xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 8

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 8
ครามมาที่ค่ายมวย ครูยอดกำลังดูแลนักมวยซ้อม นาเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาก็ดีใจ

“พ่อพี่ครามมาแล้ว”
ครามเข้ามายกมือไหว้ครูยอด นาวิ่งมาเกาะแขนครามด้วยความดีใจ
“ยังไม่ไปเรียนอีกเหรอนา”
“มหาลัยปิดยาวจ้ะต้อนรับ AEC”
“ปิดยาวขนาดนี้โง่กันพอดี ครามมาทางนี้ดีกว่าครูมีเรื่องจะคุยด้วย”
นางอนนิดๆ ที่ถูกพ่อว่า ครามยิ้มๆ ในความน่ารักของเด็กสาว แล้วเดินตามครูยอดไป ครูยอดหยิบใบสมัครรายการมวยดีวิถีไทยส่งให้
“อะไรครับครู”
“ใบสมัครชกมวยรายการมวยดีวิถีไทย”
ครามตื่นเต้น “มวยถ่ายทอดโทรทัศน์”
“ใช่ ฉันอยากให้ครามลงสมัครชกรายการนี้จะได้เป็นบันไดไต่เต้าสู่โปรแกรมใหญ่ๆ”
“แค่รายการนี้ก็ใหญ่แล้วครับครู ขอบพระคุณครูมากเลยครับ แต่รายการแบบนี้ต้องมีสปอร์นเซอร์สนับสนุนนี่ครับ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น ครูจัดการเอง เธอแค่ตั้งใจฝึกซ้อมก็พอ”
นาพูดแทรก “แล้วก็ต้องซ้อมทุกวันขาดไม่ได้ด้วย”
ครามนิ่งไปนิดหนึ่งเพราะห่วงเก่ง
“ไม่มีปัญหาใช่ไหมคราม”
“ไม่มีครับ เดี๋ยวผมจะบอกเพื่อนที่มาจากบ้านนอกด้วยกัน”
“ดีแล้ว บอกไปเลยว่ามาอยู่ค่ายครูยอด ฉันไม่ทำกับเธอเหมือนที่เสี่ยกำธรทำแน่ๆ”
ครามยิ้มดีใจ นาพลอยดีใจที่จะได้เจอครามทุกวัน

เอ็มเข้าประชุม แจ้งทีมงานเรื่องการถ่ายทำมิวสิคของข้าวหอม
“งานนี้ฉันหวังเอาไว้มาก นางเอกมิวสิคอยากให้ข้าวหอมเล่นเอง”
“แล้วบัวล่ะคะ ถ้าข้าวหอมแสดงเองบัวจะทำอะไร”
มะขิ่นรีบบอก “ไม่ต้องห่วงจ้ะ ฉันพาบัวไปแคสละครมาแล้ว พี่ติ๋มชอบมาก จะให้มันลงเล่นเรื่องหน้าเลย ช่วงนี้บัวต้องเรียนแอ็คติ้งเพิ่ม”
“งั้นก็แล้วแต่มะขิ่นเห็นสมควรแล้วกัน”
“โจกับจอยก็ลองไปครีเอทดูจะให้ข้าวหอมแสดงบทแบบไหน” เอ็มสั่ง
“ข้าวหอมเป็นคนสวยใสน่ารัก ซื่อๆ ก็ต้องให้เล่นเป็นตัวเองนี่แหละครับ” โจบอก
“แล้วพระเอกที่ประกบน้องต้องเป็นหน้าใหม่ที่ไม่ข่มรัศมีน้องแต่มีชื่อเสียงพอทำข่าวได้” จอยแนะ
ถั่วพูท้วงแกมประชด “คนแบบนั้นจะไปหาได้ที่ไหน ไม่เอาคุณทอม ลูกเจ้าของค่ายเพลงซะเลยล่ะจะได้โปรโมทได้เต็มที่”
“จริงด้วย ถ้าเป็นทอมก็เป็นพระเอกหน้าใหม่ชื่อเสียงก็เป็นลูกชายฉัน ตกลงตามนี้”
ข้าวหอม มะขิ่น ยิ้มดีใจ ถั่วพูพูดขัด
“คุณทอมไม่ยอมแน่ เขารักงานโรงพยาบาลจะตาย”
ข้าวหอมหน้าเศร้าลง เอ็มยิ้มมีแผน
“แต่ฉันคิดว่าถ้าหนูข้าวหอมขอร้องทอมด้วยตัวเอง งานนี้ทอมไม่ปฏิเสธแน่”
ข้าวหอมมีความหวังอีกครั้ง
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ข้าวหอมดังสุดๆ แน่นอน” เอ็มยิ้มมุ่งมั่น

สมชายเปิดเพลงของเก่งที่อัดเสร็จแล้วฟังเพียงแค่ขึ้นท่อนเดียว ก็ปิดเสียง เก่งนั่งรอฟังอย่างลุ้นๆ
“เพลงนี้ ดังแน่ๆ ดังระเบิดเถิดเทิง เก่งสมชื่อ เตรียมตัวไปทำมิวสิคได้เลย”
“แล้วนางเอกมิวสิคล่ะคะ คุณอาจะเอาพวกดาราหรือนางแบบดี” สาลี่ถาม
“ไม่ทั้งสองอย่าง”
“อ้าวไม่มีนางเอกจะทำแบบซิงค์เพลงอย่างเดียวหรือคะ” เรยาแปลกใจ
“เปล่า ผมให้ทีมถ่ายทำเขาคิดเนื้อเรื่องไว้แล้ว งานนี้ผมจะให้เรยาเป็นนางเอก”
“ฉันเป็นนักร้องนะคะไม่ใช่นักแสดง”
“นั่นแหละผมถึงเลือกคุณ”
“ขอเหตุผลค่ะ”
“ถ้าจะหนุนเก่ง ต้องอาศัยเรยา วิธีที่ดีที่สุดคือเล่นมิวสิคคู่กัน มันเป็นวิธีน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ว่าไงเก่งไหวไหม”
“ไหวซิครับ ได้คุณเรยาเป็นนางเอกทั้งที ยังไงก็ต้องสู้ แนะนำผมด้วยนะครับ”
เรยายิ้มอายๆ ไม่ตอบ สมชายพอใจที่ทุกอย่างลงตัว

