xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 25

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 25

ภูมิมองนาฬิกาข้อมือ เดินกระวนกระวายไปมาหน้าห้องฉุกเฉิน ภัทรนั่งหน้าเครียด
 
ประกายฟ้านั่งกดมือถือเล่นเกมแก้เซ็ง ถวิลถือถุงน้ำดื่มมายื่นให้ภูมิกับภัทร ทั้งสองส่ายหน้าไม่ยอมกินอะไร ประกายฟ้ากวักมือเรียกถวิล
“เอามานี่ ฉันกำลังหิวน้ำอยู่พอดีเลย”
พยาบาลเปิดประตูเดินออกมาหาภูมิ
“คุณหมอ ให้มาเชิญญาติคุณสราญไปพบที่ห้องค่ะ”
“ไปครับคุณพ่อ”
“ให้ฟ้าไปด้วยนะ”
“เขาให้เฉพาะญาติเท่านั้น”
“แต่ฟ้าเป็นญาติ เป็นลูกสะใภ้ที่คุณแม่รักมาก แล้วฟ้าก็เป็นห่วงคุณแม่มากค่ะ”
“เอาเถอะๆ อยากไปก็ไปละกัน ไปเร็วลูก”
ภัทรกับภูมิ รีบเดินออกไป ประกายฟ้าแอบยิ้มสะใจ ตามไปที่ห้อง หมอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ประกายฟ้านึกในใจ
"ลงได้เชิญมาขนาดนี้ รับรองได้ว่าแกไม่รอดแน่"
“จากการทำซีทีสแกน คนไข้มีเลือดออกในสมองเพราะอุบัติเหตุ ทำให้มีเลือดคั่งในสมองบางส่วน และทำให้สลบไป”
ภูมิกับภัทรหันไปสบตากัน ใจคอไม่ดี ประกายฟ้ายิ้มดีใจ
“แล้วเขาจะหายเป็นปกติไหม”
“แล้วเมื่อไหร่คุณแม่ผมจะรู้สึกตัวครับ”
“อันนี้ตอบยาก เพราะต้องดูตามอาการในแต่ละวัน”
“แล้วเขาจะตายไหมคะ”
ภูมิกับภัทรหันไปมองประกายฟ้าเป็นตาเดียว ประกายฟ้ายิ้มแหย
“หนูถามก็เพราะเป็นห่วงคุณแม่ ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นเลยนะคะ”
“คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ เพราะตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตราย”
ประกายฟ้าเริ่มใจคอไม่ดี
“ตอนนี้คนไข้มีสิทธิ์ที่จะหาย หรือกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราได้”
“ไม่เป็นไรครับคุณหมอ เขาจะกลับมาในสภาพไหนผมไม่สนใจ ขอแค่ให้เขามีชีวิตที่จะอยู่กับเราก็พอ”
ภูมิน้ำตารื้นมองภัทรซาบซึ้ง
“ตอนนี้เราจะรักษาด้วยการใช้ยาเพื่อรอดูอาการไปก่อน ถ้าโชคดี เลือดที่คั่งอยู่ลดน้อยลง ก็ไม่ต้องผ่าตัด และคนไข้จะดีขึ้นได้ก็เพราะการดูแล และกำลังใจดีๆ จากทุกคน”
ประกายฟ้าครุ่นคิดหนักใจ

สราญถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินเพื่อไปพักห้องผู้ป่วยใน ทุกคนหันไปมอง
“คุณสราญ ออกมาแล้ว”
รามนรีวิ่งเข้าไป
“คุณนาย”
รามนรีเดินตามรถเข็นไป สราญนอนสลบไสลอยู่บนเตียง มีเครื่องช่วยหายใจครอบไว้ และสายน้ำเกลือระโยงระยาย ทุกคนยืนมองสราญ โดยเฉพาะนิดที่มองสราญน้ำตาไหล ย่าจับมือสราญ เกลี่ยผมที่อยู่ตรงหน้า
รามนรีมองสราญอยู่อีกฝั่งด้วยความห่วงใย
“คุณย่า หนูจะขออยู่ดูแลคุณนาย จนกว่าท่านจะหายได้ไหมคะ”
“ได้สิ”
ภูมิกับภัทรและประกายฟ้าเดินเข้ามาได้ยินพอดี
“แต่ผมไม่อนุญาตให้ผู้หญิงคนนี้ มาอยู่ใกล้คุณแม่ผมเด็ดขาด”
ภูมิหันไปมองรามนรีไม่พอใจ
“ออกไป อย่ามาเข้าใกล้แม่ผม”
รามนรีเซ ไผทคว้าตัวไว้ได้ทัน
“ไอ้ภูมิ แกทำอะไรลงไปรู้ตัวไหมเนี่ย”
ย่าดุใส่ภูมิ
“อย่าให้มันมากไป จะทำอะไรก็ให้นึกถึงวันที่รักกันบ้าง แล้วตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ เขาก็ยังบริสุทธิ์”
“ผมไม่สน เพราะผู้หญิงคนนี้ทำกับแม่ผม ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ฟื้นขึ้นมาไหม หรือจะต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิต”
“งั้นฟ้าเองค่ะ ฟ้าจะขออาสาเป็นคนดูแลคุณแม่ให้เองนะคะพี่ภูมิ”
ภูมิพยักหน้าให้
“งั้นก็ตามใจ อย่ายอมแพ้นะแม่สราญ รีบตื่นขึ้นมาบอกความจริงให้ทุกคนได้รู้ ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำกับเธอ”
ประกายฟ้าขนหัวลุก หลบตาไม่กล้าสู้หน้าย่า
“ไปแม่เดือน กลับบ้าน”
“แต่”
“ไม่มีแต่ ในเมื่อเขาไม่อยากให้อยู่ ก็ไม่ต้องอยู่ ไปกับย่า”
ภูมิไม่สนใจ ย่าจับมือรามนรีพาเดินออกไป ถวิลแยกตัวออกไปที่จอดรถ รามนรีหันไปมองแค้นประกายฟ้า ย่าเดินนำทุกคนมาหน้าโรงพยาบาล เพื่อรอถวิลเอารถมารับ
“คุณย่าคะ”
“ว่าไงลูก”
“วันนี้ หนูรู้สึกไม่สบายใจ หนูขอตัวไปค้างที่บ้านพี่สาวสักคืนจะได้ไหมคะ”
ย่ามองหน้ารามนรีเห็นใจ และเข้าใจ
“ไปสิลูก แล้วบ้านพี่สาวอยู่ที่ไหน เดี๋ยวย่าจะไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า เดี๋ยวหนูนั่งแท็กซี่ไปเองได้”
“ไม่ได้ ไม่งั้นย่าเป็นห่วงตายเลย”
“จริงด้วยค่ะ วันนี้คุณเดือนเหนื่อยมาทั้งวัน ให้คุณท่านไปส่งนะคะ”
เภากับนิด ส่งสายตาวิงวอน
“ก็ได้ค่ะ”

ถวิลขับรถเข้ามาจอด รับทุกคนออกไป

สราญนอนนิ่งบนเตียง ภัทรนั่งจับมือสราญอยู่เก้าอี้ข้างเตียงตลอดเวลา
 
“เดี๋ยวพ่อจะดูแลแม่เขาเอง ทุกคนกลับไปพักเถอะ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ เดี๋ยวฟ้าดูแลคุณแม่ให้เอง”
“แต่พ่อไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียว เพราะพ่อรู้ว่าเขาอยากให้พ่ออยู่ดูแล”
“แต่”
ไผทไม่ไว้ใจประกายฟ้า รีบตัดบท
“ผมว่าให้คุณพ่ออยู่ดูแลคุณแม่น่ะดีแล้ว เรากลับกันเถอะ”
ประกายฟ้าเสียอารมณ์
“กลางคืนให้คุณพ่ออยู่ กลางวันผมกับประกายฟ้าจะสลับกันมาดูแลคุณแม่เอง คุณพ่อจะได้ไม่เหนื่อยมากเกินไป เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ”
ไผทถอนใจโล่งอก ประกายฟ้าครุ่นคิด ไผท ภูมิและประกายฟ้าเข้ามานั่งในรถ ไผททำหน้าที่คนขับ
“พี่ภูมิขา ฟ้าหิวข้าวมาก”
ภูมินิ่ง ไม่พูดอะไร ปรายตามองประกายฟ้า ก่อนหันไปพยักหน้าให้ไผท ประกายฟ้ายิ้มดีใจคิดว่าภูมิจะพาไปกินข้าว ไผทขับรถออกไป

เดือนฉายอยู่บ้าน ยิ้มสดใสบรรจงรดน้ำต้นไม้ มองกระถางไม้ดอกไม้ใบอย่างมีความสุข เห็นรถตู้แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน ถวิลวิ่งมาเปิดประตูรถให้รามนรีลงไป ย่าปลอบรามนรี
“ไปพักผ่อนให้สบายใจ แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมากล่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ หนูขอตัวค่ะ”
รามนรีโบกมือให้ทุกคน ถวิลขับรถออกไป เดือนฉายเห็นรามนรี ก็รีบเดินมาเปิดประตูให้
“นึกว่าใครจะมาจับตัวพี่ไปเรียกค่าไถ่ ที่แท้ก็น้องสาวเรานี่เอง”
รามนรีฝืนยิ้มให้
“เป็นอะไร ทำไมดูอมทุกข์อมเศร้ายังไงก็ไม่รู้”
“นิดหน่อยค่ะพี่ ว่าแต่วันนี้ ขอมาค้างที่นี่ด้วยคนจะได้ไหมคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะจ๊ะ มา เข้ามาก่อนเร็ว”
เดือนฉายดึงมือรามนรีเข้าไปในบ้าน

