ระบำไฟ ตอนที่ 23
รถตำรวจแล่นเข้ามาในสน. กองทัพสื่อทุกคนก็กรูกันเข้าไปหา แย่งกันถ่ายภาพ หนึ่งในนั้นคือเทศราชที่ตามมาสมทบเมื่อรู้ข่าว ตำรวจพาชินานางลงจากรถก่อน สภาพชินานางยังไม่หายคลั่งเพราะความแค้นจัด นักข่าวจ่อไมค์ร้องถามเสียงเซ็งแซ่
“คุณชินานางเป็นคนยิงเสี่ยจิวจริงหรือเปล่า”
“คุณชินานางมีแรงจูงใจอะไรครับ”
ตำรวจพยายามขอทางจากกองทัพนักข่าวที่แย่งกันยิงคำถามเซ็งแซ่ ชินานางทนไม่ไหว ระเบิดขึ้น
“ใช่ ฉันฆ่ามันตายเอง ไอ้เสี่ยจิวมันสมควรตาย มันทำร้ายร่างกายฉันตลอดเวลาแล้วยังทรยศฉันไปนอนกับอีนังนั่นอีก อีนังพัดชา”
ชินานางชี้กราดไปยังพัดชาที่ตำรวจพาตัวลงมาจากรถอีกคัน เทศราชกับพวกนักข่าวหันไปทันที
“มันเอาไอ้เสี่ยไปกกที่คอนโด จงใจนอนทับรอยของฉัน ถ่ายรูปมันสิ ถ่ายรูปอีนังหน้าด้านไว้สิ”
นักข่าวกรูกันเข้าไปหาพัดชาทันที ระดมถ่ายรูป แย่งกันถามเซ็งแซ่ พัดชาหน้าเสีย ส่ายหน้า แต่โดนนักข่าวกลุ้มรุมไปไหนไม่พ้น ชินานางยิ้มสะใจ
“ซักวันแกก็จะต้องลงไปปีนต้นงิ้ว เพราะวีรกรรมกินผู้ชายไม่เลือกของแก นังพัดชา”
ชินานางระเบิดเสียงใส่ ตำรวจรีบพาตัวเข้าสถานีตำรวจไป พัดชาตัวสั่นเทามองนักข่าวที่พยายามเอาไมค์จ่อซักไซ้
“ไม่ ไม่จริงนะคะ พัดไม่เกี่ยว พัดไม่ได้ทำอะไร พัดเปล่า”
พัดชาตะโกนก้องออกมาแล้วก็ล้มฟุบลง ตำรวจประคองแขนไว้ได้ทัน พยายามห้ามนักข่าวไม่ให้เข้ามารุม เทศราชฝ่าดงนักข่าวแทรกตัวเข้าไป
“ขอผมเข้าไปนะครับ ผมรู้จักเธอ”
ตำรวจมองเทศราชลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมให้เข้ามาแล้วพาพัดชาเข้าไปในสถานีด้วยกัน
ผ่านมาสักระยะหนึ่ง เทศราชประคองพาพัดชาลุกออกจากโต๊ะสอบสวน มานั่งพัก นักแสดงดาวร่วงอยู่ในอาการสะลึมสะลือ มือยังมียาดมจ่อจมูก
“รู้สึกดีขึ้นหรือยัง”
“พัดไม่คิดว่าชีวิตตัวเองจะต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆ แบบนี้เลยค่ะ”
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป ทำไมคุณต้องไปสนิทสนมกับเสี่ยจิวจนเป็นเรื่องแบบนี้”
พัดชาอ้อมแอ้มตอบ “มะ ไม่สนิทนะคะ พัดแค่นัดเจอกับเสี่ยคุยงานกันเฉยๆ คุณชินานางเข้าใจผิดไปเอง”
“แต่ข่าวมันออกไปแบบนี้ ผมว่าคนก็ต้องมองว่าเป็นเรื่องชู้สาว ตำรวจก็กำลังหาหลักฐานอยู่ คุณโกหกไม่ได้หรอกนะพัดชา”
พัดชาตกใจกลัว ร้องไห้ โผเข้ากอดเทศราชอย่างคนเสียขวัญ
“คุณเทศเชื่อพัดนะคะ พัดไม่ได้ยุ่งกับเสี่ยจริงๆ เชื่อพัดนะคะ”
พัดชาร้องไห้หนักจนเทศราชทำตัวไม่ถูก
“ผมว่าคุณกลับไปพักก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมไปส่งที่พักคุณละกัน”
พัดชาเริ่มสงบพยักหน้าว่าง่าย ขอร้องเสียงสั่น
“คุณโทร.บอกคุณอาพยางค์ให้มาเจอพัดด้วยนะคะ พัดอยากอธิบายให้คุณอาเข้าใจ คุณอาต้องช่วยพัดเรื่องนี้ได้แน่ๆ ค่ะ”
เทศราชรับคำอย่างสงสารแล้วพาพัดชาลุกออกไป
พยสดูข่าวเสี่ยจิวถูกยิงและข่าวการจับกุมชินานางด้วยสายตานิ่งเฉย ในขณะที่ตรีประดับสลดใจ แต่รู้แค่ภาพข่าวเสี่ยจิวกับชินานาง ยังไม่รู้ว่าพัดชาเกี่ยวข้องด้วย
“คุณชินานาง ไม่น่าเลือกทางออกแบบนี้เลย”
“สมน้ำหน้าไอ้เสี่ยนั่น คนเลวๆ อย่างมันทำแต่เรื่องชั่วๆ มีจุดจบแบบนี้ก็สมควรแล้ว ชินานางคงจะโดนทำร้ายจนทนไม่ไหว ถึงต้องลุกขึ้นสู้บ้าง”
“แล้วคุณจะไม่หาทางช่วยเธอหน่อยเหรอคะ”
พยสยักไหล่ไม่แคร์ “ผมไม่อยากเดือดร้อนไปด้วย แค่ที่เป็นอยู่ก็จะเอาตัวเองไม่รอดอยู่แล้ว”
ตรีประดับมองพยสอย่างผิดหวัง
“ตรี ผมกับชินานางจบลงแล้วนะ คุณจะให้ผมเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ”
พยสจับมือตรีประดับมาบีบเอาใจ แต่ตรีประดับดึงมือออก
“ถ้าถามตรี ตรีรู้สึกว่าในเวลาที่เธอกำลังลำบากแบบนี้คุณควรจะช่วยเธอค่ะ”
“คุณนี่มันเป็นแม่พระ ไม่เคยเปลี่ยน”
“สำหรับตรีไม่เคยจำกัดการช่วยเหลือคนค่ะ ก็เหมือนกับคุณไงคะที่วันนี้ตรียังช่วยเหลือคุณทั้งๆ ที่เราก็จบกันไปแล้วด้วยซ้ำ”
พยสสะอึกอึ้ง ตรีประดับดูนาฬิกา
“งั้นตรีต้องกลับก่อนแล้วกันค่ะ พรุ่งนี้คุณออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม”
พยสพยักหน้าจ๋อยๆ ตรีประดับสงสารอีกจนได้
“ถ้าไม่มีใครมาดู ตรีจะมารับละกัน”
“ขอบคุณนะตรี ขอบคุณจริงๆ ผมจะรอนะครับ”
พยสค่อยยิ้มออกได้ ตรีประดับหันหลังเดินออกไปเลย
ตรีประดับออกจากห้องพยสเดินเลี้ยวออกไปที่ลิฟต์ โดยไม่ทันเห็นภิรตีที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์แอบดูอยู่ที่โซฟารับแขก ภิรตีมองตามตรีประดับตั้งแต่ออกจากห้อง จนเดินเข้าลิฟต์ไป พอลิฟต์ปิดก็รีบลุกขึ้นวิ่งมาดูป้ายชื่อคนไข้ที่หน้าห้อง
“พยส พัฒนโสภณ ใครกัน?”
ภิรตีนึกๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดเน็ตพิมพ์ชื่อเสิร์ชหาในกูเกิ้ล ซักพักก็เห็นภาพข่าวงานแต่งงานของตรีประดับกับพยส พร้อมพาดหัวข่าว “วิวาห์ชื่นมื่น ทนายหนุ่มอนาคตไกล”
“สามีเก่าตรีประดับ”
พัดชานอนซมอยู่บนเตียง พอลืมตื่นขึ้นมาเห็นพยางค์นั่งก้มหน้าอยู่มุมห้อง จึงค่อยๆ ขยับตัวลุกไปหา
“คุณอา นี่คุณอาเฝ้าพัดตลอดเลยเหรอคะ”
พัดชาโผเข้ากอดขาพยางค์ ซบหน้าลงเริ่มดราม่า
“อย่างน้อยท่ามกลางเรื่องเลวร้ายแบบนี้ พัดก็ยังมีคุณอา พัดโชคดีเหลือเกิน”
จู่ๆ พยางค์ลุกก็พรวดขึ้น ทำเอาพัดชาแทบจะหงายหลัง
“เลิกเล่นละครได้แล้ว”
พัดชาชะงัก งง มองพยางค์อย่างแปลกใจ พยางค์สบตาตอบ เย็นชา
“เมือคืนเธอไม่ได้กลับมาที่คอนโดใช่ไหม”
พัดชาอึ้ง รีบแก้ตัว “กลับสิคะ พัดจะไปไหนได้”
“ก็ไปที่นี่ไง”
พยางค์เปิดคลิปข่าวให้ดู เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่พัดชาเดินเข้าคอนโดชินานาง พัดชาตะลึง
“ตำรวจเขาส่งเทปจากกล้องวงจรปิดมาให้ดูว่ามีหลักฐานว่าเธอไปค้างคืนที่นั่น”
“ไม่จริงนะคะ”
“พยานบุคคลก็มี ยังจะแก้ตัวอีกเหรอ”
พยางค์กระชากพัดชาขึ้นมา
“เขายืนยันตรงกันหมดว่าเธอขึ้นคอนโดกับไอ้เสี่ยจิว แล้วพอตอนเช้าชินานางถึงได้มาเจอ ก็เลยหึงหวงกัน ตอนนี้มันเป็นข่าวดังไปทั่วหมดแล้ว”
พัดชาหน้าเสีย น้ำตารื้นขึ้นมา นึกถึงตัวเองก่อนอื่นเลย ไม่ได้นึกถึงความรู้สึกพยางค์
“คุณอา คุณอาต้องช่วยพัดนะคะ”
“พอเถอะพัดชา ฉันรู้เรื่องเธอหมดแล้ว เรื่องเธอกับสิงคาร ฉันก็รู้แล้วด้วย ฉันอุตส่าห์จะอุ้มชูเธอ คิดที่จะจริงจังกับเธอ แต่ในเมื่อเธอเลือกทางนี้เอง เธอก็ไปจากชีวิตฉันซะ”
พัดชาน้ำตาไหลออกมาอับจนปัญญาจะเอาตัวรอด
“พัดผิดไปแล้วค่ะ พัดคิดสั้นเกินไป”
“ฉันเองก็คิดสั้นเกินไปที่เอางูเห่าอย่างเธอมาเลี้ยง ! เพราะยังไงมันก็เลี้ยงไม่เชื่อง”
พัดชาไม่เถียงสู้ ได้แต่ก้มหน้าสะอื้น
“พรุ่งนี้เธอเก็บของออกไปจากที่นี่ซะ เราสองคนไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”
“คุณอา”
พัดชาผวาเข้าไปหา แต่พยางค์สะบัดออก แล้วผลุนผลันออกไป
“คุณอา”
พัดชาร้องเรียกไว้แต่ไม่เป็นผล ทรุดกายลง ร่ำไห้ใจเสียที่โดนพยางค์ตัดหางปล่อยวัด
ตรีประดับนั่งลงที่โซฟา ข้างๆ เทศราช ย้อนถามด้วยสีหน้าตกใจ
“พัดชาน่ะเหรอไปเกี่ยวข้องกับเสี่ยจิวด้วย”
“ตอนแรกพัดชาปฏิเสธ อ้างว่าไปดูคอนโดเพื่อจะซื้อต่อ แต่ตำรวจเห็นกล้องวงจรปิดที่พัดชาขึ้นไปที่คอนโดตั้งแต่คืนนั้น ตอนนี้ก็คงเถียงอะไรไม่ออกแล้ว”
“โธ่เอ๊ย” ตรีประดับถอนใจ “ตรีไม่นึกเลยว่าเขาจะพาตัวเองเตลิดเปิดเปิงไปถึงขนาดนี้ แล้วจะมีความผิดอะไรหรือเปล่า”
“ตำรวจคงกันไว้เป็นพยานมากกว่า แต่คุณชินานางน่าจะโดนหนัก เพราะถ้าตำรวจไปไม่ทัน ก็คงลงมือฆ่าพัดชาอีกคน” เทศราชยิ้มแซวๆ “แต่ได้ทนายมือดีอย่างพยสก็ไม่แน่”
“พยสคงไม่อยากเดือดร้อนเพราะคุณชินานางอีกแล้วล่ะ” ตรีประดับหลุดปาก
เทศราชชะงักสะดุดหู “ทำไมเหรอ”
ตรีประดับรู้สึกตัว เลยรีบกลบเกลื่อน
“ตรีว่าเขาคงเลิกกันตั้งแต่เสี่ยจิวระแคะระคายก่อนหน้านี้แล้วล่ะ คนอย่างพยสไม่ยอมให้ตัวเองติดร่างแหไปด้วยหรอก”
เทศราชพยักหน้าเห็นด้วย ไม่ติดใจอะไร
ตอนบ่ายวันนี้เทศราชนั่งทำงานอยู่ที่โรงพิมพ์ มีสายเข้ามาจากซาโต้ เขารีบกดรับ
“ว่าไง หายไปเลยนะซาโต้ ที่ร้านยุ่งหรือไง”
“ได้ข่าวเรื่องพัดชาแล้วเหรอ”
เทศราชฟังข่าวพัดชาจากซาโต้ ถึงกับอึ้งไป
วันถัดมาพัดชาสวมแว่นกันแดดทรงโต ใส่หมวกหรุบลงพรางหน้า เดินออกมาจากล็อบบี้คอนโดพยางค์ เจอนักข่าวจับกลุ่มรออยู่ที่หน้าคอนโด พอจอมเผือกหันมาเห็นพัดชาก็ชี้ชวนกัน แล้วกรูเข้ามาหา พัดชาตกใจ รีบวิ่งหนีไปยังถนนหน้าคอนโด
“น้องพัดชา ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ” / “น้องพัดชาเห็นคลิปที่ขึ้นคอนโดเสี่ยจิวหรือยังครับ” / “น้องพัดชามีอะไรจะพูดไหมคะ”
