สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 24 อวสาน
พรรณรีบขับรถไป ตั้งจีพีเอส ตามพิกัดที่น้ำวาดแผนที่มาให้ แล้วกำลังจะต่อมือถือบอกพันกร
“ต้องบอกคุณกร”
มือถือดังขึ้นเสียก่อน เธอเห็นว่าเอกราชโทรมา รีบกดรับแล้วพูดผ่านบลูทูธ
“พี่เอก เราช้าไปก้าวหนึ่ง แพนกับแม่มาหลอกคุณหญิงว่าจะพาไปบ่อนเปิดใหม่ แต่จริงๆ เป็นแผนการของเสี่ยเป้ที่จะจับตัวไปเรียกค่าไถ่”
“นั่นไง ไอ้เสี่ยเจ้าเล่ห์มันคิดจะหนี ไม่มีเงินเพราะถูกอายัดเลยเล่นวิธีสกปรก แล้วมิวรู้ได้ไงอะ”
“น้ำบอก ตอนนี้มิวกำลังขับรถตามไป”
“เฮ้ย พี่ไปด้วย”
“พี่เอก ฟังดีๆ นะ พี่ไม่ต้องไป พี่แค่ไปบอกท่านรองให้ส่งทีมตามไปสมทบ มิวจะส่งข่าวเป็นระยะๆ”
“ได้ๆ แล้วมิวบอกผู้กองพันกรหรือยัง”
“ก็ว่าจะบอก แต่พี่โทร.มาก่อนไง”
พันกรเห็นเอกราชคุยมือถืออยู่แล้วเอ่ยชื่อประภาพรรณก็สงสัย
“แค่นี้ก่อนนะ มิว พอดีผู้กองพันกรอยู่ตรงนี้ พี่จะเล่าให้ฟังเอง”
“คุณเอก มิวเป็นอะไร”
พันกรตั้งใจฟังเรื่องที่เอกราชเล่า
รถตู้ที่กล้าขับแล่นมาจอดที่หน้าบ้านชั้นเดียวที่ห่างไกลจากถนนสายหลักหลายกิโลเมตร รอบๆ เป็นป่าหญ้าท่วมสูงเหนือศีรษะ มองไปไม่มีบ้านใครเลยในละแวกนี้ ปทุมวดีนอนหลับมา พอรู้สึกตัวว่ารถหยุดก็ลืมตาตื่นแล้วงัวเงียถาม
“ถึงแล้วเหรอ นายกล้าเนี่ยขับรถดีนะ ฉันเผลอหลับไปได้ไงเนี่ย”
กะเทยหน้าดุกับชายผอมหน้าเหี้ยมต้องหลบซ่อนตัวมาตลอดทางรีบพูดขึ้น พร้อมสะบัดเนื้อตัวเตรียมลงจากรถตู้
“ป้าสบาย แต่พวกฉันเมื่อยจะแย่อยู่แล้ว”
“ใช่ ลงจากรถสักที จะได้จบงาน รับเงิน”
ปทุมวดีตกใจที่เจอกะเทยหน้าดุกับชายผอมหน้าเหี้ยมอยู่ในรถด้วย หันไปถามบุหงากับดวงแก้ว
“พวกแกสองคนเป็นใคร คุณดวงแก้ว หนูแพน”
“ถ้าคุณหญิงป้าอยากรู้ก็ลงจากรถสิคะ”
“ใช่ อย่ามัวลีลา ฉันเองก็เมื่อยเหมือนกัน”
กล้ารีบลงไปเปิดประตูรถตู้ด้านข้าง แล้วผายมือเชิญปทุมวดีอย่างลืมตัว
“เชิญครับ คุณหญิง”
บุหงาหันไปแหวใส่กล้าเสียงดัง
“ไอ้พี่กล้า ไม่ต้องต้อนรับขับสู้ขนาดนั้นก็ได้”
ปทุมวดีลงรถไป มองไปรอบๆ แล้วงงหนัก ยิ่งเห็นกิริยาท่าทางของสองแม่ลูกเปลี่ยนไปด้วย
“เนี่ย มันเหมือนบ้านร้าง หนูแพน คุณดวงแก้ว ไหนว่าจะพาไปบ่อนเปิดใหม่”
“ถ้าอยากไปบ่อนเปิดใหม่ ก็รอไปเกิดใหม่ก่อนดีกว่ามั้ง เข้าไป”
ดวงแก้วผลักปทุมวดีให้เดินเข้าไป กะเทยหน้าดุกับชายผอมหน้าเหี้ยมมองและพูดขู่พร้อมกัน
“ให้ไว”
รถของประภาพรรณตามมาทันพอดีเห็นเหตุการณ์
“พวกแกจะทำอะไร ปล่อยคุณแม่สามีเดี๋ยวนี้นะ”
ปทุมวดีหันไปเห็นประภาพรรณเหมือนเห็นนางฟ้ารีบร้องให้ช่วย
“หนูมิว ช่วยแม่ด้วย นางฟ้าของแม่”
ประภาพรรณกำลังจะขยับเดินเข้ามา กล้าทำหน้าเหี้ยมหยิบปืนออกมา แล้วเก๊กเสียงเข้ม
“ถ้าไม่อยากให้หน้าผากยัยคุณหญิงชอบรำพัดเนี่ยมีรู มานี่ มารวมตัวกันไว้”
ประภาพรรณกลัวว่ากล้าจะยิงปทุมวดีจริงๆ เลยยอมเดินไปสมทบกับปทุมวดี
“ใจเย็น นายกล้า ฉันจะเดินมาล่ะนะ”
บุหงายิ้มร้าย สั่งการกล้าทันที
“พามันสองคนไปขังไว้ในบ้าน”
ปทุมวดีกับประภาพรรณถูกกล้า กะเทยและชายผอม คุมตัวเดินเข้าไปในบ้าน สองแม่ลูกมองหน้ากันสาแก่ใจ
เสี่ยเป้ยังคงกบดานอยู่ที่บ้านพักริมทะเล คุยมือถือกับบุหงาอย่างพอใจ
“หนูแพนทำดีมาก สมกับเป็นหุ้นส่วนคนใหม่ของเสี่ย ตอนค่ำๆ เสี่ยจะไปสมทบตามแผนนะจ๊ะ”
เสี่ยเป้วางสายแล้วหัวเราะตาเป็นประกาย ก่อนจะกดมือถือหาพันกร พันกรสวมชุมพร้อมจะออกภาคสนามประจำที่รถ กำลังคุยมือถือกับเสี่ยเป้
“จะกี่ร้อยล้านก็แลกคุณหญิงแม่กับมิวไม่ได้ แกอยากได้เงินก็เอาไป แต่ว่าจะให้เอาไปส่งที่นรกขุมไหนล่ะ”
