สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 3
มะขิ่นกำลังทำผมให้แหม่ม ลูกค้าก็เต็มร้าน ข้าวหอมกับบัววิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วมะขิ่น”
มะขิ่นฟังข้าวหอม ตกใจ
“หน้าตาตื่นมาเชียวมีเรื่องอะไรเหรอ”
“น้าอรรู้เรื่องที่เก่งแอบไปฝึกร้องเพลงที่บ้านตาซุปแล้ว”
“รู้ได้ไงใครเป็นคนบอก”
บัวรีบเล่า “ไอ้เมฆกับพวกฉันก็ไม่รู้ว่ามันรู้ได้ไงและที่สำคัญพวกมันกำลังพาน้าอรไปบ้านตาซุปแล้ว”
“เราไม่รู้จะทำยังไงเลยมาหามะขิ่นนี่แหละ” ข้าวหอมบอก
“งั้นพวกเราก็ต้องรีบไป”
ทั้งหมดกำลังจะออกไป แหม่มโวย
“แล้วผมฉันล่ะยังไม่เสร็จ ฉันไม่ให้ตังค์นะ”
“ฉันด้วย” ลูกค้าอื่นโวย
“งั้นไปด้วยกันเลย เดี๋ยวฉันทำต่อให้ในรถ ไปใกล้ๆ นิดเดียวเอง”
มะขิ่นต้อนแหม่มและลูกค้าให้ไปด้วยกัน
เก่งมานั่งคุยกับตาซุป
“ที่ให้เอ็งฝึกร้องเลียนแบบเสียงสัตว์ก็เพราะเสียงเหล่านี้แตกต่างกัน มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกันยังไงครู”
“อย่างเช่นไก่มันขันยามเช้า จะขันร้องได้ดังและกังวานไกล ส่วนเป็ดก็จะร้องประสานเสียงกันได้ดีเวลาเราไล่ต้อน”
“แล้วตุ๊กแกล่ะครับ ผมว่าเสียงมันน่าสะพรึงกลัวมากกว่าเพราะนะครู”
“มันน่ากลัว แต่โทนเสียงนุ่มลึก เห็นไหมทุกเผ่าพันธุ์มีเสียงแตกต่างเหมือนอย่างเอ็งมีเนื้อเสียงที่ไพเราะแต่ยังไม่หวานซึ้ง”
“แล้วผมต้องทำยังไงครับครูเนื้อเสียงจะได้หวานซึ้ง”
“ไม่ยาก คืนพรุ่งนี้เป็นคืนขึ้น 15 คํ่า พระจันทร์เต็มดวง ด้วยอิทธิพลของดวงจันทร์จะส่งพลังที่เหนือธรรมชาติทำให้นํ้าค้างคืนวันเพ็ญศักดิ์สิทธิ์เหมือนนํ้าทิพย์ ใครได้ดื่มกินเข้าไปล่ะก็ ฮ่าๆๆๆ รับรองเสียงเพราะเสนาะหูแน่นอน”
“น้ำค้างวันเพ็ญ”
เก่งสนใจฟังตาซุป
ในรถ เมฆยุยงอรมาตลอดทาง
“ใกล้ถึงยังเมฆ”
“ใกล้แล้วจ้ะน้าอร อยู่อำเภอนี้แหละน้าอร”
“สีคิ้ว”
“เร่งหน่อยโว้ยไอ้ดุ๋ย”
รถเมฆเร่งเครื่องไปด้วยความรวดเร็ว
รถสองแถววิ่งไปอย่างเชื่องช้า มะขิ่นก็กำลังทำผมให้แหม่มกับลูกค้าที่ติดรถมาด้วย
“ใกล้เสร็จแล้ว หันหน้าออกไปผึ่งลมหน่อยผมจะได้สวย”
“หันหน้าไปทำไม” แหม่มถาม
“ก็ให้ลมมันเป่าแทนไดฟ์ไง ผมจะได้สวยสลวย หันไปซิ”
แหม่มและลูกค้าหันหน้าไปนอกหน้าต่าง ข้าวหอมกังวลใจ
“จะทันไหมเนี่ย”
“ต้องทันซิ เร่งหน่อยพี่ ถึงเร็วให้หอมแก้มที่หนึ่
ถึงช้าไม่จ่ายเงิน”
คนขับรถสองแถวหันมองความสวยของมะขิ่นตาวาว เหยียบคันเร่งเร่งเครื่องออกไปอย่างแรง แหม่มและลูกค้าที่โผล่ออกไปนอกหน้าต่าง โดนลมปะทะหน้าตึง
รถของเมฆเข้ามาถึงหน้าบ้านตาซุป อรแปลกใจเมื่อเห็นบ้านตาซุป
“บ้านหลังนี้คุ้นๆ”
เมฆดีใจที่แผนสำเร็จ
“โป๊ะเชะ เอาแล้วเอาแล้วบ้านคุ้นๆ”
“งั้นจะรอช้าอยู่ใย”
“รีบเร่งจรลีเข้าไปเลยน้าอร”
อรเดินหน้าตึงเข้าไป เมฆและดุ่ย ดุ๋ย เร่งตาม
บริเวณหลังบ้านตาซุป อรเห็นเก่งกำลังเดินถือไมค์ออกมาอย่างยิ้มแย้ม เมฆเห็นเข้าทาง รีบยุอรอีกรอบ
“นั่นไง น้าอร หลานอกตัญญูที่เห็นแก่ตัว ไม่คำนึงถึงคำขอร้องของน้าอร”
อรพ้อเบาๆ ด้วยความเสียใจ “เก่ง”
เมฆยิ้มสะใจ หันไปยักคิ้วให้ลูกน้องว่าเข้าแผน เก่งถือไมค์อย่างชำนาญ ท่าทางเหมือนจะร้องเพลง
“ขอเสียงปรบมือต้อนรับผู้เข้าประกวดหมายเลข 20 บัวขวัญ บัวไทยงาม”
บัวเดินออกมาทำท่าทางเหมือนผู้เข้าประกวดนางงาม โดยมีแหม่มและลูกค้าเป็นผู้เข้าประกวดร่วม เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย มองหน้ากันอย่างงงๆ เก่งทำท่าทางแปลกใจที่เห็นอรยืนอยู่กับพวกเมฆ จึงร้องทัก