นักข่าววิ่งตาม แย่งกันถามฟังไม่ได้ศัพท์ พัดชาทั้งอายทั้งกลัวรีบวิ่งหนีไปเรียกแท๊กซี่แล้วขึ้นรถไป
พัดชานั่งมาในรถแท็กซี่ใส่หมวก สวมแว่นตา แท็กซี่หมุนข่าววิทยุ
“สำหรับความคืบหน้าข่าวฆาตกรรมเสี่ยจิว นักธุรกิจบันเทิงที่พัวพันกับดาราสาวถึงสองคน ตอนนี้ตำรวจได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ยืนยันได้ว่านางสาวพัดชา เวชกร ดาราสาวหน้าใหม่ได้มีความสัมพันธ์ลับๆ กับผู้ตาย จนเป็นต้นเหตุนางสาวชินานาง อรุณกร นางเอกชื่อดังอีกคนเกิดความหึงหวงและนำมาสู่การบุกยิงอย่างอุกอาจดังกล่าว”
แท็กซี่ถอนใจ ปิดเสียงวิทยุ บ่นบ้าออกมา
“ผู้หญิงสมัยนี้เห็นแก่เงินกันจริงๆ ผู้ชายคนไหนรวยก็เข้าไปยื้อแย่งกัน ฆ่ากันตายเพราะตัวเดียวอันเดียว สุดท้ายอนาคตก็ดับวูบ”
พัดชาไม่ตอบอะไร เห็นสายตาแท็กซี่มองมาพอดี รีบก้มหน้าหลบสายตา กระชับแว่นตาบังหน้าไว้ แท็กซี่เพียงแปลกใจท่าที แต่ก็ไม่ได้สะกิดใจ เพราะยังไม่รู้จักพัดชาอยู่ดี
ไม่นานนักแท็กซี่จอดรถริมถนน พัดชาลงรถมา ไม่อยากนั่งต่อ รู้สึกละอายใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เดินไปตามถนน ยังไม่รู้หนว่าจะไปไหน
ในขณะที่เทศราชกำลังเก็บของใส่กล่องอยู่ ได้ยินเสียงเคาะประตู เลยเดินไปเปิด พอเห็นเป็นพี่สาวก็เซ็ง
“ฉันโทร.หาแกเป็นสิบสาย ทำไมไม่รับ”
“เพราะผมรู้ว่าพี่ภิจะโทรมาพูดเรื่องเดิมๆ ที่มันไร้สาระ ผมไม่อยากฟัง”
เทศราชเดินหนีไปจัดของต่อ ภิรตีตามไปจับตัวให้หันมา
“แต่แกต้องฟัง วันนี้ฉันไปหาหมอมา”
“คุณหมอบอกว่าพี่เข้าสู่วัยทองแล้วใช่ไหม ผมก็ว่าแล้ว”
ภิรตีทุบปั้กเข้าให้ “ไอ้บ้า ฉันซีเรียสนะ ฟังก่อนสิ”
เทศราชยอมหยุดฟังอย่างรำคาญ
“ฉันไปเจอเมียแกที่นั่น รู้ไหมว่าเขาไปเยี่ยมใคร ผู้ชายชื่อพยส”
เทศราชอึ้งไป ภิรตีสอดขึ้นมาอีกอย่างรู้ดี
“แล้วฉันก็ไปสืบมาแล้วโดยไม่ต้องรอคำตอบจากแกว่านายพยสอะไรเนี่ย ก็คือสามีเก่าของตรีประดับ”
ภิรตีเห็นเทศราชเงียบก็สะใจ
“เป็นไงล่ะ อึ้งไปเลยใช่ไหม ผู้หญิงที่แกคิดว่าดีเลิศประเสริฐนักหนา ที่แท้ก็ยังเหยียบเรือสองแคม อยากเก็บเอาไว้ทั้งสองคน”
ในใจเทศราชรุ่มร้อนด้วยความระแวง แต่ก็ยังทำปากแข็ง ยักไหล่
“เขาก็ไปเยี่ยมกันตามประสาเพื่อน ผมรู้อยู่แล้ว”
“แน่ใจนะว่ารู้ ถ้างั้นบอกฉันมาสิว่านายพยสนี่ป่วยเป็นอะไร”
ภิรตีจ้องหน้าคาดคั้นจับผิดไม่ลดละ เทศราชอึกอักทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน
“ผมไม่รู้ ไม่เคยคิดจะสอดรู้สอดเห็นขนาดนั้น”
“นี่แกว่าฉันสอดรู้สอดเห็นเหรอ”
“ใช่ ผมอยู่กับตรีด้วยความไว้ใจ เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน ต่อให้พี่เอาเรื่องอะไรมาเสี้ยม ก็ไม่มีวันสั่นคลอนความมั่นใจของผมได้”
“โธ่เอ๊ยนายเทศ แกนี่มันโง่”
“ผมยอมโง่ในบางเรื่อง เพื่อที่จะรักษาความรักไว้ ดีกว่าทำตัวฉลาดแล้วก็อยู่ขึ้นคานก็แล้วกัน”
ภิรตีกรี๊ด “อ๊าย ไอ้น้องบ้า ฉันอุตส่าห์หวังดีมาเตือนแก จำไว้เลยนะ”
“ขอบคุณนะพี่ แต่ทีหน้าทีหลังไม่ต้องยุ่งจะดีกว่า มันไม่ดีหรอก คอยจะมาทำให้ความรักเขาแตกแยกกันหน่ะ มันบาป”
“เออ ฉันจะคอยดู อยากจะรู้นักว่ารักของแกตอนจบจะเป็นยังไง”
ภิรตีก็ปึงปังออกไปอย่างหัวเสีย เทศราชถอนใจเฮือก แต่แล้วก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้
เช้านั้นตรีประดับแปรงฟัน ล้างหน้า เทศราชโกนหนวดอยู่หน้ากระจกเดียวกัน
“เดี๋ยววันนี้เราจะไปเก็บของที่คอนโด ตรีไปด้วยกันไหม”
ตรีประดับชะงักนิดๆ “ไม่ล่ะ ตรีมีธุระที่บ้านสวน เทศเก็บคนเดียวไหวใช่ไหม”
เทศราชพยักหน้า แล้วโกนหนวดต่อ ไม่ได้คิดอะไร ตรีประดับหันไปยิ้ม ยื่นหน้าจูบคางเทศราชเบาๆ แล้วออกจากห้องน้ำไป
เทศราชกดโทรศัพท์ไปที่บ้านสวน พอภูมิรับก็แกล้งถาม
