เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 27 อวสาน
ตอนเช้า รามนรีทำข้าวต้มเครื่อง เป็นอาหารมื้อเช้า นิดกับเภา ถวิล เดินเข้ามา นิดถามทันที
“มื้อนี้ ทำอะไรให้คุณท่านคะ”
“ข้าวต้มเครื่องจ้ะ จะได้เอาไปให้คุณนายท่านด้วยเลย”
“แล้วคุณไม่โกรธคุณสราญที่เคยทำไม่ดีกับคุณเลยเหรอคะ”
“ไม่เลยจ้ะ เพราะสิ่งที่ฉันทำ มันก็ทำให้เขาเข้าใจไปอย่างนั้น จะโกรธท่านไม่ได้”
นิดซาบซึ้ง
“วันนี้ ฉันทำข้าวต้มเผื่อพี่ๆ เพราะวันนี้ฉันต้องไปแล้ว”
เภา นิด ถวิล หันไปมองกัน
“แล้วทำไมต้องไปด้วยล่ะครับ”
“แล้วที่หายไปกับคุณภูมิ ยังตกลงกันไม่ได้อีกเหรอคะ”
“เราไม่มีอะไรต้องตกลงกัน เพราะงานของฉันมันจบแล้ว ฉันต้องไปแล้ว”
ทุกคนถอนใจ เสียดายรามนรี นิดเริ่มอ้อนวอน
“ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ”
“ใช่ นาทีนี้ไม่มีใครอยากให้คุณไป โดยเฉพาะคุณภูมิ”
ถวิลพูดอย่างจริงใจ รามนรีหลบตา เศร้า
“ขอบใจทุกคนมากนะคะที่มีน้ำใจให้กันมาตลอด แต่ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน เมื่อถึงเวลาก็ต้องไป ไม่เอา ไม่คุยละ เดี๋ยวก็ทำอาหารไม่ทันกันพอดี”
รามนรีก้มหน้าก้มตาทำอาหารต่อ ทุกคนถอนใจ
ภูมินั่งหน้าเศร้า กอดเข่า มองกระเป๋าที่อยู่บนเตียง รามนรีเปิดประตู ถือถาดข้าวต้มของสราญ เดินเข้ามา
“คุณช่วยพาฉันไปหาคุณนายหน่อยจะได้ไหม ฉันทำอาหารมาให้ และอยากจะไปกราบขอโทษท่าน”
“ได้สิ”
รามนรีมองหน้าภูมิ ฝืนยิ้มให้
สราญนอนอยู่บนเตียง ที่ขามีผ้าพันแผลไว้ ภัทรยิ้มให้
“ไม่น่าเชื่อ ว่าคุณจะตื่นเช้าได้ คุณนอนมาเยอะแล้ว ลองลุกขึ้นนั่งหน่อยดีไหม”
ภัทรพยุงสราญให้ลุกนั่ง เอาหลังพิงหัวเตียง
“คุณสราญ ถ้าผมมีเรื่องอยากจะสารภาพ คุณจะฟังผมไหม”
ภัทรหลบตา ด้วยความรู้สึกผิด
“ที่ผ่านมาผมรู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่ผมทำมาตลอด”
“วันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ฉันเข้าใจอะไรขึ้นเยอะ คุณพูดมาเถอะนะ”
ภัทรลังเล
“ผมอยากจะขอโทษ ที่ผ่านมาผมเคยนอกใจคุณ”
สราญอึ้งไป ภัทรใจคอไม่ดี สราญถอนใจ
“อะไรที่มันผ่านมา ก็ขอให้มันผ่านไป ฉันไม่ติดใจหรอกค่ะ”
ภัทรมองภรรยา ไม่อยากจะเชื่อ
“เพราะถ้าฉันเป็นคุณ ที่มีเมียงี่เง่าเจ้าปัญหา ฉันก็คงจะหมดความอดทน และอาจจะทำอย่างคุณเหมือนกัน”
ภัทรถอนใจโล่งอก กอดสราญ
“ขอบคุณมาก วันนี้คุณทำให้ผมสบายใจ และไม่มีอะไรค้างคาใจแล้ว”
“งั้นก็ถือว่าเจ๊ากันไป แล้วมาเริ่มกันใหม่นะคะ”
เสียงเคาะประตูดัง ภูมิเปิดประตูเข้ามา โผเข้าไปกอดหอมแม่
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านเรานะครับคุณแม่”
“จ้ะ”
รามนรีถือถาดอาหารตามมา ยกมือไหว้
“แม่ขอคุยกับเดือนฉาย อุ้ยไม่ใช่สิ เธอชื่อหนูเล็กนี่นา”
รามนรียิ้มเจื่อน ใจคอไม่ดี
“แม่ขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวสักครู่นะ”
ภูมิหน้าเสีย อ้าปากจะพูดแต่ไม่ทัน ภัทรรีบมาดันหลังภูมิให้ออกไป ภูมิเป็นห่วงรามนรี เมื่อออกมาจากห้องสราญ เขาหันมาบ่นพ่อ
“คุณพ่อ ปล่อยให้เขาอยู่กับคุณแม่ได้ไง เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอก”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้แม่แกเปลี่ยนไปแล้ว ขนาดเมื่อกี้พ่อบอกเขาเรื่องมีกิ๊ก เขายังอโหสิให้เลย เขาไม่ติดใจอะไรเลย”
“เป็นไปได้ไง”
“แต่มันก็เป็นไปแล้ว”
“หรือว่า เพราะแม่ล้มหัวฟาด แล้วประสาทกลับครับพ่อ”
“จะเพราะอะไรก็ช่าง ขอแค่ให้แม่แกเป็นอย่างนี้ พ่อก็พอใจแล้ว”
“แต่ผมยังรู้สึกหวั่นๆ กลัวแม่ความจำกลับคืนมา แล้วจะวีนเขาบ้านแตกอีก”
“เอาน่า อย่าคิดมาก กรุณารอสักครู่เดี๋ยวก็รู้แล้วน่า”
ภูมิถอนใจหน้าเซ็ง
เมื่ออยู่ในห้องกันตามลำพัง รามนรีเข้าไปก้มกราบที่เท้าสราญ
“คุณนายคะ หนูกราบขอโทษ ที่ทำให้คุณนายต้องเป็นอย่างนี้ ถ้าหนูเชื่อคุณนาย ยอมไปตั้งแต่แรกก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ หนูผิดเองค่ะ”
“อย่าโทษตัวเอง เพราะฉันต่างหากที่ผิด ฉันไม่เคยฟังในสิ่งที่เธอพูด จนนาทีสุดท้าย ฉันถึงได้รู้ ว่ามันเป็นจริงอย่างที่เธอพูดทุกอย่าง”
“คุณนาย นี่คุณนายเข้าใจหนูแล้วใช่ไหม”
สราญพยักหน้ายิ้มให้
“แล้วต่อไป ห้ามเรียกฉันว่าคุณนาย ต้องเรียกคุณแม่เท่านั้น”
สราญยิ้ม กางแขน รามนรีโผไปสวมกอด
“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ มาค่ะ คุณนาย อุ้ย คุณแม่ หนูขออนุญาตดูแล ขอป้อนข้าวต้มให้คุณแม่นะคะ”
สราญพยักหน้ายิ้มให้
ภูมิเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง เป็นห่วงรามนรี สักครู่ รามนรีเปิดประตูเข้ามา ภูมิปรี่เข้าไปหาทันที
