xs
xsm
sm
md
lg

มงกุฎริษยา ตอนที่ 9

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มงกุฎริษยา ตอนที่ 9

หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ฟ้า สุนทรีย์ และ นรี เดินถือจานชามมาเก็บที่ซิงค์ห้องครัว ทั้งสามยิ้มหัวให้กันเข้ามา สุนทรีย์วางจานข้าวแล้วบอกว่า

“ฝากด้วยนะ”
นรีเสริม “ขอบใจนะฟ้า จุ๊บๆ”
ฟ้าเห็นจานชามกองโตก็อึ้งไป สุนทรีย์ กับ นรี แสร้งยิ้มให้แล้วเดินออกไป
ดาวเดินเข้ามาหา เหน็บแนมฟ้า
“เพื่อนใหม่แก ดูนิสัยดีทั้งนั้นเลยเนอะ”
ฟ้าเริ่มล้างจาน โดยไม่สนใจดาว
“ฉันนัดชมพู่มาเจอเย็นนี้ สถานที่ก็ตามนี้เลย” ดาวยื่นกระดาษโน้ตให้ฟ้า พลางสำทับว่า “ถ้ายังเห็นว่าชมพู่เป็นเพื่อนอยู่ก็ไปหน่อยนะ”
ขณะดาวเดินออกไป ฟ้าพูดลอยๆ ขึ้นว่า
“ชมพู่เป็นเพื่อนฉันเสมอ แต่กับบางคน ฉันไม่แน่ใจ”
ดาวหยุดกึกหันมามองหน้าฟ้า
“เจอกัน 5 โมงที่หน้าบ้านนะ”
ดาวกลืนกินความไม่พอใจลงคอ แล้วเดินออกไป

ทางด้านพุฒิพัฒน์และชัชชนม์ประจันหน้ากันอยู่อยู่ในห้องทำงานผอ.ช่อง
พุฒิพัฒน์นั่งวางมาดที่โต๊ะทำงานตัวเอง ส่วนชัชชนม์นั่งอยู่อีกฝั่ง และกำลังยื่นเอกสารให้
“นี่เป็นเอกสารเรื่องงบ...”
พุฒิพัฒน์สวนขึ้นมา “รู้จักชมพู่นานหรือยัง”
ชัชชนม์งงนิดๆ แต่พยายามคุยแต่เรื่องงาน “อ่านดูก่อน สงสัยอะไรก็ถามละกัน”
“ก็ถามอยู่นี่ไง แกกับเขาเป็นอะไรกัน”
ชัชชนม์ฉุน “แล้วมันเรื่องอะไรของแกด้วย”
“ชมพู่เป็นคนของฉัน”
“แล้ว”
“แกไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเขา”
“เฮ้ย แกเป็นแค่เจ้านายเขานะ ไม่ใช่เจ้าของ” ชัชชนม์ของขึ้น จู่ๆ คิดบางอย่างขึ้นได้ “หรือว่าแกไม่ได้คิดกับเขาแค่ในฐานะเจ้านาย”
พุฒิพัฒน์อึ้งไป เพราะโดนใจดำจังๆ พยายามเฉไฉทำตัวเป็นปกติ ไม่ให้ชัชชนม์จับได้
มีเสียงเคาะประตูดังขัดขึ้น ก่อนที่ชมพู่จะเปิดเข้ามา แต่พอเห็นสองหนุ่มจ้องเขม็งมาที่ตัวเองก็สยอง
“เอ่อ เดี๋ยวฉันค่อยเข้ามาใหม่ดีกว่า”
“ไม่ต้อง คุณชัชชนม์เขาจะกลับละ” พุฒิพัฒน์หันมาบอกกับชัชชนม์ อย่างเป็นงานเป็นการว่า “เดี๋ยวผมจะอ่านเอกสารแล้วฟีดแบคไปละกัน คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถ้าคุณทำตามเงื่อนไขที่ผมชี้แจงไปเมื่อสักครู่นี้”
คำตอนท้ายพุฒิพัฒน์มองหน้าชัชชนม์อย่างเอาจริง
ชัชชนม์ไม่พูดอะไร ลุกเดินออกไป แล้วหันมาพูดกับชมพู่ที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างอ่อนโยน จงใจยั่วโมโหพี่ชาย “แล้วเจอกันนะครับคุณชมพู่”
ชัชชนม์หันมามองท้าทายพุฒิพัฒน์อีกดอก แล้วจึงเดินออกไป
มันได้ผล เพราะพุฒิพัฒน์โมโหสุดจะประมาณ

ลีน่าเล่นโยคะอยู่ริมสระว่ายน้ำหลังบ้าน โดยไม่รู้ว่ามีสายตาปริศนากำลังจ้องมองมาที่ลีน่า จากพุ่มไม้มุมตึก
จังหวะที่ลีน่าโก้งโค้งลง ก็เห็นใบไม้ไหวยวบ ลีน่าหยุดชะงักหันไปมองอย่างไม่วางใจ สุดท้ายเดินไปแหวกพุ่มไม้ดู แต่ไม่เจอใคร
ลีน่ารู้สึกว่ามีคนอยู่ด้านหลัง หันขวับไป เจอคิตตี้ประจันหน้าเต็มๆ
“อ๊าย”
คิตตี้ตกใจเสียงกรี๊ดลีน่า เลยกรี๊ดตาม “อ๊าย...อ๊อย พอ! กรี๊ดอะไร”
“ก็กรี๊ดหน้าเจ๊น่ะสิ”
กะเทยพี่เลี้ยงจับดูหน้าตาตัวเอง “ว้าย ทำไมยะ ฟิลเลอร์ย้อยเหรอ ว่าละเชียว ฉันบอกให้หมอฉีดเพิ่ม หมอก็ไม่ยอม”
“โอ๊ย ไม่ได้ตกใจหน้าโบทอกซ์ของพี่หรอก ฉันแค่รู้สึกว่า มีคน...เออ ช่างเถอะ ฉันคงคิดไปเอง”
คิตตี้อ้าว เมากลูต้าเหรอ เออนี่ ...เห็นน้องดาวไหม
ลีน่าน้องดาว? เอ็นดูมันจังเลยนะ
“ต้องเอ็นสิ เขาไม่ใช่นังดาวกะโหลกกะลาละนะ เอาเป็นว่าถ้าเจอน้องดาว ฝากบอกด้วยนะว่าเจ๊เปรมเขามีข่าวดี ให้ไปหาด่วน”
คิตตี้เดินบิดออกไป ลีน่ามองตามเซ็งสุดขีด

ด้านชมพู่ยืนอยู่ต่อหน้าพุฒิพัฒน์ที่มองจ้องคาดคั้น
“คบกับชัชชนม์อยู่เหรอ”
“ห๊ะ ทำไมถามแบบนี้อ่ะ”
“ก็ยืนกอดกันกลมแบบนั้น จะให้ฉันคิดว่าไง”
ชมพู่ยิ้มเยาะ “คุณก็คิดได้แค่นี้เนอะ”
ขณะชมพู่จะเดินออกไป พุฒิพัฒน์ก็คว้าร่างชมพู่มากอด
“จะทำอะไรอ่ะ” ชมพู่โกรธมากกว่าตกใจ
“ทำแบบชัชชนม์ไง เผื่อฉันจะรู้คำตอบ ว่ามันกอดเธอทำไม”
“ปล่อยนะ”
“มะกี้ยังยืนนิ่งให้มันกอดอยู่เลย ทำไมฉันจะกอดมั่งไม่ได้”
ชมพู่กระทืบเท้าพุฒิพัฒน์เต็มแรง
“โอ๊ย”
“ฉันจะให้ใครกอดก็เรื่องของฉัน”
พุฒิพัฒน์สวนออกมา “แต่ห้ามเป็นมัน”
“ทำไม”
“เพราะ...ฉันสั่ง ฉันขอสั่งห้ามไม่ให้เธอยุ่งกับมันอีกเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากถูกไล่ออก หรือโดนหักเงินเดือน ก็จงทำตามซะ”
“ก็ได้”
“ดี” พุฒิพัฒน์ยิ้มอย่างผู้ชนะ เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
“แต่ฉันจะทำตามคำสั่ง เฉพาะเวลางานเท่านั้นนะ ถ้านอกเวลา ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน”

ชมพู่หยิบแฟ้มเอกสาร แล้วเดินออกจากห้องไปเลย พุฒิพัฒน์มองตามอย่างขัดใจ

อ่านต่อหน้า 2




มงกุฎริษยา ตอนที่ 9 (ต่อ)

ฝ่ายคิตตี้ลากดาวมาในห้องรับแขก เปรมจิตถือไอแพดเปิดดูบางอย่างที่นั่น มีแพรวแพร กับสุนทรีย์ นั่งดูอยู่ด้วย

