สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 6
เอกขับรถ ชัยนั่งข้างเอก เพื่อมารับข้าวหอม บัว และมะขิ่น มาบ้านเอ็ม บัวกับข้าวหอมตื่นตาตื่นใจกับเมืองหลวง แต่มะขิ่นนั่งเซ็งๆ
“โห เมืองหลวงนี่มันจอแจจังเลยเนาะ มีตึกสูงเยอะแยะไปหมด” บัวตื่นตา
“ผู้คนแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ กันทั้งนั้น มิน่าเขาถึงเรียกพวกเราว่าบ้านนอก” ข้าวหอมปลงๆ
เอกหันมาพูด “อีกไม่นานคุณข้าวหอมก็จะสวยกว่าคนเดินถนนพวกนี้”
“อย่าเรียกคุณเลยจ้ะเรียกข้าวหอมเฉยๆ ก็พอ”
ชัยค้าน “ไม่ได้หรอกครับ คุณจะเป็นนักร้องดังในอนาคต”
มะขิ่นทำหน้าเซ็งๆ “อีกนานไหมกว่าจะถึง”
“ไม่นานครับ เลี้ยวเข้าเลียบทางด่วนก็ถึงแล้ว””
“อ๋ออยู่แถวลาดพร้าว71 นี่เอง”
เอกแปลกใจนิดๆ “เธอรู้จัก เคยอยู่กรุงเทพฯเหรอ”
บัวตอบแทนมะขิ่น “ไม่ใช่เคยอยู่ แต่เป็นคนกรุงเทพฯที่หนีไปอยู่บ้านนอกเพราะเบื่อ”
“ใช่ ใจคนที่นี่มันยากหยั่งลึก ปากปราศรัยแต่น้ำใจเชือดคอ สู้คนบ้านนอกไม่ได้ คิดยังไงก็พูดอย่างนั้นไม่ต้องตีความให้เมื่อยตุ้ม”
เอกสงบปาก เมื่อรู้ว่ามะขิ่นหลอกด่า มะขิ่นยิ้มสะใจ
เก่งกับครามวิ่งออกกำลังกายในซอย รถตู้ข้าวหอมสวนเข้ามา เก่งมองนิดหนึ่ง ข้าวหอมนั่งดูวิวที่หน้าต่างรถชะลอความเร็วจะเข้าซอย มะขิ่นค้นหาโทรศัพท์
“โทรศัพท์ๆ อยู่ไหนนะ จะได้โทรหาครามหวานใจ บอกว่าพวกเราถึงกรุงเทพฯแล้ว”
“ช่วยกันหาเถอะ ไม่หายไปไหนหรอกใจเย็นๆ”
“นั่นซิมาช่วยกัน”
สามสาวก้มลงหาโทรศัพท์ว่าตกอยู่ส่วนไหนของรถ เป็นจังหวะเดียวกับเก่งและครามวิ่งผ่านมา ทำให้สองฝ่ายคลาดกัน มะขิ่นหาโทรศัพท์เจอพอดี
“เจอแล้ว ถ้าหายไปแย่แน่เลย เมมเบอร์ครามไว้ในเครื่องยังไม่ได้จดด้วย”
ข้าวหอมยิ้มๆ บัวค้อนหมั่นไส้
“เฮ้อ รักเขาข้างเดียวระวังจะชีช้ำนะ”
“ย่ะช้ำใจเพราะได้รัก ยังดีกว่าช้ำใจเพราะไม่เคยรักใครแบบหล่อน”
ทุกคนในรถพากันอมยิ้ม ยกเว้นบัวที่หน้างอเพราะมะขิ่นพูดเรื่องจริง
อรเตรียมตัวจัดของไปร้านแต่เช้า ลืมไปว่าเก่งไม่ได้อยู่ ตะโกนเรียกหลานตามความเคยชิน
“เก่งเอ๊ยเก่ง มาช่วยน้าทางนี้หน่อยลูกเก่ง”
อรไม่ได้ยินเสียงตอบทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเก่งไม่อยู่ เธอทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง
“จริงซิเอ็งไม่อยู่แล้ว”
อรน้ำตาคลอ เหม่อมองไปข้างหน้า
“น้าคิดถึงเอ็งนะเก่ง”
หน้าค่ายเพลงของเอ็ม เอกเปิดประตูให้ข้าวหอมและเพื่อนๆ ลงมาจากรถ
“เชิญครับ นี่แหละครับบ้านคุณเอ็ม พวกคุณจะพักอยู่ที่นี่ครับ”
ข้าวหอม มะขิ่น บัว ลงมา ข้าวหอมมองหน้าบ้านอย่างตื่นเต้น
“โอ้โหใหญ่โตจัง”
“ข้างนอกสดใสข้างในต๊ะติ๊งโหน่งหรือปล่าก็ไม่รู้” บัวท้วง
“เข้าไปเถอะเดี๋ยวก็รู้ว่าของจริงหรือของปลอมเรื่องแบบนี้มันซ่อนหางกันได้ไม่นานหรอก” มะขิ่นบอก
เอกกับชัยเดินนำสาวๆ เข้าบ้าน มะขิ่นก้าวเป็นทัพหน้าบัว ข้าวหอมตาม ระหว่างนั้น เก่ง ครามก็วิ่งกลับมา เห็นรถตู้ค่ายเอ็มยังจอดอยู่หน้าบ้าน เก่งมองนิดหนึ่งก่อนพูดติดตลก
“วันนี้บ้านผีสิงมีคนมาด้วยว่ะ”
“ไม่รู้ว่าเอาศพมาซ่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เออว่ะ ถ้าจะจริงลับๆ ล่อๆ เออว่าแต่ข้าวหอมจะมาวันนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ๆ รีบเข้าบ้านจะได้ไปดูโทรศัพท์ว่าโทรมาแล้วหรือยัง”
ครามวิ่งนำเก่งเข้าบ้าน
เอก ชัยเดินนำมะขิ่นและเพื่อนๆ ขึ้นบันไดมา เอ็มยืนรอรับอยู่แล้ว โดยมีถั่วพูยืนกอดอกหน้าบอกบุญไม่รับ
“ยินดีต้อนรับนะครับหนูข้าวหอม สาวน้อยมหัศจรรย์ของผม”
ถั่วพูรู้สึกจุกที่อกนิดๆ ที่เอ็มพูดต้อนรับข้าวหอม มะขิ่นสังเกตเห็นอาการถั่วพูก็พอเดาออกเลยพูดเบรก
“ต้อนรับข้าวหอมคนเดียวหรือคะคุณเอ็ม”
