สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 7
ตอนเช้า ข้าวหอมกับบัวและมะขิ่น ช่วยกันทำบุญใส่บาตร
“อายุวัณโนสุขังพะลัง”
“สาธุๆ”
พระและลูกศิษย์เดินออกไป มะขิ่นพูดอย่างโล่งอก
“เมื่อคืนได้จุดธูปไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เช้าขึ้นมาได้ใส่บาตรสบายใจจัง”
“อย่างน้อยคืนนี้คงไม่มีเสียงหมาหอนรบกวนจิตใจ” บัวบอกหวาดๆ
“พวกเธอทำบุญหวังผลเหรอเนี่ย” ข้าวหอมท้วง
“ไม่ใช่หวังผล แต่ขอให้ท่านส่งผลบุญเร็วหน่อยก็ดี คืนนี้จะได้ไม่”
มะขิ่นทำเสียงหมาหอน บัวกลัวสยอง ข้าวหอมตีแขนมะขิ่นที่แกล้งเพื่อน
“นี่แน่ะ แกล้งคนอื่นระวังเถอะคืนนี้โดนเองแล้วจะรู้สึก”
มะขิ่นนึกถึงเรื่องเมื่อคืนทำให้สยอง หน้าเสีย เดินไปเกาะแขนบัว ข้าวหอมยิ้มๆ
“เข้าบ้านเถอะเรา เพิ่งมาอยู่เดี๋ยวเขาจะว่าเอาได้” ข้าวหอมชวน
บัวมะขิ่นเห็นด้วย เก็บถาดใส่ของเดินเข้าบ้าน ครามวิ่งออกกำลังกายสวนออกไปจากบ้านข้างๆ
เก่งออกกำลังกายอยู่ในบ้าน ภูมิเข้ามาทัก
“ขยันจังออกกำลังกายแต่เช้า”
“ชินน่ะครับ อยู่บ้านผมก็ตื่นเช้าแบบนี้”
“เพื่อนซี้ไปไหนล่ะ”
“ออกไปวิ่งครับ ครามฝันอยากเป็นนักมวยอาชีพแต่ต้องมาสะดุดเพราะผม”
“อย่าโทษตัวเอง พรหมขิลิตต่างหากที่ขีดให้เราเดิน เราเลือกได้เพียงแค่เป็นคนดีหรือเลว การที่มาอยู่กรุงเทพฯอาจจะทำให้ครามไปถึงฝันก็ได้”
“ขอบใจนะภูมิ คุยกับนายช่วยให้สบายใจขึ้นเยอะเลย”
เรยาเดินเข้ามา
“ถ้าสบายใจก็ดีแล้ว รีบอาบน้ำแต่งตัว เรามีงานทำกันแต่เช้า”
“เรยา วันนี้เก่งไม่ต้องเข้าห้องอัดนี่”
“ไม่เข้าห้องอัดแล้วอยู่เฉยๆ เหรอ ทำงานเช้าชามเย็นชามแบบนี้เพลงฉันถึงไม่เสร็จสักที”
เรยาพูดใส่อารมณ์กับภูมิ ชายหนุ่มถึงกับหน้าเสียที่เรยาเหวี่ยงใส่ต่อหน้าเก่ง เก่งสงสารรีบพูด
“ถ้าเป็นงานบริษัท ผมทำทุกอย่างได้จ้ะ ฉันจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัวนะครับ”
“ดีมาก แล้วที่สำคัญเก่งกำลังจะเป็นนักร้องดัง การใช้สรรพนามต้องปรับปรุง จะมาฉันมาจ้ะไม่ได้ต้องผม ครับผม เข้าใจไหม”
“จ้ะ เฮ้ย ครับผม”
เก่งยิ้มให้เรยาแล้วเดินเข้าบ้านไป เรยามองตามยิ้มๆ ด้วยสายตาของความรัก ภูมิมองหญิงสาวมองเก่งอย่างอึดอัด เจียมตัว
ข้าวหอม บัว มะขิ่น แต่งตัวเสร็จแล้วนั่งเล่นบริเวณสระน้ำ
“บ้านนี้สวยเนอะ แต่ดูไม่มีชีวิตชีวาเลย” บัวเปรย
“อย่าว่าแต่ชีวิต แค่เป็นมิตรยังหายากเลย” มะขิ่นปลงๆ
“แบบนี้ใช่ไหม มะขิ่นถึงหนีไปอยู่บ้านนอก” ข้าวหอมถาม
“ก็ไม่เชิง คนที่ดีก็มีแต่ฉันโชคร้ายที่เจอคนเลวๆ”
“แต่ครั้งนี้เราคงไม่โชคร้ายใช่ไหมมะขิ่น ฉันไม่อยากเป็นคนที่ทำให้เพื่อนๆ ต้องมาลำบาก”
“ไม่หรอกอย่าคิดมาก ถ้ามีปัญหาเราก็ค่อยๆ แก้กันไป อย่าลืมซิ เรามีคนเก่งอย่างบัวอยู่ด้วยทั้งคนนักเลงที่ว่าแน่แถวบ้านยังกลัวเลย”
“ไอ้มาตรงๆ ซื่อๆ แบบคนที่บ้านฉันไม่กลัว กลัวแต่พวกที่มีเล่ห์เหลี่ยม นั่นไงพูดถึงเสือเสือก็มา”
ถั่วพูเดินขึ้นบ้านมาเหมือนคนอดนอนมาทั้งคืน มะขิ่นแซว
“ท่าทางเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืนเลยนะคะคุณถั่วพู”
“ฉันจะไปไหนมาไหนคงไม่ต้องรายงานพวกเธอหรอกนะ แล้วนี่ตื่นมาทำไมแต่เช้า”
“ฉันกับเพื่อนเพิ่งใส่บาตรพระหน้าบ้านนี้แหละค่ะ” ข้าวหอมบอก
“ตายแล้ว ทำบุญตักบาตรใจบุญแบบนี้น่าจะรู้ว่าการแย่งของๆ ใครไปมันบาปจะตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิด”
“คุณหมายความว่าไงฉันไม่เข้าใจ”
“พวกเราแค่ทำบุญแล้วก็เตรียมตัวพร้อมกับการทำงาน ทำไมต้องพูดหาเรื่องกันด้วย”
