มงกุฎริษยา ตอนที่ 12
ยิ่งสาย บรรยากาศการรับสมัครมิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์ ยิ่งเป็นไปอย่างคึกคัก สาวค่ายดวงเดือนยืนรออยู่ตามสเตชั่นต่างๆ ได้แก่ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดสัดส่วน ถ่ายรูปเก็บเป็นโปรไฟล์
ส่วนสาวๆ ค่ายเปรมจิตเกาะกลุ่มให้สื่อสัมภาษณ์และถ่ายรูปอยู่
มีสื่อสัมภาษณ์เดี่ยวเปรมจิต ส่วนแพรวแพร ลีน่า นรี สุนทรีย์ ให้สัมภาษณ์หมู่
พอเปรมจิตสัมภาษณ์เสร็จก็ไหว้ชดช้อย ฝากฝังลูกสาวในสังกัดเสียงอ่อนเสียงหวาน
“ขอบคุณมากค่ะ มีอะไรติดต่อเปรมจิตได้ตลอดเลยนะคะ อยากสัมภาษณ์น้องคนไหนเป็นพิเศษบอกเลยนะคะ”
เปรมจิตขอตัวเดินยิ้มหวานเข้าไปหานักข่าวที่กำลังสัมภาษณ์สาวๆ อยู่
“พี่ๆ สื่อขา เปรมขอตัวพาเด็กไปกรอกใบสมัครก่อนนะคะ ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณค่ะ”
คิตตี้ถือใบสมัครเข้ามาแจก
“อ่ะ เขียนลายมือมือสวยๆ ล่ะ ความเป็นกุลสตรีเขาดูกันตั้งแต่ลายมือนะยะ อ้าว แล้วนังฟ้าหายไปไหน”
“คงคิดว่าตัวเองสวยสู้คนอื่นไม่ได้เลยหนีกลับบ้านนอกไปแล้วมั้ง” ลีน่าว่า
ฟ้าเดินเข้ามาสมทบ มองลีน่าด้วยท่าทีอันแข็งกร้าว
“จะพูดถึงฟ้า พูดให้มันดีๆ หน่อยนะคะ ฟ้าแค่ไปเข้าห้องน้ำมา”
ทุกคนมองฟ้ารู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมฤทธิ์เยอะขึ้น ฟ้ารับใบสมัครจากคิตตี้มาเขียนใบสมัครด้วยลายมือโยกโย้ไม่ค่อยสวย แถมเขียนที่อยู่ผิด ก็เอาปากกาขีดฆ่าอย่างอารมณ์เสีย แล้วเขียนต่อ
เปรมจิตมองอยู่แหวใส่ “นังฟ้า! แกจะส่งใบสมัครแบบนี้ไปได้ยังไงหา บอกแล้วให้เขียนสวยๆ”
“ตายแล้ว อุบาทว์ที่สุด ไปขอใบสมัครเขามาเขียนใหม่”
ฟ้าขยำใบสมัครทิ้ง หันมาทางแพรวแพร บอกเสียงเรียบหน้านิ่ง
“พี่แพรวคะ ไปเอาใบสมัครใบใหม่ให้หน่อยสิคะ”
สาวๆ คนอื่นๆ มองแปลกใจทำไมฟ้ากล้าจิกใช้ แถมแพรวแพรก็มาแปลก ไม่แสดงอาการโกรธเกรี้ยวใดๆ
“ให้ฉันกรอกของฉันเสร็จก่อนแล้วกัน”
“ฟ้าอยากได้เดี๋ยวนี้นี่คะ”
แพรวแพรจำใจวางปากกาแล้วลุกขึ้น
“แล้วก็กรอกให้ฟ้าด้วยนะคะ ฟ้าลายมือไม่สวย”
แพรวแพรคุมแค้น ข่มอารมณ์กัดฟันเดินออกไป คนอื่นๆ มองหน้ากัน งงไปทั้งแถบ
ฟ้ายิ้มร้ายในสีหน้าอย่างสะใจ
อีกฟาก เกรซผู้จัดการกองประกวดเดินฉับๆ มาดมั่นตรงรี่ไปทางห้องประชุมช่อง แนตตี้ ผู้ช่วยถือโน้ตบุคเดินรายงานตามมาติดๆ
“ข้อมูลผู้สมัครทั้งหมดอยู่ในเครื่องนี้แล้วค่ะ”
“แล้วคุณขจีนุชกับคุณพุฒิพัฒน์ล่ะ”
“รออยู่ที่ห้องประชุมค่ะ”
“งั้นก็บอกผู้สมัครให้รอฟังผลผู้เข้ารอบ 50 คนได้เลย ถ้าประกาศแล้วไม่อยู่จะถือว่าสละสิทธิ์”
“ค่ะ”
พุฒิพัฒน์กับขจีนุชคุยกันอยู่ในห้องประชุม
“อะไรนะ เลขาลูกคนนั้นก็มาสมัครด้วยเหรอ ถ้าใครรู้เข้าจะว่ายังไงที่เอาพนักงานในช่องประกวดกันเอง”
“ชมพู่ไม่ได้เป็นพนักงานของช่องครับ เขาเป็นลูกจ้างของผม เพราะฉะนั้นเขาก็มีสิทธิ์สมัครเหมือนคนทั่วไป”
ขจีนุชอ่อนใจในความดื้อของลูกชายเจ้าอารมณ์ เกรซเปิดประตูเข้ามา ตามด้วยแนตตี้
“คุณเกรซ คนมาสมัครปีนี้เป็นยังไงบ้างคะ”
“โดยรวมแล้วดีงามเลยค่ะ แต่นี่ดูแค่ภายนอกนะคะ ยังไม่ได้ดูไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง ยังไงก็ต้องให้ทีมงานรีบสืบประวัติอีกที”
แนตตี้ต่อโน้ตบุ๊คเข้ากับจอโปรเจคเตอร์เครื่องฉายภาพผู้เข้าสมัคร
“พร้อมแล้วค่ะ เริ่มคัดเลือกกันได้เลยนะคะ”
อ่านต่อหน้า 2
มงกุฎริษยา ตอนที่ 12 (ต่อ)
เปรมจิตกับลูกๆ นั่งแกร่วรอลุ้นผลกันอยู่ ดาวเดินตรงเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะ เจ๊เปรมจิต”
เปรมจิตรับไหว้ มองดาวด้วยความเสียดาย ดาวแกล้งหันมาทักสาวๆ คู่ปรับ
“ตั้งแต่ดาวถูกเฉดออกมาจากบ้าน หวังว่าคงจะสบายดีกันทุกคนนะคะ”
ทุกคนเบือนหน้าหนีไม่มีใครอยากเสวนาด้วย คิตตี้ตวัดสายตามองจ้องดาว
“นังหมาจรจัด ไปเห่าที่อื่นไป พวกฉันไม่มีใครเขาอยากจะเสวนากับหล่อนแล้ว”
“พี่คิตตี้ขา ดาวก็แค่อยากจะมาทักทายในฐานะคนเคยรู้จักก็เท่านั้นเอง เผื่อว่าได้เข้ารอบไปจะได้ไม่ลืมกันไงคะ”
คิตตี้ยิ้มหยัน “มั่นหน้าเนาะ หล่อนไม่ได้อยู่ค่ายดวงเดือนแล้วคงจะได้เข้ารอบหรอกย่ะ”
ดาวยิ้มท้าทายกลับ เชือดเฉือนคิตตี้และเปรมจิตด้วยการหยิบโทรศัพท์ มากดโทร.หาใครคนหนึ่ง พูดสายขณะเดินจากไป
“คุณพิจิตราขา นี่ดาวเองค่ะ ตอนนี้ดาวมาสมัครมิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์อยู่ค่ะ”
คิตตี้แค้นจัด “เจ๊ ดูนังดาวมันสิ โทรไปเลียขาคุณพิจตรา”
“ปล่อยมัน ถ้ามันยังไม่มาระรานเด็กของเรา เราก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน”
“เจ๊คะ เราพอจะมีวิธีสกัดไม่ให้ดาวเข้ารอบได้มั้ยคะ”ฟ้ามองเขม่นดาว
“อุ๊ยตาย ถ้าฉันจำไม่ผิดนั่นเพื่อนสนิทเธอไม่ใช่เหรอ ทำไมมาสกัดกันเองแล้วล่ะ” นรีแดกดัน