ปทุมวดีกับประภาพรรณถูกล้อมอยู่ในห้องที่เตรียมไว้เป็นที่ขัง บุหงา ดวงแก้ว กล้าถือปืนไว้ ยืนรวมตัวกัน กะเทยหน้าดุกับชายผอมหน้าเหี้ยม ยืนคุมเชิงอยู่ที่ประตูห้องกันหนี ปทุมวดีเริ่มได้สติแล้วปะติดปะต่อเรื่องราว ตัดสินใจถามบุหงา
“หนูแพนหลอกป้ามาที่บ้านร้างทำไม ไม่มีบ่อนเปิดใหม่จริงๆ ใช่มั้ย”
“แหม คุณหญิงป้า สงสัยเมื่อเช้าจะกินปลานะคะ เริ่มฉลาดขึ้นมาบ้าง”
ปทุมวดีรู้ทันทีว่าถูกบุหงาประชดว่าโง่ มองไปที่ปืนของกล้า รู้ว่าเจอเรื่องไม่ดีแน่ เสียงเริ่มสั่น
“แล้วหนูแพน ทำอย่างนี้ต้องการอะไร”
ประภาพรรณเห็นอาการสั่นของปทุมวดีก็รีบกระซิบให้หายกลัว
“คุณแม่สามีไม่ต้องกลัวนะคะ”
ปทุมวดีได้แต่พยักหน้าน้อยๆ แต่ห้ามตัวเองไม่ให้กลัวไม่ได้ ดวงแก้วเชิดหน้าด้วยความสะใจ แล้วยกมือขึ้นเหมือนเล่มเกมโชว์ทางทีวี
“คำถามนี้ ฉันขอตอบแทนนะจ๊ะ”
กล้ารีบตกลง
“จัดไปครับ”
“เพื่อเงินไง”
ปทุมวดีมองดวงแก้วแล้วก็บุหงา พยายามคิด เพราะยังเข้าใจว่าสองคนร่ำรวย แต่ทำไมต้องการเงิน
“เงินเหรอ ก็คุณดวงแก้วแล้วก็หนูแพนออกจะร่ำรวย ไฮโซ แล้วทำไม”
บุหงาเดินเข้ามา เอานิ้วจิ้มที่หน้าผากของประภาพรรณเพื่อระบายความแค้น
“เพราะนังนี่ไง นังมิว นังสะใภ้ตัวแสบ รสแซ่บของแกไง มันช่างทนทานได้ทุกสถานการณ์ จะทำยังไงมันก็ไม่ยอมถอย ไม่ยอมปล่อยคุณพันกรให้มาเป็นผัวของฉันสักที”
ประภาพรรณยิ้ม ไม่ตอบโต้บุหงา แต่มองด้วยสายตาสมเพช กล้าเผลอพูดความจริงออกมา
“อย่าเข้าใจผิดกันนะ จริงๆ น้องแพนของพี่กล้าไม่ได้อยากได้ผู้กองที่หน้าตางั้นๆ มาเป็นซะมีหรอก น้องแพนแค่อยากได้เงินสักก้อน เพื่อไปสร้างครอบครัวแสนสุขกับพี่กล้าต่างหาก”
บุหงาหันขวับไปมองหน้ากล้า
“พี่กล้า หุบปาก”
กล้าไม่กล้าสมชื่อ หุบปากทันที ประภาพรรณแอบหัวเราะน้อยๆ กะเทยหน้าดุกับชายผอมหน้าเหี้ยมเกือบหลุดขำ พยายามเก็บอาการเต็มที่
น้ำยื่นแผนที่ให้เอกราชรับไป
“ขอบใจมากน้ำที่ร่วมมือ”
“น้ำก็ไม่อยากให้ใครเป็นอะไรนะ พี่เอก ขอให้ช่วยพี่มิวกับคุณหญิงสำเร็จนะคะ”
เอกราชพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะขับรถออกไป น้ำยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดกับตัวเอง
“ช่วยให้พวกมันไปพ้นๆ ไวๆ ต่างหาก”
เอกราชคุยมือถือผ่านบลูทูธกับพันกร
“ผมได้แผนที่จากน้ำแล้วครับ ผู้กอง เดี๋ยวผมส่งไลน์ไปให้นะครับ”
บุหงาหรี่ตามองปทุมวดีด้วยท่าทางเชิดๆ ถามอย่างเป็นต่อ
“จะฟังต่อมั้ย ว่าทำไม นังแก่”
ปทุมวดีสะดุ้งที่บุหงาแสดงธาตุแท้ออกมาเรื่อยๆ ฉากหน้าเจ้าทางเหนือหายไปสิ้น รีบพยักหน้าว่าฟัง
"เพราะแกไง ดันไม่อยากได้นังมิว ลูกกำพร้าที่มาจากแก๊งต้มตุ๋นกลับใจเป็นสะใภ้ แล้วมาให้ความหวังกับฉันว่าจะได้เป็นสะใภ้ตัวจริง"
"ขอให้ช่วยกันหาทางเฉดหัวนังนี่ออกไปจากชีวิตลูกชาย แต่ทำยังไง นังนี่มันก็ไม่กระเด็นไปสักที มีแต่จะเกาะติดยิ่งกว่ากาว"
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 24 อวสาน (ต่อ)
ปทุมวดีได้ยินแล้วลมจะใส่ ท่าทางโงนเงน ประภาพรรณเห็นท่าไม่ดี รีบควานหายาดมในกระเป๋าถือปทุมวดีแล้วส่งให้ดมพร้อมประคองไว้
ค่อยๆ ดมช้าๆ ตั้งสติไว้นะคะ คุณแม่สามี”
ปทุมวดีรีบรับยาดมมาดม พยายามทำตามที่ประภาพรรณบอก บุหงาหัวเราะสะใจ
“รักกันจริงๆ โว้ย แต่เสียดาย มารักกันสายไป”
“อย่ามัวแต่ลีลา มีแต่น้ำ รีบบอกเงื่อนไขของคุณมาดีกว่า”
บุหงามองประภาพรรณกร้าวแล้วหันมาสั่งกล้า
“จับนังแก่มัดไว้ที่เก้าอี้ แล้วนังนี่มัดไว้อีกตัว เอาทั้งมือทั้งเท้าเลยนะ มันแสบ อาจจะคิดตุกติก”
