ทันที "สเน๊ค !"
ณ บ้านกลางทุ่งหลังหนึ่ง หน้าบ้านมีรถจอดอยู่สองคัน จิมมี่เดินออกจากบ้านมาสูดอากาศ
"ไง ชาโดว์ เจออะไรน่าสงสัยไหม"
หน้าต่างบ้านใกล้ๆตัวจิมมี่มีปืนสไนเปอร์ตั้งแอบอยู่ ชาโดว์นั่งส่องกล้องดูเหตุการณ์รอบๆอยู่ในบ้าน
"ไม่มี ทุกอย่างเคลียร์"
จิมมี่พูดใส่หูฟังติดต่อน้าสมาน
"แล้วน้าหมานล่ะ"
ในทุ่ง เห็นบ้านหลังเดิมอยู่ไกลๆ น้าสมานในชุดชาวสวนกำลังขุดดินเล่นๆพร้อมมองรอบๆตัว
"กลิ่นปุ๋ยแรงไปหน่อย มดก็เยอะชิบหาย แต่นอกนั้นเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา"
"โอเค"
จิมมี่บิดขี้เกียจนิดหน่อยก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน
ภายในบ้าน หอยแครงตั้งจอมอนิเตอร์ฉายภาพจากกล้องวงจรปิดรอบๆทุ่ง 6 มุม
"ไม่ต้องห่วงน่าเฮีย นี่ผมก็ติดกล้องไว้รอบๆแถวนี้หมดแล้ว เลิกกังวลได้แล้วครับ"
"ไม่กังวลไม่ได้หรอก เจ้าสเน๊คมันร้ายกาจแค่ไหนแกก็รู้"
"แต่นี่เราก็หนีมาซ่อนตัวตั้งไกลขนาดนี้แล้ว รถก็เปลี่ยนใหม่หมด โทรศัพท์ก็เข้าสัญญาณไม่ให้ใครตามรอยได้ แถมยังงดกิจกรรมออนไลน์ทุกอย่าง ต่อให้สเน๊คเก่งแค่ไหนมันก็ตามเราไม่เจอหรอกครับ"
"ถ้าเป็นยังงั้นได้ก็ดี"
จิมมี่เดินต่อไปยังห้องนอนห้องหนึ่ง
จิมมี่เปิดประตูเข้ามา เห็นปลายฟ้านั่งอยู่บนเตียง
"อ้าวคุณฟ้า ทำไมไม่นอนพักอีกซักหน่อยล่ะครับ"
"ฉันนอนพักมานานเกินไปแล้วล่ะ เป็นปีแล้วใช่ไหมล่ะ ฉันว่าฉันนอนพอแล้วล่ะ"
"อืม ก็จริง ลุกขึ้นมาออกกำลังซะบ้างก็ดี หุ่นเหิ่นเสียหมดแล้วเนี่ย ไม่เซียะแล้ว"
"หึ นายนี่มันยังกวนประสาทเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย"
ปลายฟ้ายิ้มออกมาได้นิดหน่อย แต่แล้วก็กลับมาซีเรียสอีกครั้ง
"นักฆ่าที่ยิงฉันมันชื่ออะไรนะ"
จิมมี่มองหน้าปลายฟ้าสักพักก่อนจะเลี่ยงๆตอบไป
"เรื่องไร้สาระน่า ช่างมันเถอะ อย่าไปสนใจเลย"
"จิมมี่ นายก็รู้ว่าฉันเกลียดการปิดบังความจริงที่สุด"
ปลายฟ้าจริงจังมาก จนจิมมี่ต้องยอมโดยดี
จิมมี่ถอนหายใจ
"มันมีโค้ดเนมว่า สเน๊ค พิษสงแพรวพราวรอบตัวเหมือนงูพิษสมชื่อ เคยเป็นทหารรับจ้างตะวันออกกลาง เชี่ยวชาญการลอบสังหารทั้งการซุ่มยิงและการต่อสู้ประชิดตัว ว่ากันว่าเป็นนักฆ่าฝีมือดีที่สุดในวงการตอนนี้"
ปลายฟ้าฟังไปก็เริ่มกลัว มือจิกผ้าห่มแน่น จิมมี่เห็นแล้วก็เข้ามานั่งข้างๆเธอ จับมือเธอไว้
"ถ้าคุณไม่แน่ใจ...ผมจะบอกให้พ่อนำทีมคุ้มกันมา"
"ไม่...ไม่...ตั้งแต่เกิดเรื่องฉันไม่เชื่อใจใครอีกแล้ว ยกเว้นนาย"
"งั้นก็ไม่ต้องกลัว ผมจะไม่ยอมให้มันทำอะไรคุณได้อีกแล้ว เชื่อผมเถอะ"
ปลายฟ้ามองหน้าอันมุ่งมั่นของจิมมี่ สักพักแววความกลัวในหน้าเธอก็ค่อยๆหายไป
"ค่ะ"
ทันใดนั้น แป้งก็เปิดประตูเข้ามาพอดี เห็นจิมมี่กำลังจับมือและมองตาปลายฟ้าอยู่ก็อึ้งเล็กน้อย จิมมี่เห็นแป้งเข้ามาก็เลยค่อยๆปล่อยมือจากปลายฟ้า
"เอ่อ ขอโทษค่ะ ฉันแค่จะเอาข้าวมาให้คุณปลายฟ้าน่ะค่ะ"
แป้งค่อยๆยกจานข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวเข้ามาให้ปลายฟ้าจานหนึ่ง แล้วอีกจานก็ให้จิมมี่
"อ้ะ นี่ของนาย"
"โห ข้าวสิ้นคิดอีกละ กะเพราไข่ดาว ทำอย่างอื่นไม่เป็นรึไง"
"มีอะไรก็กินๆไปเถอะน่า อย่าบ่นเลย"
ปลายฟ้ามองเห็นข้าวในจานเธอมีผักกะเพราเยอะ แต่จานจิมมี่กลับแทบไม่ค่อยมีกะเพราเลย
"เอ๋ ทำไมของจิมมี่ไม่ค่อยมีกะเพราเลยล่ะ" ปลายฟ้าถาม
"อ๋อ นายนี่เขาชอบยังงี้แหละค่ะ เน้นเนื้อๆไม่เน้นผัก ไข่ดาวก็ต้องดิบๆเวลากินก็ต้องเจาะเอาน้ำไข่แดงมาคลุกข้าวก่อน"
ปลายฟ้าเห็นจิมมี่ทำตามที่แป้งพูดทุกอย่าง
"เรื่องเจาะไข่แดงนี่ใครไม่ชอบมั่งล่ะ" จิมมี่ว่า
"ทะลึ่งละ เดี๋ยวเถอะ"
"อ้าว ผมพูดถึงไข่ดาวนี่ คุณน่ะคิดไปถึงไหนเองล่ะปัทโธ่"
ปลายฟ้ามองท่าทีแป้งและจิมมี่อย่างสงสัยอะไรบางอย่าง แป้งเองก็สังเกตเห็น
"เอ่อ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ"
แล้วแป้งก็ออกจากห้องไป
"คุณแป้งนี่ เขาเป็นแฟนนายเหรอ" ปลายฟ้าถาม
จิมมี่แทบสำลักข้าว แป้งที่อยู่นอกห้องก็ได้ยินด้วย จึงยังยืนรออยู่ตรงนั้น
"แค่กๆๆ เอ่อ เปล่า ไม่ใช่ แค่เพื่อนร่วมงานน่ะ"