มะขิ่นเหลือบเห็นเสื้อคลุมถั่วพูมีไพ่ติดออกมาก็ยิ้ม เปรยขึ้น
“ช่างเขาเถอะบัว คนเสียไพ่มามันก็อารมณ์บูดแบบนี้แหละ”
“แกว่าใครเสียไพ่”
มะขิ่นดึงไพ่ออกจากเสื้อคลุม
“ก็แกไง นี่หลักฐาน”
“แก แก อีบ้านนอก สาระแนเรื่องคนอื่นแบบนี้แม่ต้องตบล้างน้ำ”
ถั่วพูเดินเข้าหามะขิ่น บัวปราดเข้าขวาง ถั่วพูเงื้อมือตบ บัวจับมือบีบแน่นจนถั่วพูเจ็บ
“เจ็บ ปล่อยฉัน ปล่อย”
“ไม่ปล่อย ขอโทษเพื่อนฉันก่อน บอกให้ขอโทษ”
“ไม่ ฉันไม่ขอโทษ พวกแกมันอีบ้านนอกจริงๆ อีบ้านนอกๆๆ”
“ได้ ไม่ขอโทษใช่ไหม งั้นไปแช่น้ำสงบสติอารมณ์ซะ”
บัวปล่อยแขนถั่วพูเซถลาลงน้ำในสระ ถั่วพูกรีดร้องลั่น บัวกับมะขิ่นยิ้มสะใจ ข้าวหอมมองอย่างตกใจปนสงสารถั่วพู
“บัว ไปทำเขาทำไม ช่วยเขาขึ้นมาซิ”
“ช่วยมันทำไม มันอยากมาว่าพวกเราก่อน”
ถั่วพูอยู่ในน้ำ ชี้หน้าด่า “แก ฉันไม่เอาแกไว้แน่ ฉันจะทำให้พวกแกหมดอนาคต”
เอ็มออกมาจากบ้าน พร้อมเอก ชัย เอ็มพูดเสียงแข็ง
“เธอกล้าแตะต้องคนของฉันด้วยเหรอ”
“คุณนอนค้างที่นี่” ถั่วพูตกใจ
“ใช่ ไม่งั้นฉันจะได้เห็นทีเด็ดของเธอเหรอ เสร็จงานแล้วเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
เอ็มหันมาพูดกับพวกข้าวหอมอ่อนหวาน
“หนูบัว วันนี้ไปถ่ายมิวสิคกับทีมงานนะ มะขิ่นไปเป็นเพื่อนบัวเถอะ ส่วนข้าวหอมฉันจะพาไปพบครูเพลง”
มะขิ่นพูดไม่เกรงใจ “ฉันไม่อยากแยกกับข้าวหอม”
“ไม่ต้องห่วง ข้าวหอมจะเป็นเพชรน้ำเอกของค่ายเพลงฉัน ฉันต้องดูแลอย่างดีที่สุด ไม่ใช่แค่ก้อนกรวดก้อนดินที่จะทำยังไงก็ได้ ไปทำงานกันได้แล้ว” เอ็มปรายตามองถั่วพูหยันๆ
“ง่ายไปหรือเปล่าคุณเอ็ม ฉันมาดูแลเพื่อนๆ ฉัน ไม่ใช่ลูกจ้างคุณ”
“จริงซินะ ในสายตาของเธอฉันเป็นแค่คนแปลกหน้า โอเค เธอไปกับข้าวหอม ส่วนบัวให้เมฆกับคนของเขาตามไปประกบ หวังว่าเธอคงพอใจนะ”
มะขิ่นหันมองบัวขอความคิดเห็น บัวพยักหน้าตกลง มะขิ่นเลยยอม
“งั้นก็ได้ค่ะ เมฆกับลูกน้องมันพวกเรารู้จักดีอยู่แล้ว”
เอ็มยิ้ม เดินออกไป บัว ข้าวหอม มะขิ่น ตามชัยเดินตามเอ็มไป เอกหันมองถั่วพูด้วยความสงสารก่อนจะเดินตามเจ้านายไป ถั่วพูมองด้วยความแค้นคับอกน้ำตาคลอเบ้า
รถตู้เอ็มวิ่งออกจากบ้าน ชัยนั่งหน้าไปกับคนขับ เอ็มนั่งเบาะต่อมากับข้าวหอม มะขิ่นนั่งเบาะหลังมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นครามวิ่งเข้าซอยไป มะขิ่นร้องเสียงดัง
“คราม คราม นั่นครามนี่”
“ไหนคราม”
ข้าวหอมมองดูที่หน้าต่างแต่ไม่เห็นใคร
“ไม่เห็นใครเลยเธอตาฝาดหรือเปล่า”
“ไม่ฝาด ฉันเห็นจริงๆ ครามวิ่งเลี้ยวเข้าซอยไปเมื่อกี้ คุณเอ็มกลับรถก่อนซิคะพวกเราเจอเพื่อน”
“คงไม่ได้หรอก เรานัดครูเพลงไว้แล้วจะผิดเวลาไม่ได้ ที่สำคัญเธอเจอจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“นั่นซิ ครามจะมาอยู่แถวนี้ได้ไง แค่นัดกันเขายังไม่ติดต่อกลับมาเลย” ข้าวหอมท้วง
“สาบานได้ ฉันเห็นครามจริงๆๆ เชื่อฉันซิ”
“เพิ่งมากรุงเทพได้แค่วันเดียว ก็เป็นโรคโฮมซิคซะแล้ว แบบนี้จะทำงานฉันพังไปด้วยหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ พวกเราแค่ตาฝาดเท่านั้นเอง ใช่ไหมมะขิ่น”
มะขิ่นเซ็งๆ สงบปากสงบคำ
ครามวิ่งเข้าไปในซอยเปลี่ยว ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย
“ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยด้วยๆ”
ครามหยุดวิ่งตามเสียงเข้าไปในป่าข้างทาง เห็นนักเลง 2 คนกำลังฉุดหญิงสาว
“เฮ้ย หยุด นั่นพวกแกกำลังทำอะไร”
