ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 31
เทพไทยังคงแคร์ความรู้สึกของดอกแก้ว แต่ดอกแก้วดอกนี้ยังคงเข้มแข็งเกินกว่าที่เทพไทคิด
เธอพยายามพูดเตือนสติเทพไทและตัวเอง
"เราทั้งสองเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อทุกคนเถอะค่ะ อย่าให้ใครๆ ต้องเสียใจเพราะเราสองคนอีกเลย"
เทพไทฟังคำอย่างเศร้าใจ ดอกแก้วที่พยายามทำตัวเข้มแข็ง จนเกือบประคองอารมณ์ และร่างกายไม่อยู่ แต่ฝืนใจยอมเดินจากไปทั้งที่หัวใจแทบแหลกสลาย
"ดอกแก้ว"
"ดอกแก้วเดินไปด้วยใจที่แตกสลาย แต่ก็พลันได้ยินเสียงคุณหลวงรอดออกมาจากในห้อง
"เลือกไว้สักดอกเถอะพ่อเทพ ถ้ามันจะต้องแห้งเหี่ยวเฉาตาย ก็เพื่ออีกดอกจะได้ชูช่อดอกไสว"
เทพไทหันมองไปทางต้นเสียงห้องหลวงปกรณ์ และรู้ทันทีว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องตัดสินใจบางอย่าง
หลวงปกรณ์กำลังนั่งอยู่บนเตียง เทพไทเดินเข้ามายืนที่ปลายเตียง มองดูผู้เป็นพ่อด้วยใจกระอักกระอ่วน
"ถ้าแกเห็นฉันกับสิ่งที่เกิดขึ้นมา ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจยังไงมันก็เพราะฉัน อย่าให้การตัดสินใจครั้งนี้ตามหลอกหลอนแกเป็นเงาตามตัวแบบพ่อเลย"
นี่เป็นครั้งแรกที่เทพไทได้ยินพ่อพูดถึงเรื่องตัวเอง
"ระหว่างความถูกต้อง กับความต้องการ พ่อเลือกความต้องการของตัวเองมากกว่า แล้วเป็นไงล่ะ บ้านนพรัตน์ถึงได้ลุกเป็นไฟถึงเพียงนี้...เทพ.. อย่าให้อะไรมาบดบังหัวใจอันบริสุทธิ์ของแก แกเป็นคนที่ทำทุกอย่างตามแบบที่มันต้องเป็นเสมอ ทำสิ่งที่ถูกต้องเถอะลูก"
"ทำให้ถูกให้ควร แม้ว่าตัวเราจะถูกความต้องการของเราแผดเผาหัวใจจนเป็นเถ้างั้นหรือครับ"
หลวงปกรณ์เข้าใจความรู้สึกของลูกชายเป็นอย่างดี และรู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
" ไม่มีพ่อคนไหน อยากเห็นลูกของตัวเองทุกข์ใจหรอก พ่อเองก็เช่นกัน อย่าทำเหมือนพ่อไม่รัก ไม่เห็นใจแก…แก่คงคิดว่าพ่อดีใจมากซินะ ที่เห็นแกจนแต้มเหมือนหมากกระดานเช่นนี้"
เทพรู้สึกถึงความจริงใจบางอย่างที่ไหลผ่านมาตลอดเวลาของการสนทนาระหว่างความเป็นพ่อกับความเป็นลูกครั้งนี้
"คุณพ่อ"
"เทพ..พ่ออาจจะเป็นสามีที่ไม่ดีที่สุดในสายตาใครๆ หรือเป็นพ่อที่ไม่ดีในสายตาแก พ่อไม่สนใจ แต่ถ้าแกปักใจว่าพ่อคนนี้ไม่รักแก ไม่ปรารถนาดีต่อแก พ่อคงเสียใจเป็นที่สุด"
