สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 11
ตอนเช้า สมชายฟื้นจากการผ่าตัด ข้างๆ เตียงมีเก่งกับครามยืนอยู่ใกล้ๆ สมชายกวาดตามองทุกคนแล้วหยุดที่คราม
“ปลอดภัยใช่ไหมคราม เมื่อคืนฉันได้ยินเธอพูดกับฉันด้วย”
“ผมดีใจครับที่คุณสมชายปลอดภัย”
“คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ คนที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ทุกๆ คนไม่ควรมาแลกชีวิตกับเด็กบ้านนอกอย่างผม”
“ไม่หรอกเก่ง มนุษย์ทุกคนมีค่าเท่าเทียมกัน และฉันเต็มใจที่จะช่วยเหลือเธอ”
เก่งยิ้มให้สมชายที่มองครามและเก่งอย่างเอ็นดู ทอมเปิดประตูเข้ามาพร้อมพยาบาลสีหน้าเคร่งเครียด พยาบาลส่งชาร์ตให้ทอม
“รู้สึกยังไงบ้างครับ”
“ชิลๆ เลยหมอ โดนอีกสักลูกสองลูกยังไหว ว่าแต่กรุ๊ปเลือดผมหายากมาก หมอเก่งจริงๆ ไปหามาจากไหน”
“ก็แถวๆ นี้แหละครับ ครามเขามีเลือดกรุ๊ปเดียวกับคุณ”
สมชายตื่นเต้น “เหรอมิน่าทำไมผมเห็นครามก็รู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษ”
“มันมีมากกว่านั้นอีกครับ ไม่ทราบว่าผมจะขอคุยส่วนตัวกับคุณสมชายได้ไหมครับ”
เก่ง ครามขยับจะออก แต่สมชายพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ทุกคนในห้องนี้ก็เปรียบเหมือนญาติผม หมอพูดมาเลยครับผมรับได้”
“ผมไม่รู้ว่าในอดีตก่อนที่คุณจะความจำเสื่อม คุณทำอะไรไว้ แต่ผลดีเอ็นเอของคุณกับครามแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นพ่อลูกกันครับ”
สมชายตะลึ
เกิดอาการปวดหัวขึ้นมา ครามถึงกับงงที่ได้ฟังคำพูดของทอม ว่าตนเป็นลูกของสมชาย เก่งตาค้างที่รู้เรื่อง ทอมบอกให้เก่งกับครามออกไปข้างนอกก่อน เพราะสมชายช็อคมีอาการปวดหัวขึ้นมา
ครามจ้องมองหน้าเอ็ม เก่งคอยให้กำลังใจเพื่อนอยู่ข้างๆ
“หมอทอมบอกว่าคุณเป็นคนขอร้องให้ตรวจดีเอ็นเอเพราะคุณสงสัยบางอย่าง” เก่งถาม
“ถูก ฉันขอให้ทอมทำโดยพลการ แต่มันเป็นผลดีนะเพราะอย่างน้อยเพื่อนเธอก็รู้ว่าใครเป็นพ่อที่ทิ้งเขาไว้ที่วัดแล้วหนีไปแต่งงานใหม่”
“พ่อผมความจำเสื่อมคุณก็รู้ เขาไม่ได้ทิ้งผม แต่เขาจำไม่ได้ต่างหาก”
เอ็มหัวเราะชอบใจ พอเห็นอรเดินออกมากับข้าวหอม เขาก็แกล้งพูดเสียงดัง
“นี่แหละเวรกรรมที่มันหักหลังเพื่อนจนครอบครัวเขาสิ้นเนื้อประดาตัว ทำให้มันจำไม่ได้แม้แต่ลูกชายตัวเองฮ่าๆๆ”
“พ่อผมไม่มีทางทำอย่างนั้น คุณอย่ามาใส่ร้ายนะ”
“เชอะ แกเองก็เหมือนกัน พ่อแกจำแกไม่ได้เพราะป่วยหรือแกล้งจำไม่ได้ก็ไม่รู้”
ครามโกรธผวาเข้าใส่เอ็ม แต่เก่งดึงไว้
“อย่าคราม ยังไงเขาก็เป็นพ่อของหมอทอม ถึงเขาจะชั่วจะเลวยังไงลูกชายเขาก็เป็นคนดีมีบุญคุณช่วยผ่าตัดคุณสมชายได้ทันเวลา”
“เก่ง ถ้าเธอรู้ว่าสมชายทำอะไรกับพ่อเธอไว้บ้าง เธอคงไม่พูดกับฉันแบบนี้”
อรเดินตรงเข้าไปหาเอ็ม
“บอกความจริงมา เขาทำอะไรกับพี่เขยฉัน”
เอ็มยิ้มสะใจนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต สมชายกับเขานั่งคุยกันอย่างเคร่งเครียดในห้องประชุม
“ผมจะทำค่ายเพลงขึ้นมาใหม่โดยมีผมกับกล้าสองคนเท่านั้น” สมชายบอก
“อ้าว พูดอย่างนี้ได้อย่างไร ไหนบอกว่าเราจะทำกัน 3 คนไง” เอ็มแย้ง
“ผมคิดดูแล้วว่าคุณไม่เหมาะที่จะร่วมงานกับพวกเราได้ ความคิดเห็นเราไม่ตรงกัน”
“ผมมีความคิดไม่ตรงตรงไหน”
“เอาเป็นว่าการทำงานบริษัทเพลงใหม่นี้ไม่มีชื่อคุณก็แล้วกัน”
“แกไอ้เพื่อนทรยศ แกต้องไปยุกล้าให้ไม่เชื่อใจฉันแน่ๆ ดีล่ะ ถ้าเปิด SMK ไม่ได้ฉันก็จะเปิด M มิวสิคคนเดียว”
เอ็มโกรธมากที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมหุ้น แต่เขากลับบิดเบือนความจริงเรื่องที่เล่าให้เก่งฟัง เขาใส่ไฟสมชายเป็นการใหญ่
“บริษัทยังไม่ทันเปิด กล้าก็ถูกยิงตายคาเวทีร้องเพลง”
มะขิ่น เจ๊ลำไย แหม่ม บัวเข้ามาร่วมฟัง ทุกคนตั้งใจฟังที่เอ็มเล่า เอ็มก็เล่าต่ออีก
“แต่คนชั่วก็ได้รับกรรม สมชายเกิดอุบัติเหตุจนตัวเองความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้แม้แต่ลูก”
อรกับเก่งได้ฟังเรื่องเล่าที่เอ็มบอกว่าการตายของกล้า สมชายมีส่วน อรทรุดลงกับพื้น บัวกับเจ๊ลำไย แหม่มรีบเข้ามาประคอง เก่งยืนนิ่งน้ำตาไหลพรากที่เพิ่งรู้ว่าคนช่วยชีวิตตัวเองเป็นคนฆ่าพ่อของตัวเอง แต่ครามไม่เชื่อเรื่องที่เอ็มพูดออกมา
“คุณเอ็มคุณกำลังใส่ร้ายพ่อผม พ่อผมไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน”
เอ็มไม่สนใจคำพูดของคราม ครามหันไปหาเก่งที่ยืนน้ำตาไหล
“เก่ง เก่งฟังนะ คุณเอ็มใส่ร้าย เก่งรู้ใช่ไหมว่าคุณสมชายรักและจริงใจกับเราแค่ไหน”
เก่งไม่ฟังคราม ข้าวหอมมองครามอย่างเห็นใจ
“ใจเย็นๆ นะ เราต้องสืบความจริง ข้าวหอมก็เชื่อว่าคุณสมชายเป็นคนดี”
ครามฟังข้าวหอมแบบเข้าใจ เดินไปหาอรแต่ถูกอรไล่
“หยุดอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องเข้ามาหาฉัน ไอ้ลูกฆาตกร”
ครามน้ำตารื้น น้อยใจ “น้าอร
ทุกคนมองครามด้วยความสงสาร เจ๊ลำไยรีบตัดบท
“บัวพาครามออกไปก่อน รออรมันใจเย็นกว่านี้ เจ๊จะคุยกับมันเอง”
บัวรีบพาครามออกไป เอ็มมองทุกอย่างที่เป็นไปตามแผนอย่างสะใจ
สมชายกำลังพูดคุยอยู่กับเรยา สาลี่ ทอม คราม บัวเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“พ่อผมเล่าความจริงให้ฟังหมดแล้วใช่ไหม จริงๆ ไม่ต้องไปก็ได้ คุณสมชายจำเรื่องทุกอย่างได้แล้ว”
ครามเข้าไปกราบสมชาย สมชายยิ้มสบายใจที่ได้ลูกชายกลับคืนมา บัวมองอย่างตื้นตัน
“พ่อขอโทษที่ทิ้งลูกไปลำบากแบบนั้น”
ครามน้ำตาไหลมองหน้าพ่อ
“ผมไม่โกรธพ่อ เพราะพ่อจำอะไรไม่ได้ ผมรักพ่อครับ”
เรยา สาลี่หันมองตากันและชื่นชมที่พ่อกับลูกได้เจอกัน
“สาลี่เคยรู้หรือเปล่าว่าคุณสมชายเคยมีลูก” เรยาถาม
สาลี่งงๆ “สาลี่ก็ไม่รู้เรื่องในอดีตอาสมชายมากนัก แต่ก็ช่างมันเถอะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างน้อยฉันก็มีพี่ชายเพิ่มอีกคน”
“อ้าว แล้วเก่งล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ หรือว่าน้อยใจกลัวฉันจะรักลูกชายตัวเองมากกว่าหา”
สมชายพูดติดตลก ครามอึ้ง พูดไม่ออก บัวเดินมาจับมือครามให้กำลังใจ
ครามนั่งคุยกับทุกคนในบริษัทของสมชาย
“ผมไม่เชื่อในเรื่องที่คุณเอ็มบอกเกี่ยวกับเรื่องการตายของพ่อเก่ง”
“ใช่คุณสมชายต้องถูกใส่ร้ายแน่นอน คนอย่างคุณเอ็มไว้ใจได้ที่ไหน” ครูกุ๊กไก่เห็นด้วย
“ฉันรู้จักอาสมชายดีพอ ตั้งแต่เล็กจนโตแกรักและดูแลฉันเหมือนลูกแท้ๆ ซึ่งถ้าคุณอาเป็นคนเลวจริง พออานิดตายแกไล่ฉันออกจากบ้านก็ได้ แต่แกไม่เคยทำ”
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไงต่อไป เก่งไม่คิดเหมือนพวกเราแน่” เรยาถาม
“พี่เก่งเขามาเป็นนักร้องก็เพราะอยากสืบความจริงว่าใครเป็นเพื่อนทรยศที่ฆ่าพ่อ หลักฐานมัดคุณสมชายขนาดนี้ยากที่จะให้พี่เก่งเข้าใจ” บัวอธิบาย
นก มด ปลาและทุกคนต่างนั่งหน้าเซ็งๆ หาทางออกไม่ได้ ระหว่างนั้น เมฆ เสี่ยกำธร ดุ่ย ดุ่ยซื้อของกินมาเต็มที่เมฆรีบเอาใจบรรดาเมียๆ ทั้งหลาย
“สามีสุดที่รัก มาส่งเสบียงแล้วจ้ะเมียจ๋า”
“กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ดุ่ยเสริม
“ลูกพี่เมฆซื้อของกินมาเพียบเลย” ดุ๋ยบอก
ทุกคนเงียบ เซ็ง เสี่ยกำธรถามบัว
“บรรยากาศมาคุเกิดอะไรขึ้นวะนังบัว”
“คุณเอ็มใส่ร้ายว่าคุณสมชายฆ่าพ่อพี่เก่ง ครามก็ถูกน้าอรด่าว่าเป็นลูกฆาตกร”
“แล้วคุณสมชายว่าไง แกความจำกลับมาแล้วนี่”
“แกบอกว่าใครจะคิดยังไงก็ช่างแกรู้ว่าไม่ได้ทำก็พอ” ภูมิเล่า
ครูกุ๊กไก่เห็นด้วย “ใช่ บอสว่าตอนนี้ได้ลูกชายคืนก็พอใจแล้ว ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมกับใครอีก”
“แต่ถ้าคุณเอ็มปล่อยข่าวไม่ดีออกไป เอสเคเรคคอร์ดก็อาจจะต้องปิดตัว” เรยาบอก
ทุกคนเซ็ง เมฆรีบเข้าไปปลอบเมียทั้งสาม เสี่ยกำธรคิดหนัก แล้วปลีกตัวไปนั่งคนเดียวเศร้าๆ พึมพำกับตัวเอง
“ถ้าเราพูดเรื่องจริง เราจะกลายเป็นคนชั่วคนเลวกว่าเดิม แต่ถ้าเราไม่พูดต้อง มีอีกหลายคนที่ต้องตกงานรวมทั้งลูกสะใภ้ของเราด้วย”
เสียงไลน์จากโทรศัพท์ดังขึ้น เสี่ยกำธรเปิดอ่านข้อความ
“ถ้าผิดแล้วแก้ไขคือคนประเสริฐ”
“พวกพี่ก็จะกลับตัวเหมือนกัน”
“น้องกำธรต้องแก้ไขสิ่งไม่ดีในอดีต”
“เราจะได้มีชีวิตใหม่ที่สดใสและมีความสุข”
มีรูปเสือโหยกับเสือหิวยืนยิ้มหวานถูกตำรวจใส่กุญแจมือ เสี่ยกำธรถึงกับน้ำตาซึมที่ยังมีคนให้กำลังใจและเห็นความสำคัญของเขา
“พี่โหยพี่หิว”
เมฆเดินเข้ามานั่งข้างๆ พ่อ
“พ่อ ฉันเคยเป็นลูกไม่ดีทำให้พ่อต้องเป็นห่วง ต่อไปนี้ฉันจะปรับปรุงตัวใหม่ เพราะฉันมีเมียที่ต้องรับผิดชอบถึง 3 คน ส่วนพ่อ ถ้าทำอะไรแล้วมีความสุขพ่อทำไปเลย ฉันรับได้ทุกเรื่อง”
“เอ็งไม่อายเขาเหรอ”
“อายทำไม ฉันมีพ่อที่ประเสริฐที่สุดแบบนี้ทำไม่ต้องอาย”
เสี่ยกำธรน้ำตาไหลมองลูกชายอย่างตื้นตัน เมฆยิ้มหวานให้พ่อแล้วอ้อนเหมือนเดิม
“ว่าแต่พ่อบอกความจริงทุกคนเถอะนะ ฉันไม่อยากให้เมียๆ ฉันตกงาน เดี๋ยวไม่มีใครหาเลี้ยงฉันอ่ะ"
เสี่ยกำธรหายซึ้ง ถีบลูกชายตกโต๊ะด้วยความหมั่นไส้ แล้วเชิดหน้าพร้อมจะพูดความจริง
“ก็ได้เป็นไงเป็นกันฉันจะพูดความจริง”
เอ็มเปิดประชุมกับทีมงานในบริษัททั้งหมด
“ผมขอแสดงความยินดีที่ได้เก่งเข้ามาเสริมทีม ผมจะทำให้เก่งดังควบคู่ไปกับข้าวหอม ผมจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่แสดงไปทั่วทุกภาค”
เก่งนั่งไม่พูดไม่จากับเรื่องที่เอ็มบอกในที่ประชุม ข้าวหอมมองชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง
“มะขิ่นล่ะข้าวหอม หายไปไหน” ถั่วพูถาม