“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย”
“เอ็งไม่เกี่ยว เรื่องของผัวเมีย คนนอกไม่เกี่ยวถอยไปเถอะไอ้น้อง”
“อย่าไปเชื่อมัน พวกมันปล้นและจะทำร้ายฉัน ช่วยฉันด้วย”
“เงียบปาก อยากตายมั้ย”
“ไม่ใช่ผัวเมียแน่ ปล่อยเธอซะ”
“ท่าทางอยากเป็นฮีโร่ แกรู้มั้ย ส่วนมากฮีโร่จะมีจุดจบไม่สวย”
“ไม่รู้ แล้วก็ไม่สนด้วย”
“เฮ้ยจัดการมันซะ”
“ยอดฮีโร่แกตายแน่”
โจรทั้งสองเข้ามาทำร้ายคราม ครามจัดการทั้งคู่จนน่วม โจรโกรธควักมีดออกมา
“เก่งนักเหรอ แกตาย”
“คุณ ระวังข้างหลัง”
ครามใช้ท่าจระเข้ฟาดหาง จัดการโจรคนหนึ่งจนสลบ กระเด็นไป
“พาพวกแกกลับไปแล้วกลับตัวกลับใจซะ”
“ขอบคุณครับ ผมจะกลับตัวกลับใจ”
โจรอีกคนพาโจรที่สลบออกไป ครามเข้าไปประคองนา ซึ่งยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
นามองหน้าครามด้วยความขอบคุณซาบซึ้ง
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 7 (ต่อ)
นาพาครามมาที่ค่ายมวย ยอดซึ่งเป็นครูมวยขอบคุณครามที่มีน้ำใจกับนา
“ผมต้องขอบคุณคุณ”
“ครามครับ ผมชื่อคราม”
“คราม ผมไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดีที่ช่วยนามัน ถ้าลูกสาวผมเป็นอะไรไป ผมคงขาดใจแน่ มีอะไรที่ผมพอจะตอบแทนได้ไหมครับ”
“ไม่ต้องตอบแทนอะไรหรอกครับ ผมแค่ทำหน้าที่พลเมืองดี”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คนเราสมัยนี้มันแล้งน้ำใจ ถ้าไม่ใช่เรื่องของตัวไม่มีใครเสี่ยงชีวิตหรอก”
“พี่เขาเก่งมากเลยนะพ่อ เล่นเอาพวกโจรแพ้พังพาบเลย”
ครูยอดมองครามอย่างสนใจ “คุณเป็นมวยด้วยเหรอ”
“พอได้ครับ ผมชอบฝันอยากเป็นนักมวยอาชีพ”
“งั้นก็ดีซิ ผมกำลังหานักมวยหน้าใหม่พอดี ลองซ้อมดูสักหน่อยไหม”
ครามยิ้มอย่างดีใจ
เก่งรอครามอย่างกระวนกระวาย ภูมิเห็นจึงพูดปลอบ
“ใจเย็นน่าเก่ง เดี๋ยวก็คงมา”
“ไม่รู้ไปวิ่งถึงไหน ครามไม่เคยหายไปนานแบบนี้”
สาลี่ เรยาเดินเฉิดฉายเข้ามา สาลี่ถามขึ้น
“ใครหายไปหรือคะ”
“ครามครับ ออกไปวิ่งป่านนี้ยังไม่กลับมา”
“อุ๊ยตายแล้วจะทำยังไงกัน วิ่งไปไกลจนหลงทางหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ผมเป็นห่วงเพื่อนมากครับ วันนี้เราไม่ไปไหนได้ไหมครับ รอครามก่อน”
เรยาเสียงแข็ง “ไม่ได้ อัลบั้มชุดนี้ทางบริษัทมุ่งหวังและทุ่มทุนกับมันมาก ถ้าเธอทำพัง คุณสมชายจะเสียใจแค่ไหน”
เก่งอึดอัด สาลี่ช่วยสรุป
“เอาอย่างนี้ ฉันจะขับรถออกไปตามหาครามแถวๆ นี้ เก่งก็ไปหาครูเพลงกับเรยาเถอะ”
“ครูเพลง” ภูมิแปลกใจ
“ใช่ ฉันติดต่อครูสัญญาไว้ ท่านจะแต่งเพลงให้เก่ง ท่านฟังเสียงแล้วท่านชอบ”
เก่งถอนหายใจ “งั้นผมไปกับคุณเรยาก็ได้ครับ ภูมิไปด้วยกันนะ เผื่อผมไม่เข้าใจอะไรภูมิจะได้ช่วยอธิบาย”
“แต่” เรยาจะค้าน
ภูมิชิงพูด “ได้ ผมไม่ได้เจอท่านนานแล้วเหมือนกัน”
“คุณสาลี่ฝากครามด้วยนะครับ ถ้าเจอกันแล้วโทรแจ้งผมด้วย เอ่อ คุณเรยาครับ ขอโทรศัพท์ผมคืนได้ไหมครับ”
“ได้ อุ๊ยขอโทษนะ ฉันลืมชาร์จแบตให้”
สาลี่ดึงโทรศัพท์มา “งั้นฉันชาร์จให้ เย็นนี้ค่อยเอาคืนแล้วกัน แล้วถ้าเจอครามฉันจะโทรเข้าเครื่องภูมินะ”
เก่งจำใจต้องยอมทำตาม เป็นห่วงทั้งครามและข้าวหอม
ครามซ้อมมวยในค่าย ครูยอดมองอย่างสนใจ โค้ชเข้ามาหา
“โค้ชว่าเด็กคนนี้เป็นไง”
“หน่วยก้านดี เป็นมวยเงินแสนสบาย ครูยอดได้ตัวมายังไง”
นาเอาน้ำมาให้ด้านล่างเวที
“ฝีมือนาเองค่ะ นาเป็นคนชวนพี่เขามา”
“ผู้ใหญ่เขาคุยกันอย่าเพิ่งยุ่งลูก”
นาค้อนพ่อนิดๆ เดินถอยห่างออกมา แต่ไม่วายฟังเรื่องที่พ่อคุย