หลวงปกรณ์พูดจบก็มีน้ำตาหลั่งออกมา เทพไทตกใจและเสียใจอย่างมาก เพราะแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยเห็นน้ำตาของพ่อคนนี้เลย แม้แต่หยดเดียว เทพไทรีบทรุดลงนั่งข้างพ่อที่พื้นข้างเตียง
"คุณพ่อ คุณพ่ออย่าพูดเช่นนั้นสิครับ"
หลวงปกรณ์มองดูลูกชายแล้วพูดต่อ
"พ่อรู้ว่าเทพขุ่นข้องเคืองใจพ่อด้วยเรื่องอันใด แต่จงจำไว้ ไม่มีเรื่องใดสำคัญ มากเท่ากับแกคิดว่าพ่อไม่รักแก"
"คุณพ่อ"
เทพไทน้ำตาไหลลง มองผู้เป็นพ่อด้วยความรู้สึกผิดเช่นกันที่คิดมาตลอดว่าพ่อไม่รัก ไม่เคยสนใจตนเลย เทพก้มลงกราบที่ตักหลวงปกรณ์ หลวงปกรณ์ค่อยๆ เอามือลูบหัวเทพไทอย่างอ่อนโยน นานมากที่เดียวที่เทพไม่ได้รับความอบอุ่นเช่นนี้จากพ่อของตัวเอง
"เทพ พ่อรักแก อยากเห็นแกทำสิ่งที่ถูกที่ควร ไม่ใช่เพื่อพ่อ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่ เพื่อตัวของแกเอง"
เทพไทเงยหน้าขึ้นมองหน้าพ่อ และคิดถึงดอกแก้ว และรัศมีดารา ระหว่างสองดอกไม้ เขาจะเลือกดอกไหนเพื่อปักลงบนแจกันบ้านนพรัตน์
รัศมีดารายืนร้องไห้อยู่ที่ริมสนามหน้าบ้านนพรัตน์ เทพไทค่อยๆ เดินเข้ามาอย่างเป็นห่วงความรู้สึก ค่อยๆ เอ่ยถามอย่างห่วงใย
"รัศมีดาราครับ ให้พี่เดินเข้าไปได้ไหม"
"คงไม่มีผู้หญิงคนไหน อยากให้ผู้ชายที่เธอรักเห็นน้ำตาแห่งความพ่ายแพ้หรอกค่ะ"
เทพไทค่อยๆ เดินเข้าไปหา รัศมีดาราเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย
"รัศมีดารา ฟังพี่นะ พี่รู้สึกอย่างไรกับคุณดอกแก้ว หัวใจพี่มันคงจะบอกความจริงกับน้องไปหมดแล้ว พี่ไม่เคยทรยศหัวใจตัวเอง และดูถูกหัวใจรักของคนอื่นรัศมีดารารู้สึกอย่างไงกับพี่ พี่รับรู้มันได้ และขอให้น้องมั่นใจเถอะว่า พี่แต่งงานกับน้องเพราะเราคือคู่ที่เหมาะสมกัน น้องคือผู้หญิงที่พี่เลือกแล้วที่จะให้เป็นคุณผู้หญิงแห่งบ้านนพรัตน์"
เทพไทพูดจบพร้อมกับประคองบ่า เช็ดน้ำตาของรัศมีดารา แล้วปลอบประโลมเธอด้วยความสัตย์ซื่อของใจตัวเอง
"จำคำพี่ไว้นะ น้องคือ ภรรยาของพี่ และมันก็จะเป็นจริงเช่นนั้น ไม่มีใครหรือสิ่งใดจะเปลี่ยนแปลงมันได้ สัญญาระหว่างเรา มันก็จะเป็นสัญญาเช่นนั้นตลอดไป"
"พี่เทพ น้องขอโทษ ที่ทำให้..."
