สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 1
บนเวทีคอนเสิร์ตค่ำคืนนั้น เก่ง ในฐานะนักร้องดัง ร้องเพลงอยู่หน้าเวที เขาได้รับความนิยมจากมิตรรักแฟนเพลงเป็นอย่างสูง มีคนดูมากมายชื่นชอบ บรรยากาศบนเวที เต็มแน่นไปด้วยนักดนตรี และหางเครื่อง ... เมื่อเขาร้องเพลงจนจบมีแฟนเพลงมากมายคล้องพวงมาลัย ขณะที่เขากำลังมีความสุขกับแฟนเพลง ก็มีมือปืนคนหนึ่งแหวกฝูงชนออกมาอย่างองอาจ พลางกระชากปืนออกจากถุงข้าวโพดคั่ว แล้วยกปืนขึ้นจะยิงเก่ง
คนบนเวทีต่างหลบกันให้วุ่นวาย เก่งร้องเสียงหลงหลับตาปี๋
"อย่า!"
มือปืนเหนี่ยวไกทันที แต่แทนที่จะเป็นลูกปืนกลับเป็นนํ้าฉีดออกมา โดนหน้าเก่งเต็มๆ เขาลืมตาขึ้นมามือปืนคนนั้นกลายร่างเป็นอร ที่มีสีหน้ากำลังโกรธจัด เขาพยายามขยี้ตาเพื่อให้มองเห็นชัดๆ
เก่งขยี้ตา อรสาดนํ้าโครมใหญ่เข้าอีกทีจนเก่งสำลักนํ้าลูบนํ้าออก มองอรชัดๆ เห็นอรสีหน้าโกรธบึ้ง
"จะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไง น้าให้มาเลี้ยงควายไม่ใช่ให้ควายมาเลี้ยง"
เก่งแก้ตัวอ้อน
"โธ่น้าอรฉันกำลังจะไปนา แต่พอดีไอ้ทุยมันดันหิวฉันก็เลยต้องพักให้มันกินก่อน แต่ยิ่งกินมันยิ่งไม่อิ่มฉันก็เลยรอมันไปเรื่อยจนเผลอหลับไป"
อรเสียงแข็ง
"อย่าโกหกเอาไอ้ทุยมาอ้าง"
"ก็มันเรื่องถ้าน้าจะโทษก็ต้องโทษไอ้ทุยไม่ใช่ฉัน"
"หนอย...ไอ้หลานตัวแสบจะโยนความผิดให้ควายทั้งๆที่เอ็งนอนหลับสบายงั้นเหรอไอ้เก่ง"
เก่งเข้ากอดอร
"น้าอรจ๋า...น้าอรไม่โกรธเก่งจริงๆใช่ป่าว"
อรเริ่มอ่อนลง
"น้าไม่อยากโกรธเอ็งหรอกนะ" แล้วเสียงแข็งอีก "แต่นี่ทุกคนเค้าไปลงแขกนากันหมดแล้วเหลือแต่เอ็งที่นอนตีพุงอยู่คนเดียว"
เก่งนึกขึ้นมาได้
"ทุกคน...!"
"ใช่ทุกคนเพราะฉะนั้นเอ็งมาให้น้าตีซะดีๆ"
อรเงื้อมมือจะตี เก่งหลบและคว้ามือน้าอรไว้
"อุ๊ยตาย! นี่ใจคอจะตีหลานชายคนเดียวได้ลงคอเลยเหรอ แบบนี้ต้องทำโทษกลับแล้ว"
เก่งดึงมืออรมาหอม อรตกใจ เก่งรีบฉวยโอกาสหอมแกล้มอรแล้ววิ่งหนี เก่งหันมาพูดอย่างอารมณ์ดี3
"เกี่ยวข้าวเสร็จแล้วฉันจะไปช่วยเก็บร้านนะจ๊ะน้าสาวคนสวย"
เก่งวิ่งหนีไป ทิ้งให้อรขุ่นเคือง แต่แล้วอรก็อดอมยิ้มในความน่ารักแฝงกะล่อนของเก่งไม่ได้
ในร้านกาแฟ เจ๊ลำไยขายของยุ่งอยู่คนเดียว..มีลูกค้าเต็มร้านเจ๊ลำไยขายของไปหงุดหงิดไปบ่นไป
"วันนี้มันอะไรกันนักหนาถูกหวยกันมาหรือไงถึงได้มากินพร้อมๆกันวันนี้"
แหม่มถาม
"หลานๆหายไปไหนกันหมดล่ะเจ๊"
"ไม่รู้มันหายหัวไปทั้งสองคนตั้งแต่เช้าทั้งข้าวหอมและไอ้บัว ทิ้งให้ขายของอยู่คนเดียวรมณ์เสียนะเนี้ยะรมณ์เสีย"
มะขิ่นบอก
"ไม่ต้องมาอารมณ์เสีย เอากาแฟเย็นมากินก่อนเลยเจ๊"
"ได้แต่รอก่อนเปิดเพลงฟังให้ใจเย็นก่อน" เจ๊ลำไยบอก
ลำไยเดินสะบัดไปเปิดวิทยุฟังเพลง "อารมณ์เสีย" ยิ่งฟังก็ยิ่งหงุดหงิดจนต้องปิดวิทยุ
"โอย...ร้องเพลงอะไรเนี้ยไม่เห็นเพราะเลย สู้เก่งมันร้องลิเกให้ฟังก็ไม่ได้"
เมฆนั่งฟังอยู่อีกมุมกับดุ่ยและดุ๋ย แหม่ม มะขิ่นชวนคุยต่อ
แหม่มบอก
"นักร้องคนนี้เสียงดีน่ะ...ชื่ออะไรน้า"
"อาภาพร นครสวรรค์ไงเค้าดังออกจะตาย" มะขิ่นบอก
"เออว่ะเสียงใสเหมือนนกการเวก"
"แบบนี้นะเสียงดี ถ้าร้องแบบนี้แล้วดี ป่านนี้ข้าก็เป็นนักร้องดังไปแล้ว"
มะขิ่นบอก
"จริงๆนะ ฉันยังชอบเลยซื้อทุกอัลบั้มเลย เสียงก็ดีนิสัยก็น่ารัก เสียอย่างเดียวอ้วนไปหน่อย หน้าแบนไปนิดแต่งตัวก็งั้นๆนมก็...."