“สวัสดีครับคุณพ่อ คือ ผมติดต่อตรีไม่ได้น่ะครับ สงสัยแบตจะหมด ไม่ทราบว่าตรีอยู่แถวนั้นหรือเปล่าครับ” เทศราชนิ่งฟังภูมิพูด ชะงัก “ตรีไม่ได้ไปที่นั่นเหรอครับ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ”
เทศราชวางสาย อึ้งหนักเมื่อรู้ว่าตรีประดับมีเรื่องปิดบังตน
เทศราชเดินทางมาที่โรงพยาบาล ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตรงไปหาพยาบาลเวร
“ผมจะมาเยี่ยมเพื่อนน่ะครับ ชื่อพยส พัฒนโสภณ แต่ไม่ทราบอยู่ห้องไหน”
“ซักครู่นะคะ”
พยาบาลคีย์ข้อมูลหา ขณะที่เทศราชเริ่มเครียด ใจคอไม่ดี ลึกๆ ก็ไม่อยากเจอตรีประดับที่นี่
“คุณพยสกลับไปบ้านแล้วค่ะ ญาติมารับไปเมื่อตอนบ่าย”
เทศราชอึ้งไปเลย ค่อยๆ ถอยออกมา พยายามปลอบใจตัวเอง
“อาจจะไม่ใช่ตรีก็ได้”
อรณากับบุพชาเข้าไปประคองพยสทั้งสองข้าง พามานั่งที่โซฟา
“อรกับพี่บุพว่าจะไปเยี่ยมอยู่พอดี พอรู้ว่าพี่ยสกลับบ้านแล้วก็เลยรีบมาดัก ดีจังเลยค่ะที่ไม่เป็นอะไรมาก”
“ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหมอหรือพยาบาลส่วนตัวนะยายอร”
บุพชาพยักพเยิดไปทางตรีประดับ แล้วหันไปมาเกาะแกะน้องชาย
“น้องตรีดีกับเธอขนาดนี้ ต่อไปก็อย่าซ่าละนายยส ผู้หญิงเราต่อให้รักแค่ไหน ก็ทนโง่ให้ผัวหลอกซ้ำซากไม่ได้หรอกนะ”
ตรีประดับกลอกตา เบื่อหน่ายที่ทุกคนพยายามยัดเยียดให้กลับไปคืนดีกับพยส
“พูดจบแล้วใช่ไหมพี่ ทีนี้ใครมีธุระอะไรก็ว่ามาตรงๆ ผมอยากพักผ่อน”
อรณากับบุพชาค้อน อรณาหยิบใบลงทะเบียนมาให้พยส
“ค่าเทอมซัมเมอร์นี้ค่ะพี่ยส”
“นี่ค่าซ่อมหลังคา ทำฝ้าใหม่ที่บ้านพี่ บ้านเก่าก็อย่างนี้แหละยสเอ๊ย มีเรื่องให้ซ่อมไม่เว้นแต่ละวัน”
บุพชาทำเป็นบ่นแล้วส่งใบเสร็จให้ พยสรับมาเหล่มองพี่น้องอย่างเพลียๆ รู้ทันว่าที่แท้ก็มาเอาเงิน
พยสหยิบสมุดเช็คมาเซ็นชื่อแล้วส่งให้ ทั้งสองรับมาแล้วลุกพรวดเก็บใส่กระเป๋าทันที
“ไปละ พี่จะรีบเอาเงินไปจ่ายผู้รับเหมา แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ”
“ฝากพี่ยสด้วยนะคะพี่ตรี”
อรณาหันมาไหว้ลา แล้ววิ่งแจ้นตามพี่สาวออกไปอย่างรวดเร็ว ตรีประดับมองทั้งสองคนอย่างเอือมระอา หันมาเห็นพยสนั่งเหม่อเหงา ก็อดสงสารไม่ได้
“พรุ่งนี้ตรีจะไปซื้อของใช้ในบ้านมาทิ้งไว้ให้ คุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม”
“คุณจะให้ผมพูดจริงๆ เหรอ แล้วถ้าผมบอกว่าผมอยากได้คุณ อยากให้คุณมาอยู่กับผมที่นี่ คุณจะว่ายังไง”
“อย่าขออะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะยส”
“ตรีจะไม่ให้โอกาสผมอีกแล้วใช่มั้ย”
“อย่าทำลายความสุขของตรีเลยค่ะ ตรีกำลังมีความสุขดีแล้ว สำหรับเรา เราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ”
ตรีประดับบีบไหล่ให้กำลังใจพยส แล้วลุกออกไป ปล่อยให้พยสจมอยู่กับความเศร้าเพียงลำพัง
คืนนั้นพัดชาพาตัวเองมาเคาะประตูห้องพักสิงคารรัวๆ หนุ่มใหญ่เปิดประตูออกมา พอเห็นหน้าพัดชาก็ชักสีหน้าใส่
“มีอะไร”
พัดชาร้อนรนใจ “คุณสิงคาร พัดไม่มีที่จะไปแล้ว คุณช่วยพัดด้วยนะคะ”
สิงคารไม่แยแส “ทำไมไม่ให้พี่พยางค์ช่วยล่ะ หรือเขาปฎิเสธมาแล้วถึงมาหาผม บอกตรงๆนะ ไม่มีใครกล้ายุ่งกับคุณแล้ว ไม่มีใครข่วยคุณได้หรอก เพราะชื่อเสียงของคุณมันเสียหายป่นปี้ไปหมดแล้ว”
พัดชายังไม่ยอมแพ้ เข้ากอดอ้อนสิงคาร
“แต่คุณเคยบอกว่าจะช่วยเหลือพัดทุกอย่าง หลังจากที่พัดเป็นของคุณ และตอนนี้พัดมีแต่คุณคนเดียวนะคะ คุณสิงคาร”
พัดชากอดสิงคารไม่ยอมปล่อย แต่แล้วพัดชาก็เหลือบเห็นผู้หญิงอีกคนโผล่หน้าออกมาจากห้อง
“พี่สิง ทำไมช้านักล่ะคะ” เด็กสาวหันมามองพัดชา “อ้าว”
พัดชามองเด็กสาวที่ยังอยู่ในชุดผ้าเช็ดตัวแล้วอึ้งๆ หันไปมองหน้าสิงคารทันที
“นี่ใช่ไหมเหตุผลที่แท้จริง คุณมีผู้หญิงคนอื่นแล้วต่างหาก คุณถึงไม่ต้องการพัด”
