เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 17
รามนรีถือถุงผ้า เดินมุ่งหน้าตรงไปที่ประตูใหญ่หน้าบ้าน
ประกายฟ้าเดินตามหลังมาตะโกนเรียก นิดตามมาสังเกตการณ์
“เดี๋ยว เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“มีอะไรคะ”
“ฉันก็แค่สงสัยว่าคุณแม่พี่ภูมิ เขาทำกับแกไม่ให้เกียรติแกขนาดนี้ ไม่รู้สึกเลยรึไงว่าเขาไม่เอาแก รังเกียจแกมากแค่ไหน ทำไมยังหน้าด้าน”
“แล้วทำไมฉันต้องรู้สึก เพราะฉันไม่ได้ต้องการให้คนที่ไม่มีเกียรติ มีชนักปักหลัง มีแผลเหวอะหวะพรุนไปทั้งตัวอย่างพวกคุณ มาให้เกียรติฉันสักหน่อย”
“แก พูดอะไรของแกฉันไม่เข้าใจ ฉันมีแผลอะไรมิทราบยะ”
“งั้นคุณก็ต้องรอให้ฉันทนไม่ไหว แล้วฉันจะช่วยเตือนความจำให้ ว่าคุณเคยทำชั่วอะไรไว้บ้าง”
“อ๊าย อีนี่ แกกล้าว่าฉันขนาดนี้เลยเหรอ”
ประกายฟ้าปรี่เข้าไปจะตบหน้ารามนรี นิดยิ้มดีใจ เชียร์สุดฤทธิ์ รามนรีจับมือประกายฟ้าล็อคแขนไว้ ประกายฟ้าร้องโอดโอย นิดหุบยิ้ม หน้าเหวอ
“อ๊าย ปล่อย ฉันเจ็บนะ”
“ถ้าคุณไม่เจ็บ ฉันก็ต้องเจ็บ เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่ามีผู้ใหญ่ถือหาง แล้วฉันจะไม่กล้า อย่ามาซ่ากับฉัน”
รามนรีผลักประกายฟ้าเซไป นิดรีบวิ่งเข้ามาประคองประกายฟ้าไว้ รามนรีมองประกายฟ้ากับนิด เอาเรื่อง ก่อนรีบเดินออกไป ไม่อยากมีเรื่อง
บุญปลูกรินชาใส่ถ้วยให้ย่า ย่าหันมาบอกถวิล
"ถวิล ช่วยหาต้นพยุง มาปลูกที่หลังบ้านให้ฉันสักต้นสิ”
“ได้ครับคุณท่าน เดี๋ยวผมจัดการให้”
เภาร้องโวยวายวิ่งเข้ามา
“ตายแล้วๆ คุณเดือนฉายต้องแย่แน่ๆ”
“เบาๆ ก็ได้นังเภา ที่นั่งอยู่นี่ไม่มีใครหูตึง”
ถวิลส่ายหน้ามองระอาเภา
“มีอะไร”
“ก็คนพวกนั้น มันวางแผนจะแกล้งคุณเดือนของเราน่ะสิคะ”
“ก็เป็นไปตามคาด ฉันก็เพิ่งเตือนแม่เดือนเขาไป มันผิดคำฉันที่ไหนกัน”
“แล้วเขาว่ายังไง จะทำอะไรคุณเดือน”
“เท่าที่ได้ยิน เขาบอกว่ามันเป็นการโกหก ต้องโกหกให้ตรงกัน กลัวคุณภูมิและทุกคนจะสงสัยอะไรก็ไม่รู้ มันได้ยินไม่ค่อยถนัด แถมเขายังบอกอีกว่า ตอนนี้ถือไพ่เหนือกว่า มีตัวให้เล่นอีกเยอะ เภาก็ไม่เข้าใจ ว่ามันหมายถึงอะไรค่ะคุณท่าน”
ย่าครุ่นคิดหน้าเครียด
ภัทรนั่งกุมขมับ คิดไม่ตกเรื่องประกันกับพวงศรีรู้ความลับเรื่องเขามีกิ๊ก
“ไม่ได้ ทุกอย่างต้องจบในวันนี้”