"แต่พวกนายดูสนิทกันเกินกว่านั้นนะ แน่ใจเหรอว่าไม่มีอะไร" ปลายฟ้าถามย้ำ
"เอ่อ อืม ไม่มีหรอก"
แป้งที่แอบฟังอยู่นอกห้องได้แต่ซึมเล็กน้อย
ปลายฟ้าถาม
"แล้วช่วงที่ผ่านมา นายไม่ได้คบใครมั่งเลยเหรอ"
"หึ ไม่มีหรอก สาวที่ไหนเขาจะมาสนใจคนจนๆอย่างผม"
ปลายฟ้านิ่งไปสักพัก ก่อนจะเริ่มพูดอีกครั้ง
"คุณหมอที่โรงพยาบาลเขาเล่าให้ฟังว่า คุณชอบไปเยี่ยมฉันอยู่บ่อยๆ ชอบไปคุยไปเล่าเรื่องต่างๆให้ฉันฟัง ทั้งๆที่ฉันนอนไม่มีสติอยู่เป็นปี ขอบคุณนะที่ไม่ลืมฉัน"
ปลายฟ้ายื่นมือมาแตะมือจิมมี่นิดหน่อย
"ไม่เป็นไรผมยินดี"
แป้งฟังแล้วรู้สึกจี๊ดๆนิดหน่อย จึงเดินหนีออกมา
แป้งเดินกลับมาในห้องรวม เห็นพวกชาโดว์ หอยแครง และน้าสมานกินข้าวกันเพิ่งเสร็จ แป้งนั่งลงหน้าจานข้าวของเธอ แล้วเธอก็นิ่งไม่แตะข้าวหรือทำอะไรเลย
หอยแครงถาม
"อ้าว แป้ง เป็นอะไรน่ะ ไม่กินข้าวเหรอ"
"หือ อื้อ เดี๋ยวกิน"
"อะแฮ่มๆ โอ้ย หิวแอลกอฮอล์เว้ย หนูแป้งจ๊ะ ขอเงินสดหน่อยสิ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อเสบียงมาตุนเพิ่มซะหน่อย" น้าสมานบอก
"งั้นเดี๋ยวหนูไปด้วยค่ะ"
แล้วแป้งก็ลุกขึ้นเตรียมออกไปเลย น้าสมานเลยต้องลุกตามออกไป
"อ้อ โอเค"
"อ้าว แป้ง ไม่กินข้าวก่อนเหรอ แป้ง จะรีบไปไหนเนี่ย" หอยแครงถาม
ชาโดว์หันไปมองทางห้องนอนของปลายฟ้านิดหน่อย แล้วก็ทำหน้าเหมือนจะเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด
น้าสมานขับรถเข้ามาจอดแถวๆร้านค้าแห่งหนึ่งและลงรถมาแล้ว แต่แป้งยังคงนั่งนิ่งเหม่อๆบนรถเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
"แป้งๆๆ" สมานเรียก
"คะ" แป้งเพิ่งออกจากภวังค์
"เป็นอะไรไปเนี่ย นั่งนิ่งเป็นลิงหงอยอยู่ได้ ถึงตั้งนานแล้วเนี่ย"
"อ้าว ค่ะ" แป้งบอกพลางลงรถมา
น้าสมานมองแป้งเหมือนรู้ทัน
"ถามจริง งอนไอ้จิมมี่ใช่ไหม ที่มันไปสวีทกับคุณปลายฟ้าน่ะ"
"เอ๋ เปล่า งอนอะไร บ้า น้าก็พูดไปเรื่อย"
"หึ เบื่อไอ้พวกปากแข็งจริงๆเว้ย ไม่งอนๆ แต่นั่งซึมเล่น MV มาได้แปดเพลงแล้วมั้งเนี่ย"
"หนูก็แค่...คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก"
น้าสมานนิ่งไปสักพัก ก่อนจะนึกคำปลอบได้
"เอาน่า เรื่องปลายฟ้าน่ะเป็นแผลในใจไอ้จิมมี่มานานแล้ว ให้เวลามันหน่อยเถอะ เดี๋ยวอะไรๆก็คงชัดเจนขึ้นเองแหละ"
แป้งเริ่มทำหน้าเข้าใจมากขึ้น
"ไป ไปซื้อของกันเถอะเขาว่าผู้หญิงถ้าได้ช็อปปิ้งแล้วจะอารมณ์ดีขึ้นใช่มะ"
แป้งเริ่มยิ้มออก ว่าแล้วน้าสมานก็เดินนำไปทางร้านค้า แป้งเดินตามไป แต่เผอิญไปเห็นร้านชุดชั้นในผู้หญิงเข้าซะก่อน
"จริงสิ คุณปลายฟ้ายังไม่ค่อยมีเสื้อผ้านี่นา"
แล้วเธอก็เดินเข้าร้านชุดชั้นในไป
ในหลายๆร้าน แป้งหยิบชุดชั้นในบ้าง เสื้อผ้าผู้หญิงบ้าง ผ้าอนามัยบ้าง แป้งถือถุงของมากมาย เดินผ่านร้านเครื่องสำอางมีชื่อแห่งหนึ่ง หยุดดูแป้งทาหน้า
"อืม คุณปลายฟ้าจะใช้แป้งแบบนี้ไหมน่ะ"
น้าสมานขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน ขนาบกับรถอีกคัน ท้ายรถหันออกไปทางถนนหน้าบ้าน แล้วน้ากับแป้งก็ลงจากรถมา
"เอ้า เสบียงมาแล้ว ไอ้หอยแครง มาช่วยกันยกของหน่อยเว้ย" น้าสมานบอก
หอยแครงออกจากบ้านมาบอก
"โห.....ว่าแล้วหายไปตั้งหลายชั่วโมง....ของกินเพียบ"
ส่วนแป้งก็ถือถุงของที่เธอซื้อมาเข้าบ้านไป
จิมมี่ ปลายฟ้า ชาโดว์ อยู่ในห้องรวม แป้งเอาของต่างๆมาให้ปลายฟ้า
"คุณปลายฟ้าคะ ฉันซื้อพวกเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวมาฝากน่ะค่ะ ลองดูนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ"
แต่แล้วจู่ๆจอมอนิเตอร์ที่ฉายภาพจากกล้องวงจรปิด 6 มุมก็เหมือนสัญญาณขาดภาพหายไป แป้งเห็นเข้าพอดี
"เอ๋ ทำไมอยู่ๆจอมันดับไปล่ะเนี่ย"
จิมมี่รีบเข้ามาดูจอ ลองกดปุ่มต่างๆดูภาพก็ไม่มา สักพักก็ทำหน้าซีเรียส
"แย่แล้ว"
จิมมี่รีบหันไปตะโกนบอกคนนอกบ้าน
"อันตราย ทุกคนรีบเข้ามาในบ้านเร็ว"
น้าสมานยังงงๆอยู่ หอยแครงที่กำลังยกแพ็คขวดน้ำอยู่ท้ายรถก็งงๆเช่นกัน
