xs
xsm
sm
md
lg

หน้ากากนางเอก ตอนที่ 18

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หน้ากากนางเอก ตอนที่ 18
เช้าวันใหม่ พิมพิชชาค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาจากไข้ รู้ตัว สะดุ้งขึ้น

"สุวรีย์!"
พิมพิชชามองไปรอบๆ และพบว่านี่คือห้องของตนเอง นางถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
"ค่อยยังชั่วหน่อย อนงค์ อนงค์!"
ไม่มีเสียงใครตอบรับ พิมพิชชากำลังจะเดินออกจากห้อง อานนท์เดินเข้ามาพอดี
"คุณพี่" พิมพิชชาโผเข้ากอด "คุณพี่ พิมกลัว"
อานนท์สะบัดพิมพิชชาออก
"คุณพี่"
"กลัวเหรอ? กลัวอะไร กลัวกรรมจะตามเธอทันงั้นเหรอ"
"คุณพี่พูดอะไรคะ"
"ก็พูดถึงสิ่งที่เธอเพ้อออกมาเมื่อคืนไง"

เมื่อคืน อานนท์กอดปลอบพิมพิชาที่เพ้ออยู่
"อย่าทำอะไรฉันเลยสุวรีย์ ฉันขอโทษ"
อานนท์อึ้ง แล้วดึงตัวพิมพิชชาออกมา
"เธอพูดอะไรน่ะพิม"
พิมพิชชายังเพ้อต่อไป
"ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้วที่ฆ่าเธอ...สุวรีย์"
"เธอฆ่าสุวรีย์งั้นเหรอ"
"วรรษ ช่วยด้วย ช่วยพิมด้วย"
"วรรษ"
" ผีนังนั่นนะ มันจะฆ่าพิม! มันจะแก้แค้นพิม!....ไม่...ไม่...ไม่...วรรษ.... อย่าทิ้งพิมไป พิมรักวรรษ วรรษช่วยพิมด้วย"
อานนท์นิ่งปล่อยมือออกจากพิมพิชชา อนงค์เอาน้ำเข้ามาพอดี
"คุณท่าน จะให้ปลุกคุณพิมไหมคะ"
"ไม่ต้อง ให้มันพูดออกมาให้หมด ฉันอยากรู้ความจริง"
พิมพิชชายังเพ้อต่อไป
"สุวรีย์! ไม่ อย่าทำฉัน! แม่! แม่ช่วยพิมด้วย! วรรษ! วรรษ"

พิมพิชชาตื่นในวันรุ่งขึ้น คุยกับอานนท์คุยกันอยู่
"พิมแค่เพ้อค่ะ มันไม่ใช่ความจริง"
"เพ้อ?...เวลาที่ไม่รู้ตัว...ความจริงทุกอย่างมันจะหลุดออกมา"
"คุณพี่ คุณพี่ต้องเชื่อพิมนะคะว่ามันไม่จริงๆ"
"เธอฆ่าสุวรีย์ยังไง"
"พิมเปล่า"
"ฉันถามว่าเธอฆ่าสุวรีย์ยังไง"
พิมพิชชาน้ำตาไหล
"ไม่...พิมไม่ได้ทำ"
"เธอยังจะกล้าพูดเธอว่าไม่ได้ทำอีกเหรอ....ได้"
อานนท์ลากพิมพิชชาออกจากห้องเข้ามาในห้อง ผลักนางลงพื้น หน้าเกือบไปชนรูปของสุวรีย์ พิมพิชชาผวา แล้วรีบถอยหลัง
"สาบานต่อหน้ารูปสุวรีย์ต่อหน้าพระว่าเธอไม่ได้ฆ่า ถ้าเธอพูดโกหกแม้แต่คำเดียวขอให้มีอันเป็นไป!"
พิมพิชชามองดูที่รูปสุวรีย์ สลับกับมองดูหน้าอานนท์ แล้วมองดูพระ พิมพิชชาตัวสั่น
"ว่าไง เธอฆ่าสุวรีย์ใช่ไหม" อานนท์คาดคั้น
"พิมเปล่า..."
รูปสุวรีย์ตกลงมาแตกดังโครม! พิมพิชชาตกใจ กรี๊ด
"บอกอีกทีสิว่าไม่ได้ทำ!...บอกฉันมา"
พิมพิชชามองดูหน้าอานนท์ไม่พูดอะไร อานนท์เข้าไปเขย่าตัว
"ฉันบอกให้พูดออกมาว่าเธอไม่ได้ทำ...พูดออกมาสิพิม...พูดออกมา"
นางกลั้นน้ำตาไม่อยู่
" ใช่...ฉันฆ่าสุวรีย์!เอง...ฉันฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง ในเมื่อโอกาสที่จะได้เป็นคุณนายบ้านหลังนี้มันมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ฉันเลยถอดสายออกซิเจนของมันออก! นี่ไงล่ะความจริงที่คุณพี่อยากได้ยิน!"
อานนท์ตบหน้าพิมเผียะ!
"แกมันเลว!"
"พิมไม่ได้เลว คุณพี่นั่นแหละโง่เอง"
"ที่เอี๊ยมเคยพูดกับฉันไว้มันถูกต้องทุกอย่าง!"
"แต่คุณพี่ก็ไม่เชื่อมัน คุณพี่เลือกที่จะเชื่อพิมเอง!"
"แกออกไปจากบ้านของฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ! แล้วอย่ากลับเข้ามาเหยียบที่นี่อีก ของสักอย่างฉันก็ไม่ให้แกเอาไป!"
"พิมไม่จำเป็นต้องหอบออกไปหรอกค่ะ เพราะยังไงคุณพี่ก็ให้พิมไว้หมดแล้ว"
"แก! ออกไปเดี๋ยวนี้! อนงค์! มาเอามันออกไป!"
"ไม่ต้องให้คนมาไล่หรอกค่ะ พิมเดินออกไปเองได้...ขอบคุณนะที่โง่ให้พิมหลอกอยู่ได้ตั้งนาน"
พิมพิชชาเดินออกไป อานนท์ทั้งแค้นเจ็บใจและเสียใจ เข้าไปทรุดลงตรงหน้ารูปสุวรีย์
"สุวรีย์....ผมผิดไปแล้วทั้งต่อคุณและลูก ผมจะทำยังไงดี"
อานนท์กอดรูปสุวรีย์ไว้ ในบรรยากาศที่อ้างว้างไม่เหลือใคร