“ไปเคลียร์ธุระส่วนตัว”
“เหรอ คงไม่ได้กำลังหาทางให้เก่งกลับไปอยู่เอสเคเรคคอร์ดหรอกนะ”
ข้าวหอมไม่ตอบ มองหน้าเก่งที่นั่งนิ่งเศร้าๆ ทุกคนในที่ประชุมต่างพากันดีอกดีใจที่เอ็มเปิดเผยเรื่องงานคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้น
มะขิ่นนั่งรถมากับภูมิ พลางพูดอย่างหนักใจ
“เราเห็นแก่ตัวหรือเปล่าเนี่ย ทุกคนกำลังมีปัญหาแต่ฉันกลับดึงคุณมาแก้ปัญหาส่วนตัว”
“เรื่องของคุณสมชายผมคิดว่ามันจะคลี่คลายในไม่ช้า เพราะแกเป็นคนดี รับรองตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ส่วนคุณน่าเป็นห่วงกว่า”
“นี่ นายหาว่าฉันเป็นคนเลวไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเหรอ”
“คุณพูดเองนะผมไม่ได้พูด”
มะขิ่นเงื้อมือจะตีภูมิ พลันสายตาเหลือบเห็นเปิ้ลยืนเท้าสะเอวด่าคนอยู่ข้างทาง มะขิ่นรีบบอกให้ภูมิจอดรถ
“คุณๆๆ จอดๆ นั่นไงเปิ้ล”
ภูมิจอดรถทันที เปิ้ลดูโทรมๆ เหมือนแม่ค้าขายของทั่วไป กำลังเท้าเอวด่าคนซื้อของ
“ไม่ดีก็ไม่ต้องซื้อไม่ใช่มาปากเสียแบบนี้”
“ทำไมฉันพูดเรื่องจริงแกก็แค่ดาราตกกระป๋องที่ตกตํ่าจนต้องไปเล่นหนังโป๊”
“แล้วมันเกี่ยวอะไร ถ้าแกไม่ซื้อก็ไปอย่ามาเกะกะ”
“ไม่ต้องมาไล่ นี่สงสารหรอกนะถึงได้มาซื้อ ยังเอาของไม่ดีมาขายอีก เชอะ กลับไปขายของเก่านาผืนน้อยเถอะไป๊”
คนซื้อเดินหัวเราะกลับขึ้นรถตัวเองแล้วขับไป ทิ้
เปิ้ลทรุดตัวร้องไห้อย่างเจ็บช้ำในชะตากรรมตัวเอง มะขิ่นกับภูมิเดินลงมาจากรถ มะขิ่นมองเปิ้ลด้วยความสงสาร
“เปิ้ลนี่ฉันเองนะมะขิ่น”
เปิ้ลเห็นมะขิ่นขยับจะหนี แต่มะขิ่นคว้าแขนไว้
“เปิ้ล ไม่ต้องกลัว เธอพูดกับฉันได้ทุกเรื่อง เราเคยเป็นเพื่อนกันนะ”
เปิ้ลสะอึกถึงกับโผกอดมะขิ่นแล้วร้องไห้ขอโทษ
“เกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงตกต่ำแบบนี้”
“ฉันมันโง่เอง อยากเด่นอยากดังจนยอมหักหลังคนดีๆ อย่างเธอ”
“แล้วทำไมเธอถึงไปเล่นหนังอย่างว่าล่ะ”
เปิ้ลพูดด้วยความแค้น
“ป้าสีวังส่งฉันไปเป็นอนุผู้ใหญ่ท่านหนึ่งแล้วฉันดันไปมีกิ๊ก ท่านเลยโกรธสั่งตัดความช่วยเหลือทุกอย่างแถมยังให้ป้าสีวังหลอกฉันไปถ่ายหนังโป๊ ชื่อเสียงตกตํ่าจนไม่กล้าเข้าสังคม จนต้องมาเป็นแม่ค้าหาเลี้ยงตัวเองแบบนี้ไง”
“คุณยังมีโอกาสแก้ตัวนะครับอย่าพึ่งสิ้นหวัง” ภูมิบอก
“ฉันอยากจะเปิดโปงพวกมันแต่ฉันไม่กล้า”
“เพื่อนผมเป็นนักข่าวใหญ่สามารถปกป้องเปิ้ลได้ อยู่ที่เปิ้ลจะยอมหรือเปล่า”
เปิ้ลนั่งคิดแค้นๆ
อ่านต่อหน้าที่ 2
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 11 (ต่อ)
สมชายนั่งอ่านข่าว “เก่ง เกรียงไกรย้ายค่ายซบอกเอ็มมิวสิค” เขาลดหนังสือพิมพ์ลงอย่างอ่อนใจ ครามเข้ามาปลอบ
“อย่าคิดมากนะครับพ่อ”
“อาจจะถึงเวลาต้องปิด เอสเคเรคคอร์ดแล้วก็ได้ ถ้าเรยาต้องการย้ายค่ายไปผมก็ยินดี”
“ฉันไม่ไปที่ไหนทั้งนั้น เรยาเกิดจากที่นี่ก็ต้องอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะขอตายไปกับ เอสเค”
สาลี่มองเพื่อนอย่างซึ้งใจ
“หนูไม่เข้าใจคุณอา ทำไมไม่ยอมเปิดเผยความจริงทั้งที่เสี่ยกำธรก็ยอมรับหมดแล้ว”
ทอมเดินมาจะเปิดประตูได้ยินคนข้างในพูดเรื่องเอ็ม จึงหยุดยืนฟังหน้าประตู เสี่ยกำธรพูดกับทุกคน
“ใช่ฉันยอมรับว่าคุณเอ็มเคยจ้างฉันไปยิงกล้า เสียงเพชร แต่ฉันน่ะใจไม่ถึงพอ เลยไม่กล้าทำ”
“แต่ก็ยังไปเรียกร้องผลประโยชน์ สมเป็นเสี่ยกำธรจริงๆ” บัวค่อนขอด
“ก็กล้าเขาดันเกิดอุบัติเหตุถูกลูกหลงจริงๆ ฉันก็เลยได้โอกาส”
“เลวจริงๆ อย่างน้องบัวว่า” ครูกุ๊กไก่ประณาม
ทอมยืนนิ่ง น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเขาเองไม่เคยคิดเลยว่าพ่อของเขาจะว่าจ้างฆ่าเพื่อนตัวเองได้
“มาโทษเค้าได้ไง จะโทษก็ต้องไปโทษคุณเอ็มโน่น คนที่คิดฆ่าเพื่อนตัวเองได้ลงคอเพื่อผลประโยชน์ขนาดลูกชายตัวเองยังหลอกใช้เลย”
“จริงซินะ ถ้าหมอไม่ถืออภิสิทธิ์ตรวจดีเอ็นเอของครามกับคุณสมชายเรื่องก็ไม่แดง” เรยาคิดทบทวน
ทอมน้ำตานองหน้า เสียใจในสิ่งที่พ่อทำ เขาเดินออกไปอย่างเร่งรีบ ดุ่ย ดุ๋ยเดินหิ้วของกินมา เห็นทอมเดินออกไป ทั้งสองงงๆ ดุ่ย ดุ๋ยเปิดประตูเข้ามาเสี่ยกำธรร้องถาม
“ลูกชายลูกสะใภ้ข้าล่ะ”
“ไปเก็บของที่บ้านคุณเอ็ม ลูกพี่บอกว่าไม่อยากอยู่กับคนเลว” ดุ๋ยบอก
“เรื่องจริงคือติดเมียกลัวเมียทิ้งน่ะจ้ะ” ดุ่ยอธิบาย
“เออเมื่อกี้ฉันเห็นหมอทอมยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าไม่ค่อยดีมีอะไรกันเหรอ” ดุ๋ยถาม
เรยาตกใจเพราะรู้ว่าทอมต้องได้ยินเรื่องที่คุยกัน เธอรีบวิ่งออกไป
เอ็มดูสัญญาที่เก่งเซ็นอย่างอารมณ์ดี หัวเราะร่า
“เธอคิดถูกแล้วเก่งที่มาอยู่กับฉัน คนเลวๆ อย่างสมชายมันต้องโดนแบบนี้ หักหลังคนอื่นก็เลยถูกคนที่ปั้นมาหักหลังบ้างฮ่าๆๆๆ”