“น้องดาวมาแล้วค่า” คิตตี้ดี๊ด๊า
ดาวยังงงอยู่ “มีอะไรเหรอคะ”
“ดูนี่สิ”
เปรมจิตหันไอแพดมาให้ดู เป็นกระทู้ในเว็บนางงามที่พูดถึงดาว โดยใช้รูปปก The beauty มาประกอบ
“มีคนเอารูปดาวที่ลงปก The Beauty ไปตั้งกระทู้ด้วยนะ คนมาแสดงความเห็นกันเยอะเลย”
แพรวแพรข่มความอิจฉาริษยาลงไปในอก มองหน้ารู้กันกับสุนทรีย์ แต่ก็หันมายิ้มเสแสร้งยินดี
“คนเขาเดากันไปใหญ่เลย ว่าดาวน่ะเป็นใคร” สุนทรีย์อวย
แพรวแพรขอเหน็บ “ถ้าเขารู้ว่าดาวเป็นเด็กต่างจังหวัดที่หนีเข้ากรุงเทพฯ มา คงวงแตกเลยเนอะ”
เปรมจิตหันไปดุ จิกกัด แพรวแพร “แล้วคนมันจะรู้ได้ไง ถ้าไม่มีคนสาระแนไปพูด เห็นคลื่นลูกใหม่กำลังมาแรง ก็อย่าคิดมาชักใบให้เรือเสียละกัน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวฉันนี่แหละ จะชักพวกเรือเก่าๆ ผุๆ ล่มไปให้หมดเลย”
แพรวแพรมองตาเปรมจิตนิ่ง แล้วฝืนยิ้มกลบ
“เรื่องโพรไฟล์ดาวไม่ต้องเป็นห่วงนะ เจ๊ติดต่อให้คุณชัชเขามาถ่ายรูปให้ดาวแล้ว ไว้ไปตั้งกระทู้เปิดตัวแบบอลังๆ ไงล่ะ”
ดาวยิ้มดีใจ
ฟ้าแอบดูอยู่มุมลับตา เห็นเจ๊เปรมจิตเสริมส่งดาวก็ยิ่งอิจฉา
นรีเดินเข้ามาหาฟ้า
“ฟ้า มีโทรศัพท์มาแน่ะ”
“โทรศัพท์ ขอบคุณค่ะ”
ฟ้างงว่าโทรศัพท์จากใคร แต่ก็รีบเดินไปรับสาย

ฟ้าเดินไปรับสายโทรศัพท์บ้าน
“ฮัลโหล” พอได้ยินเสียงก็ดีใจ “แม่เหรอจ๊ะ แม่สบายดีไหม”
ลำไยโทรศัพท์มาจากบ้านที่เพชรบุรี
“มึงไม่ต้องมากระแดะทำดีใจ ไหนมึงบอกว่ามึงได้ลงหนังสือบิวต้งบิวตี้อะไรนี่ไง”
ลำไยเขวี้ยงหนังสือลงพื้น บนปกเป็นรูปดาว
“กูเห็นมีแต่อีดาวทั้งเล่มเลย มึงรู้ไหม กูไปป่าวประกาศบอกคนทั่วตลาดเลย แล้วเป็นไง เขาหาว่ากูเป็นพวกขี้มโนหมดแล้ว แล้วก็พากันสรรเสริญนังดาวกันใหญ่”
ฟ้าฟังเสียงด่าทอของลำไยจากโทรศัพท์น้ำตาคลอเบ้า
“ถ้ามึงไม่มีปัญญาทำแบบอีดาว ก็ไม่ต้องตอแหลกูแบบนี้”
“ฟ้าได้ลงหนังสือจริงๆ นะจ๊ะ” ฟ้าพูดไม่เต็มปาก “แต่ไม่ได้ขึ้นหน้าปกแบบดาวเขาเท่านั้นเอง คนที่หันหลัง นั่นฟ้าเอง” ฟ้าสุดทนร้องไห้ออกมาด้วยความอดสู “ฟ้าไม่ได้ตั้งใจให้แม่อายชาวบ้านเขาเลยนะ แต่ฟ้าไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้นี่แม่”
ลำไยตวาดแว้ด “หุบปากเลยอีฟ้า ยังไงมึงก็อยู่ใต้เงาอีดาวมันทั้งชาติอยู่ดี ไม่ต้องโทร.มาบอกอะไรกูอีกแล้วนะ”
ลำไยวางสายด้วยความโมโห เตะหนังสือ The beauty อย่างแรง แต่ดันเตะโดนพื้นไม้จนนิ้วตัวเองเจ็บ
“โอ๊ย อีดาว อีชั่ว”

“แม่...แม่ ฟ้าขอโทษ...แม่...แม่! ฮัลโหล ฮัลโหล”
ฟ้าร่ำไห้กอดโทรศัพท์ด้วยความขมขื่น เอาสองมืออุดหู
จู่ๆ ชัชชนม์เอื้อมมือเข้ามาหยิบโทรศัพท์จากมือฟ้าวางลงแป้น
พอฟ้าหันมาเจอว่าเป็นชายในฝัน ความเสียใจผสมความน้อยใจ ฟ้าโผเข้ากอดชัชชนม์เต็มแรงหวังเป็นหลักยึด แล้วร้องไห้ออกมาอย่างแรง
“ฟ้าโอเคไหม”
ฟ้าละตัวออกมา
“ขอโทษค่ะ”
“ฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่า”
“คือ...”
คิตตี้เดินเข้ามา ฟ้ารีบปาดเช็ดน้ำตา
“คุณชัช... มาแล้วเหรอคะ ตามคิตตี้มาเลยค่ะ เดี๋ยวจะพาไปดูโลเกชั่น สำหรับถ่ายรูปน้องดาวนะคะ”
คิตตี้ลากไป ชัชชนม์ขืนตัวไว้ เขายังเป็นห่วงฟ้าไม่คลาย
“เดี๋ยวครับพี่คิตตี้ พอดีวันนี้ดนัยมันไม่ว่าง ผมเลยไม่มีผู้ช่วย ขอให้ฟ้ามาเป็นผู้ช่วยผมได้ไหมครับ”
ฟ้ามองชัชชนม์งงๆ

ลีน่าหอบเสื่อโยคะเดินเช็ดเหงื่อเข้ามาในห้องนอน หลังจากเก็บของเรียบร้อย ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ใครน่ะ”
เงียบไปสักพัก ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก
“ดาวเหรอ”
ลีน่าทั้งสงสัย และหวั่นใจ สุดท้ายตัดสินใจลุกเดินไปเปิดประตู ชะโงกหน้ามองหาแต่ไม่เจอใคร จึงเดินออกมาดูข้างนอกตรงทางเดินให้แน่ใจ แต่ก็ไม่มีใคร
ลีน่ากลับเข้าห้องงงๆ แต่แล้วจู่ก็มีชายปริศนาเข้ามาปิดปากหมับ ลีน่าดิ้นหนีสุดชีวิต แต่พอหันมาเจอว่าเป็นใครก็เบิกตาโต
“พี่ท็อป” ลีน่าดีดดิ้น ตีแขนท็อป “เล่นเอาตกอกตกใจหมดเลยอ่ะ”
“แหม ก็ไม่เจอกันนาน ก็ต้องหาวิธีเซอร์ไพรส์หน่อยสิจ๊ะ”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบเซอร์ไพรส์แบบนี้” ลีน่ากระเง้ากระงอด
“โอ๋ๆ งั้น พี่มีอีกเซอร์ไพรส์นึง ดีกว่านี้แน่ๆ”
“อะไร”
“ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”
ขาดคำ มีเสียงกุญแจมือล็อคดังกริ๊ก ลีน่ายกข้อมือตัวเองขึ้นมาดู พบว่าถูกล็อคกุญแจไว้แล้วเรียบร้อย
ท็อปหัวเราะชอบใจ ลากลีน่าลงไปฟัด ซุกไซร้ที่เตียงอย่างรุนแรง ลีน่าชอบ และยอมแต่โดยดี

ส่วนเปรมจิตพาดาวมาเลือกชุดในห้องเสื้อผ้าของบ้าน หยิบมาตัวนึงแล้วทาบที่ตัวดาว
“รู้ไหม ดาวน่ะเหมือนเจ๊ตอนสาวๆ สมัยประกวดมิสเพอร์เฟ็กต์ไทยแลนด์ เลย เสียดาย ที่ยุคนั้นกรรมการเขาชอบพวกแอ๊บๆ กัน นังดวงเดือนมันเลยได้ไป”
“ถ้ากรรมการชอบแบบนั้น ดาวคงหมดโอกาสแน่ๆ เลยค่ะ”
“ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว กองประกวดเขาไม่มองหาอะไรเดิมๆ หรอก”
“ต้องเป็นแบบไหนเหรอคะ”
“ตอบยากนะ เจ๊เลยให้คุณชัชมาที่นี่ไงล่ะ”
ดาวมองฉงน “คุณชัชเขาแค่มาถ่ายรูปนี่คะ”
“ใช่ เขามาแค่ถ่ายรูป แต่ดาวจะต้องล้วงข้อมูลทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับการประกวดมา ถ้าเรารู้โจทย์ก่อนว่าปีนี้ทางกองประกวดต้องการอะไร เราก็เตรียมตัวชนะใสๆ”
“แต่ว่า...”
เปรมจิตโน้มน้าวอีกว่า “วิธีจะได้มงกุฎมาน่ะ มันไม่ได้สู้กันแค่บนเวทีอย่างเดียวหรอกนะ โอกาสมันมาอยู่หน้าเราแล้ว ดาวไม่ใช่คนโง่น่า เจ๊รู้”
ดาวลังเล

