สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 10
บัวกำลังถ่ายเอ็มวีอยู่ อาร์มแอบดูอีกมุม ยิ้ม รีบกดโทรศัพท์หาเจ้านาย
“สวัสดีค่ะคุณป้าสีวัง รู้มั้ยคะว่าตอนนี้หนูเจออะไร”
“เจออะไรของแกนังอาร์ม”
“หนูก็เจอคนที่เสี่ยสำราญอยากได้ตัวน่ะสิคะคุณป้า”
“แกพูดจริงเหรอ ถ้าล้อเล่นฉันเอาแกตายแน่”
“จริงสิคะ หนูจะไปโกหกป้าทำไม”
“ดี ถ้าอย่างนั้นแกคอยจับตาดูมันไว้นะ”
“ได้เลยค่ะคุณป้าสีวัง เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูจัดการเองค่ะ”
“แล้วอย่าให้พลาดล่ะ”
“ได้ค่ะคุณป้าสีวัง”
อาร์มวางโทรศัพท์ก่อนจะจับตาดูบัวอย่างไม่ละสายตา ป้าสีวังวางโทรศัพท์ยิ้มเจ้าเล่ห์
“คนอย่างสีวัง คำว่าไม่ได้ไม่เคยมีในสารบบ แกเสร็จฉันแน่นังบัว”
สมชายเข้านั่งคุยกับหัวหน้าป่าไม้ ส่วนอรและทุกคน ยืนรอข้างๆ
“ผมคิดว่าทุกคนยังปลอดภัยนะครับ”
“ทำไมครับ”
“เสือโหยเสือหิวถึงจะเป็นโจรที่โหดเหี้ยม แต่ชาวบ้านแถวนี้รักเขา ถึงไม่เคยถูกจับได้”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่มันมาปล้นรถหลานฉัน” เจ๊ลำไยถาม
“ก็ถ้ามันจับหลานคุณได้ มันก็จะแค่เรียกค่าไถ่เล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นการพาคนหลงป่าออกมาส่ง”
“แล้วไหนว่าโหดเหี้ยมไงค่ะ” อรแปลกใจ
“เขาจะทำอย่างนั้นเฉพาะพวกนายทุนหน้าเลือดที่ชอบเอารัดเอาเปรียบคนอื่นแค่นั้นแหละ”
อร เจ๊ลำไย แหม่มมองเสี่ยกำธร เสี่ยรีบหลบตา สมชายถามต่อ
“แสดงว่าทุกคนจะปลอดภัยใช่ไหมครับ”
“ไม่ครับ ป่าแถวนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มเสือโหยเสือหิว เราต้องเตรียมการช่วยเหลือทุกคนโดยด่วน”
ทุกคนสีหน้าไม่ดี
ป้าสีวังนั่งรอเสี่ยสำราญที่โต๊ะอาหาร เมียเสี่ยสำราญ 4 คน เต้นเปิดตัวเสี่ยสำราญ เสี่ยก้าวออกมาเมียคอยล้อมหน้าล้อมหลัง และโปรยดอกกุหลาบรอบตัวเสี่ยสำราญตลอดเวลาที่เดินมาหาป้าสีวัง
“สวัสดีค่ะเสี่ย”
“สวัสดี เป็นยังไงบ้างเรื่องที่ให้ทำ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะเสี่ย ได้ตัวน้องบัวแน่ แต่สีวังอยากขอความช่วยเหลือค่ะ”
“ได้เลย ลื้อจะให้อั๊วช่วยอะไรว่ามาได้เลย”
ป้าสีวังกระซิบข้างหูเสี่ยสำราญหัวเราะสะใจ
“เฮ้ย เอ็งจัดคนไปช่วยหนูอาร์มด่วน”
“ครับเสี่ย”
ลูกน้องเสี่ยวิ่งออกไป เสี่ยหัวเราะชอบใจ 4 สาวโปรยดอกไม้ไม่หยุดจนดอกไม้นั้นเต็มตัวเสี่ย
“เอ่อ เสี่ย ถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ”
“ว่ามา”
“เสี่ยไม่รำคาญนังสี่ตัวนี้บ้างเหรอคะ”
เสี่ยหันไปมอง 4 สาวที่กำลังโปรยดอกไม้
“โว้ย หยุดโปรยได้แล้วเห็นมั้ยเนี่ยมันเข้าปากฉันแล้ว”
4 สาวทำหน้าเบ้
“เสี่ยใจร้าย”
“หนูเสียใจ”
“หนูรับไม่ได้”
สาวคนที่4 กำลังอ้าปากจะพูด เสี่ยสำราญไล่ไปเสียก่อน
“หยุด ไม่ต้องพูด ขืนพูดมากอั๊วจะโละลื้อ 4 ตัวไปขายซัวเถา”
4 สาวหน้าหงอยเดินเข้าไปหลบมุม
“เสี่ยบริหารเมียได้ดีจริงนะคะ”
“เฉาฉุ่ยอ้า นัง 4 ตัวเนี่ยมันตกรุ่นแล้ว ต้องรุ่นใหม่ที่ลื้อกำลังจัดให้ รายนี้อั๊วทุ่มไม่อั้น”
เสี่ยสำราญยิ้มด้วยความหื่น ป้าสีวังยิ้มเจ้าเล่ห์
เจ๊ลำไย อร แหม่มปรึกษากันเรื่องหลานๆ ถูกปล้น
“เราจะทำยังไงกันต่อดีล่ะ” เจ๊ลำไยถาม
"ก็คงต้องร้องเพลงรอไปก่อนแหละ” แหม่มบอกเซ็งๆ
“โธ่ เก่งหลานน้าไม่น่ามาเจอเรื่องแบบนี้เลย”
“งั้นเดี๋ยวฉันโทรหาบัวก่อนนะ”
“อย่าเพิ่งโทรหาบัวมันเลย มันกำลังทำงานอยู่ เดี๋ยวจะตกใจไปกันใหญ่” อรท้วง
“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อไอ้เมฆลูกพ่อ” เสี่ยกำธรเปรยเป็นห่วง
“คนอย่างเสี่ยก็รักลูกเป็นเหมือนกันเนอะ” แหม่มกระเซ้า
“ข้าเป็นคนนะโว้ยไม่ใช่หมาจะได้ไม่รักลูกตัวเอง”
“พอเหอะมีกันอยู่แค่นี้ยังกัดกันเองอีก” เจ๊ลำไยปราม
“ทุกคนใจเย็นๆ กันก่อนดีกว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้เขาต้องหาวิธีช่วยเหลือทุกคนได้แน่”
สมชายช่วยปลอบใจทุกๆ คน ถั่วพูมองอย่างไม่สบายใจ
บัวนั่งมองโทรศัพท์คิดถึงข้าวหอมและทุกคน ผู้จัดการกองถ่ายเดินมาหา
“เป็นอะไรจ๊ะวันนี้ ทำหน้าเศร้าจัง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บัวยังเหลือที่ต้องถ่ายอีกเยอะมั้ยคะ”
“อีกแค่สองซีนค่ะ น้องบัวมีธุระเหรอค่ะ”
“ค่ะงั้นบัวไปแต่งตัวก่อนนะคะ”
บัววางโทรศัพท์ไว้แล้วเดินไปแต่งตัว อาร์มเดินเข้ามาหาผู้จัดการ
“สวัสดีฮ้าน้องบัวล่ะคะ”
“สวัสดีค่ะคุณเป็น”
“คนจากเอ็มมิวสิคร้า พอดีคนดูแลน้องคนเก่าติดธุระพี่เลยมาแทน”
“อ๋อ มิน่า น้องบัวดูซึมๆ เชิญตามสบายค่ะ น้องถ่ายอีก 2 ซีนก็เสร็จแล้ว”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ผู้จัดการเดินไป อาร์มเดินไปหยิบโทรศัพท์บัวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
กลางป่า ข้าวหอมกับมะขิ่นตื่นนอนขึ้นมา มองไปรอบๆ ข้างไม่เห็นเก่งกับภูมินอนอยู่ สองสาวเริ่มรู้สึกกลัว
“พี่เก่งกับคุณภูมิหายไปไหน”
“นั่นน่ะซิ จะไปไหนก็ไม่ยอมบอก”
“บรรยากาศน่ากลัวจัง หรือว่าพี่เก่งเบื่อก็เลยทิ้งเราไป”
“จะบ้าเหรอ เก่งมันรักแกจะตายมันไม่มีทางทิ้งแกได้หรอก”
“แล้วถ้าเป็นมะขิ่นมีแฟนขี้งอนอย่างฉันจะทิ้งไหม”
“ทิ้ง ฉันล้อเล่น เก่งคงไปหาอะไรมาให้พวกเรากินน่ะ”
ข้าวหอมพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็อดมองรอบๆ อย่างหวาดระแวงไม่ได้ มะขิ่นเองก็กลัว แม้จะทำใจแข็งก็ตาม แล้วทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงคนเดินมา ข้าวหอมรีบบอกให้มะขิ่นหลบเข้าหลังต้นไม้
“มะขิ่นมีคนมาเราหลบกันก่อนดีกว่า หยิบเอาท่อนไม้ไปด้วย”
ข้าวหอมกับมะขิ่นหลบเข้าต้นไม้ใหญ่ หาไม้มาถือเป็นอาวุธ เก่งกับภูมิเดินคุยกันมา ขณะที่เก่งเดินผ่านต้นไม้ตรงที่ข้าวหอมหลบอยู่ ข้าวหอมก็ออกมาตีเก่ง แต่เก่งหลบได้ทัน ส่วนภูมิเดินตามหลังมาเจอมะขิ่นตีเข้าที่หัวเต็มๆ ร้องลั่น
“โอ๊ย ตีหัวผมทำไมเนี่ยมะขิ่น”
มะขิ่นตกใจเห็นคนที่ถูกตีเป็นภูมิจึงรีบเข้าไปหา ภูมิล้มลงไปนั่งจับหัว
“ภูมิเราขอโทษ คิดว่าผู้ร้ายจ้ะ”
ข้าวหอมกับเก่งพากันตกใจเหมือนกัน แต่ทั้งคู่ก็ขำๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มะขิ่นรีบทำแผลให้ภูมิ พร้อมกับบ่นเรื่องที่ภูมิมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
“ทนเจ็บหน่อยนะ ทีหน้าทีหลังให้สุ้มให้เสียงบ้างจะได้ไม่ถูกตีแบบนี้”
“ใครจะคิดล่ะว่าจะมีมือดีมาตีหัวผมกลางป่าแบบนี้”
“โธ่เอ๊ยก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ อย่างนี้ตีให้ตายเลยดีกว่า”
“ถ้าเป็นครามสงสัยแกคงไม่พูดแบบนี้” ข้าวหอมแซว
“ถ้าเป็นพี่คราม ฉันไม่มีทางตีอยู่แล้ว”
ภูมิหน้าซึมๆ มะขิ่นพอเข้าใจรีบพูด
“เอาเป็นว่าฉันขอโทษแล้วกัน”
ภูมิยิ้มนิดๆ
“ว่าแต่ป่านนี้พวกที่กรุงเทพฯคงเป็นห่วงเรามากเลยเนอะ” ข้าวหอมบ่น
“คนที่กรุงเทพไม่เท่าไหร่ แต่พวกเราที่หนีเข้าป่านี่ซิน่าเป็นห่วง” ภูมิบอก
เก่งนั่งอยู่อีกมุมใกล้ๆ กับข้าวหอม พูดถึงเรยามาลอยๆ
“คุณเรยาไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ดูท่าทางบอบบางขนาดนั้น”
ข้าวหอมฟังเก่งพูดถึงเรยาก็ไม่พอใจ ลุกขึ้นเดินหนีไป มะขิ่นรีบเข้ามากระซิบเก่ง
“สมควรแล้วที่ยังง้อข้าวหอมไม่สำเร็จ”
“ทำไม ฉันพูดอะไรผิดไปเหรอ”
“เก่งพูดถึงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าข้าวหอมไง” ภูมิบอก
“ก็เราอยู่กันตั้งหลายคน ส่วนเรยาเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ มันน่าเป็นห่วงจริงๆ นี่”
“ผู้หญิงทุกคนอยากเป็นคนสำคัญ ไม่มีใครยอมให้แฟนพูดถึงผู้หญิงคนอื่นอย่างเป็นห่วงต่อหน้าหรอกเก่ง”
“อ้าวเหรอ แล้วผมต้องทำยังไงล่ะครับคุณภูมิ”
“เวรจริงๆ ก็ตามไปง้อซิ ไปเลย โน่นไปโน่นแล้ว”
เก่งเข้าใจรีบวิ่งไปตามง้อข้าวหอม มะขิ่นหันมายิ้มกับภูมิ
“นายนี่เก่งเนอะเข้าใจผู้หญิงดี”
“ผมเป็นนักแต่งเพลงนะครับ เรื่องที่ถนัดที่สุดก็เป็นเรื่องของความรัก”
“เหรอ แต่แปลกเนอะ ถนัดสุดแต่กลับไม่มีแฟนกับเขาสักคน ไปหาข้าวหอมดีกว่า”
“ผู้หญิงกับความขี้งอนเป็นของคู่กันจริงๆ”
ภูมิยิ้มๆ แล้วเดินตามไป
เรยากำลังดูแลทอมที่ไม่สบายหลังจากที่เอายาสมุนไพรให้กิน
“เป็นไงบ้างหมอทอมดีขึ้นหรือยัง”
ทอมลุกจากที่นอนขึ้นมานั่ง
“ผมดีขึ้นแล้วครับ แย่จังเคยแต่ดูแลคนไข้แต่ตอนนี้ต้องมาเป็นคนไข้ซะเอง”
“หมอก็เป็นมนุษย์นะคะไม่ใช่เทวดาถึงจะป่วยไม่เป็น”
“คุณเรยาเก่งนะครับที่รู้จักยาสมุนไพร”
“ก็พอรู้อยู่บ้างเพราะพ่อเป็นหมอยาโบราณชาวบ้าน”
“คุณนี่มีเรื่องเซอร์ไพรส์ผมเสมอๆ เลยนะครับ”
เรยารีบพูดตัดบท
“ถ้าอาการดีขึ้นเรารีบหาทางออกจากป่ากันเถอะ นี่ก็สายแล้ว”
“ครับ งั้นเราออกเดินทางกันต่อได้เลยครับ”
ทั้งคู่พากันเก็บข้าวของที่นำติดตัวมาแล้วก็พากันเดินออกไป
ครูกุ๊กไก่นอนหลับอยู่บนห้างที่พวกดุ๋ย ดุ่ย ทำให้ นอนหลับสบาย สามสาวก็เช่นกัน เมฆ ดุ๋ย ดุ่ย ตื่นมาเห็นครูกุ๊กไก่ และสามสาว ยังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว จึงหันมาซุบซิบกัน
“พวกเรารีบหนีครูกุ๊กไก่ไปกันก่อนเถอะ”
“มันจะดีหรือลูกพี่เมฆ”
“นั่นน่ะซิ ทำไมต้องหนี ผมว่าอยู่กับคนพวกนี้น่าจะปลอดภัยกว่า จระเข้ยังกลัวมันเลย”
เมฆชักเริ่มไม่พอใจลูกน้องทั้งสอง
“ตกลงพวกเองเป็นลูกน้องข้าหรือว่าเป็นลูกพี่วะ”
ดุ๋ยกับดุ่ยเห็นลูกพี่ไม่พอใจก็เลยรีบตอบคำถามเมฆพร้อมๆ กัน
“เป็นลูกพี่ เอ๊ย”
“เป็นลูกน้องครับพี่เมฆ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ตามข้ามา”
เมฆรีบเดินออกไป ดุ๋ยกับดุ่ยรีบออกเดินตามไป ปล่อยให้ครูกุ๊กไก่และ 3 สาวหลับสบายไม่รู้ว่าตัวเองถูกทิ้ง
บัวถ่ายงานเสร็จกำลังมาเปลี่ยนชุด มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอรีบรับสาย
“ฮัลโหล บัวพูดค่ะ”
อาร์มแอบอีกมุมที่มองเห็นบัว ทำเสียงใหญ่พูดโทรศัพท์
“คุณบัวครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้”
บัวสนใจ
“มีอะไหรือคะ”
“คุณลำไย บอกว่าจะส่งคนไปรับคุณบัวที่ทำงานน่ะครับ”
“ค่ะบัวถ่ายงานใกล้จะเสร็จแล้วคุณมารับได้เลยค่ะ”
อาร์มยิ้มๆ
“ครับ ถ้างั้นเท่านี้นะครับ”
อาร์มวางสาย ยิ้มสะใจที่หลอกบัวได้สำเร็จ
ป้าสีวังกับเสี่ยสำราญนั่งรอโทรศัพท์จากอาร์ม สักครู่เสียงโทรศัพท์ดัง ป้าสีวังรีบรับสาย
“ว่าอย่างไรนังอาร์ม สำเร็จมั้ยงานที่สั่ง”
“สำเร็จซิคะ นี่อาร์มนะทำอะไรก็ต้องจบ”
“ดีมาก แต่พูดมากไป แล้วเอาไงต่อ”
“แหม คุณป้าก็ คุณป้าบอกเสี่ยให้เตรียมคนของเสี่ยได้เลย”
“โอเคๆๆ เท่านี้นะ นังหนูคนเก่ง”
ป้าสีวังวางสายโทรศัพท์แล้วรีบรายงานเสี่ยสำราญซึ่งนั่งรออยู่
“เสี่ยคะ ตอนนี้แผนล่อเสือออกจากถ้ำสำเร็จแล้ว เสี่ยเตรียมนายพรานดักจับนังบัวได้เลย”
เสี่ยสำราญได้ฟังก็ยิ้ม หัวเราะพอใจที่งานสำเร็จ
“ดี ทุกคนทำงานดีมากเดี๋ยวเสี่ยจะสมนาคุณให้อย่างงาม”
ป้าสีวั
ยิ้มร่า
“เสี่ยใจดีที่สุด มีงานอะไรบอกได้เลยยินดีจัดเต็มค่ะ”
เสี่ยสำราญหัวเราะ
“ได้ตัวบัวก่อน แล้วค่อยไปตามจับตัวข้าวหอมเหมือนได้ตัวตะเภาแก้วตะเภาทอง”
บัวกำลังเข้าฉากถ่ายงาน โดยเธอเล่นเป็นนางเอกรับบทเป็นเจ้านางบอกลาพระเอก
“ฉันไม่อยากไปนะคะแต่ว่ามันจำเป็นจริงๆ”
“ผมเข้าใจ คุณไปเถอะเพื่ออนาคตของคุณ”
“เพื่อเราต่างหากค่ะ รอฉันนะคะ”
บัวกอดพระเอกแล้วเดินจากไป เสียงผู้กำกับสั่ง
“คัท โอเค.หมดซีนของบัวแล้ว เล่นเก่งมาก”
บัวยิ้มให้ผู้กำกับ
“ขอบคุณค่ะที่ชม เอาเป็นว่าบัวขอตัวเลยนะคะมีธุระต้องรีบไป”
“อ้าวแล้วกลับรถอะไร”
“เดี๋ยวมีคนมารับค่ะ กลับก่อนนะคะ”
พวกทีมงานส่งยิ้มให้บัว บัวรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
รถแท็กซี่วิ่งมาจอดหน้าโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายเอ็มวี ครามก้าวลงจากรถแล้วก็รีบเดินเข้าไปหาบัวข้างใน บัวออกมาที่ลานจอดรถแล้วโทรศัพท์ไปหาอาร์ม สอบถามเรื่องรถที่มารับ
“ฮัลโหล บัวออกมารอที่ลานจอดรถแล้ว รถอยู่ไหนคะ”
อาร์มยืนหลบอยู่ พูดโทรศัพท์ตอบรับบัว
“ครับ รถจะไปถึงแล้ว ยืนรอสักพักนะครับ เดี๋ยวคงถึง”
บัววางโทรศัพท์ยืนมองหารถ มีผู้ชาย 2 คนเดินเข้ามาหา จากนั้นก็เข้าจับตัวบัว อาร์มออกมายืนยิ้มหวานที่เห็นคนของเสี่ยกำลังจับตัวบัว บัวไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กับคนร้าย คนร้ายอีกคนขับรถเข้ามาเทียบ คนร้าย 2 คนกำลังจะดึงตัวบัวขึ้นรถ ครามวิ่งตามออกมาเห็นบัวกำลังถูกคนร้ายดึงขึ้นรถ ก็รีบเข้าไปช่วย จนดึงบัวออกมมาได้ รีบพาบัวหนีเพราะคนร้ายมีปืน อาร์มยืนมองเหตุการณ์ ตะโกนสั่งให้คนร้ายตามครามกับบัวไป
“ตามจับตัวมันให้ได้ ถ้าพลาดฉันเอาพวกแกทำผัวหมดแน่”
พวกคนร้ายพากันวิ่งตามครามกับบัวไป อาร์มโมโหที่งานไม่สำเร็จ
“ไอ้พวกโง่เอ๊ย ถ้าไม่ได้นังบัวไปถวายเสี่ยบ้ากาม ตูตายแน่”
อาร์มวิตก
ครามพาบัววิ่งเข้าไปในโรงแรม คนร้ายก็ตามเข้าไป ครามหยุดต่อสู้กับคนร้ายซึ่งคนร้ายก็ไม่กล้ายิงเพราะกลัวเสียงดังจึงได้แต่ต่อสู้กับคราม ครามอาศัยความเป็นนักมวยใช้ชั้นเชิงแม่ไม้มวยไทยเล่นงานผู้คนร้ายได้สำเร็จ คนร้ายถูกอัดจนลงไปนอนกับพื้น
ครามพาบัวหนีมาที่ห้องส่งของ ทั้งคู่พากันขึ้นไปหลบในรถกระบะที่กำลังเอาของขึ้น คนร้ายตามมาเดินไปเดินมารอบๆ รถ สักครู่คนขับรถก็ออกมาที่รถ มองคนร้าย คนร้ายเห็นคนขับรถมองก็เดินหนีไป คนขับจึงขับรถออกไป
อาร์มเข้ามารายงานเสี่ยสำราญที่ทำงานพลาด ป้าสีวังกับเสี่ยยืนหัวเสียอยู่
