เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 16
ที่โต๊ะอาหารบ้านย่า ทุกคนนั่งอยู่ มีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะ บุญปลูกกับเภาเสิร์ฟข้าวให้กับทุกคน
“แม่เดือน วันนี้หนูหายไปไหนมา ย่าไม่เห็นหน้าทั้งวันเลย”
“หนูไปทำธุระที่บริษัทกับคุณภูมิมาค่ะ”
“เออ ดี เผื่อมีอะไรที่พอจะช่วยเจ้าภูมิได้ ก็ไปช่วยดูบ้างก็ดี”
“คุณแม่คะ หนูฟ้าเขาจบบิสสิเนสมา แถมยังจบมาสาขาเดียวกับตาภูมิ ใช่ไหมคะลูก”
“ใช่ค่ะ”
“ฉันรู้แล้วแม่สราญ พูดซ้ำย้ำอยู่นั่น ฉันไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์นะ”
สราญหน้าแตก ยิ้มแหยให้ย่า พวงศรีรีบพูดต่อ
“ตอนอยู่อังกฤษ เขาได้ไปฝึกงานบริษัทใหญ่ระดับโลกเลยนะคะ”
“วันข้างหน้า หนูฟ้าจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยเราได้อีกทางนะคะคุณแม่”
ย่าปรายตามองสราญ หมั่นไส้ ก่อนจำใจพยักหน้า
“เอา เอา กินข้าวกันได้แล้วจ้ะ”
“คุณแม่ขา ชิมยำถั่วพู ฝีมือหนูฟ้าก่อนเลยนะคะ จะได้รู้ว่าอร่อยแค่ไหน เพราะหนูเห็นเขาตั้งใจทำมากๆ เลยนะคะ”
บุญปลูกกับเภา หันไปมองหน้ากันก่อนเบ้ปากใส่
ผสานนั่งจิบไวน์หน้าแดง กอดคอจอส อยู่ในผับ หัวเราะร่าอย่างมีความสุข
“เฮ้ย โคตรขำเลยวะ ไอ้จอส”
“ขำอะไรครับ นายหัว”
“ก็ขำมึงน่ะสิ”
“ขำจอส แล้วจอส มีอะไรให้นายหัวขำ”
“ก็มึงเริ่มจะเล่นละครเก่งขึ้นทุกวัน”
ผสานพูดและทำท่าล้อเลียนจอส
“จอสยืนยันได้ ว่านายหัวของจอส เฝ้าแต่รักเฝ้าแต่รอคุณหนูเล็ก จนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาตลอด จอสสงสารมาก ฮ่าๆๆ กูน่าสงสารมาก”
จอส ยิ้มเขิน
“ขอบใจมากนะไอ้จอส วันนี้เต็มที่เลย อยากได้อะไร อยากทำอะไร ทำ”
จอสลุกขึ้นทำดี๊ด๊า มองหาสาวตาวาว
สราญ พวงศรี และประกายฟ้า ทานข้าวที่บ้านย่าเสร็จ กลับมาคุยกันต่อที่บ้าน
“นี่ก็ค่ำมืดแล้ว คุณภัทรยังไม่กลับมาอีกเหรอคะ”
“คงจะคุยจนติดลม ก็เลยมาช้า แต่อย่าไปสนใจเขาเลย มาสนใจเรื่องของเราจะดีกว่า นี่ น้องศรี พรุ่งนี้ ต้องมาที่นี่อีกนะคะ”
“ได้คะได้ ว่าแต่จะให้มาทำไมกันคะ”
“ฉันวางเกมใหม่”
“ใหม่ยังไงคะ คุณพี่”
“เรื่องคุณแม่ เราจะหยุดไว้แค่นี้ก่อน พรุ่งนี้เราจะเบนเข็มมาเล่นงานนังเดือนฉาย ให้หงายท้องไปเลย เผื่อมันจะถอดใจ”
“เออจริงค่ะคุณพี่ เขาว่า ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน”
“ดีมากเลยค่ะคุณแม่ พรุ่งนี้ฟ้าพลาดไม่ได้ ต้องมาแน่นอนค่ะ”
“จ้ะจ้ะ งั้นวันนี้กลับไปพักผ่อนกันเถอะนะ เดี๋ยวแม่จะให้นายถวิลขับรถไปส่ง”
“ค่ะคุณแม่”
ทุกคนยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน
ภูมิกับไผทมานั่งดื่มในผับเดียวกับผสานและจอส
“บอกตามตรงว่าเรื่องเครียดที่สุดตอนนี้คือเรื่องพ่อ”
“เออ ฉันเข้าใจ แต่แกก็ต้องทำใจเผื่อไว้บ้าง เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่แม่ฉันสิ ฉันกลัวแม่จะเสียใจ แม่คงจะรับไม่ได้แน่”
“เอาน่า ในเมื่อวันนั้นมันยังมาไม่ถึง แกก็อย่าเพิ่งคิดอะไรให้มากเกินไป วันนี้แกได้คุยกับพ่อ ต่อไปแกก็ลองไปคุยกับแม่แกดูบ้างสิ”
ภูมิพยักหน้าเนือยๆ ให้ไผท ก่อนหันไปมองที่โต๊ะผสาน ที่ส่งเสียงดังโวยวาย
“เฮ้ย ไอ้จอส เพื่อตอบแทนความดี มึงอยากได้อะไรสั่งไป กูจัดให้มึงเอง เงินกูมีเป็นกะตั้ก”
ผสานเมาได้ที่ ลุกขึ้นตบกระเป๋าโชว์
“แค่นี้จอสก็ไม่ไหวแล้วครับนายหัว ขอบคุณครับ”
ภูมิปรายตามองไปที่ผสานกับจอส ที่เริ่มเมาอ้อแอ้ มีหญิงสาวคอยเอาใจไม่ห่าง
“แกดูไอ้บ้านั่นสิ อวดร่ำอวดรวย กลัวคนไม่รู้หรือไงว่ารวย มันเว่อร์จริงๆ”
ไผทหันไปมอง
“อ้าว นี่มันคนที่เคยมาตามหาเมียที่ชื่อรามนรี ที่แถวบริษัทเรานี่นา”
“เห็นสภาพอย่างนี้ ก็คงไม่แปลกที่เมียอย่างยัยรามนรีอะไรนี่ จะหนีไป”
“ก็น่าเห็นใจ เท่าที่ฟังเขารักเมียเขามาก ก็คงจะทำให้เครียดมากน่ะ”
ภูมิหันไปมองผสานกับจอสที่นัวเนียสาวๆ อย่างมีความสุข
“นี่ตกลงมันเครียด รึมันดีใจที่เมียหนีไปกันแน่วะ ดูสิ ผู้หญิงเพียบเลย”
“ฉันว่าแกอย่าไปเสือกเรื่องชาวบ้านเลย แค่เรื่องของแกก็เอาให้รอดก่อนเถอะ”
ภูมิถอนใจ เซ็ง
ภูมิขับรถเข้ามาจอดในบ้าน ภัทรขับรถตามเข้ามาติดๆ จอดข้างกัน
ภูมิหันไปมองพ่อ ก่อนเปิดประตูรถ เดินเข้าบ้านไป
“ภูมิ เดี๋ยวก่อนสิลูก”
ภูมิมองพ่อไม่พอใจ ก่อนรีบเดินเข้าบ้านไป สราญนั่งรออยู่ ภูมิเดินเข้ามา ภัทรตามมาติดๆ
“ต๊าย สองพ่อลูกนี่ช่างน่ารักจริงๆ นี่คงจะไปช่วยกันทำมาหากินกันมาล่ะสิ”
ภูมิมองแม่หน้านิ่ง ภัทรยิ้มแหย สราญมองสองคนงงๆ
“อ้าว ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ที่ฉันพูดไปไม่ใช่เหรอคะคุณ”
ภูมิกับภัทรหันไปมองหน้ากันด้วยความอึดอัด รามนรีเดินออกมาได้ยิน หยุดยืนแอบมอง
“แล้วทำไมไม่มีใครตอบกันบ้างเลย มัวแต่มองกันไปกันมาอยู่นั่น”
“คุณแม่ วันนี้ผมรู้สึกไม่สบาย ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวสิลูก ไหน มาให้แม่ดูก่อนว่าตัวร้อนไหม”
สราญเอามือแตะหน้าผากมองภูมิด้วยความห่วงใย ภูมิมองแม่ซาบซึ้ง ก่อนโผกอดแม่
“คุณแม่ครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ถึงใครจะไม่รักแม่ แต่ผมรักแม่มากนะครับ”
“ดูสิ ลูกคนนี้ วันนี้เป็นอะไร ทำไมจู่ๆ ก็มาบอกรักแม่ได้ หือ”