ชัชชนม์เซ็ตฉาก จัดข้าวของเตรียมถ่ายรูปดาว
“ฟ้าไปนั่งตรงนั้นให้หน่อยสิครับ ผมจะลองแสงนิดนึง”
ฟ้าเดินไปนั่งที่เขินๆ ชัชชนม์แอบถ่ายท่าทีนั้นไว้
“ฟ้าอยากลองถ่ายไหม เดี๋ยวผมถ่ายให้”
“ไม่หรอกค่ะ ถ่ายไปก็ไม่ได้ใช้ ฟ้าไม่ใช่คนเด่นคนดังแบบดาว” ฟ้าตัดพ้อชีวิต
“แม่ฟ้าเขาบอกฟ้าอย่างนั้นเหรอ”
ฟ้าพยักหน้ารับเศร้าๆ
“ที่ฟ้าอยากเป็นนางงาม เพราะจะเป็นคนเด่นคนดังแค่นี้เหรอ”
“ฟ้าก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องดังนะคะ แต่แค่อยากได้ลองสวมมงกุฎสักครั้ง เพราะมันทำให้ฟ้ารู้ว่า เด็กบ้านนอกอย่างฟ้าก็คู่ควรกับสิ่งที่มีค่าได้เหมือนกัน”
ชัชชนม์มองหน้าฟ้า เห็นแววตามุ่งมั่นชัดแจ้ง
“เราทุกคนมีค่าทั้งนั้นนะฟ้า”
“แต่ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีใครเห็นค่าของฟ้าเลยค่ะ แม้แต่แม่ฟ้าเอง ก็เห็นฟ้าเป็นแค่ตัวไร้ประโยชน์ ไปที่ไหนก็เป็นได้แค่ตัวเปรียบเทียบของคนอื่นที่เขาดีกว่า มีแต่จะสร้างความอับอาย”
“ไม่เห็นจะจริงเลยฟ้า”
“ฟ้าเลยต้องพิสูจน์ตัวเองกับการประกวดครั้งนี้ไงคะ ให้ทุกคนได้มองเห็นฟ้า ให้ทุกคนยอมรับ ว่าฟ้าก็เป็นที่หนึ่งได้เหมือนกัน”
ชัชชนม์มองสีหน้าอันมุ่งมั่นของฟ้าแล้วยิ้มให้
“ขอบคุณนะ”
“คะ” ฟ้างง
“ขอบคุณที่ทำให้ผมได้รู้ว่า การเป็นนางงามน่ะ มันไม่ใช่แค่บันไดเบิกทางสู่ชื่อเสียงเงินทองหรือวงการบันเทิง แบบที่ใครบางคนคิด” ชัชชนม์อดนึกไปถึงขจีนุชไม่ได้
“ใครเหรอคะ”
“แค่ผู้หญิงคนนึง...ที่ผมเคยรักมาก แต่เขารักชื่อเสียงเงินทองมากกว่าก็เลยทิ้งผมไป อย่าไปสนใจเลยครับ”

ชัชชนม์หันมายิ้มให้ ฟ้ายิ้มตอบด้วยความอุ่นใจ

อ่านต่อหน้า 3




มงกุฎริษยา ตอนที่ 9 (ต่อ)

ดาว กับ คิตตี้หอบชุดออกมา จะลงไปให้ชัชชนม์ถ่ายรูป คิตตี้ชูชุดเกาะอกสวยเซ็กซี่ชุดหนึ่งขึ้นมา

“ถ้าใส่ชุดนี้ละก็ฟาดตายรวด 108 ศพเลยค่ะ ให้คุณชัชถ่ายเน้น ดูม...ดูมเลย”
“เอ๊ะ พี่คิตตี้คะ ดูมดูมเลยเหรอคะ”
“ไม่ต้องอายแล้ว เดี๋ยวขึ้นเวทีนะ ยิ่งกว่านี้อีก”
“เอ่อ เปล่าค่ะ หนูแค่จะบอกว่าหนู...อาจจะไม่ดูมเท่าไร”
พลางดาวก้มลงดูหน้าอกไข่ดาวของตัวเอง
คิตตี้หัวเราะคิกคัก หยอกเย้า “อุ๊ตะ ลืมไปเลย อ่ะๆ ให้เวลา 10 นาที ไปโกยตั้งแต่ก้นกบมาเลยนะ”
“ค่ะๆ หนูขอไปโกยที่ห้องนะคะ”
ดาวเดินไปทางห้องนอนตัวเองกับลีน่า

เมื่อเข้ามาในห้อง ดาวพุ่งไปที่ห้องน้ำ แต่แล้วหางตาก็เห็นว่ามีร่างคนเคลื่อนไหวอยู่บนเตียงนอน
ดาวเหลียวขวับไปดู แล้วต้องตกตะลึงพรึงเพริด ปล่อยเสื้อผ้าในมือตกลงพื้นโดยไม่รู้ตัว
ภาพที่ดาวเห็น เป็นภาพท็อปกำลังคร่อมลีน่าอยู่ ร่างทั้งคู่เปลือยเปล่า และสองมือของลีน่ามีกุญแจมือล็อกไว้กับเหล็กหัวเตียง
ทั้งสามต่างคนต่างช็อก ตะลึงตะไล หยุดนิ่งทุกการเคลื่อนไหว
ดาวมองลีน่าที มองท็อปที พอได้สติ ร้องกรี๊ดขึ้นมาสุดเสียงแล้ววิ่งหนีออกไป
“อ๊าย”
“เดี๋ยวก่อนดาว โอ๊ย ไขกุญแจเร็ว”
ท็อปลนลานหากุญแจมาไขลีน่าพัลวัน

ดาววิ่งหน้าตาตื่นมาหาเปรมจิตที่นั่งดูแมกกาซีนแฟชั่นอยู่ในห้องรับแขก
“เจ๊คะ เจ๊”
เปรมจิตเอ็ด “อะไร เบาๆ สิดาว เป็นกุลสตรีหน่อย”
“คือหนูเจอ...เจอผู้ชายค่ะ”
“ใคร คุณชัชน่ะเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะเจ๊”
“แล้วใครอ่ะ”
“เซอร์ไพรส์”
เสียงท็อปดังนำขึ้น ก่อนที่เขาจะปรากฎตัวออกมาในชุดเรียบร้อย แต่เหงื่อโทรมกาย ผมยุ่งไม่เป็นทรง
“คนนี้แหละค่ะ” ดาวบอก
เปรมจิตอึ้ง อ้าปากค้าง แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมายิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม
“ที่รัก...” เปรมจิตโผเข้าไปกอดท็อปเต็มรัก “โอ๊ย จะกลับมาก็ไม่บอกกันก่อนเลยนะคะ”
“ที่รัก” ดาวหูผึ่ง
“นี่ท็อป แฟนเจ๊เอง” อีเจ๊แนะนำแล้วหันไปนัวเนียผัวต่อ “ทำไมเหงื่อท่วมอย่างนี้ล่ะคะที่รัก”
“ก็ผมรีบมาหาคุณไง”
“แต่ว่าเขากับ...”
ลีน่าเดินเข้ามาในชุดโยคะ พร้อมเสื่อในมือ ยิ้มทักทายท็อป
“พี่ท็อป สวัสดีค่ะ”
“อ้าว หวัดดีลีน่า เล่นโยคะมาเหรอ”
“ใช่ค่ะ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ลีน่าเดินออกไปเลย
ท็อปกอดเปรมจิต แต่สายตามองมายังดาว ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ ดาวงงเป็นไก่ตาแตก

ดาวเดินออกมาจากห้องรับแขก เจอลีน่ายืนดักอยู่
“ถ้าเธอคิดจะแฉเรื่องฉันกับพี่ท็อปล่ะก็ ลืมไปได้เลยน่ะ นึกเหรอว่าเจ๊จะเชื่อเธอ ถ้าไม่อยากเดือดร้อน อย่าแตะเรื่องผู้ชายของเจ๊จะดีกว่า”
“ใครกันแน่ที่แตะผู้ชายเจ๊ อ๋อ ไม่ใช่สิ ก็เธอทำมากกว่าแค่แตะนี่นา” ดาวไม่กลัวสักนิด
“แก...” ลีน่าแทบกระอัก
“เอาเถอะ ฉันก็ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นหรอกนะ ถ้าคนนั้นไม่มายุ่งเรื่องฉันก่อน”
ลีน่ามองดาวอย่างอาฆาตแค้น

