xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 22

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 22

ภูมิเดินกลับเข้ามาในห้อง ประกายฟ้าลุกพรวดไปเกาะแขน ภูมิพยายามสลัดออก
 
“อย่าทำอย่างนี้เลยนะครับ มันจะยิ่งทำให้คุณดูไม่ดี เดี๋ยวคนอื่นอาจเข้าใจผิดได้”
ประกายฟ้าหน้าจ๋อย ประกันมองเอาเรื่อง
“คุณเป็นผู้ชาย ควรจะให้เกียรติผู้หญิงมากกว่านี้”
ภูมิหันไปมองหน้าประกัน ไม่พอใจ
“ผมยอมให้คุณฟ้ามาเป็นเลขา ก็น่าจะถือว่าให้เกียรติแล้วครับ”
ประกายฟ้าเสียหน้า ประกันมองภูมิ ไม่พอใจมาก
“แต่แม่คุณเป็นคนเชิญให้ลูกสาวผมมาทำงานที่นี่ แล้วก่อนหน้านี้ ก็สู่ขอน้องฟ้าให้มาแต่งงานกับคุณ แต่ก็ต้องผิดหวัง สิ่งที่เขาทำเพราะรักคุณ มันผิดตรงไหน”
ภูมิน้ำท่วมปาก พวงศรีเห็นท่าไม่ดีรีบห้าม
“ใจเย็นๆ ค่ะ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันนะคะ”
“ผมไม่แน่ใจ ว่าคุณภูมิรู้เรื่องของคุณภัทร์รึยัง”
ภูมิมองประกันยิ้มเยาะ
“ผมรู้ดี แล้วเรื่องนี้มันก็จบไปแล้ว พ่อผมเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว”
“อ๋อเหรอ คุณรู้ พ่อคุณรู้ แต่แม่คุณยังไม่รู้ไม่ใช่เหรอ”
“อุ้ย จริงด้วยค่ะ ถ้าคุณพี่สราญรู้ คงจะไม่มีวันยอมให้จบง่ายๆ แน่”
ประกันชูโทรศัพท์
“อยากรู้จัง ว่าถ้าคุณสราญได้เห็นคลิปนี้ ไม่รู้เส้นโลหิตเส้นไหนจะพากันปรี๊ดแตกอย่างไม่ได้นัดหมายบ้างน้า”
ประกันหัวเราะสะใจ ภูมิโมโหมองเอาเรื่อง
“นี่คุณขู่ผมเหรอ”
สราญเดินเข้ามา
“อุ๊ยตาย คุยอะไรกันอยู่คะ ท่าทางสนุกเชียว”
ภูมิเก็บอารมณ์ให้ปกติ
“คุณแม่ขา ฟ้าขออนุญาต ให้พี่ภูมิพาฟ้าไปทานอาหารกลางวันกระชับสัมพันธ์จะได้ไหมคะ เพราะตอนนี้ดูพี่ภูมิเปลี่ยนไป เหมือนไม่พอใจอะไรฟ้า”
ภูมิมองประกายฟ้า สายตารังเกียจ
“ดีเลยดี เดี๋ยวแม่จะให้พี่ภูมิพาไปทานร้านโปรดของเขา ภูมิพาน้องไปเลยลูก”
ภูมิยังยืนนิ่ง ไม่อยากไป ประกายฟ้ารั้งแขนเขา
“นะคะพี่ภูมิ พาฟ้าไปนะคะ”
ประกันมองภูมิหมั่นไส้
“คุณสราญ ผมมีเรื่องจะ”
ภูมิมองประกันหน้าเครียด รีบตัดบท
“ก็ได้ ผมจะพาไป”
ภูมิมองแค้น ก่อนเดินหน้าเครียดออกไป ประกันกับพวงศรียิ้มสะใจ

ศจีกับเจือจันทร์ และระพีมองย่าหน้าเหวอ ในทันทีที่ย่าเล่าเรื่องภูมิให้ฟัง
“หะ พี่ภูมิมีเมียแล้ว”
“ไปมีตอนไหน แล้วทำไมไม่บอกกันบ้างเลยล่ะคะคุณย่า”
“ทำไงได้ ปุ๊บปั๊บมันก็พามา แต่ยังโชคดีที่ได้คนดีมาเป็นเมีย แถมยังปราบตาภูมิเสียอยู่หมัด”
“ใครกันน้า ที่กล้ามาจับปลาไหลอย่างพี่ภูมิให้อยู่นิ่งได้ ก็เลยไม่รู้จะดีใจ หรือจะสมน้ำหน้า พี่ภูมิจอมกะล่อนดีนะคะคุณย่า”
“ทำไมไปว่าพี่เขาอย่างนั้นล่ะลูก”
ระพีอมยิ้มแอบขำศจี
“ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงก็ว่าไปเถอะ แต่ครั้งนี้ดูตาภูมิเขาจริงจังตั้งใจ แต่แม่สราญกลับไม่ชอบลูกสะใภ้ แต่ก็ยังดี ที่แม่เดือนฉายเขามีความอดทนสูงมาก”
“เดือนฉาย ชื่อเพราะจังเลยนะคะคุณย่า ชักอยากจะเห็นหน้าพี่สะใภ้แล้วล่ะสิ”
“เห็นว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน เอาไว้วันงานย่าจะพาเขาไป”
ภัทรเดินยิ้มร่าเข้ามาโอบไหล่ระพีกับศจี
“ใครบอกไม่มีใครอยู่บ้าน ก็ผมนี่ไงที่อยู่ ลุงยินดีด้วยนะ”
“ขอบคุณมากครับคุณลุง”
ภัทรมองเจือจันทร์
“อีกหน่อยก็จะได้เป็นคุณยายกับเขาแล้วสิ”
“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะพี่ ใจก็อยากให้เขารีบมีไวๆ เหมือนกัน”
“ดีๆ ดูท่าเจ้าภูมิมันคงจะไม่มีน้ำยา จะให้ย่ารอนานก็คงจะไม่ไหว กลัวตายก่อน”
“งั้นต้องฝากระพี ให้แซงหน้าเจ้าภูมิไปก่อนเลย คุณย่าท่านจะได้สมหวังเสียที”
ระพีกับศจี หันไปสบตา ยิ้มเขิน

สราญ ประกัน พวงศรี นั่งคุยอยู่ในห้องทำงานของภูมิ รุ้งเดินเข้ามา
“แม่รุ้ง ต่อไปฉันจะให้เธอไปทำหน้าที่อื่น เพราะคุณฟ้าเขาจะมาเป็นเลขาแทน”
รุ้งส่งสายตาวิงวอน
“ไม่ให้รุ้งเป็นเลขา แล้วจะให้รุ้งไปทำหน้าที่อะไร เพราะรุ้งไม่เคยทำอย่างอื่นเลย”
“จะเป็นอะไรไป ก็ลองไปทำอย่างอื่นดูบ้างสิ หรือไม่ก็คิดเสียว่าทำเพื่อตาภูมิ”
“ทำเพื่อคุณภูมิ ทำอะไรคะ”
“ก็ทำหน้าที่ผู้ช่วยนางเอกไง”
“ผู้ช่วยนางเอก”

“เธอต้องคอยเป็นหูเป็นตา คอยดูแลคุณประกายฟ้า อย่าให้แม่เดือนฉายมาวุ่นวาย ต้องกันมันออกไปให้ห่างคุณภูมิ เข้าใจไหม”

รุ้งครุ่นคิด ก่อนเห็นทางสดใสจะได้เอาคืนรามนรี
 
“อ๋อค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”
“ฝากดูแล คุณฟ้าด้วยนะจ๊ะ หนูรุ้ง”
“ถ้าทำดี คุณสราญอาจจะเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งให้หนูก็ได้”
“ด้วยความยินดีค่ะท่าน”
ทุกคนสบตากัน

