xs
xsm
sm
md
lg

มนต์รักอสูร ตอนที่ 18

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มนต์รักอสูร ตอนที่ 18

ทุกคนช่วยกันขนกระเป๋าสัมภาระอันมากมายของแพรวนภา เข้าไปไว้ในห้องพักเดิมของน้ำผึ้งบนตึกใหญ่ แพรวนภาเดินมาถามเทิดที่ยืนดูความเรียบร้อยอยู่หน้าห้องอีกรอบ

“แพรวจะให้เมญ่ามาอยู่กับแพรวที่นี่ด้วย จะเป็นการรบกวนเทิดไหมคะ”
เมญ่าส่งยิ้มหวานมาให้เทิด แต่พอเห็นเทิดหน้านิ่งดุไม่ยิ้มตอบ กะเทยยักษ์เลยหน้าเจื่อนจ๋อยไป
“ในเมื่อเป็นคนของแพรว ผมก็ไม่ขัดข้องหรอก”
แพรวนภายิ้มดีใจกับเมญ่า
“ขอบคุณมากนะคะเทิด”
“เดี๋ยวผมจะให้คนจัดห้องให้ผู้ช่วยคุณด้วย”
เมญ่ารีบไหว้ “ขอบพระคุณมากเลยนะคะ คุณเทิดนี่ใจดีอย่างที่คุณแพรวพูดไว้จริงๆ”
สองแขกหน้าใหม่ของไร่ ยิ้มเจ้าเล่ห์รู้กันสองคน

น้ำผึ้งเก็บของเสร็จ หิ้วกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวออกมาจากห้อง เจอกับเทิด สองคนสบตากันครู่หนึ่ง เทิดมองด้วยแววตาห่วงใย ตั้งใจจะพูดกับน้ำผึ้ง แต่ถูกแพรวนภาที่เกาะแขนแจ ขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
“เทิดคะ”
“ครับ”
“แล้วครูน้ำผึ้ง เทิดจะให้ไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ”
“เรื่องนั้นผมคิดไว้แล้วละ รอให้ขนของเสร็จก่อนผมจะพาเขาไปเอง”
น้ำผึ้งเห็นแพรวนภาทำท่าสนิทสนมกับเทิดก็นึกเสียใจ
“หอมช่วยถือกระเป๋าเองครับครู” หอมบอก
“ผมด้วยครับ”
หอมกับมาร์คเข้าไปช่วยน้ำผึ้งถือกระเป๋า สามคนเดินออกจากห้องไป
เทิดได้เพียงมองตามน้ำผึ้ง จะตามไปก็ไม่ได้ เพราะแพรวนภาเกาะแขนแจ เมญ่ารีบพูดขึ้นอย่างรู้หน้าที่
“คุณเทิดกับคุณแพรวอย่ามายืนตรงนี้เลยค่ะ เขาย้ายของกัน ฝุ่นเยอะ คุณแพรวยิ่งแพ้ฝุ่นอยู่ด้วย”
“ขอบใจมากนะจ๊ะเมญ่า”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ เมญ่าจัดการให้ รับรองทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ”
แพรวนภาควงแขนเทิดลงตึกไป
เมญ่ายิ้มพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่แพรวนภาต้องการ
คล้อยหลังสองคน กะเทยผิวหมึกร่างบึกบึนก็หันไปสั่งคนงาน ด้วยน้ำเสียงจิกกบาลใช้ ชนิดที่แตกต่างลิบลับกับตอนที่อยู่ต่อหน้าเทิด
“เอ้า ยืนหายใจทิ้งกันอยู่ทำไม รีบขนของออกมาสิ จะได้ย้ายของคุณแพรวเข้าห้อง”

ถัดมา เมญ่าลงมาหน้าตึก คุมคนงานขนของขึ้นไปยังห้องแพรวนภา เมญ่าเห็นคนงานขนข้าวผ่านหน้าไป ท่าทีไม่ระมัดระวัง ก็โวยวายดังลั่น
“เบาๆ มือหน่อย รู้ไหมนั่นราคาเท่าไหร่”
คนงานขนของน้ำผึ้งมาถามเมญ่า
“ของคุณน้ำผึ้งไว้ตรงไหนดีครับ”
เมญ่ามองของน้ำผึ้งด้วยสายตาดูถูก
“กองไว้ตรงนี้แหละ”
คนงานทำตามที่เมญ่าบอก วางของกองไว้หน้าห้อง

หอมดึงอ้อยเข้ามา มีน้ำผึ้งและมาร์คเดินตามมาด้วย ทั้งสามคนจะมาช่วยน้ำผึ้งขนของ หอมกับอ้อยมาเห็นคนงานวางของน้ำผึ้งกองหมกไว้หน้าห้องก็ไม่พอใจ
“นี่มันของครูน้ำผึ้งไม่ใช่เหรอ”
“จริงด้วย ทำไมวางเละเทะแบบนี้ล่ะ”
เมญ่าหันมาเจอ หอม กะ อ้อย เลยเหยียดยิ้มเปิดฉากพูดจาดูถูกน้ำผึ้ง
“อ้าวเหรอ โทษที่นะจ๊ะ ฉันไม่รู้ เห็นเก่าๆ ดูแบบ ไม่มีราคา”
“อ้าว อีนี่ ของไม่มีราคามันจะซื้อมาได้ไหม พูดไม่คิด”
น้ำผึ้งรีบห้ามอ้อยไว้ก่อนจะมีเรื่อง
“ไม่เป็นไรหรอกอ้อย ช่วยกันเก็บเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
“ไม่ได้นะครู ของๆ เราจะให้คนอื่นมาทำเสียหายได้ โดยเฉพาะนังนี่ หลุดมาจากป่ารึเปล่าก็ไม่รู้ ทำเหมือนพวกไม่ได้รับการสั่งสอน”
เมญ่ากรี๊ด “ต๊าย! หล่อนเป็นใคร แต่งตัวเหมือนพวกสก๊อย แถมยังพูดจาเหน็บแนมคนอื่นอีก”
“สก๊อยแล้วยังไง ถึงเป็นสก๊อยก็สก๊อยมีการศึกษานะยะ”
หอมโมโหขอแจมด้วย “เออ จริงด้วย แล้วแกเป็นใคร มาจากคองโกรึยังไง”
“คองโกบ้านแกสิ ฉันมาจากลอนดอน เสื้อผ้าข้าวของนี่แบรนด์ไฮเอนด์ โอต์กูตูร์ทั้งนั้น รู้จักไหม”
“กูไม่กูอะไรไม่รู้จักทั้งนั้นอ้ะ”
มาร์คพูดแทรกขึ้นว่า
“แต่ผมรู้จักนะครับ”
เมญ่าหันมาสนใจมาร์คทันที เห็นเป็นหนุ่มหน้าตาดีใช้ได้ก็ยิ้มให้
“คืออะไรอะพี่มาร์ค”
“มันหมายถึงแฟชั่นชั้นสูงน่ะอ้อย”
“ไร่นี้ก็พอจะมีคนฉลาดอยู่บ้างนี่ ไม่เหมือนพวกไก่กาแถวนี้” กะเทยยักษ์มองเหยียด
อ้อยโกรธจัด “นี่จะหาเรื่องกันให้ได้เลยใช่ไหม แกเป็นใคร มาจากไหนฮะ หลุดออกมาจากเขาดินรึไง”
“ปากเสียที่สุด ไร้สมบัติผู้ดี”
“เออ เลยไม่ต้องสร้างภาพมากไง เก็บของครูน้ำผึ้งเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องนาย”
“ไม่ อยากเก็บก็เองสิ”
“บอกให้เก็บไง”
“ไม่!”
“ไม่เก็บใช่ไหม ได้”
อ้อยหยิบข้าวของใกล้มือมาปาใส่เมญ่าพัลวัน เมญ่ากระโดดหนีกรี๊ดดังลั่น