ภัทรมองภรรยาและลูกด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร วันนี้ภูมิทำให้แม่ชื่นใจจริงๆ”
ภูมิกอดแม่น้ำตารื้น ก่อนหันไปมองพ่อ ภัทรหน้าเศร้า รามนรีแอบมองภูมิด้วยความเห็นใจ ภูมิ เดินหน้าเครียดขึ้นบันไดมา รามนรีรีบวิ่งไปที่ห้อง
ถวิลขับรถเข้ามาส่งพวงศรีและประกายฟ้าที่บ้าน
“ขอบใจมากนะถวิล ที่มาส่ง”
“ครับ งั้นผมขอตัวเลยนะครับ”
ถวิลยกมือไหว้แล้วขับออกไป
“มันเป็นแค่คนขับรถคนใช้ แม่จะไปให้ความสำคัญกับมันทำไมกันคะ”
“เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่ามองข้าม เราจำเป็นต้องสร้างมิตร ไม่ใช่ศัตรู”
“แต่มัน เป็นพวกเดียวกันกับอีนังเดือนฉาย ไม่จำเป็นต้องไปญาติดีกับมัน หนูเกลียดมันมากค่ะแม่”
“แม่รู้ เอาเถอะๆ เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ของแม่ละกัน”
ประกายฟ้าหัวเสียเดินกระแทกเท้าออกไป พวงศรีมองลูกสาวเหนื่อยใจ
รามนรียืนอยู่ในห้อง ภูมิเปิดประตูเดินเข้ามาหน้าเครียด เห็นหญิงสาวก็โผเข้าไปกอด รามนรีตกใจ ภูมิน้ำตาไหล
“ผมเพิ่งจะรู้ ว่าความอึดอัดมันเป็นยังไง”
รามนรีไม่รู้จะทำอย่างไร จำใจปล่อยให้ภูมิกอด ก่อนตบไหล่ปลอบใจ
“มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเรียนรู้ ต้องเจอ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปค่ะ”
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมพ่อถึงเป็นได้ขนาดนี้”
รามนรีผละออกจากภูมิ ก่อนดึงชายหนุ่มให้นั่งลงที่เตียง
“ฉันรู้ ว่าคุณรู้สึกเสียใจ และสับสนกับสิ่งที่คุณเจอ มาค่ะ ใจเย็นๆ แล้วเรามานั่งคุยกันนะคะ”
ภูมิพยักหน้าเนือยๆ ก่อนนั่งลงอย่างว่าง่าย
“คุณรู้ไหม ว่าผมต้องจำใจโกหกแม่ เพื่อปกป้องพ่อ”
“คุณก็อย่าคิดว่าเป็นการโกหก แต่ควรคิดว่านี่เป็นการแก้ปัญหาสิคะ”
ภูมิมองหน้ารามนรี
“ลองคิดดู ที่ผ่านมา คุณอยู่แต่กับความสุขสบาย ไม่เคยเจอปัญหาอะไร นอกจากวุ่นวายแต่เรื่องผู้หญิงของคุณ และคุณพ่อก็เคยปกป้องคุณ คนเรามีสิทธิ์ที่จะคิดผิด ทำผิด ด้วยกันทั้งนั้น แต่ทุกอย่างจะจบลงได้ด้วยการพูดคุย ทำความเข้าใจกันด้วยเหตุและผล ไม่ใช่ใช้อารมณ์ ถึงจะแก้ปัญหาได้”
“ก็ผมโมโหนี่”
“นี่คือเหตุผลของคนไม่รู้จักโต”
“แล้วผมต้องทำยังไง ในเมื่อผมคุยแล้วเขาก็ยังเหมือนเดิม”
“เฮ้อ ดีแต่ว่าคนอื่น ไม่เคยดูตัวเองเลย จำได้ไหม ฉันเคยขอให้คุณเลิกเจ้าชู้ จนปากจะฉีกถึงหู คุณเคยทำได้บ้างไหมล่ะ นอกจากเหมือนเดิม”
ภูมิกลอกตาไปมาครุ่นคิด
“ก็จริง”
“ฉันอยากให้คุณทำความเข้าใจ ว่าเรื่องบางเรื่องก็ต้องใช้เวลา มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”
ทั้งสองมองหน้ากัน ต่างยิ้มให้กัน
ประกายฟ้ากับพวงศรีมองเข้าไปในบ้าน เห็นบ้านมืดสนิทก็หงุดหงิด
“นี่พ่อคงจะหลับลึกไมรู้เรื่องอีกแล้วล่ะสิ”
พวงศรีทุบเขย่าประตู
“คุณ คุณ”
“หนูละเบื่อพ่อจริงๆ”
“ลองกดเข้ามือถือพ่อเขาดูสิ”
ประกายฟ้าจะโทรเข้ามือถือประกัน แต่ต้องชะงัก เมื่อแสงไฟจากรถเสี่ยอุดรสาดส่องเข้ามา
รามนรีกับภูมิ ยืนมองท้องฟ้าด้วยกันที่ระเบียง
“คืนนี้ฟ้าใส ดาวสวยมาก”
“อืม”
“ทำไมชีวิตคนเรา ถึงไม่สวยไม่สดใสเหมือนกับดาวบนท้องฟ้านี่บ้างนะ”
“แม้แต่ท้องฟ้าก็สดใสได้แค่บางวัน เพราะบางทีมันก็มีเมฆหมอกผ่านมาบดบัง”
“อืม ก็จริงอีก จะว่าไป คุณนี่เก่งนะ น่าจะไปเป็นนักจิตวิทยา คอยให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตให้ผู้คน”
รามนรียิ้มขำ
“โห ฉันก็แค่พอรู้ ไม่ได้เก่งขนาดที่จะไปแก้ปัญหาให้ใครได้หรอก ขนาดเรื่องของฉัน ก็ยังเอาตัวไม่รอดเลย อุ้ย”
“คุณมีเรื่องอะไร เล่าให้ผมฟังบ้างก็ได้นะ เผื่อผมจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร ฉันก็เพ้อไปเรื่อย ไม่มีอะไรหรอก”
“ขอบคุณมากนะที่คุณให้สติ และคอยแก้ปัญหาให้ผมทุกเรื่อง”
“ฉันถูกจ้างมาเพื่อทำหน้าที่นี้ ฉันก็ต้องทำสิ่งนี้สิคะ”
ภูมิมองสร้อยทองคำขาวที่คอรามนรี
“และขอบคุณที่คุณยังใส่มันไว้”
รามนรีเขิน ก่อนรีบกลบเกลื่อน
“ก็คุณขู่ฉันไว้ ฉันก็ต้องใส่สิ”
ภูมิอมยิ้มขำๆ มองรามนรียิ้มเขินหลบตาต่ำ
“คุณภูมิ อีกไม่นานฉันก็ต้องไป ก่อนไป ฉันอยากให้คุณรีบปรับตัวปรับใจให้ได้ ก่อนที่คุณเดือนฉายจะกลับมา”
ภูมิใจหาย จับมือรามนรีส่งสายตาวิงวอน
“คุณไม่ไปได้ไหม ผมอยากให้คุณอยู่ใกล้ๆ คุณทำให้ผมรู้สึกดีที่มีคุณ”
“คุณภูมิ”
“จริงๆ นะ ผมพูดจากใจ และรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ”
รามนรีใจสั่นมองหน้าภูมิ ก่อนรีบตั้งสติ
“อย่าพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้เลยนะคะ”
รามนรีรีบเดินออกไป ภูมิเริ่มสับสน
พวงศรีกับเสี่ยอุดรช่วยกันหิ้วปีกประกันที่เมาปลิ้น เข้ามานอนแผ่หราที่โซฟา ประกายฟ้าเซ็งมาก
“นี่ไปไหนกันมาคะเนี่ย”
“เห็นคุณแม่กับหนูฟ้าไม่อยู่ ผมกลัวคุณพ่อจะเหงา เลยพาคุณพ่อไปซื้อโรเร็กซ์แก้เหงา ซื้อมาให้คุณแม่ด้วยนะครับ”
เสี่ยอุดรยื่นถุงให้ พวงศรีตาโตรีบรับไป
“อ๊าย ขอบคุณมากๆ ดีมากๆ เลยค่ะเสี่ยขา”
“ต่อไป เสี่ยไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรมาให้ก็ได้ค่ะ”
พวงศรีหันขวับไปมองประกายฟ้า ถลึงตาใส่ไม่พอใจอย่างแรง เสี่ยอุดรหน้าเสียคิดว่าประกายฟ้าหึง
“หนูฟ้า อย่าโกธรเสี่ยเลยนะ เสี่ยแค่หวังดี และไม่ได้นอกใจหนูฟ้าเลย ไม่เชื่อถามคุณพ่อดูก็ได้ อย่าหึงเสี่ยเลยนะนะจ๊ะ”