แต่แล้วจู่ๆก็มีเสียงกระสุนยิงทะลุแพ็คขวดน้ำ เห็นน้ำไหลทะลักออกจากขวดน้ำเป็นสาย ก่อนที่แพ็คขวดน้ำจะหล่นลงจากมือหอยแครง หอยแครงโดนยิงเข้าที่ท้องเลือดเริ่มออก แล้วเขาก็นอนลงไปกองกับพื้นตรงท้ายรถ
"อ๊าก"
"ไอ้หอย"
"น้า หลบเร็ว"
น้าสมานรีบพุ่งไปหลบอยู่หลังกระโปรงหน้ารถ ก่อนที่จะมีกระสุนพุ่งมาโดนตรงที่เคยยืนพอดี
"อ๊าก โอ๊ย"
ชาโดว์ร้องตะโกน "ไอ้หอย"
หอยแครงยังนอนเจ็บร้องระงม ชาโดว์เห็นแล้วจะพุ่งออกจากบ้านไปช่วย แต่จิมมี่ก็รีบคว้าตัวเธอไว้ได้ซะก่อนที่เธอจะออกไป เห็นกระสุนเฉี่ยวประตูบ้านเกือบโดนเธอไปนิดเดียว
"ใจเย็นๆก่อนชาโดว์ มันกำลังรอส่องเราอยู่นะ"
"แต่ว่าหอยแครงยังนอนเจ็บอยู่นั่นนะ"
"ใจเย็นๆ รอดูสถานการณ์ก่อน"
ปลายฟ้าได้แต่ก้มตัวหลบอยู่ในบ้านอย่างตัวสั่นเทา แป้งต้องเข้ามากอดปลอบเธอไว้
จิมมี่หยิบกระจกเล็กๆมาบานนึง ค่อยๆยื่นมันออกไปที่ประตูหน้าบ้านเพื่อส่องดูภายนอก เห็นหอยแครงนอนเจ็บอยู่ที่ท้ายรถ จิมมี่เปลี่ยนมุมส่องไปดูทางท้องทุ่งไกลๆ จู่ๆก็เห็นจุดประกายไฟปืนเล็กๆมาจากต้นไม้ต้นหนึ่งไกลๆ แล้วกระจกในมือจิมมี่ก็แตกเป็นเสี่ยงๆไป
"ฮึ่ม ร้ายมาก ระยะทางเป็นกิโลยังยิงแม่นขนาดนี้ ไอ้สเน๊ค"
จากเครื่องตัดสัญญาณกล้องวงจรปิด ภาพร่างสเน๊คเห็นเต็มๆครั้งแรก กำลังนอนส่องปืนเล็งอย่างเชี่ยวชาญและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ในกล้องส่องปืน เห็นศูนย์กลางเล็งมาที่ประตูบ้านอยู่ แต่เห็นแว๊บๆว่าน้าสมานค่อยๆโผล่หัวออกมาดูจากหน้ากระโปรงรถ ศูนย์กลางจึงเปลี่ยนมาเล็งที่หน้ารถและยิงออกไป
น้าสมานรีบชักหัวกลับเข้าหลังรถทันก่อนที่กระสุนจะพุ่งโดนรถเฉียดหัวเขาไปนิดเดียว
จิมมี่บอก "น้า หลบไปก่อน อย่าเพิ่งโผล่มา"
"โอ๊ย ช่วยด้วยๆ" หอยแครงครวญคราง
"ปล่อยนะจิมมี่ ฉันจะออกไปช่วยไอ้หอย"
"ใจเย็นๆสิชาโดว์ เจ้านั่นมันตั้งใจยิงไอ้หอยเพื่อจะล่อให้พวกเราออกไป ดูสิ มันไม่ได้ยิงไอ้หอยซ้ำเลยใช่มะ แผลไอ้หอยน่ะไม่เข้าจุดตายหรอก มันแค่อยากให้มีคนเจ็บเพื่อล่อให้เราออกไปช่วยเท่านั้น"
"แต่ขืนปล่อยไว้ยังงี้ ไอ้หอยก็เลือดไหลหมดตัวตายพอดีน่ะสิ"
"ใช่ เพราะงั้นเราถึงต้องวางแผนดึงความสนใจมันยังไงล่ะ"
สเน๊คกำลังส่องปืนดูอย่างใจเย็นภาพในกล้องส่องปืนไม่มีการเคลื่อนไหวของพวกจิมมี่มาสักพักแล้ว
"หึ...หึ จะปล่อยให้เพื่อนแกตายจริงๆเหรอ ไอ้จิมมี่"
แต่แล้วจู่ๆก็มีเสียงกระจกแตก สเน๊ครีบหันปืนจากหน้าประตูบ้านส่องไปทางข้างๆบ้าน เห็นกระจกหน้าต่างแตก และเห็นจิมมี่ที่วิ่งออกจากหน้าต่างไปทางทุ่งหญ้าได้สักพักแล้ว สเน๊คจึงรีบเหนี่ยวไกยิงใส่จิมมี่
จิมมี่รีบวิ่งอย่างเร็วและโดดพุ่งเข้ามาหลบอยู่หลังเนินดินแถวนั้นได้เฉียดฉิว กระสุนจึงโดนแค่เนินดิน
แล้วจู่ๆก็มีเสียงสตาร์ทรถ สเน๊ครีบหันปืนกลับไปส่องทางหน้าบ้าน เห็นน้าสมานกำลังถอยรถอีกคัน ถอยมาและหักเลี้ยวให้รถบังร่างหอยแครงและประตูหน้าบ้านไว้ สเน๊ครีบยิงเข้าใส่รถคันนั้นจนน้าสมานต้องก้มหัวหลบอยู่ในรถ
และแล้วจู่ๆก็มีกระสุนพุ่งเข้ามาโดนใบไม้หรือกิ่งไม้ใกล้ๆสเน๊ค สเน๊ครีบส่องปืนมองหาต้นทางกระสุนนั้น ก็พบว่าชาโดว์นั่นเองที่ยิงมาจากหน้าต่างข้างๆบ้านที่แตกสเน๊คจึงยิงเข้าใส่หน้าต่างนั่น ชาโดว์รีบซุ่มหลบ
มีเสียงปืนดังขึ้นอีก จิมมี่นั่นเองที่วิ่งออกมาจากเนินดินและยิงใส่สเน๊ค แต่กระสุนยังห่างตัวสเน๊คมากกว่าชาโดว์อีก สเน๊คก็หันปืนมาไล่ยิงจิมมี่ แต่จิมมี่ก็พุ่งตัวไปหลบหลังเนินดินอีกที่ได้อีก
มีกระสุนเข้าใกล้ตัวสเน๊คอีกแล้ว ชาโดว์ที่ออกมาซุ่มยิงอยู่หลังเนินดินหน้าบ้านแล้ว สเน๊คจึงยิงใส่ทางชาโดว์อีก สลับกับยิงใส่จิมมี่ที่วิ่งๆหลบๆและยิงใส่สเน๊คไปเรื่อยๆ ชาโดว์ก็ค่อยๆวิ่งสลับกับจิมมี่ย่นระยะทางเข้าหาสเน๊คขึ้นเรื่อยๆ
น้าสมานที่ยังอยู่ในรถ
"ตอนนี้แหละ มาเลย"
แล้วแป้งกับปลายฟ้าก็วิ่งออกจากบ้านมา ทั้งสองสาวช่วยกันแบกหอยแครงขึ้นรถจนได้ แล้วน้าสมานก็รีบขับรถออกไปทันที
สเน๊คหันไปยิงใส่รถคันนั้นบ้าง แต่แล้วก็มีกระสุนเข้ามาโดนกิ่งไม้ที่เขาซุ่มตัวอยู่ ชาโดว์ซุ่มอยู่ยิงเข้ามาอีกนัด กระสุนเข้าใกล้ตัวสเน๊คมากๆแล้วจนเขาต้องเริ่มขยับหลบหลังต้นไม้
"ฮึ่ม ฝากไว้ก่อนเถอะ"
แล้วสเน๊คก็โดดลงจากต้นไม้ไป