“หนูพลาดไปแล้วค่ะเสี่ย”
เสี่ยสำราญไม่พอใจพูดเสียงดัง
“งานแค่นี้ทำไม่สำเร็จ โธ่โว้ยเสียอารมณ์”
“เสี่ยคะ เรามาคิดวางแผนกันใหม่ดีกว่าค่ะ โมโหไปก็ไม่ได้อะไร”
“แผน แผนอะไร ยังมีอีกหรือ”
“ยังมีซิคะ ถ้าเสี่ยยังอยากได้สองศรีพี่น้องนั้น”
เสี่ยสำราญตาวาว
“อยากได้ๆ เค้าอยากได้”
“เรารีบตามไปจับตัวข้าวหอมในป่า ทำเหมือนนายพรานล่าสมิงน้อย”
“ได้ฉันจัดเต็ม ขอแค่ได้น้องบัวกับน้องข้าวหอมก็พอ แต่ถ้างานไม่สำเร็จ สีวังกับนังอาร์มจะต้องมาเป็นแดนเซอร์เปิดตัวเสี่ย”
เสี่ยสำราญหัวเราะเหมือนคนโรคจิต ป้าสีวังกับอาร์มหันไปมองหน้ากัน แล้วก็ทำหน้าเหมือนผีหลอก
“นายพรานล่าสมิงน้อย อิๆๆ ชอบๆๆๆ” เสี่ยสำราญหัวเราะร่า
อรนั่งหน้าเศร้าหงุดหงิดเป็นห่วงเก่ง สมชายเข้ามาหา
“ไม่ต้องเป็นห่วงเก่งหรอก เก่งเป็นคนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้แน่นอน ผมพยายามที่จะออกตามหาอยู่ครับ”
อรหันไปมองหน้าสมชาย คุ้นๆ แต่คิดไม่ออก
“ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจ แต่พูดอย่างเดียวไม่ได้ต้องรีบตามหาเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นไงบ้าง”
“ผมต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะเก่งมาอยู่กับผม ผมก็ต้องเอาใจใส่ ขอให้คุณอรใจเย็นๆ นะครับ”
“จริงๆ ฉันไม่ชอบเลยวงการเพลงลูกทุ่ง แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณนะคะ”
“ขอบคุณทำไม นักร้องในค่ายต่างก็เหมือนญาติสนิทผมทุกคน”
อรมองหน้า ยิ้มอย่างมีไมตรี
“ฉันดีใจนะคะที่เก่งมันได้มาอยู่กับคนดีๆ อย่างคุณ”
สมชายยิ้มที่อรชม สาลี่เดินเข้ามา
“น้าอรคะครามกับบัวมาถึงแล้วค่ะ”
“ดีเลยจะได้มาปรึกษากันว่าจะออกตามหาเก่งกันอย่างไร”
สมชาย อร สาลี่รีบเดินออกไปข้างนอก
เมฆ ดุ๋ย ดุ่ย หนีจากครูกุ๊กไก่มาได้ก็พากันเดินวนไปวนมาในป่าจนกระทั่งมาเจอแคมป์ของโจรป่าทั้ง 3 คนแอบมองคนที่อยู่ในแคมป์ เสือโหยนั่งที่โต๊ะหน้าแคมป์ มีลูกน้องอีก 2 คน อยู่ใกล้ๆ เสือหิวเดินเข้ามากับลูกน้อง 2 คน
“นี่เองไปไหนมาวะไอ้หิว”
“โธ่พี่ ข้าก็ออกไปหาเหยื่อนั่งอยู่กับที่เมื่อไหร่จะได้ปล้น”
“ตอนนี้พวกเรากำลังถูกตำรวจตามล่า เอ็งก็รู้แล้วจะออกไปหาอะไร”
เสือหิว มักทำตัวซุ่มซ่าม ในระหว่างที่ตัวเองจะลงนั่งที่เก้าอี้ก็เอาปืนออกจากซอง ปืนเกิดลั่นขึ้น เมฆ ดุ๋ย ดุ่ย ตกใจ ดุ๋ยอุทานออกมาแบบไม่รู้ตัว
“ผมยอมแล้ว”
เมฆรีบเอามือปิดปากดุ๋ย
“เองจะบ้าหรือดุ๋ย เดียวพวกมันก็ได้ยินหรอก”
เสือหิวได้ยินเสียงคน จึงรีบสั่งให้ลูกน้องวิ่งออกไปดู เมฆ ดุ๋ย ดุ่ยรีบวิ่งไปหาที่กำบัง เสือโหยหันมาด่าเสือหิว
“เมื่อไรจะเลิกเป็นคนที่ซุ่มซ่ามเสียที ปืนลั่นจริงลั่นมาตั้งแต่ละครเรื่องหลบผี มาเรื่องนี้ปืนลั่นอีกแล้ว”
เสือหิวทำหน้าเขินๆ ยิ้มแห้งๆ
“โธ่ก็มันคอนตินิว มันก็ต้องเล่นต่อเนื่องซิพี่”
เสือโหยไม่พอใจ
“ไปไปดูซิว่าใครมาเยือน ตำรวจหรือเปล่า”
“แยกกันไปดีกว่าพี่ เผื่อจะจับได้ทั้งฝูง”
“ดีมาก จัดไปตามนั้นไอ้น้อง”
สองเสือพี่น้อง พาลูกน้องแยกกันออกตามหา
ข้าวหอมยังงอนเก่งไม่หายเรื่องเรยา เก่งก็พยายามเดินตามง้อ แต่ข้าวหอมก็บึ้งตึงเหมือนเดิม
“ข้าวหอมอย่าโกรธเลยนะ มาดีกันน่า เดินเข้าป่าไปลึกๆ เดี๋ยวมีตัวอะไรโผล่มาไม่รู้ด้วย”
“มันเรื่องของฉันไม่ต้องมายุ่ง โน่นไปห่วงคุณเรยานักร้องคู่ขวัญของพี่โน่น”
“เขาไม่ได้เป็นแฟนพี่ พี่จะไปห่วงเขาทำไม พี่ห่วงแต่ข้าวหอมคนเดียวเท่านั้นแหละจ้า”
ข้าวหอมทำเป็นไม่สนใจคำพูดของเก่ง เดินไปแบบหูทวนลม แต่แอบอมยิ้ม มะขิ่นกับภูมิเดินตามมา มะขิ่นชักเริ่มอ่อนใจกับข้าวหอมที่เอาแต่ใจตัวเองแต่ก็เห็นใจ ข้าวหอมเดินเข้าไปในป่า เก่งบอกให้ไปอีกทางแต่ข้าวหอมก็ประชดไปอีกทาง
“อย่าไปทางนั้นเลย กลับทางเก่าเถอะเดี๋ยวจะยิ่งหลงเข้าป่าลึก”
“ฉันจะไปทางนี้พี่ไม่ไปก็อย่าไป”
เสือโหยพาลูกน้องเดินผ่านมาได้ยินเสียงของเก่งเลยดักซุ่ม
“เฮ้ยเจอพวกมันแล้ว หลบๆ”
เสือโหยสั่งให้ลูกน้องแอบซุ่มเข้าข้างต้นไม้ พอข้าวหอม เก่ง มะขิ่น ภูมิ เดินมาก็ออกมาก็เผยตัว ข้าวหอมตกใจที่เห็นพวกโจรออกมาจากป่า จึงเดินถอยหลังกลับเข้ามาหาเก่ง เก่งรีบปกป้องข้าวหอม มะขิ่น ภูมิ ทั้งหมดกลัวเสือโหย
“ทุกคนหยุดอยู่กับที่นี่คือการปล้น”
“ก็หยุดแล้วนี่ไงถือปืนจังก้าซะขนาดนี้ใครจะกล้า” เก่งบอก
“ดีมากโปรดฟังอีกครั้ง นี่คือการปล้น”
“จะมาปล้นอะไรกันนักกันหนาปล้นจนพวกเราหลงป่าแล้วเห็นไหม”
เสือโหยรู้สึกผิด “เหรองั้นฉันขอโทษนะ”
“ดีแล้ว ทำผิดแล้วรู้จักขอโทษ งั้นพวกฉันไปนะ” เก่งทำเนียบๆ
“ไปเถอะจ้ะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ”
พวกเก่งรีบหนีไป ลูกน้องเสือโหยเกาหัวงง
“พี่โหยเรามาปล้นพวกมันไม่ใช่เหรอ”
“ใช่”
“แล้วพี่ปล่อยให้มันหนีไปทำไม”
“เออจริง พวกเราตามล่าตัวมัน”
เสือโหยสั่งลูกน้องตามล่าตัวเก่งและพรรคพวก
พวกเมฆวิ่งหนีพวกเสือหิวมาจวนตัว เมฆร้องสั่งลูกน้อง
“เอากิ่งไม้มาบังเหมือนคราวที่แล้ว”
“จะดีเหรอพี่ เดี๋ยวเจอรังมดแดงอีก”
“ไอ้โง่ ก็เลือกที่มันไม่มีมดแดงซิวะ”
“จริงๆ ลูกพี่เมฆฉลาดที่สุด เอ็งรีบทำตามลูกพี่สั่งเร็ว”
สามหนุ่มแยกย้ายหากิ่งไม้ เสือหิวเดินตามหาพวกเมฆ ดุ๋ย ดุ่ยที่พรางตัวเป็นต้นไม้ไปเรียบร้อยแล้วลูกน้องของเสือหิวเดินจนรอบหาไม่เจอ เสือหิวหยุดถามลูกน้องตรงหน้า 3 หนุ่ม
“เป็นไงโว้ยเจอไหม”
“หาจนทั่วไม่มีใครเลยพี่หิว”
“มันต้องมีซิ หากันอีกที”
ทั้งหมดพากันเดินวนไปวนมาไม่เจอ สมุนโจรหาจนอ่อนใจ เสือหิวหงุดหงิด
“หรือว่าพวกมันไม่ได้มาทางนี้ ไปพวกเรา”
เสือหิวขยับตัวจะออก เมฆดีใจมากจึงตดออกมาชุดใหญ่ เสือหิวได้ทั้งเสียงและกลิ่น
“ใครวะใครมันแอบโยนแก๊สไข่เน่าใส่เรา”
“ฉันว่ายิ่งกว่าไข่เน่าอีกพี่หิว ไม่เชื่อพี่หิวลองดมดูซิ”
เสือหิวใช้จมูกดมไปใกล้ๆ เมฆ เมฆกลัวมากตดอีกระลอกสอง
“ชัดเลยแบบนี้ชัดเลย นี่มันกลิ่นช้างน้ำตายแน่ๆ ไม่ไหวแล้วโว้ยไปพวกเรา”
เสือหิวพาลูกน้องเดินหนีหายไป เมฆ ดุ่ย ดุ๋ยโล่งอกถอนหายใจ
“เฮ้อ เรารอดตายได้เพราะตดจริงๆ” ดุ่ยบอก
“รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น รอดชีวิตเพราะตดกลิ่นได้ใจ ว่าแต่เอ็งไปกินอะไรมาวะกลิ่นถึงได้สุดบรรยายขนาดนี้” ดุ๋ยถามดุ่ย
“เปล่าฉันไม่ได้ตด”
“แน่ะๆๆ อย่ามาสะตอ ถ้าเอ็งไม่ตดแล้วใครจะตดได้กลิ่นทุเรศขนาดนี้ นี่เอ็งจะโทษลูกพี่เมฆสุดหล่อของเรางั้นเหรอ”
“แต่ฉันไม่ได้ทำจริงๆ นะ”
เสียงตดพร้อมกลิ่นอีระลอก ดุ่ย ดุ๋ยมองหน้าเมฆที่ยิ้มแห้งๆ
“ไม่ต้องเถียงกัน ข้าเอง”
ทุกคนพากันวิ่งไปคนละทิศละทางเพื่อไปอาเจียน
เรยาพาทอมเดินอยู่ในป่า ทอมเจ็บขาเดินไม่ไหว หญิงสาวจึงให้เขาหยุดพักที่ใต้ต้นไม้
“ถ้าเดินไม่ไหวเจ็บขามากก็พักตรงนี้ก่อนก็แล้วกันค่ะหมอ”
ทอมมองเรยาในความดีและเป็นห่วงตน
“ขอบคุณมากครับที่ช่วยผมมาตลอด ผมผู้ชายแท้ๆ สู้คุณไม่ได้เลย”
“ก็คุณไม่เคยลำบาก มาเจอแบบนี้เป็นใครก็แย่”
“คุณเองก็เป็นนักร้องดังจนได้ฉายาลูกทุ่งไฮโซ”
“มันก็แค่ฉากบังหน้าที่จะหนีจากอดีต คุณไม่เข้าใจหรอกว่าเด็กยากจนที่มีแค่ผ้าห่มเพียงผืนเดียวผลัดกันห่มทั้งบ้านในยามที่อากาศหนาวจับจิตจับใจมันเป็นยังไง”
ทอมเห็นแววตาเศร้าๆ คลอนํ้าตาของเรยาแล้วสงสาร
“แล้วครอบครัวคุณล่ะ”
“พ่อแม่พาฉันกับน้องน้องๆ เข้ากรุงเพื่อหางานทำ แต่เกิดอุบัติเหตุ มีฉันคนเดียวที่รอด”
เรยาสะอื้นเมื่อคิดถึงอดีต ทอมค่อยๆ เอามือโอบปลอบใจ
“ไม่ต้องเล่าแล้ว ถ้าอดีตมันทำให้คุณเจ็บปวด อย่าไปนึกถึงมันอีกเลย”
เรยาซบหน้ากับอกทอม ร้องไห้ ทอมมองหญิงสาวด้วยความสงสารและเกิดความรักโดยไม่รู้ตัว
“เพราะอย่างนี้คุณถึงอยากลืมอดีตที่เลวร้ายใช่ไหม แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวหยิ่งเริ่ดเชิดก็ได้นะมันไม่น่ารัก”
เรยาหยุดกึก ถอนตัวออกจากอ้อมกอด มองหน้าทอมอย่างไม่พอใจ
“นี่คุณ ฉันขอคำแนะนำตั้งแต่เมื่อไร หายเจ็บแล้วใช่ไหม หายแล้วก็เดินทางต่อ”
เรยาลุกขึ้นเดินสะบัดหน้าไป ทอมมองตามยิ้มๆ แล้วลุกขึ้นเดินตาม
เก่งโอบไหล่ข้าวหอมพาหนี ภูมิจับมือมะขิ่นตาม ทั้งหมดหยุดเพราะเหนื่อยและเห็นว่าปลอดภัยแล้ว มะขิ่นรีบสะบัดมือออก
“ปล่อยมือฉันได้แล้วนายภูมิ”
ภูมิมองงง เพราะมะขิ่นต่างหากที่เป็นคนจับมือเขา
“แน่ะฉันบอกให้ปล่อยอย่าคิดว่าลำบากด้วยกันแล้วจะแต๊ะอั๋งฉันนะ”
“คือว่าคุณต้องปล่อยผม ไม่ใช่ผมปล่อยคุณ”
มะขิ่นสะดุ้งเมื่อเห็นว่าตัวเองเป็นฝ่ายจับมือภูมิจนแน่น มะขิ่นยิ้มเขินๆ
“เอาไงต่อดีพวกเรา หนีพ้นหรือยังก็ไม่รู้ เพราะข้าวหอมทีเดียวบอกแล้วอย่ามาทางนี้”
“มาโทษฉันคนเดียวได้ไง พี่อยากตามมาเองนี่”
เสือโหยและสมุนออกมาดักหน้าไว้
“ไม่ต้องเถียงกัน เฮ้ย จับมันให้หมดโดยเฉพาะไอ้หนุ่มหน้าสวยนี่กะล่อนดีนัก เดี๋ยวต้องโดนให้หนัก”
เสือโหยมองสายตาเหี้ยม เก่งสยอง สมุนโจรจับพวกเก่งมัดมือ
“มัดหมดแล้วพี่จะทำยังไงต่อไปดี”
“มัดแล้วก็เอามันไปปล่อยมั้ง เอามันไปที่หมู่บ้านซิวะ ถ้าพวกมันไม่มีเงิน ข้าจะเอาพวกมันไปเป็นทาส”
“แต่เขาเลิกทาสไปนานแล้วนะพี่ มันผิดกฎหมาย” เก่งร้องบอก
“เหรอแล้วต้องทำยังไงล่ะ” เสือโหยถาม
“ต้องปลดปล่อยทาสซิพี่ ถูกกฎหมายได้บุญด้วย”
“ได้ๆๆ ปล่อยก็ปล่อย ไม่ได้ข้าเป็นโจรไม่ต้องพูดมาก จับพวกมันกลับไปหมู่บ้าน”
พวกลูกน้องเสือโหยคุมตัวเก่ง ข้าวหอม มะขิ่น และภูมิ เดินไป
เมฆและพวกเดินสะเปะสะปะ เมฆเริ่มใจเสีย
“ทำไมเดินไปเดินมามันอยู่ที่เดิมวะ หรือว่าพวกเราจะหลงป่าแล้ว”
“ฉันเตือนลูกพี่แล้วว่าให้อยู่ด้วยกันกับยัยกะเทยตาโตกับ 3 สาวนั่น ดูแล้วจะเอาตัวรอดเก่งกว่าพวกเราเยอะ” ดุ่ยติง
“เอ็งจะอยู่ก็อยู่ไปเถอะข้าไม่เอาด้วยคน ข้าว่าพวกมันน่ากลัวกว่าการหลงป่าเสียอีก”ดุ๋ยค้าน
“ไม่ต้องเถียงกัน ข้าอยากกลับบ้าน แงๆๆๆๆ พ่อจ๋าช่วยเมฆด้วย ฮือๆๆๆ พ่อจ๋าหนูอยากกลับบ้าน”
เมฆนั่งร้องไห้อย่างหมดอาลัยตายอยาก ดุ๋ย ดุ่ยก็พลอยเศร้าไปด้วย นั่งร้องไห้กันระงม
เสี่ยกำธรนั่งหน้าเศร้าน้าตาซึม อร เจ๊ลำไย และแหม่มเดินเข้ามาหา
“เมฆลูกพ่อ ป่านนี้เอ็งจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ลูกรักของพ่อ”
แหม่มหัวเราะเยาะ “อุ๊ยๆๆ คนอย่างเสี่ยกำธรร้องไห้กับเขาก็เป็นด้วย”
“ข้าก็คนนะนังแหม่ม ลูกหายไปทั้งคนใครจะไม่ห่วงใช่ไหมจ๊ะน้องอรจ๋า”
เจ๊ลำไยเดินมากันท่า “กะว่าจะสงสารแล้วเชียว แต่นิสัยเสี่ยเนี่ยมันคงยากเกินแกงแล้วล่ะ”
“ก็ขำๆ นะ มันจะได้แก้ความเศร้า”
“ยังจะมาปากดี เดี๋ยวแม่ด่าให้ลืมความเลวเลยนี่”
“พอเถอะเจ๊ แค่นี้พวกเราก็แย่กันอยู่แล้ว ชั่วโมงนี้ถ้าไม่รักใคร่ปองดองกันก็มีแต่จะแย่”
“เออก็ได้ นี่เห็นแก่อรมันนะ”
“ขอบใจนะจ๊ะ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่ามากันพร้อมหน้าเลย”
“ครามกับบัวมันมาถึงแล้ว กำลังคุยกับเจ้าหน้าที่อยู่ พวกฉันก็เลยมาตามเสี่ยเพื่อจะได้ช่วยกันคิดว่าจะช่วยลูกหลานพวกเรายังไงบ้าง” อรบอก
เจ้าหน้าที่ป่าไม้เดินออกมาหลังจากประชุมเรื่องที่จะเข้าไปตามหาเก่งในป่าข้างนอก มีคราม บัว เอ็ม เสี่ยกำธร อร สมชายมานั่งรออยู่
“พวกเราประชุมวางแผนกันแล้วว่าพรุ่งนี้เช้าเราจะเข้าไปตามหาทุกคน” เจ้าหน้าที่บอก
“ผมขอไปด้วยนะครับ ผมเป็นห่วงเพื่อน” ครามขอร้อง
“หนูก็ขอไปด้วยหนูเป็นห่วงพี่สาว” บัวบอก
เอ็มกับเสี่ยกำธรก็ขยับเข้ามาขอไปด้วย
“พวกเราก็ขอไปด้วยเพราะเสี่ยเป็นห่วงลูกชาย ผมก็เป็นห่วงลูกชาย”
เสี่ยกำธรเดินเข้ามาพร้อมอร แหม่ม เจ๊ลำไย
“ให้ผมไปด้วยผมคิดถึงลูก ไม่รู้เป็นไงบ้าง”
อรกับสมชาย เจ๊ลำไยจะเอ่ยปากขอไป แต่บัวห้ามเอาไว้
“น้าอรกับเจ๊ไม่ต้องไปหรอกนะ บัวกับครามไปตามเอง”
“ไม่เอาอ่ะ แค่ข้าวหอมหายไปคนเดียวข้ายังใจจะขาด ขืนเอ็งหายไปอีกคนข้าจะแก่ก็งานนี้แหละ”
“แต่ผมว่าบัวคิดถูกนะ ถ้าไปกันเยอะก็ไม่คล่องตัวจะทำให้เป็นภาระกับเจ้าหน้าเขาเปล่าๆ โดยเฉพาะเอ็งไอ้เอ็ม เอ็งป่วยอยู่ ถ้าเกิดโรคกำเริบในป่าจะทำยังไง” สมชายท้วง
“แต่ถ้าให้เรารอที่นี่มันก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นนะคะ” อรขอร้อง
“เอาอย่างนี้ครับ เอาคนที่คล่องตัวไปกับผมเป็นชุดแรกคือชุดติดตาม ส่วนที่เหลือคือชุดสำรองกองเสบียง เป็นชุดที่ไปจนถึงจุดที่รถเข้าออกได้”
“ดีครับพวกเราตกลงตามนี้ทุกเห็นด้วยไหม” สมชายถาม
ทุกคนเห็นด้วย ยิ้มอย่างสบายใจ
“งั้นพรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันแต่เช้า”
ทุกคนดีใจที่เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ไปด้วย
ครูกุ๊กไก่ มด นก ปลา ออกตามหาพวกเมฆ
“ฉันไม่เข้าใจพวกหล่อนเลย ไอ้พวกนั้นดูก็รู้มันตั้งใจทิ้งพวก เราแล้วจะออกตามหามันทำไม” ครูกุ๊กไก่เซ็ง
“เอาเถอะน่าครูกุ๊กไก่ถือว่าช่วยเพื่อนมนุษย์” นกบอก
“ใช่ครูคิดว่าช่วยลูกหมาหลงทาง 3 ตัวเชียวนะ” ปลาเห็นด้วย
“ปล่อยให้ตายก็เสียดายเปล่านะครูนะ” มดสนับสนุนอีกคน
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย ฉันรู้ทันพวกหล่อน เอ้าไปก็ไป เดี๋ยว พวกเธอได้ยินเสียงอะไรไหม”
ทุกคนได้ยินเสียงคนร้องไห้ 3 สาวพูดพร้อมกัน
“ไอ้หน้าหล่อ”
เมฆนั่งร้องไห้มีดุ่ยกับดุ๋ยนั่งหน้าเศร้าข้างๆ กลุ่มครูกุ๊กไก่เดินมา เมฆเห็นรีบวิ่งเข้าไปกอด 3 สาวเหมือนเด็กหลงทางวิ่งกอดแม่ 3 สาวยิ้มอย่างพอใจ
“ช่วยพวกเราด้วย”
“ช่วยอยู่แล้ว ปล่อยให้เดินตามหาเสียเหนื่อยเลย”
