เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 19
ภูมิยืนหันหลัง พิงประตูห้องสราญ หมดแรง หน้าเศร้า เอามือกุมขมับ รามนรีเปิดประตูออกมา มองชายหนุ่มด้วยความห่วงใย
“เพราะฉันใช่ไหม ที่ทำให้คุณต้องเป็นอย่างนี้”
“เพราะผม ต่างหาก”
“เอาเป็นว่าเรามีส่วนผิดด้วยกันทั้งคู่ละกัน”
รามนรีสบตาภูมิ ก่อนยื่นมือออกไปตรงหน้าเขา
“มาค่ะ เรามาช่วยกันคิด ว่าจะแก้ไขสิ่งที่ผิดยังไง ไม่ใช่มานั่งกลุ้มกุมขมับอยู่อย่างนี้ มันไม่มีประโยชน์ เพราะปัญหาเขามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้กลุ้ม ไปค่ะ”
ภูมิยื่นมือไปจับมือรามนรี แล้วลุกขึ้นมา
“ผมรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ผมขอโทษ อย่าโกรธคุณแม่ผมเลยนะ”
“ฉันไม่เคยโกรธท่าน เพราะสัญชาตญาณของคนเป็นแม่ ถ้าเห็นอะไรไม่ดี ก็ต้องปกป้องลูก ท่านทำถูกแล้ว ถ้าแม่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็คงจะปกป้องฉันอย่างนี้เหมือนกัน”
“นั่นคุณร้องไห้ทำไม”
“ฉันก็แค่นึกถึงเรื่องเศร้าของตัวเอง แต่ไม่ว่าจะยังไง คุณก็เป็นคนโชคดี ที่มีแต่คนแย่งกันมาปกป้องคุณ ต่างจากฉัน ที่ไม่มีใครเลย”
ภูมิเห็นใจ จับมือรามนรี สบตาอย่างจริงจัง
“ใครบอกว่าไม่มีใคร ก็ผมนี่ไงที่จะปกป้องคุณ จะดูแลคุณตลอดไปอย่าร้องไห้นะ”
ภูมิเช็ดน้ำตาให้ รามนรีรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก มองภูมิซาบซึ้ง
สราญนอนหันหลังให้ภัทร ภัทรสะกิดหลัง ก่อนลุกขึ้นนั่งคุยกับสราญ
“คุณสราญ คุณไม่น่าไปพูดกับลูกแรงขนาดนั้น”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อฉันอยากจบปัญหา ไม่อยากให้มันซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนี้ มันไม่เป็นผลดีต่อครอบครัวเราเลย”
“แล้วคุณเคยนึกถึงใจลูกบ้างไหม ว่าเขาจะอึดอัดมากแค่ไหน นี่ก็แม่ นั่นก็เมีย”
สราญหันหน้ามามองภัทร
“แล้วมันเคยนึกถึงใจฉันบ้างไหมล่ะ คุณก็รู้ ว่าฉันสู้อุตส่าห์หาคนดีๆ หวังจะให้มันมีครอบครัวที่ดี แล้วคุณดูมันทำกับฉันสิ”
“คุณสราญ ปลูกเรือนก็ต้องตามใจผู้อยู่ ในเมื่อเขารักของเขา เราก็ควรจะปล่อยเขาไป อีกไม่นานเราก็ตายแล้ว”
“ฉันรู้ แต่ก่อนตาย ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อลูกของฉัน และฉันก็ไม่ไว้ใจอีนังนั่น คุณเห็นไหม ว่ามันทำให้ตาภูมิเปลี่ยนไป ยังไงฉันก็ไม่ยอม”
ภัทรถอนใจมองสราญ เอามือก่ายหน้าผาก เครียด
คืนนั้น ภูมิโอบไหล่รามนรีเดินเข้ามานั่งที่เตียง ต่างมองสบตากัน เคลิ้ม
“ขอบคุณมากนะ ที่คุณทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเยอะ”
“ทำไงได้ ก็เราลงเรือลำเดียวกันอยู่นี่คะ”
“คุณคิดกับผมแค่นั้นจริงๆ เหรอ”