“ทุกคนครับ โดยเฉพาะคุณมะขิ่นนักปั้นมือทองที่ถอนตัวออกจากวงการบันเทิงเพราะ”
“อดีตของฉันไม่ต้องขุดคุ้ยก็ได้นะคะ”
“คร้าบ แล้วนี่ก็คงเป็นน้องบัวคนสวย สาวงามที่มีคนหมายตา”
“รอบรู้จัง เอาเป็นว่าจะให้พวกเราพักที่ไหนคะ” มะขิ่นตัดบท
“ผมให้ถั่วพูเขาจัดเตรียมไว้แล้ว ถั่วพูเขามีหน้าที่ดูแลศิลปิน”
“นึกว่าเป็นนักร้องเสียอีกสวยจัง” ข้าวหอมชื่นชม
“อัลบั้มฉันยังทำไม่เสร็จ”
“คนอยู่ก่อนยังทำไม่เสร็จแล้วอย่างนี้แกจะได้ออกอัลบั้มเมื่อไรข้าวหอม” บัวท้วง
“ไม่ต้องห่วง หนูข้าวหอมจะได้ออกอัลบั้มภายในหนึ่งเดือนแน่นอนครับ”
ข้าวหอม บัว ดีใจ มะขิ่นชำเลืองมองถั่วพูที่แสดงอาการไม่พอใจปนแค้น
“ไปพักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้ผมจะพาทุกคนไปที่ค่ายเอ็มมิวสิค ถั่วพู ดูแลทุกคนให้ดีอย่าได้ขาดตกบกพร่องเป็นอันขาด”
“ตามมา”
ถั่วพูเดินสะบัดนำไปอย่างไม่พอใจ เอก ชัย มองถั่วพูสงสาร แต่ช่วยอะไรไม่ได้
ครามนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ เก่งเดินเข้ามาหา
“ได้ ได้ พรุ่งนี้เจอกัน”
เก่งรีบถามคราม
“มะขิ่นมาถึงแล้วใช่ไหม พวกเขาอยู่ที่ไหนล่ะเราจะได้ไปหา”
“อยู่แถวลาดพร้าวนี่แหละแต่เพิ่งมาถึงก็เลยต้องจัดข้าวของที่พัก”
“แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอกัน อยู่ที่ไหนอยู่กับใคร จะโดนหลอกหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ไม่ต้องห่วง มะขิ่นเคยอยู่กรุงเทพฯ ไม่โดนหลอกง่ายๆ หรอก”
“จริงซิ ลืมไปเลย แบบนี้ค่อยหายห่วงหน่อย”
“ถามจริง ถ้าข้าวหอมไม่มาด้วยแกจะห่วงขนาดนี้ไหม”
“ฉันห่วงทุกคน แกก็รู้เรามันคนบ้านนอกไม่คิดซับซ้อน ผู้หญิงสามคนมาอยู่กรุงเทพฯจะไม่ให้ฉันเป็นห่วงได้ไง”
“งั้นก็หายห่วง เพราะพรุ่งนี้เราจะไปเจอพวกสาวๆ ที่หน้าค่ายเอ็มมิวสิค”
“เอ็มมิวสิค ค่ายเพลงคู่แข่งกับที่นี่น่ะเหรอ แล้วมาทำไมกัน”
“มาเป็นนักร้องเหมือนแกมั้ง ไม่ต้องคิดมาก พรุ่งนี้เจอกันค่อยถาม โอเค้ วันนี้แกเตรียมตัวไปห้องอัดดีกว่า”
เก่งเห็นด้วยกับคราม แต่สายตายังอดกังวลไม่ได้ สาลี่แอบฟังอยู่ ยิ้มสะใจ
เรยานั่งยิ้ม ฟังเรื่องที่สาลี่เล่าให้ฟัง
“พรุ่งนี้จะเจอกันงั้นเหรอ ไม่ว่าวันไหนๆ ฉันก็ไม่ให้มันเจอกัน”
“ใช่ถ้าเธอยอมนังบ้านนอก มีหวังเอาปี๊บคลุมหัวเดินแน่ คิดดูซิเรยา ราชินีลูกทุ่งพ่ายรักสาวบ้านนอกรู้ถึงไหนอายถึงนั่น”
“คนอย่างฉันไม่มีวันแพ้สาลี่ วันนี้เธอต้องพาเก่งไปห้องอัดใช่ไหม”
สาลี่พยักหน้า “คุณอาไม่ว่างไปวิ่งเรื่องที่จะทำอัลบั้มให้เก่ง ฉันเลยต้องดูแลแทน”
“งั้นฉันไปด้วย เราต้องช่วยกันให้เก่งไม่มีเวลาไปเจอพวกมัน”
เรยากับสาลี่ยิ้มให้กัน สะใจที่จะแกล้งพวกข้าวหอม ครูห่านเดินมาเห็นเลยแอบฟัง
นก มด ปลา กำลังซ้อม สาวๆ เต้นแดนเซอร์ขะมักเขม้น นกเต้นนำ
มดโวย “โอ๊ย เต้นให้มันแข็งแรงหน่อยซิแม่คุณ ทำเหมือนไม่ได้กินข้าวมา 7 วัน”
“นี่ๆ ดูตัวอย่างมันต้องอย่างนี้”
ปลาเต้นให้ดู แรกๆ ก็ดี แต่พอเพลงเริ่มมัน ปลาก็เต้นแรงขึ้นๆ จนเซถลาไปสวมกอดครูห่านที่เพิ่งเดินเข้ามา ครูห่านโวยวาย
“ต๊าย แม่ปลานี่ หน้ามืดตามัวถึงขนาดจะเอาฉันทำผัวเลยเหรอ”
“โห ครูห่าน ทำไมคิดสลัมบอมเบย์อย่างนั้นล่ะคะ ถึงฉันเป็นสาวแก่แต่ฉันก็เลือกนะ”
นกหันมาพูดกับมด “ถ้านังปลากับครูห่านเป็นผัวเมียกันล่ะก็ รับรองลูกออกมาโชว์งานวัดได้เลย”
“พอๆ เลย นังพวกนี้ก็เหมือนชะนีแก่ ว่าชะนีเด็กก็พลอยเชียวนะ ไปไม่ต้องซงต้องซ้อมมันแล้ว”
แดนเซอร์พากันหุบยิ้ม เดินหน้าหงอยออกไป นก มด ปลา ขยับจะไปด้วย แต่ครูห่านห้ามไว้
“หล่อนสามคนนะอยู่ก่อน ฉันมีเรื่องจะเมาท์”
สามสาวยิ้มออก รีบไปสุมหัวกับครูห่านทันที
ถั่วพูเปิดประตูห้องให้ข้าวหอม บัว มะขิ่น และพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ
“นี่ห้องพวกเธอ หวังว่าคงพออยู่ได้”
ข้าวหอมมองไปรอบๆ “อยู่ได้จ้ะ ดีกว่าที่บ้านเยอะ”
“เหมือนห้องคนมีเงินในละครเลย” บัวบอก
“ก็แน่ล่ะซิ นี่มันห้องระดับนักร้องดังของค่ายอยู่ พวกเธอน่ะโชคดีนะได้อยู่ทั้งๆ ที่ยังไม่ดัง”
มะขิ่นรีบบอก “มันก็ไม่แน่หรอก ว่าจะดีหรือร้าย แต่ที่แน่ๆ เพื่อนฉันก็ได้ออกอัลบั้ม”
ถั่วพูขึ้นเสียง “นี่แก แกว่ากระทบฉันเหรอ”
“ฉันไม่ได้ว่าใคร แต่ถ้าแกอยากจะรับฉันก็ไม่ห้าม”
ถั่วพูถลึงตาใส่มะขิ่น บัวรีบเข้าประกบมะขิ่นเพื่อช่วยเพื่อน ข้าวหอมเห็นท่าไม่ดีรีบเปลี่ยนเรื่อง
“เอาเป็นว่าฉันขอบใจถั่วพูมากนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอจัดข้าวของส่วนตัวก่อน”
“ไม่ต้องมาไล่ ฉันไปแน่ แต่อยากจะบอกให้รู้ไว้นักร้องลูกทุ่งน่ะเขามีมารยาทในการเคารพรุ่นพี่ รุ่นน้อง แต่อย่างว่านะคนบ้านนอกคอกนาบางทีอาจจะไม่รู้จักคำว่าสมบัติผู้ดี”
บัวโกรธ “อ้าวพูดแบบนี้ก็สวยซิ บ้านนอกแล้วทำไม มันไปหนักหัวใครหา”
“พอเถอะบัว เขาพูดก็ถูก เรามันรุ่นน้องต้องให้เกียรติรุ่นพี่”
“แต่ไอ้รุ่นพี่ที่มันทำตัวขี้อิจฉาริษยาเห็นใครได้ดีกว่าเป็นไม่ได้ คนพวกนี้มันไม่น่านับถือหรอกใช่ไหมบัว” มะขิ่นย้ำถาม
“ถูกต้องแล้วคร้าบ”
มะขิ่นกับบัวเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ถั่วพูมองด้วยความแค้น เดินสะบัดหน้าออกไป มะขิ่นกับบัวตีมือกันอย่างสะใจที่เล่นงานถั่วพูได้ ข้าวหอมส่ายหน้ายิ้มๆ ในความเฮี้ยวของเพื่อนๆ
นก มด ปลา นั่งฟังครูห่านเมาท์อย่างจริงจัง
“จริงๆ นะแก ฉันเห็นคุณสาลี่แอบฟังเก่งกับครามคุยกันแล้วรีบไปบอกคุณนักร้องไฮโซ”
“เขาคุยเรื่องอะไรล่ะครูห่าน” มดถาม
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ต้องไม่ดีกับเก่งและพ่อครามกล้ามโตแน่”
“ครูรู้ได้ไงว่าไม่ดี คุณสาลี่อาจจะปรึกษางานกับเรยาเฉยๆ ก็ได้ ครูคิดมากไปหรือเปล่า” นกท้วง
“นั่นนะซิ ปกติเรยาเขาไม่ค่อยยุ่งกับกับใครนี่นา ขนาดพวกเราอยู่ร่วมวงมาหลายปีพูดกันแทบจะนับคำได้” ปลาเห็นด้วยกับนก
“พวกแกเชื่อฉัน สัญชาติญาณมันบอกว่าคุณชะนีไฮโซทั้งสองคิดจะกินเก่งกับครามแน่”
“อุตะ เรื่องอื่นข่อยบ่สน แต่ถ้าเฮ็ดเรื่องยังซี้ ข่อยยอมบ่ได้ ข่อยยอมบ่ได้”
“นังนก เก็บอาการหน่อย ปรี๊ดแตกทีไรหลุดภาษาท้องถิ่นทุกที” มดแซว
นกรีบหุบปากสนิท ยิ้มแห้งๆ ครูห่านพูดต่อ
“พวกเราต้องช่วยเก่งกับคราม”
“ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคุณสาลี่กับเรยาใช่ไหมครู” ปลาถาม
“ใช่ เก่ง คราม ต้องไม่ตกเป็นเหยื่อชะนีไฮโซแต่ต้องตกเป็นเหยื่อพวกเรา ฮ่าๆๆ”
ครูห่านหัวเราะสะใจแบบผู้ชาย สามสาวยิ้มเห็นด้วย
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 6 (ต่อ)
เจ๊ลำไยนั่งเซ็งอยู่ที่ร้านกาแฟ ลูกค้าเข้ามาสั่งของ เจ๊ลำไยไม่สนใจ
“เจ๊ โอเลี้ยงแก้วชาดำสอง”
อรเห็นเจ๊ลำไยไม่ทำ เอาแต่นั่งเหม่อลอย เลยเดินไปบอก
“เจ๊ ลูกค้าสั่งของน่ะ”
“ไม่ทงไม่ทำมันแล้ว วันนี้เซ็ง อารมณ์ไม่ดีไม่ขายโว้ย”
ลูกค้าทำท่าจะกลับ อรเห็นท่าไม่ดีจะรีบไปทำให้
“อย่าเพิ่งกลับจ้า เดี๋ยวฉันทำให้เอง”
แหม่มเห็นอาการเจ๊ลำไยเลยช่วยออกตัว
“พี่อรไปคุยกับเจ๊เถอะ เดี๋ยวของลูกค้าฉันขายแทนให้”
แหม่มเดินไปทำกาแฟให้ อรเดินมานั่งคุยกับเจ๊ลำไย
“เจ๊ทำแบบนี้เจ๊เองจะลำบากนะ อาชีพของเราคือค้าขาย ถ้าเจ๊ไม่ขายของแล้วจะเอาอะไรกิน”
“ฉันก็รู้ แต่มันก็อดห่วงอดคิดถึงไม่ได้ หลานฉันฉันเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกมันไปไกลตาจะให้ข้านั่งลอยหน้าลอยตาสบายใจคงไม่ได้”
“จริงของเจ๊ ถึงฉันจะโกรธเก่งมันมากแค่ไหน แต่ก็อดห่วงอดคิดถึงมันไม่ได้เหมือนกัน”