ในบรรยากาศเร่งรีบตอนกลางคืน .....พยาบาลกำลังเข็นเตียงหอยแครงพร้อมปฐมพยาบาลเขาไปเข้าห้องผ่าตัด พวกน้าสมานและแป้งวิ่งตามมาด้วย
"ไม่เป็นไรแล้วไอ้หอย ถึงมือหมอแล้ว แกต้องปลอดภัยนะ อย่ามาตายก่อนกูนะโว๊ย"
แล้วหอยแครงก็เข้าห้องผ่าตัดไป คนอื่นๆรออยู่ข้างนอก มีพยาบาลเข้ามาคุยด้วย
"คนไข้ถูกยิงมาแบบนี้ ทางเราต้องแจ้งตำรวจนะคะ"
"ผมนี่แหละครับตำรวจ" น้าสมานโชว์ตราตำรวจปลอมให้ดู "เดี๋ยวเรื่องทะเบียนผมจัดการเองครับ"
"ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ"
น้าสมานออกไปกับพยาบาล เหลือแค่แป้งกับปลายฟ้า ปลายฟ้ายังกลัวๆอยู่
"หอย... หอยแครงเขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม" ปลายฟ้าถาม
"ไม่ต้องห่วงนะคะ จิมมี่ก็บอกแล้วว่าแผลไม่เข้าจุดตาย ยังไงๆหอยแครงก็ต้องรอดค่ะ" แป้งบอก
"ฉัน... ฉันกลัว ทำไมมันจะต้องมาตามจองล้างจองผลาญฉันด้วย"
"ใจเย็นๆนะคะคุณปลายฟ้า ไม่ต้องกลัวนะคะ"
แล้วจู่ๆจิมมี่กับชาโดว์ก็วิ่งเข้ามาสมทบ
"ปลายฟ้า"
"จิมมี่"
ปลายฟ้าโผเข้าไปกอดจิมมี่
ชาโดว์ถาม
"หอยแครงล่ะ หอยแครงเป็นไงมั่ง"
แป้งบอก
"เข้าห้องผ่าตัดไปแล้วค่ะ"
สักพักน้าสมานก็เข้ามา
"จิมมี่ เราให้ปลายฟ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้นะ เดี๋ยวไอ้สเน๊คต้องตามรอยมาเจอที่นี่แน่"
จิมมี่บอก
"อืม ผมรู้แล้ว"
"ว่าแต่ไอ้สเน๊คมันตามมาถึงเซฟเฮาส์เราได้ยังไง ก็เราป้องกันการติดตามทุกทางแล้วไม่ใช่เหรอ" ชาโดว์ว่า
"น้าหมาน แป้ง ตอนออกไปซื้อของมีอะไรน่าสงสัยรึเปล่า"
"เอ ก็ไม่มีอะไรนะ ทุกอย่างก็ดูปกติดี"
แป้งนิ่งคิดอยู่สักพักแล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
"อ๊ะ"
จิมมี่ถาม
"มีอะไรเหรอแป้ง"
"ตอนฉันซื้อเครื่องสำอางให้ปลายฟ้า ฉันใช้เมมเบอร์ชื่อฉันลดราคาไปด้วย เพราะยังงี้รึเปล่าสเน๊คถึงตามรอยเราได้"
น้าสมานได้แต่ทำหน้าเสียใจแทนแป้ง ส่วนจิมมี่ดูโกรธมาก
"นี่คุณ ทำไมถึงสะเพร่ายังงี้เนี่ย ก็รู้อยู่แล้วว่าศัตรูเรามันร้ายกาจแค่ไหน ทำไมถึงไม่คิดให้รอบคอบ ทำไมถึงประมาทยังงี้ห๊ะ"
แป้งได้แต่อึ้งและเสียใจ
"รู้รึเปล่าว่าความสะเพร่าของคุณมันส่งผลร้ายแรงแค่ไหน ที่หอยแครงต้องโดนยิงเกือบตายแบบนี้ก็เพราะคุณเลยนะ เข้าใจไหม"
"ไอ้จิม พอเถอะ"
"ฉัน... ฉันขอโทษค่ะ"
แป้งเสียใจจนน้ำตาร่วงและวิ่งออกไปจากตรงนั้น
"ไอ้จิม แกก็พูดแรงไป หนูแป้งเขาไม่ใช่มืออาชีพอย่างเรานะ"
จิมมี่ได้แต่ถอนหายใจ
"เอาเป็นว่าคืนนี้เราไปหาเซฟเฮาส์ที่ใหม่ก่อน แล้วค่อยว่ากัน" น้าสมานบอก
"ฉันขออยู่เฝ้าไอ้หอยล่ะกัน เผื่อไอ้สเน๊คมาที่นี่" ชาโดว์บอก
"อืม... ได้"
"จิมมี่ ข้าขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ"
น้าสมานท่าทางจริงจังมาก
จิมมี่กับน้าสมานมาแอบคุยกันอยู่สองคน
"ไอ้จิม ข้าว่าการหนีไปเรื่อยๆยังงี้ไม่ใช่การแก้ปัญหานะ"
"น้าหมายความว่าไง"
"ข้าว่า เราน่าจะตั้งหลักสู้กับไอ้สเน๊คมันซักตั้ง จบๆเรื่องนี้ไปซะเลย"
จิมมี่ได้แต่ส่ายหัว
"ไม่ๆ ทำยังงั้นมันจะเป็นอันตรายกับปลายฟ้าเกินไป ผมไม่อยากให้เธอต้องมาเป็นอะไรอีกแล้ว"
"แล้วแกคิดว่าการที่เธอต้องมาหลบๆซ่อนๆยังงี้มันมีความสุขเหรอวะ เธอจะอยู่ยังงี้ไปได้ถึงเมื่อไหร่ ชีวิตเธอจะไม่ทำอะไรเลยนอกจากหนีไปเรื่อยๆยังงี้เหรอ เชื่อข้าเถอะ เราต้องจบเรื่องนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด"
จิมมี่ได้แต่คิดตามอย่างเคร่งเครียด
คืนนั้น สเน็คกำลังขับรถอยู่ พร้อมทั้งดูคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่ข้างๆ หน้าจอกำลังเสิร์ชข้อมูลสักพักจนสำเร็จแล้วแสดงผลออกมา เป็นทะเบียนคนไข้พร้อมรูปของหอยแครง ชัดเจนว่าอยู่โรงพยาบาลไหน สเน๊คยิ้มและรีบเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว
สเน๊คเดินอย่างระมัดระวังเข้ามาในโรงพยาบาล และตรงไปที่เคาน์เตอร์
"ขอโทษครับ ผมมาเยี่ยมเพื่อนที่เพิ่งถูกยิงมาเมื่อเย็นนี้"