ประกายฟ้าทำหน้าขยะแขยง
“อี๋”
พวงศรีเห็นประกายฟ้า รีบเข้าไปหยิกแขนไว้
“เสี่ยขา ผู้หญิงก็เป็นอย่างนี้ ศรีว่า วันนี้เสี่ยกลับไปก่อนดีกว่า เพราะศรีรู้สึกว่าน้องฟ้าอารมณ์ไม่ค่อยดี อาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้ก็ได้”
“ได้ครับได้ แล้วพรุ่งนี้ผมจะมาขอไถ่โทษ ด้วยการเอารถเบนซ์มาให้ และหวังว่าหนูฟ้าจะหายโกรธ และไม่หึงโหดผมนะครับ”
ประกายฟ้าโกรธ
“งั้นเสี่ยไปก่อนนะหนูฟ้า ผมลานะครับคุณแม่”
เสี่ยอุดรหน้าจ๋อย รีบเดินออกไป
รามนรีห่มผ้านอนตะแคงหันหลังให้ภูมิ วางฟอร์มหลับอยู่บนเตียง ภูมิเดินเข้ามา ยืนอมยิ้มมองหน้าหญิงสาว
“มาปุ๊บ ก็แกล้งหลับปั๊บเลยเหรอคุณ เขินใช่ไหมล่ะ ผมรู้ทันนะ”
รามนรีถอนใจ ไม่พูดอะไร
“งั้นผมนอนด้วยนะ”
ภูมิรีบเอาตัวเข้ามานอนในผ้าห่ม ถือโอกาสกอดรามนรีไว้ รามนรีตกใจลืมตาโพลง หันมาถีบภูมิ
“โอ๊ย”
ภูมิดิ้นขลุกๆ ตกลงไปจากเตียง สราญกับภัทรนอนคุยกัน สราญได้ยินเสียงเหมือนอะไรตกลงมากระแทกพื้น ลุกขึ้นเงี่ยหูฟัง
“นั่นเสียงอะไรคะคุณ”
“คงจะของหล่น เอ๊ะ หรือว่าคู่นั้นทะเลาะกัน เดี๋ยวผมจะไปดูลูกนะ”
สราญยิ้มเจ้าเล่ห์ รั้งไว้
“ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง ยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งดี อีนังนั่นจะได้รีบไสหัวไปเสียที ฉันรำคาญ เรามาคุยเรื่องวันนี้ดีกว่านะคะ วันนี้คุณทำอะไรให้ลูกไม่พอใจรึเปล่า ฉันรู้สึกเหมือนเขาน้อยใจอะไรสักอย่าง”
“เปล่านี่ ผมไม่ได้ทำอะไรเขาเลย”
“เหรอ แล้วเขาเป็นอะไร ทำไมพูดอะไรแปลกๆ”
“น่าจะสับสน ไหนจะเรื่องผู้หญิง เรื่องแม่เรื่องย่า คงจะเลือกเอาใจใครไม่ถูกมั้ง”
“ก็เป็นไปได้ คุณ ฉันคิดว่าต่อไป เรามาช่วยกันลบปมในใจให้ลูกกันดีกว่า”
“ปมอะไร”
“คุณจำไม่ได้รึไง ที่ผ่านมาลูกเขาเคยขอให้เราอยู่กับเขา แต่เราก็ไม่เคยทำได้ ฉันรู้ว่าลูกขาดความอบอุ่น แต่ตอนนั้นมันไม่มีทางเลือก”
“คุณรู้ด้วยเหรอ”
“ฉันเป็นแม่ ทำไมฉันจะไม่รู้ แต่ฉันจำเป็นต้องทำ เพื่อครอบครัวเรา”
“ทำไม คุณไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ผมรู้เลย”
“ฉันจงใจเก็บมันไว้ ไม่อยากทำให้คุณไขว้เขว คุณรู้ไหม ว่าในความเข้มแข็ง แต่ในใจฉันแอบร้องไห้คิดถึงลูกทุกวัน”
ภัทรมองอึ้ง
“จนมาถึงวันนี้ ฉันพร้อมที่จะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นให้กับเขา ฉันจะทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป ทำให้เขาได้มีความสุขกับครอบครัวอย่างจริงๆ จังๆ เสียที คุณว่าดีไหมคะ”
ภัทรระอายใจ น้ำท่วมปาก พูดไม่ออก
“แม้แต่กับคุณ ฉันก็ต้องขอโทษ ที่ผ่านมาฉันอาจจะดูร้าย เอาแต่ใจ ไม่ได้ทำตัวเป็นภรรยาที่ดีสักเท่าไหร่”
“คุณสราญ”
“ต่อไป ฉันสัญญา ว่าฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น เพื่อตอบแทนความดีของคุณ ที่มีให้เราแม่ลูกมาตลอด”
ภัทรมองสราญรู้สึกดี
“รอฉันอีกนิดนะคะ รอให้ฉันจัดการแม่เดือนฉายแล้วเอาหนูฟ้ามาเป็นสะใภ้ให้ได้ แล้วอีกไม่นาน เราก็จะได้เป็นปู่เป็นย่า ฉันจะหยุดทุกอย่าง เราจะมาช่วยกันเลี้ยงหลานอย่างมีความสุขด้วยกันนะคะ”
สราญเข้าไปกอดภัทร ภัทรกอดตอบภรรยา ด้วยความรู้สึกผิด
ประกายฟ้านั่งหน้าเครียด คิดแค้นทั้งรามนรีและเสี่ยอุดร พวงศรีเปิดประตูเดินหน้าเครียดเข้ามา
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมแกชอบทำอะไรสิ้นคิดขึ้นทุกวัน”
“ก็ดูมันทำสิคะ มันหาว่าหนูหึงมัน ทั้งๆ ที่หนูทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยงมัน แม่จะไม่ให้หนูโมโหได้ยังไง แล้วไหนจะเรื่องอีนังเดือนฉายนั่นอีก”
“เขาทุ่มไม่อั้นแล้วมันจะคิดไหมว่าแกเกลียดมัน นอกจากมโนไปว่าแกรักมาก”
ประกายฟ้านิ่งคิด
“เชื่อแม่ เรื่องเสี่ยปล่อยให้เขามโนไป ท่องไว้ว่าเขาเป็นตัวเงินตัวทอง เราต้องนิ่ง”
“ก็ได้ แต่เรื่องนังเดือนฉายหนูขอ เพราะไม่ว่าจะยังไง หนูจะต้องเอาคืนมันให้ได้”
“ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้เรามีนัดกับคุณสราญ แม่จะพาไปลุยด้วยตัวเอง”
“ดีค่ะแม่ แต่ไอ้เสี่ยบ้านั่นมันนัดเรา แล้วเราจะชิ่งมันยังไง แต่ถ้าจะให้หนูไปกับมัน หนูไม่เอาแล้วนะแม่”
“ได้ แม่วางแผนไว้แล้ว แค่แกวางฟอร์มหึงโหดให้เหมือนเมื่อกี้ แล้วเราจะสับรางให้ดี แค่นี้ก็จบ”
ประกายฟ้ามองแม่ไม่แน่ใจ
“นอนหลับให้สบาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เรื่องเสี่ยอุดรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ เดี๋ยวแม่จัดการเอง นอนซะนะลูกนะ”
พวงศรีห่มผ้าให้ ก่อนเดินออกไป
“แม่ค่ะ”
“ว่าไงลูก”
“หนูเริ่มจะคิดเหมือนแม่”
“ว่า”
“เหมือนกับเคยเห็นหน้าอีนังเดือนฉายนั่นที่ไหน แต่หนูนึกยังไงก็นึกไม่ออก”
“โธ่เอ๊ย นึกว่าเรื่องอะไร เลิกคิดเลิกสนใจ แล้วเอาเวลามาคิดว่าจะจัดการกับอีนังเดือนฉายยังไง จะดีกว่าไหมลูก”
“พรุ่งนี้ จะเป็นวันสุดท้ายของแก ที่จะอยู่ใกล้พี่ภูมิของฉัน นังเดือนฉาย”
ประกายฟ้ายิ้มเจ้าเล่ห์
ตอนเช้า รามนรีนอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดภูมิ
เธอลืมตาตื่นเห็นหน้าภูมิอยู่ตรงหน้า ตกใจ ใจสั่น ก่อนหันมองหน้าภูมิที่นอนหลับตาพริ้มใกล้ๆ พยายามจดจำความรู้สึกดีๆ นี้ไว้ ภูมิหรี่ตาแอบมอง รามนรีค่อยๆ จับมือเขาออก รีบห่มผ้าให้ แล้วลุกออกไป ภูมิเหล่มอง ยิ้มปลื้ม รามนรีเดินเข้าไปในห้องครัว มีบุญปลูก เภา ถวิล ช่วยกันทำอาหารอยู่
“เดือนฉายมารายงานตัวแล้วค่ะ”
“วันนี้ดูแปลกไป ทำไมคุณเดือน ยิ้มหน้าใส แล้วก็มาสายกว่าทุกวัน”
“เภาเดา ว่าคุณย่าคงจะมีข่าวดี เรื่องเบบี้บูมในไม่ข้านี้แน่นอน”
รามนรียิ้มเขินหน้าแดง
“เดาผิดแล้วค่ะพี่เภา”
“นี่นังเภา พูดอะไรพล่อยๆ ดูสิ คุณเดือนอายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว ดูสิ”
บุญปลูกกับเภาพากันมอง
“อะไร มองอะไร ไม่ได้อาย และไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย มาค่ะ ทำกับข้าวกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวคุณย่าหิวแย่”
รามนรีรีบเข้าไปเตรียมทำอาหาร บุญปลูกมองรามนรียิ้มปลื้ม ก่อนรีบชิ่งออกไป รายงานย่า
“คุณท่าน คุณท่านขา ปลูกมีข่าวดีมาบอกค่ะ”
ย่าละสายตาจากไอแพด
“มีข่าวดีอะไรรึแม่ปลูก”
บุญปลูกกระซิบกระซาบที่ข้างหู
“ขอเป็นท้องเลยได้ไหม ฉันจะได้ไม่ต้องลุ้นรายวัน ไม่ทันใจฉันเลย”
“แหม อย่าใจร้อนสิคะ แค่นี้ก็เป็นนิมิตหมายที่ดีแล้วค่ะคุณท่าน”
ย่ารีบวางไอแพด ก่อนพากันหัวเราะคิกคัก
“เออ ก็จริง คอยดูนะถ้ามีเหลนเมื่อไหร่ แม่สราญจะต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ”
“แน่นอนค่ะคุณท่าน อีกไม่นานเราจะมีคุณหนูตัวน้อยๆ มาวิ่งเล่นแล้วล่ะค่ะ”
ย่าหัวเราะร่าดีใจ
ภัทรนั่งเหม่อ ครุ่นคิดหน้าเครียดอยู่ในสวน ภูมิเดินเข้ามา
“คุณพ่อครับ”
ภัทรไม่ได้ยินยังเหม่อ
“คุณพ่อครับ”
ภัทรสะดุ้งเฮือก รามนรีเดินเข้ามา หยุดแอบมอง
“คุณพ่อครับ ที่ผ่านมาผมขอโทษ ที่ผมทำตัวไม่ดีกับพ่อ”
“นี่ลูกหายโกรธพ่อแล้วใช่ไหม”
“เดือนฉายพูดถูก ถ้าเรามัวแต่ใช้อารมณ์ ไม่หันหน้ามาหากัน คุยกันด้วยเหตุและผล มันก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้”
รามนรีมองภูมิยิ้มปลื้ม
“พ่อก็ต้องขอโทษลูกเหมือนกัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาก็เพราะพ่อ เมื่อคืนพ่อนอนไม่หลับเลย คิดทบทวน และรู้ว่าความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่พ่อได้มา มันไม่คุ้มกับสิ่งที่พ่อจะต้องเสียไปเลย พ่อไม่น่าหาเรื่องเลยจริงๆ”
“พ่อพูดจริงๆ เหรอครับ”
“จริงสิลูก คนทำผิดต้องคอยหลบโน่นหลบนี่ แล้วเมื่อวาน ก็ดันไปเจอพ่อของหนูฟ้าอีก เฮ้อ พ่อล่ะกลุ้มใจจริงๆ เลย”
“ไม่เป็นไรครับพ่อ คนเราไม่มีใครไม่เคยทำผิด พ่อเฉยไว้ มีอะไรเราค่อยช่วยกันแก้ไปทีละเปราะ พ่อไม่ต้องกลัวนะ”
“ขอบใจนะลูก ขอบใจจริงๆ ขอเวลาให้พ่อเคลียร์เรื่องทุกอย่างอีกนิด แล้วพ่อจะกลับมาเป็นพ่อที่ดีของภูมิเหมือนเดิมนะ”
ภูมิโผเข้ากอดพ่อ รามนรียิ้มมีความสุข
โต๊ะอาหารบ้านย่า รามนรีเดินเข้ามา ภูมิกับภัทรเดินกอดคอกันเดินตามเข้ามา
“เออ ดีๆ สองพ่อลูกนี่อารมณ์ดีมาแต่เช้าเลย”
“ก็คนเขารักกันนี่ครับคุณแม่”
“ใช่ครับคุณย่า หรือว่า คุณย่าไม่อยากให้รัก”
“จะบ้าหรือไง ทำไมย่าจะไม่อยากให้รักกันล่ะ ว่าแต่แก อย่ามัวรักแต่พ่อกับแม่ จนลืมรักเมียตัวเองล่ะ ลืมรึยังเรื่องเหลนทวดน่ะ งานไม่เดินเลยนะ”
ย่าค้อนใส่ภูมิกับรามนรี
“ว่าไง จะตอบคุณย่าว่าไง เมื่อไหร่จะมีกันเสียทีล่ะหนูเดือน”
รามนรีหลบตาเขิน
“ผมน่ะพร้อม แต่เขาน่ะสิครับคุณย่า ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเลย”
“อ๊ะ มีงี้ด้วย แสดงว่าแก ความประพฤติไม่ดีล่ะสิ ใช่ไหมแม่เดือน”
ภัทรอมยิ้มมองภูมิ
“โดนจนได้”
รามนรีไม่ได้ตอบอะไร ทำได้แค่หัวเราะกับย่า ก่อนหันไปมองปรามให้ภูมิหยุดพูด
ภูมิใส่ชุดสูทสุดเท่ห์ ยืนจัดเนคไทที่หน้ากระจก รามนรีเดินเข้ามา ภูมิยิ้มร่า หันไปจับมือหญิงสาว
“ขอบคุณนะ ที่ทำให้ผมกับพ่อเคลียร์กันได้”
“คุณดีกันได้ก็เพราะตัวคุณ ไม่ใช่ฉันสักหน่อย”
“เพราะคุณที่ทำให้ผมคิดได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรผมชักจะเชื่อคุณไปหมดเสียแล้วสิ”
“เชื่ออะไร แล้วทำไมต้องเชื่อ รู้ไหม ว่าเชื่อตัวเองดีที่สุด”
“ก็รู้ แต่ที่ผ่านมาคุณทำให้ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ ในความคิดของคุณ”
“งั้นฉันขอสั่งให้ คุณเลิกเจ้าชู้ตอนนี้ คุณจะทำได้ไหม”
“ผมสัญญาว่าจะทำให้ได้ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป”
“ฉันว่าแล้ว ต่อไปคุณไม่ต้องมาสัญญาบ้าบออะไร แต่ควรทำให้ฉันเห็น ว่าคุณทำได้และฉันจะคอยดู”
“ได้ๆ ผมสัญ อุ้ย ผมจะทำให้คุณดู”
รามนรีอมยิ้ม ขำภูมิ เห็นเนคไทของเขายังจัดไม่เรียบร้อย
“มาค่ะ ยืนตัวตรงๆ เดี๋ยวฉันช่วยดูให้นะคะ”
ภูมิเข้าไปใกล้ ยืนตัวตรง มองหน้ารามนรี แอบเขิน
พวงศรีนั่งด่าประกัน ซึ่งนั่งหน้าหงิกอยู่
“ไม่รู้จะกินอะไรกันนักกันหนา กินจนเมาเหมือนหมาทุกที”
“อ้าว แม่พวงศรี เคยเข้าใจบ้างไหม ว่ากลอนมันพาไป เขารินมาฉันก็ดื่มไป แล้วก็เมา มันเหมือนหมาตรงไหนเนี่ย”
“วันหลังฉันจะถ่ายคลิปเก็บไว้ให้ดู จะได้รู้ว่าเหมือนหมามากแค่ไหน”
ประกันสะบัดหน้าไปมาให้หายเมาค้าง
“เออนี่ คุณเมื่อวานผมเห็นคุณภัทรไปกับผู้หญิง”
“แล้วมันแปลกตรงไหน เขารวยขนาดนั้นอาจจะเป็นลูกน้องเป็นเลขาเขาก็ได้”
“จะมีลูกน้องมีเลขาที่ไหน ที่หยอกล้อต่อกระซิก กอดแขนเจ้านายตลอดเวลา”