กล้ารีบถลาจับมือปทุมวดีไพล่หลังแล้วมัดมือพร้อมมัดเท้าไว้ที่เก้าอี้ตัวแรก ปทุมวดีเริ่มร้องไห้เพราะทนไม่ไหวแล้ว แต่ก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองโง่
“ฉันไม่น่าเป็นคนดีหลวมตัวเชื่อสองแม่ลูกมหาภัยเนี่ยเลย”
“คนดีเหรอ อย่างแก แถวบ้านฉันเขาเรียกโง่ว่ะ”
ดวงแก้วหัวเราะ ทุกคนหัวเราะตาม ประภาพรรณอาศัยจังหวะที่ทุกคนเผลอ พยายามจะแอบกดมือถือหาพันกร แต่ลูกน้องหันมาเห็นพอดี
“แกคิดจะทำไร”
“มือถือนี่นา”
กล้ารีบมารับมือถือของประภาพรรณไปส่งให้บุหงา แล้วเข้าไปจับมือประภาพรรณไพล่หลังมัดมือเท้าติดเก้าอี้อีกตัวไว้ ประภาพรรณหาจังหวะจะหยิบปืนมาสู้ แต่กระเป๋าถือที่ติดตัวมา ถูกจับโยนไปไว้ไกลเกินเอื้อม บุหงามองเบอร์ที่ประภาพรรณจะโทร.ออก ก็กดปิดเครื่องพร้อมเก็บมือถือเอาไว้
“ร้ายนักนะนังนี่ สมกับเป็นสายลับตำรวจจริงๆ”
ปทุมวดีได้ยินสิ่งที่บุหงาพูดก็งง หันไปถาม
“ใครเป็นสายลับ”
“อีนี่ก็โง่จนหยดสุดท้าย ลูกสะใภ้แกไง มันเป็นสายลับ”
ปทุมวดีมองหน้าประภาพรรณที่พยักหน้ายอมรับ เธอเริ่มตาสว่าง
จ่าแหนมรับหน้าที่ขับรถให้พันกรนั่งคู่มาคุมทีม ด้านหลังมีหมวดบัญญัติกับจ่าพนมมาด้วย พันกรเช็กไลน์ภาพแผนที่ที่เอกราชส่งมาให้แล้วบอกทุกคน
“แผนที่ครับ”
“ขอพิกัดด้วยครับ ผู้กอง ผมจะได้ซิ่งไปในทันใด”
รถเสี่ยเป้แล่นเข้ามาจอด บรรยากาศรอบๆ ข้างเริ่มจะค่ำ ป่าหญ้าที่สูงท่วมศีรษะยิ่งทำให้ดูมิดชิดติดตามยากขึ้น บุหงายืนรออยู่แล้ว รีบเข้าไปหา
“เสี่ย ข้างในเลยค่ะ”
เสี่ยเป้รีบตามบุหงาเข้าไป ประภาพรรณเห็นเสี่ยเป้ตามบุหงาเข้ามา ปทุมวดีถูกมัดแต่หลับซบไหล่ของประภาพรรณอยู่ ประภาพรรณรีบกระซิบกับปทุมวดีให้รู้ตัว
“คุณแม่สามีคะ ตื่นค่ะตื่น เสี่ยเป้มาแล้วค่ะ”
ปทุมวดีลืมตา สบตากับเสี่ยเป้ที่ยิ้มยียวนกวนประสาทให้
“เสี่ยเป้ เป็นแกจริงๆ ด้วย แกจับพวกฉันมาทำไม”
“เรียกค่าไถ่ ทีแรกว่าจะเรียกสัก 100 ล้าน แต่ได้เหยื่อมาเพิ่มอีกราย คงต้องเพิ่มเป็น 200 ล้าน ดูสิไอ้ผู้กองพันกรหน้าซื่อ จะยอมจ่ายมั้ย”
“แกมันก็เหมือนหมาจนตรอก ไม่กล้าสู้กันซึ่งหน้า วิ่งหางจุกตูดหนี”
เสี่ยเป้โมโหตบหน้าประภาพรรณ
“นังนี่ ไม่ต้องพูดมาก เพราะแก เลยทำให้บ่อนของฉันถูกปิด แกจะต้องชดใช้”
ปทุมวดีกลัวว่าประภาพรรณจะถูกทำร้ายมากกว่านี้ รีบต่อรอง
“พอเหอะ อยากได้เงินก็บอกสามีฉัน บอกลูกชายฉันแล้วก็ปล่อยพวกเราไปได้แล้ว ไม่ต้องทำร้ายใครเพิ่มหรอกน่า”
“เงินน่ะ ยังไงเราก็ต้องได้ แต่จะปล่อยให้นังมิวลอยนวลไปง่ายๆ แพนไม่ยอมนะคะเสี่ย”
เสี่ยเป้ยิ้มร้ายแล้วมองไปที่กล้ากับลูกน้องสองคน
“หนูอยากจะเอาคืนมันยังไง ก็จัดการไป”
เสี่ยเป้พูดจบก็จับคางประภาพรรณมาบีบ ประภาพรรณพยายามฝืนจะขัดขืนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือเท้าถูกมัดอยู่
“แล้วเสี่ยไม่อยากได้มันบ้างเหรอคะ”
“ไม่เอา ไม่มีอารมณ์ เสี่ยจะหลบไปรอเวลา พอได้เงินมา เราค่อยเจอกันตามแผนฎ
เสี่ยเป้เดินออกไป ดวงแก้วกระซิบกระซาบกับลูกสาว
“แล้วเราเอาไงต่อดี แม่ทั้งเหนื่อยทั้งหิว”
บุหงาไม่ตอบดวงแก้วแต่หันไปสั่งกล้า
“พี่กล้า แล้วก็พี่สองคนเฝ้าพวกมันไว้ พอดึกสักหน่อยก็จัดการนังมิวได้ ให้มันได้ไปสวรรค์ มีผัวพร้อมกันสัก 3 คน แต่จะวนกี่รอบ ก็แล้วแต่พี่ๆ”
กล้ายิ้มร่าดีใจ กะเทยเก๊กแมนแกล้งทำท่าหื่น ชายผอมยิ้มชอบใจ บุหงาหันมาขู่ปทุมวดีกับประภาพรรณก่อนจะออกไป
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว หล่อนก็ยอมๆ พี่ๆ เขานะ จะได้ไม่บอบช้ำมาก เผื่อเอาใส่ตะกร้าล้างน้ำหลังจากผ่านคืนนี้ไป”
ปทุมวดีเหลืออด
“ฉันไม่นึกเลยว่า คนที่หน้าตาดีมีชาติตระกูลเป็นผู้ดีอย่างแกเนี่ย จิตใจจะโสมมได้ขนาดนี้”