“คุณแม่เขาทำอะไรคุณรึเปล่า”
“เปล่าค่ะ เราก็แค่ปรับความเข้าใจกัน แล้วท่านก็เข้าใจฉันแล้ว”
ภูมิถอนใจโล่งอก รามนรีแสร้งทำเป็นร่าเริง เหมือนไม่คิดอะไร
“เมื่อวานฉันได้เคลียร์กับคุณ วันนี้ฉันได้เคลียร์กับคุณแม่คุณ มันทำให้ฉันโล่งใจ ฉันจะได้กลับไปอย่างมีความสุข”
ภูมิมองหญิงสาวหน้าเศร้า รามนรีหลบตา รีบเอาตัวออกห่าง กลัวใจอ่อนสงสารภูมิ
“ฉันจะไปอาบน้ำ คุณก็รีบลงไปกินอาหารเช้ากับคุณย่าเถอะนะ เดี๋ยวท่านจะรอ”
รามนรีหยิบผ้าเช็ดตัว เดินเข้าห้องน้ำไป ภูมิเศร้า ในขณะที่รามนรียืนมองกระจก เศร้า รู้สึกอาลัยภูมิ แต่พยายามตัดใจ หยิบโทรศัพท์มาโทรหาระพี
“พี่พี มารับได้เลย หนูเล็กพร้อมแล้วค่ะ”
รามนรีวางสาย หน้าเศร้า
ที่โต๊ะอาหารบ้านย่า นิด เภา ถวิล ช่วยกันยกถ้วยข้าวต้มมาเสิร์ฟให้ทุกคนที่นั่งรออยู่
“ข้าวต้มฝีมือคุณหนูเล็ก ร้อนๆ ค่ะ”
“แล้วแม่หนูเล็กล่ะ”
“เขาคุยกับคุณสราญอยู่ครับคุณแม่”
“อืม นี่คงจะเป็นมื้อสุดท้ายแล้วสินะ”
ย่าหน้าเศร้า ก่อนเหลือบไปมองภูมิที่เศร้ากว่า ภัทรงง
“ทำไมต้องมื้อสุดท้าย เกิดอะไรขึ้นกับเขาเหรอครับ”
“ยังไม่รู้หรือไง ว่าวันนี้เขาต้องกลับบ้าน กลับไปแต่งงานกับพ่อผสานแล้ว”
ภูมิสะอึก กินไม่ลง ภัทรตกใจ
“หะ แล้วทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“แต่ละคนก็มีเหตุผลไม่เหมือนกัน แล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่เราจะไปยื้อเขาไว้ กินข้าวกันเถอะครับ”
ภูมิฝืนใจ ละเลียดกินข้าวต้มหน้าเครียด
วิรัชยืนบัญชาการ ชี้นิ้วสั่งกองแก้วกับป้าผ่อง ให้ช่วยเช็ดทำความสะอาดโซฟา และตามชั้นวางต่างๆ เพื่อรอรับการกลับมาของรามนรี
“พอได้แล้วแม่ผ่อง ทางนี้เดี๋ยวให้แก้วเขาจัดการไป แม่ผ่องรีบไปทำอาหารโปรดไว้ให้ยัยหนูเล็กเถอะ”
กองแก้วหมั่นไส้ ผสานกับจอส เดินถือของพะรุงพะรังเข้ามา
“อ้าว พ่อผสานมาแต่หัววันเชียว”
“นี่ครับคุณพ่อของฝาก”
“แล้วของแก้ว มีบ้างไหมคะ”
“ไม่มีได้ไง ขาดไม่ได้อยู่แล้วครับ”
กองแก้วยิ้มดีใจ
“ขอบใจมากนะพ่อผสาน เมื่อกี้ตาระพี เพิ่งโทรมาบอกว่ากำลังไปรับยัยหนูเล็ก”
“เหรอครับ แต่ครั้งนี้ผมคงต้องขอความเมตตาจากคุณพ่อ ที่มีอำนาจเต็ม เพราะผมไม่อยากจะพลาดอีกแล้ว”
“แน่นอน งานนี้พ่อจะไม่มีวันยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่”
วิรัชยิ้มให้ผสานกับจอส กองแก้วยิ้มสะใจ
สราญนั่งอ่านหนังสืออย่างมีความสุข ภัทรเปิดประตูหน้าตื่นเข้ามา
“ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้น หรือว่ากลัวว่าฉันจะทำอะไรไม่ดีกับเขา เราแค่ทำความเข้าใจกันและมันก็จบแล้ว”
“ผมรู้”
“รอให้ฉันดีขึ้นกว่านี้ เราจะไปสู่ขอเขาให้ตาภูมิ เพราะฉันรักสะใภ้คนนี้ เขาเป็นคนดีจริงๆ”
“แต่เขาเป็นสะใภ้เราไม่ได้ และเขาก็กำลังจะไปแล้ว”
“หะ”
สราญมองภัทรตกใจ
รามนรียืนหน้าเศร้ากวาดตามองไปรอบห้อง และหยุดสายตาไว้ที่เตียงนอน ทอดสายตาอาลัย นิ่งคิด
ถึงวันแรกๆ ที่นอนร่วมห้องกับภูมิ นึกถึงเรื่องราวดีๆ ระหว่างเธอกับเขา รามนรีน้ำตาไหล จับสร้อยคอที่ภูมิซื้อให้ไว้ตลอด ภูมิเดินเข้ามา คิดว่าหญิงสาวจะถอดสร้อย
“ถึงคุณจะไม่ชอบหน้าผม จะเกลียดผมยังไง ก็ขอให้คุณจำไว้ ว่าที่ผมยอมให้คุณไป และยินดีจะทำตามที่คุณขอทุกอย่าง ก็เพราะผมรักคุณ ผมอยากจะเห็นคุณมีความสุข แต่ผมขอได้ไหม คุณอย่าถอดสร้อยเส้นนี้”
รามนรีมองหน้าภูมิ น้ำตาร่วง พยักหน้าให้ ภูมิฝืนยิ้มให้ ก่อนตัดใจ รีบไปคว้ากระเป๋า
“ผมจะไปส่งคุณนะ”
“เดี๋ยวค่ะ”
ภูมิชะงักหันมามอง รามนรีเดินเข้าไปจูบลาชายหนุ่มทั้งน้ำตา
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ลาก่อนค่ะ”
รามนรีมองหน้าภูมิ ก่อนรีบเดินออกไป ภูมิหลับตาถอนใจ พยายามหักห้ามใจ
ระพี ศจี ยืนคุยกับย่าอยู่หน้าบ้านภูมิ รามนรีเดินมา ภูมิลากกระเป๋าเดินตามมาติดๆ ถวิลรีบไปรับกระเป๋าจากภูมิ แล้วเอาไปใส่ไว้ที่ท้ายรถระพี รามนรีฝืนยิ้มให้ทุกคน ก่อนเข้าไปกราบลาย่า ย่ากอดรามนรีแน่น
“หนูกราบลานะคะคุณย่า”
ภัทรเข็นรถพาสราญ เข้ามาหารามนรี
“เธอจะไป ทำไมไม่บอกฉัน ทำไมไม่บอกลาฉันสักคำ”
“หนูเห็นคุณแม่ป่วย ก็เลยไม่อยากรบกวนน่ะค่ะ”
ไผทกับเดือนฉายเดินเข้ามา ยืนมองอยู่
“ฉันไม่รู้ ว่าระหว่างพวกเธอมันคืออะไร รักหลอกหรือรักจริงกันแน่ แต่ในเมื่อตัดสินใจว่าจะให้มันออกมาอย่างนี้ก็ไม่ว่าอะไร แต่ขอบอกว่าเสียดายมากๆ”
รามนรีมองสราญ น้ำตารื้น เดือนฉายสังเกตสีหน้าทุกคน แต่ไม่พูดอะไร ระพีพยักหน้าให้ศจี
“ต้องขอโทษที หนูต้องขอตัวหนูเล็กก่อนนะคะ เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันเครื่องค่ะ”