ภัทรหันไปมองโทรศัพท์มือถือ กดโทรหาภูมิ
สราญกับพวงศรีนั่งคุยกัน สราญยิ้มสะใจ
“ป่านนี้ หนูฟ้าคงจัดการแม่นั่นจนมันหน้าหงายไปแล้ว”
“แน่นอนค่ะ เห็นน้องฟ้าหงิมๆ แต่ถ้าเอาจริง ก็ไม่เป็นสองรองใคร เขาชนะเลิศมาตลอดเลยนะคะคุณพี่”
“ต้องให้ได้อย่างนี้สิ ว่าที่ลูกสะใภ้ของฉัน เยี่ยม”
ประกายฟ้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินร้องไห้เข้ามา นิดวิ่งตามมาติดๆ สราญหุบยิ้มแทบไม่ทัน หันไปมองหน้าเหวอ
พวงศรีเสียหน้า ยิ้มแหยให้สราญ
“คุณแม่ขา นังเดือนฉาย มันทำร้ายฟ้า”
“ต๊ายตาย นี่มันกล้าทำกับหนูฟ้าขนาดนี้เลยเหรอ นังนิด แกทำไมไม่ช่วยหนูฟ้า”
“ก็นิดช่วยไม่ทัน มันเกิดขึ้นเร็วมากนี่ค่ะ”
“ดูสิคะคุณพี่ ดูมันทำกับน้องฟ้า มือไม้งี้แดงไปหมดเลย คนอย่างนี้ปล่อยไว้ไม่ได้นะคะคุณพี่ ศรีจะเอาเรื่องมัน”
“ใช่ ปล่อยไว้ไม่ได้แน่”
ภัทรเดินเข้ามา
“นั่นคุณจะไปไหนอีกเหรอคะ”
“อ๋อ เจ้าภูมิเขาโทรมา ให้ผมช่วยไปหาลูกค้ากับเขา”
พวงศรีมองภัทรรู้ทัน
“อ๋อ เหรอ งั้นก็เชิญเถอะค่ะ”
ภัทรเห็นประกายฟ้า นั่งร้องไห้กระซิก
“แล้วนั่นหนูฟ้าเป็นอะไร”
“ก็อีนังลูกสะใภ้ตัวดีของคุณ มันทำร้ายหนูฟ้า มันคงจะหึงจนบ้าไปแล้ว”
“ดูสิคะคุณภัทร ลูกสาวของศรี ช้ำไปหมดทั้งตัวเลย”
“อืม ผมเข้าใจ คุณเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องฟังความทั้งสองฝ่าย มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน ใครผิดใครถูกก็ต้องว่าไปตามนั้น”
“ค่ะๆ คุณรีบไปทำงานเถอะนะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง”
ภัทรรีบเดินออกไป
สะอิ้งพยายามโทรศัพท์หาเสี่ยอุดร จนเมื่อยมือ
“นี่เสี่ยเป็นอะไร ทำไมไม่ยอมรับสาย แถมยังปิดเครื่องอีก เปิดสิเปิด”
สะอิ้งก้มหน้าก้มตาโทรหาเสี่ยอุดรด้วยความห่วงใย
เสียงแตรรถดัง เธอหันไปมอง เห็นเสี่ยอุดรขับรถมากับประกัน สะอิ้งยิ้มดีใจ
พวงศรีจับมือสราญ ด้วยความมั่นใจ
“คราวนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ศรี เดี๋ยวจะเอาให้แซ่บเลย”
“ดีจ้ะดี เราแบ่งหน้าที่กันทำ คุณพี่จะไปฟ้องคุณย่าแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ จะได้ดูดีในสายตาท่าน ส่วนคุณน้องกับหนูฟ้าอยู่ทางนี้ ก็จัดการไป เข้าใจนะคะ”
“แต่คุณพี่คะ ศรีมีเรื่องไม่สบายใจ รู้สึกเป็นห่วงคุณพี่”
“มีอะไรเหรอคะ”