“ชกมีแบบแผน สายตาดีออก แม่ไม้มวยไทยได้ครบเครื่องเป็นมวยอาชีพมาก่อนแน่”
“ผมลองเช็คประวัติดู เคยอยู่ในสังกัดเสี่ยกำธรปากช่อง”
“งั้นคงไม่แปลกที่เด็กคนนี้จะระหกระเหินหนีมากรุงเทพฯ เสี่ยคงเล่นสกปรกกับนักมวยตัวเองแน่”
“ประมาณนั้นครับ หลังจากงานประจำปีที่โคราชเด็กคนนี้ก็ไม่ขึ้นชกอีกเลย ฝีมือแบบนี้ครูเอาขึ้นชกไฟท์ใหญ่ๆ ได้เลยนะครับ”
“โค้ชลองไปเช็คข้อมูลให้ละเอียดอีกที ฉันไม่อยากมีปัญหากับเสี่ยกำธร แต่ถ้าครามไม่ติดสัญญากับใครฉันพร้อมจะสนับสนุนเต็มที่”
“ได้ครับครู”
นานั่งฟังอยู่ ยิ้มพอใจที่พ่อให้โอกาสคราม
เมฆและดุ๋ย ดุ่ย ช่วยทีมงานขนของลงจากรถเซ็ทฉาก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมชีวิตข้าต้องมาลำบากแบบนี้ด้วย เป็นเพราะไอ้เก่งคนเดียว”
“ไอ้ครามด้วยลูกพี่ มันสองคนทำให้เราต้องมาเป็นจับกัง” ดุ่ยแค้น
“ฉันว่ายิ่งกว่าจับกัง จากนักเลงเจ้าถิ่นกลายมาเป็นกุลีในกองถ่าย ฮือๆๆๆ เสี่ยก็เหมือนกัน ส่งลูกมาเป็นกุลีได้ไงฮือๆๆๆ” ดุ๋ยคร่ำครวญ
“หยุดเลย จะให้ข้าด่าพ่อตัวเองได้ยังไง งานนี้เป็นเพราะไอ้เก่งกับไอ้ครามเท่านั้น”
เอกเดินเข้ามาสั่งงาน
“เถียงกันจบยัง รีบเอาของลงให้ไวๆ”
“ได้เลยครับคุณเอก ไอ้ดุ๋ย ไอ้ดุ่ย รีบๆ หน่อย”
“นายด้วย ไปช่วยเขาอีกแรง จะได้เสร็จไวๆ จะถ่ายแล้วนะW
“ครับผม”
เมฆรีบเข้าไปช่วยดุ๋ย ดุ่ย ดุ๋ยมองเอกอย่างหมั่นไส้
“พี่เมฆไม่ต้อง เดี๋ยวฉันสองคนทำเอง เรื่องใช้แรงฉันถนัดอยู่แล้ว”
“นั่งรอตรงนี้เลยพี่”
ดุ่ยพาเมฆไปนั่งพักที่หม้อแปลงไฟ
“ที่จริงไอ้คุณเอกนี่มันก็ขี้ข้า ไม่เห็นต้องทำตามคำสั่งมันเลย” ดุ๋ยท้วง
“ข้ารู้ รอให้ข้าได้เป็นคนใกล้ชิดคุณเอ็มก่อน ขืนไปกร่างกับมันตอนนี้ถูกส่งกลับข้าก็อดใกล้ชิดน้องข้าวหอมพอดี”
เอ็มพาข้าวหอมและมะขิ่นมาหาครูสัญญา ครูสัญญาพูดอย่างหนักใจ
“นักร้องของคุณเอ็มเสียงดีจริงๆ เสียดายเพลงที่เพิ่งแต่งเสร็จผมยกให้ค่ายเอสเคไปแล้ว”
“งั้นก็แต่งใหม่สิครู เด็กมีความสามารถ เสียดายถ้าได้เพลงไม่ดีก็ไม่ทำให้เด็กมันเปล่งประกายพรสวรรค์ออกมาได้”
ครูสัญญาอึดอัด ข้าวหอมไม่อยากเป็นภาระเลยพูดความจริงใจ
“หนูแค่อยากร้องเพลงให้คนฟังมีความสุข เพลงแบบไหนก็ได้ค่ะครู”
“ทำไมเธอไม่อยากดังเหรอ”
“หนูชอบร้องเพลง หนูถึงทิ้งบ้านมา”
“อะไรที่เธอว่าชอบ”
“คนฟังค่ะ ตอนที่ขึ้นเวทีสายตารอยยิ้มเสียงปรบมือของคนดูมันทำให้หนูมีความสุขมาก”
“หนูอยากร้องเพลงแบบไหนล่ะ”
“ร้องให้คนฟังรู้สึกว่าเพลงที่หนูร้องเป็นเพลงของเขา มีเนื้อหาที่ประทับใจน่าจดจำในอดีตถึงปัจจุบัน เมื่อได้ฟังเพลง พวกเขาจะมีรอยยิ้มอยู่ในหัวใจ”
“อื่ม คุณตาแหลมจริงๆ คุณเอ็ม คุณได้เพชรน้ำงามที่มีหัวใจเป็นคนลูกทุ่งโดยแท้”
ครูสัญญามองข้าวหอมอย่างเอ็นดู
“ข้าวหอม หนูจะรังเกียจไหมลูก ถ้าจะร้องเพลงแก้”
“แล้วแต่ครูค่ะ ถ้าครูคิดว่าหนูเหมาะสมหนูจะร้องค่ะ”
“เพลงแก้มันจะดังรองจากคนร้องนำ หนูโอเคนะ”
“ค่ะครู”
ครูสัญญายิ้มพอใจ เรียกให้ข้าวหอมมาดูเนื้อเพลงแล้วสอน เอ็มมองอย่างพอใจ แล้วเหลือบมองมะขิ่นที่คอยสังเกตการณ์
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 7 (ต่อ)
เมฆนั่งบนหม้อแปลงไฟ บ่นไป
“พ่อนะพ่อ แทนที่จะให้ข้าไปดูแลข้าวหอม กลับต้องมานั่งเฝ้านังบัวถ่ายมิวสิค”
“น้ำหน้าอย่างนังงูพิษ ไม่น่าเล่นมิวสิคได้ สงสัยมันคงจะยัดเงิน” ดุ๋ยแปลกใจ
“หรือไม่ก็ต้องเอาตัวเข้าแลก” ดุ่ยเสริม
“นั่นน่ะซิ ใครมันตาต่ำเลือกวะ อยากรู้จริงๆ เห็นมาตั้งแต่เด็กจนสาวไม่เห็นมันจะมีความสวย”