ภายใน ห้องพักผู้ป่วย หอยแครงนอนนิ่งไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วย มีชาโดว์นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ สักพักชาโดว์ก็หาวง่วง เธอเลยจะหาน้ำกิน แต่น้ำในขวดบนโต๊ะหมดแล้ว เธอจึงเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป
ลับหลังชาโดว์ออกไปสักพัก จู่ๆสเน๊คก็เดินเข้ามาในห้อง เขาเดินตรงเข้าไปหาหอยแครง ก้มลงไปดูเขาอย่างมุ่งร้าย แต่สเน๊คไม่ได้ทำอะไร เขาแค่ก้มไปติดเครื่องดักฟังไว้ที่ใต้เตียงเท่านั้น แล้วสเน๊คก็เดินออกจากห้องไป ก่อนที่ชาโดว์จะกลับเข้ามาโดยไม่รู้เรื่องอะไร
สเน๊คนอนอยู่ในรถตัวเองที่จอดไว้แถวโรงพยาบาล โดยใส่หูฟังคอยฟังเสียงจากเครื่องดักฟัง นาฬิกาในรถบอกเวลาตีสามกว่าๆแล้ว จู่ๆก็มีเสียงจากเครื่องดักฟังดังขึ้นมา
"โอย"
"หอยแครง ฟื้นแล้วเหรอ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
"โอย ปวดชิบหายเลย โอย"
"อดทนหน่อยสิ ลูกผู้ชายตัวจริงต้องอดทนนะโว๊ย"
"ตอนนี้ฉันยอมเป็นลูกตุ๊ดก็ได้ โอย แล้วคนอื่นๆล่ะ"
"ปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วง ป่านนี้คงไปนอนอยู่ที่เซฟเฮาส์ใหม่แล้วล่ะ"
"เซฟเฮาส์ใหม่ ที่ไหนเหรอ"
"ท่าซ่อมเรือเก่าที่จิมมี่มันชอบไปซ้อมยิงปืนไง อยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ สเน๊คมันคงนึกไม่ถึงว่าเรายังอยู่ละแวกนี้"
สเน๊ครีบลุกขึ้นมากดคอมพิวเตอร์สแกนหาตำแหน่งท่าเรือแถวๆใกล้โรงพยาบาล หน้าจอแสดงหมุดชี้ตำแหน่งท่าเรืออยู่ 2- 3 แห่ง สเน๊คลองเสิร์ชดูรูปส่วนตัวจิมมี่ในเฟซบุ๊ก จนเจอรูปจิมมี่ในชุดซ้อมปืนอยู่กลางท่าเรือแห่งหนึ่ง และเห็นชื่อท่าซ่อมเรือที่เช็คอินสถานที่ไว้ สเน๊คกดปุ่มคอมพิวเตอร์อีกที หมุดชี้ตำแหน่งท่าเรือก็เหลือแค่จุดเดียวแล้ว
"บิงโก!"
รถของสเน๊คแล่นเข้ามาจนถึงหน้าประตูก็เห็นป้ายชื่อท่าเรือชัดเจน สเน๊คจึงเอารถไปจอดแอบไว้ในที่ลับสายตา
สเน๊คลงมาเดินเท้าพร้อมปืนและกระเป๋าอุปกรณ์แล้ว ตอนนี้เขาอยู่บนที่สูงของเรือลำใหญ่เก่าๆหลังหนึ่ง มองลงไปด้านล่างจะมีบ้านหรืออาคารสำนักงานเล็กๆอยู่ไกลๆ มีรถของพวกจิมมี่คันหนึ่งจอดอยู่ใกล้ๆด้วย แต่จุดที่เขายืนอยู่ตรงนี้แสงแดดยามเช้าส่องเข้าตาเขาพอดี
สเน๊คมาอยู่ที่อีกทิศหนึ่ง แสงแดดส่องเข้ามาข้างหลังเขาไม่กระทบสายตาแล้ว เขารีบประกอบปืนและซุ่มเล็งไปที่อาคารสำนักงานนั่นทันที ภาพในกล้องส่องจับอยู่ที่หน้าต่างอาคารนั่นซึ่งมีมู่ลี่ปิดไว้ สเน๊คนิ่งรออยู่สักพัก และแล้วก็เห็นมีคนมาเปิดมู่ลี่หรือผ้าม่านขึ้น แป้งนั่นเองที่มองออกมาดูรอบๆนอกหน้าต่าง เห็นปลายฟ้าเดินผ่านไปข้างหลัง ก่อนที่แป้งจะปิดม่านหรือมู่ลี่ลง สเน๊คยิ้มเจ้าเล่ห์
สเน๊คยังตั้งท่าเตรียมพร้อมอยู่ เวลาผ่านไปสักพักนึง ประตูอาคารก็เปิดออก สเน๊ครีบเล็งปืนไปที่ประตูทันที แต่ไม่ได้มีใครออกมา สเน๊คจ้องดูที่ประตูอยู่สักพักก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สเน๊คเริ่มทำหน้าสงสัย
สเน๊ครีบเบี่ยงปืนส่องดูรอบๆแทน หลังจากส่องไปส่องมาสักพัก สเน๊คก็เห็นจุดสะท้อนแสงเล็กๆมาจากรถของจิมมี่ที่จอดอยู่ แล้วจู่ๆก็มีกระสุนยิงเข้ามาใกล้ๆที่สเน๊คอยู่ สเน๊ครีบหลบและส่องกล้องไปที่รถทันที เห็นจิมมี่นั่นเองที่ถือไรเฟิลเล็งมาที่เขา
"หึ คิดจะวางกับดักกูเรอะ อ่อนหัด"
สเน๊คยิงเข้าใส่จิมมี่ทันที จิมมี่รีบก้มหลบลงไปในรถ แล้วจิมมี่ก็สตาร์ทรถขับพุ่งตรงไปหาสเน๊ค พร้อมกับโผล่หัวมายิงใส่สเน๊คเป็นระยะๆ แต่กระสุนยังห่างไกลตัวสเน๊คนัก สเน๊คก็ยิงใส่รถไปเรื่อยๆ แต่ก็ถูกแค่ข้างนอกรถ สเน๊คจึงเปลี่ยนมาเล็งที่ยางรถแล้วเหนี่ยวไก ปัง! รถของจิมมี่เริ่มเป๋ไปเป๋มา สเน๊คยิงยางรถเพิ่มอีกข้าง รถของจิมมี่จึงหยุดนิ่งสนิทลงในที่สุด
จิมมี่รีบโฉบลงจากรถและยิงใส่สเน๊ค สเน๊คก็ยิงไล่ใส่จิมมี่ แต่จิมมี่สามารถพุ่งเข้าไปหลบที่หลังโขดหินข้างทางได้ซะก่อน สเน๊ครีบเปลี่ยนแม็กกระสุนใหม่และส่องกล้องเล็งไปที่โขดหิน นิ่งรออยู่สักพักเขาก็เห็นจิมมี่ค่อยๆจะโผล่หัวออกมา จุดศูนย์เล็งของสเน๊คจับอยู่ที่หัวจิมมี่เรียบร้อยแล้ว สเน๊คยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ขยับนิ้วเตรียมเหนี่ยวไก แต่แล้วจู่ๆสเน๊คก็ถูกยิงเข้าที่ไหล่
"อ๊าก!"