ดำรงกำลังหลับอยู่ เบอร์รี่นั่งเช็ควิดิโอที่ถ่ายมาได้และยิ้มเยาะ เธอเดินเข้าไปนั่งข้างเตียง ดำรงตื่นขึ้นมา
"มีอะไรเหรอเบอร์รี่"
"เบอร์รี่มีอะไรจะให้คุณดำรงดู"
เบอร์รี่เปิดวิดิโอให้ดำรงดู ดำรงนิ่ง
"เหมือนคุณดำรงข่มขืนเบอร์รี่จริงๆ เลยใช่ไหมคะ"
"เธอถ่ายไว้ได้ยังไง"
"ไม่สำคัญเท่าเรื่องที่เบอร์รี่จะเอาไปให้นักข่าว แล้วนักข่าวจะว่ายังไงหรอกนะคะ! คุณดำรงข่มขืนดาราในสังกัดตัวเอง คิดดูสิคะว่ามันจะทำให้ชีวิตคุณล่มจมได้มากขนาดไหน ช่องที่อุตสาห์ปั้นมาแทบตายก็อาจจะพังก็ได้"
"เธอทำอย่างนี้ต้องการอะไร"
"เบอร์รี่แค่รำคาญที่ต้องตกอยู่ใต้อำนาจของคนอื่น และเบอร์รี่ก็เบื่อที่จะคิดแผนนู้นแผนนี้เพื่อทำลายนังเอี๊ยมแล้ว เบอร์รี่ก็แค่คิดว่ามาจัดการคนที่ใหญ่ที่สุดเพื่อที่ตัวเองจะได้คุมทั้งหมด มันง่ายกว่าเยอะ!"
"เบอร์รี่ ฉันเป็นคนสร้างแกมานะ"
"เบอร์รี่ก็เลยจะตอบแทนคุณดำรงด้วยการบริหารช่องให้แทนไง! ต่อไปนี้เบอร์รี่สั่งอะไรคุณดำรงก็ต้องทำตาม ไม่งั้นล่ะก็คลิปนี้หลุดแน่"
"แก..."
"เริ่มจาก...ปลดนังเอี๊ยมออกจากละครเป็นไง!"

แทนไทกับปราชญ์คุยกันอยู่ในรถ แทนไทหันมามองเพื่อนที่รู้สึกเกร็งๆ
"เป็นอะไรวะไอ้ปราชญ์ จะได้เข้าบ้านคุณเขมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นเลย ทำไม กลัวเจอพ่อแม่เค้ารึไงวะ"
"เจอพ่อแม่ฉันก็ไม่เกร็งหรอก"
"แล้วที่นั่งเหงื่อแตกอยู่อย่างนี้เป็นเพราะอะไร"
"ฉันกลัวจะได้เจอน้าของคุณเขมน่ะ...บอกตรงๆนะโว้ย...ฉันทำตัวไม่ถูกว่ะ"
"น้า?"
"คนที่จะมาเป็นแม่ใหม่ฉันน่ะ"
"อ้อ...โอ้โห แกนี่ดีเว้ย พ่อแต่งกับน้า ลูกแต่งกับหลาน"
"ดีกับผีอะไร ฉันไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นจะดี"
"แต่เค้าเป็นน้าคุณเขมนะเว้ย คุณเขมดีขนาดนี้ น้าก็ต้องดีสิ"
"น้ากับหลานคนละคนกันนะเว้ย"
"แต่ฉันว่าแกควรจะมองในแง่ดีนะ...แกอยากรู้อะไร แกก็ถามเค้าสิวะ"
ปราชญ์นิ่งคิด "ก็จริง"
ทั้งสองคนขับมาถึงหน้าบ้านเขม
"พร้อมนะเว้ย ปราชญ์W
ปราชญ์พยักหน้า ประตูบ้านที่ปิดอยู่เปิดออก ทั้งสองคนขับรถเข้าไป