“เป็นไปได้ไง เขาโปร์ไฟล์ดีไม่เคยมีอะไรเสียหาย เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ”
“อย่าว่าแต่คุณ ทีแรกผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่พอไปดูใกล้ๆ มันใช่นี่เลย”
“แต่จะว่าไปก็สะใจดี เห็นอียัยสราญชมนักชมหนา ว่าผัวดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ แล้วเป็นไง สุดท้ายก็เลวเหมือนคุณ”
“อ้าว ไปๆ มาๆ ทำไมมาลงที่ผมอีกแล้วล่ะ”
“อ๊ะ ก็ในบรรดาความเลวในสากลโลก ไม่มีใครกินคุณลงสักคน”
ประกันเบ้ปากมองพวงศรี เซ็ง
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 16 (ต่อ)
สราญเปิดประตูห้องออกมาพร้อมๆ กับที่ภูมิก็เปิดห้องออกมา
สราญหลบแอบมอง ภูมิเดินออกมาที่หน้าประตู รามนรีถือกระเป๋าเอกสารตามมายื่นให้
“ขอบคุณครับ”
รามนรีดึงประตูจะกลับเข้าห้อง ภูมิรั้งไว้
“แล้วทำไมไม่ไปส่งสามีที่รถล่ะ”
รามนรีชกท้อง
“สามีบ้าอะไร ไปได้แล้วไป”
ภูมิดึงมือรามนรีเข้ามาหา ก่อนขโมยหอมแก้มไปหนึ่งฟอด
“นี่คุณจะบ้าหรือไง คุณกำลังผิดสัญญาฉันหลายข้อแล้วก็หลายครั้งแล้วนะ”
สราญนิ่วหน้า
“ผิดสัญญา สัญญาอะไร”
“นาทีนี้ ผมไม่สนสัญญา ผมสนใจความรู้สึกของผมมากกว่า”
ภูมิยักคิ้วหลิ่วตา ก่อนส่งตาปิ๊งๆ ให้รามนรี
“กรุณาเก็บทุกอย่างที่พูดมาไว้ให้คุณเดือนฉาย ฉันจะดีใจที่สุด”
สราญคิด
“หมายความว่าไง แล้วที่ยืนอยู่นี่ไม่ใช่เดือนฉายหรือไง โอ๊ยงง”
รามนรีแอบเขินก่อนผลักภูมิ
“อ๋อ แล้วอย่าลืมเอาข้าวกล่องที่ฉันทำไว้ไปกินกลางวันด้วยนะคะมันปลอดภัยดี”
“ขอบใจมากนะ ที่เป็นห่วงผม”
“แล้วอย่าลืม เอาอีกกล่อง ไปให้คุณไผทด้วยนะคะ”
ภูมิหุบยิ้มหน้าเจื่อน รามนรียักคิ้วให้ ก่อนรีบปิดประตูล็อคไว้ สราญมองรามนรีตาขวาง รู้สึกขัดใจอย่างแรง
ประกายฟ้านอนหลับอยู่บนเตียง พวงศรีเปิดประตูเข้ามาปลุก
“ฟ้า ฟ้า ตื่นได้แล้วตื่น เสี่ยเขาเอารถมาให้แล้วลูก มาดูเร็ว สวยมาก”
ประกายฟ้างัวเงีย ยังไม่ยอมตื่น
“แม่ไปดูก่อน ฟ้าขอนอนอีกนิดนะ ฟ้าง่วงมากค่ะแม่”
“ไม่ได้ลูก ไม่ได้ เราต้องรีบไปรับหน้าเสี่ย แล้วเมื่อกี้คุณสราญก็โทรมาตามให้รีบไปรุมกินโต๊ะนังนั่น”
ประกายฟ้าได้ยินชื่อสราญ รีบลุกขึ้น
“เหรอคะ ค่ะ ค่ะ งั้นเดี๋ยวฟ้าอาบน้ำแต่งตัว แล้วจะตามลงไปนะคะแม่”
“โอเคค่ะโอเค งั้นแม่ไปรับหน้าเสี่ยไว้ก่อนนะ”
พวงศรีรีบเดินออกไป ประกายฟ้ายิ้มเจ้าเล่ห์
เสี่ยอุดรขับรถหรูมาที่บ้านประกายฟ้า ประกันรอต้อนรับ พวงศรีเดินเข้ามาหา
“เป็นไงบ้างครับคุณแม่ หนูฟ้าหายโกรธผมรึยัง”
“ก็ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังเลยโกรธอยู่เลยค่ะ”
เสี่ยอุดรหน้าจ๋อย ประกันตบไหล่ปลอบ
“ผู้หญิงก็อย่างนี้ รักมากก็โกธรมาก หึงไม่เข้าท่าเลยยัยฟ้าเนี่ย”
“เสี่ยคงต้องทำใจ ต้องรอไปสักพัก เดี๋ยวเขาก็ลืมไปเอง ยิ่งมีรถมาให้น่าจะไวขึ้น”
“งั้นวันนี้เราพาน้องฟ้าไปฉลองรถใหม่ ไปช็อบปิ้งให้หายเครียดกันดีไหมครับ”
“วันนี้เห็นทีจะไม่ได้ค่ะ เพราะศรีแพลนไว้แล้ว ว่าจะให้น้องฟ้าขับรถคันใหม่ ไปให้เจ้าคุณย่าท่านได้เห็นแล้วศรีจะถือโอกาสนี้ เกริ่นเรื่องเสี่ยให้คุณย่าท่านได้รู้ ว่าเสี่ยเป็นว่าที่หลานเขยท่าน ดีไหมคะ”
“ดีครับดี ขอบพระคุณคุณแม่มาก ที่เมตตาผม”
พวงศรีหันไปสบตาประกัน ยิ้มเจ้าเล่ห์
“ผมว่าคุยกันตอนยังโมโห มันคงไม่เกิดประโยชน์อะไร ยิ่งจะทำให้ทะเลาะกัน”
เสี่ยอุดรนิ่งฟังคิดตาม
“อันนี้ ศรีก็เห็นด้วยนะคะ”
“ผู้หญิงจะไปมีอะไร แค่เราเอาอกเอาใจ ทำให้เขาประทับใจ ทำให้เห็นว่าเรารักเขามากแค่ไหนสำคัญกว่าใครๆ ยิ่งมีเซอร์ไพรส์ยิ่งดี เดี๋ยวก็จบ”
“เอาเป็นว่า ผมขอกลับไปคิดทำอะไรให้น้องฟ้าหายโกรธจะดีกว่า”
“ดีค่ะดี ถ้ามีอะไร ศรีจะโทรไปนะคะ”
“ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
เสี่ยอุดรเดินยิ้มร่าอารมณ์ดีออกไปอย่างว่าง่าย
“หือ ไอ้โง่เอ๊ย”
ประกันกับพวงศรี หันไปสบตาหัวเราะร่าปะมือกันอย่างผู้มีชัย
ย่ากับรามนรีนั่งคุยกันที่มุมโปรดในบ้าน
“นี่เจ้าภูมิ ไปทำงานรึยัง”
“ไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ”
“อืม ดีจัง ตั้งแต่หนูเดือนมาอยู่ที่นี่ ดูเจ้าภูมิมันดีขึ้นเยอะเลย”
“จริงค่ะ ปลูกเห็นด้วยเลย”
“ขอถามอีกครั้ง ว่าแม่สราญกับคนพวกนั้น เขามีปัญหาอะไรกับเราไหม”
“ไม่มีค่ะ”
“แต่ก็อย่าไว้ใจ ให้ระวังตัวไว้ละกัน เพราะเท่าที่ดูคนพวกนั้นก็ไม่ธรรมดา ส่วนแม่สราญ ก็พยายามอย่าไปถือสา แต่ควรเอาชนะเขาด้วยความดี ขอให้เชื่อว่าสุดท้ายความดีจะชนะทุกสิ่ง”
“ค่ะคุณย่า”
“มีอะไรก็อย่าเก็บไว้คนเดียว หนูยังมีย่า มีอีกหลายคนที่คอยให้กำลังใจนะ”
“ขอบคุณค่ะ งั้นหนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
ย่ากับบุญปลูกยิ้มปลื้ม
ประกายฟ้า ประกัน และพวงศรี นั่งหัวเราะขำเสี่ยอุดร
“ไอ้เสี่ยนี่มันหน้าโง่จริงๆ เลย”
สะอิ้งถือถาดน้ำเข้ามาเสิร์ฟ ได้ยินพอดี หยุดยืนแอบฟัง
“เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าเรื่องหึงมันเป็นซีรีส์เรื่องยาว เอาไว้หลอกได้อีกเยอะ”
“จริงด้วยค่ะ แม่นี่สุดยอดเลยจริงๆ”
“เรื่องหน้าไหว้หลังหลอก ขอให้บอกแม่แก พ่อว่าต้องเป็นนางจิ้งจอกกลับชาติมาเกิดแน่ๆ”
“นี่ ว่าแต่คนอื่นเขา ตัวเองก็ใช่ย่อย นั่งทับหางไว้ไม่เคยมิด หางโผล่ตลอด ไอ้จิ้งจอกตัวพ่อ ไปกันได้แล้วไป”.