สเน๊ครีบส่องปืนไปทางที่มาของกระสุน จนเจอภาพชาโดว์ที่ซุ่มหลบอยู่อีกมุมหนึ่งกำลังเล็งปืนมาที่เขา สเน๊คได้แต่ทำหน้าแปลกใจ แล้วก็มีประกายไฟออกมาจากปากกระบอกปืนชาโดว์ ทันใดนั้นกล้องส่องของสเน๊คก็ถูกยิงทะลุ แต่สเน๊คยังเอี้ยวหัวหลบไปได้ โดนบาดหน้าแค่เล็กน้อย
สเน๊คโกรธจัดลุกขึ้นมายิงปืนรัวใส่ทางชาโดว์แบบไม่ต้องเล็งแล้ว ชาโดว์รีบหลบเข้าที่กำบังหลบกระสุน อีกด้านหนึ่งจิมมี่ก็วิ่งออกมายิงรัวใส่สเน๊ค กระสุนโดนขาสเน๊คไปนัดนึง จนสเน๊คเสียหลักล้มตกลงมาจากที่สูง
"อ๊าก"
"สำเร็จ"
ชาโดว์ก็ออกมาจากที่กำบัง และทำหน้าสะใจ
ย้อนหลังก่อนเหตุการณ์
จิมมี่บอก
"ถ้าคิดจะจัดการไอ้สเน๊ค เราก็ต้องล่อมันให้มาติดกับ"
เมื่อตอนที่สเน๊คเข้ามาถามที่เคาน์เตอร์โรงพยาบาล อีกมุมหนึ่งน้าสมานที่ปลอมตัวเป็นคนไข้แฝงตัวอยู่แถวนั้นก็กำลังจับตาดูสเน๊คอยู่เช่นกัน
ตอนสเน๊คออกไปจากห้องหอยแครงแล้ว ชาโดว์กลับเข้าห้องมาตามปกติ สักพักน้าสมานก็เข้ามาในห้องด้วย หอยแครงเองก็ลืมตาขึ้นมาชี้ให้ทุกคนดูเครื่องดักฟังที่สเน๊คเอามาติดไว้ เขาไม่ได้หมดสติอย่างที่คิด
"ด้วยนิสัยไอ้สเน๊ค มันจะต้องรีบมาหาเราทันทีที่รู้ตำแหน่ง ฉันกะเวลาไว้แล้วว่ามันต้องมาถึงตอนเช้าตรู่ แสงแดดจะส่องมาจากทิศตะวันออก จนเหลือจุดซุ่มยิงที่ดีที่สุดแค่ที่เดียวเท่านั้น"
บริเวณท่าเรือสเน๊คยืนมองอยู่บนที่สูงจนแสงแดดเข้าตา สเน๊คจึงต้องไปซุ่มยิงอีกทิศตรงข้าม
"และถ้ามันคิดว่าชาโดว์ยังอยู่ที่โรงพยาบาล มันก็จะชะล่าใจ ไม่ระวังตัว ตอนนั้นแหละเราจะเผด็จศึกมัน"
สเน๊คกำลังจะยิงจิมมี่ แต่แล้วเขาก็ถูกยิง ด้วยฝีมือของชาโดว์
ณ บริเวณโรงพยาบาล ขณะที่สเน๊คดักฟังที่ลานจอดรถโรงพยาบาล ในห้องพยาบาลแท้จริงแล้วคนที่อยู่ในห้องกับหอยแครงคือน้าสมาน น้าสมานใช้มือถือให้ชาโดว์ซึ่งอยู่ที่อื่น คุยสไกป์ออนไลน์กับหอยแครงแบบจงใจให้เสียงเข้าเครื่องดักฟัง
จิมมี่รีบวิ่งเข้ามาที่ท้ายเรือตำแหน่งที่ๆสเน๊คตกลงมา แต่เมื่อมาถึงที่แล้วจิมมี่ก็เจอแต่รอยเลือดหย่อมหนึ่ง ไม่มีร่างสเน๊ค จิมมี่รีบยกปืนขึ้นส่องดูรอบๆตัวทันที
สักพักนึงชาโดว์ก็วิ่งตามเข้ามา จิมมี่รีบส่งสัญญาณมือให้ชาโดว์หยุด ชาโดว์จึงยกปืนขึ้นส่องรอบๆตัวเช่นกัน โดยทั้งคู่จะหันหลังให้กันเหมือนคู่หูคอยระวังหลังให้กันอย่างเชี่ยวชาญ
เวลาผ่านไปสักพัก ก็ยังไม่มีวี่แววของสเน๊ค แล้วจู่ๆจิมมี่ก็ทำหน้าวิตกขึ้นมา
"ปลายฟ้า แป้ง"
จิมมี่รีบวิ่งออกไปโดยเร็ว ชาโดว์งงๆแต่ก็วิ่งตามไปด้วย แต่สปีดการวิ่งของจิมมี่เร็วกว่าเธอเยอะจนทั้งคู่ทิ้งห่างกัน
แป้งกับปลายฟ้ารออยู่ในสำนักงานอย่างเป็นกังวล แป้งแอบมาเปิดมู่ลี่ดูข้างนอกเล็กน้อย
"เสียงปืนเงียบไปแล้ว จิมมี่จะเป็นอะไรรึเปล่านะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ นายนั่นต้องไม่เป็นอะไร ต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ"
แล้วจู่ๆก็เห็นมีเงาคนพาดผ่านเข้ามาหลังม่านมู่ลี่ ปลายฟ้าชี้ให้แป้งดูด้วยความกลัว แป้งรีบถอยมาอยู่กับปลายฟ้าและชักปืนขึ้นมาเตรียมไว้ เจ้าเงานั่นค่อยๆเดินผ่านหน้าต่างไปทางประตูหน้า สองสาวที่อยู่ในอาคารได้แต่กลั้นหายใจหยุดนิ่ง แป้งเล็งปืนไปที่ประตูแล้ว
"จิมมี่ นั่นนายใช่ไหม"
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบ แป้งตัดสินใจคว้าข้อมือปลายฟ้าวิ่งไปออกที่ประตูด้านหลัง