ลีน่า กลับมาที่ห้องอย่าหัวเสีย เจอท็อปนอนรออยู่
“ดาวว่าไงบ้าง”
“มันบอกว่าจะไม่พูดอะไร ถ้าลีน่าไม่ไปแกล้งมันก่อน”
“สวยแล้วยังฉลาดอีก” ท็อปยิ้มมีท่าทีสนใจดาว
ลีน่าเห็นตีท็อปพัลวัน “ยังจะมีอารมณ์มาหูดำอีก”
“หึงเหรอ”
“หึง พี่ไม่ใช่ผัวฉันซะหน่อย เราแค่นอนด้วยกันแก้เบื่อเท่านั้นแหละ”
“รู้แล้วน่า แล้วตอนนี้เบื่อยัง มาทำไรสนุกๆ ต่อไหม”
“โอ๊ย! นี่เพิ่งมีคนมาเห็นไป ไม่กลัวบ้างหรือไง” ลีน่าหงุดหงิด
“กลัวทำไมอ่ะ ก็ดาวเขาบอกว่าจะไม่พูดแล้วไง”
“นังนี่มันไม่ได้ซื่อนะ ไว้ใจไม่ได้หรอก ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด ให้แน่ใจว่ามันจะไม่มีโอกาสเอาเรื่องนี้ไปพูดจริงๆ”
“แต่ถ้าดาวจับได้ขึ้นมา เขาต้องเอาเรื่องเราไปฟ้องเจ๊แน่ๆ เราจะยิ่งซวยไปอีกนะ”
“งั้นก็ต้องยืมมือคนอื่นจัดการ”
ลีน่าคิดแผนได้ ยิ้มชั่วมีเลศนัยออกมา

ดาวถ่ายรูปในอิริยาบถต่างๆ ด้วยสีหน้าไม่สดใสนัก เพราะกังวลเรื่อต้องล้วงความลับชัชชนม์ตามคำสั่งเปรมจิต ผ่านไปหลายท่า ชัชชนม์ไม่ชอบใจจึงสั่งให้หยุด แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ ดาว
“ดาวยิ้มไม่สดใสเลย ทำหน้าให้เหมือนว่าที่ มิสเพอร์เฟ็กต์ฯ หน่อยสิ”
ชัชชนม์ช่วยจับผมดาวให้เปิดออก ไม่บังหน้า
สองหนุ่มสาวอยู่ใกล้กันในระยะประชิด ดาวเริ่มประหม่า นึกถึงคำสั่งเจ๊เปรมจิตขึ้นมา
“ตีสนิทเขา แล้วล้วงข้อมูลทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับการประกวดมา ทำได้ไหม”
ดาวเลียบๆ เคียงๆ ถามขึ้นในที่สุด “แล้ว มิสเพอร์เฟ็กต์ฯ ต้องเป็นแบบไหนเหรอคะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากรรมการเขาชอบแบบไหนนะ แต่ถ้าเป็นส่วนของรายการที่ผมดูแล คนที่ เพอร์เฟ็กต์ แบบที่ผมมองหา ต้อง...”
ดาวสนใจ เขยิบไปตั้งใจฟังชัชชนม์ด้วยท่าทีจริงจังมากขึ้น
“ไม่บอก”
“อ้าว”
ดาวเซ็ง ตีหยอกล้อชัชชนม์ไปมา
“โอ๊ย ต้องตีกันด้วยเหรอ”
“บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ดาวไล่ตีชัชชนม์ไปเรื่อยๆ แล้วดันสะดุดขาเก้าอี้จะล้ม ชัชชนม์ต้องรีบเข้าไปประคองไว้ เสียงเปรมจิตดังก้องขึ้นในความคิดของดาว
“โอกาสมันมาอยู่หน้าเราแล้ว ดาวไม่ใช่คนโง่น่า”
“เอ่อ...” ดาวตั้งท่าจะถาม
ฟ้าถือถาดน้ำเข้ามาพอดี เห็นดาวอยู่ในอ้อมแขนชัชชนม์ ก็รีบฉากหลบทันที
“แล้วความ เพอร์เฟ็กต์ ที่คุณมองหา มีอยู่ในตัวดาวบ้างหรือเปล่าคะ”
ฟ้าฟังแล้วเข้าใจผิดคิดไปเองว่าดาวอ่อยชัชชนม์ เสียใจที่โดนหักหลังอีกรีบเดินหนีออกไป
ชัชชนม์ประคองดาวลุกขึ้น
“ผมว่าผู้หญิงทุกคน เพอร์เฟ็กต์ ในแบบของตัวเองอยู่แล้ว แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ ดาวก็อย่าทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองเลยนะ มาถ่ายกันต่อเถอะ”
ชัชชนม์กลับไปเตรียมถ่ายรูปต่อ ดาวเสียดายที่ไม่ได้รู้ข้อมูลเลย

ฟ้าเดินมาที่ราวเสื้อผ้าของดาวที่ใช้ถ่ายแบบ ค้นหามือถือของดาวจนเจอ ฟ้าไลน์หาชมพู่ว่า
“ชมพู่ นี่ฟ้านะ มาเจอตอนนี้ได้ไหม ฟ้าไม่ไหวแล้ว”
ฟ้าหิ้วกระเป๋าแล้วเดินออกไปทันที

เย็นแล้ว ชมพู่นั่งแกร่วเบื่อๆ ไม่มีงานอะไรให้ทำ ในขณะที่พุฒิพัฒน์ ดูเอกสารมากมายตรงหน้า
ชมพู่ได้รับข้อความ เปิดอ่านด้วยสีหน้าเป็นกังวล
พุฒิพัฒน์สังเกตเห็น
“เป็นอะไร”
“ฉันขอกลับก่อนได้ไหมคะ พอดีเพื่อนฉันมีเรื่องด่วน”
“เรื่องด่วนอะไร”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่เขาต้องการเจอฉันตอนนี้เลย”
“งั้นฉันไปส่ง”
“งานคุณตั้งเยอะแยะ อยู่ทำงานเถอะค่ะ ฉันไปนะคะ”
ชมพู่รีบออกไป พุฒิพัฒน์มองตามอย่างสงสัย

แพรวแพรเปิดมือถืออ่านกระทู้ของดาวในเว็บนางงาม ด้วยสีหน้าขุ่นเคือง
“โอ๊ย มีแต่คนอวยนังดาวทั้งนั้นเลย”
ลีน่าเข้ามาแอบดูเริ่มแผนยุแยง
“อยู่ๆ ก็ตกอันดับจากเบอร์หนึ่งของบ้านแบบนี้ คุณแพรวแพรทนเฉยได้ไงคะ”
“เจ๊ก็แค่เห่อเด็กใหม่น่ะแหละ” แพรวแพรว่า
“แล้วถ้าเขาเห่อไม่เลิกล่ะ ...นี่ก็ใกล้จะเข้าเวที มิส เพอร์เฟ็กต์ฯ แล้วด้วยนะ เอ้อ ได้ข่าวว่านางงามเดินสาย เขาจะโจมตีเป็นพิเศษด้วย คุณแพรวแพรร้อยเวทีจะรอดไหมนะ ถ้าไม่มีเจ๊คอยดัน”
ลีน่าเห็นว่าแพรวแพรเริ่มวิตกแล้ว จึงเดินออกไป
แพรวแพรเดินมองซ้ายมองขวา ดูว่ามีใครอยู่บริเวณนี้ไหม เมื่อไม่มีคนจึงหยิบโทรศัพท์มาโทร.ทันที
“ฤทธิ์ มาหาแพรวหน่อยสิ แพรวมีเรื่องอยากให้ฤทธิ์ช่วย”
สายตาแพรวแพรมุ่งมั่น

ขณะที่ชัชชนม์เก็บของขึ้นรถอยู่ที่หน้าบ้าน ดาวเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยออกมายืนรอฟ้าใกล้ๆ กัน
“จะไปข้างนอกเหรอครับ”
“ค่ะ แต่ดาวนัดฟ้าไว้ ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้”
“เมื่อกี้ถ่ายกันอยู่ดีๆ ฟ้าก็หายไปเลย”
“ไม่รู้ว่าฟ้าโกรธอะไรอีกหรือเปล่า ตอนนี้ดาวทำไรก็ผิดไปหมด”
ดาวควานหามือถือในกระเป๋า แต่ไม่เจอ
“หาอะไรเหรอดาว”
“มือถือค่ะ หายไปไหนไม่รู้”
ดาวดูนาฬิกาข้อมือ แล้วมองหาฟ้าอย่างร้อนรนใจ
“ต้องรีบไปเหรอ ติดรถผมไปก็ได้นะ” ชัชชนม์อาสาไปส่ง
“ดาวรอฟ้าก่อนดีกว่า ขอบคุณนะคะ”
ดาวมองหาฟ้าอย่างเป็นกังวล