ไผทนั่งทำงาน ใจจดใจจ่อรอภูมิด้วยความห่วงใย
“ทำไมเงียบเชียว”
เสียงโทรศัพท์ดัง ไผทมองหน้าจอเห็นเบอร์แปลกๆ ก่อนจำใจกดรับสาย
“ขอโทษทีนะครับ ทั้งบัตรเครดิตทั้งประกันผมทำไว้หมดแล้ว แค่นี้นะครับ”
“ทำไมปฏิเสธกันอย่างนี้ล่ะคะ นี่เดือนฉาย ไม่ใช่คนขายประกันนะคะคุณไท”
“คุณเดือน”
“ตอนนี้ เดือนกลับมาเมืองไทยแล้วนะคะ”
“หะ คุณเดือนกลับมาเมืองไทยแล้ว”
“ค่ะ แล้วทำไมต้องตกใจ ขนาดนั้นด้วยล่ะคะ”
“เปล่าครับเปล่า แล้วนี่เจ้าภูมิมันรู้รึยัง”
“ยังไม่ให้รู้ค่ะ เพราะเดือนอยากจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์ภูมิ”
“อ๋อครับ แล้วคุณเดือนแพลนไว้รึยัง ว่าจะทำอะไรต่อ”
“ที่ผ่านมา เดือนรู้สึกผิดที่ทิ้งเขาไป แต่ต่อไป เดือนตั้งใจจะดูแลเขา จะแต่งงานกับเขา เราจะไม่จากกันไปไหนอีกแล้วค่ะ”
ไผทยิ้มเศร้า
“ดีครับ”
“ตอนนี้เดือนมาทานข้าวกับน้องสาว ทานเสร็จจะรีบไปที่รัตนคาม แล้วเจอกันนะคะ”
ไผทวางสาย กุมขมับหน้าเครียด สราญเปิดประตูเดินยิ้มเข้ามาหา
“ไผท แม่ให้หนูฟ้ามาทำงานเป็นเลขาตาภูมิแล้วนะ”
ไผทตกใจ
“ฝากช่วยดูแล และเทรนงานให้เขาด้วย จะได้ช่วยแบ่งเบาแรงเรากับตาภูมิไง”
“อ๋อ ได้ครับคุณแม่ งั้นผมจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้”
“ตอนนี้เขาไม่อยู่ แม่ให้พาหนูฟ้าไปทานข้าว เดี๋ยวบ่ายๆ คงกลับมา แล้วค่อยไปหาเขาละกัน งั้นแม่กลับก่อนนะ เดี๋ยวพ่อหนูฟ้าจะรอนาน”
ไผทพูดไม่ออก เมื่อรู้ว่าร้านอาหารที่เดือนฉายไป กับร้านร้านที่ภูมิจะพาประกายฟ้าไป เป็นร้านเดียวกัน ไผทตั้งสติได้ รีบคว้าโทรศัพท์โทรหาภูมิมือไม้สั่น รอสัญญาณ แต่ไม่มีคนรับสาย
“อยากจะตายรึไง ทำไมไม่ยอมรับสายวะไอ้ภูมิ”
ไผทวางสาย ครุ่นคิด ก่อนวิ่งพรวดออกไป

เหมียวกับรุ้ง ถือแฟ้มเอกสารคุยกันไปตามทาง
“คุณสราญให้คุณประกายฟ้ามาเป็นเลขาคุณภูมิแทนฉัน”
“เฮ้ย เป็นไปได้ไง แกไม่วีนตายเลยเหรอ”
“ไม่ เพราะฉันรู้ ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น”
เหมียวมองรุ้งงงๆ อ้าปากจะถามต่อ แต่ไม่ทัน ไผทวิ่งเข้ามา
“ถอยไป”
สองสาวหันไปมองไผทวิ่งหน้าตั้งเข้ามา ก่อนจะถูกชนจนล้มคว่ำแฟ้มหล่นกระจาย
“ไม่เข้าใจ เขาจะรีบไปไหนของเขาเนี่ย”
“ก็นั่นน่ะสิ ตั้งแต่มาเป็นเลขาที่นี่ ไม่เคยเห็นคุณไทรีบได้ใจขนาดนี้เลย”
สองสาวสงสัย

ที่ร้านอาหาร เดือนฉายตักอาหารใส่จานให้รามนรี
“หือ อร่อยมากเลยค่ะ ว่าแต่บอกได้รึยังคะ ว่าจะชวนไปทำธุระสำคัญอะไร”
“พี่ก็แค่อยากจะชวนหนูเล็กไปเซอร์ไพรส์คุณภูมิ แฟนพี่”
รามนรีสำลักอาหารตาเหลือก
“หนูเล็ก เป็นอะไร”
“ไม่เป็นไร แค่อาหารติดคอนิดหน่อยค่ะ”
“ดื่มน้ำก่อนนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“เดี๋ยวทานเสร็จ เราค่อยไปซื้อของโปรดให้ภูมิ คอยดูนะ วันนี้พี่จะทำให้ภูมิเซอร์ไพรส์ที่สุดเลย”
รามนรีฝืนยิ้มให้ แต่ในหัวคิดหาทางออกว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้ความแตกเสียก่อน

ภูมิเดินเอามือสองข้างล้วงกระเป๋า เข้าไปในร้านอาหาร ประกายฟ้ารู้ไต๋ ไม่ยอม พยายามดึงมือภูมิมาจับไว้ เอาหน้าซบแขนอ้อนตลอดทาง
“คุณฟ้า เดินธรรมดาก็ได้ ผมอายเขา”
“จะอายไปทำไม ในเมื่ออีกไม่นานเราก็จะได้แต่งงานกันเพราะฉะนั้นไม่ต้องอายใคร เข้าใจไหมคะพี่ภูมิ”
“ไม่เข้าใจ และมันเป็นไปไม่ได้ เพราะผมมีภรรยา มีคนที่ผมรักอยู่แล้ว”
“ภรรยาที่แม่สามีไม่ปลื้ม มันก็เป็นได้แค่ของปลอม แล้วพี่ภูมิจะแคร์ทำไม แค่ไล่มันไปก็จบ”
ภูมิมองประกายฟ้าไม่พอใจ
“ผมจะไม่มีวันทำอย่างนั้นกับคนที่ผมรักแน่”
“งั้นก็ต้องคิดให้ดีๆ ว่าระหว่างทำกับแม่ กับเมีย พี่ภูมิจะเลือกทำกับใคร”

ภูมิมองรังเกียจ สลัดมือประกายฟ้าออก แล้วเดินผละออกไป ประกายฟ้ายิ้มเหี้ยม ไม่สะทกสะท้าน ยิ่งต้องการจะเอาชนะภูมิ

ในร้านอาหารโซนเบเกอรี่ รามนรียืนมองเดือนฉาย เลือกซื้อขนมให้ภูมิอย่างมีความสุข
 
“เนี่ย ภูมิเขาชอบมากเลย ตอนพี่อยู่ เขากินจนอ้วน”
“ดูพี่สองคนรักกันมากเลยนะคะ”
“จ้ะ เรารักกันมาก ตอนนี้พี่ดีใจ ที่คุณไทบอกว่าภูมิเขาทำตัวดีขึ้นมาก ว่าแต่หนูเล็ก เคยเห็นข่าวในทางลบของเขาในข่าวสังคมบ้างไหม”
“ไม่มีค่ะ”
“งั้นก็แสดงว่าคุณไทพูดจริง”
เดือนฉายยิ้มปลื้ม ก่อนถุงขนมหล่นจากมือ หน้าซีดเผือด รามนรีมองตาม ตกใจไปอีกคน เมื่อเห็นประกายฟ้าเดินกอดแขนแนบชิดภูมิ เดือนฉายเดินเข้าไปประจันหน้า พยายามกลั้นน้ำตาไว้ กำมือแน่น รามนรียืนแอบมองอยู่อีกมุมด้วยแววตาห่วงใย ภูมิอึ้ง
“เดือนฉาย”
“ยังจำกันได้อยู่เหรอคะภูมิ”
ประกายฟ้าสงสัย
“เดือนฟังผมอธิบายก่อน”
“ที่ผ่านมา เดือนฟังภูมิมาเท่าไหร่ จะให้เดือนฟังเรื่องโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่ออะไร ฟังไปทำไมอีก”
“แต่สิ่งที่คุณเห็น มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเลยนะ”
ภูมิพยายามจะสลัดประกายฟ้า แต่สลัดไม่ออก
“ปล่อยผมเสียทีจะได้ไหมประกายฟ้า”
“ไม่ ฟ้าจะไม่ยอมปล่อยพี่ภูมิ พี่ภูมิต้องเป็นของฟ้าคนเดียว”
เดือนฉายพยายามระงับอารมณ์
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันขอคุยกับผู้ชายคนนี้สักครู่”
“ไม่ได้ค่ะ แล้วฉันก็อยากให้รู้ไว้ ว่าฉันกับเขา เรากำลังจะแต่งงานกัน”
เดือนฉายอึ้งตัวชาวาบ หันไปมองภูมิ ภูมิปฏิเสธพัลวัน
“ไม่จริงนะเดือน ผมกับเขาเราไม่มีอะไรกัน”
เดือนฉายน้ำตาร่วง มองภูมิ
“เวลาไม่ได้ช่วยอะไร มันไม่ได้ทำให้คุณดีขึ้นมาได้เลย เสียแรงที่ฉันรัก ฉันหวังว่าคุณคือคนที่ฉันจะฝากชีวิตไว้ได้ แต่มันก็ไม่ใช่”
ภูมิจะอ้าปากจะพูด แต่ไม่ทัน
“ต่อไป ฉันจะไม่มีวันเสียเวลา และจะไม่เสียน้ำตาให้กับคนไม่รู้จักพออย่างคุณ ไม่มีวัน”
เดือนฉายวิ่งร้องไห้ออกไป ประกายฟ้ายิ้มสะใจ รามนรีทนไม่ไหว เดินหน้าเหี้ยมเข้ามากระชากประกายฟ้าเหวี่ยงออกไป ประกายฟ้าถลาหน้าคะมำไป ภูมิตกใจ ก่อนจะถูกรามนรีตบหน้าอย่างแรง
“คุณมันเลวมาก ฉันไม่น่าเชื่อใจคนหน้าไหว้หลังหลอกอย่างคุณเลย”
รามนรีรีบเดินตามเดือนฉายออกไป ภูมิยืนงง ทำอะไรไม่ถูก