“น้าอร”
อรฝืนถามหลาน “เก่ง ลูกมาทำอะไรที่นี่”
มะขิ่นเดินเข้ามา “ก็มาช่วยฉันฝึกการประกวดนางงามประจำปีไง มีอะไรเหรอ แล้วพี่อรมาทำอะไรที่นี่”
“เมฆมันบอกฉันว่าเก่งมาแอบฝึกร้องเพลง”
ข้าวหอมแกล้งขำ “อย่างพี่เก่งเนี่ยนะจะฝึกร้องเพลง”
อรอึดอัดแกล้งเปลี่ยนเรื่อง “นี่มันเรื่องของผู้หญิงเขา เก่งมาเกี่ยวอะไรด้วย”
“เอ่อ ฉันมาเป็นโฆษกจ้ะ”
“เก่งเขาอยากหาเงินช่วยพี่ ฉันก็เลยจ้างน่ะ เก่งไม่ได้บอกพี่อรเหรอ” มะขิ่นช่วยแก้ตัวให้
เก่งทำเป็นเขิน “ไม่ได้บอก ฉันอายน่ะ มาช่วยงานผู้หญิง”
บัวหันมาต่อว่าเมฆ “ไอ้เมฆ นี่แกใช้แผนตัดกำลังเพื่อไม่ให้พี่เก่งหาเงินไปคืนพ่อแกใช่ไหม”
อรมองหน้าเมฆอย่างไม่พอใจ เมฆรีบปฏิเสธ
“น้าอรอย่าไปเชื่อมัน ไอ้เก่งมันมาฝึกร้องเพลงกับครูเพลงที่บ้านหลังนี้”
อรมองหา “ไหนล่ะครูเพลงที่ว่า”
“ไอ้ดุ๋ย ไอ้ดุ่ย หาครูเพลงให้เจอ”
“ไม่ต้องหาหรอกครูเพลง ที่พวกเธอหาคงหมายถึงครูซูซี่ ผู้ครํ่าวอดในวงการประกวดนางงามซินะครูซูซี่เชิญค่ะ”
มะขิ่นร้องเรียก ตาซุปแต่งตัวเป็นสาวสวยรุ่นใหญ่ เดินแบบให้ดูเป็นตัวอย่าง ทุกคนตบมือต้อนรับ อรมองตาซุป
“คนนี้นะเหรอครูเพลงของเธอ”
เมฆอึ้ง “เป็นไปได้ไง ก็เมื่อตอนที่เราแอบดูเป็นผู้ชายนี่หว่า”
ข้าวหอมต่อว่า ”พวกนายนี่เลวจริงๆ คนเขาจะมาหากิน ยังสร้างเรื่องได้ลงคอ”
“จริงๆ นะ ข้าวหอม ตาคนนี้เป็นครูเพลงจริง”
“จับได้คาหนังคาเขายังปฏิเสธ ครูซูซี่คะพิสูจน์ให้เขาดูหน่อยซิคะ” บัวยุ
ตาซุปทำเป็นกะเทยแก่
“ได้เลยฮ่ะ”
ตาซุปเดินตรงรี่เข้าหาดุ๋ยกะดุ่ย
“มีอะไรให้ช่วยไหมจ๊ะพ่อหนุ่ม อยากจะพิสูจน์อะไรก็เชิญ จะพิสูจน์ภายนอกหรือจะพิสูจน์ภายในดีล่ะจ๊ะ”
ดุ๋ยกับดุ่ยร้องลั่น “ว้าย นี่มันกะเทยนี่หว่า”
ตาซุปวิ่งไล่จับดุ๋ย ดุ่ย เมฆ กันอลหม่าน กลุ่มเก่งพากันขำ อรก็พลอยอมยิ้มไปด้วย
ที่ห้องประชุม ค่ายเอ็มมิวสิค เอ็มกำลังต่อว่าทีมงานอย่างหงุดหงิด
“มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง นักร้องที่มีอยู่ยอดขายไม่กระเตื้องขึ้นเลย ขนาดจ้างครูเพลงมือดีมาทำเพลงให้แล้ว บอกเหตุผมมาซิ”
“เอ่อ นักร้องเรามันเริ่มแก่แล้วล่ะครับสมัยนี้ต้องสาวๆ เต้นเก่งเหมือนเรยาถึงจะได้รับความนิยม”
“งั้นก็หาเข้าซิ จัดประกวดโทรทัศน์เสียเงินไปตั้งมากมายแล้ว”
“หาไม่ได้ครับ บางคนเสียงดีแต่รูปร่างหน้าตาไม่ได้ บางคนหุ่นได้แต่ร้องเพลงก็ไม่ใช่ลูกทุ่งแท้ๆ ถึงปั้นมาก็ดังแป๊บเดียว”
“โอ๊ย ทำไมมันถึงหายากหาเย็นจังวะ แล้วพวกไอ้สมชายมันทำอะไรกันอยู่”
“พวกมันจัดประกวดร้องเพลงที่โคราชค่ะ”
“พวกมันก็คงหานักร้องใหม่เหมือนกัน”
“งั้นดีเลย ฉันจะไปปากช่อง เผื่อมีของดี ฉันจะตัดหน้าพวกมันซะ ฮ่าๆๆ”
เอ็มหัวเราะสะใจที่จะได้แกล้งสมชาย
เสี่ยกำธรฃเดินตรวจดูค่ายมวย เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย เดินตาม เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสี่ยกำธรดูเบอร์โทรแล้วรีบรับสาย
“สวัสดีครับคุณเอ็ม ไม่เจอกันเสียนานมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”
“ฉันมีธุระที่โคราช อยากให้เสี่ยช่วยหน่อย”
“สำหรับคุณเอ็ม ผมเต็มใจเสมอบอกมาเลยครับ”
“จะมีจัดประกวดที่นั่น ฉันอยากได้ที่นั่งแถวหน้าแบบวีไอพี.”