"อย่าพูดอะไรอีกเลย"
รัศมีดารารู้สึกมั่นคงต่อความรู้สึกที่เทพไทมอบให้เธอ เธอเข้าไปสวมกอดชายตรงหน้าอย่างสาวน้อยที่รอคอยความหวัง ความสุขมาแสนนาน เทพไทก็สวมกอดเธอไว้เช่นกัน แต่บนใบหน้านั้น มันช่างเต็มไปด้วยความสับสนอย่างที่สุด
"ขอบคุณนะค่ะพี่เทพ ที่เอ็นดูน้อง"
สองคนกอดกัน ผ่านสายตาของดอกแก้วที่มองอย่างเศร้าใจ และเดินจากไป
เย็นต่อเนื่องมา ในห้องนอน ดอกแก้วนอนร้องไห้อย่างสงบนิ่ง เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตรักของตนเอง พลันมองหาจดหมายของพุดจีบ
" จดหมาย ...พุดจีบจะบอกอะไรฉัน"
คืนนั้น พุดจีบจับพลั่วตั้งใจขุดดินตรงแปลงดอกซ่อนกลิ่น เพื่อค้นหาความจริงออกมาพิสูจน์ให้ได้ ขณะที่กำลังขุดก็สะดุดเข้ากับกำไลทองของมะลิ จนเห็นเป็นข้อมือของมะลิ พุดจีบที่มองตกใจ
ในอดีต ... มะลินัวเนียกับคุณหลวง ... เห็นกำไลทอง มะลิหน้าลงหม้อ... มะลิในรงพยาบาล...คงมารับตัวไปจากโรงพยาบาลอย่างลับๆ ...จนสร้อยทองทุบมะลิตายที่บ้านร้าง
"อีมะลิ"
อ่านต่อหน้าที่ 2
ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 31 (ต่อ)
พุดจีบสะดุ้งตกใจปากสั่นมือสั่น จากนั้นจึงขุดหวังจะเจอหลักฐานอื่นเพิ่ม ระหว่างนั้น การขุดค้นของพุดจีบ ผ่านสายตานายคงที่มองอยู่ไกลๆ ตามพุ่มไม้
พุดจีบยังคงลงมือขุดต่อไปเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ขุดจนเหนื่อยยืนขึ้นสะดุดกับปลายเท้าของศพอึ่งจนล้มลง รีบขุดต่อจนจนเริ่มเห็นเศษผ้า เสื้อสาวรับใช้บ้านนพรัตน์ และใบหน้าของอึ่ง
อึ่งตายในคืนที่สร้อยทองลงไปฆ่าลูกในท้องของลำเจียกในหลุมหลบภัย
"พี่อึ่ง...ไม่อยากเชื่อเลย ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในบ้านนพรัตน์"
พุดจีบตกใจถึงภัยต่างๆในบ้านนพรัตน์หลังนี้ พุดจีบรีบขุดดินอย่างรวดเร็ว แต่ก็รู้สึกเสียวหลังวาบๆ พยายามหันหลังแต่ไม่เจอใคร เลยรีบลงมือขุดต่อเพื่อสืบสาวราวเรื่องทั้งหมดแต่เจ้าของสายตาลึกลับยังคงใกล้เข้ามาทุกที จนพุดจีบรีบหันไปดูอีกครั้ง แต่ไม่เจอใคร เริ่มระแวงเรื่อยๆ
พุดจีบตกใจถึงกับผงะ สักครู่ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเหยียบใบไม้แห้งดัง คิดในใจว่าเป็นดอกแก้ว รีบหันไปทันทีพร้อมพูด
"คุณดอกแก้ว รู้แล้วค่ะว่าใครเป็นคน..."