“ฟ้ารู้จักดาวเขาดีค่ะ ถ้าเขาได้โกรธใครแล้วก็จะอาฆาตมาก ฟ้ากลัวว่าถ้าดาวได้เข้ารอบ อาจจะไปมีเรื่องกับพวกเราในกองประกวดก็ได้นะคะ” ฟ้าโน้มน้าวเปรมจิต
สุนทรีย์เห็นด้วย โพล่งขึ้นว่า “เจ๊คะ เจ๊ก็โทร.ไปเล่าเรื่องที่นังดาวมันซั่มกับผัวเจ๊ให้คุณพิจิตราฟังสิคะ”
เปรมจิตปรี๊ด “นังโง่ แกจะให้ฉันประจานผัวตัวเองเหรอ ตอนนี้เราล็อบบี้ใครไม่ได้ทั้งนั้น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกติกา ถ้าเข้ากองประกวดเมื่อไหร่ ค่อยหาทางกำจัดมันอีกที”
ทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องโถงช่องอินฟินิตี้ รอฟังผลการคัดเลือก
รออยู่สักครู่ใหญ่ๆ แนตตี้ถือไอแพดซึ่งในนั้นมีผลการคัดเลือกผู้เข้ารอบออกมา ประกาศผ่านไมค์ลอย
“ฮัลโหลๆ ผู้เข้าสมัครทุกท่าน ต่อไปนี้พี่จะประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 50 คน มิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์2016 นะคะ”
ผู้คนต่างฮือฮา สาวๆ ลุ้นตื่นเต้น ทุกอย่างเงียบลง
“ฟังกันดีๆ พี่จะเรียกแค่ 2 รอบ ถ้าใครไม่มาปรากฏตัวถือว่าสละสิทธิ์ทันทีนะคะ ผู้ที่ได้รับประกาศชื่อให้เข้าไปรอในห้องประชุมทางด้านโน้นนะคะ...คนแรกค่ะ นางสาวปัทมาวดี เด่นจันทร์ดวง”
ปุ้มร้องกรี๊ดขึ้นมาสุดเสียง จนเมื่อรู้ตัวว่าคนอื่นๆ มองมา ก็ออกอาการเขินๆ รีบเดินไปหาเจ้าหน้าที่ แล้วหันมาโบกไม้โบกมือให้สื่อ สื่อถ่ายรัวๆ
แนตตี้ประกาศชื่อผู้เข้ารอบต่อไป สาวๆ ค่ายดวงเดือน และค่ายเปรมจิตได้รับการประกาศเข้ารอบหมดทุกคนดีใจตื่นเต้น กองเชียร์และญาติๆ ก็โห่ร้องปรบมือเมื่อคนที่ตัวเองเชียร์ได้เข้ารอบ
ยังมีภาพผู้เข้ารอบหน้าใหม่อีก 4 สาว อันมี เขียด ภา รัตนา และนม ทั้งสี่นางดีใจยิ้มแก้มแตกที่ได้รับการประกาศชื่อด้วย
ระหว่างประกาศผู้เข้ารอบนี้ คิตตี้กับเลม่อนมองเข่นเขี้ยวเชือดเฉือนกันไปมา ดาวเหยียดยิ้มมองทีมเปรมจิต ถูกคิตตี้มองกลับตาเขียว
เวลาผ่านไปอีก ดาวยืนรอลุ้นผลตัวโก่ง เพราะเป็นการประกาศผู้เข้ารอบคนสุดท้ายแล้ว
“และคนสุดท้าย ได้แก่ นางสาว...” ดาวลุ้น “ดาวิกาแก้ว แววจินดาค่ะ”
ดาวยิ้มอย่างผู้ชนะ เดินไปรับหมายเลขจากเจ้าหน้าที่ เปรมจิต กับ คิตตี้ มองตาขุ่นอารมณ์เสีย
“เจ๊คะ นั่นมันชื่อที่เจ๊ตั้งให้มันตอนประกวดนางนพมาศที่เพชรนี่คะ ทำไมกลายมาเป็นชื่อจริงนามสกุลจริงของมันได้”
“มันคงจะแอบไปเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล มันกำลังคิดอะไรของมันอยู่”
เปรมจิตจิกสายตามองตามดาว ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ภายในห้องประชุมใหญ่ช่องอินฟินิตี้ยามนี้ คลาคล่ำไปด้วยสาวงามผู้ผ่านการคัดเลือรอบ 50 คน ซึ่งเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดสปอร์ตสีสดใสกางเกงขาสั้นสีขาว ในนั้นมี ดาว ปุ้ม เขียด ภา รัตนา และ ขนม ผู้เข้าประกวดอิสระ อยู่ในกลุ่ม สาวผู้เข้ารอบอีก 44 คน
รอบนี้จะเป็นการแนะนำตัวของผู้เข้ารอบทั้ง 50 คน เพื่อให้กรรมการ เกรซ ขจีนุช พุฒิพัฒน์ ซึ่งนั่งเรียงอยู่หน้าเวที มีคอมพิวเตอร์ไว้ลงคะแนนคนละเครื่อง ให้คะแนนจากบุคลิกภาพ การเดิน และการพูดการจา คัดให้เหลือ 24 คน ที่จะประกาศรายชื่อต่อสื่อมวลชน และเข้าร่วมกิจกรรมกับกองประกวด
แนตตี้ดูแลให้ทีมงานจัดแถวผู้เข้ารอบนั่งเรียงกันอยู่หลังกรรมการตามหมายเลข แบ่งออกเป็น 5 แถว แถวละ 10 คน
ผู้เข้ารอบขึ้นบนเวทีทีละแถว ออกมาแนะนำตัวต่อหน้ากรรมการทีละคน เดินให้กรรมการดูจากซ้ายไปขวา แล้วกลับที่ ทุกคนออกมาแนะนำตัวต่อกันตามหมายเลขไปเรื่อยๆ จนครบ
ตอนที่ชมพู่ออกมาแนะนำตัว พุฒิพัฒน์แอบยักคิ้วให้ ชมพู่ทำหน้าเซ็ง ขจีนุชกับเกรซแปลกใจว่าชมพู่เป็นอะไร
ตอนที่ดาวออกมาแนะนำตัว ดาวยิ้มให้พุฒิพัฒน์บอกความชื่นชอบชัดแจ้ง จนพุฒิพัฒน์ต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา
กรรมการพูดคุย วิจารณ์ ถามความเห็นเรื่องสาวงามกันพองาม ช่างภาพสื่อมวลชนถ่ายภาพตลอด
เวลาผ่านไป ทุกคนประจำที่เรียบร้อย แนตตี้ถือไอแพดเดินยิ้มขึ้นมาบนเวที
“และแล้วชื่อผู้เข้ารอบมิสเพอเฟคไทยแลนด์ทั้ง 24 คนก็อยู่ในมือของแนตตี้แล้วนะคะ”
สาวๆ เนื้อเต้นลุ้นผล
“ผู้ที่ได้รับการประกาศชื่อ ขอให้มารับหมายเลขแล้ว ขึ้นมายืนเรียงบนเวทีค่ะ”
แนตตี้ประกาศรายชื่อไป คนที่ได้รับการประกาศชื่อ เดินมารับหมายเลขติดข้อมือแล้วขึ้นยืนเรียงบนเวที
คนที่เข้ารอบคือชมพู่ ดาว ฟ้า เด็กค่ายดวงเดือน และเด็กค่ายเปรมจิตยกทีม รวมทั้ง ปุ้ม เขียด ภา รัตนา ขนม สาวอื่นๆ อีก 8 คน
ทั้ง 24 สาวยืนโพสท่าแข่งกันอยู่บนเวที สื่อถ่ายรูปรัว สาวที่ตกรอบทยอยออกนอกห้อง
แนตตี้บิวท์อารมณ์ทิ้งทวน “และนี่คือโฉมหน้า 24 คนสุดท้ายผู้เข้ารอบ มิสเพอร์เฟ็กต์ ไทยแลนด์ สองพันสิบหก ผู้ชนะจะได้รับมงกุฎเพชรพร้อมสายสะพาย เงินรางวัล 5 ล้านบาท รถยนต์มูลค่า 2 ล้านบาท และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสเพอร์เฟ็กต์ ยูนิเวิร์ส ณ ประเทศแคนนาดา เท่านั้นยังไม่พอนะคะ ยังได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของช่องอินฟิตี้อีกด้วยค่ะ”