ไผทขับรถเข้ามาจอด แล้วรีบวิ่งเข้ามาในร้านอาหาร สอดส่ายสายตามองหาภูมิ ก็เห็นเดือนฉาย วิ่งร้องไห้ออกมา
“คุณเดือน”
“คุณไท”
เดือนฉายร้องไห้โฮ โผเข้าไปกอดไผท ไผทกอดเดือนฉายไว้แนบอก ด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ รามนรีเดินตามมา แอบมองเดือนฉาย ยิ่งแค้นภูมิ
“นายทำให้คนดีๆ อย่างพี่เดือนต้องร้องไห้ นายต้องชดใช้”
ภูมิเห็นรามนรีกำลังเดินออกไป จึงรีบวิ่งเข้าไปหา จับมือหญิงสาว มองหน้าวิงวอน ประกายฟ้าวิ่งตามมาแอบยืนมอง
“ฟังผมอธิบายหน่อย ที่ผมต้องมากับเขาก็เพราะคุณแม่”
“ไม่จำเป็น เพราะคนที่คุณต้องอธิบายคือคุณเดือนฉายไม่ใช่ฉัน เห็นรึยัง ว่าเธอกลับมาหาคุณด้วยความรัก แต่คุณกลับทำให้เธอต้องเสียใจ ต้องร้องไห้”
“แต่ผมไม่ได้ตั้ง ไม่อยากให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้เลย”
“แต่คุณก็ทำ”
“แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไง มาทำไม”
“นั่นมันเรื่องของฉัน แต่ที่แน่ๆ มันทำให้ฉันได้รู้ว่า คุณไม่เคยเปลี่ยน”
“สิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริง ทำไม คุณไม่เคยเชื่อใจ ไม่ฟังผมบ้างเลย”
“ก็เพราะนิสัยสันดานคุณไม่เคยเปลี่ยน คุณทำได้แค่เล่นละครให้ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนดี ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ คุณมันเลวกว่าที่ฉันคิดไว้จริงๆ ถอยไป”
รามนรีผลักภูมิล้มลงไป ก่อนเดินไปมองประกายฟ้า กำมือแน่ ประกายฟ้าเบี่ยงหน้าหลบ ไม่กล้าสบตา
 
ภูมินั่งหมดแรงด้วยความเสียใจ ประกายฟ้ายิ้มสะใจ ก่อนเข้าไปปลอบภูมิ

ไผทมองเดือนฉายนั่งเหม่อ หน้าเศร้า เสียงโทรศัพท์ดัง ไผทกดรับสายจากภูมิ โดยภูมิหลบประกายฟ้า ออกมายืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างรถ
 
“ไอ้ไท วันนี้เป็นวันมหาซวยของฉันมาก ฉันไปกับประกายฟ้า แต่ดันไปเจอเดือนฉายที่ร้านอาหาร เขากลับมาเมืองไทยแล้ว”
“ฉันรู้ เขาโทรมาบอกแล้ว และรู้จากคุณแม่ ว่าแกพายัยฟ้าไปที่นั่น ฉันพยายามโทรหาแกจนมือหงิก แต่แกไม่รับสาย ฉันเลยรีบตามไป”
“โทษที ฉันลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ ฉันเป็นห่วงเดือน เพราะยัยฟ้าจอมจุ้นทำให้เขาเข้าใจผิด ฉันอธิบายเขาก็ไม่ฟัง นี่ฉันพยายามโทรหาก็ปิดเครื่อง”
“แกไม่ต้องห่วง เพราะตอนนี้คุณเดือนอยู่กับฉัน”
“อ้าวเหรอ แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไง ฉันขอคุยกับเขาหน่อยสิ”
“ได้ ได้ คุณเดือนครับ ภูมิเขาจะขอคุยด้วยหน่อย”
เดือนฉายส่ายหน้า แล้วลุกเดินหนีออกไป
“ภูมิ คุณเดือนเขายังไม่สะดวกคุยกับแกตอนนี้”
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ยังไงฝากแกช่วยดูแลเขาด้วยนะ”
“เออๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
ภูมิวางสายหน้าเศร้า ในขณะที่เดือนฉายยืนหลับตาเรียกสติ ไผทเดินเข้ามา
“คุณเดือนครับ”
“คุณไท ทำไมคุณปกปิดเดือน ทำไมไม่บอกเดือนว่าภูมิมีคนอื่น”
“ภูมิเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้น แต่เขาถูกแม่บังคับ”
“มีเรื่องขนาดนี้ คุณไทยังจะกล้าปกป้องเขาอีกเหรอคะ”
“แต่มันเป็นเรื่องจริงนะครับคุณเดือน ภูมิเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณเดือนเสียใจ”
“แต่เดือนคงจะทำใจให้เชื่อเขาไม่ได้ เดือนทำใจไม่ได้จริงๆ”
เดือนฉายเอามือปิดหน้าร้องไห้ ไผทน้ำท่วมปาก อึดอัดใจไม่รู้จะพูดจะทำอย่างไรดี

ย่ายืนดูถวิลปลูกต้นไม้ เภาตักน้ำใส่ถังมาวางไว้
“คุณท่าน คุณเดือนมาแล้วครับ”
ย่าเห็นรามนรีเดินเหม่อหน้าเครียดเข้าบ้านมา เภาแปลกใจ
“โอ๊ะ ทำไมเครียดขนาดนั้น”
“แม่เดือน”
รามนรีสะดุ้ง
“ค่ะคุณย่า”
“ทำไมดูใจลอยขนาดนั้น มีปัญหาอะไรรึเปล่า เล่าให้ย่าฟังได้นะ”
“ไม่มีอะไร หนูก็แค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย คุณย่ามีอะไรให้รับใช้เหรอคะ”
“เปล่า ย่าก็แค่จะมาบอก ให้หนูเตรียมตัวไปงานหมั้นแม่ศจีน้องสาวตาภูมิในวันมะรืนนี้ จริงๆ แล้วเขาโทรมาบอกนานแล้ว แต่ย่าลืม หนูช่วยบอกไผทด้วยนะ”
“ได้ค่ะคุณย่า แล้วหนูจะบอกให้นะคะ”
ย่ายื่นกล่องเครื่องเพชรกับเงินให้หนึ่งปึก
“เอานี่ไป ส่วนชุด ย่าสั่งให้สไตล์ลิสเขาจัดมาให้ จะได้เข้ากับเครื่องเพชร”
“หนูรับไว้ไม่ได้ คุณย่าให้หนูมามากแล้ว หนูพอแล้วค่ะ”
“ไม่เป็นไร ชุดนี้มันชุดใหม่ แล้วเงินนี่ย่าก็อยากให้เราเก็บเอาไว้ใช้บ้าง แล้วก็ห้ามเกรงใจ รับไปเดี๋ยวนี้เลย”
รามนรียกมือไหว้ จำใจรับไป
“ค่ะคุณย่า”
“งั้นก็ไปพักเถอะ ย่าจะเข้าบ้านแล้ว”
ย่าเดินไป