รามนรีหลบตา
“ตอบผมมาสิ ว่าคุณคิดกับผมแค่ไหน ยังไง หรือว่าคุณยังไม่เชื่อใจผม”
รามนรีใจสั่น ไม่รู้จะตอบอย่างไร ภูมิเชยคางหญิงสาวให้หันมาสบตากัน
“เชื่อผมสักทีจะได้ไหม ว่าวันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว”
“เปลี่ยนไปยังไง”
ภูมิจับมือรามนรีขึ้นมาจูบ
“ผมชอบคุณจริงๆ”
ภูมิสบตารามนรีด้วยแววตาจริงใจและจริงจัง รามนรีใจสั่นหวั่นไหว ภูมิยื่นหน้ามาหา ต่างฝ่ายต่างเข้ามาใกล้ชิดกัน ประคองกันนอนไปบนเตียงอย่างมีความสุข
คืนนั้น ประกายฟ้านอนไม่หลับ เลือกชุดสุดสวยมาทาบตัวชุดแล้วชุดเล่าแต่ก็ยังไม่ถูกใจ กวาดตามองชุดในตู้ ก่อนครุ่นคิด
“หล่อ รวย เท่ห์ สมาร์ท อย่างพี่ภูมิ ต้องเรียบหรู ดูดี ต้องมีเซ็กซี่เล็กๆ”
ประกายฟ้าไปหยิบชุดใหม่ออกมาจากตู้ เอามาทาบตัว โพสต์ท่าทางเซ็กซี่ที่หน้ากระจก
“พรุ่งนี้เราจะได้เห็นดีกัน นังเดือนฉาย”
ประกายฟ้ายิ้มหัวเราะเยาะ ก่อนรีบเอาชุดที่เลือกไปแขวนไว้ แล้วรวบชุดบนเตียงเหวี่ยงออกไปไว้ที่มุมห้อง กองพะเนิน คว้าแผ่นมาร์กหน้ามาแปะหน้าไว้ วาดฝันถึงวันพรุ่งนี้อย่างมีความสุข
ระพียืนยิ้มโล่งใจ มองพระจันทร์
“แม่ครับ แม่คุ้มครองน้องด้วยนะครับ”
ศจีกับเจือจันทร์ เดินเข้ามา
“พีคะ”
“คิดถึงน้องเหรอลูก”
“ครับ ตอนเป็นเด็ก หนูเล็กเขาชอบพระจันทร์ เขาก็เลยบังคับให้ผมมายืนดูกับเขา ยิ่งตอนที่แม่เสียใหม่ๆ เขาจะพาผมมาคุยกับแม่ ผ่านพระจันทร์ทุกวันเลย”
“น่ารักจัง แม่ว่าอีกไม่นาน ทุกอย่างมันน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี”
“ครับ แล้วตอนนี้ผมก็มั่นใจ ว่าหนูเล็กเขาปลอดภัยดี”
“แล้วพี รู้ได้ยังไง หรือว่าหนูเล็กโทรมาคะ”
“เปล่าครับเปล่า วันนี้ผมรู้สึกว่าผมสบายใจ ก็เลยเดาเอา”
“อืม คงต้องยกความดีให้คุณผสาน”
“ใช่ ใช่ เขาเป็นผู้ชายที่จิตใจงดงามมาก เขารักหนูเล็กมาก”
ระพีถอนใจ มองศจีกับเจือจันทร์
ตอนเช้า ย่าและคนรับใช้ใส่ชุดเตรียมทำโยคะ รอรามนรีมาสอน ต่างชะเง้อมองหา ย่ามองสงสัย
“เอ แม่เดือนไม่เคยมาสาย แล้ววันนี้ทำไมยังไม่มา หรือว่า เขาออกไปบริษัทกับตาภูมิแต่เช้า”
“แต่ผมยังไม่เห็นคุณภูมิลงมาเลยนี่ครับคุณท่าน”
เภากลอกตาไปมาครุ่นคิด ก่อนตาโต หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ทุกคนหันไปมองเภา
“ดูมันล้นซะจริงๆ นี่ถ้าแม่บุญปลูกไม่ลากลับไปเยี่ยมแม่ เขาคงเอาแกตายแน่”
“แกคิดอะไรได้ ก็รีบบอกมา มัวแต่หัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่นั่น”
ถวิลต่อว่า เภาหยุดกึกถลึงตาใส่นิด ก่อนหันไปมองย่า
“คืองี้ค่ะคุณท่าน เภามองว่า น่าจะเป็นเรื่องของผัวเมียที่จะ อ๊ะจึ๋ยอะจื๋ยกัน”