“ทำไมชีวิตของเมฆต้องมาเจออะไรๆ ที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้ คิดถึงบ้าน”
“โอ๋อย่าร้องไห้นะพี่มดอยู่นี่แล้ว”
“ไม่ต้องกลัว พวกพี่จะพาน้องกลับบ้านเอง” ปลาบอก
“แล้วถ้าเจอผี นกก็จะช่วยปกป้องให้ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ”
“พวกแกก็เหมือนกัน อย่ายุให้ลูกพี่แกหนีไปตามลำพังอีก ขี้เกียจเดินตามหาเข้าใจไหม” ครูกุ๊กไก่ดุ ดุ๋ย ดุ่ย
“พวกผมไม่ทำอีกแล้วครับ” ดุ่ยบอก
“ดีมาก อย่าลืมคำพูดนะไปไหนต้องไปด้วยกัน”
“เอาน่า ผมจะช่วยจำช่วยเตือน ว่าแต่ว่ารีบออกไปจากที่นี่เถอะ เดียวพวกโจรกลับมาเจอก็ซวยอีก” ดุ๋ยเร่ง
ครูกุ๊กไก่ มด นก ปลา ฟังที่ดุ๋ยพูดเรื่องโจรก็เลยกลัวขึ้นสมอง
“ตายแล้วมีพวกโจรด้วยหรืออย่าทิ้งพวกเราอีกนะเมฆนะ” นกตื่นกลัว
เมฆนึกถึงพวกโจรขึ้นมาได้ ไม่พูดไม่จา เดินนำหน้าไปก่อนใคร ทุกคนเดินตาม
อรจับกลุ่มคุยกันที่บ้านพักป่าไม้เรื่องที่จะเข้าไปช่วยเก่งและคนอื่นๆ
“คราม น้าถามจริงๆ เถอะ คุณสมชายเขาเป็นคนอย่างไง น้าคุ้นหน้าเขามากเลย”
“เท่าที่ผมได้รู้จัก เขาเป็นคนดีครับน้าอร เก่งมาอยู่กับคุณสมชายผมว่าดีที่สุดแล้วในวงการเพลงลูกทุ่ง”
บัวได้ฟังที่อรถามเรื่องสมชายและกำลังจะถามเรื่องเอ็มก็เลยรีบพูดแทรกขึ้นมา
“เรื่องคุณเอ็ม ส่วนตัวไม่ค่อยรู้เรื่องมากนัก แต่เท่าที่บัวได้รู้จักกับหมอทอม ลูกชายของเขาเป็นคนดีมาก”
“แต่ฉันว่ายัยถั่วพูไม่น่าไว้วางใจ ไม่อยากให้ข้าวหอมเข้าวงการแล้วล่ะ” เจ๊ลำไยหวั่นใจ
“เจ๊เริ่มเข้าใจฉันแล้วใช่มั้ยว่าเพราะอะไรจึงไม่ยอมให้เก่งร้องเพลงลูกทุ่ง”
“เข้าใจที่สุด แต่เรื่องของข้าวหอมฉันเองก็ไม่อยากขัดขวาง หากเป็นสิ่งที่ข้าวหอมเลือก ถ้าทนไม่ได้ก็จะมาอยู่กับข้าวหอมให้มันรู้แล้วรู้รอดไป”
“เจ๊คิดถูก ทุกวงการมีทั้งคนดีคนเลว อย่าเอาความคิดตัวเป็นใหญ่ แล้วไปขัดขวางโอกาสที่หลานๆมันเลือก”
อรฟังคำพูดของเจ๊ลำไยและแหม่ม อรก็เป็นคนขวางเก่งไม่ให้ร้องเพลงมาตั้งแรก เธอจึงเงียบไป
คืนนั้น อรออกมายืนดูดวงดาวบนท้องฟ้า คิดถึงเก่งและคิดถึงคำพูดของเจ๊ลำไยที่พูดถึงข้าวหอม ในระหว่างที่กำลังคิดสารพัดเรื่อง สมชายเดินเข้ามาคุยด้วย
“ยืนคิดถึงอะไรอยู่ครับ ถ้าคิดถึงเรื่องเก่งสบายใจได้เลยครับ”
“ก็มีหลายเรื่องที่สับสนค่ะคุณสมชาย”
“คุณไม่อยากให้เก่งเข้าวงการใช่ไหม”
“เอ่อ ค่ะ ฉันมีความหลังที่ไม่ค่อยดี”
“วงเพลงลูกทุ่งก็เหมือนกันทั้งหมด มีทั้งคนดีคนเลวอยู่ที่เราจะทำตัวอย่างไรและปกป้องตัวอย่างไร”
อรเริ่มมีความคิดที่ดีต่อวงการเพลงลูกทุ่ง
“ขอบคุณคุณสมชายที่มาคุยแล้วทำให้สบายใจ”
ในระหว่างที่อรกำลังคุยกับสมชาย แหม่มเดินมาตาม
“แอบมาอยู่ตรงนี้ ขอโทษนะค่ะ”
“ได้ครับ”
“พี่อร ดึกแล้วไปนอนกันเถอะ เลิกคิดได้แล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็ออกไปตามเก่งแล้ว ไปเถอะ”
“งั้นขอตัวก่อนนะคุณสมชาย”
“เชิญตามสบายเลยครับ ไม่ต้องห่วงผมจะดูแลเก่งเป็นอย่างดี”
“ขอบคุณมากค่ะคุณสมชาย”
อรเดินตามแหม่มออกไป สมชายยิ้มๆ
ลูกน้องของเสือโหยเอาตัวเก่ง ข้าวหอม มะขิ่น ภูมิ มาขังในกรงไม้ เสือโหยเดินมาดู
“พวกเองโชคดีที่พรุ่งนี้เป็นงานวันเกิดของข้า หลังจากงาน ข้าค่อยตัดสินพวกเองทุกคน”
“แล้วจะให้พวกเราช่วยอะไรไหม พวกเราทำได้ทุกอย่างนะ” เก่งเสนอ
“จริงจ้ะ บ้านฉันขายกาแฟ ฉันทำน้ำหวานเลี้ยงทุกคนได้” ข้าวหอมเสนอด้วย
“ฉันเป็นช่างเสริมสวยช่วยทำให้ทุกคนสวยหล่อได้ทุกสถานการณ์” มะขิ่นนำเสนอ
“ผม เอ่อ ผมเป็นนักดนตรีครับ เล่นดนตรีได้” ภูมิบอก
“ดีๆ แต่ถ้ามีนักดนตรีก็ต้องมีนักร้อง”
“ผมนี่ไง ผมกับข้าวหอมร้องเพลงได้”
“เอ็ง 2 คนเนี่ยนะนักร้อง ไร้สาระ ถ้าแน่จริงเอ็งร้องเพลงของเก่ง เกียงไกร ได้หรือเปล่าล่ะ”
เก่ง ข้าวหอม มะขิ่น ภูมิ หันมองหน้ากัน เก่งรีบขยิบตาให้ทุกคนเฉยๆ
“ได้ พรุ่งนี้ผมจะร้องเพลงของเก่ง เกรียงไกร”
เรยานั่งผิงไฟโดยมีทอมนอนจับไข้อยู่ข้างๆ เธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มจับไข้เลยบ่น
“หมอทอมลุกขึ้นมาพูดคุยกันบ้างก็ได้นะคุณ ไม่ต้องเบื่อหน้าฉันจนเอาแต่นอนอย่างเดียวหรอก”
ทอมนอนนิ่งไม่ไหวติ
เรยาหันมองเซ็งๆ
“นี่หมอ ตกลงจะนอนไม่คุยกันจริงๆ ใช่ไหม ลุกมาคุยกันให้รู้เรื่องเลย”
เรยาลุกไปเขย่าตัวทอมถึงกับตกใจที่เขาตัวร้อนมาก
“หมอ ทำไมตัวร้อนอย่างนี้ล่ะ ดูซิร้อนจี๋เลย”
เรยาไปเปิดแผลที่ขาทอมเห็นรอยอักเสบ
“ว่าแล้วมันอักเสบขึ้น เป็นหมอยังไงไม่ดูแลตัวเอง”
เรยารื้อกระเป๋าสะพายทอมเจอยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ เธอรีบประคองทอมให้กินยา
“หมอกินยาก่อนนะคะ ฉันไม่อยากให้คุณตายตอนนี้”
ทอมสลึมสลือมองเรยาแล้วกินยาตามที่สั่ง
“ดีมากจริงๆ คุณป่วยนี่ก็ดีเหมือนกันนะไม่ต้องมีคนมาพูดจากวนประสาท”
“แม่ แม่ครับ อย่าไปแม่ อย่าเอาน้องไปแม่”
เรยาเห็นทอมละเมอหาแม่ถึงกับสงสารเข้าไปโอบกอดเขาไว้ ทอมกอดตอบซบที่อก เรยาค่อยๆ ลูบหลังลูบหัวเหมือนผู้ใหญ่ปลอบเด็ก
“ไม่ต้องห่วงนะคะหมอ ฉันจะอยู่ข้างๆ คุณ ไม่ให้คุณต้องอ้างว้างอีก”
เรยาโอบกอดปลอบทอม ทอมถึงสงบลง หลับอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของหญิงสาว
อ่านต่อหน้าที่ 2
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 10 (ต่อ)
เมฆกับลูกน้องนั่งกินไก่ ปลาย่างที่ครูกุ๊กไก่และสามสาวหามาอย่างเอร็ดอร่อย ครูกุ๊กไก่บ่น
“ไม่รู้จะไปช่วยพวกมันมาทำไม ดูซิของกินก็หากินเองไม่เป็น พวกเราหามาได้ก็ต้องแบ่งให้มัน ภาระชัดๆ”
“เอาเถอะครูถือว่าช่วยลูกนกลูกกา ดูซิกินมูมมามยังน่ารักเลย” นกชื่นชม
“จริงของแก ขนาดตกระกำลำบากหน้าก็โทรมก็ยังดูดีน่าร้ากอ่ะ” มดปลื้ม
“บ้าผู้ชายกันไม่เลิกนะแก เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนี้น่ะเหรอน่ารัก” ปลาค่อนขอด
“โหก็ป้าแก่แล้วป้าไม่เข้าใจหรอกเด็กๆ อย่างนี้กระดูกอ่อนเคี้ยวอร่อย” นกแก้ตัว
“จริงอ่ะ” ปลาถาม
“ไม่เชื่อก็ลองกินดูก็ได้ ถ้าเป็นป้าล่ะก็ฉันกับนังนกยอมให้ร่วมวงด้วยเลย” มดบอก
สามสาวยิ้มให้กันแล้วหันไปมองทางเมฆ เมฆหันไปมองเห็นสามสาวมองมาแปลกๆ เริ่มไม่ไว้ใจ หันมาคุยกับลูกน้อง
“พวกแกว่าพวกนี้แปลกๆ ไหมวะ”
“แปลกยังไงลูกพี่ ฉันก็เห็นปกติ จะมีแปลกก็ยัยกุ๊กไก่นั่นแหละขนาดจระเข้ยังกลัว” ดุ่ยบอก
“กุ๊กไก่น่ะไม่แปลก แต่สามป้าแก่ๆ นั่นอ่ะแปลก ดูสายตามันซิเหมือนจะกินข้าได้อย่างนั้น”
“สงสัยพวกมันอยากจะได้ลูกพี่เมฆไปทำผ.สระอัวผัวแน่ๆ ดูซิๆ หน้าหื่นสุดๆ เสร็จแน่ลูกพี่” ดุ๋ยแหย่
เมฆขนลุก “ข้าไม่ยอมให้มันเปิดซิงข้าหรอก ข้าจะหนีพวกมัน”
“หนีทำไม อยู่กับพวกนี้กินดีอยู่ดี” ดุ่ยท้วง
“ไม่ต้องเถียง ข้าบอกให้ทำก็ทำตามเข้าใจ๋”
เมฆสั่งเสร็จก็กินต่อไม่สนใจ ดุ๋ย ดุ่ย มองอาหารอย่างเสียดายถ้าต้องไปหากินเอง
เสือหิวเดินป่าอยู่กับลูกน้องอย่างหงุดหงิด
“มันหายไปไหนกันวะ นี่ถ้าไม่ได้ตัวมันกลับไป พี่โหยเอาข้าตายแน่”
“พี่หิวทางนี้มีรอยเท้าคน”
“ไหน ใช่แน่ ไปตามไปทางนี้”
เสือหิวนำทีมลูกน้องเดินตามรอยไป
เมฆนั่งอยู่กับกลุ่มลูกน้อง สามสาวเดินเข้าไปหาประกบเมฆอย่างใกล้ชิดจนเขาสยอง
“น้องเมฆเป็นไงกินอิ่มไหม” ปลาเริ่มถาม
“ถ้าไม่อิ่มเอาของพี่ไปกินอีกก็ได้นะ” นกส่งน่องไก่ให้
“ลูกพี่ไม่กินให้ผมสองคนกินแทนก็ได้” ดุ๋ยบอก
ดุ่ย ดุ๋ยตั้งท่าจะกิน นกมาแย่งน่องไก่กลับมา
“ไม่ได้ ของหามาได้ด้วยความลำบากให้พี่เมฆกินได้คนเดียว”
ดุ่ย ดุ๋ยกลืนน้ำลายมองด้วยความเสียดายแต่เมฆกลับลุกหนีด้วยความรำคาญ
“นี่ป้าเลิกยุ่งกับฉันสักที่ได้ไหมฉันรำคาญ”
“พูดแบบนี้ไม่สำนึกบุญคุณกันเลยนะ” นกเคือง
“ถ้าไม่มีพวกฉันเธอจะรอดมาปากดีอย่างนี้ไหม” ปลาโกรธ
“ทั้งจระเข้เอย เสือสมิงเอย ไหนจะโจรป่า”
มดเห็นลูกน้องเสือหิว ถึงกับอ้าปากค้าง
“โจรๆๆ โจรป่าๆ”
“โจรก็ไม่กลัวแล้ว พวกป้าๆ น่ากลัวกว่าโจรอีก ถ้าโจรมาตอนนี้นะฉันจะตื้บให้แบนเหมือนมดเลย”
ทุกคนหน้าเสียเพราะโจรก้าวเข้ามา มีเพียงเมฆมองไม่เห็น ครูกุ๊กไก่ถูกเสือหิวเอาปืนจี้มา
“กลัวเถอะอย่าเก่งเดี๋ยวศพไม่สวย”
“ไม่กลัวไม่กลัวโว้ยใครจะทำไม”
เมฆพูดพร้อมกับหันหน้ามาเจอเสือหิวยืนยิ้มแฉ่งอยู่ เขาตกใจถึงกับฉี่ราด
พวกอรจัดเตรียมข้าวของอุปกรณ์เดินป่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาถาม
“เตรียมของกันครบแล้วใช่ไหมครับ”
“ทุกคนพร้อมเดินทางแล้วครับหัวหน้า” ครามบอก
“ดีครับงั้นเราแบ่งกลุ่มตามที่ตกลงกันเลย”
“คนที่จะไปกับหัวหน้าก็มีแค่ครามกับบัวเท่านั้นแหละค่ะ” อรบอก
“ส่วนพวกฉันก็จะอยู่เป็นกองหลังแบบที่ที่คุณแนะนำ” เจ๊ลำไยย้ำ
เสี่ยกำธรรีบเข้ามา “ฉันด้วย ฉันห่วงไอ้เมฆ อีกอย่างก็ไปเป็นตัวแทนคุณเอ็มด้วยไง”
“ผมเห็นด้วยนะครับให้เสี่ยไปด้วยอีกคนนะครับหัวหน้า”
“ได้ครับตกลงตามนั้น”
“แต่กลุ่มที่เดินทางเข้าป่าติดต่อเราได้ตลอดใช่ไหมครับ” เอ็มถาม
“ครับ คนของผมจะประสานกับผมตลอด”
“อย่าหาว่าพวกเราเรื่องมากเลยนะครับ เราเป็นห่วงลูกหลานเราจริงแค่หลงป่าก็แย่แล้วนี่ยังต้องหนีโจรป่าอีก” สมชายออกตัว
“ผมเข้าใจ ไม่ต้องห่วง พวกเราจะทำจนสุดความสามารถครับผม ให้เวลา 10 นาทีเราจะออกเดินทาง”
เจ้าหน้าที่ป่าไม้สั่งเสร็จก็เดินไปคุยกับลูกน้อง เจ๊ลำไยรีบเข้าประกบบัวด้วยความเป็นห่วง
เก่ง ข้าวหอม มะขิ่น ภูมิช่วยชาวบ้านจัดเตรียมงานวันเกิดเสือโหย ข้าวหอมถามเก่ง
“พี่เก่ง แล้วพวกเราจะทำอะไรกันต่อไปดีล่ะฉันกลัว”
“ไม่ต้องกลัวนะข้าวหอม พี่ว่าเสือโหยเสือหิวไม่เป็นคนเลวร้ายหลอก”
“ผมเห็นด้วยกับเก่งนะครับ เคยได้ยินไหมครับชนใดไม่มีดนตรีกาลในสันดานเป็นคนชอบกลนัก”
“มันใช่เวลาเจ้าบทเจ้ากลอนไหมเนี่ย” มะขิ่นติง
“ภูมิพูดมีเหตุผลนะมะขิ่น เสือโหยอยากฟังเพลงของพี่ เขาคงไม่ทำอะไรพวกเราหรอก”
“แล้วถ้าเขาทำล่ะพี่เก่ง” ข้ามหอมกังวล
“พี่จะปกป้องข้าวหอมด้วยชีวิต พี่สัญญา”
ข้าวหอมจับมือเก่งอย่างดีใจ สองหนุ่มสาวมองหน้ากันซึ้งๆ มะขิ่นมองเซ็งๆ
“ทั้งปี พอดีกันเมื่อไหร่ก็หวานน้ำตาลเรียกพี่เลย”
เสียงเมฆร้องโวยวาย ทุกคนตกใจ
“นั่นมันเสียงไอ้เมฆ” เก่งบอก
กลุ่มเก่งรีบวิ่งเข้ามาหน้าซุ้มโจร เห็นเมฆนั่งร้องไห้โวยวายและกลุ่มครูกุ๊กไก่ที่ถูกมัดอยู่ข้างๆ
“ฮือๆๆ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ถ้าอยากจะเล่นงานก็เล่นงานพวกป้าๆ นั่น”
“หนอยไอ้เนรคุณปากเสียจริงนะแก” ครูกุ๊กไก่ต่อว่า
“แบบนี้ฉันชอบ” นกปลื้ม
“ฝึกไม่ยากหัวอ่อน” มดยังชื่นชม
“ใจอ่อน โง่ไม่ฉลาดแบบนี้ใช่เลย” ปลาเห็นด้วย
“ไม่ต้องพูดมากข้าจัดการทุกคนแน่ บังอาจไม่ยอมให้ปล้นดีๆ ต้องให้ตามจับ”
เสือหิวทำท่าจะหยิบปืน สัตว์ ชาวบ้าน ลูกน้องพากันหลบหมด เก่งก้าวออกไปคุยกับเสือโหยเสือหิวแบบไม่กลัว
“พวกเขาเป็นเพื่อนผมเอง ให้พวกเขามาช่วยผมจัดงานวันเกิดเถอะนะ”
“ใช่จ้ะ พวกนี้เล่นตลกได้ งานจะได้สนุกขึ้น”
เสือโหย เสือหิวมองหน้า กระซิบปรึกษากัน
“เอาไงดีไอ้หิว”
“แล้วแต่พี่ พี่เอาไงฉันเอางั้น หรือจะยิงมันทิ้งเลย”
“อย่าจ้ะ อย่ายิง พวกเขาทำได้จริงๆ ตอนเด็กๆ เขาเคยปลอมตัวเป็นเด็กผู้หญิงมาเล่นกับพวกเราตลกมากเลยจ้ะ” ข้าวหอมขอร้อง
“พวกเอ็งทำได้จริงเหรอ” เสือหิวสนใจ
“ได้ๆๆ พวกฉันทำได้” ดุ๋ยรีบรับปาก
“ก็ได้ งั้นคืนนี้เอ็งต้องจัดแสดงโชว์ก่อนที่จะมีคอนเสิร์ต ถ้าเล่นไม่ถูกใจ ข้าจะยิงให้หมดทุกคนเลย” เสือโหยยอมให้
ทุกคนโล่งใจ เก่ง ข้าวหอมรีบวิ่งไปหาเมฆกับพวกเพื่อแก้เชือก ภูมิ มะขิ่นรีบวิ่งไปแก้เชือกให้ครูกุ๊กไก่และสามสาว ครูกุ๊กไก่มองเสือโหยเสือหิวเหมือนมีบางอย่างในใจ
ทอมฟื้นไข้ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น พยุงตัวพิงต้นไม้ แล้วมองหาเรยา
“เรยา เรยา
ไม่มีเสียงตอบ นอกจากความสงบของป่า ทอมถอนหายใจ
“ไม่ผิดหรอกถ้าคุณจะทิ้งคนป่วยอย่างผม”
เรยาดินถือน้ำมาด้านหลัง “ปากดีแบบนี้เมื่อคืนน่าปล่อยให้จับไข้ตาย”
ทอมหันไปเจอเรยา ยิ้มสบายใจ “เรยาผมคิดว่าคุณทิ้งผมไปแล้วเสียอีก”
“ฉันไม่ชอบถูกคนทิ้งเพราะฉะนั้นฉันก็ไม่ยอมทิ้งใครเช่นกัน”
“ขอบคุณนะครับ”
“ขอบคุณเรื่องอะไร”
“ก็ขอบคุณที่คุณไม่ทิ้งกัน”
ทอมมองเรยาอย่างขอบคุณด้วยใจจริง จนเรยาเขินหลบสายตา แล้วอยู่ๆ ทอมก็สลบไป เรยาตกใจรีบเข้าประคอง
“หมอ หมอทอมอย่าเป็นอะไรนะคะหมอ”
เรยาตกใจหน้าเสียเสียงสั่น พยายามเรียกให้ทอมรู้สึกตัว แต่แล้วก็ต้องตกใจเป็นคำรบสองเมื่อลูกน้องโจรถือปืนออกมาล้อมเรยาและทอมไว้
กลุ่มสมชายตั้งเต็นท์เสร็จเรียบร้อย เจ๊ลำไยเกาะแขนบัวติดด้วยความเป็นห่วง เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาเรียก
“เรียบร้อยไหมครับ ผมไม่อยากเข้าป่าสาย”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ บัวไปนะเจ๊”
“เดินทางดีๆ นะลูก อย่าแก่นแก้วนัก ยังไงเราก็เป็นผู้หญิง”
“จ้ะเจ๊ ไม่ต้องห่วง แล้วห้ามแอบร้องไห้เวลาฉันไม่อยู่ด้วย รู้ไหม”
เจ๊ลำไยเริ่มน้ำตาคลอ อร แหม่ม เข้ามาปลอบ
“เจ๊ บัวมันจะเดินทาง ร้องไห้ไม่ดีนะ โบราณเขาถือ”
“เหรอเขาถือว่าไง”
“ถือว่า เอ่อ คิดไม่ออก เอาเป็นว่าถือก็แล้วกัน”
“บัว รีบไปเถอะน้าจะดูแลเจ๊เองไม่ต้องห่วง” อรพบอก
“น้าอรเองก็ไม่ต้องห่วงเก่งนะ ฉันจะต้องตามทุกคนกลับมาให้ได้ ฉันสัญญา” ครามย้ำ
บัว คราม และเสี่ยกำธรออกเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ๊ลำไย อร แหม่มมองตามด้วยความเป็นห่วง สมชายมองอรแล้วมาคุยกับเอ็ม