รามนรีวางของไว้บนโต๊ะในสนาม ก่อนทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า โทรศัพท์หาเดือนฉาย แต่ปิดเครื่อง รามนรีถอนใจมองโทรศัพท์ นึกเป็นห่วงเดือนฉาย ไผทเดินเข้ามา ป้องปากตะโกนเรียกเบาๆ
“คุณยาย คุณยาย”
นิดเดินออกมาเห็นไผท รีบหลบมุมแอบมอง รามนรีหันไปมองตามเสียง เห็นไผทกวักมือเรียก เธอมองซ้ายมองขวา ก่อนเดินออกไป เสียงโทรศัพท์ไผทดัง เห็นเบอร์ภูมิโทรมา ไผทรีบกดรับ ภูมิยืนอยู่กับประกายฟ้า ขณะคุยโทรศัพท์
“ไอ้ไท แกเสร็จธุระรึยัง รีบมาหาฉันที่ออฟฟิศเดี๋ยวนี้ ฉันอยากเจอแก”
ไผทมองไป เห็นรามนรีกำลังเดินเข้ามา จึงรีบตัดบท
“ตอนนี้ฉันติดลูกค้าอยู่ยังไปไม่ได้ แค่นี้นะ”
ภูมิถอนใจเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ผิดหวังอย่างแรง ก่อนกดปิดเครื่อง ประกายฟ้ายิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่นิด เห็นรามนรีเดินเข้าไปหาไผท ไผทดึงมือรามนรีพาเดินหลบไปคุยที่ลับตาคนอีกมุม นิดรีบเอาโทรศัพท์มือถือ มาถ่ายคลิปไว้ แต่ไม่ได้ยินเสียง รามนรียืนคุยกับไผท ไผทหน้าเครียด
“คุณยาย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คุณเดือนฉายเขากลับมาแล้ว แถมยังเห็นเจ้าภูมิอยู่กับประกายฟ้าที่ร้านอาหาร”
รามนรีทำเป็นตกใจ
“เหรอคะ แล้วคุณเดือนฉายเป็นยังไงบ้าง”
“เขาเสียใจมาก ไม่ยอมคุยไม่ยอมฟังเจ้าภูมิมันเลย”
“สมน้ำหน้า”
“แต่เจ้าภูมิมันไม่ได้ตั้งใจ มันถูกแม่บังคับให้พาคุณฟ้าไปกินข้าว แถมเขายังขู่จะแฉเรื่องกิ๊ก ให้คุณแม่รู้ จนเจ้าภูมิมันต้องยอมทำตาม”
“เหรอคะ แล้วเราจะเอายังไงกันดี”
“ผมก็ยังนึกไม่ออก เลยรีบมาบอกให้รู้ไว้ จะได้เข้าใจไอ้ภูมิ”
“เราควรจะรีบหาทางให้คุณภูมิกับคุณเดือนฉาย ปรับความเข้าใจกันให้เร็วที่สุด”
“ผมก็อยากจะให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้เดือนเขา ไม่ฟังอะไรเลย”
“งั้นเรารอให้เสร็จจากงานหมั้นคุณศจีก่อนจะดีไหม แล้วค่อยว่ากัน”
“ก็ดี เอาเป็นว่า ถ้านึกอะไรได้ เราค่อยโทรปรึกษากันอีกทีแล้วกันนะ”
“อ้อ คุณย่าฝากมาบอกให้เชิญคุณไท ไปงานด้วยกันนะคะ”

“แน่นอนครับ งานนี้ถ้าไม่ไป ยัยศจีฆ่าผมตายแน่ ผมขอตัวไปดูเดือนเขาก่อนนะ”

เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 22 (ต่อ)

รามนรีพยักหน้ายิ้มให้ นิดกดปิดมือถือ ยิ้มตาวาว
 
“แหวะ ซาบซึ้งอึ้งย้งมาก เจอคลิปนี้เข้าไป แกตายแน่นังเดือนฉาย”
ถวิลเดินถือกระป๋องน้ำ เภาตามมาติดๆ เห็นนิดยืนมองรามนรี เภาหมั่นไส้แย่งน้ำจากถวิลสาดใส่นิด
“ว้าย”
ถวิลหน้าตกใจ
“เอ๊า เอาอีกแล้ว เขายิ่งรณรงค์ให้ประหยัดน้ำก็ยังจะทำ”
“ขอสักดอกเถอะ ขอใช้น้ำจัดการอีพวกหมาลอบกัด เผื่อมันจะคิดดีๆ เป็นบ้าง”
“วันนี้ฉันไม่มีเวลากัดกับใครและไม่ได้กลัว แต่ฝากไว้ก่อน เพราะฉันรีบ”
นิดเดินกระแทกเท้าออกไป

สราญกำลังดูโทรทัศน์ไป ตะไบเล็บไป อย่างสบายใจ รามนรีถือกล่องเครื่องเพชรกับเงิน เดินผ่านเข้ามา สราญอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
“โอ้โห นี่ไปอ้อนอีท่าไหน ถึงได้ทั้งเครื่องเพชร ทั้งพ็อกเก็ตมันนี่มาขนาดนี้ยะ มันคุ้มค่าสำหรับคนที่ไม่มีอะไร ไม่มีที่มาที่ไปอย่างเธอเลยจริงๆ”
“ทั้งหมดเป็นความกรุณาของคุณย่า ท่านให้เอาไว้ใส่ไปงานหมั้นคุณศจีน่ะค่ะ”
“หะ นี่แกยังจะมีหน้ากล้าไป แกจะทำให้ฉันอับอายขายขี้หน้าเขาไปถึงไหนกัน ฉันว่า อย่าสะเออะจะดีกว่าไหม แกไม่อายแต่ฉันอาย”
รามนรีพยายามระงับอารมณ์
“ขอร้อง ให้แกรีบไปบอกคุณย่าว่าไม่ไป ฉันจะขอบใจมาก”
“หนูขอก่อนตัวนะคะ”
“นี่ แกจะรีบหนีไปไหน มาคุยกันให้รู้เรื่อง มา”
นิดถือโทรศัพท์ วิ่งเข้ามา
“คุณสราญขา มีข่าวด่วน ข่าวเด็ดมารายงานค่ะ”
“แล้วแก ทำไมเปียกม่อล่อกม่อแลกอย่างนั้นล่ะ”
“อย่าสนใจเลยค่ะ ดูนี่เด็ดกว่าเยอะ”
นิดรีบเอาโทรศัพท์มาจ่อที่หน้า เปิดคลิปรามนรีกับไผทให้ดู สราญยิ้มสะใจ
“เกมนี้ ฉันก็ถือไพ่เหนือกว่ามันอีกแล้วสิ แกทำได้ดีมากนังนิด รีบส่งคลิปนี้มาไว้ที่มือถือฉัน ด่วน”
“พร้อมส่งบัดเดี๋ยวนี้ค่ะ เจ้านาย”
นิดกดส่งคลิปไปให้สราญ

รามนรีรู้สึกผิด พยายามโทรศัพท์หาภูมิ แต่เขาปิดเครื่อง เธอจึงโทรหาไผท ไผทขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเดือนฉาย เสียงโทรศัพท์ดัง
“คุณไท ฉันติดต่อคุณภูมิ ไม่ได้เลย”
“ผมก็ติดต่อมันไม่ได้เหมือนกัน สงสัยคงจะน้อยใจที่ผมไม่รับสาย แถมยังถูกคุณต่อว่า”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะคะ”
“แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมมาหาคุณเดือนที่บ้าน อีกสักพักผมจะออกไปตามหามัน ถ้าไม่เจอ ก็คงต้องรอให้มันหมดฤทธิ์ เดี๋ยวมันก็เมากลับไปเอง”
“ค่ะ ยังไงฝากคุณไทช่วยดูแลเขาด้วยนะคะ”
รามนรีวางสายครุ่นคิด