เจ๊ลำไยขัดก่อน
"พอๆไม่ต้องอธิบายแล้วนังมะขิ่น ถ้าเอ็งพูดต่ออีกนิดเดียวยายอาภาพร นครสวรรค์เนี้ยคงตกสวรรค์แล้วล่ะ"
"แล้วสรุปหลานสาวหายไปไหนล่ะ" แหม่มถาม
เจ๊ลำไยรำคาญ
"ถามจังตกลงจะกินไหมกาแฟเนี้ยอย่าให้รมย์เสียนะ มันจะไปไหนก็เรื่องของมันเถอะ แต่กลับมาเมื่อไรแม่ด่าแหลก"
มะขิ่นนึกได้
"เอ๊ะ! หรือว่าข้าวหอมกับบัวจะไปช่วยเก่งลงแขกเกี่ยวข้าว"
"เออว่ะสงสัยจะจริง"
เจ๊ลำไยเดินกลับไปชงกาแฟขายของต่อเพราะมีลูกค้าสั่ง เมฆนั่งฟังอยู่อีกมุมกับดุ่ย ทั้งสองยิ้มอย่างพอใจ
"หนีพี่เมฆไปลงแขกนาเหรอจ๊ะน้องข้าวหอมจ๋างั้นเดี๋ยวรู้เดี๋ยวรู้"
บริเวณท้องนา ข้าวหอมกับบัวร้องเพลงเกี่ยวข้าว ต่างแบ่งฝ่ายเป็นชายหญิง ข้าวหอมนำทีมฝ่ายหญิง ส่วนบัวเป็นลูกคู่เก่งนำทีมฝ่ายชาย
"เอ้ย..เอิงๆ..เอ..เอิง..เอ้ยช่าๆๆเอิงเอย..วันนี้มาฟังเพลงฉ่อยกันซะหน่อยมาช่วยกันร้องอนุรักษ์เพลงไทยร้องไปเกี่ยวข้าวไปมาร่วมมือลงแรงกันทั้งหญิงชายผู้หญิงที่นี่ก็มีกันมากแต่ชายสามศอกกลับเกียจคร้านมาสาย"
"เฮ้ย..เอิง..เอ่ย...พอเจอหน้าก็หาว่าเราเกียจคร้านพวกนางๆดีแต่ปากทำไปบ่นไปผิดกับเราชายสามศอกไม่บ่นไม่หยอกใช้ไปก็ทำไป" เก่งร้อง...
เนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับหนุ่มสาวต่อว่าร้องเพลงเกี้ยวกัน สาวๆหาว่าหนุ่มเกียจคร้าน หนุ่มก็แก้ทางคืนจนฝ่ายหญิงเถียงไม่ออก เมื่อฝ่ายหญิงร้องเพลงสู้ไม่ได้ บัวโมโห
ข้าวหอมบอก
"หนอยหาว่าผู้หญิงเก่งสู้ผู้ชายไม่ได้แน่จริงมาแข่งกันไหม"
"ถ้าเป็นน้องข้าวหอมพี่เก่งไม่เกี่ยงอยากจะแข่งอะไรว่ามาเลย" เก่งว่า
"ไม่ใช่แข่งกับฉันหรอกพี่เก่ง แต่แข่งจับกบกับบัวต่างหาก"
เก่งท้อใจ
"โห..บัวจับกบเก่งที่สุดในหมู่บ้าน แบบนี้ก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแล้ว"
"งั้นก็ยอมรับมาซะว่าผู้หญิงเก่งกว่าผู้ชาย" บัวบอก
เก่งทำสีหน้าบอกไม่ถูก พวกผู้หญิงพากันตบมือ เพื่อนชายเก่งรีบพูด
"แบบนี้เสียหน้าแย่เลย เก่งรู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้น"
"ว่าไงพี่เก่งจะสู้หรือไม่สู้"
เก่งลังเลว่าจะเอายังไงดี เมฆกับลูกน้องพูดสวนขึ้นมา
"ไม่กล้าสู้กับผู้หญิงแล้วถ้าเป็นพวกข้าล่ะเอ็งจะกล้าหรือเปล่าไอ้เก่ง"
"ไอ้เมฆ"
ทุกคนหันไปมองเห็นเมฆและดุ๋ยดุ่ยยืนจังก้าเตรียมหาเรื่อง บัว ข้าวหอมและชาวบ้านพากันมารวมตัว
"ว่าไงไอ้หน้าตัวเมียกล้าหรือไม่กล้า" ดุ๋ยว่า
ดุ่ยบอก
"แต่ถ้าเอ็งไม่กล้าสู้กับพี่เมฆของข้าก็ส่งน้องบัวคนสวยมาสู้แทนก็ได้นะ"
"ช่าย...และเอ็งกับเพื่อนๆก็เอาผ้าถุงมานุ่งแทนกางเกงเพื่อเป็นการประจานความขี้ขลาด" เมฆพูดพลางหัวเราะยียวน
เก่งโมโห
"ได้เลยไอ้เมฆ เอ็งกับข้ามาดวลกันตัวต่อตัวใครแพ้เป็นหมา"
เก่งกับเมฆจ้องมองประจันหน้ากันแล้วก้าวขาพร้อมกัน
เก่งกับเมฆก้าวขาลงนาโคลนพร้อมกันทั้งคู่เดินไปกลางแปลงนาเหมือนคาวบอยเตรียมดวลปืนโดยมีชาวบ้านและดุ๋ยดุ่ยยืนเชียร์อยู่บนคันนา บัวประกาศกฎแข่งขัน
"ต่อไปนี้เป็นการแข่งขันการจับกบใครจับกบใส่ข้องได้ก่อน 10 ตัวถือว่าชนะพร้อมไหม"