เทิดพาแพรวนภานั่งพักในบ้าน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากหน้าบ้าน
“เสียงอะไรน่ะคะเทิด”
เทิดลุกขึ้นมองหาต้นตอของเสียง
“น่าจะมาจากหน้าบ้าน”
“คนของแพรวมีเรื่องอะไรกับคนของคุณรึเปล่าคะ”
“เดี๋ยวผมไปดูเอง คุณรออยู่ที่นี่ก่อน”
เทิดเดินออกไปเลย ทิ้งไปแพรวนภาไว้ที่ห้องนั่งเล่นลำพัง

ที่หน้าบ้าน เมญ่ากรี๊ดลั่นที่อ้อยแกล้งปาของใส่
น้ำผึ้งหันมาบอกมาร์ค “มาร์ค ห้ามอ้อยที”
มาร์ครีบดึงอ้อยไว้ ไม่ให้เข้าไปตบกับเมญ่า
“พี่มาร์ค ปล่อยอ้อย อ้อยจะสั่งสอนมัน”
เมญ่าปัดข้าวของตามตัวออก ชี้หน้าด่าอ้อย
“พวกไร้การศึกษา ไม่มีหัวนอนปลายเท้า มารยาทแย่”
“แย่ก็แย่ดิ ใครจะเหมือนพวกทำตัวไฮโซ แต่นิสัยเสียเหมือนบางคน”
“นี่คุณเทิดจ้างคนแบบเธอไว้ได้ยังไง ฉันจะฟ้องคุณเทิด ให้ไล่เธอออก”
“แกมีสิทธิ์อะไรมาขู่ฉัน”
“ฉันไม่ได้ขู่ ลองคิดดูละกันว่าระหว่างคุณแพรวพี่สาวคุณพริมกับ...” กะเทยยักษ์ปรายตามองน้ำผึ้งแว่บหนึ่งแล้วจงใจพูดกัดเน้นๆ ว่า “ลูกจ้าง....ใครสำคัญกว่ากัน”
“ไม่จบใช่ไหม เดี๋ยวเจอฤทธิ์อีอ้อยหน่อยเถอะวะ”
อ้อยถลันเข้าไปหาเมญ่าอีกครั้ง ด้วยแรงช้างสาร หอมต้องช่วยมาร์คจับตัวอ้อยอีกคน
เสียงเข้มทรงอำนาจของเทิดดังขัดขึ้น
“เสียงดังอะไรกัน”
ทุกคนหยุดชะงัก หันไปเห็นเทิดเดินมาหน้าตาดุดัน เมญ่ารีบทำเป็นสงบเสงี่ยม อ้อยเองก็สงบลงทันตาเหมือนกัน มาร์คกับหอมเลยปล่อยตัวได้ เมญ่ารีบฟ้อง
“เด็กบ้านคุณเทิดสิคะ มาถึงก็มาว่าเมญ่าฉอดๆ เมญ่ากำลังจะให้คนงานช่วยขนของครูน้ำผึ้งแท้ๆ”
“นายอย่าไปฟังมันนะคะ มันโกหก”
เห็นเมญ่าแกล้งตีหน้าเศร้า อ้อยยิ่งโมโห เทิดห้ามทุกคนไว้ก่อน
“พอซักที ทำไมต้องทำให้อะไรมันวุ่นวายด้วย”
“ฉันขอโทษแทนทุกคนเองค่ะคุณเทิด ของๆ ฉันแท้ๆ” น้ำผึ้งหน้าเจื่อนไป
“ช่างมันเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เทิดหันไปมองดุพวกอ้อย ทั้งอ้อยทั้งหอมจ๋อยสนิท
เทิดสั่งคนงาน “ทุกคนช่วยขนของครูน้ำผึ้งไปไว้ที่ตึกหลัง” แล้วหันมาบอกกับหอมและอ้อย “สองคนกลับไปช่วยป้าพรทำงานที่ครัว ไม่ต้องมายุ่งที่นี่” สุดท้ายหันไปสั่งมาร์ค “นายกลับไปที่ดูร้านได้แล้ว”
ทุกคนพยักหน้า แล้วจำใจต้องแยกไปตามคำสั่งของเทิด
เมญ่าชี้ตัวเอง “แล้วเมญ่าล่ะคะ”
“คุณกลับไปหาคุณแพรวเถอะ เธอรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น”
เมญ่าเดินเข้าตึกไป เทิดหันมาหาน้ำผึ้ง
“ส่วนเธอมากับฉัน ฉันจะพาไปดูห้องใหม่”
เทิดเดินลิ่วนำออกไปทางหลังตึกใหญ่ น้ำผึ้งยังงงๆ อยู่ แต่ก็ต้องตามไป

บ้านพักหลังใหม่ของน้ำผึ้ง อยู่ด้านหลังตึกใหญ่ เป็นบ้านหลังแรกของเทิดตอนมาบุกเบิกไร่พรีโมแห่งนี้ รอบบ้านร่มรื่นสวยงาม เทิดพาน้ำผึ้งเดินมาหยุดที่หน้าบ้านนี้ น้ำผึ้งมองไปรอบๆ
“ที่นี่คือ...”
“บ้านหลังเก่าของฉันเอง เข้ามาดูสิ”
เทิดไขกุญแจประตู พาน้ำผึ้งเข้าไปดูด้านในเรือน
เฟอร์นิเจอร์ยังถูกวางไว้ที่เดิมทุกอย่าง โดยมีผ้าขาวคลุมไว้กันฝุ่น ไม่มีคนอาศัยอยู่นานแล้ว เทิดอธิบายเรื่องของบ้านนี้ให้น้ำผึ้ง
“ที่นี่เป็นบ้านหลังแรกก่อนที่ฉันจะเริ่มสร้างพรีโมขึ้นมา สร้างไว้ก่อนที่นันท์จะเกิดซะอีก”
“แสดงว่าคุณเคยอยู่ที่นี่กับ...ภรรยาของคุณ”
เทิดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง “ใช่ ฉันเคยอยู่ที่นี่กับพริม”
“ให้ฉันอยู่ที่นี่จะดีเหรอคะ” น้ำผึ้งเกรงใจ
“ทำไมจะอยู่ไม่ได้”
“ก็มัน...”
“บ้านนี้มันถูกปิดไว้นานแล้ว ทิ้งไว้มันก็เก่าลงทุกวัน เธอมาอยู่ที่นี่ก็ดี จะได้ช่วยดูแลบ้านหลังนี้แทนฉันด้วย”
น้ำผึ้งสัพยอก “คุณหลอกใช้ฉันนี่”
“ฉันเปล่า แต่เธอต้องคิดดีๆ ไม่มีเจ้านายที่ไหนยกบ้านให้ลูกน้องอยู่ทั้งหลังง่ายๆ หรอกนะ”
น้ำผึ้งลอบยิ้มขำตอนที่เทิดพูดอยู่
“ค่ะ คงมีแต่คุณคนเดียวนั่นแหละ”
“คิดได้แบบนั้นก็ดี จะได้รู้สึกว่าคุ้มเงินเดือนที่เสียไปหน่อย”
น้ำผึ้งเดินไปดูพวกเฟอร์นิเจอร์เห็นฝุ่นจับเต็มไปหมด
“แต่ฝุ่นเยอะแบบนี้คงต้องทำความสะอาดเยอะน่าดู”
“เดี๋ยวฉันเรียกพวกป้าพรมาทำให้”
“อย่าเลยค่ะ รบกวนพวกเขาเปล่าๆ ฉันจะทำเองนี่แหละ”
“เธอจะทำไหวเหรอ”
“ฉันว่าฉันมีผู้ช่วยนะคะ น่าจะว่างที่สุดในไร่นี้แล้วด้วย”
“ใคร”
น้ำผึ้งยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะตอบว่า
“คุณไงคะ”
“ฉัน”
“ใช่ค่ะ ไหนๆแล้ว ช่วยฉันหน่อยแล้วกัน นะคะ”
น้ำผึ้งเดินไปหาอุปกรณ์ทำความสะอาดหลังบ้าน เทิดมองตามโดยไม่ได้ปฏิเสธอะไร