เดือนฉายกับไผท เดินเข้ามายืนเคียงข้างภูมิ รามนรีเดินไปหาทั้งสองคน จับมือเดือนฉายไว้
“ถ้าแต่งงานเมื่อไหร่ อย่าลืมเชิญหนูเล็กมาร่วมยินดีด้วยนะคะ”
“แน่นอนที่สุดจ้ะ”
“โชคดีครับคุณหนูเล็ก”
รามนรีลาทุกคน ศจีเข้าไปไหว้ภูมิ
“ศจีไปก่อนนะคะพี่ภูมิ ไปได้แล้วจ้ะหนูเล็ก”
ศจีแอบปรายตามอง เห็นภูมิกับรามนรีสบตาอาลัยกันเป็นครั้งสุดท้าย ระพีขับออกไป ภูมิมองรามนรีน้ำตารื้น ทำได้แค่ยืนมองรถแล่นไปจนลับตา
เดือนฉายมองภูมิกับรามนรี รู้สึกแปลกๆ
ย่า ภัทร สราญ เภา นิด ถวิล นั่งคุยกันหน้าเศร้า สราญเปรยขึ้น
“คิดได้ ก็สายไปเสียแล้ว นะคะคุณแม่”
“เฮ้อ ทำไงได้ สุดท้าย ห้องเบบี้บูมของฉันคงจะเป็นหมันซะแล้ว”
“ยังหรอกครับคุณแม่ เพราะเรายังมีเจ้าสาวตัวจริง มาจ่อคิวแล้ว”
“อืม ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป แต่แม่ยังแอบหวัง ให้เขาได้กลับมาครองคู่กัน”
“คงหมดหวังแล้วล่ะค่ะคุณแม่”
“มันก็ไม่แน่หรอก เพราะแม่รู้สึกตั้งแต่แรก ว่าตาภูมิกับเจ้าสาวเฉพาะกิจของเขารักกันจริงๆ ถ้าเขาเป็นเนื้อคู่กัน มันต้องมีปาฏิหาริย์สิ”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เถอะ เพราะเขาคือคนที่ทำให้ตาภูมิเปลี่ยนไปในทางที่ดี แล้วตาภูมิก็คอยปกป้องผู้หญิงคนนี้มาตลอด”
“แต่เหมือนมีเส้นบางๆ มากั้นเขาไว้ให้ห่างกัน แต่ถ้าเขาเป็นคู่กันแล้ว ก็คงจะไม่แคล้วกัน”
“แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตาภูมิเพิ่งจะบอกเรา ว่าเขาจะแต่งงานกับหนูเดือนฉายให้เร็วที่สุด”
“ถ้ามันต้องเป็นอย่างนั้น ก็ต้องเป็นไป เพราะแม่เดือนฉายเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แล้วเขาก็เป็นคนดีมาก มีแต่ไอ้คนของเรานี่แหละ ที่แย่มาก”
ทุกคนพยักหน้าให้กัน
ภูมิ เดือนฉาย และไผท นั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เดือนฉายสังเกตภูมิ เห็นนั่งนิ่งหน้าเศร้าตลอดเวลา
“ภูมิ นี่ภูมิเป็นอะไร ทำไมดูเซ็งๆ เศร้าๆ พิกล”
ไผทรีบเอาขาเขี่ยภูมิ ให้ได้สติ ภูมิสะดุ้ง
“อ๋อ ครับ ขอโทษที เมื่อวานผมคงนอนไม่เต็มที่ก็เลยเบลอๆ น่ะครับ”
“แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก จะได้ไปไม่ต้องออกมา”
“ไม่เป็นไร ผมตามใจคุณ”
“เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องตามใจก็ได้ ถ้าภูมิไม่สบายไป มันจะไม่คุ้มกันนะคะ”
“เอาเป็นว่า ถ้าทานเสร็จ เราไปส่งเจ้าภูมิที่บ้านเลย เขาจะได้พักผ่อน”
“เดือน แต่งงานกับผมนะ”
เดือนฉายตกใจ ไม่ต่างจากไผท
“เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”
“ขอแต่งงานตอนกินข้าว และต่อหน้าเพื่อนเนี่ยนะ”
“ภูมิคะ นี่ภูมิยังมีสติดีอยู่ใช่ไหม แล้วทำไมต้องรีบขนาดนี้”
“ผมไม่อยากให้คุณต้องเสียเวลารออีกต่อไป หรือว่าคุณไม่ได้รักผมแล้ว”
“เปล่าค่ะเปล่า ยังไงเดือนก็รักคุณ เดือน โอเคอยู่แล้วค่ะ”
“คุณต้องการอะไร จะจัดแบบไหน ผมตามใจคุณทุกอย่าง คุณจัดการได้เลย”
เดือนฉายยิ้มสดใสพยักหน้าให้ภูมิ ไผทแอบเศร้า
ทุกคนนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกบ้านวิรัช รามนรีก้มกราบเท้าวิรัช ซึ่งนั่งหน้าเข้ม
“หนูกราบขอโทษนะคะพ่อ”
“หวังว่ากลับมาคราวนี้ คงจะคิดได้เสียทีนะ”
รามนรีฝืนยิ้มให้พ่อ ผสานหันไปส่งซิกให้กองแก้ว เจือจันทร์แอบสังเกตเห็นพอดี
“แล้วเรื่องคุณผสานจะว่าไง จะเอายังไงคะคุณ”
ศจีมองกองแก้ว ก่อนหันไปสบตาระพี ระพีมองไม่พอใจ
“หนูเล็กเขาเพิ่งจะกลับมา เราอย่ารีบร้อนเลยครับ”
“แต่น้าว่าเรื่องอย่างนี้ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับคุณผสานเขาบ้าง เขาอุตส่าห์รอมาตั้งนาน วันนี้ควรจะชัดเจนได้แล้ว คนแถวนี้เขาก็จะได้เลิกติฉินนินทาบ้านเราเสียที จริงไหมคะคุณพี่”
“ก็จริงของแม่แก้วเขา เราต้องรีบจัดการเรื่องแต่งงานให้เร็วที่สุด”
“ขอเวลาให้ยัยหนูเล็ก ได้คิดและตัดสินใจอีกทีไม่ดีกว่าเหรอครับพ่อ”
“จะคิดมากไปทำไม เพราะครั้งนี้ ยังไงก็ต้องแต่ง”
รามนรีถอนใจมองวิรัชหน้าเศร้า
“ถ้ามันเป็นความสุขของพ่อ ถ้าพ่อยังต้องการอย่างนั้น หนูก็จะแต่งค่ะ”
ระพีกับศจี หันขวับไปมองรามนรี วิรัชหัวเราะร่าดีใจ
“ขอบใจมากลูกขอบใจ พ่อผสาน รีบไปหาฤกษ์หายาม แล้วเตรียมตัวมาแต่งให้ไวที่สุด”
“ครับคุณพ่อ งั้นผมจะรีบไปดำเนินการให้เร็วที่สุด”
ผสาน กองแก้ว จอส หันไปยิ้มสะใจให้กัน รามนรีไม่พูดอะไร หยิบกระเป๋า เดินหายเข้าห้องไป ระพี ศจี เจือจันทร์ เครียด
ตอนเย็น หลังจากไปส่งภูมิแล้ว เดือนฉายกับไผทมานั่งคุยกันต่อที่บ้านของเดือนฉาย