“ผมก็มีได้เรื่อยๆ เท่าที่ผมอยากจะมี เหมือนที่คุณก็เกาะกินได้เรื่อยๆ ทั้งจากอาพยางค์ มาเป็นผม แล้วก็โดดหาเสี่ย เหมือนเห็บหมัดตัวนึงไงล่ะ”
“คุณสิงคาร คุณดูถูกฉันมากไปแล้วนะ ถ้าฉันเป็นเห็บหมัด แล้วคุณล่ะเป็นตัวอะไร ถึงได้กินไม่เลือก”
“แกหาว่าพี่สิงกินไม่เลือกงั้นเหรอ นี่แน่ะ”
เด็กสาวตบหน้าพัดชาดังฉาด
“ฉันไม่ได้มีประวัติโสโครกอย่างแก เพราะเขากินของสกปรกอย่างแกนั่นแหละ ถึงต้องมาล้างปากกับฉัน รู้ไว้ซะด้วย”
“อ๊าย...” พัดชากรีดร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น ถลันเข้าตบตีเด็กสาว ทั้งสองสู้ตายกันม่มีใครยอมใคร สิงคารพยายามห้ามวุ่นวายไปหมด สุดท้ายพัดชาโดนเหวี่ยงออกมานอกห้อง กลิ้งลงที่ทางออกไป
“ออกไปซะ เธอทำตัวไม่มีคุณค่าเองพัดชา ทุกอย่างที่มันเป็นแบบนี้ เพราะเธอเป็นคนทำ”
สิงคารปิดประตูใส่หน้าปัง พัดชาร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง
เทศราชนั่งซึมจ๋อยเหม่อบนเตียง นึกถึงตอนที่ขอตรีประดับแต่งงาน และความหลังเก่าๆ ตรีประดับถือหนังสืออ่านเล่นเดินมา มองเทศราชอย่างเป็นห่วง แล้วเข้ามาหนุนตักอ้อน
“เทศเป็นอะไรไป ตั้งแต่กลับมาตอนเย็นก็เห็นเอาแต่นั่งซึม ไม่สบายหรือเปล่า”
เทศราชรู้สึกตัว ขยับตัวพยายามทำตัวปกติ ฝืนยิ้มให้
“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“แล้วไหนว่าไปขนของที่คอนโด ไม่เห็นมีอะไรติดมือมาเลย”
“พอดีมีธุระด่วนนิดหน่อย ก็เลยยังไม่ได้ขนกลับมา” เทศราชมองคนรักอย่างคลางแคลง แกล้งถาม “แล้วตรีล่ะ ไปอยู่บ้านสวนมาทั้งวันเลยเหรอ”
“จ้ะ พอดีคุณแม่ทำขนมไปเลี้ยงพระที่วัด ตรีก็เลยหน้ามันอยู่ในครัวตั้งแต่เช้าจรดเย็น”
เทศราชยิ่งเศร้า เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าตรีประดับโกหกหน้าตาย
เทศราชพูดทีเล่นทีจริง “น่าจะเอามาฝากเราบ้าง”
ตรีประดับเจื่อนไป อึกอัก
“ตรีไม่รู้ว่าเทศชอบพวกเครื่องแห้งทองหยิบทองหยอด เอาไว้คราวหน้านะ”
ตรีประดับหยิกแก้มเทศราชเอ็นดู แล้วเปิดหนังสืออ่าน เป็นนัยว่าไม่อยากโดนซักไซ้ต่อ เลยไม่เห็นเทศราชที่ทอดสายตามองตรีประดับอย่างผิดหวัง ที่จับโกหกได้เต็มๆ
พัดชาเดินคอตกสภาพคนอ่อนแรงกลับมาที่คอนโด ขณะกำลังจะไปขั้นลิฟต์ พนักงานเรียกไว้
“คุณพัดชาคะ”
พัดชาหันไปมองฉงน พนักงานทำหน้าเกรงใจ แล้วเดินเข้าไปด้านหลังเคาน์เตอร์ ลากกระเป๋าเดินทางกับเสื้อผ้าอีกกระเป๋าใหญ่ให้
“คุณพยางค์ฝากไว้ให้ค่ะ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“คุณพยางค์บอกว่าเก็บของให้คุณพัดชาเรียบร้อยแล้ว ฝากให้ดิฉันมอบให้คุณด้วย แล้วก็...ขอการ์ดกับกุญแจห้องคืนด้วยค่ะ”
พัดชาอึ้ง เจ็บจุกจนพูดอะไรไม่ออก พนักงานเองก็ลำบากใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไง
ฝ่ายตรีประดับอาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้อง เห็นอาหารเช้าวางบนโต๊ะยังเรียบร้อย ไม่มีการแตะต้อง เลยเดินไปดู เห็นโน้ตจากเทศราชแปะไว้บนโต๊ะอาหาร
“วันนี้มีแถลงจับคนร้ายด่วนที่กองปราบ ขอโทษที่ไม่ได้ทานข้าวเช้าด้วย เดี๋ยวเราชดเชยให้ตรีตอนมื้อเย็นนะ”
ตรีประดับเสียดาย พับโน๊ตเก็บ พอนึกได้ว่าว่างแล้ว จึงตัดสินใจจะออกไปเยี่ยมพยส เดินไปหยิบกระเป๋าออกไป
ตรีประดับเดินออกมาจากล็อบบี้ ตรงไปยังรถที่จอดอยู่ โดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองจ้องมาจากมุมหนึ่งในรถที่จอดใกล้ๆ กัน
ไม่นานต่อมา ตรีประดับซื้อของมา เก็บของใส่สู้เย็นให้อย่างเป็นระเบียบ มีพยสยืนดู
“ตรีใส่ของใช้ไว้บนตู้นี้เหมือนเดิม คุณจะได้หาเจอ ส่วนของสดก็มีไข่กับเนื้อสัตว์ในตู้เย็น เผื่อคุณอยากทำอะไรง่ายๆ”
พยสพยักหน้าอย่างคนซังกะตาย ตรีประดับเปิดกระเป๋า หยิบกระดาษโน้ตออกมา