ฟากแพรวนภานั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น พอเห็นเมญ่าเดินเข้ามาก็ถามหาเทิด
“เมญ่า มาก็ดี เห็นคุณเทิดไหม ฉันนั่งรอตั้งนานเขาไม่เห็นมา”
“เห็นเมื่อกี้ตอนขนของให้คุณแพรวค่ะ แต่คุณสั่งให้เมญ่ากลับมาหาคุณแพรวที่นี่”
“แล้วตอนนี้เขาไปไหน”
“ได้ยินแว่วๆ ว่าจะพาครูน้ำผึ้งไปไหนสักที่ค่ะ คงเป็นห้องใหม่มั้งคะ”
“ห้องใหม่”
“ค่ะ ก็เราเล่นไปเทคโอเวอร์ห้องเขามานี่คะ” เมญ่ายิ้มขำ
“จริงด้วย...งั้นเอาแบบนี้ เราก็ไปหาเขาที่บ้านนั่นสิ”
“แต่เราไม่รู้ว่าบ้านนั้นอยู่ที่ไหนนะคะ”
“มันก็ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้หรอก ถ้าไม่รู้ก็ถามคนที่นี่”
เมญ่านึกถึงอ้อยแล้วทำหน้าแหยง
“คนที่นี่เหรอคะ”
“ทำไม มีปัญหาอะไรรึเปล่าเมญ่า”
“ไม่มีค่ะ ไปกันดีกว่าค่ะคุณแพรว เดี๋ยวคุณเทิดจะรอ”
แพรวนภาลุกขึ้น แล้วเดินนำออกไป เมญ่าตาม

คนงานช่วยกันขนของน้ำผึ้งมาให้หมดแล้ว เทิดเดินมาดู เช็คความเรียบร้อย พอหันหลังไปจะไปดูตรงอื่นก็เห็นน้ำผึ้งขนอุปกรณ์ทำความสะอาดมา ใส่ผ้ากันเปื้อนถุงมือเรียบร้อย น้ำผึ้งยื่นไม้ม็อบให้เทิด
“อันนี้ของคุณค่ะ”
เทิดทำท่าเหมือนจะไม่รับแต่ก็คว้าไม้ม็อบกับผ้ากันเปื้อนไป แล้วลุกไปคว้าถังน้ำ
“มองอะไร ไปกวาดตรงโน้นสิ”
“ค่า ฝากเติมน้ำในถังหน่อยนะคะ จะได้ช่วยกันเช็ดพื้น”

เทิดเออออ แล้วเดินไปทำตามที่น้ำผึ้งบอก น้ำผึ้งขำ

อ่านต่อหน้า 2




มนต์รักอสูร ตอนที่ 18

เมญ่ากับแพรวนภาเดินตามหาเทิด จนมาเจอหอมเดินกินกล้วยมาพอดี

“อ้าว ว่าไงจ๊ะ น้องคองโก หิวกล้วยไหม แบ่งให้ได้นะ”
“ฉันไม่กินย่ะ”
“เอ้อ ลืมไป ว่ากินได้เลย ไม่ต้องแกะเปลือก”
“ไม่แกะแล้วมันจะกินได้รึไง อีบ้า”
หอมยืนขำกลิ้ง กินกล้วยทำท่ากวนๆ ใส่เมญ่า
“อย่าเถียงกับลูกน้องเทิดสิ” แพรวนภาทำเป็นเอ็ดเมญ่า แล้วหันมาปากหวานใส่หอม “ฉันรบกวนถามอะไรหน่อยได้ไหมจ๊ะ”
“ถ้าเป็นคุณแพรวล่ะก็ได้ครับ”
“คือฉันอยากรู้ว่าเทิดอยู่ที่ไหนน่ะจ้ะ”
“คงพาครูน้ำผึ้งไปห้องใหม่มั้งครับ”
เมญ่าสอดขึ้น “แล้วห้องนั่นมันอยู่ที่ไหน”
หอมกวนประสาทเล่น “ไม่บอก”
เมญ่ายัวะ “เอ๊ะ นี่แก กวนประสาทนี่”
“มันก็อยู่ไม่ไกลแถวนี้หรอก ลองเดินหาดู ฉันมีธุระ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
หอมออกตัวกับแพรวนภาอย่างสุภาพ แล้วเดินลอยหน้าลอยตาผ่านเมญ่าไป และไม่วายหันมายิ้มเยาะเมญ่า กะเทยบึกได้แต่คุมแค้นโมโห แพรวนภามองรู้ทัน
“ไปก่อเรื่องอะไรไว้อีกล่ะสิ เธอต้องรับผิดชอบ พาฉันไปหาคุณเทิด เดี๋ยวนี้”
เมญ่าพนักหน้ารับคำจ๋อยๆ

เวลาผ่านไปสักระยะแล้ว เทิดกับน้ำผึ้งช่วยกันทำความสะอาด ช่วยกันดึงผ้าที่คลุมเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นออกแล้วช่วยกันพับเก็บ
น้ำผึ้งเดินไปกวาดบ้านรอบ เช็ดฝุ่น เทิดเดินถูพื้นแล้วทั้งคู่ก็ชนกันพอดี น้ำผึ้งมองหน้าเทิดเขินๆแล้วย้ายไปกวาดมุมอื่น
สักพักทั้งคู่ก็ย้ายไปที่กระจกรอบบ้าน ช่วยกันเปิดม่านให้แสงสาดเข้ามา เห็นบ้านเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
น้ำผึ้งยื่นผ้าเช็ดกระจกให้เทิด ทั้งคู่ช่วยกันเช็ดกระจกคนละฝั่งจนมาหยุดที่มุมเดียวกันพอดี
เทิดมองหน้าน้ำผึ้ง แล้วแกล้งทำเป็นเคาะกระจกให้น้ำผึ้งตกใจ น้ำผึ้งดุใส่ เทิดขำแล้วเช็ดกระจกต่อไป

ในขณะเดียวกันนี้ เมญ่าพาแพรวนภาเดินตามหาเทิดไปรอบๆ บ้าน เข้าออกห้องนั้นห้องนี้แต่ก็ไม่เจอ เดินไปเดินมาเริ่มเหนื่อย ทั้งคู่เลยหยุดพักที่มุมหนึ่งแถวข้างบ้าน
“ไม่เห็นมีเลยค่ะคุณแพรว”
“แล้วถ้าไม่ใช่แถวนี้มันจะมีที่ไหนอีก”
“คุณแพรวเคยมาที่นี่พอจะนึกออกไหมคะ ว่าจะมีที่ไหนที่น่าจะไปอีก”
แพรวนภานิ่งคิดอยู่สักพักก็นึกออก
“มันก็มีอยู่ที่นึง...”
“นั่นไงคะ อาจจะเป็นที่นั่นก็ได้”
“ตามฉันมาเมญ่า”
แพรวนภาออกเดินไปทางหลังตึก ตรงไปยังบ้านหลังเก่าของเทิด เมญ่าตามติด