“เดือนยังงงไม่หาย กับเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานของภูมิ นี่เตี๊ยมกันมารึเปล่าค่ะเนี่ย”
ไผทส่ายหัวดิก
“ถึงจะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ก็รับได้ เพราะที่ผ่านมาภูมิเขามียัยหนูเล็กอยู่เป็นเพื่อนคอยทำโน่นทำนี่ให้ ก็คงจะเหมือนขาดอะไรไป คุณไทว่าจริงไหมคะ”
ไผทหลบตาพยักหน้าให้ เพราะรู้ดีอยู่เต็มอกว่าเรื่องเป็นอย่างไร
“นี่คุณไท ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยเหรอคะ”
ไผทเผลอพยักหน้า
“แต่เดือนว่า คุณไทดูแปลกไปไหม ดูเหมือนมีลับลมคมนัยยังไงก็ไม่รู้นะคะ”
ไผทได้สติ ยิ้มแหย ยกมือปฏิเสธพัลวัน
“ไม่มี้”
“นี่คือคำถามนะคะ เดือนถามว่า ภูมิเขายังมีใครอีกไหม ที่ไม่ใช่ประกายฟ้า”
ไผทอึดอัด จำใจโกหก
“ไม่มี้”
เดือนฉายมองสงสัย แต่ไม่พูดอะไร
รามนรีเข้ามาในห้อง ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงหมดแรงน้ำตารื้น จับสร้อยคอหน้าเศร้า
เสียงเคาะประตูดัง เธอรีบเช็ดน้ำตา ระพีกับศจีเดินเข้ามา
“ในเมื่อไม่รัก แล้วทำไมยอมเขาง่ายนักล่ะ”
“คิดอีกทีดีไหม หนูเล็ก”
รามนรีส่ายหน้าเนือยๆ
“ในเมื่อเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา อย่างน้อยก็ทำให้พ่อมีความสุขกับสิ่งนี้”
“แต่นี่มันชีวิตเราทั้งชีวิตเลยนะ”
“หนูยอมแล้วค่ะ หนูหมดแรงที่จะสู้กับพวกเขาแล้ว หมดแรงแล้วจริงๆ”
ระพีสงสาร เข้าไปกอดน้องสาว ซึ่งร้องไห้ออกมาอย่างเก็บกด ศจีมองสองพี่น้องน้ำตารื้น
กองแก้วเดินออกมาส่งผสานกับจอสหน้าบ้าน ป้าผ่องหลบยืนแอบมองอยู่
“ขอบคุณมากนะครับน้าแก้ว ถ้างานนี้สำเร็จ ผมจะปูนบำเหน็จให้อย่างงามเลย”
“ค่ะค่ะ แล้วอย่าลืมละกันนะคะ รีบไปจากที่นี่ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ ไปเร็วค่ะ”
“ครับๆ”
ผสานกับจอสรีบขึ้นรถ ขับออกไป ป้าผ่องกัดกรามกรอด มองไม่พอใจ
“ที่แท้ ก็เกลือเป็นหนอนนี่เอง”
ป้าผ่องกำมือแน่น แค้นกองแก้ว
เจือจันทร์นั่งอยู่ ระพีกับศจีเดินเข้ามาหา เธอถามด้วยความห่วงใย
“เป็นไง น้องว่าไงบ้างลูก”
“เขายืนยันที่จะแต่งงานกับคุณผสานตามใจพ่อค่ะ”
“ด้วยการเอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพันเนี่ยนะ”
“ก็คงงั้นค่ะแม่ เพราะดูแกหมดอาลัยตายอยากมาก”
“ผมก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ เพราะที่ผ่านมาเขาหนีแทบเป็นแทบตาย แล้วอยู่ๆ ก็ยอมง่ายๆ ซะงั้น”
“หรือว่า หนูเล็กเขาต้องการหนีอะไร”
ระพีกับเจือจันทร์หันไปมองศจีงงๆ
“หนูสงสัยพี่ภูมิกับหนูเล็ก หนูว่าเขาน่าจะรักกันจริงๆ”
“เป็นไปไม่ได้ เพราะที่เขาทำทุกอย่างก็เพื่อรักษาคุณภูมิไว้ให้ยัยเดือน เขาจะไม่มีวันทำอะไรอย่างนั้นแน่”
“แล้วถ้าเขารักกัน แต่เพราะสิ่งนี้ ทำให้เขาต้องตัดใจ ต้องไม่รักกันล่ะคะ”
“อืม ก็เป็นไปได้นะ”
เจือจันทร์อึ้งคิด
รามนรีเปิดถุงหยิบภาพถ่ายในงานแต่งขึ้นมาดู หน้าเศร้า เสียงโทรศัพท์ดัง เธอกดรับสาย ฝืนใจทำเสียงสดใส
“สวัสดีค่ะพี่เดือน”
“จ้า เป็นไงบ้าง ทุกอย่างราบรื่นดีไหม พ่อหายโกรธรึยัง”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ”
“ยินดีด้วยนะ นี่ วันนี้ภูมิเขาขอพี่แต่งงานแล้วนะ”
รามนรีอึ้งไป
“หนูเล็ก ทำไมเงียบไป”
“อ๋อ ค่ะค่ะ ยินดีด้วยนะคะพี่เดือน”
“แต่พี่ยังแปลกใจไม่หาย ทำไมเขาถึงได้รีบร้อนนัก รู้ไหม ว่าเขาขอแต่งงาน ที่โต๊ะอาหาร แถมยังต่อหน้าคุณไทอีกต่างหาก”
“มันเป็นเรื่องน่ายินดี จะที่ไหนก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ ว่าแต่ถ้ามีอะไรให้หนูเล็กช่วยก็บอกได้เลยนะคะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ที่รีบโทรมาก็เพื่อจะจองตัวเป็นเพื่อนเจ้าสาว ห้ามปฏิเสธด้วย”
รามนรีอึดอัด จำใจรับปาก
“ก็ได้ค่ะ หนูเล็กยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อพี่เดือนอยู่แล้ว”
“ขอบใจจ้ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ”
รามนรีหน้าเศร้า หันไปหยิบกรอบรูปขึ้นมามองหน้าภูมิ
“ขอบคุณ ที่รักษาสัญญา และเวลาสำหรับเรามันหมดแล้วจริงๆ”
รามนรีมองรูปอาลัย ก่อนเก็บรูปนั้นใส่กระเป๋าตามเดิม
2 สัปดาห์ผ่านไป รามนรีกับป้าผ่อง ถือของพะรุงพะรังกลับมาจากตลาด รามนรีรีบวางของก่อนไปแกะ เอามะม่วงเปรี้ยว มะยม และของเปรี้ยวทั้งหลายมาวางใส่จานมือไม้สั่น กินตุ้ยๆ ป้าผ่องมองขนลุก หน้าแหย
“โห เดี๋ยวนี้คุณหนูกินเปรี้ยวได้ขนาดนี้แล้วเหรอคะ”
“ก็มันไม่รู้เป็นอะไร อยากจะกินขึ้นมาซะงั้น ชิมสิคะป้า อร่อยมากๆ เลยนะคะ”
“วันนี้มีนัดไปดูชุดแต่งงานกับคุณผสาน อย่ากินมากระวังท้องจะเสียเอานะคะ”