“ส่วนนี่เป็นเบอร์แม่บ้านรายวัน เผื่อคุณจะเรียกมาทำความสะอาดบ้าน ไม่ต้องให้ทำทุกวันก็ได้ ซักอาทิตย์ละวันก็พอ”
พยสรับกระดาษจดเบอร์แม่บ้านมา แล้วมองตรีประดับอย่างอาลัยอาวรณ์
“ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว หมดหน้าที่ของตรีแล้ว ตรีไปก่อนนะคะยส”
ตรีประดับตัดใจเดินออกจากบ้านไป พยสมองคิดๆ
ระหว่างนี้ที่ด้านนอกรั้วบ้าน มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาช้าๆ รถคันนั้นจอดลงที่ริมรั้วบ้านอีกหลังมองเข้าไปด้านใน เห็นตรีประดับเดินออกมาจากในบ้าน
สักครู่พยสเดินตามออกมา
“ตรีจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วใช่ไหม”
ตรีประดับหันไปพูดกับพยส
“ตรีไม่มีธุระอะไรแล้วนี่คะ คุณดูแลตัวเองได้แล้ว หลังจากนี้ก็กลับไปทำงานซะ มีปัญหาเยอะแยะที่บริษัทให้คุณกลับไปแก้ ตรีเองก็ต้องกลับไปมีชีวิตของตรีเหมือนกัน”
พยสก้มหน้านิ่ง อย่างยอมรับชะตากรรม เพราะเห็นแล้วว่าตรีประดับไม่มีเยื่อใยเหลืออยู่แล้ว
“ชีวิตตรีก็จะมีแต่ไอ้เทศสินะ”
“ตรีได้รู้รสชาติการสูญเสีย การให้อภัยไม่คิดเจ็บแค้น ในขณะเดียวกันตรีก็ได้เรียนรู้กับความรักครั้งใหม่ ชีวิตตรีต้องเดินไปข้างหน้านะคะยส เทศเขาเปิดตาตรีให้ตรีได้มองเห็นความจริงแห่งชีวิต และตรีก็ได้รู้ว่าเขาจะไม่ทำให้ตรีต้องเสียใจ”
พยสเงยหน้าสูดลมหายใจอย่างเจ็บปวด พยสมองตรีประดับด้วยแววตาเศร้าโศก ยอมรับความพ่ายแพ้
“เจ็บปวดจัง นี่ผมต้องเจ็บอยู่คนเดียวใช่มั้ยตรี ผมทำลายทุกอย่างพังหมดแล้วด้วยมือของผมเอง”
ตรีประดับเห็นพยสเศร้า ก็อดสงสารไม่ได้
“ตรีหวังว่าวันนึงคุณจะได้เจอผู้หญิงคนใหม่ที่ทำให้ลืมตรีได้ และขอให้คุณหนักแน่นกับเธอคนนั้น อย่าหวั่นไหวไปตามอารมณ์ปรารถนาของตัวเองอีก ขอให้รักของเราที่จบลงแล้วเป็นบทเรียนนะคะยส”
พยสน้ำตาซึม พยายามฝืนยิ้มอย่างผู้แพ้ แต่ก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนดีอะไรขนาดนั้น
“ผมจะพยายาม”
“โชคดีนะคะยส”
ตรีประดับจะหันหลังกลับ พยสรีบพูดขึ้นอย่างจริงใจ
“ตรี ผมขอกอดตรีเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม ก่อนที่เราจะต้องจากกันจริงๆ”
ตรีประดับมองพยสอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ใจอ่อน พยักหน้า
พยสค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ตรีประดับ แล้วดึงร่างบางเข้ามากอด ตรีประดับกอดตอบอย่างเพื่อน
“ที่ผ่านมา ผมขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ โชคดีนะตรี”
จากด้านนอกรั้วบ้าน มีสายตาคู่หนึ่งมองสองคนกอดกันนิ่งนาน แต่ไม่รู้ว่าเป็นการกอดกันครั้งสุดท้าย
ตรีประดับเปิดประตูรั้วออกจากบ้าน เดินมาขึ้นรถ แต่แล้วต้องชะงัก เมื่อเห็นเทศราชยืนจ้องอยู่
“เทศ”
เทศราชมองตรีประดับอย่างผิดหวัง คำพูดของภิรตีตอกย้ำขึ้นมา
“ผู้หญิงที่แกคิดว่าดีเลิศประเสริฐนักหนา ที่แท้ก็ยังเหยียบเรือสองแคม อยากเก็บเอาไว้ทั้งสองคน”
เทศราชพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
เทศราชมีคนเตือนเราว่าตรีจะกลับมาหาพยส แต่เราก็เลือกที่จะไม่เชื่อ จนกระทั่งมาเห็นกับตา
“เดี๋ยวนะเทศ อะไรกัน”
“ตรีปิดบังเราเรื่องพยสทำไม ตรีควรจะให้เรารู้ตั้งนานแล้ว”
ตรีประดับอึ้งไป เมอรู้ว่าเทศราชรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว
“คือ พยสต้องการความช่วยเหลือ แต่ตรีไม่อยากให้เทศไม่สบายใจ”
เทศราชตัดพ้อ “เพราะคิดว่าเราไม่รู้ไม่เห็น ตรีก็เลยสบายใจกว่าที่จะมาอยู่กับมันใช่มั้ย”
“เปล่านะเทศ มันไม่ใช่อย่างที่เทศคิดเลยนะ”
“เราผิดเองที่เร่งรัดตรี ทั้งที่ตรียังไม่พร้อมที่จะเลือกใครกันแน่”
“ไม่จริง ตรีเลือกแล้ว ยสเขาไม่ได้มีความหมายกับตรีอย่างที่เทศคิดนะคะ”