เทิดกับน้ำผึ้งทำความสะอาดจนเสร็จทั้งหลัง สองคนย้ายเข้ามาทำความสะอาดในครัวของบ้านพัก
“คุณทำงานมาเหนื่อยๆ หิวไหม ฉันจะได้หาอะไรให้ทาน”
“ทานที่นี่ ที่นี่มีอะไรให้กินด้วยรึไง”
“มีสิคะ อาหารง่ายๆ ใครก็กินได้”
“อะไรกัน” เทิดงง
น้ำผึ้งเขินปนขำ “ก็อะไรที่ใช้กระติกน้ำร้อนทำได้”
เทิดยิ้ม “อ๋อ มาม่า”
“ใช่เลยค่ะ ฉันมีกระติกน้ำร้อนนะ เอามาจากที่บ้านด้วย”
“แล้วเธอจะเอามาม่ามาจากไหน”
“ฉันเอามาเก็บไว้ที่นี่แล้วนะคะ น่าจะอยู่แถวนี้”
“เดี๋ยวฉันหยิบเอง เธอไปต้มน้ำไป”
น้ำผึ้งเดินไปหยิบกระติกน้ำร้อนของเธอมาจัดการเสียบปลั๊กต้มน้ำ ส่วนเทิดเดินไปหาซองบะหมี่จัดการเทใส่ชาม เดินไปหาน้ำผึ้ง
“เอ้านี่”
“ไหนคะ”
น้ำผึ้งหันมาไม่ทันระวัง เลยชนเข้ากับเทิดจนเกือบล้ม ดีว่าเทิดคว้าตัวไว้ทัน
เทิดกับน้ำผึ้งมองหน้ากันในระยะใกล้ชิดมาก

ฝ่ายแพรวนภากับเมญ่าเดินมาหยุดที่หน้าบ้านพักของน้ำผึ้ง
“ที่นี่เหรอคะคุณแพรว”
“ที่นี่แหละ เปิดเข้าไปเลย”
เมญ่าบิดลูกบิดประตูเข้าไป แพรวนภาเดินเข้าไป ร้องเรียกหาเทิด
“เทิดคะ”

โชคดีที่แพรวนภากับเมญ่า มาเห็นแค่ตอนที่เทิดกับน้ำผึ้งนั่งกินม่าม่าอยู่ด้วยกันสองคนตรงห้องโถง
“มาอยู่ที่นี่เอง”
“แพรวมาที่นี่ได้ยังไง”
“อ๋อ แพรวลองเดินมาดูกับเมญ่าน่ะค่ะ คิดว่าคุณน่าจะอยู่ที่นี่ แล้วก็เจอจริงๆ ด้วย”
“ผมมาช่วยจัดของนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวก็จะไปแล้ว”
“แหม มีน้ำใจ หล่อด้วย มีเจ้านายแบบนี้นี่ดี๊ดีนะคะครูน้ำผึ้ง” เมญ่าเหน็บแนม
น้ำผึ้งยิ้มตอบ ไม่ได้พูดอะไร แพรวนภาเหลียวมองไปรอบบ้าน
“คิดถึงที่นี่จังนะคะ...บ้านหลังแรกของคุณเลยนี่ ขอแพรวเดินดูหน่อยนะ”
แพรวนภากับเมญ่าพากันเดินดูบ้าน เทิดกับน้ำผึ้งลอบมองหน้ากัน

ส่วนที่ลานนั่งพักผ่อนของคนงานไร่ อ้อยเมาท์อยู่กับหอม ชมพู่ และ พร
“ฉันว่ายายคุณแพรวนี่ต้องร้ายกาจ ต่างกับคุณพริมราวฟ้ากับเหว คุณเทิดถึงเลือกคุณพริม ไม่เลือกแม่นี่มาเป็นเมียไง”
“แกก็พูดเกินไป ฉันไม่เห็นคุณแพรวจะทำอะไร ฉันว่ายายเมญ่านั่นต่างหากที่ร้าย”
“คนประเภทเดียวกันมันถึงอยู่ด้วยกันได้ ฉันว่าร้ายพอกันทั้งเจ้านายลูกน้องนั่นแหละ นังอ้อยฟันธง”
“แต่ฉันว่าแกอคติ ตอนครูน้ำผึ้งเข้ามาทำงานแรกๆ แกก็ว่าเขาไม่ดี แกล้งเขาสารพัด” พรว่า
ชมพู่ผสมโรง “ใช่ แกมันขี้อิจฉา เห็นใครสวยกว่าเป็นไม่ได้ แกอิจฉาฉันด้วยใช่มั้ย”
“ฉันจะอิจฉาแกทำไมนังชมพู่”
“งั้นแกต้องอิจฉาคนทั้งโลกนั่นแหละ เพราะจะหาใครสวยน้อยกว่าแกคงยาก”
อ้อยโดนรุมเลยโวยวาย “พอแล้ว! ฉันไม่ได้อิจฉาซะหน่อย เข้าข้างกันเข้าไปเถอะ เจอดีเข้าสักวันแล้วอย่ามาหาว่านังอ้อยไม่เตือนละกัน”
อ้อยโมโหที่ไม่มีใครเชื่อตน

แพรวนภานอนอยู่บนเตียง เมญ่าทาครีมให้แพรวนภาทั่วทุกส่วนตั้งแต่หน้ายันเท้าอย่างเบามือ ทาไปอวยไป คุยประจบสอพลอไป
“คุณแพรวสวยขนาดนี้ ใครอยู่ใกล้ก็ห้ามใจไม่ให้รักคุณแพรวไม่ได้หรอกค่ะ แล้วพ่อม่ายเมียตายอย่างคุณเทิดจะเหลืออะไร้ เมญ่าว่าไม่นานหรอกค่ะ คุณเทิดจะต้องมาสยบแทบเท้าคุณแพรว”
แต่แพรวนภาไม่สบายใจนัก
“จะเอาชนะใจเทิด ไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก ของแบบนี้ต้องใช้ทั้งเวลาทั้งข้อมูล ฉันต้องรู้เรื่องเทิดมากกว่านี้ เธอคอยสืบข้อมูลมาให้ฉันด้วย”
“สบายมากค่ะ งานถนัดเมญ่าอยู่แล้ว”
เมญ่าทาครีมครบทุกขั้นตอน
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณแพรว”
เมญ่าห่มผ้าให้แพรวนภา ดูแลประดุจเจ้าหญิง
“กู๊ดไนท์นะคะเจ้าหญิงของเมญ่า”

เมญ่าปิดไฟแล้วเดินดำทะมึนออกจากห้องไป

อ่านต่อหน้า 3




มนต์รักอสูร ตอนที่ 18

รุ่งเช้าหอมร้องห่มร้องไห้ปานจะขาดใจตาย จนอ้อยโวยขึ้นอย่างรำคาญ

“จะร้องอีกนานมั้ย ฉันไปเรียนนะ ไม่ใช่ไปตาย”
น้ำผึ้ง ผัน และหอม มายืนส่งอ้อยขึ้นรถเดินทางไปเรียน กศน. ในตัวเมือง
“ก็พี่ใจหายนี่ เราสองคนไม่เคยอยู่ห่างกันนานขนาดนี้เลย เลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้านนะ อย่าไปเถลไถลที่ไหน พี่คิดถึง”
ผันเหล่ “น้อยๆ หน่อยไอ้หอม”
หอมยิ้มเจื่อนๆ
“ขอโทษจ้ะน้าผัน หอมอินไปหน่อยจ้ะ”
ผันมองอ้อยด้วยแววตาภูมิใจมากที่ลูกเรียนหนังสือ
“ตั้งใจเรียนนะลูก พ่อไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีมรดกจะให้ พ่อให้ได้แค่การศึกษาเท่านั้น”
“จ้ะพ่อ ฉันไปนะจ๊ะ”
อ้อยไหว้ลาผันกับน้ำผึ้ง โบกมือให้หอม ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของไร่ที่คนงานจะไปส่งของในตัวเมือง
ผันมองตามลูกสาวยิ้มปลื้มมีความสุข
“ดีใจด้วยนะคะน้าผัน ฝันเป็นจริงแล้ว”
“ขอบใจน้ำผึ้งมากที่ช่วยให้อ้อยได้เรียนหนังสือ น้าไม่รู้จะตอบแทนยังไง”
“ไม่ต้องตอบแทนหรอกค่ะ น้ำผึ้งแค่ให้คำแนะนำเท่านั้น เป็นเพราะอ้อยรักดีต่างหากค่ะ”
เห็นผันตื้นตัน น้ำผึ้งก็ดีใจไปกับผันด้วย แต่หอมยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่เลิก
ผันและน้ำผึ้งขำที่หอมเวอร์ได้โล่

