xs
xsm
sm
md
lg

ห้องหุ่น ตอนที่ 13

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ห้องหุ่น ตอนที่ 13

วิญญาณที่ซ้อนอยู่ในหุ่นทุกตัวนั่งคุกเข่าลงพากันกราบหลวงตา หลวงตามองอย่างเห็นใจ
 
"เป็นอย่างที่หลวงตาคิดไว้จริงๆ"
เดชตื้นตัน
"ผมดีใจเหลือเกินที่ได้พบหลวงตาอีกครั้ง"
"หลวงตาโปรดช่วยพวกเราและช่วยลูกของดิฉันด้วยเถิดค่ะ" อารีย์บอก
หลวงตาพยักหน้า
"หลวงตาจะพยายาม แต่ไม่ใช่แค่หลวงตาคนเดียวที่จะช่วยได้ พวกเจ้าก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย"
"พวกเราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ขอให้หลวงตาบอกมาว่าพวกเราต้องทำยังไงบ้างครับ"
หลวงตาพยักหน้าพอใจ หุ่นทุกตัวมองหน้ากันอย่างมีความหวัง

ในป่าช้า ดวงจันทร์กลมโตส่องสว่างเต็มท้องฟ้า แต่จู่ๆ มีเมฆดำบดบังให้ท้องฟ้าจนมืดครึ้มอย่างน่ากลัวขึ้นมา ฟ้าแลบก่อนผ่าเปรี้ยงลงมาที่ตุ๊กตาโหงพราย ตุ๊กตาสั่นก่อนตาแดงวาบขึ้นมาอย่างน่ากลัว ควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากตุ๊กตารวบรวมเป็นร่างเพทายที่ดูน่ากลัวมาก เวทย์ยังนั่งบริกรรมคาถา เพทายจ้องเดินเข้าหาทรุดลง ด้วยท่าทางจงรักภักดี
"นายท่าน"
เวทย์ลืมตามองเพทายอย่างพอใจ
"ในที่สุดข้าก็ปลุกเสกเจ้าสำเร็จ"
เวทย์ล้วงเข้าไปในย่าม กำมือออกมา
"เรามาลองทดสอบกันดูหน่อย"
เวทย์เป่าคาถาที่มือแล้วขว้างออกไป เห็นปีศาจหลายตัว ต่างมีท่าทางน่ากลัวพุ่งเข้าจะทำร้าย เพทายยืดตัวขึ้นเหมือนเปรต ใช้มือใหญ่โตเท่าใบลานตบปีศาจแต่ละตัวที่พุ่งเข้ามาจนกระเด็นร้องโหยหวน ล้มไปที่พื้น เพทายยกเท้าใหญ่โตเหยียบปีศาจจนจมดิน ท่าทางเพทายเหี้ยมโหดมาก
เวทย์มองเพทาย สะใจ
"ดีมาก..เจ้าจะเป็นโหงพรายที่เหนือโหงพรายทุกตัว จะไม่มีผีตัวไหนสู้เจ้าได้ฮ่ะๆๆ"
เพทายหดตัวลงมาเท่าเดิม หมอบลงตรงหน้าเวทย์
"ฉันจะรับใช้นายท่านด้วยความซื่อสัตย์"
"ดี..ดีฮ่ะๆๆๆ"
เวทย์มองเพทายอย่างพอใจมาก

เมื่อตอนเช้ามืด สันติเปิดประตูกุฏิ เห็นหลวงตานั่งสมาธิอยู่บนเสื่ออย่างสงบ สันติค่อยๆคลานเข้าไปใกล้ๆ มองหลวงตาพิจารณา แน่ใจว่าหลวงตาไม่ได้เป็นอะไร สันติกำลังจะคลานถอยกลับออกไป
"เจ้าอาร์ต"
หลวงตาลืมตาหันมามอง
"มานานแล้วรึ"
สันติคลานกลับมาหา
"หลวงตาไปไหนมาครับ"
"ห้องหุ่น"
สันติตกใจมองหน้าหลวงตาเชิงถาม
"หุ่นทุกตัวโดนสะกดไว้ด้วยม่านอาคม"
"หลวงตามีทางช่วยมั้ยครับ"
หลวงตาพยักหน้า
"มีแต่คงต้องให้เจ้าช่วยหลวงตาด้วย"
"หลวงตาจะให้ผมทำอะไรครับ"
"เจ้าต้องเข้าไปในห้องหุ่น นำสิ่งของของหุ่นแต่ล่ะตัวมาให้หลวงตาให้ได้"
สันติหนักใจ

บ้านเดชตอนเช้า ในห้องนอน พิไลเพิ่งตื่นหันมาเห็นพรรณรายยังนอนร้องไห้อยู่
"นี่ไม่ได้หลับทั้งคืนเลยเหรอพรรณราย"
พรรณรายแค้น พูดสะบัด
"เป็นคุณแม่ คุณแม่จะหลับลงมั้ยคะ พรรณอุตส่าห์หลงดีใจอยู่ตั้งนานเพราะคิดว่าอาร์ตรักพรรณจากใจของเขาจริงๆ แต่นี่เค้ารักพรรณเพราะไอ้น้ำมันพรายบ้าบอนั่น"
พิไลรำคาญ
"แทนที่ลูกจะมานั่งร้องไห้เสียใจ แม่ว่าเรามาหาทางป้องกันไม่ดีกว่าเหรอ"
พรรณรายงง
"ป้องกันอะไรคะ"
"เท่าที่แม่รู้ ผีตายทั้งกลมที่ถูกสะกดให้มาควบคุมจิตใจของนายอาร์ต ได้ถูกคนมีอาคมปลดปล่อยไปแล้ว"
พรรณรายตกใจ
"หมายความว่าฤทธิ์ของน้ำมันพรายจะเสื่อมเหรอคะ"
พิไลพยักหน้า
"ถึงตอนนั้นนายอาร์ตก็คงกลับไปรักยัยอัมราเหมือนเดิม"
"ไม่..พรรณไม่ยอม พรรณไม่ยอมเสียอาร์ตให้อัมราเด็ดขาด"
"ถ้าอย่างนั้นลูกก็ต้องรีบกำจัดนังอัมราไปให้พ้นทางซะ"
พรรณรายคิดตาม สีหน้าท่าทางเห็นด้วย

ฝ่ายอัมรากำลังตากผ้าที่เพิ่งซักเสร็จอยู่ที่ราวตากผ้าหลังบ้าน เสียงตะกร้าผ้าวางกระแทก
ลงบนพื้นอย่างแรง พิไลกับพรรณรายเป็นคนวางตะกร้าผ้าอีกสองตะกร้า อัมรามองอย่างรู้ทัน
"อย่าบอกนะคะว่าจะเอาผ้าพวกนี้มาให้อัมซัก"
"ไม่โง่นี่ ถ้าอย่างนั้นคนฉลาดอย่างเธอก็คงรู้ว่าต้องทำยังไง"
"แต่อัมเพิ่งซักผ้าเสร็จเดี๋ยวนี้เอง"
"แล้วไงซักแล้วก็ซักอีกได้ ในเมื่อผ้ามันยังมีให้ซัก" พรรณรายบอก
อัมราข่มใจเดินมาหยิบเสื้อพิไลจากตะกร้าขึ้นมาชู
"นี่มันเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่เลยนี่คะ"
พิไลมองไม่แคร์
"ใช่ฉันยังไม่ได้ใส่ แต่ฉันอยากให้ซักมีปัญหาอะไรมั้ย"
"แบบนี้ก็แกล้งกันชัดๆ อัมไม่ซักค่ะ ถ้าน้าพิไลอยากซักก็คงต้องซักเอง"
อัมราโยนเสื้อพิไลลงตะกร้าเหมือนเดิม จะเดินไป พรรณรายตวาด
"เดี๋ยว"
อัมราชะงักหันกลับมา พรรณรายพูดจริงจัง
"ฉันสั่งให้เธอซักผ้าทั้งสองตะกร้านี้เดี๋ยวนี้"
"ไม่ค่ะ..อัมช่วยทำงานในบ้านก็เพราะไม่มีน้าชิ้นแล้ว แต่ถ้าจะแกล้งกัน อัมไม่ทำค่ะ"
พรรณรายพุ่งเข้ากระชากแขนกลับมา
"เธอต้องทำ"
"ไม่ค่ะ"
พรรณรายตบหน้าน้องสาวฉาดใหญ่ อัมราตะลึงมองพี่สาวอย่างน้อยใจ
"พี่พรรณ"
พรรณรายกระชาก เหวี่ยงอัมราไปล้มที่ตะกร้า จนผ้ากระจายออกมา พรรณรายตะคอก
"ซักผ้านี่ให้หมด ถ้าเธอไม่ทำก็เตรียมเก็บเสื้อผ้าทั้งของเธอกับตาอ๊อดออกไปจากบ้านนี้ได้เลย"
พรรณรายเดินกลับเข้าบ้านไป อัมรามองตามอย่างเสียใจ พิไลยืนมอง ก้มลงหยิบผ้าที่หล่นจากตะกร้าโยนใส่หน้าอัมรา พูดเยาะๆ
"ซักให้สะอาดนะจ้ะ ถ้ายังไม่อยากไปนอนอยู่ข้างถนน"

พิไลเดินลอยชายไป อัมราพยายามข่มใจตัวเอง

พรรณรายเดินเข้ามาในบ้าน
 
รู้สึกเหมือนใครเดินตาม หันกลับมา ไม่มีใคร ครั้นเดินต่อ ก็เห็นเงาเคลื่อนหลบวูบไป พรรณแปลกใจหันกลับอีก ตาเหลือกตกใจสุดขีด อารีย์ยืนมองหน้าตาน่ากลัว
"คุณ..คุณแม่"
พรรณรายตกใจมาก เดชยืนดักอยู่ หน้าตาน่ากลัวไม่แพ้กัน
"คุณพ่อ"
เดชกับอารีย์เคลื่อนเข้าหาพรรณรายอย่างน่ากลัว
"ทำไมทำกับน้องแบบนี้" เดชถาม
"อย่า..ค่ะ..พรรณกลัวแล้ว"
"แกล้งน้องทำไมพรรณราย" อารีย์ถาม
พรรณรายยกมือไหว้ ทรุดลงอย่างหวาดกลัว เดชกับอารีย์ก้มลงหาพรรณราย ยื่นมือเหมือนจะบีบคอ พรรณรายกลัวสุดขีด
"ไม่ค่ะอย่า..อย่า"

ห้องนั่งเล่นบ้านเดช พรรณรายนอนหลับอยู่ ร้องโวยวายก่อนลุกพรวดขึ้นนั่ง
"ไม่ค่ะ..อย่า"
พิไลนั่งทาสีเล็บอยู่ข้างๆตกใจ
"เป็นอะไรไปลูก"
พรรณหันมามองพิไล ทำหน้างงๆ
"พรรณเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย"
พิไลขำ
"ฝันละสิท่า ฝันอะไรกันจ้ะ ร้องซะแม่ตกใจหมด"
พรรณรายกระโดดไปนั่งข้างๆพิไล อย่างหวาดๆ
"พรรณฝันเห็นคุณพ่อกับคุณแม่อารีย์ค่ะ"
พิไลชะงัก
"น่ากลัวมากทำเหมือนจะบีบคอพรรณอย่างนั้นแหละ คุณพ่อคุณแม่คงโกรธที่พรรณแกล้งยัยอัมแน่ๆ"
"โกรธแล้วจะทำอะไรได้"
"แต่ถ้าวิญญาณคุณพ่อคุณแม่มาเล่นงานพรรณจริงๆละคะ"
พิไลหัวเราะ โอบพรรณรายมากอดไว้
"ไม่มีทาง เชื่อแม่สิมันก็แค่มาในฝันเท่านั้นล่ะ มันไม่มีทางมาทำอะไรเราได้หรอก"
สีหน้าท่าทางพิไลมั่นใจมาก พรรณรายโล่งอก เทิดเข้ามาถามแปลกใจ
"อ้าวนายอาร์ตไปไหนล่ะ"
พรรณรายงง
"อาร์ตมาเหรอคะลุงเทิด"
"ใช่..เจอกันที่หน้าบ้านก่อนลุงออกไปซื้อบุหรี่"
พิไลแปลกใจ
"เอ๊ะแล้วหายไปไหน"
พรรณรายลุกขึ้นฉุนๆ
"พรรณรู้แล้วว่าอาร์ตอยู่ที่ไหน"
พรรณรีบออกไป พิไลกับเทิดรีบตามไปด้วย