บัวออกมาจากห้องแต่งตัว เมฆ ดุ๋ย ดุ่ย ตกใจในความสวย
“สวยๆๆ ใช่นางบัวเหรอ”
“สวยยังกับนางฟ้า”
“เนี่ยข้าตาฝาดหรือเปล่าวะ”
ดุ่ย ดุ๋ย ตบหน้าเมฆหน้าหงาย เมฆลุกขึ้นมานั่งบนหม้อแปลงไฟต่อ ทั้งคู่ทำท่าจะตบอีก เมฆห้าม
“พอเลย ตบอีกโดนเตะ ข้าพึ่งเห็นบัวสวยก็วันนี้”
ทีมงานเซ็ททุกอย่างพร้อมถ่าย ผู้กำกับตะโกนบอก
“เอาล่ะ พร้อมถ่าย กล้องพร้อมนะ”
“เดี๋ยวพี่ ไฟยังไม่พร้อมพี่ช่วยเสียบไฟให้หน่อย”
ดุ่ยช่วยเสียบปลั๊กไฟให้ทีมงาน โดยไม่ดูเมฆที่นั่งอยู่ ไฟซ็อตเมฆ ทุกคนในกองถ่ายแตกตื่นตกใจ
ครูสัญญาพูดกับข้าวหอมอย่างชื่นชม
“คนอย่างหนูอีกไม่นานต้องดังแน่ๆ ขอให้รักษาความดีให้คงเส้นคงวาไว้นะ”
“ค่ะครู หนูจะจดจำคำสอนของครูค่ะ”
“ข้าวหอมจะเริ่มเข้าห้องอัดได้เมื่อไรครับครู” เอ็มถาม
“จดจำดนตรีและเนื้อร้องได้เม่นยำ เข้าใจความหมายของเพลง เราก็เริ่มได้เลย ส่วนจังหวะเรามาปรับกันหน้างานเพราะข้าวหอมมีความสามรถอยู่แล้ว”
“ดีครับ ขอบคุณมากครับครู”
มะขิ่นหันมาพูดกับข้าวหอม
“ยินดีด้วยนะเธอ ได้เป็นนักร้องสมใจแล้ว”
สองสาวยิ้มให้กัน
บัวถ่ายมิวสิคสวยๆ ผู้กำกับพอใจมาก
“จัดฉากนี้สวยมาก เดี๋ยวเปลี่ยนชุดถ่ายฉากต่อไป”
บัวเดินเข้ามาถามเมฆ ซึ่งเลือดกำเดาไหลอยู่
“ฉันเล่นเป็นไงบ้าง”
“เล่นดีมากๆ ผู้กำกับยังชมเลย”
บัวสังเกตเห็น “นายเป็นอะไรน่ะ ไฟดูดเมื่อกี้เหรอ”
บัวเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเลือดให้เมฆ เมฆมองอึ้งๆ
“ยังไงเราก็คนบ้านเดียวกัน คนที่อยู่รอบข้างเราตอนนี้ไม่รู้เขาจะดีหรือร้าย”
“รู้จักกันมาเป็น 10 ปี พึ่งเห็นเอ็งทำดีกับพวกข้า” ดุ๋ยบอก
“นี่มันยามคับขัน ยังไงก็ต้องสงบศึกไว้ก่อน อีกอย่างฉันรู้ดีว่าพวกแกเลวร้ายแค่ไหนไม่ต้องระวังตัวมาก”
“นี่มันหลอกด่ากันนี่หว่านังบัว” ดุ่ยโวย
“ไม่ได้หลอก ด่าตรงๆ เลย ฉันไปทำงานต่อก่อนนะขอให้สนุกกับการยกไฟ”
บัวสะบัดหน้าเดินหนีไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เมฆมองตามเคลิ้ม
“สวยอ่ะ”
“เข้มแข็งไว้ เข้มแข็งไว้ ขืนลูกพี่เอานังบัวมาเป็นลูกพี่สะใภ้พวกเรา มีหวังตายแน่”
ครูสัญญาเดินออกมาส่งข้าวหอม เอ็ม มะขิ่น ขึ้นรถออกไป รถเรยาเข้ามาจอดแทนที่ เรยา เก่ง ภูมิ ลงมาจากรถ เรยามองรถเอ็มที่เคลื่อนออกไป
“นั่นมันรถคุณเอ็มนี่”
“ใช่แน่ๆ นี่เขามาตัดหน้าเราเรื่องเพลงหรือเปล่า”
“ครูสัญญาท่านรับปากฉันแล้ว ท่านไม่ผิดคำพูดหรอก”
“แล้วเราจะเอายังไงต่อดีครับ”
“รีบไปหาครูสัญญาแล้วเราจะได้คำตอบ”
เรยาเดินนำหน้าเข้าบ้านครูไป
บัวเดินผ่านเมฆที่กำลังเพ้อถึงความสวยของบัวเอามากๆ เมฆส่งดอกไม้ให้บัว
“บัวจ๋าพี่ให้จ้า”
“ไอ้เมฆ โดนไฟซ็อตจนเพี้ยนไปหรือไง หลีกไปฉันจะทำงาน”
“ไม่หลีก จนกว่าบัวจะรับรักพี่”
“ไอ้บ้า เห็นพูดดีเข้าหน่อยทำเป็นเหลิง”
“นั้นซิลูกพี่อย่าไปยุ่งกับยัยม้าดีดกะโหลกนี่เลย ท่องเอาไว้ สุดหัวใจคือข้าวหอม ไอ้ดุ่ยมาช่วยกันซิว่ะยืนบื้ออยู่ได้”
“จ้ะๆ ลูกพี่ ถอยมาเถอะ”
เมฆพยายามขว้างทางไม่ให้บัวไปเข้าฉาก จนผู้กำกับร้องสั่ง
“เฮ้ย ไอ้บ้านั่นทำอะไรวะ ไล่มันไป เดี๋ยวงานไม่เสร็จกันพอดี”
เอกรีบเข้าไปขวาง เมฆเปิดทางให้บัวไปทำงาน แล้วพยายามจะวิ่งตามบัว จังหวะเดียวกับทีมงานเสิร์ฟน้ำผ่านมาพอดี เมฆสะดุดสายไฟ น้ำหกบริเวณที่เมฆ ดุ๋ย ดุ่ย เอก ยืนอยู่พอดี บัวเดินเข้าที่ ผู้กำกับสั่งเดินกล้อง เด็กไฟเสียบปลั๊กไฟ กระแสไฟฟ้าวิ่งจากหม้อแปลงไฟตรงไปหากลุ่มเมฆยืนอยู่ เอก ดุ่ย ดุ๋ย กำลังกันไม่ให้เมฆไปวุ่นวายกองถ่าย ไฟวิ่งมาถึงน้ำที่เปียกนองอยู่ ไฟดูดทั้ง 4 คนชักหน้าตั้ง คนทั้งกองถ่ายตกใจ
