ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 24
ศรีเปิดประตูเข้ามาในห้อง สีหน้าตื่นตระหนก สร้อยทองหันมา
"หายไปไหนกันหมดทั้งบ้านฮะศรี ฉันเรียกหาใครก็ไม่มีใครโผล่"
ศรีอึกอัก
"อยู่หลังบ้านกันเจ้าค่ะ"
"ไปซุกกันอยู่ทำไมหลังบ้าน งานการไม่มีทำกันแล้วหรือ หรือว่าฉันเห็นใจดีมากเกินไป ก็เลยพากันขี้เกียจสันหลังยาว"
ศรีรีบบอก
"ไม่ใช่เจ้าค่ะคุณสร้อย ศรีกับนังพวกบนตึกลงไปดูนังเอี้ยงมาเจ้าค่ะ มันตายแล้วเจ้าค่ะคุณสร้อย"
สร้อยทองตกใจ
"อะไรนะ แกว่าอะไร"
"นังเอี้ยงมันโดนรถชนตายเจ้าค่ะ"
สร้อยทองตกใจ
เชตฉีดน้ำล้างกระโปรงหน้ารถ พลางฮัมเพลงขัดถูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เน้นตรงกันชนมากเป็นพิเศษ สารภีเดินลับๆ ล่อๆ มา เชตหันไปเห็นก็รีบฉีดน้ำใส่
"จะมาอาบน้ำด้วยกันเหรอจ๊ะ เมียจ๋า"
สารภีถลึงตาใส่ แล้วรีบเดินเข้ามาหา
"อย่ามาเรียกฉันอย่างนี้น่ะไอ้เชต"
เชตหัวเราะ แล้วล้างรถต่อ สารภีมองซ้ายขวาแล้วกระซิบถาม
"งานแกเรียบร้อยแล้วใช่ไหม"
เชตยิ้มร้าย
"ผลงานก็นอนตายอยู่ที่แคร่หลังบ้านนั่นไงครับ คุณสารภีไปดูเอาก็แล้วกัน"
สารภีโล่งอก แล้วรีบจ่ายเงินให้
"แกรีบเอารถไปซ่อมอย่าให้มีรอยชนหลงเหลืออยู่เป็นอันขาด ไม่งั้นเราสองคนเดือดร้อนแน่"
ดอกแก้วค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นที่เรือน เทพไทที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ รีบขยับเข้ามาดูอย่างดีใจ
"คุณดอกแก้ว ฟื้นแล้วเหรอครับ"
ดอกแก้วมองรอบๆ ตัวอย่างงงๆ ที่กลับมาอยู่ห้องได้ พอทบทวนอะไรได้ก็ผวาเฮือกจะลุกขึ้น
"เอี้ยง !"
ดอกแก้วจะลุกไป แต่เทพไทกอดเอาไว้
"ผมว่าคุณนอนพักก่อนดีกว่า"
"ไม่ค่ะ ฉันไปดูเอี้ยง ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณเทพไท"
"เอี้ยงไม่อยู่แล้วล่ะครับ ผมให้โรงพยาบาลมารับศพไปเก็บไว้ที่นั่น รอให้ญาติมารับ"
ดอกแก้วได้ยินคำว่าศพก็ทรุดลง หมดแรงอีกครั้ง น้ำตาไหลเป็นสาย
"แสดงว่า...แสดงว่าเอี้ยง...ตาย...แล้วจริงๆ เหรอคะ"
เทพไทมองหน้าดอกแก้วอย่างเห็นใจแล้วพยักหน้า ดอกแก้วปล่อยโฮออกมาทันที
"ฉันไม่อยากเชื่อเลย ฉันไม่อยากเชื่อ"
"ทำใจดีๆ ไว้นะครับคุณดอกแก้ว"
"เอี้ยงเป็นเพื่อนคนเดียวของฉัน ถ้าไม่มีเอี้ยงฉันก็ไม่เหลือใครแล้วจริงๆ"
เทพไทโอบกอดดอกแก้วที่สะอึกสะอื้นไว้ในอ้อมแขน
"คุณยังมีผมดอกแก้ว ผมจะอยู่กับคุณเอง"
เทพไทกอดดอกแก้วที่ร้องไห้ตัวสั่น ไม่ทันได้ยินเสียงสร้อยทองเดินขึ้นมา
สร้อยทองเปิดประตูเข้ามา แล้วหยุดชะงัก เพราะเห็นภาพลูกชายกอดกับดอกแก้วอยู่
"ดอกแก้ว"
ดอกแก้วชะงักหันไปมอง เห็นสร้อยทองก็ตกใจ รีบผละออก
สร้อยทองเม้มปากแน่น เดินตรงเข้ามาหา แล้วตบฉาด
"คุณแม่ !"