เก่งสีหน้าไม่ดีที่โดนพูดแบบนี้ ข้าวหอมจับมือให้กำลังใจ ทอมพรวดพราดเข้ามา เรยาวิ่งตามมาติดๆ
“พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง หลอกใช้แม้กระทั่งลูกตัวเอง”
เอ็มหน้าเสีย “ทอมใจเย็นๆ ก่อนลูก อย่าไปฟังใคร ทุกคนมันโกหก”
“พ่อนั่นแหละที่โกหกทุกคนอยู่ หยุดเถอะครับพ่อผมขอร้อง”
“ฉันทำอะไรแกถึงบอกให้ฉันหยุด”
เรยาเข้ามา “คุณจ้างเสี่ยกำธรยิงพ่อกล้าของเก่ง”
ทุกคนตกใจมาก โดยเฉพาะเก่งกับอร เรยาพูดต่อ
“เสี่ยกำธรสารภาพหมดแล้ว โชคดีนะที่เสี่ยใจไม่ถึงพอ พ่อกล้าเลยตายด้วยอุบัติเหตุจริงๆ”
“คุณสมชายรีบเอาเงินไปคืนครอบครัวเก่ง จนเกิดอุบัติเหตุ พ่อก็ปกปิดเรื่องเพราะเห็นว่าเขาความจำเสื่อม พ่อทำแบบนี้ลงคอได้ไง พวกเขาเป็นเพื่อนรักของพ่อนะ”
ทุกคนมองเอ็มเป็นตาเดียวกัน เอ็มหน้าเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโมโห
“ช่วยไม่ได้มันอยากไม่เอาฉันร่วมหุ้นทำไม ถ้าฉันไม่ได้ ใครๆ ก็ต้องไม่ได้ พวกมันอยากเป็นตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ทำไม ฉันก็เลยต้องกำจัดมันทิ้ง”
“พ่อ”
“เห็นไหม ในที่สุดฉันก็ชนะ เก่งจะอยากอยู่กับฉันไหมไม่สำคัญ แต่มันก็ไปไหนไม่ได้เพราะติดสัญญา”
เก่งลุกขึ้นยืน กำหมัดแน่นด้วยความแค้น น้ำตาคลอ
“ฮ่าๆๆๆ ฉันคือผู้ชนะ ผู้ชนะ ผู้”
เอ็มระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสะใจ แล้วเกิดโรคหัวใจกำเริบล้มฟุบลงไป
เก่ง ข้าวหอม เรยา ถั่วพู เอก รอทอมอยู่หน้าห้องผ่าตัด ทอมเปิดประตูออกมาหน้าซีด พยาบาลเดินประกบอย่างเป็นห่วง ทุกคนกรูเข้าสอบถาม ยกเว้นเก่งที่นั่งนิ่งคิดหนัก
“เป็นไงบ้างหมอ คุณเอ็มโอเคแล้วใช่ไหม” เรายาถาม
ทอมไม่ตอบ ตัวเซ พยาบาลกับเรยาต้องช่วยประคอง
“พาคุณหมอนั่งพักก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะรายงานผลให้ทราบ”
เรยาประคองทอมไปนั่งข้างๆ เก่ง เก่งพยายามทำใจให้ลืมความแค้น เพราะเห็นทอมอาการแย่
“คุณเอ็มอาการแย่เหรอครับ”
ทอมไม่ตอบ น้ำตาไหลพูดอะไรไม่ถูก พยาบาลต้องช่วยรายงาน
“การผ่าตัดหัวใจได้ผลดีค่ะ คนไข้ปลอดภัยแต่”
ทอมพูดต่อ “อาการช็อค ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมอง การทำงานของสมองหยุดชะงัก”
ทอมร้องไห้พูดต่อไม่ได้ เก่งตบไหล่อย่างเห็นใจ เรยาคอยจับมือให้กำลังใจ
“คุณเอ็มกลายเป็นคนพิการเป็นอัมพาตใช่ไหมคะ” ถั่วพูรับไม่ได้
ทุกคนมองถั่วพูอย่างตำหนิ ข้าวหอมถามต่อ
“มีทางรักษาไหมคะ”
“โอกาสหายมีน้อยมากค่ะ เพราะร่างกายบางส่วนตายถึงจะหายอย่างน้อยก็ต้องมี 5 ถึง 6 ปีค่ะ”
“หมายความว่าฉันต้องมานั่งเช็ดขี้เช็ดเยี่ยว 5-6 ปีไม่เอาอ่ะ” ถั่วพูโวยวาย
“แต่เขาเป็นสามีคุณนะ” เรยาติง
“เขาไม่เคยเห็นฉันเป็นเมียอยู่แล้ว เขาเห็นฉันเป็นแค่ของเล่น อีกอย่างนะที่เขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะเวรกรรม หักหลังเพื่อน คิดฆ่าคนเพื่อผลประโยชน์ คนแบบนี้ฉันคงอยู่ด้วยไม่ได้ ไป เอก”
“เอก คุณก็จะทิ้งคุณเอ็มเหรอ” ข้าวหอมถาม
“ถั่วพูไม่อยู่ ผมก็ไม่อยู่ เพราะเธอเป็นเมียผม”
เอกกับถั่วพูเดินออกไปอย่างไม่สนใจ เก่งมองทอมอย่างเห็นใจ
ทุกคนรับฟังเรื่องของเอ็มจากเก่งและข้าวหอม อรเศร้าใจ
“นี่แหละหนาเวรกรรม พอตกต่ำแม้แต่เมียยังทิ้ง”
“แล้วที่นี้เราจะเอายังไงต่อไปดีล่ะ เจ้าของบริษัทล้มทุกคนถูกลอยแพ” เจ๊ลำไยถาม
แหม่มรีบพูด “สมน้ำหน้าแล้วล่ะ เจ๊ดูซิตอนนี้คุณเอ็มก็ไม่ต่างจากที่พี่อรล้มเลยใช่ไหม พี่อร”
“ถึงฉันจะโกรธแค้นพวกเขาแต่ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ สงสารหมอทอม เขาเป็นคนดี”
“จริงจ้ะหมออาการแย่มากตอนนี้ เรยาช่วยดูแลอยู่” ข้าวหอมบอก
เก่งตัดสินใจพูด
“ความแค้นไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ตอนนี้คุณเอ็มก็ได้รับกรรมแล้ว ผมคิดว่าเราควรช่วยกันประคองบริษัทเขาให้อยู่รอดต่อไป”
“พูดมันง่ายแต่ทำซิมันยาก” มะขิ่นท้วง
“มีอยู่คนเดียวเท่านั้นครับที่ช่วยเรื่องนี้ได้ คุณสมชาย” ภูมิบอก
ทุกคนเห็นด้วย อรคิดหนัก เพราะรู้ว่าผิดต่อสมชาย
เก่ง ข้าวหอม มะขิ่น ภูมิ มาหาคราม รอฟังคำตอบจากเขา
“ผมก็อยากช่วยทุกคนนะ แต่ว่าพ่อช้ำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หนีไปพักผ่อนแล้ว ขนาดน้องสาลี่ห้ามพ่อยังไม่ฟังเลย”
“จริงค่ะ คุณอารักเก่งมาก ถึงขนาดยอมตายแทน แต่มาถูกหักหลังใครบ้างจะทนได้”
เก่งหน้าสลดเพราะรู้ว่าผิดต่อสมชายมาก ข้าวหอมช่วยพูด
“แต่ตอนนั้นพี่เก่งเข้าใจผิดนี่ ถ้าอธิบายคุณสมชายต้องเข้าใจ ครามเป็นลูกครามช่วยหน่อยซิ”
“ฉันพร้อมจะช่วย ไอ้เก่งมันก็เพื่อนฉัน แต่พ่อไม่ได้เสียใจเรื่องเก่งอย่างเดียวน่ะซิ”