“ก็ดี จะได้ไม่ต้องไปไง”
ป้าผ่องเปิดตู้เย็นหยิบกุ้ง กับสะตอออกมา
“สะตอผัดกะปิกุ้ง พี่ศจีชอบมาก หนูก็ชอบมาก ทำเลยค่ะป้า”
ป้าผ่องเปิดแก๊สทำอาหาร รามนรีได้กลิ่น โอ้กอ้าก ก่อนรีบวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ ป้าผ่องเดินตามมาลูบหลังให้
“หนูเป็นอะไรก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็เหม็นมากเลยค่ะป้า”
“คุณหนู เอ่อ”
“มีอะไรคะป้า หรือว่าป้ารู้ ว่าหนูเป็นอะไร”
“คุณหนูท้องรึเปล่าคะ”
รามนรีหันไปมองป้าผ่องตกใจ
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 27 อวสาน (ต่อ)
กองแก้ว ผสาน จอส หันไปมองวิรัช ตกใจ
รามนรียิ้มดีใจก่อนหันไปมอง ระพี ศจี เจือจันทร์ ที่ยิ้มให้ ทุกคนถอนใจโล่งอก
“เพราะฉันจะให้แกไปอยู่กับพ่อผสานที่บ้านเขาเลย ไม่ต้องตงต้องแต่งอะไรแล้ว”
รามนรี ระพี ศจี เจือจันทร์ ตกใจ กองแก้ว ผสาน จอส หันไปยิ้มสะใจให้กัน รามนรียกมือไหว้วิงวอนพ่อ
“ไม่นะพ่อ หนูไม่ไป ยังไงหนูก็ไม่ไป”
“แต่แกต้องไป ไม่ว่าใครก็ห้ามขัดคำสั่งฉัน พ่ออนุญาต ให้เอาตัวมันไปเดี๋ยวนี้”
วิรัชหันไปบอกผสาน รามนรีตกใจ ผสานฉุดกระชากลากถูรามนรีไปต่อหน้าต่อตา
“ช่วยด้วย พี่พี ช่วยหนูเล็กด้วย”
ระพีทนดูไม่ไหวจะเข้าไปช่วยน้องสาว แต่วิรัชเข้ามาขวางไว้
“หยุดนะเจ้าพี ถ้าแกกล้าที่จะขัดคำสั่ง ฉันจะเอาเรื่องแกแน่”
เจือจันทร์กระซิบระพี
“น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือเข้าไปขวางเลยนะลูก”
“ใจเย็นก่อนนะพี แล้วค่อยคิดหาทางกันอีกทีนะ”
ระพีจำใจยืนนิ่ง มองผสานพาตัวรามนรีไปขึ้นรถ ป้าผ่องทนไม่ไหว วิ่งเข้าไปช่วยรามนรี
“ปล่อยคุณหนูของฉันเดี๋ยวนี้นะ”
ป้าผ่องถูกผสานผลักจนล้มคว่ำไปต่อหน้าต่อตาทุกคน ศจีกับเจือจันทร์ รีบวิ่งเข้าไปประคองป้าผ่อง รามนรีถูกผสานกับจอสพาขึ้นรถออกไป กองแก้วยิ้มสะใจ ระพีเครียด คาดคั้นเอาความจริงกับป้าผ่อง
“บอกความจริงเรามาเถอะป้า ว่ามันเกิดอะไร ทำไมหนูเล็กถึงเปลี่ยนใจกะหัน”
“ป้า ป้า ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แต่ป้าต้องรู้ เพราะหนูเห็นป้า เดินเข้าไปในห้อง และเดินออกมากับหนูเล็ก”
ศจีซัก ป้าผ่องยิ้มเจื่อน
“อยากจะช่วยหนูเล็ก ป้าผ่องก็ต้องรีบบอกความจริงกับเรา จะได้ไปช่วยเขาไง”
เจือจันทร์ช่วยพูดอีกแรง ป้าผ่องครุ่นคิดเครียด ก่อนจำใจยอมเปิดปาก
“เพราะคุณหนูเล็ก แกเพิ่งรู้ตัวว่าท้อง ก็เลยต้องทำอย่างนั้นค่ะ”
ทุกคนหันไปสบตากันตกใจ
ย่า สราญ และภัทรแต่งตัวจัดเต็ม เพื่อไปถ่ายเวดดิ้ง ภูมินั่งปั้นหน้าดูทีวีรอ เสียงโทรศัพท์ดัง เขากดรับสาย
“ว่าไงยัยศจี แต่งงานแล้วเป็นไง มีความสุขขึ้นบ้างไหมยัยตัวยุ่ง”
“ที่ไม่มีความสุขก็เพราะพี่นั่นแหละ”
“เอ๊า แล้วพี่ไปเกี่ยวอะไรด้วยวะ”
“ก็เพิ่งรู้ตะกี้ ว่าหนูเล็กเขาท้อง ศจีสังหรณ์ใจ ว่าต้องใช่พี่แน่ๆ”
ภูมิตาเหลือกอุทานเสียงดัง
“หะ หนูเล็กท้อง”
ทุกคนหันไปมองภูมิเป็นตาเดียว
กองแก้วอารมณ์ดีออกมายืนหลบโทรศัพท์หาเกริกเกียรติ จะถามเรื่องทำสัญญาซื้อบ้าน
“อ๊ะ เขาเป็นอะไรของเขา ไม่รับสาย แล้วทำไมจู่ๆ ก็ปิดเครื่องไปซะงั้น แต่คนขยัน คงจะอยู่นิ่งไม่ได้ คงจะรับจ็อบทำงาน หาเงินผ่อนบ้านแน่ๆ”
กองแก้วยิ้มสดใสโทรไปที่รีสอร์ท
“นี่เธอ คุณเกริกเกียรติอยู่ไหม ไปเรียกมาคุยสายหน่อยสิ”
กองแก้วฮัมเพลง รอสายสักครู่ ก่อนหุบยิ้มหน้าเหวอ
“หะ คุณเกริกเกียรติ ลาออกไปแล้ว”
กองแก้วยืนอึ้งตัวชาวาบ
ย่า สราญ ภัทร นั่งจ้องหน้าภูมิ เภา นิด ถวิล จ้องภูมิอีกทีม
“ผมกับเขา เราเคยมีอะไรกัน แต่แค่ครั้งเดียวจริงๆ เพราะหลังจากนั้น เขาก็พร่ำโทษตัวเอง และรู้สึกผิดกับเดือนฉายมาตลอด”
ย่าแอบยิ้มพอใจ ก่อนหันไปมองสราญ ที่รู้สึกไม่ต่างกัน แสร้งทำหน้านิ่ง หันไปมองภูมิต่อ
“และผมก็มั่นใจ ว่าเขาเป็นลูกผมแน่นอน”
“งั้นแกก็ยอมไม่ได้ แกต้องรีบไปเอาเมียแกกลับคืนมา จะเสียอะไรเสียเท่าไหร่ก็เสียไป เดี๋ยวแม่เคลียร์ให้ทั้งหมด”
“แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องแม่เดือนฉาย ย่าอาสาจะทำความเข้าใจกับเขาให้เอง”
เภา นิด ถวิล ยิ้มร่าปรบมือเชียร์ สุดชีวิต
“ไปลูกไป ไปเอาแม่ของลูกกลับคืนมาให้ได้นะ”
“ผมขออาสา ไปดูแลคุณภูมิให้ จะได้ไหมครับ”
“ดีเลยมาก ภูมิเอาถวิลไปด้วยนะลูกจะได้ช่วยกัน”
ภูมิพยักหน้าให้
“ผมฝากดูแลเดือนฉายด้วย ผมขอตัวนะครับ”
ภูมิรีบออกไปกับถวิล
เจือจันทร์ช่วยป้าผ่องกวาดใบไม้อยู่ เห็นกองแก้วถือโทรศัพท์ เดินเหม่อหมดแรงเข้ามา ป้าผ่องรีบดึงเจือจันทร์ เข้าไปหลบมุมแอบมอง เสียงพนักงานขาย ดังก้องในหูกองแก้ว