“เออ เอาอย่างนี้ซิ แกก็อยู่คนเดียวฉันก็อยู่คนเดียว ทำไมเราไม่มาอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็จะได้ไม่เหงา มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้”
แหม่มเสิร์ฟของลูกค้าแล้วเข้ามาร่วมวง
“ฉันเห็นด้วยนะพี่อร พี่จะได้ไม่ต้องขนของไปมาระหว่างบ้านกับร้าน ที่สำคัญมาช่วยเป็นเพื่อนคุยหรือหาเรื่องให้เจ๊บ่น แกจะได้ไม่หงอยเป็นนกไร้คู่แบบนี้”
อรยิ้มเศร้าๆ คิดตามที่แหม่มบอก
เมฆ ดุ๋ย เดินกวนๆ ในตลาด ระรานพ่อค้าแม่ค้าไปทั่ว เมฆหงุดหงิด
“โอ๊ย ทำไมมันขวางหูขวางตาไปหมดอย่างนี้วะ”
“ใจเย็นๆ ลูกพี่ ไอ้ดุ่ยมันกำลังไปสืบข่าวน้องข้าวหอมเดี๋ยวกลับมาลูกพี่จะได้ อารมณ์ดีเพราะมีเธออยู่ ก็มันรู้ว่ามีใครอยู่ข้างใน กุหลาบน้อยลอยกลางใจคิดถึงเมื่อไรก็อารมณ์ดี”
“ถูกของเอ็ง น้องข้าวหอมเท่านั้นที่ชุบหัวใจของข้า เอ้าร้องไปไอ้ดุ๋ยร้องไป”
เมฆฟังดุ๋ยฮัมเพลง พร้อมเต้นอย่างอารมณ์ดี ดุ่ยวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“ลูกพี่ ลูกพี่ แย่แล้ว ข้าวหอมกับบัวเข้าไปอยู่กรุงเทพฯแล้ว”
“หา ไปที่ไหนไปกับใคร”
“ไปเป็นนักร้องอยู่ค่ายเอ็มมิวสิค มะขิ่นตามไปเป็นผู้จัดการส่วนตัว”
“น้องข้าวหอมนี่คิดจะทิ้งกันจริงๆ หรือ”
ดุ๋ยไม่รู้เรื่องกำลังเต้นท่อนโซโล่อยู่ แล้วเต้นเข้ามาใกล้ๆ เมฆ เพื่อร้องท่อนต่อไป
“อารมณ์ดีเพราะมีความสุข ไม่มีทุกข์จะให้ไม่สุขได้อย่างไร หลับตาคิดถึงเธอเมื่อไร ปลื้มใจและอารมณ์ดี”
เมฆหลับตาตามที่ดุ๋ยร้อง พอลืมตาน้ำตานองหน้า ดุ๋ยยังคงเต้นกวนๆ ดุ่ยพยายามจะช่วยห้ามแต่ไม่ทันเมฆหมั่นไส้ถีบดุ๋ยตกน้ำ เมฆปาดน้ำตาพูดจริงจัง
“ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเธอจะไปอยู่กับใคร พี่เมฆจะตามไปดู”
เก่งร้องเพลงอยู่ในห้องอัด ภูมิคุมอัดเสียงอยู่
“ร้องดีแล้วนะเก่ง แต่ลองเน้นอารมณ์ท่อนนี้อีกนิดหนึ่ง ให้มันอารมณ์ร่วมมากกว่านี้ เริ่มใหม่นะ”
เก่งกำลังจะร้อง แต่เรยาห้าม
“เดี๋ยว ฉันว่าเก่งกำลังกังวลใจ”
“ใช่ๆ แบบนี้ร้องไม่ดีแน่” สาลี่ช่วยพูด
“แต่ผมว่าดีแล้วนะครับ เพิ่มอารมณ์ท่อนนี้ก็สมบูรณ์”
“ไม่ได้ ต้องทุ่มเทมากกว่านี้ อย่าให้มีอะไรมาทำลายสมาธิ” เรยายืนยัน
“เอาอย่างนี้ ครามเอาโทรศัพท์เก่งมา หากยังร้องไม่ดีไม่สนใจกับเพลง ก็ไม่ต้องเอาโทรศัพท์คืน” สาลี่ตัดบท
“โทรศัพท์อยู่กับผมจะทำให้เก่งเสียสมาธิได้ไง”
“ได้ซิ ถ้าพวกนายนัดแนะใครไว้มันจะพะวง หรือว่านายไม่อยากให้เพื่อนเป็นนักร้องดัง” เรยาคาดคั้น
ครามจำใจส่งโทรศัพท์ให้อย่างอิดออด สาลี่รีบแย่งโทรศัพท์มา แล้วปิดเครื่องทันที ภูมิส่ายหน้างงแล้วให้เก่งร้องเพลงต่อ
“หมดเรื่องแล้วนะ เอาเก่งร้องต่อ ทำให้ดีไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น”
เก่งพยักหน้า ตั้งใจร้องเพลง เรยา สาลี่ยิ้มสะใจ ครามเริ่มกังวล
ข้าวหอมกับบัวช่วยกันจัดเสื้อผ้าเข้าที่ มะขิ่นนั่งโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดที่เครื่องของเก่งปิดเครื่อง
“อะไรวะ เมื่อเช้ายังติดต่อได้อยู่เลย”
“พี่เก่งเขายุ่งอยู่มั้ง หรือไม่ก็อยู่ในที่ไม่มีสัญญาณ” ข้าวหอมบอก
“หรืออาจจะ ครามรู้ว่ามะขิ่นมาด้วยเลยปิดเครื่องหนี” บัวกระเซ้า
มะขิ่นตาขวาง “เดี๋ยวแม่เพ่นกบาลแยกเลย ปากพาจน ในกรุงเทพฯเธอสองคนเชื่อใจฉันได้คนเดียวนะยังจะมากัดกันเองอีก”
“โอ๋ๆ ล้อเล่นน่า อย่าน้อยใจซิ เราเป็นเพื่อนกันนะ”
“ย่ะ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด”
“พวกเขานัดกับเราแล้ว พรุ่งนี้ก็คงมาตามนัด มะขิ่นไม่ต้องคิดมาก ห่วงแต่พวกเราดีกว่าว่าจะเอายังไงต่อไป ท่าทางถั่วพูไม่ค่อยเป็นมิตรเลย” ข้าวหอมถาม
“อย่างแม่นั่นไม่ต้องถามหามิตรหรอก มันตั้งตัวเป็นศัตรูกับเราเลยล่ะ” บัวย้ำ