ไผทเปิดประตูรั้ว ถือกล่องอาหาร เดินเข้ามาหาเดือนฉายซึ่งนั่งทอดอาลัยอยู่ที่สนามหน้าบ้าน
“คุณเดือน มาทานอะไรรองท้องสักนิดเถอะนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”
“คุณไท เดือนไม่รู้จะคิดจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี มันสับสนไปหมดแล้ว”
“คุณเดือน เรื่องบางเรื่องมันก็มีเหตุผล มีที่มาที่ไปแตกต่างกัน และบางครั้งมันก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะอธิบายให้ใครเข้าใจได้”
เดือนฉายมองไผทงงๆ ไผทจับมือหญิงสาว
“เชื่อผม ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ คิดด้วยเหตุและผล อีกไม่นานคุณจะเข้าใจ ว่าเพราะอะไรภูมิเขาต้องทำ”
“ถ้าภูมิเข้าใจเดือน ดีกับเดือน ได้แค่ครึ่งหนึ่งของคุณไท เดือนจะดีใจมาก”
“ไปครับ ไปทานข้าวก่อนนะ”
ไผทสบตาเดือนฉายหน้าเศร้า ก่อนยื่นมือออกไปให้เดือนฉายจับ แล้วพาเดินเข้าไปในบ้าน

บริเวณหน้าบ้านศจี ทุกคน ช่วยกันจัดวางกระถางต้นไม้ ให้ดูสวยงาม เสียงโทรศัพท์ระพีดัง เขากดรับ
“พี่พี นี่หนูเล็กเองนะคะ”
“หนูเล็ก ว่าไง มีอะไรให้พี่ช่วยไหม”
ศจีกับเจือจันทร์ หันไปมองระพี ยิ้มดีใจ
“ไม่มีค่ะ หนูเล็กแค่โทรมารายงานตัว ว่าหนูเล็กสบายดี ไม่มีอะไรค่ะ”
“จ้ะ แล้วจะให้พี่บอกพ่อไหม ว่าเราโทรมา”
“ไม่นะคะพี่ อย่าเพิ่งบอกพ่อตอนนี้เลย”
“โอเคได้ วันมะรืนนี้จะถึงงานหมั้นพี่แล้ว หนูเล็กอยากมาไหม”
“เอ่อ”
“ไม่เป็นไร ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่ต้องมา พี่เข้าใจ”
“ขอบคุณที่เข้าใจ แต่ถึงตัวจะไม่ได้ไป หนูเล็กจะสวดมนต์ไหว้พระ อวยพรให้พี่กับพี่สะใภ้นะคะ”
“งั้นอวยพรกับเจ้าตัวเขาเลยดีกว่าไหม”
ระพียื่นมือถือให้ศจี
“สวัสดีจ้ะหนูเล็ก นี่พี่ศจีนะจ๊ะ”
“สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษทีที่หนูเล็กไปร่วมงานด้วยไม่ได้ แต่จะส่งใจไปอวยพร ให้พี่ทั้งสองมีความสุขมากๆ พี่พีเป็นคนดีทั้งกายและใจ ฝากดูแลพี่ชายด้วยนะคะ”
“แน่นอนจ้ะ พี่หวังว่า อีกไม่นาน เราคงจะได้เจอกันนะจ๊ะหนูเล็ก”
“ค่ะ งั้นรบกวนพี่แค่นี้ก่อนนะคะ”

ศจียื่นโทรศัพท์คืนให้ระพี

ภูมินั่งดื่มในผับหรู โดยมีประกายฟ้าคอยเอาอกเอาใจ รินเหล้าให้ไม่ห่าง
 
“คุณเชื่อไหม ว่าไม่มีใครเชื่อใจ ไม่มีใครรักผมเลย แม้แต่เมีย”
“ใครไม่เชื่อ ไม่เป็นไร แต่ฟ้านี่ไงที่จะเชื่อพี่ภูมิ ดื่มค่ะดื่ม”
ประกายฟ้ายกแก้วชนกับภูมิ ภูมิพยายามปรือตาที่ใกล้จะปิด มองประกายฟ้า
“ขอบคุณครับ ที่อยู่เป็นเพื่อนในวันที่ผมไม่มีใคร”
“ไม่เป็นไร ฟ้าเต็มใจค่ะ”
“แต่ถ้าจะให้ดี คุณต้องเลิกจุ้น เอ๊ะ ไม่ใช่สิ เลิกวุ่นวายกับผมเสียทีได้ป่ะ”
“ที่ทำไปเพราะรัก ไม่ได้วุ่นได้จุ้นเสียหน่อยค่ะ ดื่มดีกว่านะคะ ดื่มค่ะ”
ภูมิยกแก้วดื่ม ก่อนหงายหลังพิงพนักเก้าอี้หลับไป ประกายฟ้ายิ้มเจ้าเล่ห์ หันไปส่งสัญญาณให้ใครบางคนที่แอบซุ่มอยู่
คืนนั้น รามนรีนั่งกระสับกระส่าย รอภูมิกลับมา เดินชะเง้อมองที่นอกหน้าต่าง ไม่เห็นรถ รู้สึกเป็นห่วง เธอพยายามโทรหาภูมิเป็นระยะ แต่เขาปิดเครื่อง
“เป็นบ้าอะไร ทำไมไม่เปิดเครื่องเสียทีเนี่ย”
เวลาผ่านเวลาหลายชั่วโมง รามนรีหาว นั่งหลับสัปหงก จนทนไม่ไหว ฟุบหน้าหลับไปกับเตียง

ภูมิถูกจัดฉากแบล็คเมล์จากประกัน และพวงศรี นอนเปลือยท่อนบน มีผ้าห่มคลุมไว้ ประกายฟ้าโผล่หัวออกมาจากผ้า ทำท่านอนกอดภูมิหลับตาพริ้ม ตามการจัดฉากของพ่อกับแม่
“ดูท่าทางให้มันสมจริง ให้ดูดีเหมือนในละครเลยนะคะ”
“อย่าได้แคร์ เพราะซีนนี้แม่ดูบ่อย”
“มือระดับนี้ไม่มีพลาดอยู่แล้ว”
กล้องถ่ายวิดีโอ ถูกตั้งเวลาถ่ายทั้งภาพและเสียง พวงศรีกับประกัน ช่วยกันเอามือถือมาถ่ายคลิปไว้กันพลาด จนเสร็จ ประกันมองหมั่นไส้ยิ้มเยาะ
“เล่นตัวนักใช่ไหมไอ้เศรษฐีเด็ก ต้องเอาให้หนัก”
พวงศรีหัวเราะร่า
“หมู่นี้ได้เล่นละครบ๊อยบ่อย และหลายบทบาทมาก”
“ถ้าครั้งนี้ไม่จบก็ให้มันรู้ไป แต่แม่คะ เมื่อกลางวันมีผู้หญิงอีกคนมาอ้างเป็นแฟนพี่ภูมิ แถมยังบอกว่าชื่อเดือนฉาย เป็นไปได้ไหมว่ายัยแว่นนั่นมันเป็นตัวปลอม”
“โอ๊ย อย่าเก็บมาคิดให้เสียสมอง ตัวจริงตัวปลอมก็มีแต่ในละครเท่านั้นจ้ะ ไม่ต้องไปสนใคร สนใจคุณภูมิคนเดียวก็พอ”
“ใช่เราต้องรีบหาเงินก้อนใหญ่ด้วยการเอาคุณภูมิมาเป็นลูกเขยให้ได้ จะได้เอาเงินไปใช้หนี้ไอ้เสี่ยอุดร พ่อจะได้เกทับบลัฟแหลกให้มันให้อกแตกตายไปเลย ว่าพ่อได้ลูกเขยที่หล่อกว่ารวยกว่ามันหลายร้อยเท่า”
“ใช่เลยค่ะพ่อ”
พวงศรียิ้มเจ้าเล่ห์ สบตาประกัน

ตอนเช้า รามนรีนั่งฟุบหน้าหลับไปกับเตียง งัวเงียลืมตาตื่น กวาดตามองหาภูมิ แต่ไม่เจอ เธอวิ่งไปชะโงกดูนอกหน้าต่าง แต่ไม่เห็นรถ
“ไม่ได้กลับบ้าน แล้วไปไหน หวังว่าคงจะไม่ใช่”