อัมรานั่งซักผ้าอย่างเหนื่อยมากๆ เหงื่อซึมเต็มหน้า พรรณรายเดินเร็วๆเข้ามา พิไล เทิดตามติดๆ ด้วย อัมราเงยหน้ามอง พรรณรายมองรอบๆตะคอก
"อาร์ตอยู่ไหน"
อัมรางง
"ทำไมมาถามอัมละคะ"
"ไม่ถามแกแล้วจะถามใคร แกนี่มันมารยาร้อยเล่มเกวียนจริงๆนะ เห็นยัยพรรณหลับเลยอ้อนให้นายอาร์ตมาช่วยซักผ้าใช่มั้ย พอพวกฉันมาก็รีบให้หลบไป" พิไลว่า
อัมราถอนใจสุดเบื่อ
"อย่าเอาอัมไปเปรียบกับน้าพิไลสิคะ ที่น้าพิไลพูดมาทั้งหมด คนอย่างน้าพิไลคงทำได้ แต่อัมแม้นแต่คิดก็ยังไม่เคยคิด"
"นี่แกด่าฉันเหรอ"
อัมราเฉยก้มหน้าซักผ้าต่อ พิไลพุ่งเข้ามายกกะละมังคว่ำไปต่อหน้าต่อตา ผ้ากระจายลงพื้นเลอะเทอะหมด อัมราเปียกปอน ตะลึงลุกขึ้นโมโห
"จะแกล้งกันไปถึงไหนคะ อัมจะทนไม่ไหวแล้วนะ"
พิไลมองเกลียดชังมาก
"ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทน นังกาฝากจะไปไหนก็ไปเลยไป"
"แน่ใจเหรอคะว่าคนที่เป็นกาฝากคืออัม ไม่ใช่น้าพิไล"
"แก"
พิไลแค้น ตบหน้าอัมซ้ายขวา จนอัมล้มไป พรรณรายมองสะใจ พิไลเข้าคร่อมตัวอัมรา เตรียมจะกระหน่ำตบให้สะใจ
"อะไรกันครับ"
พิไลชะงัก ทุกคนหันไปมอง สันติเข้ามา พรรณรายรีบวิ่งเข้าไปเกาะแขน สันติมองอัมราอย่างตกใจ
พรรณรายรีบถามคาดคั้น
"อาร์ตไปไหนมาคะ ลุงเทิดบอกว่าอาร์ตมาตั้งนานแล้ว"
สันตินิ่งมองภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง

บริเวณโต๊ะสนามหน้าบ้าน พิไลมองสบตาเทิดก่อนจะหันมาถามสันติอย่างสงสัย
"เธอเข้าไปทำอะไรในห้องหุ่น"
สันตินิ่งคิด

สันติรีบเข้ามาในห้องหุ่น สันติมองหุ่นทั้งหมด
"การจะทำลายม่านอาคมต้องใช้พลังจิตที่รวมเป็นหนึ่งของหุ่นทั้งหมด ประสานกับพลังแห่งธรรมที่หลวงตาจะแผ่ไปให้ แต่ต้องมีสิ่งของ ของหุ่นแต่ละตัวเป็นสื่อกลางจะทำให้จิตของหุ่นกับหลวงตาสื่อกันได้ง่ายขึ้น"
สันติมองหุ่นแต่ล่ะตัว ยกมือไหว้
"ผมขอโทษนะครับที่ต้องล่วงเกิน"
สันติหยิบกรรไกรอันเล็กที่ห่อผ้าเตรียมไว้ อยู่ในกระเป๋ากางเกง
 
ตรงเข้าหาหุ่นเดช ตัดผมเดชเล็กน้อย แล้วใส่ในห่อผ้า ตัดปลายผมอารีย์ใส่ห่อผ้า และหุ่นตัวอื่นๆจนครบ

สันติยิ้มให้พิไลตอบเรียบๆ
 
"ผมเข้าไปดูหุ่นคุณเพทายครับ"
พิไลงงๆ
"ฉันก็เข้าไปในห้องหุ่น ทำไมไม่เคยเห็นหุ่นยัยเพทายล่ะ"
"พวกเรายังปั้นไม่เสร็จ คุณอาเดชก็เลยเอาผ้าคลุมแล้วเก็บไปไว้หลังฉากในห้องหุ่นครับ"
"พูดถึงยัยเพทาย ก็แปลกนะคะจู่ๆก็หายไปไม่ยอมมาเป็นแบบให้ปั้นอีกเลย เห็นลงข่าวซุบซิบว่ามีคนใหญ่คนโตเอาไปเลี้ยง" พรรณรายบอก
พิไลกับเทิดแอบสบตากัน
"พวกนี่ก็แบบนี้ล่ะ ว่าแต่เธออยู่ๆทำไมเกิดสนใจหุ่นเพทายขึ้นมา"
"อ๋อ..ผมแค่เสียดายที่ปั้นไม่เสร็จกำลังคิดว่าจะชวนออยกับจุ๊บเอามาปั้นกันอีกครั้ง ถึงไม่มีตัวคุณเพทายเป็นแบบให้ ใช้ดูจากรูปของเธอก็น่าจะพอเก็บรายละเอียดได้" สันติบอก
"แล้วทำไมไม่มาหาพรรณก่อนละคะอยู่ๆอาร์ตก็หายไป พวกเราก็เลยคิดว่า..."
พิไลกระแอมให้หยุดพูด พรรณรายคิดได้เลยหยุด
"ผมผ่านมาที่ห้องรับแขกเห็นคุณพรรณหลับอยู่ คุณน้าก็กำลังทาเล็บ ผมก็เลยไม่อยากรบกวน"
สองแม่ลูกมองหน้ากันอึ้งๆ สันติรีบถาม
"ว่าแต่เมื่อครู่นี้มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ"
พิไลรีบอธิบาย
"ไม่มีอะไรหรอก ยัยอัมซุ่มซ่ามทำกะละมังซักผ้าหก ฉันก็หวังดีเข้าไปช่วยเกิดลื่นล้มไปทับยัยอัมเข้าอีกเลยชุลมุนกันอย่างที่เห็นนั่นล่ะ"
พรรณรายรีบเสริม
"ใช่ค่ะ ไม่มีอะไรหรอก"
สันติพยักหน้าเหมือนจะเชื่อ แต่ในใจรู้ว่า สองแม่ลูกโกหก

วิญญาณอารีย์ซ้อนอยู่ร้อนใจ ถามเดช
"อาร์ตก็เอาของแทนตัวพวกเราไปแล้ว เมื่อไรหลวงตาจะช่วยเราสักทีละคะพี่เดช"
"หลวงตาคงเริ่มทำพิธีคืนนี้ล่ะ"
"แต่ฉันจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ยิ่งเห็นลูกโดนแกล้งแบบนี้ ฉันร้อนใจเหลือเกิน"
เจ้าคุณบอก
"ใจเย็นๆแม่อารีย์ ต่อให้ร้อนใจยังไงตอนทำพิธีเธอก็ต้องข่มใจให้ได้ อย่าลืมที่หลวงตาสั่ง พวกเราต้องทำใจให้สงบ ให้นิ่งห้ามคิดห้ามหวั่นไหวไปกับสิ่งรอบข้าง ไม่เช่นนั้นจิตพวกเราจะรับพลังแห่งธรรมที่หลวงตาจะส่งมาช่วยไม่ได้"
อารีย์อึ้ง ก่อนรับคำเสียงเบา
"ฉันจะพยายามค่ะท่านเจ้าคุณ"
ท่านเจ้าคุณนรบดินทร์พยักหน้าพอใจ อารีย์มองเดช เดชมองตอบอย่างให้กำลังใจ หุ่นทุกตัวรอเวลาอย่างมีความหวัง

วันเดียวกัน เวทย์เปิดประตูเข้ามาในห้อง ชะงักเห็นหัวกะโหลกตกลงมาจากโต๊ะหมู่ อยู่ที่พื้นห้อง เวทย์เข้าไปหยิบขึ้นมาดู เวทย์สีหน้าแค้น
"อสูรดำของข้าถูกปลดปล่อยไปอีกแล้ว"
เวทย์คิด
"มันเป็นใครกัน คิดจะมาลองดีกับข้างั้นเหรอ"
เวทย์ตะโกน
"นังโหงพรายเพทาย"
ขาดคำเวทย์เห็นกลุ่มควันลอยอยู่เบื้องหน้าก่อนรวมเป็นร่างเพทายท่าทางน่ากลัว
"นายท่านเรียก..."
"ใช่..จงไปที่บ้านสัตยาภาคอยเฝ้าไว้ให้ดี มันมีคนกำลังท้าทายอำนาจของข้า ถ้าเจอมันจัดการได้ทันที"
"ฉันจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง"
เพทายหายตัวไปอย่างรวดเร็ว เวทย์แค้น

เวลาพลบค่ำ เพทายปรากฏร่างขึ้นมองบริเวณหน้าบ้านด้วยท่าทางน่ากลัว เสียงรถแล่นมา เพทายหันแต่คอไปมอง เพทายตาลุกวาว เห็นรถเสี่ยกวงกำลังวิ่งมาแต่ไกลๆ) เพทายจ้อง แววตาวาวโรจน์ด้วยความแค้น
"แก"

ร่างเพทายหายไปทันที

ห้องหุ่น ตอนที่ 13 (ต่อ)

เสี่ยกวงขับรถมาเรื่อยๆ เมียเสี่ยนั่งมาข้างๆ กลุ่มควันดำรวมร่างเป็นเพทายที่เบาะด้านหลังจ้องเมียเสี่ยอย่างน่ากลัว
 