เก่งร้องเพลงสัญญาเมื่อสายัณห์ท่อนจบ ครูสัญญายิ้มพอใจ
“เพลงนี้เหมาะกับเสียงเก่งมากๆ” ภูมิชื่นชม
“อักขระชัดเจน เว้นห้องหายใจดีมากพรสวรรค์จริงๆ” ครูสัญญาชมเชย
“ร้องได้แบบนี้ พรุ่งนี้เข้าห้องอัดได้เลยนะครู”
“จัดการได้เลยภูมิ เรื่องคุมอัดครูไม่ห่วง เธอละเอียดอยู่แล้ว”
ครูสัญญานิ่งไปนิดเหมือนคิดอะไรอยู่ เก่งกังวลใจ
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าจ๊ะครู บอกฉันได้นะ”
“วิธีการร้องของเก่งมันคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกว่าเป็นใคร”
เก่งรู้ทันทีว่าเขาคงร้องเพลงเหมือนพ่อกล้าตามสายเลือด เขารีบกลบเกลื่อน
“ถ้าผมร้องเหมือนนักร้องดังก็ดีซิครูจะได้ดังตามรุ่นพี่”
“จะเหมือนใครก็ช่างเถอะค่ะ ขอให้เพลงนี้ประสบความสำเร็จเป็นเพลงเปิดอัลบั้มก็พอค่ะครู”
“แน่นอนเรยา ค่ายเอสเคเรคคอร์ดได้นักร้องใหม่ประดับวงการลูกทุ่งแน่ๆ”
ครูสัญญาพูดกับเรยาอย่างมั่นใจ เก่งยิ้มให้ภูมิ
ชัยนั่งขับรถ เอ็มหันมาคุยกับมะขิ่น
“ไงมะขิ่น สบายใจขึ้นหรือยัง เห็นไหมว่าฉันจริงใจในการปั้นหนูข้าวหอม ไม่มีอะไรเคลือบแฝง”
“ตอนนี้ยังไม่มี ต่อไปก็ไม่แน่”
“มะขิ่น”
ข้าวหอมส่ายหน้าห้าม มะขิ่นถอนหายใจ จำต้องสงบปาก เอ็มยิ้มๆ
“ที่กองถ่ายมิวสิคก็เรียบร้อยดี มีปัญหานิดหน่อย”
“ปัญหา ปัญหาอะไร ใครทำอะไรบัว”
“บัวเป็นอะไรคะคุณเอ็มเพื่อนข้าวหอมเป็นอะไร”
“ใจเย็นๆ หนูบัวสบายดี ถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์ทีมงานพอใจ”
“ถ้างั้นอะไรคือปัญหาล่ะคะ
เอ็มยิ้มๆ
เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย เอกนอนเรียงกันโอดครวญ ถั่วพูมองเซ็งๆ
“บ้านนอก ไปกองถ่ายวันเดียวก็สร้างเรื่อง”
เมฆพยายามพูด “พวกฉันไม่ได้ก่อเรื่องนะเป็นเพราะเวทมนต์ของไอ้บัวฉันถึงเป็นอย่างนี้”
“ดีใจจัง ลูกพี่ได้สติกลับคืนแล้ว”ดุ๋ยบอก
“นึกว่าจะได้นังตัวแสบเป็นพี่สะใภ้เสียแล้ว”
“พวกแกไม่ชอบนังบัวเหรองั้น ก็ดีนะซิเรามาร่วมมือกันไหม”
เมฆแปลกใจที่ถั่วพูคิดจะทำร้ายบัว เมฆหันไปสุมหัวกระซิบดุ๋ย ดุ่ย
“จริงอย่างที่บัวมันว่า คนที่นี่ไว้ใจไม่ได้”
“ลูกพี่จะเอายังไงสั่งมาโลด”
“ถึงฉันจะไม่ชอบนังบัว แต่มันเป็นเพื่อนเรานะลูกพี่”
“เออ ข้ารู้ ยังไงเราก็คนปากช่องเหมือนกัน ข้าทำร้ายมันไม่ลงหรอก”
“งั้นเราแกล้งเออออไปก่อนจะได้รู้แผนร้ายของมัน”
“เห็นด้วย ถ้ามีโอกาสจะได้ตลบหลังพวกมัน”
“ใช่ โดยเฉพาะไอ้เอก หนอยสั่งดีนัก สั่งจนข้าโดนไฟดูด”
เมฆประชุมเสร็จหันกลับไปพูดกับถั่วพู
“ฉันตกลง เธอจะเอาไงว่ามา”
“ตอนนี้ยัง ฉันจะใช้พวกแกเมื่อไหร่จะบอก”
ถั่วพูประคองเอกเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี
“คนที่นี่น่ากลัวเนอะ ลูกพี่เนอะ” ดุ๋ยบอก
เมฆเป็นห่วงข้าวหอม
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 7 (ต่อ)
ครามเดินกลับเข้าบ้านมา จะเข้าห้องพัก เจอสาลี่ร้องทัก
“หายไปไหนมาทั้งวันคะพ่อรูปหล่อ”
“ซ้อมมวยครับ”
“ซ้อมมวยที่ไหน ก็คุณอาบอกว่าเสร็จเรื่องเก่งแล้วจะพาไปฝากนี่”
“แถวๆ นี้แหละครับ นักมวยต้องซ้อมสม่ำเสมอ ถ้าขาดซ้อมจะทำให้ร่างกายไม่คงที่”
สาลี่เข้าประชิดตัว “มิน่า เธอถึงได้หุ่นดีน่ากินไปหมดแบบนี้”
ครามเริ่มอึดอัด ครูห่านเสียงแหลมเข้ามา เหมือนระฆังช่วย
“โอ๊ย เหลือบยุงริ้นไรที่บ้านเราทำไมมันเยอะนักน้า แม่สามสัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกมาช่วยกันกำจัดแมลง วัชพืช พวกนี้หน่อยซิ”