ไผทจอดรถที่หน้าร้านอาหารริมถนน ประกายฟ้ามองงงๆ
“ที่จอดรถอยู่ด้านใน ทำไมไม่เข้าไปล่ะคะ”
ไผทมองประกายฟ้าไม่พูดอะไร ก่อนหันไปมองภูมิ
“ต้องขอโทษที ผมมีธุระสำคัญต้องไปทำ ก็เลยขอส่งคุณฟ้าที่นี่ จะได้ทานข้าวให้หายหิว เชิญเลยครับ”
ประกายฟ้ามองงง ไผทรีบลงไปเปิดประตูรถให้ประกายฟ้า ผายมือเชิญ แกมบังคับ
“เชิญครับคุณฟ้า”
ประกายฟ้าจำใจเดินลงจากรถงงๆ ไผทรถขับออกไป ประกายฟ้าแทบกรี๊ด

ตอนเย็น อาหารวางเรียงรายอยู่ที่โต๊ะสนามบ้านเดือนฉาย
“ตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ทำให้พี่เริ่มคิดได้ ว่าไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเอง พี่ไม่รู้ว่าหนูเล็กมีเรื่องอะไรในใจ ถ้าอยากจะเล่าให้พี่ฟังก็เล่ามา แต่ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร แต่ที่แน่ๆ ต้องกินอาหารฝีมือพี่เข้าไปจ้ะ”
เดือนฉายยิ้มสดใส
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ ก็แค่หงุดหงิดเรื่องงานนิดหน่อย แต่ตอนนี้หายแล้วค่ะ ว่าแต่อาหารนี่ พี่ทำเองหมดเลยเหรอคะ”
“จ้ะ พี่ลองใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ลองอยู่กับตัวเอง ดูแลตัวเอง มันก็ทำให้เราสบายใจ และลืมเรื่องทุกข์ใจไปได้บ้าง”
“ดีแล้วค่ะ”
รามนรีตักอาหารชิม
“หือ อร่อยมากค่ะ”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้แกล้งชม”
เดือนฉายตักโน่นตักนี่ใส่จานให้รามนรี

ประกันกับพวงศรี ต้องเปลี่ยนชีวิตหันมาประหยัด ซื้อกับข้าวมาช่วยกันทำกินเอง
“จะว่าไป ถ้าเราคิดและทำอย่างนี้ตั้งแต่แรก ก็คงจะไม่มีวันนี้นะ”
“ผมผิดเอง ผมไม่น่าติดการพนันเลย”
“ฉันก็ไม่น่าอยากแต่จะมีหน้ามีตา บ้าซื้อโน่นซื้อนี่ แล้วยังสอนให้ลูกจมไม่ลงอีก”
“คิดได้ ก็สายเสียแล้ว”
“แต่ฉันว่า ขอแค่เราคิดได้และจะไม่กลับไปทำอย่างนั้นอีกก็ไม่มีคำว่าสายหรอก”
“คุณคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”
“ฉันเหนื่อย ที่ต้องวิ่งไล่ล่าหาเงิน หาความรวย ด้วยการหลอกคนนั้นคนนี้ พอมีเรื่องเราก็ทั้งเครียดทั้งกลัว หาความสุขไม่ได้เลย”
“ก็จริง ทุกอย่างมันมากจากความอยาก ความโลภ ไม่รู้จักพอของเราแท้ๆ”
“งั้นเราหยุดเถอะ แล้วค่อยไปหาทางทำมาหากิน เก็บเงินมาใช้หนี้เสี่ยอุดรเขา”
“ก็ดี เพราะที่ผ่านมาผมทำแต่เรื่องแย่ๆ วันนี้เราลองมาคิดดีทำดีดูสิ ว่าจะเป็นยังไง ผมว่า เราควรโทรตามยัยฟ้ามาคุยเรื่องนี้ จะได้จบๆไปเสียที”
ประกายฟ้าเปิดประตูเข้ามา

“ฟ้ามาแล้วค่ะ”

ประกายฟ้าได้กลิ่นอาหาร รีบวิ่งไปอาเจียน
 
ประกันกับพวงศรี หันไปสบตากันตกใจ พวงศรีเข้ามาลูบหลังให้ลูกสาว
“เป็นอะไรเหรอลูก”
“ก็พี่ภูมิน่ะสิคะ ชอบทำให้หนูเครียดอยู่เรื่อยเลย นี่ขนาดโกรธกับแม่นั่นก็ยัง นี่หนูเป็นอะไร ทำไมเหม็นกลิ่นน้ำมัน กลิ่นอาหารที่แม่ทำมากๆ เลย สงสัยจะเครียดลงกระเพาะ”
พวงศรีตกใจ ก่อนหันไปส่งซิกให้ประกัน