เกรซพยักหน้าเป็นเชิงบอกแนตตี้
“ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านนะคะที่ให้เกียรติมาในวันนี้ ลำดับต่อไปจะมีการพูดคุยกับสาวงามเป็นการส่วนตัวเล็กน้อย เชิญพี่ๆสื่อรอด้านนอกเลยค่ะ เชิญค่ะ
ทีมงานกองประกวด เชิญนักข่าวออกไป
สาวงาม 24 คนนั่งเรียงตามหมายเลข เกรซ ขจีนุช พุฒิพัฒน์ แนตตี้อยู่ด้านหน้าทุกคน บรรยากาศดูเคร่งเครียด จริงจัง เกรซแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ ด้วยน้ำเสียงเข้มงวด
“ฉันชื่อ เกรซ กรกนก ธำรงอมรวงศ์ เป็นผู้จัดการกองประกวดมิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 17 แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักฉันนะ”
สาวๆ ยกมือไหว้
“เวทีมิสเพอร์เฟ็กต์ เป็นเวทีของคนที่ต้องงามพร้อมและดีพร้อม ไม่มีรอยตำหนิบกพร่องด่างพร้อย...”
ฟ้ารีบเอาขาข้างหนึ่งบังรอยแผลเป็นที่น่องอีกข้างเนียนๆ
“นั่นแปลว่าประวัติของทุกคนจะต้องใสสะอาดด้วย นี่คือคุณสมบัติพื้นฐานที่มิสเพอเฟคต้องมี งั้นฉันขอถามตรงนี้เลย ว่าใครเคยมีพฤติกรรมที่เสื่อมเสีย น่ารังเกียจ ผิดต่อศีลธรรมอันดีงาม ให้ลุกขึ้นแล้วออกไปทางประตูด้านหลังตอนนี้เลยค่ะ”
สาวๆ เริ่มกังวลมองหน้ากันไปมา แพรวแพรนั้นหนักกว่าใคร เพราะรู้แก่ใจว่าหล่อนมีลูกแล้ว
“คิดให้ดีๆ ถ้าถูกจับได้ระหว่างประกวดมันจะน่าอายกว่านี้หลายร้อยเท่า” เกรซเสริม ไล่สายตาอันคมกริบมองสาวๆ
ทุกคนยังคงเงียบกริบ
“ในเมื่อทุกคนยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์” เกรซคลี่ยิ้ม “ฉันก็ขอต้อนรับทั้ง 24 สาวงาม สู่เวทีมิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์สองพันสิบหก อย่างเป็นทางการค่ะ”
เกรซนำปรบมือ ทุกคนปรบตาม สาวๆ ผ่อนคลาย หายเครียด พากันยิ้มออก
อ่านต่อหน้า 3
มงกุฎริษยา ตอนที่ 12 (ต่อ)
ระหว่างนี้ ทีมงานคนหนึ่งถือคอมโน้ตบุคเข้ามาตรงไปหาแนตตี้ เปิดให้ดูแล้วกระซิบบางอย่าง แนตตี้ตกใจ รีบเอาไปให้เกรซดูพร้อมกระซิบบอก เกรซเงยหน้าขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะมองหาในแถวสาวงาม
“คนไหนชื่อชมพู่”
ชมพู่เหวอ งงว่าเกิดอะไรขึ้น พุฒิพัฒน์เองก็สงสัย และนึกเป็นห่วงแม่เลขาเรื่องส่วนตัวของเขาเอามากๆ ชมพู่ค่อยๆ ยืนขึ้น
“หนูเองค่ะ ชมพู่”
สาวๆ มองชมพู่เป็นตาเดียว
หน้าจอโน้ตบุคของแนตตี้ เปิดหน้าเฟซบุ๊คแฟนเพจ มิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์ 2016 ในนั้นเพิ่งลงรูปผู้เข้ารอบ 24 คน ถ่ายจากบนเวทีในห้องประชุมใหญ่ มีคนกดไลค์ 3,857 คน แล้ว มีคนแชร์ 564 คน และมีคอมเม้นต์ 786 ครั้ง
คอมเม้นต์หนึ่งเป็นใบหน้าซูกัส สาวนั่งดริ้งค์ ท่วงท่าแบ๊วปนเซ็กซี่ ใช้ชื่อว่า เฟซบุ๊กว่า “ซูกัส ซู่ซ่า ของดีเมืองเพชร” เข้ามาโพสต์ว่า
“อีชมพู่ เพื่อนกูเอ๊งงงงงง”
เกรซ ขจีนุช พุฒิพัฒน์ มุงดูเฟซบุ๊กนั้นกันอยู่ ชมพู่หน้าเครียด
“ซูกัส ซูซ่า นี่ใคร” เกรซเงยหน้าถามด้วยเสียงเข้มงวด
ชมพู่ อึกอัก “เพื่อนค่ะ”
“แล้วเค้าทำอาชีพอะไร” เกรซซักอีก
“เอ่อ...” ชมพู่ไม่อยากตอบ
แนตตี้สอดขึ้นว่า “ทีมงานเข้าไปดูโปรไฟล์ของซูกัสซู่ซ่าแล้ว เธอทำงานเป็นเด็กนั่งดริ้งค์ในบาร์ค่ะ”
“พี่แนตตี้ครับ ในกติกามีห้ามรึเปล่าครับว่า ห้ามคบเพื่อนที่ทำอาชีพแบบนี้” พุฒิพัฒน์พยายามช่วย
“ไม่มีค่ะ”
“แล้วเธอทำแบบเดียวกับเขารึเปล่า” เกรซจ้องหน้าชมพู่
“เอ่อ...พู่ทำอาชีพปาดตาล ขายน้ำตาลในตลาดค่ะ”
“แล้วไปรู้จักกับคนแบบนี้ได้ยังไง” เกรซซักไซ้
“ก็ เคยเจอกันน่ะค่ะ”
“อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว สังคมคนต่างจังหวัดจะค่อนข้างแคบ ใครเป็นใครก็รู้จักกันหมด เธอจะหมายความอย่างนี้ใช่มั้ย”
พุฒิพัฒน์เสริมให้ ชมพู่พยักหน้ารับ
เกรซ และขจีนุช ดูท่าจะยังไม่ค่อยไว้วางใจ โดยเฉพาะขจีนุชซึ่งไม่ค่อยชอบหน้าชมพู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“ชมพู่ เธอออกไปรอข้างนอกก่อน” เกรซบอก
ชมพู่หน้าเจื่อน กังวลมาก พุฒิพัฒน์มองตามด้วยความเป็นห่วง
ทีมงานกองประกวดหญิง 2 คนเดินเม้าท์กันมาตามทาง ชัชชนม์เดินสวนมาได้ยินเข้า
“เพื่อนน้องชมพู่ที่เข้ามาคอมเม้นน่ะ นางเป็นสาวบาร์ แต่ละรูปที่ลงนะโชว์นมโชว์ตูดเรียกแขกทั้งนั้นเลย” หญิง 1 ว่า
หญิง 2 เสริม “งั้นน้องชมพู่ก็คงถูกปลดแล้วล่ะ ป้าเกรซนางเฮี้ยบกับเรื่องนี้จะตาย แกเรียกตัวสำรองมาเตรียมไว้ได้เลย”
ชัชชนม์ได้ยินก็แปลกใจ ไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้มาก่อน ลึกๆ รู้สึกเป็นห่วง ชมพู่เดินออกมา เจอชัชชนม์พอดี ชมพู่ยิ้มทัก
“ชัช”
ชัชชนม์ทักตอบ ทำหน้าไม่ถูก “พู่”
“ปรึกษาหน่อยสิชัช ตอนนี้พู่...”