“เราคงไปขัดผลประโยชน์บางอย่างของเขา”
ข้าวหอม บัว ไม่สบายใจ มะขิ่นโอบไหล่เพื่อนปลอบ
“ไม่ต้องห่วง เธอก็ทำตามความฝันของเธอให้ดีที่สุด ส่วนเธอฉันพอจะมีทางออกให้ ขอเวลาติดต่อเพื่อนฝูงเก่าๆ ในวงการก่อน มาถึงขั้นนี้แล้วพวกเราต้องสู้ ไม่ทิ้งกัน เลือดปากช่องไปไหนไปกัน”
สามสาวยิ้มให้กันอย่างมีความสุข บัวเล่นจี๋เอวเพื่อนๆ ถั่วพูแอบฟังกลุ่มข้าวหอมคุยกัน พูดอย่างแค้นเคือง
“นังข้าวหอม แกมีความสุขแบบนี้ได้อีกไม่นานหรอก”
ครามขับรถแล่นเข้ามาจอดในบ้านค่ายเพลง เรยา สาลี่ ลงจากรถอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินเข้าบ้านไป เก่งกับครามและภูมิตามลงมา ภูมิแตะไหล่ให้กำลังใจเก่ง
“ที่จริงเก่งร้องดีแล้ว ดีกว่านักร้องอาชีพบางคนเสียอีก”
“แล้วทำไมถึงยังไม่ผ่านล่ะ ร้องแล้วร้องอีกอยู่ที่เดิมๆ”
“คุณสมชายคงหวังในตัวเก่งมาก ถึงให้เรยากับสาลี่มาคุมด้วยตัวเอง”
เก่งยิ้มออก “พรุ่งนี้ผมจะทำให้ดีกว่านี้ ไม่ให้คุณสมชายต้องผิดหวัง”
“ดีแล้วล่ะ วันนี้เก่งก็พักผ่อนเยอะๆ นอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้จะได้เสร็จเร็วๆ”
ภูมิยิ้มอย่างจริงใจ แล้วเดินเข้าบ้าน
“ภูมิพูดถูกนะ พรุ่งนี้แกตั้งใจร้อง แป๊บเดียวก็เสร็จ จะได้ไปหาข้าวหอมกัน”
เก่งพยักหน้า เดินเข้าบ้านไปกับคราม
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 6 (ต่อ)
แหม่ม อร เจ๊ลำไยช่วยกันเก็บร้านเสร็จ แหม่มก็ขอตัว
“ฉันกลับก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาช่วยใหม่”
“อ้าวแล้วแกไม่ทำงานทำการกับเขาหรือไงจะมาช่วยทุกวัน”
“โธ่เจ๊ แม่บ้านอย่างฉันมีอะไรให้ทำนอกจากนั่งนินทาคนโน้นคนนี้ เมื่อร้านมะขิ่นปิดตัว แหล่งที่คนพลุกพล่านก็มีแต่ร้านเจ๊นี่แหละไปนะ”
แหม่มเดินเชิดออกไป อรมองตามยิ้มๆ เจ๊ลำไยถามอร
“แล้วแกล่ะ ตัดสินใจได้หรือยังเรื่องที่จะมาอยู่ด้วยกันน่ะ บอกตรงๆ เหงาว่ะ”
“ตัดสินใจแล้วเจ๊”
“เหรอๆ ว่าไงล่ะจะอยู่ด้วยกันไหม”
อรยิ้มๆ เจ๊ลำไยรำคาญ
“โอ๊ย จะมายิ้มหาตะบักตะบวยอะไรอีก จะว่ายังไงก็บอกมา”
“มาซิ เจ๊ลำไยอุตส่าห์เอ่ยปากชวนทั้งทีอย่าว่าแต่เจ๊เลยฉันก็เหงาเหมือนกัน”
“งั้นเหรอดีๆๆ งั้นมาวันนี้เลยนะเดี๋ยวฉันไปช่วยเก็บของ”
“ตามใจเจ๊”
“นั่นๆ มันต้องแบบนั้น ไปเร็ว”
เจ๊ลำไยรีบฉุดอรให้ไปเก็บของมาอยู่ด้วยกันอย่างดีใจ
เอ็มนั่งเลือกเนื้อเพลงที่เอก ชัย เอามาให้ ถั่วพูเอาไวน์เข้ามาให้
“ดื่มไวน์เย็นๆ ก่อนนะคะ ทำไมงานนี้คุณเอ็มต้องลงมือเลือกเพลงเองล่ะคะ ให้ครูเพลงทำเหมือนเคยก็ได้นี่”
“เธอไม่รู้อะไร ข้าวหอมจะทำให้เราชนะเรยาได้”
“ยัยบ้านนอกนั่นน่ะเหรอจะข่มรัศมีเรยา ไม่มีทาง”
“แล้วเธอจะรู้ว่าคนอย่างฉันมองคนไม่เคยพลาด จะไปไหนก็ไป อย่ามาเกะกะ เอก ชัย เอาเนื้อเพลงมาให้เลือกอีก”
เอ็มหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทแล้วสนใจกับเนื้อเพลงโดยไม่สนใจถั่วพู ถั่วพูเขยิบห่างออกมาอย่างไม่พอใจแววตาอาฆาตข้าวหอม
“นังข้าวหอม กูเกลียดมึง”
ครามกับภูมินั่งรอสามสาวแต่งตัวให้เก่งโดยมีครูห่านคอยกำกับ
“พร้อมแล้วที่จะให้ท่านพบเจอกับลุคใหม่ของเก่งบ้านนา”
เก่งก้าวออกมาในชุดนักร้องที่ดูดีมากๆ พร้อมนก มด ปลา ภูมิเอ่ยปากชม
“ดูดีมากเลยครูห่าน เก่งใส่ชุดแบบนี้เหมาะมาก”
“หล่อมากเพื่อนเรา เหมือนนักร้องลูกทุ่งดังเลย”
เก่งยิ้มเขินๆ “ต้องขอบใจครูห่านแล้วก็พี่นกพี่มดพี่ปลา”
“อุตะ เรียกพี่จั๋งซี่ข่อยรับบ่ได้” นกท้วง
“เย็นไว้นังนกเย็นไว้” มดเตือน
ปลารีบบอกเก่ง “เรียกชื่อเฉยๆ ก็พอ ขืนเรียกอย่างอื่นมีหวังไม่ต้องทำงานกัน”
“จ้าๆ ฉันขอโทษ ขอบใจน้องนกน้องมดน้องปลามากนะจ๊ะ”
สามสาวอายม้วนเขินไปเขินมา ครูห่านสรุป