“ก็ศรีรู้สึกว่า หมู่นี้คุณภัทรออกไปข้างนอกบ๊อยบ่อย พฤติกรรมมันคล้ายๆ กับคุณประกัน ตอนไปมีกิ๊กเลยนะคะคุณพี่ ศรีก็เลยเป็นห่วง”
สราญหวั่นไหว ทำใจดีสู้เสือ
“ถ้าเป็นเรื่องนี้คุณพี่ไม่ซีเรียส เพราะคนของพี่ไว้ใจได้ค่ะ”
“เหรอคะ ถ้าเป็นอย่างนั้นศรีก็โล่งใจ”
สราญฝืนยิ้มมั่นใจ แต่ในใจเริ่มร้อนรุ่ม
ประกันวางฟอร์มเครียด เดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาเซ็งๆ เสี่ยอุดรเดินตามมาด้วยความรู้สึกผิด สะอิ้งยืนรอดูสถานการณ์อยู่
“คุณพ่อ นี่คุณพ่อยังโกรธผมอยู่เหรอครับ”
“ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมเครียด ผมหนักใจ กลัวเจ้าคุณย่าท่านจะเอาเรื่องน่ะสิ”
สะอิ้งมองประกันเบ้ปากใส่
“ที่ผมทำไป ก็เพราะผมรักลูกสาวคุณพ่อจริงๆ แต่ต่อไป ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรให้ทุกคนอึดอัดใจ ผมจะเชื่อฟังทุกอย่าง”
ประกันแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนหันมาทำหน้าเครียด
“แน่ใจนะ”
“ครับ”
“งั้นก็โอเค ผมจะลองเชื่อเสี่ยอีกสักครั้ง”
เสี่ยอุดรยิ้มโล่งใจ
“เดี๋ยวเชิญเสี่ยตามสบาย ผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
“ครับคุณพ่อ”
ประกันเดินอมยิ้มออกไป สะอิ้งชะเง้อมองตามประกันจนลับตา ก่อนรีบปรี่เข้าไปหาเสี่ยอุดร
“เสี่ยคะ สะอิ้งโทรไป ทำไมไม่ยอมรับสาย แล้วปิดเครื่องทำไมคะ”
“ฉันกะจะมาด่าแกอยู่พอดี คนกำลังวุ่นวายจะโทรไปทำไมวะ”
“ก็สะอิ้งมีเรื่องสำคัญจะบอกเสี่ยนี่คะ”
“นาทีนี้ ไม่มีเรื่องอะไรจะสำคัญกับฉัน เท่ากับประกายฟ้า”
“ก็เรื่องคุณประกายฟ้านี่แหละค่ะ ที่สะอิ้งจะมาบอกเสี่ย”
เสี่ยอุดรหันขวับไปมองสะอิ้ง
สราญเปิดประตูห้อง รีบวิ่งเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือกดโทรออกหาภูมิ ใจคอไม่ดี
“ครับคุณแม่”
“ภูมิ พ่อเราได้ไปที่นั่นไหม”
ภูมิอมยิ้มหันไปพยักเพยิดให้ไผท รู้ทัน
“มีอะไรเหรอครับคุณแม่ หรือว่ามีใคร ทำให้คุณแม่ไม่ไว้ใจคุณพ่อ
“เปล่าๆ แม่ก็แค่สงสัย เห็นหมู่นี้พ่ออ้างเรื่องงานแล้วหายไปบ่อยๆ”
“คุณพ่อกำลังจะมาหาผม ถ้าพ่อมาถึง ผมจะให้โทรกลับไปหาคุณแม่ จะได้ยืนยันว่าพ่อไม่ได้โกหก”
“ไม่เป็นไร แม่เข้าใจแล้ว เชิญตามสบายเลยจ้ะ แค่นี้นะจ๊ะ”
สราญถอนใจโล่งอก ยิ้มออก
สะอิ้งยืนคุยกับเสี่ยอุดร เรื่องประกายฟ้า