“ขอโทษนะ ผมต้องรีบไปเคลียร์งาน”
ชัชชนม์ตัดบทเดินหนีไปเฉยเลย ชมพู่เหวอ งวยงงว่าชัชชนม์เป็นอะไรไป
กองประกวดมิสเพอร์เฟ็กต์ฯ ประชุมเครียด ขจีนุชเอ่ยขึ้นหลังจากทุกคนเงียบกันอยู่
“เพื่อเป็นการตัดปัญหา ฉันว่าปลดชมพู่ออกจากการประกวดเลยดีกว่าค่ะ”
“แต่ตอนนี้สื่อก็ลงรูปผู้เข้ารอบ 24 คนไปแล้วนะคะ ถ้าจะปลดก็ต้องตอบคำถามนักข่าวให้ได้ว่าทำไมอยู่ๆ ถึงปลด” เกรซท้วง
“ผมว่าเราอย่าตีตนไปก่อนไข้เลยครับ กองประกวดจะเสียชื่อเสียงเปล่าๆ ทั้งๆ ที่ชมพู่อาจจะไม่ได้ทำเรื่องเสื่อมเสียอะไรเลยก็ได้”
พุฒิพัฒน์เสียงเข้ม มองหน้ามารดานิ่ง ขจีนุชจำใจยอมรับ
“งั้นก็ฝากคุณเกรซ ดูเด็กคนนี้เป็นพิเศษก็แล้วกันนะคะ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็ปลดได้เลย ดีกว่าปล่อยให้เข้ารอบสุดท้าย หรือได้ตำแหน่งแล้วเรื่องเพิ่งแดงมันจะยิ่งฉาวโฉ่ค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันอยู่กับเวทีมิสเพอร์เฟ็กต์มานาน หน้าของฉันก็แทบจะเป็นโลโก้ของการประกวดอยู่แล้ว ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำให้เวทีนี้เสื่อมเสียหรอกค่ะ เพราะนั่นมันก็หมายถึงชื่อเสียงของฉันด้วย”
เกรซย้ำคำพูดหนักแน่น
ภายในห้องประชุมใหญ่ ทุกคน ตลอดจน นางงาม นั่งประจำที่ทางเดิมของใครมัน ชมพู่เปิดประตูเดินเข้ามาด้วยท่าทีเกร็งๆ เดินกลับไปนั่งที่เงียบๆ
ทุกคนมองมาเป็นตาเดียวด้วยความสงสัย บางกลุ่มซุบซิบไปมา
ไม่นานนัก พุฒิพัฒน์ ขจีนุช เกรซ และแนตตี้ ตามเข้ามา ขจีนุชหยุดคุยโทรศัพท์หน้าตาเครียดเคร่ง
แนตตี้เอ่ยขึ้นว่า “ทุกคนฟังทางนี้ค่ะ ไม่มีอะไรแล้วนะคะ เป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ต่อไปพี่แนตตี้แจ้งรายละเอียดกิจกรรมที่จะทำในวันพรุ่งนี้ให้ทราบนะคะ พวกเรามีอยู่ด้วยกัน 24 คน พี่จะให้จับคู่ทำกิจกรรม”
จู่ๆ ขจีนุชก็ทักท้วงเสียงดัง “เดี๋ยว แนตตี้ ยังมีผู้เข้ารอบเหลืออีกคนนึง”
ประตูห้องประชุมใหญ่เปิดออกช้าๆ ขจีนุชเหลียวนำไป ทุกคนมองตามเป็นตาเดียว
ประตูห้องประชุมเปิดเข้ามาช้าๆ สายตาทุกคู่มองไป เห็นเป็น เมซี่ สาวลูกครึ่งไทย อเมริกันเดินเข้ามาหยุดยืนโพสท่ามาดสาวมั่นอยู่ที่หน้าประตู ขจีนุชมองแว่บหนึ่งแล้วคุยโทรศัพท์ต่อ
“ค่ะท่าน ดิฉันจะจัดการเองค่ะ”
พอวางสายขจีนุชมองไปทางเมซี่อย่างหนักใจ เดินไปคว้าไมค์จากแนตตี้มาประกาศ
“ขอแนะนำ ผู้เข้ารอบคนสุดท้าย น้องเมซี่ นางสาวเมสินี พรรณวดี โรเบิร์ต จาก LA เซอร์ไพรส์ของเราในปีนี้ค่ะ”
เมซี่ยืนโพสท่าฉีกยิ้มอย่างมั่นใจ วิคกี้ พี่เลี้ยง เดินเฉิดฉายเข้ามายืนคู่ ก่อนจะพยักหน้าให้เมซี่เดินเข้าไป นักข่าวกระหน่ำถ่ายรูปเมซี่
“นี่มันอะไรครับคุณเกรซ”
เกรซหันมาส่ายหน้ากับพุฒิพัฒน์ ด้วยความงุนงงเช่นกัน ชายหนุ่มมองไปทางขจีนุชอย่างไม่พอใจ
นักข่าวรุมถ่ายรูปเมซี่ ขณะที่ขจีนุชแนะนำสาวลูกครึ่งไปด้วย
“เราได้รับเกียรติจาก เวที Miss Thai LA ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผู้ชนะเลิศ Miss Thai LA ในปีนี้ เข้ามาร่วมประกวดกับเราค่ะ”
เหล่าสาวงามมองจ้องเมซี่อย่างหวาดหวั่น เมื่อนึกถึงดีกรีความงามของเจ้าหล่อน
สื่อมวลชนฮือฮา ถ่ายรูปเมซี่ไม่หยุด พุฒิพัฒน์มองมารดาสายตาเต็มไปด้วยคำถาม และความคับข้องใจสุดจะประมาณ อันไม่ต่างจากเกรซ
ขจีนุชเดินนำเข้ามาในห้องประชุมกองประกวด พุฒิพัฒน์ และ เกรซรีบเดินตามเข้ามาอย่างร้อนใจ
“เซอร์ไพรส์จากกองประกวด เซอร์ไพรส์จริงๆ ครับ ขนาดคนกองประกวดเองยังไม่มีใครรู้เรื่องสักคน”
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณขจีนุช”
“ทางผู้ใหญ่เพิ่งตกลงกันได้น่ะค่ะ เลยไม่ได้บอกใครก่อน”
“ใครตกลงกับใครครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
แนตตี้เคาะประตูที่เปิดอยู่แล้วเดินเข้ามาทางขจีนุช
“มีคนมาขอพบคุณขจีนุชค่ะ”
ขจีนุชฉงน “ใคร”
แนตตี้บอกว่า “ลุงที่มากับน้องเมซี่ค่ะ เอ๊ะหรือป้า หรือลุง”
กะเทยวัยทองนาม วิคกี้ เปิดประตูเข้ามาด้วยท่วงท่ามาดมั่น
“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะคะ ดิฉัน มิสวิคกี้” ครั้นพอเห็นสายตาขจีนุช ก็มีท่าทีอ่อนลง “พี่เลี้ยงน้องเมซี่ค่ะ”