หน้ากากนางเอก ตอนที่ 18 (ต่อ)
แทนไทขับรถเข้ามาในบ้านของเขมปัญฑา สองคนลงจากรถ แล้วมองซ้ายมองขวา

ทั้งสองหันหลังให้ตัวบ้าน เห็นช้องนางเดินออกมาจากบ้าน
"สวัสดีจ้ะ แทนกับปราชญ์ใช่ไหม"
แทนไทกับปราชญ์หันมาเห็นช้องนาง ปราชญ์อึ้ง ช้องนางก็อึ้งที่เจอปราชญ์
"อ้าว คุณน้า สวัสดีครับ" ปราชญ์พูดพลางยกมือไหว้
แทนไทยกมือไหว้ "สวัสดีครับ"
"บังเอิญจัง ไม่คิดว่าจะเป็นคนรู้จักของเขมกับมะม่วง โลกกลมจังเลยนะ พอดีเขมกับมะม่วงเค้ายุ่งอยู่ในครัวน่ะ เชิญเข้าบ้านสิจ้ะ"
ช้องนางพาทั้งสองคนเข้าบ้าน
แทนไทกระซิบถามปราชญ์
"แกรู้จักเค้าเหรอวะ"
"เคยเจอกันที่วัดตอนไปทำบุญให้แม่น่ะ ไม่นึกว่าโลกจะกลมขนาดนี้"
"อย่าบอกนะว่าเป็นแม่คุณเขม"
"อืม...สงสัยเป็นพรหมลิขิตของฉันกับคุณเขม" ปราชญ์ยิ้มน้อยๆ
ทั้งสองคนขำๆ ช้องนางหันมา
"คุยอะไรกันอยู่ เข้ามาสิจ้ะ"
ปราชญ์กับแทนไทรับคำ"ครับ"

ช้องนางพาแทนไทกับปราชญ์เข้ามานั่ง
"รอที่นี่ก่อนนะจ้ะ สาวๆ เค้าทำอาหารเตรียมให้อยู่ น้าจะบอกให้ เขมไม่เคยเข้าครัวทำให้ใครขนาดนี้มาก่อนเลยนะ ส่วนมะม่วงไม่ต้องพูดถึงเลย รายนั้นไม่เคยเข้าครัวเลย"
"แบบนี้จะกินได้ไหมครับเนี่ย" แทนไทว่า
"เรื่องนั้น..ไม่ต้องห่วงนะจ้ะ... ห้องน้ำบ้านนี้สะอาด"
ทั้งหมดหัวเราะ
"ระหว่างนี้ว่างๆ ดูนี่ไปก่อนละกันนะจ๊ะ."
"อะไรครับ"
"รูปเขมตอนเด็กๆ น่ะจ้ะ"
ปราชญ์รีบคว้ามาดูทันที
"อย่าไปบอกนะว่าแอบเอามาให้ดู เขมเค้าอายน่ะ"
"ครับ"
"ถ้ายังไงเดี๋ยวน้าขอเข้าไปดูสองคนนั้นก่อนนะ"
ช้องนางเดินไปในครัว ทั้งสองเปิดดูรูปสมัยเด็กของเขมไป คุยกันไป
"แม่เขมเค้าน่ารักมากเลยนะ ดูจะรักและเอ็นดูแกด้วย"
ปราชญ์ยิ้มมีความสุข สองสาวยกอาหารเข้ามาวางที่โต๊ะอาหาร แล้วเดินมาหาปราชญ์กับแทน
"อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ" เวฬุยาว่า
"แล้วนั่น ดูอะไรน่ะ" เขมปัญฑาถาม
ปราชญ์กับแทนไทรีบปิด เขมปัญฑาเข้ามาเห็นก็โวายวาย
"ใครให้ดูอัลบั้มรูปของเขม? แอบหยิบมากันเองใช่ไหม ทำไมไม่มีมารยาทอย่างงี้"
"เปล่านะครับ ผมเปล่าหยิบเอง แม่ของเขมต่างหากเอาให้ดู"
"แม่?"
"ก็คุณแม่คุณไงครับ" แทนไทพลาง ชี้ๆไปที่ช้องนาง
ช้องนางยกกับข้าวมาวางที่โต๊ะเพิ่ม
"แม่อะไรกันล่ะ นี่น้าของเขมต่างหากล่ะ...นี่น้าช้องนางคะ"
"น้า" ปราชญ์อึ้ง
"ค่ะ คนที่ทำให้เราเช้าใจผิดกันตอนแรกไงคะ...คุณปราชญ์"
"หมายความว่า คุณน้า.. คือคนที่จะแต่งงานกับพ่อผมเหรอ?
เขมพยักหน้า น้าช้องนางก็อึ้งไปเหมือนกัน
"หมายความว่ายังไงจ้ะ"
"นี่ ปราชญ์ลูกชายของคุณธาริชยังไงคะ"
ทั้งสองต่างมองหันอึ้ง
ปราชญ์อึ้ง
"ผมขอตัวสักครู่นะครับ"
ปราชญ์ลุกออกไป ทุกคนมองตาม