เสี่ยกับเมียไม่เห็น คุยกันอารมณ์ดี
"แหมโชคเข้าข้างเราจริงๆนะคะเสี่ยที่คุณเดชมาตายตอนนี้"
"ช่าย..อาคุงพิไลก็เลยมามีอำนาจมากที่สุดในบ้าน เลาถึงได้ซื้อหุ่นได้อย่างง่ายๆไงล่ะ"
"เราจะต้องรวยเละแน่ๆเลยค่ะเสี่ย"
"ใช่พวกแกเละแน่"
เมียเสี่ยกับเสี่ยสะดุ้ง
"สะ..เสี่ย..ได้ยินเสียงอะไรมั้ย"
เสี่ยอึ้งๆ
"เสียงอาเพทาย"
เมียเสี่ยหน้าหวาดๆค่อยๆหันไปมองหลังรถ เมียเสี่ยผงะ เพทายจ้องอยู่อย่างน่ากลัว
"ว้าย"
"ยังจำฉันได้ใช่มั้ย"
เมียเสี่ยตาเหลือก เสี่ยตกใจหันไปมอง
"อาเพทายลื้อ..ลื้อมาอยู่บนรถอั๊วได้ไงเนี่ย"
เพทายมองทั้งคู่อย่างน่ากลัว
"ผีจะอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น"
เสี่ยตกใจ ขับรถส่ายไปมา
"ลื้อตายแล้วเหรอ โออั๊วะจะทำกงเต็กให้ลื้อน่า อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย"
เพทายตวาด
"ไม่ต้อง ฉันจะเอาชีวิตพวกแก ฉันต้องตายก็เพราะเมียแกมันให้คนมาฆ่าฉัน วันนี้ล่ะฉันจะเอาคืน"
"ไอ้หย๊าอั๊วะไม่เกี่ยวนี่"
"มันเป็นเมียแก แกก็ต้องรับผิดชอบด้วย"
ขาดคำเพทายพุ่งเข้าสิงร่างเสี่ย เสี่ยผงะแล้วเปลี่ยนท่าทางหน้าตาน่ากลัวหัวเราะร่า เลี้ยวรถออกจากซอย เหยียบคันเร่งเร็วขึ้น เมียเสี่ยตะลึง เสี่ยหันมามองเห็นหน้าเพทายซ้อนอยู่ จ้องอาฆาต
"พวกแกจะต้องชดใช้"
เสี่ยเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นอีก เมียเสี่ยหวาดกลัวมาก
"อย่า..ไม่นะ..ไม่อย่า"
เสียงแตรรถแสบแก้วหู เมียเสี่ยหันไปมองเห็นสี่แยกไฟแดง
ไฟแดงขึ้น ด้านทางรถของเสี่ย รถสิบล้อขับออกมาจากแยกด้านหนึ่ง เพทายที่ซ้อนหน้าเสี่ยอยู่เหี้ยมโหดมากแทนที่จะเบรกกลับเหยียบคันเร่งเร็วขึ้น ขับรถพุ่งเข้าชนกลางรถสิบล้ออย่างจัง เสียงแตรรถเสียงคนรอบข้างร้องกันอย่างตกใจ เสี่ยกับเมียถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่หน้ารถ ต่างกระอักเลือดก่อนสิ้นใจตายอย่างน่าสยดสยอง คนเริ่มมุงเข้ามา ร่างเพทายยืนอยู่ข้างรถ แต่ไม่มีใครเห็น เพทายมองภาพสองผัวเมียอย่างสะใจ
"ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต"
เพทายหัวเราะน่ากลัวก่อนหายไป

พิไลยืนชะเง้ออยู่หน้าบ้านเริ่มหงุดหงิด พรรณรายคล้องแขนสันติออกมา
"คุณแม่รอใครเหรอคะ"
"ก็เสี่ยกวงกับเมียนะสิ บอกจะเอาเงินมาวางมัดจำหุ่น ป่านนี้ยังไม่มา นัดไม่เป็นนัดแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ขายซะเลย"
พิไลมองสันติ
"แล้วนี่จะไปไหนกัน"
"อาร์ตจะกลับแล้วค่ะ"
พิไลระแวง
"ทำไมรีบกลับ"
"พอดีวันนี้หลวงตารับกิจนิมนต์เปิดร้านทำผมใหม่ ผมต้องไปด้วยครับ"
พิไลพยักหน้า สันติยกมือไหว้พิไลก่อนหันไปยิ้มให้พรรณ
"ผมกลับก่อนนะครับคุณพรรณ"
"ค่ะ"
พรรณรายโบกมือให้ สันติเดินไปเรื่อยๆ พิไลหันมากระซิบถาม
"ทุกอย่างยังปกติอยู่ใช่มั้ย"
"ค่ะ..แต่พรรณกลัว ถ้ามนต์ของน้ำมันพรายเสื่อมเมื่อไร อาร์ตคงไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ อาร์ตต้องกลับไปรักยัยอัมเหมือนเดิม"
"ก็รีบๆเล่นงานมันเข้าสิ บอบบางอย่างมันทนได้อีกไม่กี่วันหรอก เชื่อแม่"
พรรณรายพยักหน้าเห็นด้วย สีหน้าท่าทางเอาเรื่อง

สันติเดินเร็วๆมาถึงป้ายรถเมล์ หยิบห่อผ้าที่ใส่ผมหุ่นทั้งหมดออกมาดู

"ต้องรีบเอาไปให้หลวงตา"

สันติเก็บห่อผ้าไว้ในกระเป๋ากางเกง สันติยืนรอรถเมล์ยังไม่มา
 
สันติเห็นรถเมล์มาจอดป้ายรถฝั่งตรงข้าม รถเมล์ออกไป มีคนยืนสองคน สันติชะงักเห็นอัมราถือตะกร้าไปจ่ายตลาดตัวเอียง อัมรามองรถซ้ายขวาเตรียมจะข้าม อัมราเก้ๆกังๆ รถเมล์มาจอดอีกคันเลยป้ายไปหน่อย คนที่ยืนอยู่รีบวิ่งไปขึ้นรถ ชนอัมราเซไปล้ม รถออกไปไม่สนใจ สันติตกใจ
"น้องอัม"
สันติรีบวิ่งข้ามถนนไป อัมรามองของที่หล่นอย่างอ่อนใจกำลังจะเก็บ สันติ
เข้าเมาเก็บให้
"พี่อาร์ต"
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
อัมราอึ้ง แล้วข่มใจพูดเรียบๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ"
สันติรีบเก็บของที่หล่นใส่ตะกร้าอย่างรวดเร็วถือไว้ในมือ มองไปทางซอยบ้านเดช
"อีกตั้งไกลพี่จะเดินไปส่งนะ"
"ไม่ต้องค่ะ"
"แต่ของนี่หนักมาก ให้พี่ถือไปให้เถอะครับ"
อัมรามองน้อยใจ
"ถ้าพี่พรรณเห็นคงไม่พอใจแน่ค่ะ"
สันติอึ้ง
"ถ้าอย่างนั้นพี่จะส่งแค่หน้าบ้านก็ได้ครับ"
อัมราพูดเยาะๆ
"ถ้าต้องลำบากหลบๆซ่อนๆขนาดนั้นก็อย่าเลยค่ะ อัมไม่ชอบทำให้ใครลำบากใจ"
อัมราดึงตะกร้าจากมือสันติ แล้วรีบวิ่งข้ามถนนไปอย่างรวดเร็ว สันติพึมพำเป็นห่วง
"อดทนอีกหน่อยนะครับน้องอัม"

อัมราล้างถ้วยชามที่กินกันแล้วอยู่คนเดียวอย่างเหน็ดเหนื่อย เก็บเช็ดจนเสร็จแล้วถูพื้นครัวจนสะอาดเรียบร้อย
อัมราเดินไปนั่งที่เก้าอี้อย่างหมดแรง ที่หน้าประตู พิไลกับพรรณแอบดูอยู่อย่างสะใจ สองแม่ลูกมองหน้ากัน ก่อนพากันเดินเข้ามา อัมรามองเห็นพิไลเปิดตู้เย็นหยิบเหยือกน้ำส้มออกมา แล้วทิ้งเหยือกน้ำส้มลงพื้นหน้าตาเฉย เหยือกแตกกระจาย น้ำส้มเลอะเต็มพื้นห้องครัวอีก
"ว้ายตายแล้ว..หลุดมือ"
"คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ยัยอัมมาเก็บเช็ดเร็วๆเข้า"
อัมรารู้ทัน ข่มใจเดินไปหยิบไม้กวาดกับที่โกยผงเดินมาค่อยๆกวาดเศษแก้ว พิไลกับพรรณ
แอบยิ้มกัน
"เก็บเช็ดเสร็จแล้วทำอะไรไปให้พี่กับคุณแม่พิไลกินด้วยนะ"
อัมราชะงัก
"อัมเพิ่งเก็บล้างถ้วยชามเสร็จเดี๋ยวนี้เองนะคะ"
"เอ๊ะเธอนี่ยังไง ให้ทำอะไรต้องมีปัญหาอยู่เรื่อย เมื่อเย็นฉันกับคุณแม่กินข้าวไปนิดเดียว ตอนนี้มันเกิดหิวขึ้นมาอีกนี่"
"ถ้าพี่พรรณกับคุณน้าหิวก็คงต้องทำกันเองแล้วละค่ะ ของสดในตู้เย็นยังพอมี แต่อัมต้องรีบไปอาบน้ำ ทำการบ้าน"
"นั่นมันเรื่องของเธอ ยังไงเธอก็ต้องทำอะไรให้ฉันกินก่อน"
อัมราเหลืออด
"พี่พรรณคะ อัมขอร้องอย่างแกล้งอัมเลย นี่อัมก็พยายามทำทุกอย่างในบ้านให้แล้ว"
"นี่หาว่าฉันแกล้งเหรอ เหอะ"
พรรณเข้าไปผลักอัมราอย่างแรง จนเซ หัวกระแทกกับขอบตู้ เลือดซึมๆตรงหน้าผาก
"โอ๊ย"
พิไลหัวเราะเยาะ ร่างเพทายปรากฏขึ้นจ้องสองแม่ลูกอย่างอาฆาต ขณะที่ทุกคนมองไม่เห็น
"แกสองคน ตอนฉันมีชีวิตอยู่ชอบกระแหนะกระแหนว่า ฉันใช้เต้าไต่เข้าวงการใช่มั้ย ดีล่ะวันนี้จะเอาคืนพวกแกบ้าง"
เพทายเคลื่อนตัวมาหาอัมรา
"ยังไงอัมก็..."
เพทายเข้าสิงอัมราอย่างรวดเร็ว อัมราผงะแล้วเปลี่ยนท่าทางทันที
"อัมจะทำของที่อร่อยที่สุดในโลกไปให้ค่ะ"
พิไลกับพรรณรายงงๆ พิไลหัวเราะ
"ทำเสียตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องเจ็บตัวแล้ว หึ..ไปกันเถอะลูกพรรณไปรอกินกันดีกว่า"
"ค่ะคุณแม่"
สองแม่ลูกพากันออกไป อัมราจ้องตามตาแดงฉานแสยะยิ้มน่ากลัว

สองแม่ลูกนั่งคุยกันอย่างกระหยิ่มบนโต๊ะอาหาร
"ลูกพรรณทำได้ดีมาก ตอนนี้มันก็เริ่มกลัวเราแล้ว เห็นมั้ยสั่งให้ทำอะไรก็รีบทำ"
"แล้วจะทำยังไงต่อละคะ"
"ก็จัดให้หนักกว่าเดิมสิ เดี๋ยวแม่จะแกล้งว่ามันทำไม่อร่อยจะเอาราดหัวมันซะเลย แล้วพรรณก็ตบสั่งสอนมันซ้ำเข้าไปอีกนะ เข้าใจมั้ย ทนได้ให้มันรู้ไป"
"ค่ะคุณแม่"
อัมราถือจานอาหารเข้ามา หยุดชะงักมองด้วยแววตาประหลาด พิไลตวาด
"ชักช้าอยู่ทำไมรีบเอามาเร็วๆฉันกับลูกพรรณหิวจะแย่อยู่แล้ว"
อัมราเดินมาถึงโต๊ะเอาจานวางตรงหน้าพิไล พิไลกับพรรณรายเห็นเป็นยำเล็บมือนาง หน้าตาหน้ากิน พิไลเผลอตัว
"ยำเล็บมือนางเหรอเนี่ยอุ๊ยไม่ได้กินมาตั้งนาน"
พรรณรายกระแอมให้สติ พิไลนึกขึ้นได้ ทำเชิดหยิบซ่อมจิ้ม
"ไหนลองชิมหน่อยซิ"
พิไลจิ้มไปที่ตีนไก่ขึ้นมา แต่พรรณรายเห็นเป็นนิ้วคน ตะลึง พิไลเอาเข้าปากดูดกินอย่างอร่อย
ลืมตัว

"อุ๊ยเปื่อยดีจัง แซ่บซะด้วยสิ"