“คุณสมชายเสียใจเรื่องอะไรอีกฉันทำเรื่องอะไรอีกเหรอคราม”
ครูกุ๊กไก่รำคาญ “โอ๊ย อารัมภบทกันอยู่นั่นแหละ พูดเรื่องจริงเลยดีกว่า บอสเสียใจเรื่องน้าอรที่เข้าใจผิด เพราะบอสหลงรักน้าอร รู้เอาไว้ด้วย”
“ถ้าอย่างนี้ไม่ยากครับ แค่น้าอรไปง้อคุณสมชายทุกอย่างก็จบ” ภูมิบอก
อรนั่งเหมือนตกเป็นจำเลยที่ทุกคนกำลังพยายามช่วยพูดให้ยอมรับผิด เก่งเริ่มขอร้องก่อน
“นะน้าอร เราทำผิดต่อคุณสมชายเราต้องรับผิดชอบ”
“คนดีๆ อย่างคุณสมชายเราจะปล่อยให้เขาเสียใจโดยไม่แก้ไขไม่ได้นะจ๊ะ” ข้าวหอมช่วยพูด
บัวเสริม “น้าอรคิดดู จะมีผู้ชายที่ไหนยอมตายเพื่อคนอื่นเพียงแค่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผู้หญิงที่ตัวเองรัก เป็นฉันล่ะก็รักตายเลย”
“ถ้าเราไม่ช่วยกัน ไม่ใช่แค่เอ็มมิวสิคจะล้ม เอสเคเรคคอร์ดก็ต้องล้มด้วย เพราะคุณสมชายไม่ยอมกลับมาบริหารงาน แล้วน้าอรคงไม่อยากให้ผู้ชายดีๆ ต้องพังพินาศไปเพราะเราน้าหลานหรอกนะจ๊ะ”
อรนิ่งคิด ทุกคนยิ้มอย่างพอใจ คืนนั้น อรนั่งเหงาๆ คนเดียวที่สระน้ำ พวกเก่ง ข้าวหอม บัวแอบดูยิ้มที่ทุกอย่างเข้าแผน
เรยานอนฟุบอยู่ข้างเตียงเอ็ม เอ็มตื่นเพราะหิวน้ำ เรยาสะดุ้งตื่นรีบเอานํ้าให้ดื่ม เอ็มดื่มอย่างยากลำบาก นํ้าหก เรยาต้องคอยเช็ดนํ้าให้ เอ็มนํ้าตาคลอมองเรยา
“ไม่ต้องคิดมากนะคะ พักผ่อนเยอะๆ ทำตามที่หมอแนะนำ คุณจะได้หายเร็วๆ”
เอ็มส่ายหน้าเหมือนไม่อยากหาย
“อย่าคิดแบบนั้น ถึงคนทั้งโลกจะมองว่าคุณผิด คุณเลว แต่มีคนคนหนึ่งที่มองว่าคุณคือฮีโร่ในดวงใจเขา คนนั้นคือลูกชายคุณไงคะ คุณต้องสู้เพื่อเขา”
เอ็มน้ำตาไหลเพราะสำนึกผิด
“หมอทอมกำลังประชุมทีมแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาคุณ ส่วนเรื่องงานบริษัท ฉันเชื่อว่าคุณสมชายจะต้องยื่นมือมาช่วยประคองให้มันผ่านไปได้”
เอ็มน้ำตาไหลพราก ทอมเปิดประตูเข้ามาสีหน้าแช่มชื่น
“พ่อครับเรามีโอกาสแล้วครับ”
“เหรอคะ ดีจัง ใช้วิธีไหนค่ะ”
“รักษาแผนปัจจุบันบวกกับการฝังเข็มหมอจีนครับ แต่ก็ต้องใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน”
“ขอแค่มีหนทาง เราต้องลองดูค่ะ”
ทอมจับมือพ่อไว้ให้กำลังใจ
“พ่อไม่ต้องห่วงนะครับผมจะรักษาพ่อจนสุดความสามารถ ขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องมาเหนื่อยดูแลพ่อผม” ทอมหันมาบอกเรยา
“ทำไงได้ล่ะฉันดันไปหลงรักลูกชายเขานี่”
ทั้งสองยิ้มให้กัน เอ็มมองลูกอย่างมีความสุข
อ่านต่อหน้าที่ 3
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 11 (ต่อ)
ตอนเช้า สาลี่ มะขิ่น ภูมินั่งรอเจ๊ลำไยแต่งตัวเป็นนักร้องออกมาพร้อมกับแหม่ม
“เป็นไงใช้ได้ไหม”
“ฝีมือแหม่มตัดเย็บเองทั้งคืนนะเนี่ย”
“สวยอ่ะเจ๊เหมือนนักร้องดังเลย”
“ก็แน่นอนซิย่ะ คนอย่างข้า ถ้าคิดจะทำอะไร เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ชอบ”
“ดีมากเลยครับ ถ้าเราคิดจะกู้ 2 บริษัทขึ้นมาใหม่ เราต้องมีนักร้องในค่ายเยอะๆ ถ้าพี่ลำไยเต็มที่แบบนี้ดังแน่นอนครับ” ภูมิชม
“เหรอๆๆ เอาให้มันดังกว่ายัยอาภาพร นครสวรรค์ เลยนะ คนเขาจะได้เลิกพูดสักทีว่าฉันเป็นแค่เงาเสียงของยายอ้วนนั่นอ่ะ”
“ดีกว่าชัวร์ เจ๊ทั้งสวยกว่าผอมกว่าเซ็กซี่กว่าขนาดนี้” มะขิ่นยอ
“งั้นเรารีบไปกันเลยดีไหมค่ะ สาลี่นัดห้องอัดกับครูเพลงไว้แล้ว”
“ดีจ้ะดี แต่ขอบอกไว้ก่อนนะมะขิ่น เจ๊ลำไยเนี่ยมีฉันเป็นผู้จัดการคนเดียวนะจ๊ะ” แหม่มย้ำบอก
“เออ รู้น่า ว่าแต่แกไม่กลับบ้านไปดูแลผัวแกเหรอ”
“ไม่กลับ ก็ฉันมัวแต่เสือกเรื่องของชาวบ้านจนมันทิ้งไปมีเมียใหม่แล้ว การเป็นผู้จัดการเจ๊นี่แหละจะทำให้ฉันลืมความหลังอันขมขื่น”
ทุกคนอมยิ้มเรื่องของแหม่ม เจ๊ลำไยมองหาอร
“เออ แล้วอรล่ะ มันหายไปไหนตั้งแต่เช้า”
สาลี่รีบบอก “น้าอรไปง้อคุณอาค่ะ พี่ครามกับเก่งแล้วก็บัว ข้าวหอม มารับไปแต่เช้า”
“งั้นเรารีบไป นังอรมันจะได้ผัว ฉันก็ต้องรีบไปเป็นนักร้องเดี๋ยวแพ้มัน อายแย่ ไปๆๆ”
ทุกคนเดินออกจากบ้านอย่างชื่นมื่น
รถตู้วิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ครามและทุกคนลงมาจากรถ
“ผมโทรถามพ่อแล้วพ่อว่าจะรอผมอยู่แถวๆ สวนแกะ น้าอรไปคุยกับพ่อเถอะครับ”
“อ้าวทุกคนไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“ไม่ได้หรอก ของแบบนี้ต้องคุยกันสองต่อสอง ดูอย่างฉันซิกว่าจะง้อข้าวหอมสำเร็จต้องไปปรับความเข้าใจในป่าตามลำพัง”
เก่งหยอก ข้าวหอมเขินตีแขนเก่ง แล้วพูดกับอร
“ของแบบนี้มีมือที่สามไม่ได้จ้ะ มันจะไม่สัมฤทธิ์ผล”
“กล้าๆ หน่อยน้าอร ไม่งั้นไม่ได้ลงจากคานจริงๆ ด้วย” บัวแซว
“นี่ไอ้บัว ฉันมาก็เพราะอยากจะรักษาบริษัทเอาไว้ ไม่ได้อยากลงจากคานอย่างที่แกว่า”