ปราชญ์นั่งเครียดอยู่คนเดียวที่นอกบ้าน คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
"ผู้หญิงคนนั้นคือคนเดียวกับที่จะมาหลอกพ่องั้นเหรอ"
เขมปัญฑาเดินเข้ามา
"คุณเขม"
"ความจริงเราก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้กันเลยนะคะ ทั้งๆ ที่เรื่องคุณน้าเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเข้าใจผิดกัน"
"แล้วคุณจะให้ผมยังไง...ให้ผมยอมรับน้าของคุณเหรอ"
"เรื่องจะยอมรับหรือไม่ยอมรับเป็นสิ่งที่เขมขอไม่ได้ แต่สิ่งที่เขมบอกคุณได้ในตอนนี้ก็คือ...น้าช้องนางเป็นคนดี"
"แต่เค้าอาจจะรู้จักผมอยู่แล้วก็เลยตั้งใจทำดีใส่ผมก็ได้"
"คุณน้าเพิ่งรู้วันนี้ค่ะ ว่าคุณเป็นลูกใคร สิ่งที่คุณน้าปฏิบัติต่อคุณคือตัวคุณน้าจริงๆ และพอคุณน้ารู้ ท่านก็ตัดสินใจทันทีค่ะ"
"ตัดสินใจอะไรครับ"
"คุณน้าบอกว่า ท่านไม่รู้ว่าการเข้าไปของท่านทำให้บ้านของคุณไม่สงบ และเมื่อได้รู้ ท่านเลยตัดสินใจจะไม่แต่งงานค่ะ"
"อะไรนะครับ"
"คุณน้าเป็นอย่างนี้แหละค่ะ คิดถึงความสุขของคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ"
ปราชญ์นิ่ง
"ทีนี้คุณสบายใจได้แล้วนะคะ"
เขมจะลุกไป ปราชญ์จับเขมปัญฑาไว้
"ขอผมคุยกับน้าคุณหน่อย"

ปราชญ์เข้ามาคุยกับช้องนาง
"คุณน้าตัดสินใจจะไม่แต่งงานกับพ่อผมแล้วเหรอครับ"
"น้าคิดมาสักพักแล้วล่ะเรื่องความเหมาะสม พอน้าได้เจอกับคุณที่วัด น้าก็คิดว่าควรไหม ลูกเค้าจะคิดยังไงและพอมาเจอวันนี้น้าก็เลยเลือกที่จะละทางโลกแล้ว"
"คุณน้า ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ ผมผิดเองที่อคติทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าคุณน้าเป็นคนยังไง"
"เราจะไม่ชอบก็ไม่แปลกหรอก เรารักแม่ของเรามาก ก็เท่านั้นเอง"
"ครับ คุณน้า ผมขอโทษจริงๆ ที่อคติของผมทำให้เราต่างก็เจ็บปวดทั้งคู่"
"อโหสิกรรมให้กันแล้วกันนะคะ ปราชญ์"
"ครับ คุณน้า"
ปราชญ์กราบช้องนาง เวฬุยา แทนไท เขมปัญฑาที่ดูอยู่มองหน้ากันด้วยความยินดีที่ทั้งสองปรับความเข้าใจและให้อภัยกันได้ แม้จะเลือกทางที่ไม่แฮปปี้เอนดิ้งก็ตาม

เวลาเดียวกัน คริสกับอรัญภัทรมานั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ มีไลน์ส่งมาหาเธอ
"อะไรเหรอครับ คุณวรรษเหรอ"
"เปล่าค่ะ พวกเขมกับมะม่วงน่ะ" พูดพฃลางส่งรูปให้ดู "ดูสิ กินข้าวกันเป็นดับเบิลเดท สนุกกันใหญ่ แล้วดูเราสิ ขนาดเวลาไม่ถ่ายละครยังต้องเล่นละครกันอยู่เลย"
คริสหัวเราฝืนๆ
"นั่นสิครับ"
"ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณคริสต้องลำบาก เพราะเอี๊ยมแท้ๆ คุณคริสเลยต้องมาช่วยทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวอะไรเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยากช่วย แต่...ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาส่วนตัวขึ้นมาได้"
"ปัญหากับแฟนเหรอคะ"
คริสนิ่งไม่ได้ตอบอะไร
"แหม มันน่าสงสัยนะคะว่าผู้หญิงคนไหนกันนะ ที่สยบซุปตาร์ผู้หักอกสาวเป็นว่าเล่น" คริสนิ่ง "คุณคริส มีอะไรเล่าได้นะ เอี๊ยมจะได้ช่วยถูก"
"คุณเอี๊ยมช่วยไม่ได้หรอกครับ"
"รู้ได้ไงว่าไม่ได้"
คริสมองหน้าอรัญภัทร ตัดสินใจที่จะบอก
"เอ่อ...คุณเอี๊ยม ที่จริงแล้วผม"
"คะ?"
"ผมอยากบอกคุณ แต่ผม... ขอโทษจริงๆ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เอี๊ยมเข้าใจ"
เธอมองหน้าอยากจะค้นหาความจริง คริสมองหน้าเธอเหมือนอยากที่จะพูด แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ ได้แต่ถอนใจที่ไม่สามารถเผยความลับได้