บัวนั่งกินขนมอยู่หน้าห้อง โทรศัพท์มะขิ่นดังขึ้นเธอจึงรับสายแทน
“ฮาโหล พี่เก่งเหรอ เป็นไงบ้างเข้าห้องอัดครบทุกเพลงหรือยัง”
“ครบแล้ว ทางค่ายเขาเริ่มวางแผนถ่ายมิวสิคกันแล้ว”
“เหมือนกับพี่ข้าวหอมเลย ตอนนี้กำลังประชุมเรื่องถ่ายมิวสิคเหมือนกัน”
“เหรอ คงยุ่งสินะ”
“ยุ่งทุกวันเลยพี่ มีเวลาเป็นตัวของตัวเองนิดเดียว ฉันเองก็ต้องไปเรียนการแสดงเพิ่มเหมือนกัน เฮ้อ คนกรุงนี่น่าสงสารเนอะ เอาแต่ทำงานได้ทั้งวี่ทั้งวัน”
“ใช่น่าสงสาร”
“ว่าแต่พี่โทรมามีอะไรด่วนหรือเปล่า ถ้าด่วนฉันจะไปตามพี่ข้าวหอมให้”
“ไม่ต้องหรอก ปล่อยข้าวหอมทำงานไปเถอะ ฝากบอกด้วยแล้วกันว่าพี่โทรมา”
“ได้จ้ะ แล้วครามล่ะเป็นไงบ้าง อ้าวยังไงเนี่ย ยังพูดไม่ทันจบเลยวางหูซะงั้น”
เก่งวางโทรศัพท์จากบัว แล้วทรุดลงนั่งคิดถึงความหลัง ที่เคยใช้ชีวิตมีความสุขกับข้าวหอมที่ท้องทุ่งนา ภูมิเข้ามาทัก
“ไงเก่ง ไม่ดีใจเหรอที่จะได้เล่นมิวสิคคู่เรยา”
“ดีใจซิครับแต่ผมห่วงเพื่อน”
“ข้าวหอมใช่มั้ย อ่ะนี่ฉันไปค้นมาให้เผื่อจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น”
ภูมิส่งอัลบั้มแผ่นเสียงกล้า เสียงเพชร ให้เก่ง
“นักร้องเก่าดังมากแต่แกเสียไปนานแล้ว โทนเสียงคล้ายเก่งมาก”
“ท่านเป็นพ่อผมเองครับ”
“กล้า เสียงเพชร เป็นพ่อของเธอเองเหรอ มิน่าล่ะเสียงถึงคล้ายกันมาก น่าเสียดายท่านกำลังดังกลับต้องมาตายด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“ทำไมครับพ่อผมตายยังไง”
“เก่งไม่รู้เหรอ กล้า เสียงเพชร ถูกลูกหลงที่นักเลงท้องถิ่นทะเลาะกันยิงตายคาเวทีคอนเสิร์ต ข่าวนี้ดังมากเลยนะ หลังจากงานนี้เลยมีมาตรการตรวจอาวุธปืนก่อนเข้าชมคอนเสิร์ต”
“ขอบคุณนะครับที่เล่าเรื่องพ่อให้ผมฟัง เอ่อ คุณภูมิ ผมอยากขอร้องสักเรื่อง”
“หลายเรื่องก็ได้ว่ามา”
“เรื่องกล้า เสียงเพชร เป็นพ่อผม ขอให้คุณภูมิปิดเป็นความลับได้ไหมครับ”
“ทำไมล่ะเป็นลูกชายนักร้องดังจะได้โปรโมทง่าย”
“ผมอยากใช้ความสามารถตัวเองไม่อยากใช้บารมีพ่อ เอาไว้ถ้าผมดังแล้วค่อยประกาศก็ไม่เสียหาย”
“ตามใจ เอาเป็นว่าฉันจะไม่บอกใครถ้าเก่งไม่บอกเอง ไป คุณสมชายจะพาไปเลี้ยงฉลองความสำเร็จของเธอ”
“ขอบคุณครับ”
เก่งกำอัลบั้มพ่อไว้แน่น

เอ็มประชุมเสร็จมองเวลา แล้วชวนทีมงานไปเลี้ยงฉลอง
“เย็นแล้วนี่ ไปทานข้าวกันดีกว่า ฉันเลี้ยงเอง ถั่วพูจองโต๊ะเลย”
“ได้ค่ะ จัดให้นักร้องเบอร์หนึ่งของค่ายก็ต้องเอาร้านที่เริ่ดหรู” ถั่วพูประชด
“แหม เพิ่งเห็นคุณถั่วพูพูดถูกหูก็วันนี้แหละ” มะขิ่นประชดกลับ
“ฉันประชดย่ะยังไม่รู้ตัวอีก”
มะขิ่นขยับจะพูด ข้าวหอมส่ายหัวห้ามไว้ มะขิ่นจำต้องเงียบ
“ร้านธรรมดาก็ได้นะคะคุณเอ็มสิ้นเปลืองเปล่าๆ”
“ได้ไง เธอไม่ใช่แค่นักร้องในค่าย แต่เธอเปรียบเหมือนลูกสาวฉันอีกคน”
“ขอบคุณค่ะ”
“สาธุ ขอให้มันดีแบบนี้ตลอดไปเถอะอย่าดีแตกเสียก่อนล่ะ” มะขิ่นเปรย
เอ็มยิ้ม เข้าใจความหมาย “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เธอคอยดูก็แล้วกันมะขิ่น”
“แล้วบัวล่ะมะขิ่น”
“บัวต้องเรียนการแสดง เดี๋ยวครูอ๊อฟจะมาสอนให้ที่บ้าน ไอ้เมฆกับพวกเลยอยู่เป็นเพื่อนเรียน”
“ไม่ต้องห่วงน้องสาวหรอก ฉันให้เอกคอยตามช่วยดูแลบัวอีกแรง”
“ยกยอกันเข้าไป ไม่ชวนคุณทอมมารวมญาติทีเดียวเลยล่ะคะ จะได้คุยเรื่องถ่ายมิวสิคให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย”
“อุตะ ฉลาดจริงๆ คุณถั่วพู งั้นโทรตามเลยนะคะคุณเอ็ม” มะขิ่นแนะ
“ถั่วพูโทรนัดคุณทอมเลยไป”
เอ็มลุกเดินไปพร้อมกับทุกคน มะขิ่นมองเย้ยถั่วพูที่มองข้าวหอมอย่างเจ็บช้ำ






สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 8 (ต่อ)
ที่ร้านอาหาร สมชายเป็นประธานเปิดงาน เรยานั่งกระแซะเก่งจนครูห่าน และนก มด ปลา แอบมอง ไม่ปลื้มนัก