เก่ง-เมฆพูดพร้อมกัน
"พร้อม"
ข้าวหอมบอก
"งั้นเริ่มได้"
สิ้นเสียงข้าวหอม เก่งและเมฆต่างแย่งกันจับกบแบบล้มลุกคลุกคลาน ชาวบ้านและดุ๋ยดุ่ยต่างพากันเชียร์ฝ่ายของตัวเอง ข้าวหอมกับบัวคอยให้กำลังใจเก่ง เก่งกับเมฆต่างผลัดกันจับได้ต่างฝ่ายต่างได้คนละ 7 ตัว
เมฆส่งซิกให้ลูกน้องดุ๋ยดุ่ยช่วยจับกบริมคันนาโยนให้เมฆ ทำให้เมฆจับได้9ตัวแซงหน้าเก่งที่ได้แค่ 7 ตัว เก่งโวย7
"เฮ้ย..แบบนี้มันโกงกันนี่หว่าเอ็งให้ลูกน้องช่วยจับโยนมาให้"
"กติกาไม่ได้บอกนี้ว่าห้ามคนโยนกบมาให้ บอกแค่ใครจับกบใส่ข้องได้ก่อน 10 ตัวถือว่าชนะ ข้าโกงตรงไหน"
ดุ๋ยบอก
"ไอ้เก่งแพ้ก็ต้องยอมแพ้ อย่าทำตัวเป็นขี้แพ้ชวนตีโว้ย"
ดุ่ยบอก
"หรือถ้าเอ็งไม่กล้าสู้พี่เมฆของข้าก็ยอมแพ้มาซะดีๆ ข้าจะได้ไปประกาศต่อชาวบ้านปากช่องว่าเอ็งนะแพ้ลูกพี่เมฆของข้า"
"ที่สำคัญเอ็งต้องเป็นหมาเห่าหอนที่ตลาด" เมฆบอก
เก่งโมโหพยายามจับกบต่อ ข้าวหอมกระซิบบัว
"เมฆโกงแบบนี้พี่เก่งแพ้แน่"
"ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวบัวจัดให้"
บัวมองหาจุดช่วย บัวเห็นกบวิ่งมาที่คันนา บัวรีบร้องตะโกน
"อุ๊ยตรงนี้กบเพียบเลย"
ดุ๋ยดุ่ยรีบวิ่งไปที่ริมคันนา บัวขัดขา ดุ๋ยดุ่ยล้มหน้าควํ่าลงขี้โคลน กบกระโดดหนีไปหาเก่งทำให้เก่
จับได้ 2 ตัว ทำให้เก่งได้ 9 ตัวเท่าเมฆ ทั้งสองคนมองหากบตัวสุดท้ายเพื่อจะประกาศชัยชนะ
เก่ง ,เมฆมองเห็นกบตัวสุดท้ายพร้อมๆกัน ทั้งคู่กระโดดเข้าหากบพร้อมกัน กบจึงกระโดดหนีเมฆสั่งลูกน้องที่เพิ่งลุกมาจากขี้เลน
"ยืนบื้ออยู่ทำไมวะมาช่วยกันจับซิ"
ดุ๋ยดุ่ยรีบมาช่วยเมฆจับกบ แต่กบมันก็กระโดดหนีไปในร่องอกของสาวๆที่มายืนดู ดุ๋ยโดดไปคว้าหน้าอกสาว สาวเจ้าตบหน้าดุ๋ยจนหันกบกระโดดออกไปเกาะบนหัว ดุ่ยเมฆกับเก่งเห็นพร้อมกันต่างกระโดดเข้าหาดุ่ย กบหนีจากหัวเข้าไปในกางเกง เมฆกับเก่งแย่งกันจับผิดจับถูก ดุ่ยร้องครวญครางไปมา
จนกบกระโดดไปหาข้าวหอม เมฆจะเข้าจับหน้าอกข้าวหอม แต่เจอบัวเตะผ่าหมากเมฆจนลงไปนอนหน้าเขียวแล้วกบเจ้าปัญหาก็โดดลงข้องเก่งอย่างง่ายดายชาวบ้านตบมือให้ เก่งหันไปยิ้มให้ข้าวหอมกับบัว8
"ใครแพ้เป็นหมา ลูกชายเสี่ยใหญ่อย่างพี่เมฆคงไม่ผิดสัญญานะ"
ข้าวหอมเข้าไปดูแลเก่ง บัวยิ้มเยาะสะใจ เมฆกับลูกน้องที่เจอศึกหนัก เมฆมองเก่งอย่างโกรธแค้น
"เอ็งกับข้าต้องได้เห็นดีกันแน่ไอ้เก่ง"
เวลาต่อมา ดุ่ย ดุ๋ย เมฆถูกบัวมัดมือรวมกันแล้วจูงเข้าตลาดพร้อมบังคับให้เห่าหอน ดุ่ย ดุ๋ยช่วยกันเห่าตบท้ายด้วยเมฆหอน ข้าวหอมกับเก่งเดินอมยิ้มตามหลัง
ทั้งสามเห่า "โฮ่งๆๆ โบร๋ว"
บัวบอก
"เจ้าข้าเอ้ย มาเร็วมาดูลูกชายเสี่ยกำธรกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าเพราะแพ้การแข่งขันจับกบ"
ชาวตลาดออกมาดูกันเยอะ เมฆอายทำท่าจะหยุดเห่าหอน ข้าวหอมกำชับ
"จะผิดสัญญาเหรอพี่เมฆแพ้ก็ต้องรักษาสัญญาซิ"
แหม่ม มะขิ่นเดินกลับจากร้านกาแฟเห็นเหตุการณ์เลยเข้ามาถาม
"เรื่องอะไรกันน่ะเก่ง 3 แสบนี่แพ้พนันใคร"