“เอาน่าน้าอร บัวมันก็แค่แหย่เล่น รีบไปเถอะเพราะไม่ว่าจะยังไงสุดท้ายพ่อไอ้ครามก็ต้องมาเป็นน้าเขยฉันอยู่ดีแหละ”
“ไอ้หลานบ้า ฉันไม่พูดกับแกแล้ว”
อรเขินรีบเดินไป ทุกคนมองตาม เก่งยิ้มๆ
“ขอให้ทุกอย่างลงตัวทีเถอะ น้าอรจะได้มีความสุขกับเขาบ้าง”
นก มด ปลา นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยมีเมฆ ดุ่ย ดุ๋ยนั่งอยู่ข้างล่าง
“งานแต่งของพวกเรา 3 คน ต้องออกมาอลังการที่สุด” นกบอก
“สวยงามที่สุด” มดฝัน
“และเพอร์เฟ็คที่สุด” ปลายิ้ม
“เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมคือรายชื่อแขกเอามาสักพันคนก็น่าจะกำลังดี” นกบอก
ดุ๋ยตกใจ “หาพันคน จะไปหามาจากไหนล่ะเนี่ย”
นกไม่พอใจ “เหรอไอ้ดุ่ย”
เมฆตีหัวดุ่ย “เวลาเมียข้าพูดห้ามขัดรู้ไหม เชิญเมียจ๊ะเมียจ๋าพูดต่อเลยจ้ะ”
“ดีและหลังจากแต่งงานเสร็จ เราจะไปฮันนีมูนกันที่ปารีส ฝรั่งเศส” นกสั่ง
“ได้จ้ะเมียจ๊ะเมียจ๋า”
“ดีมาก แต่ก่อนอื่น เราต้องมาช่วยกันฟื้นฟูค่ายเพลงก่อนเข้าใจไหม” ปลาย้ำ
“เข้าใจจ้ะเมียจ๋า เมียว่าไงผัวก็ว่าตามนั้นเลยจ้า”
ดุ่ย ดุ๋ย ได้แต่ทำหน้าเหนื่อยใจ
“จะไหวไหมเนี่ยลูกพี่เรา”
“ก็นั่นน่ะสิ หมดกันคราวนี้”
ภูมิกับมะขิ่นนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ
“ไม่น่าเชื่อว่าเจ๊ลำไยจะเสียงดีขนาดนี้”
“อย่าว่าแต่นายเลย นักปั้นมือทองอย่างฉันยังดูไม่ออกเลย อยู่บ้านนอกทำตัวเป็นแม่ค้าไปวันๆ พอบทจะเอาจริง รัศมีเจิดจรัสซะไม่มี”
“เหมือนกับคุณไง ไปแฝงตัวเป็นแค่เจ้าของร้านทำผมที่บ้าคลั่งนักมวยหนุ่มๆ”
“น้อยๆ หน่อย อย่าคิดว่ามาช่วยเหลือฉันแล้วจะลามปามกันได้ ครามเขารู้ดีว่าฉันก็แค่หาอะไรแก้เซ็งไปวันๆ เขาถึงไม่ได้ชอบฉันไง”
“เขาไม่ชอบคุณ ไปชอบบัว คุณไม่เสียใจเหรอ”
“บัวมันเองก็แอบชอบครามมาตั้งนานแล้ว แต่ฉันเห็นว่าหากครามยังชกมวยกับเสี่ยกำธร มันไม่มีอนาคต ฉันเลยแกล้งจีบครามกันๆ ไว้ก็เท่านั้นเอง”
“แต่ตอนนี้ครามกลายเป็นลูกเจ้าของค่ายเพลง คุณก็เลยหลีกทาง”
“ก็ใช่ซิยะ ฉันไม่ได้ชอบครามมันจริงๆ ซะหน่อย”
“คุณไม่ชอบครามแล้วคุณชอบใคร”
“ฉันจะชอบใครแล้วนายจะอยากรู้ไปทำไม”
“ก็ผมชอบคุณ ผมก็ต้องอยากรู้ซิว่าศัตรูหัวใจผมเป็นใครบ้าง จะได้กันท่าถูกไง”
มะขิ่นเขิน “จะบ้าเหรอ รอให้จัดการกับยัยป้ามหาภัยให้ได้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”
ภูมิอมยิ้มที่มะขิ่นเขิน
ป้าสีวังนั่งบ่นกับอาร์มเรื่องขาดรายได้เพราะเสี่ยสำราญถอนตัว
“เบื่อจริงๆ เลยค่ะคุณป้า”
“ใครว่าแกเบื่อคนเดียวล่ะ ฉันเองก็เบื่อไม่แพ้แกหรอก”
“แล้วเราจะเอาไงต่อละป้า”
“เฮ้ยเพราะไอ้เสี่ยสำราญนั่นแท้ๆ ดันถอนตัว ฉันขาดรายได้ เห็นทีว่าจะต้องหาเหยื่อรายใหม่ที่บ้าผู้หญิงเหมือนเสี่ยสำราญซะแล้ว”
“ดีค่ะ หาไอ้ที่เป็นผู้ชายแท้ๆ นะคะ รับได้ทุกสถานการณ์แบบเสี่ยสำราญหนูไม่ไหวจะเคลียร์”
“เออน่ะ แกก็ทนๆ เอาหน่อย บางทีนังเปิ้ลมันอาจจะทำให้เรากลับไปเป็นคนสนิทของท่านเหมือนเดิมก็ได้”
“จริงด้วยค่ะ ท่านโปรดมันจะตาย หนอยดันไม่รักดี อยากมีผัวเป็นตัวเป็นตน เลยถูกท่านเฉดหัว”
“เรื่องมันแล้วไปแล้ว แกเจอมันคราวนี้ ก็พูดดีๆ กับมันแล้วกัน เราเองก็ทำกับมันไว้เยอะ”
“ค่ะคุณป้า หนูจะอดทนเพื่อเงินของเรา”
สองป้าหลานหัวเราะสะใจ
สมชายคอยชะเง้อมองหาอร พอเห็นอรเดินมา ก็แกล้งทำซึมเศร้าบ่นรำพึงรำพันคนเดียว
“ไม่นึกเลยว่าคนอย่างเราต้องมาอกหักช้ำรักเอาตอนแก่”
อรหยุดนิ่ง มองอย่างสำนึกผิด สมชายแกล้งพูดต่อ
“ดูซิแอบหลงรักเขาขนาดยอมแลกชีวิตเพื่อปกป้องหลานเขา เขายังไม่เห็นความดี หาว่าเราเป็นฆาตกรฆ่าเพื่อนรักได้ลงคอ”
อรน้ำตาคลอเสียใจที่ทำไม่ดีกับสมชาย เก่ง ข้าวหอม บัว คราม แอบมองอยู่อีกมุม เก่งแซว
“โอ้โหไอ้คราม พ่อแกดราม่าเก่งจริงๆ หวังคว้าโทรทัศน์ทองคำดารานำชายเลยมั้งเนี่ย”
“ไม่รู้พ่อกับลูกจะเหมือนกันหรือเปล่า” บัวแหย่
“อย่าเหมาซิฉันไม่เกี่ยว” ครามรีบบอก
ข้าวหอมดุ “หยุดเถียงกันทั้งหมดนี่แหละ ฉันจะลุ้นน้าอร”
ทั้งหมดเงียบ ดูเหตุการณ์ต่อ อรค่อยๆ เดินเข้าใกล้สมชาย สมชายแกล้งโอดครวญหนักขึ้น
“ผมไม่รู้ว่าเรื่องของเรามันคือเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมเจ็บปวดลึกๆ อยู่ข้างใน จวนเจียนจะขาดใจและรอคอยว่าสักวันคุณจะเข้าใจผม คุณอรสุดที่รักของสมชาย”
อรน้ำตาคลอ “คุณสมชาย ฉันขอโทษ ยกโทษให้ฉันนะคะ”
สมชายแกล้งทำเป็นตกใจที่เห็นอร
“คุณอร คุณมาทำไม คุณไม่อยากเห็นหน้าผมไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ ฉันแค่เข้าใจผิด ฉันเองก็เจ็บปวดไม่แพ้คุณ”
สมชายทำเป็นงอนไม่ยอมให้อภัย เก่งเริ่มหมั่นไส้
“นี่ถ้าไม่ใช่อนาคตน้าเขยพ่อเตะให้หายเตี้ยเลยดูซิ สำบัดสำนวนเหลือเกิน”