“จ้า ครูห่าน”
สาลี่เห็นครูห่านและนก มด ปลา เข้ามา รีบปล่อยคราม แล้วจะเดินออกไป ครามร้องทัก
“คุณสาลี่ครับ ผมขอโทรศัพท์คืนได้ไหมครับ”
“โทรศัพท์อะไร เรยาเป็นคนเอาไป ก็ไปทวงที่เรยาซิ”
นกชูโทรศัพท์ “อันนี้ใช่ไหม เค้าเห็นมาวางอยู่เลย เอาไปชาร์จแบตให้จนเต็มเลย”
ครามดีใจรีบเอามาเก็บไว้
“ใช่ๆ ขอบใจมากนก ขอบใจจริงๆ”
สาลี่โกรธ “พวกเธอมายุ่งอะไรด้วย นี่มันเรื่องของฉันกับเรย”
“เรื่องแกล้งยึดโทรศัพท์ของเก่งเหรอคะ เอ ถ้าบอสรู้จะโดนดุไหมเอ่ย” มดแกล้งถาม
“แกก็พูดเกินไป บอสไม่ดุหรอก เพราะกฎของค่ายเอสเค คือ อยู่ด้วยกันแบบพี่แบบน้อง” ปลาบอก
“ไม่มีนายไม่มีบ่าว” มดเสริม
“ถ้าใครผิดกฎจะเป็นยังไงนะครูห่าน” นกแกล้งถาม
“อ๋อ ก็แค่ต้องออกจากบ้านเพลงไปยังไง จะไม่มีข้อยกเว้นด้วยนะเพราะนี่คือกฎเหล็ก”
สาลี่โมโห สะบัดหน้าเดินเข้าบ้าน ครามยิ้มให้กับครูห่านและสามแสบ
“ไม่รู้จักทศกัณฐ์ตัวแม่ซะแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ”
บัวเอาเรื่องที่กองถ่ายมาเล่าให้มะขิ่นกับข้าวหอมฟัง มะขิ่นขำก๊าก
“ฮ่าๆๆๆ นี่ไอ้เมฆมันเพี้ยนถึงกับเพ้อถึงแกเลยเหรอ”
“อื้อ แต่โดนรอบสองเนี่ยคงหายบ้าแล้วล่ะ”
“สมน้ำหน้า อยากตามมาราวีดีนัก”
“ไม่เอาน่ะมะขิ่น บัว ถึงยังไงเมฆก็เป็นเพื่อนพวกเรา วิ่งเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เล็กแต่น้อย”
“ฉันก็ไม่ได้เกลียดอะไรมันนักหนา แต่อดขำไม่ได้ ถ้าข้าวหอมเป็นฉันก็ต้องขำแบบนี้เหมือนกันอ่ะดูท่าซิ”
บัวทำเลียนแบบท่าชักของเมฆและพรรคพวกให้ทุกคนดู มะขิ่นขำก๊าก ข้าวหอมเองก็อดขำนิดๆไม่ได้ โทรศัพท์ดังขึ้น มะขิ่นรีบกระโดดออกไปรับโทรศัพท์ เปิดสปีกเกอร์โฟน
“ฮาโหล ว่าไง หายไปไหนมา พวกฉันมาตั้งหลายวันแล้วติดต่อไม่ได้”
ครามรีบบอก “งานยุ่งมากเก่ง กำลังเข้าห้องอัด กลับมาก็เย็นมืดทุกวันเลย”
“โห เขาใช้งานหนักขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ไม่เชิง เขาอยากให้งานมันออกมาดี ว่าแต่พวกเธอมากรุงเทพฯกันทำไม เก่งมันเป็นห่วงมาก”
บัวแย่งพูด “ห่วงแล้วผิดนัดทำไม รู้ไหมพวกฉันก็เป็นห่วง พี่เก่งอยู่ไหนมาพูดหน่อยซิ”
“มันยังไม่กลับจากบ้านครูเพลง เดี๋ยวกลับมาฉันจะบอกให้ มันคงดีใจมากเพราะมันคิดถึงข้าวหอมแล้วพวกเธอมาที่นี่ทำไม”
“ฉันมาเป็นนักร้องที่ค่ายเอ็มมิวสิค” ข้าวหอมบอก
ครามเล่าเรื่องที่ข้าวหอมมาเป็นนักร้องค่ายเอ็มมิวสิคให้เก่งฟัง เก่งตกใจมาก
“เป็นนักร้อง เป็นไปได้ยังไง”
“ก็เป็นไปแล้ว พวกเราจะเอายังไงดี”
“ต่อไปนี้คุณสาลี่กับเรยาคงไม่กล้าแกล้งเราแล้วล่ะ ตอนนี้ก็โทรหากันไปก่อน เข้าห้องอัดครบเมื่อไรค่อยไปหากัน
“จริงซิ เรายังยุ่งแทบทุกวัน ข้าวหอมก็คงยุ่งไม่ต่างกับแกหรอก”
“ว่าแต่แกเถอะ ค่ายมวยที่ไปซ้อมเป็นยังไงบ้าง”
“ครูแกดูเป็นคนดี แต่รอฉันมั่นใจกว่านี้ก่อนจะเรียนปรึกษาคุณสมชาย”
“ดีแล้วล่ะเพื่อน เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด”
“อื้อหือ ทำเป็นสอนแบบคนแก่ เอ้านี่โทรศัพท์ ไปโทรหาหวานใจแกได้แล้ว”
เก่งรับโทรศัพท์มายิ้มๆ
ข้าวหอมนั่งเอาขาแช่น้ำในสระร้องเพลงใส่โทรศัพท์ เก่งนั่งที่ระเบียงบ้านร้องเพลงใส่โทรศัพท์เช่นกัน เก่งร้องเพลงจนจบ พูดกับข้าวหอม
“รักษาตัวดีๆ นะ พี่รักข้าวหอมนะ”
เก่งปลื้มยิ้มกับตัวเอง กดวางโทรศัพท์ เรยายืนมองน้ำตาคลอ
เอ็มแจ้งข่าวกับทีมงานทุกคน
“ตกลงว่าเพลงเอกของข้าวหอมคือสัญญารักปากช่อง ทุกคนเห็นว่าไง”