พุดจีบก็ถูกนายคงบ้าใบ้ตบอย่างแรงด้วยพลั่วใหญ่ พุดจีบกระเด็นตกลงไปที่หลุมฝังศพ ทับบนร่างของศพทั้งหลาย เลือดกบปาก พุดจีบตกใจเมื่อเห็นแน่ชัดแล้วว่า ใครที่เป็นคนคอยช่วยเหลือสร้อยทองมาตลอดเวลา
"นายคง"
นายคงสีหน้าดุร้าย โหดเหี้ยม ยืนอยู่เหนือปากหลุม
ดอกแก้วเดินไปมาใช้ความคิดอย่างไม่แน่ใจว่า ตัวเองจะทำอย่างไรดี หยุดยืนมองจดหมายนัดที่ได้จากพุดจีบที่โต๊ะ แล้วตัดสินใจอะไรบางอย่าง
พุดจีบพยายามปีนขึ้นมาจากหลุม แต่ไม่สามารถปีนขึ้นได้ นายคงฟาดตีจนพุดจีบตกลงไป แต่พุดจีบผลักขานายคงจนล้มลงเสียหลัก พุดจีบพยายามตะกายขึ้นจากหลุมมา ตั้งหน้าจะวิ่งแต่ก็ถูกมือคงจิกผมไว้ กระชากกลับมา พุดจีบกระโดดปีนขี่นายคง แต่ก็ถูกนายคงเหวี่ยงลงพื้นอย่างจัง ในระหว่างที่พุดจีบกำลังสะบักสะบอมอยู่นั้น คงก็หยิบพลั่วใหญ่มาหมายจะเฉาะคอให้ขาดกับพื้น แต่ขณะที่กำลังง้างยกมือขึ้น ก็ถูกดอกแก้วตีด้วยท่อนไม้ใหญ่ จนนายคงลงไปสลบแน่นิ่งในหลุมศพ ดอกแก้วรีบรุดมาช่วยเรียกสติพุดจีบ
"พุดจีบ พุดจีบเป็นไงบ้าง พุดจีบ"
พุดจีบยังคงไม่ได้สติแน่นิ่งอยู่ ดอกแก้วตกใจพยายามร้องเรียกแต่พลันไปเห็นร่องรอยใบหน้าศพไหลบริเวณใบหน้า ดอกแก้วค่อยๆ วางพุดจีบไว้ รีบตรงไปขุดศพที่ถูกฝังไว้
"นี่มัน นายไหลนี่"
... นายไหลตายในป่าเปลี่ยว ...คืนนั้น
ดอกแก้วรู้สึกสะดุดตากับชิ้นส่วนเสื้อผ้าสาวใช้ จึงรีบขุดต่อ เห็นเป็นศรี
"พี่ศรี"
ดอกแก้วเริ่มอยากรู้มากขึ้น เลยรีบขุดศพที่เหลือ จนมาเจอสารภีอย่างไม่คาดคิด
"คุณสารภี...เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่"
ดอกแก้วตกใจสุดขีดกับภาพที่นึกถึง
หลวงปกรณ์กำลังนั่งอ่านหนังสือ แต่วันนี้รู้สึกแปลก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขยับตัวไปมา จนหนังสือตกลงพื้น สร้อยทองเข้ามาเก็บหนังสือขึ้นให้ คุณหลวงเงยหน้ามอง สร้อยทองสายตาเคร่งขรึม
"อิชั้น เก็บให้เจ้าค่ะ คุณพี่"
"ขอบใจจ๊ะแม่สร้อย"
หลวงปกรณ์รู้สึกว่า บรรยากาศในบ้านคืนนี้ดูเงียบชอบกล
"ทำไมคืนนี้ ในบ้านเงียบเฉียบจัง ไปไหนกันหมดละ"
"อิชั้นให้บ่าวไพร่ลากลับบ้านกันหมด เห็นว่าช่วงสงครามคงขวัญหายกันหมด ญาติที่บ้านนอกคงเป็นห่วงไม่ได้ข่าวคราว กลับไปให้เห็นหน้าเห็นตากัน จะได้หมดห่วงหมดใย"
หลวงปกรณ์ฟังคำเมียรักก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้
"ถ้าบ้านนพรัตน์ไม่มีแม่สร้อยจัดการสักคน คงจะวุ่นวายพิลึก..ที่ผ่านมา เธอคงเหนื่อยมิใช่น้อยสินะ ฉันขอบใจแม่สร้อยมากนะ"
"ก็มันเป็นหน้าที่ของเมียคนที่ 1 นี่ของเจ้าค่ะ"
หลวงปกรณ์ฟังคำถึงกับสะอึก
"นี่แม่สร้อย กำลังพูดเหมือนน้อยใจเจ็บ มันนานมาแล้วนะ"
"มันอาจจะไม่นานสำหรับคนอื่น แต่หากมันเนิ่นนานสำหรับอิชั้น"
"สร้อยทอง ฉันรู้ดีแก่ใจมาตลอด ว่าแม่รู้สึกเยี่ยงไรแต่ฉันก็พยายาม..."