ภูมิเดินเข้ามาในห้องทำงาน นั่งคิดหน้าเครียด ไผทเดินตามเข้ามา
“ฉันว่าแกควรจะให้ความเป็นธรรมกับคุณยายให้มากกว่านี้”
“แกเลิกพูดถึงผู้หญิงคนนี้สักทีเถอะ”
“ไอ้ภูมิ”
รุ้งยกกาแฟเข้ามาเสิร์ฟ ทั้งสองหยุดคุยกัน รุ้งเห็นท่าไม่ดีรีบเดินออกไป ไผทหันมาคุยต่อ
“ฉันเห็นแกบอกว่ารักเขาแทบเป็นแทบตายแล้ววันนี้ทำไมมันตรงกันข้าม”
“แกก็ดูเขาทำกับแม่สิ มันรุนแรงเกินไปไหมล่ะ”
“แล้วถ้าเขาไม่ได้ทำล่ะ”
“เป็นไปไม่ได้ แกเป็นทนายแกน่าจะรู้ดี ว่ามูลเหตุจูงใจระหว่างยายกับประกายฟ้า ใครน่าจะเป็นคนทำกับแม่ฉันมากกว่ากัน ฉันว่าเคสนี้มันชัดเจนมาก”
“ก็ตามใจ ถ้าแกคิดอย่างนั้น”
ไผทไม่อยากพูดต่อ เดินหนีออกไป

ประกายฟ้ากรีดร้องดังลั่นบ้าน ประกันกับพวงศรี พากันวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาเคาะประตู
“ฟ้า”
ประกายฟ้าเปิดประตูออกมา ยื่นแผ่นตรวจการตั้งครรภ์ให้พวงศรีดู
“แก ท้อง”
ประกันหน้าเหวอ ประกายฟ้าเอามือจิกผมตัวเอง
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ฟ้าต้องไม่ท้องกับมัน”
“ถ้าไม่ใช่เขา แล้วแกไปท้องใคร”
ประกายฟ้าร้องไห้ฟูมฟาย เอามือทุบตีที่ท้องตัวเอง พวงศรีเข้าไปห้ามไว้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ เด็กเขาไม่ได้ทำผิดอะไร แกจะไปทำร้ายเขาทำไม”
“ไม่แม่ ฟ้าไม่ยอมให้ใครมาทำลายความหวัง ความฝันของฟ้ากับพี่ภูมิ”
“หยุด แล้วอย่าทำบาปอีกเลยนะลูก”
ประกายฟ้าร้องไห้โฮ โผกอดพวงศรี ประกันยิ่งเศร้าใจ

รุ้งกับเหมียวคุยกันอยู่ในบริษัท
“ฉันเห็นหน้าคุณภูมิกับคุญไผท เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกันเลยนะแก”
“แล้วแกรู้ไหม ว่ามันเรื่องอะไร”
“จะไปรู้ได้ยังไง ใครจะไปกล้าถามก็แกบอกให้ฉันเลิกยุ่งเรื่องเจ้านาย แล้วก็เข็ดจนตายเรื่องคุณฟ้า ที่รอดมาได้ไม่โดนไล่ออกก็บุญแล้ว”
“เป็นบุญหู และเป็นมงคลกับที่ชีวิตที่แกคิดจะเลิกสาระแนเรื่องชาวบ้าน”
“คิดแล้วยังขนลุกไม่หาย วันที่เกิดเรื่อง ฉันเห็นแววตาอาฆาตของคุณสราญ ที่แค้นคนที่โทรไปบอกคุณเดือนฉายและทำให้แผนแกแตก แกแช่งชักหักกระดูกน่าดูเลยนะแก”
เหมียวยิ้มแหย กลืนน้ำลาย
“ทำไมฉันเล่าได้สมจริงเกินไป จนแกเหมือนถูกหักกระดูกเลยเหรอ”
“คงงั้น”
“เอ๊ะ หรือว่าแก เป็นคนทำให้แผนแตก”
“เฮ้ย เกี่ยวอะไร ฉันไม่ใช่คนสาระแนเหมือนแก ฉันไม่ทำแน่”

เหมียวรีบหันหลังให้รุ้ง เดินออกไปทันที

รามนรีกับเดือนฉาย ช่วยกันล้างจาน หลังทานข้าวเสร็จ
 
“แอบเคืองเหมือนกันน่ะเนี่ย ไปงานหมั้นพี่พีก็ไม่ยอมบอกกันบ้างเลย”
“อย่าเคืองเลยค่ะ เพราะหนูเล็กเห็นพี่เดือนกำลังเฮิร์ทก็เลยไม่กล้าบอก”
“แล้วคุณอากับพี่พี จะโกรธพี่ไหมเนี่ย”
“หนูเล็กเคลียร์ให้แล้ว รับรองได้ว่าไม่โกรธแน่”
“แล้วแฟนพี่พี เป็นใครเหรอ”
“ชื่อคุณศจี เป็น เอ่อ เป็น”
“มีอะไร ทำไมต้องอึกอักเอ่ออ้าด้วยล่ะหนูเล็ก ตกลงเขาเป็นอะไร”
“เขาเป็น เป็นน้องสาวของคุณภูมิ แฟนพี่เดือนค่ะ”
เดือนฉายตกใจ ก่อนรีบกลบเกลื่อน
“ก็ดีแล้วนี่ เพราะน้องกับพี่ ใช่ว่าจะเหมือนกัน เขาคงเป็นคนดี พี่พีถึงได้เลือก”
“ใช่ค่ะพี่ คุณศจีเขาเป็นคนดีมาก”
“งั้นพี่ฝากแสดงความยินดีกับพี่พีด้วยนะ”
รามนรียิ้มให้