"บ้านหลังที่คุณบอก มันถูกขายไปนานแล้ว และไม่มีหลังไหนที่ถูกจองโดยคุณเกริกเกียรติเลยนะคะ"
กองแก้วน้ำตาไหล โมโหจนตัวสั่น
“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้สิบแปดมงกุฎ แกทำลายความหวังความฝันของฉัน แกทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง ทำได้ยังไง”
กองแก้วร้องไห้เสียใจ ก่อนทรุดตัวลงไปนั่งหมดแรง ป้าผ่องกับเจือจันทร์ เดินเข้ามาหา
“คุณเคยเชื่อเรื่องเวรกรรมบ้างไหม”
กองแก้วมองหน้าป้าผ่อง
“ลองนึกดู ว่าที่ผ่านมา คุณทำกรรมอะไรกับใครไว้บ้าง คุณถึงได้ต้องมานั่งร้องไห้ฟูมฟายเสียใจอยู่อย่างนี้”
กองแก้วน้ำท่วมปากมองป้าผ่องกับเจือจันทร์น้ำตาไหล เจือจันทร์จับมือกองแก้ว
“ฉันไม่รู้ว่าที่ผ่านมาคุณทำอะไรไว้บ้าง แต่ถ้าวันนี้คุณรับรู้ได้ว่าผิดชอบชั่วดีคืออะไร คุณต้องหยุดทุกอย่างไว้ แล้วหันมาแก้ไขด้วยการทำความดี”
“ฉันเลวขนาดนี้ ฉันยังจะทำความดีได้อยู่อีกเหรอ”
“ได้สิคะ แค่คุณช่วยคุณหนูเล็กให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือคุณผสานก็ถือว่าคุณได้ทำความดีครั้งยิ่งใหญ่”
“นะคะคุณแก้ว เพราะที่เขาต้องปฏิเสธการแต่งงานกะทันหัน ก็เพราะเขาท้อง”
กองแก้วหันขวับมองหน้าป้าผ่องกับเจือจันทร์
ผสานล็อคตัวรามนรีที่ถูกมัดมือไพล่หลัง
พาเดินเข้ามาที่หน้าห้อง จอสเปิดประตู ผสานผลักรามนรีจนล้มลงไปที่พี้น รามนรียกมือไหว้วิงวอน
“คุณผสาน ได้โปรดเมตตา อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
“อย่าหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากฉัน เพราะสิ่งที่เธอทำกับฉัน มันมากเกินกว่าที่ฉันจะรับได้ จนมันกลายเป็นความแค้นไปแล้ว”
“แต่ฉันก็พยายามบอกคุณแล้ว ว่าฉันไม่ได้รักคุณ”
ผสานเดินหน้าเหี้ยมเข้าไปหารามนรี จับไหล่
“นั่นแหละที่มันทำให้ฉันยิ่งแค้น เธอรู้ไหม ว่าฉันต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน ที่ต้องทนเอาใจทุกคนในครอบครัวเธอ เพื่อให้เขาเชื่อใจ”
ผสานหัวเราะเหมือนคนเป็นโรคจิต
“แล้ววันนี้ ไอ้อีพวกนั้น ก็ทำให้ฉันสมหวัง ฉันได้ตัวเธอมาอยู่ตรงหน้าแล้ว”
ผสานหัวเราะสะใจ ก่อนทำหน้าหื่น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้รามนรี
“ทำไม ฉันมันน่ารังเกียจนักรึไง ถึงได้ทำท่าขยะแขยงฉันขนาดนั้น”
รามนรีใช้สติ พยายามระงับอารมณ์ ไม่โต้เถียงให้ผสานโกรธ
“แต่ไม่เป็นไร ที่ผ่านมา ไม่ว่าเธอจะผ่านมือใครมา ฉันจะไม่ถือสาอะไร แล้วจะให้เวลาเธอได้ทำใจเพราะยังไงคืนนี้ เธอก็ไม่รอด เธอต้องได้เป็นเมียฉันแน่ๆ”
ผสานหัวเราะสะใจ ก่อนเดินออกไป
ย่ายอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้เดือนฉายฟังจนจบ เดือนฉายกับไผทตกใจ
“หะ ยัยหนูเล็กท้องกับภูมิ”
ทุกคนพยักหน้าให้เดือนฉาย
“พวกเราเพิ่งรู้เมื่อกี้ และต้องขอโทษหนูจากใจจริงๆ”
ภัทรอึดอัดใจมาก
“แล้วตอนนี้ตาภูมิก็รีบบินไปช่วยหนูเล็กแล้ว”
“ที่ผ่านมาหนูก็รู้สึกแปลกๆ เคยถามคุณไท แต่เขาก็ไม่เคยยอมรับ”
ไผทยิ้มแหยหลบตา
“แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อมันเกิดเรื่องขนาดนี้ หนูก็พร้อมที่จะทำใจ และเข้าใจค่ะ”
สราญ ภัทร ถอนใจโล่งอก ย่ายิ้มจับมือเดือนฉาย
“หนูช่างเป็นคนที่มีความคิด และจิตใจดีจริงๆ”
“ขอบใจมากนะลูก ขอบใจที่ไม่โกรธตาภูมิ”
“ทำยังไงได้ล่ะคะ ในเมื่อเขาสองคน คือคนที่หนูรักทั้งคู่ และหนูก็พร้อมที่จะมอบความรักของหนูคืนให้กับเขาทั้งคู่ ด้วยความเต็มใจค่ะ”
ไผทมองเดือนฉายซาบซึ้ง
“แต่การที่เราจะทำให้หนูเล็กยอมรับภูมิได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเดือนรู้นิสัยของเขาดี เราต้องมีแผนค่ะ”
ทุกคนหันไปมองเดือนฉาย
ระพีกับศจี ขับรถไปรับภูมิกับถวิลที่สนามบิน ก่อนรีบบึ่งมาที่บ้านผสาน
“รบกวนทุกคนรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมจะเข้าไปเอง”
“ให้ผมไปด้วยไม่ดีกว่าเหรอครับคุณภูมิ”
“ไม่เป็นไร ผมอยากจะไปช่วยเขาด้วยตัวผมเอง”
“ระวังตัวด้วยนะคะพี่”
ภูมิพยักหน้าให้ มองซ้ายมองขวา รีบเดินเข้าไป ขณะนั้นทุกคนเห็นกองแก้วขับรถพาวิรัชตามเข้ามา ภูมิ กวาดตามองทางหนีทีไล่ ก่อนย่องเข้ามาด้านใน เห็นจอสนอนอ่านหนังสือขายหัวเราะ อยู่ที่โซฟา ภูมิกวาดตามองไป เห็นผ้าพันคอ และกระดาษกาวแผ่นใหญ่ พร้อมกรรไกรวางอยู่
ผสานยืนมองหน้ารามนรียิ้มเหี้ยม
“ทีแรกฉันกะว่าจะรอให้ถึงกลางคืน แต่ปรากฏว่าอดใจไม่ไหว ไม่อยากจะให้ช่วงเวลาดีๆ ต้องผ่านพ้นไปอย่างไร้ความหมาย”
“แกมันบ้าไปแล้ว ไอ้บ้า”