ขณะที่ฟ้าเดินดุ่มออกไปหน้าปากซอย รถชัชชนม์วิ่งมาเทียบข้างๆ ฟ้าชะงักมองไปที่รถ ชัชชนม์หักรถจอดข้างทาง ลงรถมาหา
“ฟ้า อยู่นี่เอง ดาวเขารออยู่น่ะ”
“อ๋อ ฟ้าไม่ได้นัดกับดาวเขาแล้วล่ะค่ะ”
“อ้าวเหรอ แต่เมื่อกี้ผมออกมา ดาวยังรอฟ้าอยู่เลยนะ”
“ฟ้าขอตัวก่อนนะคะ ฟ้ารีบ”
“ฟ้า เดี๋ยวก่อน ขึ้นรถมา เดี๋ยวผมไปส่ง”
ฟ้าฟิน หัวใจพองโต รู้สึกดีที่มีชัชชนม์คอยดูแล

รถชัชชนม์ขับแล่นเข้าห้าง ชัชชนม์ลงรถเดินมาส่งฟ้าที่ร้านกาแฟในห้างนั้น
“ทำไมเดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยเห็นดาวกับฟ้าอยู่ด้วยกันเลยล่ะ”
“ดาวเขายุ่งๆ น่ะค่ะ”
“ขอโทษนะ ขอถามหน่อยสิ ผมรู้สึกว่าพวกคุณ ไม่เหมือนวันแรกที่ผมเจอเลย มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า ดูดาวเขาไม่ค่อยสบายใจเรื่องฟ้านะ”
ฟ้าตัดพ้อ “คุณชัชเป็นห่วงดาวเขามากเลยนะคะ”
“ผมก็แค่สงสัยเฉยๆ”
“ถึงร้านแล้ว ฟ้าขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ”
ฟ้าตัดบทแล้วรีบเดินเข้าร้านไป ชัชชนม์มองตามอย่างไม่เข้าใจ

ฟ้าเดินเข้ามาในร้าน มองหาชมพู่พอเจอก็ตรงเข้าไปหา ชมพู่มองมาเห็นฟ้ามาคนเดียวก็ลุกขึ้นรับ ด้วยความแปลกใจ
“อ้าว ฟ้า แล้วดาวล่ะ...”
ชมพู่ยังพูดไม่จบดี ฟ้าก็โผเข้ากอดชมพู่พร้อมกับร้องไห้ออกมาโดยไม่อายใคร ชมพู่ตกใจ แต่ก็กอดฟ้าทั้งที่ยังงงๆ อยู่

สองสาวนั่งทานขนม ดื่มกาแฟอยู่ที่โต๊ะในร้านกาแฟ
“เรื่องวันนั้น ฉันขอโทษนะพู่ มันจำเป็นจริงๆ”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอฟ้า”
“ฉันต้องทำตามที่คนในบ้านบอกทุกอย่าง ฉันขัดเขาไม่ได้จริงๆ”
ชมพู่ไม่ถือโทษ แต่ก็แปลกใจไม่หาย “แล้วทำไมต้องยอมเขาด้วยล่ะ”
“ตัวคนเดียวอย่างฉันจะไปสู้ใครได้”
“ตัวคนเดียวที่ไหน ก็ดาว...”
ฟ้าสวนออกมา “แล้วแกเห็นไหมล่ะว่าตอนนี้ดาวอยู่ไหน ดาวไม่เหมือนเดิมแล้วพู่ เขากลายเป็นนางงามดาวรุ่งมาแรง ตอนนี้เรากับเค้าอยู่กันคนละระดับกันแล้ว”
ฟ้าพยายามโน้มน้าวให้ชมพู่เป็นพวกเดียวกับตน เพราะเสียใจที่ดาวหักหลัง
“ให้ฉันไปคุยกับดาวไหม”
“ไม่มีประโยชน์หรอก ถ้าแกอยากช่วยฉัน ก็ขอแค่ให้แกเป็นชมพู่คนเดิม อย่าเปลี่ยนไปแบบดาวก็พอ”
ชมพู่สวมกอดให้กำลังใจฟ้า

พุฒิพัฒน์ตรวจงานเสร็จพอดี ปิดแฟ้มสุดท้ายตรงหน้า ชายหนุ่มมองนาฬิกา พบว่าเป็นเวลา 6 โมง แล้วจึงจะกดโทร.หาชมพู่ แต่เกิดเปลี่ยนใจ โทร.ไปเช็คกับเลม่อนที่บ้านป้าดวงเดือนแทน
“พี่เลม่อนครับ...คือผมติดต่อชมพู่ไม่ได้...เค้ากลับถึงบ้านรึยังครับ...เหรอครับ แล้วเค้าบอกรึเปล่าครับว่าไปไหน ไปกับใคร”
เมื่อได้คำตอบจากพี่เลี้ยงว่าไม่รู้เรื่อง พุฒิพัฒน์วางสายด้วยความสงสัย เริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วหยิบกุญแจรถออกไป

ฟากชมพู่และฟ้าเดินออกมาหน้าร้านกาแฟ
“ถ้ามีอะไร แกมาหาฉันได้เสมอนะ”
“ขอบใจมากนะ ที่แกยังเป็นเพื่อนที่ดีของฉันอยู่”
ชมพู่ยิ้มจริงใจพยักหน้ารับ ฟ้าเดินออกไปยังประตูห้างทางหนึ่ง
จังหวะเดียวกันนี้ชัชชนม์เดินเข้ามาจากอีกทาง เจอกับชมพู่พอดี
“ชมพู่ นี่คุณสะกดรอยตามผมหรือเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มยิ้มล้อ
“อ้าว เจอกันทั้งวันเลยนะคะคุณชัช”
“บุพเพ เอ้ย บังเอิญอีกแล้วนะครับ บ้านคุณพู่อยู่แถวนี้เหรอครับ”
“ค่ะ กำลังจะกลับบ้านพอดีเลยค่ะ”
“นี่ก็ดึกแล้ว ให้ผมไปส่งนะครับ”
ชมพู่ยิ้มให้ชัช

ฟ้าเดินมาที่ป้ายรถเมล์ริมถนนหน้าห้าง ขณะหันไปดูรถเมล์ แต่กลับเจอดาวที่ยืนจ้องมาที่ตนอย่างเอาเรื่อง
“เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ”

ฟ้าทำใจดีสู้เสือ ทำหน้านิ่งข่มความกลัว ที่โดนดาวจับได้

อ่านต่อหน้า 4




มงกุฎริษยา ตอนที่ 9 (ต่อ)

ชัชชนม์ขับรถมาจอดหน้าบ้านป้าดวงเดือน ชมพู่จะลงรถ จึงหันมาขอบคุณ

“ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ เอ่อ วันนี้ผมทำให้คุณเดือดร้อนหรือเปล่า”
“เรื่องอะไรคะ”
“ผมเดาว่า เจ้านายคุณคงไม่พอใจเท่าไร ที่คุณมาคุยกับผม”
“เขาสั่งห้ามฉันคุยกับคุณเลยแหละ” ชมพู่ไม่อยากละลาบละล้วง แต่อดถามออกไปไม่ได้ “คุณมีเรื่องอะไรกับเขาเหรอคะ”
ชัชชนม์อึกอักไม่อยากตอบ เรื่องที่เขากับพุฒิพัฒน์เป็นพี่น้องกัน แต่ไม่ถูกกัน
จู่ๆ พุฒิพัฒน์ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ เปิดประตูรถเข้ามาคว้าแขนชมพู่ที่กำลังนั่งอยู่ ลงจากรถอย่างแรง
“โอ้ย”
“เนี่ยเหรอ เพื่อนผู้หญิงของเธอ”
“ฟังฉันอธิบายก่อน”
ชัชชนม์ลงมาจากรถทันที วิ่งอ้อมรถเข้ามาแยกชมพู่ออกจากพุฒิพัฒน์ สองพี่น้องเปิดฉากทะเลาะกันอย่างรุนแรง
“จะทำไร”
“แกจะต้องเข้ามายุ่งกับทุกคนในชีวิตฉันเลยใช่ไหม”
“ชมพู่เต็มใจมากับฉัน แล้วจะเรียกว่ายุ่งได้ไง คนที่มาโดยไม่ได้รับเชิญแบบนายต่างหาก ที่เรียกว่า…ยุ่ง”
พุฒิพัฒน์บันดาลโทสะ ต่อยหน้าชัชชนม์อย่างจัง ร่างชัชชนม์ร่วงลงไปกองกับพื้น
“คุณชัช”
ชมพู่ตกใจจะเข้าไปดูอาการ ถูกพุฒิพัฒน์ดึงรั้งไว้
“ฉันสั่งว่าอะไร”
ชมพู่สุดทนสะบัดตัวหลุด แล้วตบหน้าพุฒิพัฒน์ฉาดใหญ่
“ที่นี่ไม่ใช่บริษัทคุณ ไม่มีสิทธิมาออกคำสั่ง”
ชมพู่จ้องหน้าพุฒิพัฒน์อย่างไม่ยอม แล้วเข้าไปประคองชัชชันม์ลุกเดินออกไป
“ค่อยๆ ค่ะคุณชัช”