ประกายฟ้าร้องไห้จนตาแดงช้ำ ประกันกับพวงศรีคอยปลอบ
“ที่ผ่านมา เราสร้างเรื่องสร้างราว ทำให้คนอื่นต้องมาทุกข์ใจมาหลายครั้งแล้ว”
“และมันถึงเวลาที่เราต้องหยุดมันเสียทีนะลูก”
ประกายฟ้ามองพ่อกับแม่งงๆ
“นี่มันอะไรกัน พ่อกับแม่กำลังจะบอกอะไรหนู”
“บอกให้หยุดทำเรื่องไม่ดีกับคนอื่น”
“หะ”
“มันเป็นเรื่องจริง เพราะพ่อกับแม่แก่แล้ว ไม่อยากหนีหัวซุกหัวซุนอีกแล้ว”
“แต่หนูจะไม่ยอมหยุด”
“ยัยฟ้า”
“และไม่ต้องมาห้าม เพราะหนูจะไม่มีหยุดมันไว้แค่นี้แน่”
“ยัยฟ้า"
“ไอ้อีหน้าไหน ที่มันทำให้หนูต้องเจ็บ หนูจะต้องเอาคืนมันให้สาสม และวันนี้หนูก็เอาคืนไปแล้วหนึ่ง หนูผลักยัยสราญตกบันได ตอนนี้นอนรอความตายอยู่ที่โรงพยาบาล”
ประกันกับพวงศรีหันไปสบตากันตกใจ ประกายฟ้ายิ้มสะใจมองพ่อกับแม่
“และต่อไปก็เป็นคิวของอีนังเดือนฉาย ส่วนเรื่องมารหัวขนนี่ก็ไม่มีปัญหา หนูจะไปเอามันออก”
“แม่ขอร้อง อย่าสร้างเวรสร้างกรรมอีกเลย เพราะการทำแท้งก็คือการฆ่าคน มันบาปมากนะลูก”
“ใช่ ไหนๆ เขาก็มาเกิดกับเราแล้ว ให้โอกาสเขาได้มีชีวิต แล้วพ่อกับแม่จะดูแลเขาให้เอง”
“เราคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะค่ะ ถ้าพ่อกับแม่คิดอย่างนี้ เราก็คงต้องต่างคนต่างอยู่ หนูจะแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวหนูเอง ขอตัวค่ะ”
ประกายฟ้าเดินออกไป พวงศรีกับประกันหน้าเศร้า
“ฉันผิดเอง ที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้”
“แล้วเราจะทำยังไง ถึงจะหยุดยัยฟ้าได้”

ทั้งสองเครียด

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 25 (ต่อ)

กลางคืน รามนรีกับเดือนฉายนอนคุยกัน ก่อนนอนคว่ำหน้า เอามือเกยคางหันหน้าคุยกัน
 
“จำได้ไหม ท่านี้คือท่าประจำของเราสมัยเรียน”
“จำได้เสมอค่ะ พี่เดือนคะ”
“หือ”
“พี่เดือนยังรักและเชื่อใจหนูเล็กอยู่ไหม”
“โห เราคบกันมาตั้งเท่าไหร่ ต้องเชื่อใจสิ”
“ดีแล้วล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ขอให้พี่มั่นใจว่าหนูเล็กจะไม่มีวันทำให้พี่เสียใจ ไม่มีวันทรยศความดีความมีน้ำใจของพี่ เพราะพี่ คือผู้มีพระคุณค่ะ”
เดือนฉายมองรามนรีขำๆ
“อะราย จู่ๆ ก็มาดราม่าซะงั้น”
รามนรียิ้มแหย
“นี่ได้เวลานาฬิกาชีวิตแล้ว นอนกันเถอะนะ มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
“กูดไนท์ค่ะ”
เดือนฉายดึงผ้ามาห่มให้รามนรี รามนรีมองซาบซึ้ง