"แพ้ฉันเอง " เก่งหันไปหาบัว "ฝากด้วยนะบัวฉันจะไปช่วยน้าอรเก็บร้านแล้ว"
"ไม่ต้องห่วงฉันจะจัดการให้เดินโชว์รอบตลาดตามสัญญาเก่ง" ก่อนหันไปหาเมฆ "ขอให้สนุกกับการกลายร่างนะ"
เก่งพูดเสร็จเดินยิ้มจากไปอย่างอารมณ์ดี เมฆมองด้วยความแค้น9
"ฝากไว้ก่อนฉันเอาคืนแกแน่"
ดุ๋ยบอก
"ฝากมันทำไมพี่เดี๋ยวบูด"
เมฆเตะขาลูกน้อง
"ไอ้โง่ข้าหมายถึงฝากความแค้นโว้ย"
"เอาคืนมันไม่ได้ก็เล่นงานเพื่อนซี้มัน ไอ้ครามมันเด็กในกำมือพ่อพี่อยู่แล้ว"
มะขิ่นได้ยินหูผึ่ง เดินเข้าไปเหยียบเท้าดุ่ย ดุ่ยร้องจ๊าก
"ไอ้พวกหมาหมู่คิดจะเล่นงานครามของฉันเหรอ ไม่มีทางเสียล่ะ ม่ะบัวฉันช่วยมาแล้วพวกเรามาดูไอ้พวกหมาหมู่มันเห่าหอนเร็ว"
ชาวบ้านกรูกันเข้ามาดู มะขิ่นจูงเชือกแทนบัวบังคับให้ 3 แสบเห่าหอนต่อ
ค่ายมวย ส. นรสิงห์ ครามซ้อมชกมวยอยู่อย่างแข็งขัน เสี่ยกำธรเดินเข้ามาตบมือให้อย่างพอใจ
"เก่งมากครามแบบนี้ซิไม่เสียแรงที่ส่งเสริม"
ครามหยุดซ้อมหันมาไหว้
"ฉันมีวันนี้ก็เพราะเสี่ยให้โอกาส"
"อาไร...เพราะเอ็งมีฝีมือหรอกค่ายมวยฉันก็พลอยดังไปด้วย"
"ไม่ว่าจะยังไงก็เป็นเพราะเสี่ยอยู่ดีที่ส่งเสริมเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในวัดอย่างผมผมจะไม่ลืมพระคุณนี้เลย"
"แกน่ะเป็นคนดีรู้จักบุญคุณคนชกชิงแชมป์ประจำจังหวัดเที่ยวนี้แกต้องคว้าแชมป์มาให้ได้เข้าใจไหมคราม"
เสี่ยกำธรยิ้มเจ้าเล่ห์
"ดีขอให้ครามทำให้ได้เหมือนอย่างที่พูด"
เวลาต่อเนื่องมา เก่งช่วยอรเก็บร้านเสร็จแล้วกลับมาบ้าน เก่งเอาของว่างเก็บเรียบร้อยอรมองหลานชายด้วยความรักเอ็นดู
"ไปอาบนํ้าอาบท่าก่อนลูกเดี๋ยวน้าจะทำกบผัดฉ่าของชอบให้กิน"
เก่งยิ้มแห้งสยองกบ
"น้าอรจ๋าวันนี้เปลี่ยนเมนูได้ไหม"
"อ้าว...ทำไมล่ะก็ของชอบเก่งนี่นา"
"ชั่วโมงนี้ขอพักก่อนนึกถึงมันแล้วสยอง"
"ตามใจงั้นน้าจะทำนํ้าพริกแกงจืดแล้วกัน"
"อะไรก็ได้จ๊ะ ขอแค่เป็นฝีมือน้าสาวคนสวยของเก่งทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้น"
"อย่ามาปากหวาน เรายังมีความผิดอยู่นะ ไปรีบไปอาบนํ้าจะได้มากินข้าวกัน"
" ครับผม เก่งหลานเลิฟพร้อมปฏิบัติตามครับผม" เก่งพูดพลางตะเบ๊ะ
เก่งทำท่าเหมือนทหารออกวิ่งขึ้นบ้าน อรส่ายหัวในความขี้เล่นของหลานชาย
เก่งอาบนํ้าร้องเพลงลูกทุ่งอย่างมีความสุข ขณะที่อรกำลังทำกับข้าวอย่างมีความสุข พอได้ยินเสียงเพลงที่เก่งร้อง อรถึงกับหยุดชะงักเริ่มโกรธกำหมัดแน่น
อรนั่งหน้าบึ้งอยู่ เก่งเดินเข้ามาหาอย่างอารมณ์ดี
"หิวจังเลย อ้าวไหนล่ะน้าอรนํ้าพริกแกงจืด"
อรเสียงแข็ง
"ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วเรื่องเพลงลูกทุ่ง"
"โธ่น้าอร เก่งแค่ร้องเล่นในห้องนํ้า"
"ร้องเล่นก็ไม่ได้แกรู้ไหม เพราะเพลงลูกทุ่งมันทำให้ครอบครัวเราต้องพบกับความพินาศแค่ไหน"12
เก่งเริ่มหงุดหงิด
"ก็เพราะผมไม่รู้นะซิ น้าอรไม่เคยเล่าอะไรให้ผมฟัง น้าแค่บอกว่ามันไม่ดี ไม่ให้ผมเข้าไปเกี่ยวข้องผมก็ทำตามมาตลอด"
อรนํ้าตารื้อ