สร้อยทองขัดใจ
"งั้นคุณหลวงก็คงรู้สินะค่ะ ว่าตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา อิชั้นรู้สึกอย่างไร ต้องแสร้งแกล้งทำเป็นหน้าชื่นอกตรม ก้มหน้าขมขื่นกับธรรมเนียมบ้าบอที่กดขี่ค้ำหัวสตรีเพศที่ได้ชื่อว่า เมีย"
หลวงปกรณ์ตกใจที่สร้อยทอง ภรรยาผู้ลากมากดี มีอารมณ์เกี้ยวกาจ
"แม่สร้อย"
"ไม่มีผู้หญิงหน้าไหนที่จะยอมให้ผัวตัวเองมีอีเล็กอีน้อยคอยเผยอหน้าชูคออยู่ในบ้านหลังเดียวกันได้หรอก...คุณพี่ทราบไหมค่ะ... คุณพี่ใจร้ายใจดำมากแค่ไหน เคยสักครั้งไหมที่คุณพี่จะใยดีความรู้สึกของอิชั้น"
หลวงปกรณ์รู้สึกว่าสร้อยทองเริ่มเกินเลย เลยพยามยามลุกขึ้นจะปราม แต่จู่ๆ ก็ไม่มีแรงที่ขาทั้งสองข้าง ชา เหมือนคนเป็นอัมพาต ล้มลงกับพื้นข้างเตียงอย่างหมดท่า
" ไงค่ะหลวงปกรณ์ราชกิจ ผู้ยิ่งใหญ่ ถึงกับหง่อยเปลี้ยเสียขาเชียวหรือเจ้าค่ะ"
"แม่สร้อย แม่ทำอะไรกับฉันนี่"
" อิชั้นจะทำอะไรคุณพี่ได้ ก็อิชั้นมิใช่เหรอค่ะที่ดูแลรักษาคุณพี่มาตลอด"
หลวงปกรณ์วูบขึ้นมา นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ หันไปมองถ้วยยาที่เหลืออยู่ก้นชาม
"ยา..ยา..ยาที่เธอให้ฉันกินทุกวัน ทุกวัน เธอวางยา วางยาใส่ฉันมาตลอดงั้นรึแม่สร้อย ผีซาตานอะไรที่ทำให้ใจเธอโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้ หา..."
" อะไรเหรอเจ้าค่ะ ก็คุณพี่ไง ความมักมาก ตัณหา ราคะบังตาของคุณพี่ไงเจ้าค่ะที่ทำให้อิชั้นเป็นแบบนี้"
สร้อยทองเดินมาหาคุณหลวงที่พื้น ก้มลงข้างคุณหลวงที่นั่งอย่างหมดท่า จับที่ใบหน้าคุณหลวงโอบกอดคุณหลวงอย่างทะนุถนอม
" ไม่ต้องห่วงใคร หรืออะไรทั้งนั้น ทุกคนมันได้ชดใช้กรรมของมันที่ทำกับอิชั้นไว้หมดทุกคน รวมถึงอีนังดอกแก้วด้วย มันก็กำลังจะได้ชดใช้สิ่งที่มันทำ สิ่งที่มันแย่งไปจากอิชั้น คุณพี่ไม่ต้องห่วง แต่นี้ต่อไป คุณพี่จะต้องอยู่กับอิชั้นคนเดียว อิชั้นจะดูแลคุณพี่ เราสองคนจะอยู่ด้วยกัน โดยไม่มีไอ้อีหน้าไหนมาขวางได้"
"สร้อยทอง เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้ รู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่"
อ่านต่อตอนที่ 32