ส่วนในห้องเรียน นันท์อ่านประโยคภาษาอังกฤษในหนังสือเรียนสำหรับเด็กประถม น้ำผึ้งช่วยบอกช่วยแก้บางคำที่นันท์ไม่รู้หรือออกเสียงผิด
แพรวนภาและเทิดผ่านมา หยุดยืนดูน้ำผึ้งสอนนันท์ เมญ่าตามมาด้วย
เทิดมองน้ำผึ้งด้วยแววตาลึกซึ้ง รู้สึกดีที่น้ำผึ้งสอนนันท์ได้เป็นอย่างดี
จังหวะนั้นเองแพรวนภาก็แย่งน้ำผึ้งพูด “คำนี้ต้องออกเสียงว่า...ค่ะคุณนันท์”
เมญ่าปรบมืออวยจนออกนอกหน้า
“คุณแพรวสำเนียงเป๊ะเวอร์ค่ะ”
นันท์เองก็ยังตื่นเต้น “อานตี้พูดเหมือนในซีรีย์เลยครับ”
“ไม่ใช่แค่อังกฤษนะคะ แต่ภาษอื่นคุณแพรวก็ได้ด้วย พวกฝรั่งเศสแบบนี้”
“แต่อย่างแกน่าจะเศษฝรั่งมากกว่านะ คองโก” หอมเหน็บ
“ฉันไม่มาจากคองโก”
“อย่าเถียงกันสิ คุณนันท์อยากลองเรียนฝรั่งเศสดูไหมคะ” แพรวนภาว่า
“นันท์เรียนอะไรก็ได้ครับ”
น้ำผึ้งนึกรู้ว่าแพรวนภาจงใจข่มตน แต่เลือกที่จะนิ่ง
“เมญ่าว่าวิชาพวกภาษาน่าจะให้คุณแพรวสอนคุณนันท์แทนครูน้ำผึ้งนะคะ”
“ทำไม คุณครูไม่ดีตรงไหน” หอมฉุนกึก
“ครูน้ำผึ้งไม่เคยไปต่างประเทศสักครั้ง สำเนียงสู้คนที่อยู่ต่างประเทศนานๆ อย่างคุณแพรวไม่ได้หรอกย่ะ”
หอมเถียงแทน “ทีแกอยู่ป่ามาตั้งนานยังพูดภาษาคนได้เลย”
เมญ่าโวยใส่หอมอีก
“ฉันไม่ใช่ทาร์ซานนะยะ”
“ฉันหมายถึงลิงโว้ย”
หอมกับเมญ่าจะเถียงกันอีก แพรวนภาเลยห้าม
“อย่าเถียงกันเลยจ้ะ ถึงครูน้ำผึ้งไม่ได้ไปเรียนเมืองนอกมา แต่สำเนียงได้แบบนี้ก็เก่งมากแล้วล่ะจ้ะ แพรวน่ะชื่นชมครูนะคะ”
“แต่ผมว่าครูน้ำผึ้งก็สำเนียงดีอยู่แล้วนะ อีกอย่างคุณจะได้ไม่เหนื่อยไงแพรว” เทิดท้วง
“แพรวไม่เหนื่อยหรอกค่ะ กลัวแต่ครูจะว่าแพรวแย่งงานน่ะสิคะ”
“ฉันไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แล้วแต่คุณแพรวเถอะ”
“งั้นก็เริ่มวันนี้เลยดีมั้ยคะ” เมญ่าเสนอ
เห็นแพรวนภาจะเริ่มสอนนันท์ น้ำผึ้งเลยหันไปคุยกับเทิด
“ฉันมีเรื่องจะบอกคุณอยู่พอดีเลยค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“วันนี้จะมีเพื่อนฉันมานะคะ”
“เพื่อน? คนไหน”
“ฟ้าใส กับคุณภูไงคะ”
เทิดไม่ชอบใจที่ภูฤทธิ์จะมา
“ทำไมต้องเป็นนายภูด้วย”
“อ้าว ก็เขาเป็นเพื่อนฉัน ต้องมีสิทธิ์มาบ้านนี้ได้ตามที่ตกลงกันไงคะ”
“ถ้าเป็นภูฤทธิ์ ฉันไม่นับตามสิทธิ์ของเธอหรอก” เทิดประชด
“ไม่ได้ค่ะ คุณตกลงแล้วก็ทำตามที่ว่าไว้ ถ้าวันนี้ฉันไม่ต้องสอน งั้นฉันขอตัวนะคะ”
น้ำผึ้งลุกแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปเลย นันท์มองตามงงๆ เทิดไม่กล้าลุกไปตามกลัวเสียหน้า
แพรวนภามองหน้าเมญ่า พยักพเยิดให้ตามไปดูแทน

ตรงมุมหนึ่งในสวนบ้านพัก น้ำผึ้งนั่งเศร้า เสียใจที่โดนดูถูก อยู่ในนั้น
“ผิดด้วยเหรอที่ฉันมันจน ไม่มีเงินไปเรียนเมืองนอก”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นฟ้าใสโทร.มา น้ำผึ้งรับสาย
“ว่าไงจ๊ะฟ้า”
“วันนี้ว่างรึเปล่า ฉันจะไปหา”
น้ำผึ้งยิ้มออกมาได้ ด้วยความดีใจ “จริงเหรอ ดีเลย ฉันกำลังเบื่อเลย!”
ฟ้าใสสงสัย “เบื่ออะไร เบื่อใคร เสียงแกเบื่อมากเลยนะเนี่ย”
“ไม่มีอะไรหรอก รีบมานะ วันนี้ฉันว่างมาก”
“จ้า”
น้ำผึ้งวางสาย ยิ้มกับตัวเองรู้สึกดีขึ้น

เมญ่าออกมาเดินเล่นด้านนอก คอยสังเกตการณ์ ดูทุกคนทุกอย่างในบ้านเทิดตามคำสั่งของแพรวนภา
สักครู่ก็เห็นรถของภูฤทธิ์ที่พีทเป็นคนขับแล่นเข้ามาจอดหน้าตึกใหญ่ เมญ่าฉากหลบซุ่มดู
พอเห็นภูฤทธิ์ลงมากับฟ้าใส ตามด้วยพีท เมญ่าก็จ้องแต่ภูฤทธิ์นัยน์ตาวิบวับแวววาว
“ตายแล้ว ใครน่ะ”
เมื่อเห็นภูฤทธิ์กับฟ้าใสเดินอ้อมไปทางด้านหลังของบ้านเทิด ส่วนพีทเดินไปทางร้านกาแฟ เมญ่ารีบตามภูฤทธิ์ไป