“ดูท่าทางเขาจะห่วงหลานๆ มากเนอะน่าสงสาร”
“เป็นใครก็ห่วงทั้งนั้นไม่เหมือนแกนี่ ลูกเต้าไม่มีจะห่วงใครเป็น”
“ก็ห่วงแกนี่ไงถึงแกจะดีจะชั่วแกก็เป็นเพื่อนคนเดียวที่ไปเยี่ยมฉันตอนฉันเกิดอุบัติเหตุ”
สมชายพูดจบก็แยกตัวเดินไปหากลุ่มอร เอ็มมองตามพูดอย่างเสียใจ
“สมชาย ถ้าแกรู้ว่าฉันไปเยี่ยมแกทำไม แกคงไม่พูดกับฉันแบบนี้”
เอ็มถอนหายใจ ถั่วพูมองเอ็มอย่างสงสัย
ป้าสีวังเดินไปมาดูนาฬิกาอย่างหงุดหงิดจนอาร์มถาม
“คุณป้าขา จะเดินอีกนานมั้ยคะ เดี๋ยวลมก็จับหรอกค่ะ”
“นังอาร์ม ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นหรอกย่ะ ฉันร้อนใจ ป่านนี้เสี่ยยังไม่มาอีก คดีหนูบัวเนี่ยเราเรียกเงินกับมันได้เยอะเลยถ้ามันถอดใจเราก็ชวด”
“คุณป้าไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คนบ้ากามอย่างเสี่ยสำราญมันมาแน่นอน”
รถเสี่ยสำราญเข้ามาจอดตรงหน้าป้าสีวัง ภรรยาทั้งสี่ลงจากรถแล้วเต้นท่าเปิดตัว
“เห็นไหมค่ะคุณป้าพูดไม่ขาดคำมันก็มา”
เสี่ยสำราญเดินลงมาจากรถ ใส่ชุดเดินป่าแบบจัดเต็ม เดินยิ้มเข้ามาหาป้าสีวัง
“คุณสีวัง ผมพร้อมแล้ว”
ป้าสีวังกับอาร์มมองการแต่งตัวของเสี่ยสำราญแล้วสยอง
ปายอและสมุนเดินสำรวจป่าอย่างระแวดระวัง สมุนเห็นกองไฟที่พวกเมฆตั้งแค้มป์ก่อนถูกจับตัวไป ปายอให้สัญญาณตรวจ สมุนรีบเข้าตรวจสอบ
“ประมาณ 7 คนปายอมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย”
“คงเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินป่า”
“คงไม่ใช่หรอกเพราะไม่มีอุปกรณ์เดินป่า”
“แถวนี้เป็นเขตของเสือโหยเสือหิวคงจะเป็นเหยื่อของพวกเขา”
“จะเอายังไงต่อ”
“ถ้ามันไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานของเรา เราก็อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมัน นอกจากเจ้าหน้าที่รัฐแล้วฉันไม่อยากสร้างศัตรูกับใครอีก”
ปายอครุ่นคิด
เก่ง ข้าวหอม ภูมิ มะขิ่น พาพวกเมฆและครูกุ๊กไก่ 3 สาวเดินมาช่วยงานชาวบ้าน เมฆทำไปบ่นไป
“รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น รอดตายได้เพราะคู่อาฆาตแบบไอ้เก่ง”
“เอาเถอะน่าลูกพี่เมฆ ยอมๆ มันไปก่อน ไว้มีโอกาสค่อยเอาคืน” ดุ๋ยบอก
“จริงจ้ะพี่ ให้ออกจากซุ้มโจรไปให้ได้ก่อน” ดุ่ยเห็นด้วย
“ไม่ได้โว้ย ถึงข้าจะเป็นนักเลงขี้หมาในสายตาคนอื่น แต่ข้าก็มีศักดิ์ศรี บุญคุณต้องทดแทนข้าคง”
“เลิกทะเลาะกับไอ้เก่งใช่ไหมพี่” ดุ๋ยถาม
“ไม่ เลิกทดแทนคุณเมื่อไหร่ค่อยกลับคืนสู่สภาพเดิม”
กลุ่มเก่งมองเมฆที่ซุบซิบคุยกับลูกน้องแล้วหันมาสอบถามครูกุ๊กไก่
“ไปไงมาไงถึงได้ถูกจับมาพร้อมพวกไอ้เมฆ”
“ก็แม่สามสาวนี่น่ะซิไปช่วยมันมา เลยถูกจับมาพร้อมกัน”
“แล้วเรยาล่ะมีใครเจอเรยาไหม” ภูมิถาม
“ไม่เจอเลยแต่พี่ เห็นวิ่งไปกับหมอทอม” ปลาบอก
“ถ้ายังงั้นก็แย่นะซิ ไฮโซทั้งคู่จะเอาตัวรอดในป่าได้ยังไง” ข้าวหอมเป็นห่วง
“ไม่หรอกมั้ง เรยาเขาเคยเป็นคนบ้านนอกเหมือนเรามาก่อน คงช่วยหมอทอมได้” เก่งท้วง
“ดูท่าทางพี่เก่งจะรู้เรื่องเขาดีจังนะ”
ข้าวหอมมองตาเขียว เก่งพูดอะไรไม่ออก มะขิ่นมองเซ็งๆ
“ยุงที่ว่าร้าย โจรที่ว่าน่ากลัว สู้พิษรักแรงหึงของผู้หญิงไม่ได้เล้ย”
ทุกคนเห็นด้วยกับมะขิ่น
เก่งร้องเพลงเกี้ยวข้าวหอมอยู่ริมลำธาร โดยมีภูมิ มะขิ่น เป็นลูกคู่
“รักแล้วไม่มีเงื่อนไข ถ้าไปกันได้สบายใจนัก อุปสรรคความรักอย่ามี ทั้งน้องและพี่ไม่หนีจากกัน
ใจน้องต้องเหมือนใจพี่ ซื่อตรงภักดีไม่มีหลอกลวง คิดถึงพี่จึงมาหา ตั้งใจไว้ว่าจะพาเดินควง พ่อแม่น้องคงไม่ว่าวันนี้ที่มาจะคอยถามทวง ความรักกำลังโชติช่วง มอบใจทั้งดวงไม่มีเงื่อนไข ความรักเจริญเดินหน้าไม่มีทีท่าจะหยุดฉุดไหว อยากจะรู้ตอนอยู่ด้วยกันวาดความฝันวิมานยิ่งใหญ่ ช่วงกำลังมีไฟคิดไปคิดได้คิดดี รักแล้วไม่มีเงื่อนไขตกลงหมั้นไว้สุขใจเต็มที่ โอกาสความรักเป็นใจทั้งญาติผู้ใหญ่ของน้องและพี่ ชุดน้องต้องเป็นราตรีรวมญาติสักทีในวันแต่งงาน”
เก่งร้องเพลงง้อข้าวหอม มีภูมิเป็นลูกคู่และครูกุ๊กไก่กับ สามสาวประสานเสียงเป็นแดนเซอร์ ส่วนพวกเมฆถูกบังคับให้มาเป็นแดนเซอร์ด้วย ข้าวหอมยังงอนๆ ก็เลยเอามะขิ่นมาเป็นกันชน จนใกล้จบเพลงข้าวหอมกับเก่งดีกัน พวกเมฆร้องไห้เสียใจ ทำให้สามสาวดีใจ
เก่งเดินกระหนุงกระหนิงกลับมากับข้าวหอม ครูกุ๊กไก่รีบวิ่งเข้ามาบอก
“มีพวกเรามาเพิ่มอีก”
“เรยา เรยามาใช่ไหม”
เก่งรีบถาม ข้าวหอมมองเหล่ๆ
“หมอทอมมาด้วยใช่ไหมจ๊ะพี่กุ๊กไก่”
“มาพร้อมกันทั้งสองคนนั้นแหละไปดูกัน”
อารามดีใจเก่งรีบวิ่งนำข้าวหอมไป ข้าวหอมมองตามอย่างไม่พอใจ
“อย่าคิดมากจ้ะ หนูเรยาเขามีบุญคุณช่วยเก่งตอนที่อัดเพลงแม้แต่เพลงเปิดอัลบั้มเรยาก็ไปขอครูเพลงมาให้”
“ฉันเข้าใจ ขอบคุณพี่กุ๊กไก่นะ”
ข้าวหอมเดินตามเก่งไปอย่างซึมๆ ครูกุ๊กไก่ถอนหายใจ เก่งวิ่งมาถึงที่กระท่อม มีมะขิ่น ภูมินั่งอยู่กับเรยาหน้ากระท่อม เรยาเจอเก่งผวาเข้ากอดด้วยความดีใจ ข้าวหอมเดินเข้ามาเห็นพอดี
“ว่าไงเรยาเป็นยังไงมายังไงถึงได้มาถึงที่นี่”
“พวกโจรจับมาแต่ฉันต้องการความช่วยเหลือพอดี”
เก่งยังไม่ทันถามต่อ หมอโจรถือกระเป๋ายาเดินเข้ากระท่อมไป
“ฉันไปดูหมอทอมก่อน”
เรยาเข้ากระท่อมตามหมอไป ข้าวหอมยิ้มสะใจ
“ไปมะขิ่น ไปดูหมอทอมกันดีกว่า ทิ้งคนที่กลายเป็นหมาหัวเน่าเอาไว้แถวนี้แหละ”
ข้าวหอมดึงมือมะขิ่นเข้าไปดูทอม ทิ้งเก่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่กับภูมิ
เจ้าหน้าที่ป่าไม้เดินทางมาจนถึงจุดที่พักของเรยากับทอมที่สุดท้าย ก็เข้าไปดูร่องรอย
“จุดนี้มีคนพักค้างคืน 2 คน ครับ ผู้หญิงคนผู้ชายคน”
“พี่เก่งพี่ข้าวหอม” บัวพูดขึ้น
“ผมไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าครับแต่ผู้ชายดูท่าจะได้รับบาดเจ็บ”
บัวเริ่มตาแดงๆ เป็นห่วง ครามไปดูรอยนอนพักของทอม วัดระยะ
“ไม่ใช่หรอกบัวน่าจะเป็นคนอื่น ดูซิช่วงขายาวแบบนี้ไม่หมอทอมก็ไอ้เมฆ”
“ที่สำคัญนะครับ มีรอยเท้าคนเป็นกลุ่มมาจับตัวสองคนที่นี่ไป”
บัวกับครามกังวลมาก
ครูกุ๊กไก่เดินกลับมาจากที่พักทอม 3 สาวรีบเข้ามาถาม
“ว่าไงคะครูตกลงมันยังไงเรยาถึงมาคู่กับหมอทอม” นกถาม
“ฉันไม่ใช่ทีวีพูลนะจ๊ะจะได้รู้ทุกเรื่องของดารา”
“งั้นครูกุ๊กไก่รู้อะไรแค่ไหนเมาท์มาซิ” มดรีบถามต่อ
“ก็แค่นั้นคือว่าเรยาน่ะวิ่งหนีไปกับหมอทอมจูงมือกันไปด้วยนะ แล้วเรยาจะโดนกับดักหมอทอมเลยช่วยทำให้ได้รับบาดเจ็บแล้วก็”
“พอเหอะครูกุ๊กไก่ นี่ขนาดไม่รู้นะเล่าซะละเอียดเหมือนไปเจอมาเองกับตัว นี่ถ้ารู้นะคงเล่ายันเช้าอ่ะ” ปลาขัดคอ
“จะให้เล่ายันเช้าเลยเหรอ เอาก็เอาคืออย่างนี้”
“ครูกุ๊กไก่” สามสาวปราม
“เออๆ ไม่อยากฟังก็อย่าฟัง ว่าแต่ฉันมีเรื่องจะวานพวกหล่อนซะหน่อย”
“ว่ามาเลยค่ะถ้าเป็นครูกุ๊กไก่พวกเรายินดีค่ะ” ปลารับคำ
“มันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร รับรองงานถนัดของพวกเธอ”
“ถนัดงานอะไรคะ” นกถาม
"งานถนัดสุดๆของพวกเราก็มีแค่งานเดียว” มดบอก
“อ่อยผู้ชาย” สามสาวพูดพร้อมกัน
3 สาวโพสต์ท่าเซ็กซี่อยู่ริมลำธารเหมือนนางแบบโฆษณาครีมอาบน้ำ โจรหนุ่มหล่อ 4 คน พากันแอบดู 3 สาวยิ่งรู้ว่ามีคนแอบดูยิ่งเอาใหญ่ อาบน้ำไปร้องเพลงไป 4 หนุ่มแอบดูจนบางคนเลือดออกจมูก บางคนน้ำลายไหลย้อย บางคนเหงื่อผุดเม็ดใหญ่ๆ บางคนยืนบิดไปบิดมา
“กอุ๊ยตายมีคนมาแอบดู” นกอุทาน
“ต๊ายตายอายจุงเบย” ปลากพูดอย่างทำท่าอีกอย่าง
“อยู่ไม่ได้แล้ว”
นกทำท่าจะหนีแต่ผ้าหลุด โจรทั้งสี่อาการหนักกว่าเดิม 3 สาวขำที่แผนยั่วได้ผลสำเร็จ เสือโหยเสือหิวออกมาจากไหนไม่รู้ เสือหิวชักปืนขึ้นยิงโวยวาย
“โอ๊ยวันนี้ทำไมอยากฆ่าคนจังโว้ย”
“หาชะนียิงเล่นสักตัว 2 ตัว 3 ตัวดีไหม”
“ดีพี่ไปหากันเลย”
เสือโหยเสือหิวเดินหาชะนียิงต่อไป 3 สาวหลบ ครูกุ๊กไก่มองอย่างสงสัย จากนั้น 3 สาวก็มารายงานครูกุ๊กไก่
“บอกความจริงมาครูกุ๊กไก่ให้พวกเราไปยั่วโจรทำไม” ปลาถาม
“ดูซิพวกฉันเกือบตายแล้วเห็นไหม” นกต่อว่า
“น่ากลัวสุดๆ น่ากลัวกว่าผีป่าอีก” มดหวาดๆ
“เอาน่าขอให้รู้ว่าฉันทำเพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน”
“แล้วตอนนี้รู้หรือยังล่ะ” ปลาถาม
“ยังก่อน ยังไม่แน่ใจ ขอเวลาฉันพิสูจน์อีกนิดหนึ่
”
“กว่าจะรู้พวกหนูไม่ตายก่อนหรือคะ” นกท้วง
“ใช่ค่ะยิ่งคืนนี้พวกหนูต้องแต่งตัวให้เมฆกับลูกน้องโชว์ด้วย ขืนทำไม่ถูกใจมีหวัง” มดเริ่มสยอง
“เอาน่าพวกเหล่อนก็ทำตามที่มันสั่งไปก่อนก็แล้วกัน”
ครูกุ๊กไก่ครุ่นคิดบางอย่าง
หมอโจรกำลังตรวจอาการของทอม เรยานั่งมองอย่างเป็นห่วง ข้าวหอมมองทอมด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน มะขิ่นเอามือมาเตะที่ไหล่ของข้าวหอมและจับมือเรยา เรยายิ้มเศร้าๆ ให้ข้าวหอมและมะขิ่นเป็นครั้งแรก
“หมอทอมเขาจะเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย” เรยาถาม
“นั่นน่ะสิ ดูท่าทางของหมอทอมเขาแย่มากเลยนะ เขาไปโดนอะไรมาคะคุณเรยา” ข้าวหอมถาม
“เป็นความผิดฉันเองทำให้หมอทอมได้รับบาดเจ็บ”
“น่าเป็นห่วงเขาจัง พวกเราไม่น่ามาเจอเรื่องแบบนี้เลยจริงๆ” มะขิ่นเปรย
“นั่นสิ” ข้าวหอมเห็นด้วย
หมอโจรตรวจเสร็จก็หันมาหาทั้งสามสาว ข้าวหอม มะขิ่น เรยารีบเข้าไปคุยกับหมอ
“อาการเป็นไงคะ”
ข้าวหอม เรยา รีบถามพร้อมกัน เรยาก้มหน้านิ่ง ข้าวหอมเลยถามต่อ
“หมอทอมเขาเป็นอะไรมากมั้ยคะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงเขาไม่เป็นอะไรหรอก”
“ไม่เป็นอะไรมากแล้วจู่ๆ ทำไมล้มไปล่ะค่ะ” เรายาซัก
หมออมยิ้ม “เขาเป็นลมน่ะ คงหิวข้าว”
สามสาวมองหน้ากัน ยิ้มๆ
“ได้ยินหมอพูดแบบนี้พวกเราก็โล่งใจหน่อย” มะขิ่นบอก
“นี่ถือว่าเขาโชคดีนะที่มีการปฐมพยาบาลอย่างดีมาก่อนที่จะถึงมือหมอ นี่เดี๋ยวให้พักฟื้นสัก 4-5 วัน ก็น่าจะอาการดีขึ้นแล้วล่ะ”
“ขอบคุณคะคุณหมอ”
“งั้นเราออกไปข้างนอกกันดีกว่าปล่อยให้เขานอนพักผ่อน”
“ฉันขออยู่ดูแลหมอทอมดีกว่าค่ะ” เรยาบอก
ข้าวหอมยิ้มให้ “งั้นเดี๋ยวฉันเอาอาหารมาให้กินนะ”
เรยาพยักหน้ายิ้มๆ แล้วหันไปดูแลทอมต่อ ข้าวหอม มะขิ่นตามหมอมานอกบ้าน
เก่ง ภูมิยืนรออยู่ข้างนอกกระท่อม ข้าวหอม มะขิ่น หมอเดินออกมา
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”
หมอเดินออกไป เก่ง ภูมิ รีบเดินเข้าไปถามอาการ
“หมอทอมเป็นยังไงบ้างอาการไม่หนักใช่ไหม” เก่งถาม
“ไม่หนักหรอกจ๊ะพักฟื้นหน่อยก็หาย”
“แล้วเรยาล่ะครับ” ภูมิซัก
“เขาขอดูแลหมอทอมค่ะ คนลำบากในป่ามาด้วยกันคงเห็นใจกัน” มะขิ่นบอก
ภูมิหน้าเศร้าลง เก่งพูดกระแทก
“เรยาเขาเป็นคนดีเนอะ ลำบากด้วยกันก็ดูแลกัน ต่างกับคนของเราอยู่ใกล้กันแต่กลับไม่สนใจกัน”
เก่งพูดจบก็เดินงอนๆ ไป ข้าวหอมมองตามงงๆ
“พี่เก่งเขาเป็นอะไรของเขานะคุณภูมิ มะขิ่น”
“ไม่รู้ซิแต่แบบนี้แถวบ้านเรียกว่าหึง” มะขิ่นบอก
“ไร้สาระ งอนได้งอนไป”
ข้าวหอมเดินออกไป มะขิ่นมองตาม
“คู่ข้างในน่าจะลงตัว แต่คู่นี้น่าจะอีกนาน ขี้งอนทั้งคู่ใช่ไหมภูมิ”
มะขิ่นหันมาหาภูมิที่แอบมองเข้าไปในกระท่อมอย่างเศร้าๆ เธอถึงกับถอนหายใจ
“เฮ้อ รักสามเส้า ตอนนี้พี่ครามของฉันเป็นไงบ้างน้า”
ครามเดินทางกับบัว เขาช่วยเอาไม้เขี่ยกิ่งไม้ใบหญ้าข้างทางให้ บัวหันมายิ้ม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ทั้งหมดพักก่อนเพราะเห็นบัวเหนื่อย
“พักก่อนก็ได้ครับผมกับลูกน้องจะลองไปสำรวจพื้นที่ใกล้เคียง”
ทั้งหมดเห็นด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้พาลูกน้องไปด้วย 1 คน ทิ้งไว้ 2 คนดูแลพวกบัว คราม เสี่ยกำธรนั่งเศร้าๆ ครามสงสารเลยเข้าไปคุยด้วย
“ไม่ต้องห่วงเมฆหรอกเสี่ย ยังไงพวกเราจะหาให้เจอ”
“ขอบใจนะไอ้คราม ข้าทำไม่ดีกับเองตั้งเยอะ แต่เอ็งก็ยังอุตส่าห์มีน้ำใจ”
“อย่าคิดมากเสี่ย ยังไงไอ้เมฆมันก็เพื่อนพวกเราเหมือนกัน ถึงแม้มันจะเกเรไปหน่อย” บัวปลอบ
“ข้าไม่เคยคิดว่าพวกเอ็งจะมีน้ำใจขนาดนี้”
“เป็นธรรมดาครับเสี่ย คนเรามักจะไม่คิดไกลเกินกว่าที่ตัวเองคิด เสี่ยไม่เคยสงสารใครไม่มีน้ำใจกับใคร ก็เลยไม่รู้ว่าการมีน้ำใจกับคนอื่นเป็นยังไง”
“จริงอย่างพวกเอ็งพูด ข้าไม่เคยเข้าใจคนอย่างพวกเอ็งจริงๆ”
บัวถอนหายใจ “เฮ้อ คนอย่างเสี่ยนี่แหละที่พระพุทธองค์เรียกว่าบัวในตม”
อร เจ๊ลำไย แหม่ม นั่งที่เต๊นท์เป็นห่วงทุกคนอยู่
“ข้าวหอมจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
“เก่งหลานน้าป่านนี้จะเป็นยังไง จะกินอิ่มนอนหลับหรือเปล่า”
“โธ่ ไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลยแหม่มเลยอดเที่ยวเลย”
“นังแหม่ม นี่แกห่วงแต่เที่ยวไม่ห่วงพวกเราเลยใช่ไหม”
“เจ๊อ่ะห่วงแล้วทำอะไรได้ เจ๊กับพี่อรกลุ้มใจไปก็เปล่าประโยชน์”
สมชายเดินเข้ามาหา
“คุณแหม่มพูดถูกนะครับ ตอนนี้เราทำได้ก็คือรอ แต่ก็รออย่างมีความหวัง”
เจ๊ลำไย อร แหม่มมองหน้าสมชาย เอ็มยืนอยู่ก็พูดแทรกขึ้นมา
“คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ชั่ง ขอแค่ลูกชายฉันไม่เป็นอะไรก็พอ”
ทุกคนมองหน้าเอ็ม
“ทำไมนายถึงพูดแบบนี้เห็นแก่ตัวจริงๆ”
“ใช่ ฉันมันเห็นแก่ตัว ไม่ค่อยจะแคร์ใคร แต่ก็ยังดีกว่าบางคนที่ทำเลวแล้วเลือกที่จะไม่จำอะไรเลย”
“นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ฉันทำเลวอะไร ไหนนายลองพูดว่าสิ อย่าแค่พูดลอยๆ แล้วก็จากไป”
“พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ไอ้คนความจำเสื่อม ไปถั่วพู”
ถั่วพูประคองเอ็มออกไป สาลี่เดินถือกาแฟมาส่งให้ทุกคน สมชายเครียด สาลี่ถามงงๆ
“มีอะไรกันเหรอค่ะ”
ทุกคนเงียบ อรรู้สึกเอะใจ มองสมชายกับเอ็มก่อนหันมามองสาลี่ อรลากสาลี่ออกมาห่างจากสมชายกับเอ็ม
“สาลี่ น้าขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“ได้สิคะ ว่าแต่น้าอรจะถามเรื่องอะไรหรอคะ”
“ก็เรื่องของอาเขยเธอนะ”
“อาสมชาย ทำไมเหรอคะ”
“คุณเอ็มเขาว่าคุณสมชายเขาความจำเสื่อมเหรอจ๊ะ”
“ค่ะ คุณอาจำใครไม่ได้เลยนอกจากอานิดกับคุณเอ็ม”
สาลี่เล่าเหตุการณ์ในอดีตให้อรฟัง ตอนนั้น สมชายนอนอยู่ที่เตียงคนไข้ในโรงพยาบาล นิดคอยเฝ้าดูอาการอยู่ไม่ห่างและร้องไห้ สมชายค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
“ที่นี่ที่ไหน”
“สมชาย สมชายฟื้นแล้ว”
“แล้วนี่คุณเป็นใคร โอ๊ยทำไมผมปวดหัวอย่างนี้”
นิดตกใจมากที่สมชายจำใครไม่ได้ และดิ้นทุรนทุรายเพราะมีอาการปวดหัว
สาลี่คุยกับอรต่อในเรื่องเกี่ยวกับอดีตของสมชาย
“หนูก็ไม่รู้หรอกเพราะยังเด็ก แต่มีคนเล่าให้ฟังว่าอาสมชายเกิดอุบัติเหตุหลังแต่งงานกับอานิด ทั้งคู่ก็เปิดค่ายเพลงค่ะ”
อรโล่งอกบ่นเบาๆ “ถ้างั้นคงไม่เกี่ยวกับพี่กล้า”
“น้าอรว่าไงนะคะ”
“เปล่าๆ น้าว่าคุณสมชายน่าสงสาร คุณเอ็มพูดอะไรก็เถียงไม่ถูก”
“จริงค่ะ ไม่รู้เป็นเพื่อนกันภาษาอะไร กลับไปที่เต็นท์เถอะค่ะมันเริ่มเย็นแล้ว”
อรเดินไปกับสาลี่ ถั่วพูแอบดูอยู่ แล้วรีบกลับมารายงานเอ็มจากเรื่องที่ไปฟังมา
“แผนคุณเอ็มได้ผลค่ะ น้าอรเริ่มสงสัยว่าคุณสมชายเคยทำเลวอะไร”
“คนรักหลานแบบอรมีเหรอจะวางใจให้คนที่มีประวัติไม่ดีดูแลหลาน ในอนาคตฉันอาจจะได้เก่งมาไว้ในกำมือ”
“แล้วคุณสมชายเคยทำเลวจริงๆ เหรอค่ะคุณเอ็ม”
เอ็มนิ่ง คิดถึงเรื่องในอดีต วันนั้น ที่โรงพยาบาล นิดยืนคุยกับหมออยู่หน้าห้อง
“เขามีโอกาสจะจำเรื่องเก่าๆ ได้ไหมค่ะ”
“พูดยากครับ อาจจะจำได้หรือไม่ได้ตลอดไป ถ้าในสมองส่วนลึกเขามีเรื่องสะเทือนใจไม่อยากจำ เขามีญาติพี่น้องไหมครับ”
“ไม่มีค่ะ มีแค่ดิฉันเป็นคู่หมั้นเขา”
“ดีครับ อย่างน้อยก็มีคนสนิทดูแล ผมขอตัวนะครับ”
หมอเดินไป เอ็มเดินเข้ามา
“ถือโอกาสสวมรอยเลยนะคุณนิด”
“มันเรื่องของฉัน ยังไงเขาก็เป็นพ่อหม้ายอยู่แล้ว”
“แล้วลูกชายเขาล่ะคุณไม่คิดจะตามหาเหรอ”
“ไม่ ถ้าเขาเจอลูก ความจำเขาอาจกลับมาก็ได้ ฉันไม่อยากให้เขาจำไอ้เด็กเวรนั่น”
“คุณนี่ร้ายไม่เบาเลย”
“ฉันรักเขา ฉันไม่สน ฉันจะทดแทนเขาด้วยการเปิดค่ายเพลงที่เขาฝันไว้”
นิดเดินกลับเข้าห้องพักคนไข้ เอ็มยิ้มๆ
อรเดินกลับมา แหม่มกับเจ๊ลำไยรีบเข้าประกบถาม
“ว่าไงอร ได้เรื่องว่าไงบ้าง เขาเกี่ยวข้องกับการตายของพี่กล้าหรือเปล่า”
“ไม่หรอกเจ๊ เขาความจำเสื่อมเพราะเกิดอุบัติเหตุ พอหายก็เปิดค่ายเพลงกับเมียเขา”
“งั้นก็ไม่เกี่ยว เพราะเพื่อนพี่กล้าไม่มีเงินมาเอาเงินที่พี่กล้าแต่นี่เมียเขามีเงิน”
“แล้วเราจะเชื่อยัยสาลี่ได้เหรอพี่ เขาเป็นอาหลานกัน”
“สาลี่คงไม่ได้โกหกหรอก ฉันพอดูออก”
“ดูๆ ไปก็น่าสงสารเนอะ จำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเอง”
“ใช่มันอ้างว้างไม่ต่างอะไรกับคนที่อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้”
อรหันไปมองสมชายที่จัดเตรียมข้าวของอยู่กับสาลี่
เก่ง ข้าวหอมนั่งกันอยู่คนละมุม มะขิ่นยืนเท้าเอวมองเซ็งๆ ภูมินั่งดูความเรียบร้อยของกีตาร์ใกล้ๆ
“นี่ตกลงกันได้หรือยังว่าจะให้แต่งตัวใครก่อนดี” มะขิ่นถาม
“ข้าวหอมเป็นผู้หญิงแต่งนาน”
“พี่เก่งนั้นแหละแต่งก่อนเลย”
“โอ๊ยตกลงจะแต่งไม่แต่ง”
“ไม่แต่ง”
ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน มะขิ่นส่ายหัวเดินไปหาภูมิอย่างหงุดหงิด
“ถ้าสองคนนี้งอนกันไปงอนกันมานานกว่านี้ฉันบ้าตายก่อนพอดี”
“ใจเย็นๆ น่ามะขิ่น สองคนนั้นไม่ได้โกรธกันจริงหรอก”
“นายรู้ได้ยังไง”
“รู้ซิ เขาแค่อยากเอาชนะกันเท่านั้น แบบนี้เป็นเรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน มะขิ่นไม่รู้เหรอ”
มะขิ่นอึ้งๆ เพราะเธอไม่เคยมีอาการแบบนี้
“แสดงว่ามะขิ่นยังไม่เคยตกหลุมรักใครอย่างจริงจัง”
“พูดมาก ทำเป็นรู้ดี นายก็ไม่มีแฟนเหมือนกันแหละน่า”
มะขิ่นงอนเดินหนีไป ภูมิมองตามยิ้มๆ
อาร์มเดินไปเดินมาท่าทางร้อนใจ ป้าสีวังเองก็พยายามมองดูรอบๆ ป่าอย่างกลัวๆ
“นี่เรารออะไรกันหรอคะป้าสีวัง”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะก็อยู่ด้วยกันเนี่ย”
ป้าสีวังเดินไปหาเสี่ยสำราญ
“เสี่ยคะ ทำไมคนนำทางไม่นัดเจอกันในเมืองแล้วค่อยเข้าป่า ทำไมนัดเรากลางป่าอย่างนี้ล่ะคะน่ากลัวจะตาย”
“ใจเย็นๆ คนชำนาญการเดินป่าของผมน่ะมืออาชีพ ต้องนัดกันกลางป่าเท่านั้น”
“ขอให้มืออาชีพจริงๆ เหอะ”
“เดี๋ยวคอยดูแล้วกัน รับรองฮ่า”
ป้าสีวังมองเสี่ยสำราญสงสัย เสี่ยสำราญยิ้มอย่างมีเลศนัย
คราม บัว และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เดินมาหยุดที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
“เดี๋ยววันนี้เราพักกันที่นี้ก่อนนะครับ เพราะว่าดึกมากแล้ว”
“ได้ครับไม่มีปัญหา” ครามรับคำ
“หยุดพักแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้เจอกับลูกชายฉันล่ะ” เสี่ยกำธรร้อนใจ
“ในป่าใหญ่แบบนี้ เรารีบร้อนไม่ได้ครับ เราต้องค่อยๆ แกะรอย ไปพักก่อนเถอะครับเชื่อผม”
“ผมไม่สน นี่ยังไม่มืดเลยผมต้องการออกตามหาลูกเดี๋ยวนี้”
“ตามใจถ้าเสี่ย อยากไปก็ตามใจ แต่ฉันกับครามจะอยู่กับพวกพี่ๆ เขาตรงนี้แหละ” บัวยืนยัน
“อ้าวแล้วพวกเอ็งไม่ห่วงเพื่อนห่วงพี่สาวแล้วเหรอ”
“ห่วง แต่เราต้องเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ขืนดุ่ยๆ ไป แล้วหลงป่าหรือทำให้ร่องรองการตามหาหาย ใครจะรับผิดชอบ” ครามอธิบาย
เสี่ยกำธรจนด้วยเหตุผล เดินไปนั่งพักกับเชิดใต้ต้นไม้ใกล้ๆ ครามรีบพูดขอโทษเจ้าหน้าที่ป่าไม้
“ไม่ต้องเครียดเรื่องคำพูดของเสี่ยกำธรหรอกนะครับ เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ”
“พวกผมเข้าใจ แต่ที่ห่วงผมกลัวว่าเราจะเจอกลุ่มอื่นนอกจากเสือโหยเสือหิว”
เจ้าหน้าที่ป่าไม้เครียด
เสี่ยสำราญเดินไปมามองไปในป่าแล้วดีใจสุดฤทธิ์
“นั่นไงมาแล้วนายพรานคนเก่งของเรา”
อาร์มกับป้าสีวังตกใจตาโตอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น เงาะป่าตัวดำกางเกงแดงถือไม้กระบองเดินออกมาจากป่าและตรงมาที่เสี่ยสำราญ
“หวัดดีจ้ะเสี่ย”
“สวัสดี นี่แหละคนที่จะเป็นพรานนำทางให้เรา”
“เสี่ยแน่ใจหรอคะว่าจะรอด มันไม่เอาพวกเราไปต้มกินเสียก่อน” อาร์มถามกลัวๆ
“ไม่กินจ้ะถ้าไม่จำเป็น” เงาะป่าตอบ
ทุกคนสะดุ้ง เมียๆ เสี่ยเบี่ยงตัวเข้าใกล้เสี่ยสำราญ จนน่ารำคาญ
“จะกลัวอะไรกันนักหนา เดี๋ยวพ่อปล่อยให้ไอ้เงาะมันกินจริงๆ ซะนี่”
“จะรอดไหมเนี่ยตู”
“รอดซิ ในป่าเนี่ยไม่มีใครชำนาญทางเกินเจ้าเงาะอีกแล้ว รู้จริงรู้ทุกเรื่องต้องเจ้าเงาะ”
“ใช่จ้ะไม่ว่าจะไปซอกไหน รูไหน ถ้ำบนดินถ้ำใต้น้ำ กิ่งไม้ทุกกิ่งต้นไม้ทุกต้น”
เงาะป่าพูดไปเดินไปสะดุดกิ่งไม้ล้มลงหน้าจิ้มดิน อาร์ม ป้าสีวังสะดุ้ง ละเหี่ยใจ
“รู้จักทุกต้นแต่คงยกเว้นต้นนี้ เสี่ยคะเอาอย่างนี้ดีกว่า” ป้าสีวังขอปรึกษา
“ว่ามาเลยจ้ะเอาไงเอากัน”
“ดิฉันอยู่รอเสี่ยที่ศูนย์ป่าไม้ดีกว่าค่ะ เผื่อมีเหตุจำเป็นจะได้มีคนประสานงาน”
“อ้าวแล้วใครจะเข้าไปกับอั๊วล่ะ”
“นังอาร์มไงคะเสี่ย อาร์มมันคนสองเพศ จะได้คล่องตัวรับก็ได้รุกก็ดี”
“คุณป้าขา ทำไมโยนขี้ให้หนูอย่างนั้นล่ะคะ”
“เฉยๆ เหอะ ส่วนแบ่ง 30 เปอร์เซ็นต์เอาหรือเปล่า”
อาร์มจำยอม
“อืมก็ดีเหมือนกันไปพวกเราเดินทาง”
เสี่ยสำราญเดินตามเจ้าเงาะไป อาร์มเดินตามหลังมองป้าสีวังอย่างอาลัยอาวรณ์
“จับตัวบัวให้ได้เร็วๆ นะคะเสี่ย โชคดีนะคะ”
ปายอนั่งชันเข่าลงกับพื้นพร้อมกับเอามือสัมผัสผิวดิน
“พวกที่หลงป่าน่าจะเป็นคนสำคัญ”
“ทำไมปายอ มีอะไรผิดปกติเหรอ”
“เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำกำลังออกตามหากลุ่มคนหลงป่า”
“แล้วอย่างนี้เราจะทำยังไงดีครับ อีกไม่กี่วันเราต้องลำเลียงของด้วย”
“ลองดูสถานการณ์ไว้ก่อน ถ้าหลีกเลี่ยงได้เราก็หลีก แต่ถ้าไม่ได้เราก็จำเป็นต้องฆ่าให้หมด ข้าจะปล่อยให้คนไม่กี่คนมาทำงานใหญ่ของเราพังไม่ได้”
ปายอจริงจังมาก
กลางคืน เมฆถูกนก มด ปลา แต่งหน้าให้เป็นผู้หญิง
“ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยเนี่ย”
“นี่อยู่นิ่งๆ ไม่เป็นรึไง แบบนี้เดี๋ยวไม่สวยนะ” นกบอก
“ก็ฉันไม่อยากแต่งเป็นผู้หญิงนี่ป้า อยากแต่งก็แต่งเองซิ”
“ต๊ายไอ้เด็กเปรต ปากดีเดี๋ยวปล่อยให้พวกโจรมันฆ่าทิ้งซะนี่” ปลาต่อว่า
“อยากตายมากหรือไงจ๊ะพ่อรูปหล่อ” มดถาม
นกพูดแบบสยอง “รู้ไหมถ้าถูกฆ่าตายกลางป่า วิญญาณจะกลายเป็นผีป่าไม่ได้พบหน้าพ่อหน้าแม่อีกต่อไ”
“เรายอมเถอะจ้ะลูกพี่ ฉันไม่อยากเป็นผีป่า” ดุ่ยอ้อนวอน
“นั้นสิลูกพี่เมฆ อับอายขายขี้หน้ายังมีโอกาสแก้ตัว แต่ถ้าตายกลายเป็นผีหมดโอกาสนะพี่” ดุ๋ยอ้อนวอนอีกคน
“ก็ได้ นี่ข้าเห็นแก่เอ็ง 2 คน หรอกนะ เอ้าจะทำอะไรก็เชิญ”
3 สาวยิ้มพอใจ รุมแต่งตัวให้ 3 หนุ่ม
เวลาต่อมา เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย ถูกนก มด ปลาดันออกมาจากหลังเวที 3 หนุ่มแต่งกายเป็นหญิงโชว์ร้องเพลงเลียนแบบ เสือโหยเสือหิวหัวเราะชอบใจ มะขิ่น ครูกุ๊กไก่กับภูมิพลอยโล่งอก
เรยานั่งเฝ้าไข้ทอมจนหลับข้างๆ ทอมฟื้นขึ้นมาเห็นเรยานั่งอยู่ข้างๆ เขามองไปรอบๆ ตัว พอรู้ว่าเป็นบ้านและมีอุปกรณ์ยาก็พอรู้ว่าน่าจะเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน ทอมเห็นเรยาหลับเลยเอาผ้าห่มห่มให้
“ขอบคุณนะครับ นอกจากแม่และน้องสาวผมก็คงมีคุณนี่แหละที่เป็นห่วงผมอย่างจริงใจ”
ทอมมองเรยายิ้มๆ แล้วล้มตัวลงนอนต่อเพราะยังเหนื่อยอ่อน เรยาลืมตาขึ้นมาเหมือนยังหลับไม่สนิท อมยิ้ม กระชับผ้าห่มในมืออย่างมีความสุข
การแสดงจบลง ทุกคนตบมือเป็นการใหญ่ มะขิ่นขึ้นเวทีประกาศ
“ต่อไปนี้ขอเชิญพบกับนักร้องยอดนิยม เก่ง เกรียงไกร และนักร้องน้องใหม่ ข้าวหอม ประกายนา”
เพลงขึ้นเก่งและข้าวหอมขึ้นเวทีร้องเพลงโดยมีภูมิเล่นกีต้าร์นำล่อง ทั้งสองร้องเพลงแก้กันไปมา เสือโหยเสือหิวตะลึงที่ได้เจอกับนักร้องตัวจริง
“นั่นมันเก่ง เกรียงไกร สัญญาเมื่อสายัณห์”
“และนั่นมันข้าวหอม ประกายนา สัญญารักปากช่อง”
“ใช่ ทั้งสองคนนี้เป็นนักร้องเจ้าของเพลงตัวจริง” มะขิ่นย้ำบอก
เสือโหยเสือหิวฟังเพลงอย่างสุดแสนจะเคลิ้มจนจบ ครูกุ๊กไก่คอยแอบมอง 2 เสือตลอด เก่งและข้าวหอม ร้องจบ เสียงตบมือเกรียวกราว เสือโหยตบหน้าเสือหิว เสือหิวตบหน้าเสือโหย
“เราสองคนก็ไม่ได้มโนไปเอง”
“ชัวร์ค่ะไม่ได้มโน” มะขิ่นย้ำ
“โถๆๆๆ ทำไม่ไม่บอกความจริง รู้อย่างนี้พวกเราไม่ให้พวกเธอต้องลำบากแม้แต่นิดเดียว”
“งั้นพรุ่งนี้เราจะไปส่งนะ” เสือหิวบอก
“ไม่ได้นะคะ” ครูกุ๊กไก่ค้าน
“ทำไมล่ะ” เสือโหยแปลกใจ
“ตอนนี้เก่งกับข้าวหอมมีปัญหานิดหน่อย” มะขิ่นบอก
มะขิ่นกับครูกุ๊กไก่ช่วยกันกระซิบให้เสือโหยเสือหิวฟัง เสือโหยโมโห
“ไม่ได้ ฉันยอมไม่ได้ ไม่ต้องห่วง เราสองศรีพี่น้องจัดการเอง”
มะขิ่นยิ้มๆ ครูกุ๊กไก่ยิ้มแฉ่ง โล่งใจสุดๆ ที่เห็นอาการเสือโหยเสือหิวออกหญิงนิดๆ
เจ้าหน้าที่สองคนเดินไปเดินมาเพื่อเป็นเวรเฝ้ายามให้กับบัว คราม เสี่ยกำธร เชิดหลับยามเช่นเคย เสี่ยกำธรบ่น
“ไม่เคยเลย มีลูกน้องก็เหมือนไม่มีเอา แต่นอนๆ ได้ทั้งวี่ทั้งวัน”
บัว ครามนั่งล้อมกองไฟอยู่ บัวเศร้าหมอง ครามเห็นจึงเขยิบไปนั่งข้างๆ
“เป็นอะไรบัว ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนี้ล่ะ”
บัวค่อยๆ หันไปมองหน้าคราม
“ฉันเป็นห่วงพี่ข้าวหอม ห่วงทุกคนที่รู้จัก”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันเชื่อว่าเก่งมันต้องดูแลข้าวหอมได้แน่นอน”
“แต่ฉันกลัว ตอนนี้ฉันกลัวทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต”
“เธอไม่ต้องกลัวเพราะเธอยังมีฉันที่จะคอยปกป้องเธอเอง”
“ขอบคุณนายมากนะ”
ครามค่อยๆ จับมือบัวขึ้นมา
“บัว เธอฟังฉันไว้นะ ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือไม่ว่าวันข้างหน้าจะเจออะไร ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ”
ทั้งสองคนมองหน้ากัน เสี่ยกำธรนั่งอยู่ข้างๆ ได้ยินจึงรู้สึกรำคาญ
“ได้ยินแล้วอยากจะอ้วก แต่ข้าก็ห่วงไอ้เมฆเหมือนกันไอ้เมฆลูกพ่”
ทั้งสองคนหันไปมองเสี่ย
อรกำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับทุกคน สมชายเดินผ่านมาเห็นจึงเดินเข้าไปหา
“ทำอะไรอยู่หรอครับ”
“ก็กำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับทุกๆ คนอยู่ค่ะ”
“ขยันจังเลยนะครับ”
“ไม่หรอก ฉันก็ทำอาหารแบบนี้ทุกวันตอนที่อยู่บ้าน”
“น่าอิจฉาเก่งจังเลยนะครับ เขาได้กินอาหารฝีมือคุณทุกวัน ถ้ามีคนมาทำอาหารให้ผมกินแบบนี้ทุกวันบ้างก็คงจะดีนะครับ”
อรอมยิ้มเขินๆ แหม่ม เจ๊ลำไยเดินผ่านมาหยุดดู เจ๊ลำไยลากแหม่มออกมายืนคุยอีกมุม
“นังแหม่มแกเห็นเหมือนอย่างที่ฉันเห็นมั้ย”
“เห็นสิเจ๊ ตาฉันไม่ได้บอดนี่ เห็นเต็มสองลูกกะตาเลย”
“สองคนนั้นดูชักจะยังไงยังไงอยู่นะ”
“โหๆ ปกติอาการแบบนี้มันต้องเป็นอาการของฉันนะเจ๊ แต่นี่ทำไมเจ๊ดูร้อนรนจังเลย”
“แกอย่าเพิ่งขัดได้ไหม ฉันว่าคุณสมชายต้องจีบอรแน่ๆ หมอกฤษคอนเฟิร์ม”