“เรามาฉลองความสำเร็จล่วงหน้าให้กับเก่งเอ่อ เก่งอะไรดีล่ะ”
“คุณสมชายตั้งเลยซิครับ” ภูมิบอก
“เอางั้นเหรอได้ ชื่อๆ เก่ง เสียงเพชร”
เก่งกับภูมิชะงัก สมชายทำท่านึกอีก
“ไม่เอา ไปเหมือนนักร้องดังในอดีต เอาชื่อใหม่ ชื่อ เก่ง เกียงไกร เป็นยังไง”
“เพราะดีนะคะชื่อเสียงขจรขจายไปไกลชอบไหมเก่ง” เรยาถาม
“ชอบครับ เก่ง เกียงไกร เรียกง่ายดี”
“งั้นเรามาฉลองให้เก่ง เกียงไกรนักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งคนใหม่กันเลยฮ้า” ครูห่านนำ
ทุกคนยกแก้วฉลองแสดงความยินดี สมชายหันไปมองสาลี่ซึ่งนั่งหน้าบูดบึ้ง
“เป็นอะไรสาลี่ ทำหน้าเหมือนไข่เยี่ยวม้าบูด”
“คุณอาก็ สาลี่แค่ห่วงครามที่ไม่ได้มาด้วยกัน”
“จริงซิ ครามไปไหนล่ะเก่ง ทำไมไม่มาด้วยกัน ปกติเห็นติดกันเป็นแตงเมนี่”
“ครามไปซ้อมมวยครับ เห็นว่าเจอค่ายที่ดีอยู่ใกล้ๆ บ้านเรา แต่รอแน่ใจก่อนค่อยปรึกษาคุณสมชาย”
“งั้นเหรอ ค่ายแถวๆ บ้านสงสัยจะเป็นค่ายครูยอด ถ้าเป็นค่ายนี้ล่ะก็ ครามปลอดภัยแน่”
“ขอบคุณแทนครามมันด้วยนะครับที่ห่วงใยมัน”
“ฉันบอกแล้วว่าครามก็เหมือนลูกเหมือนหลานฉัน ฉันมันคนไม่มีลูก มีแต่สาลี่หลานเมียฉันเพราะฉะนั้นพวกเธอก็เปรียบเหมือนลูกชายของฉัน มา มากินกันต่อ อย่าพูดเรื่องซีเรียส”
ทุกคนกินอย่างสนุกสนาน เก่งแอบมองสมชาย

เอ็มเดินนำทุกคนเข้าร้านอาหารมา แล้วหยุดถามข้าวหอม
“ร้านนี้โอเคไหม”
“ร้านสวยๆ ขนาดนี้เคยเห็นแต่ในละครค่ะ แต่ไม่เคยเข้าไปกินสักที”
“เธอนี่ซื่อดีจริงๆ ต่อไปนี้ร้านอาหารแบบนี้ข้าวหอมอยากมากินเมื่อไหร่ก็มาได้เสมอ”
“ขอบคุณค่ะ ถ้าข้าวหอมออกอัลบั้มแล้วอยากจะพาเจ๊ลำไยน้าอรแล้วก็แหม่ม มากินร้านแบบนี้ด้วยค่ะ”
“ได้เลย จะมาอยู่เลยหรือมาเที่ยวก็ได้ทั้งนั้น บ้านเอ็มมิวสิคยินดีต้อนรับเสมอ เข้าไปข้างในกันเถอะ”
เอ็มเดินนำเข้าไปในร้าน ถั่วพูมองข้าวหอมอย่างริษยา

อาหารฝรั่งเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เก่งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มทานอะไรก่อน เรยายิ้มอย่างมีไมตรี
“ลองทานนี่ดู”
เรยาส่งจานสเต็กให้
“ขอบคุณครับ แต่ว่าผม”
“ลองนี่ด้วย ขนมปังนี่ทานกับสเต็ก” สาลี่ส่งให้อีก
เก่งทำหน้าไม่ถูกเพราะเป็นอาหารที่ไม่คุ้นเคย ภูมิพอเข้าใจ
“ไม่ถูกปากล่ะซิ อาหารไทยก็มีนะเอาไหมเดี๋ยวผมสั่งให้”
เรยาขึ้นเสียง “ไม่หัดแล้วเมื่อไหร่จะเป็น อาหารฝรั่งพวกนี้ยังไงก็ต้องหัดทานเพื่อมารยาท”
“เอาเถอะน่าเรยา ค่อยๆ หัดไป นักร้องลูกทุ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนติดดิน ไม่ได้เริ่ดหรูอะไร ตามใจเก่งเถอะ” สมชายปราม
“แต่เรยาหวังดีอยากให้เก่งออกงานสังคมได้เร็วๆ”
“จะให้ทำทุกอย่างเป็นชั่วข้ามวันข้ามคืนคงยากนะคะ” ครูห่านบอก
“คุณเรยาคงคิดว่าเป็นตัวเองมั้ง” มดหยัน
“เข้ากรุงปุ๊บลืมกำพืดเดิมปั๊บ” นกเยาะ
“ฉํ่าสมิหลา สงขลา ปัตตานี แฟนตาซีภูเก็ต”
“แปลว่าอะไรนังปลา” ครูห่านถาม
“เริ่ดหรูหาอะไรเปรียบเทียบไม่ได้แล้ว ไม่งั้นคุณน้องเขาจะได้ฉายาลูกทุ่งไฮโซหรือค่ะ”
“อย่าเถียงกันเลยครับผมหัดกินก็ได้”
เรยาหงุดหงิดดึงจานเก่งออกส่งไปให้สมชายหน้าตาเฉย
“ไม่ต้องแล้ว ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิ นสาลี่ไปห้องน้ำกัน”
เรยารีบลุกไปเข้าห้องน้ำ สาลี่จำต้องลุกตาม ภูมิยิ้มให้กำลังใจเก่ง สมชายไม่สนใจกินต่อจานเก่งอย่างเอร็ดอร่อย