สองคนหยุดตรงหน้าบ้านพักน้ำผึ้ง ภูฤทธิ์คุยวิดีโอคอลกับลูกค้าที่สั่งดอกไม้
“ฉันสั่งลิลลี่สีขาว ทำไมคุณจัดมาให้ไม่ครบ” น้ำเสียงลูกค้าไม่พอใจมากเอาการ
“ต้องขอโทษจริงๆ ครับตอนนี้ที่ไร่มีลิลลี่สีขาวไม่พอ”
“แย่ที่สุดเลย ถ้างั้นฉันยกเลิก ไม่เอาแล้ว ฉันไปสั่งที่อื่นก็ได้”
ฟ้าใสเดินมาเห็นภูฤทธิ์กำลังเครียดจัด เลยตัดสินใจถามขึ้น
“มีอะไรรึเปล่าคะคุณภู”
“คุณฟ้า...มีปัญหาเรื่องออเดอร์ดออกไม้ที่ไร่นิดหน่อยน่ะครับ กำลังคุยอยู่”
“งั้นให้ฟ้าช่วยไหมคะ”
ฟ้าใสยื่นมือไปขอโทรศัพท์ ช่วยพูดให้
“ขอโทษนะคะคุณลูกค้า ฉันมีข้อเสนอใหม่มาให้ค่ะ”
“ขอเสนออะไร”
“เรื่องดอกลิลลี่เป็นเหตุสุดวิสัย ทางเราต้องขอโทษด้วย แต่คุณลูกค้าสนใจรับเป็นกุหลาบขาวแทนได้มั้ยคะ ดอกไม้สองอย่างนี้ความหมายเดียวกันนะคะ หมายถึงความรักบริสุทธิ์เหมือนกัน”
ลูกค้าเงียบไป เหมือนเริ่มสนใจ
“ความหมายเดียวกันเหรอ”
“ใช่ค่ะ ใช้ด้วยกันได้ ไม่ผิดคอนเซ็ปต์ของงานหรอกค่ะ”
“ก็ได้ งั้นจัดลิลลี่สีขาวมาเท่าที่มี ฉันเหมาหมด แล้วที่เหลือเป็นกุหลาบขาวแทนละกัน”
ภูฤทธิ์รับโทรศัพท์คืน ไปคุยต่อ
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีเรื่องอะไรจะแจ้งผมเพิ่มไหมครับ”
“ไม่มีแล้วค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะแย่ซะแล้ว โชคดีคุณผู้หญิงคนนี้ช่วยแก้ปัญหาให้ แหม คุณภูนี่เข้าใจหาผู้ช่วยนะคะ ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ มีข่าวดีเมื่อไรอย่าลืมบอกพี่ด้วยนะคะ”
ภูฤทธิ์งง
“ข่าวดีอะไรครับ”
“แหม ก็ข่าวดีงานมงคลไงล่ะคะ”
ภูฤทธิ์อึ้ง พูดไม่ออก ฟ้าใสได้ยิน อายมาก จะปฏิเสธ
“เอ่อ คือ...ฉันไม่...”
“พี่ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวไว้จะติดต่อมาใหม่”
ลูกค้าวางสายไป
ฟ้าใสเอ่ยขึ้น “คุณภูทำไมไม่บอกไปล่ะคะ เขาเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”
“เดี๋ยวก็คงลืมไปเองแหละครับ ขอบคุณที่ช่วยนะครับ”
“นิดหน่อยเองค่ะ คุณภูช่วยงานฟ้าตั้งหลายครั้ง”
“ยังไงก็ต้องขอบคุณอยู่ดีครับ”
“งั้นเอาเป็นว่าวันหลังค่อยเลี้ยงอะไรตอบแทนฟ้าแล้วกันค่ะ ดีไหมคะ”
“ได้สิครับ”
“งั้นเข้าไปในบ้านกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวน้ำผึ้งจะรอ”
ฟ้าใสเดินนำภูฤทธิ์พาเข้าไปในบ้านพักน้ำผึ้ง

ฝ่ายพีทมานั่งรอภูฤทธิ์กับฟ้าใสอยู่ที่ร้านกาแฟพรีโม มีลูกค้า เด็กสาววัยรุ่น 3 คน เข้ามาเลียบเคียงถาม
“พี่คะ พี่เป็นนายแบบหรือเปล่าคะ” สาว 1 ยิ้มเรี่ยราดถาม
“ไม่ใช่หรอกครับ พี่อยู่ไร่ภูฤทธิ์ติดๆ กันเนี่ย”
สาว 2 บอกว่า “จริงอ่ะ ชาวไร่ทำไมหล่อจัง พวกหนูขอถ่ายรูปกับพี่ได้มั้ยคะ”
“ได้ครับ”
พีทยืนนิ่งๆ ยิ้มแย้มถ่ายรูปกับสาวๆ
“ขอบคุณค่ะ”
ถ่ายรูปเสร็จ สาวเหล่านั้นก็ระริกระรื่นออกไป คาดว่าจะรีบโพสต์อวดเพื่อนในเฟซบุ๊ค
มาร์คเดินมาเสิร์ฟกาแฟ พูดประชดขึ้นว่า
“ไม่ต้องเติมน้ำตาลแล้วมั้ง หวานพอละ”
พีทรู้ว่ามาร์คหึง เลยกอดคอมาร์ครั้งเข้ามาหาตัวเอง มาร์คตกใจ
“คุณพีททำอะไรครับ”
พีทถ่ายเซลฟี่คู่กับมาร์ค กดเซ็ตรูปคู่ไว้ที่หน้าจอสมาร์ทโฟน แล้วยื่นให้มาร์คดู
“เอาไว้ดูเวลาไม่เจอกันไง”
มาร์คเขิน
“คุณพีท...ทำอย่างกับเด็กๆ ผมไปทำงานก่อนนะ งานเพียบเลยวันนี้”
มาร์คเขินมาก รีบหนีไปชงกาแฟ แต่ขณะชงกาแฟ พอเงยหน้ามองมาเห็นพีทยิ้มให้ก็ยิ่งเขินหนัก จนชงกาแฟผิดๆ ถูกๆ พีทเห็นแล้วขำ

ส่วนที่โถงบ้านพัก ภูฤทธิ์และฟ้าใสนั่งคุยอยู่กับน้ำผึ้ง
“เป็นไงบ้างครับ บ้านหลังใหม่”
“น้ำผึ้งว่าดีเลยนะคะคุณภู ถึงจะเป็นบ้านหลังเก่าแต่สภาพยังดีเหมือนใหม่อยู่เลย แค่ทำความสะอาดก็ดีเหมือนเดิมแล้ว”
“ฉันว่าดีเลยนะ เป็นส่วนตัวดีด้วย”
“คุณเทิดเขาก็มีน้ำใจใช้ได้นะครับ ถึงขนาดยกบ้านนี้ให้คุณน้ำผึ้ง”
“แต่ฟ้าว่า ดูใจดีผิดวิสัยเขาไปหน่อยนะคะ”
“ตั้งแต่มีเรื่องคุณนันท์ตอนไปแคมป์ เขาก็เริ่มดีกับฉันบ้างแล้วละ พวกเสื้อผ้านี่ด้วย เขาบอกว่าตอบแทนเรื่องคุณนันท์”
ฟ้าใสไม่อยากเชื่อ “จริงเหรอ แปลกจริงๆ”
“ไม่มีอะไรหรอกฟ้า เขาเป็นเจ้านายฉัน แค่เขาไม่เอาแต่ว่าฉันเหมือนเมื่อก่อนมันก็ดีมากแล้ว”
“นั่นสิครับ คุณน้ำผึ้งจะได้ทำงานอย่างสบายใจด้วย”
ภูฤทธิ์ไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น้ำผึ้งเริ่มมีต่อเทิด แต่ฟ้าใสรับรู้ท่าทีนั้นของเพื่อน

เมญ่าเดินผ่านมา ได้ยินเสียงคนคุยกันจึงแอบซุ่มมองดู อย่างคนสอดรู้สอดเห็น
“อย่างนี้ ต้องรายงานคุณแพรว”
เมญ่ายิ้มกระหยิ่ม เดินออกไป