ผสานโมโหเดินเข้าไปจับตัวรามนรี ก่อนลากมาผลักนอนลงไปที่เตียง ปลุกปล้ำ รามนรีต่อสู้ขัดขืน สุดชีวิต ภูมิเปิดประตู วิ่งเข้ามา
“ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้”
รามนรีเห็นภูมิ ก็ยิ้มดีใจ ภูมิดึงผสานออกไป ชกจนล้มคว่ำไป รามนรีดีใจจนลืมตัว วิ่งเข้าไปกอดภูมิไว้แน่น
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
รามนรีได้สติ พยักหน้าให้ ก่อนรีบผละออกไป ศจีกับกองแก้ว คุมตัวจอส ที่ถูกภูมิมัดมือไพล่ และมีกระดาษกาวปิดปากไว้ เดินเข้ามาสมทบ ผสานเข้าไปเอาเรื่องภูมิ แต่ไม่ทัน เพราะระพีกับถวิล วิ่งเข้าไปล็อคตัวผสานไว้ วิรัชปรี่เข้าไปตบหน้าผสาน
“เสียแรง ที่ฉันรักแก เมตตาแกด้วยใจ แต่แกกับทำกับฉัน ทำกับลูกฉันได้”
รามนรีวิ่งเข้าไปกางมือกันผสานไว้
“อย่าทำอะไรเขานะคะพ่อ ที่เขาต้องทำอย่างนี้ก็เพราะหนู ที่ทำให้เขาต้องเจ็บช้ำน้ำใจ เขาคงจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเราจริงๆ หรอกค่ะ”
ผสานหันไปมองรามนรี
“แต่สิ่งที่เขาทำมันมากเกินไป แล้วมันก็ผิดกฎหมายนะลูก”
“แต่หนูไม่ติดใจอะไร หนูพร้อมจะให้อภัยเขา เราจะเลิกแล้วต่อกันในวันนี้ค่ะ”
ภูมิหันไปมองหน้ารามนรี ไม่เห็นด้วย ระพีหันไปถามผสาน
“คุณทำได้ไหมคุณผสาน”
ผสานมองทุกคนรู้สึกผิด
“ครับ”
รามนรียิ้มให้ผสาน
“ที่ผ่านมาถ้าฉันทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ฉันขอโทษจากใจเลยนะคะ”
ผสานก้มหน้าละอายใจ
“และต่อไป ฉันหวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
รามนรียื่นมือไป ผสานมองซาบซึ้ง ก่อนยื่นมือไปจับมือรามนรี
“ครับ ต่อไป เราจะเป็นเพื่อนทีดีต่อกัน”
ทุกคนยิ้มให้กัน
ตอนเย็น รามนรียืนคุยกับภูมิ อยู่ที่ริมน้ำบ้านวิรัช
“คุณ ทำไมไม่ยอมบอกผมว่าคุณท้อง”
รามนรีตกใจ หันขวับไปมอง ก่อนรีบกลบเกลื่อน
“มันจริงที่ไหน ฉันก็แค่พูดไปเพื่อไม่ให้ถูกจับแต่งงานกับคุณผสาน แค่นั้นเอง”
“ผมไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ และกรุณากลับไปแต่งงานกับพี่เดือนตามที่ได้ตกลงกัน เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไร ฉันก็ไม่มีทางทรยศพี่สาวฉัน และกรุณาอย่ามาที่นี่อีก”
รามนรีกลั้นน้ำตามองหน้าภูมิ แล้วหันหลังให้ รีบเดินหนีไป ภูมิเศร้าใจ
ภายในงานแต่งงานริมทะเล มีภาพพรีเวดดิ้งบานใหญ่จัดวางไว้ แต่มีผ้าดีไซน์เก๋ สีชมพู ปิดภาพนั้นไว้ ภูมิยืนหน้าเศร้าในชุดเจ้าบ่าวอยู่กับไผท แขกเหรื่อต่างกินอาหารกันไป พูดคุยกันไป อย่างชื่นมื่น
“เฮ้ย ไอ้ภูมิ แกจะทำหน้าเศร้า เหมือนหมาเหงาไปทำไมนักหนาวะ”
“แล้วแกจะให้ฉันหัวเราะอยู่ได้ยังไง ในเมื่อฉันกำลังจะต้องแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก ต่อหน้าคนที่ฉันรัก”
“แล้วถ้าแกได้แต่งงานกับคนที่แกรักจริงๆ ล่ะ”
“นั่นคือสิ่งที่ฉันฝันไว้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ขอให้ฉันเศร้าเถอะ”
ไผทพยักหน้าให้ ก่อนแอบอมยิ้มสมน้ำหน้าภูมิ
ภายในห้องแต่งตัวบนโรงแรม ทุกคนใส่ชุดสวย เหลือแต่รามนรีที่กำลังถูกจับแต่งตัวอยู่หน้ากระจก ช่างแต่งหน้าเชยคางรามนรีมองซ้ายมองขวา ยิ้มพอใจ
“โอเค สวยมากค่ะ”
สไตลิสต์ให้รามนรีลุกขึ้นยืน
“หุ่นเซี้ยะเป๊ะเว่อร์พอดีกันกับชุด เข้ากั๊นเข้ากัน เดี๊ยนรับรองค่ะ”
รามนรีมองชุดตัวเองกับเดือนฉาย รู้สึกงง
“หนูเล็กว่า เยอะเกินเจ้าสาวไปไหมคะ”
“ไม่เยอะหรอกจ้ะ พี่สั่งให้เขาจัดชุดนี้มาให้ เพราะมั่นใจว่าเหมาะกับเรามาก”
“ใช่ ใส่แล้วสวยมาก สมกับเป็นเจ้าสาว”
รามนรีมองกองแก้ว ศจีรีบสะกิดกองแก้ว
“อุ้ย เพื่อนเจ้าสาวจริงๆ”
“โอเค ในเมื่อพร้อมก็ไปกันดีกว่าค่ะไปนะคะ เจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว เชิญค่ะ”
ศจีผายมือเชิญทุกคน
ศจีกับกองแก้ว พารามนรีกับเดือนฉายออกมาที่หน้างาน รามนรีเห็นภูมิมองมาหน้าเศร้า เธอรีบเบือนหน้าหนี แกล้งไม่สนใจ ก่อนเห็นภาพถ่ายมีผ้าคลุมไว้
“ภาพนั้นทำไมต้องมีผ้าสีชมพูคลุมไว้ด้วยล่ะคะพี่เดือน”
“อ๋อ พี่ก็แค่แก้เคล็ดน่ะ”
“อ๋อค่ะ”
เดือนฉายจูงมือรามนรี เดินตรงเข้าไปหาภูมิ ซึ่งยืนอยู่กับไผท สราญลุ้นแทน
“ดูสิคะ เขากำลังจะเจอกันแล้ว”
“เจอกันเสียทีเถอะ” ภัทรร่วมลุ้น
“แม่ก็ว่างั้น เพราะกว่าจะฝ่าความสงสัยของแม่หนูเล็กมาจัดงานได้ ทุกคนก็ต้องมุสากันมาตลอด กว่าจะรอดมาเป็นงานนี้ได้”
“ภูมิคะ นับจากนี้ ขอให้เลิกเศร้าได้แล้วนะคะ”
ภูมินิ่วหน้ามองเดือนฉายงงๆ
“เพราะวันนี้ เดือนเอาเจ้าสาวตัวจริงมาส่งให้แล้วค่ะ”