“งั้นแนตตี้ขอตัวไปดูน้องๆ ผู้เข้าประกวดก่อนนะคะ”
แนตตี้ออกจากห้องไปหน้าเจื่อนๆ ขจีนุชรับไหว้วิคกี้
“ขอโทษนะคะ ที่นี่เป็นห้องประชุมคณะกรรมการ ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา” เกรซเอ่ยขึ้น
“อ้อ ดิฉันคงยังแนะนำตัวไม่หมด นอกจากจะเป็นพี่เลี้ยงน้องเมซี่แล้ว ดิฉันยังเป็นที่ปรึกษา เฉพาะทางให้กับคุณธีรนัยอีกด้วยค่ะ”
พุฒิพัฒน์ฉงน “คุณธีรนัย”
“เจ้าของหมู่บ้านสุขสิริ สปอนเซอร์หลักของเวที Miss Perfect Thailand ยังไงล่ะคะ” วิคกี้สาธยาย พลายปรายตามองเกรซอย่างถือไพ่เหนือกว่า “คุณธีรนัย ฝากดิฉันมากำชับว่า ให้ทางกองประกวด ดูแลน้องเมซี่ให้ดีเป็นพิเศษ”
พุฒิพัฒน์ กับ เกรซ มองหน้ากัน รู้สึกว่าเรื่องชักแปลกๆ
“ให้สมกับที่น้องมีดีกรีเป็นนางงามจากอเมริกาน่ะค่ะ” วิคกี้เสริม
“ทางเราดูแลนางงามทุกคนอย่างดีเป็นพิเศษอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีดีกรีจากไทยหรือต่างประเทศ ทุกคนเท่าเทียมกันหมดค่ะ”
วิคกี้พูดสวนขึ้นมาทันที “แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่คุณธีรนัยจะกำชับมาใช่ไหมล่ะคะ หวังว่าทางกองประกวดจะเข้าใจ และไม่ทำให้สปอนเซอร์หลักผิดหวังนะคะ”
วิคกี้เดินออกไปช้าๆ แต่นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“อ้อ คุณธีรนัยอยากทราบความคืบหน้าของการประกวด ดิฉันขออนุญาตอยู่สังเกตการณ์ระหว่างการคัดเลือกด้วยนะคะ”
วิคกี้เดินออกไป
พุฒิพัฒน์รีบเข้าไปหาขจีนุช
“คุณแม่ครับ”
ขจีนุชตัดบทด้วยการชวนเกรซคุย “เกรซ มาคุยเรื่องกำหนดการวันพรุ่งนี้หน่อย”
จากนั้นขจีนุชก็เดินนำออกไปฃ พุฒิพัฒน์เหลียวไปมองหน้าเกรซเป็นเชิงถาม เกรซจนใจ ได้แต่เดินตามขจีนุชไป พุฒิพัฒน์ไม่พอใจมากๆ
แนตตี้เดินเข้ามาในห้อง สาวๆ นั่งพักผ่อนตามอัธยาศัยกันอยู่
“อีกเดี๋ยวคุณเกรซจะมาคุยเรื่องกำหนดการวันพรุ่งนี้นะคะ ระหว่างนี้น้องๆ ก็ทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ไปก่อน เพราะคนที่โชคดีได้เข้ารอบเป็น 12 คนสุดท้าย ต้องอยู่ด้วยกันอีกหลายเดือนเลยนะคะ”
ดอกแคเหล่มองเมซี่ที่นั่งเล่นมือถืออยู่มุมห้องอย่างไม่สนใจใคร
“โอ๊ย อีกหลายเดือนเลยเหรอ ไม่อยากเจอนั่งนี่เลย” ดอกแคว่า
“เจ๊รู้ได้ไงว่าจะได้เจอยัยนี่รอบ 12 คน” ปรางค์ถาม
“มันเป็นถึงนางงามอิมพอร์ต ยังไงมันก็ตัวเก็งอยู่แล้ว”
“หมายถึงเจ๊น่ะ จะได้เข้ารอบ 12 คนกะเขาเหรอ” ปรางค์ว่า
ดอกแคตวาด “นังปรางค์”
ปรางค์หยอก “แต่ก็ไม่แน่ กรรมการอาจจะเห็นว่าปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่เจ๊จะประกวดได้แล้ว เลยสงสารก็ได้ว่ะ”
“รุ้งแกดูนังปรางค์มันปากเสียสิ”
พอดอกแคหันไปหารุ้งลาวัลย์ พบว่าอีกฝ่ายถ่ายเซลฟี่กับเบอร์ 11 ที่ผูกข้อมืออยู่
“เขาถ่ายรูปกับเบอร์ตัวเองมาตั้งแต่ได้เบอร์แล้ว” จอยว่า พลางหันมาถามรุ้งลาวัลย์ “เมมเต็มยังพี่รุ้ง”
“หมอดูว่าไว้ ว่าเลข 11 น่ะ เป็นเบอร์ดี ใครได้นะ เฮง เฮง เฮง”
รุ้งลาวัลย์ยกข้อมือตัวเองขึ้น ชื่นชมเบอร์ 11 ยื่นไปยื่นมาไปชน สุนทรีย์ กับนรีที่เดินผ่านมาพอดี
สุนทรีย์วี้ดใส่ “โอ๊ย มารำอะไรแถวนี้อีป้า”
ดอกแคสะดุ้ง สะท้อนสะเทือนใจกับความแก่ ถามเสียงขุ่น “แกว่าใคร”
จอยบอกกับดอกแค “เขาว่าพี่รุ้งเจ๊”
นรีพึมพำ “ติงต๊องกันทั้งบ้าน”
ปรางค์ได้ยินก็ไม่พอใจ “เฮ้ย พูดว่าไรนะ”
“หูหนวกหรือไง หูตึงแบบนี้เขาไม่ให้มาแข่งนะ” สุนทรีย์ด่าซ้ำ
“เหรอ แล้วพวกที่พูดไม่ได้ เขาก็คงไม่ให้แข่งเหมือนกันใช่ไหม แม่จะได้ตบให้ปากฉีกเลย”
นรีท้าปรางค์ “ก็เอาสิ”
ปรางค์เงื้อมือมาจะตบสุนทรีย์ แต่แนตตี้เดินเข้ามาพอดี
“ทำไรกันน่ะ”
จอยรีบจับมือแนตตี้ทำเป็นเต้นรำ
“โทษทีค่ะพี่แนตตี้ หนูไม่รู้ว่าห้ามเต้นรำกันในนี้”
“เต้นกันเบาๆ หน่อยละกันนะคะ” แนตตี้เดินออกไป
นรียิ้มหยัน “หึ ไม่แน่จริงนี่หว่า”
“เออสิ ถ้าแน่จริง พวกฉันก็โดนหักคะแนนน่ะสิ” ดอกแคว่า
จอยเซ็ง “เจ๊”
ปรางค์ฝากไว้ว่า “ยังมีเวลาอีกเยอะ ไว้รอเจอของจริงละกัน”
สองค่ายมองหน้าจิกตาใส่กัน ไม่มีใครยอมใคร
ขณะที่ชมพู่กำลังจะเดินเข้าห้องประชุม ก็เห็นชัชชนม์คุยกับเจ้าหน้าที่กองประกวดอยู่ ชมพู่เดินเข้าไปแอบฟังเงียบๆ
“ถ้ายังไงผมขอรายละเอียดของผู้สมัครทั้งหมดด้วยนะครับ”