“อ่ะๆๆ นั่นไง เจ๊อิจฉาพี่อรใช่มะ เมื่อก่อนขึ้นคานอยู่ด้วยกัน 2 คน แต่ตอนนี้พี่อรอาจมีสิทธิ์สลัดคาน งานนี้เจ๊ต้องอยู่เดียวดายหัวเดียวกระเทียมลีบแน่นอน”
แหม่มพูดไม่คิดเหมือนเคย แต่เจ๊ลำไยคิดหนัก
ที่ซุ้มโจร ทุกคนมารวมตัวกันที่ลานกว้าง เก่งกับข้าวหอมยังคงงอนๆ กันอยู่ เรยาประคองทอมมาร่วมฟังด้วย เสือโหยเริ่มพูด
“ที่ฉันเรียกทุกคนมาวันนี้เพราะมีเรื่องจะบอก”
“เรื่องนั้นก็คือ”
เสือหิวยกปืนขึ้น สัตว์ต่างๆ พากันวิ่งหนี ชาวบ้านและลูกน้องโจรพากับหลบ
“ไม่ต้องกลัววันนี้ไม่ยิง”
“ข้าคิดดูแล้วจะปล่อยพวกเอ็งทุกคนกลับบ้านและจะพาทุกคนไปส่งที่ปากทางเข้าป่า” เสือโหยบอก
ทุกคนดีใจ ยกเว้นมะขิ่น ภูมิ ครูกุ๊กไก่ที่อมยิ้มนิดๆ เสือโหยพูดต่อ
“แต่มีข้อแม้ซึ่งเป็นกฎของถ้ำเสือ”
“กฎว่าไงบอกมาเลย” เก่งถาม
เสือโหยมองปลื้ม “เท่ห์ หล่อ สมเป็นนักร้องในดวงใจ คือว่าพวกเอ็งต้องส่งตัวแทนมาสองคนช่วยเหลืองานพวกข้าก่อน”
เก่งกับข้าวหอมก้าวออกมาพร้อมกัน ทั้งสองมองหน้าที่ใจตรงกัน
“ดีมากงั้นเราก็เลือกเก่งกับข้าวหอมเป็นตัวแทนทุกๆ คน”
ที่ซุ้มโจร ทุกคนกำลังยืนคุยกันอยู่ แต่เก่งกับข้าวหอมทำหน้าบึ้งตึงใส่กัน
“ตกลงตามนั้นขอแค่ได้กลับบ้านเพราะว่าฉันไม่อยากจะอยู่กับคนขี้งอน” ข้าวหอมบอก
“ผมเองก็อยากจะออกจากป่านี้เหมือนกันเอาไงเอากัน ตกลงจะให้ช่วยอะไร ช่วยเสร็จจะได้กลับบ้าน” เก่งพูดงอนๆ
เรยารีบพูด “ยังออกจากที่นี้ไม่ได้หรอกเพราะว่าหมอทอมยังป่วยอยู่เลย”
“แต่ผมหายป่วยแล้วนะครับ”
ทุกคนพูดเสียงดังพร้อมๆ กัน
“ยังไม่หาย”
ทอมงง “แต่ว่า”
มะขิ่นพูดแทรกขึ้นมา “บอกว่ายังไม่หายก็คือยังไม่หายสิ”
ทอมมองหน้าทุกคนอย่างงๆ ลูกน้องเสือโหยวิ่งเข้ามาหน้าซุ้ม
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วนาย”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“มีชาวบ้านถูกงูกัดอยู่ที่กลางป่านะสิครับนาย”
เสือโหยทำหน้าเจ้าเล่ห์ “อ้าวเหรออย่างนี้ก็ต้องรีบไปรักษาแล้วสิ”
“ผมอาสาเองครับเพราะผมเป็นหมอ”
“เดินทางกลับยังไม่ไหวให้ผู้ช่วยที่ถูกเลือกแล้วไปดีกว่า”
ทอมทำท่าจะเถียงเก่งรีบตัดบท
“สรุปผมกับข้าวหอมไปเอง เรื่องทุกอย่างมันจะได้จบๆ กันไป”
ข้าวหอมมองเก่งด้วยความน้อยใจ
หัวหน้าป่าไม้เดินสำรวจดูป่ารอบๆ อย่างเคร่งเครียด บัว ครามมองหน้ากันสงสัย
“เกิดอะไรขึ้นอีกรึเปล่านะ”
“นั่นน่ะสิ ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลย”
หัวหน้าป่าไม้เดินกลับมาหาบัว คราม เสี่ยกำธร
“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ”
“เราพบเบาะแสของกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเข้ามาในพื้นที่ของเราน่ะครับ”
“แล้วยังไงล่ะครับมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย” เสี่ยกำธรถาม
“เกี่ยวซิครับ มันไม่ได้เป็นแค่หลงเข้ามาแต่พวกมันอาจจะสำรวจเส้นทางลำเลียงยาเสพติด”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างตกใจ
“หัวหน้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐยังกังวลแล้วถ้ามันเจอพวกเราที่หลงป่าล่ะค่ะ”
“ผมว่าเราเร่งตามพวกเราเถอะครับ”
“ใช่ ไอ้ครามพูดถูก ผมห่วงลูกชายผมจะแย่อยู่แล้ว”
“ห่วงพวกคุณก่อนดีไหมครับ ผมว่าเราน่าจะกลับไปที่ศูนย์ป่าไม้ก่อนแล้วผมจะนำกำลังเข้ามาหาลูกชายคุณเอง”
“ไม่กลับ ฉันจะไปตามหาลูกชายสุดที่รักของฉัน”
“แต่ผมให้พลเรือนเสี่ยงไม่ได้ เรื่องติดตามคนเป็นหน้าที่ของผมเอง เก็บของไปส่งคุณๆ เขาที่ศูนย์”
เจ้าหน้าที่ป่าไม้สั่งลูกน้อง เสี่ยกำธรฮึดฮัด ครามถอนหายใจก่อนจะพูด
“เสี่ยผมก็ห่วงเก่งกับข้าวหอมเหมือนกัน แต่เราควรทำตามที่หัวหน้าแนะนำ”
“จริงด้วย เสี่ยดูท่าทางพวกเขากังวลมาก มันคงเรื่องใหญ่แน่ๆ”
“โธ่ไอ้เมฆลูกพ่อ”
เสี่ยกำธรมองซ้ายขวาเห็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้และทุกคนเผลอ ก็สะกิดโย่ง เสี่ยกำธรค่อยๆ หลบออกจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ป่าไม้
อ่านต่อหน้าที่ 3
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 10 (ต่อ)
เมฆ ดุ๋ย ดุ่ยนั่งมองภูมิ มะขิ่น เรยาคุยกันอย่างมีความสุข
“พวกมันมีความสุขอะไรกันนักหนา” เมฆสงสัย
“ตื่นเต้นจะได้กลับบ้านมั้งพี่” ดุ่ยบอก
“เหรอ แต่ข้าว่าไม่ใช่ว่ะ”
“ฉันก็คิดเหมือนพี่ หมอทอมเป็นหมอแต่ไม่ให้ไปช่วยคน กลับเอาไอ้เก่งกับข้าวหอมไปแทน” ดุ๋ยตั้งข้อสังเกต
“แล้วเอ็งจะให้มันเอาพวกเราไปแทนหรือไงว่ะ” ดุ่ยแย้ง
“เฮ้ยไม่ไปนะข้ากลัว ไปหา 3 สาวดีกว่าอย่างน้อยก็ปลอดภัย”
เมฆรีบเดินออกไป ดุ่ย ดุ๋ย งง ที่เมฆเริ่มติด 3 สาว
ที่ชายป่า อรนั่งคุยกับเจ๊ลำไย แหม่ม สมชาย สาลี่ โดยมีเอ็มกับถั่วพูนั่งอยู่เต๊นท์ใกล้ๆ
“ฉันล่ะเป็นห่วงบัวกับไอ้ครามจริงๆ ที่เข้าไปในป่า”
“ฉันเองก็เป็นห่วงไม่แพ้เจ๊เหมือนกัน ชุดเก่ายังไม่กลับมาชุดใหม่เข้าไปอีกแล้ว”
“เจ้าประคู้ณลุนช่อง ขอให้ทุกคนปลอดภัยด้วยเถอะ” แหม่มยกมือไหว้ท่วมหัว
“สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้ก็แค่ภาวนาอย่างที่คุณแหม่มว่าแหละครับ” สมชายบอก
“เมื่อไหร่เรื่องราวเลวร้ายจะจบลงสักทีนะ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแล้วเชียว” สาลี่บ่น
สมชายดุสาลี่ “ชีวิตคนต้องมาก่อนผลประโยชน์นะสาลี่ ถ้าเราเห็นแก่ตัวเอาแต่ประโยชน์ไม่แคร์จิตใจเพื่อนร่วมงาน อีกหน่อยเราก็จะไม่เหลือใคร”
สาลี่จ๋อยลงไปเพราะรู้ว่าพูดในสิ่งไม่ควรพูด อรมองสมชายอย่างชื่นชม เจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งข่าว
“เก็บของเถอะครับบริเวณนี้ไม่ปลอดภัย”
“หมายความว่ายังไงแล้วพวกที่เข้าป่าไปล่ะ” อรถามร้อนใจ
“กำลังกลับมาสมทบกับเราที่ศูนย์ครับ ตอนนี้ทำตามที่บอกก่อน”
อรมองหน้าเจ๊ลำไยที่พยักหน้าให้ช่วยกันเก็บข้าวของ สมชายมองทุกคนอย่างหนักใจ
เสี่ยสำราญนั่งอยู่กับเมียทั้งสี่ หัวหน้าเงาะป่าและลูกเงาะทั้งหลาย เอาผลไม้ต่างๆ มาให้กินไม่ขาดสาย
“อยู่แบบนี้มันแสนสบายจริงๆ โว้ย”
“เสี่ยชอบอยู่ที่ไหนพวกเราก็ชอบอยู่ที่นั้นแหละคะเสี่ย”
อาร์มนั่งหน้าบูดอยู่คนเดียว
“มันน่าแสนสบายตรงไหนเนี่ย ดูสิร้อนก็ร้อน เครื่องอำนวยความสะดวกก็ไม่มี”
เสี่ยสำราญทำตาหวานใส่อาร์ม
“มากินด้วยกันซิหนูอาร์มอร่อยนะจะบอกให้”
“เชิญเสี่ยเถอะค่ะหนูกินไม่ลง”
“ตามใจแล้วจะเสียดายนะ”
เสี่ยหันไปกินกับเมียๆ อาร์มมองเซ็งๆ มีเงาะตัวดำมานั่งยิ้มอยู่ใกล้ๆ อาร์มถึงกับสะดุ้งเขยิบหนีมานั่งบ่น
“นังอาร์มนะนังอาร์ม ดวงตกต้องไหว้ราหูก็ไม่บอก ดูซิหันไปทางไหนก็เจอแต่ของดำ คุณป้านะคุณป้าส่งสาวน้อยร่างบอบบางมาลำบากแท้ๆ”
เก่ง ข้าวหอม และหมอโจรเดินมาที่ลำธาร
“เดี๋ยวเราหยุดพักกันตรงนี้ก่อนนะครับ” หมอบอก
“ไม่รีบไปเหรอหมอคนไข้ถูกงูกัดนี่” เก่งท้วง
หมออ้ำอึ้ง “เอ่อ คือว่างูในป่านี้พิษมันช้าครับต้องไปให้จังหวะเวลามันพอดี”
“พวกฉันก็โตมาจากบ้านนอกนะจ๊ะงูแบบนี้ไม่เคยได้ยิน”
“นั่นซิหมอ งูพันธุ์อะไรน่ะประหลาดแท้ แล้วรูปร่างหน้าตามันเป็นยังไงเหมือนผู้หญิงขี้งอนแถวนี้ไหม”
“พี่เก่งจะว่าก็ว่ามาตรงๆ ไม่ต้องมาหลอกด่ากัน”
“ใคร ใครจะกล้าว่านักร้องลูกทุ่งหญิงคนดังอนาคตสดใส แต่จิตใจโลเล”
“อ๋อ ที่โบราณเขาว่าคนเราคิดไม่ดีกับคนอื่นยังไงก็คิดว่าคนอื่นจะทำตามที่ตัวเองคิด พึ่งจะเห็นของจริงคาตาก็วันนี้แหละ”
“ข้าวหอมว่าพี่ใจโลเลเหรอ”
“ก็พี่มาว่าฉันก่อนนี่”
ทั้งสองเถียงกันไปมาจนหมอเวียนหัว
“ผมว่าเราอย่าพักเหนื่อยเลยเดินทางกันต่อเถอะ”
เก่งกับข้าวหอมเดินสะบัดหน้าหนีไป หมอโจรมองตามยิ้มๆ ส่ายหัวกับความขี้งอนของคนทั้งคู่
ปายอและลูกสมุนกำลังขนกล่องไม้ขนาดใหญ่เดินในป่า ปายอหยุดเดินแล้วมองไปรอบๆ
“ข้าว่าเอ็งพาพวกนำทางไปก่อน ถ้าปลอดภัยค่อยเอาสินค้าตาม”
“ทำอย่างนั้นเราก็เสียเวลาน่ะซิปายอ”
“ก็ยังดีกว่าจะให้แผนทุกอย่างล้มเหลว”
“เราเปลี่ยนเส้นทางดีไหม”
“ไม่ได้ เส้นทางเสือโหยเสือหิวปลอดภัยสุดแล้ว แต่เผอิญมันดันมีคนหลงป่า เจ้าหน้าที่ถึงได้ยั้วเยี้ยขนาดนี้”
“แต่มันเสี่ยงนะปายอ”
“เราต้องทำเพื่อการกู้ชาติของเรา”
ปายอมองไปข้างหน้าด้วยแววตามุ่งมั่น
อรและทุกคนกำลังเก็บของอย่างเร่งด่วน คราม บัว และหัวหน้าป่าไม้พร้อมเจ้าหน้าที่เข้ามาสมทบ เจ๊ลำไยรีบเข้าไปสอบถามบัว
“เกิดอะไรขึ้น เจอข้าวหอมไหม แล้วไอ้เก่งล่ะนี่ไม่เจอใครเลยเหรอ”
“ผมคงต้องขอให้ทุกท่านออกนอกพื้นที่ป่าก่อน คนของผมจะไปส่ง”
“ไปส่งหมายความว่าหัวหน้าจะกลับเข้าไป” สมชายถาม
“ครับ”
“คนแค่นี้จะเอาอะไรไปสู้กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายถ้าเกิดปะทะกัน” ครามถาม
“ไม้ต้องห่วงกำลังเสริมกำลังตามมาครับ”
บัวกับครามขออาสาไปด้วย
“ถ้าหัวหน้าไม่ให้ไป ฉัน 2 คนก็จะไปเอง”
ถั่วพูเดินมาฟังกับเอ็ม
“แล้วอย่างนี้ลูกชายผมจะปลอดภัยมั้ย ทอม ทอม ลูกพ่อ”
“ผมรับปากไม่ได้แต่จะทำให้ดีที่สุด”
เอ็มตกใจโรคหัวใจกำเริบ มีอาการเจ็บที่หน้าอก ถั่วพูเห็นจึงประคองเอาไว้ สมชายสั่ง
“ถั่วพูเอายาให้เอ็มกินแล้วพาไปพัก หัวหน้าจะทำอะไรก็รีบๆ ทำเถอะครับ ครามกับบัวเขาแกร่งพอที่จะไม่เป็นภาระหัวหน้าแน่”
“โอเค ถ้างั้นคราม บัว ตามผมมา ส่วนที่เหลือกลับไปรอฟังข่าวที่ศูนย์”
ครามกับบัวเร่งตามหัวหน้าป่าไม้ไป อร เจ๊ลำไย แหม่มมองตามอย่างเป็นห่วง สมชายสั่งงานต่อ
“สาลี่ช่วยน้าๆ เขาเก็บของจะได้เคลื่อนย้ายเร็วๆ แล้วนี่เสี่ยกำธรกับนายเชิดหายไปไหนล่ะ”
ทุกคนมองหาไม่เห็น สมชายหนักใจ
เสือโหยเสือหิวกำลังนั่งจิบน้ำชาอย่างมีความสุข
“เราสองพี่น้องนี่เป็นโจรที่ดีและฉลาดสุดๆ” เสือโหยบอก
เมฆเดินผ่านมาเลยหยุดแอบฟัง ดุ่ย ดุ๋ยตามมาก็แอบฟังด้วย
“ใช่ ไม่น่าเชื่อว่าเรากลายเป็นคิวบิกประสานรอยร้าวให้นักร้องในดวงใจ”
เสือโหยเสือหิวมองหน้ากัน
“กามเทพแห่งรัก”
“ขอให้แผนการครั้งนี้สำเร็จ น้องเก่งกับหนูข้าวหอมจะได้ค้างคืนกันตามลำพังสองต่อสอง”
“แล้วหลังจากนั้น”
เสือโหย เสือหิว ขำๆ เมฆโมโหที่รู้ความจริงแต่ไม่กล้าโวยวายเพราะกลัวเสือโหยเสือหิว เมฆเดินมานั่งที่ขอนไม้อย่างหงุดหงิด ดุ่ยกับดุ๋ยมองลูกพี่อย่างเห็นใจ
“น่าสงสารลูกพี่เราจริงๆ” ดุ่ยเปรย
“แบบนี้อกหักแหงๆ ลองได้งุงิๆๆๆ ทั้งคืนก็ไม่เหลืออะไรให้หวังแล้ว” ดุ๋ยบอก
“เซ็งโวยเซ็งข้าจะทำยังไงดี”
“ทำใจอย่างเดียว” ดุ่ยบอก
ดุ๋ยทำท่านึก “ลูกพี่ ถ้าเราไม่ได้เราก็ต้องป่วนถึงจะเข้าสโลแกนลูกชายคนเลวคนชั่วแห่งปากช่อง”
เมฆมองดุ๋ยอย่างมีความหวัง
ทอมกำลังจะกินยาที่วางอยู่บนโต๊ะ เรยาเข้ามา
“เป็นยังไงบ้างอาการดีขึ้นมั้ยคะหมอ”
“เกือบเป็นปกติแล้วครับ โชคดีที่ผมมีหมอจำเป็นคอยดูแล”
เรยาเขินๆ “ปากดีแบบนี้แสดงว่าหายแล้ว”
“ก็ผมบอกคุณแล้วต่อหน้าเสือโหยว่าผมหายดีพร้อมเดินทางแล้ว แต่คุณก็ไม่ยอม ไม่รู้ทำไม”
เมฆพร้อมลูกน้องเดินกร่างเข้ามา
“ก็เพราะทุกคนรวมหัวกันวางแผนให้ไอ้เก่งมันได้งุงิๆๆๆกับน้องข้าวหอมคืนนี้น่ะซิ”
“หมายความว่ายังไงเมฆ เล่าความจริงมาให้หมด”
ดุ่ยรีบบอก “โถๆๆ นี่คุณหมอไม่รู้เหรอครับว่าคืนนี้เก่งมันจะได้อยู่กระท่อมกลางป่ากับข้าวหอมตามลำพัง”
“แล้วคิดดูซิครับผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสองบรรยากาศก็เป็นใจ๊เป็นใจ เสียงจิ้งหรีดเรไรกล่อมแสงดาวทอประกายโรแม้นซ์สุดๆ”
ทอมงง จึงหันมองไปเรยา
“เรื่องจริงเหรอเรยาที่เมฆพูดมามันจริงใช่ไหม”
“จริงค่ะ พวกเราวางแผนให้เก่งกับข้าวหอมคืนดีกัน”
“คุณทำแบบนี้ทำไม ผมจะไปตามข้าวหอมกลับมา”
เรยาน้อยใจ “ตามกลับมาเพื่อ คุณเป็นอะไรกับข้าวหอม เก่งเขาเป็นคู่รักกันแล้วคุณเกี่ยวอะไรด้วย”
“ข้าวหอมเป็นผู้หญิงนะ ปล่อยให้ไปค้างอ้างแรมกับผู้ชายสองต่อสองมันไม่เหมาะ”
“ข้าวหอมนอนค้างกับเก่งในป่าคืนเดียวมันไม่เหมาะ แล้วฉันล่ะหมอทอม ฉันนอนค้างกับคุณกลางป่าสองต่อสองถึงสองคืนฉันคงไม่เหลือดีอะไรแล้วในสายตาของคุณใช่ไหม”
เรยาโกรธ ร้องไห้ วิ่งหนีออกไป ทอมมองตามอึ้งๆ
“อุ๊ยบรรยากาศมาคุพวกเราไปดีกว่า”
เมฆและพวกค่อยๆ ย่องออกไป ทอมนิ่ง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เก่ง ข้าวหอมเดินตามหมอโจรที่พาเดินวกไปวนมาแถวริมลำธาร ข้าวหอมเลยถาม
“ใกล้ถึงหรือยังคะหมอ”
“นั่นซิครับ นี่เราเดินวนไปวนมานะครับ”
“คงใกล้ถึงแล้วล่ะครับ ป่ามันก็อย่างนี้เหมือนๆ กันหมด”
เก่งมองหมอด้วยความสงสัย เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นมาก่อน หมอโจรรีบวิ่งไปหาต้นเสียงเก่งกับข้าวหอมวิ่งตาม คนป่วยนอนอยู่ที่กลางป่า เก่งรีบวิ่งเข้าไปพยุง
“เป็นยังไงบ้างครับ”
“เอ่อ”
“ถูกกัดตรงไหน เจ็บไหมจ๊ะ”
“ไม่เจ็บ เฮ้ย เจ็บ เจ็บจ้า เจ็บโอ๊ยเจ็บจะตายอยู่แล้ว”
“ใช่ๆๆ แสดงว่าพิษเริ่มออกฤทธิ์แล้วต้องรีบรักษา”
“ให้ผมช่วยอะไรบ้างครับหมอบอกมาเลย”
“ต้องพากลับไปซุ้มโจร”
เก่งกับข้าวหอมตกใจ
“หา”
“ไม่ต้องหา คุณสองคนอยู่นี่รอนะ ทางโน้นมีกระท่อมผมจะพาคนเจ็บไปก่อน”
“ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะ จะได้ช่วยกัน”
“ไม่ต้อง คือว่าฉันไปกับหมอสองคนดีกว่า”
“จริงครับ เราไปก่อนแล้วพรุ่งนี้มารับนะครับ”
หมอพูดจบก็พาคนป่วยวิ่งหายกลับเข้าไปในป่า ทิ้งให้เก่งกับข้าวหอมมองหน้ากันงงๆ
เรยาวิ่งเข้ามาหยุดที่ริมลำธารแล้วนึกถึงเรื่องเก่าๆ ระหว่างที่เธอดูแลทอม เรยาน้ำตาซึมโยนก้อนหินลงลำธารอย่างหงุดหงิด