แพรวนภาสอนหนังสือเสร็จพอดี
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ”
“ขอบคุณอานตี้แพรวมากครับ” นันท์ยิ้มไหว้ขอบคุณ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณนันท์”
“ผมต้องขอบคุณคุณเหมือนกันที่มาสอนนันท์”
“แพรวเต็มใจ นันท์เองก็หลานแพรวเหมือนกัน”
หอมถามขึ้นว่า
“นายครับ แล้วอย่างนี้ครูน้ำผึ้งจะทำยังไงครับ บ้านก็ย้ายไปหลังโน้นแล้ว มันก็ไม่เหมือนที่ตกลงว่าอยากให้ครูอยู่ใกล้ๆ คุณนันท์สิครับ”
เทิดนึกได้ “ฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย”
แพรวนภาคิดปราดเดียว รีบเสนอขึ้นว่า
“งั้นเอาแบบนี้ไหมคะ ถ้าวันไหนคุณนันท์ต้องเรียนกับครูน้ำผึ้ง ก็ให้คุณนันท์ย้ายไปเรียนที่ตึกหลังเลย ดีไหมคะ”
“นันท์เห็นด้วย อยากไปตึกหลังครับพ่อ”
เทิดคิดตามคำพูดแพรวนภา
“ผมว่าก็ดีนะ งั้นเราไปหาครูที่ตึกหลังกันไหมคุณนันท์”
ขณะเมญ่าเดินบิดตูดเข้ามาในห้องเรียนได้ยินพอดีเลยโพล่งขึ้น
“โอ๊ย อย่าเพิ่งไปหาเขาตอนนี้เลยค่ะ เมื่อกี้เมญ่าเห็นนั่งคุยอยู่กับผู้ชายเพลินเชียว คงไม่อยากให้ใครรบกวนมั้งคะ”
เทิดสนใจทันทีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นภูฤทธิ์แน่
“เขาคุยกับใคร ไอ้ภูฤทธิ์เหรอ”
“เมญ่าไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่ตัวสูงๆ ผิมเข้ม ท่าทางดูดีเชียว”
เทิดหน้าตึงไม่พอใจ จู่ๆ ก็ลุกขึ้น
“ผมขอตัวก่อนนะแพรว”
แพรวนภากับเมญ่ามองตามสีหน้าแปลกใจที่เทิดรีบร้อนออกไปแบบนั้น
“เทิด รอด้วยสิคะ”
แพรวนภากับเมญ่ารีบตามไป

หอมและนันท์มองตาม แปลกใจนิดๆ แต่ไม่ได้สนใจอะไร

อ่านต่อหน้า 4




มนต์รักอสูร ตอนที่ 18

ตรงโต๊ะสนามบริเวณมุมนั่งเล่นในสวนสวยหน้าบ้านพักของน้ำผึ้ง เสียงโทรศัพท์มือถือฟ้าใสดังขึ้น

“เดี๋ยวฉันมานะ”
ฟ้าใสบอกน้ำผึ้งแล้วลุกเดินออกไปคุยโทรศัพท์ห่างออกไป
น้ำผึ้งนั่งคุยกับภูฤทธิ์หัวเราะหัวใคร่กันสนุกสนาน เทิดเข้ามาเห็นน้ำผึ้งอยู่กับภูฤทธิ์ตามลำพังก็ไม่พอใจ
ภูฤทธิ์หันมาเห็น “คุณเทิด”
เทิดแดกดันภูฤทธิ์ทันที “งานการไม่มีทำหรือไง ชอบมาวุ่นวายที่ไร่คนอื่นอยู่เรื่อย”
“งานน่ะผมมีครับ แต่วันนี้คุณฟ้าชวนมาเยี่ยมคุณน้ำผึ้งผมก็เลยมา”
“แล้วไหนล่ะฟ้าใส”
“ฟ้าออกไปโทรศัพท์ข้างนอกน่ะค่ะ เดี๋ยวคงเข้ามา”
“งั้นเหรอ” เทิดพูดเหมือนไม่เชื่อนัก

ระหว่างนี้ แพรวนภากับเมญ่าตามมาสมทบ แพรวนภามองปราดเดียวเห็นมาดภูฤทธิ์ดูดีก็ยิ้มโปรยเสน่ห์ไปให้
“สวัสดีค่ะ คุณคือ...”
“ผมภูฤทธิ์ครับ ผมทำไร่ดอกไม้ที่อยู่ติดกับไร่คุณเทิดนี่เอง” ภูฤทธิ์ยิ้มแนะนำตัว
“ฉันแพรวนภานะคะ เป็นพี่สาวพริมภรรยาของเทิด”
ภูฤทธิ์แปลกใจนิดๆ แต่ก็ทักทายตอบไปตามมารยาท
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“แพรวสนใจพวกดอกไม้อยู่เหมือนกันนะคะ ถ้าวันหลังจะขอไปเยี่ยมไร่คุณบ้างจะเป็นไรไหมคะ”
เทิดมองเขม่น เผลอพูดประชดภูฤทธิ์ขึ้นมา เพราะหมั่นไส้เรื่องใกล้ชิดน้ำผึ้ง
“เขาไม่ขัดข้องหรอก คุณภูเขาเป็นคนมีน้ำใจ กับเพื่อน เขาทุกคน” คำตอนท้ายเทิดเน้นเสียงตาจ้องน้ำผึ้งเขม็ง
แพรวนภาเข้าใจผิดคิดว่าเทิดไม่พอใจภูฤทธิ์เพราะตัวเองก็ยิ่งได้ใจ ทำเป็นคุยดีกับภูฤทธิ์เข้าไปใหญ่
“แล้วถ้าแพรวจะขอไลน์คุณภูไว้เผื่อติดต่อเรื่องสั่งดอกไม้จะรบกวนไหมคะ”
“ไม่รบกวนหรอกครับ ผมยินดี”
“งั้นรบกวนด้วยนะคะ”
แพรวนภาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแลกไลน์กับภูฤทธิ์ ฟ้าใสเดินกลับเข้ามาเห็นพอดี และไม่พอใจ น้ำผึ้งหันมาเห็นฟ้าใส
“ฟ้า มาพอดีเลย ฉันจะแนะนำให้รู้จัก”
แพรวนภายิ้มทักฟ้าใสตามมารยาท
“นี่ฟ้าใส เพื่อนสนิทฉันเองค่ะ ฟ้านี่คุณแพรวพี่สาวคุณพริม”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” แพรวนภาหันไปหาภูฤทธิ์ “ขอบคุณคุณภูมากนะคะ ไว้แพรวจะติดต่อไป”
เทิดลอบมองน้ำผึ้งด้วยความรู้สึกแปลกๆ ไม่ชอบใจเวลาที่เห็นเธออยู่ใกล้ชิดกับภูฤทธิ์
ฟ้าใสเองก็ไม่ถูกชะตากับแพรวนภาสักเท่าไหร่นัก ส่วนแพรวนภากลับมโนไปเองว่าทุกคนสนใจตัวเอง
 
โดยเฉพาะหล่อนนึกสนุกที่เห็นเทิดทำท่าเหมือนหึงตัวเอง แต่จริงๆ แล้ว เทิดไม่ได้คิดอะไรด้วยเลยสักนิด

ภูฤทธิ์กับฟ้าใสเดินไปขึ้นรถ ฟ้าใสดูหงุดหงิดมาตลอดทางจนดูออก ภูฤทธิ์ตามมาจับแขนฟ้าใสไว้
“คุณฟ้า เป็นอะไรครับ ดูอารมณ์ไม่ดีเลย” ฟ้าใสหงุดหงิดไม่คลาย “โกรธอะไรผมรึเปล่า”
“ไม่ใช่คุณภูหรอกค่ะ แต่เป็นคุณแพรวนภานั่นต่างหาก บอกตามตรง ฟ้ารู้สึก ไม่ถูกชะตาเลย”
ภูฤทธิ์ยิ้มขำฟ้าใส
“ขำอะไรคะ ฟ้าหงุดหงิดจริงๆ นะ”
“เพิ่งเคยเห็นเวลาคุณหงุดหงิด เห็นหน้าหวานๆ เวลาโกรธน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย”
“ฟ้าก็อารมณ์ไม่ดีไปตามเรื่องน่ะค่ะ ว่าแต่คุณเถอะ คงจะชอบคนสวยแบบนั้นล่ะสิ”
“อืม...ก็ใช่นะ เขาสวยจริงๆ แถมยังมีเสน่ห์มากด้วย”
“ใครเห็นก็คงชอบเขาหมดสินะคะ บางคนก็แลกไลน์กับเขาด้วยเลย”
ภูฤทธิ์ฉงน “หมายถึงผมเหรอ”
“ฟ้าก็พูดถึงทุกคนนั่นแหละค่ะ กลับกันดีกว่าค่ะ ฟ้ามีธุระต่ออีก”
ฟ้าใสเดินจ้ำหนีไป ภูฤทธิ์งง ตะโกนไล่หลังไป
“เป็นอะไรไปครับคุณฟ้า คราวนี้จะไปส่งผมที่แปลกๆ อีกไหมเนี่ย”
ฟ้าใสไม่ฟังเดินนำลิ่วๆ ไปเลย