ภูมิกับไผท นั่งดื่มอยู่ในผับหรู เห็นเสี่ยอุดรเดินเข้ามาdHรีบยกมือไหว้
“โอ้โห วันนี้ลงทุนโทรตามพี่มา ดูท่าจะยาว”
“น่าจะใช่ เพราะวันนี้เขาอาการโคม่ามาก”
เสี่ยอุดรเลิกคิ้ว ก่อนเข้าไปโอบไหล่ภูมิ ที่เริ่มมึน มองเสี่ยอุดรหน้าเครียด
“มีอะไรให้พี่ช่วยแบ่งเบาได้ไหม”
“ขอบคุณครับ แค่พี่มาผมก็ดีใจ ผมไม่กล้ารบกวนอะไรพี่หรอกครับ”
“เฮ้ย รบกงรบกวนอะไร ยังไงเราพี่น้องกัน แล้วพี่ก็อาบน้ำร้อนมาก่อน เจ็บมาเยอะ.มีอะไรก็ปรึกษาได้ห้ามเกรงใจเด็ดขาด เดี๋ยวพลาดแล้วจะเสียใจ”
“ตอนนี้ชีวิตผมดราม่ามาก แม่ผมถูกเมียผลักตกบันได แล้วไหนจะโดนยัยประกายฟ้า ใช้ช่วงเวลาตอนที่ผมเมามากพาผมไปที่บ้าน แล้วหาว่าผมมีอะไรกับเขา ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ทำ”
“โดนเข้าแล้วสิ”
ไผทมองเสี่ยอุดร
“พี่เคยรู้จักเขาด้วยเหรอครับ”
“รู้สิ แล้วรู้ดีซะด้วย”
“ผมว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา”
“แน่นอน แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะหาทางช่วยภูมิเขาเอง”
“จริงเหรอครับพี่ พี่มีวิธีอะไร บอกผมได้ไหมครับ”
เสี่ยอุดรเบ้ปากยักไหล่ให้ไผท
“ถ้าบอกไปก็ไม่สนุกน่ะสิ”
ไผทพยักหน้ายิ้มให้เสี่ยอุดร

กลางคืน ประกายฟ้านั่งเปิดไดอารี่ที่จดบันทึกไว้ เพื่อนับวัน
“วันที่เราเสี่ยท่าให้เสี่ยนั่น กับวันที่เราแบล็คเมล์พี่ภูมิ ห่างกันตั้งเยอะ แต่เคยได้ยินว่าท้องแรกและท้องสาว มันจะเล็กมากนี่นา ใช่ เราต้องเอาเด็กคนนี้ไว้ และเดินหน้าจัดการอีนังตัวปลอมต่อไป”
เสียงแตรรถดังที่หน้าบ้าน ประกายฟ้าชะโงกมอง ยิ้มดีใจ
“พี่ภูมิกลับมาแล้ว”

ประกายฟ้าคว้าเสื้อคลุมที่ดูเซ็กซี่มาสวมทับ ก่อนเดินไปที่หน้ากระจกหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดที่ซอกคอ มองกระจกยิ้มปลื้ม

รามนรีนอนกระสับกระส่ายไปมา ลุกขึ้นนั่งมองหน้าเดือนฉายที่นอนหลับอยู่ข้างๆ
 
ก่อนลุกเดินออกไปมองนอกหน้าต่างครุ่นคิดถึงเรื่องภูมิตบเธอเพราะคิดว่าเธอเป็นคนผลักสราญตกบันได พร้อมกับไล่เธอให้ไปไกลๆ รามนรีเครียด

ถวิลวิ่งมาเปิดประตูรั้วให้ ภูมิเดินเซลงมาจากรถ แต่ยังมีสติ
“ไหวไหมครับคุณภูมิ”
“เดินไหว แต่ขับรถไม่ไหว เพราะไม่เอา เมาไม่ขับครับพี่หวิน”
“ไปครับ คุณภูมิ”
“ดูมันอวดเก่ง”
“เฮ้ย ไอ้ไท แกกลับไปได้แล้ว วันนี้ฉันมีสติ ไปเองได้ ไม่ต้องหิ้วปีกโว้ย”
ภูมิเดินเซเข้าไปในบ้าน เอื้อมมือจะไปเปิดประตู แต่ประกายฟ้าชิงเปิดออกมา ยิ้มร่าให้
“พี่ภูมิ กลับมาแล้วเหรอคะ”
“นี่คุณยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ก็รอพี่ภูมิอยู่นี่ไงคะ ไปค่ะเราไปนอนด้วยกันนะ”
ภูมิผลักประกายฟ้าจนล้มไป
“ไม่ต้อง”
ประกายฟ้ามองภูมิไม่พอใจ
“คุณคิดว่าผมจะหลงกลคุณอีกครั้งหรือไง ไม่มีทาง”
ภูมิเดินโซเซ ขึ้นบันไดไป ประกายฟ้าพยายามระงับอารมณ์ ภูมิเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นไฟมืดมิด เอื้อมมือไปเปิดไฟ กวาดตามอง
“คุณ คุณ”
ภูมิเดินไปเปิดห้องน้ำดู
“เขาไปไหนของเขา”
“คงอยู่ไม่ได้ คงจะหนีตายไปแล้วล่ะค่ะ”
“คุณมีสิทธิ์อะไร มาว่าเมียผม ถึงผมจะโกรธเขา แต่ผมก็ยังรักเขานะคุณ”
“พี่ภูมิลืมไปแล้วรึไง ว่าเขาทำอะไรกับแม่พี่”
“ผมไม่ลืมหรอก แต่ผมอยากให้คุณลืม และเลิกคิดไปเลยว่าเราจะได้แต่งงานกัน ต่อให้ไม่มีเขา เรื่องของเราก็เป็นไปไม่ได้”
ภูมิเดินเข้าไปดึงตัวประกายฟ้า แล้วผลักออกไปจากห้อง ปิดประตู แล้วกดล็อคห้องทันที ภูมิเดินโซเซ มาทิ้งตัวลงนอนที่เตียงแผ่หรา สลบเหมือด ประกายฟ้าจับลูกบิดหมุนไปมา
“ก็ได้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
ประกายฟ้าโมโหจนตัวสั่น ยืนอาฆาตอยู่หน้าห้อง