“ยังโง่ได้โล่อีกตามเคย ฉันเนี่ยนะเป็นผู้ดี จะบอกให้เอาบุญ แม่ฉันเนี่ยนะ ชื่อดวงแก้วเป็นลูกของยายคำฟ้า นางฟ้อนที่คุ้มเชียงราย โชคดีเจ้าวงเดือน เจ้าทางเหนือรุ่นสุดท้ายเกิดพอใจฝีมือ พอตายก็ยกคุ้มพร้อมกับเงินให้ 10 ล้าน แต่ยายคำฟ้าไม่มีวาสนา ดันมาตายไปอีกคน แม่ฉันก็เลยรับมรดก แล้วก็ผลาญหมดในบ่อน”
“นังแพนมันก็ไม่ได้เรียนจบเมืองนอกอะไรมาหรอกนะ มันแค่เคยไปเป็นหางเครื่องวงดนตรีลูกทุ่ง ตะลิดติ๊ดชึ่ง แล้วคอยหาจังหวะจับผู้ชายรวยๆ โง่ๆ เท่านั้นเอง”
ปทุมวดีได้ยินความจริงทั้งหมดทำท่าลมจะใส่ กล้ารีบบอกต่อ
“ยังไม่จบนะครับ คุณหญิง ผมเนี่ยไม่ใช่คนขับรถ ผมเป็นผัวน้องแพนเองครับ”
กล้า บุหงา ดวงแก้วพากันหัวเราะคิกคักเหมือนสนุกนักหนาที่ประจานกำพืดตัวเอง ปทุมวดีหน้าเจื่อน เริ่มยอมรับว่าตัวเองดูคนพลาด แถมทำให้ประภาพรรณที่เป็นสะใภ้แสนดีมาลำบากด้วย
ปรีชาชาญรู้เรื่องจากพันกรแล้ว คุยมือถืออยู่
“พ่อสั่งรวบรวมเงินแล้ว แต่เงินตั้ง 200 ล้านไม่ใช่น้อยๆ กว่าจะได้เงินครบก็คงจะบ่ายพรุ่งนี้ ยังไงกรต้องต่อรองพวกมันให้ถึงที่สุด อย่าให้แม่กับหนูมิวเป็นอะไรนะลูก เงินทองเป็นของนอกกาย ชีวิตคนสำคัญกว่า”
คนใช้ตาโตเมื่อได้ยินปรีชาชาญเอ่ยถึงเงิน น้ำลอบยิ้มสาแก่ใจ ลุ้นให้บุหงากับเสี่ยเป้ทำสำเร็จ
รถสองคันของพันกรกับเอกราชจอดต่อกันที่ริมถนนหลักไปต่างจังหวัด ทุกคนมองพันกรวางสายจากปรีชาชาญ
“ค่ำแล้ว เรายังหาบ้านร้างที่ว่าไม่เจอเลย ผู้กองสั่งการไงดีครับ”
หมวดบัญญัติกับจ่าพนมดูแผนที่จากไลน์อีกครั้ง หมวดบัญญัติพูดเชิงหารือกับจ่าพนม
“พี่พนม ผมว่าแถวนั้นพวกเราเคยไป มันมีแยกเล็กๆ เข้าไปเป็นย่านโรงงานเก่า”
“ใช่แล้ว ผมนึกออกแล้ว”
“แล้วก็ไม่บอกซะพรุ่งนี้เลยล่ะ” จ่าแหนมติง
“ถ้าหมวดกับจ่ารู้ทางก็รีบไปเถอะครับ”
ทุกคนแยกย้ายพากันขึ้นรถ ขับตามกันไป
บุหงากับดวงแก้วพากันมากินอาหารในร้านหรูที่สุดในละแวกนั้นด้วยสีหน้าแช่มชื่น
“แม่ วางแผนไว้หรือยังว่าจะใช้เงิน 50 ล้าน เอ๊ยไม่ใช่สิ 100 ล้านยังไงดี”
“แม่ก็ขอไปมาเก๊าได้เปล่า”
“พอเลยแม่ กว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท เอาไปถลุงบำรุงบ่อนหมด จบงานนี้ ฉันห้ามขาด ถ้าแม่ไปเล่นอีก ฉันจะตัดลูกตัดแม่กับแม่จริงๆ นะ”
“นัง เออ ไม่เล่นก็ได้ ว่าแต่แกแน่ใจหรือว่า ไอ้กล้ามันจะไม่พลาด เสี่ยเป้เนี่ยจะไม่เบี้ยวเรา”
“แม่ ช่วยพูดอะไรที่มันเป็นมงคลหน่อยได้มั้ย น่าเบื่อ”
ดวงแก้วหุบปาก บุหงายิ้มฝันหวาน
รถของพันกรกับเอกราชแล่นตามกันมา หมวดบัญญัติกับจ่าพนมต่างพยายามมองทาง แต่รอบข้างมืดแล้ว
“ใช่แล้ว เห็นต้นหูกวางข้างหน้านี้มั้ย เลี้ยวเข้าไปเลย จ่าแหนม”
จ่าแหนมตบไฟเลี้ยวซ้ายนำทางให้รถเอกราชตามไปด้วย
กะเทยกับชายผอมกำลังจะลากเอาปทุมวดีออกไปจากห้องเพื่อเตรียมจัดการกับประภาพรรณ ปทุมวดีแม้มือเท้าจะถูกมัดแต่ปากว่าง เป็นห่วงลูกสะใภ้จับใจรีบขอร้องกล้า
“นายกล้า นายก็เคยอยู่ที่บ้านฉัน มากินมานอนสุขสบาย อย่าทำอะไรมิวเลยนะ”
“น้องแพนเคยบอกผมว่า คุณหญิงเกลียดแม่นี่ที่สุด อยากให้หายไปจากโลกนี้ แล้วทำไมตอนนี้มาขอร้องผมไม่ทราบ”
“ถึงฉันจะเคยไม่ชอบหน้ามิว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ฉันจะใจจืดใจดำกับสะใภ้ตัวเอง”
ประภาพรรณแอบยิ้มในหน้า ที่ปทุมวดีเผลอยอมรับเธอเป็นสะใภ้
“คุณแม่สามีไม่ต้องไปขอร้องพวกมันหรอกค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ แกก็ไม่ต้องให้คุณแม่สามีออกไปถูกยุงกัดที่อื่นหรอก จะทำอะไรก็ทำ ฉันไม่อาย”
กล้าหัวเราะกับกะเทยและชายผอม ที่หยุดพาปทุมวดีออกไป งงๆ กับประภาพรรณ