“นึกว่าเรื่องอะไร แค่นี้เองผมจัดการได้สบายอยู่แล้วครับ”
“ขอบใจมาก เสี่ยดีกับฉันเสมอ”
“เล็กน้อยครับ ผมเป็นเสี่ยกำธรได้ทุกวันนี้ก็เพราะคุณเอ็มให้การสนับสนุนเช่นกันครับ อย่าว่าแต่เรื่องนี้เลย ต่อให้มากกว่านี้ผมก็ทำได้ คุณเอ็มรู้ดีนี่ครับ”
“ดี งั้นพรุ่งนี้เจอกัน”
“ได้ครับ พรุ่งนี้เจอกัน”
เสี่ยกำธรวางสายอย่างอารมณ์ดี เมฆ ดุ่ย ดุ๋ยเห็นพ่อคุยโทรศัพท์นานกำลังจะย่องหนีออกไปแต่เสี่ยกำธรเรียกไว้
“จะไปไหน ห้ามไปไหนทั้งนั้น แกต้องอยู่ช่วยงานฉัน”
“งานอะไรอ่ะพ่อ ให้คนอื่นทำก็ได้ ไอ้ดุ่ย ดุ๋ย ก็ได้มันว่าง”
ดุ่ย ดุ๋ย รีบจะปฏิเสธ แต่เสี่ยกำธรออกคำสั่ง
“ไม่ต้องเกี่ยงกัน อยู่ทั้งหมดนั่นแหละ แกต้องไปพบคนสำคัญกับฉัน”
เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย จำใจอยู่ ต่างทำหน้าเศร้าๆ เพราะนํ้าเสียงเสี่ยกำธรเอาจริง
ที่บ้านค่ายเพลง ทุกคนเตรียมตัวขึ้นรถตู้เพื่อไปโคราช ภูมิมาส่ง สมชายหันมาถาม
“ไม่ไปด้วยกันแน่นะภูมิ”
“ผมอยู่ดูแลค่ายเพลงดีกว่าครับ”
“ทำไมล่ะ ที่นี่ก็ให้เด็กๆ มันดูแลก็ได้”
“อย่าดีกว่าครับ คุณสมชายก็รู้ผมชอบอยู่อย่างเงียบๆ ไม่เหมาะกับ
านที่มีคนเยอะ ไปก็เป็นภาระเปล่าๆ”
เรยาเอ่ยขึ้น “รู้ตัวก็ดีแล้ว สาลี่ขึ้นรถ เบื่อขี้หน้าคน”
เรยาก้าวขึ้นรถอย่างหงุดหงิด สาลี่รีบขึ้นรถตาม สมชายมองภูมิอย่างเห็นใจ
“เรยาไม่ใช่คนเลวร้าย แค่เอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย ถ้าเธอแต่งเพลงดีๆ ให้เขา เขาก็หายงอนเองแหละ”
สมชายเดินขึ้นรถ นก มด ปลา รีบประกบภูมิ
“ถึงคนอื่นจะเบื่อแต่นกไม่เคยเบื่อภูมิเลยนะ”
“นอกจากไม่เบื่อแล้วยังช้อบชอบ” ปลาพูดต่อ
มดร้องเพลง “ภูมิขาไปเที่ยวกันมะปากช่อง โคราช หนูช้อบชอบ”
นกร้องเป็นเพลงต่อ “สร้อยแหวนนาฬิกาข้อมือ พี่ให้ภูมิเลยเพราะช้อบชอบ”
ปลาร้องต่อทันที “รถเก๋งบีเอ็มดับบลิวพี่ก็ให้ได้เพราะช้อบชอบ”
“ภูมิขาไปเป็นไฮโซอยู่กับโลโซแบบนี้หนูช้อบชอบ” มดร้อง
ครูห่านดุ “ภูมิขาไม่มี มีแต่ห่านขาเอามะไปขึ้นรถ นังพวกนี้เผลอไม่ได้”
นก มด ปลา ค้อนครูห่านแล้วเดินขึ้นรถ ครูห่านรีบแทะโลมภูมิต่อ
“ภูมิจ๋า ไม่ไปด้วยกันจริงๆ เหรอ ถ้าไปด้วยนะครูช้อบชอบ”
นก มด ปลา รีบทำเสียงแข็ง “ครูห่าน ขึ้นรถ”
ครูห่านสะดุ้งรีบขึ้นรถ
อรนั่งเจียนใบตอง เก่งช่วยเช็ดใบตองข้างๆ สองน้าหลานมีโอกาสได้คุยกัน
“ขอโทษเรื่องวันนี้ด้วยนะที่เชื่อคนอื่นมากกว่าหลานตัวเอง”
เก่งยิ้มแห้งๆ รู้สึกผิด “ไม่หรอกจ้ะ ฉันเองก็ผิดที่ไม่บอกความจริงน้า”
“เป็นไงสนุกไหมทำงานกับสาวๆ”
“ไม่สนุกหรอก สู้ไปช่วยครามไม่ได้”
“ช่วยงานผู้หญิงไม่ใช่เรื่องหน้าอาย เหมือนที่เก่งกำลังช่วยน้าอยู่นี่ไง”
“น้าอร ฉัน”
“เก่งจะทำอะไรก็ได้ ถ้าทำแล้วสบายใจ น้าไม่ว่าหรอก ขออย่างเดียวอย่าไปข้องเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งน้าก็พอใจแล้ว”
อรนั่งทำงานต่อ เก่งมองน้าสาวแล้วแอบถอนหายใจที่ต้องขัดคำสั่ง
รถของพวกสมชายแล่นเข้ามาจอดที่หน้ารีสอร์ท ทุกคนลงจากรถ เรยาลงเป็นคนสุดท้าย สมชายสั่งทุกคน
“เก็บข้าวของเข้าที่พักซะ พรุ่งนี้เราต้องเหนื่อยกันแต่เช้า”
ทุกคนรับคำ ครูห่านนำทีมสามสาวขนของเข้าที่พัก สมชายบอกกับเรยา
“เรยาก็นอนกับสาลี่แล้วกันนะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ อย่างน้อยที่นี่ก็เงียบสงบ”
ขาดคำ บรรดาแฟนคลับกรูเข้ามาหาเพื่อขอลายเซ็น เรยาเซ็นให้อย่างเต็มใจและดีใจที่มีคนชื่นชอบเธอ สาลี่มองเรยาแล้วคุยกับสมชาย
“ท่าทางจะอารมณ์ดีแล้วล่ะค่ะ”
สมชายมองเรยายิ้มๆ “ถึงที่กรุงเทพเรยาจะเริ่มเสื่อมความนิยม เพราะยังไม่มีชุดใหม่ แต่ที่นี่เธอยังคงเป็นนักร้องขวัญใจบ้านนาอยู่ดี”
“จริงค่ะคุณอา ในต่างจังหวัดเรยายังคงเป็นนักร้องหญิงเบอร์หนึ่งอยู่ดี”
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 3 (ต่อ)