“ถ้าไม่รีบพูด ก็ไปอะจึ๋ย ไกลๆ คุณท่านจะได้ไม่รำคาญ”
“โห พี่หวิน ฉันก็ขอแค่แอ็คชั่นใบ้คำให้เบาๆ พี่ก็เดาไม่ออก ผัวใคร ทำไมโง่จัง”
“อ้าว เป็นงั้นไป”
“คุณท่านขา เภากล้าฟันธง ว่าที่คุณเดือนมาช้าหรืออาจจะไม่มาก็เพราะ คุณเดือนกับคุณภูมิ เขาต้องสวีทวี้ดวิ้วกันอยู่แน่ๆ”
“อะไร ที่ทำให้แกคิดอย่างนั้น”
“ก็เมื่อวาน มีแต่ปัญหาทำให้คุณภูมิต้องปกป้องภรรยาให้รอดพ้นจากเงื้อมมือนางมารสองแม่ลูกนั่น แล้วหลังจากนั้นก็ต้องปลอบประโลมกัน จริงไหมล่ะคะ”
นิดไม่พอใจ ฮึ่มใส่เภา ย่าหันมองไปทางห้องนอนภูมิ แอบยิ้มดีใจ
รามนรีนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดภูมิ เธอลืมตาขึ้นมามองหน้าชายหนุ่ม น้ำตาไหลด้วยความสับสน และรู้สึกผิดต่อเดือนฉาย รามนรีค่อยๆ พยุงกายลุกขึ้น แล้วเดินออกไป ภูมิแอบหรี่ตามอง เห็นรามนรีร้องไห้ รามนรีใส่กระโจมอก ยืนมองกระจกในห้องน้ำ น้ำตาไหล
“ไม่น่าเลย พี่เดือน หนูเล็กไม่ได้ตั้งใจ หนูเล็กขอโทษนะคะ”
รามนรียิ่งรู้สึกผิด เสียใจ ร้องไห้โฮ ภูมิเดินเข้ามา เอาหูแนบประตูห้องน้ำ ได้ยินเสียงรามนรีร้องไห้ก็หน้าเสีย เป็นห่วง ก่อนตัดสินใจเคาะประตูเรียก
“คุณ นี่คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม คุณออกมาคุยกับผมก่อนได้ไหม”
รามนรีหยุดร้องไห้ ภูมิยืนรอที่หน้าประตู ด้วยความห่วงใย รามนรีเปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ผมขอโทษ ที่ทำให้คุณต้องร้องไห้ แต่ผมทำไปเพราะรักคุณจริงๆ นะ”
“กรุณาลืมมันไป ฉันจะคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ทำไมคุณพูดอย่างนี้ล่ะ”
“ฉันพูดในสิ่งที่ควรพูด คุณไม่มีสิทธิ์รักใคร นอกจากคุณเดือนฉายเท่านั้น”
“คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะมาบังคับให้ผมรักหรือไม่รักใคร ในเมื่อผมรักคุณ”
“แต่ฉันไม่ได้รักคุณ เรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุ ที่เราไม่ได้ตั้งใจ มันไม่ใช่ความรัก”
“แต่มันเป็นความรักที่ผมจริงจังและตั้งใจ หรือคุณเห็นผมเป็นแค่ดอกไม้ริมทาง”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
ภูมิโมโหจับไหล่รามนรีเขย่า
“คุณเป็นผู้หญิงยังไงกันแน่ ถึงได้ไม่แคร์อะไรเลย”
“ก็บอกแล้วไง ว่าแล้วแต่คุณจะคิด”
“หรือว่าคุณมีใคร”
“นั่นมันเรื่องส่วนตัวของฉัน คุณไม่เกี่ยว ปล่อย”
ภูมิมองรามนรีผิดหวัง ก่อนปล่อยมือผละออก
“ก็ได้ ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น”
ภูมิเปิดประตูและปิดดังปัง เดินออกไป รามนรีมองตามน้ำตาไหล
“ไม่ใช่ฉันไม่อยากจะรัก แต่เรารักกันไม่ได้จริงๆ คุณภูมิ”
รามนรีปิดหน้าร้องไห้
สราญแต่งตัวอยู่ในห้องกับภัทร ได้ยินเสียงภูมิปิดประตูดังปัง ตกใจ