พุฒิพัฒน์มองตามตาขวาง ทั้งเจ็บใจ ทั้งหวง โดยไม่รู้ตัว

อีกฟาก แพรวแพรซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ทะยานมาด้วยความเร็วสูง รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นเลี้ยวเข้าจอดหลบตรงมุมลับตาในลานข้างห้าง แพรวแพรลงรถ คนขี่ถอดหมวกออกเผยให้เห็นเป็นฤทธิ์ แพรวแพรเปิดมือถือให้ฤทธิ์ดูรูปดาว

“จัดการมัน เอาให้เจ็บหนักๆ เลยนะ มันใส่เสื้อสีดำอยู่ตรงนั้นน่ะ”
แพรวแพรมองนำไปยังดาวกับฟ้าที่ยืนคุยกันอยู่ห่างออกไป ฤทธิ์มองตาม ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“เอาจริงเหรอแพรว มันไม่แรงไปหน่อยเหรอ”
“ถ้าไม่กำจัดมัน แพรวก็ต้องแพ้แน่ๆ อยากให้ทุกอย่างที่เราทำมาทั้งหมดต้องเสียเปล่าหรือไง แพรวทำเพื่ออนาคตเรานะฤทธิ์” แพรวแพรกล่อมผัว
ฤทธิ์จับมือแพรวแพรมากุม “ได้ ถ้านี่จะทำให้ทุกอย่างสำเร็จ และเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก ฤทธิ์ก็จะทำ”
“แพรวจะไปรอดูตรงโน้นนะ อย่าให้พลาดล่ะ”
ใจจริงฤทธิ์ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง แต่ก็จำใจรับคำ มองไปที่ดาวอย่างเป็นกังวล

ดาวกับฟ้ายืนจ้องหน้ากันอยู่ตรงลานข้างห้าง
“ทำไมแกไม่รอฉัน เรานัดกันแล้วนะ”
ฟ้าย้อนแสบ “เราเหรอ แกคิดเองเออเองอยู่คนเดียวต่างหาก”
“ฟ้า นี่แกเป็นอะไร ตั้งแต่เรามาถึงกรุงเทพฯ แกก็ทำเหมือนว่าฉันเป็นศัตรูแกอย่างนั้นแหละ”
“ใช่ไงดาว เรามาที่นี่เพื่อการแข่งขันไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่เคยคิดจะแข่งขันกับแกเลยนะ เพราะยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน”
ฟ้าระเบิดอารมณ์ใส่ “แกเคยเห็นฉันเป็นเพื่อนด้วยเหรอดาว”
ดาวอึ้ง งุนงง สงสัย
ระหว่างนี้ ฤทธิ์ใส่หมวกกันน็อกพรางหน้า เร่งเครื่อง
ส่วนสองสาวยังคงโต้เถียงกันอย่างมีอารมณ์
“แกก็รู้ดี ว่ามงกุฎคือความฝันของฉัน แต่แกกลับแย่งเอาไปทั้งหมด เพื่อนเขาทำกันแบบนี้เหรอ”
“ฉันก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอก แต่เจ๊เขาเลือกฉันเอง”
“อ๋อ นี่แกไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่เฉยๆ ใครๆก็มาเลือกแก ใครๆเข้ามาหาแกเอง คุณชัชก็ด้วยใช่ไหม”
ดาวอึ้งไป
สายตาฤทธิ์เล็งไปที่ดาวเขม็ง ก่อนจะออกรถอย่างแรง
“ฉันเห็นแกยั่วเขา ทั้งๆ ที่แกก็รู้ว่าฉันชอบเขา แกต้องแย่งทุกอย่างไปจากฉันให้ได้เลยใช่ไหม แกถึงจะพอใจ”
“มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะฟ้า”
“พอซะที ฉันไม่อยากฟัง”
ฟ้าไม่ฟังเดินหนีไป ดาวดึงแขนฟ้าให้หันมา
“ฟ้า ฟังฉันก่อน”
ดาวดึงแขนฟ้ามา แต่ฟ้าสะบัดในจังหวะที่ฤทธิ์พุ่งเข้ามาพอดี กลายเป็นว่าฤทธิ์ขับรถเฉี่ยวฟ้า จนฟ้าล้ม กลิ้งไป
“อ๊าย”
ดาวตะลึงตะไล “ฟ้า”

ฤทธิ์ขี่มอเตอร์ไซค์มาหลบหลังมุมตึกห้าง เปิดหมวกหันไปดูผลงาน รู้ตัวว่าพลาด แพรวแพรวิ่งเข้ามาหาด้วยความโมโห
“บอกแล้วไงว่าเสื้อสีดำ”
“ฉันเล็งดีแล้วนะ แต่มันดึงอีกคนมาบัง”
แพรวแพรชะงัก ฉุกคิดแผนใหม่ได้ว่า ดาวทำให้ฟ้าโดนชนแทน
“รีบไปกันเถอะแพรว เดี๋ยวใครมาเห็น”
“ไปก่อนเลย ฉันมีเรื่องต้องจัดการ”
แพรวแพรรีบวิ่งไปหาดาวและฟ้า
“แพรว”
ฤทธิ์มองซ้ายมองขวา ไม่กล้าเสี่ยงตามแพรวแพรไป เลยขี่หนีไปอย่างรวดเร็ว

ฟ้านอนเจ็บร้องโอยโอยอยู่กับพื้น ดาวรีบเข้ามาดูแผลที่ขาของฟ้า มีเลือดไหล
“โอ๊ย”
“เดี๋ยวฉันไปตามคนมาช่วยนะ”
ดาวจะลุกออกไป แต่แพรวแพรวิ่งเข้ามาพอดี
“นังดาว แกทำอะไรฟ้า”
ดาว กะ ฟ้างุนงง
แพรวแพรปั่นหัวฟ้าต่อ “ฉันเห็นแกตามฟ้ามา นึกแล้วว่าต้องมีแผน แต่ไม่นึกเลยว่าแกจะใจร้ายผลักฟ้าให้ถูกรถชน”
“ไม่จริงนะฟ้า มันเป็นอุบัติเหตุ”
ดาวจะเข้าไปดูฟ้า แต่ถูกแพรวแพรกันดาวออกไป
“อย่าเข้ามานะ” แพรวแพรพยุงฟ้า พาเดินออกไป “ไปฟ้า”
ดาวเป็นห่วงจะตาม
“ฟ้า”
แพรวแพรตวาดแว้ด “ไม่ต้องตามมา”
ดาวมองตามด้วยความเสียใจ

เช้าวันต่อมา เมื่อพุฒิพัฒน์เข้ามาในห้องทำงาน เขาต้องแปลกใจที่เห็นชมพู่เก็บของอยู่
“ทำอะไร”
ชมพู่เก็บของต่อโดยไม่สนใจ พุฒิพัฒน์โมโหเข้าไปดึงแขนชมพู่ให้หันมาคุย
“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง”
ชมพู่โมโห “นี่ใช้กำลังเป็นอย่างเดียวเหรอ”
“ฉันใช้กับคนที่สมควรโดนเท่านั้นแหละ ไม่ว่าเธอ หรือว่ามัน”
ชมพู่สะบัดแขนออก “คุณชัชเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องไปต่อยเค้าด้วย”
“มันผิด! ผิดที่มายุ่งกับเธอ! แล้วเธอก็ผิด ที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของเจ้านาย”
“ใครบอกว่าคุณเป็นเจ้านายฉัน” ชมพู่หยิบซองขาวยื่นให้ “ฉันขอลาออก”
พุฒิพัฒน์อึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง “นี่อยากเจอมันมาก จนยอมลาออกเลยเหรอ”
“ฉันยอมลาออก เพราะไม่อยากเจอคุณต่างหาก”
“เออ! อยากไปก็เชิญ”
ขณะชมพู่จะเดินออก
พุฒิพัฒน์ก็เอ่ยขึ้น ”แล้วก็จ่ายค่าชดเชยมาด้วย”
ชมพู่ชะงัก “ค่าชดเชยอะไร”
พุฒิพัฒน์เปิดลิ้นชักหาสัญญาจ้างงานของชมพู่ มาวางลงบนโต๊ะ
“สัญญาว่าจ้างนี้ระบุไว้ว่า ถ้าเธอลาออกก่อนการประกวดมิสเพอร์เฟ็กต์ ต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นจำนวน 3 เท่าของเงินเดือน”
ชมพู่งง รีบหยิบสัญญามาอ่านดู
“ถ้าไม่มีเงินจ่าย ก็กลับไปนั่งทำงานต่อซะ”
“ก็ได้ค่ะ ฉันจะทำตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา”
พุฒิพัฒน์ยิ้มสะใจในชัยชนะ ชมพู่บอกต่อว่า
“รวมถึงสิทธิ์ลาพักร้อน 10 วัน ที่ฉันจะได้ด้วย ฉันขอใช้สิทธิ์วันนี้เลยละกัน”
จากนั้นชมพู่เดินออกไป
พุฒิพัฒน์งง “จะไปไหน”
“ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าฉันต้องรายงานเรื่องส่วนตัวกับคุณ”
พุฒิพัฒน์เถียงไม่ออก
ชมพู่จงใจยั่ว “แต่ที่จริง นี่มันก็เป็นเรื่องงานนะ เพราะฉันกำลังจะไปรับผิดชอบปัญหาที่เจ้านายฉันทำไว้”
“หมายความว่าไง”
“ฉันจะไปดูอาการคุณชัช ว่าหายจากที่โดนคุณชกหรือยัง”
ชมพู่เดินปร๋อออกไป พุฒิพัฒน์ร้อนรนใจ คิดว่าจะทำยังไงดี