“แต่ในตารางบอกว่า คุณชัชจะเข้าไปทำความรู้จักกับนางงามด้วยตัวเองนี่คะ”
“ยังไม่เข้าไปตอนนี้ดีกว่าครับ ส่งแค่ประวัติมาก็พอ”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นส่วนของคุณชัชวันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
เจ้าหน้าที่เดินออกไป ชมพู่รีบเข้ามาหาชัชชนม์ ส่งยิ้มให้
“ชัช ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
“ขอโทษนะ ผมต้องไปทำงานก่อน”
ชัชชนม์จะเดินหลีกไปอีกทาง ชมพู่ดักไว้
“ก็เมื่อกี้พี่ทีมงานเขาบอกว่าชัชไม่ต้องทำอะไรแล้ว ถ้าไม่อยากคุยกับพู่ ก็บอกมาตรงๆ สิ อย่ามาโกหกกันแบบนี้”
“ใช่ ผมไม่อยากคุยกับคุณ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับคุณแล้ว”
ชมพู่ฟังแล้วงง “นี่มันอะไรชัช เพราะคุณพุฒิใช่ไหม เขาสั่งชัชว่าห้ามยุ่งกับพู่ใช่ไหม”
“เพราะคุณต่างหากพู่ ทำไมคุณต้องหลอกผมว่าคุณเกลียดไอ้พุฒิด้วย สนุกมากใช่ไหมที่ปั่นหัวผมได้”
“ฉันไม่เคยหลอกคุณเลยนะ”
“แล้วที่บอกผมว่าอยากกลับบ้านเพื่อหนีไอ้พุฒิ แต่วันรุ่งขึ้นกลับไปสวีทกับมัน มันไม่ใช่การหลอกแล้วเรียกว่าอะไร”
“ฟังพู่ก่อนนะ” ชมพู่พยายามอธิบาย
ชัชชนม์ตัดบท “ผมผิดเองแหละ ที่คิดไปเองว่าคุณจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่เลย สุดท้ายคุณก็เลือกมัน ก็ขอให้ไอ้พุฒิและเงินของมัน ช่วยคุณได้จริงๆ แล้วกัน”
ชัชชนม์เดินหนีไป ชมพู่กระวนกระวายที่เขาเข้าใจเธอผิดไปยกใหญ่
สาวๆ นั่งเรียงหน้ากระดานกันอยู่หน้าเวทีแล้ว ขณะที่เกรซเดินขึ้นไปบนเวที
“พรุ่งนี้เราจะเริ่มทำการเวิร์คช็อป และในวันถัดไป เราจะทำการทดสอบ พร้อมประกาศผลผู้เข้ารอบ 12 คน ทันที”
ทุกคนตื่นเต้น
“เพราะฉะนั้นพวกคุณเรามีเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น ที่จะแสดงศักยภาพของตัวเองให้เต็มที่ ให้คณะกรรมการได้เห็นว่า คุณเหมาะสมจะผ่านเข้ารอบไปเป็นมิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์”
หน้าตาสาวงามทุกคนมุ่งมั่นจริงจัง มีเพียงเมซี่ที่นั่งหน้านิ่ง ไม่ยี่หระ เกรซเห็นก็รู้สึกขัดตา
“และขอให้ลืมไปให้หมด ไม่ว่าก่อนหน้านี้ เราเป็นใครมาจากไหน มีดีกรีเป็นอะไร แต่เมื่อมาอยู่ในการเวิร์คชอปแล้ว ทุกคนเป็นผู้เข้าแข่งขัน Miss Perfect เหมือนกันทุกคน”
เมซี่ กับ วิคกี้ เหลียวไปมองหน้ากัน เมซี่ชักสีหน้าไม่พอใจเกรซ
อ่านต่อหน้า 4
มงกุฎริษยา ตอนที่ 12 (ต่อ)
วิคกี้ลุกขึ้นไปกระซิบขจีนุช ว่าให้เมซี่ได้เบอร์การประกวดเป็นเบอร์ 1 ขจีนุชได้ยินก็ตกใจเล็กน้อย แต่เก็บอาการ วิคกี้ยิ้มกับขจีนุชเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่
“ขอให้ทุกคนตั้งใจพัฒนาทักษะของการเป็นมิสเพอร์เฟ็กต์ ไปพร้อมๆ กัน”
ขจีนุชเขียนโน้ต เรียกแนตตี้มา ยื่นกระดาษโน้ตให้ บุ้ยใบ้ให้เอาไปให้เกรซ
“จะไม่มีใครได้เปรียบ หรืออภิสิทธิ์กว่าใครทั้งนั้น”
แนตตี้ยื่นกระดาษให้ เกรซรับมา เห็นกระดาษเขียนโน้ตกำกับมาว่า “เมซี่จะขอได้เบอร์ 1” ก็ชะงักไปเล็กน้อย เหลียวไปหาขจีนุชเป็นเชิงถาม อีกฝ่ายพยักหน้านิดๆ เกรซมองไปยังวิคกี้เห็นนั่งยิ้มกริ่มอย่างเป็นต่อ
เกรซมีท่าทีลำบากใจ “ค่ะ แต่ อย่างที่รู้กัน ว่าเรามีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามา ขอเชิญเมซี่ลุกขึ้นค่ะ”
เมซี่ลุกขึ้น มองเชิด ดอกแค ปรางค์ มองค้อนอย่างหมั่นไส้
“เนื่องจากเมซี่ยังไม่มีเบอร์ในการประกวด เพื่อเป็นการต้อนรับเพื่อนใหม่ เมซี่จะได้เบอร์ประกวดเป็นเบอร์ 1 ขอให้ทุกคนเลื่อนลำดับเบอร์ของตัวเองไป 1 หมายเลขนะคะ”
รุ้งลาวัลย์ได้ยินดังนั้นก็เบิกตาโพลง มองเบอร์ 11 ของตัวเอง หน้าเสียไป สุนทรีย์ที่ได้นั่งติดกับรุ้งลาวัลย์ เอื้อมมือไปสะกิดนรีด้วยความดีใจ
“เฮ้ย ฉันได้เลื่อน กลายเป็นเบอร์ 11 อ่ะแก เขาว่าปีนี้เลข11โชคดีด้วยอ่ะ”
รุ้งลาวัลย์คุมแค้นมองสุนทรีย์อย่างเกลียดชัง สุนทรีย์หันมายิ้มเยาะ
“เลื่อนเบอร์เสร็จแล้ว ก็เชิญทุกคน ออกไปรับชุดใหม่สำหรับร่วมกิจกรรมในวันพรุ่งนี้นะคะ”
รุ้งลาวัลย์หงุดหงิดมาก
เย็นนั้น ดาวเดินออกมาจากห้องประชุม ตรงไปที่โต๊ะรับชุด แนตตี้ และพี่เลี้ยงอีกคนอยู่ที่โต๊ะแล้ว