จู่ๆประตูข้างหลังก็ถูกถีบเข้ามา แป้งกระเด็นล้มลง สเน๊คเดินยิ้มสะใจเข้ามา
"สเน๊ค"
แป้งรีบยกปืนใส่ แต่สเน๊คก็ยิงใส่ปืนของแป้งจนปืนหลุดมือเธอไปได้ก่อน ปลายฟ้าเห็นแล้ว ก็นึกถึงภาพหลอนที่เธอเคยโดนยิงเมื่อในอดีตจนเริ่มกลัวตัวสั่น
"สวัสดีครับคุณปลายฟ้า เรามาปิดจ๊อบเรื่องของเราให้จบๆกันดีกว่านะ"
สองสาวถอยไปจนติดผนัง สเน๊คก็เดินตามเข้ามาในห้อง แป้งลุกลี้ลุกลนไปหยิบไฟฉายจากโต๊ะใกล้ๆตัวขึ้นมาถือไว้เหมือนจะใช้เป็นอาวุธ สเน๊คได้แต่มองดูอย่างขบขัน
"คุณปลายฟ้า ตั้งสติดีๆนะคะ ตอนนี้แหละค่ะ"
จบคำแป้ง ทั้งสองสาวก็รีบหลับตาหยี แป้งกดปุ่มที่ไฟฉาย ไฟฉายไม่ได้สว่างแถมยังมีเสียงตี๊ดๆแบบดิจิตอลจนสเน๊คแปลกใจ แล้วจู่ๆนาฬิกาที่ติดไว้กลางห้องก็ระเบิดแสงวาบออกมาเหมือนระเบิดแสง จนสเน๊คตาพร่าไปหมด แป้งรีบพุ่งเข้ามาใช้ไฟฉายในมือฟาดใส่หน้าสเน๊คไปเต็มๆจนสเน๊คล้มไป แล้วแป้งก็รีบดึงตัวปลายฟ้าออกจากห้องอาคารไปโดยเร็ว
"ไปเร็วค่ะ คุณปลายฟ้า"
สเน๊คได้แต่นอนมึนตาพร่า
"อ๊าก...อีตัวแสบ"
สเน๊คใช้เวลาตั้งตัวอยู่พักนึงจนตาหายพร่า จึงรีบวิ่งตามออกจากห้องไป
แป้งกับปลายฟ้าวิ่งหนีจากสำนักงานออกมาทางป่าด้านหลัง โดยที่มีสเน๊คไล่ตามยิงพวกเธอมาข้างหลังกระสุนเฉียดตัวสองสาวไปแค่ไม่กี่เซ็น ทั้งสองสาวเข้าไปหลบหลังพุ่มไม้ใหญ่ ปลายฟ้ากลัวตัวสั่น ก้าวไปข้างหน้าต่อไม่ไหวแล้ว
"ไม่ไหวแล้ว ฉันกลัวๆ"
"ใจเย็นๆสิคะคุณปลายฟ้า....คุณปลายฟ้า"
แป้งโผล่มาแอบมองดูสเน๊ค เห็นสเน๊คกำลังไล่ตามใกล้เข้ามา
"งั้นคุณปลายฟ้าหลบอยู่ตรงนี้นะคะ เดี๋ยวฉันจะล่อมันไปอีกทาง"
แล้วแป้งก็โผล่ขึ้นมาวิ่งฉีกหนีไปทางอื่น สเน๊คเห็นแล้วก็วิ่งตามไล่ยิงเธอ จนแป้งโดดไปหลบอยู่อีกที่
"แม่ง...หายไปไหนวะ"
สเน๊ครีบสอดส่องมองหาตำแหน่งปลายฟ้า จนเจอพุ่มไม้พุ่มหนึ่งกำลังไหวๆอยู่ สเน๊คยิ้มเจ้าเล่ห์และยิงใส่พุ่มไม้นั้น
ปลายฟ้าตกใจกรีดร้องวิ่งออกมาจากพุ่มไม้แล้ว
"ปลายฟ้า"
แป้งเห็นดังนั้นก็ลุกวิ่งเข้ามาหาปลายฟ้าด้วย แต่แล้วสเน๊คก็ยิงปืนมาที่พื้นตรงหน้าแป้ง ดักหน้าเธอไว้จนเธอไม่กล้าวิ่งต่อ ทางฝ่ายปลายฟ้าก็ถูกยิงพื้นดักหน้าเช่นกัน ตอนนี้ทั้งสองสาวตกเป็นเป้านิ่งแล้ว
"หมดเวลาวิ่งไล่จับกันแล้วนะ"
จิมมี่วิ่งตามมาทันแต่ก็ไม่เห็นตัวเสน็คแล้ว เขาเห็นแต่ปลายฟ้าและแป้งยืนหยุดนิ่งโดยที่มีจุดเลเซอร์สีแดงปรากฏขึ้นที่ตัวปลายฟ้า จิมมี่จึงหยุดวิ่งไม่กล้าทำอะไร
"ใจเย็น....สเน๊ค งานของแกมันจบไปแล้วไม่ใช่เรอะ ? ปล่อยปลายฟ้าไปเถอะ"
ไม่มีคำตอบจากเสน๊ค
"หรือว่ามีคนจ้างแก"
"ถึงคราวนี้ไม่มีคนจ้างกูก็ต้องทำเพื่อรักษาชื่อเสียง....เป้าหมายของสเน๊คจะต้องไม่มีวันรอดไปได้"
แต่แล้วจู่ๆจุดเลเซอร์ก็เปลี่ยนไปชี้ที่แป้งแทน
"แต่ว่าเพื่อเห็นแก่มึงกูจะให้โอกาสอีกครั้ง เลือกเอาระหว่างปลายฟ้ากับยัยเลขานี่ กูจะฆ่าแค่คนเดียวแล้วปล่อยอีกคนไป หึ...หึ ว่าแต่มึงจะให้กูฆ่าใครดีล่ะ"
จุดเลเซอร์ชี้สลับไปมาระหว่างแป้งกับปลายฟ้า ปลายฟ้าได้แต่ร้องไห้กลัว แป้งก็เช่นกัน
"ฮือๆ จิมมี่ ช่วยฉันด้วย"
"ฮือๆ"
"ไอ้บ้าสเน๊ค ถ้าแกอยากฆ่าใครก็มาฆ่าฉันสิ ปล่อยพวกผู้หญิงไปซะ"
"ฆ่ามึงแล้วมันจะไปสนุกอะไรเล่า เอ้า ว่าไง เลือกได้รึยัง ถ้าไม่เลือก งั้นกูจะเลือกให้เองนะ หนึ่ง..."