“พอๆ เอาเป็นว่าสรุป เก่งจะแต่งตัวสไตล์นี้แล้วกัน”
“ครับ ผมว่าแบบนี้มันพอดีไม่มากไปไม่น้อยไป”
นกทำตาเจ้าเล่ห์ “แต่ว่า เราน่าจะลองชุดแบบอื่นดูนะคะเผื่อมีดีกว่านี้”
“แล้วถ้าจะให้ดี คราม ภูมิ ต้องมาเป็นหุ่นลองชุดด้วยจะได้เร็วขึ้น” มดบอก
“งั้นอย่าเสียเวลาเราลงมือปฏิบัติการเลย”
นก มด ปลา ครูห่าน ทำหน้าหื่นใส่สามหนุ่ม ทั้งสามทำหน้าสยองวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น
ข้าวหอม บัว กำลังนอนให้มะขิ่นมาส์คหน้า ได้ยินเสียงเอะอะบ้านข้างๆ ข้าวหอมลุกขึ้นอย่างรวดเร็วจนมะขิ่นตกใจ บัวค่อยๆ ลุกตามมา
“ว้ายอะไรกันจ๊ะข้าวหอมอยู่ดีๆ ลุกขึ้นมาทำไม”
“เสียงเอะอะอะไรกัน”
มะขิ่นเอียงหูฟัง “เออว่ะเสียงยังกับควายถูกเชือด”
บัวดึงหน้ากากออก “งั้นจะช้าอยู่ทำไมไปดูกันเลย”
บัวรีบวิ่งนำไปก่อน มะขิ่น ข้าวหอมวิ่งตามขึ้นไปที่ระเบียงสระว่ายน้ำแอบดู เห็นกลุ่มเก่ง คราม ภูมิกำลังวิ่งหนีครูห่าน มด นก ปลา บนหัวเก่งครามมีขนนกอยู่เต็ม ทำให้พวกข้าวหอมไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ข้าวหอมบ่น
“คนกรุงนี่แปลกเนาะ แก้ผ้าวิ่งไล่จับกันตอนกลางคืนไม่อายฟ้าอายดิน”
“ดูซิ ผู้หญิงวิ่งไล่ปล้ำผู้ชายห้องหับมีก็ไม่ไปทำ” บัวบ่น
“พอๆ อย่าดูเลยอุบาทว์ตาเปล่าๆ ไปนอนมาส์คหน้ากันต่อเถอะ”
ข้าวหอม มะขิ่น บัว หันหลังกลับเป็นจังหวะเดียวกับที่เก่งดึงของที่ปกปิดใบหน้าออก เขาเห็นข้าวหอม มะขิ่น บัว หันหลังกลับแว่บๆ
“เฮ้ยบ้าน บ้านนั้นมีคนอยู่ข้างบนด้วย”
ทุกคนวิ่งกรูมามองไม่เห็นมีอะไร นกรีบกุเรื่อง
“บ้านผีสิงจะมีคนได้ไง”
มดพูดเสียงยียวน “ช่าย บ้านนั้นไม่มีใครอยู่มานานแล้ว”
“เมื่อเช้าผมยังเห็นรถจอดหน้าบ้านอยู่เลย” ครามบอก
“จริงๆ นะบ้านนั้นไม่มีใครอยู่ นานๆ จะมีคนเข้าออกสักที” ปลาย้ำบอก
เก่ง คราม เริ่มสยอง ครูห่านได้ใจรีบเข้ากอดเก่งกับคราม
“อุ๊ยตาย ว้ายกรี๊ด ห่านกลัวผี”
ภูมิยิ้มๆ รีบบอกความจริง
“พอเถอะครับ เดี๋ยวเก่งกับครามก็คิดว่าเป็นจริงหรอก”
ครูห่าน นก มด ปลา หน้าหงอย เก่ง ครามงง ภูมิพูดต่อ
“บ้านนั้นไม่ค่อยมีคนมาอยู่นะ เขามักปิดไฟเงียบ คนแถวนี้เลยเรียกว่าบ้านผีสิง แต่ไม่มีอะไรหรอกเก่งไปนอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้เข้าห้องอัดแต่เช้า”
เก่ง คราม ถอดอุปกรณ์ส่งให้นก มด ปลา ที่มองสองหนุ่มอย่างเสียดาย เก่งมองไปที่บ้านหลังนั้นอย่างสงสัยอีก ครามต้องเรียกซ้ำ
“ไปเถอะเก่ง ขืนอยู่อาจจะโดนผีแม่ม่าย ผสมกับผีคิงคองยักษ์หลอกเอาอีก”
เก่งหันมองกลุ่มครูห่านที่มองพวกเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ ก็เริ่มสยอง รีบเดินตามครามไป
ตอนเช้า อรเปิดประตูร้านกาแฟออกมาจัดของแต่เช้า แหม่มเดินผ่านเห็นอรรีบเดินเข้ามาหา
“พี่อรมาอยู่กับเจ๊ลำไยแล้วเหรอ แหมไวจัง”
“จ้ะ เจ๊ไปช่วยเก็บของเมื่อวาน”
“ดีแล้วล่ะ อยู่ด้วยกันเจ๊แกจะได้ไม่เป็นโรคซึมเศร้าเดี๋ยวเกิดหงอยจัดหนีไปกรุงเทพอีกคน แย่เลย”
“อารายนังแหม่ม มานินทาอะไรแต่เช้ายะหล่อน ใครหนีไปกรุงเทพฯอีก”
“ก็ไอ้เมฆแล้วก็ลูกน้องตัวแสบสองตัวน่ะซิ มันไปทำงานกรุงเทพฯ”
“เมฆลูกเสี่ยกำธรน่ะเหรอจะไปทำงาน” อรแปลกใจ
เจ๊ลำไยขำๆ “คนอย่างพวกมันดีแต่เที่ยวเล่นเป็นนักเลงหัวไม้ไปวันๆ จะไปทำงานที่ไหนได้”
“แต่มันคุยฟุ้งเลยว่าจะไปทำงานที่ค่ายเพลง พ่อมันสนิทกับเจ้าของค่าย”
“ค่ายไหนค่ายเดียวกับเก่งไปอยู่หรือเปล่า”
“ไม่รู้ซิ แต่ชื่อค่ายๆ ค่ายอะไรไรน้า”
“เออ นึกได้เมื่อไรก็ค่อยมาบอกแล้วกัน”
“นึกออกแล้วค่ายเอ็มมิวสิค”
“เอ็มมิวสิค ค่ายที่ข้าวหอมไปอยู่นี่หว่า”
เจ๊ลำไยเริ่มเป็นห่วงหลานสาว
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 6 (ต่อ)
ข้าวหอมนั่งยิ้มหวานอยู่ข้างๆ มะขิ่น เอ็มแนะนำ