“ว้าย ตาย นี่มันอะไรกัน”
สราญพุ่งไปที่ประตู เปิดออกไปชะโงกดู เห็นภูมิเดินหัวเสียออกไป สราญครุ่นคิด ยิ้มสะใจ
“ฮ่าๆๆ เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับฉันมาก”
“มีอะไรเหรอคุณ”
“จะมีอะไร้ นอกจากตาภูมิ คงจะเฉดหัวอีนังเมียจอมปลอมนั่นไปแล้วล่ะสิ”
“เฮ้ย เป็นไปไม่ได้ เขารักกันจะตาย”
“ถ้าคนมันรักกัน มันจะปิดประตูใส่หน้ากัน จนบ้านแทบฟังไหมล่ะคะ แหม ทำยังกับคุณไม่เคยโดน”
ภัทรยิ้มแหย ไม่กล้าพูดต่อ สราญอมยิ้มขำๆ
“แต่ต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคุณอีก ยกเว้นเจ้าภูมิ”
ภัทรถอนใจฝืนยิ้มให้สราญ
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 19 (ต่อ)
เสี่ยอุดรนั่งอยู่ในร้านกาแฟ พร้อมกับนักสืบ มองเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้า
“ผมตรวจสอบในส่วนของความเชื่อมโยงคุณประกายฟ้ากับคนที่บ้านนั้น ไม่มีความเกี่ยวโยงเป็นญาติกันเลย”
“คุณตรวจสอบดีแค่ไหน ก็เขาบอกผมว่านั่นคือบ้านคุณหญิงย่าของเขา”
“จากข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และพยานแวดล้อม บ้านหลังนั้นเป็นบ้านของคุณหญิงรัตนบดินทร์ เป็นคุณย่าของคุณภูมิ รัตนบดินทร์ เซเลบชื่อดัง เป็นลูกชายคนเดียวของคุณภัทรกับคุณสราญนักธุรกิจส่งออก ไม่ใช่คุณย่าของคุณประกายฟ้าแน่นอนครับ”
เสี่ยอุดรนิ่งฟัง ทั้งที่ในใจเริ่มร้อนรุ่ม
“นี่คือภาพคุณภูมิ รัตนบดินทร์”
เสี่ยอุดรรับไปมอง นึกว่าเคยเห็นที่ไหน แต่ยังนึกไม่ออก
“ทั้งหมด นี่คือข้อมูลเบื้องต้น ต่อไปผมจะสืบเรื่องความเชื่อมโยงของคุณประกายฟ้ากับคุณภูมิ แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ”
“อย่าลืม ว่าผมอยากได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริงเท่านั้น”
“แน่นอนครับ เรื่องนี้ผมทราบดี เรามีจรรยาบรรณ ท่านไม่ต้องห่วงครับ”
เสี่ยอุดรฝืนยิ้ม
รามนรีมองกระจก พยายามรวบรวมสติ
“เรามีงานสำคัญรออยู่ จะอ่อนแอไม่ได้ เราต้องไม่เอาเรื่องเก่าๆ มาคิด ต้องไม่ผิดซ้ำสอง ต้องทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม เพื่อพี่เดือน”
รามนรีสูดลมหายใจ เรียกความมั่นใจกลับมา หยิบผ้าเช็ดตัวเดินหายไปในห้องน้ำ
เสี่ยอุดรเดินถือเอกสารกลับมาที่รถ หลังจากแยกกับนักสืบ
“นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ฉันต้องอดทนเพื่อให้ได้รักเธอ”
เสี่ยอุดรกำเอกสารไว้แน่น
“และฉันก็ยังจะภาวนา ขอให้มันไม่จริง”
เสี่ยอุดรโยนเอกสารเข้าไปในรถ เสียงโทรศัพท์ดัง เขากดรับ
“ว่าไงสะอิ้ง”
“เสี่ยคะ เมื่อกี้สะอิ้งเห็นสองแม่ลูกนั่นคุยกัน ว่าจะไปบ้านคุณภูมิ แต่ไม่รู้ว่าภูมิไหน เขาขับรถออกไปแล้วค่ะ”