พรรณรายตาเหลือก
 
"คะ..คุณ..แม่"
พิไลชะงักยังคาบนิ้วคนอยู่คาปากมองท่าทางพรรณรายที่พูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้า
พิไลนึกได้ รีบทำโมโห
"ยำบ้าบออะไรเนี่ย รสชาติไม่ได้เรื่องเลย"
พรรณรายลนลานรีบพูด
"คุณแม่คะคือ..."
พิไลรีบกระซิบตอบ
"แม่รู้แล้วน่า เมื่อกี้ลืมตัวไปหน่อย"
"ไม่ใช่ค่ะคุณแม่ ไม่เห็นเหรอคะ"
"เห็นอะไร"
"นั่นมันไม่ใช่ตีนไก่แต่มันเป็น..นิ้วคน"
พิไลชะงัก
"อะไรนะ"
พิไลมองในจาน ตาเหลือกเห็นเป็นนิ้วคนทั้งหมด แทบอาเจียน
"อ๊าย....แหวะ"
พิไลจ้องหน้าอัมราที่ยืนยิ้มอย่างโกรธมาก
"นังอัมรานี่แกแกล้งฉัน"
"อร่อยดีมั้ยล่ะฮ่ะๆๆๆ"
พิไลแค้นจัดยกจานจะราดหัวอัมรา อัมราจับข้อมือไว้ด้วยแรงมหาศาล พิไลร้อง
"โอ๊ย"
อัมรากระชากจานจากมือพิไล ราดลงบนหัวพิไลแทน
"เอ้าอยากกินมากนักก็กินซะให้อิ่ม"
พรรณรายตกใจลุกขึ้นโมโห
"ยัยอัมมากไปแล้วนะ"
พรรณรายพุ่งเข้ามาจะตบ อัมราจับมือพรรณไว้แล้วตบพรรณรายซ้ายขวา
พรรณรายเซไปชนกับพิไลพากันล้มไปทั้งคู่ พิไลหัวกระแทกพื้นเลือดซึม พิไลแตะหัวตกใจ
อัมราหัวเราะเสียงดังสะใจ พรรณรายกับพิไลมองอัมราอย่างงงๆ
"ทำไมนังอัมรามันถึงแรงเยอะแบบนี้"
ทั้งคู่ตกใจเมื่อเห็นร่างเพทายผละออกจากร่างอัมรา อัมราซวนเซล้มลงไปนอนแน่นิ่ง เพทายจ้องสองแม่ลูกอย่างแค้น
"ก็เพราะฉันสิงร่างอัมราเล่นงานพวกแกอยู่ไง"
"เพทาย"
พรรณรายตกใจมาก
"เธอตายแล้วเหรอ"
เพทายตรงเข้ามา สองแม่ลูกร้องกรี๊ด รีบพากันวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต

พิไลกับพรรณรายวิ่งมาเจอเพทายดักอยู่
"หนีฉันไม่พ้นหรอก"
พิไลรีบยกมือไหว้
"อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลยนะ ฉันจะทำบุญไปให้"
"ฉันไม่ต้องการส่วนบุญจากคนอย่างพวกแก"
เพทายยื่นมือยาวออกไปหาสองแม่ลูกบีบเข้าที่คออย่างแรง
"แกตาย"
เทิดวิ่งเข้ามาบ่นไปด้วย
"เสียงดังอะไรกันวะ..เฮ้ย...ผีนังเพทายมาได้ยังไง"
เทิดหันรีหันขวางตกใจ แล้วนึกได้ว่า ตัวเองมีประคำที่เวทย์เคยให้ไว้
เทิดรีบดึงประคำออกมาจากเสื้อ ชูขึ้นตะโกน
"หยุดนะนังเพทาย"
เพทายชะงักหันมามอง รัศมีจากประคำส่องแสงแรงกล้า เพทายตกใจรีบปล่อยสองแม่ลูก เทิดตะโกน
"พิไล พรรณรายมาทางนี้เร็ว"
สองแม่ลูกรีบวิ่งมาหาเทิดอย่างตกใจ เพทายจ้องตามอย่างอาฆาตก่อนหายไป เทิดถอนใจโล่งอก
"นังเพทายมันมาได้ยังไง"
"ฉันจะไปรู้เหรอ..รีบไปหาพี่เวทย์กันเถอะอยู่ไม่ได้แล้ว"
สองคนจะไป พรรณรายตกใจ
"คุณแม่จะทิ้งพรรณเหรอคะ ให้พรรณไปด้วยนะพรรณกลัว"
พิไลพยักหน้า สามคนรีบพากันไปหาเวทย์

วิญญาณซ้อนในหุ่นต่างสะใจ
"แม่พิไลโดนดีเข้าบ้างแล้ว" ลุงทวนบอก
"ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวไงล่ะ" เจ้าคุณนรบดินทร์บอก
"หมายความว่าคุณเพทายจะเป็นพวกเดียวกับเราใช่มั้ยครับ" พีทบอก
"ไม่ใช่หรอกพีท ยังไงคุณเพทายก็เป็นโหงพรายของหมอผีเวทย์ แต่วันนี้ที่เธอทำร้ายพิไลกับพรรณรายก็เพราะความแค้นที่เคยมีต่อกันตอนเป็นคน" เดชบอก
"เพทายน่าจะถูกส่งมาแทนอสูรดำเพื่อป้องกันไม่ให้หลวงตามาช่วยพวกเราได้มากกว่า" พรรณีว่า
อารีย์ตกใจ
"ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่เราจะหลุดพ้นจากม่านอาคมก็ยิ่งยากขึ้นสิคะ"

หุ่นทั้งหมดอึ้ง สีหน้ากังวล อารีย์ร้อนใจมาก

ห้องหุ่น ตอนที่ 13 (ต่อ)

สันติวางห่อผ้าลงตรงหน้าหลวงตาแล้วเปิดออก ผมของหุ่นรวมกันอยู่ในห่อผ้า หลวงตามองพอใจ
 
"ดีมาก"
"หลวงตาจะเริ่มทำพิธีช่วยหุ่นเมื่อไรครับ"
"เมื่อเตรียมของและสถานที่ที่จะใช้ในพิธีเรียบร้อย หลวงตาก็จะเริ่มทันที เราจะรอช้าไม่ได้"
"ถ้าอย่างนั้นให้ผมช่วยหลวงตาด้วยนะครับ"
หลวงตาพยักหน้า สันติกระตือรื้อร้นรีบลุกไปจัดพื้นที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาอย่างคล่องแคล่ว

อัมรานอนสลบอยู่เริ่มได้สติ อัมราค่อยๆลืมตาเห็นหน้าอาทร ดำเกิง บุญเรือน อ๊อด ชิ้น พร่าเลือนก่อนชัดขึ้น
"หนูอัมรู้สึกตัวแล้ว"
อัมราค่อยๆขยับลุกขึ้นนั่ง
"น้องอัมเป็นยังไงบ้างครับ เกิดอะไรขึ้น"
ดำเกิงบอก
"ใจเย็นๆออย"
อัมรามองทุกคนงงๆ
"นี่มันอะไรกันคะ"
ทุกคนมองหน้ากันงงๆ
"พวกเราต้องเป็นฝ่ายถามหนูมากกว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
อัมรามองทุกคนอย่างงงๆ

ฝ่ายพิไลเล่าให้เวทย์ฟังหน้าตาตื่นๆ พรรณรายกับเทิดอยู่ด้วย
"ผีนังเพทายมันเข้าสิงอัมราแล้วเล่นงานฉันกับลูกเกือบตายแหนะ คงมีใครช่วยให้มันหลุดจากอาคมของพี่ แล้วก็ส่งมันไปเล่นฉันแน่ๆ"
"ข้าเป็นคนส่งมันไปเองล่ะ"
พิไลตกใจ เวทย์รีบบอก
"แต่ข้าบอกให้มันไปช่วยดูแลแทนไอ้อสูรดำที่โดนปลดปล่อยไป แล้วทำไมมันถึงไปเล่นงานพวกเธอแทนล่ะ"
เวทย์หลับตาบริกรรมคาถา ลมพัดแรงวนเวียนเข้ามาในห้อง บรรยากาศน่ากลัว คนอื่นๆมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพทายน่ากลัวปรากฏขึ้นที่มุมห้อง
"นายท่านเรียก..."
เวทย์ลืมตาเสียงโกรธ
"ทำไมถึงบังอาจทำตรงข้ามกับคำสั่งข้า"
สองแม่ลูกรีบขยับเข้าหาเวทย์ เพทายชี้หน้า
"พวกมันชอบนินทาว่าร้ายฉัน ฉันเกลียดพวกมัน"
เพทายขยับจะเข้าเล่นงานอีก พิไลกรี๊ด
"ว้ายพี่เวทย์ช่วยด้วย"
เวทย์ยื่นมือออกมา มีแส้ปรากฏขึ้นในมือ เวทย์ฟาดแส้ไปบนพื้น ร่างเพทายบิดร้องเจ็บปวด
"โอ๊ย..นาย"
เพทายจ้องเวทย์ไม่พอใจ
"ทำร้ายฉันทำไม"
"จำไว้ว่าเจ้าต้องทำตามคำสั่งข้าเท่านั้น ถ้าทำนอกเหนือคำสั่งจะต้องโดนแบบนี้"
เวทย์ฟาดแส้ลงไปอีกหลายครั้ง เพทายดิ้นเจ็บปวด
"โอ๊ย..นายท่าน..ฉันเจ็บ"
"เข้าใจคำสั่งข้าหรือยัง"
เวทย์ฟาดลงไปอีก เพทายทุรนทุราย
"เข้าใจแล้ว..ข้าจะไม่ทำร้ายพวกมันอีกแล้วโอ๊ย"
เวทย์พอใจ เพทายแอบจ้องพิไลกับพรรณรายอย่างสุดแค้น

ในกูฏิหลวงตา หน้าหิ้งพระโต๊ะหมู่บูชา ดอกบัวแดงปักใอยู่ในแจกัน 2 ใบ เทียนถูกจุดจนสว่างไสว กระทงข้าวตอกดอกไม้ทำพิธีกรรม ใกล้ๆกันมีห่อผ้าใส่ผมหุ่นในพานอยู่ตรงหน้า หลวงตา พร้อมทั้งกระถางเล็กๆแปดกระถางปักธูปกระถางละดอก แต่ธูปยังไม่ได้จุดไว้
"ทุกอย่างพร้อมแล้วครับหลวงตา"
หลวงตาพยักหน้า
"หลวงตาจะเริ่มสวดมนต์ภาวนาตั้งแต่เดี๋ยวนี้"
"แล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับ"
"วันพรุ่งนี้ให้เจ้าไปที่บ้านสัตยาภาทำตัวเป็นปกติ หากพิธียังไม่เสร็จสิ้นอย่าให้ใครเคลื่อนย้ายหุ่นเป็นอันขาด"
"ครับหลวงตา"
หลวงตากับสันติมองเส้นผมหุ่นที่หอผ้าบนพานอย่างมีความหวัง

เพทายนั่งพับเพียบสงบเสงี่ยม พิไลหันไปมองยังหวาดแต่ก็อดว่าไม่ได้
"เพราะนังผีบ้านี่ตัวเดียวทำให้แผนฉันพังหมด"
เพทายแอบแสยะใส่พิไล พิไลตกใจรีบขยับเข้าหาพรรณราย
"แล้วเราจะทำยังไงต่อไปละคะคุณแม่"
พรรณรายจับหน้าตาเนื้อตัวอย่างเจ็บๆ
"จะเล่นงานยัยอัม กลายเป็นพวกเราโดนซะเอง เนี่ยพรรณระบมไปหมดแล้ว"
พิไลแตะหัวที่เลือดออก
"แม่ก็เจ็บไม่แพ้ลูกหรอก"
เวทย์มองสองแม่ลูกยิ้มร้ายๆ
"ก็แล้วทำไมไม่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสล่ะ"
พิไลกับพรรณงง เทิดรีบถาม
"พี่เวทย์หมายความว่ายังไงจ้ะ"
เวทย์ยิ้มร้าย