“นี่คือหนูข้าวหอมนักร้องใหม่ของงค่ายเรา และคุณมะขิ่นผู้จัดการส่วนตัวของหนูข้าวหอม”
ถั่วพูพูดประชด “ยังไม่ทันดังมีผู้จัดการส่วนตัว เจริญล่ะ”
เอ็มหันมองถั่วพูดุๆ ถั่วพูรีบสงบปากสงบคำ
“ขอฝากตัวน้องด้วยนะคะ”
“มีอะไรพี่สั่งสอนได้เลยนะจ๊ะ” ข้าวหอมบอก
“ยินดีค่ะ เรื่องปั้นนักร้องใหม่ไม่มีปัญหาค่ะคุณเอ็ม เพราะเราเตรียมเพลงดีๆ ไว้เยอะ แต่ตอนนี้เรามีอีกปัญหาค่ะ”
“ปัญหาอะไรจะมาสำคัญกว่านักร้องใหม่ของผม”
“เอกกับชัยไม่ได้เรียนคุณเอ็มเหรอ”
“กะว่าจะพูดเมื่อวานแต่ก็” เอกอึกอัก
“ว่ามามีอะไร”
“นางเอกมิวสิคที่คุณเอ็มเลือกไว้ เธอไม่มาเล่นแล้วครับ”
“ทำไม ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหานี่”
“สงสัยได้เหยื่อรายใหม่ที่ดีล่ะมั้ง” ถั่วพูเยาะ
“ฉันไม่ได้ขอความคิดเห็นเธออย่าแส่”
“คือเธอเพิ่งแจ้งว่าเธอได้เป็นนางเอกละคร เธอไม่มาเล่นมิวสิคแล้วครับ”
“ต้องออกกองพรุ่งนี้ นางเอกหน้าใสซื่อแฝงความแก่นเฮี้ยวแบบสาวบ้านนอก โจทย์แบบนี้หาใหม่ไม่มีทางทัน” ทีมงานบ่น
“ถ้าเลื่อนถ่ายเราเสียหายเยอะไหม” เอ็มถาม
“หลายแสนอยู่ครับ เพราะเราจะส่งเทปตัดต่อไม่ทันออนแอร์” เอกบอก
เอ็มหัวเสีย “โธ่โว้ย เรื่องสำคัญขนาดนี้อมพะงำกันอยู่ได้ยังไง”
ชัยมองถั่วพู “คุณถั่วพูไง เอาแก้ขัดไปก่อน”
ถั่วพูยิ้มเชิด เตรียมพร้อม บัวเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน ทีมงานทั้งหมดมองหน้าบัวอย่างมีความหวัง มะขิ่นรู้สถานการณ์ดีรีบเดินเข้ามาหาบัวแล้วพูดขึ้น
“มีอะไรให้น้องบัวช่วยไหมค่ะ”
ทีมงานทั้งหมดมองบัวตาเป็นประกาย เอ็มยิ้มอย่างพอใจ
“นี่ไง น้องบัว นางเอกมิวสิคใหม่ของเรา”
บัวงง แต่ก็ยิ้ม มะขิ่นแอบมองถั่วพูยิ้มสะใจ ถั่วพูมองตอบด้วยความแค้น ไม่พอใจ
เก่งร้องเพลงอยู่ข้างใน ครามคอยมมองนาฬิกา สาลี่ เรยา มองยิ้มๆ เก่งร้องเพลงจนจบ ภูมิพอใจ
“โอเค ดีมากเก่งเพราะมาก”
“เสร็จแล้วใช่ไหมครับ” ครามรีบถาม
“เสร็จแล้ว เก่งร้องดีมาก คนมีความรักก็แบบนี้ร้องเพลงรักได้ดี”
เก่งออกมาจากห้องอัด รีบถาม
“ถ้าเรียบร้อยแล้วผมกับครามขอไปธุระส่วนตัวนะครับ”
“ตามสบายเลย พรุ่งนี้เราค่อยขึ้นเพลงใหม่กัน”
“คุณสาลี่ครับขอโทรศัพท์พวกผมคืนด้วยนะครับ”
สาลี่ทำท่าจะคืนโทรศัพท์ แต่เรยาทักขึ้นก่อน สาลี่เลยเก็บเข้าไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม
“เดี๋ยวก่อนซิเก่ง นายเพิ่งอัดเพลงครั้งแรกก็ประสบความสำเร็จอย่างนี้ เราต้องฉลอง ฉันในฐานะรุ่นพี่ในค่ายขอเลี้ยงแสดงความยินดีกับเก่งนะ”
“ห้ามปฏิเสธเพราะมันเป็นธรรมเนียมของคนในวงการ” สาลี่ช่วยพูด
เก่งกับครามอึดอัด เรยาพูดต่อหน้าตาเฉย
“เชิญคุณด้วยนะภูมิ ฉันโทรแจ้งครูห่าน นก มด ปลา ให้ไปเจอกันที่ร้านแล้ว”
“อุ๊ย มาครบทีมเลย เก่ง คราม คงไม่ขัดข้องนะจ๊ะ”
ครามมองหน้าเก่ง เหมือนให้เก่งตัดสินใจ เก่งจำใจตอบรับ
“ครับ ผมไม่ขัดข้อง”
เก่งไม่สบายใจเป็นห่วงข้าวหอม
ข้าวหอม บัว ยืนรอเก่งหน้าบริษัทอย่างกระวนกระวาย มะขิ่นเดินเข้ามาสมทบ บัวรีบถาม
“ไงมะขิ่น ติดต่อได้ไหม”
“เหมือนเดิม ไม่เปิดเครื่อง หรือว่าพวกเขาจะปิดเครื่องหนีเราจริงๆ”
“เป็นไปไม่ได้หรอก พี่เก่งกับครามคงมีธุระจำเป็นจริงๆ ดูพวกเราซิมาถึงเมื่อวาน วันนี้ฉันกลายเป็นนักร้อง บัวกลายเป็นนางเอกมิวสิค มีตารางงานเพียบเลย”
“พวกเขาอาจมีงานยุ่งมากหรือมีเหตุจำเป็นกะทันหัน”
“จริงของพวกเธอ คนบ้านนอกอย่างเราไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดจริงทำจริง ถ้าไม่อยากเจอกันก็พูดตรงๆฉันผิดเองที่คิดมาก”
“เราเปิดโทรศัพท์ไว้ตลอด พี่เก่งว่างเมื่อไรก็คงโทรมาเอง”
เอกเดินเข้ามาตามกลุ่มข้าวหอม