พวงศรีเดินออกไป สะอิ้งออกมาจากที่ซ่อน เป็นห่วงเสี่ยอุดร
“นี่เสี่ยกำลังโดนคนพวกนี้หลอกจริงๆ”
สะอิ้งครุ่นคิด ตัดสินใจ
รามนรีนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเตียง นึกถึงภาพที่เธอนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดภูมิ เสียงเคาะประตูดัง รามนรีสะดุ้งเฮือก รีบวิ่งไปเปิด เห็นสราญยืนอยู่
“มีอะไรให้หนูรับใช้คะคุณนาย”
“ทำไม ต้องมีอะไรให้ใช้ ฉันถึงจะคุยกับหล่อนได้รึไง หะ”
“เปล่าค่ะ หนูก็แค่ถามดู”
“วันนี้ หนูฟ้า และครอบครัวเขาจะมาเป็นแขกของที่นี่ หล่อนห้ามไปไหน ต้องอยู่รับใช้เขาให้ดี อย่าให้มีขาดตกบกพร่อง และที่สำคัญอย่ามีปัญหา เข้าใจไหม”
“ค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูไปตามพี่เภามาช่วยอีกแรงก็ได้”
“ไม่ได้ ฉันต้องการให้เธอทำทุกอย่างคนเดียว ดูสิจะมีปัญญาทำไหม”
“ได้ค่ะ”
“ดี เอาไว้ว่างๆ ฉันมีเรื่องที่ยังคาใจ และอยากจะถามเธอ”
“ถามเลยก็ได้นี่คะ หนูยินดีตอบทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะ”
“ตอนนี้เธอมีหน้าที่ต้อนรับแขกของฉัน ก็ควรจะทำมันให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ทีหลัง เพราะดูท่าเธอกับฉัน คงจะต้องคุยกันยาว”
สราญเดินเชิดออกไป รามนรีมองตามเหนื่อยใจ
ย่า บุญปลูก เภา และถวิล ช่วยกันตัดแต่งกิ่งไม้ บริเวณหน้าบ้านภูมิ
“ดูสิ ถ้าพวกเราไม่ช่วย แม่เดือนฉายคงแย่แน่ๆ ดูแลอยู่คนเดียวเลย”
“จริงค่ะ ไม่ว่าเรื่องอะไร คุณเดือนฉายก็รับไปหมด”
“แถมยังไม่เคยเห็นแกปริปากบ่นว่าเหนื่อยสักคำ”
“เห็นไหม ว่าคนดี เขาทำอย่างนี้กันนะนังเภา.เขาไม่บ่น”
เภาหันขวับไปมองถวิลตาขวาง ย่าอมยิ้มมองเภา ก่อนหันไปสบตาบุญปลูก เสียงแตรรถดัง ทุกคนหันไปมอง นิดไปเปิดประตู รถสปอร์ตสุดสวยแล่นเข้ามา ย่าและทุกคน มองรถ เภาตาโต
“ว้าว รถสวยจัง”
“ใช่ๆ คนนั่งข้างในก็สวย”
เภาเหล่มองถวิล
“หือ เล่นกันต่อหน้าเลยนะไอ้พี่หวิน”
“ใครกัน” บุญปลูกสงสัย
“แล้วจะอยากรู้ไปทำไม แค่มองไปเดี๋ยวก็รู้แล้ว”
ย่าและทุกคน มองตามรถที่แล่นผ่านหน้าเป็นตาเดียว เวลาเดียวกันนั้น เสี่ยอุดรขับตามรถประกายฟ้า ก่อนจอดรถซุ่มดู ที่ถนนด้านหน้าประตูบ้านภูมิ มองเข้าไปในบ้าน ยิ้มสดใส
“ไม่ว่าอะไร ถ้าทำเพื่อหนูฟ้า ทำเพื่อความรักของเรา อย่าว่าแต่ศรีทนได้ เสี่ยก็ทนได้และทำได้ ไม่แพ้ศรี เสี่ยรับรอง”
เสี่ยอุดรมองกระจกสำรวจความเรียบร้อย ก่อนหันไปมองกระเช้าของฝากใบใหญ่ ที่วางไว้หลังรถ ยิ้มมั่นใจ
ภูมิหยิบกล่องอาหาร ออกมาวางไว้ตรงหน้าไผท
“อะไรวะเนี่ย”
“ก็ข้าวกลางวัน ที่คุณยายเขาทำมาให้ฉันกับแกไง ปลอดภัยสุดๆ เลยนะ”
ไผทแอบมองท่าทีภูมิ ดูมีความสุข
“อีกไม่นาน ฉันจะให้เขาสอนฉันทำอาหาร ฉันจะได้ทำมาให้แกกินไง”
ไผทส่ายหัวดิก
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ฉันไม่กล้ากินฝีมือแกหรอก ฉันกลัวตาย”
“ไอ้บ้าเอ๊ย ดูถูกกันแต่แรกเลย คอยดูฉันจะทำให้ได้”
รุ้งเดินเข้ามา
“ได้เวลาอาหารกลางวันจะทานอะไรดีคะคุณภูมิ อ้าวซื้อมาแล้วเหรอคะ”
“ไม่ได้ซื้อ แต่ภรรยาผมทำอาหารเพื่อสุขภาพมาให้”
รุ้งยิ้มเจื่อน
“มาค่ะ งั้นเดี๋ยวรุ้งจัดการให้นะคะ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้อง เดี๋ยวผมจัดการเองได้ คุณไปพักเถอะ”
“อ๋อ ค่ะ ได้ค่ะ”
ไผทจะรีบลุกไปจัดอาหารใส่จานให้ภูมิ ภูมิเดินมากดไหล่ให้นั่งลง
“แกก็ไม่ต้อง นั่งเฉยๆ เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง”
ภูมิกุลีกุจอไปจัดอาหารใส่จานให้ไผท ไผทงง ไม่อยากเชื่อ
“เป็นไปได้”
ทั้งคู่นั่งกินอาหารด้วยกัน
“ตอนนี้ แกกับคุณยายเป็นยังไง”
“ฉันรู้สึกดีกับเขามาก”
“แล้วคุณเดือนตัวจริงล่ะ”
“เออ ใช่ มัวแต่ยุ่งกับเรื่องวุ่นวาย ฉันลืมเขาไปเลยนะเนี่ย”
ไผททุบโต๊ะ
“แกพูดอย่างนี้ได้ยังไง แกเคยเห็นใจเข้าใจคนที่เขารักแกบ้างไหม”
“เฮ้ย ทำไมแกต้องโมโหขนาดนี้ด้วยวะ”
“ฉันโมโห เพราะฉันเห็นมาตลอด ว่าคุณเดือนเขารักแกมากแค่ไหน ฉันขอถาม และขอให้แกตอบแบบแมนๆ ว่าตอนนี้แกยังรักคุณเดือนเขาอยู่ไหม”
ภูมินิ่งคิดอย่างสับสน
“บอกตามตรง ว่าตอนนี้ฉันชักไม่แน่ใจ แต่ก็ยังนึกถึงเขา”
“เพราะคุณยายใช่ไหมที่ทำให้แกเปลี่ยนไป แกรักเขาแล้วใช่ไหม”
“ฉันก็ยังไม่แน่ใจ ว่ามันใช่ความรักรึเปล่า แต่เท่าที่รู้ ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา”
ไผทมองภูมิหนักใจ นึกเป็นห่วงเดือนฉาย
ประกายฟ้า ประกัน พวงศรี ในชุดสุดหรู ใส่แว่นตาดำ วางฟอร์มเนี้ยบ พากันออกมายืนที่ข้างรถ นิดวิ่งเข้ามายกมือไหว้ทุกคน
“สวัสดีค่ะ คุณสราญให้เชิญทุกท่าน ที่ด้านในเลยนะคะ เชิญค่ะ”
“จ้ะ ขอบใจนะจ๊ะ”
“โธ่เอ๊ย ไอ้เราก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ยัยพวงหรีดกับลูกนี่เอง”