“ใจเย็นซิเก่ง น้าอรก็ต้องมีคนปราบพยศบ้าง คุณสมชายนี่แหละเหมาะสมที่สุด”
อ่านต่อหน้าที่ 4
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 11 (ต่อ)
ทุกคนเห็นด้วยกับข้าวหอม เก่งยอมใจเย็น อรเดินเข้าไปจับมือสมชาย
“ฉันมันโง่ที่มองไม่เห็นความดีของคุณ แต่ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่กำลังขอร้องให้ผู้ชายที่ฉันรักยกโทษให้ฉัน”
“คุณอรสุดที่รักของผม ถึงคุณจะเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่คุณคือผู้หญิงที่วิเศษที่สุด สำหรับผม ผมรักคุณนะ”
“ฉันก็รักคุณค่ะ”
ทั้งคู่โผเข้ากอดกัน เก่งและทุกคนยิ้มมีความสุข สมชายกำลังจะจูบอร เก่งเชียร์เสียงดังทำให้อรกับสมชายรู้ตัว อรหลบจูบ สมชายพลาดไปจูบก้นแกะแทน ทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุข
ป้าสีวังและอาร์มเดินเข้ามาในร้านกาแฟ ทั้งสองมองไปรอบร้านไม่เห็นใครเลย
“ทำไมมันวังเวงแบบนี้ล่ะคะคุณป้า”
“นั่นน่ะซิ ไหนนังเปิ้ลมันว่ามันรออยู่แล้วไง”
เปิ้ลก้าวเข้ามาพร้อมมะขิ่น ภูมิ และนักข่าว ป้าสีวังกับอาร์มหน้าเสีย
“รออยู่แล้วน่ะซิแต่รอคิดบัญชีกับแกนะนังป้ามหาภัย”
“อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดพูดอะไรอย่างนั้นจ๊ะหนูเปิ้ล”
“สงสัยมันอยากจะดังมั้งคะคุณป้า ดูซิมาทั้งแก๊ง ทั้งดาราตกกระป๋องและผู้จัดการน้ำเน่า”
“ยอมรับความจริงมาเถอะครับ คุณเปิ้ลให้สัมภาษณ์นักข่าวจนหมดเปลือกแล้ว” ภูมิบอก
“สัมภาษณ์อะไรฉันไม่รู้เรื่อง ไปนังอาร์ม”
ป้าสีวังขยับจะไป เปิ้ลขวางทันที
“จะไปไหน ทำผิดก็ยอมรับผิด แกเป็นคนบงการให้ฉันหักหลังมะขิ่นมาอยู่กับแก แล้วพอฉันหมดประโยชน์แกสองป้าหลานก็วางยาฉัน พาฉันไปถ่ายหนังอุบาทว์นั่น”
นักข่าวกรูกันเข้าไปหาป้าสีวังและอาร์ม ทั้งสองตกใจกับเหตุการณ์ทำอะไรไม่ถูก ป้าสีวังปฏิเสธลั่น
“เปล่านะฉันไม่ได้ทำ”
“ยังจะมาปฏิเสธอีก ท่านยกโทษให้ฉันแล้ว และจะเลี้ยงฉันเป็นอนุอย่างออกหน้าออกตา คราวนี้ไม่มีใครหนุนหลังแกแล้วนังสีวัง”
นักข่าวกรูเข้าไปหาป้าสีวังกับอาร์ม เปิ้ลเดินถอยหลังออกมาหามะขิ่นกับภูมิ
“หมดเคราะห์หมดโศกซะทีนะเปิ้ล”
“ถ้าไม่มีเธอฉันก็ไม่กล้าลุกมางัดข้อกับป้าสีวังหรอก”
“ท่านอภัยให้เธอแล้ว เธอก็อย่าทำผิดอีกล่ะ”
“คงไม่กล้าแล้วล่ะ อีกอย่างท่านว่าถ้าฉันจะมีใครให้บอกท่านตรงๆ ท่านจะปล่อยฉันไป อย่าเล่นชู้”
“คุณโชคดีแล้วนะครับที่เจอสามีที่ใจกว้างแบบนี้”
ทั้งสามยิ้มให้กัน
เก่งก้มลงกราบเท้าสมชาย หลังจากสมชายปรับความเข้าใจกับอรแล้ว
“ขอโทษนะครับ ผมมันอกตัญญู ทั้งๆ ที่คุณสมชายช่วยชีวิตและปั้นให้ผมมีชื่อเสียง แต่ผมกลับหักหลังย้ายค่าย”
“ไม่เป็นไรหรอกเพราะถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงทำแบบนี้เหมือนกัน เก่งอย่าคิดมากเลย ยังไงเราก็กำลังจะเป็นญาติกันแล้ว”
สมชายจับมืออร อรยิ้มอายๆ
“มา ลุกขึ้นมา เราจะได้ปรึกษากันเรื่องบริษัท”
สมชายประคองเก่งลุกขึ้นมานั่ง อรยิ้มอย่างมีความสุข ครามรีบถาม
“เรื่องค่ายเพลงจะเอายังไงดีครับพ่อ”
“จริงๆ แล้วบริษัทนี้ก็เป็นของเก่งครึ่งหนึ่งเพราะเงินส่วนหนึ่งเป็นของกล้าเก่งควรที่จะสืบทอดต่อ”
“อ้อ เพราะอย่างนี้บริษัทถึงชื่อเอสเค เอสมาจาสมชาย เคมาจากกล้า” ข้าวหอมนึกออก
“ขนาดความจำเสื่อมยังไม่ลืมความตั้งใจเดิมของเพื่อนรัก” บัวชื่นชม
“ขอบคุณในความซื่อสัตย์ของคุณนะคะ” อรตื้นตัน
“เพราะพ่อสมชายเป็นคนดี น้าอรเลยรักใช่ม้า”
ทุกคนหันมองบัวที่เรียกสมชายว่า พ่อ บัวเขิน เก่งพูดต่อ
“ผมพร้อมจะสานต่อความฝันของพ่อ แต่ตอนนี้เอ็มมิวสิคก็แย่ ข่าวที่ออกไปว่าคุณเอ็มวางแผนฆ่าเพื่อนมันทำให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหาย”
“พอมีทางช่วยเขาไหมคุณ” อรถาม
“ทางน่ะมีอยู่ อยู่ที่ว่าเอ็มมันจะยอมเล่นด้วยไหม”
ทุกคนนั่งกันอยู่ที่ห้องประชุมบ้านเอ็ม ทอมเริ่มนำประชุม
“เอาล่ะครับ วันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกให้ทุกคนได้รับรู้ ผมจะยุบเอ็มมิวสิคมารวมกับเอสเคเรคคอร์ท เป็น เอสเอ็มเค”
ทุกคนมองหน้ากัน สงสัย
“ชื่อย่อของสมชายเอ็มกล้า” ทอมบอก
“ผม คราม เรยาจะช่วยกันบริหารบริษัทให้เจริญก้าวไปข้างหน้าด้วยกันโดยมีภูมิเป็นที่ปรึกษา เป็นบริษัทของคนรุ่นใหม่” เก่งบอก
“แล้วหมอทอมล่ะครับ” โจถาม
“ผมเป็นหมอ ไม่ถนัดเรื่องบริหารค่ายเพลง เรยาจะเป็นตัวแทนผม”
ทุกคนยิ้มให้ทอม
“แล้วคุณสมชายล่ะไม่ช่วยบริหารเหรอค่ะ” ข้าวหอมสงสัย
“อาสมชายจะขอใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่วนคุณมะขิ่นจะช่วยหาศิลปินหน้าใหม่ให้”
“ส่วนคนอื่นๆ ก็ทำเหมือนที่เคยทำ เพียงแต่เมื่อมาร่วมกัน 2 บริษัทก็แบ่งงานกันทำเป็นงานๆ ไป” เก่งสรุป