เก่งนั่งคุยกับครามหน้าบ้าน เขาไม่ค่อยสบายใจนัก
“ฉันไม่สบายใจเลยที่ต้องหลอกน้าอร”
“ก็แกไม่มีทางเลือกนี่ เงินรางวัลมันสามารถปลดหนี้ได้เลย ถ้าไม่ทำแกกับน้าอรก็จะถูกเสี่ยกำธรตามรังควานไม่เลิก”
“แกเองก็ระวังเถอะชกมวยค่ายเสี่ยไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน”
“เรื่องอื่นเสี่ยอาจจะเห็นแก่ตัว แต่เรื่องมวยฉันไม่คิดว่าเขาจะหักหลังฉันได้”
“ตามใจแก แต่เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะเพื่อน”
“ขอบใจ แต่ไม่ต้องห่วงฉัน ว่าแต่เรื่องของแกเถอะตาซุปสอนอะไรมาบ้างล่ะ”
“เออใช่เกือบลืมไปเลย ครูบอกเคล็ดลับฉัน”
“เคล็ดลับ เคล็ดลับอะไร”
“กินนํ้าค้างจากคืนวันเพ็ญ”
สองหนุ่มมองหน้ากันแล้วแหงนหน้ามองพระจันทร์เต็มดวง
ครามวิ่งออกกำลังกายยามเช้า เก่งปั่นจักรยานตามคราม คอยมองต้นไม้ใบหญ้าริมทางพอเห็นตรงไหนที่มีนํ้าค้างอยู่ ครามก็บอกเก่ง
“สองนาฬิกามีเป้าหมาย”
“รับทราบ”
เก่งจอดรถแล้ววิ่งไปเลียนํ้าค้างบนยอดหญ้า ครามวิ่งนำหน้าเห็นเป้าหมายรีบบอกเก่ง
“สิบเอ็ดนาฬิกาบนใบบอน”
“แหล่มไปเลยเพื่อน”
เก่งจอดรถแล้วรีบวิ่งลงไป แต่คราวนี้ยากกว่าคราวที่แล้ว เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะเลียนํ้าค้าง จากนั้นเก่งก็กลับมาขี่จักยานตามครามต่อไป
เก่งวิ่งไปเลียนํ้าค้างตามที่ครามบอกทางโน้นทีทางนี้ที จนชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนั้นเริ่มมองพฤติกรรมของชายหนุ่ม แล้วร้องถาม
“หิวนํ้าเหรอไอ้เก่ง เอานํ้าที่ข้าไปกินก่อนไหม”
เก่งยิ้มเขินๆ “ไม่หรอกจ้า กินนํ้าค้างแบบนี้มันได้อรรถรสดีจ้ะ”
เก่งกำลังจะเลียนํ้าที่อยู่ในใบบอนอีกใบ ชาวบ้านร้องห้าม
“อย่า มากินนํ้าของข้านี่อย่ากินนํ้านั่น”
“ขอบใจจ้ะ แต่ฉันกินนํ้าค้างนี่ดีกว่าอร่อยดี”
เก่งก้มลงเลียนํ้าค้างแล้วต้องสะดุ้งเพราะเค็ม หน้าเหยเก ชาวบ้านถาม
“เป็นไงอร่อยไหม”
“มันเค็มจ้า”
“ฮ่าๆๆ มันต้องเค็มซิ ก็ข้าเพิ่งฉี่ไปเมื่อกี้นี่นา”
เก่งสะดุ้งตาค้างพะอืดพะอมจะอ้วก ครามต้องรีบมาช่วยลูบหลังให้ ชาวบ้านขำเดินส่ายหัวออกไป
“สงสัยจะโดนทวงหนี้มากจนเพี้ยน นํ้าดีๆ ไม่กิน ชอบกินฉี่ เฮ้อ น่าสงสาร”
สาลี่แต่งตัวสวย เข้ามาปลุกเรยาซึ่งยังนอนอยู่ในห้องพัก
“ตื่นได้แล้วจ้า แม่นักร้องยอดนิยม”
“อะไรกัน ปลุกแต่เช้าเลย”
“ก็วันนี้เรามีงานทำอีกอย่าง เธอมีแฟนคลับมารอชื่นชมเธออยู่เยอะแยะเลยนะ”
พอได้ยินคำว่าแฟนคลับ เรยาเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ก็ได้ ก็ได้ นี่เห็นแก่เธอหรอกนะ ไปรอข้างนอกก่อนแล้วกัน ขอเวลาอาบนํ้าแต่งตัวเดี๋ยวเดียว”
เรยาลุกขึ้นจะไปเข้าห้องนํ้า สาลี่ยิ้ม
“โอเค ฉันรอข้างนอกนะ จะไปสูดอากาศบริสุทธิ์”
เรยายิ้มตอบ
“แฟนคลับเยอะ วันนี้ฉันต้องแต่งตัวให้สวยคุ้มกับที่ทุกคนรอ”
เรยาเดินเข้าห้องนํ้าอย่างอารมณ์ดี
เก่งนั่งพักโดยมีครามดูแลอยู่ ครามถามอย่างเป็นห่วง
“ไหวไหมวะ ถ้าไม่ไหวก็กลับเถอะเดี๋ยวจะแย่อดไปประกวด”
“ไม่ได้หรอก อุตส่าห์หากินนํ้าค้างมาตั้งแต่เช้า ฉันอ้วกออกหมดเลยต้องหาใหม่”
“ยังจะเอาอีกเหรอ”
“อืม เพราะครูบอกว่านํ้าค้างวันเพ็ญเปรียบเสมือนนํ้าทิพย์ ใครได้กินเข้าไปจะทำให้นํ้าเสียงเพราะเสนาะหู”
“งั้นมีอีกที่หนึ่ง ต้นไม้เยอะ นํ้าค้างสะอาด ไม่มีอะไรปนเปื้อนแน่นอน”
“ที่ไหน”
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 3 (ต่อ)
สาลี่ยืนหน้าห้องที่พัก มองบรรยากาศสดชื่น
“ที่รีสอร์ทนี้บรรยากาศดี๊ดี ดูซิมีนํ้าค้างเกาะยอดหญ้าเหมือนเมืองในฝันเลย นี่ถ้ามีชายหนุ่มรูปหล่อกล้ามใหญ่ใครสักคน สุขฉะนี้มีฤาจะลืม”
สาลี่พูดจบสายตาก็เห็นครามวิ่งผ่านมา เก่งปั่นจักรยานตาม สาลี่ตาลุกวาวมองคราม
“พูดถึงเทพบุตร เทพบุตรก็มา ว้าวๆๆ วิ่งมาใกล้ๆ เลยวิ่งมาเลย”
ครามวิ่งเข้ามาใกล้ๆ สาลี่ถึงกับครางเพราะความเท่ห์ของคราม