หน้ากากนางเอก ตอนที่ 18 (ต่อ)
เวลาต่อมาที่คอนโดฯ อรัญภัทรนั่งดูทีวีอยู่ คิดเรื่องคริส เจ๊เต่าเดินเข้ามาพร้อมหอบจดหมายมากองไว้

เจ๊เต่าหยิบจดหมายของตัวเองออกมา แล้วก็แปลกใจ
"นี่มันจดหมายจากช่องคุณแจ๊ดนี่นา"
เจ๊เต่าเปิดจดหมายออกมาอ่านแล้วก็ช๊อก อรัญภัทรหันมอง
"มีอะไรเหรอเจ๊"
เจ๊เต่ายื่นจดหมายให้มอ่าน เอรัญภัทรช๊อก

อรัญภัทรโยนจดหมายลงบนโต๊ะคุณแจ๊ด
"นี่มันหมายความว่ายังไงคะคุณแจ๊ด!"
"มันจะหมายความว่ายังไงได้ล่ะ ฉันก็ฟ้องเรื่องผิดสัญญาช่องน่ะสิ! รู้ไหมฉันเสียหน้าแค่ไหน ที่พวกคุณไปโผล่ช่องคุณดำรง แล้วจะให้ฉันอยู่เฉยๆงั้นเหรอ"
"ทีตัวเองยังอยู่เฉยไม่ได้ ยังมีหน้ามาบอกให้คนอื่นอยู่เฉยเป็นปีๆ คนเค้าจะทนได้ยังไง ทำอะไรไม่รู้จักคิดถึงคนอื่น เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ มันก็สมควรจะโดนเด็กในสังกัดหักหลัง!"
"เอี๊ยม เธอเป็นเด็กที่ฉันปั้นมา พูดจากับฉันให้ดีกว่านี้นะ แล้วถ้าสำนึกผิด ขอโทษฉัน ฉันอาจจะให้อภัยยกฟ้องเธอก็ได้"
"คุณแจ๊ดจะถอนฟ้องจริงๆ เหรอคะ" เจ๊เต่าถาม
"ถ้าเด็กของคุณยกเลิกงานนั้น...แล้วอยู่ในคำสั่งของฉัน"
"ตามคำสั่งของคุณแจ๊ดคืออะไรคะ คือการพักงานปีนึงทั้งสามคนเหรอคะ เอี๊ยมไม่มีทางทำเด็ดขาด!"
"งั้นก็เตรียมขึ้นศาลได้เลย!"
เจ๊เต่ากับอรัญภัทรนิ่ง
"เอ่อ คุณแจ๊ด เรามีทางจะไกล่เกลี่ยกันได้ไหมคะ"
"ไม่ต้องไปไกล่เกลี่ยกับคนแบบนี้หรอกเจ๊ ไกล่เกลี่ยไปเราก็เสียเปรียบ ไหนๆ ก็เป็นอย่างนี้แล้วก็เอาแบบนี้ละกัน" เธอคว้าสัญญาของตัวเองขึ้นมา "นี่สัญญาของเอี๊ยมมะม่วงและเขมใช่ไหมคะ"
"ใช่"
อรัญภัทรฉีกมันทิ้งทันทีต่อหน้าคุณแจ๊ดและเจ๊เต่า
"เอี๊ยม!!" เจ๊เต่าตกใจ
"ฟ้องเลยค่ะ จะเท่าไหร่ก็ฟ้องมาเลย เอี๊ยมจะหาเงินมาชดใช้เอง เพราะยังไงคุณดำรงก็มีเมตตาและมีหัวใจกับเอี๊ยมมากกว่าคุณแจ๊ด!"
"หึ..จะเล่นอย่างนี้ก็ได้ ฉันก็จะดูว่าพวกเธอจะไปรอดได้สักกี่น้ำ!"
อรัญภัทรลากเจ๊เต่าออกจากห้องไป