อีกฟาก ฟ้าลืมตาตื่นลุกขึ้นมา พอลุกนั่ง รู้สึกเจ็บที่แขน จึงยกมาดู เห็นว่าที่มีรอยช้ำเป็นจ้ำๆ หลายจุด
ฟ้ายันตัวขึ้นนั่ง เปิดผ้าห่มออกดูขาที่พันแผลเอาไว้ นึกทบทวนเรื่องราวเมื่อคืนนี้
ดาวดึงฟ้ามาคุยสุดแรง ฟ้าสะบัดหนี เป็นจังหวะที่ฤทธิ์ขี่รถพุ่งเข้ามาพอดี รถมอเตอร์ไซค์จึงเฉี่ยวฟ้าแทน จนฟ้าล้มกลิ้งไปบนพื้น
นึกขึ้นมาแล้ว ฟ้าลูบแผลที่แขนและขาด้วยความเสียใจและเป็นกังวล
“แผลเป็นคงดูไม่จืดแน่ๆ”
เสียงแพรวแพรดังขึ้น ก่อนจะเห็นเจ้าตัวเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ
“คะ”
“โดนท่อไอเสียเข้าไปเต็มๆ อย่างนั้น คงเป็นแผลใหญ่ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันสมัคร มิสเพอร์เฟ็กต์ แล้วด้วยสิ”
ฟ้าเริ่มวิตก
“จะปล่อยให้ดาวลอยนวลไปแบบนี้เหรอ ถ้าอยากแก้แค้นล่ะก็ มีวิธีนะ”
“ฟ้าไม่อยากยุ่งกับดาวแล้ว ต่างคนต่างอยู่ ดีแล้วค่ะ”
“แต่...”
“เราจะสู้กันบนเวทีเท่านั้น ขอบคุณมากนะคะ”
“แต่นังดาวมันร้ายจะตาย จะเอาชนะมันได้เหรอ”
“ก็นั่นไงคะ ถึงต้องสู้กันเฉพาะบนเวที อย่างน้อยก็มีกฎกติกา ถ้าฟ้าเล่นสกปรกนอกเวที ฟ้าก็จะกลายเป็นคนอย่างดาวไปด้วย” สาวหัวอ่อนบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
แพรวแพรหงุดหงิด เดินออกไปนอกห้อง ฟ้ามองที่แผลตามร่างอย่างหวั่นใจ

ท็อปทำท่าลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงทางเดินหน้าห้องดาวกับลีน่า
ขณะที่แพรวแพรเดินออกมาจากห้องนอนด้วยความหงุดหงิด เห็นท็อปแอบย่องเข้าไปในห้องสองสาว ก็เห็นโอกาสทอง คิดแผนใหม่ได้รีบตามไป แล้วแอบฟังที่หน้าประตู

ท็อปเปิดประตูเข้าไป เจอดาวนอนหลับอยู่บนเตียงโดยที่ลีน่าไม่อยู่ จึงรีบล็อคประตู
ท็อปลงนั่งบนเตียง ยิ้มหื่น ค่อยๆ ลูบไล้แขนดาว ดาวเริ่มรู้สึกตัว ตื่นมาเห็นท็อป ดาวตกใจ จะอ้าปากร้อง ท็อปปิดปากหมับ แล้วขึ้นคร่อมทันที
“อุ๊ย โทษที พี่นึกว่าเราเป็นลีน่า”
ดาวยิ่งดิ้น ท็อปยิ่งกดน้ำหนักแรงขึ้น
“แต่เราน่ะ สวยกว่า แล้วก็เซ็กซี่กว่าเยอะเลย” ท็อปลูบไล้แขนดาวพลางกล่อมหวังฟัน “ไม่ต้องห่วง พี่ไม่ใช่พวกชอบกินฟรี พี่ช่วยเจ๊ปั้นเด็กใหม่มาก็เยอะนะ ยอมให้พี่ปั้นไหมล่ะ”
ดาวคิดปราดเดียว แล้วพยักหน้าให้
ท็อปยิ้มกริ่ม “ดีมาก... งั้นเรามา...”
อาศัยทีเผลอ ดาวถีบเข้าเต็มตีนจนร่างท็อปกระเด็นลงเตียงไป
“โอ๊ย นังบ้านี่” ท็อปจุก หันขวับมาตาขวาง
ดาวคว้าคัตเตอร์ที่หัวเตียงมาขู่ทันที
“ฉันไม่ได้โง่นะ คนอย่างแกน่ะเหรอ จะมีปัญญาช่วยใครได้ ออกไปเลย ไป! หรือจะให้ฉันตะโกนเรียกเจ๊”
ท็อปลุกเดินไปอย่างไม่เต็มใจ ดาวไล่ต้อนไปถึงประตู

แพรวแพรแอบฟังอยู่ ได้ยินเสียงดาวก็รีบฉากหลบออกไปพ้นหน้าประตู
ดาวผลักท๊อปออกมานอกประตู
“ถ้ามีคราวหน้าอีก ฉันไม่ปล่อยแกแน่”
ท็อปจะพุ่งกลับไปเอาเรื่องดาว เปรมจิตเดินมาทางนี้พอดี
“ท็อป”
ท็อปรีบเปลี่ยนสีหน้า ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ครับ”
เปรมจิตเห็นดาวอยู่ด้วย ก็แปลกใจ
“ทำอะไรกันอยู่”
“อ๋อ ทักทายน้องเขาเฉยๆครับ เห็นมาใหม่ เลยทำความรู้จักซะหน่อย” ท็อปตอแหล
“ค่ะ ดาวขอตัวนะคะ” ดาวเข้าห้องไปเลย
เปรมจิตมองผัวเด็กตาขุ่น ไม่พอใจ “วันก่อนก็แนะนำไปแล้วนี่ ทำไมต้องทำความรู้จักกันอีก”
“แหม ก็แค่คุยเฉยๆ น่า” ท็อปรีบเปลี่ยนเรื่อง “เอ้อ ผมมีน้ำมันอโรม่าขวดใหม่มา หอมมากเลย ลองเลยไหมจ๊ะ”
เปรมจิตงอน สะบัดสะบิ้งใส่คู่ขา “ไม่ต้อง ไม่มีอารมณ์”
“ไม่มีอารมณ์จริงเหรอ” ท็อปยิ้มตาเยิ้มเข้าไปซุกไซร้
“ท็อป ไม่เอาน่า” สาวใหญ่ปัดป้องเสียงกระเส่า เริ่มเคลิ้ม
ท็อปยิ้มโอบพาเปรมจิตเดินออกไป แต่เปรมจิตยังเหลียวหันมามองทางห้องดาวอย่างไม่วางใจ

รอจนสองคนพ้นตัวไป แพรวแพรโผล่ออกมาจากอีกมุม เห็นทุกอย่าง ยิ้มร้ายกาจออกมา นางได้แผนชั่วใหม่จัดการดาวิกาแล้ว
“เสร็จฉันแน่นังดาว”