“ฉันเปล่าน้า เขามาเอง ฉันเปล่าชวนน้า เขามาเอง”
สาลี่มองครามแทบจะกลืนกิน จนครามวิ่งเลยไป แล้วมาหยุดตรงหลังห้องเรยา เขามองเห็นใบไม้ที่ห่อตัวกันเป็นเหมือนกรวยอุ้มนํ้าไว้เต็มบนต้นไม้ ครามยิ้มดีใจรีบบอกเพื่อน
“เก่งมานี่ ดูนั่น นํ้าค้างในนั้นเท่ากับเลียใบไม้เป็นร้อยๆ ใบเลยทีเดียว”
“เออว่ะ โชคเข้าข้างแล้ว เดี๋ยวฉันปีนขึ้นไปเอาเอง แกไปคอยดูต้นทางไว้เดี๋ยวคนที่นี่เขาจะหาว่าเราเป็นขโมย”
“จัดไปเพื่อน”
ครามวิ่งย้อนไปทางสาลี่อยู่ เก่งรีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ ขึ้นไปถึงกิ่งที่ใบไม้ห่อนํ้าอยู่ พยายามจะเอื้อมไปเด็ดช่อใบไม้
“อึ๊บๆ ๆ อีกนิดอึ๊บ อีกนิดเดียว”
เก่งเอื้อมมือเกือบจะถึงช่อไม้ เรยากำลังเพลินๆ ได้ยินเสียงแปลกๆ ด้านนอกห้องนํ้า จึงค่อยๆ ลุกขึ้นใส่เสื้อคลุม มองลอดช่องบานเกล็ดแล้วสายตาปะทะสายตาของเก่ง ทั้งคู่ต่างตกใจ เรยาร้อง
“ไอ้บ้า ไอ้ลามก ไอ้ผีทะเล ช่วยด้วยสาลี่ช่วยด้วย”
“ผมเปล่าๆ คุณกำลังเข้าใจผิด ผมเปล่านะคุณอย่าร้องซิผมเปล่า”
เก่งรีบปฏิเสธ แรงตกใจ ทำให้พลาดลงมาจากต้นไม้ นํ้าหกลงมาที่เก่งหมด แถมกิ่งไม้ที่ช่อใบไม้อยู่ยังตกใส่หัวเขาอีกต่างหาก ครามกำลังซ้อมชกลมไปพลางๆ เพื่อรอเก่ง ได้ยินเสียงเก่งก็ตกใจ
“เก่ง”
สาลี่กำลังมองครามเพลินๆ ได้ยินเสียงเรยาก็ตกใจ
“เรยา”
เก่งนั่งก้มหน้านิ่ง หัวแตกเพราะโดนกิ่งไม้ ครามนั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ เรยาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วยืนเอาเรื่องอยู่ข้างๆ สาลี่ ซึ่งยิ้มหวานให้คราม เรยาพูดเสียงแข็ง
“บอกความจริงมา นายมาแอบดูฉันใช่ไหม”
“ก็ผมบอกตั้งหลายหนแล้วว่าผมเปล่า ใครจะไปทำอย่างนั้นตาเป็นกุ้งยิงพอดี”
เรยาอมยิ้มนิดๆ ที่เห็นเก่งพูดซื่อๆ แต่ยังแกล้งแข็งขึง
“เปล่าแล้วปีนขึ้นไปทำไม”
“เพื่อนผมมันจะไปเอานํ้าค้างในช่อไม้” ครามตอบแทน
“ฉันไม่ได้ถามอย่าจุ้น”
สาลี่รีบบอก “นั่งนิ่งๆ พ่อรูปหล่องานนี้เธอไม่เกี่ยว”
“จริงๆ นะครับ ผมแค่จะไปเอานํ้าค้างในช่อไม้ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณอาบนํ้าอยู่ ผมขอโทษให้ไหว้ก็ได้”
เก่งทำท่าจะไหว้ เรยาร้องห้าม
“ไม่ต้องย่ะฉันยังไม่แก่ขนาดให้นายมาไหว้ ว่าแต่นายจะเอานํ้าค้างไปทำอะไร”
“คือว่า มีครูเพลงบอกผมว่าถ้ากินนํ้าค้างเดือนเพ็ญแล้วจะเสียงดีครับ”
เรยากับสาลี่ฟังแล้วขำที่เก่งซื่อจนเซ่อ
“แล้วนายเชื่อด้วยเหรอเรื่องหลอกเด็กแบบนี้” สาลี่ถาม
เก่งเขินๆ “เอ่อ เชื่อครับ”
“เก่งเขาจะประกวดร้องเพลงคืนนี้ เขาอยากชนะเลยทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้”
“ประกวดร้องเพลง นายเนี่ยนะจะเป็นนักร้อง” เรยาแปลกใจ
“ผมไม่ได้อยากเป็นนักร้อง ผมแค่อยากได้เงินรางวัล”
“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นนายกับเพื่อนก็ไปเถอะ นายคงต้องไปเตรียมตัว”
“คุณไม่โกรธเก่งแล้วเหรอ” ครามย้ำถาม
“คนที่โง่จนเซ่อเชื่อว่ากินนํ้าค้างแล้วเสียงใสแบบเพื่อนนายเนี่ยฉันคงโกรธไม่ลงหรอก ไปเถอะ อย่างน้อยนายก็ต้องไปทำแผลที่หัว”
ครามรีบประคองเก่งกลับบ้าน เรยา สาลี่ มองตามอย่างขำๆ สาลี่บ่น
“คนอาไร้โง่บรม เชื่อเรื่องติงต๊องแบบนี้ด้วย”
“ก็เพราะเขาเชื่อฉันเลยไม่เอาเรื่อง”
สาลี่มองงงๆ “ทำไมล่ะ”
“เพราะฉันก็เคยเชื่อแบบเขาน่ะซิ”
เรยาเดินยิ้มอารมณ์ดีจากไป สาลี่มองตามงงๆ แล้วรีบเดินตาม
“แปลก แทนที่จะอารมณ์เสีย กลับอารมณ์ดีซะงั้น”
เก่งนั่งให้ข้าวหอมทำแผลอยู่ที่ร้านกาแฟ เจ๊ลำไยพูดขึ้น
“ที่เขาว่ามันก็จริง แกไปเชื่อเรื่องพรรค์นั้นได้ไง มันเป็นเรื่องอำกันเล่นใครๆ ก็รู้W
“หรือว่าพี่ไปแอบดูเขาอาบนํ้าจริงๆ” บัวท้วง
เก่งรีบมองข้าวหอมกลัวเข้าใจผิด ข้าวหอมปิดพลาสเตอร์อันสุดท้ายแรงๆ เก่งร้องลั่น
“โอ๊ย ข้าวหอม เบามือหน่อย”
“แรงๆ ซิดี จะได้เตือนสติว่าอย่าไปทำพิเรนทร์แบบนี้อีก”