“ไม่จริง ฉันไม่มีวันเชื่อ ว่าเขาจะกล้ามาหลอกฉัน มันเป็นไปไม่ได้”
“แต่มันเป็นไปแล้ว และนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่สะอิ้งรู้ แต่สะอิ้งรอดูจนมั่นใจ ถึงได้รีบมาบอกเสี่ย แล้วเรื่องเจ้าคุณย่าอะไรนั่น มันก็ไม่จริง”
“เอาเป็นว่าฉันจะรับฟังไว้ ฉันจะไม่เชื่อ จนกว่าจะได้รู้ได้เห็นด้วยตาตัวเอง”
“ค่ะ”
“แต่ยังไง ก็ขอบใจมากนะ ที่เป็นห่วงฉัน”
“เสี่ยคือผู้มีพระคุณ สะอิ้งไม่เคยลืมบุญคุณเสี่ยหรอกค่ะ งั้นสะอิ้งขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณประกันลงมา เขาจะสงสัยเอา”
เสี่ยอุดรพยักหน้าให้ ครุ่นคิด หน้าเครียด ประกันเดินอารมณ์ดี เข้ามาโอบไหล่
“ไม่เอาน่าเสี่ย ตอนนี้ผมไม่เครียด เสี่ยก็เลิกเครียดได้แล้วน่า”
“ครับคุณพ่อ”
“ถ้าเครียด เราไปลงอ่างอาบน้ำอาบท่า ให้เย็นฉ่ำอุรากันอีกสักทีจะดีไหม”
“วันนี้ผมคงต้องขอตัว เพราะผมมีงานสำคัญต้องไปทำ”
“โอเคๆ งั้นเอาไว้วันหลังก็ได้ งั้นเสี่ยรีบกลับไปทำงานเถอะ”
เสี่ยอุดรรีบเดินออกไป ประกันยิ้มเจ้าเล่ห์
รามนรีมาถึงตลาดสด กางโพย กวาดตามองหาของ วิ่งไล่ซื้อผักสดตามรายการด้วยความรวดเร็ว ซื้อผักเสร็จ ยืนปาดเหงื่อยิ้มปลื้ม มองถุงของที่วางเรียงไว้ จากนั้นมาเลือกอาหารทะเลด้วยความคล่องแคล่ว แล้วเดินถือของทุลักทุเล ออกมายืนรอเรียกแท็กซี่หน้าตลาด
เสี่ยอุดรขับรถเข้ามาจอด ครุ่นคิด สักครู่กดมือถือโทรออก
“คุณวิทิต ผมต้องการนักสืบเอกชนฝีมือดี และต้องการรู้เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เรื่องเงินไม่มีปัญหา ถ้าทำได้ผมยินดีจ่ายไม่อั้น โอเคนะ”
เสี่ยอุดรกดวางสาย
“ฉันจะภาวนา ขอให้มันไม่จริง”
เสี่ยอุดรมองเหม่อหน้าเครียด
ภูมิเล่าเรื่องที่ประกันรู้เรื่องภัทรกับกิ๊กให้ไผทฟัง
“ฉันว่า ครอบครัวประกายฟ้า ดูเขาไม่ธรรมดา เขาน่าจะร้ายกว่าที่แกคิดนะ”
“ก็นั่นน่ะสิ เขากล้าใช้สถานการณ์นี้มาทำให้พ่อฉันเครียด เขาต้องไม่ธรรมดา”
“แต่ลูกสาวเขาสวย และแกก็หลีเขาอยู่ แกจะกล้าหือกับพ่อเขารึ”
“ทีแรกเห็นสวยดี ก็อยากจะลองหลีดู แต่พอเห็นพฤติกรรมพ่อเขา ก็คงจะไปต่อไม่ไหว ต่อให้สวยยังไงฉันก็มีสติพอ ที่จะรู้ว่าเขาคิดยังไงและคิดอะไรอยู่”
“ฉันดีใจ ที่แกคิดได้อย่างนี้”
ภัทรเคาะประตูเปิดเข้ามา