พาดหัวข่าว วันรุ่งขึ้น “เอี๊ยมโดนฟ้อง เหตุฉีกสัญญาช่อง” / “คุณแจ๊ดฟ้องเอี๊ยม - เขม - มะม่วง - เจ๊เต่า -ดำรง ฐานผิดสัญญา”
พิธีกร 2 คนกำลังเม้าท์ข่าวบันเทิงกันอยู่
"มีดาราบางคนค่ะ เห็นเงียบๆ แต่ที่จริงเรื่องเพียบนะคะ"
"ใครเหรอคะ"
"เจ้าเดิมค่ะ เงียบได้ไม่เท่าไหร่ออกมาเปรี้ยงด้วยข่าวเด็ดค่ะ ฉีกสัญญาช่อง! ไม่ได้ฉีกปากเปล่านะคะ นางฉีกจริงค่ะ คุณแจ๊ดเจ้าของช่อง เอามาให้ดูกันจะๆ"
ภาพคุณแจ๊ดถือสัญญาที่ถูกฉีก พร้อมกล่าวว่า
"ทางเราก็พยายามเจรจาดีๆกับเค้าแล้ว แต่กลับถูกฉีกสัญญา แล้วยังท้าให้เราฟ้องอีกด้วย"
นักข่าว 1 ถาม"แล้วคุณแจ๊ดจะทำยังไงต่อคะ"
"ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมายคะ"
กลับมาที่ห้องข่าว
"โอ้โห! แรง แรงแบบนี้คุณแจ๊ดเลยจัดหนัก จัดเต็ม ไม่ฟ้องแค่คนเดียวนะจ๊ะ....เพราะฟ้องไปถึงผู้จัดการยันไปจนถึงช่องใหม่โน่นแน่ะค่ะ!"
"โอ้โห แซ่บขนาดนี้ใครล่ะคะเนี่ย"
"โอ๊ย จะใครได้ล่ะคะ มีคนเดียวในวงการแหละค่ะ ก็ซุปตาร์ฆ่าไม่ตายเจ้าเดิมยังไงคะ!"

อรัญภัทรอยู่ในห้องดำรง กำลังไหว้ขอโทษดำรงอยู่
"ขอโทษจริงๆ ค่ะ เอี๊ยมไม่คิดว่าจะทำให้คุณดำรงเดือดร้อนไปด้วย"
"เอาเถอะ ยังไงผมก็รู้อยู่แล้วว่าเค้าจะต้องฟ้องเรื่องสัญญาแน่ๆ ตอนแรกก็ว่าจะออนแอร์หลังจากหมดสัญญาไปแล้วจะได้เลี่ยงไป แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เร่งให้มันออนแอร์ตามกระแสไปเลยแล้วกัน"
"ขอบคุณคุณดำรงที่เมตตานะคะ ยังไงเอี๊ยมจะทำงานกับคุณดำรงอย่างเต็มที่ แต่เอี๊ยมมีเรื่องจะขอร้องเรื่องคู่จิ้นนิดหน่อยน่ะค่ะ"
"เรื่องอะไร"
"คือดูเหมือนคุณคริสจะเริ่มมีปัญหาส่วนตัว"
"งั้นก็ช่างมันเถอะ ไม่ต้องทำต่อแล้ว จะบอกสื่อว่าเลิกคุยกันหรืออะไรก็แล้วแต่เธอแล้วกัน"
"ทำไมล่ะคะ คุณคริสเข้ามาคุยกับคุณดำรงเหรอคะ"
"ไม่มีใครเข้ามาคุยอะไรทั้งนั้น ผมสั่งของผมเอง"
"ถ้างั้นเหลือแต่งานในกอง เอี๊ยมจะทำให้เต็มที่"
"งานในกองเธอก็ไม่ต้องทำแล้ว"
"หมายความว่ายังไงคะ"
"ถ้าคุณไม่ได้เล่นละครเรื่องนี้แล้ว ผมก็ไม่ต้องกลายคู่กรณีกับฝั่งคุณแจ๊ดอีก แล้วผมก็จะได้ไม่ต้องสร้างกระแสคู่จิ้น ไม่ต้องมีปัญหาอะไรอีก ผมไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยากอีกแล้ว คุณออกไปเถอะเอี๊ยม"
อรัญภัทรตกใจพยายามควบคุมอามรณ์
"ก่อนเอี๊ยมจะไป ขอถามเรื่องเขมกับมะม่วงหน่อยนะคะว่า สองคนนั้นยังได้เล่นต่อใช่ไหมคะ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเค้า"
"แต่สองคนนั้นก็เป็นหนึ่งในสัญญาที่คุณฉีกนี่"
เธอนิ่ง
"ยังไงผมก็จะดูให้อีกทีแล้วกัน ออกไปได้แล้ว"
เธอนิ่ง เจ็บใจ แค้นใจที่ตัวเองทำเสียเรื่องอีกแล้ว "ค่ะ"
เธอเดินออกไป ดำรงรู้สึกโมโหตัวเองที่ต้องทำแบบนี้
"พอใจรึยัง"
เบอร์รี่เดินออกมาจากหลังม่าน
"พอใจแล้วค่ะ!"