“รอดูให้เสียลูกกะตาจริงๆ”
“อ้าว แล้วทำไมไปว่าเขาเสียหายอย่างนั้นล่ะจ๊ะ”
บุญปลูกกับเภา หน้าจ๋อย
“ไปๆ กลับกันได้แล้ว”
พวงศรียิ้มร่าให้นิด ก่อนปรายตามองไป เห็นเสี่ยอุดรถือกระเช้า กำลังจะเดินเข้าไปหาย่า พวงศรีหน้าเหวออ้าปากค้าง ติดอ่าง พูดไม่ออก ประกันกับประกายฟ้า หันไปมองตาม
“เฮ้ย มาได้ไงเนี่ย”
พวงศรีจิกตาใส่ประกัน ก่อนหันไปมองนิด ส่งซิกให้ประกันรีบหุบปาก ประกายฟ้าหน้าซีดเผือด ร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
“นิดจ๊ะ เดี๋ยวช่วยไปเรียนคุณสราญ ว่าฉันขอตัวทำธุระแป๊บ เดี๋ยวจะตามไป”
“ค่ะได้ค่ะ”
“แม่ค่ะ เอาไง วันนี้เราต้องแย่แน่ๆ”
“สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร เราต้องผ่านมันไปให้ได้”
พวงศรีหันไปสบตาทุกคนเรียกความมั่นใจ ก่อนพยักหน้าให้
“ไปเร็ว”
ย่า บุญปลูก เภา ถวิล เดินไปตามทาง เสี่ยอุดรถือกระเช้าเดินปราดไปหาย่า
“สวัสดีครับ นี่คงจะเป็นเจ้าคุณย่า ของหนูฟ้า ใช่ไหมครั”
ย่ามองเสี่ยอุดรงงๆ
“ผมอุดร ผมตั้งใจมากราบ และเอาของมาฝากเจ้าคุณย่า นี่ครับ”
“หะ เจ้าคุณย่า แล้วฉันก็คิดว่าฉันไม่น่าจะรู้จักคุณนะ แล้วของนั่นฉันก็รับมันไว้ไม่ได้หรอกจ้ะ”
“นี่แสดงว่าคุณแม่ คงจะลืมเรียนคุณย่า ว่าผมเป็นว่าที่หลาน”
ประกันรีบพุ่งเข้ามาปิดปากเสี่ยอุดรไว้
“ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะคุณย่า ที่ทำให้ตกใจ ต้องขอตัวสักครู่นะคะ”
ย่างง มองประกันกับพวงศรีช่วยกันล็อคตัวเสี่ยอุดรออกไปอย่างรวดเร็ว บุญปลูก เภา ถวิล มองประกันกับพวงศรีด้วยความสงสัย ประกายฟ้ายืนอยู่ข้างย่า ถอนใจโล่งอก
“นี่มันอะไรกัน ผู้ขายคนนั้นเขาเป็นใคร แล้วทำไมต้องทำอย่างนั้นกับเขาด้วย”
ประกายฟ้าคิดหาคำตอบเอาตัวรอด
“อ๋อค่ะ เขาเป็นคุณน้าหนูเอง แต่เขามีอาการทางประสาท ชอบแอบอ้างสร้างเรื่องว่าเป็นคนนั้นคนนี้ แล้วชอบแอบตามไปทุกทีเลยค่ะคุณย่า เขาบ้าๆ บอๆ ค่ะ”
“อ๋อ เหรอ ถ้าเขาป่วย ย่าก็ไม่ติดใจอะไร แต่ยังไงเขาก็เป็นน้า หนูต้องรีบเอาเขาไปรักษา หรือไม่ก็ต้องดูแลเขาให้ดี เข้าใจไหม”
“ค่ะ หนูต้องกราบประทานโทษคุณย่า แทนคุณน้าด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไร งั้นย่าขอตัวก่อนนะ”
ย่าพาทุกคนเดินออกไป ประกายฟ้าเป่าปากถอนใจโล่งอก
พวงศรีกับประกัน หิ้วปีกลากตัวเสี่ยอุดรออกมาที่รถ ก่อนปล่อยมือพากันยืนหอบ
“คุณทำอย่างนี้ทำไม รู้ไหมว่าผมเสียหายมากแค่ไหน”
“จะเสียหายอะไร ในเมื่อผมแค่อยากจะเซอร์ไพรส์ และอยากทำอะไรให้เห็นผลไวๆ ไม่ต้องรอกันไปกันมา แล้วผมก็ทำตามคำแนะนำของคุณพ่อ”
พวงศรีหันขวับไปมองหน้าประกันเอาเรื่อง
“แนะนำอะไร”
ประกันมองเสี่ยอุดรงงๆ
“ก็คุณพ่อบอกผมเอง ว่าทำให้เขาประทับใจ ทำให้เห็นว่ารักเขามากแค่ไหน ยิ่งมีเซอร์ไพรส์ยิ่งดี เดี๋ยวก็จบ ผมก็เลยเลือกวิธีนี้ ที่จะทำให้เขาเห็นว่า ไม่ว่าจะเจออะไร มีอุปสรรคขวากหนามแค่ไหน ผมก็กล้าที่จะพุ่งเข้าชน ผมจะอดทนเพื่อหนูฟ้า เพราะเขา คือรักแท้ของผม”
ประกันยิ้มแหย หันไปมองพวงศรี เสียงโทรศัพท์ดัง เสี่ยอุดรมองหน้าจอเห็นเบอร์สะอิ้ง อารมณ์เสียไม่สนใจกดปิดเครื่อง
“หน้าสิ่วหน้าขวานมันจะโทรมาทำไมเนี่ย”
“เสี่ยก็รู้ปัญหา ว่าเจ้าคุณย่าท่านเป็นคนยังไง รักและหวงยัยฟ้ามากแค่ไหน รู้ไหมว่าเสี่ยกำลังจะทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ไม่น่าผลีผลามทำอย่างนี้เลย”
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่จะว่าไปดูคุณย่าท่านก็เป็นคนมีเหตุผล ผมว่าเราเข้าไปเปิดใจคุยกับท่าน ท่านจะได้รู้ว่าผมกับหลานท่านเรารักกันมากแค่ไหน”
“ว้าย ไม่ได้ค่ะไม่ได้”
“ทำไมล่ะครับ ผมอุตส่าห์บุกมาขนาดนี้ จะให้ผมหนีไปทำไม”
“ไม่ได้หนี แต่มันยังไม่ถึงเวลา ผมว่าเรากลับไปคุยกันที่บ้านจะดีกว่านะเสี่ย”
“ดีค่ะดี เพราะทางนี้ศรีไม่แน่ใจว่าน้องฟ้าจะเจออะไร เพราะถ้าเจ้าคุณย่าท่านไม่พอใจ เสี่ยอาจจะไม่ได้คบกับน้องฟ้าอีกต่อไป แม้แต่เราก็ช่วยอะไรไม่ได้ ศรีถึงได้ให้เสี่ยรีบกลับ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ศรีจะรีบไปเคลียร์ให้เสี่ยเอง”
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
ประกันกับพวงศรีพยักหน้าให้เสี่ยอุดร
“งั้นผมจะกลับเดี๋ยวนี้ ไปครับคุณพ่อ”
เสี่ยอุดรรีบลากประกันพาเดินออกไป พวงศรีถอนใจโล่งอก ก่อนยืนมองเข้าไปในบ้านภูมิ เรียกความมั่นใจ
ย่า บุญปลูก ถวิล นั่งคุยกันถึงเรื่องของเสี่ยอุดร
“นี่พวกเธอว่า นายอุดรอะไรนั่น มันเหมือนคนบ้าไหม”
“ไม่เลยค่ะ ทั้งการแต่งตัวทั้งหน้าตาดูดี ขนาดนั้นมันบ้าตรงไหน”
“ผมว่า คำให้การของคุณฟ้า มันมีพิรุธนะครับคุณท่าน”
“ยังไง”
“ก็ดูแก ล่กๆ รนๆ ยังไงก็ไม่รู้”
“อันนี้ผมเห็นด้วย ยิ่งเห็นพ่อกับแม่เขา ผมยิ่งสงสัย เหมือนแกกลัวอะไรสักอย่าง”