“ภูมิ พ่ออยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้นอกจากคุณประกัน คุณพวงศรีเขาก็บี้มาอีกทาง”
“ดูท่า เขาจะทำกันเป็นทีมเลยนะครับเนี่ย”
“ฉันคงคิดถูกแล้วใช่ไหม ที่ตัดสินใจไม่ยุ่งกับประกายฟ้า”
ไผทพยักหน้าเห็นด้วย ภัทรร้อนใจ
“ภูมิ พ่อขอยืมเงินสักก้อนก่อนจะได้ไหม พ่อจะเอาไปให้ผู้หญิงคนนั้นเพื่อขอจบทุกอย่าง พ่อไม่กล้าเอาเงินในบัญชีออกมาใช้ กลัวแม่จับได้ เขาเอาตายแน่”
“เรื่องเงินไม่มีปัญหา พ่อต้องการเท่าไหร่บอกมา เดี๋ยวผมจัดการให้ แล้วผมจะไปเป็นเพื่อนพ่อเอง”
“ไม่ต้อง พ่อว่าภูมิรีบกลับไปดูหนูเดือนจะดีกว่า ดูท่าแม่เรากับแก๊งเขาเตรียมจะเล่นงานเมียแกอยู่ เดี๋ยวทางนี้ พ่อจะวานให้ไผท ไปเป็นเพื่อนก็ได้”
“ด้วยความยินดีเลยครับพ่อ”
“ฉันฝากด้วยนะ โชคดีนะครับคุณพ่อ ผมขอตัวก่อนนะ”
ภัทรตบไหล่ภูมิให้กำลังใจ
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 17 (ต่อ)
ผสานกัดกรามแน่น ของขึ้น โวยวาย
“โอ๊ย เซ็งโวย เซ็ง ทำไมกูต้องรอ รอ รอ รอมันอยู่ได้ กูจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะไอ้จอส”
จอสมองเจ้านายรู้ทันและรู้ทาง ก่อนรีบลุกออกไปตั้งท่ารับ ผสานขว้างโทรศัพท์ด้วยความโมโห
“โอ๊ย อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจกูสักอย่าง”
จอสกระโดดรับโทรศัพท์เอาไว้ได้
“มึงรู้ได้ไง”
“โห จอสอยู่กับนายหัวมาเท่าไหร่ จอสรู้พิกัดดี ว่านายหัวจะขว้างทางไหนนิ”
“เออ ดี งั้นมึงเอาเครื่องนี้ไป แล้วไปซื้อรุ่นใหม่มาให้กู”
“จะดีเหรอครับนายหัว เพราะเครื่องนี้ก็เพิ่งซื้อมา ยังใหม่อยู่เลยนิ”
“แล้วมึงจะเอาไหม ไม่งั้นเอามาให้กูขว้างใหม่ ขว้างให้พังไปมันสะใจดี”
“เอาครับนายหัว จอสเอา”
“ก็แค่นี้”
ผสานค้อนใส่จอส ก่อนมองที่โทรศัพท์ นึกได้
“ไอ้จอส เอาโทรศัพท์มาให้กูใช้ก่อนสิ”
“ครับนายหัว”
ผสานรับโทรศัพท์มา กดโทรออก
ภูมิขับรถหรูเข้ามาจอดข้างทาง เห็นรามนรีกำลังขนของลงจากรถแท็กซี่ แล้วเดินถือของเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเล เขามองหญิงสาวด้วยความชื่นชม เดินชะเง้อมองไปในบ้าน เห็นรถประกายฟ้าจอดอยู่ ยืนมองครุ่นคิด ก่อนย่องไปแอบดู
รามนรีถือของเต็มมือ ยายพยายามจะเคาะประตูเรียกนิดให้ช่วยเปิด แต่ทุกคนรู้กัน ยังคงหัวเราะร่า ทำเป็นไม่สนใจ รามนรีต้องเปิดประตูเอง แล้วเอาก้นดันประตูเปิดเข้ามา ทุกคนหันไปมอง ส่งสายตาอย่างรู้กัน