คืนนั้น อรัญภัทรนั่งเศร้าๆ อยู่ที่สะพานพระราม 8 เจ๊เต่าโทร.มา เธอมองๆ แล้วไม่รับ สักพัก เขมปัญฑาโทรมา เธอมองแล้วก็ไม่รับ ถอนหายใจ มองฟ้า
"แม่คะ ดูเหมือนเอี๊ยมยิ่งทำอะไรทุกอย่างก็ยิ่งพังไปหมด ตอนนี้เอี๊ยมแทบไม่เหลืออะไร เอี๊ยมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป...แม่ช่วยเอี๊ยมด้วย"
เธอนั่งร้องไห้เศร้าอยู่คนเดียวบนสะพานเหงาๆ




หน้ากากนางเอก ตอนที่ 18 (ต่อ)
คืนนั้น อานนท์นำกรอบใหม่มาใส่ให้กับรูปสุวรีย์แล้ววางตั้งไว้ที่เดิม พลางมองภาพของสุวรีย์ด้วยความอาลัย

"คุณคงเจ็บปวดมานานมากเลยสินะ ที่ผมเลี้ยงฆาตกรที่ฆ่าเธอเอาไว้ในบ้าน ผมขอโทษจริงๆ นะสุวรีย์ ขอโทษที่โง่เชื่อคนอื่น แทนที่จะเชื่อลูกของเรา เราควรจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกแท้ๆ แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นว่า..."
อานนท์ที่อยู่คนเดียวในห้อง พลางใช้มือลูบรูปภาพของสุวรีย์
"ถ้าตอนนี้ผมจะขอกลับไปชดใช้สิ่งที่ผมทำพลาดไปคงไม่สายไปใช่ไหม ผมอยากให้เอี๊ยมกลับมาที่บ้านนี้ มาอยู่ด้วยกัน"
อานนท์กำลังคว้าโทรศัพท์โทรหาลูกสาว อนงค์เข้ามาอย่างรีบร้อน
"ขอโทษค่ะคุณท่านที่เข้ามากวน"
"มีอะไรอนงค์"
"เกิดเรื่องใหญ่กับคุณเอี๊ยมคะท่าน"
อานนท์มองหน้าอนงค์อย่างเป็นห่วง อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว

อานนท์ยืนอยู่หน้าทีวีอย่างกังวลใจ
พิธีกรบอก
"คุณดำรงตัดสินใจถอดเอี๊ยมออกจากละคร งานนี้เสียทั้งเงินเสียทั้งงาน เสียทั้งชื่อ แทบจะถือได้ว่าจบชีวิตตัวเองในวงการบันเทิง! งานนี้ซุปตาร์ฆ่าไม่ตายจะตายจริงๆ เหรอคะเนี่ย"
อานนท์ครุ่นคิดเป็นห่วงลูก

คืนเดียวกัน พิมพิชชากำลังกระดกเหล้าอยู่ในบาร์ พร้อมนั่งอ่านข่าวที่อรัญภัทรจะโดนฟ้องอย่างสะใจ
"น้ำหน้าอย่างคุณพี่น่ะเหระคะ จะช่วยอะไรนังเอี๊ยมได้ สมน้ำหน้า! จะได้ตกต่ำกันทั้งครอบครัว คุณพี่ไม่รู้หรอกฉันต้องฝืนความรู้สึกตัวเองปรนเปรอไปตั้งเท่าไหร่ แต่สุดท้ายดันโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมา! แล้วคอยดูเถอะคุณพี่ ว่ามันจะไม่จบเท่านี้"
พิมพิชชาตัดสินใจวางหนังสือพิมพ์ลง จิบเหล้า
"แค่นี้มันยังน้อยไป เพราะฉันจะทำให้ลูกแกตกต่ำไปตลอดทั้งชีวิตเลยคอยดู"
พิมพิชชาเอาเหล้าเข้าปากอย่างอวดดีว่าจะจัดการกับอรัญภัทรได้

อานนท์วางโทรศัพท์แล้วโทร. อีกที อนงค์ขวางไว้
"คุณท่านอย่าโทร.ปต่อว่าคุณเอี๊ยมอีกเลยค่ะ เท่านี้คงแย่แล้ว"
"ฉันไม่ได้โทรไปต่อว่า... ฉันจะช่วยลูกฉัน! ฉันอยากทำหน้าที่พ่อที่ฉันไม่เคยได้ทำตั้งแต่สุวรีย์ตาย"

โทรศัพท์เอี๊ยมดัง เอี๊ยมหันไปมองเห็นว่าเป็นอานนท์ เธอถอนใจ
"เฮ้อ"

สายตาใครบางคนเห็นพิมพิชชาที่กำลังเก็บของออกจากร้าน สายตานั้นรีบวิ่งหลบไปทางหนึ่ง พิมพิชชากำลังออกจากร้าน มองซ้ายมองขวากำลังจะข้ามถนน...
พิมพิชชาข้ามถนน ทันใดนั้นมีรถมาจากไหนไม่ทราบพุ่งเข้าชนเต็มแรง นางร้องกร๊ด ทุกคนที่อยู่รอบนอกตกใจเข้ามาดู
ชาวบ้าน 1 "รีบเรียกรถพยาบาลกับตำรวจเร็ว"
ชาวบ้าน 2 รีบโทรศัพท์ ชาวบ้าน 1 รีบไปดูที่คนขับ คนขับรถหนีไปแล้ว พิมพิชชานอนอยู่กลางถนนและเลือดออก