“ดีมาก แกคอยจับตาพวกเขาไว้ เพราะฉันต้องการให้ชัด และชัวร์”
“ค่ะเสี่ย”
เสี่ยอุดรวางสายหน้าเครียด ก่อนสตาร์ทรถขับรถพุ่งออกไป
รามนรีใส่แว่นตา ใส่ชุดที่ไปเจอประกายฟ้าที่สปา เดินลงบันไดมา กวาดตามองหาภูมิ แต่ไม่เห็น
“เขาไปไหนของเขานะ แล้วจะไปทำงานไหมเนี่ย”
รามนรีถอนใจ เซ็ง ภูมิโผล่พรวดมา
“จ๊ะเอ๋ ตามหาเขาใช่เปล่าตัว”
รามนรีตกใจจะหงายหลัง
“ว้าย”
ภูมิเข้าประคองหญิงสาวไว้ ก่อนหัวเราะร่า รามนรีผลักชายหนุ่มออกไป
“ถ้าฉันหัวใจวายตาย คุณจะรับผิดชอบยังไง”
“ก็จัดงานศพให้อย่างสวยงาม ติดป้ายแสดงความรักอย่างสุดซึ้ง โอเคป่ะ”
รามนรีโมโห หายใจแรง มองหน้าภูมิ ภูมิลงไปคุกเข่าจับมืออ้อน
“คุณยาย อย่าโกรธผมเลยนะ ต่อไปนี้ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม ผมจะเป็นคนดี ผมจะตอบแทนคุณ จะทำอาหารให้คุณกินทุกวันเลย”
รามนรีส่ายหน้ามองภูมิ รู้ทัน
“มุกเดิมๆ อีกละ รู้ไหม ว่าสัญญาของคุณมันเต็มหัวกบาลฉันไปหมดแล้ว เลิกเสียทีจะได้ไหมไอ้เรื่องสัญญาเนี่ย ฉันไม่ไหวแล้ว”
ภูมิแอบมองค้อน ที่รามนรีรู้ทัน
“แล้ว คุณจะทำอาหารให้ฉันกินได้ยังไง ในเมื่อคุณเอาแต่สบาย ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง”
“คุณก็สอนให้ผมทำอาหารสิ นะ นะ สอนผมหน่อยนะ ผมอยากทำจริงๆ”
“อย่าพูดและทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวคุณ เพราะฉันไม่เชื่อ แล้วที่มาตามก็ไม่ได้พิศวาสอะไร แค่ไม่อยากให้เสียงาน รีบไปอาบน้ำแล้วไปทำงานเถอะ”
รามนรีเดินไป ภูมิเซ็ง อ้าปาก หาวหวอดๆ
นิดวิ่งไปเปิดประตูหน้าบ้านภูมิ ประกายฟ้าขับรถแล่นเข้ามาในบ้าน รามนรียิ้มเจ้าเล่ห์
ก่อนรีบผลุบหายเข้าไปในบ้าน เสี่ยอุดรขับรถตามมาห่างๆ ก่อนจอดมองประกายฟ้าขับรถหายไปในบ้านภูมิ หน้าเครียด กำพวงมาลัยแน่น เห็นนิดกำลังปิดประตู เขารีบเดินลงจากรถไปร้องเรียก
“คุณครับคุณ”
“คะ”
“ผมอยากจะรบกวนถาม ว่ารถคันนั้นเขามาที่นี่ทำไมเหรอครับ”
“แล้วคุณเกี่ยวอะไร ทำไมถึงอยากจะรู้เรื่องของคนอื่นเขาด้วยล่ะ”
“คืองี้ ผมเป็นเลขาส่วนตัวเจ้าคุณย่าของคุณประกายฟ้า ท่านเป็นห่วงหลานสาว กลัวจะไม่ปลอดภัย เลยให้ผมคอยสะกดรอยตามมาดู”
“โห มาจากเจ้าคุณย่าเลยเหรอคะ ท่าทางจะรวยเว่อร์ใช่ไหมคะเนี่ย”
เสี่ยอุดรพยักหน้า วางฟอร์มนิ่ง นิดเชื่อสนิทใจ รีบบอก
“คืองี้ค่ะ คุณประกายฟ้ากับคุณพวงศรี เขาเป็นแขกของที่นี่ และกำลังจะเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ในไม่ช้านี้ ฝากไปบอกเจ้าคุณย่าว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะคุณภูมิของเรา เขาทั้งดีทั้งหล่อและรวยมาก”