“ไม่มีประโยชน์อะไรที่ตรีจะมาพูดเพื่อประคับประคองเราหรอก เราแข็งแรงพอ เราอยู่ของเราได้ ปล่อยเราไปเถอะ อย่าให้เราต้องรู้สึกไม่ดีกับตรีในวันนึงเลย”
พูดจบเทศราชก็รีบหนีขึ้นรถไปเสียก่อน ตรีประดับตามไปเคาะกระจกเรียก
“เทศ ฟังตรีก่อนสิเทศ”
เทศราชไม่มองหน้าตรีประดับด้วยซ้ำรีบสตาร์ตรถแล้วขับออกไป ทิ้งตรีประดับยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
ตรีประดับได้สติ รีบวิ่งไปที่รถ ขับตามไปอย่างเร็ว
ตรีประดับร้อนใจที่เทศราชเข้าใจผิด มาเคาะห้องเรียกด้วยสีหน้าเครียดเคร่ง
“เทศ เปิดประตูให้ตรีหน่อย”
เทศราชยืนอยู่กลางห้องสีหน้าหม่นหมอง แต่ไม่ยอมเปิดประตูให้
ตรีประดับน้ำตาคลอขึ้นมา
“เทศ ถ้าเราไม่คุยกันแล้วเราจะเข้าใจกันได้ยังไง ภาพที่เทศเห็น ตรีอธิบายได้นะ” ตรีประดับเคาะประตู “เทศ เปิดประตูก่อนสิ”
เทศราชยืนซึม ตัดสินใจพูดบอกไปว่า
“ตรีกลับไปก่อนเถอะนะ ขอเวลาให้เราคิดอะไรหน่อย ตรีเองก็อาจจะต้องใช้เวลาเหมือนกัน”
“เทศ”
ตรีประดับหมดแรงเคาะประตู ร้องไห้ออกมา แล้วทรุดลงตรงนั้น เทศราชนั่งพิงประตู ซบหน้าลงกับเข่าตัวเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ส่วนทางด้านพัดชายังเดินไปตามถนน ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี รู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเอามากๆ
ตรีประดับเดินซึมๆ เข้ามาในบ้าน สีหน้าอัดอั้นเต็มกำลังร้องไห้ออกมาน้ำตาพรั่งพรู ภูมิกับแววเข้ามาเห็นพอดี แววกับภูมิตกใจ
“ตายแล้ว ร้องไห้ทำไมลูก ใครทำอะไรบอกแม่ซิ”
แววกับภูมิเข้ามาปลอบ ยิ่งทำให้ตรีประดับร้องไห้หนักกว่าเดิม
ไม่นานต่อมา ภูมิกับแววเดินออกมาจากห้องลูก หันไปมองเห็นตรีประดับยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียใจอยู่ แววพูดเบาๆ กับภูมิว่า
“ฉันเคยคิดว่ายัยตรีรักนายพยส แต่คราวนี้ฉันเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วยัยตรีลูกเรารักตาเทศมากกว่าซะอีก”
“ยัยตรีรักนายเทศมานานแล้ว แต่ไม่รู้ใจตัวเอง มารู้เอาก็เกือบจะสายเกิน กำลังจะเริ่มต้นใหม่ดีๆ ก็ดันมามีเรื่องนี้อีก เฮ้อ...”
“ฉันสงสารลูกเราจังเลยค่ะคุณ ผู้หญิงถ้าพลาดหลายครั้งหลายหนมันจะไม่งามนะสิคะ”
“เอาน่า ฉันว่าสักวันนายเทศจะต้องรู้ความจริงว่าตรีลูกเรารักเขาจริงๆ ไม่ได้คิดนอกใจเขาเลย”
“ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะค่ะ”
อีกฟาก เพิ่มพรชงกาแฟให้พัดชาที่แวะมาหา แล้วลงนั่งคุยกันตรงโซฟารับแขกในสตูดิโอ
“แหม น้องพัดชา ตั้งแต่ไปได้ดิบได้ดี ก็นึกว่าจะลืมพี่เพิ่มพรคนนี้ไปซะแล้ว”
พัดชาทำหน้าละอาย แต่ก็ยังส่งสายตาอ่อย
“จะลืมได้ยังไงล่ะคะ ก็พี่ เป็นคนทำให้พัดมาถึงจุดนี้ได้”
“แต่ที่น้องพัดดังกระหึ่มแบบนี้ พี่ว่าไม่ใช่เพราะพี่นะ” เพิ่มพรอมยิ้มรู้ทัน “เพราะเสี่ยจิวกับคุณชินานางต่างหาก”
พัดชาหุบยิ้ม หน้าเสีย เพิ่มพรจิบกาแฟ ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่พัดชาเริ่มรู้แล้วว่าวางท่าไปก็ไม่มีประโยชน์ เลยเปลี่ยนท่าทีทันควัน
“ถ้าพี่เพิ่มรู้ข่าวแล้ว พัดก็คงไม่ต้องอ้อมค้อมอีกต่อไป พัดอยากกลับมาถ่ายแบบค่ะ”
“ถ่ายแบบ”
“พี่เพิ่มคุยกับเสี่ยให้หน่อยนะคะ เสี่ยมีหนังสือในไลน์ตั้งเยอะ เล่มไหนก็ได้ พัดไม่เลือก ขอแค่ให้พัดมีงานเรียกกระแสกลับมาให้ได้อีกครั้งก็พอ”
เพิ่มพรครุ่นคิด เห็นสีหน้าพัดชาเหมือนพร้อมสู้ตายกับทุกโอกาสตรงหน้า
ไม่นานต่อมา พัดชา ยืน นั่ง โพสท่าให้เพิ่มพรถ่ายรูป ด้วยเสื้อผ้าวาบหวิวมากขึ้นกว่าเดิมโชว์สัดส่วนชัดแจ้ง
“ดีนะที่เสี่ยเห็นด้วยกับน้องพัดที่ว่ายิ่งฉาวยิ่งขายดี ก็เลยยอมไฟเขียวให้พี่เรียกน้องพัดกลับมาถ่าย แต่คราวนี้ อาจจะต้องกล้ากว่าเดิมนะ”
“พัดสู้ตายอยู่แล้วค่ะ”
พัดชาโพสท่า ส่งสายตาจิกใส่กล้อง ยั่วยวนเต็มที่ไม่มีกั๊ก ดูเซ็กซี่มากขึ้นเป็นยทวี เพิ่มพรกดชัตเตอร์ รัวๆ ซูมทุกส่วนสัด