จอสกับผสานดื่มกินเสร็จ พากันเดินมาที่จอดรถ เสียงโทรศัพท์ผสานดัง
“ดึกดื่นป่านนี้ใครโทรมาวะ”
“นายหัวไปมีกิ๊กที่ไหน หรือไปรับปากจะจ่ายค่าเทอมให้ใครบ้างไหมนิ”
“ไม่มี แล้วเบอร์นี้กูก็ไม่เคยให้ใครนี่หว่า หรือว่า”
ผสานตาโตดีใจรีบกดรับ
“สวัสดีครับ ผมผสานพูดครับ”
“สวัสดีค่ะคุณผสาน ฉัน ประกายฟ้า นะคะ ยังจำกันได้อยู่ไหมเอ่ย”
“คนสวยๆ อย่างคุณฟ้า ทำไมผมจะจำไม่ได้ล่ะครับ”
ประกายเบ้ปากใส่
“เรื่องที่คุยกันไว้ ฟ้าไม่ได้ลืมและไม่ได้หายไปไหนนะคะ อีกสามวันแสตนด์บายไว้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงฉันจะโทรไปแจ้งนะคะ แค่นี้นะ”
ผสานกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ
“ฝันกูเป็นจริงแล้วนะไอ้จอส”
จอสพยักหน้าหงึกๆ

ตอนเช้า รามนรีลงมาทำกับข้าวจนเสร็จ ก่อนออกไปรดน้ำต้นไม้ให้เดือนฉาย
“ไม่เจอกันนานเท่าไหร่ หนูเล็กก็ยังตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะ”
“ก็มันชินแล้วนี่คะ”
“อ้าว นี่อาบน้ำแต่งตัวแล้วเหรอเนี่ย”
“ค่ะ แล้วก็ทำอาหารไว้ให้ เพราะหนูเล็กต้องรีบกลับไปทำงานค่ะ”
“รอพี่อาบน้ำแป๊บได้ไหม เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งเอง”
“ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง พี่เดือนพักผ่อนให้สบาย หนูเล็กไปเองได้ค่ะ”
“งั้นถ้ามีเวลา ก็มาหาพี่บ่อยๆ นะ”
“ค่ะ”

เดือนฉายสวมกอดรามนรี

ประกายฟ้ารีบมาที่ครัวบ้านย่า เพื่อหาข่าวว่ารามนรีหายไปไหน
 
“นิด เธอรู้ไหมว่าคุณเดือนเขาหายไปไหน ทำไมไม่กลับบ้าน”
“ไม่ทราบค่ะ”
นิดเดินหนีไป ประกายฟ้าแปลกใจ
“มันเป็นอะไรของมัน วันก่อนก็ยังดีๆ กันอยู่เลย ว่าไง เธอรู้ไหม”
ประกายฟ้าหันไปถามเภา
“ถึงรู้ก็ไม่บอกค่ะ”
“อุตะ นี่มันคนใช้หรือเจ้านายกันแน่ยะ ทำไมเชิ่ดหยิ่งกันขนาดนี้”
ประกายฟ้าเบ้หน้าใส่

รามนรีเดินเข้ามาในบ้าน เห็นภูมิขับรถออกมากับประกายฟ้า ภูมิทำเป็นไม่สนใจ ขับเลยไป ต่างจากประกายฟ้าที่หันโบกไม้โบกมือ ยิ้มเยาะให้ รามนรีหน้าเศร้า

เดือนฉายนั่งอ่านหนังสือที่หน้าบ้าน ไผทเดินเข้ามาหา
“คุณไท มาช้าไปนิด ไม่งั้นจะได้แนะนำให้รู้จักยัยหนูเล็กน้องสาว เมื่อคืนเขามานอนที่นี่ เพิ่งกลับไปตะกี้เองค่ะ”
“เหรอครับ น่าเสียดายจัง”
“ใช่ค่ะ น่าเสียดาย เพราะเดือนอยากจะให้คนดีสองคนได้มาเจอกัน เดือนจะขออาสาทำหน้าที่แม่สื่อให้นะคะ”
“โห นี่คิดจะหาแฟนให้ผมเหรอครับเนี่ย”
“ก็น้องสาวเดือนเขาเป็นคนดี เหมาะสมกับคุณไท ที่สำคัญเขายังไม่มีแฟนค่ะ”
“เหรอ แล้วพี่สาวล่ะครับ มีแฟนรึยัง”
“มีไม่ไหว ยังเข็ดอยู่เลยค่ะ ว่าแต่คุณไทมีธุระอะไรรึเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไร ผมก็แค่เป็นห่วง พอมีเวลา ก็เลยแวะมาดู”
เดือนฉายแอบใจสั่น
“แล้วก็จะมาบอกข่าวเรื่องเจ้าภูมิ ว่าตอนนี้แม่เขาไม่สบายหนักมาก ก็เลยเครียดมาก อาจจะไม่มีเวลามาตามง้อคุณเดือนให้ใจอ่อนอีก”
“เขาควรจะเอาเวลาไปดูแลแม่จะดีกว่ามาเสียเวลากับเดือน”
“คุณเดือนก็อย่าใจแข็งนักสิครับ ยังไงก็ลองให้โอกาสเขาบ้าง”
เดือนฉายไม่พูดอะไร ได้แต่ถอนใจเครียด