เรยาเดินฉับๆ ออกมาอย่างหงุดหงิด สาลี่ดึงไว้ พูดเตือน
“เดี๋ยวเรยา เธอจะหงุดหงิดอะไรกันนักหนา ถ้าเธอมัวเอาแต่ใจบังคับเก่งให้ทำอย่างที่เธอต้องการ มีหวังเธอแพ้อีพวกบ้านนอกแน่”
“ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมแพ้พวกมันแน่”
“งั้นก็หัดใจเย็นลงบ้างซิ ผู้ชายที่ไหนจะชอบผู้หญิงเอาแต่ใจ”
สาลี่พูดแล้วหยุดไปเมื่อเห็นกลุ่มเอ็มเดินเข้ามานั่งในร้านอีกมุม
“นั่นมันคุณเอ็มกับทีมใช่ไหม”
เรยามองตาม เห็นข้าวหอมเดินข้างๆ เอ็ม
“ใช่ คุณเอ็มมากับนังข้าวหอม”
“ต๊ายๆๆ ทำไมโลกมันกลมแบบนี้ กินข้าวร้านเดียวกันแบบนี้ เก่งก็ต้องเจอกับข้าวหอมซิ”
“เรื่องนั้นฉันเป็นคนกำหนด ไม่ใช่โชคชะตากำหนด”
เรยาแอบตามกลุ่มเอ็มไป สาลี่รีบวิ่งตามไปเป็นลูกคู่ เอ็มเดินตรงไปที่โต๊ะยาว มีทอมนั่งรออยู่ก่อนทอมลุกขึ้นไหว้พ่อแล้วรับไหว้ทุกคน
“คุณหมอมาเร็วจังนะคะ” มะขิ่นทักก่อน
“พอดีผมว่างน่ะครับ ถั่วพูว่าข้าวหอมมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือ”
ทุกคนถึงบางอ้อเรื่องทอมมาเร็ว เอ็มรีบสรุป
“ทานข้าวกันก่อนแล้วให้ข้าวหอมเขาคุยกับทอมเองนะลูก”
“ครับพ่อ”
ทอมเลื่อนเก้าอี้ให้ข้าวหอมนั่ง ข้าวหอมยิ้มอายๆ เพราะไม่เคยมีใครทำให้ เรยา สาลี่ แอบมองทอมดูแลข้าวหอม
“ผู้ชายคนนั้นใคร เธอรู้จักไหมสาลี่”
“ไม่แน่ใจนะ ใช่ลูกชายคุณเอ็มหรือเปล่า ไม่เจอนานแล้ว”
“ท่าทางจะหลงเสน่ห์นังบ้านนอกนะ”
“แสดงว่าคุณเอ็มไม่คิดจะให้นังข้าวนาเนี่ยเป็นเมียเก็บ แต่คิดจะเอาเป็นลูกสะใภ้งั้นเหรอ”
“ก็ไม่รู้ซินะ รู้แต่ว่าไม่ว่ามันจะเป็นอะไรฉันก็ได้เปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง”
“แล้วเธอจะเอายังไงต่อดีล่ะ”
“ก็ไม่ต้องทำอะไร แค่ถ่วงเวลาให้มันเจอกันช้าที่สุด บ้านนอกเข้ากรุงอย่างนังข้าวหอมมันจะหลงแสงสีไปเอง”
เรยายิ้มมีแผนในใจ

ครูอ๊อฟกำลังสอนบัวเรียนการแสดงโดยมีเมฆ ดุ่ย ดุ๋ย เป็นเพื่อนเรียนและเอกคอยดูแล
“การเป็นนักแสดงที่ดีเราต้องสร้างอินเนอร์จากภายในสู่ภายนอก”
“ทำยังไงค่ะครูไอ้อินเนอร์เนี่ย”
“การสร้างจินตนาการจ้ะ อาทิเช่นบริเวณนี้คือท้องทุ่งนา นางเอกมาบอกลาพระเอกเพื่อจะเข้ากรุงไปตามหาความฝัน”
“ให้ฉันเล่นคนเดียวเลยเหรอ ไม่ไหวมั้งครู”
“จริงซิ เธอยังมือใหม่ งั้นหาตัวช่วย”
ครูอ๊อฟมองไปที่กลุ่มเมฆ แล้วเรียก
“นายรูปหล่อมานี่ซิ มาแสดงเป็นพระเอกให้น้องบัวหน่อย”
“ฉันเหรอ ไม่เอาหรอก เป็นพระเอกน่ะพอไหว แต่แสดงคู่กับนังม้าดีดกะโหลกเนี่ยไม่เอาหรอก เล่นเป่ากบยังมันกว่า”
“หนอยไอ้เมฆ วานนิดวานหน่อยไม่ได้ งั้นฉันจะฟ้องคุณเอ็มให้ส่งพวกแกกลับบ้าน พี่เอกโทรหาคุณ”
เอกทำท่าจะโทร เมฆรีบห้าม
“เฮ้ยนังบัว ไม่ต้องมาขู่”
“ไม่ทำใช่ไหมลูกพี่” ดุ๋ยถาม
“ทำ”
ดุ๋ย ดุ่ย สะดุ้ง ที่ลูกพี่ยอมแต่โดยดี เมฆเดินหน้ามุ่ยเข้าไปหาบัว

ทุกคนกำลังนั่งกินอาหาร เก่งกินน้ำพริกกะปิอย่างเอร็ดอร่อย สมชายถาม
“เจอของถูกปากกินไม่พูดไม่จาเชียวนะเก่ง”
“ครับ รสชาติคล้ายๆ ฝีมือน้าสาวผมเลย”
“ไว้ถ่ายมิวสิคเสร็จชวนน้าสาวมาเที่ยวกรุงเทพฯซิ จะได้ภูมิใจในความสำเร็จของหลานชาย” ภูมิแนะ
“น้าอรคงไม่มา แกไม่ชอบไปไกลบ้าน”
“ถ้าไม่มา เราไปหาก็ได้ ฉันจะได้รู้จักกับญาติผู้ใหญ่เธอ”
“เปิดตัวอัลบั้มเมื่อไหร่น้าสาวเก่งคงดีใจที่เก่งเดินไปถึงฝั่งฝัน” ครูห่านบอก
“บางทีแกอาจจะเสียใจมากกว่าดีใจก็ได้”
“เป็นไปไม่ได้ หลานชายได้ดีไม่มีน้าสาวที่ไหนจะใจดำได้ลงคอหรอก”






สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 8 (ต่อ)
เก่งยิ้มเศร้าๆ ยังไม่ทันที่ใครจะพูดต่อ สาลี่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา สมชายรีบถาม

“สาลี่เป็นอะไร ทำไมวิ่งเป็นเจ๊กตื่นไฟขนาดนี้”
“หนีหนี้มาเหรอ” มดถาม
“หรือไม่ก็รอบเดือนมาไม่ปกติเลือดเลยพลุ่งพล่าน” นกแซว
“จะมีอะไร คุณสาลี่ก็ถ้วยถังกะละมังหม้อไปวันวัน” ปลาเยาะ
“นี่แกหาว่าฉันไร้สาระเหรอ”
“พอๆ เรามันก็จริงอย่างเขาพูด มีอะไรว่ามา”
“เรยาค่ะคุณอา เขาปวดท้องอยากจะกลับไปพักผ่อนก่อน”
ภูมิเป็นห่วง “เป็นมากหรือเปล่าต้องไปหาหมอไหม”
“ก็ขอดูอาการก่อน แต่เรยาอยากให้เก่งไปอยู่เป็นเพื่อน”
“ทำไมต้องเป็นเก่ง นี่งานเลี้ยงฉลองของเก่งนะ” ครูห่านท้วง
“ไม่รู้ เรยาสั่งมา”
สมชายถอนหายใจ “แบบนี้คงป่วยไม่มากแต่เพราะเก่งไปขัดใจเขา ว่าไงเก่งไปดูแลเรยาได้ไหม”
“ได้ซิครับ คุณเรยาดูแลผมตั้งหลายเรื่องผมเต็มใจครับ”
สาลี่ยิ้มสะใจ