“มาเลือกไซส์ได้เลยค่ะ หยิบแล้วเซ็นชื่อรับทางนี้นะคะ”
ดาวเอื้อมไปหยิบถุงเสื้อ แต่มีมือยื่นมาหยิบถุงเดียวกันพอดี ดาวเงยหน้ามาเป็นฟ้า ทั้งสองจ้องหน้ากันนิ่ง ไม่ยอมปล่อย
“นิสัยชอบแย่งของๆ คนอื่นนี่มันคงติดแน่นเหมือนสัน...ดอน ในทะเลเนอะ”
ดาวสวนกลับทันควัน “อ้าว โทษที ถ้าหมายถึงชุดนี้ ฟ้าจะเอาไปก็ได้นะ แต่ถ้าหมายถึงผู้ชาย ก็คงยากหน่อย เพราะเขาเข้ามาหาฉันเอง”
ดาวและฟ้าต่างกำชุดไว้แน่น ฟ้าแกล้งทำให้เหมือนว่าดาวกระชากชุดไปจากตัวเอง แล้วเสียหลักล้มลงไปที่พื้น
“โอ๊ย”
ดาวตกใจไม่คิดว่าฟ้าจะใช้ไม้นี้
นางงามที่มุงรับเสื้ออยู่ตรงนั้นก็ตกใจ พากันเข้ามาดูฟ้า แนตตี้รีบตามมาดูด้วย
“มีเรื่องอะไรกันคะ”
ฟ้าทำตัวอ่อนแอตัดพ้อกับดาวว่า “ไม่เห็นต้องผลักกันเลย”
แนตตี้หันมาถามดาวทันที “เบอร์ 8 ผลักเพื่อนเหรอ”
ดาวมองหน้าฟ้าอย่างไม่พอใจ สายตาไปสะดุดขาฟ้าเห็นรอยแผลเป็นจุดที่คอนซิลเลอร์กลบไม่มิด ดาวยิ้มร้ายได้ไอเดีย เล่นตามเกม
“หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ” ดาวรีบขยับลงไปดูที่ขาฟ้า “อุ้ย เหมือนขาจะเป็นแผลเลยนะ ไหนดูหน่อยสิ”
ฟ้าตกใจ รีบพับขา ซ่อนเข้าหาตัว
“ไม่เป็นไร”
“แผลเหรอ ไหน ให้พี่ดูหน่อย เป็นแผลไม่ได้เลยนะ นางงามเขาห้ามมีตำหนิ” แนตตี้จะดู
“เดี๋ยวดูแผลให้นะ เราทำเธอล้มนี่ เราจะรับผิดชอบเอง” ดาวเล่นเกม
“ไม่ต้องรับผิดชอบหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ”
แนตตี้เม้ง “อ้าว ตกลงเขาผลักหนู หรือเป็นอุบัติเหตุคะ”
ฟ้ามองดาวที่อมยิ้มอยู่
“หนูคงเข้าใจผิดน่ะค่ะ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”
“อ้าวเหรอ ไม่มีปัญหากันก็ดีแล้วค่ะ” แนตตี้บอกกับเหล่าสาวงามว่า “อ่ะ ไม่มีอะไรแล้วค่ะ รับชุดแล้วกลับบ้านได้เลยนะคะน้องๆ”
แนตตี้ลุกเดินออกไป
ดาวแกล้งพูดดีๆ ด้วย “มา ฉันช่วย” แล้วดึงแขนฟ้าให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฉันโดนแกหักหลังมาครั้งนึงแล้ว ฉันไม่ยอมโดนอีกเป็นครั้งที่ 2 หรอก”
ดาวโยนถุงชุดใส่ฟ้าจังๆ ฟ้าแค้นแทบกระอัก แต่ทำอะไรไม่ได้
ขณะแพรวแพรเดินออกมาจากห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ ทำให้การ์ดของลูกสาวที่อยู่ในกระเป๋าตกออกมาด้วย แพรวแพรเดินคุยโทรศัพท์ไป โดยไม่รู้เรื่อง
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอฟ้า”
รุ้งลาวัลย์เดินตามออกมา เห็นแพรวแพรทำการ์ดตก ก็หยิบขึ้นมา จะเอาไปคืนให้อย่างไม่เต็มใจ
“ค่อยคุยกันที่บ้านได้ไหม เออๆ อยู่หน้าห้องน้ำ รีบมาละกัน”
รุ้งลาวัลย์ยื่นการ์ดให้ แพรวแพรเห็นการ์ดพิ้งกี้ก็ตกใจ
“แกเอาไปได้ไงอ่ะ”
“แกทำตก ฉันก็อุตส่าห์เก็บเอามาคืนให้เนี่ย ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ ได้บาปจริงๆ”
รุ้งลาวัลย์จะเดินออกไป แพรวแพรขวางไว้
“แล้วนี่แอบอ่านหรือเปล่า”
“โว้ย แทนที่จะขอบคุณกัน มาถามนู่นถามนี่อยู่ได้”
“แอบอ่านหรือเปล่า” แพรวแพรคาดคั้น
“ไม่ได้อ่าน” รุ้งลาวัลย์นิ่งคิด ชักเริ่มสงสัย “ทำไม มีอะไรในนั้นหรือไง”
ฟ้าเดินเข้ามาพอดี
“พี่แพรว”
“ขอบใจนะที่เก็บให้”
แพรวแพรบอกแล้วรีบเดินไปหาฟ้า ลากฟ้าเดินออกไปโดยไว รุ้งลาวัลย์รู้สึกคาใจกับเรื่องการ์ดใบนี้
ชมพู่เดินถือชุดออกมา กำลังจะกลับบ้าน พุฒิพัฒน์เห็นกระโจนเข้ามาเดินใกล้ๆ โดยไม่ให้เธอรู้ตัว
“ไป ฉันไปส่ง”
ชมพู่ตกใจกลัวคนเห็น “เฮ้ย คุณ ตกใจหมดเลย”
“ไปขึ้นรถเร็ว”
“จะบ้าเหรอ เดี๋ยวคนอื่นเห็นทำไง”
“จะเห็นก็เพราะเธอมัวแต่ชักช้านี่แหละ”
“ไม่! ตอนนี้ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้วนะ คุณจะเอาตำแหน่งอะไรมาขู่ฉันมิทราบ กรรมการ กับ ผู้เข้าประกวดงั้นเหรอ”
ชมพู่เสียงแข็งกอดอกแล้วหันหลังให้พุฒิพัฒน์ ด่าอีกดอก
“จรรยาบรรณน่ะมีไหม”
พุฒิพัฒน์แค้น ได้แต่ทำท่าจะบีบคอชมพู่อยู่ข้างหลัง ก่อนจะเดินออกไป ชมพู่ยังคงท่าทีขึงขังถอนหายใจดังๆ ไล่หลังไป
เกรซเดินผ่านมา เห็นชมพู่ทำท่าทีกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว ก็เดินเข้าไปดู
ชมพู่รู้สึกมีคนเข้ามาใกล้ คิดว่าเป็นผอ.เจ้าอารมณ์ก็หันไปโวย
“นี่ยังไม่ไปอีก” พอเห็นเป็นเกรซก็ตาเหลือกตกใจ “ขอโทษค่ะ หนูนึกว่าคุณเกรซเป็น... เอ่อ....”