ในห้องรับแขก อัมรายังพยายามนึก ทุกคนนั่งรอฟัง อัมราส่ายหน้า
"อัมนึกอะไรไม่ออกจริงๆค่ะ จำได้แค่ว่าอัมอยู่ในครัวแล้วน้าพิไลกับพี่พรรณเข้าไปสั่งให้อัมทำอะไรให้ทาน แต่อัมบอกว่าจะไม่ทำ แล้วหลังจากนั้นอัม..."
"เธอก็ทำร้ายฉันกับคุณแม่พิไลไงล่ะ" พรรณรายบอก
ทุกคนหันไปมอง เห็นพรรณ พิไล เทิดนำตำรวจเข้ามา หน้าพรรณรายมีรอยช้ำ พิไลหัวแตก
"เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ"
พิไลปราดเข้ามา ชี้ที่หัวตัวเอง
"ไม่เชื่อก็แหกตาดูสิค่ะคุณบุญเรือน ฉันคงไม่บ้าเอาหัวตัวเองไปกระแทกข้างฝาให้มันแตกหรอกนะ นี่ๆๆๆ"
พิไลดึงแขนพรรณรายเข้ามา
"ดูหน้าตายัยพรรณฟกช้ำดำเขียวขนาดนี้ พวกคุณคงไม่คิดว่าฉันกับลูกพรรณตบตีกันเองหรอกนะ"
ชิ้นพึมพำขึ้นมาหน้าตาเฉย
"มันก็ไม่แน่"
พิไลหันขวับ
"นังชิ้นแกมาลอยหน้าอยู่ที่นี่อีกทำไม ฉันไล่แกไปแล้ว"
"ฉันมากับคุณบุญเรือน"
"เดี๋ยวๆตกลงนี่มันอะไรกัน ผมได้ยินเสียงพวกคุณร้องกันลั่นบ้านก็เลยรีบมาดู แต่ก็มาเจอหนูอัมนอนสลบอยู่ แล้วคุณจะบอกว่าหนูอัมราตบตีพวกคุณได้ยังไง" ดำเกิงว่า
"ก็มันเล่นละครไง ร้ายซะขนาดนี้เห็นจะอยู่ร่วมบ้านกันไม่ได้อีกแล้ว"
พรรณรายรีบพูด
"พรรณยืนยันค่ะว่าเรื่องที่คุณแม่พิไลพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริง"
เทิดหันไปบอกตำรวจ
"ผมก็เป็นพยานให้ได้ครับ เพราะผมก็อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อตอนหัวค่ำหนูอัมราอาละวาดเหมือนกับคนเสียสติเลยครับ"
ตำรวจเดินไปตรงหน้าอัมรา
"ผมคงต้องขอเชิญตัวคุณอัมราไปโรงพักในข้อหาทำร้ายร่างกายครับ"
อัมราตกใจ
"อัมไม่ได้ทำนะคะพี่ออย คุณลุงช่วยอัมด้วยค่ะอัมไม่ได้ทำ"
อาทรรีบขวางตำรวจ
"ผมไม่ยอมให้เอาตัวน้องอัมไปเด็ดขาด"
ดำเกิงรีบปราม
"ใจเย็นๆออย แค่ไปสอบปากคำก่อน หนูอัมไม่ต้องกลัวนะ ลุงกับตาออยจะไปด้วย"
ดำเกิงหันไปสั่งบุญเรือน
"คุณพาตาอ๊อดกับชิ้นกลับไปรอที่บ้านก่อน มีอะไรผมจะติดต่อมา"

"ค่ะ"

ดำเกิงพยักหน้า อัมราลุกขึ้นอย่างกลัวๆ ทำท่าจะล้ม อาทรรีบประคอง
 
"ไม่เป็นไรนะน้องอัม พี่จะอยู่ข้างๆน้องอัมตลอดเวลา"
อัมราพยักหน้า เดินตามตำรวจผ่านพิไล พรรณราย เทิดที่มองอย่างสะใจ บุญเรือน อ๊อด ชิ้น
เดินตามออกไปด้วย ทั้งสามคนมองหน้ากันยิ้มอย่างสะใจ

อารีย์กระวนกระวายใจมาก
"พี่เดชเราจะทำยังไงดีคะ ลูกอัมโดนตำรวจพาตัวไปแล้ว"
เดชก็ร้อนใจ
"เลวที่สุด..ทำไมพิไลต้องจ้องจะจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้"
เสียงหลวงตาสวดมนต์แว่วมาไกลๆ เจ้าคุณรีบบอกเดชกับอารีย์
"หลวงตาเริ่มพิธีแล้ว"
"แต่ฉันคงทำใจให้สงบไม่ได้หรอกค่ะ"
"พวกเราเข้าใจค่ะ แต่หลวงตาบอกแล้วว่าพิธีครั้งนี้จะสำเร็จได้พวกเราต้องร่วมใจกัน จะขาดใครสักคนไม่ได้" สมศรีบอก
"ถ้าอยากช่วยอัมรา ก็ต้องข่มใจให้สงบให้ได้ ถ้าพวกเราผ่านด่านอาคมไปไม่ได้ เราก็ช่วยอัมราไม่ได้อยู่ดี" เจ้าคุณว่า
อารีย์อึ้งหันไปมองเดช เดชข่มใจพยักหน้าให้ อารีย์ทำตาม
"ท่านเจ้าคุณพูดถูก เราต้องพยายามข่มใจให้ได้"
หุ่นทุกตัวมองอารีย์อย่างให้กำลังใจ อารีย์พยักหน้าพยายามข่มใจ
"ฉันจะพยายามค่ะ"
หุ่นทุกตัวพอใจพากันประสานมือ เจ้าคุณพอใจ หุ่นทุกตัวเริ่มทำสมาธิ

เช้ามืด สันติกำลังแต่งตัวอยู่ในห้องเสร็จพอดี เสียงเคาะประตูห้องดังถี่ๆ
"ใคร"
สันติแปลกใจ รีบเดินไปเปิดประตู จุฑารออยู่หน้าห้อง
"จุ๊บ..ทำไมมาหาอาร์ตถึงที่นี่ละ"
"เกิดเรื่องใหญ่แล้วอาร์ต"
"ใจเย็นๆค่อยๆเล่านะ"
"น้องอัมราโดนจับไปโรงพัก"
สันติตกใจ "อะไรนะ"
"ออยโทร.ไปบอกจุ๊บเพราะติดต่ออาร์ตไม่ได้ เลยให้จุ๊บรีบมาบอกอาร์ต"
สันติร้อนใจมาก
"รีบไปโรงพักกันเถอะ"
สันติรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว จุฑามองพึมพำ
"ไหนบอกให้ใจเย็นๆไง"
จุฑารีบวิ่งตามสันติไป ตะโกนไปด้วย
"เดี๋ยวอาร์ต..เดี๋ยว"

ภายในห้องนั่งเล่นบ้านเดช สามคนชนแก้วฉลองกัน
"ไชโย"
"เห็นมั้ย ในที่สุดเราก็กำจัดนังอัมราไปได้" พิไลบอก
"คุณแม่แน่ใจเหรอคะ"
"แน่ใจสิ ป่านนี้มันยังไม่กลับมา แม่ว่าคงโดนตำรวจเอาตัวเข้าคุกไปแล้วล่ะฮ่ะๆๆ"
เพทายปรากฏร่างขึ้นกลางวง ทุกคนตกใจสุดขีด
"ว้าย... / เฮ้ย.."
สามคนวงแตกพากันวิ่งหนีกระเจิง เพทายแสยะยิ้มเยาะน่ากลัว
"เก่งแต่คอยสุมหัวคิดร้ายคนอื่น"

ทั้งสามคนพากันวิ่งมาถึงหลังบ้าน หยุดหอบกัน พิไลทั้งกลัวทั้งโมโห
"ตกลงนี่มันยังไงกัน นังเพทายทำไมมันไม่เลิกรังควาญพวกเราซะที"
"นั่นสิคะ ลุงเทิดรีบไปตามหมอเวทย์มาเอามันหลงหม้อไปเลยดีกว่าค่ะ"
เพทายมองเจ็บใจ
"คิดจะเอาฉันลงหม้อเลยเหรอ"
สามคนตกใจขยับเข้าร่วมกลุ่มกันหวาดๆ
"แก..แกจะมาทำอะไรพวกเราอีกเนี่ย"
"ถ้าแกทำร้ายพวกเรา พี่เวทย์ไม่เอาแกไว้แน่"
เพทายมองทุกคนอย่างแค้นๆ
"นายให้ฉันมาคอยคุ้มครองพวกแก อย่ามาทำปอดแหกไปหน่อยเลย ฉันจะมาบอกว่า ถ้ามีอะไรก็เรียกแล้วกัน"
เพทายแยกเขี้ยวใส่อย่างหมั่นไส้ก่อนหายวับไป พิไลโล่งอกบ่นพึมพำ
"นังผีบ้า แล้วก็ไม่บอกจู่ๆก็โผล่มาหัวใจจะวาย"
เทิดโล่งอก
"เฮ้อแล้วไป พวกเราไปฉลองให้นังอัมรากันต่อเถอะ"
สามคนพากันเดินกลับเข้าบ้านอย่างโล่งใจ

อัมรายืนอยู่ในห้องขังเขย่าลูกกรงร้องไห้
"ปล่อยอัมไปเถอะค่ะอัมไม่ได้ทำร้ายใคร พี่ออย คุณลุงช่วยอัมด้วยสิคะ"
นอกห้องขัง อาทร ดำเกิงมองอย่างสงสาร
"น้องอัม พี่ขอโทษที่ช่วยอะไรน้องอัมไม่ได้เลย"
"ลุงก็เสียใจจริงๆ "
ตำรวจเข้ามาเชิญตัวดำเกิงกับอาทร
"เชิญกลับได้แล้วครับ"
ดำเกิง อาทรพยักหน้าเดินตามตำรวจไป อัมราร้องเสียงดัง
"ไม่นะคะอย่าทิ้งอัม ปล่อยอัมออกไป อัมไม่ผิด อย่าขังอัม อัมกลัวพี่ออย คุณลุง"
ทุกคนไปกันหมด อัมราทรุดลงเกาะลูกกรงร้องไห้สะอื้น
"คุณพ่อ คุณแม่ขาช่วยอัมด้วย อัมไม่อยากติดคุก"

ในห้องหุ่น วิญญาณที่ซ้อนอยู่ในหุ่นทุกตัวต่างประสานมือ หลับตาทำสมาธิ เสียงสวดมนต์ของหลวงตาดังแว่วๆ ที่หุ่นอารีย์สีหน้าไม่สงบ ทุรนทุราย
อารีย์ลืมตาตกใจตะโกนสุดเสียง
"ลูกอัม..ไม่"
หุ่นทั้งหมดลืมตาตกใจ มองอารีย์เป็นตาเดียว อารีย์มองทุกคนอย่างเสียใจ ส่ายหน้า เสียงเครือ
"ฉันทำใจให้สงบไม่ได้"
เจ้าคุณบอก
"ตอนนี้ใจเธอฟุ้งซ่านไปเอง หนูอัมราอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดก็ได้"
"แต่ฉันห่วงลูกค่ะท่านเจ้าคุณ ป่านนี้ยัยอัมจะเป็นยังไง ฉันทำใจไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ"
อารีย์ปิดหน้าร้องไห้ หุ่นทั้งหมดอึ้งมองอารีย์อย่างหนักใจ

หลวงตายังหลับตาสวดมนต์อย่างสงบ ด้านหน้ามีกระถางเล็กๆแปดกระถาง ปักธูปไว้กระถางละหนึ่งดอก แต่ยังไม่ได้จุดธูป หลวงตาลืมตามองธูปที่ยังไม่ติด สีหน้าแปลกใจ
"เกิดอะไรขึ้น"