“ไปเร็วมาเร็วดีนี่”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวฉันจะไปบ้านโน้น จะให้คุณศรีกับหนูฟ้าดูแลแกแทน”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องดูแลก็ได้ค่ะ”
“ไม่ได้ ฉันสั่งอะไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น”
รามนรีถือของเดินเข้าไปในครัว สราญกระซิบกระซาบพวงศรีกับประกายฟ้า
“เอาให้หนำ ยำให้เละเลยนะคะคุณน้องศรี คุณพี่เปิดไฟเขียวให้แล้วค่ะ”
พวงศรียิ้มเหี้ยมส่งสัญญาณมือให้สราญ นิดยิ้มสะใจ สราญเดินหัวเราะร่าออกไป
บุญปลูกกับเภา พากันย่องมาหาทางช่วยรามนรี ตามคำสั่งของย่า
สราญเดินออกมาเห็นเข้าพอดี ย่องตามไปดู ภูมิมองซ้ายมองขวา เดินเข้ามาเห็นสราญ รีบวิ่งหลบ แอบมอง
“นี่พวกแก มาสาระแนกันทำไม”
บุญปลูกกับเภาสะดุ้งเฮือก ตัวชาวาบ
“ฉันถามว่าพวกแกมาทำไม”
“คือ คือ”
“เราจะมาตามคุณเดือนไปทำกับข้าวที่บ้านโน้นน่ะค่ะ”
“ไม่ได้ วันนี้เขาต้องอยู่ทำอาหารให้แขกของฉันที่บ้านนี้ และฉันก็กำลังจะไปเรียนให้คุณแม่ท่านทราบ และฉันขอสั่ง ห้ามพวกแกมายุ่งที่นี่ ไม่งั้นมีเรื่อง เข้าใจไหม”
บุญปลูกกับเภา พยักหน้าหลบตาต่ำ
“ตามมา”
สราญเดินนำไป บุญปลูกกับเภา หันไปสบตาหน้าเศร้า ก่อนจำใจ เดินตามสราญกลับไป ภูมิรีบย่องออกไป
ไผทขับรถพาภัทรมาที่ด้านหน้าคอนโดหรู
“ไผท รออยู่ที่นี่ เดี๋ยวพ่อขอขึ้นไปเคลียร์กับเขา คิดว่าไม่น่าจะนาน”
“ได้ครับ”
ภัทรเอื้อมมือจะเปิดประตูออกไป ก่อนอึ้งมอง ไผทมองตาม เห็นน้องไนส์เดินกอดมากับชายหนุ่มที่ริมถนน กำลังจะเข้าไปในคอนโด ภัทรสะบัดหน้าเรียกสติ
“เห็นทีเราคงไม่ต้องเสียเงิน แค่เสียความรู้สึก ที่หลงเชื่อมาตลอด ว่าสิ่งที่ทำ กับความสุขที่เกิดในช่วงเวลาสั้นๆ มันคือความรัก แต่สุดท้าย มันก็ไม่ใช่”
ภัทรมอง ยิ้มอย่างเข้าใจ และปลง
“คนสมัยนี้ ก็เป็นอย่างนี้ ต้องทำใจครับ ว่าแต่คุณพ่อโอเคไหม จะให้ผมไปด้วยก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไร พ่อโอเค”
ภัทรเดินออกไป
รามนรีล้างผัก หั่นผัก จัดเตรียมอาหารอยู่ในครัว พวงศรี ประกายฟ้า และนิดเดินเข้ามาหาเรื่อง
“แก จำได้ไหม ว่าแกทำอะไรกับลูกฉัน”
รามนรีละสายตาจากผักที่หั่น
“แล้วคุณเคยถามลูกคุณบ้างไหม ว่าทำอะไรกับฉันบ้าง”
“ไม่จำเป็น”
ประกายฟ้าเข้าไปมองหน้า ถลึงตาใส่