“โธ่ พี่จะไปทำอย่างนั้นได้ไง พี่เชื่อจริงๆ ว่ากินนํ้าค้างแล้วเสียงจะดี”
“จริง ฉันเป็นพยานได้ เมื่อเช้ายังหลงไปกินฉี่น้ามีที่แกฉี่ทิ้งไว้ข้างทางเลย” ครามเล่า
ข้าวหอมอมยิ้มขำ เจ๊ลำไยถึงกับปล่อยก๊าก
“ฮ่าๆๆ ถามจริงไอ้เก่ง ใครสั่งใครสอนแกให้ไปเลียนํ้าค้างยอดหญ้าหา”
“ครูเพลงจ้ะ”
“ครูเพลงไหน”
“ครูซุปจ้ะ เขาบอกว่าเขาเคยสอนพ่อฉันด้วย”
เจ๊ลำไยนึก “ตาซุปสีคิ้วใช่ไหม”
เก่งพยักหน้า เจ๊ลำไยหัวเราะหนักกว่าเดิม
“ฮ่าๆๆ ตาซุปแกเป็นบ้า ฮ่าๆๆ แกไปหลงเชื่อคนบ้า ฮ่าๆๆ ตาซุปแกเสียใจที่พ่อเอ็งถูกยิงตายคาเวทีแกเลยเป็นบ้ารู้ไหมฮ่าๆๆ”
เก่งรีบลุกขึ้นมาถามอย่างจริงจัง
“พ่อฉันถูกยิงตายคาเวทีเหรอเจ๊”
เจ๊ลำไยเพิ่งรู้ตัวว่าพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดเลยเดินหนี เก่งรั้งไว้
“เดี๋ยวก่อนซิเจ๊ บอกมาก่อนพ่อฉันตายยังไง”
“พูดอะไร ฉันไม่รู้เรื่อ
อ้าวอรมาแล้วเหรอ วันนี้ทำขนมอะไรล่ะ”
เจ๊ลำไยเดินเลี่ยงไปหาอร เก่งจำต้องหยุดถาม แต่ในใจครุ่นคิดเรื่องนี้
ที่ห้องอาหารในรีสอร์ท เอ็มนั่งดื่มกาแฟอยู่กับเสี่ยกำธรและเมฆ ส่วนดุ่ย ดุ๋ย เดินหาอาหารบุฟเฟ่ต์ยามเช้าอย่างเมามัน
“ลูกชายเสี่ยนี่หน่วยก้านดูไม่เลวนะ”
“ผมก็ห่วงแต่มันนี่แหละครับ อยู่ที่นี่ก็เอาแต่เกเรจีบสาวไปวันๆ”
“คนหนุ่มก็แบบนี้แหละ เราก็เคยเป็นแบบนี้ ว่าไงเมฆอยากไปทำงานที่กรุงเทพกับฉันไหมล่ะ”
“ไม่เอาหรอกครับ ขืนไปกรุงเทพฯน้องข้าวหอมก็ถูกไอ้เก่งแย่งไปพอดี”
“หนอยไอ้ลูกเวร สนใจแต่เรื่องผู้หญิงจะไปไหนก็ไป”
“งั้นฉันไปนะพ่อ หวัดดีครับคุณเอ็ม ไอ้ดุ่ยไอ้ดุ๋ยไปโว้ย”
เมฆเดินไปจิกหัวดุ่ย ดุ๋ยที่กำลังสนุกกับการกินออกไปจากห้องอาหาร เสี่ยกำธรส่ายหัวในความไม่เอาไหนของลูกชาย เอ็มหัวเราะเบาๆ
“ปล่อยเขาเถอะ อีกหน่อยก็คิดได้เองแหละ มาเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า”
“คุณเอ็มมีอะไรให้ผมรับใช้บอกมาได้เลยครับ”
เอ็มยิ้มอย่างมีเลศนัย
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 3 (ต่อ)
มะขิ่นมารอรับเก่งกับบัวขณะที่รอเก่งเก็บของ มะขิ่นก็นั่งคุยกับอรและเจ๊ลำไย
“ฉันล่ะเป็นห่วง แค่ยังไม่เข้าเมืองก็ไปวิ่งชนต้นไม้จนหัวแตกไม่รู้ว่าไปช่วยงานมะขิ่นจะเป็นภาระหรือเปล่า”
มะขิ่นกับเจ๊ลำไยรีบบอกพร้อมกัน
“ไม่หรอก”
อรมองอย่างแปลกใจในอาการของสองสาว เจ๊ลำไยรีบพูด
“คือว่า ฉันช่วยมะขิ่นมันพูดน่ะ กลัวไม่มีคนช่วยเดี๋ยวไอ้บัวมันตกรอบแรกอายเขาแย่เลย เป็นถึงหลานสาวอดีตนางงามอย่างฉัน ตกรอบแรกมีหวังได้เดินเอาปี๊บคลุมหัว”
“ใช่ๆๆ จ้ะ พี่อร ถ้าเพื่อนๆ ไม่ไปกันครบทีมมีหวังบัวมันอายขาสั่นไม่กล้าขึ้นเวทีแน่ ให้เก่งไปช่วยฉันเถอะนะ ฉันลงทุนลงแรงไปเยอะแล้ว อย่างน้อยได้รางวัลขวัญใจก็ยังดี”
อรยิ้มให้มะขิ่นกับเจ๊ลำไย แอบถอนหายใจโล่งอก
เอ็มคุยธุระกับเสี่ยกำธรจนเสร็จ แล้วจึงสรุป
“สรุปเอาตามนี้นะ งานนี้ถ้าฉันได้นักร้องใหม่ดีๆ สักคนฉันจะสมนาคุณเสี่ยอย่างงาม”
“ไม่ต้องหรอกครับคุณเอ็ม เรื่องเล็กน้อย แต่ว่าในอนาคตผมอาจจะฝากไอ้เมฆให้มันไปฝึกงานกับคุณเอ็ม มันจะได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง”
“สบายมาก จะไปเมื่อไหรก็บอกได้เลย ฉันยินดีต้อนรับเสมอ”
เอ็มกับเสี่ยกำธรยิ้มให้กันอย่างมีไมตรี
“ฉันอยากจะรู้นักว่าถ้าฉันฉกของดีของไอ้สมชายมันจะทำหน้ายังไง ฮ่าๆๆ”
หน้าห้องอาหารของรีสอร์ท สมชายต้อนบรรดาสาวๆ มากินอาหาร
“ครูห่าน ดูแลแม่สาวๆ พวกนี้กินข้าวกินปลาซะเดี๋ยวจะได้ไปทำงานกัน”
“ค่ะบอส เอ้าเร็วๆ เข้า แม่สามสาวสารพัดสัตว์สะเทินนํ้าสะเทิ้นบก มัวแต่ลีลาเดินหนีบกันอยู่นั่นแหละเดี๋ยวไปทำงานไม่ทันพอดี”
นก มด ปลา เดินค้อนๆ เข้าห้องอาหารไป ครูห่านเดินตาม สมชายหันมาพูดกับสาลี่ต่อ
“หนูเรยา สาลี่ ไปกินอาหารเช้ากันจะได้ไปทำงานกันต่อนะ”