หลวงตากังวลหลับตาทำสมาธิใหม่อีกครั้ง สีหน้าสงบ นิ่ง เริ่มสวดมนต์อีกครั้ง

สันติเดินรีบร้อนเข้ามาในโรงพัก จุฑาแทบจะต้องวิ่งตาม
 
สันติกำลังจะก้าวขึ้นบันไดโรงพักชะงัก เห็นอาทรประคองอัมราลงมา ดำเกิงตามมาข้างหลัง อัมราดีใจ แต่แล้วข่มใจเป็นปกติ
อัมรา อาทร ดำเกิงลงมาเผชิญหน้ากับสันติ ประมาณเรียบร้อยแล้ว สันติโล่งอก ดำเกิงมองสันติไม่ค่อยพอใจ สันติรีบไหว้ จุฑาไหว้ตาม ดำเกิงถามแปลกใจ
"มาที่นี่ทำไม"
สันติอึกอักยังอยู่ในสถานะที่ต้องปกปิด
"อ๋อจุ๊บทำของหายนะครับจะมาแจ้งความ เลยชวนผมมาด้วยใช่มั้ยจุ๊บ"
จุฑารีบรับสมอ้าง
"ใช่..ใช่เลยค่ะ"
สันติรีบคว้ามือ
"รีบไปกันเถอะจุ๊บ เอ้องั้นผมขอตัวก่อนครับ...ไปก่อนนะ" สันติพูดพลางบอกออย
อาทรพยักหน้าโล่งใจ ทั้งสองรีบไหว้ และพากันเดินขึ้นบันไดโรงพักไป ดำเกิงพาอัมรา อาทรมาถึงรถ อดหันไปมองสันติไม่ได้
"น่าเสียดายนายอาร์ต แต่ก่อนก็มองว่าเป็นเด็กดี ไม่ข้าใจว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ คนรู้จักกันอยู่น่าถามสักคำว่ามีเรื่องอะไรกับหนูอัม แต่นี่กลับไม่สนใจเลย" ดำเกิงว่า
อัมราเศร้า
"ช่างเค้าเถอะค่ะเดี๋ยวนี้อัมไม่ได้อยู่ในสายตาพี่อาร์ตแล้ว คนที่พี่อาร์ตจะสนใจใส่ใจก็คงมีแต่พี่พรรณคนเดียวละคะ"
อาทรรีบเปลี่ยนเรื่อง
"รีบกลับกันเถอะครับคุณพ่อ น้องอัมคงอยากพักเต็มทีแล้ว"
ดำเกิงนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรพูด
"จริงด้วยไปๆๆอย่าไปสนใจคนอื่นเลย เรากลับกันเถอะ"
สามคนขึ้นรถ อาทรเป็นคนขับออกไป สันติกับจุฑาชะงักย้อนกลับลงมา
สันติมองตามรถไปอย่างเป็นห่วง
"เกือบไปแล้วมั้ยล่ะจุ๊บห้ามเท่าไรอาร์ตก็ไม่ฟัง"
"ขอโทษนะจุ๊บอาร์ตลืมตัวเพราะห่วงน้องอัมมากไปหน่อย อยากมาให้เห็นกับตาว่าน้องอัมไม่เป็นอะไร"
"ก็บอกแล้วไงว่าคุณลุงจัดจะจัดการเอง อาร์ตก็ไม่เชื่อตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นอาร์ตร้อนใจอะไรขนาดนี้เลย"
สันติยิ้มอย่างขอโทษ จุฑามองพูดทีเล่นทีจริง
"น่าอิจฉาน้องอัมราจังเลยนะที่มีคนรักขนาดนี้"
สันติตบบ่าจุฑาเบาๆ
"อย่าอิจฉาเลย จุ๊บก็เป็นเพื่อนที่เรารักมากที่สุดหมือนกัน"
จุฑาพยักหน้ายิ้มทำร่าเริง
"ก็ยังดี..งั้นเรากลับกันเถอะเพื่อนรัก"
"จุ๊บกลับไปก่อนนะอาร์ตยังมีงานสำคัญต้องทำ"

บุญเรือนกอดอัมราลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจ อ๊อด ชิ้นมองอย่างดีใจ อาทร ดำเกิงอยู่ด้วย"หมดเคราะห์หมดโศกแล้วนะลูก" บุญเรือนบอก
"ขอบคุณค่ะคุณป้า แต่ถ้าอัมไม่ได้คุณลุงช่วยอัมก็คงแย่"
"ลุงแค่ช่วยเสียค่าปรับเท่านั้นล่ะ ไอ้เรื่องทะเลาะวิวาทกันมันไม่ใช่คดีใหญ่โตอะไร"
"แต่อัมไม่ได้ทำจริงๆนะคะ"
"ไม่มีใครคิดว่าคุณอัมทำหรอกค่ะ ยัยพิไลคงวางแผนจะกำจัดคุณอัมออกจากบ้าน" ชิ้นบอก
ทุกคนเห็นด้วย
"ถ้าน้องอัมกลับเข้าไปอีกก็คงต้องโดนน้าพิไลคิดเล่นงานอีกแน่ๆ"
บุญเรือนบอก
"ตาออยพูดถูก ฉันว่าคุณพี่ต้องทำอะไรซักอย่างแล้วละคะเพื่อที่แม่พิไลจะได้ไม่กล้ารังแกหนูอัมอีก"
ทุกคนหันมามอง ดำเกิงนิ่งคิด

เพทายนั่งอยู่มุมหนึ่งอย่างเซ็งๆ ได้ยินเสียงพิไล พรรณ เทิดหัวเราะฉลองความสำเร็จแว่วๆมา
เพทายหันไปมองในบ้านอย่างเจ็บใจ
"ทำไมฉันต้องมานั่งเฝ้าคอยรับใช้คนเลวพวกนี้ด้วยนะ หึ..นี่ถ้าไม่ติดนายท่าน ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด"
เพทายหันกลับไปมองหน้าบ้าน เห็นสันติค่อยๆเปิดประตูรั้วเข้ามา เพทายดีใจ
"สันติ"
เพทายเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ยิ้มมีเลศนัย ก้มลงมองตัวเอง พอเงยหน้าขึ้นอีกที เพทายกลายเป็นอัมรา อัมรายิ้มใส่จริตก่อนเดินทิ้งสะโพกเข้าไปหาสันติ แววตาวาววับ
"พี่อาร์ต"
สันติมองงงๆ
"น้องอัม"
อัมราโผเข้าซบอกสันติ
"อัมคิดถึ๊งคิดถึงพี่อาร์ตค่ะ"
สันติงงหนักขึ้น พยายามดันตัวอัมราออก แต่อัมราไม่ยอม
"เดี๋ยวครับ..น้องอัมเป็นอะไรไป"
อัมรากอดสันติแน่นกว่าเดิม
"จะเป็นอะไรละคะก็อัมคิดถึงพี่อาร์ต พี่อาร์ตกอดอัมแน่นๆสิคะนะ..กอดสิกอด"
อัมราดึงแขนสันติให้โอบรอบตัวเอง
"อย่าครับ นี่เกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวใครมาเห็นน้องอัมจะเสียหายนะครับ"
อัมราโอบรอบคอสันติ ลอยหน้าเข้าไปจนชิด
"อัมไม่เห็นกลัวเลย อัมคิดถึงพี่อาร์ตจนทนไม่ไหวแล้วละคะ จูบอัมสิคะจูบเร็ว..จูบ"
อัมราพยายามโน้มคอสันติลงมา สันติขืนตัวไว้
"ไม่ครับ..อย่าน้องอัม..อย่า"
"อัมรา"
อัมราชะงักหันไปมอง พรรณรายยืนมองอยู่โมโหมาก
"ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย"
อัมรารีบผละจากสันติ พรรณรายตรงรี่เข้ามาเงื้อมือตบ อัมราหลบอย่างรวดเร็ว
พรรณรายวืดเสียหลักล้ม อัมรายิ้มสะใจก่อนวิ่งหนีเข้าบ้าน พรรณรายรีบลุกขึ้นจะตาม สันติดึงตัวไว้"เดี๋ยวครับคุณพรรณ"
"ปล่อยนะอาร์ต ปล่อย"
พรรณสะบัดจนหลุดรีบวิ่งตามเข้าไป สันติยืนงงๆ
"น้องอัมเป็นอะไรไป ทำไมท่าทางแปลกๆเหมือนไม่ใช่น้องอัม"
สันติรีบวิ่งตามพรรณไป

พิไลกับเทิดยังนั่งฉลองดื่มกินกันอย่างมีความสุข เห็นพรรณรายวิ่งเข้ามา มองหาอัมราท่าทางโมโห
พิไลถามแปลกใจ
"หาอะไรเหรอลูกพรรณ"
พรรณเข้ามาหาพิไล
"นังอัมราค่ะคุณแม่"
พิไลตกใจ
"มันกลับมาแล้วเหรอ"
เทิดงง
"อ้าวมันไม่ได้ติดคุกเหรอเนี่ย"
"ติดอะไรละคะมันกลับมาแล้วยังมายั่วอาร์ตอีก ดีนะที่พรรณออกไปเห็น จะตบมันซักฉาดมันก็วิ่งหนีเข้ามาในบ้านเนี่ย"
พิไลกับเทิดมองรอบๆ
"แม่กับลุงก็นั่งอยู่ตรงนี้ ยังไม่เห็นใครวิ่งเข้ามาเลย"
สันติรีบวิ่งตามเข้ามา ไม่มีอัมรา สันติโล่งใจ พรรณโมโห
"มันคงไปหลบที่ไหนละสิ พรรณจะหาตัวให้เจอจะสั่งสอนที่บังอาจมายุ่งกับแฟนพรรณ"
พรรณรายจะไป สันติรีบดึงแขนไว้
"อย่าให้เป็นเรื่องกันเลยครับน้องพรรณ"
พรรณรายทำท่าจะพูด แต่ชะงัก เห็นอัมราก้าวเข้ามา อาทร ดำเกิง อ๊อดตามมาด้วย พรรณรายแค้น
"อยู่นี่เอง"
พรรณรายตรงรี่เข้าหาอัมราตบฉาดใหญ่ จนล้มลงไป ทุกคนตะลึง พรรณรายตรงเข้ากระชากผมอัมราขึ้นมาจะตบอีก ดำเกิงยึดข้อมือไว้ โกรธจัดเสียงดังมาก
"หยุดนะพรรณราย มันจะเกินไปแล้ว ถ้ายังรังแกกันโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ลุงเห็นจะต้องใช้อำนาจศาลเข้ามาจัดการจริงๆแล้วล่ะ"
พรรณรายชะงัก พิไลตกใจรีบเข้ามาดึงลูกสาวออก อาทรรีบประคองอัมรา สันติมองอัมราอย่างสงสาร อึดอัดใจที่ช่วยอะไรไม่ได้ ดำเกิงสีหน้าเอาจริง

วิญญาณซ้อนหุ่นทั้งหมดยืนสงบนิ่งมาก เสียงสวดมนต์ของหลวงตายังดังต่อเนื่อง อารีย์สงบมาก ไม่ทุรนทุรายแล้ว เดชก็เช่นกัน หุ่นทุกตัวต่างนิ่งอย่างมีสมาธิ

หลวงตายังคงนั่งสมาธิอย่างสงบ ธูปในกระถางแปดดอกยังไม่ติดไฟ จู่ๆธูปในกระถางเล็กๆแปดกระถาง ติดไฟขึ้นพร้อมกัน หลวงตาลืมตามองพยักหน้าพอใจ
 
หลวงตาหลับตาทำสมาธิ สีหน้านิ่ง สงบ หลวงตาพึมพำสวดมนต์ต่อ

ห้องหุ่น ตอนที่ 13 (ต่อ)