"แกรู้เพียงว่าไอ้เพลงลูกทุ่งนี่แหละที่ทำให้พ่อแม่แกตาย ทำให้แกต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเข้าใจไหม"
"ไม่เข้าใจแค่เพลงมันจะทำให้พ่อแม่ผมตายได้ไง น้าอรเล่าให้ผมฟังซิว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ผมW
อรตั้งสติได้
"แกไม่ต้องรู้รู้แค่ว่ามันไม่ดีก็พอแล้ว"
"มันไม่ดียังไง พ่อผมเคยเป็นนักร้องดังในอดีต ถ้าไม่ดีทำไมพ่อถึงเป็นนักร้องลูกทุ่ง น้าอรตอบผมหน่อยซิว่าทำไม"
"ฉันไม่ตอบ แกเป็นหลานฉันต้องเชื่อฟังฉัน ถ้าไม่ฟังกันก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกันแกจะไปไหนก็ไป"
เก่งเสียใจนํ้าตารื้อ
"น้าอรไม่มีเหตุผล แค่เก่งร้องเพลงในห้องนํ้าน้าอรถึงกับไล่ ผมอยากจะรู้นักว่าผมเป็นหลานน้าจริงๆหรือเปล่า หรือแค่เด็กเก็บมาเลี้ยงเพื่อระบายอารมณ์"
เก่งมองอรด้วยสายตาน้อยใจ นํ้าตาคลอแล้วเดินลงจากบ้านไป
อรตกใจที่ตัวเองว่าหลานแรงไป อรนํ้าตาร่วงทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
"นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย พี่นิ่มฉันพยายามแล้วพี่"
สัญญาเมื่อสายัณห์ ตอนที่ 1 (ต่อ)
ยามเย็น ใกล้ๆบ้านอร เก่งมานั่งดูรูปพ่อที่ปกแผ่นเสียง เก่งดูรูปนํ้าตารื้อ1
"พ่อครับทำไมน้าอรถึงเกลียดเพลงลูกทุ่ง ทั้งที่พ่อเป็นนักร้องลูกทุ่ง เกิดอะไรขึ้นครับพ่อ"
ครามซ้อมวิ่งผ่านมาเห็นเพื่อนนั่งเศร้า พูดอยู่คนเดียว ครามจึงเข้าไปหา
เก่งนํ้าตาเริ่มคลอ
"เก่งรักน้าอรนะครับ แต่เก่งต้องการเหตุผลว่า ทำไมทำไมเก่งถึงร้องเพลงลูกทุ่งไม่ได้"
"เพราะน้าแกไม่ชอบไง" ครามพูดพลางลงนั่งข้างๆ "ทะเลาะกับน้าอรมาอีกล่ะสิ"
"ฉันไม่เข้าใจ ทำไมน้าอรถึงเกลียดเพลงลูกทุ่งนักหนา แค่ร้องเล่นยังไม่ได้"
"แกข้องใจแล้วทำไมไม่ถาม มานั่งรำพึงรำพันคนเดียวเหมือนคนบ้า"
"นี่แกเป็นเพื่อนรักฉันจริงหรือเปล่า แกก็รู้ฉันถามน้าอรเป็นร้อยเป็นพันครั้ง แล้วแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ"
"งั้นน้าอรคงคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่แกจะรู้ความจริงมั้ง"
เก่งฉันโตแล้วนะโว้ย ไม่ใช่เด็กเล็กๆที่จะไม่เข้าใจ"
ครามถอนหายใจ
"แกมันก็ดื้อเหมือนน้าอรยังกับแกะ เอาอย่างนี้ถ้าน้าอรไม่บอกเรา ก็สืบหาความจริงเอาเองแกจะได้หายข้องใจสักทีดีไหม"
"เป็นความคิดที่ดีมากคราม แกก็มีสมองเหมือนกันนะเนี่ย นึกว่าดีแต่ใช้กำลัง"
"เฮ้ยๆนี่ไม่ใช่เพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กพ่อเตะโชว์แล้ว"
เก่งยิ้มขำๆ
"โห..ตัวก็โตไงขี้น้อยใจ ว่าแต่เราจะสืบเรื่องพ่อกล้าได้จากที่ไหนวะ"
"อันนี้ไม่ยากคนที่รู้เรื่องพ่อแกดีอีกคนก็คือเจ๊ลำไย"
ในร้านกาแฟ ตอนเย็น เจ๊ลำไยหัวเราะก๊ากขำเรื่องที่ข้าวหอมกับบัวเล่าให้ฟัง
"ฮ่าๆๆสมนํ้าหน้าไอ้เมฆมันชอบกร่างถือว่าพ่อมันมีอิทธิพล"
ข้าวหอมบอก
"เจ๊ต้องเห็นหน้าพวกมันตอนโดนกบเล่นงานขำสุดๆไปเลย"
"ใช่น้ายิ่งตอนที่มะขิ่นพามาเดินประจานรอบตลาดนะยิ่งขำ" บัวบอก
เจ๊ลำไยกำลังอารมณ์ดีถึงกับหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำว่าน้า