“ฉันไปทำอะไรให้แก หะ”
“ฉันกำลังถามแม่คุณ ไม่ใช่คุณ ถอยไป”
ประกายฟ้ารู้สึกกลัว รีบกระโดดไปหลบหลังพวงศรี พวงศรีหยิบกระจาดผัก สาดใส่หน้ารามนรี ก่อนหันไปพยักหน้าให้นิด แล้วทั้งสองก็จู่โจมเข้าไปจับรามนรี ล็อคไว้ได้สำเร็จ เพราะรามนรีไม่ทันได้ตั้งตัว
“ปล่อยฉันนะ”
“อยากจะทำอะไร ทำไปเลยลูก เอาคืนให้หายแค้น”
ประกายฟ้าตบหน้ารามนรีซ้ายขวาอย่างแรงจนหน้าแดงเป็นรอยมือ รามนรีมองหน้าประกายฟ้าเอาเรื่อง
“ฉันบอกให้ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องไปสนใจ ทำต่อไปลูก”
“เอาเลยค่ะคุณฟ้า เดินหน้าฆ่าลูกเดียว”
ประกายฟ้ามองหน้ารามนรียิ้มสะใจ
“ทีหน้าทีหลังก็จำเอาไว้ อย่าได้กล้ามาสามหาวกับฉันอีก”
ประกายฟ้าเงื้อมือสุดแรง หวังจะตบหน้ารามนรีให้หายแค้น ภูมิพุ่งเข้ามาดึงแขนพวงศรีกับนิดออก ดึงรามนรีเข้าไปกอดไว้แนบอก เอาตัวกันไว้ ประกายฟ้าตบพลาด ไปโดนหน้าพวงศรีเต็มแรง จนเสียหลักล้มไปทั้งคู่ ภูมิหันมามองหน้ารามนรี ที่ถูกตบจนหน้าแดง แล้วหันไปมองพวงศรีกับประกายฟ้า ที่ร้องโอดโอยอยู่ที่พื้นอย่างเอาเรื่อง
“นี่มันอะไรกัน ทำไมพวกคุณ ถึงได้กล้าทำกับภรรยาผมขนาดนี้”
“ฟ้าไม่ได้ทำ เขาต่างหาก ที่มาทำเราก่อน”
“จริงๆ นะคะคุณภูมิ ไม่เชื่อลองไปถามคุณแม่คุณดูก็ได้”
“แน่นอนผมต้องถามอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ไปคุณ”
ภูมิดึงมือรามนรี แต่เธอขืนตัวไม่ยอมไป
“คุณไปเถอะ ฉันต้องทำอาหารให้คุณนายก่อน”
“ไม่ต้อง ผมจะไม่ยอมให้คุณทำอะไรทั้งนั้น นอกจากไปกับผมเดี๋ยวนี้”
ภูมิมองดุ ก่อนดึงมือรามนรีที่จำใจเดินตามภูมิไปแต่โดยดี นิดหลบตาต่ำ ไม่กล้ามองหน้าภูมิ ประกายฟ้าหัวใจสลาย กรีดร้องลั่นบ้าน
น้องไนส์กับชายหนุ่ม เดินหอมแก้มกันมา น้องไนส์ยิ้มเอียงอาย
“อย่าทำอย่างนี้สิคะ รออีกแป๊บก็ถึงห้องแล้วค่ะ”
“ก็คุณสวยจนผมอดใจไม่ไหวนี่ครับ”
ภัทรเดินเข้ามายืนขวางหน้าไว้ น้องไนส์หน้าเหวอ ออกอาการติดอ่างเฉียบพลัน
“คะ คะ คุณอา”
“ไม่มีอะไร อาแค่จะมาบอกว่าต่อไปนี้ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”
ชายหนุ่มมองภัทรกับน้องไนส์ไปมา น้องไนส์เสียดายเข้าไปจับมือภัทร
“คุณอาคะ”
“ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร เพราะอาเข้าใจดี เรื่องที่ผ่านมา อาขออโหสิกรรม และขอให้หนูโชคดีกับคนที่รักนะ”