ในห้องนอนพิไล สามคนต่างพากันนั่งเครียด พรรณรายแค้น
 
"นังตัวดีคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะร้ายแบบนี้"
"แม่เคยเตือนลูกแล้วไงว่าอัมรามันร้ายลึก นี่คงคิดจะเอาคืนลูกล่ะสิ ยังโชคดีนะที่มนต์น้ำมันพรายยังไม่เสื่อม นายอาร์ตถึงไม่เล่นด้วย"
"เจ็บใจจริงๆ คุณลุงดำเกิงก็คอยช่วยมัน นี่ถ้าฟ้องร้องกันจริงๆเราจะแพ้มั้ยคะ"
"แพ้แน่ เราต้องโดนแบ่งทรัพย์สินให้มันสองพี่น้อง ลูกก็จะได้แค่ส่วนเดียว"
"แล้วเราจะต้องรอให้มันฟ้องร้องเราทำไมล่ะ เราก็จัดการกับตัวหารซะสิ" เทิดบอก
พรรณรายตกใจ
"ลุงเทิดจะฆ่ายัยอัมกับตาอ๊อดเหรอคะ"
"เฮ้ยจะทำแบบนั้นให้ติดคุกทำไม มีวิธีอื่นอีกตั้งเยอะใช่มั้ยพิไล"
พิไลคิดตามแล้วยิ้มร้าย
"พี่เทิดพูดถูก ไอ้อ๊อดนะไม่เท่าไร คนที่เราต้องจัดการก่อนก็คือยัยอัมรา ขอบใจนะพี่เทิดที่พูดให้ฉันคิดอะไรออก"
พรรณรายสงสัย
"คุณแม่จะทำยังไงกับยัยอัมเหรอคะ"
พิไลยิ้มร้าย
"แม่คิดออกแล้ว พรรณทำตามที่แม่แนะก็พอ เรื่องนี้อย่าให้นายอาร์ตรู้ล่ะ"
"ทำไมคะ ยังไงตอนนี้อาร์ตก็อยู่ข้างเราอยู่แล้ว"
"อย่าเพิ่งประมาท เราไม่รู้ว่ามนต์น้ำมันพรายจะเสื่อมเมื่อไร กันไว้ดีกว่าแก้นะลูก"
พรรณรายพยักหน้า
"ก็ได้ค่ะ"

สันตินั่งรออยู่อย่างกระวนกระวาย สันติชะงัก พรรณรายเดินออกมา สันติปรับเปลี่ยนท่าทางเป็นปกติ ยิ้มให้
"คุณน้าพิไลเรียกคุณพรรณไปปรึกษาเรื่องอะไรเหรอครับ"
พรรณรายทำถอนใจ
"ก็เรื่องที่คุณลุงดำเกิงจะฟ้องร้องแบ่งทรัพย์สมบัติให้ยัยอัมกับตาอ๊อดนะคะ"
"ผมว่าที่จริงเรื่องในครอบครัวไม่น่าต้องถึงกับฟ้องร้องกันเลย"
"นั่นสิคะพรรณก็คิดเหมือนอาร์ต เนี่ยพรรณก็กำลังกล่อมคุณแม่อยู่ ที่จริงๆถึงแบ่งกันทรัพย์สมบัติคุณพ่อก็มีมากมาย ยังไงกินไม่หมด พรรณเองก็เริ่มเบื่อแล้วล่ะรำคาญกับปัญหาจุกจิกทุกวัน"
สันติซ่อนความดีใจไว้ รีบถาม
"แล้วคุณน้าพิไลเห็นด้วยมั้ยครับ"
"ยังค่ะ พรรณเลยว่าจะชวนคุณแม่ไปนั่งรถเล่นหาอะไรอร่อยๆกินกัน บางทีคุณแม่อารมณ์ดีจะได้เกลี้ยกล่อมได้ง่าย"
"ก็เป็นความคิดที่ดีนะครับ"
พรรณรายขยับไปนั่งข้างๆสันติเกาะแขนอ้อน
"อาร์ตไปด้วยกันนะคะ ขับรถออกไปนอกเมืองกินลมชมวิวกันไปด้วยกันหมดเลย คุณแม่ ลุงเทิด พรรณแล้วก็อาร์ต"
สันติชะงักเสียงหลวงตา เข้ามาในความคิด
"วันพรุ่งนี้ให้เจ้าไปที่บ้านสัตยาภาทำตัวเป็นปกติ หากพิธียังไม่เสร็จสิ้นอย่าให้ใครเคลื่อนย้ายหุ่นเป็นอันขาด"
สันติคิดในใจ
"คนที่ย้ายหุ่นก็คงมีแต่คุณน้าพิไล ลุงเทิดแล้วก็คุณพรรณ ถ้าเราพาทั้งสามคนออกไปจากบ้านได้ก็ยิ่งเป็นเรื่องดี"
สันติยิ้มให้พรรณราย
"ได้ครับถ้าอย่างนั้นผมจะเป็นสารถีให้เองดีมั้ยครับ"
"ดีมากๆเลยค่ะงั้นพรรณไปบอกคุณแม่กับลุงเทิดก่อนนะคะ"
พรรณรายวิ่งเข้าบ้านไปขึ้นชั้นบนไป อัมรา แอบฟังอยู่ คิดก่อนเดินไปที่โทรศัพท์บ้านยกขึ้นหมุนเบอร์

อาทรวางโทรศัพท์ลงแป้น เดินมาหาดำเกิง บุญเรือน ชิ้นที่นั่งรอฟังอยู่ บุญเรือนรีบถาม
"หนูอัมโทรมาว่ายังไงบ้างลูก"
"ได้ผลครับ ท่าทางน้าพิไลกับน้องพรรณจะกลัวคุณพ่อฟ้องร้องจริงๆ เห็นว่ากำลังคิดกันหนัก"
บุญเรือนสะใจ
"คนพวกนี้แปลกพูดดีๆไม่ชอบ ต้องให้ขู่กัน"
"ดูเหมือนน้องพรรณจะเริ่มเบื่อ อยากให้แบ่งๆสมบัติกันไป แต่ปัญหาติดอยู่ที่น้าพิไล"
"แม่คนนี้ละคะตัวแสบ ตัวยุแยงตะแคงรั่วให้พี่น้องเค้าแตกกัน จริงๆคุณพรรณอาจจะเอาแต่ใจแต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดจะตัดพี่ตัดน้องหรอกค่ะ ที่เป็นอย่างนี่ก็เพราะแม่พิไลค่อยเสี้ยม" ชิ้นบอก
"ถ้ามันจบกันได้ด้วยดีก็ดี เราจะได้หมดห่วง
"เห็นว่าน้องพรรณจะพาน้าพิไลกับลุงเทิดไปกินข้าวนอกบ้าน คงไปกล่อมมั้งครับ"
บุญเรือนยกมือไหว้
"สาธุขอให้กล่อมยัยพิไลสำเร็จเถอะ"
ชิ้นขยับเข้ามาใกล้ๆ ยิ้มประจบ บุญเรือนแปลกใจ
"มีอะไรเหรอชิ้น"
"อิฉันขออนุญาตไปหาคุณอัมได้มั้ยคะ อยากจะไปช่วยเธอทำงานบ้านก่อนที่แม่พิไลจะกลับมา สงสารเธอนะคะต้องทำทุกอย่างคนเดียว เดี๋ยวทำเสร็จแล้วอิฉันจะรีบกลับมาค่ะ"
"ไปสิก็ดีเหมือนกัน ฉันก็สงสารหนูอัมราเหลือเกิน รีบไปเถอะป่านนี้พวกนั้นคงออกไปกันหมดบ้านแล้วล่ะ"
"ค่ะ"

ชิ้นกระวีกระวาดลุกออกไป บุญเรือน ดำเกิง อาทรมองหน้ากันพากันถอนใจโล่งอก

อัมรานั่งรีดผ้าอยู่ มีอ๊อดนั่งทำการบ้านอยู่ใกล้ๆ ที่มุมห้อง เพทายนั่งมองอัมราส่ายหน้าระอา
 
"เธอนี่มันทำตัวเป็นนางเอกจริงๆนะ เป็นฉันจะฉะกับยัยพรรณรายให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย"
อ๊อดปิดการบ้าน อัมราหันมาถาม
"ทำเสร็จแล้วเหรอจ้ะ"
"ครับ"
อ๊อดทำท่าจะพูดต่อแต่ไม่พูด อัมรายิ้ม
"หิวแล้วละสิใช่มั้ย"
"ไม่เป็นไรครับ อ๊อดรอให้พี่อัมรีดผ้าเสร็จก่อนก็ได้"
"ไม่เป็นไรจ้ะผ้าน่ะอีกเยอะ พี่ไปทำอะไรให้อ๊อดกินก่อนดีกว่า"
ชิ้นเข้ามา
"คุณอัม..คุณอ๊อด"
อัมรากับอ๊อดดีใจ "น้าชิ้น"
"น้าชิ้นมาได้ยังไงคะ"
"ชิ้นจะมาช่วยคุณอัมทำงานบ้านค่ะ ... โอโหผ้ากองยังกับภูเขา มาค่ะชิ้นรีดเองรับรองแป๊บเดียวเสร็จ"
อัมรามองชิ้นซึ้งใจ
"น้าชิ้น"
ชิ้นจะเข้าไปรีด อัมรารีบบอก
"ขอบคุณมากค่ะน้าชิ้น เอาอย่างนี้ดีมั้ยคะ อ๊อดบ่นอยากทานกับข้าวฝีมือน้าชิ้นมาตั้งหลายวันแล้ว ให้น้าชิ้นทำกับข้าวให้อ๊อดกับอัมทานดีกว่า"
"ไชโยได้กินข้าวฝีมือน้าชิ้นแล้ว"
ชิ้นดีใจ
"อยากทานกับข้าวฝีมือน้าเหรอคะได้เลย งั้นน้าจะแสดงให้สุดฝีมือเลยค่ะ รอเดี๋ยวเดียวนะคะคุณอัม คุณอ๊อด"
ชิ้นกระวีกระวาดไปที่ครัว อัมรากับอ๊อดมองตามก่อนยิ้มให้กัน เพทายมองตามชิ้น
"ฉันคงมีงานต้องทำแล้วสิน่ะ"
เพทายแสยะยิ้มน่ากลัว

ชิ้นยืนอยู่ในครัว มองหม้อ กระทะ ตะลิว และอุปกรณ์ในครัว แล้วถอนใจเฮือก
"เฮ้อ..นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้กลับมาหยิบจับพวกแกอีกแล้ว"
เพทายปรากฏร่างขึ้นจ้องชิ้นน่ากลัว ชิ้นหันไปจะหยิบหม้อ เพทายหันไปจ้องหม้อ หม้อเคลื่อนตกลงพื้น ชิ้นมองแปลกใจ
"เอ้า..ตกไปได้ยังไง หรือมือเราจะไปปัดโดน"
ชิ้นก้มจะเก็บ เพทายยืดมือยาวไปดึงหม้อเคลื่อนออก หม้อเคลื่อนไป ชิ้นชะงัก มองงงๆ
"เฮ้ย"
ชิ้นเอื้อมไปจะคว้าหม้ออีก เพทายดึงหม้อไปอีก หม้อเคลื่อนไปอีก ชิ้นมองอึ้งๆ สีหน้าเริ่มหวาดๆ
"มะหม้อ..เลื่อนเองได้ไง"
เพทายพูดช้าๆเยือกเย็น
"ฉันเป็นคนเลื่อนเอง"
ชิ้นตกใจหันซ้ายขวามองเลิ่กลั่ก
"ใคร..เสียงใคร ใครเล่นตลกกับนังชิ้น"
เพทายหัวเราะสยอง ชิ้นหันไปคว้าตะหลิวตั้งท่า ทั้งกลัวทั้งโมโห
"ใครวะแน่จริงออกมาสิ คิดว่าทำแบบนี้นังชิ้นจะกลัวเหรอ ออกมาเลย แม่จะฟาดให้หัวแบะเลยคอยดู"
เพทายปรากฏร่างให้ชิ้นเห็น
"ฉันอยู่นี่ไง มาฟาดสิ"
ชิ้นหันมามอง อ้าปากค้าง ใบหน้าเพทายเส้นเลือดดำแผ่กระจายเต็มหน้า ตาดำหายไปเหลือแต่ตาขาว แสยะยิ้ม ปากกว้างถึงหู เห็นเลือดซึมแล้วค่อยๆไหลออกมาจากปากที่ฉีกออก ชิ้นตาค้างตะกุกตะกัก
"ผะ..ผะ..ผะผี"
เพทายกางมือเหมือนกรงเล็บเคลื่อนเข้าหาชิ้น ชิ้นเป็นลมล้มพับไปทันที
เพทายหยุดมองชิ้นอย่างสะใจ