น้ำผึ้งออกมาส่งเทิด หลังจากแพรวนภากับเมญ่ากลับไปก่อนแล้ว
“ฉันมาทำที่นี่วุ่นวายรึเปล่าวันนี้”
“ถ้าคุณวุ่นวาย แล้วฉันมีสิทธิ์ว่าคุณด้วยเหรอคะ”
“อย่ามาย้อนสิ ฉันถามดีๆ แล้วนะ”
“ไม่ได้วุ่นวายหรอกค่ะ ที่นี่บ้านคุณ คุณมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้”
“แต่สิทธิ์นั่นไม่รวมกับที่เธอพานายภูมาที่นี่ใช่ไหม”
น้ำผึ้งยิ้มขำๆ
“ใช่สิคะ นั่นอยู่ในข้อตกลงของเรานี่”
“คราวนี้ฉันยอมเธอก่อนก็ได้ แต่ถ้าฉันรู้อีกว่า เธอพาใครมาโดยพลการ ฉันจะยกเลิกข้อตกลง”
“ทำไมล่ะคะ ฉันนึกว่าคุณจะหัดทำตัวใจดีกับเขาบ้างแล้วซะอีก”
“ฉันมันก็ไม่ดีตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกัน”
น้ำผึ้งคร้านจะทะเลาะกับเทิด เลยยอมไปก่อน
“ครั้งนี้ฉันก็จะยอมคุณเหมือนกันค่ะ เพราะฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณ มันจะมีผลกับเรื่องที่ฉันกำลังจะขอ”
“ขออะไรอีก”
“ฉันจะขอคุยกับคุณเรื่องสมัครเรียนให้คุณนันท์ค่ะ ฉันเช็ควันสมัครมาแล้ว แต่คงต้องให้คุณช่วยเลือกโรงเรียน”
เทิดนิ่งคิด “ก็ดีนี่ แล้วเธอจะคุยเมื่อไหร่”
“หลังคุณทานอาการเย็นเสร็จก็ได้ค่ะ ฉันจะไปเอาเอกสารก่อน แล้วจะไปรอที่บ้านคุณ”
“งั้นก็ตามนั้น”
“ค่ะ ไว้เจอกันนะคะ”
เทิดเดินจากไป น้ำผึ้งแยกไปหยิบเอกสารที่ว่า

แพรวนภาแต่งตัวสวยงาม นั่งคุยกับเมญ่าอยู่ในห้อง
“คุณแพรวขา วันนี้เมญ่าเห็นนะคะ ว่าคุณแอบขอไลน์คุณภูต่อหน้าคุณเทิด”
“เขาก็น่าสนใจดี เป็นถึงเจ้าของไร่ดอกไม้ใหญ่โต ผูกมิตรไว้ก็ไม่เสียหาย”
“แล้วคุณเทิดล่ะคะ”
“เทิดน่ะเป็นเหตุผลที่ฉันต้องมาที่นี่ ยังไงฉันก็จะไม่ยอมเสียเขาไปอีก เธอเห็นอาการเขาวันนี้ไหม”
“อุ๊ย จริงด้วยค่ะ คุณเทิดเหมือนจะหึงคุณแพรวเลย”
“ฉันกับเทิดน่ะคบกันตั้งนาน ถ่านไฟเก่านะจุดเดี๋ยวเดียวมันก็ติด ฉันจะไม่ยอมพลาดอีกแน่”
“เมญ่าเชื่อว่าคุณแพรวจะไม่พลาด แน่นอนค่ะ”
แพรวนภายิ้มเจ้าเล่ห์ คิดแผนต่อไปในหัว

น้ำผึ้งมารอเทิดอยู่ที่ลานน้ำพุหน้าตึก เจอพรเดินออกมาพอดี
“อ้าว คุณครู ถือของมาเยอะแยะเชียวค่ะ”
“ฉันจะมาคุยกับคุณเทิดเรื่องสมัครเรียนให้คุณนันท์น่ะค่ะป้าพร คุณเทิดอยู่ไหมคะ”
“นายออกไปที่บาร์น่ะค่ะ แต่เห็นว่าไปเช็คสต็อคของ เดี๋ยวคงกลับมั้งคะ”
“งั้นฉันนั่งรอที่นี่ได้ใช่ไหมคะ”
“ได้สิคะ ตามสบายเลย เดี๋ยวป้าเอาน้ำมาให้”
น้ำผึ้งเดินไปนั่งรอเทิด ป้าพรเข้าครัวไปเอาน้ำมาให้

เทิดนั่งอยู่ในบาร์ไวน์ในไร่องุ่นคนเดียว ตรวจเช็คบัญชี ออเดอร์ สินค้า แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคนยื่นแก้วไวน์มาให้ เทิดหันมาเห็นแพรวนภามานั่งลงข้างๆ ก็แปลกใจ
“แพรว มาที่นี่ได้ยังไง”
“แพรวเบื่อๆ น่ะค่ะ เลยอยากมาหาที่นั่งชิวๆ ดีเหมือนกันที่เจอคุณอยู่ที่นี่ ดื่มด้วยกันก่อนสิคะ”
แพรวนภามองเทิดด้วยสายตาเว้าวอน แต่เทิดไม่สนใจนัก
“ผมมีธุระต้องไปทำต่ออีก คุณเองก็ไม่ควรมาอยู่ที่นี่”
“ทำไมเทิดถึงพูดจาเย็นชากับแพรวแบบนี้ล่ะคะ”
“ผมไม่ได้เย็นชาใส่คุณ”
“งั้นเทิดอย่าเพิ่งไล่แพรวเลยนะคะ ขอแพรวอยู่ที่นี่กับคุณอีกสักพัก แพรวมีเรื่องอยากคุยกับคุณ”
แพรวนภาค่อยๆ ยื่นมือไปจับมือเทิด แววตาอ้อนวอน
“คุณจะคุยเรื่องอะไร”
แพรวนภาตีหน้าเศร้า “แพรว...คิดถึงพริมค่ะ”
เทิดชะงักไป นิ่งงันไป ฟังแพรวนภาพูดต่อ
“แพรวคิดว่ามันก็ผ่านมาช่วงนึงแล้ว เราคงจะลืมความรู้สึกเสียใจตอนนั้นได้ แต่ยิ่งมาอยู่ที่นี่ เห็นที่ที่พริมเคยอยู่ เห็นนันท์ แพรวถึงรู้ว่ามันยากเหลือเกินที่จะลืมคนที่เรารัก”
เหมือนถูกจี้ใจ เทิดไม่ตอบ หันไปคว้าแก้วไวน์มาดื่มรวดเดียวหมด
“คุณจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม”
แพรวนภาทำเสียงเศร้าลงอีก
“เพราะแพรวรู้ ว่าคุณคงคิดถึงพริมเหมือนแพรว”
เทิดนึกถึงพริม คิดทวนหวนย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ อีก
“ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงพริม” เทิดบอกน้ำเสียงเศร้า
แพรวนภาเยื้อนยิ้ม รู้จุดอ่อนของเขาดี ขยับเข้าใกล้กุมมือเทิดไว้
“ให้แพรวอยู่เป็นเพื่อนคุณนะคะ เราสองคนสูญเสียคนที่เรารักเหมือนกัน ไม่มีใครเข้าใจคุณเท่ากับแพรวหรอกค่ะเทิด”

แพรวนภารินไวน์ส่งให้ เทิดรับมาดื่ม แพรวนภายิ้มในสีหน้ามองอดีตคนรักอย่างพอใจ

อ่านต่อตอนที่ 19


กำลังโหลดความคิดเห็น