"แกเรียกใครว่าน้าหา..นังบัวฉันบอกแล้วใช่ไหมถึงฉันจะเป็นน้าแกสองคนก็ห้ามเรียกมันแก่ต้องเรียกเจ๊เข้าใจไหม"
"ค่ะ น้า....เอ่อ...เจ๊ลำไยคนงามที่สุดในตลาด"
"เออแบบนี้ค่อยลื่นหูหน่อยว่าแต่ทำไมพวกแกไปมีเรื่องกับไอ้เมฆได้ ตอนบ่ายฉันยังเห็นมันอยู่ที่ร้านอยู่เลย"
"เราไปช่วยแลกแรงลงแขกนาเก่งกันจ้ะเมฆกับลูกน้องตามไปเจอเลยมีเรื่องกัน" ข้าวหอมบอก
"ไปแลกแรงทำไมเราไม่ได้ทำนา ฉันบอกพวกแกกี่ครั้งแล้ว โดยเฉพาะนาไอ้เก่งไม่ต้องไปช่วยมัน"
"ทำไมล่ะน้า...เจ๊...ก็เห็นเจ๊ดีกับเก่งนี่" บัวถาม
"บางอารมณ์โว้ย มันนะเหมือนพ่อมันเกินไป เจ๊ก็เลยไม่ค่อยชอบหน้ามันเท่าไร"
"ไม่ชอบหรือว่า...เคยถูกพ่อของเก่งหักอกเอา" ข้าวหอมบอก
"อีนังพวกนี้ปากดีเดี๋ยวแม่ตบล้างบาง ไปอาบนํ้าล้างตัวแล้วจะได้มากินข้าวกัน"
ข้าวหอม บัว อมยิ้มที่พูดจี้ใจดำเจ๊ลำไย สองสาวพากันรีบออกไป ทิ้งลำใยนังรำพึงรำพัน
"พี่กล้า ถ้าพี่เลือกฉันพี่ก็คงไม่ตายและฉันก็ไม่ต้องกลายเป็นสาวแก่ขึ้นคานจนถึงวันนี้"
คืนนั้น ในห้องนอน อรนั่งดูรูปครอบครัวที่พี่สาวถ่ายรูปคู่กับกล้าและอรโอบกอดหลานเก่งตอนเป็นเด็กอยู่ข้างๆ เธอมองรูปแล้วเริ่มนํ้าตาคลอ
"พี่นิ่มฉันไม่เคยลืมเลยว่าวงการเพลงลูกทุ่งมันพรากอะไรไปจากฉันบ้าง"
อรนึกถึงความหลังอย่างเศร้าสร้อย
ย้อนอดีต20ปี นิ่มกำลังนั่งเล่นกับลูกในวัย 3-4ขวบ กล้า เสียงเพชรกำลังยืนเป่าแซกโซโฟน แต่งเพลงอยู่ข้างๆกล้าหันมามองลูกเมียแล้วก็ยิ้ม นิ่มเลยแซวสามี
"มัวแต่มองฉันกับลูกแล้วเมื่อไรจะแต่งเพลงเสร็จ"
กล้าเดินเข้ามาหานิ่ม
"ก็เพราะเพลงนี้พี่แต่งให้นิ่มกับลูกไง"
"แต่งเพลงให้ลูกกับเมียเดี๋ยวก็เสื่อมความนิยมกันพอดี"
"ก็เพราะแบบนี้ไงพี่ถึงคิดทำค่ายเพลงกับเพื่อน นิ่มกับลูกจะได้ไม่ต้องคอยหลบแฟนเพลง"
"เราไม่เป็นเรื่องธุรกิจเลยนะพี่ฉันเป็นห่วง"
กล้ากอดเมียด้วยความรัก
"ไม่ต้องกังวลไปหรอก เพื่อนพี่คนนี้เค้าเป็นคนดี งานนี้พี่ทุ่มสุดตัวรับรองค่ายเพลงเราดังเป็นพลุแน่"
"ฉันอดคิดไม่ได้หรอกพี่เก่ง มันยังเล็กนัก เงินที่พี่เอาไปลงทุนมันเป็นเงินเก็บทั้งหมดที่เรามี"
"ไม่เอาอย่าคิดมาก ลืมไปหรือเปล่าว่านิ่มมีสามีเป็นนักร้องดัง ถึงแม้เราจะขาดทุนเรื่องค่ายเพลงแต่พี่เดินสายร้องเพลงฤดูงานแค่รอบเดียวเราก็ไม่ลำบากแล้ว"
"จ้า...พ่อนักร้องดัง"
อรเดินเข้ามา มือถือขวดนม อรเข้าไปอุ้มหลาน
"มีรถมาหน้าบ้านแล้ว พี่กล้ากับพี่นิ่มจะไปเซ็นสัญญาค่ายเพลงก็ไปเถอะ เดี๋ยวอรดูเก่งให้เอง"
"ฝากเก่งด้วยนะอรเดี๋ยวพี่มา"
"ไปเถอะพี่ไม่ต้องห่วงเก่งมันก็หลานฉัน"
กล้ากับนิ่มเดินออกไป ทิ้งให้อรดูแลหลาน อรอุ้มเก่งขึ้นดูเพื่อนที่มารับกล้ากับนิ่มอรเห็นเพียงแต่ด้านหลัง
เวลากลางคืน ในบรรยากาศคอนเสิร์ต กล้ากำลังร้องเพลงอยู่หน้าเวที ผู้ชมมากมายชื่นชอบกล้า มีคนทะเลาะกันกลางกลุ่มคนดูและแล้วชายคนหนึ่งดึงปืนออกมาแล้วยิงออกไป
คนทะเลาะ1 บอก
"ซ่านักเหรอตายซะเถอะแก"
กล้าตกใจทำอะไรไม่ถูก ผู้คนแตกตื่นคนทะเลาะ1ยิงปืนออกไปโดนกล้า เขาค่อยๆทรุดตัวล้มลง