“ใช่ ใช่ แถมยังกล้าเอามือปิดปาก แล้วรีบลากออกไป ต่อหน้าคุณท่านได้ไง”
“ก็นี่ไง ฉันถึงได้บอกว่ามันดูแปลกๆ ฉันว่า เรื่องนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ”
“แล้วนี่นังเภา หายไปไหน”
ทุกคนหันไปมองหาเภา พากันส่ายหน้า
ประกายฟ้ากับพวงศรียืนคุยกันหน้าเครียดสักครู่ ก่อนคลี่ยิ้มให้กัน
“ลูกแม่ ฉลาดมาก”
“แม่ก็เหมือนกัน”
เภาวิ่งเข้ามามองหา ก่อนเข้ามาแอบฟังอยู่อีกมุม
“สรุปว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่มีใครทำอะไรเราได้แน่นอน”
“ใช่ แต่แม่ต้องจำสิ่งที่หนูเล่าไว้ให้ดีๆ เพราะเราโกหกเป็นซีรีส์เรื่องยาว ต้องเล่าต้องโกหกให้ตรงกัน ไม่งั้นเจ๊งเลยนะคะแม่”
“เรื่องนี้แม่รู้ดีน่า เราจบเรื่องนี้ แล้วไปลุยกับนังเดือนฉายกันดีไหมลูก”
เภาตกใจ ก่อนนิ่งฟัง
“แต่แม่คะ ถ้าคุณย่าเขาเล่าเรื่องนี้ให้พี่ภูมิกับทุกคนฟัง หนูกลัวว่าเขาจะสงสัยเรา”
“มาได้ขนาดนี้ ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะตอนนี้เราถือไพ่เหนือกว่าเขา เรามีตัวให้เล่นอีกเยอะ”
“แม่พูดอะไร หนูไม่เข้าใจ เราเหนือกว่าเขายังไง ตรงไหนคะแม่”
“เออน่า เอาไว้มีเวลาแล้วแม่จะเล่าให้ฟัง ไปได้แล้ว ไป”
พวงศรียิ้มมั่นใจให้ประกายฟ้า เภามองแค้นสองแม่ลูก
สราญนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่กับภัทรในห้องรับแขก ประกายฟ้ากับพวงศรี เปิดประตูยิ้มร่าเข้ามา
“เชิญครับเชิญ”
“แหม วันนี้คุณพี่มีเรื่องจะเม้าท์ให้ฟังมากมาย”
“อ๋อ เหรอคะ น้องก็มีเรื่องมาเล่ามาเม้าท์ ให้คุณพี่ฟังมากมายเหมือนกันค่ะ”
“หือดูท่า น่าจะสนุก ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าเรื่องอะไร”
พวงศรีหันไปมองภัทร
“ก็เมื่อวานคุณประกันไปเจอเพื่อน แต่เขาดันมากับกิ๊กน่ะสิคะ”
“อุ้ยตาย แก่ปูนนี้ยังจะคิดได้อีกเหรอคะ”
“แหม คุณพี่ ของอย่างนี้มันไม่เลือกวัยหรอกค่ะ จริงไหมคะคุณภัทร”
ภัทรหน้าเจื่อน
“อ๊าย อย่าไปถามเรื่องนี้กับคุณภัทรเขาเลยค่ะ เพราะขานี้ไม่เคยมีประวัติเสียค่ะ”
ภัทรยิ้มแหยรู้สึกอาย
“เดี๋ยวเชิญทุกคนตามสบาย ผมขอตัวไปทำธุระก่อนนะครับ”
“อ๊ะ จะรีบไปไหน ทำไมไม่อยู่ฟังด้วยกันก่อนล่ะคะ จะได้รู้ว่าคนทำเลวทำไม่ดีจะมีจุดจบยังไง”
“ไม่เป็นไร เชิญคุณตามสบาย ผมขอตัวไปทำงานต่อดีกว่านะ”
“ก็ได้ค่ะ งั้นรบกวนคุณช่วยไปตามแม่เดือนฉาย ให้มาหาฉันหน่อยละกันนะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวผมไปตามให้นะ”
ภัทรเดินหน้าเครียดออกไป พวงศรียิ้มสะใจ ก่อนหันไปสบตาประกายฟ้าที่มองงงๆ
รามนรีเปิดประตูห้องออกมา เห็นภัทรหน้าซีดเซียว ยืนเอาหลังพิงผนังห้องตรงข้ามห้องนอนภูมิอย่างหนักใจ จึงรีบเข้าไปหาด้วยความห่วงใย
“คุณพ่อ เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่าคะ”
“พ่อไม่เป็นไร แค่มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยน่ะลูก”
“หนูว่าคุณพ่อควรจะไปพักสักนิดดีกว่านะคะ มาค่ะ เดี๋ยวหนูพาไปนะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อเดินไปเองได้ เดี๋ยวหนูรีบไปพบคุณสราญที่ห้องรับแขกเถอะ ขืนไปช้าจะโดนเขาเอ็ดเอา เพราะเขาให้พ่อมาตามหนู รีบไป ไม่ต้องห่วงพ่อ”
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวนะคะ”
รามนรีรีบเดินออกไปหาสราญ ยกมือไหว้พวงศรี
“ทำไมชักช้าอยู่ได้ แล้วจะทำอาหารทันมื้อเย็นทันไหมเนี่ย”
“ขอโทษทีนะคะ หนูจะพยายามทำทุกอย่างให้ทันค่ะ”
“มา เตรียมจดออเดอร์”
พวงศรีสั่ง รามนรีหยิบกระดาษกับปากกามาเตรียมตัวจด
“อยากจะทานอะไร บอกเขาไปได้เลยนะหนูฟ้า เห็นคุณย่าชมนักชมหนาว่าแม่คนนี้ทำอาหารเก่ง แม่เองก็อยากจะรู้ อยากจะดูให้เห็นกับตาว่าจริงไหม”
“ได้เลยค่ะคุณแม่”
ประกายฟ้ากับพวงศรี วางฟอร์มกวนๆ กลอกตาไปมา นั่งนึกเมนู
“ฟ้าอยากทาน อาหารรสแซ่บ ยำปลาดุกฟู ยำถั่วพู ยำรวมมิตรทะเล ยำผลไม้ จะได้ผิวสวยไงคะคุณแม่ อ้อ ขอตำไทยอีกเมนู ดูท่าจะแซ่บ”
“เชิญตามบาย สั่งไป อย่าได้แคร์”
ทุกคนหันไป ขยิบตาให้กันอย่างสนุกสนาน รามนรีหันไปเห็น และรับรู้ได้ว่ากำลังถูกแกล้ง แต่ทำเฉยไว้
“แต่คุณน้องอยากทาน น้ำพริก ขอเป็น น้ำพริกปลาทู น้ำพริกตาแดง น้ำพริกแมงดาและปูหลน แล้วก็แกงเผ็ดเป็ดย่าง แล้วก็แกงจืดเห็ดสามอย่าง เพื่อสุขภาพ ดีไหมคะคุณพี่”
“อุตะ ดีค่ะดี เฮลท์ตี้สุดๆ เธอทำได้ใช่ไหม”
“หนูจะพยายาม ทำได้ค่ะ”
“เธอจะใช้คำว่าพยายามไม่ได้ สำหรับฉัน ต้องได้เท่านั่นย่ะ”
ประกายฟ้ายืนยัน สราญกับพวงศรีมองประกายฟ้ายิ้มปลื้มชื่นชม
“งั้นก็ต้องคอยดู เดี๋ยวก็รู้ค่ะ”
สราญเอาเงินยื่นให้
“รีบไปจ่ายตลาด แล้วก็รีบมา เดี๋ยวหนูฟ้าจะหิว เข้าใจไหม”
“ค่ะ”
ประกายฟ้ายิ้มสะใจ มองรามนรีแววตาดุดัน
จบตอนที่ 16