เอ็มทานอาหารกับลูกชายอย่างมีความสุข โจถามยิ้มๆ
“วันนี้ดูคุณเอ็มมีความสุขนะครับ”
“ก็แน่น่ะซิ คุณทอมมาทานข้าวด้วยนี่” ถั่วพูตอบแทน
มะขิ่นกินไม่ค่อยมีความสุขคอยมองไปที่ห้องน้ำ เอ็มสังเกตเห็น
“มะขิ่นอาหารไม่ถูกปากเหรอ”
“เปล่าค่ะ ห่วงข้าวหอม เห็นว่าจะไปโทรหาบัว ฉันไปตามดีกว่า”
“มะขิ่นทานเถอะเดี๋ยวผมไปดูให้” ทอมบอก
มะขิ่นจะขัดแต่เอ็มรีบพูด
“ให้ทอมไปเถอะ เผื่อข้าวหอมจะได้คุยเรื่องงานกับทอม ไปตามน้องซิลูก”
ทอมดีใจรีบลุกไปหาข้าวหอม มะขิ่นมองการกระทำของเอ็มแปลกๆ

ข้าวหอมคุยโทรศัพท์กับบัวอยู่
“ไม่มีปัญหาแน่นะอยู่กับพวกเมฆน่ะ”
“คนอย่างไอ้บัวเนี่ยนะ ต่อให้เอาไปทิ้งไว้กลางทะเลทรายฉันก็เอาตัวรอดได้ แล้วพี่เอาโทรศัพท์ที่ไหนโทรหาฉันล่ะ”
“ยืมของหมอทอมมา”
“อ๋อ ไปกินเลี้ยงเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันไปเรียนการแสดงต่อนะ”
บัววางสาย ข้าวหอมยิ้มให้กับความแก่นเซี้ยวของน้องสาว แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ เก่งกับสาลี่กำลังเดินมาที่ทางออก ทอมเดินมาอยู่ระหว่างกลางที่ข้าวหอมกับเก่งจะเจอกัน พอดีมีพนักงานถือหม้อไฟร้อนๆมาด้านหลังข้าวหอมเกือบจะชนข้าวหอม ทอมวิ่งไปโอบข้าวหอมดึงให้หลบพ้นหม้อไฟ เป็นจังหวะที่เก่งกับสาลี่เดินผ่านพอดี เก่งกับข้าวหอมเลยไม่ได้เจอกัน เก่งมองหม้อไฟที่ตกที่พื้น สาลี่เร่ง
“รีบไปเถอะเรยารออยู่”
เก่งเดินจากไป เป็นจังหวะเดียวกับทอมคลายกอดข้าวหอม ทอมถามอย่างเป็นห่วง
“เป็นอะไรไหมครับ”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณนะคะหมอทอม”
“ขอโทษด้วยนะครับคุณผู้หญิงเป็นอะไรไหมครับ” พนักงานรีบขอโทษ
“น้องสาวผมไม่เป็นอะไร แต่คราวหลังระวังหน่อยแล้วกัน”
พนักงานรีบขอโทษแล้วเดินจากไป ข้าวหอมมองทอมยิ้มๆ
“มีอะไรเหรอ จ้องหน้าผมทำไม”
“ไม่มีอะไรค่ะ แต่เวลาหมอจริงจังเนี่ยน่ากลัวเหมือนกันเนอะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ว่าแต่ ข้าวหอมมีอะไรที่จะให้ผมช่วย”
“เรื่องถ่ายมิวสิคค่ะ ข้าวหอมอยากให้หมอทอมช่วย”
ข้าวหอมมองหน้าทอมยิ้มๆ

บัวสีหน้าบอกบุญไม่รับ มองเมฆที่มาเล่นคู่กันตัวแข็งเหมือนหุ่นไล่กา
“ไอ้เมฆ นี่แกเล่นให้มันเป็นธรรมชาติกว่านี้ได้ไหม แสดงแบบนี้เอาหุ่นไล่กามาเล่นแทนยังดีกว่า”
“ครูเห็นด้วยครับ น้องบัวส่งอารมณ์ไปแต่นายคนนี้กลับยืนทื่อเลย”
“โถ่ครู ผมเป็นแค่คนดูแลนักแสดง ทำได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว”
“ใช่ครู อยู่บ้านนอกลูกพี่ได้แต่ตีหัวหมาด่ากุ้งหอยปูปลาไปวัน” ดุ๋ยรีบบอก
“หรือไม่ก็คอยแกล้งไอ้เก่งไอ้คราม นอกนั้นทำอะไรไม่เป็นหรอกจ้า” ดุ๋ยเสริม
“เฮ้อ แล้วจะสอนต่อได้ไหมเนี่ย”
“ให้ผมแสดงกับน้องบัวแทนก็ได้นะครับ” เอกเสนอตัว
“เฮ้ยๆ ไม่ได้ ฉันกับไอ้บัวยังไงก็เพื่อนกัน”
เมฆรีบปกป้องบัว บัวอมยิ้ม
“เอาอย่างนี้ ท้องนาต้องมีส่วนประกอบคน ที่เหลือมาเล่นเป็นควายแล้วกัน”
บัวนึกสนุกแกล้งเอก “ดีๆ พี่เอกเป็นต้นไม้ เอาไว้ผูกควายตัวผู้ และควายตัวมีย” บัวชี้ไปที่ดุ๋ยกับดุ่ย
“เอาก็เอามาเร็ว” ครูอ๊อฟเร่ง
เอกถูกจับให้ไปยืนเป็นต้นไม้ จับดุ๋ยไว้ข้าง ดุ่ยไว้อีกข้าง แล้วให้เมฆแสดงคู่กับบัว กุมมือกันรํ่าลา เอก ดุ่ย ดุ๋ย ป่วนไปมาจนครูอ๊อฟเซ็ง
หลังซ้อมการแสดงเสร็จ เมฆ ดุ่ย ดุ๋ย ล้มตัวลงกับพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน
“เป็นนักแสดงนี่งานหนักยิ่งกว่ากรรมกรอีก”
“ลูกพี่ยังดีเป็นพระเอกแต่ฉันสองคนซิฮือๆๆ”
“ก็มีแต่ควายๆๆ เท่านั้นฮือๆๆ”
“บัวนะบัว สงสัยแกกับฉันคงเป็นเจ้ากรรมนายเวรมาตั้งแต่ชาติปางก่อนแน่เลย”
“หรือว่าเราจะยอมแพ้กลับไปเป็นใหญ่ที่ปากช่องดีกว่าไหมพี่” ดุ๋ยถาม
“ไม่ ข้าไม่ยอมแพ้จนกว่าจะเจอไอ้ครามไอ้เก่ง”
สิ้นเสียงเมฆ เมฆมองเห็นบ้านตรงข้าม ครามเดินมาเปิดประตูให้รถเข้าบ้าน เก่งลงจากรถกับเรยา เรยาเดินเข้าบ้านอย่างสบายใจ สาลี่รีบวิ่งตามครามเข้าไปคุยกับเก่ง เมฆเรียกลูกน้องมาดู
“นั่นมันไอ้เก่งไอ้ครามนี่หว่า พวกแกมาช่วยดูซิว่าข้าตาฝาดหรือเปล่า”
“ของจริงลูกพี่ รูปหล่อท่าทางสำอางน่าอัด ไอ้ครามแน่”
“แล้วไอ้หน้ามนยิ้มละไมก็เป็นไอ้เก่งชัวร์”
“นี่มันอยู่ใกล้น้องข้าวหอมแค่ปลายจมูกเองหรือเนี่ย”
เก่งยืนคุยกับคราม
“คนอื่นๆ ล่ะยังไม่กลับอีกเหรอ”
“พอดีคุณเรยาไม่สบายเลยกลับมาก่อน”
“ก็เห็นปกติดีนี่”
“ไม่รู้ซิ เขาบอกว่าป่วยอยากให้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อน”
“สงสัยจะป่วยทางใจ ระวังข้าวหอมรู้เข้าแกหัวแตกแน่”
“ไม่มีทาง ฉันรักเดียวใจเดียวโว้ย ไปข้างในเถอะฉันมีเรื่องพ่อกล้าจะปรึกษา”