คนยิงและผู้ชมต่างวิ่งหนีออกจากพื้นที่ เหล่านักดนตรีแดนซ์เซอร์รีบเข้ามาดูกล้าที่ขาดใจตายกลางเวที
เวลาต่อมา นิ่มนั่งกอดลูกชายร้องไห้มองคนมายกของในบ้านออกไป อรพยายามที่จะวิ่งห้ามแต่ไม่เป็นผล
"เอาไปไม่ได้นะนี่เป็นของพี่สาวพี่เขยฉัน"
"ขอโทษนะครับผมทำตามหน้าที่บ้านนี้ถูกยึดแล้ว"
อรจำต้องปล่อยให้ทุกคนขนของไปต่อหน้าต่อตา คนขนของเดินไปหยิบแอคคอเดียนของกล้า นิ่มเห็นวิ่งไปยื้อแย่งทั้งนํ้าตา
"แอคคอเดียนนี่ไม่ได้ มันเป็นตัวแทนของพี่กล้า เค้าตายไปแล้วอย่าเอาของรักเค้าไปจากฉันเลย"นิ่มพูดไปร้องไห้ไป
คนขนของเสียงดุ
"ไม่ได้ของทุกชิ้นถูกขายทอดตลาดหมดแล้ว หลีกไป"
คนขนของกระชากแอคคอเดียนคืนมา นิ่มถูกผลักล้มลงไป อรทั้งกอดหลานที่ร้องไห้งอแงเอาไว้และเข้าไปประคองพี่สาว ทั้งสามคนกอดกันร้องไห้มองดูคนขนของออกจากบ้านไป
นิ่มร้องให้จนเป็นลม อรตกใจมาก
"พี่นิ่มๆๆ"
ต่อมา นิ่มนอนป่วยอยู่ในบ้านที่โล่งไม่มีอะไรเหลือ เก่งร้องไห้อยู่ข้างๆอรจับมือพี่สาวที่ป่วยหนักอยู่
"อรพี่คงอยู่ได้อีกไม่นาน"
"พี่นิ่มพี่อย่าพูดอย่างนั้น ถึงเราไม่เหลืออะไรที่นี่เราก็ยังมีบ้านเราอยู่ ฉันจะพาพี่กับหลานกลับบ้านเรานะพี่"
"พี่รู้ตัวดีขาดพี่กล้าพี่ก็ไม่เหลืออะไร"
"พี่ยังมีฉันยังมีลูกพี่อย่าทิ้งฉันไปนะ"
"อรพี่รู้ว่าทำให้เธอลำบาก แต่พี่คงต้องฝากให้อรดูแลเก่งแทนพี่แล้ว พี่ผิดเองที่ยอมให้พี่กล้าเปิดค่ายเพลง"
อรร้องไห้หนัก
"พี่อรพี่อย่าพูดแบบนี้ มันไม่ใช่ความผิดของพี่ แต่เพราะวงการลูกทุ่งนี้ต่างหากที่ทำให้เราเป็นอย่างนี้ โดยเฉพาะไอ้เพื่อนทรยศของพี่กล้า มันโกงเรา พอพี่กล้าตายมันก็มายึดทุกอย่าง"
"อย่าโทษคนอื่นเลยเพราะเรามันโง่เอง"19
"ฉันจะไม่มีวันให้อภัยพวกมันเด็ดขาด"
"อร...รับปากพี่นะอย่าให้เก่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงการเพลงเด็ดขาด"
อรร้องไห้ไปพูดไป
"พี่ไม่ต้องห่วง ฉันรับปาก"
"ขอบใจมาก งั้นพี่คงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว เก่งลูกแม่" นิ่มลูบหัวลูก "แม่รักลูกนะเก่ง....แม่....รัก"
นิ่มพูดไม่จบประโยค เธอก็ขาดใจตาย อรร้องไห้กอดพี่สาวแน่น
"พี่นิ่มๆอย่าทิ้งฉันไปพี่นิ่ม"
อรนึกถึงความหลัง นํ้าตานอง หน้าสายตาบ่งบอกถึงความคับแค้นในใจ
"เพราะพี่กล้ารักเพลงลูกทุ่ง ครอบครัวถึงพบกับความวิบัติ ฉันไม่มีทางยอมให้เก่งเดินตามรอยเท้าพ่อของมันเด็ดขาด"
อรพูดอย่างหนักแน่นเพราะความแค้นฝังลึก
พระอาทิตย์ขึ้นท้องทุ่งยามเช้า อรกับเก่งใส่บาตรยามเช้า กับข้าวคือผัดเผ็ดกบ ครามเป็นลูกศิษย์เดินตามพระ ฝ่ายเก่งยังเคืองๆอรอยู่นิดหน่อย แต่ก็ช่วยอรใส่บาตรเหมือนเคย จนหลวงพ่อให้พรเสร็จ
"เดี๋ยวเจอกันที่ร้านเจ๊ลำไยนะเก่ง" ครามว่า
"จัดไปเพื่อน"
เก่งยิ้มให้ ครามเดินตามหลังพระไป อรมองหลานชายอย่างสงสัย
"จะไปร้านเจ๊ลำไยเหรอ"
"จ๊ะนัดกับเพื่อนๆไว้ว่าจะปรึกษากันเรื่องหาของไปขายในงานประจำจังหวัด"
อรมองหน้าหลาน
"เก่งไม่โกรธน้าใช่ไหมเมื่อคืนน้าขอโทษนะที่..."