“เหรอครับ ผมจะได้รีบไปเรียนให้ท่านทราบ ท่านจะได้สบายใจ”
“ดีค่ะดี”
“จะเป็นการรบกวนมากไปไหม ถ้าผมจะขอร้องให้คุณช่วยเก็บเรื่องนี้ ไว้เป็นความลับ”
“ไม่มีปัญหา ฉันสัญญาว่าจะเก็บไว้เป็นความลับสุดยอดเลยค่ะ ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
เสี่ยอุดรกำมือแน่นแค้นประกายฟ้า
เภาฮัมเพลง เอาไม้ขนไก่ไล่ปัดฝุ่นตามผนังและข้างฝาในห้องรับแขกบ้านย่า ค่อยๆ ไล่มา จนใกล้ถึงโซฟา เธอสะดุดขาตัวเอง ล้มลงไปบนโซฟา ก่อนตกใจเมื่อรู้ว่าทับไปที่ใครบางคน เภาตกใจ มองไป เห็นผู้ชายนอนคว่ำหน้าอยู่บนโซฟา เภาร้องลั่นบ้าน
“อ๊าย ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย ใครก็ไม่รู้มานอนตายอยู่ที่นี่”
ย่ากำลังเดินเข้ามา
“คุณพระคุณเจ้า มีคนมาตายในบ้านฉันได้ยังไงกัน”
ย่าตกใจจนตัวสั่น หันไปมองหน้าถวิล
“คุณท่านรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมจะรีบไปดูก่อนนะครับ”
“รีบไปเร็ว เดี๋ยวฉันตามไป”
ถวิลวิ่งออกไป ย่ามองตามหน้าเครียด
ประกายฟ้ากับพวงศรี เดินยิ้มร่าเคียงข้างกันเข้ามาในบ้านภูมิ รามนรีแกล้งขัดขาประกายฟ้า
จนเกือบจะล้ม แต่พวงศรีรีบเข้าไปประคองไว้ ประกายฟ้ามองหน้ารามนรี
“แม่ นี่มันอีนังนั่น มันจริงๆ ด้วย”
“แล้วอีนังนั่นมันหมายถึงใคร ไหนบอกมาสิ”
“แม่ก็ดูหน้ามันดีๆ สิคะ”
พวงศรีควักแว่นตามาสวม เพ่งมองหน้ารามนรี รามนรียืนยิ้มกริ่ม พวงศรีนิ่งคิด ก่อนมองไปอีกหลายรอบ ถึงได้อึ้งเพราะนึกออก
“นี่มันอีนัง”
“ใช่ อีนังตัวป่วนที่สปาไงคะแม่”
“โห เสียใจจัง ทำไมจำฉันไม่ได้ อุตส่าห์ทะเลาะด้วยแทบตาย ทีฉันยังจำคุณได้จนขึ้นใจเลยนะเนี่ย”
“คนอย่างแก ไม่มีค่าอะไรให้น่าจดจำ มันทำให้ฉันเสียสมองเปล่าๆ”
“เหรอค่ะ ถ้างั้นคุณก็คงจะมีค่ากับสมองของฉันมาก เพราะฉันจำได้ว่าสองแม่ลูกที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไปสปาเพื่อวางแผนตามล่าตามหลอกเอาเงินผู้ชาย”
สองแม่ลูกหันไปสบตาหน้าเหวอ
ภูมิตกใจ หันไปมองเห็นเภายืนหลับตาปี๋กลัวจนตัวสั่น
“พี่เภา นี่ผมเอง”
“อ๊าย ผีพูดได้ด้วยอ่ะ”
เภายังหลับตาปี๋เอามือปิดหน้า ร้องไม่หยุด ถวิลวิ่งเข้าไปจับไหล่เภาเขย่า ย่าตามเข้ามา เห็นภูมิ เข้าใจได้ ถอนใจโล่งอก
“ช่วยด้วยๆ ผีมันจับตัวฉัน มันจะสิงฉัน”
“นังเภา นี่ฉันเอง แล้วที่แกกลัวอยู่นั่นก็คุณภูมิไม่ใช่ผี แกลืมตาดูซิดู”
“อ้าว คุณภูมิเองเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“โห ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยมา แล้วยังนอนท่าแปลกๆ เภาก็มโนไปน่ะสิคะ”
“เลิกมโนได้ไหม ไม่งั้นฉันมีสิทธิ์ตายก่อนกำหนด”
เภายิ้มแหยให้ย่ากับภูมิ ถวิลส่ายหน้าระอา
จบตอนที่ 19