จุดแดงเลเซอร์หายไปแล้ว จิมมี่ได้แต่มองหน้าปลายฟ้าสลับกับแป้งไปมา
"สอง... สาม!"
และแล้วสเน๊คก็ขยับนิ้วเริ่มเหนี่ยวไก พร้อมๆกับที่จิมมี่เริ่มออกวิ่งไปทันที
เสียงปืนดังสนั่นไปทั่ว!
จิมมี่ยืนกอดแป้งไว้แบบพร้อมบังกระสุนให้เธอ ปลายฟ้าได้แต่มองทั้งคู่อย่างอึ้งๆ แป้งพอเห็นว่าจิมมี่เลือกมาปกป้องเธอก็ดีใจแวบแรก แต่แล้วเธอก็กลัวขึ้นมา
"จิมมี่ เป็นอะไรรึเปล่า นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
แป้งรีบสำรวจดูตัวจิมมี่ว่าเขาถูกยิงตรงไหน แต่จิมมี่ยังท่าทางปกติดี
"ไม่ๆ ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร"
ทั้งคู่รีบหันไปหาปลายฟ้า ปลายฟ้าก็ยังยืนปกติดีอยู่ จิมมี่รีบเข้าไปสำรวจดูตัวเธอก็ไม่พบแผลถูกยิงใดๆ ปลายฟ้าได้แต่จ้องมองจิมมี่อย่างช็อกๆ
"คุณ... คุณ... ทิ้งฉัน"
จิมมี่นิ่งอึ้ง....ไม่สามารถตอบอะไรได้ แต่สักพักเขาก็หันกลับไปดูทางทุ่งหญ้าที่สเน๊คซุ่มอยู่
สเน๊คถูกยิงที่มือข้างที่กำลังจะเหนี่ยวไก ท่าทางเขาเจ็บใจมาก ชาโดว์ในท่าเล็งปืนส่องมาทางนี้ และปากกระบอกปืนยังมีไอควันของกระสุนที่เพิ่งยิงออกไป
สเน๊คเปลี่ยนมาใช้อีกมือหนึ่งจับปืนยิงใส่ชาโดว์และรีบวิ่งหนีออกไปโดยเร็ว ชาโดว์ซุ่มหลบกระสุนสักพักก็รีบวิ่งตามออกไปเช่นกัน
"จิมมี่ รีบตามมันไปเร็ว"
"เอาไว้ป้องกันตัวนะ" จิมมี่เอาปืนให้ปลายฟ้ากระบอกนึง
แล้วจิมมี่ก็รีบผละจากปลายฟ้า ไล่ตามสเน๊คไป ปลายฟ้าได้แต่มองเขาอย่างไร้ความรู้สึก
ชาโดว์ไล่ตามรอยเลือดสเน๊คมาถึงริมคลอง แต่แล้วจู่ๆรอยเลือดก็หายไปที่ตลิ่งริมน้ำ ชาโดว์เล็งปืนมองสำรวจในน้ำดูแต่แล้วจู่ๆสเน๊คก็พุ่งเข้ามาจู่โจมเธอข้างหลังโดยไม่ทันตั้งตัว เอาหินซัดหัวเธอจนเธอสลบล้มไป สเน๊ครีบแย่งปืนสั้นมาได้กระบอกหนึ่ง
ทันใดนั้นจิมมี่ก็วิ่งตามเข้ามาพอดี สเน๊คจึงเอาปืนจ่อชาโดว์ไว้เพื่อขู่จิมมี่ จิมมี่หยุดนิ่ง
"หึ...สเน๊ค....ที่แท้มึงก็แค่ไอ้หน้าตัวเมียที่ใช้ผู้หญิงเป็นตัวประกัน แน่จริงมึงก็มาดวลกันตัวต่อตัว!"
สเน๊คโกรธที่โดนดูถูก เขาขยับตัวขึ้นให้อยู่ในท่าพร้อมยิง ประจันหน้ากับจิมมี่ จิมมี่ลดปืนสั้นไว้ข้างๆตัวและยืนจ้องกันพร้อมดวลปืนเหมือนหนังคาวบอย แล้วทั้งคู่ก็เริ่มสาดกระสุนใส่กันโดยไม่มีใครหลบ ทั้งคู่ต่างโดนยิงด้วยกันทั้งคู่ แต่เพราะสเน๊คใช้มือข้างที่ไม่ถนัดเลยช้ากว่าและยิงไม่เข้าเป้าอยู่หลายนัด สเน๊คเป็นฝ่ายถูกยิงมากกว่าจนเซผงะไปจนกระทั่งล้มตกลงไปในคลองข้างหลังและจมหายไปไม่เห็นร่าง ส่วนจิมมี่ก็ล้มลงไปนอนกองอยู่ตรงนั้น
แป้งวิ่งตามเข้ามาประคองร่างเอาไว้
"จิมมี่ๆ นายอย่าเป็นอะไรนะ นายต้องไม่เป็นอะไรนะ จิมมี่ๆ"
จิมมี่ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
"ใจเย็นๆคุณเลขา ผมไม่ตายง่ายๆหรอกน่า แฮ่กๆ แต่ขอลางานซักเดือนสองเดือนนะ"
"คนบ้า"
แป้งได้แต่กุมมือจิมมี่มากอดไว้แน่น ชาโดว์ได้สติขึ้นมาแล้วปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ตามลำพัง เธอหยิบมือถือมาโทร.ออก
"น้าสมาน...มันเสร็จเราแล้ว รีบส่งรถพยาบาลมาที่นี่ด่วนเลย"
แป้งที่อยู่ใกล้ๆจิมมี่ไม่ยอมห่างกัน
ปลายฟ้ายังนั่งนิ่งอยู่ที่ทุ่งหญ้าใกล้ๆที่เดิม เธอยังคงช็อกแน่นิ่งไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร แต่แล้วจู่ๆเธอก็เห็นร่างโชกเลือดของสเน๊คลอยมาตามน้ำและมาติดอยู่ตรงตลิ่งแถวๆนั้น
สเน๊คลากร่างที่บาดเจ็บสาหัสขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วก็ทิ้งร่างอย่างหมดแรง
ปลายฟ้าเดินเข้ามาแล้วชักปืนที่จิมมี่ให้ไว้ขึ้นมาจ่อไปที่สเน๊คนั้นด้วยท่าทีหวาดกลัว แต่เมื่อเธอจ้องมองร่างที่บาดเจ็บจนขยับไม่ได้อย่างตัดสินใจ
" เอาเลย...คุณปลายฟ้า ตอนนี้คุณกับผมมันก็ไร้ค่าไม่ต่างกัน"
สเน๊คยิ้มเย้ยหยันแล้วก็หลับตาลง
แต่แววความกลัวในสีหน้าปลายฟ้าเริ่มหมดไปและแทนที่ด้วยความโกรธแค้น ปืนในมือเธอกระชับแน่น แล้วนิ้วของ
เธอก็เริ่มขยับเตรียมเหนี่ยวไก !
อ่านต่อตอนที่ 9