สร้อยทองหมดความอดทน
"นังผู้หญิงไม่มียางอาย ! เกิดเรื่องขนาดนี้ ยังจะกล้าทำเลวๆ อย่างนี้อีกเหรอ หน้าด้าน"
ดอกแก้วตั้งตัวไม่ติด โดนสร้อยทองตบฉาดๆ ด้วยความโกรธ เทพไทรีบเข้าไปรวบสร้อยทองไว้
"อย่าครับคุณแม่ อย่า !"
"ปล่อยแม่ แม่จะสั่งสอนมัน"
สร้อยทองสะบัด ดอกแก้วรีบยกมือไหว้
"มันไม่ใช่อย่างที่คุณสร้อยคิดนะคะ"
"ฉันเห็นอยู่กับตา ยังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอดอกแก้ว ! เธอคิดว่าฉันไม่รู้ไส้รู้พุงเธอหรือไงว่าจ้องจับลูกชายฉันมานานแค่ไหนแล้ว !"
ดอกแก้วตกตะลึงกับความเกรี้ยวกราดของสร้อยทอง
"ที่ผ่านมา ฉันพยายามจะอดทนเมตตากับเธอ เพราะเห็นว่าเธอเป็นคนโปรดของคุณพี่ ยังไงความรักของคุณพี่ก็คงจะกล่อมเกลาให้เธอมีสติบ้าง แต่คนอย่างเธอมันคงตัณหาจัด ถึงไม่ยอมรามือจากตาเทพเสียที"
"ไม่ใช่นะครับคุณแม่ คุณแม่กำลังเข้าใจผิด"
"นี่แกก็เป็นไปกับเขาอีกคนอย่างนั้นเหรอ มันใช้มารยาอะไรกับแกถึงได้หลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ฮะตาเทพ !"
"คุณสร้อยเจ้าขา แก้วไม่ได้ทำอย่างที่คุณว่าเลยนะคะ แก้วไม่เคยแม้แต่จะคิด แก้วรู้ตัวเสมอว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร"
อ่านต่อหน้าที่ 2
ดอกซ่อนชู้ ตอนที่ 24 (ต่อ)
ดอกแก้วร้องไห้โฮ ยกมือไหว้จะก้มลงกราบ แต่สร้อยทองกระทืบเท้าลงที่มือ
"ไม่ต้องมาเสแสร้งกับฉัน"
"คุณแม่ ! อย่านะครับผม ขอร้อง"
เทพไทกอดขาสร้อยทองไว้
"ถ้าคุณแม่จะโกรธ ก็มาลงที่ผมดีกว่า เพราะคุณดอกแก้วไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเป็นคนพาเธอมาที่นี่เอง"
"ตาเทพ"
"คุณดอกแก้วเป็นลมไปตอนที่ออกไปดูศพของเอี้ยง ผมมาดูแลเธอ เพราะคนอื่นๆ ก็มีธุระวุ่นวายเรื่องเอี้ยงกันหมด"
"แล้วทำไมจะต้องกอดกัน"
เทพไทก้มหน้าหลบสายตา
"คุณดอกแก้วกำลังเสียใจเรื่องเอี้ยง ผมก็แค่อยากปลอบ ไม่ได้มีเจตนาอื่น ถ้าคุณแม่จะไม่พอใจ ก็ไม่พอใจที่ผมล่วงเกินเธอเถอะครับ"
สร้อยทองมองเทพไทอย่างขวางๆ ที่เทพไทปกป้องห่วงใยดอกแก้วมาก พอหันไปมองเห็นก็ดอกแก้วนั่งสะอื้นเช็ดน้ำตา
"ฉันไม่รู้ว่าเธอทำอีท่าไหน ถึงได้สนตะพายตาเทพให้หน้ามืดตาบอดได้ขนาดนี้ แต่จำไว้นะดอกแก้ว เธอจะไม่มีวันได้ลูกชายฉันไปครองเป็นอันขาด ต่อให้ฉันต้องเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก ฉันก็จะทำเพื่อขัดขวางเธอ !"