กลางคืน ครามนั่งอยู่ที่โต๊ะสนาม เก่งส่งแผ่นเสียงให้ดู
“แกไปเจอแผ่นเสียงนี้มาจากไหน”
“ภูมิให้มา”
“เขารู้เรื่องการตายของพ่อแกไหม”
“เขาว่ามันเป็นอุบัติเหตุ นักเลงทะเลาะกันแล้วพ่อโดนลูกหลง”
“แต่ที่เจ๊ลำไยเล่ามันมีเงื่อนงำมากกว่านี้”
“ภูมิรู้จักคนเก่าแก่เยอะ ถ้าเริ่มต้นจากเขาเราคงได้เรื่องบ้าง”
“จริงของแก พ่อกล้าถูกเพื่อนหักหลังเอาเงินไปทำค่ายเพลง เพราะฉะนั้น”
“ฆาตกรตัวจริงต้องเป็นเจ้าของค่ายเพลงใดค่ายหนึ่งในปัจจุบัน”
“ข้อสันนิฐานแกเป็นไปได้สูง แต่แกคงไม่คิดว่าคุณสมชายเป็นคนฆ่าพ่อแกหรอกนะ”
“ทำไมถึงคิดว่าเขาไม่เกี่ยว”
“คนดีๆ อย่างคุณสมชายแกก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าเขาจริงใจกับแก ลงทุนลงแรงไปมากมายโดยที่ยังไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเราดีเลย คนแบบนี้จะฆ่าใครลง”
เก่งนิ่งคิด ครามเปลี่ยนเรื่อง
“เออฉันมีข่าวดีจะบอกแก”
“ฉันก็มี แต่แกพูดของแกก่อน”
“ฉันจะได้กลับขึ้นชกอีกครั้งเป็นรายการใหญ่ถ่ายทอดโทรทัศน์ด้วย”
“ค่ายครูยอดใช่ไหม”
“แกรู้ได้ไง”
“คุณสมชายบอกว่าถ้าเป็นค่ายนี้แกสบายใจได้ ไม่เหมือนกับเสี่ยกำธร”
“ดีจัง แล้วเรื่องของแกล่ะ”
“ฉันจะได้ไปถ่ายมิวสิค ถ่ายเสร็จจะรีบนำออกอากาศ ความฝันที่จะสืบเรื่องพ่อใกล้เข้ามาอีกขั้นแล้ว”
“ดีใจด้วยเพื่อน แต่ฉันคงไปกับแกไม่ได้เพราะต้องเก็บตัวซ้อม”
“แกไม่ต้องห่วงหรอก ฉันยังมีทุกคนที่นี่คอยช่วย ห่วงแต่แกที่ต้องสู้ด้วยตัวของตัวเองเพียงคนเดียว”






สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 8 (ต่อ)
คืนนั้น เรยานั่งครุ่นคิดแล้วหันมาคุยกับสาลี่

“คุณเอ็มนี่ตาถึงนะ คว้าข้าวหอมดันให้เป็นนักร้องใหม่ในค่าย”
“ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงเราก็คงเอามาปั้นเหมือนกัน เสียดายทางบริษัทเราไม่มีนโยบายรับผู้หญิงนะคะเพราะเรามีราชินีลูกทุ่งแดนซ์อยู่แล้ว”
“เด็กบ้านนอกมาได้ไกลขนาดนี้มันค่อยสมน้ำสมเนื้อที่จะแข่งกับฉันหน่อย”
“นังนั่นมันไม่มีทางสู้เธอ นักร้องค่ายเอ็มมิวสิคพอดังก็เป็นเมียเก็บคุณเอ็มหมด ปั้นปุ๊บโดนปั๊บ ยายข้าวหอมนี่ก็คงเหมือนกัน”
“ฉันไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ถ้าจะสู้เราต้องสู้กันด้วยฝีมือ”

ข้าวหอมเดินเข้าบ้านมาพร้อมกับมะขิ่น ทอม และเอ็ม
“ขอบคุณมากนะค่ะที่ช่วย”
“เล็กน้อย ผมไม่ได้ทำอะไรสนุกๆ แบบนี้มานานแล้ว” ทอมบอก
บัวเดินหาวออกมา
“กลับมาแล้วเหรอพี่ข้าวหอม พี่เก่งโทรมาหาหลายครั้งแล้ว พี่โทรกลับหาด้วยล่ะ เดี๋ยวจะกระอักเลือดตายด้วยความคิดถึงเสียก่อน”
ข้าวหอมรับโทรศัพท์จากบัวแล้วเดินออกไปโทรตามลำพัง บัวจะกลับเข้าห้อง มะขิ่นทัก
“มาพูดแค่นี่แล้วจะไปนอนเลยหรือไง”
“อื้อ ง่วงเพลียด้วย”
มะขิ่นยิ้มรู้ว่าบัวเรียนหนัก ทอมถาม
“เก่งเพื่อนที่บ้านเหรอครับ”
“หมอนี่น่าจะไปอยู่ทะเบียนราษฎร์นะชอบสอบประวัติ บัวรอด้วยฉันก็ง่วงเหมือนกัน”
มะขิ่นเดินหนีทอมไปเลย เอ็มโอบไหล่ลูกชาย
“ดักลอบต้องหมั่นกู้ เจ้าชู้ต้องหมั่นเกี้ยว ถ้าลูกชอบหนูข้าวหอมพ่อสนับสนุนเต็มที่”
“พ่อไม่ห้ามเหรอครับ พ่อไม่เคยให้ผมคบกับนักร้องในค่าย”
“แต่คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าได้ข้าวหอมมาเป็นสะใภ้ เหมือนพ่อได้เชอร์รี่กลับมาอีกครั้ง บ้านจะได้เป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบเสียที”
พ่อลูกยิ้มให้กัน มะขิ่นแอบฟัง รู้สึกหนักใจ บ่นเบาๆ
“ข้าวหอมเอ๊ย เกิดรักสามเศร้าขึ้นจนได้”