“เราบ้าไปแล้ว ทำไมต้องคิดแต่เรื่องของหมอนั่น”
ทอมก้าวเข้ามา “ก็เพราะว่าคุณตกหลุมรักผมน่ะซิ”
“หมอทอม ไม่มีทาง คนอย่างฉัน”
เรยาจะเดินหนี ทอมรวบกอดเอาไว้
“คนแบบไหนก็ตกหลุมรักได้ เหมือนคนอย่างผมนี่ไง”
“ปล่อยฉัน ก็ได้จะคุยแบบนี้ก็ได้ ฉันรู้ว่าหมอรักข้าวหอม แต่ข้าวหอมมีแฟนแล้ว หมอจะไปทำลายความรักพวกเขาทำไม”
ทอมยิ้มเจ้าเล่ห์กอดเรยากระชับไปอีก
“แล้วเรยาล่ะหลงรักเก่งไม่ใช่เหรอ”
“ฉันก็แค่ชื่นชอบคนเก่ง อิจฉาที่เก่งเขารักและซื่อสัตย์กับข้าวหอม”
“ก็เลยอยากได้เขาเป็นแฟน จะได้มีคนรักและห่วงใย”
“ใช่ แต่ฉันรู้ว่ามันเป็นแค่มโน เก่งรักข้าวหอมและฉันก็ไม่ได้รักเก่ง”
“แล้วคุณรักใคร”
เรยาหงุดหงิดจนเผลอพูด
“ก็รักหมอนี่ไงถามอยู่ได้”
ทอมคลายอ้อมกอดค่อยๆ พลิกเรยากลับมา
“แค่นี้แหละเรยาสิ่งที่ผมอยากได้ยิน เรยา ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าหากมีใครสักคนก้าวเข้ามาในชีวิตแล้วทำให้”
เรยารับรู้ถึงไมตรีที่ต่างมีให้กัน
“ฉันจะไม่พูดคำว่ารักนะคะหมอ เพราะมันดูฟุ่มเฟือยเกินไป วินาทีแรกที่เรารู้จักกัน คุณได้มอบโลกใบใหม่ให้ฉัน เพราฉะนั้นต่อจากนี้ฉันจะอยู่ที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ขอแค่มีคุณอยู่เคียงข้างฉันก็พอ”
ทั้งสองยิ้มให้กันแล้วกอดกันอย่างมีความสุข
เก่งกับข้าวหอมมานั่งพักที่หน้ากระท่อมกลางป่า ข้าวหอมบ่น
“ทำไมฉันต้องมาติดอยู่กับคนงี่เง่าขี้หึงไร้เหตุผลแบบนี้ด้วย”
“ก็นั่นน่ะสิ น่าเบื่อคนแบบนี้น่าเบื่อเนอะ ใครจะไปดีเหมือนหมอทอมล่ะ”
“อย่าชวนตีนะพี่เก่ง หมอทอมเขาเห็นฉันเป็นเหมือนน้องสาวแต่กับคุณเรยาเขาอาจคิดอย่างอื่น ขอไปดูแลหมอทอมก่อนนะคะ”
“นั่นมันเรื่องของเขา เรยาไม่ใช่แฟนพี่แต่ถ้าเป็นข้าวหอมพูดแบบนั้นซิ”
“ทำไมถ้าข้าวหอมพูดแบบนั้นแล้วพี่จะทำไม”
“ไม่ทำไมหรอกแน่จริงลองพูดมา”
“ท้าเหรอด้าย ข้าวหอมจะดูแลหมอทอม”
เก่งไม่พูดไม่จาตรงเข้าหอมแก้มข้าวหอม ข้าวหอมทั้งเขินทั้งอาย
“พี่เก่ง เอาแบบนี้ใช่ไหม ข้าวหอมจะ”
เก่งไม่ปล่อยข้าวหอม ชิงหอมแก้มข้าวหอม พอข้าวหอมจะพูดอีก เก่งก็หอมอีก แล้วสุดท้ายเก่งก็รวบข้าวหอมไว้ในอ้อมกอด ข้าวหอมเอียงอาย
“เราดีกันนะข้าวหอม ข้าวหอมก็รู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่เคยปันใจให้หญิงอื่น”
“ใจคนมันเปลี่ยนได้เสมอแล้วฉันจะเชื่อพี่ได้ยังไง”
“ก็ไม่ต้องเชื่อแต่ขอให้จำไว้ว่าก้นบึ้งของหัวใจลูกผู้ชายชื่อไอ้เก่งคนนี้มีเพียงข้าวหอมเป็นสุดยอดดวงใจคนเดียวเท่านั้น”
“พี่เก่ง”
“ข้าวหอม”
สองหนุ่มสาวมองหน้ากันด้วยความรัก เก่งกำลังจะโน้มตัวประทับรอยจูบข้าวหอม แต่แล้วท้องข้าวหอมก็ร้องขึ้นด้วยความหิว เก่งทำไม่สนใจจะจูบต่อ แต่ท้องก็ร้องอีก ข้าวหอมยิ้มแห้งๆ
“ฉันหิวแล้วอ่ะหาอะไรกินกันเถอะนะ”
เก่งมองข้าวหอมสุดที่รัก ยิ้มๆ ในความน่ารักน่าเอ็นดูของคนรัก แล้วกอดข้าวหอมไว้
“เฮ้ยฟ้าเต็มใจให้เรารักกัน แต่ยังไม่เต็มใจให้ทำอะไรเกินเลยเนอะ ไป หาอะไรกินกัน”
ทั้งสองยิ้มให้กัน
เสี่ยกำธรเดินมากับโย่งในป่า ด้วยสภาพที่มอมแมม
“โอ๊ย ทำไมมันเหนื่อยขนาดนี้ เดินกับหัวหน้าป่าไม้ทำไมมันสบาย”
“ก็ไม่แปลกหรอกเสี่ย เพราะพวกเรากำลังหลงป่า”
“หลงป่า แล้วทำไงอ่ะ ถ้าเจอเสือโหยเสือหิวจะทำไงดี”
“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลยเสี่ย”
“ทำไม เอ็งจะปกป้องข้าใช่ไหม”
“คือผมจะยอมให้มันจับผมก่อน แล้วก็ค่อยๆ จับเสี่ยทีหลัง”
เสี่ยกำธรตีหัวโย่ง “ไม่ได้เรื่องเลย รู้อย่างนี้ข้าเอาไอ้เชิดมาแทนดีกว่า เสือมาก็ต้องปกป้องข้าจนตัวตายซิวะ”
ลูกน้องเสือโหยเดินเข้ามาเอาปืนจ่อเสี่ยกำธรและโย่ง
“ไม่ต้องห่วง พวกแกได้ตายสมใจแน่ พามันไปให้หัวหน้าตัดสิน”
ลูกน้องเสือพากันจับเสี่ยกำธรและโย่งไปหาเสือโหย
เมฆนั่งเซ็งเรื่องข้าวหอมโดยมีดุ่ย ดุ๋ย นั่งอยู่ข้างๆ
“ยิ่งคิดยิ่งแค้นไอ้เก่งที่ได้อยู่ใกล้ข้าวหอมกันสองต่อสอง”
“ทำใจเถอะพี่อย่าคิดมาก”
“จริงด้วย ถึงยังไงไอ้เก่งกับข้าวหอมก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี เพราะเขาเป็นแฟนกัน”
“ไม่เอา ฉันไม่ยอม พ่อจ๋าพ่อ ถ้าพ่ออยู่กับฉัน คงช่วยฉันได้แน่ๆ เรื่องนี้”
เสียงเสี่ยกำธรร้องดังเข้ามา เมฆได้ยิน
“นั่นมันเสียงพ่อข้านี่หว่า”
“ใช่เลยลูกพี่ เสียงเหมือนแพะถูกเชือดขนาดนี้เสี่ยกำธรชัวร์”
เมฆตกใจรีบวิ่งไปที่บ้านเสือโหย เจอลูกน้องเสือโหยพาเสี่ยกำธรกับโย่งเข้ามา เสือโหยกำลังเดินวนรอบๆ พิจารณา เสือหิวยืนคุมเชิงอยู่
“เอ็งเป็นใคร เข้ามาในถิ่นข้าทำไม๒”
“ฉันชื่อกำธรจ้า เข้ามาตามหาลูกชาย ลูกฉันถูกเสือโหยเสือหิวจับตัวมาเรียกค่าไถ่จ้ะ”
“อ้อเหรอ คนไม่ดีเนอะทำแบบนี้”
“ถ้าเอ็งเจอเสือโหยเสือหิวจะทำยังไง”
เมฆและพวกเข้ามาได้ยินพอดี พยายามจะห้ามพ่อแต่ไม่ทัน
“ยิงมันทิ้ง ขยี้ให้แบน เหยียบให้จมธรณีแล้วก็ฆ่าข่มขืนมัน”
เสือโหยเสือหิวตาวาว
“เอางั้นเลยเหรอ”
“เอางั้นซิ รู้จักเสี่ยกำธรน้อยไปเสียแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“งั้นดีตายซะเถอะแก”
เสือหิวทำท่ายกปืน เมฆวิ่งไปขวาง
“อย่าจ้ะพ่อเสือโหยเสือหิว นี่พ่อฉันเองจ้ะ ถ้าจะทำพ่อฉันทำฉันดีกว่า”
เสี่ยกำธรผวากอดลูกชายด้วยความคิดถึง
“ไอ้เมฆ ไอ้เมฆลูกพ่อ เป็นยังไงบ้างลูก พ่อคิดถึงแกมากเลยรู้ไหม”
เมฆน้ำตาซึม “ฉันก็คิดถึงพ่อจ้ะ แต่ไม่คิดว่าบ่นหาปุ๊บก็มาปั๊บ”
“ตกลงได้หรือยังใครตายก่อน” เสือหิวถาม
“ฉันเองจ้ะ ขอแค่ให้ลูกฉันปลอดภัยจะเอาฉันไปฆ่าไปแกงที่ไหนก็ยอม”
เสือโหยเสือหิวยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์
เมฆนั่งร้องไห้อยู่ ทุกคนยืนมองอย่างสงสาร
“เพราะฉันคนเดียวพ่อถึงโดนเสือโหยเสือหิวลงโทษ”
“ใจเย็นๆ นะพี่เมฆ เรื่องมันอาจจะไม่ร้ายแรงก็ได้” นกปลอบ
“เสือโหยเสือหิวใจดีจะตาย” มดบอก
“ถ้าเป็นคนไม่ดีเขาฆ่าพวกเราทิ้งไปนานแล้ว นี่ยังคิดจะไปส่งพวกเราอีก” ปลาชี้แจง
“แต่หนนี้ไม่เหมือนกัน พ่อไปด่าว่าจะฆ่าข่มขืนพวกมัน”
“งั้นสบายใจได้ มันไม่ฆ่าเสี่ยแน่นอน” ครูกุ๊กไก่บอก
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความงง
“ทำไมล่ะคะครูกุ๊กไก่” มดถาม
“เชื่อฉันเถอะ เสี่ยอาจจะชอบก็ได้ ผีมักมองผีด้วยกันออก”
ทุกคนทำหน้างงคำพูดของครูกุ๊กไก่ เมฆร้องไห้ต่อ สามสาวช่วยกันปลอบ ครูกุ๊กไก่ยิ้มๆ ดุ่ย ดุ๋ยมองแปลกใจ
ข้าวหอมนั่งผิงไฟจิบน้ำชาหน้ากระท่อม เก่งเอาผ้าห่มมาห่มให้
“มีทุกอย่างพร้อมแบบนี้เสือโหยเสือหิวและทุกๆ คนคงวางแผนให้เราคืนดีกัน”
“พี่เก่งก็รู้ ฉันไม่เคยโกรธพี่เก่งจริงจัง ไม่น่าให้คนอื่นต้องวุ่นวาย”
“โห ไม่จริงจัง ข้าวหอมรู้ตัวไหมว่าเวลาโกรธน่ากลัวแค่ไหน”
“ก็อย่าทำให้โกรธซิ เวลาไม่โกรธฉันก็น่ารักนะ”
เก่
ยิ้มหวานขยับเข้ากอดข้าวหอม
“เวลาไหนก็น่ารัก ข้าวหอมของพี่น่ารักที่สุด”
“พี่เก่งของฉันก็น่ารักที่สุด ถึงแม้จะกะล่อนไปหน่อย เจ้าชู้ไปนิด แต่ฉันก็รู้ว่าพี่เก่งไม่มีวันรักใครนอกจากฉัน”
“ข้าวหอม”
ทั้งคู่ซาบซึ้งใจกัน
กลางป่า เจ้าหน้าที่ 3 คน เดินไปมาเพื่อเช็คความเรียบร้อย บัวกับครามนั่งอยู่หน้ากองไฟ หัวหน้าป่าไม้เข้ามาหา
“พักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้เรายังไม่รู้จะเจอกับอะไร”
“ขอบคุณครับหัวหน้า ขอเวลาอีกเดี๋ยวครับ”
หัวหน้าป่าไม้เห็นใจเดินจากไป บัวถามคราม
“ถ้าเราเจอกองกำลังจะทำยังไง”
“ฉันจะปกป้องเธอด้วยชีวิตไงล่ะ เพราะบัวคือคนสำคัญของฉัน”
“แล้วมะขิ่นล่ะ”
“บัวก็รู้ มะขิ่นแค่อยากหาใครสักคนมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้ชอบฉันจริงๆ และที่สำคัญครามก็มีบัวในหัวใจอยู่แล้ว พักผ่อนเถอะไม่ต้องกังวล”
บัวยอมทำตามอย่างว่าง่าย ครามส่งบัวเข้านอน แต่สีหน้าเป็นกังวลเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้นั่งประชุมอย่างเคร่งเครียด
มะขิ่นนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว ภูมิเดินมาเห็นจึงเข้าไปหา
“มานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวตรงนี้ล่ะมะขิ่น”
“ฉันก็มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ ป่านนี้เก่งกับข้าวหอมคงดีกันแล้ว”
“แล้วคุณล่ะไม่คิดจะมีแฟนจริงๆ กับเขาบ้างเหรอ”
“ฉันมีครามอยู่แล้ว”
“อย่าหลอกตัวเองเลย มันจะทำให้คุณไร้ความสุข แผลลึกในใจที่ถูกใส่ร้ายคุณเองก็ควรหาทางแก้ไขไม่ใช่หลบหนีหน้า”
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง ยัยป้ามหาภัยกับหลานชายตัวแสบของมันมีอิทธิพลจะตาย”
“คนเราต้องมีจุดอ่อน ถ้าคุณไว้ใจผม ผมจะช่วยคุณเอง”
ทั้งสองมองหน้ากัน มะขิ่นยิ้มอย่างจริงใจที่ภูมิมีน้ำใจ
ตอนเช้า เมฆตื่นขึ้นมาเห็นตัวเองนอนอยู่ท่ามกลางสามสาว เขายิ้มๆ หอมแก้ม 3 สาวทีละคนอย่างมีความสุข เมฆนึกถึงพ่อได้ รีบลุกขึ้นขณะที่ 3 สาวยังนอนอยู่ ดุ่ย ดุ๋ยนอนหลับหน้ากระท่อม เมฆรีบเรียกให้ลุก
“ไอ้ดุ่ยไอ้ดุ๋ยไปดูพ่อข้ากัน”
ลูกน้องงัวเงียตื่นแล้วรีบวิ่งตามเมฆไป เมฆรีบวิ่งมาเห็นเสี่ยกำธรนั่งอยู่หน้าบ้านเสือ เขารีบเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง
“พ่อ มานั่งทำอะไรตรงนี้ เสือโหยเสือหิวมันทำอะไรพ่อหรือเปล่า”
“อย่าเรียกพี่เสือเขาแบบนั้น มันไม่ดีรู้มั้ย”
“เสี่ยเปลี่ยนไปหรือว่าโดนรังแกจนเพี้ยน” ดุ่ยถาม
“พ่อเป็นอะไรบอกฉันได้นะ ถึงฉันจะไม่เอาไหนแต่ฉันไม่ยอมให้ใครมารังแกพ่อหรอก”
“อย่าใช้กำลังสิมันไม่ดีลูก แล้วพี่โหยพี่หิวเขาไม่ได้รังแกพ่อ เขาแค่ทำให้พ่อค้นพบแสงสว่างที่มันแอบซ่อนในใจ”
“ลูกพี่ เสี่ยเสียสติไปแล้ว” ดุ๋ยกระซิบ
“ข้าบอกว่าไม่เป็นอะไรก็ไม่เป็นซิวะ ถามเซ้าซี้อยู่ได้ เดี๋ยวพี่โหยพี่หิวก็ตื่นกันพอดี ไปๆ จะไปไหนก็ไป เตรียมตัวเดินทางออกจากป่าได้แล้ว”
เมฆมองสงสัย “พ่อไม่เป็นอะไรแน่นะ”
“พ่อไม่ได้เป็นอะไรหรอก พ่อแค่ค้นพบตัวตนของพ่อก็เท่านั้น”
เมฆเดินกลับมาที่กระท่อมอย่างงงๆ
“ไม่รู้เสือโหยเสือหิวทำอะไร เสี่ยดูเปลี่ยนไปขนาดนั้น” ดุ๋ยแปลกใจ
“ข้าก็ไม่รู้นะรู้แต่ว่าบางอย่างก็อาจเปลี่ยนได้ในคืนเดียว”
“หรือว่าลูกพี่ก็ถูก 3 สาวนั่นรังแก” ดุ่ยถาม
“เฮ้ยต่อไปอย่าเรียกแม่ทูนหัวทั้งสามอย่างนี้อีก เข้าใจไหม”
“ชัดเลย ลูกพี่เมฆต้องถูกตีหัวจนสมองเสื่อมแน่” ดุ๋ยมั่นใจ
3 สาวเปิดกระท่อมออกมาหน้าบึ้ง
“พี่เมฆ”
“จ๋า”
“ลูกน้องพี่ใส่ร้ายพวกฉัน” นกฟ้อง
“แบนี้คงอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว” มดขู่
“เราทั้งสามคงต้องบอกศาลาหาผัวใหม่” ปลาบอก
ดุ่ย ดุ๋ยได้ยินคำนี้ถึงกับสะดุ้ง แต่เมฆสะดุ้งกว่า ลงไปคุกเข่าอ้อนวอน 3 สาว
“ไม่เอานะ อย่าทิ้งเมฆ เมฆยอมสุดที่รักทั้งสามจ้า”
“จริงนะ”
“จริงจ้ะ ต่อไปนี้เมฆจะเชื่อฟังสุดที่รักทั้งสาม รวมทั้งไอ้ดุ่ยไอ้ดุ๋ยด้วยจ้ะเมียจ๋า”
3 สาว ยิ้มอย่างมีชัยที่เมฆอยู่ในกำมือ ดุ่ย ดุ๋ยมองหน้ากันงงๆ
เสือโหยเสือหิวยืนสั่งการให้ทุกคนออกเดินทาง เสี่ยกำธรยืนกระมิดกระเมี้ยนข้างเสือโหยเสือหิว
“เมื่อทุกคนพร้อมหน้ากันเราก็จะออกเดินทาง” เสือโหยบอก
“เก่งกับข้าวหอมไม่โกรธกันแล้วใช่ไหม” เสือหิวถาม
“จ้ะ เราไม่โกรธกันแล้ว แถมรักกันมากขึ้นอีก”
“โหยดีๆ ป่านี้มีรัก ใช่ไหมน้องธร”
เสี่ยกำธรกระมิดกระเมี้ยน ครูกุ๊กไก่ยิ้มๆ
“นัง 3 สาวสงสัยพ่อผัวพวกแกจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงแล้ว”
“เอาล่ะ ข้าจะไปส่งทุกคนที่ปากทางป่า ไปพวกเราออกเดินทาง” เสือโหยบอก
“เราเข้ามาที่นี่ใช้เวลาตั้ง 2 วัน นี่เราต้องเดินป่าอีก 2 วันเหรอครับ” ทอมถาม
“ไม่หรอกหมอ เราจะพาไปทางลัด 3 ชั่วโมงก็ถึงปากทางเข้าป่าแล้ว เดินทางเถอะ”
ทุกคนดีใจ เสือโหยเสือหิวนำทางโดยมีเสี่ยกำธรประกบกลาง ทุกคนเดินตามอย่างมีความสุข
บัว คราม กำลังเตรียมตัวเดินทางต่อ หัวหน้าป่าไม้วางวิทยุสื่อสารยิ้มอย่างพอใจแล้วเดินมาบอกบัว
“เสือโหยแจ้งวิทยุมาว่าจะพาทุกคนมาส่งวันนี้ครับและที่สำคัญทุกคนปลอดภัยดี”
บัวกับครามมองหน้ากัน
“จริงหรอคะคุณเจ้าหน้าที่”
“จริงครับ พวกเรารีบเดินทางไปพบกันที่ชายป่าเถอะครับ”
“ได้ครับผมอยากเจอทุกคนเร็วๆ”
ครามกับบัวมองหน้ากันอย่างดีใจ
อรกำลังปอกผลไม้อยู่ แหม่มรีบวิ่งหน้าตาตื่นมา
“พี่อรๆ ได้ข่าวเก่ง ข้าวหอมกับทุกๆ คนแล้ว”
“จริงเหรอ ทุกคนปลอดภัยใช่ไหม”
“ปลอดภัยจ้ะ เสือโหยเสือหิวเป็นแฟนเพลงเก่งกับข้าวหอม ตอนนี้กำลังจะมาส่งที่ชายป่า”
“ไม่คิดเลยว่าเพลงลูกทุ่งจะช่วยชีวิตเก่งและทุกคนไว้ได้”
“ก็บอกแล้วว่าบางอย่างมันมีดีในตัวมันเอง รีบไปเถอะพี่อรพวกเราจะไปรับเก่งที่ชายป่า”
“งั้นเหรอ ไปรีบไปกัน”
อรรีบเดินไป แหม่มงง
“ดูซิ บทจะไปก็ไปเฉยๆ ซะงั้น รอแหม่มด้วยแหม่มไปด้วย”
แหม่มรีบวิ่งตามอรไป
ปายอเดินนำหน้า โดยมีลูกสมุนคอยแบกลังยาเสพติดเดินตาม เขาหยุดเดินแล้วหันไปบอกลูกสมุน
“เราต้องระวังกันหน่อยนะ เพราะตอนนี้มีหลายฝ่ายที่เข้ามาอยู่ในป่าแห่งนี้”
“แล้วเราจะส่งของตามนัดไหมพี่ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะลำบากนะครับ”
“ยังไงก็ต้องทัน เราต้องได้เงินไปซื้ออาวุธเพื่อกู้ชาติ”
“แล้วถ้ามีคนขัดขวางล่ะพี่”
“ฆ่ามันให้หมด ชาติต้องมาก่อนสิ่งอื่น”
ทุกคนขนของเดินทางกันต่อ ปายอเครียด
เสือโหย เสือหิวนำทางทุกคนอย่างมีความสุข
“เดินกันดีๆ นะทุกคน อย่าไปยงไปเหยียบเสี้ยนอะไรล่ะใกล้ถึงชายป่าแล้ว”