“แล้วคอนเสิร์ตที่กำลังจะมีล่ะครับ” โจซัก
“ก็ยังเหมือนเดิมครับ เพราะถือว่าเป็นการฉลองงานแต่งงานของคุณสมชายกับน้าอรด้วยเลย” เก่งบอก
ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข
กลางคืน ทอมนั่งข้างๆ พ่อ เรยาถืออ่างน้ำกับผ้าเช็ดตัวมาให้
“ขอบคุณนะครับ”
“วันนี้คุณเช็ดตัวให้คุณพ่อนะคะ บางทีคุณอาจจะมีเรื่องที่จะคุยกับท่านเป็นการส่วนตัว”
ทอมยิ้มให้ เข้ามาดูแลเช็ดตัวให้พ่อ
“พ่อคงไม่โกรธผมใช่ไหมที่ผมตัดสินใจยุบบริษัทรวมกันเพราะผมรู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก และการที่จะให้บริษัทนี้รอดก็คือการรวมกับเอสเค และอีกอย่างเราควรจะชดใช้ให้กับเก่งและครามบ้าง”
เอ็มน้ำตาซึมเห็นด้วยกับลูกชาย
“ผมรักพ่อนะครับ”
เอ็มน้ำตาไหล ทอมโผเข้ากอดพ่อ
วันรุ่งขึ้น บัว ข้าวหอม มะขิ่น วุ่นวายเรื่องการแต่งตัวให้กับอร
“วันนี้น้าอรต้องสวยที่สุดในชีวิต” บัวยิ้มบอก
“แน่นอนอยู่แล้ว ผู้หญิงทุกคนต้องสวยสุดๆ ในวันนี้” มะขิ่นยืนยัน
“ยินดีด้วยนะคะน้าอร ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้าอรจะแต่งงานแซงหน้าข้าวหอม”
“เขาเรียกว่ามาแรงแซงโค้ง” บัวกระเซ้า
“แต่น้าอรสวยจริงๆ สวยกว่าพวกเราที่เป็นสาวๆ อีก” สาลี่ชื่นชม
อรแต่งตัวเสร็จ ใบหน้าสวยงามมาก เธอยิ้มๆ กับทุกคน
“น้าขอบใจทุกคนมากนะ เพราะทุกคนช่วยเหลือเก่ง ฉันถึงมีวันนี้”
ข้าวหอมรีบบอก “เราก็คนกันเองมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน”
“ใช่จ้ะ ไม่นานพี่ข้าวหอมก็จะเป็นหลานสะใภ้น้าอรเหมือนกัน” บัวกระเซ้า
เจ๊ลำไยกระแอม “ถามฉันหรือยัง ตอนนี้ไอ้เก่งมันรวยแล้ว ฉันเรียกค่าสินสอดแพงนะ”
มะขิ่นรีบขัดคอ “อย่างเจ๊เนี่ยน่ะเหรอจะได้เงินเก่ง แค่มันร้องลิเกให้ฟังก็ยกหลานสาวให้แล้ว”
“บ้าเหรอ อย่าพูดจี้ใจดำแบบนั้น อรขอให้มีความสุขนะ แกจะได้เลิกอมทุกข์สักที”
“ฉันล่ะอิจฉาพี่อรจริงๆ แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันเป็นผู้จัดการนักร้องดังแล้ว ลำไย ณ ปากช่อง คู่แข่งอาภาพร นครสวรรค์” แหม่มพูดอวดๆ
“ฉันขอบใจทุกคนมากเลยนะขอบใจจริงๆ”
อรซาบซึ้งใจ
สมชายมารับเจ้าสาว โดยมีเก่งกับครามยืนอยู่ข้างๆ เขาตื่นเต้นดีใจ จนเมฆแซว
“นี่เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่นะ ฉันเลยให้นำไปก่อน ไว้ดูงานฉันบ้างเหอะ”
เก่งเห็นสมชายสั่นๆ “ตื่นเต้นเหรอครับ”
“นั่นนะสิพ่อ นี่ไม่ใช่การแต่งงานครั้งแรกนะ”
“ก็ต้องตื่นเต้นสิ นอกจากแม่แกแล้วก็มีอรนี่แหละที่ทำให้หัวใจพ่อกลับมามีความสุขอีกครั้ง”
สาลี่เปิดประตูออกมา “เจ้าสาวมาแล้วค่ะ”
เจ๊ลำไยพาอรในชุดเจ้าสาวสวยงามออกมา สมชายตะลึงกับความสวยของหญิงสาว
เวลาต่อมา สมชายในชุดเจ้าบ่าวยืนรอเจ้าสาวอยู่ เก่งควงแขนอรมาส่งให้สมชาย ข้าวหอมถือช่อดอกไม้ให้ บัวถือกล่องแหวน ครามถือแหวนเจ้าบ่าว เรยากับทอมยิ้มให้คู่บ่าวสาว แหม่ม เจ๊ลำไย มะขิ่น ภูมิ สาลี่ ครูกุ๊กไก่ต่างยิ้มยินดีกับคู่บ่าสาว สมชายสวมแหวนให้อรท่ามกลางความยินดีของทุกคน เขาเปิดหมวกจะจูบอร แต่เสียงเสี่ยกำธรดังขึ้น
“หยุดก่อน รอธรด้วย ธรมาร่วมงานแล้ว”
เสี่ยกำธรแต่งหญิงควงคู่มากับเสือโหยเสือหิวอย่างมีความสุข มายืนข้างๆ เมฆและมด นก ปลา สมชายกับอรทำพิธีต่อ สมชายจูบอรท่ามกลางความยินดีทุกคน นก มด ปลา หันมาคุยกัน
“เจ๊ ตกลงว่าเราจะเรียกเสี่ยว่าพ่อผัวหรือแม่ผัวดีล่ะ” นกหันมาถามปลา
“ฉันก็ไม่แน่ใจ งงๆ สับสนอยู่เหมือนกัน”
มดตัดบท “จะอะไรก็ช่างเหอะ ขอแค่ผัวเรามีความสุขก็ยอม”
“จริงจ้ะเมียจ๋า ฉันดีใจกับพ่อด้วยนะจ๊ะ”
“เดี๋ยวตีตายเลย ต้องเรียกแม่ซิลูก แล้วนี่ก็พ่อโหยพ่อหิว”
“จ้ะแม่ธร พ่อโหยพ่อหิว”
ดุ่ย ดุ๋ยมองกำธรแล้วสยองๆ เก่งขึ้นประกาศบนเวที
“เอาล่ะครับ ผมขอเชิญทุกคนนะครับมาร่วมชมฟรีคอนเสิร์ตเพื่อฉลองมงคลสมรสและจะมีการเปิดตัวนักร้องใหม่ของค่าย เอสเอ็มเค คืนนี้ด้วยนะครับ”
ทุกคนร่วมยินดี
กลางคืน เจ๊ลำไยเปิดคอนเสิร์ตมีแหม่มอยู่ด้วย ทั้งสองคนร้องเพลงและเต้นกันชนิดลืมอายุ สมชายเปิดคอนเสิร์ตคู่กับอร เสี่ยกำธร เสือโหย เสือหิว เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย ภูมิ มะขิ่น ครูกุ๊กไก่เชียร์อยู่หน้าเวที ทอมพาเอ็มนั่งรถเข็นมาดูด้วย เรยาและกลุ่มนก มด ปลา ขึ้นร้องเพลงอย่างสนุกสนาน เก่งกับข้าวหอมร้องเพลงคู่กัน เก่งกอดข้าวหอม ทุกคนฉลองอย่างมีความสุข เก่งจับมือข้าวหอมขึ้นมองตาหยาดเยิ้ม
“ข้าวหอม เสร็จจากงานน้าอรก็เหลืองานเราแล้วนะจ๊ะ”
“ฉันไม่รู้ ก็ต้องแล้วแต่พี่เก่ง”
สองหนุ่มสาวจ้องตาหวานๆ จนบัว คราม เรยา ทอม มะขิ่น ภูมิ ต้องพูดขึ้นมาพร้อมๆ กัน
“ทั้งปี หวานทั้งปี”
ทุกคนดึงเก่งกับข้าวหอมเข้าร่วมวงเต้นรำอย่างสนุกสนาน
จบบริบูรณ์