เกรซตัดบท “จะเป็นใครก็ช่าง ถ้าคิดจะเป็นมิสเพอร์เฟ็กต์ ละก็ ห้ามทำกิริยามารยาทแบบนี้เป็นอันขาด”
“ขอโทษค่ะ” ชมพู่ไหว้
เกรซคาดโทษ “ระมัดระวังตัวด้วย เพระยังไงฉันก็ยังไม่ไว้ใจประวัติของเธอหรอกนะ”
“ค่ะ” ชมพู่รับหน้าเจื่อน
ด้านแพรวแพรลากฟ้าพาออกมาหน้าตึกช่อง
“อะ มีอะไรก็รีบๆ พูดมา”
แพรวแพรเก็บการ์ดใส่กระเป๋า
“พกการ์ดลูกมาเป็นกำลังใจแบบนี้ พี่นี่เป็นแม่ที่น่ารักดีนะ”
แพรวแพรตกใจมองซ้ายขวากระชากฟ้ามาคุยอีกทาง
“เบาๆได้ไหม แกมีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมา”
“มันเป็นเรื่องของพี่มากกว่า”
“อะไร”
“พี่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ ที่ดาวมันมาลอยหน้าลอยตาอยู่ในการประกวดแบบนี้อ่ะ”
“ไม่มีเจ๊คอยดันแล้ว มันไปไม่ได้ไกลหรอก”
“ไม่อ่ะ ฟ้าไม่วางใจหรอก ดาวมันเก่งจะตาย มันทำได้ทุกอย่างน่ะแหละ จะปล่อยมันไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ”
แพรวแพรรำคาญ “ก็แล้วไง จะให้ฉันเอามันออกไปได้ยังไง นี่มันกองประกวดนะ ทีมงาน กรรมการ จับตาดูเราอยู่ตลอด ฉันไม่โง่ทำผิดกฎหรอก”
ฟ้าหมั่นไส้ “แหม เคร่งครัดในกติกาจังนะ แต่ลืมข้อนึงไปหรือเปล่า เขาห้ามมีลูกมีผัวนะ”
“นังฟ้า”
“แลกกันไหมล่ะ ถ้าพี่ช่วยกำจัดดาว ฟ้าก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ว่าไง”
ฟ้ายื่นมือมารอจับ แพรวแพรลังเลสักพัก แล้วก็ยื่นมือไปจับฟ้าเป็นอันตกลง ฟ้ายิ้มร้ายสาสมใจ ส่วนแพรวแพรคุมแค้นที่ตกเป็นเบี้ยล่างของฟ้า
เช้าวันรุ่งขึ้น สาวๆ ผู้เข้ารอบ ทยอยเดินเข้าสู่ห้องประชุมใหญ่อาคารช่องอินฟินิตี้ ทุกคนสวยใสในชุดทำกิจกรรม เพื่อฟังการปฐมนิเทศจากขจีนุช
ไม่นานต่อมาเหล่าสาวงามนั่งเรียงแถว มองไปที่โปรเจ็กเตอร์บนเวที เป็นรูปขจีนุชสมัยสาวๆ ใส่ชุดไทยประยุกต์ สวมมงกุฎ มีสายสะพาย
ขจีนุชอธิบายไปในขณะที่ภาพบนโปรเจ็กเตอร์ ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นภาพที่ขจีนุชออกปฏิบัติภารกิจต่างๆ
“ในฐานะ มิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์ คนแรก ก็ต้องขอบอกทุกคนไว้ก่อนว่า คำว่าเพอร์เฟ็กต์ของเรา คือความสมบูรณ์แบบทั้งรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ กิริยามารยาท ความสามารถ และที่สำคัญคือจิตใจ ด้านรูปลักษณ์ แน่นอนว่าทุกคนที่นั่งอยู่ทีนี่ ผ่านข้อนี้แล้ว รอบต่อไปนี้ จึงจะเป็นการคัดหาผู้ที่มีกิริยามารยาท และบุคลิกภาพ ให้สมชื่อ มิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์”
สีหน้าท่าทางของขจีนุชมุ่งมั่นมาดหมายมาก
เสียงขจีนุช ในตอนปฐมนิเทศที่ห้องประชุมใหญ่ดังอยู่ต่อเนื่อง ในขณะที่สาวๆ เริ่มการเวิร์คช็อป เริ่มจากดูตัวอย่างจากแนตตี้ ที่สาธิตการเดิน การนั่ง การไหว้
“แม้ว่าคำจำกัดความของผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบยุคสมัยนี้จะต่างจากสมัยก่อน แต่อย่างไรคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของการเป็นกุลสตรีไทยแต่ดั้งเดิมก็ยังต้องคงอยู่”
เกรซเดินมาพูดปิดท้ายบนเวที
“เราก็ได้เห็นตัวอย่างกันไปแล้ว เชิญผู้เข้าประกวดทุกคนลองฝึกฝนตามอย่างได้เลยค่ะ ดิฉันกับแนตตี้จะช่วยดูความถูกต้องให้นะคะ”
เหล่าสาวงามลุกออกจากเก้าอี้ไปหามุมส่วนตัวเพื่อฝึกซ้อม
ปุ้มเดินมาอีกมุม วางโกศของแม่ไว้ที่เก้าอี้ แล้วไหว้ขอแรงใจ
“แม่จ๋า เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะจ๊ะ”
เมซี่เดินผ่านมาชนเก้าอี้โกศล้ม ปุ้มรีบคว้าโกศมาแทบไม่ทัน
“Sorry ไม่รู้ว่ามีคนไหว้เก้าอี้อยู่”
เมซี่เดินออกไปอย่างไม่ใยดี ปุ้มมองตามตาขวาง เก็บอาการไม่พอใจเอาไว้
ฝ่ายชมพู่เดินมาหาดาว สอดตาหาฟ้าไปด้วย
“ไปฝึกตรงนั้นกัน แล้วฟ้าล่ะ”
“ช่างเถอะ ปล่อยมันซ้อมกับเพื่อนมันไปเหอะ”
ชมพู่คาใจ “แกกับฟ้ามีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”
ดาวเบือนหน้าหนี ไม่อยากพูด แต่แล้วต้องตื่นเต้นเมื่อสายตาไปเจอพุฒิพัฒน์ที่กำลังมองจ้องชมพู่อยู่
“พู่ๆ คุณพุฒินี่หน้าคุ้นเนอะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนเลย”
“ในทีวีมั้ง” ชมพู่เลี่ยง
“ไม่อ่ะ เหมือนเคยเจอ”
ชมพู่เลยต้องบอกว่า “อ๋อ ก็ตอนงานนางนพไง จำได้ไหม ที่เราไปชนเขาอ่ะ”
“อ๋อ” ดาวยิ้มย่อง นึกขึ้นมาได้ ว่าตอนนั้นประทับใจมาดร้ายกาจแบดบอยของพุฒิพัฒน์ “เฮ้ย! นี่คนๆนั้น เป็นผอ.สถานีเลยเหรอ จะว่าไป เขาก็เท่ขึ้นเนอะ”
“เหรอ...ก็งั้นๆ อะ”
ดาวมองปลื้มพุฒิพัฒน์ชนิดไม่ละสายตาโดยที่ชมพู่ไม่ทันเห็น
อ่านต่อตอนที่ 13