ทุกคนต่างเดินกันเป็นกลุ่มๆ เก่งมีความสุขกับข้าวหอม ทอมกับเรยาเดินจับมือกันอย่างเขินอาย ภูมิกับมะขิ่นเดินไป มะขิ่นเห็นภูมิมองไปที่เรยาจึงเข้าไปตีไหล่ เมฆเดินโดยมี 3 สาวล้อมอยู่ข้างกาย ครูกุ๊กไก่เดินกับดุ่ย โดยดุ๋ยมีท่าทีเกรงกลัวครูกุ๊กไก่อย่างมาก เสี่ยกำธรเดินคู่กับเสือโหย เสือหิว ไม่ห่าง เหมือนไม่อยากแยกจากกัน
“จะว่าไปก็ไม่อยากออกจากป่าแห่งนี้เลยนะ” เก่งเปรยขึ้น
“จะบ้าหรือไงพี่เก่ง ป่านนี้น้าอรกับเจ๊เป็นห่วงพวกเราแย่แล้ว”
“นั่นน่ะสิ ทุกคนคงจะเป็นห่วงพวกเรามากเลย”
ในขณะที่ทอมหันมาพูดกับเรยา
“ผมว่าการที่เราหลงป่าครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ”
“ดียังไงหรอคะการหลงป่า”
“ก็ทำให้เราสองคนได้สนิทกันและเข้าใจกันไงครับ”
เรยาเขิน ระหว่างนั้น เสือโหยได้ยินเสียงบางอย่าง ให้สัญญาณหยุดนิ่ง
“ทุกคนเงียบๆ ไว้นะ มีกลุ่มอื่นนอกจากเราอยู่แถวนี้”
“เจ้าหน้าป่าไม้ที่ตามหาเราหรือเปล่า” เก่งถาม
“เกรงว่าจะไม่ใช่ เพราะฉันได้วิทยุบอกเจ้าหน้าแล้วว่าเจอกันที่ชายป่า” เสือหิวบอก
“ไม่รู้กลุ่มไหนหลบก่อน”
เสือโหยสั่ง ทุกคนต่างหาที่กำบัง ปายอและพวกเดินลำเลียงยาเสพติดผ่านมาจนเกือบจะพ้นกลุ่มเสือโหยไปแล้ว แต่เมฆดันกลัวมากจนตดเสียงดังออกมา ปายอได้ยินเสียงรู้ว่ามีคนอื่นอยู่ เขาสั่งลูกน้องเข้าที่กำบัง
“มีคนอื่นเข้าที่กำบังเร็ว”
กลุ่มปายอหลบ เสือโหยให้สัญญาณทุกคนค่อยๆ ถอยเงียบๆ แต่เก่งดันไปเห็นสิ่งที่ปายอขนมา
“นั่นมันยาเสพติด”
เมฆพูดเสียงดัง “พ่อจ๋าพวกนั้นขนยาเสพติด”
สิ้นเสียงเมฆปายอก็ยิงสวนออกมา
“ฆ่ามันให้หมด”
เสือโหยเสือหิวและลูกน้องยิงโต้ตอบเพื่อให้ทุกคนถอย
“พวกเรายิงสกัดไว้อย่าให้เก่งกับข้าวหอมของข้าเป็นอะไรไป” เสือโหยสั่ง
“ถ้าไอ้เมฆไม่ใช่ลูกน้องธรพี่ยิงมันทิ้งแน่ปากเสียดีนัก” เสือหิวโมโห
กลุ่มเสือโหยและเสือหิวยิงโต้ตอบกลุ่มปายอ ทุกคนพากันหนี กลุ่มครามได้ยินเสียงปืนใกล้ๆ
“เสือโหยคงปะทะกับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายแล้ว คุณรอที่นี่ผมจะรีบไปช่วยเพื่อนๆ คุณ”
หัวหน้าป่าไม้สั่งครามเสร็จ ก็นำทีมรุดไปข้างหน้า ครามกับบัวมองหน้ากันแล้วตัดสินใจวิ่งตาม
ทุกคนต่างวิ่งหนีกันอย่างชุลมุนไปคนละทิศคนละทาง เสือโหยเสือหิวยิงต่อสู้กับกลุ่มปายอ เสี่ยกำธรกลัวเลยหลบอยู่หลังเสือโหยเสือหิว
“ไม่เป็นไรนะน้องกำธร พี่สองคนจะปกป้องน้องกำธรด้วยชีวิต”
“พี่เสือน้องกลัว”
“มาอยู่ใกล้ๆ พี่ไว้ จะได้ปลอดภัย”
เสือโหยเสือหิวยิงต่อสู้ช่วยเสี่ยกำธร ด้านปายอหลบอยู่หลังต้นไม้
“ยิงเข้าไปอย่าปล่อยให้พวกมันรอดไปได้”
เก่งพาข้าวหมอมาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ชะโงกหน้าไปดูว่ามีใครตามมาหรือไม่
“พวกมันคงไม่ตามเรามาแล้วล่ะ”
“พวกนั้นเป็นใครแล้วจะเข้ามาทำร้ายพวกเราทำไมเนี่ย”
“น่าจะเป็นพวกลักลอบขนยาเสพติดเข้าม”
“แล้วเราจะทำไงดีพี่เก่ง”
“ไม่ต้องห่วง พี่ไม่ยอมให้ข้าวหอมเป็นอะไรแน่”
เก่งชะโงกหน้าไปดูเพื่อความแน่ใจอีกทีว่าไม่มีใครตามมา ในขณะที่ลูกน้องเสือ 2 คนยิงปะทะกับกลุ่มของปายอ ภูมิ มะขิ่น เรยา ทอมหลบอยู่ข้างหลัง ลูกน้องของปายอถูกยิงตาย
“ไม่เป็นไรแล้วครับ” ลูกน้องเสือโหยบอก
“แล้วพวกมันจะตามล่าพวกเราอีกมั้ยฉันกลัว” เรยาหวาดกลัว
“คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นผมจะปกป้องคุณเอง” ทอมย้ำบอก
“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ พูดแบบนี้ที่ไรฉันต้องเหนื่อยดูแลหมอทุกที”
ทอมยิ้มเขินๆ มองเรยา ภูมิโอบไหล่มะขิ่นไว้
“นายเป็นอะไรรึเปล่า” มะขิ่นถาม
“ไม่เป็นไร แค่คุณปลอดภัยผมก็ดีใจแล้ว”
“งั้นผมว่าเรารีบออกจากตรงนี้กันก่อนดีกว่าครับ”
ลูกน้องเสือค่อยๆ พาภูมิ มะขิ่น ทอม และเรยาถอยออก
นก มด ปลา เดินนำหน้าโดยมีเมฆเดินตามด้วยความกลัวอยู่ข้างหลัง ทั้ง 4 คน มาเจอกับลูกน้องของปายอ สมุนปายอเดินมาจะทำร้าย เมฆกลัวว่า 3 สาวจะได้รับอันตรายจึงออกไปต่อสู้ แต่ถูกชกหน้าหงายกลับมา 3 สาวทนไม่ได้ที่เห็นสามีโดนทำร้าย
“นี่แกทำร้ายผัวข้าเหรอ” นกตวาดเสียงดัง
“เคยได้ยินไหมผัวข้าใครอย่าแตะ” มดถาม
“พวกเรา ลุย” ปลาสั่ง
3 สาวช่วยเมฆออกมาก่อน แล้วรุมทำร้ายสมุนปายอจนยับเยิน
“ไม่รู้ซะแล้วว่าไผเป็นไผ” นกเย้ย
ทั้งสามคนรีบมาดูเมฆ
“อย่าเป็นอะไรนะพี่เมฆ” มดห่วง
นกกับปลาพูดพร้อมกัน
“ปลาพวกเรารักพี่นะ”
ในขณะที่ดุ่ย ดุ๋ยกลัวมาก ครูกุ๊กไก่ได้โอกาสจึงเอาดุ่ย ดุ๋ยเข้าไปกอด
“โอ๋ๆ มานี่มา เดี๋ยวฉันจะปกป้องพวกเธอนะ”
“จะรอดไหมเนี่ยเราสองคน” ดุ่ยหวาด
“ก็นั้นน่ะสิ” ดุ๋ยสยอง
ลูกน้องเสือมองอย่างสมเพช
“ทำไมเราสองคนต้องมาปกป้องไอ้สามคนนี้ด้วย”
“ก็นั่นน่ะสิเห็นแล้วเศร้า”
ทั้งสองมองหน้ากัน ถอนหายใจ
พวกอรมารอที่ชายป่า สมชายได้ยินเสียงปืน
“เสียงปืนเกิดอะไรขึ้น”
“คงมีการปะทะ พวกคุณรอที่นี่นะครับ กำลังเสริมกำลังตามมา” เจ้าหน้าที่บอก
“ผมไปด้วย”
สมชายวิ่งตามเจ้าหน้าที่ไป อรมองอย่างเป็นห่วง สมชายหันมาพูดกับอร
“ผมจะปกป้องเก่งด้วยชีวิตเลยครับผมสัญญา”
สมชายวิ่งออกไป กลุ่มหัวหน้าป่าไม้เข้ามาสมทบยิงต่อสู้กับปายอ ลูกน้องปายอถูกยิงล้มลง ปายอเห็นท่าไม่ดีสั่งถอย
“พวกเราถอย”
ปายอและลูกน้องพากันล่าถอย ขณะล่าถอยปายอเห็นเก่งกำลังพาเข้าหอมเข้ามารวมกับเจ้าหน้าที่ปายอเจ็บใจจึงเล็งปืนไปที่เก่ง สมชายตามเข้ามากับเจ้าหน้าที่ 2 คนพอดี เขาวิ่งเข้าไปปกป้องเก่งจังหวะที่ปายอยิง ทำให้ถูกยิงแทนเก่ง ทุกคนตกใจ
“คุณสมชาย”
หัวหน้าป่าไม้ได้จังหวะยิงปายอและลูกน้องตายคาที่ แล้วทุกคนก็รีบเข้าไปดูอาการสมชาย
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 10 (ต่อ)
หน้าห้องผ่าตัด ทุกคนกำลังวุ่นวายที่สมชายถูกยิง ทอมรีบเดินเข้ามาหาเก่ง ข้าวหอม บัว อร ภูมิคราม เรยา สาลี่ ยืนเฝ้าด้วยความเป็นห่วงอาการของสมชาย
“เก่งไม่ต้องกังวลนะผมจะผ่าตัดคุณสมชายเอง” ทอมบอก
“ช่วยคุณสมชายด้วยนะครับ เขาช่วยชีวิตผม เขาเปรียบเหมือนพ่อของผมอีกคน”
“ทุกอย่างฝากไว้กับหมอนะคะ” ข้าวหอมย้ำบอก
ทอมพยักหน้าพร้อมที่จะเข้าไปในห้องผ่าตัด อรเดินเข้าหาทอมตาแดงๆ
“หมอช่วยชีวิตคุณสมชายให้ได้นะคะน้าขอร้อง”
“ผมจะพยายามให้ถึงที่สุดครับ”
ทอมเดินเข้าห้องผ่าตัดไป เก่งมากอดอรให้กำลังใจ อรมองตามทอมไปในห้องอย่างเป็นห่วง ครามเดินเข้ามาแล้วถามบัว
“แล้วนี่พวกคุณเอ็มหายไปไหนกัน ไม่เห็นมาโรงพยาบาล”
“มะขิ่น ถั่วพู ลำไย แหม่มพาคุณเอ็มไปบ้านแล้ว”
ครามเข้าใจในคำตอบ แล้วก็ส่งยิ้มให้บัว
สาลี่นั่งร้องไห้เป็นห่วงสมชาย เรยานั่งปลอบใจอยู่ใกล้ๆ
“ใจเย็นๆ นะ สาลี่ คุณสมชายต้องไม่เป็นอะไร”
“เรยา ฉันไม่มีใคร ถ้าอาสมชายเป็นอะไรไปฉันจะทำอย่างไร จะทำอย่างไร”
“เอาน่า ใจเย็นๆ เถอะจ้ะคนดีน่ะผีคุ้ม”
คำพูดของเรยาทำให้สาลี่ค่อยสบายใจขึ้น
เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย ครูกุ๊กไก่ นก มด ปลา กำลังดูบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ของเสี่ยกำธรที่หน้าห้องผ่าตัด
“พ่อไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย”
“เจ็บตรงไหนปวดตรงไหนบอกกุ๊กๆๆๆไก่ ได้เลยนะคะ”
สามสาวก็เข้าไปช่วยกันดูแผลของเสี่ยกำธรที่เล็กน้อยแค่แผลถลอก
“ไปที่ห้องพยาบาลดีกว่ามั้ย” นกบอก
“นั่นน่ะซิ พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเสี่ยกำธรจะช้ำข้างในหรือเปล่า” มดคะยั้นคะยอ
“หรือว่ามีเลือดคลั่งจะเป็นอันตรายหรือเปล่า” ปลาพุดอย่างตกใจ
ดุ่ย ดุ๋ย ยืนมองกลุ่มสาวๆ แล้วก็มองหน้ากันแบบน่าเบื่อหน่าย เสี่ยกำธรได้ฟังคำพูดของแต่ละคนก็รู้สึกอึดอัดรำคาญ
“นี่แม่ทูนหัวทั้งหลาย ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ต้องมาใส่ใจ ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวได้มั้ย ผมขอร้องเถอะ ผมอาจจะอาการดีขึ้นกว่าที่ทุกคนมาวุ่นวายกับผม นะ นะ นะ”
เมฆเห็นพ่อมองหน้าก็รู้ทันทีว่าพ่อเซ็ง จึงรีบพาสาวๆ ออกไป
“ผมว่าพวกเราออกไปข้างนอกดีกว่านะครับ อยู่ตรงนี้อากาศไม่สดชื่นเลย”
ครูกุ๊กไก่และสาวๆ พากันยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาทันทีที่เมฆชวนให้ออกไปข้างนอก
“ไม่ต้องห่วงเสือโหยเสือหิวหรอกเสี่ย พวกนั้นเอาตัวรอดได้อย่างสบาย เชื่อกุ๊กไก่”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะพี่โหยพี่หิว”
ครูกุ๊กไก่มองเสี่ยอย่างสงสาร
“เฮ้อ ความรักเป็นเหตุ”
เวลาผ่านไป ทุกคนนั่งซึมๆ อยู่หน้าห้องผ่าตัดเพื่อรอเวลา ทอมกับพยาบาลเดินออกมาถามหากรุ๊ปเลือดที่จะช่วยสมชาย ทุกคนพากันเดินเข้าไปหาทอม
“เป็นไงบ้างครับ คุณสมชายปลอดภัยหรือเปล่าครับ”
“ตอนนี้เรามีปัญหาคนไข้เสียเลือดมาก เราต้องการเลือดมาทดแทน”
“เอาของผมไปเลยครับ ผมยินดีบริจาคเลือดเพื่อช่วยคุณสมชาย จะเอาหมดตัวผมก็ยอม”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกเก่ง กรุ๊ปเลือดของคนไข้เป็นกรุ๊ปพิเศษที่หายาก ในคนไทยเราพบแค่เพียง 0.03% เท่านั้น”
อรรับฟังด้วยความหวั่นใจ กลัวสูญเสียสมชาย สาลี่หน้าเสีย เรยาช่วยโอบปลอบใจไว้
“เลือดกรุ๊ปอะไรหมอ ทำไมมันหายากขนาดนี้” บัวถาม
“กรุ๊ป AB negative ครับ”
“แล้วเราจะไปหาเลือดกรุ๊ปนี้ที่ไหนล่ะ”
ทุกคนหันมองหน้ากัน ครามรีบบอกกับทอม
“ผมนี่ไง ผมเลือดกรุ๊ป AB negative”
ทุกคนหันหน้ามามองคราม สาลี่ดีใจ
“คราม ถ้าอย่างงั้นเธอต้องช่วยอาสมชายนะ”
ครามพยักหน้า
“งั้นเชิญที่ห้องบริจาคเลือดเลยค่ะ”
ครามเดินตามพยาบาลไป ทอมเดินกลับเข้าห้องผ่าตัด ทุกคนรออย่างมีความหวัง ภูมิตัดสินใจ
“ผมว่าพวกเรากลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เพราะกว่าจะผ่าตัดเสร็จและรอให้ฟื้นคงใช้เวลา”
เก่งเห็นด้วย “ผมเห็นด้วยนะ ทุกคนก็เหนื่อยมากแล้ว ไปพักก่อน ผมจะอยู่ที่นี่มีอะไรคืบหน้าจะส่งข่าวให้”
“ให้ข้าวหอมอยู่เป็นเพื่อนหรือเปล่าพี่เก่ง”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ข้าวหอมเหนื่อยมามากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ดีแล้วเก่ง เขาช่วยชีวิตเก่งเอาไว้เราต้องตอบแทนคุณ”
“ครับน้าอร น้าอรก็กลับไปพร้อมกับข้าวหอมเลยไม่ต้องห่วงทางนี้”
อรยิ้มให้เก่ง ทุกคนพากันเดินออกจากหน้าห้องผ่าตัด
อรนั่งหน้าเศร้าๆ อยู่ที่บ้านเอ็ม ใจลอย บัวกับข้าวหอมเดินเข้ามาหา
“น้าอรนั่งใจลอย คิดถึงพี่เก่งหรือว่าเป็นห่วงคุณสมชายเอ่ย”
“บัวพูดอะไร น้าอรแกกำลังอยากอยู่คนเดียว” ข้าวหอมติง
อรหันไปมองหน้าบัวกับข้าวหอม
“ไม่เป็นไรข้าวหอม น้ากำลังนั่งนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ถ้าไม่ได้คุณสมชาย ป่านนี้น้าคงจะต้องเสียใจมากกว่านี้”
เอ็มเดินเข้ามาสมทบ ถั่วพู แหม่ม เจ๊ลำไยเดินตามมาด้วย
“กำลังคุยอะไรกันอยู่ผมขอร่วมคุยด้วยนะครับ”
อร ข้าวหอม บัว ส่งยิ้มให้ แหม่มรีบสอบถามบัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“นี่บัว เล่าให้ฟังหน่อยซิว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร เสี่ยสมชายจึงถูกยิง”
“นี่นังแหม่ม อยากสอดรู้สอดเห็นจริงๆ แต่ว่าเจ๊ก็อยากรู้เหมือนกันเล่ามาบัว”
แหม่มหันไปค้อนเจ๊ลำไย
“เจ๊ก้อ ก็อยากรู้เหมือนกัน”
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ในระหว่างที่พี่เก่งกำลังยิงต่อสู้กับพวกโจร คุณสมชายกล้าหาญมาก เป็นฮีโร่เลย เจ๊”
“ที่บัวเล่ายังน้อยไปฉัน นะเห็นจะๆ แกกางปีกปกป้องเก่งเหมือนพ่อปกป้องลูกยังไงยังงั้นเลย” มะขิ่นเล่าเสริม
เจ๊ลำไยกับแหม่มและอรดูปลื้มมากจากที่เล่าให้ฟัง อรยิ้มนิดๆ เจ๊ลำไยแซว
“สงสัยฉันต้องหาอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันแล้วล่ะนังแหม่ม”
“ทำไมล่ะเจ๊”
“ก็นังอรมันกำลังจะทอดทิ้งฉันลงจากคานน่ะซิวะ”
เจ๊ลำไยพูดขำๆ ทุกคนพลอยยิ้มไปด้วย เอ็มหงุดหงิดที่เห็นทุกคนชื่นชมสมชาย เขาพูดกับตัวเองในใจ
“สมชาย นายไม่มีวันที่จะชนะฉันได้หรอก”
เก่งกับครามนั่งรอฟังอากรของสมชายของสมชายอยู่ ทอมเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ทั้งสองรีบเดินเข้าไปหา เก่งถามอย่างตื่นเต้น
“เป็นไงบ้างหมอ คุณสมชายปลอดภัยดีมั้ย”
ทอมทำหน้าเศร้าๆ
“เป็นไงหมอรีบบอกหน่อยซิ”
ทั้งเก่งกับครามมองหน้าทอม
“คุณสมชาย คุณสมชาย”
เก่งกับครามเริ่มอึดอัดกับคำพูดของทอม
“ตอบมาซิครับว่าอย่างไร อย่าลีลาหมอ”
ทอมเริ่มเปลี่ยนจากเศร้ามาสดชื่น
“คุณสมชาย ปลอดภัยดีแล้วครับ พรุ่งนี้ทุกคนเข้าเยี่ยมได้”
เก่งลืมตัวที่ได้รับข่าวดีตะโกนเสียงดัง
“ไชโย ปลอดภัยแล้ว”
ครามกับทอมหัวเราะที่เก่งตะโกนเสียงดังแบบนั้น
“ก่อนกลับผมขอไปลาแกก่อนนะครับ แกจะได้รู้ว่าพวกเราไม่ทิ้งแก”
เก่งเห็นด้วยกับคราม พยักหน้าขอ ทอมพยักหน้าตอบยิ้มๆ
สมชายนอนอยู่บนเตียงคนไข้ เก่งเดินเข้ามาหา กราบสมชาย
“นอกจากพ่อกล้า ตอนนี้มีคุณสมชายอีกคนที่เปรียบเสมือนพ่อ”
ครามมองดูสมชาย สมองก็คิดวูบขึ้นมาว่าทำไมเขาจึงเป็นห่วงสมชายมากนัก เขาเดินไปกราบเท้าสมชาย
“ผมมันลูกกำพร้า แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความรักความห่วงใยที่คุณสมชายมีให้พวกเรา ไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราจะอยู่เคียงข้างคุณสมชายเสมอ พักผ่อนนะครับ”
ครามน้ำตาซึมๆ โดยไม่รู้ตัว เก่งเข้ามาตบไหล่เพื่อนแล้วพากันเดินออกไป มือสมชายกระดิกกับคำพูดของคราม
อ่านต่อตอนที่ 11