อีกด้านหนึ่ง ดนัยทายาให้ชัชชนม์ ทาไปบ่นไป
“พี่แกเขาเกลียดอะไรแกนักหนาวะ”
“บอกแล้วไง มันไม่ใช่พี่ฉัน”
“เออๆ ลูกแม่แกอีกคนอ่ะ หรือว่าเขาอิจฉาแก? แต่ก็ไม่น่านะ ดูแกดิ๊ ไม่ได้จบนอกแบบเขา บริษัทก็จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่ จนก็จน แย่กว่าทุกอย่างเลย” ดนัยบ่นอีกชุดใหญ่
“เฮ้ยๆ พอละ”
ดนัยยังบ่นไม่เลิก “หรือว่าตอนเด็ก แกไปทำไรเขาวะ”
คราวนี้ชัชชนม์ชะงัก นิ่งงันไป
“มันแค่กลัวว่าฉันจะไปยุ่งกับคนของมันก็เท่านั้นแหละ”
ดนัยพยักหน้าหงึกหงัก ทำท่าคิด “หืม? คนของเขานี่ใครวะ”
ชมพู่เคาะประตูบ้านที่เปิดอยู่ แล้วเดินเข้ามา พร้อมกระเช้าเยี่ยมเป็นของบำรุงร่างกาย
“สวัสดีค่ะ”
ดนัยเห็นก็อึ้ง
“คนนี้ไง” ชัชชนม์ว่า
“คุณชมพู่? คุณพุฒิเค้า...”
ชัชชนม์เดินไปรับชมพู่
“ดีขึ้นบ้างไหมคะ นี่ของเยี่ยมจากคุณพุฒิค่ะ”
ชัชชนม์แทบไม่เชื่อหู “อะไรนะครับ”
“จริงๆ ก็ จากบัตรเครดิตเขาน่ะค่ะ” ชมพู่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ชูบัตรเครดิตพุฒิพัฒน์ให้ดู “ฉันว่าเขาต้องไถ่โทษคุณบ้าง”
ชัชชนม์หัวเราะขำตาม ดนัยสบช่อง รีบเจ๋อเข้ามาเสนอหน้าแจม
“ไม่พอหรอกครับ ต้องเอาคืนให้เท่ากับที่ไอ้ชัชโดน”
“ช่างเถอะครับ ผมไม่ใส่ใจแล้ว”
“ไม่ได้ค่ะ คุณดนัยพูดถูก เขาต้องได้บทเรียนบ้าง” ชมพู่บอก
“จะให้ผมชกคืนเหรอ ผมไม่ทำหรอก เสียมือเปล่าๆ”
“ที่จริงฉันมีแผนเด็ดกว่านั้นอีก แต่ต้องให้คุณช่วย”
ชมพู่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ชัชชนม์งง ส่วนดนัยนึกสนุก

อีกฟาก เปรมจิตสวมชุดวาบหวิวนั่งให้ท็อปนวดน้ำมันที่หลังให้ จังหวะหนึ่งเปรมจิตถามหยั่งเชิงขึ้นว่า
“ท็อปว่าดาวเขาสวยไหม”
ท็อปรู้ทัน “อะไร ยังคิดเรื่องดาวอยู่อีก ไม่ไว้ใจผมเหรอ เสียใจน้า”
เสียงไลน์เครื่องท็อปดังขึ้น ท็อปดูข้อความเป็นไลน์จากแพรวแพรส่งมาว่า
“ต้องการตัวช่วยไหม”
เปรมจิตถาม “ใคร”
“เอ่อ เพื่อนมันชวนกินเหล้าอะจ้ะ แต่ผมไม่ไปหรอก อยู่กับที่รักดีกว่า”
ท็อปนวดต่อ แต่อีกมือพิมพ์ไลน์ส่งกลับไปว่า “เรื่อง?”
แพรวแพรส่งสติ๊กเกอร์รูปดาว กลับมา ต่อด้วย “รับรองไม่บอกใครแน่”
ท็อปไม่เก็ต ถามกลับไปว่า “ช่วยยังไง”
แพรวแพรส่งมาว่า “เดี๋ยวเย็นนี้ จะกลับไปพร้อมตัวช่วย ได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แน่ๆ”
ท็อปยิ้มกริ่ม เปรมจิตหันมาเห็น มองตาขวาง
“นี่คุยกับเพื่อนจริงเหรอ”
“จริงสิจ๊ะ ที่รักไม่เชื่อเหรอ”
“ไหน เอามาดูหน่อย”
ท็อปทำทีเป็นยื่นมือถือให้ จังหวะที่เปรมจิตเอื้อมมือมารับ ท็อปชิงหอมแก้มก่อน
“เอ๊ะ”
“เอาสิ เข้ามาดูเลย”
เปรมจิตเอื้อมไปหยิบอีก คราวนี้ท็อปพลิกตัวสาวใหญ่คู่ขากอดรัดฟัดเหวี่ยง ส่วนอีกมือกดลบแชทไลน์ในมือถือที่คุยกับแพรวแพรอย่างว่องไว

ที่บ้านป้าดวงเดือน จอยวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเลม่อนที่ทำลับๆ ล่อๆ ยิ้มกริ่ม อยู่ตรงสนามหญ้า
“เจ๊เลม่อน...จอยมีข่าวดีค่า”
เลม่อนนั่งระทวยอยู่ใต้ร่มกันแดด ใส่หมวกปีกกว้าง ใส่แว่นดำ หันมาจุ๊ปากให้จอยเงียบๆ
“ชู่!! เบาๆ นังจอย ฉันกำลังคัดเด็กอยู่”
จอยตื่นเต้น “จะมีเด็กใหม่มาอีกเหรอคะ เป๊ะไหมเจ๊”
“ก็ดูเอาสิ” กะเทยผิวหมึกตะโกนสั่งไปทางลานจอดรถ “อ้าว พร้อมแล้วก็เริ่มเลยจ้ะ”
ว่าพลางเลม่อนหันไปเปิดวิทยุ มีเพลงเซ็กซี่ดังขึ้น
ไผ่ หนุ่มร่างบึกบึน ในเสื้อกล้ามสีขาว เดินออกมาจากหลังรถ พร้อมอุปกรณ์ล้างรถ ฉีดน้ำสายยางไปที่รถ
เลม่อนมองเคลิ้ม “นี่น้องไผ่ เด็กใหม่เจ๊ เอ้ย เด็กใหม่บ้านเรา”
จอยมองค้อน รู้ทัน “นี่ป้าจะเริ่มส่งผู้ชายเข้าประกวดแล้วเหรอคะ”
“เปล่า น้องเขาสมัครมาเป็นคนสวน”
“ห๊ะ? คนสวนต้องคัดกันอย่างนี้เลย”
“ไม่ต้อง แต่เจ๊อยากดู”
ว่าที่คนสวนหุ่นล่ำดันเกิดร้อนขึ้นมา เขาเอาสายยางมาฉีดราดรดหัวตัวเอง สายน้ำไหลตามร่างกาย เสื้อแนบเนื้อ เลม่อนฟิน มองค้างเหมือนถูกสะกดจิต
“เอ่อ เจ๊คะ หนูจะมาบอกว่า หนูแคสต์โฆษณาผ่านแล้วนะ ที่เราไปกันเมื่อวันก่อนน่ะค่ะ”
เลม่อนเคลิ้ม ฟิน อยู่กับการแทะโลมไผ่ ไม่ได้ฟังจอยพูด “อืมๆ”
จอยเดินเซ็งเข้าบ้านไป
เลม่อนได้สติ “ห๊ะ แคสต์ผ่าน แอร๊ยยยย”
“อะไรครับ” ไผ่ตกใจหันมาหาเลม่อน สายยางในมือฉีดใส่กะเทยพี่เลี้ยงนางงาม
เลม่อนกรี๊ดอีก “แอร๊ย”
ไผ่ตกใจเข้าไปช่วย แต่มือก็ยังถือสายยางอยู่ “เป็นไรไหมครับ”
“ปิด...ปิดก่อน”
ไผ่นึกขึ้นได้รีบปิดน้ำสายยาง
“ขอโทษครับ” หนุ่มล่ำถอดเสื้อออกบิดหมาดๆ แล้วเอาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เลม่อน “ขอโทษนะครับผมไม่ได้ตั้งใจ”
เลม่อนเคลิ้ม “เริ่มงานวันนี้ได้เลยจ้ะ”

ในเวลาเดียวกันนั้น ดาวถือถาดอาหารและยาเข้ามาให้เพื่อน เห็นฟ้านั่งอยู่ที่บนเตียงหันหลังให้อยู่
“ฟ้า ลุกขึ้นมานั่งทำไม เดี๋ยวก็เจ็บแผลหรอก”
ดาววางถาด เข้ามาดูฟ้าใกล้ๆ เห็นแผลเหวอะหวะอยู่ก็ตกใจ
“กลัวเหรอ ใช่ นี่แหละคือสิ่งที่แกทำกับฉัน”
“ฟ้า มันเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“แกพูดง่ายเนอะ แค่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วฉันก็ต้องยกโทษให้แกใช่ไหม”
“เห็นแกเป็นแบบนี้ ฉันก็เสียใจนะเว้ย”
“เสียใจเหรอ แกจะเสียใจทำไม! แกมีคุณสมบัติทุกอย่างเพรียบพร้อมจะเป็นนางงาม ส่วนฉัน ฉันต้องอยู่กับไอ้ขาอุบาทว์ๆ เนี่ย”
พูดจบฟ้าตีขาตัวเองที่เป็นแผลรัวๆ
“ฟ้าอย่า” ดาวห้าม
“ไม่ต้องมายุ่ง! ออกไปจากชีวิตฉันสักที ก่อนที่ฉันจะเกลียดแกไปมากกว่านี้”
“ฉันขอโทษ”
ฟ้าปัดถาดดาวหล่น “ออกไป”
ฟ้าหันหน้าหนีระเบิดร้องไห้ออกมา

ดาวละล้าละลังเสียใจมากกว่าตกใจ ยืนน้ำตาร่วงมองฟ้าอีกสักครู่ จึงเดินร้องไห้ออกไป

อ่านต่อตอนที่ 10



กำลังโหลดความคิดเห็น