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า น้องชอบสวิงกิ้งแล้วก็อวดชาวบ้าน”
“ไงก็ได้ พี่จัดมา พี่คนแรกใช่มั้ย แต่มือเท้าเนี่ยมันไม่ถนัดซะเลย ลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างพี่ คงไม่เสี่ยเหลี่ยมทำอะไรกับผู้หญิงแบบมัดมือมัดเท้าหรอกนะ”
กล้าตกหลุมที่ประภาพรรณลวงไว้ทันที
“เฮ้ย พี่แมน ชายจริง”
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 24 อวสาน (ต่อ)
กล้าเข้าไปช่วยแก้มือแก้เท้าที่มัดประภาพรรณไว้ ประภาพรรณทำทีเป็นอ่อนระทวยจะยอมกล้า แต่พอมือเท้าเป็นอิสระ ก็จัดการเล่นแม่ไม้มวยไทยบวกเทควันโดยูโดสารพัดใส่กล้า
กล้าชักปืนปลอมออกมา ประภาพรรณไม่รอช้าใช้เท้าขวาเตะมือที่ถือปืนของกล้าจนปืนร่วงพื้นไม่พอ ยังเตะผ่าหมากกล้าจนลงไปนอนกุมกล่องดวงใจเป็นการจบงาน
“ขอโทษนะพี่ พอดีฉันซาดิสม์”
“โอ๊ย จะพิการมั้ยเนี่ย”
ประภาพรรณหยิบปืนของกล้ามาดูแล้วขำ
“เฮ้ย ปืนปลอมนี่หว่า ขายหน้าจริงๆ”
กะเทยกับชายผอมมองกล้าที่เดี้ยงแล้วทำท่าขยับ ประภาพรรณยิ้มหวานให้แล้วพูดขู่จริงจัง
“พี่ทั้งสองคนใครสนใจจะลองก่อนจ๊ะ ฉันลืมบอกว่า นอกจากจะเป็นสายลับให้ตำรวจแล้ว ยังรับจ็อบเป็นนักฆ่าไม่กะพริบตาฝ่ามือเดียวอีก พี่อยากลองมั้ยจ๊ะ”
ทั้งสองหันมามองหน้ากัน ปทุมวดีรีบสนับสนุน
“ใช่ ฉันเห็นแม่เนี่ย หักคอเป็ดไก่ประจำ ก๊อกเดี๋ยวจอด”
กะเทยแต๋วแตกคนแรก
“โอ๊ย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว ฉันยอมแล้ว”
ชายผอมเห็นอย่างนั้นก็ยกมือยอมอีกคน
“ฉันก็ไม่เอาแล้ว คิดว่างานง่ายๆ มีตายด้วย ถอยดีกว่า”
“งั้นก็แก้มัดคุณแม่สามีฉันซะ เอาเชือกไปมัดนายกล้าไว้ แล้วสองคนจะไปไหนก็ไปให้พ้นๆ ก่อนตำรวจจะแห่กันมา”
กะเทยกับชายผอมรีบลนลานแก้มัดปทุมวดีแล้วตรงไปมัดกล้าไว้อย่างรวดเร็ว
พันกรกับทีมพากันเข้ามาก็เห็นว่ากล้าถูกมัดเหมือนหมูรอเชือด มีประภาพรรณกับปทุมวดีคอยเทียวตบหน้ากันคนละทีอย่างสนุกสนาน ทีมตำรวจมองภาพตรงหน้าแล้วอดจะขำไม่ได้
“มิว คุณหญิงแม่ ไหนว่า”
ปทุมวดีถลาไปหาลูกชาย
“ลูกสะใภ้แม่เด็ดมั้ยล่ะ ตากร”
พันกรไม่รู้จะตอบอย่างไร มองหน้าประภาพรรณด้วยความรักใคร่ เอกราชพูดขึ้นยิ้มๆ
“เล่นกะใครไม่เล่น เล่นกับมิว”
“คุณตำรวจคะ พร้อมจะจับเสี่ยเป้กันหรือยังคะ มิวมีแผนค่ะ”
“พร้อมครับผม”
ในห้องโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งที่เสี่ยเป้ไปกบดาน เจ้าตัวกำลังดื่มเบียร์ครึ้มๆ ใจว่าพรุ่งนี้จะได้เงินค่าไถ่ แล้วจะหนีไปเพื่อรอเวลามาเอาคืน เสียงเคาะประตู พร้อมเสียงดังขึ้น
“เบียร์ที่สั่งได้แล้วครับ”
เสี่ยเป้งงๆ เพราะไม่ได้สั่งเพิ่ม
“ส่งผิดหรือเปล่า อั๊วสั่งแค่ขวดเดียว”
“ตอนนี้ทางโรงแรมมีโปรโมชั่น ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งครับ”
เสี่ยเป้หลงกลเพราะความโลภ เดินไปเปิดประตู พันกร เอกราช หมวดบัญญัติยืนยิ้มรออยู่ เสี่ยเป้ขยับจะไปหยิบปืน แต่โดนรวบไว้โดยละม่อม
“เพราะความโลภ แกก็พลาดจนได้”
เอกราชกับบัญญัติหิ้วปีกเสี่ยเป้ออกไป
ภายในบ้านร้าง ประภาพรรณกับปทุมวดีทำเป็นถูกมัดไว้ที่เก้าอี้เหมือนเดิม โดยมีกล้าท่าทีร้อนรนรออยู่ บุหงากับดวงแก้วพากันเข้ามาแบบเบื่อๆ
“มีไรนักหนาพี่กล้า คนจะพักผ่อน รอให้ถึงพรุ่งนี้ไม่ได้รึไง”
“หรือมันจะหิวข้าว แล้วอีกสองคนหายไปไหนเนี่ย”
กล้าอดรนทนไม่ได้ไหวอีกต่อไป ร้องไห้ออกมาหมดสภาพ
“ตะเอง เค้าขอโทษ ฮือ ฮือ”
บุหงาเริ่มสงสัยท่าทีของกล้า แต่ไม่ทันแล้ว ประภาพรรณกับปทุมวดียืนขึ้น ไม่ได้ถูกมัด พันกร เอกราช หมวดบัญญัติ จ่าพนมและจ่าแหนมพากันเข้ามา