ขณะที่พัดชาพักการถ่ายแบบอยู่นั้น เพิ่มพรก็เดินมาบอกว่า
“พี่ส่งรูปไปให้เสี่ยดู เสี่ยบอกว่าแบบนี้น่าจะขายไม่ได้ไม่แรงพอเรียกกระแสไม่ได้ เสี่ยเขาอยากให้น้องพัดขาถ่ายน้อยชิ้นกว่านี้”
“น้อยชิ้นกว่านี้อีก หมายความว่ายังไงคะพี่”
“น้องพัดถ่ายนู้ดได้มั้ย”
พัดชาตกใจสุดขีด เพิ่มพรพูดจาโน้มน้าวหว่านล้อมพัดชาต่อ
“แหม น้องพัด ภาพพวกนี้เป็นศิลปะ น้องพัดไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ พี่จะเลือกมุมอย่างดี รับรองหนังสือขายดีแน่ เรียกกระแสแน่นอน”
“พี่แน่ใจเหรอคะ”
“แน่ใจสิ”
เพิ่มพรเดินเข้ามาหาถึงเนื้อถึงตัว
“ผู้หญิงสวยๆ อย่างน้องพัดชา ควรใช้เรือนร่างให้เป็นประโยชน์สิครับ เชื่อพี่ ถ้าน้องอยากมีงาน มีเงิน มันก็ต้องแบบนี้”
เพิ่มพรค่อยๆ ปลดเสื้อออกช้า เห็นพัดชาจำยอมไม่ขัดขืน เพิ่มพรก็ยิ้มพอใจ คว้ากล้องมาจะถ่าย แต่จู่ๆ พัดชากลับหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่แล้วเปลี่ยนใจ
“พัดเปลี่ยนใจ พัดไม่ถ่ายละค่ะ”
“อ้าว ทำไมอย่างงี้ล่ะ” เพิ่มพรอารมณ์ค้าง
“พัดว่าพัดยังมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ค่ะ”
“โธ่ น้องพัดชา ทำอย่างกับตัวเองมีทางเลือกเยอะงั้นแหละ ถามหน่อย ชื่อเสียงเน่าขนาดนี้ ถ้าไม่ดังแบบฉาวๆ แล้วจะไปดังทางไหนครับ”
พัดชาน้ำตาคลอ สะท้อนใจ
“แก้ๆ ถอดๆ มาเถอะครับ อย่างน้องพัดชาตอนนี้ ก็ไม่พ้นเป็นดาวยั่วดาวโป๊แน่นอนอยู่แล้ว”
เพิ่มพรยิ้มเยาะ เอามือลูบแก้มพัดชาสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย พัดชากรีดร้องออกมาอย่างเจ็บแค้น สะบัดมือเพิ่มพรออก แล้ววิ่งหนีไปโดยไว
เทศราชกลับมาเศร้าที่คอนโด นึกถึงภาพเก่าๆ สมัยที่ความสุขกับตรีประดับ ความสุขต่างๆ แล้วจบที่ตรีกอดกับพยส
เทศราชนั่งเศร้าซึมอยู่ในห้อง จนมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พอลุกไปเปิด เห็นพัดชายืนอยู่หน้าประตู
“พัดชา”
พัดชาน้ำตานองหน้า โผเข้ากอดเทศราชทันที
เมื่อเข้าห้องมาพัดชาเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาร่วงเป็นสาย
“คุณเทศจะสมน้ำหน้าพัดก็ได้ค่ะ พัดยอมรับว่าพัดทำตัวเอง ทุกอย่างที่วางแผนไว้มันผิดไปหมด พัดพยายามดิ้นรนให้ตัวเองเป็นที่รักของใครๆ แต่ก็เหมือนว่าพัดยิ่งถูกเกลียดชังจากทุกคนมากขึ้นๆ พัดเหนื่อยเหลือเกิน”
พัดชาร้องไห้ออกมาอย่างท้อแท้สิ้นหวัง เทศราชมองแล้วนึกถึงเรื่องที่คุยกับซาโต้
“คุณเคยคิดจะกลับบ้านไหมพัด”
พัดชาชะงัก หยุดร้องไห้ทันที แปลกใจว่าเทศราชไปรู้อะไรมา
“ทุกคนเวลาที่เหน็ดเหนื่อยท้อแท้ ก็คงอยากกลับไปพักใจที่บ้านกันทั้งนั้น แล้วคุณล่ะ”
พัดชาถอนสะอึก นึกถึงยูอิกับเดฟแล้วยิ่งเจ็บช้ำ
“บ้านของพัดไม่ใช่ที่พักใจหรอกค่ะ มันเป็นแค่ที่ซุกหัวนอนให้มีชีวิตรอดไปวันๆ ไม่มีความรักความอบอุ่นรอพัดอยู่ที่นั่น เหมือนบ้านของคนอื่น”
“คุณแน่ใจเหรอ”
“แน่ใจค่ะ พัดถึงได้หนีมันมา”
“คุณจะวิ่งหาความรักจากคนนอกบ้านไปตลอดชีวิตหรือพัดชา ถ้าคุณค้นหามันไม่เจอ คุณก็ต้องวิ่งไปเรื่อยๆ วันนี้คุณโชคดีที่ยังเจอจุดพักที่ผม แต่ถ้าวันนึงคุณหาจุดพักไม่ได้ คุณก็คงล้มหมดแรงอยู่กลางถนน แล้วถ้าไม่มีใครอยากช่วยพยุงให้คุณลุกขึ้นได้อีก คุณจะทำยังไง”
พัดชาฟังแล้วท้อแท้ แต่ก็ยังไม่ยอมรับความคิดที่จะกลับบ้าน เทศราชไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางดีพอ
“เอาเถอะ วันนี้ผมพอจะช่วยให้คุณตั้งหลักได้ ถ้าไม่มีที่ไปก็อยู่ที่นี่ไปก่อน”
“แล้วพี่ตรีล่ะคะ”
เทศราชหน้าเผือดไป สะเทือนใจเมื่อนึกถึงตรีประดับ
“อย่าพูดถึงเขาเลย ผมจะไปจัดห้องนอนให้คุณนะ”
เทศราชตัดบทลุกเดินเข้าห้องไป พัดชามองตาม สะกิดใจว่าทั้งสองคงจะมีปัญหากันแน่
อ่านต่อตอนที่ 24