ภูมิงัวเงียพยายามลืมตาตื่น กวาดตามองรอบห้องที่ไม่คุ้นเคย ก่อนหันไปมองประกายฟ้า ที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ
“เฮ้ย มาได้ไงเนี่ย”
ประกายฟ้ายิ้มหวานเข้าไปนัวเนีย
“แต่นี่มันห้องของฟ้านะคะพี่ภูมิ”
ประกันกับพวงศรีเปิดประตูห้องให้ภัทรกับสราญเดินเข้าไป ทั้งสองตกใจ เมื่อเห็นภูมินอนอยู่บนเตียงกับประกายฟ้า
“น้องก็ไม่รู้จะบอกคุณพี่ยังไง นอกจากให้มาดูกันเอาเอง”
ภัทรส่ายหน้าให้ภูมิ พึมพำเบาๆ
“ไม่น่าพลาดเลย”
“แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเขานะครับคุณพ่อ”
“นี่ตกลง จะไม่รับผิดชอบลูกสาวผมใช่ไหม ถ้าไม่ได้ทำอะไร แล้วจะอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง ทำไมไม่แมนเลยครับคุณภูมิ”
“เกิดอะไรขึ้นหนูฟ้า”
ประกายฟ้าร้องไห้กระซิกก่อนตอบสราญ
“พี่ภูมิเขาเมา เขาขอให้ฟ้าพามาที่นี่ เพราะเขาไม่อยากลับบ้านไปเจอเมีย ฟ้าก็เลยพามา กะจะให้นอนอีกห้อง แต่เขาตามมา เขาล่วงเกินฟ้าค่ะคุณแม่”
สราญยิ้มแหย หันไปมองภัทรที่โทรศัพท์หาถวิล
“ถวิล เดี๋ยวขึ้นมาข้างบน มาพาคุณภูมิกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
“ผมว่าเราควรจะคุยกันให้รู้เรื่องก่อนดีไหม เพราะลูกสาวผมเสียหายนะครับ”
สราญคิดอะไรไม่ออก
“เอ่อ แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของหนุ่มสาว”
ถวิลเดินเข้ามา ภัทรหยิบเสื้อภูมิ ให้ถวิลพาภูมิไปแต่งตัว พวงศรีหยิบเสื้อคลุมไปให้ประกายฟ้า พาเดินออกไป
“เดี๋ยวคุณรออยู่ที่นี่ ฉันจะไปคุยกับเขาก่อนนะคะ”
ประกันผายมือเชิญสราญออกไป ภัทรมองภูมิ หนักใจ
“พ่อครับ”
“พ่อเข้าใจ เอาไว้ไปคุยกันที่บ้านนะ”
ภูมิพยักหน้าให้ภัทรอย่างหนักใจ ในขณะที่สราญออกมาคุยกับพวงศรีและประกัน
“เพราะผมพลาดเอง ที่ปล่อยให้น้องฟ้าไปกับคุณภูมิ เพราะไว้ใจแท้ๆ เลย”
“ใจเย็นนะคะ คุณพี่เองก็ยังงงไม่หาย ทำใจไม่ทัน เพราะมันเร็วมาก”
“จะคิดในแง่ร้ายมันก็ร้าย แต่ในแง่ดี ก็มีอยู่มากนะคะคุณพี่”
“คุณพี่ไม่เข้าใจ ยังไงคะ”
พวงศรีหันไปป้องปากกระซิบกระซาบให้สราญ ที่เริ่มหัวเราะคิกคักเห็นด้วย
“เอาเป็นว่า เราจะยังไม่บอกใคร ขอให้ผ่านงานหมั้นหลานสาวไป แล้วเราค่อยมาว่ากันอีกที และงานนี้ คุณพี่จะถือโอกาสพาหนูฟ้าไปเปิดตัว เชิญทั้งครอบครัวเลยนะคะ”
“อ๊าย ดีค่ะดี”

สราญมองพวงศรีกับประกัน ยิ้มพอใจ

บรรยากาศงานหมั้นของศจีกับระพี
 
ผู้คนช่วยกันเตรียมงานหมั้น ไม่ว่าจะเป็นจัดสถานที่ ช่วยยกของ กองแก้วกับวิรัชช่วยเจือจันทร์คอยดูแลตกแต่งสถานที่ ระหว่างนั้นกองแก้วแอบกระซิบกับวิรัช
“บ้านหนูศจีนี่รวยมากนะคะ ขนาดบอกจะจัดงานเล็กๆ ยังดูใหญ่โตไม่ใช่เล่น ถ้าจัดแบบเต็มที่จะขนาดไหน”
“ก็เขาสืบเชื้อสายมาจากตระกูลรัตนบดินทร์ มหาเศรษฐีใหญ่”
“ระพีนี่ตาถึง ไม่เห็นเหมือนยัยหนูเล็ก รายนั้นน่ะมีตาแต่ไม่มีแววเอาเสียเลย”
“ฮึ่ย อย่าพูดถึงนังลูกไม่รักดีได้ไหม รมณ์เสีย”
วิรัชเดินหนีไปดูทางอื่น เหลือกองแก้วกับเจือจันทร์สองคน กองแก้วได้ทีประจบประแจงเจือจันทร์
“ระพีนี่โชคดีเหลือเกินนะคะคุณเจือจันทร์”
“โชคดีเรื่องอะไรคะ”
“ก็โชคดีที่ได้เจอหนูศจี ทั้งสวยทั้งเก่ง ชาติตระกูลก็ดี ถือเป็นเกียรติเป็นศรีกับวงศ์ตระกูลของเราจริงๆ”
“ศจีก็โชคดีค่ะ เพราะระพีเขาเป็นคนดี ขยันเอาการเอางานมาก”
“ระพีน่ะกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก ดิฉันก็คอยดูแลเหมือนเป็นแม่แท้ๆ ของแก หมั่นอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี เขาเป็นคนดีอย่างที่หวังจริงๆ ค่ะ”
“มันก็อยู่ที่พื้นฐานจิตใจของแต่ละคน คนดี ต่อให้ไม่มีใครสอน เขาก็ดีได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าคนไม่ดีต่อให้บอกให้สอนยังไง ก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา และที่สำคัญก็ต้องดู ว่าคนที่สอนเขา สอนจริงดีจริงหรือดีแต่ปาก เพราะถ้าเป็นคนแบบนี้ก็ถือว่าไม่น่าคบ ถือว่าชุบมือเปิบนะคะ”
กองแก้วถึงกับสะอึก หุบยิ้มไปครู่หนึ่ง แต่พอเห็นเจือจันทร์ยังยิ้มให้ ก็รีบปั้นยิ้มใส่เจือจันทร์ต่อ
“จริงค่ะ คุณเจือจันทร์พูดถูกที่สุด โฮะๆๆ”
เจือจันทร์หันไปทางอื่น กองแก้วก็เบือนหน้ามา ขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าถูกหลอกด่าหรือไม่

ชุดสวยแขวนไว้ในห้องภูมิ ภูมิอาบน้ำเสร็จ รามนรีจะเข้าไปดูแลเหมือนเคย แต่ชายหนุ่มทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ในใจตรงกันข้าม เพราะกังวลเรื่องถูกประกายฟ้าแบล็คเมล์
“นี่คุณเป็นอะไร ฉันก็ขอโทษไปแล้วไงที่เข้าใจผิด ทำไมยังไม่หายโกรธอีก”
“ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมคิดว่า ผมไม่น่าจะดีพอสำหรับคุณ ผมมันเลว”
ภูมิรีบแต่งตัวจนเสร็จ แล้วรีบเดินออกไป รามนรีมองภูมิเหนื่อยใจ ก่อนเดินหายไปในห้องน้ำ