เก่งกับครามกำลังจะลุกขึ้นไปนอน ข้าวหอมโทรเข้ามาพอดี ครามพอเข้าใจเดินยิ้มๆ ออกไปทิ้งให้เก่งคุยกับข้าวหอมตามลำพัง
“ฮัลโหลข้าวหอม ว่างแล้วเหรอ วันนี้พี่โทรหาตั้งหลายรอบ”
“จ้ะฉันรู้แล้วบัวพึ่งบอก”
“พี่ขอโทษด้วยนะข้าวหอมมากรุงเทพฯพี่ไม่มีโอกาสไปหากันเลย”
“พี่ยุ่งนี่ ฉันเข้าใจ”
“มีแฟนดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เข้าใจไปเสียหมด”
“ฉันยินดีที่พี่ได้ทำในสิ่งที่รัก ถ้ามีชื่อเสียงพี่ก็คงมีโอกาสสืบเรื่องพ่อกล้า”
“ไม่ต้องห่วง พี่กำลังทำทุกอย่างเหมือนที่เราเคยสัญญากันไว้ ว่าแต่ข้าวหอมทำไมถึงมาเป็นนักร้องล่ะ”
“บัวมีเรื่อง มะขิ่นจำต้องพาเข้ากรุงเทพฯ พอดีคุณเอ็มเขาเคยชวนฉัน ฉันเลยอยากลอง พี่ไม่ว่าฉันนะ”
“ดีแล้วล่ะ บางทีข้าวหอมอาจจะดังกว่าพี่ก็ได้นะ”
เรยาเดินออกมาที่ระเบียง เห็นเก่งโทรศัพท์เลยแอบฟัง
“เราห่างกันไม่ถึงเดือน ดูเหมือนรอบๆ ตัวเรามันเปลี่ยนแปลงไปหมดเลยนะ เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนฉันกลัว”
“ไม่ต้องกลัวนะข้าวหอม วิ่งตามความฝันให้เจอ เพราะไม่ว่ายังไงพี่จะอยู่ปลายทาง รอข้าวหอมอยู่เสมอ”
“พี่เก่ง พี่คือแสงตะวันที่ส่องทางให้ชีวิตฉันจริงๆ”
“อย่าคิดมาก ตั้งใจทำงาน จำไว้นะข้าวหอมพี่จะรักและดูแลข้าวหอมด้วยหัวใจทั้งหมดที่พี่มี ฝันดีนะจ๊ะ”
“จ้ะฝันดีเช่นกัน”
ข้าวหอมวางสาย เก่งวางสายยิ้มให้กับตัวเอง เรยาแอบมองด้วยความริษยา

ตอนเช้า ดุ๋ยกับดุ่ยไปตลาด ถือของพะรุงพะรังกลับมา เดินไปกินไป
“ทำไมเราต้องมาจ่ายตลาดด้วยวะ” ดุ๋ยบ่น
“ไม่ดีหรือไงของกินเพียบเลย”
“ดี แต่หน้าที่นี้มันต้องเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายอย่างเรามันไม่เข้ากัน อย่างเรามันต้องหาเรื่องคนเข้าใจมั้ย เราคือจิ๊กโก๋”
“ใช่เพราะเราคือจิ๊กโก๋ ต้องหาเรื่อง”
ครามวิ่งออกมาจากซอย ทั้งคู่เห็น อุทานขึ้น
“ไอ้คราม”
ครามวิ่งผ่านทั้งคู่ไปโดยไม่เห็น
“เอ็งเห็นอย่างที่ข้าเห็นเหรือเปล่า” ดุ๋ยถาม
“ตาไม่ฝาดแน่เราลุยกับมันเลยมั้ย”
“ลุยกับมันท่าจะไม่ไหว ตามมันไปจะได้รู้ว่ามันอยู่ไหน ไปตามไป”
ทั้งคู่วิ่งตามครามไป ครามวิ่งเข้ามาในซอย ดุ๋ยกับดุ่ยวิ่งมาถึงอย่างเหนื่อยอ่อน
“มันหายไปไหนวะ วิ่งเร็วจริงๆ”
“ฉันวิ่งตามไม่ไหวแล้ว ขอพักก่อนเหนื่อย”
ครามวิ่งกลับมาอีกรอบ ทั้งคู่วิ่งตามไปจนถึงหน้าบ้านสมชาย
“ไอ้เกรียนเอ๊ย วิ่งไปวิ่งมาเสือกวนกลับมาบ้าน แสดงว่าที่เราเห็นเมื่อคืนไม่ผิดแน่”
“ตามไปดูจะๆ จะได้มีเรื่องไปฟ้องพี่เมฆ”
“แจ๋ว เป็นไอเดียที่ดีมาก ตั้งแต่อยู่กรุงทพฯมา อะดีนาลีนพึ่งสูบฉีดหนักก็วันนี้เอง ไปตามมัน”
ทั้งคู่ค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้านสมชายบริเวณราวตากผ้า แอบมอง เห็นเก่งกับคราม
“นั่นไงมันอยู่นั่นจริงๆ ด้วย”
“มีเรื่องไปบอกพี่เมฆแล้ว ถึงเวลาสนุกแล้วซิถึงเวลาสนุกแล้วซิ”
เมฆส่งเสียงร้องเรียกทั้งคู่จากอีกบ้าน
“ไอ้ดุ๋ยไอ้ดุ่ยอยู่ไหนวะ”
ทั้งคู่ตะโกนตอบรับเสียงเมฆ
“ฉันอยู่นี่”
เมฆมองไม่เห็นทั้งคู่
“อยู่ตรงไหนวะ ทำไมข้าไม่เห็น อยู่ไหน”
ทั้งคู่ตะโกนตอบรับเสียงเมฆอีกที
“ฉันอยู่นี่จ้า”
ดุ่ย ดุ๋ย นึกขึ้นได้ว่าอยู่คนละบ้าน
“เบาๆ หน่อย” ดุ๋ยเตือน
“อยู่นี่ก็ออกมาซิวะ จะเล่นซ่อนหาเหรอจับได้แก 2 คนตาย”
เมฆเดินตามหาทั้งคู่ ครูห่านได้ยินเสียงดุ่ย ดุ๋ย เลยเดินตามหาเสียง
“นั่นใคร”
ดุ่ย ดุ๋ย ซ่อนตัวกับเสื้อผ้าที่ตากราวอยู่ เป็นเสื้อชั้นในผู้หญิง
“ช่วยด้วยขโมย พวกโรคจิตขโมยชุดชั้นใน”
ครูห่านวิ่งเข้าไปไล่ปล้ำจับดุ่ย ดุ๋ย ทั้งคู่รีบวิ่งหนีออกไปอย่างทุลักทุเล ในขณะที่เมฆยังตามหาทั้งสองคนอยู่
“เสียงมันเหมือนอยู่ใกล้เนี่ยมันไปไหนวะ”