“กินข้าวเสร็จแล้วเรยาจะไปเดินเที่ยวกับสาลี่นะคะ ใกล้เวลางานแล้วค่อยไป”
สมชายยังไม่ทันตอบ เสียงเอ็มดังสอดเข้ามาแทน
“จะเดินเที่ยวถ้าไม่มีคนนำทาง ผมรับอาสานะครับคุณเรยา”
ทุกคนหันมองตามเสียง เห็นเอ็มเดินออกมาจากห้องอาหารกับเสี่ยกำธร
“สวัสดีค่ะคุณเอ็ม นึกไม่ถึงนะคะว่าจะเจอเจ้าของค่ายเพลงดังที่นี่”
“ก็ผมไม่มีนักร้องดังในค่ายอย่างคุณเรยา ผมก็ต้องเที่ยวเสาะหาซิครับ”
สาลี่หมั่นไส้ “เสาะหาหรือกะว่าจะมาเป็นแมวขโมยของคนอื่นคะ เรื่องแบบนี้คุณเอ็มถนัดนี่”
“ขอบคุณคร้าบคุณสาลี่คนสวย คุณนี่พูดจี้ใจดำผมจัง”
สมชายเอ่ยขึ้น “เราต่างก็เป็นคนวงการเดียวกันอย่ามาเป็นศัตรูกันเลย”
“ใคร ใครเป็นศัตรูกัน พูดดีๆ นะคุณสมชาย ที่นี่นะมันถิ่นผม”
สมชายเห็นเสี่ยกำธรคุมเชิงอยู่ รีบพูดต่อ
“อย่าทำให้วงการเพลงลุกทุ่งมันเสื่อมเสียไปมากกว่านี้เลย คนลูกทุ่งมีแต่รักกันไม่ใช่แก่งแย่งชิงดีกันแบบนี้”
“ของแบบนี้มันใครดีใครได้ นายมีเรยาเป็นแม่เหล็กของค่ายอยู่แล้วทั้งคน นายก็พูดได้ อิจฉาฉันน่ะซิ ถ้าฉันหาคนมาเป็นคู่แข่งเรยาได้”
“นกทำรังมันเลือกดูไม้ ข้าเลือกนายมันดูที่นํ้าใจ ถ้านายเป็นคนดีไม่เอาเปรียบนักร้องในค่ายเดี๋ยวคนดีๆ ก็มาอยู่เอง ไม่จำเป็นต้องใช้เล่ห์เพทุบายแย่งชิงคนอื่นหรอก ไปพวกเรา”
สมชายชวนเรยา สาลี่เข้าข้างใน ทิ้งให้เอ็มมองตามด้วยความแค้น
“สักวันหนึ่งเถอะไอ้สมชาย แกต้องเสียใจที่กล้าเป็นศัตรูกับฉัน”
เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย เดินเล่นในงานเพื่อรอหาเรื่องเก่ง
“เดินตั้งนานไม่เห็นพวกมันเลย แกสองคนแน่ใจนะว่ามันจะมางานนี้”
“แน่ซิลูกพี่ มันจะฝึกร้องเพลงทำไมถ้าไม่มาประกวด”
“อย่างน้อยถ้ามันไม่มาประกวดร้องเพลง มะขิ่นก็ต้องพาบัวมาประกวดนางงาม”
“และถ้านังบัวตัวแสบมันมา น้องข้าวหอมคนงามของลูกพี่ก็ต้องมาชัวร์”
“เออจริงว่ะ เอ็งสองคนนี่ก็ฉลาดกับเขาเป็นเหมือนกันเนอะ ไปโว้ย เดินไปเดินมาต้องเจอพวกมันจนได้แหละ”
เมฆเดินนำลูกน้องที่เที่ยวหยิบของร้านโน้นร้านนี้กินฟรีอย่างนักเลงเจ้าถิ่น
บรรยากาศในห้องแต่งตัวประกวดนางงาม นางงามแต่ละคนกำลังแต่งหน้ากันอยู่ ป้าสีวัง ผู้จัดการประกวดเดินตรวจดูความเรียบร้อยอย่างพอใจ จนเดินมาถึงกลุ่มมะขิ่น เธอถึงกับตกใจ
“ต๊าย ตายแล้วแม่มะขิ่น นี่อะไรของหล่อนหา ฉันจัดประกวดนางงามนะไม่ใช่จัดประกวดมิสทิฟฟานี”
ป้าสีวังเห็นมะขิ่นกำลังแต่งหน้าเก่งอยู่ มะขิ่นยิ้มแห้งๆ
“คุณป้าสีวังขา คนนี้ไม่ใช่ผู้เข้าประกวดค่ะ เขาเป็นแค่ของแถม”
“หมายความว่าไงยะ หล่อนอธิบายมาซิ เดี๊ยนไม่เข้าใจ”
“คือแบบนี้ค่ะ น้องเก่งเนี่ยเขาจะประกวดร้องเพลง มะขิ่นเลยช่วยแต่งหน้าให้ ส่วนนางงามของมะขิ่นคนนี้ค่ะ ชื่อน้องบัว”
มะขิ่นรีบดันบัวออกไปให้ป้าสีวังดู ป้าสีวังสำรวจบัวแล้วพึงพอใจ
“หล่อนนี่มักมีช้างเผือกมาเสมอนะจ๊ะ ประกวดชนะแล้วส่งให้ฉันดูแลเลยใช่ไหม”
“คนนี้ขอค่ะ เอาแค่เป็นหน้าเป็นตาไม่ได้เป็นอีหนูค่ะป้า”
“ย่ะหล่อน เกลียดนักคนรู้ทัน แต่เด็กเธอเนี่ยสวยขั้นเป็นดาราได้เลยนะ เก็บไว้ให้ดีล่ะเผื่อเปลี่ยนใจก็โทรหาฉันได้เสมอ”
“ค่ะป้า ตกลงหนูทำงานต่อได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ตามใจ อย่าให้เสียงานเดี๊ยนก็แล้วกัน ว่าแต่พ่อหนุ่มสองคนกับสาวน้อยคนนี้หน้าตาดีนะ มาอยู่สังกัดป้าสีวังไหมจ๊ะ”
“ป้าสีวัง” มะขิ่นดุ
“ก็ได้ๆ รู้น่ะว่าของรักของหวง แหมทำเป็นจงอางหวงไข่ไปได้ฉันไปก็ได้”
ป้าสีวังเดินจากไป มะขิ่นถอนหายใจหันมาพูดกับพรรคพวก
“เดี๋ยวแต่งหน้าเก่งเสร็จแล้ว ข้าวหอมไปกับเก่งกับครามนะ อยู่แถวนี้นานๆ ไม่ค่อยปลอดภัย”
“ทำไมล่ะมีอะไรเหรอ” ข้าวหอมสงสัย
“แถวนี้แมวมองส่งเด็กให้เสี่ยมันเยอะ เธอไปอยู่กับเก่งน่าจะปลอดภัยกว่า”
มะขิ่นพูดเซ็งๆ กับวงการนางงามแล้วหันไปแต่งหน้าเก่งต่อ
เรยา สาลี่ เดินเที่ยวชมงาน เรยาบ่นๆ