"น้าก็เหมือนกับแม่ ฉันฉันเองต่างหากที่ต้องขอโทษน้า"
อรยิ้มออก
"ไม่หรอก น้าเองก็พูดแรงไป เก่งจะไปหาเพื่อนก็ไปเถอะ"
เก่งยิ้มให้อรแล้วกอด
"น้าอรน่ารักที่สุดเลย"
น้าหลานยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
ครามเดินตามหลังหลวงตา เห็นรถกะบะเสี่ยกำธรตรงไปบ้านอร ครามมองตามแล้วนึกห่วงเก่ง รีบเอาของที่ถือส่งให้เด็กวัดอีกคนแล้วยกมือไหว้หลวงตา
"หลวงตาครับกลับวัดกับเหน่งก่อนนะครับผมขอตัวไปดูน้าอรก่อน"21
เหน่งถาม
"ไปทำไมพี่เมื่อกี้พึ่งเจอกัน"
"เสี่ยกำธรไปบ้านน้าอร ฉันกลัวจะมีเรื่อง ฝากหลวงตาด้วยนะเหน่ง"
ครามพูดเสร็จก็รีบวิ่งย้อนกลับ
ขณะที่เก่งกำลังช่วยน้าอรเก็บของใส่บาตร รถเสี่ยกำธรแล่นมาจอดด้วยความเร็วจนฝุ่นตลบ
เสี่ยกำธรลงมาพร้อมกับเมฆและดุ่ย ดุ๋ย
"ใส่บาตรแต่เช้าหรือจ๊ะแม่อร ทำบุญเยอะมันก็ไม่ช่วยให้รวยขึ้นมาได้หรอก"
อรท่าทางเอาเรื่อง
"มันเรื่องของฉัน คนใจบาป วัดไม่เคยเข้าอย่างเสี่ยไม่เข้าใจหรอก"
"ปากดีอย่างนี้เดี๋ยวรู้เดี๋ยวรู้" เมฆว่า
เก่งรีบเข้ามาประกบอร เสี่ยกำธรปรามลูกชาย
"เฮ้ย..อย่าเรามาอย่างสันติ"
"สันติยังไงพ่อ เมื่อวานมันเล่นงานฉันเกือบตาย"
"เอ็งมาท้าแข่งเองนะ จะมาโทษฉันได้ไง"
"ฉันรู้ว่าเสี่ยไม่ได้มาแค่เรื่องที่เก่งกับเมฆแข่งกันจับกบหรอก เสี่ยมีอะไรก็พูดมาตรงๆดีกว่า" อรบอกW
เสี่ยกำธรหัวเราะกวนๆ
"แหม...แม่อรนี่ทั้งสวยทั้งฉลาดจริงๆเลยงั้นพี่เข้าเรื่องเลยนะ พี่เห็นอรลำบากเลี้ยงหลานตัวคนเดียวพี่เลยอยากช่วยเหลือ"
"ฉันบอกเสี่ยหลายครั้งแล้วว่า ที่ฉันไม่ขายจะเก็บให้เก่งมันทำมาหากิน"
"จุ๊..ๆ...ๆอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ถ้าเธอขายให้ฉัน ไหนจะปลดหนี้ที่เธอกู้ไปเปิดร้านขายของได้ เธอก็ยังมีเงินทุนไปซื้อที่ดินตรงอื่นให้เก่งมันได้อย่างสบาย"
"ช่าย..ที่นาน้าอรนะมันขวางทางเข้าออกที่นายทุนพ่อเขาจะทำหมู่บ้านจัดสรร" เมฆบอก
"นั่นมันเรื่องของพวกแก น้าสาวฉันบอกแล้วว่าไม่ขาย ส่วนหนี้ที่น้าอรกู้มาเราก็ส่งดอกไม่ได้ขาด"
ดุ่ยบอก
"แต่ถ้าพวกแกไม่ขายที่เสี่ยก็อดได้ค่านายหน้า"
"เมื่อไม่ได้ค่านายหน้าเสี่ยเค้าก็จะใช้ความเลวส่วนตัวบีบให้พวกแกขายจนได้" ดุ๋ยว่า
"และถ้าบีบแล้วยังไม่ได้ผล เสี่ยก็จะดับเบิ้ลเลวยกกำสองใช้เล่ห์เหลี่ยมบังคับพวกแก"
"พวกแกก็รู้ในอำเภอนี้ไม่มีใครชั่วเลวอันธพาลเท่ากับเสี่ยกำธรอีกแล้วฮ่าๆๆ"
ดุ่ยดุ๋ยหัวเราะสะใจในขณะที่เสี่ยกำธรสะดุ้งทุกคำพูดที่ลูกน้องประจาน
อรขำนิดๆ
"เออ..ลูกน้องเสี่ยมันสุดยอดจริงๆนะรู้เรื่องจริงของเจ้านายมันทุกเรื่อง"
เสี่ยกำธรโมโห
"ไม่ต้องพูดมาก ตกลงจะขายไม่ขาย"W3
"ไม่ขาย" เก่งบอก
"พูดดีๆไม่รู้เรื่อง งั้นลุย" เสี่ยกำธรบอก
เมฆ ดุ่ยและดุ๋ยเดินเข้าหา เก่งเข้ามาขวาง ทำให้ทั้งคู่ชะงัก เมฆสั่ง
"จัดการมันเลยกลัวอะไรพวกเอ็งมีตั้งสองคน"
สมุนทั้งสองรับคำสั่ง เมฆตรงเข้าทำร้ายเก่งแต่ถูกเก่งโต้ตอบ จนสมุนทั้งสองเซถลาไปที่กะละะมังขังกบ กบกระโดดออกมาใส่ตัว ดุ่ยกับดุ๋ยเมฆเห็นกบก็นึกขยาด กระโดดไปหลบหลังเสี่ยกำธร
เสี่ยกำธรด่าลูก
"หลบทำไมออกไปช่วยลูกน้องแกซิว่ะ"
"ไม่เอาอ่ะพ่อ เมื่อวานนี้ฉันยังเจ็บไม่หาย"
"อุว่ะงั้นข้าเอง"
เสี่ยกำธรทำท่าจะหยิบปืนพก ครามวิ่งเข้าขวางไว้ก่อน
"ผมขอล่ะครับเสี่ย ยุคนี้ใช้กำลังมันไม่ได้ผลหรอกครับ"
เก่งบอก
"ถ้าพวกแกบังคับให้ขายที่ ฉันจะไปแจ้งนักข่าว เอาให้มันดังไปเลยดูซิว่า แกยังอวดเบ่งได้อีกไหม"
เสี่ยกำธรโกรธตัวสั่น
ครามพูดนอบน้อม
"พอเถอะครับเสี่ยถ้าเรื่องมันลุกลามไปกว่านี้ เสี่ยอาจถูกตัดสิทธิ์ส่งนักมวยแข่งขันนะครับ"
เสี่ยกำธรถาม
"แล้วแกเกี่ยวอะไรด้วย"
"ถ้าเพื่อนผมไม่ได้รับความยุติธรรม ผมคงชกมวยให้เสี่ยอีกไม่ได้"
เสี่ยกำธรโกรธจัด
"ฝากไว้ก่อนไปกลับ"
เสี่ยกำธรโมโหเดินขึ้นรถ เมฆรีบวิ่งตามไปประจำที่คนขับดุ่ยกับดุ๋ยวิ่งตามไปขึ้นหลังกระบะ24 เก่งโยนกบใส่ ทั้งคู่ดิ้นหนีกบ อร เก่ง คราม หัวเราะเยาะสะใจ