บัวนั่งเล่นเอาขาแช่น้ำอยู่ ข้าวหอมกับมะขิ่นเดินเอาขนมมาให้ ทั้งหมดนั่งกินขนมริมสระน้ำ บัวเปิดฉากคุย
“เช้านี้ทำไมอากาศมันสดใสจังน้า สงสัยเมื่อคืนจะมีคนได้เติมเชื้อเพลิงความรัก”
“พูดมากเดี๋ยวไม่ให้กินเลย”
“โห พูดแทงใจดำเข้าหน่อยเขินจนไม่ให้น้องนุ่งกินขนมเลยนิ”
“มัวแต่พูดเล่น เรียนการแสดงไปถึงไหนแล้ว งานนี้มะขิ่นจะเสียหน้าฟรีหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“อ๊ะๆๆ อย่ามาดูถูกคนอย่างไอ้บัวนะ ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วไม่มีคำว่าไม่ได้”
“ทำไมมะขิ่นดูเงียบไปล่ะ ทุกอย่างมันกำลังไปได้ดีไม่ใช่เหรอ”
“อืม เท่าที่ดูตอนนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างสวยงาม”
“แล้วมะขิ่นกลุ้มใจอะไร บอกพวกเราได้นะ อย่าแบกความรับผิดชอบไว้คนเดียวสิ” บัวถาม
มะขิ่นยิ้มๆ ให้เพื่อนสบายใจ “ฉันอาจจะกังวลมากไป แต่ฉันไม่ชอบคลื่นลมที่สงบแบบนี้เลย กลัวทอร์นาโดมันจะมากระหน่ำทีหลัง”

ดุ๋ย ดุ่ย กลับมาบ้าน รายงานเรื่องให้เมฆรู้ เมฆขำ
“พวกมันนี่โง่จริงๆน้องข้าวหอมอยู่เหนือหัวมันนิดเดียวแต่เสือกหาไม่เจอฮ่าๆๆๆแล้วพวกมันรู้ไหมว่าเราอยู่ที่นี่”
“ก็ลูกพี่บอกว่ามันโง่คนโง่จะรู้ได้ไง”
“ใช่พี่ มันไม่มีทางรู้”
“แต่เมื่อเช้าก็เกือบไป ถ้าหนีไม่ทันล่ะก็มีหวังมีผัวโดยไม่เต็มใจแน่”
“ไร้สาระ แค่กะเทยคนเดียวจัดการไม่ได้ก็ไปตายซะ พวกแกต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้ข้าวหอมรู้ว่ามันอยู่บ้านตรงข้าม”
“แต่ฉันไม่อยากไปบ้านนั้นอีกนะลูกพี่ สยองขวัญ”
“จริงจ้ะ กะเทยเมื่อเช้าน่ากลัวมาก”
“ไม่ได้ ถ้าเอ็งสองคนไม่ไปแล้วใครจะไป ถ้าไอ้เก่งมันรู้ว่าข้าวหอมอยู่ที่นี่แกตายแน่ เลือกเอาระหว่างฉันกับกะเทยราหู แกกลัวใครมากกว่ากัน”
ดุ่ย ดุ๋ย เศร้า จำยอม เมฆยิ้มมีเลศนัย

สมชายเรียกทุกคนมารับฟังเรื่องถ่ายมิวสิคประกอบเพลง
“ฉันสรุปกับกองถ่ายเขาแล้ว เราจะไปถ่ายมิวสิคกันที่เขาใหญ่”
“งั้นก็ใกล้บ้านเก่งนะซิครับ” ภูมิบอก
“เพลงเก่งเนื้อหามันเกิดที่ปากช่องเราควรไปถ่ายที่นั่นเป็นไอเดียที่ดีค่ะ” เรยาสนับสนุน
“เก่งอย่าลืมชวนน้าสาวมาดูการถ่ายทำด้วยล่ะ”
“ครับ ผมจะลองชวนดู”
“งั้นก็รีบอัดเพลงเรยาซิค่ะ จะได้ไปถ่ายพร้อมกัน ทั้งเพลงเอกและเพลงแก้”
“รอบคอบดีมาก เนื้อเพลงเสร็จแล้วใช่ไหมภูมิ”
“เรียบร้อยครับ วันนี้เข้าห้องอัดได้”
“ดีๆ มาเร็วเคลมเร็ว เหมือนบริษัทประกันเลยฮ่าๆๆ”
นก มด ปลาเดินเข้ามาหน้าเสีย สมชายทัก
“ว่าไง สามแก่เฮ้ย สามสาว ทำหน้าเหมือนหมาหงอยเชียว”
“ยิ่งกว่าหมาหงอยอีกค่ะบอส เรื่องมันใหญ่มาก” มดบอก
“รับรองข่าวนี้บอสจะเห็นทั้งหมาทั้งแมวหงอยเลยล่ะค่ะ” นกเสริม
“อย่ามัวอ้าอึ้งมีอะไรก็ว่ามา มันใช่เวลาเล่นมั้ยเนี่ย” สาลี่ดุ
“ไม่เล่นค่ะ คราวนี้ค่ายเอ็มมิวสิคมันเอาจริง” ปลาบอกแข็งขัน
“เรื่องอะไรว่ามา”
“เพลงเรยาถูกขโมย” สามสาวบอกพร้อมกัน
สมชายกำหมัดแน่น
“ไอ้เอ็มงานนี้ต้องลุย”
สมชาย เรยา บุกไปค่ายเอ็มมิวสิคเหมือนพายุ เก่งและครูห่านตามไปด้วย กลุ่มเก่งเดินผ่านสระน้ำไปไม่ทันสังเกต ข้าวหอม มะขิ่น บัวเห็นเก่งเดินตามสมชายไปอย่างรีบร้อน มะขิ่นร้องทัก
“นั่นมันเก่งกับเจ้าของค่ายที่เก่งมาอยู่ด้วยนี่”
“พี่เก่งจริงๆ ด้วย”
“ฉันว่าท่าทางพวกเขาแปลกนะ เหมือนระเบิดจะลง”
“ชัวร์เลยอาการแบบนี้ฉันว่าไม่ได้มาดีแน่ รีบไปดูกันเถอะ”
บัวรีบชวนข้าวหอมกับมะขิ่นตามไป
อ่านต่อตอนที่ 9





กำลังโหลดความคิดเห็น