“คุณบุหงา ณ น่านฟ้า หรือนามสกุลอะไรก็ช่าง คุณโดนจับข้อหาร่วมมือกับเสี่ยเป้ ปุริม มหาศาลสมบัติกักขังหน่วงเหนี่ยวและร่วมมือกันเรียกค่าไถ่คุณหญิงปทุมวดีและประภาพรรณ นรินทร์จรรยา”
“เพื่อไม่เป็นการเสียเลือดเนื้อ มอบตัวซะเถอะครับ”
ดวงแก้วกลัวลนลาน ถอยกรูด แต่ไปไม่ได้เพราะจ่าแหนมกับจ่าพนมขวางทางไว้
“อย่าทำอะไรป้าเลยนะ ป้ายอมแล้วจ้า”
บุหงากลับเชิดหน้าแล้วถอยไปตั้งหลัก เห็นว่ากระเป๋าที่ประภาพรรณถือมานั้นเปิดอ้าอยู่ มีปืนอยู่ในนั้น ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด เธอหยิบปืนออกมาแล้วจะยิงใส่ปทุมวดี
“จะจับนังแพน ถามนังคุณหญิงนี่ก่อนว่ามันอยากตายมั้ย”
ประภาพรรณถลาเข้าไปผลักปทุมวดีให้พ้นทางปืน บุหงาลั่นไกออกมา ทำให้วิถีกระสุนพลาดเป้า แต่ประภาพรรณก็โดนยิงถากไปที่แขนเล็กน้อย บุหงายังไม่สิ้นฤทธิ์จับประภาพรรณลากไปเพื่อหลบหนีเพราะไม่อยากติดคุก เอกราชเข้าไปช่วยขวาง
“ปล่อยมิวนะ”
บุหงายิงใส่เอกราชถากไปที่ขา พันกรและตำรวจเลยตัดสินใจจะวิสามัญบุหงา
“ทิ้งปืนซะ ไม่งั้นพวกเราจะยิงนะครับ”
“ไม่ ถ้าฉันตาย นังมิวก็ตายด้วย”
“เตง หยุดเหอะ มอบตัวซะ อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องจากตาย ไม่ต้องสนใจนามสกุล ณ น่าน ที่ตั้งเอง เค้าพร้อมจะให้เตงใช้ ใจซื่อ ของเค้านะ บุหงา ใจซื่อ ก็ฟังดูดีนะ ที่สำคัญเค้ารักเตงนะ”
บุหงาละล้าละลัง แอบซึ้งใจกล้าที่สุดท้ายรักเธอคนเดียว แม้จะโง่ แต่รักจริง
“ไอ้พี่กล้า แกจะมารักฉันทำไม ไอ้โง่เอ๊ย”
บุหงายอมโยนปืนทิ้ง
ประภาพรรณและเอกราชต่างนอนบนเตียงคนไข้ฉุกเฉินที่เจ้าหน้าที่กำลังพาไปห้องฉุกเฉิน พันกรและปทุมวดีตามมาส่งทั้งคู่เข้ารับการรักษา
“ลูกมิว ไม่ต้องห่วงนะ ถึงมือหมอแล้ว”
พันกรโอบกอดแม่ไว้พูดให้กำลังใจ
“คุณหญิงแม่ก็เหนื่อยมาก เดี๋ยวผมพากลับบ้านไปพักนะครับ”
ปทุมวดีส่ายหน้า
“แม่ยังไม่ไปตากร แม่ไหว ให้หมอมาบอกก่อนว่า หนูมิวปลอดภัย ถ้าไม่ได้มิว ป่านนี้แม่คง”
พันกรจับมือแม่ บอกด้วยเสียงอ่อนโยน
“ผมเข้าใจครับ มิวกล้าหาญมาก งั้นผมพาคุณแม่ไปหาที่พักรอนะครับ”
ปทุมวดีพยักหน้าแต่ก็อดห่วงที่บ้านไม่ได้
“แล้วคุณพ่อล่ะ บอกหรือยัง ทางบ้านคงห่วง”
“ครับ ผมจะโทร.หาคุณพ่อครับ”
พวกคนใช้รู้จากปรีชาชาญว่าปทุมวดีกับประภาพรรณปลอดภัย เสี่ยเป้กับบุหงาถูกจับได้ก็ดีใจกันมาก ปรีชาชาญก็ดีใจที่ภรรยาและสะใภ้ปลอดภัย น้ำได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยๆ ย่องออกไปจากห้องนั้น ตัดสินใจทำเรื่องบางอย่าง เธอถือถาดใส่ข้าวต้มปลากับน้ำเข้ามาให้ปรีชาชาญ
“ท่านคะ ข้าวต้มปลาร้อนๆ ค่ะ พอดีวันนี้น้ำเห็นท่านเหนื่อยรอลุ้นเรื่องคุณหญิงกับพี่มิว กินข้าวเย็นไปนิดเดียว เลยทำมาให้ค่ะ ของป้าๆ แล้วก็พี่ๆ ทุกคนก็มีนะจ๊ะ น้ำแบ่งไว้ให้แล้วในครัวจ้ะ”
“ขอบใจมากนะน้ำ พวกเราก็แยกย้ายไปกินข้าวต้มกันก่อนเหอะ”
พวกคนใช้แทบจะกรูกันออกไป น้ำมองตามทุกคนสะใจลึกๆ แล้วก็หันมายิ้มหวานตาใสให้ปรีชาชาญที่ตักข้าวต้มเข้าปากคำแรก คิดถึงแผนการที่เตรียมสำรองไว้หากเสี่ยเป้กับบุหงาพลาด กันตัวเองโดนซัดทอด โดยเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ น้ำให้แห้งมาหาที่บ้าน
“ได้ยามั้ย แห้ง”
แห้งส่งห่อยานอนหลับให้น้ำ
“โหเจ๊ มือชั้นนี้แล้ว ว่าแต่เจ๊ออร์เดอร์ยานอนหลับทำไม”
“อย่าถามมาก เดี๋ยวฉันโทร.หา แกรีบหลบไป”
แห้งพยักหน้า แล้วรีบปีนหลบออกไป น้ำมองซ้ายขวาไม่มีใคร เดินเข้าบ้านไป
พันกรพูดมือถือกับเพื่อนตำรวจ ปทุมวดีไม่ได้กลับบ้านเพราะห่วงประภาพรรณ เลยมาเฝ้าไข้ที่ห้องพิเศษในโรงพยาบาล มองพันกรสีหน้าไม่ดีอยู่