ถั่วพูรีบพูด “ดีค่ะ แต่เพลงเปิดอัลบั้มน่าจะเอาเพลงเมียสำรองนะคะ เหมาะกับข้าวหอมทั้งทางตรงและทางอ้อมเลย”
มะขิ่นไม่พอใจ “พูดดีๆ นะแม่คุณ นี่ประชุมงานอยู่นะ ไม่ใช่เล่นละครโทรทัศน์”
เอ็มปราม “เอาล่ะๆ เข้าเรื่องได้แล้ว เพลงที่เหลือในอัลบั้มต้องคัดเลือกอย่างดีทุกเพลง”
“ปกติเปิดอัลบั้มใหม่เราจะมีเพลงดังแค่เพลงสองเพลงนะคะ” ทีมงานบอก
“สัญญารักปากช่องก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ” ทีมงานอีกคนเสนอ
“ไม่ได้ เพลงของข้าวหอมต้องดีติดหูทั้ง10 เพลง ผมต้องการจะทำให้ข้าวหอมโด่งดังทำลายสถิติเรยาในอดีต”
“ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ค่ะคุณเอ็ม ส่วนใหญ่นักร้องลูกทุ่งกว่าจะดังต้องออกมาหลายชุดมาก” ข้าวหอมบอก
“แต่ผมไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น ข้าวหอมต้องดังเปรี้ยงตั้งแต่ชุดแรก ถ้าพวกคุณไม่สามารถหาเพลงได้ก็อย่ากลับมาให้ผมเห็นหน้าอีก ลาออกไปเลย”
ทุกคนก้มหน้านิ่ง มะขิ่นยิ้มพอใจจับมือกับข้าวหอม ถั่วพูมองดูข้าวหอมด้วยความแค้น
บัวเดินเล่นมาเจอเมฆเข้าพอดี จึงเอ่ยทัก
“เป็นไงแกหายป่วยกันแล้วเหรอ”
“ตัวหายแล้ว แต่ใจมันยังไม่หายโว้ย”
“ฉันไม่ได้ทำอะไร พวกแกนะพวกแกทำตัวเองทั้งนั้น”
“แต่ก็มีสาเหตุมาจากแก” ดุ่ยบอก
“ถ้าแกไม่แปลงโฉมจนกลายเป็นนางฟ้า พวกข้าก็ไม่โดนไฟดูด เป็นความผิดของเอ็งนังบัว” ดุ๋ยต่อว่า
“จะมาโทษฉันได้ยังไง โน่น โทษลูกพี่แกโน่น ดันทะลึ่งตาบอดตาใสเห็นฉันสวย”
เมฆเขินนิดๆ บัวพูดต่อ
“เออ แล้วพวกแกตามมาทำไมเนี่ย ฉันกับข้าวหอมอุตส่าห์หนีแล้วเชียว”
“ข้าไม่ได้ตามเอ็ง แต่ข้าตามน้องข้าวหอมของข้าต่างหาก”
“ระวังนะของฉันแค่โดนไฟดูด ถ้าแกเห็นข้าวหอมล่ะก็มีหวังตายหยังเขียด แล้วจะมาหาว่าไอ้บัวไม่เตือน”
เมฆคิดตาม เริ่มตาค้างเห็นข้าวหอมในจินตนาการ ดุ๋ยกับดุ่ยมองหน้ากันอย่างเสียวๆ สันหลัง
เก่งร้องเพลงอยู่ในห้องอัด สาลี่ชื่นชมไม่ขาดปาก
“ร้องได้เพราะมาก หน้าตาก็น่ารัก อัลบั้มออกเมื่อไหร่รับรองแม่ยกบาน”
“เสร็จแทร็คนี้ให้พักก่อนแล้วกัน” ภูมิบอก
เรยาหันดูนาฬิกา
“ดีเหมือนกันนี่ก็จะเที่ยงแล้ว”
สาลี่กระซิบ “เธอจะบ้าหรือไง ไม่ยื้อเก่งแล้วเหรอ”
“ไม่ ต่อไปนี้ฉันจะไม่โกง ฉันจะทำตรงไปตรงมานี่แหละ”
ภูมิยิ้มนิดๆ “งั้นพวกเราไปกินข้าวกัน จะได้กลับมาต่อให้จบเพลง”
“แต่ผมคงต้องขอตัวนะครับ” ครามรีบบอก
“เธอจะไปไหน” สาลี่ถามทันที
“ผมต้องไปซ้อมมวยครับ”
เก่งออกมาจากห้องอัด ครามตบไหล่เพื่อน
“ฉันไปก่อนนะ เย็นๆ เจอกัน”
“ไปเถอะ แกควรจะตามหาฝันของแกได้แล้วเพื่อน”
ครามเดินออกไป สาลี่มองตามอย่างโหยหา
ภายในห้องซ้อมเพลง เอ็มเข้าไปสวมหูฟังให้ข้าวหอม มะขิ่นรีบแทรกไปทำแทนเอง จนเอ็มต้องถอยออกมา
“ทำให้เต็มที่นะข้าวหอม”
มะขิ่นจับมือให้กำลังใจข้าวหอม เอ็มออกมา แล้วเอ็มให้คิวคอนโทรล ข้าวหอมร้อง ครูเพลงได้ฟัง ทึ่งในน้ำเสียงข้าวหอม
“เป็นไงบ้างครู นักร้องใหม่สังกัดเอ็มมิวสิค”
“น้ำเสียงใสหวานและทรงพลัง”
“และที่สำคัญหน้าตาแบบนี้กำลังอินเทรนด์น่ารัก”
“เก็บไว้สักคนก็ดีนะครับ เด็กมีพรสวรรค์แบบนี้หายาก”
“ผมจะลงทุนอัลบั้มชุดนี้ให้มากกว่าทุกชุดที่ทำมาในบริษัท ครูผมถามตรงๆ น้ำเสียงเด็กคนนี้พอจะแข่งกับเรยาได้มั้ย”
“ตั้งแต่อยู่ในวงการมายังไม่เคยมีใครประทับใจมากเท่าครั้งนี้เลย ข้าวหอมต้องดังแน่ๆ ราชินีลูกทุ่งเรยาไม่มีทางสู้ได้แน่นอน”
เอ็มมองข้าวหอมด้วยความภูมิใจ
อ่านต่อตอนที่ 8