ภัทรแกะมือน้องไนส์ออก หันหลังเดินออกไป ยิ้มถอนใจโล่งอก ชายหนุ่มมองน้องไนส์ ที่ยืนนิ่งหน้าเศร้ารีบเข้าไปปลอบ ไผทยืนรออยู่ข้างรถ เห็นภัทรเดินยิ้มสดใส เข้ามา
“เฮ้อ เหมือนยกภูเขาออกจากอก”
“ดีใจด้วยนะครับพ่อ”
“ดูพ่อไว้เป็นตัวอย่าง แล้วห้ามทำตามเด็ดขาด เข้าใจไหม”
ไผทยิ้มให้ ภัทรชูเช็คสะบัดไปมา
“เงินก็ไม่ต้องเสีย แถมทุกอย่างยังราบรื่นดีไม่มีปัญหาอะไร งั้นวันนี้ พ่อขอฉลองใหญ่ให้กับตัวเอง และถือโอกาสแทงกิ้วปาร์ตี้สักวันจะได้ไหม พ่อไม่อยากกลับไปเจอหน้าคุณพวงศรี”
“ได้เลยครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรไปตามเจ้าภูมิกับคุณเดือนให้ออกมาฉลองกันดีกว่า”
“ดีเลยลูก ดี”
ภัทรยิ้มสดใสให้ไผท
ภูมิพารามนรีมานั่งที่หน้ากระจก จับไหล่มองหน้าด้วยแววตาห่วงใย
“นั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนี้ วันนี้ผมขอเป็นคนดูแลคุณเอง”
รามนรีหลบตาแอบเขิน เสียงโทรศัพท์ภูมิดัง
“รอแป๊บนะ ว่าไงวะไอ้ไท เรียบร้อยแล้วเหรอ ดีๆ โอเค ได้ เดี๋ยวฉันตามไปนะ”
ภูมิยิ้มอารมณ์ดี หันมามองหน้ารามนรียิ้มสดใส หยิกแก้มหญิงสาว ก่อนเดินหายไปในห้องน้ำ รามนรีมองตาม แอบเขิน
ประกายฟ้ากับพวงศรี และนิด กึ่งวิ่งกึ่งเดินหนีตายออกมาจากบ้านภูมิ ยืนปรึกษากัน
“เอาไงดีคะแม่ ฟ้าเสียคะแนนกับพี่ภูมิให้นังเดือนฉายไปหมดเลย”
“ก็นั่นน่ะสิ ทำไมโชคไม่เข้าข้างเราเลย ซวยตลอด”
“หนูก็พลอยซวยไปด้วย ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตั้งนาน ไม่เคยเห็นคุณภูมิโกรธมากมายขนาดนี้ ขอบอกเลยว่ามันน่ากลัวมาก แต่หนูว่า รอยตบที่หน้าคุณนาย น่ากลัวกว่านะคะ”
พวงศรีหันขวับไปมองหน้านิดเอาเรื่อง
“มาทางไหน ก็กลับไปทางนั้นเลย ไป๊”
นิดหน้าจ๋อย รีบวิ่งออกไป ถวิลเดินเข้ามา มองสองแม่ลูก ประกายฟ้ายกมือไหว้ สงสารแม่
“แม่คะหนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ”
“เออ เออ ไม่เป็นไร แม่ว่าเรารีบกลับไปตั้งสติ แล้วคิดหาแผนใหม่กันก่อนดีกว่า”
“แล้วเราจะไม่ไปลาคุณแม่พี่ภูมิก่อนเหรอคะ”
“จะไปให้เจอยัยคุณย่า ให้ถูกฆ่าอีกรอบรึไง สู้เรารีบหนีไปตั้งหลัก แล้วค่อยโทรมาบอกคุณสราญทีหลังก็ได้ เขาเข้าใจเราอยู่แล้วน่า ไปเร็ว”
พวงศรีรีบดึงมือประกายฟ้า หลบออกไปขึ้นรถแล้วรีบขับออกไป ถวิลมองสองแม่ลูก ด้วยความสงสัย