“ขอบใจมากครับ หมวดบัญญัติ”
ปทุมวดีถามพันกรร้อนรน
“มีปัญหาอะไรเหรอตากร หรือว่าเสี่ยเป้ ยัยดวงแก้วกับยัยแพน สองแม่ลูกมันแหกคุก”
พันกรจับมือแม่แล้วบอก ไม่อยากให้ช็อก
“น้ำครับ”
ประภาพรรณลืมตาขึ้น ได้ฟังสิ่งที่พันกรบอกปทุมวดีไปพร้อมกัน
น้ำเข้าไปในห้องปทุมวดีอย่างคุ้นเคยดี แล้วตรงไปที่ตู้เซฟที่เก็บสร้อยเพชร กดรหัสได้อย่างชำนาญ
“ใครใช้ให้พวกแกรวยแต่โง่วะ รหัสตู้เซฟก็บอกกันง่ายๆ”
น้ำหยิบกล่องใส่สร้อยเพชรออกมา แล้วเปิดกล่องออกดู เพชรในกล่องส่องประกายสวยงามมาก
“ของดีๆ อย่างนี้มันคู่ควรกับคนฉลาดๆ อย่างฉันที่สุด ขอนะ”
น้ำปิดกล่องใส่เครื่องเพชรแล้วเอาใส่กระเป๋าที่เตรียมมา มองไปในตู้เซฟเห็นมีเงินสด หยิบมาด้วย ยิ้มสะใจ แล้วออกไปจากห้อง น้ำเดินสบายๆ ผ่านปรีชาชาญที่นอนฟุบหน้าที่โซฟาเพราะโดนวางยานอนหลับ พวกคนใช้ หลังจากกินข้าวต้มผสมยาไปแล้ว ต่างก็มานอนเกยกันกระจัดกระจายไม่ห่างจากนาย
“ลาก่อนนะ จุ๊บๆ”
น้ำเดินออกจากในบ้าน แห้งมาซุ่มรอรับอยู่แล้วพร้อมกับรถมอเตอร์ไชค์
“เจ๊น้ำ จะไปไหน สั่งมา ไอ้แห้งจัดให้”
น้ำขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของแห้งออกไป
“ไปให้พ้นจากบ้านนี้ก่อน แล้วฉันจะบอก”
ปทุมวดีฟังเรื่องที่พันกรเล่าแล้วก็ยิ่งเจ็บใจ
“นังน้ำเน่า แสบสุดๆ อย่างนี้มันต้องร่วมมือกับเสี่ยเป้แล้วก็แพนแน่ๆ”
“แต่น้ำคงไม่รู้ว่าสร้อยเพชรเส้นนั้นเป็นของปลอม”
“หมายความว่าไงครับ มิว นี่ไม่นอนหรือครับ เจ็บแผลมั้ย”
“เจ็บนิดหน่อยเองค่ะ สร้อยเพชรของจริงมิวเอาไปฝากธนาคารไว้หลังจากงานการกุศลสมาคมอนุรักษ์ช้างไทยแล้วค่ะ”
พันกรกับปทุมวดีมองหน้าประภาพรรณแล้วต่างก็ยิ้มชื่นชมในความรอบคอบของหญิงสาว
“มิว ผมไม่นึกว่ามิวจะรอบคอบขนาดนี้”
ปทุมวดีตรงเข้าไปจับมือลูกสะใภ้ น้ำตาคลอ
“ลูกมิว ขอบใจมากนะจ๊ะ จริงๆ แม่ก็ไม่ได้เสียดายสร้อยเพชรอะไรนั่นหรอก แต่แม่เจ็บใจที่เราหลงไว้ใจให้ที่อยู่ที่กินเลี้ยงดูงูเห่า สุดท้ายมันก็แว้งกัดจนได้”
“มิวไม่ใช่แค่เอาสร้อยเพชรปลอมไปวางไว้แทนนะคะ มิวยังติดอุปกรณ์บอกพิกัดไว้ที่สร้อยด้วย”
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 24 อวสาน (ต่อ)
ประภาพรรณมีผ้าพันแผลที่แขนเดินเข้ามาในบ้านเก่าของเสริมบุญ
น้ำนั่งอยู่ในบ้าน มือถูกสวมกุญแจมือ เงยหน้ามองประภาพรรณด้วยแววตาเคียดแค้น แต่ไม่มีน้ำตา
“แกจะมาทำไม แกชนะแล้วนี่ ทั้งไอ้เสี่ยเป้หน้าโง่ นังแพนจอมสร้างภาพตัวแม่ ก็ถูกแกจับจนหมด ฉันเองก็ไม่รอด แกมันเจ้าเล่ห์ เจ้าแม่แก๊งต้มตุ๋นตัวจริง”
“น้ำ จนป่านนี้แล้วยังไม่สำนึกอีก ที่พี่มาเนี่ยไม่ได้มาเพื่อเยาะเย้ย แต่อยากจะมาเตือนสติว่า คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ พี่ก็ไม่ดีงามไปกว่าน้ำ แต่พี่เลือกแล้วว่า จะไม่กลับไปเดินทางสายเก่าอีกแล้ว”
“ไม่ต้องมาสั่งสอน แกมันโชคดีได้ผัวดีอย่างพี่กร ทั้งที่แกไม่คู่ควรกับเขาสักนิด”
พันกรเดินเข้ามา ปทุมวดีตามมาอีกคน
“ใครบอกว่ามิวไม่คู่ควรกับผม มิวคู่ควรที่สุด เพราะมิวเปลี่ยน ไม่ยึดติดกับอดีต ไม่ฟูมฟายต่อว่าใคร ถ้าเราอยากดีก็ต้องดีด้วยตัวเอง”
“ใช่ ลูกมิวของฉันเป็นเพชรแท้ ไม่ว่าจะไปตกอยู่ที่ไหนย่อมส่องประกายเสมอ”
หมวดบัญญัติเดินเข้ามา จ่าพนมกับจ่าแหนมคุมตัวแห้งออกไป
“ใกล้จะเช้าแล้ว ผมขออนุญาตพาผู้ต้องหาไปฝากขังก่อนนะครับ ผู้กอง”
“ครับ หมวด สุดท้ายก็ไม่ได้นอนจนได้”
หมวดบัญญัติกำลังจะพาน้ำออกไป น้ำร้องไห้ เริ่มเข้าใจสิ่งที่ประภาพรรณบอก
“พี่มิว น้ำขอโทษ ถ้าน้ำจะกลับตัวกลับใจ จะสายไปมั้ยคะ”