ภูมิพาประกายฟ้ามาเฝ้าอาการสราญที่โรงพยาบาลแทนภัทร
“แม่เป็นยังไงบ้างครับพ่อ”
“ก็ยังนอนนิ่งเหมือนเดิม”
“อะไรกัน ตั้งสามวันแล้ว ยังไม่มีอะไรดีขึ้นมาอีกเหรอ”
“ของอย่างนี้คงต้องใช้เวลา อีกไม่นานพ่อคิดว่าแม่น่าจะดีขึ้น”
ประกายฟ้ายิ้มเยาะ คิดในใจ
"ฝันไปเถอะว่ามันจะดีขึ้น"
“ยังไงฝากถามความคืบหน้าของอาการกับคุณหมอด้วยนะหนูฟ้า”
“ค่ะคุณพ่อ”
“ผมไปก่อนนะ”

ภูมิกับภัทรเดินออกไป ประกายฟ้ามองสราญตาขวาง

ประกันกับพวงศรีนั่งคุยกับเสี่ยอุดรที่บ้าน
 
“พวกคุณโทรตามผมมาทำไม มีเรื่องสำคัญอะไร ถึงคุยทางโทรศัพท์ไม่ได้ จะมาไม้ไหนกันอีก”
“ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะบอก เสี่ยมีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้”
“ฉันกับคุณประกัน อยากจะขอโทษจากใจอีกครั้ง และไม่ได้หวังว่าเสี่ยจะยกโทษให้”
“มีเรื่องอะไรก็รีบว่ามาเถอะ ผมงงไปหมดแล้วเนี่ย”
“ยัยฟ้าท้องกับเสี่ย”
เสี่ยอุดรหันขวับไปมองหน้า
“หะ เป็นไปได้ไง ลูกคุณไปมั่วกับใครมาก่อนหน้าผมรึเปล่า”
พวงศรีทั้งเจ็บและจุก จำใจยอมรับสภาพ น้ำตาไหล
“เพราะฉันเลี้ยงลูกไม่ดีเอง ฉันบังคับให้เขาทำแต่เรื่องแย่ๆ จนเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง”
ประกันถอนใจ โอบปลอบพวงศรี
“วันนี้ เราจำเป็นที่ต้องให้เสี่ยรับรู้ เพราะเด็กที่อยู่ในท้องยัยฟ้า เขาบริสุทธิ์ เขาไม่ได้ทำผิดอะไร พวกผมต่างหากที่ผิด”
“ที่ฉันร้อนใจ เพราะยัยฟ้าไม่ยอมฟัง เขายืนยันจะไปเอาเด็กออก”
“ไม่ได้นะไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกผมหรือไม่ ผมก็จะขอชีวิตเขาไว้ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน เราจะไปตามเขาด้วยกัน”
ประกันกับพวงศรีมองเสี่ยอุดร ซาบซึ้ง น้ำตารื้น

ภูมิขับรถออกจากโรงพยาบาลมาส่งภัทรที่บ้าน
“ไม่ลงไปหาคุณย่าด้วยกันหน่อยเหรอลูก”
“ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปเซ็นเอกสารที่ออฟฟิศ แล้วจะเลยไปหาคุณแม่”
รามนรีเดินออกมา เห็นภูมิกับภัทร
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
ภัทรไม่สนใจรามนรี รีบเดินออกไปบ้านย่า ภูมิขับรถผ่านหน้ารามนรีออกไป ไม่สนใจ รามนรีเศร้า

หมอเข้ามาดูอาการสราญ แล้วสรุปอาการให้ประกายฟ้าฟัง
“ความดัน ชีพจรปกติ ไม่มีอะไรน่าห่วง แล้วเลือดคลั่งที่อยู่ในสมอง เรารักษาด้วยวิธีการใช้ยา จนมีขนาดลดลง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด”
“ค่ะ แล้วเขาจะฟื้นไหม”
“หมอตอบไม่ได้ เพราะเรื่องนี้อยู่ที่คนไข้ แต่เท่าที่ดูจากอาการก็มีแน้วโน้มที่ดี และมีสัญญาณว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาได้ หมอขอตัวนะครับ”
หมอกับพยาบาลเดินออกไป ประกายฟ้าหันขวับมองสราญ ตาขวาง
“เสียใจด้วยนะ เพราะฉันไม่มีทางจะให้แกฟื้นขึ้นมาแน่”

ประกายฟ้าหันไปมองหมอนใบใหญ่ ยิ้มเหี้ยม
 
จบตอนที่ 25 


กำลังโหลดความคิดเห็น