เสียงโทรศัพท์ของอานนท์ยังดัง อรัญภัทรมองโทรศัพท์นั้น
"คุณพ่อก็คงจะโทรมาต่อว่าเอี๊ยม เพราะห่วงแต่ชื่อเสียงของตัวเอง แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะถามว่าเอี๊ยมรู้สึกยังไง เอี๊ยมเป็นยังไง เอี๊ยมยังไหวอยู่รึเปล่า เอี๊ยมอยากบอกพ่อ ว่าเอี๊ยมไม่ไหวแล้ว เอี๊ยมไม่ไหวแล้วจริงๆ"
อรัญภัทรน้ำตาไหล มีกระดาษทิชชู่ยื่นเข้ามา
"ไหวสิ...คุณต้องไหว คุณยังมีผมอยู่นะ"
เธอหันไปมอง เห็นว่าคนที่มานั่งด้วยคือวรรษชล
"คุณวรรษ"
วรรษชลนั่งลงข้างๆเอี๊ยม
"อย่าคิดมากเลยนะเอี๊ยม ผมเชื่อว่าคุณจะผ่านมันไปได้"
"แต่เอี๊ยมยังหาทางออกให้เพื่อนและตัวเองไม่ได้เลย มันไม่มีทางเลยจริงๆ พูดไปคุณคงไม่เข้าใจหรอก เพราะคุณไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เหมือนเอี๊ยม"
"ใครว่าผมไม่เคย"
อรัญภัทรนิ่งมองหน้าวรรษชลอย่างสงสัย วรรษเริ่มเล่าชีวิตตัวเอง
"เมื่อก่อนผมจนมาก ผมพยายามแทบตาย แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แม้แต่ผู้หญิงที่ผมรัก ที่ผมยอมทุ่มเททั้งชีวิตให้กับเค้าก็ยังมาทิ้งผมไป ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตดี...ผมก็เลยตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย"
"คุณวรรษ"
"แล้วก็มีเด็กผู้หญิงคนนึง เข้ามาช่วยชีวิตผมไว้ เธอเล่าเรื่องตัวแกชโททิชให้ผมฟัง ว่าชีวิตมันสั้นยังไง...ถึงชีวิตมันจะสั้น แต่มันก็ยังใช้ชีวิตของมันให้ดีที่สุดจนถึงวินาทีสุดท้าย"
เธอรู้สึกคุ้นๆ กับสิ่งที่วรรษพูด
"ผมถึงได้ตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป...เพราะเด็กคนนั้น"
"เด็กคนนั้น"
"ก็คุณไง...เอี๊ยม คุณเป็นคนทำให้ผมลุกขึ้นมาสู้ใหม่อีกครั้งจนถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็จะทำให้คุณลุกขึ้นมาสู้ใหม่ให้ได้"
วรรษชลกอดเธอ
"เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะเอี๊ยม"
เธอน้ำตาไหล " ขอบคุณนะ"
ทั้งสองคนผละมามองหน้ากัน วรรษปาดน้ำตาให้เอี๊ยม เอี๊ยมมองหน้าวรรษ
"จะว่าไปตอนนั้นที่เจอคุณ...เทียบกันตอนนี้ คุณดูดีขึ้นเยอะเลยนะคะ"
"ก็ผมได้กำลังใจดีไง...ผมถึงได้ดูดีขึ้น"
"กำลังใจจากใครเหรอคะ"
"ไม่รู้เหรอว่าใคร"
"ฮึ" เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้)
วรรษชลดึงเธอมาหอมแก้ม
"ก็คนนี้ไง"
"คุณวรรษ!...คุณทำอะไร"
"ผมก็หอมแก้มคนที่ผมรัก...นี่คุณไม่รู้เหรอ...งั้นเดี๋ยวผมทำให้ดูอีกทีไหม" เขาจะหอมแก้มอีก
เธอเอามือดันหน้าวรรษชลไว้ "อย่ามาเนียน"
เสียงโทรศัพท์วรรษชลดังขึ้น...วรรษรับสาย
"อะไรนะครับ"
วรรษชลตกใจ วรรษชลวางสายอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้
"มีอะไรเหรอคะ"
"พิมถูกรถชนอาการปางตาย"
เธอตกใจ เกลียด แต่ไม่ได้อยากให้ใครตาย
"เรารีบไปดูกันดีไหมคะ"
วรรษชลมองหน้าอย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน
"เอี๊ยมผมไม่คิดคุณจะ..."
"ทำไมคะ...ถึงเอี๊ยมจะเกลียดเค้า แต่เอี๊ยมก็ไม่ได้อยากให้เค้าตายนะคะ"
วรรษชลยิ้มให้ พยักหน้า จับมือเธอแล้วรีบวิ่งออกไป

อ่านต่อตอนที่ 19




กำลังโหลดความคิดเห็น