“ทีมงานให้มาตามเรื่องถ่ายมิวสิคพรุ่งนี้ ส่วนคุณข้าวหอมทีมขอคุยเรื่องเพลงและปรับแต่งลุคนักร้องครับ”
มะขิ่นมองหน้าข้าวหอม บัว พยักหน้าให้ไปทำงาน ขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าบริษัท มีรถคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาหน้าบริษัท มะขิ่นดีใจ
“รอก่อนครามกับเก่งมาแล้ว”
ทุกคนหันมามอง แต่กลับกลายเป็นเมฆ ดุ่ย ดุ๋ย ลงมายืนยิ้มอย่างแช่มชื่น
มะขิ่นบ่นไปมาส์คหน้าให้บัวกับข้าวหอมไป
“หนีเสือยังจะมาปะจระเข้อีก”
“เธอหมายถึงใครเหรอ” บัวถาม
“ก็จะหมายถึงใคร หนียัยป้ามหาภัยมากรุงเทพฯ พวกไอ้เมฆมันยังตามมาอีก”
“แต่ก็ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยเมฆกับลูกน้องก็เป็นคนบ้านเดียวกับเรา แม้จะสร้างความรำคาญใจแต่ไม่ทำร้ายพวกเราแน่ๆ” ข้าวหอมบอก
“ถูกต้อง อย่างไอ้เมฆกับพวกแค่ฝีมือฉันมันก็ราบคาบแล้ว” บัวเย้ย
“น้อยๆ หน่อยย่ะ เธอน่ะกำลังจะเป็นดาราแล้ว จะไปโลดโผนเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว หน้าเนี่ยต้องรักษา”
“โอ๊ย ขืนต้องมานั่งให้เธอแปะหน้าแบบนี้ทุกวันฉันยอมตายดีกว่า”
“ถ้าไม่ทำจะกลับบ้านไปให้ยัยป้าสีวังมันส่งคนมาฉุดอีกไหมล่ะ”
บัวคิดได้ ข้าวหอมพูดเหนื่อยๆ
“แค่ก้าวแรกยังมีปัญหาขนาดนี้ ป่านนี้พี่เก่งอาจจะเจอปัญหาหนักกว่าพวกเราหลายร้อยเท่า”
ข้าวหอมเดินออกไปนอกห้องทั้งๆ ที่ยังมาส์คหน้าอยู่
“เพราะเธอเลยพูดเข้าเรื่องให้ข้าวหอมคิดมาก” บัวต่อว่ามะขิ่น
“ฉันคนเดียวเมื่อไหร่ เธอนั่นแหละชอบจุดประเด็น แต่จะว่าไปก็อดห่วงเก่งกับครามไม่ได้นะ ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกันอยู่”
สองสาวนิ่งเงียบเพราะห่วงเก่งกับครามเหมือนกัน
เก่ง คราม นอนคุยกันที่สนามหญ้า ใบหน้าหน้าถูกขีดเขียนเต็มไปหมดจากงานฉลอง
“ป่านนี้ข้าวหอมคงห่วงพวกเราน่าดู”
“ชัวร์ เราเล่นผิดนัดติดต่อก็ไม่ได้ กะว่าพรุ่งนี้ได้โทรศัพท์คืนแล้วค่อยโทรไปอธิบาย เป็นเพราะเรยาคนเดียว”
“เรยาเขาหวังดี จะโทษเขาก็ไม่ถูก”
“อ่ะๆๆ พูดแบบนี้ฟ้องข้าวหอมดีไหมเนี่ย ถึงว่าซิตอนเลี้ยงต้อนรับ เรยาเขียนหน้าเขียนตาแกถึงไม่ว่า”
“แกก็เหมือนกัน ให้ครูห่านกับพวกสาวๆ ทาหน้าเละเหมือนกันไม่เห็นแกห้ามสักคำ”
“ไม่เหมือนกันโว้ย ฉันมันคนโสดไม่ได้มีเจ้าของหัวใจเหมือนแก”
เก่งยิ้มเจ้าเล่ห์มือถือลิปสติกออกมา
“งั้นแกก็คงอยากได้สีบนหน้าอีกสักที”
เก่งเล่นเอาสีป้ายหน้าคราม ครามพยายามหลบกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ข้าวหอมออกมายืนที่ระเบียงสระว่ายน้ำ มองลงมาข้างบ้าน เห็นเก่งกับครามเล่นกัน แต่จำไม่ได้เพราะหน้าตามีแต่สีเลอะไปหมด
“คนกรุงเทพนี่แปลกจริงๆ เมื่อวานแก้ผ้าวิ่งไล่จับ วันนี้ทาหน้าทาตาปล้ำกันเองอีก”
บัวกับมะขิ่นเข้ามาสมทบ มาส์คหน้าขาวทุกคน
“ไหนๆ ดูมั่ง เฮ้ยนั่นมันผู้ชายนี่” บัวร้องบอก
“ไอ้บ้านนี้มันวิตถารแน่ เมื่อวานไล่ปล้ำผู้หญิง วันนี้ไล่ปล้ำผู้ชาย”
สามสาวยืนมองเซ็งๆ เก่ง คราม เล่นกันไปมา สายตาเก่งเหลือบมองเห็นข้าวหอม บัว มะขิ่น ยืนหน้าขาวอยู่ข้างบ้าน เก่งถึงกับชะงักชี้มือไป
“ผะ ผะ ผี ผี 3 บาทจ๊ากๆ”
ครามมองตาม “ผอสระอี ผีจริงๆ ด้วย”
สองหนุ่มวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานกลับเข้าห้องพัก ข้าวหอม บัว มะขิ่น มองสองหนุ่มวิ่งไปมาอย่างงงๆ
“พวกเขากลัวอะไรกันน่ะ”
“อย่าไปสนใจเลย พวกมันเพี้ยนออกจะตาย”
“ทำยังกับเห็นผี”
สิ้นคำบัว เสียงหมาหอนดังขึ้น ข้าวหอม บัว มะขิ่นเริ่มเขยิบตัวเข้ามาใกล้กัน
“ฉันว่าไม่ค่อยดีแล้วล่ะกลับเข้าห้องเถอะ” ข้าวหอมบอก
“เห็นด้วย ฉันไปก่อนล่ะ” มะขิ่นวิ่ง
“เฮ้ยทิ้งกันได้ไง ไหนว่าเลือดสุพรรณไง”
บัวกับข้าวหอมรีบวิ่งตามมะขิ่นไปอย่างรวดเร็ว
อ่านต่อตอนที่ 7