“งานบ้านนอกไม่เห็นมีอะไร ที่ไหนๆ ก็เหมือนกัน น่าเบื่อ”
“แต่บ้านนอกเนี่ยก็มีของดีให้เธอสบายใจแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”
“จริงด้วย นายเก่งคนซื่อเขาว่าจะมาสมัครร้องเพลงนี่ งั้นเราไปที่รับสมัครกันดีกว่า”
“อ้าวไม่เดินเที่ยวแล้วหรือไง”
“ไม่ล่ะ ไม่สนุก ไปที่รับสมัครดีกว่าเผื่อมีอะไรสนุกๆ ให้ทำ”
“ก็ดี จะได้ไปช่วยงานอาสมชายบ้าง ไป”
สองสาวเดินจูงมือกันไปที่รับสมัครนักร้อง
เก่งแต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมากับครามและข้าวหอมที่หน้าห้องประกวด
“พี่เก่งนี่แต่งตัวขึ้นเหมือนกันนะ ดูซิเหมือนนักร้องลุกทุ่งดังเลย ใครน้า นึกได้แล้ว ไชยา มิตรชัยนักร้องคนนี้เขาดังมากเลย ไม่ธรรมดา อ่ะฮ้าไม่ธรรมดา”
“โห อย่าเอาพี่ไปเทียบกับเขาเลย มันคนล่ะชั้นกัน เขาเป็นดวงดาว แต่เรามันแค่ก้อนดิน”
“แกต้องมั่นใจตัวเอง แกก็ไม่แพ้ใครหรอก ไชยา มิตรชัย หรือจะมาสู้ เก่ง ปากช่อง ใช่ไหมเพื่อน รีบไปสมัครกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา ใกล้ปิดรับสมัครแล้ว”
ทั้งหมดพร้อมใจกันเดินไปสมัครร้องเพลง
เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย เดินมองหาพวกเก่งอย่างรีบร้อนจนเดินชนกับเก่งและคราม แต่จำเก่งไม่ได้
“เดินยังไงวะคนกำลังรีบๆ อยู่ ไปพวกเราตามหาไอ้เก่งให้เจอ”
เมฆเดินเลยเก่งไป ครามกระซิบเก่ง
“พวกมันหาแกทำไมวะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เป็นเรื่องไม่ดีแน่ ข้าวหอมล่ะ”
“แวะเข้าห้องนํ้าเดี๋ยวก็มา”
เก่งกับครามยืนรอข้าวหอม ดุ่ยคลับคล้ายคลับคลาหันกลับไปมองเก่งอีกที เห็นข้าวหอมเดินเข้ามาร่วมวง ดุ่ยรีบบอก
“เดี๋ยวลูกพี่ นั่นมันน้องข้าวหอมยืนคุยกับคนที่เราชนเมื่อกี้”
“ไหนๆ ขอดูหน่อยซิ”
ข้าวหอมคุยกับเก่งและครามแล้วรีบเดินไปที่กองประกวด ดุ๋ยรีบบอกเมฆ
“ใช่ นั่นมันน้องข้าวหอมกับไอ้ครามจริงๆ ลูกพี่ มากับใครวะไม่เคยเห็นหน้า หรือว่า”
“ไอ้เก่ง นั่นมันไอ้เก่งนี่หว่า มันคงจะไปสมัครร้องเพลงแน่ ไปเร็วตามมันไป อย่าให้มันไปสมัครทัน”
เมฆนำทีมลูกน้องวิ่งตามเก่งไป แล้ววิ่งมาดักหน้าไม่ให้เก่งเข้าไปสมัครร้องเพลง
“จะรีบไปไหนไอ้เก่ง เอ็งหลอกน้าอรได้ แต่หลอกข้าไม่สำเร็จหลอกโว้ย”
“แกจะไปไหนก็ไป อย่ามาเกะกะแถวนี้ หลีกไปฉันกำลังรีบ”
“จะรีบเข้าไปสมัครประกวดร้องเพลงหรือไงจ๊ะ” ดุ่ยถามกวน
“เห็นที่จะไปไม่ได้แล้ว” ดุ๋ยเข้ามาสมทบ
“ทำไมจะไปไม่ได้หลีกไป” ครามเสียงแข็ง
ดุ่ยรีบบอก “ไม่หลีก เพราะลูกพี่เมฆไม่อยากให้เอ็งเข้าประกวด มีอะไรหรือเปล่า”
“พวกเราลุยอย่าให้มันเข้าไปได้”
เมฆสั่ง ดุ่ย ดุ๋ยเข้าล้อมเก่งไว้ ครามรีบบอกข้าวหอม
“ข้าวหอม รีบเข้าไปถ่วงเวลาที่สมัครก่อน ทางนี้ฉันจะช่วยเก่งเอง”
“ถ่วงเวลายังไงล่ะฉันทำไม่เป็น”
“ก็ไปสมัครร้องเพลงก็ได้ กรรมการจะได้ยังไม่เก็บโต๊ะสมัคร รีบไปเร็ว”
ข้าวหอมรับคำ รีบวิ่งเข้าไปในที่สมัคร ครามเข้าไปช่วยเก่ง
อรช่วยเจ๊ลำไยเสิร์ฟของในร้านเสร็จแล้วก็มานั่งคุยกับแหม่มและเจ๊ลำไย
“วันนี้ลูกค้าน้อยเนอะเจ๊”
“ดีแล้วล่ะ เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อย หลานๆ ก็ไม่อยู่ช่วยสักคน”
“แล้วนี่แหม่มไมไปกับเขาด้วยเหรอปกติเห็นชอบนี่”
“ก็อยากจะไปอยู่เหมือนกัน”
“อยากจะไปแล้วมานั่งซึมกะทืออยู่ที่นี่ทำไมยะ มันผิดวิสัยของแกนะ อย่างแกนะต้องอยู่ในที่ที่มีแต่เรื่องจะได้เอามาเมาท์ให้ชาวบ้านฟัง”
แหม่มเอาแต่นั่งถอนหายใจเซ็งๆ อรยิ้มถามอย่างเป็นห่วง
“นั่นซิ ทำไมไม่ไปล่ะ”
“ก็นังมะขิ่นมันจ้างให้ฉันอยู่เฝ้าพี่อร มันกลัวว่าพี่อรจะรู้ว่าเก่งมันไปประกวดร้องเพลง”
“ว่ายังไงนะแหม่ม”
เจ๊ลำไยบ่นเบาๆ “ผีเจาะปากมาพูดจริงๆ นังแหม่ม”
แหม่มสะดุ้ง รู้สึกตัวที่พูดในสิ่งไม่ควรพูด อรถามเสียงเครือ
“บอกความจริงมา เก่งไปไหน”
แหม่มอึดอัด ตอบไม่ถูก
อ่านต่อตอนที่ 4