สร้อยทองพูดกับดอกแก้วอย่างชิงชังแล้วเดินออกไป
ดอกแก้วสะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้นด้วยความเสียใจที่ถูกเข้าใจผิด เทพไทอยากจะเข้าไปปลอบแต่ก็ละล้าละลัง ได้แต่มองตามแม่ด้วยความกลุ้มใจ
สร้อยทองเดินจ้ำๆ ออกมาจากเรือนดอกแก้วด้วยความโกรธ แล้วหยุดนิ่งตั้งสติ สายตาเหลือบไปเห็นกอดอกซ่อนชู้ ก็เดินตรงไปกระชากดอกไม้ขึ้นมา
"นังคนกินบนเรือนขี้รถหลังคา"
สร้อยทองขยี้ดอกไม้ในมือจนแหลก แล้วกระทืบใส่กอดอกซ่อนกลิ่นด้วยความแค้นใจ
เทพไทเคาะประตู แล้วเปิดประตูเข้ามา เห็นสร้อยทองนั่งหันหลังให้
"คุณแม่ครับ"
สร้อยทองค่อยๆ หันหน้ามา เห็นน้ำตาเต็มตา
"เทพทำกับแม่อย่างนี้ได้ยังไง เทพก็รู้ว่าความหวังของแม่ ก็คือได้เห็นลูกออกเรือน มีครอบครัวกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมอย่างคุณรัศมีดารา (สะอื้น) แต่เทพกลับไปพัวพันกับคนมีราคีอย่างดอกแก้ว
"ผมกับคุณดอกแก้วไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ นะครับคุณแม่"
"ตอนนี้ยังไม่มี แต่ต่อไปก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะ"
เทพไทนิ่งเงียบ คอตก
"เทพบอกแม่มาตรงๆ สิว่าเทพไม่ได้คิดอะไรดอกแก้วเลยแม้แต่น้อย พูดให้แม่สบายใจสิลูก"
เทพไทก้มหน้านิ่ง พูดไม่ออก สร้อยทองเข้าไปเขย่าตัว
"พูดสิเทพ ถ้าเทพยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรกับมันก็ต้องพูดออกมา"
"ผม..."
สร้อยทองมองเทพไทอย่างผิดหวัง ปล่อยมือออก
"เทพพูดไม่ได้ เพราะเทพรักมันไปแล้วใช่ไหม ทำไมลูก ทำไมถึงได้ทำอย่างนี้ ทำไม"
สร้อยทองร้องไห้คร่ำครวญทุบตี เทพไทเอาแต่ยืนนิ่งอย่างรู้สึก
"เทพทำลายความหวังของแม่ อยากฆ่าแม่ให้ตายคามือใช่ไหม ลูกเนรคุณ"
สร้อยทองทุบเทพไทแล้วก็ร้องไห้ฟุบอยู่กับอก เทพไทสงสารแม่ แต่ก็สงสารตัวเอง
"คุณแม่ครับ ผมขอโทษ"
เทพไทประคองสร้อยทองที่สะอื้นตัวโยนไว้ สร้อยทองสะอึกสะอื้นซักพักก็พยายามหยุดร้องไห้
"คำขอโทษของลูกมันไม่มีความหมายหรอก สิ่งเดียวที่เทพจะทำได้ก็คือเทพต้องแต่งงานกับคุณรัศมีดาราให้เร็วที่สุด ถ้าไม่อย่างนั้นก็เท่ากับเทพฆ่าแม่ให้ตายทั้งเป็น"
เทพไทขบกรามแน่นอย่างกดดัน
รถของหลวงปกรณ์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เชิดรีบลงจากรถมาเปิดประตูให้
คุณหลวงสีหน้าซีดเซียวค่อยๆ ก้าวลงจากรถอย่างยากลำบาก มีเชิดเข้าไปประคอง หลวงปกรณ์ไอโขลกๆ อยู่ตลอดเวลา สีหน้าดูอ่อนแรงๆ เพลียๆ
"ทำไมบ้านถึงได้เงียบเชียบนัก ผู้คนไปไหนกันหมด"
"คุณสร้อยทองคงจะอยู่บนตึกขอรับ"
"แล้วพวกบ่าวไพร่มันไปไหนกัน ไม่เห็นโผล่หน้ามาทำงาน"
"คงจะวุ่นวายเรื่องนังเอี้ยงอยู่ขอรับ เอ้อ เมื่อเช้า...นังเอี้ยงมันโดนรถชนตายขอรับ"
หลวงปกรณ์หันมองเชิดอย่างตกใจ
เวลากลางคืน หลวงปกรณ์นั่งมองดอกแก้วแต่งชุดดำ กำลังเก็บข้าวของของเอี้ยงที่ทิ้งไว้ที่เรือนใส่ตะกร้า สีหน้าเศร้าสลด
"ฉันเสียใจด้วยนะดอกแก้ว"
ดอกแก้วเม้มปาก กลั้นน้ำตา แต่ก็อดร้องไห้ออกมาไม่ได้
"เอี้ยงเป็นเพื่อนคนเดียวของแก้วที่นี่ ไม่มีเอี้ยงแล้วแก้วก็ไม่รู้จะอยู่ได้ยังไงคะ"
"แต่เธอยังมีฉันอยู่นะดอกแก้ว ถ้ามีปัญหาหรือต้องการคำปรึกษา ขอให้เธอนึกถึงฉันเป็นคนแรก ไม่ต้องเกรงใจนะ"
"ขอบคุณค่ะคุณหลวง"
ดอกแก้วก้มลงกราบหลวงปกรณ์อย่างซาบซึ้ง
อ่านต่อตอนที่ 25