“ไม่มีคำว่าสาย ถ้าเราคิดจะเริ่มต้นใหม่ พี่เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ”
น้ำพยักหน้า ก่อนจะตามหมวดบัญญัติไป
หนึ่งปีผ่านไป เสียงเคาะกระทะดังมาจากในครัว ปทุมวดีเป็นแม่งานลงครัวเอง มีป้าบัวเผื่อน ป้าม้วน แต้วและน้อยเป็นลูกมือ
“กระทะพร้อม ไฟพร้อม เครื่องปรุงพร้อมมั้ย”
“พร้อมค่ะ”
เดชวิ่งเข้ามาพร้อมจานใส่หนูนาสับในมือ
“หนูนาก็พร้อมครับ คุณหญิง”
สมหมายเดินเข้ามาอีกคน
“ใบกะเพราหอมๆ ก็พร้อมครับ”
ปทุมวดียิ้มร่า
“ดีมาก วันนี้วันดีวันเกิดลูกมิวของฉัน ฉันจะผัดกะเพราหนูนารสเด็ดให้กิน ใครอยากชิมยกมือขึ้น”
คนใช้ยกมือกันถ้วนหน้า ปทุมวดีลงมือผัดกะเพราหนูนาด้วยความชำนาญ ใส่พริก กระเทียมตำ หนูนาลงไป ปรุงเครื่องปรุง พร้อมกะเพราปิดท้าย คนใช้ทุกคนต่างพากันจามด้วยกลิ่นที่ฉุนจัดจ้าน น้ำตาพาลไหล แต่ทุกคนก็ไม่ถอย รอคอยกะเพราหนูนาจากฝีมือเจ้านาย
กะเพราหนูนาฝีมือปทุมวดีวางเด่นอยู่บนโต๊ะอาหาร ปทุมวดียืนเป็นประธานรอให้ประภาพรรณมาชิม ประภาพรรณ พันกร และปรีชาชาญพากันเดินเข้ามา
“กลิ่นอะไรเนี่ย หอมเตะจมูกมาก”
“อาหารสุดพิเศษค่ะ คุณพี่ จัดมาเพื่อลูกมิวโดยเฉพาะ”
พันกรชะโงกหน้าไปมองจานใส่ผัดกะเพรา
“ผัดกะเพราหนูนานี่ครับ คุณหญิงแม่”
ปทุมวดียิ้มกว้าง
“Proud to present แม่ภูมิใจนำเสนอเลย ลูกมิวชิมสิจ๊ะว่า ฝีมือแม่พอจะสูสีกับหนูมั้ย”
ประภาพรรณยิ้มหวานให้ปทุมวดี เป็นยิ้มที่เปี่ยมสุขมากมาย
“ได้ค่ะ”
ประภาพรรณตักขึ้นมาจะชิม แต่สุดท้ายก็เกิดอาการอยากจะอาเจียน รีบวิ่งไปห้องน้ำ
“เอ่อ ขอโทษนะคะ”
พันกรรีบวิ่งเร็วจี๋ตามไปดูแลภรรยา ปรีชาชาญกับปทุมวดีสบตากัน ปทุมวดีเสียใจ คิดว่าลูกสะใภ้ไม่พอใจอะไร
“นี่ฉันทำอะไรผิดคะ คุณพี่ ผ่านมาตั้งปีหนึ่ง หนูมิวยังไม่ให้อภัยฉันอีกเหรอคะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน่า คุณหญิง อย่าคิดมาก”
พันกรประคองประภาพรรณเดินออกมา หญิงสาวหน้าซีดๆ แต่แววตาเปี่ยมสุข
“มิวขอบพระคุณคุณแม่สามีมากนะคะที่ทำอาหารอร่อยๆ ให้มิว พอดีมิวแพ้มากไปหน่อย”
“ลูกคนแรกก็อย่างงี้แหละครับ คุณหญิงแม่ คุณพ่อW
ปทุมวดีได้ยินว่าประภาพรรณท้อง แทบจะเข้ามาอุ้มลูกสะใภ้
“ลูกมิว เลิกเรียกคุณแม่สามีซะที เรียกแม่ให้ชื่นใจหน่อยนะจ๊ะ แล้วนี่หลานย่าผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“คุณหญิง หนูมิวเพิ่งท้อง จะรู้ได้ไง”
“ก็ฉันดีใจนี่คะ คุณพี่ มาๆ ตามแม่มานั่งพักก่อน พวกแกทุกคนได้ยินมั้ย ฉันจะเป็นย่าคนแล้ว”
“ค่ะ”
พวกคนใช้รับคำ ปทุมวดีประคองประภาพรรณออกไป เอาใจแทบจะอุ้ม
“คุณแม่คะ มิวเดินเองได้ค่ะ”
“งานนี้ พวกเรากลายเป็นตัวประกอบไปเลยนะครับ คุณพ่อ”
“ถ้าไม่มีตัวประกอบ ก็คงเหมือนภาพสวยๆ ที่ไม่มีส่วนประกอบอื่นๆ ความรักก็เช่นกัน ต้องมีคนรอบกายมาเป็นตัวประกอบ จึงจะเป็นความรักที่สมบูรณ์”
“โห คุณพ่อคมและโรแมนติกมากครับ”
พันกรยิ้มแย้มกับปรีชาชาญ
หนึ่งปีผ่านไป ประภาพรรณยืนชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าอยู่ที่ระเบียงห้องนอน สีหน้าสดใส พันกรเดินเข้ามาสวมกอดภรรยาด้วยความรัก
“เมื่อคืนลูกก็กวนทั้งคืน ทำไมมิวไม่นอนพักสักนิดล่ะครับ ที่รัก”
“มิวเสียดายยามเช้าที่สดใสค่ะ เลยขอมาดูสักนิดหนึ่ง”
พันกรกอดประภาพรรณแน่นขึ้นแล้วแอบหอมแก้ม
“สดใสอย่างนี้ เรามาหาน้องไว้เป็นเพื่อนวิ่งเล่นน้องกิฟต์อีกสักคนดีมั้ย คราวนี้ขอลูกชายนะครับ”
“อุ๊ย ไม่เอาค่ะ คุณกร”
พันกรไม่สนใจเสียงปฏิเสธของประภาพรรณ เขาอุ้มหญิงสาวเดินเข้าห้องนอนไป ตะวันยามเช้าอันสดใส เหมือนชีวิตที่แสนสุขของสะใภ้รสแซ่บอย่างประภาพรรณ
จบบริบูรณ์