แสงไฟสาดมาจับรามนรีกับภูมิ ซึ่งตกใจ งงๆ ไฟสาดส่องไปที่ภาพถ่าย ที่ผ้าคลุมถูกเปิดออก เผยให้เห็นภาพของภูมิกับรามนรี เป็นภาพเดิมที่เคยไปถ่ายเวดดิ้งด้วยกัน ที่หน้าเวที ผ้าม่านชั้นนอกเลื่อนออกไป เผยให้เห็นชื่อของรามนรีกับภูมิบนเวที ผสานรับหน้าที่พิธีกรในงาน ยิ้มยินดี นำทุกคนปรบมือแสดงความยินดีด้วยความจริงใจ ภูมิเหมือนฝัน คลี่ยิ้มด้วยความดีใจ ต่างจากรามนรีที่ยืนงง ก่อนสะบัดหน้าเรียกสติ
“นี่มันอะไรกันคะพี่เดือน”
รามนรีดึงมือเดือนฉายพาเดินออกไป
“เขาบังคับพี่เดือนให้ทำอย่างนี้ใช่ไหม ทำไมเขาไม่รักษาสัญญาเลย”
“เลิกคิดถึงแต่คนอื่น แล้วหันกลับมาดูตัวเอง หันมารักตัวเองบ้างจะได้ไหม ตอนนี้เรามีลูก ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ”
“ไม่ค่ะ พี่เดือนสำคัญกว่าสิ่งใด ก็บอกแล้วไง แม้แต่ชีวิตหนูเล็กก็ให้พี่เดือนได้”
“ก็เพราะพี่รู้ไง แล้วทำไมเรื่องเล็กๆ แค่นี้ พี่จะทำเพื่อน้องของพี่บ้างไม่ได้”
รามนรีมองเดือนฉายไม่เข้าใจ
“เลิกคิดเรื่องบุญคุณเสียที เพราะต่อไปนี้หนูเล็กจะต้องมีสามี มีลูก ที่เขากำลังรอเวลาจะได้ลืมตามาดูโลก และเมื่อถึงวันนั้น เขาต้องพร้อมที่จะได้เจอหน้าทั้งพ่อและแม่ของเขา”
“พี่เดือน”
“และนี่คือความรักความหวังดี ที่พี่สาวคนนี้อยากจะตอบแทน คนที่พี่รักมาก”
ไผทพาภูมิเดินเข้ามา เดือนฉายจับมือภูมิกับรามนรีมาจับมือกัน
“อย่าวิ่งหนีความรักกันอีกเลยนะ”
"ใช่ครับ เราอย่าวิ่งหนีความรักกันอีกเลย"
เสียงเสี่ยอุดรดังแทรกเข้ามา
เสี่ยอุดรประคองประกายฟ้าซึ่งใส่ชุดคลุมท้องเดินยิ้มร่าเข้ามา มีประกันกับพวงศรีตามมา
“ฟ้ารับประกันได้ ว่าพี่ภูมิรักคุณมากจริงๆ ดีกันเถอะนะคะ”
“แล้วจะได้มีความสุขอย่างครอบครัวเราไง” พวงศรียืนยัน
รามนรีมองทุกคนด้วยความสับสน
“ถ้าคุณยังเป็นห่วงพี่สาว กลัวว่าเขาจะขึ้นคานล่ะก็ คุณสบายใจไปได้เลย เพราะไผท เขาจะทำหน้าที่นี้แทนเราเอง”
รามนรีมองไผท ไผทจับมือเดือนฉายยิ้มให้
“ใช่ครับ เพราะผมขออาสา ที่จะดูแลคุณเดือน ไปตลอดชีวิต”
รามนรีตกใจ
“แล้ว ไปรักกันตอนไหนค่ะเนี่ย”
“ผมน่ะ แอบรักเขามานานแล้ว แต่เขาเพิ่งจะมองมาที่ผม ก็แค่นั้นเอง”
เดือนฉายยิ้มเขิน ภูมิจับมือรามนรี ส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
เดือนฉายกับไผทพาภูมิกับรามนรีเดินเข้ามาบนเวที เดือนฉายส่งยิ้มสดใสทำมือส่งสัญญาณโอเคให้ญาติๆ ทุกคน ต่างถอนใจโล่งอก หันไปสบตากัน ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ย่ายิ้ม สุขใจ
“เห็นไหม ฉันบอกแล้ว ว่าคู่กันแล้วต้องไม่แคล้วกัน แล้วห้องเบบี้บูมของฉันไม่เป็นหมันแล้ว”
สราญยกโป้งคู่ให้
“คุณแม่นี่ เจ๋งยิ่งกว่าหมอดู”
ภัทรโอบไหล่วิรัช ยิ้มร่าด้วยความดีใจ
“อีกไม่นาน เราก็จะได้เป็นปู่เป็นตากันแล้วนะคุณวิรัช”
“แน่นอนครับ”
สราญโอบไหล่กองแก้ว
“ส่วนเราก็จะได้เป็นย่าเป็นยายกันนะคะ”
“ชัวร์ค่ะคุณย่า”
“จริงค่ะคุณยาย”
สองคนชื่นมื่นยิ้มปลื้มให้กัน สราญมองไป
“อุตะ นั่นคุณประกันกับคุณพวงศรี”
“แล้วนั่นลูกเขยกับลูกสาว เขานี่นา” ภัทรบอก
ภูมิกับรามนรีสบตายิ้มให้กันอยู่มุมหนึ่งของเวที ภูมิกระซิบ
“วันนี้เราไม่มีอะไรค้างคาใจ คุณพอจะบอกผมได้ไหม ว่าที่ผ่านมาคุณเคยรักผมบ้างไหม”
รามนรีเขิน ภูมิส่งสายตาวิงวอน ขอคำตอบ
“ถ้าไม่รัก ฉันจะท้องไหม ถามอะไรบ้าๆ”
ภูมิยิ้มดีใจ หอมแก้มรามนรีหนึ่งฟอด ผสานออกมายืนหน้าเวที
“ขอเรียนเชิญคู่บ่าวสาว มากล่าวอะไรกับแขกผู้มีเกียรติด้วยครับ”
ภูมิจูงมือรามนรีพาเดินออกมา
“ขอบคุณแขกผู้เกียรติทุกท่าน ที่อุตส่าห์สละเวลามาร่วมงานค่ะ”
“และขอบคุณทุกท่าน ที่ทำเราสองคนได้มีวันนี้ มันเหมือนมีปาฏิหาริย์สำหรับเราจริงๆ และเรา จะไม่มีวันลืมมันเลย ขอบคุณมากครับ”
เสียงปรบมือดังกึกก้อง
“และต่อไปขอเรียนเชิญบ่าวสาวตัดเค้ก ครับ”
เสียงเพลงบรรเลงสุดคลาสสิค รามนรีกับภูมิบรรจงตัดเค้กจนเสร็จ
“และแล้วก็ถึงช่วงเวลาโยนช่อดอกไม้ ที่เราจะได้ลุ้นกันว่า ใครที่จะได้แต่งงานเป็นรายต่อไป ขอเรียนเชิญคนโสดที่ด้านหน้ากันเลยครับ”
นิดหูผึ่ง ส่งสายตาหวานเยิ้มให้จอส แล้วรีบออกไปซ้อมตั้งท่ารับดอกไม้สุดชีวิต บรรดาสาวโสดต่าง เดินมาออกันที่หน้าเวที หนึ่งในนั้นคือเดือนฉาย รามนรีถือช่อดอกไม้ เคียงคู่อยู่กับภูมิ แล้วเหวี่ยงช่อดอกไม้ลงมา ช่อดอกไม้ลอยละลิ่วมาตกที่มือเดือนฉายอย่างไร้คู่แข่ง ไผทยิ้มดีใจ
รามนรีกับภูมิหันมามอง เห็นเดือนฉายถือช่อดอกไม้ชูไว้ในมือ ไผทวิ่งเข้ามาโอบเดือนฉายโบกไม้โบกมือให้ภูมิ ภูมิสบตารามนรีซึ้งๆ
“นับจากนี้ คุณจะเป็นเจ้าสาวตัวจริงของผมตลอดไป ไม่ใช่เจ้าสาวเฉพาะกิจแล้วนะ”
รามนรีพยักหน้า ยิ้มเอียงอาย ภูมิกอดหญิงสาวไว้แนบอกอย่างมีความสุข
จบบริบูรณ์