สันติขับรถมาตามถนนค่อนข้างโล่ง พรรณนั่งข้างๆ พิไลกับเทิดนั่งเบาะหลัง
พิไลกับเทิดมองหน้ากัน พิไลพยักหน้า เทิดทำหันมองข้างๆ เห็นคนเดินอยู่ริมถนนมากมาย เทิดร้องโวยวาย
"จอดๆๆๆจอดก่อน"
สันติตกใจรีบหักรถเข้าข้างทาง หันมาถาม
"มีอะไรครับลุงเทิด"
เทิดทำชะเง้อมองไปทางด้านหลัง
"นั่นไอ้ชิดเพื่อนเก่าลุง ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบๆปี"
เทิดรีบเปิดประตู พิไลทำตกใจ
"อ้าวแล้วไม่ไปกินข้าวเหรอพี่เทิด"
เทิดรีบลงไปหันมาบอก
"ไม่ไปแล้ว พี่ไปก่อนนะเดี๋ยวตามเพื่อนไม่ทัน"
เทิดมองพรรณรายกับสันติ
"กินเผื่อลุงด้วยแล้วกัน ไปล่ะ"
เทิดวิ่งไปในกลุ่มคน สันติมองตามงงๆ พิไลส่ายหน้า
"เป็นอย่างนี้ทุกทีเฮ้ออย่าไปสนใจเลย ลองเจอเพื่อนเก่ารับรองยาวแน่ เผลอๆคืนนี้ก็ไม่กลับบ้าน เราไปกันเถอะ"
สันติยังลังเล พรรณรายยิ้มให้
"ไปกันเถอะค่ะ"
สันติยังมองตามเทิด แต่ก็ไม่ฉุกใจ สันติขับรถต่อ พรรณรายกับพิไลสีหน้ามีรอยยิ้มมีเลศนัย

วิญญาณในหุ่นทุกตัว ประสานมือหลับตาทำสมาธิ นิ่งมาก ฝ่ายหลวงตาทำสมาธิ สงบ เห็นเป็นลำแสงสีทองแผ่กระจายจากตัวหลวงตาไปที่ห้องหุ่น ลำแสงสีทองค่อยๆแผ่เข้ามาจากทุกทิศทุกทาง แผ่ครอบปกคลุมควันสีดำจางๆ หรือม่านอาคมไว้
"พวกเจ้าจงปล่อยวาง ทำจิตให้ว่างเปล่า ไม่โกรธ ไม่แค้น ไม่อาฆาต เพื่อรับพลังแห่งพุทธคุณ สร้างบารมีแห่งธรรม ทำลายม่านอาคมที่สะกดพวกเจ้าไว้ให้สลายไป ณ.บัดนี้"
หุ่นสีหน้าสงบนิ่ง ลำแสงสีทองแผ่เข้ามาเรื่อยๆจนประทะกับม่านอาคม เหมือนไฟฟ้าช็อต
 
ม่านอาคมพยายามสู้กับลำแสงสีทองนั้น ม่านอาคมเริ่มกลายเป็นรูปบิดเบี้ยว ไม่อาจต้านบารมีธรรมได้

ฝ่ายอัมรารีดผ้า ถึงจะดูเหนื่อยแต่สีหน้ามีความสุข อ๊อดคอย ได้แต่ชะเง้อมองไปทางห้องครัว อัมราหยุดรีดผ้าถามขำๆ
 
"หิวมากเหรอจ้ะอ๊อด"
"ครับพี่อัม ทำไมน้าชิ้นทำกับข้าวช้าจัง"
อัมรามองไปทางครัวบ้าง
"นั่นสิ..สงสัยทำหลายอย่างล่ะมั้ง งั้นเดี๋ยวพี่ไปดูน้าชิ้นก่อนนะ"
อัมราดึงปลั๊กเตารีดออก เดินออกไป แต่ต้องชะงัก เมื่อเทิดเข้ามาขวางยิ้มหวาน
"จะไปไหนจ้ะหนูอัมราคนสวย"
"ลุงเทิด กลับมาแล้วเหรอคะ"
อัมรามองไปทางด้านหลังเทิด
"ทำไมกลับกันมาเร็วจัง แล้วพี่พรรณกับน้าพิไลละคะ"
"สองคนนั่นยังไม่กลับ ลุงกลับมาคนเดียว"
เทิดมองอัมราทั่วตัวอย่างหื่นๆ
"เพราะลุงมีธุระสำคัญต้องกลับมาทำ"
อัมราไม่สน จะเดินเลี่ยงหนีแต่โดนเทิดคว้าข้อมือไว้ก่อน
"เอ๊ะลุงเทิด ปล่อยอัมนะคะ"
ทิดไม่ยอมปล่อย อ๊อดวิ่งเข้ามาทุบเทิดทางด้านหลัง
"ปล่อยพี่อัมเดี๋ยวนี้นะ"
เทิดปล่อยอัมราหันกลับมามองอ๊อด ตบอ๊อดเต็มแรง อ๊อดกระเด็นไปสลบ อัมราตกใจ
"อ๊อด"
อัมราจะวิ่งไปหาอ๊อด แต่เทิดคว้ามือไว้กระชากเข้ามากอด
"วันนี้หนูอัมหนีลุงไม่พ้นแน่ มามะมาเข้าหอกับลุงซะดีๆ"
อัมราทั้งตกใจทั้งโกรธ
"ไอ้คนเลว"
อัมราดิ้นสุดแรงจนหลุด ตบเทิดเต็มแรง แล้วผลักเทิดกระเด็นไป
อัมราวิ่งหนีไปทางครัวตะโกนไปด้วย
"น้าชิ้น..ช่วยอัมด้วย..น้าชิ้น"
เทิดมองตาม
"ใครก็ช่วยแกไม่ได้หรอกนังอัมรา"
เทิดวิ่งตามอัมราไป

ในร้านอาหารชานเมือง สันตินั่งดูเมนูอาหารอยู่ พรรณรายกับพิไลนั่งสบายใจ สันติชะงักเงยมอง
"ไม่สั่งอาหารกันเหรอครับ"
พรรณรายเผลอตัว
"อาร์ตสั่งเถอะค่ะ วันนี้กินอะไรก็อร่อย"
สันติงง
"หมายความว่าอะไรครับ"
พิไลกระแอมไอให้สติ พรรณรายนึกได้
"ก็...เรามากินพร้อมหน้าพร้อมตากันไงคะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไรก็ต้องอร่อยแน่ๆ พรรณหมายความว่าแบบนั้นนะคะ"
พิไลถอนใจโล่งอก สันติมองท่าทางสองแม่ลูกอย่างสงสัย แต่ไม่พูดอะไร สันติก้มหน้าดูเมนูต่อ พรรณายสบตาพิไล พิไลพยักหน้าให้ ที่สันติแอบเหลือบมองอย่างแปลกใจ

อัมราวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในครัวตะโกนไปด้วย
"น้าชิ้นช่วยอัมด้วยค่ะ"
อัมราชะงักมองตกใจ เห็นชิ้นนอนสลบอยู่
"น้าชิ้น"
อัมราวิ่งเข้าไปประคองชิ้น
"น้าชิ้นเป็นอะไรไปคะ น้าชิ้น"
เทิดมาถึงประตูมองสะใจ
"ตัวช่วยก็ไม่มีแล้ว อย่าคิดหนีให้ลุงต้องเหนื่อยอีกเลยหนูอัม"
เทิดเดินเข้าหาอัมรา อัมราปล่อยชิ้นรีบลุกขึ้น เห็นมีดทำครัว อัมรารีบหยิบมา ถือไว้มือสั่นๆแต่พูดขู่จริงจัง
"อย่านะฉันแทงแกแน่"
เทิดหัวเราะ
"มือสั่นเสียขนาดนั้นแทงถูกก็เก่งแล้ว"
เทิดเข้าจะจับตัว อัมราแทงสวนออกมาอย่างตกใจ เทิดร้องเสียงดัง
"เฮ้ย"
อัมราถือมีดมองตกใจ เทิดก้มมองตัวเองเห็นชายเสื้อขาดเลือดซึม เทิดมองอัมราแค้น
"นังนี่เล่นกูถึงเลือดเลยเหรอ"
เทิดพุ่งเข้าจับ บิดมืออย่างแรง มีดตกพื้น แล้วตบ อย่างแรง จนล้มเซไปคว่ำอยู่กับพื้น เทิดตามเข้าไป อัมราหันมา แต่ไม่ทัน... เทิดจับแขนสองข้างไว้ได้ ก่อนกดไว้กับพื้น มองหื่นๆ"ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอก เดี๋ยวพี่จัดให้"
อัมราดิ้น ร้อง
"ไม่..อย่านะ..ช่วยด้วย..ช่วยด้วย"

สันติส่งเมนูอาหารให้บริกร
"เอามาแค่นั้นก่อนครับ"
"ครับผม"
บริกรโค้งแล้วถอยออกไป พิไลมองหาป้ายห้องน้ำ
"ไปห้องน้ำกับแม่มั้ย"
"ไม่ละคะคุณแม่ไปเถอะ"
พิไลลุกเดินไป สันติแกล้งถอนใจทำหน้าเศร้า พรรณรายหันมามองแปลกใจ
"อาร์ตเป็นอะไรไปคะถอนใจเสียงดังเชียว"
"ผมเสียใจ"
"เสียใจ..เรื่องอะไรคะ"
"เสียใจที่คุณพรรณยังมองผมเป็นคนอื่น"
"ไม่นะคะพรรณไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ตอนนี้พรรณคิดว่าอาร์ตเป็นคนที่พรรณรักและไว้ใจที่สุด"
"ไม่จริงหรอกครับ"
"จริงๆค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณพรรณต้องโกหกผม"
"ขนาดเรื่องดีๆที่คุณพรรณสบายใจยังบอกผมไม่ได้ แล้วแบบนี้เหรอครับที่บอกว่าไว้ใจผมที่สุด"
สันติทำเครียด พรรณรายตกใจอึ้ง สันติรุก
"เห็นมั้ยครับ คุณพรรณมีเรื่องที่ปิดผมจริงๆ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แหมพรรณก็อยากบอกแต่คุณแม่"
"ไม่เป็นไรครับผมรู้อยู่แล้วว่าคุณน้าพิไลไม่ค่อยชอบผม เพราะผมมันเป็นแค่เด็กวัด คุณพรรณเชื่อคุณแม่เถอะอย่าไว้ใจผมให้มากเลย ผมไม่เสียใจหรอก"
สันติเศร้า พรรณรายตกใจมากกว่าเดิม รีบมานั่งข้างๆเกาะแขน
"อย่าคิดมากสิคะมันไม่ใช่แบบนั้นคือ ก็ได้ค่ะเพื่อให้อาร์ตสบายใจพรรณจะบอกอาร์ต แต่พรรณขอถามจริงๆนะคะตอนนี้อาร์ตยังรักพรรณอยู่หรือเปล่าคะ"
สันติรีบกุมมือพรรณ
"ถามอะไรแบบนั้นครับ ผมนะรักคุณพรรณมากที่สุด"
พรรณรายยังไม่แน่ใจ
"แล้วยัยอัมละคะตอนนี้อาร์ตรู้สึกเหมือนจะรักอัมอีกมั้ย"
"โธ่ผมบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าผมรักน้องอัมเหมือนน้องสาว"
พรรณรายมองสันติ สันติมองตอบจริงจัง
"แสดงว่ามนต์น้ำมันพรายยังไม่เสื่อมถึงอาร์ตรู้ก็คงไม่สนใจหรอก"

พรรณรายยิ้ม ตัดสินใจเล่า
 
จบตอนที่ 13
 
ติดตามอ่านตอนอวสาน พรุ่งนี้ เวลา09.30น.


กำลังโหลดความคิดเห็น