ผสานใส่ชุดสูทสุดเท่ห์ มองกระจก เห็นจอสใส่ชุดสูทลายดอก ผ้าสีผูกคอ เดินเข้ามาเก๊กท่าหล่อใส่
“กูจะไปกับมึงไหวไหมเนี่ยไอ้จอส”
“อ้าว ทำไมละครับนายหัว จอสออกจะหล่อจัดขนาดนี้”
“จัดว่าแย่น่ะสิ คนบ้าอะไร ใส่ชุดสียังกะแกงส้มผักรวม แล้วมีผ้าสามสีผูกคอ เขาจะนึกว่ามึงเป็นผีเจ้าที่มาร่วมยินดีรึเปล่าวะเนี่ย”
“โห นายหัว จอสอุตส่าห์ไปซื้อมาตั้งหลายตังค์ หวังให้ชมนะเนี่ย”
“เออ ไม่เป็นไร กูจะนึกว่าไปกับคนบ้าก็แล้วกัน จะได้สบายใจขึ้นมาหน่อย”
“จอสบ้าตรงไหน”
“เออ เออ หล่อก็ได้วะ ไปได้แล้ว ฤกษ์เขาเก้าโมงเก้านาที เราต้องรีบไปเอาหน้า ต้องไปก่อนเวลาเข้าใจไหม”
“เข้าใจครับนายหัว”
จอส ยิ้ม ผายมือเชิญผสาน

ย่า ภูมิ สราญกับภัทร ลงมายืนรอหน้าบ้าน เพื่อเตรียมตัวจะออกจากบ้าน สราญชะเง้อชะแง้มองหน้าบ้าน ก่อนยิ้มร่า ย่าเห็นประกายฟ้า ประกัน และพวงศรี เดินเข้ามา
“นี่เขาเป็นญาติข้างไหนของเธอเหรอแม่สราญ”
“ไม่ใช่ก็เหมือนใช่ รอให้ผ่านงานนี้ไป แล้วจะเฉลยให้ทราบค่ะคุณแม่”
ภูมิเซ็ง ย่ามองสราญไม่เข้าใจ แต่ไม่สนใจ ภัทรหันไปสบตาภูมิ ก่อนมองประกันกับพวงศรี
“สวัสดีค่ะ คุณหญิงย่า ไม่เจอกันตั้งนาน ยังสวยไม่สร่างเลยนะคะ”
“สวัสดีค่ะคุณย่า คุณแม่ขา ฟ้ามาแล้วค่ะ”
ย่าฝืนยิ้มให้ ไม่สนใจ หันไปกวาดตามองหารามนรี
“ตาภูมิ แล้วแม่เดือนทำไมยังไม่ลงมา”
ภูมิอ้าปากจะพูด แต่ไม่ทันแม่
“อย่าไปสนใจเขาเลยค่ะคุณแม่ เขาอาจจะไม่ลงมา เพราะไม่อยากไป คงจะเพิ่งนึกได้ว่าอายชาติกำเนิดของตัวเองก็ได้ ใครจะไปรู้”
สราญหัวเราะคิก ก่อนป้องปากกระซิบกระซาบพวงศรีกับประกายฟ้า
“เมื่อวานมันโดนคุณพี่ด่า รับรองได้ ว่ามันกลัว มันไม่กล้ามาแน่”
“หนูมาแล้วค่ะ”
ภูมิหันไปมอง รามนรีใส่ชุดสวย เดินสง่าเข้ามา ยกมือไหว้ทุกคน พวงศรีกับประกายฟ้าหุบยิ้มแทบไม่ทัน ย่ายิ้มสะใจ ปรายตามองสราญ
“วันนี้หลานสะใภ้ย่าสวยมาก สวยจริงๆ”
“ขอบคุณค่ะคุณย่า”
“ไปลูก ไปขึ้นรถกันเถอะเดี๋ยวจะสาย”
“งั้นเชิญคุณแม่ไปก่อน เดี๋ยวหนูกับคุณภัทรจะไปรถหนูฟ้า จะได้ไม่ต้องอึดอัด”
“งั้นก็เชิญตามสบาย ฉันก็จะได้ไม่อึดอัด”
ย่าเชิดใส่ จูงมือรามนรีกับภูมิเดินไป ประกายฟ้าแทบจะกรี๊ด พวงศรีกับประกันพาประกายฟ้าออกมาระงับอารมณ์ สราญเสียหน้า รีบเดินตามมา บ่นแก้เก้อ
“ต้องเป็นเพราะคุณแม่แน่ๆ มันถึงได้กล้าขนาดนี้”
“คุณแม่ขา ถ้าเดือนฉายไป แล้วฟ้าจะไปงานนี้ในฐานะอะไรคะ”
ประกันได้ทีเล่นตัว
“ถ้ายังตอบไม่ได้ว่าน้องฟ้ามาในฐานะอะไร แล้วเราจะไปทำไม”
“ใช่ เราจะไปให้อับอายขายขี้หน้าเขาทำไม ขอตัวกลับก่อนดีกว่านะคะ”
“อ๊าย จะทำอย่างนั้นไม่ได้ ทำใจร่มๆ ไว้นะคะ ถึงมันไป ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ยังไงคุณพี่ก็จะต้องหาทางช่วยหนูฟ้าให้เด่นเด้งกว่ามันอยู่แล้วน่า”
สราญหันไปส่งสายตาวิงวอน
“นี่ผมเชื่อใจคุณสราญ งั้นไปก็ไป”
“ไปเร็วค่ะ เราควรรีบไปให้ถึงก่อนคุณย่า จะได้ทำตลาดก่อน”

สราญรีบวิ่งไปดึงมือภัทรพาไปขึ้นรถ ประกันขับรถพุ่งออกไป

กองแก้วกับวิรัชออกมายืนดูหน้างานอีกรอบ กองแก้วเห็นคนน้อยกว่าที่คาดก็หงุดหงิด
 
“แก้วล่ะแปลกใจ บ้านหลังเบ้อเริ่มเทิ่ม ทำไมคนมางานน้อยมาก”
“เขาบอกแล้วว่าจัดแบบพอเพียงบอกแต่ญาติสนิท ไว้งานแต่งค่อยจัดใหญ่”
“เศรษฐีขี้ตืดล่ะไม่ว่า ถ้าเป็นแก้ว รวยขนาดนี้จะจัดให้ใหญ่บึ้มไปเลย”
“ก็เพราะคิดแบบนี้ไง ถึงได้ไม่รวย”
“แหมทีสินสอดล่ะ คุณจัดมาเต็ม แล้วนี่คุณจะได้ส่วนแบ่งซองช่วยงานอะไรกับเขาไหมคะเนี่ย เราจะเสียเปรียบเขาไม่ได้นะคะ”
“อย่าไปจุ้นจ้านกับเขา เพราะผมไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดจะหากำไรจากงานแต่งของลูก เลิกบ่น แล้วรีบไปดูสิว่า พ่อผสานมารึยัง”
กองแก้วขัดใจ แอบเบ้ปากใส่วิรัช ก่อนกวาดตามองไป ยิ้มร่า โบกมือทักทาย ตะโกนเรียก
“อ๊าย ทางนี้ค่ะคุณผสาน”
ผสานกับจอส เดินยิ้มร่าเข้ามายกมือไหว้ ผสานเข้าไปสวมกอดวิรัช
“ไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงคุณพ่อที่สุดเลย”
“เหมือนกันลูก ไป เดี๋ยวพ่อพาไปถ่ายรูป แล้วพาไปแนะนำกับญาติเรานะ”
“ครับพ่อ”
“งั้นเชิญตามสบาย เดี๋ยวแก้ว ขอตัวไปช่วยเขารับแขกก่อนนะคะ”
วิรัชพยักหน้าให้ ผสานหันไปยักคิ้วให้จอส รู้กัน

ศจีกับระพี เดินเข้าไปยกมือไหว้ ต้อนรับสราญกับภัทร
“สวัสดีค่ะ คุณป้าสราญ ขอบคุณที่มาเป็นเกียรติค่ะ งานอาจจะไม่ใหญ่โตอะไร เพราะเราเชิญเฉพาะญาติสนิทเท่านั้นค่ะ”
“จัดอย่างนี้ก็ดีแล้ว ดูอบอุ่นและเป็นกันเองดีออก ไม่ใหญ่โตก็ไม่เห็นเป็นไร”
“หรือไม่แม่ศจีก็บอกให้แฟน รอแต่งพร้อมพี่ภูมิกับพี่ประกายฟ้า ป้าจะได้จัดให้ใหญ่ไปเลย”
ระพียิ้มเจื่อน สราญหันไปยิ้มกับประกายฟ้า
“นี่ไงจ๊ะหนูประกายฟ้า ว่าที่ภรรยาอย่างเป็นทางการของตาภูมิ”
“เอ๊ะ วันก่อน คุณย่าบอกว่าภรรยาพี่ภูมิชื่อเดือนฉายไม่ใช่เหรอคะ”
ประกายฟ้าหันไปมองพวงศรีกับประกัน หน้าเจื่อน
“นั่นมันตัวปลอม เพราะสะใภ้ตัวจริงของป้า คือหนูประกายฟ้าเท่านั้นจ้ะ”
ระพีรับรู้ได้ รีบบีบมือศจีให้ตัดบท กองแก้วเห็นกลุ่มสราญมีแต่คนแต่งตัวดี รีบปรี่หน้าระรื่นเข้ามาหา ยกมือไหว้กราดไปทั่ว
“สวัสดีค่า ดิฉันชื่อกองแก้ว เป็นคุณแม่ของระพี คู่หมั้นหนูศจีค่ะ เท่าที่ดูจากข่าวสังคมไฮโซ นี่คงจะเป็นคุณหญิงรัตนบดินทร์แน่ๆ”
ระพีรู้สึกอับอายจนหน้าชา แต่พูดอะไรไม่ได้ จำใจปล่อยเลยตามเลย สราญรับไหว้ รีบปั้นหน้ายิ้มใส่กองแก้วอย่างรังเกียจ
“ฉันชื่อสราญ ส่วนนี่คุณภัทร สามี เป็นพี่ชายคุณเจือจันทร์ แม่หนูศจี แล้วนี่ครอบครัวลูกสะใภ้ของฉัน แล้วฉันก็เป็นแค่คุณนาย ไม่ใช่คุณหญิงค่ะ”
กองแก้วหน้าเจื่อน
“ขอโทษทีนะคะที่เข้าใจผิด แต่ยังไงก็ดีใจ ที่จะได้เกี่ยวดองกับคุณหญิงคุณนาย ครอบครัวเราทำธุรกิจรีสอร์ท ถ้าว่างก็เชิญไปเที่ยวกันนะคะ”
“ขอบคุณมากครับคุณกองแก้ว ไว้มีโอกาสเมื่อไหร่ เราจะไปเยี่ยมนะครับ” ภัทรรีบบอก
“ดิฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ เราต้องไปทักทายผู้ใหญ่ก่อน”
สราญพาทุกคนเดินหนีไป พลางบ่น
“ฉันล่ะเบื่อ พวกเห่อคนรวย เห็นคนมีเงินมีหน้ามีตาเป็นไม่ได้ ต้องรีบวิ่งโร่เข้ามาเสนอหน้าอยากจะรู้จัก”
“นั่นสิคะคุณพี่ คนพวกนี้นี่น่ารำคาญจริงๆ”
“เอาน่า อย่าไปถือสาเขาเลย คนแบบนี้ก็ประมาณนี้ ไม่มีอะไรหรอก”
“คงหวังจะเกาะเราเอาหน้า แล้วเอาไปแอบอ้าง ว่าได้มาเกี่ยวดองเป็นญาติน่ะสิ”
“แต่เขาก็กำลังจะเป็นญาติกับเรา ไปว่าเขาแบบนั้นมันไม่ดีนะคุณ”
“ก็แค่หลานเขย ไม่ถือว่าสนิทชิดเชื้ออะไร จบงานแต่งเมื่อไหร่ก็จบกัน ถ้าไม่เห็นแก่ยัยศจี อย่านึกนะว่าฉันจะมา มาแล้วก็เซ็งจริงๆ”
ประกายฟ้าพยักหน้าเห็นด้วย ภัทรมองสราญอ่อนใจ รีบชิ่งเข้าไปในงาน

บ่าวสาวยืนต้อนรับแขก และร่วมถ่ายรูปกับบรรดาแขกที่มาร่วมงาน ภูมิ รามนรีและย่า เดินผ่านหน้าประตูเข้ามาในงาน รามนรีเห็นบรรยากาศภายในงาน ที่จัดไว้อย่างสวยงาม นึกถึงระพี
“ถ้าเราได้ไปงานพี่พี ก็คงจะดีสินะ"
ภูมิกับย่า เดินเลยไปก่อน หันมองหารามนรี เห็นยืนยิ้มเพ้ออยู่คนเดียว
“อ้าว ยืนเอ๋ออยู่ทำไม ไปได้แล้วคุณ”
รามนรีหุบยิ้มค้อนให้ภูมิ ก่อนรีบเดินเข้ามาหา ย่ามองอมยิ้ม
“อยากจะจัดอย่างนี้อีกรอบไหม เดี๋ยวย่าจัดให้ใหม่ได้นะ”
“ไม่ค่ะคุณย่า หนูพอแล้วค่ะ”
ย่ามองภูมิกับรามนรี ยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนเดินออกไป รามนรีมองไปเห็นระพีกับศจีกำลังถ่ายรูปกับกลุ่มสราญ และประกายฟ้า เธอหน้าซีด ตัวชาวาบ
“อ้าว เป็นอะไร ทำไมไม่เดินล่ะแม่เดือน”
“นี่คุณเป็นอะไร”
“ฉัน คือ ฉันปวดท้องค่ะ ปวดมากๆ เลย”
รามนรีเอามือกุมหัว
“ประสาทกลับรึเปล่า ตกลงคุณปวดท้องรึปวดหัวกันแน่”
รามนรีนึกได้ยิ้มแหย รีบเอามือมาจับท้อง ให้ดูเหมือนปวดมาก
“โอ๊ยๆ ปวดมากเลยค่ะ”
“เอ๊ะ เมื่อกี้ก็ยังดีๆ อยู่เลยนี่นา มา ย่าพาไปเข้าห้องน้ำข้างใน ไปลูกไป”
รามนรีหันไปมองเห็นระพีกับศจีกำลังเดินตรงเข้ามา
“งานมงคลอย่างนี้มันจะดูไม่งาม ขอหนูจัดการตัวเองดีกว่า คุณย่าเข้าไปในงานกับคุณภูมิก่อนนะคะ เสร็จธุระแล้วหนูจะตามไป ขอตัวค่ะ”
รามนรีไม่สนใจรีบวิ่งออกไป ระพีกับศจี เดินเข้ามาต้อนรับย่า ภูมิรับไหว้
“สวัสดีครับ แฟนหล่อมากนะยัยศจี”
“ก็แหงสิ ทีพี่ยังเลือกแต่คนสวยๆ เลย”
“ปากดีเหมือนเดิมนะเรา”
“ก็เหมือนพี่แหละ ว่าแต่มีอะไร ใครวิ่งไปโน่น”
“ก็แม่เดือนฉาย เขาท้องเสียกะทันหันน่ะสิ”
“อ้าว แล้วทำไมไม่มาเข้าห้องน้ำด้านในล่ะคะ”
“ให้ผมไปตามเธอกลับมาให้ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เดือนเขาเกรงใจ ไม่อยากรบกวน เขาให้เรารีบเข้าไปในงานก่อน เดี๋ยวจะเสียฤกษ์ เสร็จธุระเดี๋ยวเขาก็ตามมาเอง”
ศจีกับระพี ประคองย่าเข้าไปในงาน

รามนรีนั่งหลบอยู่หลังกระถางต้นไม้ใบใหญ่ที่ใช้ตกแต่งสถานที่ โผล่หน้ามามองเห็นแขกชุดสุดท้าย เดินหายเข้าไปในงาน และที่หน้าบ้านก็ไม่มีใคร เธอลุกขึ้นมายืนหลบตั้งหลักอยู่ที่ริมประตูหน้าบ้านศจีหอบแฮ่ก
“เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่แค่คิด ก็สมหวัง เราได้มางานพี่พีจริงๆ แต่ผิดเวลาไปป่ะ แล้วจะเอาไงดีวะเนี่ย จะอยู่หรือจะไปดี”
รามนรีไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับชีวิต จึงเด็ดกิ่งไม้มาดึงใบไม้เสี่ยงทาย
“ใบไม้จ๋าช่วยฉันทีคิดที นาทีนี้ฉันคิดไม่ออกจริงๆ เข้าไป ไม่เข้าไป เข้าไป ไม่เข้าไป เข้าไป”

รามนรีทิ้งใบไม้ใบสุดท้าย ก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างแรง มองเข้าไปในบ้านอย่างมั่นใจ
 
จบตอนที่ 22 


กำลังโหลดความคิดเห็น